แผ่นท่ี 3 กจิ กรรมการเรียนร้เู พ่อื เสริมสรา้ งคณุ ลกั ษณะอยู่อย่างพอเพียง (ต่อ)
กลมุ่ สาระการเรยี นคณิตศาสตร์
ช่ือหน่วยการเรียนรู้ ความน่าจะเป็น ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 20 ช่วั โมง
การวัดและประเมนิ ผล
ประเด็น วิธกี าร เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
ด้าน K - ตรวจแบบฝึกทักษะ 3.4 ข้อ 4 -5, - แบบฝกึ ทกั ษะ 3.4 ขอ้ 4-5, 7-12 ทำไดถ้ ูกตอ้ ง ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
7-12 - Exercise 3.4D ทำไดถ้ กู ต้อง ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ตรวจ Exercise 3.4D ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ดา้ น P - ตรวจแบบฝกึ ทักษะ 3.4 ข้อ 4 -5, - แบบฝกึ ทกั ษะ 3.4 ข้อ 4-5, 7-12
7-12 - Exercise 3.4D
- ตรวจ Exercise 3.4D
ด้าน A สังเกตความมวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรูแ้ ละมงุ่ มน่ั ใน แบบประเมิน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
การทำงาน
สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ ม.4 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 หลกั การนบั เบอ้ื งต้นและ
ความน่าจะเปน็
2) แบบฝึกหดั รายวิชาพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ ม.4 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 หลกั การนบั เบือ้ งตน้ และ
ความนา่ จะเปน็
แหลง่ เรยี นรู้
1) ห้องสมดุ
2) ห้องเรยี น
3) อนิ เตอรเ์ น็ต
• https://www.twig-aksorn.com/film/the-prisoners-dilemma-8491/
แผน่ ที่ 4 ชดุ คำถามกระตุ้นเพอ่ื ปลกู ฝักหลักคดิ พอเพียง
กลมุ่ สาระการเรียนคณิตศาสตร์
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ความน่าจะเปน็ ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 20 ชว่ั โมง
คำถามกระตนุ้ เพ่อื ปลูกฝงั หลักคิดพอเพียงก่อนเรียน
ครูกระตุน้ ความสนใจของนักเรยี นโดยให้นกั เรยี นส่งตัวแทนออกมา 2 คน เพอ่ื เล่นเกมทายถูกหรือไม่ โดยกตกิ าการเลน่ เกมมดี ังนี้
Q1 ครนู ำเข้าสูบ่ ทเรียนเรื่องความน่าจะเปน็ ของคอมพลีเมนตข์ องเหตกุ ารณ์ โดยการยกตวั อยา่ งการหยิบบัตรตัวเลขจากกลอ่ งซ่ึง
บรรจุบตั รตวั เลข 1 ถึง 9 อย่างละ 1 ใบ จากหนงั สือเรยี นหน้า 127-128 เพ่ือให้นกั เรยี นได้เห็นภาพและไดข้ ้อสรปุ วา่ P(E’) = 1 -
P(E)
Q2 ครใู หน้ ักเรียนจบั คู่ศกึ ษาการหาคา่ ความน่าจะเปน็ ของคอมพลีเมนต์ของเหตกุ ารณ์ จากตวั อย่างที่ 24-25
จากหนังสอื เรียนหนา้ 130-132 จากนัน้ สุ่มตัวแทนนกั เรียนมานำเสนอวิธีการหาคำตอบในแต่ละตัวอยา่ งหนา้
ชน้ั เรียน โดยครตู รวจสอบความถกู ต้อง
คำถามกระต้นุ เพอ่ื ปลกู ฝังหลักคิดพอเพียงระหว่างเรียน
ครูนำเข้าสบู่ ทเรียนเรอื่ งเหตุการณ์ โดยการตัง้ คำถามใหน้ ักเรยี นไดร้ ว่ มกนั คดิ ดังนี้
Q3 ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรียนฟังว่า การหาความนา่ จะเป็นของเหตุการณท์ ี่สนใจ เราสามารถนำความรเู้ รอื่ งแผนภาพต้นไม้
แผนภาพความเป็นไปได้ การเรียงสับเปลี่ยนและการจัดหมู่ มาช่วยในการหาจำนวนสมาชิกของปริภมู ติ ัวอยา่ งและจำนวนสมาชกิ ใน
เหตุการณไ์ ด้ พร้อมท้ังยกตัวอยา่ งท่ี 26-27 จากหนงั สอื เรียนหนา้ 133-134
Q4 ครูให้นักเรียนทำ “ลองทำด”ู ในหนังสือเรยี นหน้า 133 และ 135 และแบบฝกึ ทกั ษะ 3.4 ข้อ 9, 10 หนา้ 138-139
เม่อื นักเรยี นทำเสร็จให้รว่ มกันเฉลยคำตอบ โดยครูตรวจสอบความถกู ต้อง
คำถามกระตนุ้ เพ่ือปลกู ฝังหลักคดิ พอเพยี งหลังเรียน
Q5 ให้ P(E) แทนความน่าจะเป็นที่จะเกิดเหตุการณ์ E และ แทนความน่าจะเปน็ ทีจ่ ะไมเ่ กิดเหตุการณ์ E แลว้ มคี า่ เทา่ กบั
เทา่ ใด
แผน่ ท่ี 5 แนวทางที่ครนู ำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้จัดการเรียนรู้
กลมุ่ สาระการเรยี นคณติ ศาสตร์
ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ ความน่าจะเปน็ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 20 ชัว่ โมง
ครผู ้สู อนนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาจัดกจิ กรรมการเรยี นรูด้ ังนี้
ความร้ทู ่คี รูตอ้ งมีก่อนสอน คณุ ธรรมของครูในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
1. รอบรู้เนื้อหาในสาระคณิตศาสตร์เรื่องหลักการนับและ 1. เมตากรณุ า
แผนภาพตน้ ไม้ 2. ยตุ ธิ รรม
2. รอบรเู้ ทคนคิ การสอนท่ีหลากหลาย 3. รบั ผิดชอบ
3. มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความร้ใู ห้กับผเู้ รยี น 4. ตรงต่อเวลา
ประเดน็ พอประมาณ มเี หตุผล มภี มู ิคุม้ กัน
เนอื้ หา สอนตรงตามเนื้อหา ยกตัวอย่างโจทยท์ ี่ มเี นอ้ื หาการเรียนรสู้ อดคลอ้ ง วางแปนการจดั การเรียนรู้ตาม
ตรงตามหลักสตู ร เนอื้ หาได้อย่างเป็นขน้ั ตอน
เก่ยี วข้องและเหมาะสม
ทำงานตรงตามเวลาท่กี ำหนด แบ่งเวลาในการทำงาน
เวลา ใช้เวลาท่มี อี ย่างจำกัดให้เกดิ ความคุ้มค่าที่สุด
กจิ กรรมทส่ี อดคล้องกับ วางแผนการทำกจิ กรรมอยา่ ง
การจดั กจิ กรรม ออกแบบและจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เหมาะสม บทเรียน เป็นระบบ
กบั วยั เลือกใชส้ ่ือได้เหมาะสมกับ เตรียมการป้องกันและ
เนอื้ หาการจัดการเรยี นรู้ แกป้ ญั หาท่ีอาจเกิดข้ึน
ส่อื /อุปกรณ์ ใชส้ อื่ ทส่ี ามารถหาได้ง่ายรวดเรว็ และสะดวกต่อ ระหวา่ งการจัดกิจกรรมการ
การเรยี นรู้ เรยี นรู้
แหล่งเรยี นรู้ ใช้แหลง่ เรียนร้ทู ี่อยภู่ ายในโรงเรียนเพ่ือความ เลอื กใชแ้ หล่งเรียนรู้ได้ เตรยี มการป้องกนั และ
สะดวกรวดเร็วต่อการเรียนรู้ เหมาะสมกบั เนอ้ื หาการ แกป้ ัญหาที่อาจเกดิ ขึ้น
ระหว่างการใชแ้ หลง่ เรียนรู้
ประเมินผล วดั และประเมนิ ผลตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้
มีรูปแบบการประเมินที่
ประเมินตามสภาพจรงิ สามารถตรวจสอบได้
แผ่นท่ี 6 ผลที่จะเกดิ ขึน้ กับผู้เรียนจากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูต้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
กลมุ่ สาระการเรยี นคณติ ศาสตร์
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ความน่าจะเป็น ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 20 ช่วั โมง
6.1 ผ้เู รยี นจะได้ฝกึ คิดและฝึกปฏบิ ัติตามหลัก ปศพพ. ดังนี้
ความรทู้ นี่ ักเรยี นต้องมกี ่อน คุณธรรมของนักเรยี นท่ีจะทำการเรยี นร้สู ำเรจ็
1. มคี วามรพู้ น้ื ฐานของจำนวนจรงิ 1. ซอ่ื สตั ย์
2. มีความร้พู ้ืนฐานของจำนวนเตม็ 2. รอบคอบ
3. มีความรู้พืน้ ฐานของเลขยกกำลงั 3. ตรงต่อเวลา
4. มีความรพู้ ืน้ ฐานของเศษส่วน 4. เคารพกฎกตกิ า
5. มคี วามรู้พ้นื ฐานการดำเนนิ การบวกลบ คูณ หาร 5. ความสามัคคี
6. มคี วามรใู้ นการวางแผนและทกั ษะในการทำงานรว่ มกับผู้อ่นื 6. ความเอ้ืออาทร
7. มีความสามารถในการสื่อสาร เชื่อมโยงที่จะนำความรู้เรื่อง
หลักการนบั เบ้ืองต้น
พอประมาณ มเี หตุผล มีภูมคิ มุ้ กัน
1. นกั เรียนรูเที่จะจดั สรรเวลาในการทำ 1. สามารถใชค้ วามรเู้ รือ่ งความนา่ จะเป็น 1. มีการวางแผนในการปฏบิ ัติกิจกรรม
กิจกรรม ในการทำกิจกรรมและแบบฝึกหัดได้ 2. ดำเนนิ กิจกรรมตามลำดับข้นั ตอน
3. มีทกั ษะในการคดิ
2. เรยี นรเู ท่ีจะใชค้ วามรทู้ ีเ่ รียนมาและ 2. นำความรเู้ รอื่ งความน่าจะเป็นไป 4. มีความเขา้ ใจในเร่ืองความน่าจะเป็น
สบื คน้ ความร้เู ก่ียวกับความน่าจะเป็น ประยุกตใ์ ช้ในการดำเนินชวี ติ ประจำวนั 5. มคี วามเขา้ ใจในการนำความรูท้ ไ่ี ด้ไปใช้
3. รู้จกั ประเมนิ ความรู้ความสามารถของ ในชีวิตประจำวนั
ตนเองและเพื่อนในชั้นเรียน
6.2 ผเู้ รียนจะไดเ้ รียนรูก้ ารใชช้ วี ติ ท่ีสมดุลและพร้อมรับการเปลย่ี นแปลง 4 มติ ิตามหลัก ปศพพ. ดังน้ี
ด้าน สมดุลและพร้อมรบั การเปลีย่ นแปลงในดา้ นต่างๆ
องคป์ ระกอบ วตั ถุ สงั คม สิง่ แวดล้อม วัฒนธรรม
ความรู้ 1. ได้รับความร้เู กยี่ วกบั 1. การแลกเปลี่ยนความรู้ รู้จกั การใชส้ ือ่ และแหล่ง เหน็ คณุ ค่าของการนำ
เรอ่ื งความน่าจะเป็น 2. นักเรียนไดช้ ว่ ยเหลอื เรียนรู้อย่างคุ้มคา่ และ ความรู้ไปใชใ้ น
ซึ่งกนั และกัน คมุ้ เวลา ชวี ิตประจำวัน
ทกั ษะ 1. ทกั ษะการสือ่ สาร 1. ทกั ษะการรว่ มกันตอบ รู้จกั การใช้ส่อื และแหล่ง 1. ดำรงตนอยูใ่ นสงั คม
2. ทักษะการคดิ คำถามและแสดงความ เรียนร้อู ยา่ งคุ้มค่าและ อยา่ งมีความสุข
3. ทกั ษะการแก้ปัญหา คิดเห็น คุม้ เวลา 2. มที กั ษะในการคำนวณ
4. ทกั ษะการใชช้ ีวิต และการนำไปใชไ้ ด้
5. ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี อยา่ งเหมาะสม
ค่านยิ ม 1. มวี ิจารณญาณรอบคอบ 1. ความรับผดิ ชอบ 1. รอบคอบ 1. เขียนใบงานเปน็
ในการทำใบงาน 2. รับผิดชอบ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย
2. ทำใบงานดว้ ยความ
มงุ่ ม่นั ตงั้ ใจ
แผ่นที่ 1 ผังโครงสรา้ งหนว่ ยการเรียนรเู้ พื่อเสรมิ สร้างคุณลกั ษณะอยู่อยา่ งพอเพยี ง
กลุ่มสาระการเรียนคณติ ศาสตร์
ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ ความน่าจะเป็น ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลา 20 ชั่วโมง
ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ ความน่าจะเปน็ แผนท่ี 1 (3 ชัว่ โมง) เรื่อง การทดลองสุม่
(6 แผน 20 ชัว่ โมง) และปรภิ มู ติ ัวอย่าง
สาระสำคญั
มฐ./ตัวชว้ี ัด : ค 3.2 ม.4/2 หาความ
การทดลองส่มุ คอื การทดลองหรอื การกระทำใด ๆ ที่เราสามารถบอกผลลพั ธ์ทอ่ี าจ น่าจะเปน็ และนำความรู้เก่ยี วกบั ความ
เกิดขึน้ ไดท้ ัง้ หมดได้ แต่เราไมส่ ามารถบอกผลลพั ธท์ ีถ่ กู ตอ้ งแนน่ อนในแตล่ ะคร้ังท่ีทดลองได้
นา่ จะเป็นไปใช้
ปริภูมิตัวอย่าง คอื เซตของผลลัพธท์ อี่ าจเปน็ ไปไดท้ ั้งหมดของการทดลองสมุ่
แผนท่ี 2 (3 ช่ัวโมง) เรื่อง เหตกุ ารณ์
เหตุการณ์ คือ เซตของผลลัพธ์ท่ไี ดจ้ ากการทดลองส่มุ ทีเ่ ราสนใจพิจารณา ซ่ึงเหตุการณ์
เปน็ สบั เซตของปริภูมิตัวอยา่ ง มฐ./ตวั ช้ีวัด : ค 3.2 ม.4/2 หาความ
น่าจะเป็นและนำความรู้เก่ยี วกับความ
ความน่าจะเป็น คอื จำนวนทบ่ี อกใหร้ วู้ ่าเหตกุ ารณ์ท่เี ราสนใจมโี อกาสเกดิ ขนึ้ มากนอ้ ยเพียงใด
นา่ จะเปน็ ไปใช้
ความนา่ จะเปน็ ของเหตกุ ารณใ์ ด ๆ มคี ่าตงั้ แต่ 0 ถึง 1 เสมอ นน่ั คอื ≤ ( ) ≤ โดยท่ี
( ) = หมายถึง เหตุการณ์ E ไมม่ ีโอกาสเกดิ ขึน้ เลย และ ( ) = แผนที่ 3 (2 ช่วั โมง) เรอื่ ง ความหมาย
ของความนา่ จะเป็น
หมายถึง เหตุการณ์ E เกดิ ข้ึนอยา่ งแนน่ อน
มฐ./ตัวชว้ี ัด : ค 3.2 ม.4/2 หาความ
นา่ จะเปน็ และนำความรเู้ ก่ยี วกบั ความ
น่าจะเป็นไปใช้
แผนท่ี 4 (4 ชั่วโมง) เร่อื ง ความน่าจะ
เปน็ ของเหตุการณ์
มฐ./ตวั ชีว้ ัด : ค 3.2 ม.4/2 หาความ
น่าจะเปน็ และนำความรู้เก่ียวกบั ความ
น่าจะเป็นไปใช้
ความนา่ จะเปน็ ของคอมพลีเมนต์ของเหตกุ ารณ์ เมอ่ื กำหนดให้ P(E) แทนความนา่ จะเปน็ ทจี่ ะ แผนที่ 5 (4 ชวั่ โมง) เร่อื ง ความน่าจะ
เกดิ เหตกุ ารณ์ E และ P(E) แทนความน่าจะเป็นทจี่ ะไมเ่ กดิ เหตกุ ารณ์ E แลว้ P(E) = 1 – P(E) เปน็ ของคอมพลเี มนตข์ องเหตกุ ารณ์
มฐ./ตัวชว้ี ัด : ค 3.2 ม.4/2 หาความ
นา่ จะเป็นและนำความร้เู กี่ยวกับความ
นา่ จะเป็นไปใช้
ความน่าจะเป็นเป็นเรอ่ื งท่จี ะชว่ ยให้นักเรยี นรู้จกั การแกป้ ัญหาท่ีเก่ียวข้องกับการคาดการณบ์ างอยา่ ง แผนท่ี 6 (4 ชว่ั โมง) เร่ือง การนำความรู้
ดงั นัน้ การศกึ ษาเร่อื งความน่าจะเป็นจะชว่ ยให้นกั เรยี นสามารถนำความรู้ทไ่ี ด้ไปชว่ ยในการวางแผน เกย่ี วกับความน่าจะเปน็ ไปใช้
และการตัดสินใจได้อย่างมหี ลักเกณฑ์มากข้ึน
มฐ./ตัวชว้ี ัด : ค 3.2 ม.4/2 หาความ
น่าจะเป็นและนำความรู้เกี่ยวกบั ความ
นา่ จะเปน็ ไปใช้
สรรถนะ สำคญั ของผู้เรียน คุณลักษณะอนั พงึ ภาระ/ช้ินงาน
1. ความสามารถในการส่อื สาร ประสงค์
2. ความสามารถในการคดิ - ใบงานที่ 3.3 - แบบฝึกทักษะ 3.4 - Exercise 3.4A - แบบฝกึ ทกั ษะประจำ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 1. ซื่อสัตย์สจุ รติ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 ขอ้ 7 (ข้อ 1 ย่อย)
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 2. มวี ินัย - ใบงานที่ 3.4 - แบบฝกึ ทักษะ 3.4 ขอ้ 2 - Exercise 3.4B – แบบฝึกทกั ษะประจำ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 3. ใฝเ่ รยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 ข้อ 7 (ข้อ 1 ยอ่ ย) - แบบฝกึ ทกั ษะ 3.4 ข้อ 3, 13, 14- แบบฝกึ ทักษะ 3.4 ข้อ 6
4. มงุ่ มั่นในการทำงาน - ตรวจ Exercise 3.4C- แบบฝกึ ทักษะ 3.4 ข้อ4-5, 7-12- ตรวจ Exercise 3.4D - แบบฝกึ ทักษะประจำ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ข้อ 1-6, 8-19- แบบประเมินการนำเสนอผลงาน- แบบสงั เกตพฤตกิ รรม การทำงาน
รายบุคคล- แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุม่ - แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
แผน่ ท่ี 2 ผงั ภาพการออกแบบการเรียนรแู้ บบยอ้ นกลับ(Backward Design)
กลมุ่ สาระการเรียนคณติ ศาสตร์
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ความน่าจะเป็น ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 20 ช่วั โมง
1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ 2. หลกั ฐานการเรียนรู้
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ดั
ภาระงาน/ชนิ้ งาน : ใบงานที่ 3.3 เรือ่ ง การทดลองสมุ่ และ
ค 3.2 ม.4/2 หาความนา่ จะเปน็ และนำความรเู้ กย่ี วกบั ความ
น่าจะเปน็ ไปใช้ ปริภมู ติ วั อย่าง /ใบงานท่ี 3.4 เรอ่ื ง เหตกุ ารณ์
สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การวัดผลประเมินผล
ความน่าจะเป็นเป็นเรื่องที่จะช่วยให้นักเรียนรู้จักการ
ประเดน็ วิธกี าร เครอื่ งมอื เกณฑก์ าร
แกป้ ญั หาทเี่ กี่ยวข้องกบั การคาดการณ์บางอยา่ ง ดังนัน้ การศกึ ษาเรื่องความ
น่าจะเป็นจะช่วยให้นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปช่วยในการวางแผน ประเมิน
และการตดั สินใจไดอ้ ยา่ งมีหลักเกณฑ์มากขึ้น
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ด้าน K ตรวจใบงานที่ 3.3 ใบงานท่ี 3.3 ทำได้ถูกต้อง
ดา้ น P ตรวจใบงานที่ 3.4 ใบงานท่ี 3.4 ร้อยละ 60
1) อธบิ ายหรอื แปลความหมายของคำตอบท่ีได้จากการนำความรูเ้ ร่ือง ด้าน A ผา่ นเกณฑ์
ความน่าจะเป็นไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาใน ตรวจใบงานท่ี 3.3 ใบงานท่ี 3.3
สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ (K) ตรวจใบงานที่ 3.4 ใบงานที่ 3.4 ทำได้ถกู ต้อง
รอ้ ยละ 60
2) นำความรู้เก่ยี วกับความน่าจะเปน็ ไปใช้ในการแก้ปัญหาใน สังเกตความมีวนิ ัย แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์
สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ (P) ใฝ่เรยี นรู้และมุ่งม่นั คุณลักษณะอัน
ระดับคุณภาพ 2
3) รบั ผิดชอบต่อหนา้ ท่ีท่ีได้รับมอบหมาย (A) ในการทำงาน พึงประสงค์ ผ่านเกณฑ์
4) นักเรียนมคี วามซ่อื สตั ยส์ จุ รติ มคี วามรับผิดชอบต่อหน้าท่ีท่ไี ด้รับ
มอบหมาย ใฝ่เรยี นรู้ อยู่อยา่ งพอเพยี งดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มี ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้
เหตุผล รอบคอบ มีคณุ ธรรม มงุ่ มัน่ ในการทำงาน (A)
การนำความรเู้ ก่ยี วกบั ความน่าจะ
สาระการเรียนรู้ เป็นไปใช้
ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์
3. กิจกรรมการเรียนรู้
สมรรรถนะสำคัญ
1. ความสามารถในการสื่อสาร กิจกรรมการเรยี นรู้ : วธิ ีสอนแบบกระบวนการกลุ่มสัมพนั ธ์
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา เนน้ กระบวนการ และกระบวนการกลุ่ม สอนแทรกทักษะและ
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต กระบวนการทางคณติ ศาสตรเ์ ขา้ กบั การเรยี นการสอนด้าน
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เนอ้ื หาด้วยการให้นกั เรียนทื ำกจิ กรรม หรือตั้งคำถามทกี่ ระตุ้น
ใหน้ ักเรียนคดิ อธบิ าย และให้เหตผุ ล เชน่ ใหน้ ักเรียนแกป้ ญั หา
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยใชค้ วามรทู้ เี่ รยี นมาแลว้ หรอื ใหน้ กั เรยี นเรียนรผู้ า่ นการ
1. ซอ่ื สตั ย์สุจริต แกป้ ญั หาและกระต้นุ ใหน้ ักเรยี นใชค้ วามรางคณติ ศาสตรใ์ นการ
2. มวี ินยั สรา้ งสรรผลงานที่หลากหลาย
3. ใฝ่เรยี นรู้
4. มุง่ มั่นในการทำงาน สื่อการเรยี นรู้
5. อยู่อยา่ งพอเพียง
1) หนงั สอื เรียนรายวิชาพน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์ ม.4 หนว่ ยการ
เรยี นรู้ท่ี 4 ความน่าจะเปน็
2) แบบฝึกหัดรายวชิ าพื้นฐาน ม.4 หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4
ความนา่ จะเป็น
3) ใบงานท่ี 3.3 เรื่อง การทดลองสมุ่ และปรภิ ูมติ ัวอยา่ ง
4) ใบงานท่ี 3.4 เรือ่ ง เหตุการณ์
5) กล่องใส่ลูกบอล
6) ลกู บอล 5 ลกู ที่มสี ตี า่ งกนั ดงั น้ี สแี ดง สเี ขยี ว สฟี า้ สมี ว่ ง
และสเี หลือง
แหล่งเรยี นรู้
1) ห้องสมดุ 2) หอ้ งเรียน 3) อนิ เตอร์เนต็
เวลา 4 ชว่ั โมง
แผน่ ท่ี 3 กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พือ่ เสรมิ สรา้ งคุณลักษณะอยอู่ ย่างพอเพียง
กลุ่มสาระการเรียนคณิตศาสตร์
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ความน่าจะเป็น ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 เวลา 20 ช่วั โมง
1.มาตรฐานการเรียนรู้
หาความนา่ จะเป็นและนำความร้เู ก่ียวกบั ความนา่ จะเป็นไปใช้
2. ตวั ชว้ี ัด
ค 3.2 ม.4/2
3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
ความน่าจะเป็นเป็นเรื่องที่จะช่วยให้นักเรียนรู้จักการแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการคาดการณ์บางอย่าง ดังนั้น การศึกษาเรื่อง
ความน่าจะเปน็ จะช่วยใหน้ กั เรียนสามารถนำความรูท้ ่ีไดไ้ ปช่วยในการวางแผนและการตัดสนิ ใจได้อย่างมีหลักเกณฑม์ ากขนึ้
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1) บอกจำนวนสมาชกิ ของเหตุการณ์จากการทดลองสุ่มได้ (K)
2) เขยี นเหตุการณ์จากการทดลองสุม่ ทก่ี ำหนดให้ได้ (P)
3) รับผิดชอบตอ่ หน้าท่ีที่ได้รบั มอบหมาย (A)
4) นกั เรยี นมีความซื่อสตั ย์สจุ รติ มีความรับผิดชอบต่อหนา้ ที่ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่อย่างพอเพยี งดำเนนิ ชีวิตอย่าง
พอประมาณ มเี หตผุ ล รอบคอบ มคี ุณธรรม มงุ่ มั่นในการทำงาน (A)
5. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน
นักเรียนมีความรู้เบื้องต้นและสัญลักษณ์พื้นฐานเกี่ยวกับการ นักเรียนมีความร้เู บอ้ื งตน้ และสญั ลักษณ์พื้นฐานเกีย่ วกับ
ทดลองสุ่ม สามารถใช้ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ใน ความนา่ จะเปน็ สามารถบรู ณาการและประยุกต์ใชใ้ น
ชวี ติ ประจำวันได้ สามารถใชท้ กั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์
การแก้ปัญหาและประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม โดยมีความ ในการแกป้ ญั หาและประยุกต์ใชไ้ ดอ้ ย่างเหมาะสม โดยมีความ
ซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ อยู่อย่างพอเพียง ซื่อสัตยส์ จุ ริต มีความรับผิดชอบใฝ่เรียนรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียงดำเนนิ
ดำเนินชีวิตอย่างพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม ชวี ิตอยา่ ง พอประมาณมีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม มงุ่ มั่นใน
มุ่งมน่ั ในการทำงาน การทำงาน
6. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ซอื่ สตั ยส์ ุจรติ
2. มีวินยั
1. ความสามารถในการสื่อสาร 3. ใฝ่เรียนรู้
2. ความสามารถในการคดิ 4. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
แผน่ ที่ 3 กิจกรรมการเรยี นรู้เพื่อเสรมิ สร้างคุณลกั ษณะอยอู่ ย่างพอเพียง (ต่อ)
กลมุ่ สาระการเรียนคณิตศาสตร์
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ ความน่าจะเป็น ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 20 ช่ัวโมง
กิจกรรมการเรียนรู้
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ กี ารสอน/เทคนิค : Concept Based Teaching
ช่วั โมงท่ี 1
ขนั้ นำ
ขน้ั การใชค้ วามรเู้ ดิมเช่ือมโยงความรู้ใหม่ (Prior Knowledge)
ครูทบทวนความรูเ้ ดิมของนักเรียนโดยให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน ชว่ ยกันทำแบบฝึกทักษะประจำ
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ขอ้ 1-6 และ 8-12 ในหนังสือเรยี นหน้า 142-143 จากนนั้ ครสู ุ่มตัวแทนนกั เรียน
ออกมานำเสนอคำตอบหน้าชั้นเรยี น โดยครตู รวจสอบความถกู ต้อง
ข้ันสอน
ขน้ั รู้ (Knowing)
ครใู หน้ ักเรยี นแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 4-5 คน รว่ มกนั ตอบคำถามของคณิตศาสตรใ์ นชีวิตจริง เร่ือง สลากเพื่อการ
กศุ ล จากหนังสือเรียนหน้า 147 เมอ่ื ทำเสร็จใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ส่งตัวแทนกล่มุ ละ 1 คน ออกมานำเสนอหน้าชน้ั
เรียน โดยมคี รคู อยตรวจสอบความถูกต้อง
ขั้นเขา้ ใจ (Understanding)
1. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ ทักษะประจำหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ขอ้ 13-15 ในหนงั สือเรียนหน้า 144
จากน้นั ให้นักเรยี นทง้ั ห้องเฉลยคำตอบร่วมกนั โดยมคี รคู อยตรวจสอบความถูกต้อง
2. ครใู ห้นักเรยี นแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 4-5 คน ช่วยกันศกึ ษาข้อมูลเก่ียวกบั ความน่าจะเป็นในกรอบ
Performance Task จากหนังสอื เรียนหน้า 125 จากน้นั ให้นักเรียนสืบคน้ ข้อมลู เรื่องการประยุกตใ์ ช้
ทฤษฎคี วามนา่ จะเป็นในชีวติ ประจำวันจากอินเทอร์เนต็ แล้วมานำเสนอหน้าช้นั เรยี นในชัว่ โมงถดั ไป
ชั่วโมงท่ี 2
ข้ันเข้าใจ (Understanding)
3. ครูให้ตัวแทนแต่ละกล่มุ ออกมานำเสนอเรอ่ื งการประยกุ ต์ใชท้ ฤษฎคี วามนา่ จะเปน็ ในชีวิตประจำวัน
4. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 4 - 5 คน จากน้นั ครูใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ส่งตัวแทนกลมุ่ ละ 1 คน ออกมาจบั
สลาก (หลอดกาแฟ, ไมจ้ ้มิ ฟัน, ลกู อม, ลูกโป่ง, กาละมงั , เหรียญ) เพ่ือเลือกวัสดุในการทำเกม
5. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มคดิ และประดิษฐเ์ กมจากวสั ดุทีจ่ ับได้ โดยกำหนดกติกาวธิ กี ารเล่น ค่าใช้จ่ายใน
การ
เขา้ ร่วม (ไมเ่ กิน 100 บาท) รางวลั ท่ีจะไดร้ บั พรอ้ มท้งั คำนวณค่าความน่าจะเปน็ ในการชนะเกมทีก่ ลมุ่
ของตนเองสร้างข้นึ แล้วมานำเสนอในชัว่ โมงถัดไป
ชั่วโมงท่ี 3
ขั้นเขา้ ใจ (Understanding)
6. ครใู หน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ นำเสนอเกมท่ีสรา้ งขึ้น จากน้ันครูแจกธนบตั รปลอมให้กบั นกั เรียนคนละ 100
บาท เพื่อเลอื กเล่นเกมทีต่ นเองสนใจ เม่ือนักเรยี นเล่นเกมเสร็จเรยี บรอ้ ยแล้วใหท้ กุ คนชว่ ยกนั คิดหาค่า
ความน่าจะเปน็ ในการชนะเกมต่าง ๆ โดยมีครคู อยตรวจสอบความถูกต้อง
ขั้นลงมือทำ (Doing)
1. ครใู หน้ ักเรียนแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 2 - 3 คน จากน้ันให้นักเรยี นรว่ มกนั ทำแบบฝึกทกั ษะประจำหนว่ ยการ
เรียนรทู้ ่ี 3 ข้อ 19 ในหนงั สอื เรยี นหน้า 145 แลว้ ส่งตัวแทนกลมุ่ ละ 1 คน ออกมานำเสนอหน้าชน้ั เรียน
โดยมคี รคู อยตรวจสอบความถูกต้อง
2. ครใู หน้ ักเรียนทำแบบฝึกทักษะประจำหนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3 ขอ้ 16-18 ในหนังสอื เรยี นหน้า 145 เป็น
การบา้ น ชว่ั โมงท่ี 4
ข้นั ลงมือทำ (Doing)
3. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยแบบฝึกทักษะประจำหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 ข้อ 16-18 ในหนังสอื เรียนหนา้
145
ข้นั สรปุ
1. ครูให้นักเรยี นเขียนผงั มโนทัศน์ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่อื ง หลกั การนับเบื้องต้นและความนา่ จะเปน็ ลง
ในกระดาษ A4
2. ครูสรุปโดยใชก้ ารถาม-ตอบ ดังนี้
• นกั เรยี นคิดว่าการเรียนเรื่องความนา่ จะเปน็ มีความสำคญั อยา่ งไร
(แนวตอบ ความน่าจะเปน็ เป็นเรือ่ งที่จะช่วยใหน้ กั เรียนรู้จักการแก้ปญั หาท่เี กี่ยวข้องกับการ
คาดการณบ์ างอยา่ ง ดงั นั้น การศึกษาเรอ่ื งความน่าจะเปน็ จะช่วยให้นักเรยี นสามารถนำความรูท้ ีไ่ ด้
ไปช่วยในการวางแผนและการตดั สนิ ใจไดอ้ ย่างมหี ลกั เกณฑม์ ากขนึ้ )
3. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 เร่ือง หลกั การนบั เบอ้ื งต้นและความน่าจะ
เป็น
แผ่นที่ 3 กจิ กรรมการเรยี นรู้เพอื่ เสรมิ สร้างคณุ ลกั ษณะอยู่อย่างพอเพียง (ต่อ)
กลุม่ สาระการเรยี นคณิตศาสตร์
ช่อื หน่วยการเรียนรู้ ความน่าจะเป็น ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 เวลา 20 ชัว่ โมง
การวดั และประเมนิ ผล
ประเด็น วิธกี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์การประเมนิ
ดา้ น K - ตรวจผังมโนทัศน์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 - แบบประเมินชิน้ งาน/ ภาระงาน (รวบ ทำได้ถูกตอ้ ง ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เรือ่ ง หลกั การนบั เบ้อื งต้นและความนา่ จะ ยอด) ทำได้ถกู ตอ้ ง ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
เป็น - แบบฝึกทักษะประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
- ตรวจแบบฝึกทักษะประจำหน่วยการ ขอ้ 1-6, 8-19
เรียนรทู้ ่ี 3 ขอ้ 1-6, 8-19
ด้าน P - ตรวจผังมโนทัศน์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 - แบบประเมนิ ชิ้นงาน/ ภาระงาน (รวบ
เรื่อง หลกั การนับเบ้อื งต้นและความน่าจะ ยอด)
เป็น - แบบฝึกทักษะประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 3
- ตรวจแบบฝึกทักษะประจำหน่วยการ ข้อ 1-6, 8-19
เรยี นรูท้ ี่ 3 ข้อ 1-6, 8-19
ดา้ น A สงั เกตความมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้และมงุ่ ม่ันใน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
การทำงาน
ส่อื การเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนรายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ ม.4 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 หลกั การนบั เบอ้ื งต้นและ
ความน่าจะเปน็
2) แบบฝึกหัดรายวิชาพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ ม.4 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 หลกั การนับเบ้อื งต้นและ
ความน่าจะเป็น
แหลง่ เรยี นรู้
1) ห้องสมดุ
2) หอ้ งเรยี น
3) อินเตอรเ์ น็ต
แผน่ ที่ 4 ชดุ คำถามกระตุ้นเพอ่ื ปลกู ฝักหลักคิดพอเพียง
กลมุ่ สาระการเรียนคณติ ศาสตร์
ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ ความน่าจะเป็น ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 เวลา 20 ชั่วโมง
คำถามกระตนุ้ เพ่ือปลกู ฝังหลักคดิ พอเพยี งก่อนเรยี น
ครกู ระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี นโดยใหน้ ักเรียนส่งตัวแทนออกมา 2 คน เพอื่ เลน่ เกมทายถกู หรือไม่ โดยกติกาการเล่นเกมมีดังน้ี
Q1 ครูให้นักเรียนทำแบบฝกึ ทกั ษะประจำหนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 ขอ้ 13-15 ในหนงั สอื เรียนหนา้ 144 จากนนั้ ใหน้ กั เรียนทงั้
ห้องเฉลยคำตอบร่วมกัน โดยมคี รคู อยตรวจสอบความถูกต้อง
2. ครใู หน้ กั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4-5 คน ช่วยกนั ศกึ ษาข้อมลู เกี่ยวกับความน่าจะเปน็ ในกรอบ Performance Task
จากหนังสอื เรียนหน้า 125 จากน้นั ใหน้ กั เรียนสบื ค้นขอ้ มูลเร่อื งการประยุกตใ์ ช้ทฤษฎคี วามน่าจะเป็นในชวี ิตประจำวันจาก
อนิ เทอร์เนต็ แลว้ มานำเสนอหน้าชั้นเรยี นในช่ัวโมงถัดไป
Q2 ครูให้ตวั แทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอเรอื่ งการประยุกตใ์ ช้ทฤษฎคี วามนา่ จะเป็นในชวี ิตประจำวัน
4. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4 - 5 คน จากนัน้ ครใู หแ้ ต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนกลุ่มละ 1 คน ออกมาจับสลาก (หลอด
กาแฟ, ไม้จิ้มฟนั , ลกู อม, ลกู โป่ง, กาละมัง, เหรยี ญ) เพื่อเลือกวัสดุในการทำเกม
5. ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ คดิ และประดิษฐ์เกมจากวสั ดุที่จับได้ โดยกำหนดกติกาวธิ กี ารเล่น คา่ ใช้จา่ ยในการ
เข้ารว่ ม (ไม่เกิน 100 บาท) รางวลั ทจี่ ะไดร้ ับ พร้อมท้ังคำนวณคา่ ความน่าจะเปน็ ในการชนะเกมทก่ี ลุ่มของตนเองสร้างขึน้
แล้วมานำเสนอในชวั่ โมงถดั ไป
ครนู ำเขา้ ส่บู ทเรียนเรอื่ งเหตกุ ารณ์ โดยการตั้งคำถามให้นกั เรยี นได้รว่ มกนั คดิ ดงั นี้
Q3 ครใู ห้นักเรยี นเขียนผังมโนทัศน์ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เร่ือง หลกั การนับเบอ้ื งตน้ และความน่าจะเปน็ ลงในกระดาษ A4
เหตุการณ์ได้ พร้อมท้ังยกตัวอย่างท่ี 26-27 จากหนงั สือเรียนหนา้ 133-134
Q4 • นักเรยี นคดิ วา่ การเรียนเร่ืองความน่าจะเปน็ มคี วามสำคญั อย่างไร
Q5 ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เร่ือง หลกั การนบั เบอ้ื งต้นและความน่าจะเป็น
แผน่ ที่ 5 แนวทางที่ครนู ำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้จัดการเรียนรู้
กลมุ่ สาระการเรยี นคณติ ศาสตร์
ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ ความน่าจะเปน็ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 เวลา 20 ชัว่ โมง
ครผู ้สู อนนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาจัดกจิ กรรมการเรยี นรูด้ ังนี้
ความร้ทู ่คี รตู ้องมีก่อนสอน คณุ ธรรมของครใู นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. รอบรู้เนื้อหาในสาระคณิตศาสตร์เรื่องหลักการนับและ 1. เมตากรณุ า
แผนภาพตน้ ไม้ 2. ยตุ ธิ รรม
2. รอบรเู้ ทคนคิ การสอนท่ีหลากหลาย 3. รบั ผิดชอบ
3. มคี วามสามารถในการถ่ายทอดความร้ใู ห้กับผเู้ รยี น 4. ตรงต่อเวลา
ประเดน็ พอประมาณ มเี หตุผล มภี มู ิคุม้ กนั
เนอื้ หา สอนตรงตามเนื้อหา ยกตัวอย่างโจทยท์ ี่ มเี นอ้ื หาการเรียนรสู้ อดคลอ้ ง วางแปนการจดั การเรยี นรตู้ าม
ตรงตามหลักสูตร เนอื้ หาได้อย่างเป็นข้ันตอน
เกีย่ วข้องและเหมาะสม
ทำงานตรงตามเวลาท่ีกำหนด แบ่งเวลาในการทำงาน
เวลา ใช้เวลาท่มี อี ยา่ งจำกัดให้เกดิ ความคุ้มค่าที่สุด
กจิ กรรมทส่ี อดคล้องกับ วางแผนการทำกจิ กรรมอยา่ ง
การจดั กจิ กรรม ออกแบบและจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เหมาะสม บทเรียน เป็นระบบ
กบั วยั เลือกใชส้ ่ือได้เหมาะสมกับ เตรียมการป้องกนั และ
เนอื้ หาการจัดการเรยี นรู้ แกป้ ญั หาท่ีอาจเกดิ ข้นึ
ส่อื /อุปกรณ์ ใชส้ อื่ ทส่ี ามารถหาได้ง่ายรวดเรว็ และสะดวกต่อ ระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการ
การเรยี นรู้ เรยี นรู้
แหล่งเรยี นรู้ ใช้แหลง่ เรียนรทู้ ี่อยภู่ ายในโรงเรียนเพ่ือความ เลอื กใชแ้ หล่งเรียนรู้ได้ เตรยี มการป้องกนั และ
สะดวกรวดเร็วต่อการเรียนรู้ เหมาะสมกบั เนอ้ื หาการ แกป้ ัญหาที่อาจเกดิ ขนึ้
ระหว่างการใชแ้ หล่งเรียนรู้
ประเมินผล วดั และประเมนิ ผลตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้
มีรูปแบบการประเมนิ ที่
ประเมินตามสภาพจรงิ สามารถตรวจสอบได้
แผ่นที่ 6 ผลที่จะเกดิ ขึน้ กับผู้เรียนจากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูต้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
กลมุ่ สาระการเรยี นคณติ ศาสตร์
ชื่อหน่วยการเรียนรู้ ความน่าจะเป็น ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 เวลา 20 ช่วั โมง
6.1 ผ้เู รยี นจะได้ฝกึ คิดและฝึกปฏบิ ัติตามหลัก ปศพพ. ดังนี้
ความรทู้ นี่ ักเรยี นต้องมกี ่อน คุณธรรมของนักเรยี นท่ีจะทำการเรยี นร้สู ำเรจ็
1. มคี วามรูพ้ น้ื ฐานของจำนวนจรงิ 1. ซอ่ื สตั ย์
2. มีความรูพ้ ื้นฐานของจำนวนเตม็ 2. รอบคอบ
3. มีความรู้พืน้ ฐานของเลขยกกำลงั 3. ตรงต่อเวลา
4. มีความรู้พืน้ ฐานของเศษส่วน 4. เคารพกฎกตกิ า
5. มคี วามรู้พืน้ ฐานการดำเนนิ การบวกลบ คูณ หาร 5. ความสามัคคี
6. มคี วามรู้ในการวางแผนและทกั ษะในการทำงานร่วมกับผู้อ่นื 6. ความเอ้ืออาทร
7. มีความสามารถในการสื่อสาร เชื่อมโยงที่จะนำความรู้เรื่อง
หลักการนบั เบ้ืองต้น
พอประมาณ มเี หตุผล มีภูมคิ มุ้ กัน
1. นักเรยี นรูเที่จะจดั สรรเวลาในการทำ 1. สามารถใชค้ วามรเู้ รือ่ งความนา่ จะเป็น 1. มีการวางแผนในการปฏบิ ัติกิจกรรม
กจิ กรรม ในการทำกิจกรรมและแบบฝึกหัดได้ 2. ดำเนนิ กิจกรรมตามลำดับข้นั ตอน
3. มีทกั ษะในการคดิ
2. เรยี นรูเท่จี ะใชค้ วามรู้ทีเ่ รียนมาและ 2. นำความรเู้ รอื่ งความน่าจะเป็นไป 4. มีความเขา้ ใจในเร่ืองความน่าจะเป็น
สบื คน้ ความร้เู ก่ียวกับความน่าจะเป็น ประยุกตใ์ ช้ในการดำเนินชวี ติ ประจำวนั 5. มคี วามเขา้ ใจในการนำความรูท้ ไ่ี ด้ไปใช้
3. รูจ้ กั ประเมนิ ความรู้ความสามารถของ ในชีวิตประจำวนั
ตนเองและเพ่ือนในชัน้ เรียน
6.2 ผเู้ รียนจะไดเ้ รียนรูก้ ารใชช้ วี ติ ท่ีสมดุลและพร้อมรับการเปลย่ี นแปลง 4 มติ ิตามหลัก ปศพพ. ดังน้ี
ดา้ น สมดุลและพร้อมรบั การเปลีย่ นแปลงในดา้ นต่างๆ
องคป์ ระกอบ วตั ถุ สังคม สิง่ แวดล้อม วัฒนธรรม
ความรู้ 1. ไดร้ ับความร้เู กยี่ วกบั 1. การแลกเปลี่ยนความรู้ รู้จกั การใชส้ ือ่ และแหล่ง เหน็ คณุ ค่าของการนำ
เรือ่ งความน่าจะเป็น 2. นักเรียนไดช้ ว่ ยเหลอื เรียนรู้อย่างคุ้มคา่ และ ความรู้ไปใชใ้ น
ซึ่งกนั และกัน คมุ้ เวลา ชวี ิตประจำวัน
ทกั ษะ 1. ทกั ษะการสือ่ สาร 1. ทกั ษะการรว่ มกันตอบ รู้จกั การใช้ส่อื และแหล่ง 1. ดำรงตนอยูใ่ นสงั คม
2. ทักษะการคดิ คำถามและแสดงความ เรียนร้อู ยา่ งคุ้มค่าและ อยา่ งมีความสุข
3. ทักษะการแก้ปัญหา คิดเห็น คุม้ เวลา 2. มที กั ษะในการคำนวณ
4. ทักษะการใชช้ ีวิต และการนำไปใชไ้ ด้
5. ทกั ษะการใช้เทคโนโลยี อยา่ งเหมาะสม
ค่านิยม 1. มวี ิจารณญาณรอบคอบ 1. ความรับผดิ ชอบ 1. รอบคอบ 1. เขียนใบงานเปน็
ในการทำใบงาน 2. รับผิดชอบ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย
2. ทำใบงานดว้ ยความ
ม่งุ ม่นั ตงั้ ใจ
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4
คำชี้แจง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ถ้ามเี ส้ือท่แี ตกต่างกัน 3 ตัว และกางเกงท่ีแตกต่างกัน 2 ตัว จะ 6. รุจมีกางเกงตา่ งกนั อยู่ 2 ตวั เสือ้ ตา่ งกนั 3 ตัว เนคไทตา่ งกนั
มวี ธิ กี ารแตง่ ตวั ได้กว่ี ิธี 2 เส้น อยากทราบวา่ รจุ แตง่ ตัวไดท้ ้งั หมดกว่ี ธิ ี
ก. 5 วธิ ี ก. 7 วิธี
ข. 6 วิธี ข. 12 วิธี
ค. 7 วิธี ค. 20 วิธี
ง. 8 วิธี ง. 24 วธิ ี
2. มีถนนจากบ้านไปโรงเรียน 3 สาย และมีถนนจากโรงเรยี นไปวดั 7. ถ้าต้องการแจกขนม 4 ชิ้นท่แี ตกต่างกนั ให้กบั เด็ก 5 คน จะ
4 สาย ถา้ สชุ าตขิ ่จี กั รยานจากบ้านไปวัดโดยตอ้ งผา่ นโรงเรียน มวี ิธแี จกขนมให้เดก็ กวี่ ิธี โดยแจกไม่ซ้ำคนเดมิ
สุชาติมีวิธเี ลือกเส้นทางไดก้ ว่ี ิธี ก. 9 วิธี
ก. 7 วิธี ข. 20 วธิ ี
ข. 8 วิธี ค. 120 วิธี
ค. 10 วธิ ี ง. 256 วิธี
ง. 12 วธิ ี
8. จำนวนเตม็ ตงั้ แต่ 1-500 ท่ีหารดว้ ย 2 ลงตวั แต่หารด้วย 3
3. มอี าหารคาว 6 อยา่ ง และขนมหวาน 4 อย่าง ถา้ ต้องการเลอื ก หรือ 5 ไม่ลงตวั มกี ่จี ำนวน
อาหารคาวและขนมหวานอยา่ งละ 1 อยา่ ง จะมวี ิธกี ารเลือกได้ ก. 117
กีว่ ธิ ี ข. 123
ก. 6 วธิ ี ค. 127
ข. 10 วธิ ี ง. 133
ค. 24 วิธี
ง. 25 วิธี 9. ในหน่ึงสัปดาหเ์ ริม่ ต้งั แตว่ ันจันทร์ จะมวี ธิ ีเลอื กวนั ไม่นอ้ ยกวา่
2 วนั ทไี่ ม่ตดิ กนั ได้กว่ี ธิ ี
4. เมอื่ โยนเหรียญหน่งึ เหรยี ญ จำนวน 3 ครงั้ จะได้ผลลัพธ์ต่าง ๆ ก. 20 วิธี
กนั ทง้ั หมดกี่วธิ ี ข. 23 วิธี
ก. 3 วิธี ค. 26 วิธี
ข. 8 วิธี ง. 30 วิธี
ค. 9 วิธี
ง. 27 วธิ ี 10. จงหาค่า n เมอ่ื n (n - 1)(n - 2) = 336
ก. 6
5. มโี รงแรมอยู่ 5 แห่ง อยากทราบว่านกั ทอ่ งเที่ยว 4 คน จะเลือก ข. 7
พักโรงแรมดงั กล่าวโดยไม่ซำ้ กนั ไดก้ ว่ี ิธี ค. 8
ก. 9 วิธี ง. 9
ข. 20 วธิ ี
ค. 120 วธิ ี
ง. 256 วธิ ี
11.ข้อสอบฉบับหนึ่งเป็นแบบกาถูกผิดมีจำนวน 10 ข้อ จงหา 16. ถา้ มหี นงั สืออยู่ 5 วชิ า และต้องการนำหนังสอื มาจดั เรยี งเป็น
จำนวนวิธีที่จะทำข้อสอบทั้งหมด แถวบนโตะ๊ 3 เลม่ จะจดั หนังสือไดก้ ่วี ิธี
ก. 2 × 10 ก. 10 วธิ ี
ข. 4 × 10 ข. 20 วธิ ี
ค. 410 ค. 30 วิธี
ง. 210 ง. 60 วธิ ี
12. จากขอ้ 11. ถา้ ขอ้ 1-5 กาถกู หมดทกุ ข้อแลว้ วธิ ีในการทำ 17. ถ้ามีหนังสืออยู่ 5 เล่ม และต้องการนำหนงั สือมาจดั เรยี งเป็น
ขอ้ สอบทีเ่ หลืออยมู่ ีก่วี ิธี แถวบนโตะ๊ ทงั้ 5 เลม่ จะจดั หนังสอื ไดก้ ีว่ ธิ ี
ก. 2 × 5 ก. 10 วิธี
ข. 4 × 5 ข. 100 วธิ ี
ค. 45 ค. 120 วธิ ี
ง. 25 ง. 150 วธิ ี
13. ถา้ ห้องประชุมแห่งหนึ่งมีทางเข้าออก 5 ประตู ชายคนหน่งึ เข้า 18. โยนเหรียญ 3 เหรยี ญ จำนวน 1 ครั้ง ความนา่ จะเป็นที่
ออกประตวู ันละครัง้ โดยมเี งอื่ นไขวา่ การเขา้ ออกประตหู ้ามซ้ำ เหรียญทั้ง 3 เหรยี ญ ขน้ึ หน้าเหมอื นกนั เพียง 2 เหรียญ
กนั จะเข้าออกไดก้ ี่วิธี เท่ากบั เท่าใด
ก. 15 วธิ ี ก. 1 ข. 1
ข. 20 วิธี
ค. 25 วิธี 84
ง. 30 วิธี
ค. 1 ง. 3
14. จงหา xy เมื่อ x! = 24 และ y! =120
ก. 20 24
ข. 25
ค. 30 19. โยนเหรียญ 4 เหรียญ จำนวน 1 ครัง้ ความน่าจะเปน็ ของ
ง. 35 เหตุการณท์ ่ีเหรียญขึน้ หนา้ หวั และกอ้ ยจำนวนเทา่ กัน
เทา่ กับเท่าใด
15. จงหาค่า n เม่อื 6Cn,3 = 2,730 ก. 1 ข. 1
ก. 11
ข. 13 84
ค. 15
ง. 17 ค. 3 ง. 5
88
20.ทอดลูกเตา๋ 1 ลูก จำนวน 3 ครั้ง ความน่าจะเป็นทล่ี ูกเตา๋
หงายแตม้ คที่ งั้ 3 ครั้ง เท่ากบั เทา่ ใด
ก. 1 ข. 1
84
ค. 1 ง. 3
24
เฉลย
1. ข 2. ง 3. ค 4. ข 5. ค 6. ข 7. ค 8. ง 9. ค 10. ค
11. ง 12. ง 13. ข 14. ก 15. ค 16. ง 17. ค 18. ง 19. ค 20. ก
แบบทดสอบหลงั เรียน
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4
คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. ถา้ มีหมวกที่แตกต่างกัน 3 ใบ และแวน่ กันแดดที่แตกต่างกัน 6. สรา้ งเลขจำนวนท่มี ี 3 หลกั โดยใช้ตวั เลข 1, 2, 3, 4, 5 และ 6
2 อัน จะมีวธิ ีการแตง่ ตัวไดก้ ี่วธิ ี (ไม่ใชต้ ัวเลขซำ้ กัน) ให้มคี า่ มากกวา่ 300 จะสรา้ งไดท้ ั้งหมดกี่
ก. 5 วิธี จำนวน
ข. 6 วธิ ี ก. 70 จำนวน
ค. 7 วธิ ี ข. 80 จำนวน
ง. 8 วธิ ี ค. 90 จำนวน
2. กำหนดจุด 6 จดุ บนแผ่นกระดาษ มี 4 จดุ อยู่บนเส้นตรง ง. 100 จำนวน
เดียวกัน นอกนนั้ ไมม่ ี 3 จดุ ใดอยบู่ นเสน้ ตรงเดยี วกัน จำนวนรปู 7. บรษิ ัทแหง่ หนึ่งเปดิ รบั พนกั งานใหม่เขา้ ทำงานใน 4 แผนก
สามเหลี่ยมที่เกดิ จากการลากเส้นตรงเชอ่ื มจดุ ท่กี ำหนดให้เทา่ กับ แผนกละ 4 คน โดยใหแ้ ตล่ ะแผนกมพี นกั งานใหมเ่ ปน็ ชาย
ข้อใดตอ่ ไปน้ี 2 คน หญิง 2 คน มผี ู้สมคั รเป็นชาย 10 คน หญิง 9 คน จะมี
ก. 10 จำนวนวธิ คี ดั เลือกพนกั งานเข้าทำงานในแผนกต่าง ๆ ทัง้ หมด
ข. 12 เทา่ กบั ขอ้ ใดตอ่ ไปนี้
ค. 14 ก. 10!9! ข. 10!9!
ง. 16 (8!)2 24
3. นักเรียนห้องหนงึ่ มี 30 คน ตอ้ งการเลือกหวั หนา้ หอ้ ง 1 คน และ
รองหัวหนา้ ห้อง 1 คน โดยทง้ั สองตำแหน่งจะเป็นคนเดยี วกนั ค. 10!9! ง. 10!9!
29 (4!)2
8. ในการจัดคน 6 คน ซึง่ มีปรชี าและนารรี วมอยดู่ ว้ ย เพื่อน่งั โต๊ะ
ไมไ่ ด้ จะมีวิธกี ารเลือกได้กี่วธิ ี กลมสองตัว ตวั แรกมี 3 ทนี่ ัง่ และตวั ทส่ี องมี 3 ท่ีนง่ั ความ
ก. 87 วิธี น่าจะเปน็ ท่ปี รีชานง่ั โตะ๊ ตัวแรกและนารีนง่ั โตะ๊ ตวั ที่สอง
ข. 325 วธิ ี เทา่ กับข้อใดต่อไปนี้
ค. 435 วิธี ก. 0.25
ง. 870 วิธี ข. 0.30
4. จงหาค่า n เมอ่ื Pn, 3 = 3Pn, 2 ค. 0.35
ก. 4 ง. 0.40
ข. 5 9. กำหนดให้ Cn,4=126 และ Pn,r=3,024 จงหาคา่ r
ค. 6 ก. 4 ข. 12
ง. 7 ค. 14 ง. 24
5. เสน้ ขนานชดุ หนงึ่ มี 5 เสน้ ตดั กับเสน้ ขนานอีกชุดหน่งึ มี 4 เส้น 10. จงหาคา่ n เมอื่ n (n - 1)(n - 2) = 504
ทำใหเ้ กิดส่เี หลี่ยมดา้ นขนานกรี่ ูป ก. 6 ข. 7
ก. 36 รปู ค. 8 ง. 9
ข. 60 รปู
ค. 120 รปู
ง. 240 รูป
11. ข้อสอบฉบับหนึ่งเป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือกมีจำนวน 10 ข้อ 16. ถา้ มีหนงั สอื อยู่ 5 วชิ า และตอ้ งการนำหนงั สอื มาจดั เรียงเป็น
จงหาจำนวนวิธีที่จะทำข้อสอบท้ังหมด แถวบนโตะ๊ 4 เลม่ จะจัดหนังสอื ได้ก่ีวิธี
ก. 2 × 10 ก. 20 วิธี
ข. 4 × 10 ข. 30 วิธี
ค. 410 ค. 60 วิธี
ง. 210 ง. 120 วิธี
12. จากขอ้ 11 ถ้าข้อ 1-5 เลอื กตอบ ก. หมดทกุ ขอ้ แลว้ วธิ ีในการ 17. ในการเรยี งลำดับตวั อักษร A, B, C, a, b โดยทเ่ี ร่ิมตน้ และ
ทำข้อสอบท่ีเหลอื อยมู่ กี ่ีวิธี ลงทา้ ยดว้ ยตัวอักษรใหญ่ โดยไมใ่ ชต้ วั อักษรซ้ำกนั เลยจะทำได้
ก. 2 × 5 กี่วธิ ี (คำเหล่านี้ไม่จำเปน็ ต้องมคี วามหมาย)
ข. 4 × 5 ก. 12
ค. 45 ข. 36
ง. 25 ค. 72
13. ในการทำกจิ กรรมอยา่ งหนงึ่ ของโรงเรียนแหง่ หน่ึง ห้อง ก. ง. 120
ห้อง ข. และ ห้อง ค. ส่งนักเรียนใหเ้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมจำนวน 18. หมายเลขโทรศพั ท์ 7 ตวั ทีข่ ึน้ ตน้ ดว้ ยหมายเลข 377 จะมไี ด้
2 คน 3 คน และ 4 คนตามลำดบั โดยท่นี กั เรยี นแตล่ ะคนมี ทั้งหมดก่ีหมายเลข
ความสามารถตา่ งกนั ถ้าต้องการจดั นกั เรียน 3 คน จากจำนวน ก. (3777) ข. (170)
ดังกล่าว เพื่อให้คนหนึ่งเป็นหวั หนา้ คนหนึ่งเปน็ ผชู้ ่วย และอกี ค. 410 ง. 104
คนหนง่ึ เปน็ เลขานุการจะสามารถจดั ไดก้ ี่วิธี 19. โยนเหรียญ 1 เหรยี ญ จำนวน 4 ครงั้ ความนา่ จะเปน็ ของ
ก. 84 วิธี ข. 504 วธิ ี เหตุการณท์ เ่ี หรยี ญข้นึ หนา้ หวั และกอ้ ยจำนวนเทา่ กนั เท่ากบั
ค. 9! วิธี ง. 9! วธิ ี เท่าใด
2!3!4! 1!1!1! ก. 1 ข. 1
14. จงหา x + y เมื่อ x! = 24 และ y! =120
84
ก. 9 ข. 15
ค. 3 ง. 5
ค. 20 ง. 25
88
15. กำหนดให้ A เปน็ เหตุการณใ์ นปรภิ ูมติ ัวอย่าง S ถา้
20. ทอดลูกเต๋า 3 ลกู จำนวน 1 คร้งั ความนา่ จะเปน็ ท่ีลกู เต๋า
2P(A) = 3P(A) แล้ว P(A) มีคา่ เท่ากบั ข้อใด หงายแตม้ ค่ที งั้ 3 ครัง้ เท่ากับเทา่ ใด
ก. 1 ข. 1
ก. 0.3 ข. 0.4
84
ค. 0.5 ง. 0.6 ค. 1 ง. 3
2 4
เฉลย
1. ข 2. ง 3. ง 4. ข 5. ข 6. ข 7. ค 8. ข 9. ก 10. ง
11. ค 12. ค 13. ข 14. ก 15. ง 16. ง 17. ข 18. ง 19. ค 20. ก
การประเมนิ ชนิ้ งาน / ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมินผังมโนทศั น์
คำชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงานของนักเรียนตามรายการท่ีกำหนด แล้วขดี ✓ ลงในช่องท่ตี รงกับ
ระดบั คะแนน
ลำดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน
4321
1 ความสอดคล้องกบั จุดประสงค์
2 ความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หา รวม
3 ความคิดสร้างสรรค์
4 ความตรงต่อเวลา
ลงชอื่ ................................................... ผู้ประเมนิ
................./................../..................
เกณฑก์ ารประเมนิ ผังมโนทศั น์
ประเดน็ ท่ี ระดบั คะแนน
ประเมนิ
1. ความ 432 1
สอดคลอ้ งกบั ผลงานไมส่ อดคล้อง
จดุ ประสงค์ ผลงานสอดคลอ้ งกับ ผลงานสอดคล้องกับ ผลงานสอดคลอ้ งกบั กบั จุดประสงค์
2. ความถูกต้อง
ของเน้อื หา จดุ ประสงค์ทุก จุดประสงคเ์ ปน็ สว่ น จดุ ประสงค์บาง เน้ือหาสาระของ
ผลงานไม่ถูกต้องเป็น
3. ความคดิ ประเด็น ใหญ่ ประเด็น สว่ นใหญ่
สร้างสรรค์ ผลงานไมม่ ีความ
เนอ้ื หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ น่าสนใจ และไม่
4. ความตรงต่อ แสดงถึงแนวคิด
เวลา ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถกู ต้องบาง แปลกใหม่
สง่ ชนิ้ งานช้ากวา่
ครบถ้วน สว่ นใหญ่ ประเด็น เวลาทกี่ ำหนด 3 วนั
ข้ึนไป
ผลงานแสดงถึง ผลงานแสดงถึง ผลงานมคี วาม
ความคดิ สร้างสรรค์ ความคิดสรา้ งสรรค์ น่าสนใจ แตย่ งั ไม่มี
แปลกใหม่ และเป็น แปลกใหม่ แตย่ ังไม่ แนวคดิ แปลกใหม่
ระบบ เป็นระบบ
สง่ ชิน้ งานภายใน สง่ ชนิ้ งานช้ากว่า ส่งช้ินงานช้ากวา่
เวลาที่กำหนด เวลาท่ีกำหนด 1 วัน เวลาที่กำหนด 2 วัน
เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
14-16 ดมี าก
11-13 ดี
8-10 พอใช้
ต่ำกวา่ 8 ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ การนำเสนอผลงาน
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ✓ลงในช่องท่ตี รงกบั
ระดับคะแนน
ลำดบั รายการประเมิน ระดับคะแนน
ท่ี 4321
1 เนอ้ื หาละเอยี ดชดั เจน
2 ความถูกต้องของเนอ้ื หา
3 ภาษาทีใ่ ชเ้ ขา้ ใจง่าย
4 ประโยชนท์ ีไ่ ดจ้ ากการนำเสนอ
5 วิธกี ารนำเสนอผลงาน
รวม
ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมนิ
............/................./................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมมขี อ้ บกพร่องบางส่วน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งมาก
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ำกว่า 10 ปรบั ปรงุ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบุคคล
คำช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องทตี่ รงกับ
ระดบั คะแนน
ลำดบั รายการประเมนิ ระดับคะแนน
ที่ 4321
1 การแสดงความคดิ เหน็
2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อืน่
3 การทำงานตามหนา้ ท่ีที่ไดร้ บั มอบหมาย
4 ความมีน้ำใจ
5 การตรงต่อเวลา
รวม
ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน
............../.................../................
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง้ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยคร้งั
เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
18 - 20 ดีมาก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ำกว่า 10 ปรับปรุง
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ
คำช้แี จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ✓ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั
ระดับคะแนน
ลำดบั ชอื่ – สกลุ การแสดง การยอมรบั ฟัง การทำงาน ความมนี ้ำใจ การมี รวม
ท่ี ของนกั เรียน ความคดิ เหน็ คนอ่นื ตามท่ไี ด้รบั ส่วนรว่ มใน 20
มอบหมาย การปรบั ปรุง คะแนน
ผลงานกลุ่ม
43214321432143214321
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ ............../.................../...............
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครั้ง
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 4 คะแนน
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ตำ่ กวา่ 10 ปรับปรงุ
แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
คำชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ✓ลงในช่องท่ตี รงกับ
ระดบั คะแนน
คุณลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน
อันพงึ ประสงคด์ ้าน 4321
1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้
1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทสี่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ต่อ
กษัตริย์
โรงเรียน
2. ซือ่ สตั ย์ สุจรติ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนบั ถือ ปฏบิ ตั ิตามหลักศาสนา
3. มีวนิ ยั รับผดิ ชอบ 1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมท่เี กย่ี วกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามที่โรงเรยี นจดั ขึ้น
4. ใฝเ่ รียนรู้ 2.1 ให้ข้อมลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจริง
2.2 ปฏิบัตใิ นสิ่งทีถ่ กู ตอ้ ง
5. อยอู่ ย่างพอเพียง 3.1 ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คับของครอบครวั มีความตรง
6. มงุ่ มัน่ ในการ ตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชวี ิตประจำวนั
ทำงาน 4.1 รูจ้ กั ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏบิ ตั ิได้
7. รกั ความเป็นไทย 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม
8. มจี ติ สาธารณะ 4.3 เชื่อฟงั คำส่ังสอนของบิดา - มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้
4.4 ตง้ั ใจเรียน
5.1 ใช้ทรัพยส์ ินและส่ิงของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด
5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ุณคา่
5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงนิ
6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย
6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพื่อให้งานสำเรจ็
7.1 มีจติ สำนึกในการอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย
7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย
8.1 รจู้ ักชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู ำงาน
8.2 รจู้ ักการดแู ลรักษาทรัพย์สมบัติและสง่ิ แวดล้อมของห้องเรยี นและโรงเรยี น
ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
............../.................../................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 4 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ
พฤติกรรมท่ปี ฏิบตั สิ ม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิบ่อยครง้ั ให้ 2 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั บิ างครงั้ ให้ 1 คะแนน
พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัติน้อยครงั้ 68-80 ดมี าก
54-67 ดี
40-53 พอใช้
ต่ำกวา่ 40 ปรับปรุง
แผนการจดั การเรยี นรู้
บรู ณาการตามหลักปรชั ญาของเศษฐกิจพอเพียง
เพื่อเสรมิ สรา้ งคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง