2
เร่ือง การใช้สานวนสุภาษติ คาพงั เพย
การใช้ถ้อยคา สานวน สุภาษติ คาพงั เพย
คนไทยนิยมใช้ภาษาถ้อยคาสานวนท่ีสละสลวย ไพเราะ เสนาะหู และสะดวกแก่การออกเสียง
ลกั ษณะนิสัยคนไทยเป็ นคนเจา้ บทเจา้ กลอน เวลาพูดหรือเขียนจึงนิยมใชถ้ อ้ ยคาสานวนปนอยูเ่ สมอถอ้ ยคา
สานวนต่างๆ เหล่าน้ีช่วยให้การส่ือสารความหมายชดั เจน ไดค้ วามไพเราะถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ
ไดด้ ี บางคร้ังใชเ้ ป็ นการส่ือสารความหมายเพื่อเปรียบเปรยได้อย่างคมคายลึกซ้ึง เหมาะสมกบั วฒั นธรรม
ความเป็นอยขู่ องคนไทย ซ่ึงแสดงถึงอธั ยาศยั ที่ดีตอ่ คนอ่ืนเป็นพ้ืนฐาน
ประเภทของถ้อยคาสานวน
1. ถ้อยคาสานวน เป็นสานวนคาท่ีเกิดจากการผสมคาแลว้ เกิดเป็นคาใหม่ เช่น คาผสม คาซอ้ น
หรือคาท่ีเกิดจากการผสมคาหลายคา ผสมกนั เป็นลกั ษณะสมั ผสั คลอ้ งจอง มีความหมายไม่แปลตรงตาม
รูปศพั ท์ แต่มีความหมายในเชิงอุปไมย เช่น
ไก่อ่อน หมายถึง คนท่ียงั ไมช่ านาญในช้นั เชิง
ก่ิงทองใบหยก หมายถึง ความเหมาะสมของคู่กนั น้นั มีมาก
เกลือจิ้มเกลือ หมายถึง มีความดุร้ายเขา้ หากนั แกเ้ ผด็ กนั
แกวง่ เทา้ หาเส้ียน หมายถึง การหาเรื่องเดือดร้อน
ขิงก็ราข่ากแ็ รง หมายถึง ตา่ งฝ่ ายก็ร้ายเขา้ หากนั
2. สุภาษิต มกั จะมาในรูปแบบของสานวนโวหาร หรือคาพงั เพย เม่ือฟังแลว้ บางคร้ังมกั จะไมค่ ่อย
ไดค้ วามหมายในตวั ของมนั เองเทา่ ไหร่นกั แต่ตอ้ งนาไปประกอบกบั เหตุการณ์หรือตวั บุคคล จึงจะได้
ความหมายที่เป็นคติเตือนใจ คาสุภาษิตมีอยดู่ ว้ ยกนั สองประเภท คือ
1. คาสุภาษิตที่ฟังแลว้ เขา้ ใจไดท้ นั ที โดยท่ีไม่ตอ้ งแปลความหมายใหเ้ ขา้ กบั
สถานการณ์น้นั ๆ เช่น ทาดีไดด้ ี ทาชว่ั ไดช้ ว่ั
2. คาสุภาษิตท่ีฟังแลว้ ไมเ่ ขา้ ใจในทนั ที ตอ้ งแปลความหมายของมนั ใหเ้ ขา้ กบั
สถานการณ์ตา่ งๆ ก่อนถึงจะทราบถึงความหมายและแนวสอนของคาสุภาษิตน้นั ๆ เช่น ผบี า้ นไมด่ ี ผปี ่ า
กพ็ ลอย
3. คาพงั เพย หมายถึง ถอ้ ยคาท่ีกล่าวข้ึนมาลอยๆ เป็นกลางๆ มีความหมายเป็นคติสอนใจสามารถ
นาไปตีความแลว้ นาไปใชพ้ ูด หรือเขียนใหเ้ หมาะสมกบั เร่ืองท่ีเราตอ้ งการส่ือสารความหมายได้ มีลกั ษณะ
คลา้ ยคลึงกบั สุภาษิตมาก อาจเป็นคากล่าวติ ชม หรือแสดงความคิดเห็น เช่น
ราไมด่ ีโทษป่ี โทษกลอง หมายถึง คนท่ีทาอะไรผดิ แลว้ มกั กล่าวโทษสิ่งอ่ืน
ขี่ชา้ งจบั ตก๊ั แตน หมายถึง การลงทุนมากเพอื่ ทางานที่ไดผ้ ลเล็กนอ้ ย
คาพงั เพยเหล่าน้ียงั ไม่เป็นสุภาษิตก็เพราะวา่ การกล่าวน้นั ยงั ไมม่ ีขอ้ ยุติวา่ เป็ นหลกั ความจริง
ที่แน่นอน ยงั ไมไ่ ดเ้ ป็นคาสอนที่แทจ้ ริง
4. อปุ มาอปุ ไมย หมายถึง ถอ้ ยคาที่เป็นสานวนพวกหน่ึง กล่าวทานองเปรียบเทียบใหเ้ ห็นจริงเขา้ ใจ
แจม่ แจง้ ชดั เจน และสละสลวยน่าฟังมากข้ึน การพูดหรือการเขียนนิยมหาคาอุปมาอุปไมยมาเติมใหไ้ ดค้ วาม
ชดั เจนเกิดภาพพจน์ เขา้ ใจง่าย เช่น คนดุ หากตอ้ งการให้ความหมายชดั เจน น่าฟังและเกิดภาพพจน์ชดั เจนก็
ตอ้ งอุปมาอุปไมยวา่ “ดุ เหมือน เสือ” ขรุขระมาก การสื่อความยงั ไม่ชดั เจนไม่เห็นภาพ ตอ้ งอุปมาอุปไมย
วา่ “ขรุขระเหมือนผวิ มะกรูด” หรือ “ขรุขระเหมือนผวิ พระจนั ทร์” กจ็ ะทาใหเ้ ขา้ ใจความหมายในรูปธรรม
ชดั เจนมากยงิ่ ข้ึน
ในการเขียนบทร้อยแก้วหรือแก้วกรองก็ตาม เราไม่อาจเขียนให้ละเอียดลึกซ้ึง เพ่ือส่ือความ
ไดแ้ จ่มแจง้ เท่ากบั การพูดบรรยายดว้ ยตนเองได้ ก็จาเป็ นตอ้ งใชอ้ ุปมาเพ่ือเปรียบเทียบให้ผูร้ ับสารจากเรา
ไดร้ ับรู้ความจริง ความรู้สึก โดยการใชค้ าอุปมาเปรียบเทียบ ในการแต่งคาประพนั ธ์ก็นิยมใชอ้ ุปมากนั มาก
เพราะคาอุปมาอุปไมยจะช่วยตกแต่งถ้อยคาสานวนการเขียนให้ไพเราะน่าอ่านกินใจ ประทบั ใจมากข้ึน
สงั เกตการใชอ้ ุปมาอุปไมยเปรียบเทียบในตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี
- ท่านจะไปทพั คร้ังน้ี อยา่ เพงิ่ ประมาทดูแคลนเล่าป่ี ดว้ ยเล่าปี่ ไดข้ งเบง้ มาไวเ้ ป็นที่ปรึกษา อุปมา
เหมือนเสืออนั คะนองอยใู่ นป่ าใหญ่ ทา่ นเร่งระวงั ตวั จงดี
ตวั อยา่ ง อุปมาท่ีควรรู้จกั
แขง็ เหมือนเพชร กรอบเหมือนขา้ วเกรียบ
กลมเหมือนมะนาว กลวั เหมือนหนูกลวั แมว
กินเหมือนหมู คดเค้ียวเหมือนเขาวงกต
2
วธิ ีการใช้สานวน
การใช้สานวนที่ถูกต้องเหมาะสมจะช่วยให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพมากยิ่งข้ึน สามารถ
สื่อความหมาย ไดอ้ ยา่ งชดั เจน ถูกตอ้ ง และรวดเร็ว โดยทวั่ ไปเราใชส้ านวนเพ่ือการส่ือสารในกรณีตอ่ ไปน้ี
1. ใชใ้ นการจูงใจ เช่น ทาดีไดด้ ี ทาชว่ั ไดช้ วั่ , รักดีหามจว่ั รักชวั่ หามเสา ธรรมะยอ่ มชนะอธรรม
คบคนพาลพาลพาไปหาผดิ คบบณั ฑิต บณั ฑิตพาไปหาผล, แพเ้ ป็นพระ ชนะเป็นมาร เป็นตน้ ตวั อยา่ ง
รักดีหามจว่ั รักชวั่ หามเสา หมายถึง การทาตวั ดี ประพฤติดี มน่ั หาความรู้กไ็ ดง้ านดีรายไดส้ ูง ถา้
ทาตวั ไม่ดี ขาดความรู้วชิ าก็ตอ้ งทางานหนกั รายไดต้ ่า
2. ใชย้ อ่ ขอ้ ความยาวๆ เช่น ขิงกร็ า ขา่ กแ็ รง, ตดั หางปล่อยวดั , จบั ปลาสองมือ, กินเปล่า, ชุบมือเปิ บ
ตาน้าพริกละลายแมน่ ้า เป็นตน้ ตวั อยา่ ง
ตาน้าพริกละลายแม่น้า หมายถึง การเสียทรัพยไ์ ปในสิ่งที่ไมเ่ กิดประโยชนค์ ุม้ กบั ทรัพยท์ ี่ตอ้ งเสียไป
3. ใชข้ ยายความหรือเนน้ ความเขา้ ใจ เช่น ปิ ดทองหลงั พระ หนีเสือปะจระเข้ ทาคุณบูชาโทษ
กินน้าใตศ้ อก เรือล่มในหนองทองจะไปไหน หนูตกถงั ขา้ วสาร เป็นตน้ ตวั อยา่ ง
หนีเสือปะจระเข้ หมายถึง หนีภยั อนั ตรายอยา่ งหน่ึงแลว้ ตอ้ งพบภยั อนั ตรายอีกอยา่ งหน่ึง
4. ใชแ้ ทนถอ้ ยคาที่ไมต่ อ้ งการกล่าวตรงๆ เช่น เฒ่าหวั งู สิ้นบุญ เจา้ โลก บา้ นเล็ก ไก่แก่แมป่ ลา
ช่อน โคแก่กินหญา้ อ่อน ววั เคยขามา้ เคยข่ี เป็นตน้ ตวั อยา่ ง
โคแก่กินหญา้ อ่อน หมาย ถึง ชายสูงอายหุ รือชายแก่ที่ชอบผหู้ ญิงรุ่นสาว โคหรือควายเมื่อแก่แลว้
ฟันจะไมด่ ี การกินหญา้ อ่อน จึงเค้ียวง่ายกวา่ หญา้ แหง้ ซ่ึงนามาเปรียบผชู้ ายแก่ท่ีชอบมีภรรยาสาวๆ
5. ใชเ้ พิ่มสีสนั และความสละสลวยของถอ้ ยคาในการส่ือสาร เช่น ขา้ วแดงแกงร้อน อยเู่ ยน็
เป็นสุข ร้ัวรอบขอบชิด คลุกคลีตีโมง ขดุ บอ่ ล่อปลา เป็ นตน้ ตวั อยา่ ง
3
แบบทดสอบ
1. ครอบครัวของเขาถูกฟ้องลม้ ละลาย แต่ภรรยาและลูกของเขากย็ งั ไดช้ ีวติ หรูหรา ฟ่ ุมเฟื อย
ขบั รถยนตร์ าคาแพงๆ กินอาหารในภตั ตาคาร
สถานการณ์น้ี ตรงกบั สานวนใด
ก. จมไม่ลง
ข. เจา้ ยศเจา้ อยา่ ง
ค. เห็นชา้ งข้ี ข้ีตามชา้ ง
ง. กินขา้ วร้อน นอนตื่นสาย
2. จากภาพดงั กล่าว ตรงกบั สุภาษิตใด
ก. กิ้งก่าไดท้ อง
ข. คางคกข้ึนวอ
ค. เห็นชา้ งข้ี ข้ีตามชา้ ง
ง. งมเขม็ ในมหาสมุทร
3. สุภาษิต “ฝนทงั่ ใหเ้ ป็ นเขม็ ” ควรมีอาชีพใด
ก. ช่างวาดเขียน
ข. รับราชการ
ค. ตารวจ
ง. พอ่ คา้
4
เฉลยพร้อมข้อเสนอแนะ
1. ครอบครัวของเขาถูกฟ้องลม้ ละลาย แต่ภรรยาและลูกของเขาก็ยงั ไดช้ ีวติ หรูหรา ฟ่ ุมเฟื อย
ขบั รถยนตร์ าคาแพงๆ กินอาหารในภตั ตาคาร
สถานการณ์น้ี ตรงกบั สานวนใด
ก. / (ถูกตอ้ ง) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ มีการวเิ คราะห์ ในวธิ ีการที่ถูกตอ้ ง
ข. X (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนไมเ่ ขา้ ใจ ในวธิ ีที่ถูกตอ้ ง ควรวเิ คราะห์
เน้ือหา
ค. X (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนไมเ่ ขา้ ใจ ในวธิ ีท่ีถูกตอ้ ง ควรวเิ คราะห์
เน้ือหา
ง. X (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนไม่เขา้ ใจ ในวธิ ีที่ถูกตอ้ ง ควรวเิ คราะห์
เน้ือหา
2. จากภาพดงั กล่าว ตรงกบั สุภาษิตใด
ก. X (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนไม่เขา้ ใจ ในวธิ ีที่ถูกตอ้ ง ควร
วเิ คราะห์เน้ือหา
ข. / (ถูกตอ้ ง) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ มีการวเิ คราะห์ ในวธิ ีการท่ีถูกตอ้ ง
ค. X (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนไม่เขา้ ใจ ในวธิ ีที่ถูกตอ้ ง ควร
วเิ คราะห์เน้ือหา
ง. X (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนไมเ่ ขา้ ใจ ในวธิ ีท่ีถูกตอ้ ง ควร
วเิ คราะห์เน้ือหา
3. สุภาษิต “ฝนทง่ั ใหเ้ ป็ นเขม็ ” ควรมีอาชีพใด
ก. / (ถูกตอ้ ง) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ มีการวิเคราะห์ ในวธิ ีการท่ีถูกตอ้ ง
ข. X (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนไม่เขา้ ใจ ในวธิ ีท่ีถูกตอ้ ง ควร
วเิ คราะห์เน้ือหา
ค. X (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนไมเ่ ขา้ ใจ ในวธิ ีท่ีถูกตอ้ ง ควร
วเิ คราะห์เน้ือหา
ง. X (ผดิ ) หากผเู้ รียนตอบขอ้ น้ี แสดงวา่ ผเู้ รียนไม่เขา้ ใจ ในวธิ ีท่ีถูกตอ้ ง ควร
วเิ คราะห์เน้ือหา
5
มอบหมายกจิ กรรม
1.ใหผ้ เู้ รียนคน้ ควา้ เน้ือหาเกี่ยวกบั สานวน สุภาษิต คาพงั เพย ผา่ นทางอินเตอร์เน็ต อยา่ งนอ้ ย 2 เวบ็ ไซต์
2. ใหผ้ เู้ รียนสรุปเน้ือหาที่ไดจ้ ากการเรียน และสามารถนามาใชป้ ระโยชน์ไดอ้ ยา่ งไร
3. เขียนลงในกระดาษ พร้อมท้งั ถ่ายรูปส่งไฟลใ์ น Line
ทำแบบประเมินกนั เนือ้ หำกนั ด้วยนะ
https://docs.google.com/forms/d/17pcgZHs6y5K8lDiMQ8H
fOtRL5VtmiOiOBt-jn6bi0yo/edit?usp=drive_web
6
คณะผู้จัดทำ
ท่ีปรึกษา ผอู้ านวยการสานกั งาน กศน.จงั หวดั ตราด
นายวรรณวจิ กั ษณ์ กศุ ล ศึกษานิเทศก์ สานกั งาน กศน.จงั หวดั ตราด
นายสุธี วรประดิษฐ
คณะดาเนินงาน
นางสาวสุธีรา แกลว้ เกษตรกรณ์ ครูผชู้ ่วย กศน.อาเภอคลองใหญ่
นางสาวณฐั ธยาน์ ถาวรกิจ ครูอาสาสมคั รฯ
นางสาวปวณี า กอ้ งสนน่ั ครูอาสาสมคั รฯ
นางสาวน้าเพชร สาราญพนั ธ์ ครู กศน.ตาบล
คณะบรรณาธิการ
นายสุธี วรประดิษฐ ศึกษานิเทศก์ สานกั งาน กศน. จงั หวดั ตราด
นางสาวสุประวณี ์ กลีบสมุทร หวั หนา้ กลุ่มส่งเสริมการศึกษาตามอธั ยาศยั สานกั งาน กศน. จงั หวดั ตราด
นางสาววรรณภสั สร ศรีสวา่ งวรกุล หวั หนา้ กลุ่มส่งเสริมการศึกษานอกระบบ สานกั งาน กศน. จงั หวดั ตราด
นายอคั รพล เรียเตม็ พนกั งานขบั รถห้องสมุดเคล่ือนที่ สานกั งาน กศน. จงั หวดั ตราด
ผอู้ อกแบบปก พนกั งานขบั รถหอ้ งสมุดเคล่ือนท่ี สานกั งาน กศน. จงั หวดั ตราด
นายอคั รพล เรียเตม็
ผคู้ วบคุมการดาเนินงาน ศึกษานิเทศก์ สานกั งาน กศน. จงั หวดั ตราด
นายสุธี วรประดิษฐ หวั หนา้ กลุ่มส่งเสริมการศึกษาตามอธั ยาศยั สานกั งาน กศน. จงั หวดั ตราด
นางสาวสุประวณี ์ กลีบสมุทร
7
8