The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ด.ญ.ชนิภาดา พันธ์ไซแกัว
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
เลขที่ 23

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ประวัติกีฬาวอลเลย์บอล

ด.ญ.ชนิภาดา พันธ์ไซแกัว
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
เลขที่ 23

รายงาน เรื่อง จัดทำ โดย รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ประวัติกีฬาวอลเลย์บอล เด็กหญิงชนิภาดา พันธ์ไซแก้ว เสนอ คุณครูณัฐพงศ์ แสงมณี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เลขที่ 23 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนวัดธรรมสถิติ์วราราม อำ เภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม


คำ นำ รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา สุขศึกษาและ พลศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ ความรู้ ความเข้าใจใน เรื่องประวัติ กีฬาวอลเลย์บอลและกฏกติกาพื้นฐานของ วอลเลย์บอล ผู้จัด ทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้จะเป็น ประโยชน์ต่อผู้สนใจ แตะต้อง ข้อมูลในเรื่องวอลเลย์บอล หากมีข้อผิด พลาดประการใด ผู้จัดทำ ขออภัย ณ ที่นี้ เด็กหญิงชนิภาดา พันธ์ไซแก้ว ผู้จัดทำ 1/11/66


วอลเลย์บอลได้แพร่หลายเข้ามาในไทย ตั้งแต่เมื่อใดไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด เพียง แต่ทราบกันว่าในระยะแรกๆเป็นที่นิยมเล่นกันในหมู่ชาวจีนและชาวญวนมากจนกระทั่ง มีการแข่งขันระหว่างคณะชุมชนสโมสรและสมาคมขึ้นบางครั้งติดต่อแข่งขันกันไปใน ภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือและมีการแข่งขันชิงถ้วยทองคำ ทางภาคใต้ ปี พ.ศ 2477 กรมพลศึกษาได้จัดพิมพ์กติกาวอลเลย์บอลขึ้น โดยอาจารย์นพคุณ พงษ์สุวรรณผู้เป็นแปลและท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญในกีฬาวอลเลย์บอลเป็นอย่างยิ่งจึงได้รับเชิญเป็นผู้ บรรยายเกี่ยวกับเทคนิควิธีการเล่นตลอดจนกติกาการแข่งขันวอลเลย์บอลแก่บรรดาครูพละทั่ว ประเทศในโอกาสที่กระทรวงศึกษาได้เปิดอบรมขึ้น ใน ปีนี้เองกรมพลศึกษาได้จัดให้มีการแข่งขันกีฬาประจำ ปีขึ้นและบรรจุกีฬาวอลเลย์บอล หญิงเข้าไว้ในรายการแข่งขันเป็นครั้งแรกพร้อมทั้งในหลักสูตรของโรงเรียนพลศึกษากลาง ได้กำ หนดวิชาบังคับให้นักเรียนหญิงเรียนวิชาวอลเลย์บอลและเนตบอลสมัยนั้นมี น.อ.หลวง ศุภชลาศัย ร.น.ดำ รงตำ แหน่งอธิบดีกรมพลศึกษา จนกระทั่งปีพ.ศ 2500 ได้มีการจัดตั้ง"สมาคมวอลเลย์บอลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย" (Mature Volleyball Association of Thailand) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและเผย แพร่กีฬาวอลเลย์บอลให้เจริญรุ่งหน้าและดำ เนินการจัดการแข่งขันวอลเลย์บอลในระบบ 6 คนมีหน่วยราชการอื่นๆจัดการแข่งขันประจำ ปีเช่นกรมพลศึกษากรมการคณะกรรมการกีฬา มหาวิทยาลัยเทศบาลนครกรุงเทพฯสภากีฬาทหารตลอดจนการแข่งขันกีฬาเขตแห่ง ประเทศไทยได้มีการจัดแข่งขันทั้งประเทศทีมชายและทีมหญิงประจำ ปีทุกปี ประวัติ วั ว ติ อลเลย์บ ย์ อลในประเทศไทย


กีฬาวอลเลย์บอล(Volleball)นั้นถือกำ เนิดขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ 1895 (พ.ศ 2438)โดยนาย วิล เลียม จี.มอค์แกน(willian g. morgan)ผู้อำ นวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. (Young Men's Christian Association)ประเทศสหรัฐอเมริกาที่ต้องการมีกีฬาสำ หรับ เล่นในช่วงฤดูหนาวทางกีฬากลางแจ้งเพื่อออกกำ ลังกายและพักผ่อนหย่อนใจยามหิมะ โดย นายวิลเลียม จี.มอร์แกน เกิดไอเดียในการพัฒนากีฬาวอลเลย์บอลขึ้นขณะเขาที่ กำ ลังนั่งดูเทนนิสและเลือกนำ เอาตาข่ายกลางสนามของกีฬาเทนนิสมาเป็นส่วนประกอบ ในกีฬาที่เขาคิดค้นและเลือกให้อย่างในของลูกบาสเกตบอลมาเป็นลูกบอลที่ใช้ตีโต้ตอบ กันไปมาแต่อย่างในของลูกบาสเกตบอลกลับให้น้ำ หนักเบาจนเกินไปจึงเปลี่ยนไปใช้รูป บาสเกตบอลแทนซึ่งลูกบาสเกตบอลก็มีขนาดใหญ่และน้ำ หนักมากจนเกินไปอีกเขาจึงสั่ง ทำ ลูกวอลเลย์บอลขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะในขนาดเส้นรอบวง 25 -27 นิ้ว และกำ หนดน้ำ หนักไว้ที่ 8-12 ออนซ์จากนั้นจึงตั้งชื่อกีฬาชนิดนี้ว่ามินโทเนตต์ (Mintonette) ต่อมา ชื่อของ มินโทเนตต์ (Mintonette) ถูกเปลี่ยนเป็นวอลเลย์บอล (Volleyball) หลังได้รับคำ แนะนำ จากศาสตราจารย์ อัลเฟรด ที เฮลสเตด (Professor Alfred T. Helstead)ในงานประชุมสัมมนาผู้นำ ทางพลศึกษาที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์(Spring-field College) เมื่อปี ค.ศ 1896 (พ.ศ 2439) และกลายเป็นกีฬายอดนิยมในหมู่ประชาชนชาว อเมริกันจนแพร่หลายออกไปทั่วโลกรวมทั้งมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่เป็นระยะ ประวัติ วั ว ติ อลเลย์บ ย์ อลในต่า ต่ งประเทศ


กฎและกติกา การเล่นวอลเลย์บอล กฎข้อที่ 1 พื้นที่เล่นลูกบอล สนามมาตรฐานที่ใช้แข่งขันมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 18 ×9 เมตรล้อมรอบด้วยเขตรอบสนามกว้างอย่างน้อย 3 เมตรทุก ด้านที่วางเหนือพื้นต้องไม่มีสิ่งใดกีดขวางสูงขึ้นไปอย่างน้อย 7 เมตร จากพื้นสนามแต่สำ หรับการแข่งขันระดับโลกของสหพันธ์ วอลเลย์บอลนานาชาติและการแข่งขันที่เป็นทางการเขตรอบสนาม ต้องกว้างอย่างน้อย 5 เมตรจากเส้นข้างและ 6.5 เมตรจากเส้นหลังที่ วางเหนือสนามต้องสูงจากผืนขึ้นไปอย่างน้อย 12.5 ม


กฎข้อที่ 2 ตาข่าย ตาข่ายจะถูกขึงเป็นแนวดิ่งเหนือเส้นแบ่งแดนสำ หรับทีมชายขอบบนสุดต้องสูงจากพื้น 2.43 เมตร ทีมหญิงสูง 2.24 เมตร โดยความสูงของตาข่ายวัดที่บริเวณ กึ่งกลางของสนามความสูงของตาข่ายวงเล็บ(ที่เหนือเส้นข้างทั้งสองด้านต้องสูงเท่ากัน)


กฎข้อที่ 3 ลูกบอล ลูกบอลจะต้องกลมทำ จากหนังฟอกหรือหนังสังเคราะห์ ที่ยืดหยุ่นได้ของหุ้มรูปทรงกลมทำ ด้วยยางหรือวัสดุที่ คล้ายคลึงกันสีของลูกบอลอาจเป็นสีอ่อนๆเหมือนกันทั้งรูปหรืออาจเป็นหลายสีผสมกันก็ได้ลูกวางต้องมีเส้น รอบวงยาว 65 - 67 เซนติเมตรมีน้ำ หนัก 260-280 กรัมและมีแรงดันลม 0.30-0.325 กิโลเมตร/ตารางเซนติเมตร


ตัวตั้ง หรือ ตัวเซ็ต ทำ หน้าที่ต่อบอลในจังหวะที่สอง โดยตั้งบอลให้กับตัวรุกเพื่อทำ คะแนน ตัวเซ็ตต้องปราดเปรียวและว่องไว มีไหวพริบที่ดีใน การเลือกตัวรุกเพื่อทำ คะแนน ตัวบล็อกกลาง หรือ ตัวตีกลาง คือผู้เล่นที่สามารถรุกได้อย่างรวดเร็ว มักจะ อยู่ใกล้ตัวเซ็ต รวมไปถึงมีการบล็อกที่ดี สามารถขึ้นบล็อกคู่ด้านข้างของ สนามได้ แต่ละทีมมักจะมีผู้เล่นตำ แหน่งนี้ 2 คน ตัวตีด้านนอก หรือ ตัวตีด้านซ้าย หรือ ตัวตีหัวเสา ทำ หน้าที่ตบลูกหรือบุกจากบริเวณหัวเสา ตัวตีจะต้องตบลูกได้แบบคงเส้นคงวาที่สุดในทีม เพราะมักจะได้บอลจากตัวเซ็ตมากที่สุด แต่ละทีมมักจะมีผู้เล่นตำ แหน่งนี้ 2 คน ใน 1 ทีม ประกอบด้วย ผู้เล่นสูงสุด 12 คน รวมกับ คณะผู้ฝึกสอน ได้แก่ ผู้ ฝึกสอน 1 คน ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนไม่เกิน 2 คน คณะแพทย์ได้แก่ นักกายภาพบํา บัด 1 คน และแพทย์ 1 คน การแข่งขันในสนาม มีผู้เล่นตัวจริงทีมละ 6 คน โดยตำ แหน่งของผู้เล่นจะยืนด้านหน้า 3 คน ประกอบด้วยผู้เล่นตำ แหน่งที่ 4 (หน้าซ้าย), 3 (หน้ากลาง), 2 (หน้าขวา) ยืนด้านหลัง 3 คน ประกอบด้วยผู้เล่นตำ แหน่งที่ 5 (หลังซ้าย), 6 (หลังกลาง), 1 (หลังขวา) ซึ่งตำ แหน่งที่ 1 คือ ตำ แหน่งผู้เล่นเสิร์ฟ ส่วนผู้ เล่นในสนามที่เหลือจะมีหน้าที่ของแต่ละคนดังนี้ กฎข้อที่ 4 ทีม


กฎข้อที่ 5 หัวหน้าทีม ทั้งหัวหน้าทีมและผู้ฝึกสอน จะเป็นผู้รับผิดชอบความ ประพฤติและระเบียบวินัยของผู้ร่วมทีม แต่มีข้อแม้ว่าตัวรับอิสระจะเป็นหัวหน้าทีมไม่ได้ ตลอดการแข่งขัน ผู้ ฝึกสอนจะเป็นผู้ควบคุมการเล่นของทีมภายนอกสนาม เลือกผู้เล่น 6 คนแรก เปลี่ยนตัวผู้เล่นและขอเวลานอก ส่วนผู้ช่วยผู้ฝึกสอนจะทําหน้าที่แทนผู้ฝึกสอน เมื่อผู้ ฝึกสอนต้องออกจากการทําหน้าที่


กฎข้อที่ 6 การได้คะแนน การแข่งขันวอลเลย์บอลจะแข่งกันเป็นเซตทั้งหมด 5 เซต โดย ทีมที่ทำ ได้ 3 เซตก่อนจะเป็นทีมที่ชนะในการแข่งขันนั้น ซึ่ง แต่ละเซตจะแข่งกันเมื่อทีมใดทีมหนึ่งทำ คะแนนได้ 25 คะแนนก่อน (ยกเว้นเซตสุดท้ายจะแข่ง 15 คะแนน) หากทํา คะแนนได้ 24 -24 คะแนนเท่ากัน จะต้องแข่งขันกันต่อไป จนกว่าทีมใดทีมหนึ่งจะทําคะแนนนําห่าง 2 คะแนน (26 -24, 27–25,……) โดยในการแข่งขันแต่ละทีมจะได้คะแนนเมื่อ ลูกบอลตกลงบนพื้นสนามในแดนของทีมตรงข้าม ฝ่่ายตรงข้ามทําผิดกติกา ฝ่ายตรงข้ามถูกทําโทษ


กฎข้อที่ 7 โครงสร้างการแข่งขัน ก่อนการแข่งขันผู้ตัดสินที่ 1 จะทําการเสี่ยงเพื่อตัดสินว่า ทีมใดจะเสิร์ฟก่อน หรืออยู่แดนใดในเซตแรก และถ้าต้องแข่งขันเซตตัดสิน จะต้อง ทําการเสี่ยงใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้นจะทำ การอบอุ่นร่างกายเป็นเวลา ประมาณ 10 นาที จากนั้นผู้เล่นจะต้องยืนประจำ ตำ แหน่งของตน จนกว่าจะมีการเสิร์ฟลูกบอล ผู้เล่นจึงจะสามารถเคลื่อนที่ไปอยูตําแหน่ง ต่างๆ ได้ภายในแดนและเขตรอบสนามของตน การหมุนตำ แหน่ง เมื่อทีมที่รับลูกเสิร์ฟได้สิทธิทําการเสิร์ฟ ผู้เล่นจะต้องหมุนตําแหน่ง ตามเข็มนาฬิกาไป 1 ตําแหน่ง ตัวอย่าง ผู้เล่นตําแหน่งที่ 2 จะหมุน ไปตําแหน่งที่ 1 เพื่อทําการเสิร์ฟ และผู้เล่นตําแหน่งที่ 1 จะหมุน ไปตําแหน่งที่ 6 เป็นต้น หากหมุนตําแหน่งผิดฝ่ายตรงข้ามจะได้ คะแนนและได้เป็นฝ่ายเสิร์ฟแทน


กฎข้อที่ 8 รูปแบบการเล่น ลูกจะอยูในการเล่นตั้งแต่ขณะที่ทําการเสิร์ฟ โดยผู้ ตัดสินที่ 1 เป็นผู้อนุญาต โดยลูกบอลที่เป็น ‘ลูกดี’ คือ การที่ลูกบอลถูกพื้นสนาม โดยส่วนใดส่วนหนึ่งของลูกได้ สัมผัสพื้นสนาม รวมทั้งเส้นเขตสนาม ส่วน ‘ลูกตาย’ คือลูกไม่อยูในการเล่น ตั้งแต่ขณะที่มีการทำ ผิดกติกา โดย ผู้ตัดสินคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ให้สัญญาณนกหวีด ซึ่งการ ทําผิดกติกาจะสิ้นสุดลงพร้อมกับสัญญาณนกหวีด


กฎข้อที่ 9 การเล่นลูกบอล การถูกลูกบอล คือการกระทําใดๆ โดยผู้เล่นที่อยู ในการเล่นทุกลักษณะ ซึ่งแต่ละทีมสามารถถูก ลูกได้มากที่สุด 3 ครั้ง (นอกจากทําการบล็อก) เพื่อส่งลูกกลับไปยังทีมตรงข้าม ถ้าถูกลูกมากกว่า นี้ถือว่าทําผิดกติกา และผู้เล่นคนหนึ่งจะไม่ สามารถถูกลูกบอล 2 ครั้งติดต่อกันได้


กฎข้อที่ 10 ลูกบอลที่บริเวณตาข่าย ลูกบอลที่ส่งไปยังแดนของทีมตรงข้าม ต้อง ข้ามเหนือตาข่ายไปยังพื้นที่ ภายในแดน ของฝ่ายตรงข้าม โดยลูกบอลอาจถูกตาข่าย ได้ในขณะที่กำ ลังข้ามตาข่าย


กฎข้อที่ 11 ผู้เล่นที่บริเวณตาข่าย ในการบล็อก ผู้บล็อกอาจล้ำ ตาข่ายเข้าไปถูกลูกบอลได้ ถ้าไม่กีดขวางการเล่นลูกของทีมตรงข้าม หรือมือของผู้ เล่นอาจล้ำ ตาข่ายได้ ถ้าขณะถูกลูกเป็นการถูกลูกบอลในแดนของทีมตนเอง แต่ผู้เล่นไม่สามารถถูกตาข่าย ระหว่างเสาอากาศ ในขณะที่กําลังเล่นลูกได้ จะถือว่าผิดกติกาทันที


กฎข้อที่ 12 การเสิร์ฟ ผู้เสิร์ฟจะต้องเสิร์ฟจากด้านหลังของสนาม โดยยืนไม่เลย แนวเส้นข้างและห้ามเหยียบเส้นหลัง โยนบอลและตีกลาง อากาศให้บอลข้ามตาข่ายไปยังแดนของคู่แข่งภายใน 8 วินาทีหลังกรรมการให้สัญญาณ และเมื่อฝ่ายเสิร์ฟชนะการเล่นลูกนั้น ผู้ที่ทําการเสิร์ฟอยูแล้วจะทําการเสิร์ฟต่อ แต่ หากฝ่ายรับลูกเสิร์ฟชนะในการเล่นลูกนั้น จะได้สิทธิทํา การเสิร์ฟและต้องหมุนตําแหน่งก่อนทําการเสิร์ฟ ผู้เล่นที่ หมุนจากตําแหน่งหน้าขวาไปยังตําแหน่งหลังขวาจะเป็นผู้ เสิร์ฟ


กฎข้อที่ 13 การหยุดการเล่น การหยุดการเล่น มีเพียงการขอเวลานอกและการเปลี่ยน ตัวเท่านั้น โดยแต่ละทีมสามารถขอเวลานอกได้ไม่เกิน 2 ครั้ง และเปลี่ยนตัวผู้เล่นได้ไม่เกิน 6 คน/เซต การ ขอเวลานอกแต่ละครั้งใช้เวลา 30 วินาที


กฎข้อที่ 14 การหยุดพักและเปลี่ยนแดน การหยุดพักในช่วงเวลาระหว่างเซต จะพักเซตละ 3 นาที ระหว่างการหยุดพักจะทําการเปลี่ยนแดนด้วย ส่วนในเซตตัดสินจะเปลี่ยนแดนเมื่อทีมใดทีมหนึ่งทําได้ 8คะแนน


ตัวรับอิสระสามารถเปลี่ยนเข้าแทนผู้เล่นแดนหลังคนใดก็ได้ ตัวรับอิสระไม่สามารถทำ การรุกได้โดยสมบูรณ์จากทุก พื้นที่ของสนาม ไม่อนุญาตให้ตัวรับอิสระทําการเสิร์ฟ บล็อก หรือ พยายามบล็อก ไม่อนุญาตให้เพื่อนร่วมทีมทําการรุกโดยสมบูรณ์ ขณะ ที่ลูกบอลอยูสูงกว่าขอบบนของตาข่าย ถ้าลูกนั้นมาจากการ ส่งด้วยนิ้วมือของตัวรับอิสระที่อยูในแดนหน้าของทีม ตนเอง กฎข้อที่ 15 ผู้เล่นตัวรับอิสระ (LIBERO) แต่ละทีมจะมีสิทธิแต่งตั้งผู้เล่นที่รับได้ดีเป็นพิเศษ เป็นตัวรับอิสระได้ถึง 2 คน แต่ในการแข่งขันจะมีผู้ เล่นตัวรับอิสระในสนามได้เพียงคนเดียว ตัวรับอิสระ จะต้องสวมชุดแข่งขันเฉพาะ ซึ่งมีสีที่แตกต่างจาก เพื่อนร่วมทีมอยางชัดเจน และมีลักษณะการเล่นดังนี้


Thak you


Click to View FlipBook Version