The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กฏการเปลี่ยนเสียง วรรณยุกต์ภาษาจีน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by noontp41412, 2022-03-11 23:03:22

สื่อการเรียนรู้การอ่านออกเสียงภาษาจีน

กฏการเปลี่ยนเสียง วรรณยุกต์ภาษาจีน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

大家好

วัตถุประสงค์

1. เพื่อศึกษาปัญหาและสาเหตุการอ่านออกเสียงวรรณยุกต์ภาษาจีน
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านชำสอง

2. เพื่อพัฒนาการอ่านออกเสียงวรรณยุกต์ภาษาจีนโดยใช้สื่อการเรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน การอ่านออกเสียงวรรณยุกต์ภาษาจีน
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านชำสอง

3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้สื่อการเรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน การอ่านออกเสียงวรรณยุกต์ภาษาจีน
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านชำสอง

เข้าสู่บทเรียน

การอ่านออกเสียงภาษาจีน

หลักการอ่านออกเสียงวรรณยุกต์ภาษาจีน

声调
: วรรณยุกต์ ภาษาจีนมีเสียงวรรณยุกต์ 5 เสียง มีเครื่องหมาย

แสดงระดับเสียงภาษาจีน 4 รูป โดยลักษณะ ความสูงต่ำของแต่ละ
เสียงวรรณยุกต์มีดังนี้




วรรณยุกต์แต่ละเสียงมีวิธีเขียนโดยใช้เครื่องหมายแทนเสียงตามลําดับต่อไปนี้

阴平วรรณยุกต์เสียง 1 ระดับเสียง 55 แทนด้วยเครื่องหมาย “ - ” เทียบได้เท่ากับ

阳平เสียง “สามัญ” ในภาษาไทย เป็นเสียงสูง ราบเรียบ ไม่เปลี่ยนระดับ
วรรณยุกต์เสียง 2 ระดับเสียง 35 แทนด้วยเครื่องหมาย “ ˊ ” เทียบได้เท่ากับ

上声เสียง “จัตวา” ในภาษาไทย เป็นเสียงที่เริ่มจากระดับ 3 และลากเสียงสูงขึ้นไประดับ 5
วรรณยุกต์เสียง 3 ระดับเสียง 214 แทนด้วยเครื่องหมาย “ ˇ ” คล้ายกับ

เสียง “เอก” ในภาษาไทยแต่ไม่ใช่เสียงเอก เป็นเสียงที่เริ่มจากระดับ 2 ลงมาระดับต่ำสุด

去声แล้วแปรเสียง สูงขึ้นไปถึงระดับ 4
วรรณยุกต์เสียง 4 ระดับเสียง51แทนด้วยเครื่องหมาย“ˋ”เทียบได้เท่ากับเสียง“โท”

轻声ในภาษาไทย เป็นเสียงที่เริ่มต้นด้วยระดับที่ 5 แล้วลดเสียงลงถึงระดับ 1
วรรณยุกต์เสียง 5 หรือวรรณยุกต์เสียงเบา เป็นวรรณยุกต์พิเศษไม่มีเครื่องหมาย

แสดงเสียง โดยจะออกเสียงลักษณะสั้นและเบา

การออกเสียงวรรณยุกต์เสียงเบา

การออกเสียงวรรณยุกต์เสียงเบา วรรณยุกต์เสียงเบาเป็น
วรรณยุกต์พิเศษ ไม่มีเครื่องหมาย เขียน แสดง ระดับความสูงของเสียง
เบาจะเปลี่ยนแปลงตามเสียงวรรณยุกต์ของพยางค์ที่อยู่ด้านหน้า โดย
ต้องออก เสียงสั้นๆ และเบาๆ เช่น gēge, míngzi, tāmen, dōngxi
เป็นต้น

การออกเสียงวรรณยุกต์เสียงเบามีความสําคัญ เนื่องจากการ
ออกเสียงเป็นเสียงเบามีส่วนทําให้คําบางคําที่ออกเสียงเบา มีความหมาย
เปลี่ยนไป จากเดิม และอาจจะเปลี่ยนชนิดของคําไปจากเดิมด้วย

การเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์

"เสียงวรรณยุกต์เสียงสาม"

การเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์ สัทอักษรจีนมีการเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์

เม่ือมีวรรณยุกต์เสียง 3 อยู่ ติดกันจํานวน 2 คําหรือมากกว่านั้น โดย

หลักการเปล่ียนเสียงวรรณยุกต์ คือ

ถ้าเป็นวรรณยุกต์เสียง 3 ติดกัน 2 ตัว เวลาอ่านต้องเปลี่ยนเสียง

你好วรรณยุกต์ตัวแรกให้เป็นเสียง 2 ก่อนโดยเสียงวรรณยุกต์ตัวหลัง

ยังคงเป็นเสียง 3 เช่น nǐhǎo ! (สวัสดี)
ถ้าเป็นวรรณยุกต์เสียง3ติดกัน3ตัว เวลาอ่านต้องเปลี่ยนเสียง

วรรณยุกต์ตัวกลางให้เป็นเสียง2 โดยตัวแรกและตัวท้ายยังคงเป็น
我很好。วรรณยุกต์เสียง 3 เช่น wǒ hěn hǎo
(ฉันสบายดีมาก)

ถ้าเป็นวรรณยุกต์เสียง 3 ติดกันมากกว่า 3 ตัวเวลาอ่านจะต้องสลับ

เปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์กัน ระหว่างเสียงที่ 2 กับเสียงที่ 3 โดยจะต้อง

我也很好。ให้ตัวสุดท้ายของประโยคยังคงเป็นวรรณยุกต์เสียง 3 เช่น
wǒyěhěnhǎo (ฉันก็สบายดีมากเหมือนกัน)

การเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์

不"การออกเสียงคำว่า "

不การออกเสียงคําว่าbù (ไม่)มีการเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์ได้โดย
พิจารณาเสียงวรรณยุกต์ตัวที่ ตามมาข้างหลัง โดยจะออกเสียงคําว่า bù

เป็นวรรณยุกต์เสียงที่ 4 หากตัวที่ตามมาเป็นวรรณยุกต์เสียง 1, 2, 3
不吃 不忙 不行เช่น bù chī
(ไม่กิน) , bùmáng (ไม่ยุ่ง) , bùxíng

( ไม่ได้) เป็นต้น
不 不หากตัวข้าง หลัง bù เป็นวรรณยุกต์เสียง 4 bù จะต้องเปลี่ยน
不做 不要เป็นเสียงวรรณยุกต์ที่ 2 เช่น búzuò
(ไม่ทํา) , búyào

(ไม่ต้องการ) เป็นต้น

วิธีการจำอย่างง่าย

不เสียงวรรณยุกต์ตัวที่ตามมาข้างหล
ังเสียง 1,2,3

เสียงวรรณยุกต์ จะออกเสียงเป็นเสียงที่ 4 bù

不เสียงวรรณยุกต์ตัวที่ตามมาข้างหลังเสียง 4

เสียงวรรณยุกต์ จะออกเสียงเป็นเสียงที่ 2 bú

การเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์

一"การออกเสียงคำว่า "

一การออกเสียงคําว่า yī (หนึ่ง) โดยทั่วไปคํานี้จะออกเสียงเป็น
วรรณยุกต์เสียง 1 แต่จะมีการอ่าน เปลี่ยนเสียงโดยต้องพิจารณาคํา

ที่ตามมาข้างหลังคือ ถ้าหากตัวข้างหลัง yī เป็นวรรณยุกต์เสียง 1, 2, 3
一只yī จะต้องออกเสียงเป็นวรรณยุกต์เสียง 4 เช่น yìzhī
一瓶 一把(หนึ่งตัว) , yìpíng
(หนึ่งขวด) , yìbǎ (หนึ่งคัน) เป็นต้น

一个หากตัวข้างหลังเป็นวรรณยุกต์เสียง 4 yī จะต้องเปลี่ยนเป็นวรรณยุกต์
เสียง 2 เช่น yígè (หนึ่งอัน) เป็นต้น

วิธีการจำอย่างง่าย

一เสียงวรรณยุกต์ตัวที่ตามมาข้างหลังเสียง 1,2,3

เสียงวรรณยุกต์ จะออกเสียง
เป็นเสียงที่ 4 yì

一เสียงวรรณยุกต์ตัวที่ตามมาข้างหลังเสียง 4

เสียงวรรณยุกต์ จะออกเสียงเป็นเสียงที่ 2 yí

แบบฝึกการอ่านออกเสียงวรรณยุกต์

ภาษาจีน

การผันเสียงวรรณยุกต์ภาษาจีน

不"การออกเสียงคำว่า "
一"การออกเสียงคำว่า "

谢谢

แบบทดสอบ

การอ่านออกเสียง

แบบทดสอบการอ่านออกเสียง

ตอนที่ 1

แบบทดสอบการอ่านออกเสียง

พยัญชนะต้น 23 เสียง สระ 37 เสียง และวรรณยุกต์ 4 เสียง




1.pā 11. dǐ

2.fò 12. qī

3.kè 13. zū

4.hè 14. cū

5.rè 15. pū

6.mó 16. nǚ

7.gé 17. lǚ

8.bū 18. qǔ

9.zhá 19. zhú

10. bǐ 20. jī

ตอนที่ 2

แบบทดสอบการอ่านออกเสียงเป็นประโยค



1. Xiànzài wǒmen zài nǎlǐ?

。2. Měi tiān wǒ bàba sòng wǒ qù gōngzuò

3. Dǎsuàn gěi wǒ zuò diǎnr shénme ne?

。4. Wǒ yītiān shàngwǎng sān gè xiǎoshí
。5. Xuésheng mǎi jīpiào kěyǐ xiǎngshòu bā

zhé yōuhuì


Click to View FlipBook Version