Wave คลนื่
คือปรากฏการณ์ทเ่ี กดิ ขึน้ จากการรบกวนแหลง่ กาํ เนดิ หรือ
ตวั กลางการสั่นสะเทอื นทําใหเ้ กดิ การถา่ ยโอนพลงั งานไปยงั จุดอน่ื ๆ
พลังงานจลน์ E. !?= mv
.
ประเภทของคล่ืน
แบง่ ตามการมี/ไม่มีตวั กลาง
1.คล่ืนกล คอื คลื่นที่อาศัยตวั กลาง
2.คลื่นแมเ่ หล็กไฟฟา้
แบ่งตามเวลาทเ่ี กดิ
1.คลนื่ ดล เกดิ จากแหลง่ กาํ เนิดระยะเวลาสัน้ ๆ
2.คลืน่ ตอ่ เนื่อง เกดิ เปน็ ระยะเวลาต่อเนื่อง
แบง่ ตามการสน่ั ของตวั กลาง
1.คลนื่ ตามขวาง mnr
2.คล่ืนตามยาว mmmmmทนทาน
สว่ นประกอบของคล่นื
1.ความถี่ 6.อัตราเร็วคลื่นนํ้า
ขึ้นอยกู่ บั ความลกึ ของนาํ้
f $นวน &กค)น = *
=
เวลา (5) t V= gH
2.คาบ g= 9.8 m 1s 2
¥T =
เวลา เรา =
$นวน &ก ค)น 3าH = ความ/กของ
cm )
3.อตั ราเร็ว
4 ¥V == = f= X
7.อตั ราเร็วคลื่นในเส้นเชือก
4.หน้าคลืน่ คือเส้นตรงจากผา่ น tµ kglmV = = ความ5งในเ7นเ8อก CN )
จุดทม่ี ีเฟสเดยี วกบั บนคล่ืน 9อ= มวล ความ ยาวของเอก ( )
5.รงั สีคลน่ื
=แทนทิศทางการเคลอ่ื นท่ขี องคลนื่
สมบัติคล่ืน
หมายถึงสิ่งทคี่ ลน่ื แสดงออกมาให้เราได้เห็นวา่ สามารถ
เปลยี่ นแปลงหรือเกิดอะไรขึน้ ไดบ้ ้าง
มีสมบตั 4ิ ประการดังนี้
}1.การสะทอ้ น สม<=>วม อ?ภาค + ค)น
2.การหักเก
}3.การแทรกสอด สม<= เฉพาะค)น เDาEน
4.การเลย้ี วเบน
การสะทอ้ น
เกิดข้นึ ที่ผิวรอยต่อของตัวกลาง 2 ชนิด เปน็ ไปตามกฎการสะทอ้ น
1.มุมตกกระทบ = มมุ สะทอ้ น
2.รังสีตกกระทบเส้นปกติ
ผลการสะท้อนของคลืน่
1.อัตราเรว็ ความถ่ี ความยาว เม่อื สะท้อนคณุ สมบัติเหมอื นเดิม
2.ถ้าการสะทอ้ นไม่เสียพลังงานจะไดแ้ อมพลิจลู ของคล่ืนสะทอ้ นมคี า่ ดท่ากับ
แอมพลิจดู ของคลืน่ ตกกระทบ
3.คลื่นสะท้อนอาจจะมีเฟสเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่ก็ได้
^yeวfniµ }- ปลาย 5ง
การสะท้อนของเชือกสองเส้นทต่ี ่อกัน
I. เGกไปใหJ ^
☒2. ใหJไป เGก -
_
_
การหักเห ของคล่ืน
สะทอ้ นแล้วอตั ราเร็วไม่เท่ากนั
เกดิ ขนึ้ ท่ผี วิ รอยตอ่ ของตวั กลาง 2 ชนิด คลนื่ เดินทางจาก 1 ไป 2 ดว้ ย
อัตราเร็วไม่เทา่ กัน ซึ่งเป็นไปตามกฎการหกั เห
1. รงั สีตกกระทบเปน็ เสน้ ปกติรงั สีหกั เหอยู่ในระนาบเดียวกนั
2.อตั ราสว่ นของ sin มุมตกกระทบกบั sinมมั หักเหมคี ่าคงที่ (n)
เ7นปก= XWวกลาง 1 K V2> LงM เบนเOาหา Eนปก=PใQ
Sม Tอย กUาSม ตกกระทบ
ี
Y < V2 LงM เบน ออก PใQSมZกเห
A.
มาก[แ Sม ตก กระทบ
XWว กลาง 2 #]น = k K= ^าคงWว
,
_ ¥k
¥k =
บ -
_
กฎของสเนลล์
1.ความถีไ่ ม่เปลย่ี น ความถ่ีเปลี่ยนไดแ้ คแ่ หล่งกําเนิด
2.ทศิ ทางอาจเปลย่ี นหรอื ไมก่ ็ได้
3. V X เปล่ียนแปลเสมอ
,
° V →V
มมุ วกิ ฤติ _=มมุ หเั หอป็น 90 Tอย มาก
XWวกลาง 1
` XWวกลาง 2
•s
การแทรกสอดของคลื่น
่คือ2ขบวนมาพบกนั ณ ตาํ แหน่งและเวลาเดยี วกันแล้ว
เกิดการซอ้ นทบั ของคล่นื
หลักการซอ้ นทับของคลน่ื ม2ี ข้อ
1.การกระจดั ของคล่นื รวมกันแบบเวกเตอร์
2. รปู ร่างของคลื่นเปล่ยี นไปขณะร่วมกนั แตห่ ลงั จากรวมกนั คลนื่ มรี ปู รา่ งเหมอื น
กันกอ่ นรวมกนั
aeghjfheghe ฏํ<พXแบบ 1 เaยกUา bด Antinode)
""X เaยกUา fพบµ
thlnefhey
การเลย้ี วเบน
คลืน่ ไปตกกระทบกบั สิ่งกีดขวางเลยเลี้ยวเบน อธบิ ายโดยหลักการของฮอยเกนส์
“ทุกๆจดุ บนหนา้ คลื่นจะถือวา่ เป็นจดุ กาํ เนดิ คล่ืนใหม่
คลื่นความยาวคลืน่ เดมิ ท่ีเฟสเดยี วกนั ”
ความยาว ความถ่ี อตั ราเร็ว เทา่ เดิม
ชอ่ งเล็กๆเรื่องวา่ สลติ
“ถ้าช่องเล็กย่ิงเบนเยอะ”