โรงงานต้นแบบของโรงงานอตุ สาหกรรมเชิงนเิ วศที่มคี ุณค่าตอ่ สังคม
กจิ กรรมภายใตโ้ ครงการยกระดับและพฒั นาโรงงานอุตสาหกรรมตามตวั ช้วี ัดการเป็นเมืองอตุ สาหกรรมเชิงนิเวศ
ระดบั ที่ 2 การสง่ เสริม (Enhancement) และจัดทำฐานขอ้ มลู เพือ่ แลกเปล่ยี นทรัพยากรร่วมกัน (RECP)
ในพืน้ ท่เี ปา้ หมาย 7 จังหวดั
(จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครราชสีมา ขอนแกน่ ราชบรุ ี สรุ าษฎร์ธานี และสงขลา)
จากกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) ได้กำหนดกรอบการพัฒนายุทธศาสตร์ท่ี 5
การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเร่งอนุรักษ์ฟื้นฟูและสร้างความมั่นคงของฐาน
ทรัพยากรธรรมชาติ และมีความมัน่ คงดา้ นน้ำ รวมทั้งมีความสามารถในการป้องกันผลกระทบและปรับตัวต่อการ
เปลีย่ นแปลงสภาพภมู ิอากาศและภยั พบิ ัติธรรมชาติ และพฒั นามุ่งสกู่ ารเป็นสงั คมสเี ขยี ว โดยในภาคอุตสาหกรรมได้
ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศและเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้ อม ประกอบกับ
แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 12 ยทุ ธศาสตร์ท่ี 3 การสรา้ งความเขม้ แขง็ ทางเศรษฐกิจและแขง่ ขนั
ได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น โครงการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ได้กำหนดแนวทางการพัฒนาและยกระดับ
อุตสาหกรรมให้เป็นกลไกหลักในการขับเคลอ่ื นเศรษฐกิจของพ้นื ที่ ควบคกู่ บั การให้ความสำคัญกับคุณภาพชวี ติ ของ
ประชาชนและสิง่ แวดลอ้ มในพนื้ ที่ เพ่อื ให้อตุ สาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกันกบั ชุมชนได้อยา่ งยัง่ ยนื เพอื่ ให้พื้นที่ได้รับ
การพฒั นาสู่เมืองอตุ สาหกรรมเชงิ นิเวศจำนวน 15 จงั หวัด
ในปีงบประมาณ 2563 กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ดำเนินการโครงการยกระดับและพัฒนาโรงงาน
อุตสาหกรรมตามตัวชี้วัดการเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศระดับท่ี 2 การส่งเสริม (Enhancement) และจัดทำ
ฐานข้อมูลเพือ่ แลกเปล่ียนทรพั ยากรรว่ มกัน (RECP) ในพืน้ ทเ่ี ป้าหมาย 7 จงั หวัด (จงั หวัดพระนครศรอี ยธุ ยา สระบุรี
นครราชสีมา ขอนแก่น ราชบุรี สุราษฎร์ธานี และสงขลา) มีเป้าหมายเพื่อยกระดับพฒั นาโรงงานอุตสาหกรรมด้าน
สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และเกิดการร่วมมือเพื่อพัฒนาชุมชน เพื่อให้การพฒั นาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศใน
ส่วนภาคอุตสาหกรรม ผ่านเกณฑ์การประเมินความเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศระดับ 3 ในปี 2564 ตาม
เป้าหมายที่วางไว้ ในพื้นที่เป้าหมาย 7 จังหวัด (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น ราชบุรี
สรุ าษฎร์ธานี และสงขลา) โดยสร้างกระบวนการยกระดับและพฒั นาโรงงานสกู่ ารเป็นโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
ทมี่ ีคุณคา่ ตอ่ สงั คม ซ่งึ ได้วา่ จา้ ง บรษิ ัทยไู นเตด็ แอนนาลสิ ต์ แอนด์ เอ็นจเิ นยี ร่ิง คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นบริษัทที่
ปรกึ ษา โดยมีโรงงานอุตสาหกรรมท่มี ศี ักยภาพในการยกระดับและพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมผ่านการประเมินสู่
โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มีคุณค่าต่อสังคม รวมจำนวนน 35 โรงงาน และเพื่อให้เป็นแนวทางในการ
ดำเนินการที่ดตี ่อไปให้กับโรงงานอุตสาหกรรมตา่ งๆ จงึ ได้รวบรวมข้อมูล และถอดบทเรียนวิเคราะห์ความสำเร็จ
ของโรงงานต้นแบบของโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มีคุณค่าต่อสังคม เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับโรงงาน
อุตสาหกรรมต่างๆ ในการยกระดับและพัฒนาการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และความ
รบั ผดิ ชอบต่อสังคม ขององคก์ รตนเองต่อไป
3
1 วตั ถปุ ระสงค์
1 เพื่อรวบรวมข้อมูลและถอดบทเรียนวิเคราะห์ความสำเร็จของโรงงานต้นแบบของโรงงาน
อุตสาหกรรมเชิงนเิ วศทม่ี ีคุณคา่ ตอ่ สงั คม
2 เพื่อเป็นตัวอย่างแนวทางการยกระดับและพัฒนาโรงงานสู่โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มี
คุณคา่ ต่อสังคม
2 แนวทางการถอดบทเรียน “โรงงานต้นแบบของโรงงานอุตสาหกรรมเชงิ นิเวศทมี่ คี ุณค่า
ตอ่ สงั คม”
การถอดบทเรียน “โรงงานต้นแบบของโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศทมี่ ีคณุ ค่าต่อสังคม” ปี 2563
ทป่ี รึกษามีแนวทางการศกึ ษาและวิเคราะหด์ ังนี้
1. คัดเลือกโรงงานอุตสาหกรรมเพ่ือเป็น “โรงงานต้นแบบของโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มี
คณุ ค่าต่อสงั คม” ในการถอดบทเรียน ซ่งึ เกณฑใ์ นการคัดเลือกดังนี้
• เป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมกิจกรรมโครงการในปี 2563 ของพื้นที่ 7 จังหวัด
เป้าหมาย
• เป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่เคยเป็นโรงงานต้นแบบในกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของ
โครงการ ปี 2563
• เป็นโรงงานอตุ สาหกรรมทม่ี กี ิจกรรมและบรหิ ารจัดการด้านต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องผ่านเกณฑ์
การประเมินโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มีคุณค่าต่อสังคม ระดับ Gold+ Award
(Gold Awards and Honor People Awards) ปี 2563 โดยจะเลือก 3 ลำดับแรกที่มี
คะแนนสูงสุด
2. ศกึ ษาขอ้ มูลการดำเนินการตามเกณฑ์โรงงานอตุ สาหกรรมเชิงนิเวศทีม่ คี ุณค่าต่อสงั คม ปี 2563
และสรปุ ผลการดำเนินการเพอื่ เปน็ ตัวอย่างในการยกระดับและพัฒนาโรงงานอตุ สาหกรรม
3. ประเมินแนวทางการบรหิ ารจดั การตามเกณฑ์โรงงานอุตสาหกรรมเชิงนเิ วศที่มีคุณค่าต่อสังคม
ของ “โรงงานตน้ แบบของโรงงานอตุ สาหกรรมเชิงนเิ วศที่มีคุณค่าต่อสงั คม” โดยใชเ้ ทคนคิ SWOT ในการ
ประเมนิ ผลความสำเร็จขององค์กร
4. สรปุ ผลการวเิ คราะห์ผลความสำเร็จของ โรงงานต้นแบบของโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศท่ีมี“
”คณุ คา่ ต่อสังคม
4
3 โรงงานต้นแบบของโรงงานอุตสาหกรรมเชงิ นเิ วศทม่ี ีคณุ คา่ ต่อสังคม ปี 2563
จากเกณฑ์การคดั เลือกโรงงานอตุ สาหกรรมเพอื่ เปน็ “โรงงานตน้ แบบของโรงงานอุตสาหกรรมเชิง
นิเวศท่ีมคี ุณค่าตอ่ สังคม” ที่กำหนดไว้ พบว่า มีโรงงานอุตสาหกรรมเชงิ นิเวศทีม่ ีคณุ คา่ ต่อสังคมท่ีได้ระดับ
Gold+ Award (Gold Awards and Honor People Awards) จำนวน 8 โรงงาน โดยเมื่อพิจารณาร้อย
ละของคะแนนจากการประเมินโรงงานอตุ สาหกรรมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศทีม่ คี ุณค่าต่อสังคมใน 3 ลำดบั
แรก คือ
• บรษิ ทั สยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด (3-38(2) – 1/12รบ)
• บรษิ ทั เซฟสกิน เมดดคิ อล แอนด์ ไซเอนทฟิ ิก (ประเทศไทย) จำกดั (3-52(4)-1/41สข)
• บริษัท ปนู ซิเมนต์ไทย (ท่าหลวง) จำกดั (3-57(1)-4/35สบ)
ซึ่งทงั้ 3 โรงงานเคยเป็นโรงงานตน้ แบบในกจิ กรรมแลกเปลยี่ นเรยี นรขู้ องโครงการ จึงเห็นสมควรที่
ทั้ง 3 โรงงาน จะเป็น “โรงงานต้นแบบของโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มีคุณค่าต่อสังคม” เพื่อเป็น
ตัวอย่างและบทเรียนให้กับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในการดำเนินงานยกระดับและพัฒนาโรงงาน
อุตสาหกรรมตามเกณฑ์โรงงานอตุ สาหกรรมเชิงนิเวศท่มี ีคณุ ค่าต่อสงั คมในอนาคต โดยได้รวบรวมขอ้ มูลและ
กิจกรรมท่ีโรงงานอุตสาหกรรมได้ดำเนนิ กิจกรรมตามเกณฑ์การประเมินโรงงานอตุ สาหกรรมเชิงนิเวศที่มี
คุณค่าต่อสังคม และถอดบทเรียนวิเคราะห์ความสำเร็จของโรงงานอุตสาหกรรมทั้ง 3 โรงงาน โดยมี
รายละเอียดดังนี้
5
บริษทั สยามคราฟทอ์ ุตสาหกรรม จำกดั
บริษัท สยามคราฟทอ์ ตุ สาหกรรม จากัด (3-38(2) – 1/12รบ) หรือ “สยามคราฟท์” ตงั้ อยทู่ ่ี 19 หมู่ 19 ตาบลท่าผา อาเภอบ้านโป่ง จังหวดั ราชบุรี
ประเภทกิจการผลติ กระดาษเหนียวและผลติ ภณั ฑ์กระดาษ
โดยได้กอ่ ตงั้ ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2508 ปัจจบุ นั มีจานวนพนักงานกว่า 1,500 คน และคู่ธรุ กจิ กว่า 2,000 ราย
สยามคราฟท์ ไดใ้ ห้ความสำคญั ในการบริหารจดั การส่งิ แวดล้อม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีนโยบายท่ี
ระบุว่า “เรามุ่งมั่นในอุตสาหกรรมกระดาษเพื่อบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพและบริการระดับโลก ใช้งานได้
อย่างปลอดภยั ใหบ้ รกิ ารเพือ่ สรา้ งความพึงพอใจสูงสดุ ต่อลกู คา้ และผ้มู สี ่วนร่วมในธุรกจิ ด้วยจิตสำนึกท่ี
แน่วแน่เพื่อบรรลุเป้าหมายของอาชีวอนามัย ความปลอดภัย สิ่งแวดล้อม การจัดการพลังงาน ความ
รับผดิ ชอบต่อสงั คมบนพืน้ ฐานการดำเนนิ ธุรกิจอย่างต่อเนือ่ งและย่งั ยืน”
สยามคราฟท์ มีหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายใน หน่วยงานทีด่ แู ลดา้ น CSR อยา่ งชัดเจน ตลอดจน
การดูแลด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัย มีการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะด้านที่มุ่งมั่นใน
6
การทำงานในแต่ละดา้ น รวมทั้งมีคณะทำงานใน หลากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็น รางวัล CSR-
การตรวจสอบ เช่น คณะทำงานความปลอดภัย DIW รางวลั TPM Special Award รางวัล Zero
อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมในการทำงาน Accident Award รางวัล 3Rs รางวัล Prime
(SPAP) คณะทำงานเตรียมรับการตรวจประเมนิ Minister’ s Industry Award : Logistics
ประสิทธิผลการดำเนินงานสิ่งแวดล้อม (EPAP) Management รางวัลสถานประกอบการดีเด่น
คณะทำงานบูรณาการระบบงาน SPAP&EPAP ด้านการส่งเสริมพัฒนาฝีมือแรงงาน และการ
คณะทำงานสง่ เสริมและประชาสัมพันธ์ Circular รับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 4 เป็นต้น อีก
Economy ค ณ ะ ท ำ ง า น Reduce Water ทั้งการที่โรงงานอุตสาหกรรมไม่เกิดอุบัติเหตุ
withdraw project คณะกรรมการพัฒนาความ รา้ ยแรงหรอื อบุ ตั ิภัย ไฟไหม้ ระเบดิ รั่วไหลของ(
ยั่งยนื ของโรงงานบ้านโป่ง คณะกรรมการติดตาม ภายในโรงงานอตุ สาหกรรมที่มีผล (สารเคมี ฯลฯ
ตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และ ต่อพนักงาน และต่อชุมชน ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
ประชาสมั พนั ธ์ เป็นตน้ รวมท้ัง ได้ให้ความร่วมมอื (พ.ศ. 2561-2563( และไมม่ ีขอ้ ร้องเรยี น (อยา่ งมี
กับหน่วยงานภายนอกในการเป็นส่วนหนึ่งของ ลายลักษณ์อักษรจากราชการ( ก็เป็นสิ่งหนึ่งท่ี
คณะทำงาน และให้ความร่วมมือ ให้ความเห็น สะท้อนให้เหน็ ถึงการบริหารจดั การ และดแู ลเอา
ตลอดจนดำเนินกิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ใจใสร่ อบดา้ นอยา่ งจริงจังของสยามคราฟท์
คณะกรรมการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชงิ นิเวศ
จงั หวัดราชบรุ ี คณะทำงานเครือขา่ ยอตุ สาหกรรม
เชิงนิเวศ พื้นที่ 4 ตำบล คณะทำงานขับเคลื่อน
การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ พื้นท่ี
4 ตำบล ตลอดจนมีคณะทำงานในการร่วม
พัฒนาชุมชนกับกลุ่มชุมชนในพื้นที่ อันได้แก่
คณะกรรมการคนรกั ษบ์ า้ น ซง่ึ จะมีการมอบหมาย
แตล่ ะทมี ในการดแู ลพื้นที่ ถงึ 17 ทีม 17 หม่บู า้ น
ซึ่งจากการที่ สยามคราฟท์ มีการนโยบายที่แน่ว
แน่ มีมาตรฐานในการทำงาน และการมอบหมาย
การทำงานอย่างชัดเจน ส่งผลให้การบริหาร
จัดการทั้งภายในและภายนอกมีคุณภาพและ
ประสิทธิภาพ มีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ทั้ง
ภายในและภายนอกอย่างจริงใจและชัดเจน ดัง
เห็นได้จากการได้รับรางวัลเกียรติยศจาก
7
ในปี พ.ศ. 2563 สยามคราฟท์ ไดเ้ ข้ารว่ มกจิ กรรมโรงงานอตุ สาหกรรมเชงิ นิเวศทม่ี ีคณุ คา่ ตอ่ สังคม
ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยแสดงกิจกรรมที่โรงงานอุตสาหกรรมได้นำเสนอตามเกณฑ์การประเมนิ
ประสทิ ธภิ าพโรงงานอตุ สาหกรรมเชิงนเิ วศทม่ี ีคุณคา่ ต่อสังคม ดังนี้
Eco 01 สัดส่วนพนื้ ท่สี เี ขยี ว เรือนรับรอง รวมอีก 56,592 ตารางเมตร ซึ่ง
รวมมีพื้นที่สีเขียวต่อพื้นที่โรงงานถึงร้อยละ
สยามคราฟท์ ตามเลขทะเบยี น 3-38(2) – 1/12 15.97 โดยโครงการเด่นที่มีการดำเนินการคือ
รบ มพี นื้ ทีท่ งั้ หมด 665,293 ตารางเมตร และจดั การเปลยี่ นพืน้ ทีจ่ ุดท้งิ ขยะ เป็นพืน้ ทสี่ ีเขยี ว โดย
ให้มีพื้นที่สีเขียวภายในพื้นที่โรงงานรวมถึง การปรับสภาพพื้นที่ และประชาสัมพันธ์ให้
49,628 ตารางเมตร อีกทั้งยังจัดให้มพี ้ืนทีส่ เี ขยี ว พนักงานรว่ มกนั ปลูกต้นไม้ในพนื้ ที่
ด้านนอกพื้นที่โรงงาน ไม่ว่าจะเป็นพืน้ ท่ีในส่วน
อาคารออฟฟิศ ศูนย์เรียนรู้ อาคารฝึกอบรม
8
Eco 02 การจดั ซือ้ จัดจา้ งสนิ คา้ และบริการทเ่ี ป็นมิตรตอ่ สิ่งแวดลอ้ ม (Green Purchasing)
สยามคราฟท์ ส่งเสริมนโยบายการผลิตและการ มัย และสิ่งแวดล้อม ให้กับ Supplier เพื่อขอ
บริโภคอย่างยั่งยืน โดยการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว การรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 2 โดย
(Green Procurement)1 มีการจัดทำเว็บไซต์ ปัจจุบันมี Supplier ขั้นที่ 1 ที่ได้รับการรับการ
ภายในเพื่อให้พนักงานเลอื กใช้สนิ คา้ ฉลากเขียว รับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 2 ขึ้นไป ร้อย
และมีการจัดทำบัญชีผู้ค้า (Vendor list) ตาม ละ 79.4 และมีแผนที่จะจัดกิจกรรมอบรมให้
บัญชีรายการผลิตภัณฑ์และบรกิ ารที่เปน็ มิตรกับ ความรู้ส่งเสริมให้ Supplier ไดร้ บั อุตสาหกรรมสี
ส่งิ แวดลอ้ ม รวมทง้ั มีกจิ กรรมการสง่ เสริมให้ผคู้ า้ เขยี ว ระดับ 2 ขนึ้ ไปใหค้ รบถ้วนภายในปี 25665
ตระหนักถึงความสำคัญของการผลิตสนิ ค้าและ อีกทั้งยังมีแผนการแจ้งเตือน Supplier ที่
บริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการจัด ใบรับรองจะหมดอายุให้ดำเนินการต่ออายุ
อบรมให้ความรู้ด้านความปลอดภัย อาชีวอนา ใบรบั รอง
1 การจัดซื้อจดั จา้ งสเี ขยี ว (Green Procurement) หมายถึง การจัดซอ้ื การจดั สนิ คา้ และบริการประเภทเดยี วกนั โดยพจิ ารณาตลอดทั้งวฏั จักรชวี ติ ทกุ ขั้นตอน
จ้างสนิ คา้ และบรกิ ารทีจ่ ะส่งผลกระทบตอ่ สิง่ แวดล้อมน้อยที่สดุ เมอื่ เทียบกบั ฉลากสิง่ แวดล้อม หมายรวมทัง้ ฉลากประเภทที่ 1, 2 และ 3
9
Eco03 การดำเนินกิจกรรมหรือมาตรการการขนส่งที่ปลอดภัย ลดต้นทุน หรือเพิ่มประสิทธิภาพ
ระบบขนส่งและโลจสิ ติกสข์ ององค์กร
สยามคราฟท์ มหี นว่ ยงานทร่ี ับผดิ ชอบโดยเฉพาะ ตลอดจนการบริหารจัดการเส้นทางขนส่ง
Logistics Management Office (LMO) ซึ่งจะ ผลติ ภณั ฑ์ โดยเมือ่ มเี ส้นทางใหม่ จะมีการสำรวจ
รับผิดชอบบริหารจัดการสินค้าคงคลัง และการ เส้นทาง ประเมนิ ความเส่ียง กำหนดจดุ พกั และ
ขนส่งสู่ลูกคา้ ศูนยก์ ระจายสินคา้ และส่งข้ึนเรือ จุดจอดรถเพื่อความปลอดภัย และลดต้นทุน
เพื่อไปต่างประเทศ โดยเคยได้รับรางวัล นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาระบบบริหารจัดการ
อุตสาหกรรมดเี ด่นประเภทการจัดการโลจิสติกส์ เที่ยวขนส่ง โดยให้สามารถใช้ประโยชน์ท้ังเท่ยี ว
ประจำปี 2556 แล้ว ซึ่งภายใต้การบริหาร ไปและเที่ยวกลับ โดยพัฒนา Web truck เพื่อ
จัดการของ LMO มีแผนและกิจกรรมในการ จะเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้า และการ
ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยงานขนส่ง จัดสง่ ซง่ึ ลดการวิง่ รถเปล่า 300 เทยี่ ว/เดือน ซ่ึง
สินค้า ทั้งการจัดรถขนส่งให้เหมาะสมกับ ลดการใชน้ ้ำมันเช้ือเพลงิ ประมาณ 30,000 ลิตร/
ลักษณะสินค้า รวมทั้งกำหนดวิธีการจัดเรียง เดอื น ซง่ึ สง่ ผลให้สามารถลดการปล่อยก๊าซเรอื น
สินค้าให้ปลอดภัย จัดทำเป็นคู่มือให้พนักงาน กระจกได้ถึง 100,000 Kg CO2/เดือน
ไดร้ ับทราบ การตดิ ป้ายบ่งชี้ตา่ งๆ ทตี่ ัวรถ และ
ยังมีการจัดทำเป็นการกำหนดคุณสมบัติความ เสน้ ทาง ภาพถา่ ย จดุ / ลกั ษณะอนั ตราย GPS Point
พรอ้ มของพนักงานขับรถ การอบรมพนักงานขับ 1. แยกปตท. - แยกมาบขา่ 12.760351, 101.164103
รถ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ของ จดุ อนั ตราย : 1
พนักงานขับรถเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิด 1 แยกไฟแดงทางเขา้ นคิ มฯ RIL
อุบัติเหตุ การติดตั้ง GPS ติดตั้งกล้อง มีระบบ
การแจ้งเตือนด้วยสัญญาณเสียงให้แก่พนักงาน ระดบั ความเสย่ี ง :
ทราบเมือ่ ขับขี่รถเรว็ เกินกำหนด หรือการไม่หยดุ
พักตามที่กำหนด หรือการจอดบริเวณที่ไม่ อนั ตราย :
เหมาะสม เป็ นทางลงเนนิ สญั ญาณไฟเสยี บอ่ ย และมกั จะมรี ถ
ฝ่ าไฟแดง
แนวทางปฏบิ ตั ิ :
ใชค้ วามเรว็ ไมเ่ กนิ 40 km./h ขณะขบั ผา่ น ขณะจอด
รอสญั ญาณไฟเขยี ว ตรวจสอบใหม้ ั่นใจกอ่ นออกรถ
2. แยกมาบขา่ - แยกหนองบอน จดุ อันตราย : 2
2 แยกไฟแดงหนองบอน
ระดบั ความเสยี่ ง : 12.811969, 101.140466
อนั ตราย :
เป็ นทางขนึ้ - ลงเนนิ สญั ญาณไฟเสยี บอ่ ย และมกั จะ
มรี ถฝ่ าไฟแดง
แนวทางปฏบิ ตั ิ :
ใชค้ วามเรว็ ไมเ่ กนิ 40 km./h ขณะขบั ผา่ น ขณะจอด
รอสญั ญาณไฟเขยี ว ตรวจสอบใหม้ น่ั ใจกอ่ นออกรถ
3. แยกตลาดนพเกา้ จดุ อันตราย : 3 12.856433, 101.091760
3 ตลาดนพเกา้ / จดุ u-turn กอ่ นถงึ แยกขนาไร่
ระดบั ความเสย่ี ง :
อันตราย :
เป็ นตลาดชว่ งเชา้ เย็น มรี ถ u-turn จานวนมาก
แนวทางปฏบิ ตั ิ :
ใชค้ วามเรว็ ไมเ่ กนิ 40 km./h ขณะขบั ผา่ น ระวงั รถ
u-turn และเวน้ ระยะหา่ งจากคนั หนา้ กรณีเบรค
กระทันหนั
นอกจากแผนและกจิ กรรมเพอ่ื การขนส่งและโลจิ
สติกส์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพแล้ว ยังมี
โครงการปรบั ปรงุ หลอดไฟฟา้ แสงสวา่ งในอาคาร
คลังสินค้า เป็น LED ทำให้สามารถลดการใช้
ไฟฟ้าได้ถึง 28,296 Kwh/เดือน หรือประหยัด
คา่ ไฟฟา้ ไดถ้ ึง 45,000 บาท/เดอื น
10
Eco04 การดำเนินกิจกรรมหรือมาตรการ Eco06 การลดปริมาณการระบายน้ำทิ้ง
จดั การน้ำใช้ ออกสู่แหล่งสาธารณะ
สยามคราฟท์ มีเป้าหมายลดการใช้น้ำใหม่ โดย สยามคราฟท์ มีแผนและกิจกรรมลดการระบาย
การใช้น้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วกลับมาใช้ใหม่ น้ำทิ้งออกนอกโรงงาน โดยการนำน้ำกลับมาใช้
และปรับปรุงอุปกรณ์ในกระบวนการผลิต ในกระบวนการผลิต และในพื้นที่สีเขียวของ
ปรับปรงุ ปม๊ั น้ำ วาลว์ น้ำและท่อส่งน้ำเพื่อลดการ ตนเอง ทำให้ลดการระบายน้ำทิ้งออกนอก
รั่วไหลของน้ำ ตลอดจนการประยุกต์ใช้ระบบ โรงงานอย่างต่อเนือ่ ง โดยภายใน 3 ปีที่ผ่านมา
อัตโนมัติที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการใช้น้ำอย่างมี ลดได้ถงึ ร้อยละ 60
ประสิทธิภาพ (Water Efficiency) ลดการเกิด
น้ำเสยี และปลอ่ ยน้ำท้งิ ออกนอกโรงงาน Eco07 การนำกากของเสียหรือวัสดุเหลือ
Eco05 การดำเนินกิจกรรมหรือมาตรการ ใช้ของโรงงานกลบั มาใช้ใหม่
จัดการนำ้ ทิ้ง สยามคราฟท์ มีเป้าหมายและได้บรรลุเป้าหมาย
เรื่อง Zero waste to Landfill ตั้งแต่ปี พ.ศ.
สยามคราฟท์ มีหน่วยงานที่ดูแลระบบบำบัดน้ำ 2556 และในปี พ.ศ. 25630 ก็บรรลุเป้าหมาย
เสียให้มีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ เรื่อง Circular Economy คือ การนำของเสีย
ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ผลวิเคราะห์คุณภาพน้ำทงิ้ ท้งั หมดกลับมาใชป้ ระโยชน์ หมายรวมถึง ใช้ใน
อยูใ่ นเกณฑม์ าตรฐานน้ำท้งิ โดยตลอด นอกจากน้ี กระบวนการผลิตหรือส่งไปเป็นวัตถุดิบในการ
ยังมีระบบการติดตามอย่างเป็นระบบ มีการ ผลิตของโรงงานอนื่
จัดทำฐานข้อมูลมลพิษ ระบบ E-compliance
เพอื่ รวบรวมกฎหมายทเี่ กี่ยวขอ้ ง และมแี ผนงาน
ให้ทำงานสอดคลอ้ งกบั กฎหมาย ตลอดจน มีการ
ประเมินความเสี่ยงเกี่ยวกับการปล่อยระบาย
มลพิษทางน้ำ และการซ้อมแผนฉุกเฉิน เช่น
ไฟฟ้าดับ ค่าน้ำทิ้งมีแนวโน้มเกินค่าควบคุม/
กฎหมาย เป็นต้น และมีการติดตามผลการ
ดำเนินงานต่างๆ ผ่านการประชุมคณะทำงาน
และผู้บริหาร
11
Eco08 การดำเนินกิจกรรมหรือมาตรการ Eco10 การบริหารจัดการคุณภาพอากาศ
ลดการใช้พลังงานหรอื เพิ่มประสทิ ธิภาพการใช้ จากปล่องระบายให้เป็นไปตามกฎหมาย และ
พลงั งาน ดกี วา่ กฎหมาย
สยามคราฟท์ มีการดำเนินมาตรการอนุรักษ์ สยามคราฟท์ มีการดำเนินมาตรการ ปรับปรุง
พลังงานอย่างต่อเนื่อง เช่น ปรับปรุงหรือ หรือเปลี่ยนแปลง กระบวนการหรือเครื่องจักร
เปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตหรือเครื่องจักร และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อลดปริมาณมลภาวะทาง
และอุปกรณต์ ่างๆ เพอื่ ลดปริมาณการใช้พลงั งาน อากาศที่มีผลกระทบตอ่ สิ่งแวดล้อม โดยมีความ
และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งในปี พ.ศ. เข้มข้นของมลสารต่างๆ ได้แก่ ฝุ่นละออง ก๊าซ
2563 มีจำนวนโครงการเพื่อลดการใช้พลังงาน ซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์ ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน
ถึง 22 โครงการ โดยมีเป้าหมายลดการใช้ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และโลหะหนักต่างๆ
พลังงานจากปีที่ผ่านมาเพียงร้อยละ 0.70 เชน่ ปรอท ตะกัว่ เป็นต้น อย่ใู นเกณฑ์มาตรฐาน
สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เกือบ 70,000 และค่าควบคุมที่ระบุไว้ในรายงานประเมินผล
บาท/ปี และทำให้สามารถลดการปล่อยก๊าซ กระทบสงิ่ แวดล้อมของโรงงาน
เรอื นกระจกไดก้ วา่ 10,000 Ton CO2/ปี
Eco11 การดำเนินกิจกรรมหรือมาตรการ
Eco09 การใชพ้ ลงั งานทดแทน
เพือ่ ลดการปล่อยก๊าซเรอื นกระจก
สยามคราฟท์ มีเปา้ หมายในการอนุรักษพ์ ลังงาน
และการปล่อยก๊าซเรอื นกระจก ซึง่ แผนงานท่ีได้ สยามคราฟท์ การดำเนินมาตรการลดปริมาณ
ดำเนนิ การนนั้ มีทั้งการดำเนนิ มาตรการปรบั ปรงุ ก า ร ป ล ่ อ ย ก ๊ า ซ เ ร ื อ น ก ร ะ จ ก แ ล ะ เ พิ่ ม
หรือเปลี่ยนแปลง กระบวนการผลิตหรือ ประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตและการ
เครอื่ งจักรและอปุ กรณต์ ่างๆ รวมทงั้ การเพิม่ การ บริการ เช่น เพิ่มการใชเ้ ชื้อเพลิงชีวมวล ลดการ
ใช้เชื้อเพลิงชวี มวล ลดการใช้ถา่ นหิน ติดตั้งแผง ใช้ถ่านหิน ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือน
โซลา่ รเ์ ซลลเ์ พอื่ ใช้ในระบบไฟฟ้าในออฟฟิศ และ กระจกได้ 550 kton CO2 ตดิ ตงั้ แผงโซล่าร์เซลล์
ระบบแสงสวา่ งในพ้ืนที่ เพื่อใช้ในระบบไฟฟ้าในออฟฟิศ และระบบแสง
สว่างในพื้นที่ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือน
กระจกได้ 30 kton CO2 ทั้งนี้ ได้มีกา ร
ดำเนนิ การและตดิ ตามการลดปรมิ าณการปล่อย
ก๊าซเรือนกระจกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จนทำให้
สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง
ร้อยละ 26.3
12
Eco12 การดำเนนิ กิจกรรมหรือมาตรการเพอื่ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัตถุดิบ
สยามคราฟท์ มีการศึกษาและปรับเปลี่ยนการใช้วัตถุดิบ (ชนิดแป้ง( ตลอดจนมีมาตรการ ปรับปรุงหรือ
เปลี่ยนแปลง กระบวนการหรือเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้วัตถุดิบใน
กระบวนการผลิตและการบรกิ าร ทำให้ลดปรมิ าณ ลดการใช้ทรพั ยากรตา่ งๆ ในการผลติ
Eco13 การจัดการสารเคมีและวัตถอุ ันตราย
สยามคราฟท์ มีการจัดทำบญั ชีรายการของสารเคมี สารเคมีอันตราย และวัตถุอันตราย มีคู่มือข้ันตอนการ
ประเมินความเสี่ยง กำหนดมาตรฐานการตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องมือท่ีเกี่ยวข้อง บรรจุภัณฑ์ เพื่อลดการ
รั่วไหลของสารเคมีและวัตถุอันตราย ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าเคยเกิดเหตุรั่วไหลแต่ไม่ส่งผลกระทบต่อ
พนกั งาน ชมุ ชน หรือสิ่งแวดลอ้ มภายนอก
Eco14 การจดั การดา้ นอาชีวอนามยั และความปลอดภยั
สยามคราฟท์ มีการวิเคราะห์และป้องกันความเสี่ยงจากอันตรายที่เกิดจากการประกอบกิจการ และมี
แผนปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงนั้นๆ ตลอดจนมีการอบรม และฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินเป็นประจำ จนทำให้
พนักงานมีความปลอดภยั และมสี ุขภาพที่ดีในการทำงาน ซ่งึ เกิดจากสภาพพน้ื ทีท่ ำงาน สภาวะแวดล้อมท่ดี ใี น
การทำงาน เช่น ด้านคุณภาพอากาศ แสง เสยี ง และความรอ้ นในพืน้ ที่การทำงาน เปน็ ตน้ มีการดแู ลสุขภาพ
พนักงานดา้ นอาชวี อนามัย การตรวจสขุ ภาพเป็นประจำ โดยมีรางวลั เกียรตยิ ศสถานประกอบกจิ การตน้ แบบ
ดีเด่นด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระดับประเทศ ประจำปี 2563
สปก(.( ตดิ ตอ่ กนั ปที ่ี 15 (Platinum Award( เป็นความภาคภูมใิ จขององค์กร
Eco15 การจัดการความหลากหลายทางชวี ภาพ
สยามคราฟท์ มีการศึกษาและประเมินผลกระทบจากการประกอบกจิ การต่อทรพั ยากรชีวภาพ ในรายงาน
การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (พ.ศ. 2558( พบว่า การประกอบกิจการไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบตอ่
การเปลี่ยนแปลงทรัพยากรชีวภาพในรัศมี 5 กิโลเมตรโดยรอบโรงงาน และให้แต่ละปีได้มีการดำเนินการ
ติดตามตรวจสอบการเปลย่ี นแปลงแพลงก์ตอนและสตั วห์ น้าดนิ ในแหล่งนำ้ เปน็ ประจำ ตลอดจนมกี จิ กรรมใน
การปลกู ป่า ทำฝายชะลอนำ้ เพื่อรักษาทรพั ยากรธรรมชาติในจังหวดั ราชบรุ ี
13
Eco16 การกระจายรายได้ใหก้ บั ชุมชน Eco17 การอยูร่ ว่ มกับชมุ ชนโดยรอบ
สยามคราฟท์ มีการจ้างงานคนในพื้นที่ (มี สยามคราฟท์ มีการสื่อสารและเผยแพร่ข้อมูล
ทะเบียนบ้านในจังหวัดราชบุรี( ถึงร้อยละ 60 การจัดการความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม
ของพนักงานทั้งหมด อีกทั้งยังมีการจา้ งคู่ธุรกจิ สารเคมีของโรงงาน มีการจัดตั้งเครือข่าย
ในพื้นที่ถึง 1,800 กว่าราย มีการสร้างอาชีพที่ ไตรภาคี และเปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมใน
ก่อให้เกิดรายได้ใหม่ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน การตรวจสอบเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดลอ้ ม และ
เพ่อื ให้คนในชุมชนมีอาชีพและรายได้ รวมทงั้ เกดิ มกี ารดำเนนิ กิจกรรมส่งเสรมิ คณุ ภาพชีวิตชุมชน
การเกื้อกูลกันระหว่างโรงงานและชุมชน ทั้งน้ี ตลอดจนโรงงานนำหลักการระบบการจัดการ
การสรา้ งรายได้ใหม่ท่ีมน่ั คงและยัง่ ยนื ได้แก่ การ ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (ISO 26000(
ส่งเสริมการฝึกทักษะหรือพัฒนาอาชีพและ หรือ CSR DIW มาปฏิบัติอย่างจริงจัง เห็นผล
เสริมสร้างอาชีพใหม่ ทั้งท่ีเกี่ยวข้องและไม่ เ ป ็ น ร ู ป ธ ร ร ม ไ ด ้ ร ั บ ร า ง ว ั ล CSR-DIW
เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการของโรงงาน Continuous เป็นประจำ
เช่น การอบรมเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงให้กับ
ชมุ ชน การอบรมความเสี่ยงให้กบั คธู่ รุ กจิ เปน็ ตน้ นอกจากกิจกรรมการดำเนินงานตามตัวชี้วัด
นอกจากน้ี ยงั มีการเปิดตลาดนดั ชมุ ชน ใหม้ กี าร ข้างต้นแล้ว สยามคราฟท์ ยังมุ่งมั่นในการ
ซื้อขายสินค้าชุมชนได้สะดวก เพิ่มรายได้แก่ พัฒนาเครือข่ายชุมชนโดยรอบ โดยมีกิจกรรม
ชมุ ชน พัฒนาชุมชนเพิ่มมูลค่าทางสังคม (Social
Value: SV) ตั้งแต่การสรา้ งการมีส่วนรว่ มในการ
พัฒนาชุมชน สนับสนุนชุมชนไม่ว่าจะเป็นด้าน
สง่ิ แวดลอ้ ม เศรษกจิ สังคม ทำให้มีความเป็นอยู่
ดีขึ้น และสามารถพึ่งพาตนเองตามหลักการ
พัฒนาอย่างยั่งยืน ก่อให้เกิดวิสาหกิจและศูนย์
การเรียนรู้ การต่อยอดสู่ชุมชนอื่นๆ เช่น ศูนย์
สง่ เสรมิ อาชีพแม่บ้านหวั สระพฒั นา หมู่ 5 ต.เบิก
ไพร ศูนย์การเรียนรู้ อารักษก์ ระดาษฟางข้าว ต.
ลาดบัวขาว การพัฒนการจัดการเรียนรู้ด้าน
เศรษฐกิจพอเพยี ง การทำปยุ๋ และดินที(ม่ คี ุณภาพ(
เป็นต้น
14
ตัวอยา่ งดๆี ท่ีสยามคราฟท์ รว่ มกับบริษัทอ่ืนๆ และเทศบาลตำบลกรบั ใหญ่ (ตง้ั อย่ใู นรศั มี 5 กโิ ลเมตรจาก
โรงงาน( ในการพฒั นาชุมชนบ้านรางพลับ ตลอด 5 ปีทผ่ี า่ นมาสู่ชุมชนตน้ แบบด้านการบริหารจัดการขยะ
จนชุมชนไดร้ ับรางวัลชนะเลศิ ชุมชนปลอดขยะ (Zero Waste) ระดับประเทศ ประเภทชุมชนขนาดใหญ่ L
จากกรมส่งเสรมิ คุณภาพสงิ่ แวดล้อม กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม และยงั มีรายได้จากการ
คัดแยกขยะ ขายขยะ ขายผลติ ภณั ฑ์รไี ซเคิล และรายไดจ้ ากการดงู าน รวมทัง้ เทศบาลก็ลดค่าใช้จา่ ยในการ
จัดเก็บขยะ ทำให้เศรษฐกิจชุมชนดีขึ้น สามารถคิดผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ (SROI) ได้ถึง 1.23 ล้าน
บาท/ปี
ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันความตั้งใจจริงของ บริษัท สยามคราฟท์
อุตสาหกรรม จำกัด ของการเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยขบั เคลื่อนแนวคิดการพัฒนา
เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เพื่อการเติบโตของธุรกิจที่ดำรงอยู่ร่วมกับชุมชนโดยรอบและ
สิ่งแวดล้อมโดยรวมได้อยา่ งเก้ือกลู กัน
15
บริษัท เซฟสกิน เมดดิคอล แอนด์ ไซเอนทิฟิก (ประเทศไทย) จำกัด
บรษิ ทั เซฟสกิน เมดดิคอล แอนด์ ไซเอนทฟิ กิ (ประเทศไทย( จำกดั (3-52(4(-1/41สข( หรอื ท่ีรู้จักกันในช่ือ
“เซฟสกิน” ตง้ั อยู่ท่ี 200 หมู่ 8 ถนนกาญจนวนชิ ตำบลปรกิ อำเภอสะเดา จังหวดั สงขลา 90120 โดยได้
ก่อตั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจผลิตถุงมือยางทางการแพทย์และถุงมือที่ใช้ในทาง
อตุ สาหกรรมในเครอื ของ บรษิ ัท Halyard Health ประเทศสหรฐั อเมรกิ า มีกำลงั การผลิตมากกว่า 3 พนั ล้าน
ชิ้นต่อปี ด้วยเทคโนโลยีและกระบวนการผลิตที่ทันสมัย บนพื้นฐานจุดยืนว่า “ถุงมือของบริษัทต้องมี
คุณภาพสูงกวา่ มาตรฐานทไี่ ด้รบั การยอมรับทว่ั โลก เชน่ มาตรฐาน ISO, ASTM และ EN และต้องมีมาตรฐาน
สงู กวา่ เกณฑ์การตรวจสอบท่ยี อมรบั ได้ หรือ AQL ซ่งึ เปน็ หน่ึงในขอ้ กำหนดของมาตรฐานสากล”
เซฟสกนิ เคยประสบปัญหาความขัดแยง้ กบั ชุมชนอย่างรุนแรง ประทว้ งจะถึงข้ันปิดโรงงาน ในปี พ.ศ. 2551
แตก่ ไ็ ดก้ ้าวขา้ มวิกฤตสิ ูโ่ อกาสจนกลายเป็นความสำเร็จของการอย่รู ว่ มกนั ระหวา่ งโรงงานกบั ชมุ ชนอยา่ งยงั่ ยืน
ได้รับการยอมรบั จากชมุ ชน โดยการันตีโดยได้รบั รางวลั อตุ สาหกรรมสเี ขียว ระดับ 5 เมอ่ื ปี พ.ศ. 2558 และ
รางวัลต่างๆ อกี มากมาย
16
เซฟสกิน มแี นวทางดำเนินธุรกิจท่ใี หค้ วามสำคญั ทง้ั 3 Ps ได้แก่
People : คน โดยมงุ่ สร้างความสัมพันธก์ บั ชุมชน และผูม้ ีส่วนไดส้ ่วนเสียทั้งหมด
Planet: โลก เติบโตทางธุรกิจได้อยา่ งยั่งยืนด้วยการใส่ใจในสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรของโลกท่ีมีอยู่อย่าง
จำกัด
Product : ผลติ ภัณฑ์ สง่ มอบผลติ ภณั ฑท์ ่มี คี ณุ ภาพมีประสทิ ธภิ าพที่คุ้มคา่ และพัฒนาดา้ นผลิตภัณฑ์ในทุก
ขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ สู่กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จนถึงห่วงโซ่อุปทาน
ทัง้ หมด
นโยบายด้านอาชีวอนามัย ความปลอดภยั และส่ิงแวดล้อม ของ เซฟสกิน มใี จความโดยสังเขปวา่ “ปกป้อง
พนักงาน ผู้รบั เหมา ผ้เู ขา้ มาติดต่อ และจรงิ จงั ต่อการปฏบิ ัติด้านความปลอดภยั อาชีวอนามัย ทำให้สถานท่ี
ทำงานสอดคล้องกับมาตรฐานไทยและมาตรฐานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ของ
HALYARD พัฒนา และสนับสนุน ปรับปรุงระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ
สิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมสภาพแวดล้อมพนักงาน มีความรู้เข้าใจถึงบทบาทและหน้าท่ีของตนเอง
ปกป้องการเกิดมลพิษเสมือนดง่ั คุณคา่ ทางธุรกจิ รวมถึงปกปอ้ งทรพั ย์สินและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ”
ตลอดจนมีนโยบายดา้ น CSR “เราจะเปน็ สว่ นหนง่ึ ของสงั คม”
17
เซฟสกิน มีหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายในการ ทั้งภายในและภายนอกมีคุณภาพและ
ดูแลด้านอาชีวอนามัย และความปลอดภัย ประสิทธิภาพ พนักงานมีความสุขในการทำงาน
หน่วยงานที่ดูแลด้าน CSR มีการพัฒนา ความ โดยใช้หลัก Happy Workplace เป็นแนวทาง
ร่วมมือกันภายในองค์กรจนได้รับมาตรฐาน ดำเนนิ งาน มีการสือ่ สารประชาสัมพนั ธ์ทั้งภายใน
ISO9001 ISO14001 รางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว และภายนอกอยา่ งจริงใจและชัดเจน โดยโรงงาน
ระดับ 5 และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งได้ อุตสาหกรรมไมเ่ กิดอบุ ัตเิ หตุรา้ ยแรงหรืออุบัติภัย
ใหค้ วามร่วมมอื กับหน่วยงานภายนอก ในการเปน็ ภายใน (ไฟไหม้ระเบิด รัว่ ไหลของสารเคมี ฯลฯ(
ส่วนหน่งึ ของคณะทำงาน และใหค้ วามรว่ มมือ ให้ โรงงานอุตสาหกรรมที่มีผลต่อพนักงาน และต่อ
ความเห็น ตลอดจนดำเนนิ กิจกรรมร่วมกัน ไม่ว่า ชุมชน ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2561-2563(
จะเป็น คณะกรรมการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรม และไม่มีข้อร้องเรียน (อย่างมีลายลักษณ์อักษร
เชิงนิเวศจังหวัดสงขลา คณะทำงานขับเคลื่อน จากราชการ( กเ็ ปน็ ส่ิงหน่งึ ทีส่ ะทอ้ นให้เหน็ ถึงการ
การพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ พื้นท่ี บริหารจัดการ และดูแลเอาใจใส่รอบด้านอย่าง
อำเภอสะเดา ครอบคลุม พื้นที่ 6 เป็นวิทยากร จรงิ จังของเซฟสกิน
ถ่ายทอดความรู้ ให้ความคิดเห็นในการพัฒนา
เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ตลอดจนมี
คณะทำงานในการร่วมพัฒนาชุมชน อันได้แก่
คณะทำงานโครงการธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม
ร่วมกันแก้ไขปัญหาน้ำเสีย โดยความร่วมมือ 4
ภาคส่วนภาครัฐ ท้องถิ่น ภาคอุตสาหกรรม
(โรงงานอุตสาหกรรม( และภาคประชาชน ตั้งแต่
ปีพ.ศ. 2558-2563 พัฒนาสิ่งแวดล้อม จนถึง
เศรษฐกจิ เตบิ โตคู่กัน
ซึ่งจากการท่ีเซฟสกิน มีการนโยบายที่แน่วแน่ มี
มาตรฐานในการทำงาน และการมอบหมายการ
ทำงานอยา่ งชัดเจน สง่ ผลให้การบริหารจดั การ
18
ในปี พ.ศ. 2563 เซฟสกนิ ไดเ้ ข้าร่วมกจิ กรรมโรงงานอตุ สาหกรรมเชงิ นิเวศท่มี ีคุณค่าตอ่ สังคมของกรม
โรงงานอุตสาหกรรม โดยแสดงกิจกรรมที่โรงงานอุตสาหกรรมได้นำเสนอตามเกณฑ์การประเมิน
ประสิทธิภาพโรงงานอุตสาหกรรมเชงิ นิเวศท่มี ีคณุ คา่ ตอ่ สงั คม ดงั นี้
Eco 01 สดั สว่ นพนื้ ทสี่ ีเขยี ว Eco 02 การจัดซอ้ื จัดจา้ งสินค้าและบริการที่
เซฟสกิน มีพื้นที่ทั้งหมด 133.6 ไร่ และจัดให้มี เป็นมติ รตอ่ สิง่ แวดล้อม (Green Purchasing)
พื้นที่สีเขียว 18.8 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 14 ของ
พื้นที่ทั้งหมด มีการดูแลรักษาให้สวยงาม และ เซฟสกิน มีมาตรฐานความรับผิดชอบขององค์กร
เพมิ่ พื้นทสี่ เี ขียวบรเิ วณแนวขอบร้วั ของโรงงานที่ เกี่ยวกับการปกป้องสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมและ
ติดกับคลองอู่ตะเภา เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและ สนับสนุนให้คู่ค้าดำเนินธุรกิจโดยปฏิบัติตาม
ป้องกันปัญหาดินสไลด์ลงคลองไปพร้อมกนั กฎระเบียบข้อบังคับ และ กฎหมายว่าด้วย
สง่ิ แวดล้อมที่เกีย่ วข้องทงั้ หมด มกี ารจัดทำบัญชีผู้
จัดหาสินค้าและผู้ให้บริการ พร้อมทั้งมีกิจกรรม
สนับสนุนให้เป็นเครือข่ายอุตสาหกรรมสีเขียว
โดยมีเป้าหมายในการสนับสนุนบริษัทคู่ค้ามี
ใบรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 2 ขึ้นไป
เพิม่ ขึ้น ร้อยละ 10 ทุก 2 ปี โดยมีกิจกรรมแนะนำ
แนวทางอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 2
ประสานงานสนบั สนนุ เพอื่ ชว่ ยการขอรบั รองใหแ้ ก่
บริษัทคู่ค้า จนปัจจุบัน มีคู่ค้าที่ได้อุตสาหกรรมสี
เขียวระดับที่ 2 จำนวน 38 ราย เพิ่มจากปี พ.ศ.
2559 ถึง 20 ราย หรือคิดเป็นมูลค่าการจัดซ้อื ถงึ
กวา่ ร้อยละ 67 ของการจดั ซ้อื ท้ังหมด
19
Eco03 การดำเนินกิจกรรมหรือมาตรการการขนส่งที่ปลอดภัย ลดต้นทุน หรือเพิ่มประสิทธิภาพ
ระบบขนส่งและโลจิสตกิ ส์ขององค์กร
เซฟสกิน นโยบายด้านความปลอดภัย ซึ่งครอบคลุมถึงการปฏิบัติเรื่องการขนส่ง มีการจัดทำฐานข้อมูล
ระบบโลจสิ ติกส์ ของทง้ั วัตถุดิบ สินค้า และพนักงานองคก์ ร มกี ิจกรรม Green and Safe Logistics โดย
มุ่งสู่การจดั การจัดการขนสง่ อยา่ งปลอดภัย ไมส่ ง่ ผลกระทบต่อสง่ิ แวดลอ้ ม
นอกจากนี้ ยังมีแผนกิจกรรมการจัดการด้านขนส่งบรรจุภัณฑ์ตามหลักการ 3Rs โดยยกเลิกการใช้ Mash
Pallet บรรจภุ ณั ฑ์เกา่ 100 % เปลีย่ นมาใช้บรรจุภณั ฑ์ใหม่ Plastic Container ซึง่ จะทำให้ลดจำนวนเท่ียว
ในการส่งคืน ทำให้ลดต้นทุนการขนส่ง ได้ถึงปีละ 528,768 บาท/ปี และผู้จัดจำหน่ายสามารถนำ Plastic
Container กลับมาใช้ใหมไ่ ด้ (Re-use)
Eco04 การดำเนินกิจกรรมหรือมาตรการจดั การน้ำใช้
เซฟสกนิ มปี ริมาณการใชน้ ้ำในโรงงานเฉลีย่ 20,000 ลบ.ม./วัน โดยมีโครงการที่สามารถลดการใช้น้ำใหม่
เม่ือปี พ.ศ. 2562 คือ การปรบั ปรุงระบบการนำน้ำคอนเดนเสท (Condensate) กลบั เขา้ สู่หม้อไอน้ำ (CRU
Pump) จากเดิมที่เมื่อใช้ระบบ CRU แบบปิด สามารถนำคอนเดนเสทกลบั ได้สูงถึง 85-90% ลดการใช้นำ้
ใหม่ได้ ถึง 800 ลบ.ม./วัน หรือ ลดการใช้น้ำ 288,000 ลบ.ม./ปี หรือลดได้ประมาณรอ้ ยละ 4 และยังมี
ประโยชนต์ อ่ การลดการใช้เชือ้ เพลิงด้วย สว่ นเป้าหมายลดการใชน้ ้ำใหม่ ในปี พ.ศ. 2563 รอ้ ยละ 0.7 หรือ
ประมาณวันละ 150 ลบ.ม./วนั หรือ ลดการใช้น้ำ 51,840 ลบ.ม./ปี โดยการนำน้ำ Reject จากระบบ RO
มาใช้ในระบบ Scrubber นอกจากนี้ ยังมีโครงการลดการใช้น้ำที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559
20
จนถึงปจั จบุ ัน คอื การนำน้ำทง้ิ จากกระบวนการลา้ งถุงมอื มาใช้รดเถา้ ถา่ นจากหม้อไอนำ้ และการนำน้ำท้ิง
จากกระบวนการลา้ งถงุ มือท่ีผ่านการบำบดั แลว้ มาใชเ้ ปน็ นำ้ หลอ่ เย็นสำหรับถัง coagulant tank ซึ่งทำให้
ลดการใชน้ ้ำ 540,000 ลบ.ม./ปี
Eco05 การดำเนนิ กิจกรรมหรอื มาตรการจดั การนำ้ ทิ้ง
เซฟสกนิ มีหนว่ ยงานท่ดี ูแลระบบบำบดั น้ำเสียใหม้ กี ารทำงานอยา่ งมปี ระสิทธิภาพ ทำให้ตลอด 3 ปที ่ผี า่ นมา
ผลวเิ คราะห์คุณภาพนำ้ ทงิ้ อยู่ในเกณฑม์ าตรฐานน้ำทงิ้ ตลอดจนมแี ผนการดำเนนิ งานเพ่ือลดคา่ COD ซง่ึ เป็น
พารามิเตอร์ที่สำคัญของโรงงานประเภทยาง โดยการติดตั้งชุดสารเคมีที่บ่อ Rubber trap เพื่อทำให้สาร
แขวนลอยตกตะกอน และมีการจบั ตวั กับนำ้ ยางได้ดีข้ึน ทำใหน้ ้ำทิง้ มีค่า COD ลดลง และเพม่ิ ระยะเวลาใน
การเดนิ เคร่อื งรีดตะกอน เพ่อื ใหม้ คี ่า Safety (คา่ ดีกว่ามาตรฐาน มากกว่ารอ้ ยละ 25 ปัจจบุ นั ดีกว่าร้อยละ
23(
Eco06 การลดปรมิ าณการระบายน้ำทิ้งออกสแู่ หลง่ สาธารณะ
กิจกรรมที่เสนอใน Eco04 นอกจากจะลดการใช้น้ำใหม่แล้ว ยังเป็นการดำเนินการเพื่อลดน้ำทิ้งออกสู่
ภายนอกเช่นกัน โดยสามารถลดปริมาณการนำ้ ท้งิ ในโรงงานเฉลย่ี 2,000 ลบ.ม./วนั
การนำนำ้ ท้ิงมาเป็นน้ำหล่อเย็น การนำนำ้ ทง้ิ มารดเถา้ ถ่านจากหมอ้ ไอนำ้ การนำนำ้ คอนเดนเสทกลับเขา้ หม้อไอนำ้
Eco07 การนำกากของเสียหรอื วัสดุเหลือใช้ของโรงงานกลบั มาใช้ใหม่
กากของเสียทีม่ ปี รมิ าณมากของเซฟสกนิ คอื ขเี้ ถา้ ชวี มวล คิดเปน็ สัดส่วนร้อยละ 87 ของของเสยี ทง้ั หมดของ
โรงงาน จงึ ได้มโี ครงการนำร่องนำขี้เถา้ มาเป็นวัตถุดิบทำป๋ยุ หมักอินทรีย์ร่วมกับสถานพี ัฒนาทด่ี ินสงขลาเพ่ือ
เกษตรกร ซง่ึ ปจั จบุ ันอยูร่ ะหวา่ งดำเนนิ การติดตามผลการใชจ้ ากเกษตรกร ซึ่งกจิ กรรมนี้ จะช่วยลดค่าใช้จ่าย
ในการซ้ือปุ๋ยของเกษตรกรได้ถงึ ครวั เรือนละ 120,000 บาท และลดค่ากำจัดของโรงงานได้หลายแสนบาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการนำเศษยางไปผสมเป็นเชื้อเพลงิ แข็งเพื่อเผาในเตาปนู ซีเมนต์ และยังคงมุ่งมั่นใน
การศึกษาเพ่ือนำของเสียจากสถานประกอบการหรือภาคส่วนอ่ืนๆมาใช้ประโยชน์เปน็ วัตถดุ บิ หรือพลังงาน
ภายในสถานประกอบการหรือนำของเสียของสถานประกอบการไปใช้กับสถานประกอบการหรือภาคสว่ น
อื่นๆ (Symbiosis)
21
Eco08 การดำเนนิ กจิ กรรมหรอื มาตรการลดการใชพ้ ลังงานหรือเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการใชพ้ ลังงาน
เซฟสกินเป็นอีกหนึ่งโรงงานที่แสดงให้เห็นว่า “ทำหนึ่งได้ประโยชน์
หลายส่วน” กิจกรรมการนำน้ำคอนเดนเสทกลับมาใช้ในหม้อไอน้ำ
ทำให้ลดทัง้ การใช้น้ำใหม่ ลดน้ำทิง้ และลดการใช้พลังงาน เนื่องจาก
น้ำคอนเดนเสทที่กลับมาใช้มีอุณหภูมิสูงกว่าอุณหภูมิห้อง ทำให้ลด
การใช้เชื้อเพลงได้ถึง 10,000 kg/วัน และยังสามารถลดการปล่อย
ก๊าซเรือนกระจกได้ 6,300 kg CO2/วนั นอกจากน้ี เซฟสกนิ ยังมแี ผน
ในการเปลี่ยนหลอดไฟแสงสว่างทั้งโรงงาน โดยวางแผนการ
เปล่ยี นเป็นเฟสๆ รวมแล้ว 3 ปี สามารถเปล่ียนไดม้ ากกว่ารอ้ ยละ 50
เมื่อเปรียบเทียบต่อผลติ ภัณฑก์ ารผลิตแล้วพบว่า ลดการใช้พลังงาน
ต่อผลติ ภณั ฑ์ได้ถึงรอ้ ยละ 3.34
Eco09 การใชพ้ ลงั งานทดแทน
เซฟสกิน มีนโยบายจากบริษัทแม่ที่มุ่งมั่นในการเพิ่มการใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ซ่ึง
ปจั จุบนั แม้ว่า เซฟสกนิ จะ มกี ารใช้เชื้อเพลิงแข็งทง้ั หมด เป็นพลังงานทดแทน ในกระบวนการผลติ ไอน้ำ ซงึ่
โ แต่ก็มีกิจกรรมการใช้ Wood pellet (เชื้อเพลิงชีวภาพ( แทนการใช้ Wood Chip ในการผลิตไอน้ำแทน
(เป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างย่ังยืน( โดยใช้ในร้อยละมากกว่า 15 หรือ 1,100,000 kg/เดือน จาก
เชื้อเพลงิ ที่ใช้ทัง้ หมดในการผลิตไอน้ำ รวมทั้งการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ สำหรับแสงสว่างภายนอกอาคาร
บริเวณบอ่ บำบดั นำ้ เสยี แทนการใชพ้ ลังงานไฟฟ้าโดยติดตง้ั หลอดไฟขนาด 150watt เปน็ จำนวน ต้น 6
Eco10 การบริหารจัดการคุณภาพอากาศจากปล่องระบายให้เป็นไปตามกฎหมาย และดีกว่า
กฎหมาย
เซฟสกนิ มีการดำเนนิ มาตรการดูแลซ่อมแซมอุปกรณ์เครอื่ งจักรให้มีค่าความเขม้ ข้นของมลสารต่างๆ ได้แก่
ฝุ่นละออง ก๊าซซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์ ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ อยู่ในเกณฑ์
มาตรฐาน ตลอด 3 ปี
22
Eco11 การดำเนนิ กิจกรรมหรือมาตรการ เพ่ือลดการปล่อยก๊าซเรอื นกระจก
กิจกรรมการนำน้ำคอนเดนเสทกลับมาใช้ในหม้อไอน้ำ ทำให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 6,300 kg
CO2/วัน นอกจากนี้ ส่วนการเปลี่ยนหลอดไฟแสงสว่างทั้งโรงงาน โดยวางแผนการเปลี่ยนเป็นเฟสๆ รวม
แล้ว 3 ปี สามารถลดการปล่อยก๊าซคารบ์ อนไดออกไซด์ ไดถ้ งึ 80 Ton CO2/ปี
Eco12 การดำเนนิ กจิ กรรมหรือมาตรการเพอ่ื เพิ่มประสทิ ธิภาพการใชว้ ัตถดุ ิบ
เซฟสกิน มีมาตรการ ปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลง
กระบวนการหรือเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อลด
ปริมาณของเสยี ในกระบวนการผลิตและการบรกิ าร ซ่ึงก็จะ
เป็นการใช้วัตถดุ ิบอย่างมปี ระสิทธิภาพ ได้มูลคา่ จากการที่
ของไม่เสียคืนมาถึง 4.5 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการร่วมกับบริษัทคู่ค้าโดยพัฒนา
คุณภาพของกระดาษสำหรับผลิตภัณฑ์ Green Carton
(กระดาษท่ีลดการใช้ทรัพยากร( ใหม้ คี วามแข็งแรงมาก
ขึ้น (ออกแบบการวางตัวของกระดาษลูกฟูก( โดยการ
เปลี่ยนแปลงต้องไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีผล
ประหยดั ไดถ้ ึง 138,600 บาท/ปี
23
Eco13 การจัดการสารเคมแี ละวัตถุอันตราย
เซฟสกิน มีการจัดทำบัญชีรายการของสารเคมี สารเคมีอันตราย และวัตถุอนั ตราย มีระบบการจดั วางตาม
หลกั วิชาการ มปี า้ ยบ่งช้ี MSDS มีคูม่ ือข้นั ตอนการปฏบิ ัติงานในการขนย้ายและขนถ่ายสารเคมี และมีการ
จัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลและอุปกรณ์ป้องกันการหกหล่นของสารเคมี ตลอดจนจัดทำ
Secondary containment เพื่อป้องกันการรั่วไหล เพื่อลดการรั่วไหลของสารเคมีและวัตถุอันตราย และ
การอบรมการเผชิญเหตฉุ ุกเฉนิ ท้ังกรณีไฟไหม้ แก๊สคลอรีนรัว่ ไหล สารชนิดของแข็ง ของเหลวหกรัว่ ไหลใน
พื้นที่จัดเก็บสารเคมี อีกทั้งยังมีการยกเลิกสารเคมีอันตรายบางชนิดจากบัญชีรายการสารเคมี และใช้
สารเคมีทมี่ คี วามเปน็ พษิ น้อยกว่าแทน ทงั้ น้ี ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ไมเ่ คยเกดิ เหตุร่วั ไหลและไม่ส่งผลกระทบ
ตอ่ พนกั งาน ชมุ ชน หรอื สิง่ แวดล้อมภายนอก
24
Eco14 การจัดการด้านอาชวี อนามัยและความปลอดภัย
เซฟสกิน มีการวิเคราะห์และป้องกันความเสี่ยงจากอันตรายที่เกิดจากการประกอบกิจการ มีการสังเกต
พฤติกรรมการทำงานของพนักงาน มีการบ่งชี้ความเป็นอันตราย และมีแผนปฏิบัติเพื่อลดความเสีย่ งน้นั ๆ
ตลอดจนมีการอบรม หรือกิจกรรมสร้างความตระหนัก เช่น กิจกรรมวัน Safety week การติดตาม
ตรวจสอบ และฝึกซ้อมแผนฉกุ เฉินเป็นประจำ จนทำให้ไม่เกิดอุบัติเหตุขั้นร้ายแรงจนเสียชีวิตหรือทุพพล
ภาพ ตลอด 3 ปที ่ีผา่ นมา
Eco15 การจดั การความหลากหลายทางชีวภาพ
เซฟสกิน ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม จึงไม่ได้มีการวิเคราะหห์ รือ
ประเมินผลกระทบต่อทรัพยากรชวี ภาพไว้ แต่อย่างไรก็ตาม เซฟสกนิ ได้มีกิจกรรมมากมายในการส่งเสริม
การอนุรักษ์ทรัพยากรชีวภาพทางน้ำ การฟื้นฟูคลองอู่ตะเภา การขยายพันธ์สัตว์น้ำในคลองอู่ตะเภา การ
สรา้ งฝายชะลอนำ้ จนไดร้ บั รางวลั รางวัลรักษแ์ ม่ รักแมน่ ้ำ กระทรวงอตุ สาหกรรม ปีพ.ศ. 2558
Eco16 การกระจายรายได้ใหก้ ับชุมชน
เซฟสกนิ มีการจ้างงานคนในพืน้ ที่ (มที ะเบยี นบ้านในจงั หวัดสงขลา( ถงึ รอ้ ยละ 33.89 ของพนกั งานท้ังหมด
อกี ท้ังยงั มกี ารจ้างคู่ธุรกจิ ในพนื้ ท่ถี งึ 160 ราย หรือคิดเป็นรอ้ ยละ 44 ของท้งั หมด เปิดโอกาสใหช้ มุ ชนเปดิ
25
รา้ นขายอาหารในโรงงาน และมินิมาร์ท รวม 28 ราย มเี งนิ หมุนเวยี นกว่า 36 ลา้ นบาท/ปี นอกจากนี้ มีการ
เปิดพื้นที่โรงงานให้ชุมชนตั้งร้านค้า เดือนละ 1 ครั้ง มีการสร้างอาชีพอบรมทักษะการทำงานที่ก่อให้เกิด
รายได้ใหมใ่ หก้ ับชุมชนอย่างยงั่ ยนื เพื่อใหค้ นในชุมชนมีอาชพี และรายได้
Eco17 การอยรู่ ่วมกับชมุ ชนโดยรอบ
เซฟสกนิ มกี ารส่อื สารและเผยแพรข่ อ้ มลู การจดั การความปลอดภัยและสิง่ แวดล้อม สารเคมขี องโรงงาน มี
การประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมตำบล และส่งข้อมูลให้ อบต. และส่งที่เกี่ยวข้องเป็น
ประจำ มีการเปิด Open House และเป็นตัวแทนถ่ายทอดความรู้ด้านธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อม และ
อตุ สาหกรรมสเี ขยี วใหโ้ รงงานและหน่วยงานภายนอก ทง้ั น้ี มกี ารแจง้ ขา่ วกิจกรรมตา่ งๆ ผา่ นกลมุ่ ไลน์ชมุ ชน
นอกจากกจิ กรรมการดำเนนิ งานตามตัวช้ีวัดข้างต้นแล้ว เซฟสกนิ ยังมกี ิจกรรมพัฒนาชมุ ชนเพ่ิมมูลค่าทาง
สังคม (Social Value: SV) ตั้งแต่การสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชมุ ชน สนับสนุนชุมชนไม่ว่าจะเปน็
ดา้ นสิ่งแวดล้อม เศรษกิจ สงั คม ทำใหม้ คี วามเป็นอยู่ดขี น้ึ และสามารถพึ่งพาตนเองตามหลกั การพฒั นาอยา่ ง
ย่งั ยนื ดังเชน่ โครงการเล้ียงผงึ้ ของชุมชนเพื่อเป็นตวั ชี้วัดคุณภาพอากาศโดยธรรมชาติ ซึง่ ดำเนนิ การตั้งแต่ปี
2561 ตั้งแต่การเปน็ วทิ ยากรอบรมให้ความรู้ การออกแบบปา้ ยสินคา้ เปิดช่องทางการตลาด ประชาสัมพันธ์
ไปยงั หน่วยงานอน่ื ๆ จนชุมชนสามารถเพมิ่ รายได้ เป็นเงนิ 1,080,000 บาท/ปี สมาชิก 150 ราย มีรายได้
เสริมเฉล่ยี 7,200 บาท/ปี และเป็นศูนยเ์ รียนร้ตู อ่ ยอดสู่ชมุ ชนอ่นื ๆ
เซฟสกิน ได้ดำเนินการโครงการธรรมาภิบาลสิ่งแวดล้อมร่วมกับ อปท. และกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ใน
พื้นท่ี ต.ปริกและพนื้ ท่อี นื่ ๆ ต.สำนกั ขาม ต.สะเดา ต.พงั ลา ต.เขามเี กยี รติ อ.สะเดา และ ต.พะตง อ.หาดใหญ่
เพ่ืออนรุ กั ษ์ ดแู ล เฝ้าระวัง พัฒนาและฟนื้ ฟดู า้ นสงิ่ แวดลอ้ ม ตลอดแนวคลองอูต่ ะเภา มาต้ังแต่ปี 2554 เป็น
ต้นมา โดยมกี จิ กรรมตัง้ แตก่ ารอบรมใหค้ วามรู้เพ่อื เฝ้าระวังคณุ ภาพน้ำ การขยายพนั ธ์สตั วน์ ้ำ การสร้างฝ่าย
ชะลอน้ำ และยงั มอี กี หลายกิจกรรม ทำใหป้ ัจจุบัน ชุมชนใช้นำ้ จากคลองอู่ตะเภาในการอุปโภคและบริโภค
และหาปลาในคลองมาเป็นอาหารลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ ลดค่าครองชีพได้ ครัวเรือนละ 3,000 บาท/
เดอื น นอกจากน้แี ลว้ ยังเกดิ อาชีพเลย้ี งปลาในกระชงั สรา้ งรายได้นำไปสู่เศรษฐกจิ พอเพียง ชุมชนพึ่งตนเอง
สร้างรายได้ให้กับกลุ่ม จำนวน 10 ครัวเรือน รวม 1,500,000 บาท เฉลี่ยรายได้เสริม 150,000 บาท/
ครวั เรือน และท่ีสำคัญคือ การอยู่รว่ มกนั ระหวา่ งโรงงานและชุมชนอย่างยงั่ ยืน
26
แนวคิดของเซฟสกินท่ีอยากให้ทุกองค์กรนำไปประยุกต์ใช้ “สิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องของเราทุกคน ที่เรา
ควรมีส่วนร่วมรู้ รว่ มคดิ ร่วมแสดงความต้องการ และลงมือทำ โดยไมโ่ ทษใครผิด ไม่คดิ แยกพวก แสวง
จดุ รว่ ม สงวนจุดตา่ ง และเดินไปด้วยกนั ” และ เชฟสกิน มคี วามคาดหวงั ในอนาคตท่ีอยากทำให้มากขึ้น
คอื การขยายเครือข่ายอตุ สาหกรรมสีเขยี วไปยงั เพื่อน โรงงานอตุ สาหกรรมข้างเคยี ง และชมุ ชนใหเ้ ดนิ ไป
ใน แนวทางเดียวกัน จนพัฒนาไปสู่เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในอนาคต โดยอยากให้ทุกฝ่ายยึดถือ
รว่ มกนั ว่า “.เราอาจคิดตา่ ง แต่ในความตา่ ง เราทำงานเปน็ หนงึ่ เดียว”
27
บริษทั ปูนซเิ มนต์ไทย (ท่าหลวง) จำกัด โรงงานเขาวง
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ท่าหลวง( จำกัด โรงงานเขาวง (3-57(1(-4/35สบ( หรือ “โรงปูนท่าหลวงเขาวง”
ตั้งอยู่ที่ 28 หมู 4 ตําบลเขาวง อําเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เป็นหนึ่งในโรงงานผู้ผลิตผลิตภัณฑ์
ปูนซีเมนตแ์ ละผลติ ภณั ฑ์ปูนซิเมนต์ ของ บรษิ ัท เอสซีจี ซีเมนต์ จำกดั (SCG Cement) มกี ำลังการผลิตรวม
7.7 ล้านตันต่อปี (33% ของกำลังการผลิตของ SCG Cement) โดยมีวัฒนธรรมองค์กร (Corporate
Culture) ส่งเสริมให้บุคลากรได้ยึดถือแนวปฏิบัติตามอุดมการณ์ 4 ประการ คือ รักมั่นในความเปน็ ธรรม /
ถอื ม่นั ในความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม / เช่ือมัน่ ในคณุ ค่าของคน และ /มุ่งม่นั ในความเป็นเลิศ และมีนโยบายการ
ดำเนินงานของเอสซีจีจะมุ่งเนน้ ในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางพัฒนาอย่างย่ังยืน ร่วมเครือข่ายความร่วมมือ
กับองค์กรระดับสากล และดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคดิ หว่ งโซอ่ ุปทานสีเขยี วทีม่ ีระบบการจัดการส่ิงแวดล้อมที่
ดี ควบคู่ไปกับการดแู ลผมู้ สี ่วนไดส้ ่วนเสียทุกฝา่ ย โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ชมุ ชนรอบโรงงาน เพ่ือยกระดับคุณภาพ
ชีวิตและพัฒนาให้อยรู่ ว่ มกนั ไดอ้ ย่างยงั่ ยืน
28
โรงปูนท่าหลวงเขาวง ยึดมั่นการดำเนินการตามแนวปฎิบตั ิของเอสซจี ีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการให้
ความสำคัญในการบริหารองค์กรที่มีความโปร่งใส การดำเนินงานภายใต้กฎหมายของประเทศ และแนว
ปฏิบัตสิ ากล ไม่ว่าจะเปน็ ระบบมาตรฐานต่างๆ หรือข้อกำหนด ซึ่งส่งผลให้การบริหารจัดการทั้งภายในและ
ภายนอกมีคุณภาพและประสิทธิภาพ ดังมาตรฐาน และรางวัลต่างๆ ที่ได้รับ เช่น ISO 9001 ISO14001
ISO50001 TIS/OHSAS18001 รางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ระดับ 5 3Rs Award Green Label CO2
reduction รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และรางวัลอุตสาหกรรมยอด
เย่ียม ซ่ึงสะทอ้ นให้เห็นผลสมั ฤทธิข์ องแนวปฏิบัติดงั กลา่ ว อกี ทง้ั โรงปนู ทา่ หลวงเขาวง ยังให้ความสำคัญต่อ
บคุ ลากร สง่ เสริมให้บุคลากรเปดิ ใจรับฟัง และ ท้าทายตวั เองเพือ่ ทำในสง่ิ ท่ีดกี ว่า ทำให้พนกั งาน มีความสุข
ในการทำงาน มีกิจกรรมมากมายที่เสริมสร้างทักษะความรู้ เสริมสร้างความแข็งแรงทั้งกาย และใจให้กับ
พนักงงาน นอกจากนี้ ยังมีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ทั้งภายในและภายนอกอย่างจริงใจและชัดเจน โดย
โรงงานอุตสาหกรรมไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงหรืออุบัติภัย ภายใน (ไฟไหม้ระเบิด รั่วไหลของสารเคมี ฯลฯ(
โรงงานอตุ สาหกรรมทีม่ ผี ลต่อพนักงาน และต่อชุมชน ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2561-2563( และไม่มีขอ้
ร้องเรยี น (อยา่ งมีลายลกั ษณ์อกั ษรจากราชการ( ก็เปน็ สิง่ หนงึ่ ทีส่ ะท้อนให้เหน็ ถงึ การบรหิ ารจัดการ และดูแล
เอาใจใส่รอบด้านอย่างจริงจงั ของโรงปูนทา่ หลวงเขาวง
นอกจากนี้ โรงปูนท่าหลวงเขาวง ยังเป็นหนึ่งในตัวแทนภาคอุตสาหกรรมในคณะกรรมการพัฒนาเมือง
อุตสาหกรรมเชงิ นิเวศ คณะทำงานเครอื ขา่ ยอุตสาหกรรมเชงิ นเิ วศพ้ืนที่ตำบลหนา้ พระลาน อำเภอเฉลิมพระ
เกียรติ และตำบลเขาวง อำเภอพระพทุ ธบาท จังหวดั สระบุรี โดยให้ความร่วมมอื ในการเข้าร่วมการประชุม
เป็นวิทยากรเผยแพร่ความรูร้ ะบบการจดั การสิ่งแวดลอ้ มที่ดีของโรงงานโดยตลอด ตลอดจนเขา้ ร่วมกิจกรรม
ต่างๆ เพื่อยกระดับและพัฒนาพื้นที่สู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ระดับ 2 ในปี พ.ศ. 2563 และ
ระดับ 3 ในปี พ.ศ. 2565
ในปี พ.ศ. 2563 โรงปูนทา่ หลวงเขาวง ไดเ้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมโรงงานอตุ สาหกรรมเชงิ นเิ วศทมี่ ีคุณคา่ ตอ่ สงั คม
ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยแสดงกิจกรรมที่โรงงานอุตสาหกรรมได้นำเสนอตามเกณฑ์การประเมิน
ประสทิ ธภิ าพโรงงานอุตสาหกรรมเชงิ นิเวศท่ีมคี ุณค่าตอ่ สังคม ดังน้ี
29
Eco 01 สดั ส่วนพื้นที่สเี ขยี ว
โรงปนู ทา่ หลวงเขาวง มีพื้นที่ทั้งหมด 1,232 ไร่ และจัดให้มีพ้ืนท่ีสเี ขียว 273 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 22.2 ของ
พน้ื ท่ที ้งั หมด มีการดูแลรกั ษาใหส้ วยงามกลมกลนื และมกี ารจัดการพ้ืนทส่ี ีเขยี ว โดยการปลกู ไม้ประดับต่างๆ
เช่น ต้นยางนา ต้นทองอุไร ต้นอโศกอินเดีย ต้นหว้าใหญ่ ต้นคูน เป็นต้น ให้ทั่วตามแผนผงั พืน้ ที่สีเขียว ดัง
แผนในปี พ.ศ. 2563 มกี ารปลูกตน้ ไมเ้ พม่ิ ถงึ 1,190 ต้น
30
Eco 02 การจัดซอ้ื จัดจา้ งสนิ ค้าและบรกิ ารท่เี ปน็ มติ รต่อส่ิงแวดลอ้ ม (Green Purchasing)
โรงปูนท่าหลวงเขาวง เปน็ ผู้ผลติ ภัณฑส์ ินค้าที่เป็นมิตรต่อส่งิ แวดลอ้ มหลากหลายผลติ ภัณฑ์ รวมท้ังมนี โยบาย
การจัดซื้อสินค้าและบริการที่เป็นมิตรตอ่ ส่ิงแวดล้อม (Green Purchasing) มีการจัดทำบัญชีผูจ้ ัดหาสินค้า
และผู้ให้บริการ พร้อมทั้งส่งเสริม และสนับสนุนให้บริษัทคู่ค้าดำเนินธุรกิจ โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบ
ขอ้ บงั คับ และ กฎหมายว่าดว้ ยสง่ิ แวดล้อมทเี่ กยี่ วขอ้ งทงั้ หมด สนับสนุนบรษิ ัทคคู่ า้ มใี บรับรองอุตสาหกรรม
สเี ขยี ว ระดบั 2 ข้นึ ไปเพิม่ ขน้ึ โดยมกี ิจกรรมแนะนำแนวทางอตุ สาหกรรมสเี ขยี ว ระดบั ท่ี 2 การอบรม และ
การให้คำปรึกษา ณ สถานประกอบการ ตลอดจนการประสานงานสนับสนุนเพื่อช่วยการขอรับรองให้แก่
บรษิ ทั คคู่ ้า การันตไี ด้โดยการไดร้ บั รางวัลอุตสาหกรรมสีเขียว ระดบั 5
31
Eco03 การดำเนินกิจกรรมหรือมาตรการการขนส่งที่ปลอดภัย ลดต้นทุน หรือเพิ่มประสิทธิภาพ
ระบบขนสง่ และโลจิสติกส์ขององคก์ ร
โรงปูนท่าหลวงเขาวง นโยบายด้านความปลอดภัย ซึ่งครอบคลุมถึงการปฏิบัติเรื่องการขนสง่ มีการจัดทำ
ฐานขอ้ มูลระบบโลจสิ ติกส์ ของท้ังวตั ถุดบิ สนิ คา้ และพนกั งานองค์กร มีการขนส่งวตั ถดุ บิ เปน็ สายพานระบบ
ปดิ ไม่สง่ ผลกระทบตอ่ ชุมชน มีมาตรการขนส่งทปี่ ลอดภัย ทั้งการตรวจสอบสภาพรถบรรทกุ การติดตงั้ GPS
การตดิ ต้ังกลอ้ ง เพอ่ื ใช้ในการสงั เกตพฤติกรรมของพนักงาน การอบรมพนกั งาน การประเมนิ ตนเองก่อนเรมิ
งาน ระบบการแจ้งเตือนเมื่อมีความเสีย่ งในการขับข่ี มีคู่มือการจัดการขนส่ง และประเมินความเส่ียงของ
เสน้ ทางขนสง่ และการรายงานตดิ ตามผลการดำเนนิ การเปน็ ประจำ
Eco04 การดำเนนิ กจิ กรรมหรือมาตรการจัดการนำ้ ใช้
โรงปูนท่าหลวงเขาวง มีการใช้น้ำแบบระบบปิด (Closed-Circuit System) ลดการรบกวนน้ำจากแหล่ง
ธรรมชาติ โดยการหมุนเวียนนำ้ ทงิ้ ท่ีผ่านการบำบดั แลว้ เขา้ ส่บู ่อพกั น้ำก่อนนำเขา้ สู่กระบวนการผลติ และหลอ่
เย็น ตลอดจนยงั มีมาตรการและการดำเนินการ ปรับปรุง พัฒนาเพือ่ ลดการใช้น้ำต่อผลิตภัณฑ์ ซึ่งกำหนด
เปา้ หมาย 0.33 ลบ.ม./ตันผลิตภณั ฑ์
32
Eco05 การดำเนินกจิ กรรมหรอื มาตรการจัดการนำ้ ทง้ิ
โรงปูนท่าหลวงเขาวง มหี นว่ ยงานทีด่ แู ลระบบบำบัดนำ้ เสียให้มีการทำงานอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ทำให้ตลอด
3 ปที ่ผี า่ นมา ผลวิเคราะหค์ ณุ ภาพน้ำทิง้ อยู่ในเกณฑม์ าตรฐานน้ำทิ้ง
Eco06 การลดปรมิ าณการระบายน้ำท้ิงออกสแู่ หลง่ สาธารณะ
โรงปูนทา่ หลวงเขาวง ไม่มกี ารระบายทง้ิ ออกนอกโรงงาน
Eco07 การนำกากของเสยี หรอื วัสดุเหลอื ใชข้ องโรงงานกลบั มาใช้ใหม่
เอสซีจี กำหนดให้บริษัทในเครือทั้งหมด Zero Waste to Landfill ซึ่งโรงปูนท่าหลวงเขาวง สามารถ
ดำเนนิ การบรรลเุ ปา้ หมายไดต้ ้งั แต่ ปี พ.ศ. 2555 มีการใช้หลัก 3Rs ในการจัดการของเสียจากกระบวนการ
ผลติ รวมทัง้ นำหลกั เศรษฐกจิ หมุนเวียน (Circular Economy) มาประยุกตใ์ ช้ รวมท้ังมกี ิจกรรมรณรงค์สรา้ ง
จิตสำนกึ และการจัดการของเสยี จากบา้ นพักพนกั งาน ดังเช่น โครงการติดตั้งถังหมกั ขยะเศษอาหาร บ้านพัก
เขาวง และใหพ้ นกั งานร่วมปลูกตน้ ไม้ในจุดท่ีขยะเศษอาหารย่อยสลายแล้ว มีแอปพลิเคชันให้พนักงานเก็บ
คะแนน แลกรางวลั
33
ท่มี า : www.greennetworkthailand.com
Eco08 การดำเนินกิจกรรมหรอื มาตรการลดการใชพ้ ลังงานหรอื เพม่ิ ประสทิ ธิภาพการใช้พลงั งาน
โรงปูนท่าหลวงเขาวง ได้ดำเนินการได้ครบถ้วนสอดคล้องกับข้อกำหนด ISO50001 โดยมีมาตรการ และ
แผนการดำเนนิ การปรับปรุงพฤติกรรม ปรับเปลี่ยนอปุ กรณ์ การใช้เทคโนโลยี เพื่อลดการใช้พลังงาน โดย
ปัจจุบัน มีการนำลมร้อนเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตวนกลับมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า การติดตั้ง Solar
Farm Solar Roof และ Solar Floating ลดการใช้พลังงานจากภายนอก และลดการปล่อยก๊าซเรือน
กระจกได้ถงึ 0.15 ลา้ นต้น/ปี
Eco09 การใชพ้ ลงั งานทดแทน
โรงปูนท่าหลวงเขาวง มีการนำลมร้อนเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิตวนกลับมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้า การ
ติดตั้ง Solar Farm Solar Roof และ Solar Floating ซึ่งทำให้ใช้ไฟฟ้าจาก Waste Heat Generator &
Solar ทดแทนไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภมู ิภาค ได้ มากกว่ารอ้ ยละ 37
34
Eco10 การบริหารจัดการคุณภาพอากาศจากปล่องระบายให้เป็นไปตามกฎหมาย และดีกว่า
กฎหมาย
โรงปนู ทา่ หลวงเขาวง มีการดำเนินมาตรการดูแล ปรบั เปล่ียน ซ่อมแซมอุปกรณ์เครอ่ื งจักร และระบบบำบัด
อากาศ รวมทั้งการใช้เชื้อเพลิงทางเลือก ทำให้มีค่าความเข้มข้นของมลสารต่างๆ ได้แก่ ฝุ่นละออง
ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
และดีกวา่ เกณฑม์ าตรฐาน
นอกจากน้ี ยังมกี ิจกรรมเพื่อควบคมุ ฝนุ่ จากกจิ กรรมตา่ งๆ ของโรงงาน เช่น การล้างล้อรถ การปดิ คลุมผ้าใบ
การติดตั้งแนวกันลม การพรมน้ำเพื่อลดการฟุ้งกระจายของฝุ่น และร่วมกับหน่วยงานภาครัฐเป็น
คณะทำงานปอ้ งกนั และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองหน้าพระลาน การประชุม การมีรถดูดฝุ่นในพนื้ ท่ชี มุ ชน
Eco11 การดำเนินกจิ กรรมหรือมาตรการ เพอื่ ลดการปล่อยกา๊ ซเรือนกระจก
การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็น Key theme ของเอสซจี ี โรงปูนท่าหลวงเขาวง จึงมีแผนงานและ
กิจกรรมหลายกิจกรรมท่จี ะลดการปล่อยกา๊ ซเรือนกระจก โดยมเี ปา้ หมายลดการปล่อยกา๊ ซเรอื นกระจกในปี
พ.ศ. 2563 ลดลง จากปี พ.ศ. 2550 ร้อยละ 20 โดยได้มีกจิ กรรมดำเนนิ การทง้ั การปรบั ปรงุ อปุ กรณ์ เปล่ียน
เชื้อเพลิงชีวมวลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการใช้ถ่านหิน Zero Coal ตลอดจนการปลูกต้นไม้ในพื้นท่ี
เพม่ิ ข้ึน
35
Eco12 การดำเนนิ กิจกรรมหรอื มาตรการเพอื่ เพม่ิ ประสิทธิภาพการใช้วัตถุดิบ
โรงปูนทา่ หลวงเขาวง มกี ารใชว้ ัสดทุ ่ไี มใ่ ช้แล้วในภาคอุตสาหกรรมมาเป็นวัตถดุ บิ ทดแทนในกระบวนการผลติ
เช่น เศษกระเบื้อง Fly Ash กากตะกอนระบบบำบัด ถ่านกัมมันต์ใช้งานแล้ว รวมถึงฝุ่นจากระบบำบัด
อากาศของโรงงาน หรอื ฝุ่นจากเครอ่ื งยงิ ทราย ฝุน่ จากระบวนการเจยี รแ์ ตง่ เหลก็ ฝนุ่ จากเตาหลอมเหล็ก ซง่ึ มี
คณุ สมบตั ิทดแทนแร่ซลิ กิ า อลมู ินา เหล็ก ได้ ซง่ึ สามารถลดการใชว้ ตั ถดุ ิบได้กวา่ ปลี ะ 20,000 ตนั
Eco13 การจดั การสารเคมแี ละวตั ถุอันตราย
โรงปูนท่าหลวงเขาวง มกี ารจัดทำบญั ชรี ายการของสารเคมี สารเคมีอนั ตราย และวัตถุอนั ตราย มีระบบการ
จดั วางตามหลักวชิ าการ มปี า้ ยบง่ ชี้ MSDS มีคู่มอื ขั้นตอนการปฏบิ ัตงิ านในการขนย้ายและขนถ่ายสารเคมี
และมีการจดั เตรยี มอปุ กรณป์ ้องกันส่วนบคุ คลและอุปกรณ์ปอ้ งกันการหกหลน่ ของสารเคมี ตลอดจนจัดทำ
Secondary containment เพื่อป้องกันการรั่วไหล เพื่อลดการรั่วไหลของสารเคมีและวัตถุอันตราย และ
การอบรม และการซ้อมแผนฉุกเฉิน ท้งั น้ี ตลอด 3 ปีทผ่ี า่ นมา ไม่เคยเกิดเหตุร่ัวไหลและไมส่ ่งผลกระทบตอ่
พนกั งาน ชุมชน หรอื ส่งิ แวดลอ้ มภายนอก
Eco14 การจัดการดา้ นอาชีวอนามัยและความปลอดภยั
โรงปนู ทา่ หลวงเขาวง มีการวิเคราะหแ์ ละป้องกันความเสย่ี งจากอันตรายท่เี กิดจากการประกอบกิจการ มกี าร
สังเกตพฤติกรรมการทำงานของพนักงาน มีการบง่ ชคี้ วามเปน็ อันตราย และมีแผนปฏบิ ัตเิ พ่ือลดความเสี่ยง
นั้นๆ ตลอดจนมีการอบรม หรือกิจกรรมสร้างความตระหนักให้กับพนักงาน การติดตามตรวจสอบ และ
ฝึกซอ้ มแผนฉกุ เฉินเปน็ ประจำ
36
Eco15 การจัดการความหลากหลายทางชวี ภาพ
โรงปูนทา่ หลวงเขาวง มีการศึกษาและประเมนิ ผลกระทบจากการประกอบกิจการต่อทรัพยากรชีวภาพ ใน
รายงานการวเิ คราะห์ผลกระทบสิง่ แวดล้อม และมีมาตรการในการจดั การความหลากหลายทางชวี ภาพ และมี
การติดตามตรวจสอบอย่างสมำ่ เสมอ ดงั ไดร้ ับรางวัล EIA Award 2018 เป็นการสะท้อนถงึ การดำเนนิ การท่ีดี
Eco16 การกระจายรายไดใ้ หก้ บั ชมุ ชน
โรงปนู ทา่ หลวงเขาวง มกี ารจ้างงานคนในพนื้ ที่ (มีทะเบียนบ้านในจงั หวดั สระบรุ (ี ถงึ รอ้ ยละ 88 ของพนักงาน
ทง้ั หมด มกี ารสนบั สนุนสนิ ค้าชมุ ชนเป็นของทร่ี ะลึกปีใหม่ ปี พ.ศ. 2563 การพฒั นาอาชีพ โดยการสนับสนุน
การฝึกอาชีพให้กับชุมชน สร้างช่องทางการตลาด พาชุมชนร่วมกิจกรรม Green Market ของกลุ่มเอสซีจี
สร้างกลุม่ ไลน์ และ Facebook ให้ชุมชนได้พื้นทีข่ ายสนิ ค้า ตลอดจนสนับสนุนให้เกดิ ความย่งั ยืนของธุรกิจ
หรือ การพัฒนาหลักสูตร ส่งเสริมอาชีพหรือทักษะแรงงานเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของ
ผู้ประกอบการ เช่น โครงการ Excellence Model School โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เข้าอบรม
มาตรฐานวชิ าชีพ ไฟฟ้าในอาคาร การเชือ่ มอารท์ โลหะดว้ ยมือ เป็นต้น หรอื การสนับสนนุ ชมุ ชนจดทะเบียน
วิสาหกจิ ชมุ ชน
Eco17 การอยู่รว่ มกับชุมชนโดยรอบ
โรงปูนท่าหลวงเขาวง มีการสื่อสารและเผยแพรข่ ้อมูล การจัดการความปลอดภัยและสิ่งแวดลอ้ ม สารเคมี
ของโรงงาน มีการจัดต้ังคณะกรรมการไตรภาคี จดั การประชุมเพอ่ื นำเสนอผลการดำเนนิ การด้านขอ้ มูล การ
จัดการความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม สารเคมีของโรงงาน ตลอดจนมีการจดั ตั้งกลุ่มไลน์เพื่อสื่อสารอย่าง
รวดเรว็ มีการเปิด Open House และเป็นตัวแทนถา่ ยทอดความรู้ส่ิงแวดล้อม และการเฝา้ ระวัง
37
สิ่งแวดล้อมให้ชุมชน นอกจากนี้ ยังมีวารสารช้างน้อยที่ส่ือสารข้อมูลสูช่ ุมชน ซึ่งทำให้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
โรงงานไมม่ ขี ้อรอ้ งเรยี นทแ่ี จง้ ไปยังหนว่ ยงานราชการของพื้นท่ี
ด้วยกำหนดเอสซีจีมีนโยบายที่ให้ทุกโรงงานทุกเหมืองทุกบริษัทในพื้นที่โรงปูนท่าหลวงเขาวงจะต้องการ
พฒั นาชุมชน และสาธารณประโยชน์ มแี ผนงาน One Cell One Project (OCOP) ร่วมกับชมุ ชน มีรูปแบบ
การทำกจิ กรรมให้พนักงานมีส่วนรว่ มในทุกกระบวนการตั้งแตค่ ้นหาความตอ้ งการของชุมชน การลงมือทำ
เพื่อสร้างแนวคิดการมสี ่วนร่วมกับชุมชนในทุกหน่วยงาน โดยการลงมือทำแบบ (Hands On( ไม่ว่าจะเปน็
ด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม เพื่อตอบแทนต่อสังคม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ถึงปัจจุบัน มีโครงการ
OCOP ถึง 584 โครงการ
38
ความสำเร็จของโรงปูนท่าหลวงเขาวง เกิดจากการมี วัฒนธรรมองคก์ ร (Corporate Culture) ที่ได้ส่งเสรมิ
ให้บุคลากรได้ยึดถือแนวปฏิบตั ิตามอดุ มการณ์ 4 ประการ คือ รักมั่นในความเป็นธรรมมุ่งมัน่ ในความเป็น /
ถือมน่ั ในความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม / เชื่อม่ันในคุณค่าของคน และ /เลศิ ความมุ่งมัน่ ตัง้ ใจ(Commitment)
มีคณะกรรมการด้านต่างๆ ที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีทีมงานผู้บริหารในแต่ละระดับ ให้
ความสำคญั ฉะนั้น แนวคิดเรอื่ งการพัฒนาอย่างย่ังยนื จะถูกถ่ายทอดลงมาเป็นลำดบั จากฝา่ ยบรหิ ารลงสฝู่ า่ ย
ปฏิบตั ิการท่วั ถงึ ทกุ บริษทั ในเอสซีจี และสดุ ท้ายด้วย เอสซีจี เป็นองค์กรแห่งนวตั กรรม และเปน็ แบบอย่าง
ของบรรษัทภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งต้องอาศัยผู้นำในการชักชวนและจับมือร่วมกันกับภาครฐั
และเอกชนอื่นๆ ในสังคม ชุมชน และประชาชน สร้างให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรร ม โดยการขยายแนว
ปฏิบตั กิ ารอตุ สาหกรรมทเี่ ป็นมติ รตอ่ สงิ่ แวดล้อม ท่ีขยายจากตน้ น้ำสปู่ ลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการจดั หาท่ีเปน็
มิตรต่อส่ิงแวดลอ้ ม ควบคู่ไปกับการยกระดบั คู่ธุรกิจ การสร้างมาตรฐานและให้การรับรองความปลอดภัยคู่
ธุรกิจ การยกระดบั มาตรฐานการผลิตและการทำงานของพนักงาน การให้ความสำคัญกบั คคู่ ้าและลูกค้าด้วย
การใส่ใจต่อความต้องการด้านเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการสร้างสรรค์สังคมอย่างยั่งยืน ผ่านการแบ่งปัน
ประสบการณ์และความรว่ มมือระหวา่ งองค์กรและชุมชน
39
4 การถอดบทเรียน (วเิ คราะห)์ “โรงงานต้นแบบของโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ
ทีม่ คี ุณค่าตอ่ สงั คม” โดยใชเ้ ทคนคิ การวเิ คราะห์ SWOT
จากการศึกษาข้อมูลของโรงงานอตุ สาหกรรมตามหลกั การวเิ คราะห์ SWOT สามารถสรุปได้ดงั นี้
1. จุดแข็ง (S) : ทั้ง 3 โรงงานมีนโยบายและความมุ่งมั่นขององค์กรที่ส่งเสริมด้านการบริหาร
จัดการด้านสิ่งแวดลอ้ ม ความปลอดภัย และความรับผิดชอบต่อชมุ ชน ดังเหน็ ไดจ้ ากทั้ง 3 โรงงานได้รับการ
รบั รองอตุ สาหกรรมสเี ขยี วระดับท่ี 4-5 มมี าตรฐาน และรางวลั ตา่ งๆ ทเี่ กีย่ วขอ้ งหลากหลายรางวลั นอกจากน้ี
ในการบริหารจัดการ มีหน่วยงานเฉพาะทีด่ ูแล และมกี ารทำงานร่วมกนั มคี ณะทำงานโดยมีผ้แู ทนจากหลาย
ฝ่ายขององค์กร มีการติดตามผลการดำเนินการเป็นประจำ มีการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์เพื่อพัฒนาอย่าง
ตอ่ เนือ่ ง มกี ารกำหนดเป้าหมายในการพฒั นา ทำใหเ้ กิดความทา้ ทายของทีมทำงาน และยังมีกิจกรรมตา่ งๆ ที่
เสริมสรา้ งทักษะความรู้ ให้กับพนักงาน การดูแลพนกั งานใหม้ ีความสขุ ในการทำงาน การให้ความร่วมมือกับ
หน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนมีกิจกรรมส่งเสริมชุมชนโดยรอบมาระยะเวลายาวนานและต่อเนื่อง ทำให้
ภาพลกั ษณ์ของโรงงานอุตสาหกรรมดี
2. จุดออ่ น (W) : ดว้ ยทั้ง 3 โรงงานไดม้ กี ารดำเนินการเพอ่ื เพิ่มประสิทธิภาพในการบรหิ ารจดั การ
ด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงานอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การปรับพฤติกรรมของบุคลากร และการบริหารจัดการ
ตา่ งๆ จนถงึ การใช้เทคโนโลยตี า่ งๆ ซงึ่ การจะเพิ่มประสทิ ธภิ าพข้ึนอีกอาจจะต้องใชเ้ ทคโนโลยีข้นั สงู ซงึ่ ต้องมี
การลงทุนสงู จงึ ตอ้ งมกี ารวางแผนให้สมดุลกบั ผลการดำเนินกจิ การ ผลประกอบการขององคก์ ร
3. โอกาส (O) : ภาครัฐมกี ารสง่ เสรมิ ให้โรงงานอุตสาหกรรมเติบโตอยา่ งเปน็ มติ รกับสิ่งแวดล้อม
มีนโยบายส่งเสริมเพื่อกระตุ้นให้โรงงานอุตสาหกรรมมีการดำเนินการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีค วาม
ปลอดภยั และอยูร่ ่วมกับชมุ ชนไดอ้ ย่างปกตสิ ขุ
4. อปุ สรรค (T) : ภาวะทางเศรษฐกจิ ทีท่ ำใหก้ ารจัดสรรงบประมาณของโรงงานชะลอการลงทุน
ในกจิ กรรมทีด่ ยี ิง่ ขน้ึ ข้อกำหนดกฎหมายที่เป็นขดี จำกดั ในการดำเนนิ กจิ กรรม เช่น การนำของเสียของโรงงาน
บางประเภท ไปเป็นวัตถุดิบให้กับชุมชน รวมทั้งภาวการณ์เกิดโรคอุบัติใหม่ต่างๆ ทำให้กิจกรรมการ
ดำเนนิ งานขององค์กรชะลอลงจนกวา่ จะเขา้ สภู่ าวะปกติ
40
- นโยบายและความมุ่งม่ันขององค์กรที่ส่งเสริมด้านการบริหาร - การจะเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ทรัพยากรในอนาคต
จัดการด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และความรับผิดชอบ อาจจะต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสงู ซ่ึงต้องมีการลงทุนสูง
ต่อชุมชน
- มีหน่วยงานเฉพาะที่ดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย
พลังงาน และมีการทำงานร่วมกัน ในการบริหารจัดการ
สงิ่ แวดล้อม ความปลอดภัย และความรับผิดชอบต่อชมุ ชน
- มีคณะทำงานโดยมีผู้แทนจากหลายฝ่ายขององค์กร มีการ
ติดตามผลการดำเนินการด้านส่ิงแวดล้อมและความปลอดภัย
เป็นประจำ
- มกี ารเกบ็ ข้อมูลและวเิ คราะห์เพ่ือพฒั นาด้านส่ิงแวดล้อมและ
ความปลอดภยั อย่างต่อเนื่อง
- มีการกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาด้านส่ิงแวดล้อมและความ
ปลอดภัย
- มีกิจกรรมต่างๆ ที่เสริมสร้างทักษะความรู้ ให้กับพนักงาน
การดแู ลพนักงานให้มีความสุขในการทำงาน
- การใหค้ วามร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ
- มีกิจกรรมส่งเสรมิ ชุมชนโดยรอบมาเป็น
ระยะเวลายาวนานและต่อเน่ือง
ทำให้มภี าพลักษณท์ ่ีดี
- ภาวะทางเศรษฐกิจท่ที ำให้การ - ภาครัฐมีการส่งเสร ิมให้
จัดสรรงบประมาณของโรงงาน โรงงานอุตสาหกรรมเติบโต
ชะลอการลงทุนในกจิ กรรมที่ดี อยา่ งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ยิง่ ข้นึ มีนโยบายส่งเสรมิ เพ่ือกระตุ้น
- ขอ้ กำหนดกฎหมายทีเ่ ป็นขดี จำกัดในการดำเนินกิจกรรม ให้โรงงานอุตสาหกรรมมีการดำเนินการท่ี
เช่น การนำของเสยี ของโรงงานบางประเภท ไปเป็นวัตถุดิบ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความปลอดภัย
ให้กบั ชุมชน และอยรู่ ว่ มกับชมุ ชนได้อย่างปกติสุข
- ภาวการณ์เกิดโรคอบุ ัติใหมต่ ่างๆ ทำใหก้ ิจกรรมการ
ดำเนนิ งานขององค์กรชะลอลงจนกวา่ จะเข้าสู่ภาวะปกติ
41
5 ปจั จัยแห่งความสำเรจ็ ของ “โรงงานต้นแบบของโรงงานอตุ สาหกรรมเชงิ นิเวศ
ทีม่ ีคณุ ค่าตอ่ สังคม”
จากการวิเคราะห์ SWOT เห็นได้ว่า ปัจจัยแห่งความสำเร็จของโรงงานอุตสาหกรรมที่สำคญั
ได้แก่
1. นโยบายและความมุ่งมั่นพฒั นาของโรงงานอุตสาหกรรม ของผู้บริหารโรงงานอุตสาหกรรม
การใหค้ วามสำคัญตอ่ การดำเนนิ การบรหิ ารจดั การด้านสง่ิ แวดล้อม ความปลอดภยั และความรบั ผิดชอบต่อ
สังคม การจดั สรรงบประมาณให้เพียงพอในการดำเนนิ การ เชน่ การปรบั เปล่ียนเทคโนโลยี อุปกรณ์ เป็นตน้
2. หน่วยงาน/ทีมงานผู้รับผิดชอบโดยเฉพาะ การทำงานเป็นระบบ การจัดเก็บข้อมูลเพ่ือ
วิเคราะห์ ตดั สนิ ใจ และกำหนดเปา้ หมายในการทำงาน
3. การทำงานเป็นทีม มีคณะทำงานจากหลายฝ่ายในองค์กรที่มีส่วนร่วมในการดำเนินงานให้
เปน็ ไปตามเปา้ หมาย
4. การดูแลพนกั งานให้ทำงานอยา่ งมคี วามสุข รักองค์กร
5. การปฏิบัติตามกฎหมายด้านต่างๆ มีการทบทวนกฎหมาย และติดตามการดำเนินงานให้
เป็นไปตามกฎหมาย ตลอดจนการนำแนวคิดสากลมาประยุกต์ใช้ เช่นการลดก๊าซเรือนกระจก เศรษฐกิจ
หมนุ เวยี น เปน็ ต้น
6. การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย และอาชีวอนามัย จะต้องสร้างความ
ตระหนัก ให้ความรู้แก่พนักงานที่เกี่ยวข้อง การติดตามตรวจสอบเป็นประจำ ควบคู่กับการปรับเปลี่ยน
อุปกรณ์หรือเทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และมีการ
ปรบั ปรุงอยา่ งต่อเนอื่ ง
7. การดูแลคู่คา้ ใหต้ ระหนกั และเติบโตดา้ นสิง่ แวดลอ้ มไปด้วยกนั มีกจิ กรรมส่งเสรมิ ให้ความรู้
ใหแ้ นวปฏิบัติ เพื่อให้เกิดการพฒั นารว่ มกนั
8. การดูแลชุมชนอย่างมีส่วนร่วม ให้ชมุ ชนเตบิ โตไปด้วยกับโรงงาน การเสริมสร้างความร่วมมือ
ระหว่างชุมชน หน่วยงานทอ้ งถิ่น และผู้มีสว่ นได้ส่วนเสยี โดยการส่งเสริมดา้ นเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และ
จิตใจ ใช้แนวทางแก้ปัญหาทีเ่ น้นให้เกิดกระบวนการเรียนรู้สู่การลงมอื ปฏิบัติ ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ มีการ
ประชุมเป็นประจำเพื่อใหเ้ ห็นภาพเดียวกัน มีความโปรง่ ใส ตรวจสอบได้ โดยโรงงานคอยเป็นพีเ่ ลี้ยงในการ
สง่ เสรมิ ความรู้ คำแนะนำ และสนบั สนุนใหช้ ุมชนพึ่งพาตนเอง
42
5. ปัจจัยแหง่ ควำมสำเรจ็ ของ “โรงงำนตน้ แบบของโรงงำนอตุ สำหกรรมเชิงนเิ วศ
ที่มีคุณคำ่ ตอ่ สังคม”
จากการวิเคราะห์ SWOT เห็นได้ว่า ปัจจัยแห่งความสาเร็จของโรงงานอุตสาหกรรมท่ีสาคญั
ไดแ้ ก่
1. นโยบายและความมุ่งมน่ั พัฒนาของโรงงานอุตสาหกรรม ของผู้บริหารโรงงานอตุ สาหกรรม
การให้ความสาคัญต่อการดาเนนิ การบริหารจดั การด้านสงิ่ แวดล้อม ความปลอดภยั และความรบั ผิดชอบต่อ
สังคม การจัดสรรงบประมาณให้เพียงพอในการดาเนนิ การ เช่น การปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี อปุ กรณ์ เป็นตน้
2. หน่วยงาน/ทีมงานผู้รับผิดชอบโดยเฉพาะ การทางานเป็นระบบ การจัดเก็บข้อมูลเพ่ือ
วิเคราะห์ ตัดสินใจ และกาหนดเปา้ หมายในการทางาน
3. การทางานเป็นทีม มีคณะทางานจากหลายฝา่ ยในองค์กรท่ีมีสว่ นร่วมในการดาเนินงานให้
เป็นไปตามเปา้ หมาย
4. การดแู ลพนักงานให้ทางานอยา่ งมคี วามสุข รกั องค์กร
5. การปฏิบัติตามกฎหมายด้านต่างๆ มีการทบทวนกฎหมาย และติดตามการดาเนินงานให้
เป็นไปตามกฎหมาย ตลอดจนการนาแนวคิดสากลมาประยุกต์ใช้ เช่นการลดก๊าซเรือนกระจก เศรษฐกิจ
หมนุ เวียน เป็นตน้
6. การบริหารจัดการด้านส่ิงแวดล้อม ความปลอดภัย และอาชีวอนามัย จะต้องสร้างความ
ตระหนัก ให้ความรู้แก่พนักงานท่ีเกี่ยวข้อง การติดตามตรวจสอบเป็นประจา ควบคู่กับการปรับเปล่ียน
อุปกรณ์หรือเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และมีการ
ปรับปรงุ อย่างตอ่ เนือ่ ง
7. การดแู ลคู่ค้า ใหต้ ระหนักและเตบิ โตด้านสงิ่ แวดลอ้ มไปด้วยกัน มกี ิจกรรมส่งเสรมิ ใหค้ วามรู้
ให้แนวปฏบิ ัติ เพอ่ื ใหเ้ กดิ การพัฒนารว่ มกนั
8. การดูแลชมุ ชนอยา่ งมสี ่วนรว่ ม ใหช้ มุ ชนเตบิ โตไปด้วยกับโรงงาน การเสริมสรา้ งความรว่ มมอื
ระหว่างชุมชน หน่วยงานท้องถ่ิน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยการสง่ เสริมด้านเศรษฐกิจ ส่ิงแวดล้อม และ
จิตใจ ใช้แนวทางแก้ปัญหาที่เน้นให้เกิดกระบวนการเรียนรู้สูก่ ารลงมอื ปฏิบัติ ร่วมกันคิด ร่วมกันทา มีการ
ประชุมเป็นประจาเพ่อื ให้เห็นภาพเดียวกัน มีความโปรง่ ใส ตรวจสอบได้ โดยโรงงานคอยเป็นพเ่ี ลยี งในการ
สง่ เสริมความรู้ คาแนะนา และสนับสนุนใหช้ ุมชนพง่ึ พาตนเอง
40
41