ใบความรู้ท่ี 3.11
เรื่อง อทิ ธพิ ลของวฒั นธรรมตะวันออกและตะวันตกท่มี ีต่อสังคมไทย
นับตั้งแตส่ มยั สุโขทัยเป็นตน้ มาจนถึงสมยั รัตนโกสนิ ทร์ เปน็ เวลายาวนานกว่า 700 ปี ท่อี าณาจักรของคน
ไทยมีพฒั นาการมาอย่างตอ่ เน่ืองและมีความเจริญก้าวหนา้ ในดา้ นต่างๆ อย่างไรก็ตามความเจริญก้าวหน้าในด้าน
ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมตะวันออกและวัฒนธรรมตะวันตก ในสมัย
สุโขทัยไทยได้รับวัฒนธรรมจากตะวันออกเท่านั้น เพราะยังมิได้มีการติดต่อกับโลกตะวันตก แต่เมื่อมาถึงสมัย
อยธุ ยาและรัตนโกสินทร์ ไทยจึงไดร้ บั อิทธิพลของวัฒนธรรมท้งั จากตะวันออกและตะวนั ตก
1. อิทธพิ ลของวฒั นธรรมตะวนั ออก
อารยธรรมตะวันออกที่มีอิทธิพลต่อสังคมไทยมีหลายอย่าง แต่ที่สำคัญๆ ได้แก่ คติธรรมทาง
พระพุทธศาสนา พระราชประเพณีในราชสำนกั ภาษาและวรรณกรรม เปน็ ต้น
1) คติธรรมทางพทุ ธศาสนา สังคมไทยรับเอาพระพทุ ธศาสนาสำหรับเป็นหลักปฏิบัติเพื่อให้เกิดความสงบ
ร่มเย็นในการดำรงชีวิตมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยรับเอาพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทลัทธิลังกาวงศ์ผ่านมาทาง
ลงั กาและมอญ คติธรรมทางพระพุทธศาสนาสอนให้คนทำแต่ความดี ละเวน้ ทำความชัว่ และทำจติ ใจให้บริสุทธิ์อัน
เป็นหลักธรรมสำคัญของพระพทุ ธศาสนา และสอนใหศ้ รัทธาในเรื่องเหตแุ ละผลของกรรมของบคุ คลที่ได้กระทำท่ี
เป็นหลักธรรมชาตสิ อนให้รู้จกั อริยสัจ 4 ประการ อันได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เพื่อให้คนพ้นทุกข์ คติธรรม
ทางพระพทุ ธศาสนาทีย่ กมาเป็นตัวอย่างเหล่านีม้ ผี ลตอ่ สงั คมไทยเป็นอันมาก เพราะเมื่อผู้คนนับถือ และปฏบิ ตั ติ าม
สงั คมไทยก็มแี ต่ความสงบรม่ เยน็
2) ขนบธรรมเนียมประเพณี ขนบธรรมเนียมประเพณีบางอย่างของไทยได้รับอิทธิพลมาจาก
พระพุทธศาสนาซึ่งมีแหล่งกำเนิดที่อินเดีย เช่น ประเพณีการบวช การทอดกฐิน การทำบุญในวันสำคัญทาง
พระพุทธศาสนา เชน่ วนั วิสาขบชู า วันมาฆบชู า วนั เขา้ พรรษา วนั ออกพรรษา เปน็ ต้น นอกจากนี้ ขนบธรรมเนียม
ประเพณีของไทยส่วนหน่งึ ก็ได้รบั อทิ ธิพลมาจากพธิ กี รรมของศาสนาพราหมณ์ซ่งึ มแี หล่งกำเนิดทีอ่ ินเดียเช่นกนั แต่
รับผ่านมาทางเขมรอีกทอดหนึ่ง เช่น พิธีทำขวัญเดือน พิธีโกนผมไฟ พิธีโกนจุก พิธีทำขวัญข้าว เป็นต้น จนพิธี
เหลา่ นั้นได้กลายเปน็ ประเพณีของไทยในปัจจุบัน
3) พระราชประเพณีในราชสำนัก สังคมไทยมีสถาบนั พระมหากษัตริย์เป็นสถาบันสงู สุดในการปกครอง
ประเทศ ประเพณีการปกครองของไทยยึดถือองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์พระประมุขแห่งรัฐมาโดยตลอด
ครน้ั ถงึ ในสมัยอยธุ ยาไทยรบั เอาวัฒนธรรมและระบบการปกครองของเขมรซ่งึ มีความเจรญิ รุ่งเรืองเข้ามา และไดร้ ับ
อทิ ธพิ ลของลทั ธเิ ทวราชาซงึ่ เหน็ ว่าพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นเทพเจา้ ของเขมรเขา้ มาดว้ ย เม่อื รับลัทธินี้เข้ามาแล้วก็
จะตอ้ งมวี ธิ ีการและกฎเกณฑ์ต่างๆ ทีจ่ ะทำใหค้ นมีความเห็นคล้อยตาม ดังนนั้ จงึ ไดเ้ กิดพระราชประเพณีต่างๆ ใน
ราชสำนักขึ้นมากมาย ทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ว่าพระมหากษัตริยท์ รงมีฐานะเปน็ ดังสมมติเทพ
พระราชประเพณีในราชสำนักที่มีความเกี่ยวข้องกับองค์พระมหากษัตริย์ซึ่งเปน็ เทพเจ้าตามหลักศาสนา
พราหมณ์นัน้ พราหมณ์จะมีบทบาทสำคัญในการจัดระเบยี บพระราชประเพณีต่างๆ และเข้าไปมีสว่ นร่วมด้วยทุก
ครั้ง พระราชประเพณีในราชสำนักที่สำคัญๆ เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นพระราชประเพณีในการ
สถาปนาพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ที่จะเสด็จขน้ึ ครองราชย์ พระราชพธิ ีจรดพระนังคัลแรกนาขวญั ซ่ึงเป็นพระ
ราชประเพณีเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของพืชพันธุ์ธัญญาหาร พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาซึ่งเป็นพระราช
ประเพณอี ันแสดงออกถึงความจงรักภักดีของเหล่าขนุ นางข้าราชการท่ีมีตอ่ องค์พระมหากษัตริย์ เปน็ ต้น
ภาพ 1 พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก
พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนาธเิ บศรมหาภมู ิ
พลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
เม่อื วนั ท่ี 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2493
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/พระ
ราชพธิ บี รมราชาภิเษก_พทุ ธศักราช_2493
สบื ค้นเม่ือ : 2 พฤษภาคม 2562
4) ภาษาและวรรณกรรม ในสมยั สโุ ขทยั มวี รรณกรรมบางเรอื่ งทีไ่ ดร้ บั อิทธพิ ลมาจากพระพุทธศาสนา เช่น
ไตรภูมิพระร่วงซ่ึงได้รับอิทธิพลมาจากพระพุทธศาสนานกิ ายเถรวาทลัทธิลงั กาวงศ์ จากลังกา ส่วนในสมัยอยุธยา
วัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลจากภายนอก เช่น วรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากมหากาพย์
รามายณะของอินเดีย เรื่องอิเหนาได้รับอทิ ธิพลมาจากชวา เป็นต้น ซึ่งวรรณกรรม เหล่านี้ยังคงดำรงอยูม่ าจนถึง
ปจั จบุ ัน
ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ได้มีการแปลวรรณกรรมอิงพงศาวดารจีนราชวงศ์ต่างๆ เรื่องที่แพร่หลายมาก
ที่สุด คือ เรื่องสามก๊ก แปลในสมัยรัชกาลที่ 9 เรื่องไซอิ๋ว แปลในสมัยรัชกาลที่ 5 นอกจากแปลวรรณกรรมจีนใน
สมัยรัตนโกสินทร์แล้วยังมีการแปลวรรณกรรมอินเดีย และชาติอื่นๆ อีกหลายชาติ เช่น ศกุนตลาของอินเดีย
ราชาธิราชของมอญ อาหรับราตรีของเปอรเ์ ซยี (อหิ รา่ น) เปน็ ตน้
ภาพ 2 หนงั สือศกนุ ตลา เปน็ วรรณกรรมที่
ไดร้ ับอิทธิพลมาจาก วัฒนธรรมภายนอก
เม่อื วนั ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493
ทม่ี า : http://www.oncebookk.com/
shop/oncebookk/default.aspx?page=
pdtdetail&url=oncebookk&pdtid=0125
07&lang=TH
สืบค้นเมื่อ : 3 พฤษภาคม 2562
ภาพ 3 หนงั สอื อาหรับราตรี เปน็ วรรณกรรม
ท่ีได้รับอทิ ธิพลมาจาก วัฒนธรรมภายนอก
ทีม่ า : https://www.satapornbooks.
co.th/SPBecommerce/product_details
/549/อาหรบั ราตรี-(ปกแขง็ )
สบื คน้ เมื่อ : 3 พฤษภาคม 2562
สำหรับทางด้านภาษานั้น ในสมัยสุโขทัยไทยได้รับอิทธิพลจากมอญ เขมร เช่น ตัวอักษรของพ่อขุน
รามคำแหงมหาราช เป็นต้น ส่วนในสมัยอยุธยาจนถึงสมยั รัตนโกสินทร์ ภาษาบาลี (พระพทุ ธศาสนาใช้ภาษาบาลี
สำหรับคำสวด การอ่านคัมภีร์พระไตรปิฎก และการเขียน) ภาษาสันสกฤตใช้ในพิธีพราหมณ์ในราชสำนัก และ
ภาษาขอม (เขมรโบราณ) ก็ใช้กันในหมู่ภิกษุสงฆ์ สำหรับการอ่านและท่องมนต์เขียนอักขระในพิธีกรรมต่างๆ ใน
สมยั โบราณ เปน็ ต้น
นอกจากนี้ ภาษาจีนก็มกี ารเรียนการสอนในหมู่ลูกหลานชาวจีนอพยพมาตัง้ แต่สมัยรัตนโกสนิ ทรต์ อนต้น
มีการจัดตั้งโรงเรียนจีนและสอนภาษาจีนมาถึงปัจจุบัน สำหรับในปัจจุบันคนไทยได้รบั อิทธิพลของวัฒนธรรมจีน
ญี่ปุ่น และเกาหลี ทำให้เกิดความนิยมในการเรียน ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น และภาษาเกาหลีมากขึ้น อันเป็นผลมา
จากการทปี่ ระเทศทั้งสามมีความสำคัญทางเศรษฐกิจตอ่ ไทย
นอกจากอิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันออกที่สำคัญทั้ง 4 ประเภทที่ไทยได้รับมาแล้วยังมีวัฒนธรรม
ตะวนั ออกอ่นื ๆ ทไ่ี ทยเคยไดร้ บั มา เช่น กฎหมายในสมัยอยุธยาได้รบั อิทธพิ ลมาจาก “พระมนูธรรมศาสตร์” ซึ่งเป็น
กฎหมายของอินเดยี ผา่ นมาทางมอญ ทางด้านศลิ ปกรรมต่างๆ เช่น ทางด้านประตมิ ากรรม ส่วนใหญ่การสร้างรปู
เคารพทางศาสนา เช่น พระพุทธรูปก็ได้รบั อทิ ธิพลมาจากศลิ ปะอินเดยี และลังกา เทวรูปได้รับอิทธิพลศิลปะแบบ
อนิ เดยี และเขมร ทางด้านสถาปตั ยกรรม เช่น การสร้างเจดยี ท์ างพระพุทธศาสนาก็เคยได้รับอิทธพิ ลจากลังกา หรือ
ในสมัยรัตนโกสินทร์ไทยก็ไดร้ ับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมจีนเพิ่มเติมเข้ามาด้วย ดังจะเห็นได้ที่พระท่ีนั่งเวหาสน์
จำรูญ ในพระราชวังบางปะอนิ เปน็ ต้น สำหรบั ทางด้านหตั ถกรรม ในสมยั สโุ ขทยั การทำเครอ่ื งป้ันดินเผาหรือเครื่อง
สังคโลกก็ได้รับอทิ ธิพลมาจากจนี ทางด้านนาฏศิลป์ในสมัยอยุธยา การละเล่นชกั นาคดึกดำบรรพ์ ไทยได้รับอิทธิพล
มาจากเขมร ต่อมาภายหลังได้พัฒนามาเป็นนาฏศิลป์ไทย เรียกว่า “โขน” ซึ่งยังคงได้รับการสืบทอดมาจนถึง
ปัจจบุ นั
ภาพ 4 พระท่ีน่งั เวหาสน์จำรญู เปน็ สถาปตั ยกรรมทีไ่ ดร้ ับอทิ ธพิ ลของวฒั นธรรมจีน ภายในบรเิ วณพระราชวัง
บางปะอิน จังหวดั พระนครศรอี ยุธยา
ท่มี า : https://travel.trueid.net/detail/5ekgnxmgZnW
สบื ค้นเมอ่ื : 3 พฤษภาคม 2562
2. อิทธิพลของวฒั นธรรมตะวนั ตก
วัฒนธรรมตะวันตกที่มีอิทธิพลต่อสังคมไทยมีมากมายหลายอย่าง แต่ที่สำคัญๆ ได้แก่ ระบอบ
ประชาธปิ ไตย เศรษฐกิจแบบทุนนยิ ม สทิ ธิ เสรภี าพ และความเสมอภาคในสังคมไทย วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เป็นตน้ โดยมปี ระเด็นทีส่ ำคัญดงั นี้
1) ระบอบประชาธิปไตย เป็นระบอบการปกครองที่เกิดขึ้นในโลกตะวันตก จนกลายเป็นวัฒนธรรม
ทางด้านการเมอื งการปกครองของโลกตะวนั ตก ระบอบประชาธปิ ไตยที่ไทยไดร้ ับมาจากโลกตะวนั ตกถอื ว่าอำนาจ
อธิปไตยเปน็ ของปวงชนชาวไทย พระมหากษตั รยิ ์ยังคงทรงดำรงเป็นประมุขอยู่ภายใต้รฐั ธรรมนูญ โดยทรงใช้พระ
ราชอำนาจบริหาร นิติบญั ญัติ และตุลาการผ่านทางคณะรัฐมนตรี รัฐสภา และศาล ตามลำดบั ภายหลังจากไทยได้
เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรง
เป็นประมุขภายใต้รฐั ธรรมนูญ เม่อื พ.ศ. 2475 ไดม้ ีการประกาศใชร้ ฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยเปน็ กฎหมาย
สูงสุดในการปกครองประเทศ โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ มีสมาชิกรัฐสภาที่มาจาก
ตัวแทนของประชาชน ทำหน้าที่ออกกฎหมาย และควบคุมการบริหารประเทศของคณะรัฐมนตรี มีกฎหมายที่
กำหนดให้ประชาชนทีม่ อี ายุตามเกณฑ์ต้องไปลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และบางสมัยก็ให้มกี าร
เลอื กตงั้ สมาชิกวุฒิสภา ทัง้ หมดนล้ี ้วนเกดิ ข้นึ มาจากระบอบประชาธปิ ไตยซ่งึ ไทยไดร้ ับวฒั นธรรมทาง ด้านการเมอื ง
การปกครองมาจากตะวนั ตก โดยเฉพาะองั กฤษ ฝรง่ั เศส และสหรฐั อเมริกา
2) ระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นยิ ม ระบบเศรษฐกจิ ของไทยแต่เดิมเปน็ ระบบเศรษฐกิจแบบยังชีพหรือแบบ
พ่ึงพาตนเอง การคา้ ขายของไทยเปน็ ระบบการค้าทีม่ ลี กั ษณะการค้าแบบผกู ขาดโดยพระคลงั สินค้า ภายหลังจากท่ี
ไทยและอังกฤษได้ลงนามในสนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์ต่อกันใน พ.ศ. 2398 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามว่า
“สนธิสัญญาเบาว์รงิ ” ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทำให้ระบบการค้าแบบผูกขาดโดยพระ
คลังสินค้าของไทยต้องถูกยกเลิก และเปลี่ยนไปเป็นระบบการค้าแบบเสรีกับต่างชาติ ทำให้การค้าขายกับต่าง
ประเทศขยายตัวออกไปอยา่ งกวา้ งขวาง มีพ่อคา้ ชาวตา่ งชาติตอ้ งการซ้อื สนิ คา้ จากไทยมากขึ้น เปน็ ผลทำให้ระบบ
เศรษฐกจิ แบบยังชีพของไทยซงึ่ เป็นการผลิตเพื่อใช้ในครวั เรือนกลายเปน็ การผลิตเพื่อการตลาดหรอื เพอื่ การส่งออก
อย่างกว้างขวาง อันจะนำไปสู่การลงทุนสำหรับการผลิตและการค้า มีระบบเงินตราสำหรับการแลกเปลี่ยนสนิ ค้า
มรี ะบบการเงินและธนาคารสำหรบั ธรุ กิจแบบตะวนั ตก มีการแข่งขนั ในดา้ นการผลิตและการคา้ แบบเสรี สิ่งเหล่าน้ี
ล้วนเป็นองค์ประกอบของเศรษฐกจิ แบบทุนนิยมซึ่งมีอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจของไทยมาต้ังแต่ไทยได้ลงนามใน
สนธิสญั ญาไมตรแี ละพาณิชย์กบั องั กฤษใน พ.ศ. 2389 และหลังจากนั้นกไ็ ด้ลงนามในสนธิสัญญาในทำนองเดียวกัน
กบั ประเทศตะวนั ตกอกี หลายประเทศในเวลาตอ่ มา จนกระท่งั ปัจจบุ ันประเทศไทยก็ยงั คงมีระบบเศรษฐกิจแบบทุน
นิยมตามแบบตะวนั ตก
3) สทิ ธิ เสรภี าพ และความเสมอภาคในสังคมไทย ในเรอ่ื งสิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาคของบุคคล
ในสงั คมไทยนีน้ บั ไดว้ า่ เปน็ วัฒนธรรมอยา่ งหนงึ่ ที่ไทยได้รบั อทิ ธพิ ลมาจากวัฒนธรรมตะวนั ตก เพราะภายหลงั จากที่
ไทยมีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญแล้วนั้น ใน
รฐั ธรรมนูญของไทยตง้ั แต่ รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รสยาม พ.ศ. 2475 จนมาถึงยุคปจั จุบนั ในหมวดท่ีว่าด้วย
สิทธิ เสรีภาพ ของประชาชนชาวไทย จะต้องระบุเอาไว้ถึงสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของปวงชนชาวไทย
เอาไว้ดว้ ย ยกตวั อย่างเชน่ ในรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รสยาม พ.ศ. 2475 ไดก้ ำหนดสิทธิ เสรภี าพ และความ
เสมอภาคของประชาชนชาวไทยเอาไว้ด้วย ดงั น้ี
“มาตรา 12 ภายในบงั คับแห่งบทบญั ญัติในรฐั ธรรมนูญน้ี บุคคลยอ่ มเสมอกนั ใน กฎหมาย ฐานันดร
ศกั ดิ์โดยกำเนิดกด็ ี โดยแต่งตัง้ กด็ ี หรอื โดยประการอืน่ ใดกด็ ไี มก่ ระทำให้เกดิ เอกสทิ ธอ์ิ ย่างหนึง่ อย่างใดเลย
ในมาตรา 12 นีก้ ำหนดให้เห็นถึงทกุ คนท่ีเปน็ ประชาชนชาวไทยมีสทิ ธิและความเสมอภาคทัดเทยี มกัน
ภายใต้กฎหมายเดยี วกัน
นอกจากนใี้ นมาตราอ่ืนๆ ยงั ได้กล่าวถงึ เสรีภาพของปวงชนชาวไทยเอาไว้ดงั น้ี
“มาตรา 14 ภายในข้อบงั คับแหง่ กฎหมาย บุคคลย่อมมเี สรภี าพบรบิ ูรณ์ในรา่ งกาย เคหสถาน ทรัพย์สนิ
การพูด การเขียน การโฆษณา การศกึ ษาอบรม การประชมุ โดยเปดิ เผยการตงั้ สมาคม การอาชีพ"
ในมาตรา 14 น้รี ัฐธรรมนญู ให้ความคุ้มครองเสรภี าพในดา้ นตา่ งๆ ของบคุ คล โดยกฎหมายให้การ
รบั รอง
ดงั น้นั ในเร่อื งสทิ ธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของประชาชนชาวไทยในสถานการณ์ของประเทศที่ไม่ตก
อยู่ภายใต้เผด็จการ รัฐธรรมนูญจะกำหนดสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลเอาไว้อย่างครบถ้วน
อนั เปน็ หลกั การทีส่ ำคญั ของระบอบ ประชาธิปไตย แสดงให้เห็นไดช้ ัดเจนว่าแต่เดิมวฒั นธรรมของไทยในเร่ืองสิทธิ
เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลในสังคมไทยจะไม่เคยปรากฏ ต่อเมื่อได้รับอิทธิพลความคิดดังกล่าว จาก
วัฒนธรรมตะวนั ตก จงึ ได้ปรากฏมีขึ้นในสงั คมไทย
4) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไทยได้รับอิทธิพลทางด้านภูมปิ ัญญาตะวันตก เพื่อนำมาแก้ไขปัญหาใน
การดำเนินชวี ติ มากย่ิงข้ึน ภายหลงั ทีไ่ ทยไดเ้ ขา้ สู่ยุคของการปรับตวั เข้าสู่ความทันสมัย วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ของโลกตะวันตกได้เข้ามามีบทบาทในสังคมไทย เช่น สังคมไทยหันไปใช้ไฟฟ้าเพื่อความสว่างแทนตะเกียงและ
เทียนไข มกี ารใช้พิมพด์ ดี แทนการคดั ลอกหรอื เขยี นด้วยดินสอและปากกา การเดนิ ทางไกลดว้ ยเรือยนตห์ รือรถยนต์
แทนการใชเ้ รอื พาย เรือแจว หรือแทนการใช้รถเทียมมา้ เป็นต้น
โดยเฉพาะในโลกปัจจุบัน การเดินทางไกลโดยเครื่องบิน การโทรคมนาคมและการสื่อสาร หรือการใช้
คอมพวิ เตอร์ล้วนแล้วแต่เปน็ ผลิตผลทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของโลกตะวันตกทก่ี ลายเปน็ สิ่งจำเป็นใน
สังคมไทยยุคปัจจบุ ัน
นอกจากวัฒนธรรมตะวันตกที่สำคัญดังได้กล่าวมาแล้วในตอนต้น สังคมไทยยังได้รับอิทธิพลวัฒนธรรม
ตะวันตกอื่นๆ อีกด้วย โดยเฉพาะทางด้านศิลปวัฒนธรรม เช่น วรรณกรรม ตะวันตกที่ได้รับการแปลออกมาเป็น
ภาษาไทยอย่างแพร่หลาย หรือตึกรามบ้านเรือนแบบสถาปัตยกรรมของยุโรป ละครโอเปราของยุโรปที่มีการ
เผยแพร่ในสังคมไทย การเล่นดนตรีแจ๊ส และดนตรีคลาสสิกแบบตะวันตก เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีการศึกษา
ภาษาต่างประเทศ เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สเปน และภาษาอื่นๆ ของประเทศตะวันตกอย่างแพร่หลาย
เปน็ ตน้
วัฒนธรรมตะวันออกและวัฒนธรรมตะวันตกที่มีมาในสังคมไทยนับตั้งแต่ไทยได้รับอิทธิพลเหล่าน้ัน
เป็นตน้ มา ไทยไดน้ ำมาปรบั ปรงุ สำหรับนำมาใช้ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม และสงั คมของไทย ไทยมิได้รับเอา
วัฒนธรรมเหล่านั้นโดยลอกเลียนแบบมาจากแหล่งกำเนิดดั้งเดิมเสียทั้งหมด ถึงกระนั้นก็ตาม แม้ว่าวัฒนธรรม
บางอย่างที่ไทยรับเอามาปรับใช้สำหรับสังคมไทย จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จหรือดีไปเสียทั้งหมด
แตบ่ างอยา่ งกม็ ีปัญหาสืบเนอ่ื งมาจนถงึ ปัจจุบนั เชน่ วัฒนธรรมตะวันตกในเร่ืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ท่ปี ระเทศไทยไดน้ ำมาใช้ในสงั คมไทยตัง้ แต่ พ.ศ. 2475 จนถึงปัจจุบัน เปน็ ตน้