เล่ม 5 พิชิตโอเน็ต

ชุดแบบฝึกอ่านเปน็ เห็นผล

เลม่ ท่ี 5
พชิ ิตโอเนต็

นางพรพมิ ล คานวณศลิ ป์
ครชู านาญการพิเศษ

โรงเรยี นสตรีระนอง อาเภอเมอื งระนอง จังหวดั ระนอง
สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 14

ก

คํานํา

ชุดแบบฝึก อ่านเป็น เห็นผล น้ี เป็นแบบฝึกทักษะการอ่าน โดยนา SQ4R มาประยุกต์ใน
การจัดทา สาหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปท่ี 6 กลุ่มสาระการเรียนรูภาษาไทย เป็นชุดฝึกทักษะ
การอ่านที่มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่

1. เพอ่ื ยกระดับผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาไทย สาระที่ 1 การอ่าน
2. เพื่อเพม่ิ ผลสัมฤทธิ์ O-NET
3. เพอ่ื ส่งเสรมิ นิสยั รักการอา่ น
4. เพอื่ สง่ เสริมทักษะการอา่ นจบั ใจความ
โดยผู้จัดทาได้เน้นบทอ่านและข้อสอบจาก O-NET ของสถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ
(องค์การมหาชน) (สทศ.) เพ่ือให้นักเรียนได้ฝึกทาข้อสอบจริง รักการอ่านและสามารถอ่านในใจ
จับใจความสาคัญ ตอบคาถาม วิเคราะห์ วิจารณ์ ตีความ แปลความ และขยายความ คาดคะเน
เหตุการณ์จากเร่ืองที่อ่าน ประเมินค่าเพ่ือนาความรู้ความคิดไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหาในการดาเนินชีวิต
คาดคะเนเหตุการณ์ และ สังเคราะห์ความรู้จากการอ่านมาพัฒนาตนเอง พัฒนาการเรียน และพัฒนา
ความรู้ทางอาชพี รวมถึงสง่ เสริมทักษะการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์โดยปรับใชรูปแบบ SQ4R ซ่ึงมี
ข้นั ตอน 6 ขน้ั ตอนคือ ๑. ขั้นสารวจ (S-Survey) ๒. ขัน้ ตั้งคาถาม (Q-Question) ๓. ขั้นอ่าน (R-Read)
๔. ขั้นบันทึก (R-Record) 5. ขั้นสรุปใจความ (R-Recite) 6. ข้ันวิเคราะห์ วิจารณ์ ทบทวน (Reflect)
ซึ่งแต่ละข้ันตอนมีการปรับเปล่ียนเพ่ือให้เหมาะสมกับการทาข้อสอบการอ่าน เวลา และวัยของผู้เรียน
อกี ท้ังยังใชเ้ ทคนคิ การเรียนรว่ มมอื แบบเพื่อนคู่คิด (Think-Pair-Share) มาใช้ประกอบแบบฝึกทักษะชุด
นดี้ ว้ ย แบบฝึกทกั ษะ อา่ นเปน็ เหน็ ผลนมี้ ที ั้งหมด 5 เลม่ คือ

เล่มที่ 1 เคล็ดลับการอ่าน
เล่มที่ 2 งดงามวิเคราะห์
เล่มที่ 3 เสนาะวรรณศิลป์
เลม่ ที่ 4 ยลยินข้อคดิ
เล่มที่ 5 พิชิตโอเน็ต
แต่ละเล่มมีคาช้ีแจงในการใช้แบบทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน แบบฝึกทักษะ เฉลย
แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน แนวการตอบคาถามจากแบบฝึกทักษะ และเกณฑ์การให้คะแนน
เพอ่ื ให้นักเรยี นสามารถประเมนิ ตนเองได โดยเน้อื หาแบบฝึกทักษะ และแบบทดสอบผู้จัดทาพยายามให้
สอดคล้องกับมาตรฐานและตัวชี้วัดกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑
ผูจัดทาหวังเปนอยางย่ิงวา ชุดแบบฝึกทักษะ อ่านเป็น เห็นผล โดยใช SQ4R สาหรับนักเรียน
ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 6 กลุมสาระการเรียนรูภาษาไทยนี้จะเป็นประโยชนกับนักเรียน ครูผูสอน และผูที่
สนใจต่อไป

พรพมิ ล คานวณศิลป์

สารบัญ ข

เรอ่ื ง หน้า
คาแนะนาสาหรบั ครู 1
คาแนะนาสาหรับนกั เรยี น 2
แผนผังขน้ั ตอนการเรยี นโดยใชแ้ บบฝึกทกั ษะ 3
สาระการเรียนรู้/สาระสาคญั /มาตรฐานการเรียนรู้ 4
ตัวชวี้ ัด 5
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 6
สมรรถนะ/คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 7
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 8
แบบฝกึ ทกั ษะพชิ ิตโอเน็ต ตอนท่ี 1 14
แบบฝกึ ทักษะพิชิตโอเน็ต ตอนที่ 2 22
แบบทดสอบหลงั เรยี น 32
บรรณานกุ รม 37
ภาคผนวก 38
39
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 40
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 41
เฉลยแบบฝึกทักษะพิชิตโอเน็ต

1

คำแนะนำสำหรบั ครู

ชุดแบบฝึกทักษะ อ่านเป็น เห็นผล โดยใช SQ4R สาหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6
กลุ่มสาระการเรียนรูภาษาไทยเป็นแบบฝึกทักษะท่ีใช้ประกอบการเรียนการสอน การติว และการเรียน
เสริม ในรายวิชาภาษาไทย โดยนักเรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง ประกอบด้วยแบบฝึกทักษะ
จานวน 5 เลม่ คอื

เลม่ ที่ 1 เคล็ดลบั การอ่าน
เลม่ ท่ี 2 งดงามวเิ คราะห์
เลม่ ท่ี 3 เสนาะวรรณศลิ ป์
เลม่ ที่ 4 ยลยินข้อคดิ
เลม่ ที่ 5 พิชติ โอเน็ต

ข้นั ตอนการใชแ้ บบฝกึ ทักษะ มดี ังนี้
๑. ศกึ ษาเนอ้ื หาลว่ งหน้าอยา่ งละเอียดก่อนจดั กิจกรรมการเรียนการสอน
๒. ครูเตรียมแบบฝึกทักษะ ให้ครบตามจานวนนกั เรยี น
๓. กอ่ นจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ต้องชี้แจงบทบาทของนักเรยี นในการใชแ้ บบฝึกทกั ษะ
4. ให้นกั เรยี นนงั่ เป็นคู่ คือ มีคนเก่ง 1 คนอ่อน 1 (ตามท่ีครูจัดไว้)
๔. ดาเนนิ กิจกรรมการเรียนรู้ตามลาดบั ข้นั ตอน โดยใชเ้ วลา ๒ ชวั่ โมง
๕. ครูสังเกตพฤติกรรมการเรียนรโู้ ดยใชแ้ บบฝึกทักษะของนกั เรียนอย่างใกลช้ ดิ และพยายาม
ปลกู ฝังความซ่ือสตั ยใ์ นการเรยี นแกน่ ักเรียนเพ่ือใหน้ กั เรียนสามารถพฒั นาศกั ยภาพของตนเองไดอ้ ย่าง
แทจ้ ริง
๖. หลงั จากเสรจ็ สิ้นกระบวนการการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใชแ้ บบฝกึ ทกั ษะ ครูควรสรปุ
สาระสาคัญอกี คร้ังและควรให้นกั เรียนกลับไปทบทวนเพมิ่ เตมิ ในเวลาว่าง

2

คำแนะนำสำหรับนักเรยี น

ชุดแบบฝึกทักษะ อา่ นเปน็ เห็นผล โดยใช SQ4R ประกอบด้วยแบบฝึกทกั ษะจานวน 5 เล่ม
คอื

เลม่ ที่ 1 เคล็ดลบั การอ่าน
เลม่ ท่ี 2 งดงามวเิ คราะห์
เล่มที่ 3 เสนาะวรรณศลิ ป์
เลม่ ท่ี 4 ยลยนิ ข้อคิด
เลม่ ที่ 5 พิชติ โอเนต็
ใหน้ กั เรยี นอ่านคาแนะนาและปฏิบัตติ ามขน้ั ตอนในแบบฝึกทักษะดว้ ยความตั้งใจและซ่อื สัตย์ดงั น้ี
1. น่ังเป็นคตู่ ามทคี่ รแู บง่ ไว้
2. ให้นกั เรียนแตล่ ะคนทาแบบทดสอบกอนเรยี น เพือ่ วดั ความรูพื้นฐาน
3. แต่ละคูช่ ว่ ยกนั เรยี นร้จู ากแบบฝกึ ทักษะไปทีละข้ันตอน
4. แตล่ ะคชู่ ่วยกันทาแบบฝกเสรมิ ทักษะ แตละเลม โดยอานคาชแ้ี จงใหเขาใจกอนเสมอ
5. ตรวจสอบผลของการทาแบบฝกเสริมทักษะจากเฉลยทายเลม
6. นักเรยี นแต่ละคน ทาแบบทดสอบหลังเรียน เมอื่ เรยี นจบในแตละเลม
7. ตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบกอนเรยี น-หลงั เรยี น จากเฉลย
8. เปรียบเทียบผลคะแนนการทาแบบทดสอบกอนเรยี น - หลงั เรยี น เพอ่ื ประเมนิ ความเขาใจ
ของตนเอง
9. นักเรยี นสามารถใชแบบฝกเสริมทักษะ เพ่อื ทบทวนความรูนอกเวลาเรียนได

3

แผนผงั ขนั้ ตอนกำรเรียน
แบบฝกึ ทกั ษะอ่าน คดิ พนิ ิจภาษา โดยใช SQ4R

เลม่ ท่ี 5 พิชติ โอเน็ต

ศึกษาคาํ แนะนําการใชแ้ บบฝึกทักษะ

ทาํ แบบทดสอบก่อนเรียนและตรวจเฉลย

ศกึ ษาสาระ – มาตรฐานการเรยี นรู้ – ตวั ชี้วดั - จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
สาระสาํ คัญ– สมรรถนะ- คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

ศึกษำเนอ้ื หำให้เข้ำใจและเมอ่ื ศึกษำเนอ้ื หำจบลงแลว้ ให้นกั เรียนตอบ
คำถำมในแบบฝึกทกุ แบบฝึกโดยปฏบิ ตั ติ ามขน้ั ตอน ดังน้ี

๑. ขั้นสารวจ (S-Survey)
๒. ขัน้ ตงั้ คาถาม (Q-Question)
๓. ขนั้ อา่ น (R-Read)
๔. ขัน้ บนั ทกึ (R-Record)
5. ขน้ั สรุปใจความ (R-Recite)
6. ขัน้ ทบทวน วิเคราะห์ วิจารณ์ (R-Review)

ทําแบบทดสอบหลงั เรียนพรอ้ มท้ัง
ตรวจแบบฝกึ ทกุ แบบฝึก

ผ่านเกณฑ์ ไมผ่ า่ นเกณฑ์

ศึกษำแบบฝกึ ทกั ษะชุดใหม่ ทบทวนแบบฝกึ ทกั ษะใหม่

4

สาระการเรียนรู้/สาระสาํ คัญ/ความคดิ รวบยอด/
มาตรฐานการเรยี นรู้
เล่มท่ี 5 พชิ ิตโอเนต็

สาระการเรียนรู้

สาระท่ี ๑ การอ่าน
สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม

สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด

การอ่านจับใจความจากวรรณคดีและวรรณกรรม ผู้อ่านต้องตีความ แปลความ ขยายความ
คาดคะเนเหตุการณ์ ตอบคาถาม ประเมินค่า วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่อ่านในทุกๆ ด้าน แสดงความ
คิดเห็น โต้แย้งเก่ียวกับเร่ืองท่ีอ่าน และเสนอความคิดใหม่อย่างมีเหตุผล เพื่อนาความรู้ ความคิดไป
แก้ปัญหาในการดาเนินชีวติ

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความร้แู ละความคดิ เพอื่ นาไปใชต้ ดั สินใจ
แกป้ ญั หาในการดาเนินชวี ติ และมีนิสัยรักการอ่าน

มำตรฐำนกำรเรียนรู้ ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เห็นวิจารณ์วรรณคดีและ
วรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คณุ ค่าและนามาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง

5

ตัวช้ีวดั เลม่ ที่ 5 พชิ ติ โอเน็ต

ตวั ชวี้ ัด

ท ๑.๑ ม. ๔–๖/๒ ตคี วาม แปลความ และขยายความเรื่องที่อ่าน
ท ๑.๑ ม. ๔–๖/๓ วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณเ์ ร่อื งทอ่ี ่านในทกุ ๆ ดา้ นอย่างมเี หตุผล
ท ๑.๑ ม. ๔–๖/๔ คาดคะเนเหตุการณจ์ ากเรอื่ งท่ีอ่านและประเมนิ ค่าเพื่อนาความรู้ ความคดิ ไป

ใช้ตัดสนิ ใจแก้ปัญหาในการดาเนินชวี ิต
ท ๑.๑ ม. ๔–๖/๕ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความคดิ เหน็ โต้แย้งเก่ียวกับเร่ืองท่ีอ่านและเสนอ

ความคิดใหม่อย่างมีเหตุผล
ท ๑.๑ม. ๔–๖/๖ ตอบคาถามจากการอา่ นงานเขยี นประเภทตา่ ง ๆ ภายในเวลาทก่ี าหนด
ท ๑.๑ ม. ๔–๖/๗ อ่านเร่อื งต่าง ๆ แล้วเขยี นกรอบแนวคิด ผังความคิด บันทึก ย่อความและ

รายงาน
ท ๑.๑ ม. ๔–๖/๘ สงั เคราะห์ความรู้จากการอ่านสื่อส่งิ พิมพ์ สอ่ื อเิ ล็กทรอนิกส์ และแหลง่ เรียนรู้

ตา่ ง ๆ มาพัฒนาตนพฒั นาการเรยี น และพฒั นาความรูท้ างอาชพี
ท 5.๑ม. ๔–๖/๑ วิเคราะห์และวจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมตามหลกั การวจิ ารณ์เบ้ืองตน้
ท 5.๑ม. ๔–๖/๒ วิเคราะห์ลักษณะเดน่ ของวรรณคดีเช่อื มโยงกบั การเรยี นรทู้ างประวตั ศิ าสตร์

และวิถชี วี ิตของสงั คมในอดตี
ท 5.๑ม. ๔–๖/๓ วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คุณคา่ ดา้ น วรรณศิลป์ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมใน

ฐานะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ
ท 5.๑ม. ๔–๖/๔ สังเคราะห์ข้อคิดจากวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนาไปประยุกต์ใช้ในชวี ติ จริง

6

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
เลม่ ที่ 5 พิชิตโอเน็ต

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. นักเรียนวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลปจ์ ากวรรณคดีวรรณกรรมที่อ่านได้ (K,P)
2. นกั เรียนตระหนักและเห็นคณุ ค่าด้านวรรณศิลปจ์ ากวรรณคดวี รรณกรรม (A)
3. นาความร้จู ากการอ่านส่อื ต่าง ๆ มาพฒั นาตนและการเรยี นได้ (P)
4. อธบิ ายคณุ คา่ ของเรื่องท่ีอ่านได้ (K, P)
5. นาสารประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากเรื่องที่อา่ นไปปรบั ใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้ (K, P)
6. เห็นคุณค่าของภมู ปิ ญั ญาทางภาษา (A)
7. นาสารประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากเรื่องทีอ่ ่านไปปรบั ใช้ในชีวิตประจาวันได้ (K, P)
8. บอกสาระสาคญั ของเร่ืองทอี่ า่ นและสามารถนาไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ (K, P)
9. ตีความเรื่องท่ีอ่านถูกต้อง (P)
10. เขา้ ใจความหมายของคาและขอ้ ความจากเร่ืองที่อ่านถูกต้อง (K)
11. สรุปสาระสาคัญและแยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเหน็ จากเรื่องท่อี า่ นได้ (K, P)
12. เขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด บนั ทกึ ยอ่ ความ และรายงานจากเร่อื งทอี่ ่านได้ (P)
13. มีมารยาทในการอ่านและมนี ิสัยรกั การอ่าน (A)
14. บอกหลักการอ่านและอ่านแสดงความคดิ เห็นและประเมนิ ค่าวรรณกรรมร้อยแกว้ และ

รอ้ ยกรองได้ (K, P)

7

สมรรถนะสาํ คัญของผเู้ รยี น/
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

ชดุ ท่ี 5 พิชิตโอเนต็

สมรรถนะสาํ คญั ของผู้เรียน

1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด

2.1 มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ สงั เคราะห์
2.2 มที ักษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์
2.3 สามารถคิดอย่างมวี ิจารณญาณ
2.4 มีความสามารถในการคิดอยา่ งมรี ะบบ
2.5 ตัดสินใจแก้ปญั หาเกี่ยวกบั ตนเองได้
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มีวนิ ัย

2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน
4. อยู่อย่างพอเพียง

8

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เล่มท่ี 5 พชิ ติ โอเนต็

คําชแ้ี จง :

1. แบบทดสอบก่อนเรยี นเลม่ ท่ี ๕ พิชติ โอเนต็ นี้เปน็ แบบปรนยั 5 ตัวเลอื กจานวน 10 ข้อคะแนน
10 คะแนนใช้เวลา 10 นาที
2. ให้นกั เรียนทาเครอื่ งหมายกากบาท (X) ทับตัวเลือกที่ถูกต้องทสี่ ุดเพียงข้อเดียวลงในกระดาษคาตอบ

1. สาระสาคญั ของข้อความต่อไปน้ีอยทู่ สี่ ว่ นใด
๑) วัดในมมุ มองของผมไมใ่ ช่เพียงสถานที่ทใี่ ชป้ ระกอบศาสนพธิ ี / ๒) ไม่ใชเ่ พยี งท่ีพระอยู่ไม่ใช่

เพียงที่ท่ีใช้เผาศพ/ ๓) แต่วดั คอื ศูนย์รวมจิตใจ และเป็นสถานที่บอกถึงความเป็นมนุษย์ ความเปน็ ชาติ
ความสงบ/ ๔) วดั เป็นแหลง่ เรียนรขู้ องชมุ ชน/ ๕) เปน็ สถานทที่ สี่ อนอะไรหลายๆ อยา่ งแก่มนุษย์

๑. ส่วนท่ี ๑ และ ๒
๒. ส่วนท่ี ๒ และ ๓
๓. ส่วนที่ ๓ และ ๔
๔. ส่วนที่ ๔ และ ๕
๕. ส่วนท่ี ๑ และ ๕

2. ขอ้ ใดเปน็ ประเด็นสาคัญของข้อความต่อไปนี้
“หลักสาคัญของแผนนา้ ประปาปลอดภยั เริม่ ตงั้ แต่การดูแลรกั ษาแหล่งนา้ ดบิ ตงั้ แตต่ น้ ทาง

เมื่อนา้ ดิบเขา้ ส่โู รงงานผลติ นา้ ประปาจะต้องคุมจดุ เสย่ี งท้งั ระบบผลิตระบบสบู สง่ และสูบจา่ ย
ทางท่อเพ่ือดแู ละรกั ษาคณุ ภาพน้าอย่างต่อเนื่องรวมไปถงึ การควบคมุ การวางท่อ การซ่อมทอ่
การเปลี่ยนทอ่ เกา่ ทหี่ มดอายเุ พ่ือความสะอาดของน้าจนไปถงึ บา้ นเรอื นประชาชน”

1. การควบคมุ คณุ ภาพนา้ ประปา
2. กระบวนการผลติ น้าประปา
3. การตรวจสอบแหลง่ น้าดิบ
4. มาตรฐานการดูแลอุปกรณ์
5. การจา่ ยน้าประปาสชู่ มุ ชน

9

3. ผูเ้ ขยี นต้องการรณรงค์เร่ืองใดในข้อความข้างต้น
“ดนิ หิน ปา่ ไม้ สตั วป์ ่า ลว้ นอย่ใู นอุง้ มอื มนษุ ยท์ ีผ่ ลาญใช้เพื่อประโยชนต์ นอย่างไม่

คณนา จนกระท่งั วนั หน่งึ เมื่อนา้ ทะลักท้นถง่ั มาจนเกือบมิดหลังคา ชายชรารอความชว่ ยเหลือ
อย่างอิดโรยอยู่บนยอดจว่ั ช่ัวคนื เดยี วเทา่ นนั้ เองเขาก็เหลือเพยี ง...ชวี ติ ”

๑. การกู้ภยั ให้ทันทว่ งที
๒. การดูแลความเป็นอยู่ของชาวบา้ น
๓. การปอ้ งกนั ภยั นา้ ทว่ มอย่างจริงจงั
๔. การวางแผนอพยพหนีจากภัยธรรมชาติ
๕. การใช้ทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งทะนุถนอม

4. ข้อใดไม่มีคาศพั ท์ทีม่ ีความหมายเกีย่ วเน่อื งกบั “การศึกสงคราม”
๑. ถงึ เปน็ ตายไว้ชื่อให้ลือชา
๒. เข้าตง้ั คา่ ยรายกาแพงแยง่ ปกี กา
๓. แล้วปรกึ ษาคิดอ่านการณรงค์
๔. เที่ยวตรวจไตรไพรพ่ หลพลโยธา
๕. ใหร้ กั ษาหน้าที่เชิงเทินไว้

5. ข้อใดไมไ่ ด้กลา่ วถึงเกี่ยวกับนกกระจอกเทศในข้อความตอ่ ไปน้ี

“นกกระจอกเทศเป็นนกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีถิ่นกาเนิดในทวีปแอฟริกา เมื่อโตเต็มที่สูง

ประมาณ ๒-๒.๕ เมตร อายุยืนได้ถึง ๖๕-๗๕ ปี เป็นนกท่ีหัวเล็ก คอยาว ตาโต ขาใหญ่แข็งแรง บิน

ไม่ได้ แต่วิ่งเร็วมาก ไม่ดุร้าย นกกระจอกเทศหากินในทุ่งหญ้ากว้างเป็นฝูงใหญ่ กินพืช เมล็ดพืช

ผลไมส้ ุก และสตั ว์เล็กๆ”

1. นสิ ยั

2. อาหาร พยายามใช้ SQ4R ในการทา
3. ลักษณะ ขอ้ สอบนะคะ
4. ประโยชน์

5. ถน่ิ ทีอ่ ยู่

10

6. ข้อใดไม่ได้กล่าวถงึ เก่ยี วกับมะลิในข้อความต่อไปน้ี
“มะลิ เปน็ ไมพ้ มุ่ ขนาดกลาง ออกดอกเป็นช่อตามปลายก่ิงประมาณ ๓-๕ ดอก แล้วแต่ชนิด

พันธุ์ มะลินอกจากจะมีกลิ่นหอมแล้วดอกแห้งยังใช้ปรุงเคร่ืองยาหอมบารุงหัวใจได้ดี เหตุผลที่ใช้
ดอกมะลิเป็นสัญลกั ษณ์ของวนั แม่ เนื่องจากดอกมะลิมสี ขี าวบรสิ ทุ ธ์ิ ส่งกลนิ่ หอมไปไกลและหอมได้นาน
ทงั้ ยงั ออกดอกตลอดปี เปรยี บไดก้ ับความรกั อนั บริสุทธ์ขิ องแม่ทม่ี ีต่อลูกไม่มีวนั เสือ่ มคลาย”

1. ความหมาย
2. ลักษณะท่วั ไป
3. การขยายพันธ์ุ
4. สรรพคุณทางยา
5. ช่อื วิทยาศาสตร์

7. ศลิ ปะการประพนั ธต์ ามข้อใดไม่ปรากฏในคาประพนั ธ์ตอ่ ไปน้ี
“หุบลึกบา้ นเรือนแม่นา้ ไหล
รวั้ ขอบฟา้ สูงข้ึนไปหมู่เมฆขาว
หม่ ขุนเขาเหยยี ดยอดทอดเทอื กยาว
พราวพรืดพราวโอบอ้อมแขนกอดแผน่ ดนิ ”
1. ภาพพจน์
2. การซา้ คา
3. สัมผสั สระ
4. สัมผสั พยญั ชนะ
5. การเลยี นเสยี งธรรมชาติ

8. คาประพนั ธต์ อ่ ไปน้วี รรคใดไมม่ ีการแสดงอารมณ์ เป็นไงคะ..ไม่ยากใชไ่ หม
๑) เพิ่งพิศพระธิดายุพาพาล
๒) ใหส้ งสารสงั เวชพระทยั นัก
๓) คดิ คิดถงึ ความยามวิโยค
๔) แสนโศกพ่างเพียงจะอกหัก
๕) รา่ รักสลดระทดใจ
1. วรรคที่ ๑
๒. วรรคที่ ๒
๓. วรรคท่ี ๓
๔. วรรคท่ี ๔
๕. วรรคท่ี ๕

11

9. คาประพนั ธ์ตอ่ ไปนี้ข้อใดมีจินตนาการดา้ นเสียง
๑. เดนิ พลางถอื คบก็พบเสือ
๒. รูปรา่ งใหญเ่ หลอื กระโชกโฮก
๓. มองเขมน้ แลบลนิ้ นัยน์ตาวาว
๔. เข้ียวขาวเตรียมโจนเข้าใสเ่ รา
๕. ครน้ั โดนไฟเผ่นหนีล้เี ขา้ ดง

10. ข้อใดใช้ภาพพจน์ต่างกับขอ้ อน่ื
๑. ผลลกู สุกห่ามงามงามงอม แต่แตนตอมต่อผ้ึงหง่ึ หง่ึ ฮอื
๒. เห็นกรวดทรายชายทะเลชโลธร ละเอียดออ่ นดังละอองสาลีดี
๓. ทะเลโลง่ โว่งว่างนา้ คา้ งกระเซน็ ดูดาวเดน่ ดวงสว่างเหมือนอย่างโคม
๔. บันไดนาคนาคในบันไดนั้น ดผู กผนั เพยี งจะเลอ้ื ยออกโลดเลน่
๕. ถงึ รูปร่างอยา่ งยุพนิ กินรี แต่เชน่ น้ีแลว้ ไม่มองประคองเคยี ง

เสร็จแล้วไปตรวจจากเฉลยหนา้ ๓๙
ดูซิคะวา่ เราทาได้กค่ี ะแนนเอย่

เม่อื ตรวจเฉลยเสร็จให้นักเรยี นลอง
ทาแบบฝึกทกั ษะตอ่ เลยนะคะ

12

ช่อื ..............................................................ชัน้ .................เลขท.ี่ ....................

กระดาษคาํ ตอบแบบทดสอบก่อนเรียน

ขอ้ ตัวเลอื ก
12345

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

เกณฑก์ ารประเมนิ ขอ้ ละ 1 คะแนน
ขอ้ ละ 0 คะแนน
-ตอบถูก
- ตอบผิด / ไม่ตอบหรือตอบมากกวา่ 1 ข้อ

แปลผลคะแนน

8 – 10 คะแนนดี
5 – 7 คะแนนพอใช้
0 – 4 คะแนนปรบั ปรุง

13

จากการเรียนเรอ่ื งการอ่านจากแบบฝึกทกั ษะท้ัง

๔ เล่มมาแลว้ วนั น้เี ราจะนาความรู้ SQ4R มาใช้
ในการทาข้อสอบโอเนต็ สาระการอา่ นและ

สาระวรรณคดีและวรรณกรรมกัน
ดูนะคะ พร้อมแลว้ เร่มิ เลยค่ะ

๑. S = ขัน้ สารวจ (Survey)
๒. Q = ขนั้ ตง้ั คาถาม (Question)
๓. R๑ = ขนั้ อ่าน (Read)
๔. R๒ = ขั้นบันทกึ (R-Record)
๕. R๓ = ขัน้ สรปุ ใจความ (Recite)
๖. R๔ = ข้นั วเิ คราะห์ วิจารณ์ (Reflect)

หรอื จะปรับใชแ้ บบน้ใี นการทาขอ้ สอบก็
ได้นะ

๑. S = อา่ นสารวจ
๒. Q = ดู,ตั้งคาถาม
๓. R1 = อา่ นหาคาตอบ
๔. R2 = ขดี เขยี นหาประเด็น
๕. R3 = โยงเส้น หรอื สรุป
๖. R4 = ทบทวน ตรวจสอ

14

แบบฝึกทักษะพิชติ โอเนต็

คําชี้แจง

แบบฝกึ ทกั ษะพชิ ิตโอเน็ตนี้ มี 2 ตอน
ตอนที่ 1 เป็นขอ้ สอบแบบปรนยั จานวน 20 ขอ้ ๆ ละ 2 คะแนน รวม 40 คะแนน

เวลา 40 นาที
ตอนท่ี 2 เป็นข้อสอบปรนัย จานวน 30 ขอ้ ๆละ 2 คะแนน รวม 60 คะแนน เวลา 50 นาที

นักเรียนจะต้องทาแบบฝึกทักษะท้ัง 2 ตอน คือ ตอนท่ี 1 และ ตอนท่ี 2 ชดุ นใ้ี หไ้ ดค้ ะแนน 75
คะแนนขึ้นไป จงึ จะถือวา่ ผ่านเกณฑ์

คําสง่ั ตอนที่ 1 ให้นกั เรียนใช้หลกั SQ4R มาวิเคราะห์ข้อสอบการอ่านจากนนั้ ให้โยงเส้น หรอื ขดี เส้น
แสดงวธิ ีการคดิ หาคาตอบและทาเครื่องหมาย X ตัวเลอื กที่ถูกต้อง โดยทาในกระดาษข้อสอบท่คี รูแจกให้

ตอนท่ี 2 ใหน้ กั เรียนทาข้อสอบโดยใช้ SQ4R จากน้ันทาเครอ่ื งหมาย X ลงในตัวเลือกท่ีเป็น
คาตอบทถี่ ูกตอ้ งทส่ี ุด

ตอนที่ 1

คาํ สั่ง ตอนท่ี 1 ให้นักเรยี นใช้หลกั SQ4R มาวเิ คราะห์ข้อสอบการอา่ น จากน้นั ใหโ้ ยงเสน้ หรือขีดเสน้
แสดงวิธกี ารคดิ หาคาตอบและทาเคร่อื งหมาย X ตัวเลอื กที่ถูกต้อง โดยทาในกระดาษข้อสอบท่ี
ครูแจกให้

1. ข้อใดไม่ได้กล่าวถึงเกี่ยวกับ “ไพล” ในข้อความต่อไปน้ี ไพลเป็นไม้ล้มลุกมีเหง้าอยู่ใต้ดิน
เปลือกสีน้าตาลแกมเหลือง เน้ือด้านในสีเหลืองถึงเหลืองแกมเขียว แทงหน่อหรือลาต้นเทียมข้ึนเป็นกอ
เหง้าไพลแกท่ ง้ั สดและแหง้ จะเผ็ดเล็กน้อย วิธีการปลูกใช้เมล็ดหรือเหง้าในประเทศไทยนิยมปลูกกันมาก
ท่ีจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี คนไทยสมัยก่อนใช้ไพลแก้อาการเคล็ด ขัดยอก ฟกซ้า บวม ข้อเท้า
แพลง

1. รสชาติ
2. สรรพคุณ
3. ถน่ิ กาเนิด
4. การขยายพันธุ์
5. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

15

2. ขอ้ ใดไม่ได้กลา่ วเก่ยี วกบั “ง”ู ในข้อความต่อไปนี้
ปัญหางูเข้าบ้านเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ เนื่องจากการขยายตัวของเมืองเข้าไปรุกล้าท่ีอยู่อาศัยของงู

ทาให้งูต้องปรับตัว และล่าเหย่ือที่มีอยู่ในเมืองเป็นจานวนมาก เช่น หนูในท่อระบายน้าตามบ้านเรือน
งูชอบอาศัยในที่มืด เป็นโพรงและแห้ง เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนงูไม่สามารถอาศัยในบริเวณเดิมได้ จึงต้องย้ายที่
อาศัย เพื่อความปลอดภัย ควรจัดบ้านเรือนให้สะอาดไม่เป็นท่ีอาศัยของหนู และถางหญ้าบริเวณบ้าน
ไมใ่ หเ้ ป็นป่ารก

1. ชนิด
2. ท่ีอยู่
3. อาหาร
4. ลกั ษณะนิสยั
5. การป้องกัน

3. ข้อใดไม่ได้กล่าวถึง “มะไฟจีน” ในข้อความต่อไปนี้ มะไฟจีนเป็นพืชตระกูลส้มชนิดหนึ่ง เป็นไม้ไม่
ผลัดใบ ออกผลตามลาต้นและก่ิงเป็นพวงคล้ายมะไฟ ผิวเรียบ เปลืองบาง จึงกินได้ท้ังเปลือก เนื้อใสฉ่า
น้า รสหวานอมเปรี้ยว มีกล่ินหอมของน้ามันระเหยท่ีเปลือกเหมือนกับเปลือกส้ม เป็นพืชสมุนไพรที่มี
สารตา้ นอนุมลู อิสระ ปัจจุบันมะไฟจีนเช่อื มแหง้ ได้กลายเปน็ ของฝากข้ึนชอ่ื ประจาจังหวดั นา่ น

1. ประโยชน์
2. การแปรรูป
3. วิธรี ับประทาน
4. ลักษณะของผล
5. ขนาดของลาต้น

4. ขอ้ ความส่วนใดเป็นใจความสาคัญของข้อความต่อไปนี้
๑) ศาสตร์การแพทย์แผนจีนมีความโดดเด่นเร่ืองโภชนบาบัดหรือการใช้อาหารเป็นยา / ๒) มีคา

เรียกพืชที่มีคุณสมบัติทางยาว่า เปิ่นเฉ่า และมีการจดบันทึกคุณสมบัติต่าง ๆ ของพืชที่ส่งผลต่อสุขภาพ
อยา่ งตอ่ เนือ่ ง / ๓) มีตารับอาหารเพ่ือรักษาโรคในยุคราชวงศ์ชาง / ๔) มีขุนนางในราชสานักผู้มีความรู้
ความชานาญ การปรุงอาหารเป็นยา / ๕) หัวใจของศาสตร์การแพทย์แผนจีนคือจงทาให้ทุกม้ืออาหาร
ชว่ ยปรับสมดลุ รา่ งกายใหท้ างานไดต้ ามปกติ

1. สว่ นที่ ๑ และ สว่ นท่ี ๒
2.ส่วนที่ ๒ และ สว่ นท่ี ๓
3. สว่ นท่ี ๓ และ สว่ นท่ี ๔
4. สว่ นท่ี ๔ และ สว่ นที่ ๕
5. ส่วนท่ี ๕ และ ส่วนที่ ๑

16

5. ขอ้ ใดเป็นประเด็นสาคญั ของข้อความต่อไปน้ี
ดวงตาเปน็ อวยั วะสาคญั เราจงึ ต้องดแู ลใหป้ ลอดภัยโดยเฉพาะจากแสงแดดซ่ึงอาจทาให้กระจก

ตา เลนส์และจอประสาทตาอักเสบ มีอาการแสบตา น้าตาไหล ในระยะยาวอาจกลายเป็นต้อกระจกได้
จึงควรสวมแว่นกันแดดทุกครั้งเม่ือต้องเผชิญกับแสงแดดเพ่ือลดรังสียูวีที่จะกระทบตา ควรใช้แว่นกัน
แดดทีม่ ีคุณภาพเพ่อื ป้องกันทง้ั แสงยูวเี อและยวู บี ไี ด้ หากไม่จาเปน็ ควรหลกี เลี่ยงการออกแดดในช่วงเวลา
๑๑.๐๐ – ๑๕.๐๐ น.

1. สาเหตขุ องต้อกระจก
2. ความสาคญั ของดวงตา
3. วิธีการถนอมรกั ษาดวงตา
4. อาการอักเสบของเลนสแ์ ละจอประสาทตา
5. ประเภทของรังสีท่ีเปน็ อันตรายตอ่ ดวงตา

6. ขอ้ ใดเป็นประเด็นสาคัญของข้อความต่อไปนี้
การดับไฟป่าเป็นการต่อสู้ระหว่างคนกับไฟ ขณะที่เกิดไฟไหม้ป่าพนักงานดับไฟจะต้องพลิก

แพลงวธิ ีการตลอดเวลา โดยเริ่มควบคุมที่หัวไฟก่อน เพ่ือหยุดยั้งการลุกลามของไฟแล้วจึงกระจายกาลัง
ออกดับไฟทางปกี ท้งั สองด้านเพื่อไปบรรจบกันที่หางไฟ แต่ถ้าแนวหัวไฟมีความร้อนมากไม่อาจเข้าถึงได้
อาจเริ่มดบั ไฟจากปกี ท้งั สองด้านก่อน แลว้ บีบเขา้ หาหวั ไฟเพ่อื บงั คบั ใหแ้ นวหวั ไฟแคบและเล็กลงเร่ือย ๆ
วิธีควบคุมไฟคือใช้พล่ัวตักดินหรือทรายสาดกลบไฟ หรือใช้น้าฉีดเพ่ือลดความร้อนและความสูงของ
เปลวไฟ จากนนั้ จึงใช้ท่ตี บไฟเข้าไปตบ และคลมุ ไฟจนดับ

1. สถานการณ์ไฟป่า
2. กลยุทธ์ในการดบั ไฟปา่
3. การตอ่ สรู้ ะหวา่ งคนกบั ไฟ
4. ความเส่ยี งของนักผจญเพลิง
5. วัสดุอปุ กรณ์สาหรับดบั ไฟปา่

17

7. ขอ้ ความต่อไปนส้ี รุปไดต้ ามขอ้ ใด ปัจจุบันผ้าไทยเปน็ ผ้าโบราณมีอายเุ ก่าแก่
หลายสบิ ปีหรือนับร้อยปี กลายเป็นของมีค่าซึ่งนักสะสมพยายามเสาะแสวงหาและเก็บรักษาไว้

ผ้าไทยนับเป็นงานศิลปะที่สาคัญอย่างหนึ่งของ ชาติ ควรแก่การศึกษาหาความรู้ว่ามีความเป็นมาและมี
การพฒั นามาเป็นลาดับอย่างไรจนถึงปัจจุบัน ดังน้ันนอกจากการเก็บรักษาและอนุรักษ์ผ้าไทยแล้ว ควร
มีการสง่ เสรมิ ให้มีการเรยี นรูเ้ กย่ี วกบั ผ้าไทยด้วยเพื่อใหเ้ ข้าใจวัฒนธรรมของชาติ

1. ควรร่วมใจกันใช้ผา้ ไทยเพื่อสง่ เสริมวฒั นธรรมไทย
2. ควรศกึ ษาความเป็นมาของผา้ ไทยโบราณซึ่งเปน็ ศลิ ปะของชาติ
3. ควรส่งเสริมการใช้และอนุรักษ์ผ้าไทย โดยเฉพาะผา้ ทมี่ ีอายุเกา่ แก่
4. ควรอนรุ ักษ์และศกึ ษาพัฒนาการของผ้าไทยเพื่อเรียนรวู้ ัฒนธรรมไทย
5. ควรชว่ ยกันเสาะหาและสะสมผ้าไทยโบราณให้มากขนึ้ เพ่ือสืบทอดศิลปะไทย

8. ข้อใดเป็นประเด็นสาคัญของข้อความต่อไปน้ี

ไขมันทรานส์เป็นกรดไขมันอิ่มตัวซ่ึงได้รับความนิยมมากในอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร

ส่วนมากไขมันทรานส์เกิดจากการปรุงแต่งของมนุษย์โดยกระบวนการเติมไฮโดรเจนลงในกรดไขมันไม่

อิม่ ตัว เช่น น้ามนั พชื เพือ่ เปล่ยี นสภาพน้ามันให้แข็งข้ึน ทาให้เก็บได้นาน ไม่มีกล่ินหืน อย่างไรก็ตามการ

บริโภคไขมันทรานส์ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เส่ียงต่อการเกิดโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูงและเบาหวาน

องค์การอนามัยโลกประกาศรณรงคใ์ หท้ ่ัวโลกยุติการใช้ไขมันทรานส์ภายในปี ค.ศ. ๒๐๒๓ หากยุติได้จะ

ช่วยชวี ติ คนได้ถึง ๑๐ ลา้ นคน

1. อนั ตรายของไขมนั ทรานส์

2. ปัจจัยเสีย่ งการเกิดโรคหัวใจ อย่าแอบดูเพ่ือนนะคะ

3. การผลติ อาหารดว้ ยไขมันทรานส์

4. การรณรงคข์ ององค์การอนามยั โลก พยายามทาดว้ ยตนเอง
5. การลดอตั ราการเสยี ชวี ิตของผ้บู ริโภค เราจะได้เก่งๆ ค่ะ

18

9. ข้อความต่อไปนผี้ เู้ ขยี นมจี ุดประสงคต์ ามข้อใด
ปัจจุบันเชื้อเพลิงฟอสซิลถูกนามาใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้ามากท่ีสุดในโลกเม่ือเทียบกับ

เช้ือเพลิงประเภทอื่น ๆ ในขณะเดียวกันเชื้อเพลิงชนิดนี้มีราคาเพิ่มสูงขึ้นเร่ือยๆ อีกทั้งยังส่งผลกระทบ
ต่อส่ิงแวดล้อม ดังนั้นพลังงานหมุนเวียนซ่ึงเป็นพลังงานสะอาดโดยเฉพาะอย่างย่ิงพลังงานน้าจึงเป็น
ทางเลือกที่น่าสนใจในการผลิตพลังงานไฟฟ้าแทนเช้ือเพลิงฟอสซิลเน่ืองจากพลังงานน้าไม่ก่อให้เกิด
มลพิษทางอากาศและสร้างแกส๊ เรอื นกระจกในปริมาณนอ้ ยมาก

1. ใหค้ วามรเู้ ร่อื งเชอื้ เพลิงฟอสซลิ ท่ีใชอ้ ยู่ในปัจจบุ ัน
2. เสนอแนะให้เลิกใช้เชอื้ เพลิงฟอสซิลเพราะราคาแพง
3. ตาหนิการใช้พลังงานเดิม ๆ ทีก่ อ่ ให้เกดิ มลพษิ ทางอากาศ
4. สนบั สนุนใหใ้ ชพ้ ลังงานน้าทดแทนพลงั งานอนื่ เพราะไม่ทาลายส่ิงแวดล้อม
5. เตือนให้ระวังการสรา้ งมลภาวะในสง่ิ แวดล้อมเนื่องจากการใชพ้ ลงั งานฟอสซลิ

10. ขอ้ ใดเปน็ จดุ ประสงคข์ องผู้เขียนข้อความต่อไปน้ี
การจัดฟันเป็นการแก้ไขการเรียงตัวของฟัน การสบฟัน ขนาดของฟันและขากรรไกรผิดปกติ

หรอื ปัญหาฟนั ซ้อน ปจั จบุ ันการจดั แฟชนั่ เป็นทีน่ ิยมในหม่วู ยั รุ่น แมจ้ ะมขี ่าวอนั ตรายเก่ียวกับเร่ืองน้ี เช่น
การแอบอ้างเป็นทันตแพทย์ดัดฟัน การใช้อุปกรณ์ดัดฟันที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อที่
ถกู ตอ้ ง การจดั ฟันโดยทันตแพทย์เถื่อนอาจเกดิ อนั ตราย เช่น ติดเช้ือจากเคร่ืองมือที่ไม่ได้มาตรฐาน การ
ติดอุปกรณ์ไม่ถูกวิธี รากฟันมีปัญหา ทั้งนี้สามารถตรวจสอบสถานภาพของทันตแพทย์ได้จากเว็บไซต์
ของทนั ตแพทยสภา

1. อธิบายลักษณะของฟนั ที่ต้องแกไ้ ขดว้ ยการจัดฟนั
2. บอกเล่าสถานการณก์ ารจัดฟันของวยั รุ่นในปจั จุบัน
3. เตือนให้ระวังอนั ตรายจาการจดั ฟนั ที่ไม่ไดม้ าตรฐาน
4. กระต้นุ ใหผ้ ู้เก่ยี วข้องควบคุมดแู ลการจัดฟนั ใหม้ ีคณุ ภาพ
5. แนะนาใหต้ รวจสอบสถานภาพของทันตแพทย์ก่อนจดั ฟัน

11. ขอ้ ใดเปน็ จุดประสงค์ของผเู้ ขียนข้อความต่อไปนี้
โครงการสามเณรปลูกปัญญาธรรม มุ่งเผยแพรค่ วามรู้ คุณธรรม และจริยธรรมเพ่ือใหเ้ ยาวชน

คนรนุ่ ใหมเ่ รยี นรูแ้ ละนอ้ มนาหลักธรรมไปปฏบิ ตั ิเพื่อพัฒนาตนเองตลอดจนสรา้ งสรรค์สงั คมให้งอกงาม
เปน็ สว่ นสาคัญในการรว่ มสรา้ งสังคมแหง่ ความรู้คุณธรรมให้เกดิ ข้ึนในสังคมไทย

1. บอกเป้าหมายโครงการ
2. อธบิ ายลักษณะของกิจกรรม
3. ส่งเสรมิ ผ้นู าเยาวชนรุ่นใหม่
4. กระต้นุ จิตสานึกของเยาวชน
5. ปลูกฝงั ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม

19

12. ข้อใดสะท้อนลักษณะของสังคมไทย

๑. โปรดเลา่ เร่อื งภาคเหนอื เมือ่ น้าหลาก คลืน่ ยักษ์พรากแดนใตใ้ ห้สูญส้ิน

อสี านแล้งขาดนา้ ค้าชีวนิ แต่ทกุ ถ่นิ ยังชว่ ยเหลอื เอื้อนา้ ใจ

๒ ตอ้ งเป็นนักตอ่ ส้ทู ี่ร้เู คลด็ ผลสาเร็จอย่ทู ่ไี หนปักใจหมาย

และบุกบั่นมานะตะเกยี กตะกาย ไมเ่ วน้ วายถากถางให้ทางเตยี น

๓ โลกร้อนแรงแสงแดดกลา้ พายุหมุน ลมไตฝ้ ุน่ สลาตนั พดั ปัน่ ปว่ น

แผ่นดนิ ไหวถล่มแตกแยกแปรปรวน เสยี งคร่าครวญหลายชาติพินาศยับ

๔ ใจเราสองคล้องเกี่ยวเหมือนเกลยี วเชือก ปล่อยใหเ้ ปลือกนา้ จิตเจือพิษขม

เกบ็ คาคนค่อนมาเป็นอารมณ์ แล้วระดมแรงบ่นั ฟันเกลียวใจ

๕ คนนบั เงินนบั ได้ไม่อายดอก ค่าเงนิ บอกไมย่ ากแม้มากหลาย

คนนบั เงินเงินก็เห็นคนเป็นนาย แต่ควรอายหากเงนิ กลบั มานับคน

13.คาประพนั ธข์ ้อใด ใช้โวหารภาพพจน์เหมือนคาประพนั ธ์ต่อไปน้ี

“เดือนต่าดาวตกนกร้องไห้ ไมด้ อกไมใ้ บรว่ งหลน่ ”

๑. ดาวแย้มสรวลทวนเสนาะเสียงเยาะหยนั พระพายผันพรายผ่อนช่างอ่อนไหว

๒. ขาดอะไรในโลกไมโ่ ศกเศรา้ เหมือนกับเราท้ังชาติขาดภาษา

๓. ดอกไมด้ อกไม้จะบาน บริสทุ ธิก์ ลา้ หาญจะบานในใจ

๔. นกกระเรยี นเวียนลงหนอง ตรอมเท่ยี วย่องรอ้ งแกร๋แกร๋

๕. คือนา้ ผง้ึ คือนา้ ตาคือยาพิษ คือหยาดน้าอมฤตอันชื่นช่มุ

14. ข้อใดมกี ารใชโ้ วหารภาพพจนเ์ หมอื นคาประพนั ธ์ต่อไปนี้

กลองทองตีครมุ่ ครึ้ม เดิรเรยี ง

จา่ ตะเติงเติงเสยี ง ครุม่ ครืน้

เสยี งป่ีรเี่ รอื่ ยเพยี ง กระเวก

แตร้นแตร่นแตรฝร่ังข้ึน หวหู่ วู้เสยี งสังข์

๑. ความชรามาเยอื นเตือนให้รู้ แม่จะอยู่กบั เราอีกเทา่ ไหร่

๒. สรรพสัตว์พูดจาประสาคน คงภมู ใิ จเหลือลน้ ได้ตอบคา

๓. นาคสะดุ้งรุงรังกระดงึ ห้อย ใบโพธิ์รอ้ ยระเรงอย่เู หง่งหงัง่

๔. หยาดนา้ ค้างพร่างพรายในสายหมอก หม่ กลบี ดอกล่นั ทมท้าลมหนาว

๕. เป็นปา่ เถอื่ นแต่เปน็ ที่ไม่มีภยั อยหู่ า่ งไกลแต่ก็ใกล้ในคุณธรรม

20

15. ข้อใดคือเจตนาของผ้ปู ระพนั ธ์

คนเหน็ คนเป็นคนนนั่ แหละคน คนเหน็ คนใช่คนใช่คนไม่

กาเนดิ คนต้องเปน็ คนทุกคนไป จนหรือมีผ้ดู ีไพรไ่ มพ่ ้นคน

เกดิ หนหน่งึ ตายหนหนง่ึ พึงนึกไว้ ไม่เกิดใหม่ตายใหม่ไดห้ ลายหน

ถงึ ม่งั มีดเี ลศิ ประเสริฐลน้ ก็แค่คนคนหนง่ึ เทา่ นนั้ เอง

๑. เพอ่ื ใหต้ ระหนักในวฏั จักรชวี ิต

๒. เพ่ือสอนใหร้ ูเ้ ท่าทันกิเลสของมนุษย์

๓. เพ่อื เน้นย้าความเทา่ เทยี มของคนทุกคน

๔. เพื่อปลูกฝงั ใหใ้ ชช้ วี ติ อยา่ งพอเพยี ง

๕. เพือ่ สื่อให้เหน็ ความแตกตา่ งระหว่างบุคคล

16. จากคาประพนั ธ์น้สี ะท้อนปญั หาด้านใดเดน่ ชัดที่สุด

นีจ่ ะให้อะไรกันบา้ งไหม มหาวิทยาลัยใหญโ่ ตเหวย

แม้นทา่ นมิอาจให้อะไรเลย วานน่งิ เฉยอยา่ บน่ อย่าโวยวาย

ฉนั เยาว์ฉนั เขลาฉันท่ึง ฉนั จึงมาหาความหมาย

ฉันหวังเกบ็ อะไรไปมากมาย สุดท้ายให้กระดาษฉันแผน่ เดียว

๑. ความโง่เขลาของนิสติ นักศึกษา

๒. ขนาดของมหาวิทยาลยั ใหญเ่ กนิ ไป

๓. อาจารยม์ หาวทิ ยาลยั มกั จะโอ้อวดความรู้

๔. การขาดวนิ ัยในการทางานของบุคลากรในมหาวทิ ยาลยั

๕. แนวคิดและความรู้ท่ีได้รับจากการเรียนในมหาวิทยาลยั น้อยเกนิ ไป

17.ขอ้ ใดเป็นแนวคิดของคาประพนั ธ์ต่อไปน้ี

อนั เสาหนิ แปดศอกตอกเปน็ หลงั ไปมาผลักบ่อยเข้าเสายังไหว

จงฟังหไู วห้ ูคอยดูไป เชือ่ นา้ ใจดกี วา่ อย่าเช่ือยุ

๑. ความอดทนต่อการยวั่ ยขุ องผู้อน่ื ช่วยให้พน้ ภัย

๒. ความเช่อื คนง่ายทาให้ประสบกับความหายนะ

๓. ความมีใจคอหนักแนน่ เปน็ สิง่ ท่ีควรยดึ ถือไว้เปน็ คติ

๔. ความไว้วางใจคนง่ายอาจทาให้เกดิ ความผิดพลาดได้

๕. ความพยายามในการทากจิ การใดๆอย่างแขง็ ขนั ยอ่ มเกดิ ผลดี

21

18. ขอ้ ใดไม่มนี า้ เสยี งแสดงอารมณ์ความรู้สึก

๑. บปุ ผามาลีท่เี คยบาน กบ็ ันดาลลมโชยโรยร่วง

๒. พระพายชายพัดมารน่ื รืน่ ชูชน่ื จติ วายคลายกระสัน

๓. สายหยดุ ดอกยอ้ ยห้อยพวงยาน กลิน่ ซาบซ่านนาสาดอกนา่ เชย

๔. เขย้ี วกระแตกกล่นิ ตลบอลอวล ดงั เชิญชวนให้สบายคลายกมล

๕. ผเี ส้อื วอ่ ยว่อยอยู่ดูวไิ ล งามกระไรหนอผีเสือ้ ช่างเหลืองาม

๑9. ขอ้ ใดเป็นประเดน็ สาคัญของคาประพันธต์ อ่ ไปน้ี

อันหญ้าแพรกแตกหน่อก่อก่งิ กา้ น แดนกันดารแห้งแลง้ ทุกแห่งหน

ถงึ ถกู เหยยี บทาลายซ้ากจ็ าทน ยงั แตกตน้ งอกใหม่ไม่รวู้ าย

๑. ความทรหด

๒. ความอดกล้ัน

๓. ความต่าต้อย

๔. ความทุกข์ยาก

๕. ความเปล่ียนแปลง

20. ขอ้ ใดแสดงค่านยิ ม ศตั รูรูจ้ กั มิเป็นการ
๑. เจ้าอยา่ ดูถูกนะลูกรกั หนักหนว่ งน้าพระทัยดูให้ดี
๒. อันการยทุ ธ์ยิงชงิ ชัย จ่งึ จะสอนวิชาชาตทิ หาร
๓. เม่อื ไรหลานอา่ นหนังสือออกก่อน เดยี๋ วนี้เป็นกระไรอยั กา
๔. ช่วยดเู คราะหห์ ลายชายรา้ ยหรอื ดี พร้อมพระวงศพ์ งศ์พนั ธน์ุ ้อยใหญ่
๕. เวลาบ่ายจะถวายพระเพลิงปลง

เสรจ็ แลว้ ไปตรวจเฉลย
หน้า ๔๑ เลยค่ะ

22

ตอนที่ 2

คําส่งั ใหน้ กั เรียนอ่านข้อสอบแตล่ ะข้อจากนัน้ ใชห้ ลกั SQ4R จากนัน้ ทาเคร่ืองหมาย X ยงั ตัวเลอื กท่ี
เป็นคาตอบทถ่ี ูกดอ้ ง(ข้อละ 2 คะแนน)

1. ข้อใดเปน็ จดุ ประสงค์ของผู้เขยี นขอ้ ความต่อไปนี้
จังหวดั มหาสารคามจัดกจิ กรรมขบั เคลื่อนนโยบายอยา่ งต่อเนอื่ งในการดาเนนิ งาน

“จังหวัดไอโอดนี ย่ังยนื เพ่อื พัฒนาคุณภาพชีวติ ประชาชน” เพ่อื ส่งเสรมิ คณุ ภาพชีวิตของทารก
ตัง้ แตอ่ ยใู่ นครรภ์โดยเน้นการปอ้ งกนั ภาวะปญั ญาออ่ นและพกิ าร ปัจจุบันมหาสารคามได้รบั
การรับรองเป็นจงั หวัดไอโอดีน ๑ ใน ๗ จังหวัดของประเทศ

1. อธิบายสาเหตทุ ีท่ ารกอาจมคี วามพิการทางสมอง
2. สรปุ ผลดาเนนิ การกิจกรรมของจงั หวัดมหาสารคาม
3. ชีแ้ จงโทษของการรับประทานอาหารทีไ่ ม่มสี ารไอโอดนี
4. สง่ เสริมการดูแลสุขภาพของประชาชนในจงั หวดั มหาสารคาม
5. เสนอแนะใหห้ ญิงมีครรภ์รบั ประทานอาหารท่ีพฒั นาสมองทารก

2. ข้อใดไมส่ ามารถอนุมานได้จากข้อความต่อไปนี้
จ้ิงหรีดเป็นสินค้าท่ีมีแนวโน้มทางการตลาดดีขึ้นท้ังในประเทศไทยและต่างประเทศ สหภาพ

ยุโรปหรืออียูเป็นอีกตลาดหน่ึงท่ีน่าสนใจเพราะนอกจากจากจะมีผู้บริโภคถึง ๕๐๕ ล้านคนแล้ว อียูยัง
ปรับปรุงกฎระเบียบว่าด้วย “อาหารใหม่” (Novel food) โดยยอมรับอาหารพ้ืนบ้าน เช่น แมลง และ
อานวยความสะดวกในการขน้ึ ทะเบยี นด้วย

1. อาหารประเภทแมลงเปน็ ทนี่ ิยมมากในตลาดอยี ู
2. ไทยกาลงั จะมรี ายไดส้ ูงจากการสง่ ออกจง้ิ หรดี และแมลงอ่นื
3. อียยู อมรับอาหารพ้ืนบ้านจากหลายประเทศเปน็ “อาหารใหม่”
4. อาหารประเภทแมลงทารายได้จากต่างประเทศมากกวา่ ในประเทศ
5. นอกจากประเทศในอยี แู ล้วไทยยังส่งออกแมลงไปขายยังประเทศอื่นๆ อีกดว้ ย

3. ขอ้ ใดไมส่ ามารถอนุมานได้จากข้อความต่อไปน้ี
เม่ือจะตอ้ งปลกู บวั ในภาชนะจากัดแลว้ จาเปน็ ต้องปรับปรุงดินปลูกให้สามารถจุธาตุอาหารหลัก

เพยี งพอเม่ือแรกปลูก และพัฒนาวิธีการบารุงรักษาด้วยการเสริมธาตุอาหารให้แก่บัว เพราะการปลูกใน
ภาชนะจากัดทาให้บัวไม่สามารถเจริญเติบโตเหมือนอย่างในหนองน้าธรรมชาติ จึงต้องมีการพัฒนาผลิต
ดนิ สาหรับปลกู บวั ในภาชนะจากัดโดยตรงดว้ ย

1. บัวท่ีข้ึนตามแหลง่ นา้ ธรรมชาตสิ ามารถไดธ้ าตุอาหารจากดนิ ในน้านนั้
2. การปลกู บัวอาจปลูกตามแหล่งน้าตา่ ง ๆ หรอื ในภาชนะท่จี ากดั ขนาดก็ได้
3. ผปู้ ลูกบัวต้องหาแรธ่ าตุท่ีจาเปน็ ผสมในดินและใส่ลงในภาชนะท่ใี ชป้ ลกู
4. ดนิ ท่ใี ช้ปลูกบัวในภาชนะจากัดตอ้ งมีแร่ธาตสุ งู ซึ่งอาจหาได้จากธรรมชาติ
5. ถ้าหากเปน็ การปลกู บัวในแหล่งน้าธรรมชาติ การพฒั นาดนิ ปลูกบวั ก็ไม่จาเป็น

23

4. ขอ้ ใดไม่สามารถอนมุ านได้จากข้อความต่อไปนี้
เมีย นมา เป็น ตล าดที่ หอม หว านส าหรั บนั กลง ทุนไ ทย นอ กจา กจ ะอุด มไป ด้ว ย

ทรัพยากรธรรมชาติแล้ว ยังเต็มไปด้วยความต้องการสินค้าและบริการอย่างมาก เน่ืองจากเพ่ิงเปิด
ประเทศไดไ้ ม่นานและยังเป็นเพอื่ นบา้ นในอาเซียนอีกดว้ ย

1. ประเทศไทยสนใจอย่างมากท่ีจะลงทุนทางธุรกิจในเมยี นมา
2. เมียนมาผลิตผลติ สินคา้ ไมเ่ พยี งพอต่อความต้องการในประเทศ
3. ทรัพยากรในเมียนมาหลายชนดิ มีความนา่ สนใจนาไปแปรรูป
4. เมยี นมาเพ่ิงเปิดประเทศจึงไม่มีศกั ยภาพพอทีจ่ ะพัฒนาธรุ กิจและบริการ
5. เมียนมาอยู่ในกล่มุ อาเซยี นจงึ ชกั ชวนให้ประเทศเพื่อนบา้ นเข้าไปลงทุนทางธุรกิจ

5. ผูเ้ ขยี นหมายถงึ อะไรเมื่อใช้คาว่า “มหศั จรรย์”
เมื่อแรกทีเ่ ห็นสภาพดินแล้งผมแทบเข่าอ่อนแต่รุ่งขน้ึ ก็ไดส้ ติ ผมลงมอื ขุดๆ ๆ ดินลึกลงไป

๒ – ๓ เมตร เอาพวกเศษพชื ซากสตั ว์ มลู สตั ว์ ขยะอนิ ทรยี ์ทัง้ หลายถมลงไป ถมลงไป แล้วเอาดนิ กลบ
สกั ๒ อาทิตย์พลกิ ดินกลับ แล้วทาแบบนีซ้ า้ อีกประมาณ ๓ ปี มหศั จรรยจ์ รงิ ๆ ดินในผืนนาเดมิ
กลายเป็นดนิ ท่ีสมบูรณ์ ต่างจากเดิมไกลทเี ดยี ว

1. คิดไม่ถงึ วา่ จะทาใหด้ ินกลับดีข้นึ มาได้
2. ใชส้ ตแิ ก้ปัญหาจะประสบความสาเรจ็
3. ใชค้ วามอดทนและเวลานานถงึ ๓ ปี จงึ ไดผ้ ล
4. ใช้เวลานอ้ ยมากเมอ่ื เทียบกบั ผลท่ีไดต้ ่อเนื่องไปขา้ งหนา้
5. เปลี่ยนเศษพชื และซากสัตว์ให้กลายเปน็ ป๋ยุ อินทรยี ์ในดินได้

6. ข้อใดเป็นแนวคิดของข้อความต่อไปน้ี
การท่องเท่ียวเพ่ือการดูนกในเปรูเป็นที่นิยมมากข้ึนและเพ่ิมตัวเลขทางเศรษฐกิจให้สูงขึ้น

ประชาชนท่ีอาศยั อยใู่ นพน้ื ที่ใกลก้ ับเขตอนุรักษ์พันธสุ์ ัตว์กพ็ ลอยมรี ายได้ดีบรรดาบริษัททัวร์มักใช้จุดขาย
นี้พานักท่องเท่ียวไปถึงตัวนกหายากหรือใกล้สูญพันธ์ุ ประกอบกับการขยายตัวของชุมชนจากการ
ท่องเทย่ี วเขา้ ไปรกุ ลา้ พ้ืนที่ของสตั ว์ป่า เป็นเหตุให้นกหายากและสัตว์ป่าลดจานวนลงอย่างรวดเร็ว จนมี
การตงั้ คาถามวา่ เราจะปักหมดุ การอนรุ ักษเ์ พือ่ อะไร

1. นกท่ีใกลส้ ูญพันธล์ุ ดจานวนลงโดยลาดับเปน็ เร่อื งธรรมดา
2. การทอ่ งเทีย่ วดูนกในเปรูเพิม่ รายไดเ้ ขา้ ประเทศอยา่ งเห็นไดช้ ดั
3. เปรคู วรยอมลดรายไดข้ องประเทศท่มี าจากท่องเท่ียวดนู กหายาก
4. การอนุรักษน์ กหายากมคี วามสาคญั กว่าการส่งเสรมิ การทอ่ งเท่ยี วดูนก
5. การเตบิ โตทางเศรษฐกิจของเปรูเกิดขนึ้ ควบค่กู ับการเพ่ิมรายไดข้ องประชาชน

24

7. ขอ้ ใดไม่ใช่การบรรยาย
1. ผ้ชู ายคนหนึ่งวิ่งออกกาลังกายอยู่ในสวนสาธารณะทเี่ ทศบาลจัดทาขึน้ เพอื่ ให้ประชาชน

ได้มาออกกาลงั กาย
2. เหล่าบรรดานกพริ าบพากนั บนิ กนิ อาหารท่ีมผี ใู้ จบุญนามาเล้ียงโดยรอบบรเิ วณ

ทอ้ งสนามหลวง
3. รถยนตห์ ลายคันชนกนั อย่บู ริเวณสแ่ี ยกไฟแดงจนรถคนั อนื่ ต้องตดิ ยาวเป็นแถวอย่างไม่มี

ทที า่ ว่าจะขยับ
4. ดอกกหุ ลาบสีแดงสดเผยอกลบี ดอกบานสะพร่งั ละลานตาไปท่วั นา้ คา้ งเกาะกลีบดอก

สอ่ งแสงทอประกายงดงามจับตา
5. นักท่องเที่ยวเดินเท่ียวชมสวนดอกไม้บนดอยอินทนนท์อย่างมีความสุขและได้สัมผัสกับ

อากาศท่กี าลงั เยน็ สบาย

8. บทประพันธ์ตอ่ ไปน้ใี ชโ้ วหารชนดิ ใด
ขมุ เสียมสามรรถต้าน ขนุ ตะเลง
ชุนตอ่ ขุนไป่เยง หยอ่ นหา้ ว
ยอหัตถ์เทดิ ลบองเลบง อังกศุ ไกวแฮ
งามเร่งงามโทท้าว ท่านสศู้ ึกสาร”
1. พรรณนา
2. อธิบาย
3. เทศนา
4. บรรยาย
5. สาธก

9. ข้อใดเป็นการพรรณนา
1. แมค่ รวั ลงมอื ปรุงอาหารอย่างพถิ ีพิถนั เพ่อื ใหท้ ันกับความตอ้ งการของลูกคา้
2. นกั ทอ่ งเท่ียวท่มี าเยือนกาลังยืนชมฝงู นกนานาชนดิ พาบนิ กลับรงั เปน็ จานวนมาก
3. นกั กีฬาชกมวนของไทยออกหมัดซา้ ยขวาอย่างคลอ่ งแคล่วเพือ่ เอาชนะคู่ตอ่ สู้
4. สุนัขจรจดั จานวนมากวง่ิ กรูเขา้ มาเพอื่ รุมกินอาหารที่มีผู้ใจบญุ นามาเลี้ยง
5. ขุนเขาเขยี วขจีตง้ั ตระหง่านท่ามกลางเมฆหมอกสขี าวโพลนที่โอบล้อมอยูเ่ หนือยอดเขา

25

10. ขอ้ ใดเป็นพรรณนาโวหาร
1. สงิ่ แวดล้อมท่ีใกลต้ ัวของเรามากท่ีสุดทเ่ี ราควรช่วยกันอนุรักษค์ อื สิ่งแวดล้อมรอบ ๆ

โรงเรยี นของเราน่นั เอง
2. ปา่ ภหู ลวงทรี่ กทบึ ไปด้วยพรรณไม้ขนาดใหญ่เป็นเคร่ืองยืนยนั วา่ ป่าไม้แห่งน้ีอยู่

ห่างไกลน้ามือของผู้ทาลาย
3. นอกจากภาพของปา่ เขาทีท่ าให้เราพิศวงในความงามแล้ว อากาศหนาวและลมออ่ น ๆ

ก็ดเู หมือนเปน็ สงิ่ ที่หายากในสงั คมเมืองเบื้องล่าง
4. ต้นไม้ใบหญ้า ไมด้ อกใบทกุ ชนิด หลังจากทไ่ี ด้หยุดปรุงอาหารและนอนพกั มาตลอดคนื

เมอื่ ถงึ ยามเช้าจะอยใู่ นสภาพที่เบิกบานชกู ่ิงก้านสล้าง
5. การกระทาการงานใด ๆ ต้องอาศยั ความเพียรพยายามเปน็ เบื้องต้น กิจอันพึงประสงค์นั้นจัก

สาเร็จโดยปราศจากความพยายามมไิ ดเ้ ลย

11. คาประพนั ธต์ ่อไปนี้ใช้โวหารแบบใด
“ณ รม่ ไม้สาละ ณ ชายป่า มีนามว่าลมุ พินีวันมหาสถาน พระเทวีเร่ิมเจ็บครรภ์มิทันนาน ประสูติกาล

พระโพธิสัตว์จารัสงาม วิสาขะบูชาเพลาเลิศยอดกุมารผู้ประเสริฐเหนือโลกสามบัวบูชารองสองบาท
ยาตราตามทรงบญุ ยามจิตพรอ้ มนอ้ มบชู า”

1. บรรยายโวหาร
2. พรรณนาโวหาร
3. เทศนาโวหาร
4. สาธกโวหาร
5. อปุ มาโวหาร

12. ขอ้ ความตอ่ ไปนีใ้ ช้โวหารตามขอ้ ใด
“ไอ้ห้อยผอมแห้งแกร่งกรัง เนื้อหนังเหี่ยวย่นยังกะผิวลูกมะระข้ีนกแห้ง ตัวเล็กขนาดเด็ก

ประถมตัดผมสั้นเกรียนทรงนักเรียนมีหงอกแซมประปราย เค้าหน้าเหมือนตัวป๊อบอายในหนัง
การ์ตูน ตาต่ีเล็กเท่าเม็ดฟักทอง เวลาย้ิมหรือหัวเราะหนังตาแทบจะปิดกันจนสนิท ปากกว้างด้ัง
แฟบและฟนั หนา้ ตอนบนหายเกล้ียงไปจนหมด”

1. พรรณนาและสาธก
2. พรรณนาและอปุ มา
3. บรรยายและอุปมา
4. บรรยายและสาธก
5. อธิบายและบรรยาย

26

13. ข้อความต่อไปนต้ี ้องการสอื่ ถงึ เรือ่ งใดมากท่สี ดุ
“ไม่มีบุคคลใดในโลกทสี่ ามารถกลา่ วอย่างมน่ั ใจได้วา่ เมอื่ ดวงอาทิตย์ท่ีโผลพ่ ้นขอบฟ้าวันใหม่ ลมหายใจ
จะยังคงอยู่เช่นวันที่ผา่ นมาหรือไม่”

1. ให้ร้จู ักบรหิ ารเวลา
2. ให้ตงั้ อยใู่ นความไม่ประมาท
3. ให้รีบทาความดีเมอื่ มโี อกาส
4. ให้ทากจิ กรรมต่าง ๆ ทันที
5. ใหด้ ูแลคนเราท่รี กั ให้ดี

๑4. ข้อใดไมส่ อดคล้องกับคาสัมภาษณ์ต่อไปน้ี
“ผมมกั จะเขียนเรื่องย้อนไปเม่ือ ๔๐-๕๐ ปีก่อน เพราะความทเี่ ราคุ้นเคยกับสถานทแ่ี ละผู้คน

เวลาเขียนคาพูด หรือเขียนถึงตวั ละครมันถนัดกว่า กลมกลืนกวา่ ถา้ ใหเ้ ขยี นเร่ืองสมัยนี้ รู้ได้เลยว่ามัน
สะดดุ มนั ไม่งาม งานเขียนต้องงาม”

1. ขณะนผ้ี สู้ มั ภาษณม์ ีอายุ ๔๐-๕๐ ปี
2. งานของผ้ใู หส้ มั ภาษณเ์ ป็นเร่อื งเลา่ หรือนวนยิ าย
3. ผใู้ ห้สัมภาษณค์ ิดวา่ งานเขียนของตนเองมคี ณุ ภาพ
4. ผูใ้ ห้สมั ภาษณน์ าสงั คมแวดลอ้ มมาสร้างสรรคง์ านเขยี น
5. เวลาท่ีผใู้ ห้สมั ภาษณ์เขียนเรื่องราวสมยั ปัจจบุ นั งานจะด้อยคา่ ลง

15. ขอ้ ใดเปน็ ประเดน็ สาคัญของข้อความต่อไปนี้

ยาเม็ดหรือยาแคปซูลควรกลืนทั้งเม็ดพร้อมน้า ถ้าระบุว่าเค้ียวก่อนกลืนต้องเค้ียวให้ละเอียด

หากเปน็ ยาน้าควรเขย่าขวดก่อนใช้ทุกครั้งเพ่ือให้ตัวยากระจายท่ัวขวด ถ้าเป็นยาผงที่ระบุให้ละลายน้า

ก่อนรับประทาน ไม่ควรรับประทานทั้งผงแห้งๆ แล้วดื่มน้าตาม เพราะอาจทาให้เกิดการอุดตันของ

ทางเดนิ อาหารได้

1. ขอ้ แนะนาในการรับประทานยา

2. อันตรายท่ีอาจเกิดจากการใช้ยา ซอ่ื สตั ยต์ อ่
3. สรรพคณุ ของยาแตล่ ะประเภท ตนเองนะคะ
4. วิธกี ารเลอื กใชย้ าให้ถกู ต้องเหมาะสม

5. ความแตกตา่ งของยาเมด็ และยานา้

27

16. ขอ้ ใดเป็นประเดน็ สาคญั เกีย่ วกบั เกษตรกรในข้อความต่อไปน้ี
เกษตรกร ๑.๓ ลา้ นครวั เรอื น ส่วนมากยากจน มหี น้สี นิ เฉล่ีย ๖๐,๐๐๐ บาทต่อครวั เรอื น

ทีเ่ ป็นเชน่ นเี้ พราะต้นทุนการผลิตสงู เกษตรกรต้องซื้อเมล็ดพันธุ์พชื ป๋ยุ และยาฆ่าแมลงใน
ราคาแพง อกี ท้งั บางคนไมม่ ีทีด่ นิ ทากินเปน็ ของตนเองต้องเช่าทดี่ นิ ทาการเกษตร บางปผี ลผลติ
ทไี่ ดไ้ ม่คมุ้ กับเงนิ ที่ลงทุนไปจงึ ต้องไปกูเ้ งนิ จากนายทนุ หรอื จากธนาคารเพือ่ นามาใช้จา่ ยในครอบครวั

1. ฐานะ
2. แหลง่ เงนิ กู้
3. สาเหตุที่ทาใหม้ ีหน้ีสิน
4. โอกาสในการประกอบอาชีพ
5. มูลค่าของตน้ ทนุ ที่ใช้ในการผลิต

17. ข้อใดแสดงความหมายท่ีสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ความน้ี
“มผี กู้ ล่าววา่ เครื่องถ่ายเอกสารทาให้ใช้กันเพลินอย่างเกินความจาเป็นเป็นฉันใด บัตรเครดิตก็ทาให้

การใชจ้ ่ายขาดความยบั ยัง้ ช่งั ใจมากขึ้นไปฉนั นนั้ ”
1. ถ้าไม่มวี นิ ัย ทาอะไรก็หายนะ
2. ความสุรุยสรุ ่าย เป็นภัยรา้ ยอย่างย่งิ
3. ความสะดวกสบาย เป็นสญั ญาณอันตรายท่ีพึงระวงั
4. บัตรเครดติ และเครอื่ งถ่ายเอกสารเปน็ ตน้ เหตุใหผ้ ลาญทรพั ยส์ นิ
5. บตั รเครดิตและเครอ่ื งถา่ ยเอกสาร ทาใหค้ นมคี วามสุข

18. ขอ้ สรปุ ของข้อความตอ่ ไปน้คี อื อะไร
“เน่ืองจากชาวนาไทยมีที่ดินน้อย เฉลี่ยครอบครัวละเจ็ดถึงแปดไร่เท่านั้น ในบางภาคการใช้วัว

ควายทานาจึงนา่ จะเหมาะสมกบั งาน เพราะสะดวกที่จะทาเมื่อไรก็ได้ และจะแล้วเสร็จได้ในเวลาไม่นาน
ทงั้ ประหยัดกวา่ การจา้ งรถไถนา”

1. ชาวนาไทยมีทดี่ ินน้อย
2. การใช้วัวควายไถนาประหยัดกวา่ รถไถ
3. การใช้วัวควายทางานทาใหง้ านเสร็จเรว็ กวา่
4. การใชว้ วั ควายทานาเหมาะสมกบั งาน
5. การใช้วัวควายมมี านานแลว้

28

19. โครงการ “ตาบลละล้าน” เปน็ โครงการทีร่ ัฐบาลจดั สรรเงนิ ให้แก่ราษฎรในพ้ืนท่ีที่ประสบภัยแล้ง
ซ้าซาก ตาบลละไม่เกิน 1 ลา้ นบาท เพื่อสรา้ งพ้นื ฐานทางเกษตรกรรมและเพ่ิมประสทิ ธิภาพทางการ
ผลิต ตั้งแตเ่ ดอื นมกราคมถึงมถิ นุ ายนน้ี โดยมุ่งสร้างรายไดแ้ กเ่ กษตรกรผมู้ ี
รายได้นอ้ ย

1. ผู้ท่ไี ดร้ ับประโยชน์
2. จดุ ประสงค์ของโครงการ
3. ขน้ั ตอนในการจดั โครงการ
4. จานวนงบประมาณท่ีจดั ให้
5. ระยะเวลาในการจัดโครงการ

20. ใจความสาคญั ของข้อความต่อไปน้ีอยู่ทส่ี ว่ นใด
1) คนพม่าสว่ นใหญ่มีพลงั ศรัทธาอันแรงกล้าตอ่ พระพทุ ธศาสนา /2) เราจะเห็นไดช้ ัดเบื้องแรกคอื

การไม่สวมรองเท้าเข้าไปในเขตวดั /3) อกี ตวั อย่างหนึ่งคือการปิดทองคาเปลวท่ีองค์พระมหามัยมนุ ีจนผวิ
ขององค์พระขรุขระ/4) คนพม่าตั้งใจสวดมนต์อยา่ งสม่าเสมอ/ 5) และบางเมืองยังมีเจดียเ์ รยี งรายไป
ไกลสดุ ตา

1. สว่ นท่ี 1
2. สว่ นท่ี 2
3. ส่วนท่ี 3
4. ส่วนท่ี 4
5. สว่ นท่ี 5

21. ขอ้ ใดเปน็ เจตนาของผู้เขียนข้อความตอ่ ไปนี้
การออกกาลังกายอย่างสมา่ เสมอและเหมาะสมช่วยลดระดบั ความดนั โลหติ และเพ่ิมการทางาน

ของระบบหวั ใจและหลอดเลอื ด ตลอดจนลดความเสย่ี งต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคเส้นเลือดในสมองตีบ
แต่กอ่ นเรมิ่ ตน้ ออกกาลงั กายควรวดั ความดันโลหิตกอ่ นทุกคร้ัง และเตรยี มร่างกายให้พร้อม ไมค่ วรออก
กาลังกายในขณะที่ความดนั โลหติ สูงกวา่ ปกติ

1. บอกปัญหา
2. ตอบข้อสงสัย
3. แนะให้ปฏิบัติ
4. เสนอทางเลือก
5. อธบิ ายเหตผุ ล

29

22. มหาหงส์เป็นไม้ล้มลุก ทางเหนือเรียกหินแก้ว อีสานเรียกสะเลเต ภาคกลางเรียกว่านมหาหงส์
เหมาะสมสาหรับปลูกประดับ เป็นต้นไม้ที่แพร่ขยายได้อย่างรวดเร็ว มีกลิ่นหอม ใช้ทาน้าหอมและใช้
ในวงการสปา เหง้าใชท้ ายาแกเ้ จบ็ คอ ฆ่าเชอื้ โรค นา้ ค้ันจากเหง้านามาทาแก้ฟกซา้ ดาเขียวได้

1. วธิ ขี ยายพันธุ์
2. สรรพคุณทางยา
3. ลักษณะพันธ์ุไม้
4. การใช้ประโยชน์
5. ชือ่ เรียกตามท้องถิ่น

23. ข้อใดมีแตส่ มั ผัสพยัญชนะภายในวรรคเพยี งอย่างเดยี ว ไมม่ ีสมั ผัสสระ
๑. พระเดด็ ดอกกาหลงประยงคแ์ ย้ม ให้ทรามวยั ใส่แซมมวยผม
๒. อกเอ๋ยไม่เคยเดินไพร เคยสาราญแต่ในพระบรู ี
๓. กอพฤกษารายทางหลน่ ใบผลดั บา้ งระบดั ใบอ่อนเต็มตน้
๔. เหน็ เล็บนางแบ่งบานตระการตา เหมือนนขาโฉมงามทรามวยั
๕. ดดู อกสรอ้ ยฟา้ ระยา้ ย้อย เหมือนสานสร้อยประดบั ทรวงดวงสมร
1. ข้อ 1
2. ข้อ 2
3. ขอ้ 3
4. ขอ้ 4
5. ข้อ 5

24. ขอ้ ใดไม่แสดงอารมณ์เศรา้ โศกอาลัย

1. พระองคผ์ ้ทู รงศักดาเดช ไม่โปรดเกศแก่ข้าบทศรี

กรรมเวรสิ่งใดดัง่ น้ี ทลู พรางโศกีราพัน

2. ลาดวนเอย๋ จะดว่ นไปก่อนแลว้ ท้ังเกดแกว้ พิกุลยส่ี ุ่นศรี

จะโรยร้างห่างสิ้นกลิน่ มาลี จาปีเอย๋ ก่ีปจี ะมาพบ

3. จะตัง้ หน้าอาสาออกชิงชัย มิไดย้ ่อท้อถอยหลัง

สูต้ ายไม่เสียดายชีวัง กวา่ จะสิ้นกาลงั ของขา้ น้ี

4. วา่ พรางทางชมคณานก โผนผกจับไมอ้ ึงม่ี

เบญจวรรณจับวลั ย์ชาลี เหมืนวันพ่ีไกลสามสดุ ามา

5. เคยหมอบใกล้ได้กลิ่นสุคนธ์ตลบ ละอองอบรสรนื่ ช่นื นาสา

สน้ิ แผ่นดนิ ส้นิ รสสุคนธา วาสนาเรากส็ ิน้ เหมือนกลิ่นสคุ นธช์ ล

30

ใช้คําประพันธ์ตอ่ ไปนต้ี อบคําถาม ข้อ 25-26
๑. กระแสชลวนเชีย่ วเรอื เรย่ี วลด
๒. ดคู ้อมคดขอบคุ้งคงคาไหล
๓. แต่สาชลเจยี วยังวนเปน็ วงไป
๔. นีห่ รอื ใจทจ่ี ะตรงอย่าสงกา
๕. ถึงดา่ นทางกลางคลองข้างฝ่ังซา้ ย

25. คาประพันธข์ า้ งต้นเปรียบจติ ใจคนกับส่งิ ใด
๑. กระแสน้าท่ีไหลวกวน
๒. กระแสน้าทีไ่ หลเชี่ยว
๓. เรือทเี่ ลยี้ วไปเลีย้ วมา
๔. แมน่ า้ ท่ีคดไปคดมา
๕. ตลงิ่ ที่ดูโคง้ เปน็ คุ้งน้า

26. วรรคใดมสี มั ผสั พยญั ชนะมากท่ีสดุ
๑. วรรคท่ี ๑
๒. วรรคที่ ๒
๓. วรรคที่ ๓
๔. วรรคที่ ๔
๕. วรรคที่ ๕

27. ขอ้ ใดมนี ้าเสียงชน่ื ชม
๑. เลบ็ นางอย่างเลบ็ นอ้ ง เหลอื งดุจทองหาไหนเทียม
๒. รสสคุ นธ์สง่ กลน่ิ กลบ เหมือนน้าอบชโลมองค์
๓. เรอื ชายใกล้กาหลง คิดโฉมยงเจ้าตามมา
๔. ช้องนางนางคลไ่ี ว้ คิดทรามวัยเคยสรงสยาย
๕. กระถนิ ส่งกล่นิ เกล้ยี ง คดิ พรา่ งเพยี งจากจาจาง

31

ใชค้ าํ ประพันธต์ อ่ ไปน้ตี อบคําถาม ข้อ 28- 29
ทง้ั ส้ินคอื เส้นทางท่สี ร้างได้ เพียงเธอใช้ความรักเปน็ แรงขับ
ขับเคลอ่ื นความฝนั อันระยับ ขนึ้ อยู่กับเธอทุ่มเทมากเท่าใด
เหน่ือยแต่อย่ายอมท้อบนเส้นทาง ทุกก้าวย่างยังวาดหวังยงั เคลอื่ นไหว
ความสาเร็จรอโอบกอดเธอไม่ไกล เพยี งเธอใชห้ ัวใจรักชว่ ยผลักดัน

28. คาประพันธ์น้ีกล่าวถงึ ประเด็นใดเป็นสาคัญ
1. ความรกั
2. ความฝัน
3. ความหวัง
4. ความอดทน
5. ความจรงิ ใจ

29. ศิลปะการประพันธ์ตามข้อใดปรากฏในคาประพันธข์ ้างตน้
1. สญั ลกั ษณ์
2. บุคคลวตั
3. การเล่นคา
4. การหลากคา
5. การเล่นเสยี งหนกั เบา

30. ข้อใดมคี วามหมายสอดคล้องกบั ความคิดของผู้แตง่ คาประพนั ธต์ ่อไปนี้
ถงึ ยา่ นซ่ือสมชอ่ื ดว้ ยซื่อสุดใจมนุษย์เหมือนกระนแี้ ลว้ ดเี หลอื
1. ผู้แต่งยกย่องคนในย่านซ่อื ทม่ี ีจิตใจซอ่ื ทีส่ ุดเท่าทีเ่ คยพบ
2. คนในยา่ นซ่ือคงจะมีจิตใจซ่ือตรงสมกับช่อื ตาบลทีอ่ าศยั
3. ไมน่ า่ เช่ือวา่ จะมีมนุษย์ท่ีไหนมจี ติ ใจซ่ือตรงอยา่ งกับชื่อย่านซือ่
4. ถา้ คนเรามีจิตใจซ่ือตรงเหมือนกับช่ือยา่ นซื่อก็นับวา่ เปน็ สิง่ ประเสริฐทสี่ ุด
5. ผู้แตง่ เชอ่ื ม่นั วา่ จติ ใจของตนเองซ่ือตรงท่ีสดุ สมกบั ชื่อย่านซ่ือที่กาลงั เดินทางผา่ น

เสร็จแลว้ ไปตรวจเฉลย
หนา้ ๔๑ เลยคะ่

32

แบบทดสอบหลังเรยี น

คาํ ช้ีแจง :

1. แบบทดสอบหลงั เรียนเลม่ ทเ่ี ล่มท่ี 4 ยลยินขอ้ คดิ นี้เปน็ แบบปรนยั 5 ตวั เลือกจานวน
10 ขอ้ คะแนน 10 คะแนนใชเ้ วลา 10 นาที

2. ให้นักเรยี นทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ทับตวั เลือกที่ถกู ตอ้ งทีส่ ุดเพียงข้อเดยี วลงในกระดาษคาตอบ

1. สาระสาคญั ของข้อความต่อไปน้ีอยู่ทสี่ ว่ นใด
๑) วดั ในมมุ มองของผมไมใ่ ชเ่ พียงสถานท่ีท่ีใช้ประกอบศาสนพิธี / ๒) ไมใ่ ชเ่ พียงท่ีพระอยู่ไมใ่ ช่

เพียงท่ีทใี่ ชเ้ ผาศพ/ ๓) แตว่ ัดคอื ศูนย์รวมจิตใจ และเป็นสถานที่บอกถึงความเป็นมนุษย์ ความเป็นชาติ
ความสงบ/ ๔) วัดเปน็ แหล่งเรียนรูข้ องชุมชน/ ๕) เปน็ สถานทท่ี ส่ี อนอะไรหลายๆ อยา่ งแก่มนุษย์

๑. สว่ นท่ี ๑ และ ๒
๒. ส่วนท่ี ๒ และ ๓
๓. สว่ นที่ ๓ และ ๔
๔. สว่ นท่ี ๔ และ ๕
๕. สว่ นท่ี ๑ และ ๕

2. ข้อใดเป็นประเดน็ สาคญั ของข้อความต่อไปน้ี
“หลกั สาคัญของแผนน้าประปาปลอดภยั เร่มิ ตั้งแต่การดูแลรกั ษาแหล่งน้าดิบต้ังแต่ตน้ ทาง

เมอื่ นา้ ดบิ เขา้ ส่โู รงงานผลติ นา้ ประปาจะต้องคมุ จดุ เส่ยี งทงั้ ระบบผลติ ระบบสบู ส่ง และสูบจา่ ยทางท่อ
เพ่ือดูและรกั ษาคุณภาพน้าอย่างต่อเน่ือง รวมไปถงึ การควบคุมการวางท่อ การซ่อมทอ่ การเปลีย่ นท่อ
เกา่ ท่ีหมดอายเุ พ่ือความสะอาดของน้าจนไปถึงบ้านเรอื นประชาชน”

1. การควบคุมคุณภาพนา้ ประปา
2. กระบวนการผลติ น้าประปา
3. การตรวจสอบแหล่งนา้ ดิบ
4. มาตรฐานการดูแลอุปกรณ์
5. การจา่ ยนา้ ประปาส่ชู ุมชน

33

3. ผู้เขยี นตอ้ งการรณรงค์เรื่องใดในข้อความขา้ งตน้
“ดนิ หนิ ปา่ ไม้ สัตวป์ ่า ลว้ นอยใู่ นอุ้งมอื มนุษยท์ ีผ่ ลาญใชเ้ พ่อื ประโยชนต์ นอยา่ งไมค่ ณนา

จนกระทัง่ วันหนึง่ เม่ือนา้ ทะลักท้นถง่ั มาจนเกือบมิดหลงั คา ชายชรารอความช่วยเหลืออยา่ งอดิ โรยอยู่
บนยอดจั่ว ชวั่ คนื เดียวเท่าน้ันเองเขาก็เหลือเพียง...ชวี ติ ”

๑. การกู้ภัยให้ทนั ทว่ งที
๒. การดูแลความเป็นอยู่ของชาวบา้ น
๓. การปอ้ งกันภยั น้าทว่ มอย่างจริงจงั
๔. การวางแผนอพยพหนีจากภยั ธรรมชาติ
๕. การใช้ทรพั ยากรธรรมชาติอย่างทะนถุ นอม

4. ขอ้ ใดไม่มีคาศัพทท์ ีม่ ีความหมายเกย่ี วเน่ืองกบั “การศึกสงคราม”
๑. ถงึ เป็นตายไว้ช่อื ใหล้ อื ชา
๒. เขา้ ต้ังคา่ ยรายกาแพงแย่งปกี กา
๓. แลว้ ปรกึ ษาคิดอ่านการณรงค์
๔. เทยี่ วตรวจไตรไพรพ่ หลพลโยธา
๕. ให้รักษาหนา้ ทเี่ ชงิ เทินไว้

5. ขอ้ ใดไม่ได้กล่าวถึงเก่ียวกับนกกระจอกเทศในข้อความตอ่ ไปนี้

“นกกระจอกเทศเป็นนกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีถ่ินกาเนิดในทวีปแอฟริกา เม่ือโตเต็มท่ีสูง

ประมาณ ๒-๒.๕ เมตร อายุยืนได้ถึง ๖๕-๗๕ ปี เป็นนกท่ีหัวเล็ก คอยาว ตาโต ขาใหญ่แข็งแรง บิน

ไม่ได้ แต่ว่ิงเร็วมาก ไม่ดุร้าย นกกระจอกเทศหากินในทุ่งหญ้ากว้างเป็นฝูงใหญ่ กินพืช เมล็ดพืช

ผลไม้สุก และสตั วเ์ ลก็ ๆ”

1. นิสัย

2. อาหาร พยายามใช้ SQ4R ในการทา
3. ลักษณะ ข้อสอบนะคะ
4. ประโยชน์

5. ถน่ิ ท่อี ยู่

34

6. ข้อใดไมไ่ ด้กลา่ วถึงเก่ียวกับมะลใิ นข้อความต่อไปนี้
“มะลิ เปน็ ไมพ้ ุ่มขนาดกลาง ออกดอกเป็นชอ่ ตามปลายกิ่งประมาณ ๓-๕ ดอก แล้วแต่ชนิด

พนั ธ์ุ มะลนิ อกจากจะมีกล่ินหอมแล้วดอกแหง้ ยงั ใชป้ รุงเครื่องยาหอมบารุงหัวใจไดด้ ี เหตผุ ลทใี่ ชด้ อก
มะลเิ ป็นสญั ลกั ษณ์ของวนั แม่ เนอื่ งจากดอกมะลิมสี ีขาวบริสทุ ธิ์ ส่งกลิ่นหอมไปไกลและหอมได้นาน
ทัง้ ยงั ออกดอกตลอดปี เปรยี บไดก้ ับความรักอันบรสิ ทุ ธข์ิ องแมท่ ม่ี ีตอ่ ลกู ไม่มีวนั เสอ่ื มคลาย”

1. ความหมาย
2. ลกั ษณะทัว่ ไป
3. การขยายพนั ธ์ุ
4. สรรพคณุ ทางยา
5. ช่อื วิทยาศาสตร์

7. ศลิ ปะการประพนั ธ์ตามข้อใดไมป่ รากฏในคาประพนั ธต์ อ่ ไปนี้ เป็นไงคะ..ไม่ยากใช่ไหม
“หุบลึกบ้านเรือนแม่นา้ ไหล
รั้วขอบฟ้าสูงข้นึ ไปหมู่เมฆขาว
หม่ ขุนเขาเหยียดยอดทอดเทอื กยาว
พราวพรืดพราวโอบอ้อมแขนกอดแผ่นดนิ ”
1. ภาพพจน์
2. การซา้ คา
3. สมั ผัสสระ
4. สมั ผัสพยญั ชนะ
5. การเลียนเสียงธรรมชาติ

8. คาประพันธต์ อ่ ไปน้วี รรคใดไมม่ ีการแสดงอารมณ์
๑) เพิง่ พิศพระธิดายุพาพาล
๒) ให้สงสารสงั เวชพระทัยนัก
๓) คิดคดิ ถึงความยามวโิ ยค
๔) แสนโศกพ่างเพยี งจะอกหัก
๕) รา่ รักสลดระทดใจ
1. วรรคที่ ๑
๒. วรรคที่ ๒
๓. วรรคท่ี ๓
๔. วรรคที่ ๔
๕. วรรคท่ี ๕

35

9. คาประพันธต์ ่อไปนีข้ ้อใดมีจนิ ตนาการด้านเสยี ง
๑. เดินพลางถือคบก็พบเสือ
๒. รปู รา่ งใหญ่เหลือกระโชกโฮก
๓. มองเขมน้ แลบลนิ้ นยั นต์ าวาว
๔. เขยี้ วขาวเตรียมโจนเข้าใสเ่ รา
๕. คร้ันโดนไฟเผน่ หนีลี้เข้าดง

10. ข้อใดใช้ภาพพจน์ตา่ งกับขอ้ อืน่
๑. ผลลูกสุกห่ามงามงามงอม แตแ่ ตนตอมต่อผ้งึ ห่ึงหงึ่ ฮือ
๒. เหน็ กรวดทรายชายทะเลชโลธร ละเอยี ดอ่อนดงั ละอองสาลดี ี
๓. ทะเลโลง่ โวง่ วา่ งน้าค้างกระเซน็ ดดู าวเด่นดวงสว่างเหมือนอย่างโคม
๔. บันไดนาคนาคในบันไดนั้น ดผู กผันเพยี งจะเล้อื ยออกโลดเล่น
๕. ถึงรปู ร่างอยา่ งยุพินกินรี แตเ่ ช่นนแี้ ลว้ ไม่มองประคองเคียง

เสรจ็ แล้วไปตรวจจากเฉลยหนา้ ๔๐
ดซู ิคะวา่ คะแนนดขี ้นึ หรือไม่

36

ช่อื ..............................................................ชัน้ .................เลขท.่ี ....................

กระดาษคาํ ตอบแบบทดสอบหลังเรยี น

ขอ้ ตวั เลือก
12345

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

เกณฑก์ ารประเมนิ

-ตอบถูก ข้อละ 1 คะแนน

- ตอบผิด / ไม่ตอบหรือตอบมากกว่า 1 ข้อ ขอ้ ละ 0 คะแนน

แปลผลคะแนน

8 – 10 คะแนนดี
5 – 7 คะแนนพอใช้
0 – 4 คะแนนปรบั ปรุง

37

บรรณานุกรม

กระทรวงศึกษาธกิ าร. (๒๕๕๒). หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑.
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย.

__________.( ๒๕๕๕). วรรณคดวี จิ ักษ์. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ สกสค.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. (๒๕๕๐). การจัดการเรยี นการสอนภาษาไทยเพือ่ พฒั นาทกั ษะการคดิ .

กรุงเทพมหานคร: สถาบนั ภาษาไทย สานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา สานักงาน
คณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน.
จริ วัฒน์ เพชรรตั น์.(๒๕๕๖). การอ่านเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวติ . กรุงเทพฯ: โอ.เอส.พริน้ ต้ิงเฮา้ ส์.
ปิง เจริญศริ วิ ฒั น์. (2561). คลงั ขอ้ สอบภาษาไทย 1,000 ข้อ. พิมพค์ รัง้ ที่ 58. กรงุ เทพฯ:
รุ่งเรืองสาส์นการพิมพ์.
ฝา่ ยวิชาการบรษิ ัทสานักพิมพ์เอมพนั ธ์ จากัด. (๒๕๕๗). คมู่ ือครภู าษาไทย ๖ เล่ม ๒. นนทบรุ ี:
เอมพันธ์.
เพญ็ ศรี จนั ทร์ดวง. (๒๕๕๕). ภาษาไทยช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๖. กรงุ เทพฯ: แมค็ .
ภาสกร เกดิ อ่อน และคณะ.(ม.ป.ป.) .วรรณคดีและวรรณกรรม ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖
พมิ พค์ รง้ั ที่ ๕. กรงุ เทพฯ: อักษรเจรญิ ทัศน์.
___________. (๒๕๕๖). ค่มู ือครูรายวชิ าภาษาไทย วรรณคดีและวรรณกรรม ม.๖. กรุงเทพฯ:
อกั ษรเจริญทศั น์.
วรี ะ สดุ สังข.์ (2550). การคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ และคิดสร้างสรรค์. กรงุ เทพฯ:
สุวีริยาสาสน์ .
วราวรรณ จนั ทรนวุ งศ์ และกิ่งฟสู ินธุวงษ์. (๒๕๕๗). การคดิ และการคิดเกยี่ วกับการรู้: แนวการจดั การ
เรียนรู้เพอ่ื พัฒนาการคิดของผู้เรยี น. ขอนแก่น: คลังนานาวิทยา.
สถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) (2560). หลกั ภาษาและการใช้ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 5.
กรงุ เทพฯ: สถาบนั พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.)
__________. ๒๕๕๕. วรรณคดแี ละวรรณกรรม.กรุงเทพฯ:บรษิ ทั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ.
สอางค์ ดาเนนิ สวัสด์ิ. (ม.ป.ป.). สรุปความรู้รวบยอดพิชิต O-NET ม. 6. กรงุ เทพฯ : อมรการพมิ พ์ .
สุวฒั น์ วิวฒั นานนท์. (๒๕๕๐). ทกั ษะการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน.พิมพ์คร้ังท่ี ๒. นนทบรุ ี:
ซ.ี ซี.นอลลิดจ์ลิงคส์.
เอมอร เนยี มน้อย.(2551). พัฒนาการอ่านอยา่ งมวี ิจารณญาณด้วยวิธี SQ๓R.กรงุ เทพฯ: สรุ ีวิยาสาสน.์
อรณุ รชั ช์ แสงพงษ์. (2018). ตปี ้อม ไทย 9 วิชาสามญั ม.ปลาย. กรงุ เทพฯ: GANBATTE.

38

ภาคผนวก

39

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน

1. 4
2. 2
3. 5
4. 4
5. 1
6. 1
7. 4
8. 3
9. 3
10. 4

เปน็ ไงบา้ งคะผลสอบของเรา ครูอยากให้

นกั เรยี นพยายามทาแบบฝึกบอ่ ยๆนะคะ

จะไดท้ าข้อสอบโอเนต็ ได้คะแนนดีๆ

40

เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น

1. 4
2. 2
3. 5
4. 4
5. 1
6. 1
7. 4
8. 3
9. 3
10. 4

เป็นไงบา้ งคะผลสอบของเรา
ใครทีย่ ังได้คะแนนไมด่ ไี มต่ ้อง
เสยี ใจนะ ฝกึ ฝนบอ่ ยๆ เด๋ียวก็

ไดค้ ะแนนดีเอง

41

เฉลยแบบฝึกทักษะ ตอนท่ี 1

เฉลยแบบฝึกทักษะ ตอนที่ 1

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

แบบฝึกทักษะตอนที่ 1 ข้อละ 2 คะแนน
ขอ้ 1

1.1 คะแนนเตม็ 1 เมื่อทาํ เครื่องหมาย X ตัวเลอื กขอ้ ต่อไปน้ี
-3

- ไม่ได้คะแนน หรอื ได้ 0 คะแนน เม่ือทําเครื่องหมาย X ตรงตัวเลือกตัวอ่ืนหรือไมไ่ ด้ ทาํ
เครื่องหมาย X

1.2 คะแนนเต็ม 1 คะแนนเมอื่ โยงเส้นหรอื ขดี เสน้ ตามน้ี
1. ข้อใดไม่ไดก้ ล่าวถงึ เกี่ยวกับ “ไพล” ในขอ้ ความตอ่ ไปนี้
ไพลเป็นไม้ล้มลุกมีเหง้าอยู่ใต้ดิน เปลือกสีน้าตาลแกมเหลือง เน้ือด้านในสีเหลืองถึงเหลืองแกม
เขียว แทงหน่อหรือลาต้นเทียมขึ้นเป็นกอ เหง้าไพลแก่ทั้งสดและแห้งจะเผ็ดเล็กน้อย วิธีการ
ปลูกใชเ้ มล็ดหรือเหงา้ ในประเทศไทยนิยมปลูกกันมากท่ีจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี คนไทย
สมัยก่อนใช้ไพลแก้อาการเคลด็ ขัดยอก ฟกซา้ บวม ข้อเทา้ แพลง
1. รสชาติ
2. สรรพคุณ
3. ถ่นิ กาเนิด
4. การขยายพันธุ์
5. ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์

- ไมไ่ ด้คะแนน หรือ ได้ 0 คะแนน เมือ่ ไมโ่ ยง,ไม่ขีดเส้น หรอื โยงไม่ถกู ต้อง

42

เฉลยแบบฝึกทกั ษะ ตอนท่ี 1 (ตอ่ )

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

แบบฝกึ ทักษะตอนที่ 1 ข้อละ 2 คะแนน
ข้อ 2

2.1คะแนนเต็ม 1 เม่ือทาํ เคร่อื งหมาย X ตวั เลอื กข้อต่อไปน้ี
-1

- ไมไ่ ด้คะแนน หรอื ได้ 0 คะแนน เมื่อทาํ เครอื่ งหมาย X ตรงตัวเลือกตวั อืน่ หรือไมไ่ ด้ ทาํ
เครอื่ งหมาย X

2.2 คะแนนเต็ม 1 คะแนนเม่อื โยงเส้นหรอื ขดี เสน้ ตามนี้
2. ข้อใดไมไ่ ดก้ ลา่ วเก่ยี วกบั “ง”ู ในขอ้ ความต่อไปนี้ ปัญหางูเขา้ บา้ นเกดิ ขึน้ ได้บ่อย ๆ
เนอ่ื งจากการขยายตัวของเมอื งเข้าไปรกุ ลา้ ทอี่ ยอู่ าศยั ของงู ทาใหง้ ูตอ้ งปรบั ตัว และล่าเหย่ือ
ทม่ี อี ยใู่ นเมืองเป็นจานวนมาก เชน่ หนใู นท่อระบายน้าตามบา้ นเรอื น งูชอบอาศยั ในทีม่ ืด เป็นโพรง
และแหง้ เม่ือเขา้ สฤู่ ดฝู นงูไมส่ ามารถอาศัยในบริเวณเดมิ ได้ จงึ ตอ้ งยา้ ยท่อี าศัย เพ่อื ความปลอดภยั
ควรจัดบา้ นเรอื นใหส้ ะอาดไมเ่ ปน็ ที่อาศัยของหนู และถางหญ้าบริเวณบา้ นไม่ใหเ้ ปน็ ปา่ รก

1.ชนิด
2.ทอี่ ยู่
3. อาหาร
4.ลกั ษณะนสิ ยั
5. การป้องกัน

- ไม่ไดค้ ะแนน หรอื ได้ 0 คะแนน เมอ่ื ไม่โยง,ไม่ขีดเส้น หรือโยงไม่ถูกต้อง

หากสงสัยถามครู
ได้นะคะ

43

เฉลยแบบฝกึ ทกั ษะ ตอนที่ 1 (ต่อ)

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

แบบฝึกทักษะตอนท่ี 1 ข้อละ 2 คะแนน
ข้อ 3

3.1 คะแนนเตม็ 1 เมอ่ื ทําเคร่อื งหมาย X ตวั เลอื กข้อต่อไปนี้
-5

- ไม่ไดค้ ะแนน หรือ ได้ 0 คะแนน เม่อื ทําเคร่อื งหมาย X ตรงตัวเลือกตัวอืน่ หรอื ไมไ่ ด้ ทํา
เคร่อื งหมาย X

3.2 คะแนนเต็ม 1 คะแนนเมอื่ โยงเสน้ หรือขีดเส้นตามนี้
3. ขอ้ ใดไมไ่ ด้กลา่ วถึง “มะไฟจีน” ในข้อความต่อไปนี้ มะไฟจีนเป็นพืชตระกูลส้มชนิดหน่ึง เป็น

ไม้ไม่ผลัดใบ ออกผลตามลาต้นและกิ่งเป็นพวงคล้ายมะไฟ ผิวเรียบ เปลืองบาง จึงกินได้ท้ังเปลือก เน้ือใส
ฉ่าน้า รสหวานอมเปร้ียว มีกล่ินหอมของน้ามันระเหยท่ีเปลือกเหมือนกับเปลือกส้ม เป็นพืชสมุนไพรที่มี
สารตา้ นอนมุ ูลอิสระ ปจั จุบันมะไฟจีนเชอื่ มแหง้ ได้กลายเป็นของฝากข้ึนช่อื ประจาจงั หวัดน่าน

1.ประโยชน์
2. การแปรรปู
3.วิธรี ับประทาน
4.ลกั ษณะของผล
5.ขนาดของลาต้น

- ไมไ่ ดค้ ะแนน หรือ ได้ 0 คะแนน เมือ่ ไม่โยง,ไม่ขีดเสน้ หรือโยงไม่ถูกต้อง

44

เฉลยแบบฝึกทกั ษะ ตอนท่ี 1 (ต่อ)

เกณฑก์ ารให้คะแนน

แบบฝกึ ทกั ษะตอนท่ี 1 ข้อละ 2 คะแนน
ข้อ 4

4.1 คะแนนเต็ม 1 เมอ่ื ทําเครอื่ งหมาย X ตัวเลอื กข้อต่อไปนี้
-5

- ไม่ได้คะแนน หรือ ได้ 0 คะแนน เมือ่ ทําเครื่องหมาย X ตรงตวั เลือกตัวอื่นหรอื ไมไ่ ด้ ทาํ
เครอื่ งหมาย X

4.2 คะแนนเตม็ 1 คะแนนเมอ่ื โยงเส้นหรือขดี เส้นตามนี้

4. ข้อความส่วนใดเปน็ ใจความสาํ คัญของข้อความต่อไปนี้
๑) ศาสตร์การแพทย์แผนจีนมีความโดดเด่นเร่ืองโภชนบาบัดหรือการใช้อาหารเป็นยา / ๒)

มีคาเรียกพืชท่ีมีคุณสมบัติทางยาว่า เปิ่นเฉ่า และมีการจดบันทึกคุณสมบัติต่าง ๆ ของพืชท่ีส่งผล
ต่อสขุ ภาพอย่างตอ่ เน่ือง / ๓) มีตารับอาหารเพ่ือรักษาโรคในยุคราชวงศ์ชาง / ๔) มีขุนนางในราช
สานักผูม้ คี วามรู้ ความชานาญ การปรุงอาหารเป็นยา / ๕) หัวใจของศาสตร์การแพทย์แผนจีนคือ
จงทาให้ทกุ มื้ออาหารชว่ ยปรบั สมดลุ รา่ งกายใหท้ างานไดต้ ามปกติ

1. สว่ นท่ี ๑ และ สว่ นที่ ๒
2.สว่ นที่ ๒ และ ส่วนที่ ๓
3. สว่ นที่ ๓ และ ส่วนท่ี ๔
4. ส่วนท่ี ๔ และ ส่วนท่ี ๕
5. ส่วนที่ ๕ และ ส่วนท่ี ๑

- ไม่ไดค้ ะแนน หรอื ได้ 0 คะแนน เม่ือไมโ่ ยง,ไม่ขีดเสน้ หรอื โยงไม่ถกู ต้อง

45

เฉลยแบบฝึกทกั ษะ ตอนท่ี 1 (ต่อ)

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน

แบบฝกึ ทักษะตอนที่ 1 ข้อละ 2 คะแนน
ขอ้ 5

5.1คะแนนเต็ม 1 เมอื่ ทําเคร่อื งหมาย X ตัวเลือกขอ้ ต่อไปนี้
-3

- ไมไ่ ด้คะแนน หรอื ได้ 0 คะแนน เมื่อทําเครอื่ งหมาย X ตรงตวั เลือกตัวอนื่ หรอื ไมไ่ ด้ ทํา
เครอ่ื งหมาย X

5.2 คะแนนเตม็ 1 คะแนนเมื่อโยงเสน้ หรอื ขีดเสน้ ตามน้ี
5. ขอ้ ใดเป็นประเดน็ สาคญั ของข้อความต่อไปนี้
ดวงตาเป็นอวยั วะสาคัญ เราจึงตอ้ งดูแลใหป้ ลอดภยั โดยเฉพาะจากแสงแดดซ่ึงอาจทาให้

กระจกตา เลนส์และจอประสาทตาอักเสบ มีอาการแสบตา น้าตาไหล ในระยะยาวอาจกลายเปน็
ตอ้ กระจกได้ จึงควรสวมแวน่ กนั แดดทุกครง้ั เม่อื ต้องเผชญิ กบั แสงแดดเพ่อื ลดรงั สยี วู ที ี่จะกระทบตา
ควรใช้แวน่ กันแดดท่ีมีคณุ ภาพเพื่อป้องกนั ทั้งแสงยูวเี อและยูวบี ไี ด้ หากไมจ่ าเปน็ ควรหลีกเลย่ี งการออก
แดดในช่วงเวลา ๑๑.๐๐ – ๑๕.๐๐ น.

1.สาเหตุของต้อกระจก
2.ความสาคญั ของดวงตา
3.วิธกี ารถนอมรกั ษาดวงตา
4.อาการอักเสบของเลนส์และจอประสาทตา

- ไมไ่ ดค้ ะแนน หรือ ได้ 0 คะแนน เมอ่ื ไม่โยง ไม่ขีดเส้น หรอื โยงไม่ถกู ตอ้ ง

46

เฉลยแบบฝึกทกั ษะ ตอนที่ 1 (ตอ่ )

เกณฑก์ ารให้คะแนน

แบบฝกึ ทกั ษะตอนที่ 1 ข้อละ 2 คะแนน
ข้อ 6

6.1คะแนนเต็ม 1 เม่ือทาํ เคร่ืองหมาย X ตัวเลอื กขอ้ ต่อไปน้ี
-2

- ไม่ได้คะแนน หรือ ได้ 0 คะแนน เม่อื ทําเคร่ืองหมาย X ตรงตัวเลือกตัวอื่นหรือไมไ่ ด้ ทํา
เคร่ืองหมาย X

6.2 คะแนนเตม็ 1 คะแนนเมอื่ โยงเส้นหรือขดี เส้นตามนี้
6. ขอ้ ใดเป็นประเด็นสาคัญของข้อความต่อไปน้ี
การดับไฟป่าเป็นการต่อสู้ระหว่างคนกับไฟ ขณะท่ีเกิดไฟไหม้ป่าพนักงานดับไฟจะต้องพลิก

แพลงวิธีการตลอดเวลา โดยเร่ิมควบคุมท่ีหัวไฟก่อน เพื่อหยุดย้ังการลุกลามของไฟแล้วจึงกระจายกาลัง
ออกดับไฟทางปีกทั้งสองด้านเพ่ือไปบรรจบกันที่หางไฟ แต่ถ้าแนวหัวไฟมีความร้อนมากไม่อาจเข้าถึงได้
อาจเร่ิมดับไฟจากปีกท้ังสองด้านก่อน แล้วบีบเข้าหาหัวไฟเพ่ือบังคับให้แนวหัวไฟแคบและเล็กลงเร่ือย ๆ
วิธีควบคุมไฟคือใช้พล่ัวตักดินหรือทรายสาดกลบไฟ หรือใช้น้าฉีดเพื่อลดความร้อนและความสูงของเปลว
ไฟ จากนัน้ จงึ ใช้ท่ตี บไฟเข้าไปตบ และคลุมไฟจนดับ

1.สถานการณไ์ ฟปา่
2.กลยทุ ธ์ในการดบั ไฟปา่
3.การต่อสรู้ ะหว่างคนกับไฟ
4.ความเสีย่ งของนักผจญเพลิง
5.วสั ดอุ ุปกรณส์ าหรับดับไฟป่า

- ไม่ไดค้ ะแนน หรือ ได้ 0 คะแนน เมือ่ ไม่โยง ไม่ขีดเส้น หรอื โยงไม่ถกู ต้อง