วรรณยุกต์ภาษาจีน
อ่านออกเสียงวรรณยุกต์ภาษาจีนให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากขึ้น
นำ เ ส น อ โ ด ย
นุ่นเหล่าชือ
วัตถุประสงค์
1.เพื่อศึกษาปัญหาและสาเหตุการอ่านออกเสียงวรรณยุกต์
ภาษาจีนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนเจริญวิทยา
2.เพื่อพัฒนาการอ่านออกเสียงวรรณยุกต์ภาษาจีนโดยใช้
สื่อการเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการอ่านออกเสียง
วรรณยุกต์ภาษาจีนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนเจริญวิทยา
3.เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดย
ใช้สื่อการเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการอ่านออกเสียง
วรรณยุกต์ภาษาจีน ของนักเรียนชั้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
โรงเรียนเจริญวิทยา
เสียงวรรณยุกต์ 声调
เสียงวรรณยุกต์ คือ การเปลี่ยนแปลงของระดับเสียงสูงต่ำใน
การออกเสียง
เสียงวรรณยุกต์ในภาษาจีนกลางมีทั้งหมด 4 เสียง ได้แก่
阴平เสียงหนึ่ง “ — ” คล้ายกับเสียงสามัญในภาษาไทย
阳平แต่ออกเสียงสูงกว่าและลากเสียงยาวกว่าเล็กน้อย
เสียงสอง “ ̸ ” คล้ายกับเสียงจัตวาในภาษาไทย
上声แต่จะลากเสียงขึ้นสูงกว่าเล็กน้อย
เสียงสาม “ ˅ ” เป็นเสียงวรรณยุกต์ที่ต้องกดเสียง
ลงต่ำก่อน แล้วจึงลากเสียงให้สูงขึ้นตอนหลัง ในช่วงที่กด
去声เสียงลงต่ำ จะออกเสียงใกล้เคียงกับ เสียงเอก ในภาษาไทย
เสียงสี่ “ \ ” คล้ายกับเสียงโทในภาษาไทย แต่จะ
ออกเสียงสั้น และจบเสียงเร็วกว่า
妈mā ออกเสียง “มา” แปลว่า แม่
麻má ออกเสียง “ม๋า” แปลว่า ปอ, ป่าน
马mă ออกเสียง “หม่า” แปลว่า ม้า
骂mà ออกเสียง “ม่า” แปลว่า ด่า
轻声เสียงเบา
เสียงเบา หมายถึง เสียงที่เปล่งออกมาต่อจากพยางค์ก่อนหน้า
นั้นอย่างกระชั้นชิด มีลักษณะการออกเสียงสั้นและเบากว่าเสียง
ทั่วไป เสียงเบาที่อยู่หลังวรรณยุกต์เสียงหนึ่ง เสียงสอง และเสียง
สาม จะออกเสียงต่ำต่อเนื่องจากเสียงวรรณยุกต์ก่อนหน้า ส่วน
เสียงเบาที่อยู่หลังวรรณยุกต์เสียงสาม จะออกเสียงสูงขึ้นจาก
ระดับเสียงของพยางค์หน้าเล็กน้อย เช่น
妈妈 māma มาหม่ะ แม่
爷爷 yéye เย๋เย ปู่
奶奶 năinai ไหน่ไน ย่า
爸爸 bàba ป้ าปะ พ่อ
การเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์
"เสียงวรรณยุกต์เสียงสาม"
การเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์ สัทอักษรจีนมีการเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์เมื่อมี
วรรณยุกต์เสียง 3 อยู่ ติดกันจํานวน 2 คําหรือมากกว่านั้น โดยหลักการเปลี่ยน
เสียงวรรณยุกต์ คือ
ถ้าเป็นวรรณยุกต์เสียง 3 ติดกัน 2 ตัว เวลาอ่านต้องเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์
你好ตัวแรกให้เป็นเสียง 2 ก่อนโดยเสียงวรรณยุกต์ตัวหลังยังคงเป็นเสียง 3
เช่น nǐhǎo ! (สวัสดี)
ถ้าเป็นวรรณยุกต์เสียง3ติดกัน3ตัว เวลาอ่านต้องเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์ตัวกลาง
我很好。ให้เป็นเสียง2 โดยตัวแรกและตัวท้ายยังคงเป็นวรรณยุกต์เสียง 3
เช่น wǒ hěn hǎo (ฉันสบายดีมาก)
ถ้าเป็นวรรณยุกต์เสียง 3 ติดกันมากกว่า 3 ตัวเวลาอ่านจะต้องสลับเปลี่ยนเสียง
วรรณยุกต์กัน ระหว่างเสียงที่ 2 กับเสียงที่ 3 โดยจะต้องให้ตัวสุดท้ายของประโยค
我也很好。ยังคงเป็นวรรณยุกต์เสียง 3 (ฉันก็สบายดีมากเหมือนกัน)
เช่น wǒyěhěnhǎo
การเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์
不"การออกเสียงคำว่า "
不การออกเสียงคําว่าbù (ไม่)มีการเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์ได้โดย
พิจารณาเสียงวรรณยุกต์ตัวที่ ตามมาข้างหลัง โดยจะออกเสียงคําว่า
bù เป็นวรรณยุกต์เสียงที่ 4 หากตัวที่ตามมาเป็นวรรณยุกต์เสียง
不吃 不忙1, 2, 3 เช่น bù chī
(ไม่กิน) , bùmáng (ไม่ยุ่ง) ,
不行bùxíng ( ไม่ได้) เป็นต้น
不 不หากตัวข้าง หลัง bù เป็นวรรณยุกต์เสียง 4 bù จะต้อง
不做เปลี่ยนเป็นเสียงวรรณยุกต์ที่ 2 เช่น búzuò
不要 (ไม่ต้องการ) เป็นต้น (ไม่ทํา) , búyào
วิธีการจำอย่างง่าย
不เสียงวรรณยุกต์ตัวที่ตามมาข้างหลังเสียง 1,2,3
เสียงวรรณยุกต์ จะออกเสียงเป็นเสียงที่ 4 bù
不เสียงวรรณยุกต์ตัวที่ตามมาข้างหลังเสียง 4
เสียงวรรณยุกต์ จะออกเสียงเป็นเสียงที่ 2 bú
การเปลี่ยนเสียงวรรณยุกต์
一"การออกเสียงคำว่า "
一การออกเสียงคําว่า yī (หนึ่ง) โดยทั่วไปคํานี้จะออกเสียงเป็น
วรรณยุกต์เสียง 1 แต่จะมีการอ่าน เปลี่ยนเสียงโดยต้องพิจารณาคํา
ที่ตามมาข้างหลังคือ ถ้าหากตัวข้างหลัง yī เป็นวรรณยุกต์เสียง 1, 2, 3
一只yī จะต้องออกเสียงเป็นวรรณยุกต์เสียง 4 เช่น yìzhī
一瓶 一把(หนึ่งตัว) , yìpíng
(หนึ่งขวด) , yìbǎ (หนึ่งคัน) เป็นต้น
一个หากตัวข้างหลังเป็นวรรณยุกต์เสียง 4 yī จะต้องเปลี่ยนเป็นวรรณยุกต์
เสียง 2 เช่น yígè (หนึ่งอัน) เป็นต้น
วิธีการจำอย่างง่าย
一เสียงวรรณยุกต์ตัวที่ตามมาข้างหลังเสียง 1,2,3
เสียงวรรณยุกต์ จะออกเสียงเป็นเสียงที่ 4 yì
一เสียงวรรณยุกต์ตัวที่ตามมาข้างหลั
งเสียง 4
เสียงวรรณยุกต์ จะออกเสียงเป็นเสียงที่ 2 yí
แบบฝึกการอ่านออกเสียง
วรรณยุกต์
谢谢