ปลาสลิดบางบ่อ บ่ ของดีสมุทรปราการ
ปลาสลิดหรือปลาใบไม้ เป็นปลาน้ำ จืดในภาคพื้นเอเซีย พบมากแถบประเทศไทย กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย ปากีสถาน ศรีลังกา และฟิลิปินส์ สำ หรับประเทศไทยปลาสลิดซึ่งเป็นปลาพื้นบ้านของ ประเทศไทย มีแหล่งกำ เนิดอยู่ในที่ลุ่มภาคกลาง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า "TRICHOGASTER PECTRALIS" นิยม เลี้ยงกันมากในแถบบริเวณภาคกลางของประเทศไทย โดยจะเลี้ยงอยู่ในนาข้าว คนเลี้ยงปลาสลิด เรียกว่า "ชาวนาปลาสลิด" และบ่อเลี้ยงปลาสลิด เรียกว่า แปลงนาปลาสลิด หรือล้อมปลาสลิด ซึ่งมีกรมประมงเป็น ผู้ส่งเสริมการเลี้ยงปลาสลิดดังกล่าว สำ หรับแหล่งปลาสลิดที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีมีรสชาดดี เนื้ออร่อย กลิ่นหอม คือปลาสลิดบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั่วไป เนื่องจากผู้ เลี้ยงปลาสลิดในอำ เภอบางบ่อ เป็นผู้แปรรูปปลาสลิดสดเป็นปลาสลิดหอม จากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีจังหวัดไหนผลิตปลาสลิดหอมได้รสชาดดี เหมือนกับปลาสลิดหอมของอำ เภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ประวัติความเป็นมา อ้างอิง http://www.bangkokideaeasy.com/informations/otopdelivery/index.php?op=dynamiccontent_detail&dynamiccontent_id=2088&id=2653
ทำ ไมต้องนำ ปลาสลิดมาทำ ปลาแดดเดียว เมื่อมีปลามาก ๆ ก็มีการถนอมอาหารไว้โดยหมักเกลือไว้ 1 คืน แล้วน้ำ มาล้างเกลือ ออกแล้วจึงนำ ไปตากแห้งกลางแดด ถ้าตากไว้ 1 วัน ก็เรียกว่า ปลาสลิดแดดเดียว เมื่อพูดถึงปลาสลิดที่จะซื้อเป็นของฝากนั้น จะหมายถึงปลาตากแห้ง ที่แปรรูปเป็น ปลาเค็มแล้ว และมักจะไม่ค่อยพูดถึงปลาสลิดสด เพราะปลาส่วนใหญ่จะถูกแปรรูป ทั้งหมด ปลาที่วางขายให้เห็น จะเป็นปลาแห้งทั้งตัว ไม่มีหัว ไม่มีเกล็ด เหลือครีบหลัง และหางไว้ (ไม่ได้ผ่าครึ่งออกเหมือนปลาช่อนตากแห้ง) ปลาสลิดเป็นปลาที่มีลำ ตัว แบนเหมาะในการทำ ปลาเค็มกว่าปลาชนิดอื่น ๆ อ้างอิง http://www.bangkokideaeasy.com/informations/otopdelivery/index.php?op=dynamiccontent_detail&dynamiccontent_id=2088&id=2653
วิธี วิ เ ธี ลือกปลาสลิด และพยายามสังเกตดูว่าเป็นสีจากปลา หรือเป็นการย้อมสี ถ้ารู้สึกว่าสีมองดูแปลกๆ ไม่เหมือนปกติ ก็ควรหลีกเลี่ยง อย่าเสี่ยงดีกว่า เลือกปลาที่ตัวออกสีขาว ๆ เนื้อปลาจะต้องแน่น เมื่อลองใช้นิ้วกดดูแล้วต้องไม่แข็งมาก หรือนิ่มจนนิ้วกดไปแล้วบุ๋มเป็นรอย เนื้อต้องมีความดีดตัวขึ้นมา ดูในหัวปลา (ส่องจากทางหัวที่ถูกตัดออกไปแล้ว) ควรเห็นเนื้อขาว และบัวไม่แตก (บัวก็คือเยื่อ ที่เป็นมันในตัวปลา ส่องตรงช่องหัวปลาไปจะเห็นบัว) และจะต้องไม่มีเม็ดเกลือ พิจารณาจากกลิ่น อาจได้กลิ่นสาบดินโคลนจากตัวปลา ถ้าเป็นเช่นนั้นเราก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะทำ ให้ปลาสลิดทอดของเรามี กลิ่นสาบดินโคลนด้วย ทานแล้วไม่อร่อย เลือกที่ตัวโต ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปลาที่มีลักษณะตัวอ้วน ๆ สั้น ๆ ยิ่งดี เพราะลักษณะนี้บ่งบอกว่า เป็นปลาสลิดตัวเมีย นำ มากินจะอร่อยกว่าตัวผู้ ปลาสลิดมีแมลงตอมไหม โดยธรรมชาติปลาสลิดแดดเดียวที่ยังไม่แห้งสนิด ย่อมมีกลิ่นที่ชักชวนให้แมลงวันมา ตอมอยู่แล้ว ถ้าแมลงวันไม่ยอมตอม นั่นอาจมีสิ่งผิดปกติที่แมลงวัยยังกลัวไม่กล้าเข้าใกล้ อ้างอิง https://zalid.online/
การเก็บรัก รั ษาปลาสลิด ซื้อปลามาแล้วยังไม่ทอดทานทันที ถ้าเป็นปลาสลิด แดดเดียว จะนำ ออกตากให้แห้งอีกสักหน่อยก็ได้ หรือ ห่อด้วยกระดาษสะอาดๆ แล้วใส่ในถุงพลาสติก (ถุงซิป) อีกที ปิดปากถุงให้แน่น แช่ช่องฟรีซแบบแช่แข็งไปเลย ก็ จะเก็บได้นาน เวลานำ ออกมาทอด ให้วางไว้ในอุณหภูมิ ห้อง รอให้น้ำ แข็งละลายก่อน จึงค่อยนำ ไปทอด เมื่อซื้อปลามาทีละหลายตัว แล้วไม่ต้องการทอดบ่อยๆ ก็ สามารถทอดไว้ทั้งหมดทีเดียว แล้วนำ ปลาที่ทอดแล้ว เก็บใส่ ถุงพลาสติกรัดยางให้แน่น แช่ ตู้เย็นเก็บไว้กินภายหลังได้ หากซื้อเพื่อนำ ไปต่างประเทศ ควรซื้อเป็นปลาสลิดหอม เพราะตากค่อนข้างแห้งกว่า ปลาแดดเดียว ไม่เกิดการเน่า เสียระหว่างทาง หรือจะซื้อแบบ ทอดแล้ว ก็จะยิ่งสะดวกกว่า หากต้องการส่งไปรษณีย์ ปลาสลิดควรเป็นปลาที่ตาก แห้งสนิท ไม่มีกลิ่น การห่อปลา ควรซีลสุญากาศ หรือห่อ ด้วยกระดาษหลายๆ ชั้น ใส่ในถุงพลาสติกหรือถุงซิป (อาจใส่ลูกมะกรูดหั่นเป็นแว่นๆ ไว้ในถุงด้วยเพื่อดับกลิ่น) จากนั้นส่ง EMS ไปเลย เพื่อความรวดเร็ว อ้างอิง www.ceediz.com
วิธี วิ ท ธี อดปลาสลิด ขั้น ขั้ ตอนที่ 1 ขั้น ขั้ ตอนที่ 2 หากเป็นปลาที่เพิ่งซื้อมา แล้วต้องการทอดทานเลย ก่อนทอดควรล้างปลาด้วยน้ำ ธรรมดา เพื่อล้างสิ่ง สกปรกหรือฝุ่นออกก่อน จากนั้นพักให้สะเด็ดน้ำ หรือ ใช้กระดาษทิชชู่ซับด้านนอกตัวปลาให้แห้ง บั้งข้างละ 1-2 บั้ง (บางคนอาจบั้งเป็นรูปกากบาท หรือเป็นริ้วก็ มี) หากเป็นปลาที่เก็บอยู่ในช่องฟรีซ เมื่อนำ ออกมาท อด ควรวางไว้ที่อุณภูมิห้องให้น้ำ แข็งละลายก่อน จาก นั้นล้างแล้วซับให้แห้งก่อนทอด - ทอดทานแบบนุ่มใน ใช้น้ำ มันพอให้ท่วมปลานิดๆ (ไม่ต้องใช้น้ำ มัน มาก) ก่อนทอดเร่งไฟให้น้ำ มันร้อนจัด พอนำ ปลาลงกระทะ ให้หรี่ไฟ เป็นไฟกลางถึงอ่อน ใส่ปลาแล้ว ทอดให้ปลาด้านที่โดนน้ำ มันเหลือง สุก จากนั้นกลับปลาอีกข้างให้โดนน้ำ มัน (ไม่กลับไปมาบ่อยๆ) จะได้ ปลาทอดแบบกรอบนอกนุ่มใน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ - ทอดแบบให้กรอบทั้งตัว จะต้องทอด 2 รอบ (ทอดด้วยน้ำ มัน ปาล์ม จะช่วยให้กรอบได้ดีกว่า) ทอดรอบแรกให้พอสุก เนื้อออก ขาวๆ หรือเหลืองนิดๆ จากนั้นนำ ขึ้นมาพัก แล้วแกะเอาแต่เนื้อ วิธี การแกะเนื้อปลาออก คือ นำ ปลามาวางตั้ง (ท่าเดียวกับปลาที่ กำ ลังว่ายน้ำ ) แล้วเอาสันมีดทุบตรงครีบด้านบนเบาๆ เนื้อปลาจะ หลุดออกมาจากก้างกลางตัว จากนั้นนำ เนื้อปลาลงทอดอีกครั้ง ใช้ ไฟอ่อน ทอดจนเหลือง จะได้เนื้อปลากรอบฟู (เวลาเก็บปลาสลิด ทอดกรอบ ควรใส่ถุง รัดหนังยางให้แน่น จะเก็บไว้ได้นาน) การนำ ปลาสลิดไปทอด ทำ ได้หลายวิธี แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน อ้างอิง www.ceediz.com
เมนูปลาสลิด ปลาสลิดที่ทอดแล้ว สามารถนำ มาทานกับข้าวสวย หรือข้าวต้ม ได้เลย เพราะจะมีรสชาติออกเค็ม ปะแล่มๆ กำ ลังดี หรือจะทานเป็น เครื่องแนมกับอาหารอื่น เช่น ทานคู่กับแกงส้ม ทานกับน้ำ พริก กะปิ บ้างก็นำ มาประกอบอาหาร เป็นเมนูใหม่ - ยำ ปลาสลิดทอด - ต้มโคล้งใบมะขามใส่ปลาสลิด - ต้มข่าปลาสลิด - ข้าวผัดปลาสลิด - น้ำ พริกปลาสลิด - ปลาสลิดผัดพริกขิง - ผัดคะน้าปลาสลิด - สปาเกตตี้ปลาสลิด นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูป จากปลาสลิดอีกมากมาย เช่น ปลาสลิดฟู น้ำ พริกเผาปลาสลิด น้ำ พริกนรกปลาสลิด เนื้อปลา สลิดอบกรอบ ก้างปลาสลิดทอด กรอบ เป็นต้น อ้างอิง www.ceediz.com
แหล่งซื้อ ซื้ปลาสลิดบางบ่อ บ่ - ริมถนนสุขุมวิทสายเก่า ตั้งแต่ช่วงคลองด่าน ไปทางวัดสีล้ง จนไปถึงแถววัดหงษ์ทอง (อำ เภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา) เป็นแผง ริมทาง มีหลายเจ้า หลายราคา ทั้งปลาสลิดแดดเดียว และปลาหอม - ในตลาดบางบ่อ บริเวณเชิงสะพานข้ามคลองสำ โรง ตรงตลาดบางบ่อ เป็นเจ้าใหญ่ที่มีผู้คนมาซื้อไปขายยังตลาดในกรุงเทพฯ - ริมถนนหลวงแพ่ง เป็นร้านแผงลอยริมทาง มีให้เห็นอยู่ไม่มากนัก - ริมถนนบางนา-ตราด มีร้านริมทางให้เห็นเป็นบางเจ้า *** การซื้อปลาสลิดบางบ่อ ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ง่าย เพราะมีส่ง ขายไปทั่วประเทศ ตามตลาดต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด รวม ถึงสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้จากหลายเจ้าได้แล้ว *** อ้างอิง www.ceediz.com