The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

19 กระบวนการและขั้นตอน การแก้ปัญญหาอย่างคนค

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ebooktrat, 2020-07-05 11:37:32

19 กระบวนการและขั้นตอน การแก้ปัญญหาอย่างคนค

19 กระบวนการและขั้นตอน การแก้ปัญญหาอย่างคนค

กระบวนการและข้นั ตอนการ
แกป้ ัญหาอยา่ งคนคิดเป็น

การแกไ้ ขปัญหาของคนคิดเป็นน้นั มีกระบวนการคิดเพื่อแกป้ ัญหา กระบวนการ
แก้ปัญหาของ
ตามข้นั ตอน ดงั ต่อไปน้ี คนคดิ เป็ น

1. สารวจปัญหา 2. หาสาเหตุของปัญหา

3. วเิ คราะห์หาวธิ ีแกไ้ ขปัญหา 4. ตดั สินใจเลือกวธิ ีแกป้ ัญหา

5. ลงมือปฏิบตั ิเพ่อื แกป้ ัญหา 6. การประเมินผลการแกป้ ัญหา

จากแผนภูมิจะเห็นไดว้ า่ กระบวนการ และข้นั ตอนการแกป้ ัญหาอยา่ งคนคิดเป็ นจะเร่ิมตน้ ดว้ ยการรู้จกั
ปัญหาที่แทจ้ ริง จากน้นั จึงเนน้ การวเิ คราะห์หาสาเหตุของปัญหา จากขอ้ มูลที่หลากหลายอยา่ งนอ้ ย 3
ดา้ น คือ ตนเอง สงั คมส่ิงแวดลอ้ ม และวชิ าการ แลว้ จึงวิเคราะห์ทางเลือก ในการแกป้ ัญหา ก่อนลงมือ
ปฏิบตั ิ เม่ือปฏิบตั ิแลว้ พอใจก็มีความสุข ถา้ ยงั ไมพ่ อใจกต็ อ้ งกลบั ไปเริ่มตน้ ตามข้นั ตอนแรกก่อน
จนกวา่ จะพอใจกบั การตดั สินใจแกป้ ัญหาของตนเอง

ฝึ กทักษะการคดิ เป็ น

“คิดเป็น” เร่ืองน้ี นอกจากจะตอ้ งทาความเขา้ ใจกบั หลกั การและแนวคิดแลว้ การเป็ น
ผทู้ ี่มีทกั ษะการคิดเป็นไดน้ ้นั ตอ้ งฝึกฝนกระบวนการคิดและฝึกปฏิบตั ิ โดยใชเ้ หตุการณ์จริงใน
ชีวติ ประจาวนั รวมท้งั มีการแลกเปลี่ยนความคิด วธิ ีการพดู คุย ถกเถียงกบั เพอื่ นฝงู ญาติมิตร
ดว้ ยการมีประสบการณ์ในการแกไ้ ขปัญหาตา่ งๆ แลว้ เกิดความพอใจและมีความสุข นนั่ เทา่ กบั
วา่ ไดเ้ ริ่มตน้ เป็นคนคิดเป็นแลว้ เพอื่ ใหเ้ กิดผลดีแก่ตนเอง ผฝู้ ึกปฏิบตั ิควรหมน่ั ฝึกปฏิบตั ิตาม
กระบวนการอยา่ งตอ่ เนื่อง เพื่อเพ่ิมพนู ทกั ษะใหม้ ากยง่ิ ข้ึน จึงจะแกไ้ ขปัญหาต่าง ๆ ไดด้ ี ไม่
เกิด
ขอ้ ผดิ พลาดบ่อย และสามารถคิดไดร้ วดเร็วยง่ิ ข้ึน

โดยสรุปคือ การสอนแบบคิดเป็น ไม่มีการสอนแบบสาเร็จรูปวา่ อะไรถูก อะไรผดิ
ข้ึนอยกู่ บั บริบทและสิ่งแวดลอ้ ม แต่ละคนจะมีบริบทไม่เหมือนกนั แต่เม่ือนามาถกเถียงกนั
นามาอภิปรายกนั จะเกิดความรู้แตกฉานยง่ิ ข้ึนคนท่ีคิดเป็ น จะเป็นผทู้ ่ีรู้จกั ปรับตนเอง และ
สภาพแวดลอ้ มใหเ้ ขา้ กนั ไดอ้ ยา่ งดี เป็นคนท่ีอยู่ ในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข และมีสมรรถภาพ
ของการเป็ นคนคิดเป็น ดงั น้ี

1. สามารถเผชิญปัญหาและแกป้ ัญหาในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งมีระบบ
2. สามารถแสวงหาและใชข้ อ้ มลู หลาย ๆ ดา้ นในการคิดแกไ้ ขปัญหา
3. รู้จกั ชง่ั น้าหนกั คุณคา่ และตดั สินใจหาทางเลือก ใหส้ อดคลอ้ งกบั ค่านิยมความ
สามารถและสถานการณ์ หรือเงื่อนไขส่วนตวั และระดบั ความเป็นไปไดข้ องทางเลือกตา่ งๆ

กระบวนการคดิ การแก้ปัญหาอย่างคนคดิ เป็ น ตวั อย่างการ

นาไปปฏบิ ัตใิ นวถิ กี ารดาเนินชีวติ จริง

ตอ่ ไปน้ี เป็นกรณีตวั อยา่ งของการแกป้ ัญหาตามกระบวนการคิดเป็ น ท่ีประสบผลสาเร็จ

มาแล้ว เพือ่ ให้ผ้เู รียนได้ศกึ ษาทาความเข้าใจได้ชดั เจนขนึ ้

ตวั อยา่ งกระบวนการและข้นั ตอนการแกป้ ัญหาแบบคนคิดเป็น
กระบวนการคิดเป็นของชุมชน กรณีกลุ่มอินแปง และมหาวทิ ยาลยั ชุมชนนานาชาติ

ท่ีบา้ นบวั อาเภอกดุ บาก จงั หวดั สกลนคร

**********************

• การเรียนรู้ของชาวบา้ น บา้ นบวั เกิดจากสภาพปัญหาในการดารงชีวติ ที่ลาบากเพราะการสูญเสียป่ าเพอื่ แลกกบั
การปลูกปอ ปลูกมนั ตามคาแนะนาของหน่วยงานรัฐ ทาใหช้ าวบา้ นเริ่มไดค้ ิด ไดว้ เิ คราะห์ปัญหาความยากลาบากและ
หาทางแกไ้ ข โดยการรวมตวั กนั และร่วมมือกบั หน่วยงานและบุคคลภายนอก ส่ิงแรกท่ีชาวบา้ นริเริ่มข้ึน คือ การเพาะกลา้
หวาย ซ่ึงเป็นพชื อาหารท่ีนบั วนั จะหมดไปจากชุมชน ปี แรกมีผนู้ าชาวบา้ นและคนอ่ืนอีก 5 คน เขา้ ร่วมกิจกรรม เมื่อคน
กลุ่มน้ีไดร้ ับผลแลว้ ชาวบา้ นทวั่ ไปจึงเขา้ ร่วมและขยายออกไปเกือบท้งั หมู่บา้ น

• จากการเพาะกลา้ และปลูกหวายในชุมชน ทาใหช้ าวบา้ นบวั เร่ิมมองเห็นแนวทางที่พ่ึงตนเองในดา้ นอาหาร พืช
พ้ืนบา้ นอื่น ๆ ท่ีเป็นอาหาร สมุนไพร ก็ไดร้ ับความสนใจและขยายพนั ธุ์เช่นกนั จนเกิดการรวมกลุ่มพืชพนั ธุ์พ้ืนบา้ น ที่
ตอ่ มาไดเ้ ปล่ียนช่ือเป็ น กลุ่มอินแปง และมีกิจกรรมการเรียนรู้อีกหลายอยา่ งตามมาเช่น กลุ่มคลองส่งน้า กลุ่มออมทรัพย์
และหมอพ้ืนบา้ น เป็ นตน้

• นอกจากชุมชนบา้ นบวั ไดใ้ หค้ วามสนใจต่อการแกป้ ัญหาและการพฒั นาชาวบา้ นทว่ั ไปแลว้ ยงั ไดม้ ุง่ ไปถึงตวั
เด็กซ่ึงจะเป็นผสู้ ืบทอดวถิ ีชีวิตของชุมชนไปในเบ้ืองหนา้ กลุ่มเด็กฮกั ถิ่นจึงไดเ้ กิดข้ึนเพื่อฝึกอบรมใหล้ ูกหลานไดเ้ รียนรู้
เห็นคุณค่าและเขา้ ใจถึงความเป็นจริงในวถิ ีชีวติ ของทอ้ งถิ่นในมุมมองของชุมชนท่ีแตกต่างจากตาราและสายตาของคน
ภายนอก

• ทุกวนั เสาร์-อาทิตย์ เด็ก ๆ ท่ีบา้ นจะรวมกลุ่มกนั มีผนู้ าและคนเฒ่าคนแก่ในชุมชนผลดั กนั เล่าเรื่องราวของ
ชุมชน วถิ ีชีวติ ตลอดจนประเพณีวฒั นธรรมอนั ดีงาม ท่ีผา่ นมาเด็ก ๆ จะช่วยกนั ทาการเกษตรในพ้ืนท่ีรวมของชุมชน กิน
อาหารร่วมกนั มีการเดินป่ าเพ่อื ศึกษาธรรมชาติ และเก็บพนั ธุ์พืชจากป่ ามาเพาะขยายเพ่ือเพิม่ รายไดใ้ ห้แก่เดก็ และ
ครอบครัวอีกทางหน่ึงดว้ ย ชาวบา้ น บา้ นบวั เรียกการเรียนรู้ของเดก็ ดว้ ยวธิ ีการน้ีวา่ กระบวนการ “พาเฮด็ พาทา” ผนู้ า
และคนเฒา่ คนแก่ในชุมชนก็ถ่ายทอดดว้ ยวธิ ี “ทาใหด้ ู อยใู่ หเ้ ห็น”ท้งั หมดน้ีจึงนบั เป็ นกระบวนการเรียนรู้ที่วางอยบู่ น
พ้นื ฐาน และสอดคลอ้ งกบั วถิ ีชีวติ ของชุมชนโดยแท้
• ถึงวนั น้ี ชุมชนบา้ นบวั ไดเ้ ขา้ สู่การเรียนรู้ที่กวา้ งออกไป มีการแลกเปล่ียนความรู้ประสบการณ์กบั
เพ่ือนบา้ นตา่ งชุมชน ต่างภาคและตา่ งประเทศ จากสถานะดงั กล่าวน้ี ผนู้ าชุมชนจึงไดก้ ่อต้งั สถาบนั การ
เรียนรู้ของตนเองข้ึน และใชช้ ่ือวา่ มหาวทิ ยาลยั ชุมชนนานาชาติบา้ นบวั

จากปัญหาทีเ่ กดิ ขนึ้ ชาวบ้านได้หาทางแก้ปัญหา
ตามกระบวนการคดิ เป็ น ดงั นี้

ข้นั ที่ 1 ข้นั สารวจทาความเข้าใจกบั ปัญหา
สภาพการดารงชีวิตที่ลาบาก แร้นแคน้ ชาวบา้ นมีความตอ้ งการที่จะมีชีวติ ความเป็นอยทู่ ี่ดีข้ึน

จึงเริ่มคิดเพ่ือพิจารณาแยกแยะวา่ ท่ีเป็นเช่นน้ีเก่ียวขอ้ งกบั อะไรบา้ งประการแรก คิดอยา่ งมีสติ เพอ่ื
พิจารณาปัญหาใหช้ ดั เจนและสร้างความมน่ั ใจวา่ แกป้ ัญหาได้ จากน้นั จึงพิจารณาความล้าลึกและ
ซบั ซอ้ นของปัญหาในการดารงชีวติ ท่ีผา่ นมาเพื่อแยกแยะความหนกั เบา และมองช่องทางในการ
เขา้ ถึงปัญหา

ข้นั ท่ี 2 ข้ันหาสาเหตุของปัญหา
ชาวบา้ นตอ้ งร่วมคิด วา่ สาเหตุของความเป็นอยทู่ ่ีลาบากแร้นแคน้ เกิดจากอะไรซ่ึงจะตอ้ งใชข้ อ้ มลู ตนเอง

เช่น การทามาหากิน สถานะความเป็นอยู่ นิสัย ความประพฤติ ความรู้ ความสามารถ ความถนดั เฉพาะตวั ฯลฯ
ศึกษาขอ้ มลู จากสภาวะแวดลอ้ ม (ขอ้ มูลดา้ นสงั คมส่ิงแวดลอ้ ม) ที่ส่งผลใหค้ วามเป็นอยลู่ าบากแร้นแคน้ เช่น
สภาวะทางธรรมชาติ ลกั ษณะของดินฟ้ า อากาศ วถิ ีชีวิต ประเพณีวฒั นธรรม หน่วยงานองคก์ รที่ใหค้ วามช่วยเหลือ
สนบั สนุน สภาวะเศรษฐกิจ การซ้ือขายแลกเปลี่ยนสินคา้ ฯลฯ ขอ้ มูลที่เกี่ยวกบั ความรู้ (ขอ้ มลู ดา้ นวชิ าการ) ในเร่ือง
ทรัพยากรธรรมชาติและผลกระทบของการใชส้ ารเคมี ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งบทบาทหนา้ ที่ของหน่วยงาน
องคก์ รตา่ ง ๆ ตวั อยา่ งผเู้ คยประสบปัญหา ฯลฯ นาขอ้ มลู เหล่าน้ีมาวเิ คราะห์อยา่ งหลากหลาย เพือ่ สังเคราะห์หา
สาเหตุของปัญหา ซ่ึงกไ็ ดข้ อ้ สรุปวา่ การสูญเสียป่ าทาใหพ้ ืชอาหารธรรมชาตินบั วนั จะหมดไป พืชท่ีปลูกเป็นอาชีพ
หลกั คือ ปอ มนั ไม่สามารถใชเ้ ป็นอาหารได้ ตอ้ งหาซ้ือพืชผกั มาประกอบอาหาร สุขภาพแยล่ งเน่ืองจากใชส้ ารเคมี
จานวนมากผลผลิตปอ มนั มีราคาต่า รายไดจ้ ากการขายไม่เพียงพอกบั การใชจ้ า่ ยในการดาเนินชีวติ

ข้นั ท่ี 3 ข้นั วเิ คราะห์เพอื่ เสนอทางเลอื กแก้ปัญหา
ตอ้ งนาเอาสาเหตุตา่ ง ๆ ที่ทาใหม้ ีความเป็นอยทู่ ี่ลาบากแร้นแคน้ ที่วิเคราะห์ไดจ้ ากขอ้ มูล

ท้งั 3 ดา้ น ในข้นั ที่ 2 ของชาวบา้ นมาสังเคราะห์ สรุปเป็นทางเลือกในการแกไ้ ขปัญหาหลายๆ
ทางเลือกท่ีน่าจะเป็ นไปได้ เช่น ร้องทุกขห์ น่วยงานรัฐใหป้ ระกนั ราคาผลผลิต จดั ต้งั กองทุนเพ่อื การ
กยู้ มื หนั ไปประกอบอาชีพอ่ืน ยา้ ยถิ่นฐาน ปลูกพืชอาหารเพ่อื เร่งฟ้ื นฟสู ภาพป่ าและลดคา่ ใชจ้ า่ ย
ปรึกษาหน่วยงาน ที่มีหนา้ ท่ีสนบั สนุนส่งเสริม ฯลฯ

ข้นั ท่ี 4 ข้นั การตดั สินใจ
จะตอ้ งตดั สินใจเลือกทางแกป้ ัญหาการดารงชีวิตท่ีลาบากแร้นแคน้ ของ

ตนเองที่คิดวา่ ดีที่สุดเหมาะสมกบั ตนเอง สามารถปฏิบตั ิไดด้ ว้ ยความพอใจ ซ่ึงก็ได้
ขอ้ สรุปวา่ เลือกวธิ ีการบนการพ่ึงพาตนเองใหม้ ากที่สุด ส่ิงสาคญั อนั ดบั แรก คือ เร่ง
ฟ้ื นฟูสภาพป่ าโดยการปลูกพืชท่ีใชเ้ ป็นอาหาร ซ่ึงพืชที่เหมาะสมตอ่ การนามาปลูก
คือ หวาย เพราะเป็นพืชธรรมชาติท่ีโตเร็วทนทานต่อสภาพดินฟ้ าอากาศ ช่วยฟ้ื นฟู
สภาพป่ าภายในระยะเวลาส้นั ๆเป็นที่นิยมนามาประกอบอาหาร แต่นบั วนั จะหายาก
และการปลูกพืชเป็นความถนดั ความชานาญของชาวบา้ นทุกคน

ข้นั ท่ี 5 ข้ันนาผลการตดั สินใจไปสู่การปฏบิ ตั ิ
ชาวบา้ นบางส่วนเริ่มการเพาะกลา้ และปลกู หวายในชุมชนดว้ ยความมุ่งมน่ั

และต้งั ใจอยา่ งแน่วแน่ โดยมีหน่วยงานและบุคคลภายนอกใหก้ ารสนบั สนุนส่งเสริม

ข้นั ท่ี 6 ข้นั ติดตามประเมนิ ผล
เป็นการประเมินตนเองของชาวบา้ นวา่ การตดั สินใจลงมือปฏิบตั ิมาไดร้ ะยะหน่ึงแลว้ ทาให้

ความเป็นอยดู่ ีข้ึนหรือไม่ มีความพอใจหรือไม่ ซ่ึงก็พบวา่ ผนื ป่ าเร่ิมฟ้ื นฟู มีพชื อาหารเพยี งพอต่อ
การบริโภค ท่ีเหลือนาไปขายไดร้ าคาดี เพราะเป็ นท่ีนิยมของตลาด ความขดั สนอดอยากหมดไป
คา่ ใชจ้ า่ ยลดลง มีความพอใจ สบายใจข้ึน สามารถบรรเทาปัญหาเบ้ืองตน้ ไดเ้ ม่ือชาวบา้ นที่ริเร่ิมลง
มือปฏิบตั ิไดร้ ับผลเป็นที่พอใจ ชาวบา้ นทวั่ ไปเห็นผลจึงเขา้ ร่วมและขยายออกไปจนเกือบท้งั
หมูบ่ า้ น รวมท้งั เห็นแนวทาง ที่พ่งึ ตนเองในดา้ นอาหาร พืชพ้ืนบา้ นอ่ืนๆ ที่เป็นอาหาร สมุนไพร ก็
ไดร้ ับความสนใจและขยายพนั ธุ์เช่นกนั จนนาไปสู่การรวมกลุ่มพืชพนั ธุ์พ้ืนบา้ น

ในกรณีน้ี หากชาวบา้ นลงมือปฏิบตั ิแลว้ ความขดั สนอดอยากยงั ไมห่ มดไป ยงั ไมส่ บายใจ ก็ตอ้ งยอ้ นกลบั ไปดู
ขอ้ มลู ท้งั 3 ดา้ น อีกคร้ังวา่ ยงั ไมไ่ ดศ้ ึกษาขอ้ มลู ดา้ นใดอยา่ งพอเพยี งหรือไม่ จากน้นั จึงศึกษาหาขอ้ มูลน้นั ๆ จาก
แหล่งขอ้ มูลเพมิ่ เติม แลว้ นามาคิดวเิ คราะห์ สังเคราะห์หาทางเลือกใหม่ เพ่ือการตดั สินใจแกป้ ัญหาตอ่ ไป จนกวา่ จะพบ
ทางเลือกแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งพอใจเม่ือปัญหาปากทอ้ งหมดไป ก็ยงั มีความไม่สบายใจในเร่ืองอื่นตามมา ยงั ไมส่ งบสุข
ชาวบา้ นบา้ นบวั ก็ไดใ้ ชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาท้งั 6 ข้นั ตอนน้ี ไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาอื่น ๆ จนประสบผลสาเร็จก่อใหเ้ กิด
กิจกรรมอื่น ๆ ของชุมชนตามมาอีกมากมาย

กรณีที่ยกมาน้ี เป็นอีกตวั อยา่ งหน่ึงของการแกป้ ัญหาดว้ ยการใชก้ ระบวนการคิดเป็นท่ีจะช่วยใหผ้ เู้ รียนเขา้ ใจข้ึน
และสามารถนาไปเป็นตวั อยา่ งในการฝึกทกั ษะการคิดที่เรียกไดว้ า่ “คิดเป็น”

แบบทดสอบ

ขอ้ 1 ผใู้ ดคิดเป็น
ก. นายจอ้ ยปลูกขา้ วโพดพนั ธุ์แปดแถว เพราะเห็นเขาปลูกแลว้ รวย
ข. นายดี ซ้ือมอเตอร์ไซดม์ าวง่ิ วนิ เพราะในหม่บู า้ นไมม่ ีวิน
ค. นายแดงบอกวา่ เลือกพรรคน้นั เพราะเขาจะเอาป๋ ุยมาให้ 2 ตนั
ง. นายจุกนาขอ้ มลู เก่ามาเลือกคณะในการเรียนมหาวทิ ยาลยั ร่วมกบั ลูก

ขอ้ 2 การแกป้ ัญหาโดยยดึ หลกั คิดเป็น จะส่งผลต่อตนเองอยา่ งไร
ก. เป็นผนู้ าชุมชน
ข. เป็นคนร่ารวยมีช่ือเสียง
ค. เป็นผมู้ ีชีวติ อยา่ งเป็ นสุข
ง. เป็นคนที่ไดร้ ับการยกยอ่ งนบั ถือ

ขอ้ 3 ข้นั ตอนแรกของวธิ ีการวเิ คราะห์ปัญหาของตนเองโดยใชก้ ระบวนการคิดเป็นคือขอ้ ใด
ก. ข้นั หาสาเหตุของปัญหา
ข. ข้นั เลือกทางเลือกแกป้ ัญหา
ค. ข้นั ตดั สินใจเลือกทางเลือกแกป้ ัญหา
ง. ข้นั ปฏิบตั ิการตามแผนเพ่ือการแกไ้ ขปัญหา

ขอ้ 4 บุคคลใดนากระบวนการคิดเป็ น มาประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ งมีเหตุผลกบั ตนเอง
ก. ออ้ ย ติดเพอ่ื นมากกวา่ ครอบครัว
ข. อร ใชช้ ีวิตอยอู่ ยา่ งพอเพยี งอยา่ งมีความสุข
ค. แอ๋ว ใชช้ ีวิตอยกู่ บั งานมากกวา่ อยกู่ บั ตนเอง
ง. เอ๋ ใชช้ ีวติ อยา่ งฟ่ ุมเฟื อยไม่ประหยดั อดออม

เฉลยแบบทดสอบ

ขอ้ 1 ผใู้ ดคิดเป็น
ก. (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจในวธิ ีการท่ีถูกตอ้ ง ควรทบทวนเพม่ิ เติม
ข. (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจในวธิ ีการท่ีถูกตอ้ ง ควรทบทวนเพมิ่ เติม
ค. (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจในวธิ ีการที่ถูกตอ้ ง ควรทบทวนเพม่ิ เติม
ง. (ถูกตอ้ ง) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนเขา้ ใจในวธิ ีการท่ีถูกตอ้ ง

ขอ้ 2 การแกป้ ัญหาโดยยดึ หลกั คิดเป็น จะส่งผลต่อตนเองอยา่ งไร
ก. (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนยงั ไม่เขา้ ใจในวธิ ีการท่ีถูกตอ้ ง ควรทบทวนเพม่ิ เติม
ข. (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจในวธิ ีการท่ีถูกตอ้ ง ควรทบทวนเพม่ิ เติม
ค. (ถูกตอ้ ง) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนเขา้ ใจในวธิ ีการท่ีถูกตอ้ ง
ง. (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจในวธิ ีการที่ถูกตอ้ ง ควรทบทวนเพ่มิ เติม

ขอ้ 3 ข้นั ตอนแรกของวธิ ีการวเิ คราะห์ปัญหาของตนเองโดยใชก้ ระบวนการคิดเป็นคือขอ้ ใด
ก. (ถูกตอ้ ง) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนเขา้ ใจในวธิ ีการที่ถูกตอ้ ง
ข. (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนยงั ไม่เขา้ ใจในวธิ ีการที่ถูกตอ้ ง ควรทบทวนเพิ่มเติม
ค. (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจในวธิ ีการท่ีถูกตอ้ ง ควรทบทวนเพิ่มเติม
ง. (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนยงั ไม่เขา้ ใจในวธิ ีการที่ถูกตอ้ ง ควรทบทวนเพม่ิ เติม

ขอ้ 4 บุคคลใดนากระบวนการคิดเป็ น มาประยกุ ตใ์ ชอ้ ยา่ งมีเหตุผลกบั ตนเอง
ก. (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจในวธิ ีการท่ีถูกตอ้ ง ควรทบทวนเพิ่มเติม
ข. (ถูกตอ้ ง) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนเขา้ ใจในวธิ ีการที่ถูกตอ้ ง
ค. (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจในวธิ ีการท่ีถูกตอ้ ง ควรทบทวนเพ่ิมเติม
ง. (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนยงั ไม่เขา้ ใจในวธิ ีการท่ีถูกตอ้ ง ควรทบทวนเพม่ิ เติม

มอบหมายกิจกรรม

ใหผ้ เู้ รียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงอาชีพในทอ้ งถิ่น ประโยชน์ และความสาคญั ของอาชีพตา่ ง ๆ
รวมท้งั ความสัมพนั ธ์ของการประกอบอาชีพต่อความเจริญของสงั คมท่ีอาศยั อยู่ โดยใชก้ ิจกรรม
การเรียนรู้ ตอ่ ไปน้ี
1) ถา้ ผเู้ รียนเลือกประกอบอาชีพ จะเลือกอาชีพอะไร
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
2) ถา้ ประชาชนทุกคนในชุมชน มีอาชีพ มีรายได้ จะมีผลต่อประเทศชาติอยา่ งไร
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
3) ถา้ ใหเ้ ลือกประกอบอาชีพท่ีสุจริต รายไดน้ อ้ ย กบั การคา้ ของผดิ กฎหมายซ่ึงมีรายไดด้ ี
ผเู้ รียนจะเลือกอาชีพอะไร พร้อมให้เหตุผลประกอบ
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ขอให้ผู้เรียนทากจิ กรรมแล้วเขยี นลงบนกระดาษ A4

ถ่ายรูปส่งให้ครูผ่านทาง กล่มุ LINE

ให้นักเรียนทุกคนทาแบบประเมนิ เมอื่ เสร็จสิ้นการเรียนรู้ ตามลงิ้ ค์

https://forms.gle/6b6HcFiVSJofcSa49

คณะผู้จัดทา

ท่ีปรึกษา ผอู้ านวยการสานกั งาน กศน.จงั หวดั ตราด
ศึกษานิเทศก์ สานกั งาน กศน.จงั หวดั ตราด
นายวรรณวจิ กั ษณ์ กศุ ล
นายสุธี วรประดิษฐ ครูผชู้ ่วย
ครูอาสาสมคั รฯ
คณะดาเนินงาน ครูอาสาสมคั รฯ
ครู กศน.ตาบล
นางสาวกิตติวรา ภวู านร
นายณรงคว์ ทิ ย์ สุภาภา
นางนฤบล แขง็ ขนั ธุ์
นางสาวภทั รนนั ต์ มะโนกิจ

คณะบรรณาธิการ ศึกษานิเทศก์ สานกั งาน กศน.จงั หวดั ตราด
หวั หนา้ กลุ่มส่งเสริมการศึกษาตามอธั ยาศยั
นายสุธี วรประดิษฐ สานกั งาน กศน.จงั หวดั ตราด
นางสาวสุประวณี ์ กลีบสมุทร นกั วชิ าการศึกษา สานกั งาน กศน.จงั หวดั ตราด
พนกั งานขบั รถหอ้ งสมุดเคลื่อนท่ี
นางสาววรรณภสั สร ศรีสวา่ งวรกลุ สานกั งาน กศน.จงั หวดั ตราด
นายอคั รพล เรียเตม็
พนกั งานขบั รถหอ้ งสมุดเคลื่อนท่ี
ผ้อู อกแบบปก
ศกึ ษานิเทศก์ สานกั งาน กศน.จงั หวดั ตราด
นายอคั รพล เรียเตม็ หวั หนา้ กลุ่มส่งเสริมการศึกษาตามอธั ยาศยั
สานกั งาน กศน.จงั หวดั ตราด
ผ้คู วบคุมการดาเนินงาน

นายสุธี วรประดิษฐ
นางสาวสุประวณี ์ กลีบสมุทร


Click to View FlipBook Version