òčîûăċüęðûÝĆúė÷ăčð ThaiComposites âóĊóðĎĝúčïđòċûòñĊòĀċÝú,VVXH-XQH'HFHPEHU ùċûĘîļÚċüÚĢċÚĊóíĒĖþÛĆàăúċÝúęðûÝĆúė÷ăčð şşşŴŊōŚŏŔʼnśśŜŐʼnőŴŋŗŕ นิตยสารไทยคอมโพสิท ThaiComposites ฉบับที่ 12 พฤษภาคม-ธันวาคม 2567 Issue 12, June-December, 2024 ภายใต้การก�ากับดูแลของ สมาคมไทยคอมโพสิท www.thaicomposites.org Composites Sustainability
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 1 FORMOSA TAFFETA
2 THAI COMPOSITES MAGAZINE Contents 3 4 5 8 10 12 19 20 24 30 34 Editor’s talk รายนามคณะกรรมการบริหารปี 2566-2567 วัฏจักรชีวิตของวัสดุคอมโพสิท : หนทางข้างหน้า กิจกรรมประจำ ปี 2566-2567 การสร้างห่วงโซ่ทางมูลค่าของการรีไซเคิล ใบพัดกังหันลมในประเทศเบลเยียม ประหยัดได้มากกว่าด้วยเทคโนโลยีล่าสุดของเครื่องอัดอากาศ UV Composites ยูวีคอมโพสิท ยินดีต้อนรับสู่อาณาจักร CARRYBOY Organosheet วัสดุคอมโพสิท สำ หรับการผลิตชิ้นงาน จำ นวนมาก (ในระยะเวลาที่น้อย) ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เคมีพื้นฐานของอีพ็อกซี การเลือกนํ้ายาขัดเงาสำ หรับชิ้นงานคอมโพสิท
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 3 Editor‘s talk จะขอเริ่มโดยการแบ่งเจนเนอเรชั่นท่านสมาชิกตามสมัยนิยมซักหน่อย ท่านที่เป็นคนยุค Babyboomer อย่างผม ท่านสมาชิกส่วนใหญ่ที่อยู่ใน gen-x และท่านสมาชิกรุ่นใหม่ที่กำ ลังก้าวขึ้นมาทดแทนอย่าง gen-y ทุกท่านคงจะ สัมผัสได้กับกระแสแห่งความเปลี่ยนแปลงทั้งในเชิงเศรษฐกิจยุคใหม่ที่เริ่มจะ เห็นได้อย่างชัดเจนของรอยต่อเริ่มแรกตั้งแต่ก่อนยุคโควิด-19 เราได้เห็นถึง การเปลี่ยนแปลงท่าทีของมหาอำ นาจโลกที่มีต่อกันที่ทำ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จากยุค Globalization อำ นาจขั้วเดียวที่มีแต่การลดภาษีและทำ ลายกำ แพง การนำ เข้าของทุกๆ ประเทศ ย้อนกลับไปสู่ยุคสงครามเย็นใหม่ซึ่งเป็นการ De-globalization เพราะมีขั้วอำ นาจใหม่ขึ้นมาท้าทายขั้วอำ นาจเก่า สงคราม เทคโนโลยีและการค้าระหว่างอเมริกาและจีนชัดเจนและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่สงครามการสู้รบจริงระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และ NATO ที่แทบจะจบ บทบาทตนเองไปตั้งแต่ปี 2015 ต้องกลับมาขึ้นสังเวียนและกำลังจะเป็นคู่สงคราม โดยตรงด้วย ทำ ให้เศรษฐกิจยุโรปยํ่าแย่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อิสราเอลฮามุส ก็ยังร้อนระอุ สร้างความไม่แน่นอนด้านราคานํ้ามัน เหล่านี้เราเรียกรวมๆ ด้วยศัพท์ใหม่ว่าภูมิรัฐศาสตร์ ฉากทัศน์ลักษณะนี้ (ศัพท์ใหม่อีกแล้ว) เหมือน เป็นการฉายภาพซํ้าสำ หรับเหล่า babyboomer และ gen-x ซึ่งคุ้นเคยกับยุค สงครามเย็นก่อนจะเข้าสู่ยุค Globalization ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ด้านสงครามสู้รบทั้งในยุโรปและตะวันออกกลางมี ผลกระทบกับประเทศไทยและผู้ประกอบการเช่นเราๆ ท่านๆ โดยตรงต่อราคา วัตถุดิบคือเรซิ่นซึ่งขึ้นตรงกับราคานํ้ามัน ในขณะที่สงครามทางการค้าระหว่าง อเมริกาและจีนก็มีผลต่อราคาใยแก้ว นอกจากนี้จะมองข้ามไม่ได้เลยคือปัญหา โลกร้อนในปัจจุบันนำ มาซึ่งความพยายามและกฎหมายสิ่งแวดล้อมในการควบคุม ก๊าซเรือนกระจก ทำ ให้การดำ เนินธุรกิจของพวกเรามีความซับซ้อนและมีต้นทุน ที่สูงขึ้นจากการที่จะต้องควบคุมสถานที่ผลิต กระบวนการผลิต และกระบวนการ กำจัดของเสีย รวมไปถึงความปลอดภัยและสวัสดิภาพของแรงงานอีกด้วย เนื้อหาในฉบับนี้จะมีบางส่วนที่จะครอบคลุมในเรื่องของความยั่งยืน ให้ท่านเห็นถึงกระแสการทำ ธุรกิจในอนาคตของอุตสาหกรรมคอมโพสิท ที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และทางทีมงานขอเป็นกำ ลังใจให้ท่านสมาชิกที่เป็น ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมคอมโพสิท สามารถปรับองค์กรของท่านให้ทันกับ ความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน ของเศรษฐกิจในยุคนี้ที่มีสูงกว่าในทศวรรษ ที่ผ่านมา เพื่อท่านจะได้เห็นประเด็นใช้เป็น ตัวอย่างในการเตรียมความพร้อมภายใน องค์กรได้ อย่างไรก็ตามยังมีเรื่องที่น่ายินดี หลายอย่างที่ได้เห็นประเทศไทยเองมีการ ฟื้นคืนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่าง มาก โดยทั้งกรุงเทพฯ และประเทศไทย โดยรวมได้รับการจัดอันดับติดอันดับต้นๆ ของแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกทุกปี เม็ดเงิน ปีละกว่า 2 ล้านล้าน ได้กระจายไปทั่ว หลากหลายอุตสาหกรรม และการลงทุน โดยตรงจากต่างประเทศ Foreign Direct Investment (FDI) ก็เริ่มที่จะมีมากขึ้นจาก การที่เรามีนโยบายและมุ่งมั่นจะเป็น Hub ของการประกอบ EV และการเป็น Data Center ของเหล่าบริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่ อุตสาหกรรมคอมโพสิทของเรามี อยู่ในเกือบทุกอุตสาหกรรมข้างเคียง ด้าน ท่องเที่ยว คือ เรือโดยสาร เรือสำ ราญ ด้าน ก่อสร้างจาก FDI คือ สุขภัณฑ์ เฟอร์นิเจอร์ ท่อ ถัง พื้น ฯลฯ การพัฒนาและเติบโต ของประเทศไทยจะมีผลประโยชน์ทั้งทาง อ้อมและทางตรงต่อทุกๆ ท่านอย่างแน่นอน WWW.THAICOMPOSITES.ORG 3 สมาคมไทยคอมโพสิท อาคารปฏิบัติการไฟเบอร์กลาส ซอยตรีมิตร กล้วยน้ำไท ถนนพระราม 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2713-5033 โทรสาร 0-2713-5032 E-mail : [email protected] www.thaicomposites.org facebook : www.facebook.com/thaicomposites2538 Line official : @ thaicomposites
4 THAI COMPOSITES MAGAZINE
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 5 วัฏจักรชีวิต ของวัสดุคอมโพสิท : หนทางข้างหน้า อายุการใช้งานที่ยาวนานของผลิตภัณฑ์คอมโพสิท ทำ ให้มันเป็นตัวเลือกที่มีความยั่งยืนในการเข้ามาทดแทนวัสดุ แบบดั้งเดิม แต่วิธีการที่เหมาะสมในการจัดการกับวัสดุคอมโพสิทที่หมดอายุการใช้งานแล้วนั้นยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น EUCIA กำ ลังทำ งานอย่างแข็งขันกับผู้ประกอบการในวงการ เพื่อหาหนทางในการนำ กลับมาใช้ใหม่และการแปรรูป EUCIA สนับสนุนการนำกลับมาใช้ใหม่อย่างกว้างขวาง รวมไปถึงการจัดหาเทคโนโลยีในการแปรรูป การแก้ไขกฎหมายการจัดการ ขยะอุตสาหกรรม และการพัฒนาโครงสร้างระบบการจัดเก็บขยะเหล่านั้น วัสดุคอมโพสิทมีความแข็งแรงสูง ทนทาน เหมาะกับการใช้เป็นวัสดุทางวิศวกรรม มันประกอบไปด้วยวัสดุพอลิเมอร์ (ไม่ว่าจะเป็น เทอร์โมเซ็ต หรือ เทอร์โมพลาสติก) และวัสดุเสริมแรง (ใยแก้ว ใยคาร์บอน อารามิด ใยธรรมชาติ และอื่นๆ) วัสดุต่างๆ เหล่านี้มักจะผสมกันอยู่ด้วยการจับตัวกันทางเคมีทำ ให้ยากที่จะแยกพวกมันออกจากกันและกันได้ การผสมผสานกันของวัสดุพอลิเมอร์และวัสดุเสริมแรงทำ ให้ชิ้นงานมีคุณสมบัติเฉพาะทางที่เหมาะกับการใช้งาน วัสดุคอมโพสิทมีความเบา แข็งแรง ทนความร้อน ให้ความหลากหลายในการออกแบบ และ มีความทนทานสูง (ทำ ให้มี อายุการใช้งานที่ยาวนาน) โคยทั่วไปพวกมันเหมาะสำ หรับการขึ้นรูปเป็นใบกังหันลม เรือ รถยนต์ รถบรรทุก รถไฟ รถโดยสาร อากาศยาน สะพาน สุขภัณฑ์ อุปกรณ์ในระบบนํ้าและสารเคมี การซ่อมแซมโครงสร้างในระบบบำ บัดและระบบนํ้าประปา วัสดุคอมโพสิทและวัฏจักรทางเศรษฐศาสตร์ของมัน มีวัสดุพอลิเมอร์สองชนิดที่ใช้ในการผลิตวัสดุคอมโพสิทคือ เทอร์โมเซ็ต และเทอร์โมพลาสติก สำ หรับเทอร์โมพลาสติก แล้วหลังจากเม็ดพลาสติกถูกผสมสีและวัสดุเสริมแรงก็จะถูกฉีดเข้าสู่แม่พิมพ์ ส่วนวัสดุเทอร์โมเซ็ตที่มักใช้เป็นโครงสร้าง รับแรงสามารถขึ้นรูปได้หลากหลายวิธี ที่จะให้ความแข็งแรงสูงสุดจากไฟเบอร์เส้นใยยาว ในขณะที่การคุมผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อมก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน (เครื่องมือประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ EUCIA จะเริ่มตั้งแต่จุดเริ่มต้นวัฏจักรชีวิต ไปจนถึงจุดสิ้นสุด) ช่วงชีวิตที่ยาวนานของวัสดุคอมโพสิทนี้เองที่ทำ ให้พวกมันมีค่าต่อโลกที่มีความยั่งยืน วัสดุคอมโพสิทมีอายุการใช้งานที่ยาวนานประมาณ 5 ถึง 10 ปี สำ หรับเครื่องใช้ไฟฟ้า ประมาณ 15 ปี ถึง 20 ปี ในชิ้นส่วนรถยนต์ ประมาณ 25 ปี ถึง 50 ปี ในผลิตภัณฑ์ใบกังหันลม เรือ ท่อต่างๆ และยาวนานกว่า 100 ปี เมื่อนำ มาใช้ใน การทำ เป็นโครงสร้างพื้นฐานประเภทสะพาน ถึงแม้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะสิ้นสุดอายุการใช้งานแล้วแต่คุณสมบัติต่างๆ ของวัสดุ ก็ยังอยู่ในระดับสูง ดังนั้นจุดสิ้นสุดอายุของวัสดุคอมโพสิทจึงแตกต่างไปจากวัสดุเริ่มต้นเดี่ยวๆ ของพวกมัน การที่จะแยก พอลิเมอร์และวัสดุเสริมแรงออกจากกันนั้นทำ ได้ยาก (ยกเว้นคาร์บอนไฟเบอร์) มันจะเป็นการดีกว่าที่จะยืดอายุการใช้งาน ของผลิตภัณฑ์คอมโพสิทให้พวกมันได้สร้างประโยชน์สูงสุดต่อวัฏจักรทางเศรษฐศาสตร์ของพวกมันเอง ในสถานการณ์ที่การยืดอายุการใช้งานของวัสดุคอมโพสิทไม่สามารถทำ ได้ ทางเลือกคือการนำ ไปแปรรูป การแยก พอลิเมอร์ออกจากวัสดุเสริมแรง หรือแม้กระทั่งการกำ จัดทิ้งเป็นขยะ พื้นฐานสำ คัญที่จะตามมาคือการเก็บรวบรวมขยะ คอมโพสิทเหล่านี้ การแยกคัดสรรขยะ การจำแนกรหัส และกำ หนดมาตฐานต่างๆ สำ หรับพวกมัน เทคโนโลยีที่จะใช้ในการ จัดการขยะคอมโพสิทนั้น ขึ้นกับชนิดและตลาดของผลิตภัณฑ์ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ใบพัดกังหันลม เรือ ท่อ ชิ้นส่วนอากาศยาน เศษขยะคอมโพสิทจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะได้รับการจัดการค่อนข้างเป็นระบบด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม ภาพที่ 2 แสดงให้ เห็นถึงเทคโนโลยีที่สามารถนำ มาใช้ได้ ส่วนผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึง อุตสาหกรรมที่มีการกระจายตัวสูงอย่างอุตสาหกรรมก่อสร้างและอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค เป็นส่วนที่ต้องการเทคโนโลยี ระดับสูงขึ้นไปในการคัดแยกและจัดการขยะเหล่านี้ แปลและ เรียบเรียงโดย คุณจุติ เพียรล�้ ำเลิศ
6 THAI COMPOSITES MAGAZINE ภาพที่ 1 โดยการลดของเสีย ลดการใช้วัตถุดิบ หลีกเลี่ยงการทิ้งลงดินเพื่อถมที่และการเผาทำลาย ภาพที่ 2 ระดับความพร้อมทาง เทคโนโลยีของเทคโนโลยีต่างๆ ในการแปรรูปวัสดุคอมโพสิท ที่มา : EUCIA วัฏจักรแบบปิดและวัฏจักรแบบเปิดของการแปรรูป ในวัฏจักรทางเศรษฐศาสตร์ของวัสดุคอมโพสิท การยืดอายุการใช้งานผ่านการใช้ซํ้า การซ่อมแซม การปรับปรุงสภาพ เพื่อนำผลิตภัณฑ์คอมโพสิทเก่ากลับมาใช้งานได้อีกครั้งนั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนจุดมุ่งหมายของการใช้งานก็อาจเปลี่ยนผลิตภัณฑ์เดิมให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ในการใช้งานที่ ต่างออกไป กระบวนการนี้สามารถทำ ได้โดยการตัดลดขนาดของชิ้นงานขนาดใหญ่มาเป็นส่วนประกอบย่อยที่จะช่วยทดแทน การใช้วัตถุดิบใหม่ทั้งหมด ในการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์คอมโพสิท ยกตัวอย่างเช่น การบดย่อยชิ้นงานคอมโพสิทเก่าให้เป็นแถบ หรือเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อเป็นส่วนผสมร่วมกับเรซิ่นและวัสดุเสริมแรงขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์คอมโพสิทที่มีความแข็งแรงชิ้นใหม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องครัว สะพาน หรือแผ่นกระดานคอมโพสิทก็ตาม ในแง่ของการประมาณค่าอายุการใช้งาน การนำคุณสมบัติที่ยังคงเหลือของวัสดุคอมโพสิทเก่ามาใช้ให้เป็นประโยชน์นั้น เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอ วิธีการเช่นนี้เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดเมื่อเศษวัสดุเหล่านี้สามารถเข้ามาทดแทนการใช้วัตถุดิบใหม่ใน การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ ดังนั้นการนำกลับมาใช้ซํ้าของวัสดุคอมโพสิทเก่าที่ยังคงคุณสมบัติและประโยชน์ในการใช้งานด้านอื่นได้ อยู่จึงควรถือว่าเป็นวัฏจักรแบบปิดอย่างแท้จริง ในกรณีที่วิธีการนำ กลับมาใช้ใหม่ไม่สามารถทำ ได้ กระบวนการแยกวัสดุเสริมแรงออกจากพอลิเมอร์คือทางเลือก ถัดไป แต่ต้องคำ นึงด้วยว่าพลังงานที่ต้องใช้ในกระบวนการแยกจะต้องน้อยกว่าพลังงานที่ใช้ในการผลิตวัตถุดิบใหม่ อย่างเช่น พลังงานที่ใช้ในการผลิตเส้นใยคาร์บอนนั้นสูงมากพอที่จะคุ้มค่าที่จะแยกเส้นใยคาร์บอนใช้แล้วออกมาจากพอลิเมอร์ ในขณะที่ มันอาจจะไม่คุ้มค่าพอถ้าจะทำอย่างเดียวกันกับเส้นใยแก้วซึ่งมูลค่าของพอลิเมอร์จะเป็นตัวกำ หนดกระบวนการที่จะนำ มาใช้ใน แง่ของทั้งความคุ้มค่าในทางตัวเงินและทางสิ่งแวดล้อม แม้การยืดอายุการใช้งานผ่านการใช้ซํ้า การซ่อมแซม การปรับปรุงสภาพ เพื่อนำผลิตภัณฑ์คอมโพสิทเก่ากลับมาใช้งาน ได้อีกนั้นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ในบางสถานการณ์การนำกลับมาใช้ซํ้าอาจทำ ไม่ได้ เนื่องจากไม่มีการใช้งานอื่นที่เหมาะสม หรือเพราะมีส่วนประกอบอื่นปะปนอยู่ การนำ วัสดุคอมโพสิทใช้แล้วเหล่านี้มาทดแทนวัตถุดิบอื่นโดยตีค่าพลังงานที่มีอยู่ใน เนื้อพอลิเมอร์ที่จะนำ ไปใช้ในกระบวนการผลิตร่วมก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 7 ยกตัวอย่าง การนำผลิตภัณฑ์คอมโพสิทที่ถึงจุดสิ้นสุดอายุมาใช้ในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ โดยเส้นใยแก้วจะมา ทดแทนแร่บางตัวในขณะที่ส่วนประกอบที่เป็นพอลิเมอร์สามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนปิโตรเลียมได้ การผลิตปูนซีเมนต์แบบ กระบวนการร่วมนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าชเรือนกระจกได้อย่างมาก มีผลให้คาร์บอนฟุตปรินท์ของทั้งวัฏจักรชีวิตปูนซีเมนต์ ลดลง การทดแทนวัตถุดิบและเชื้อเพลิงในการผลิตผลิตภัณฑ์อื่นนี้ถือว่าเป็นวัฏจักรแบบเปิดนั่นเอง เราอาจสรุปได้ว่าวัสดุคอมโพสิทเป็นวัสดุที่มีการใช้งานเป็นแบบวัฏจักร มันสามารถนำกลับมาใช้ซํ้าได้หลังจากที่ผลิตภัณฑ์ เดิมใช้งานไม่ได้แล้ว ทางเลือกในการใช้ขึ้นอยู่กับช่องทางการตลาด ความยากง่ายในการเก็บรวบรวม/คัดแยกวัสดุที่หมดอายุ เหล่านี้ นอกจากนี้ยังต้องคำ นึงความพร้อมของกรรมวิธีและเครื่องมือต่างๆ หากเราสามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ ที่กล่าว มาไปได้ ก็จะเกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้ซํ้าวัสดุคอมโพสิทเหล่านี้ทั้งในแง่ประโยชน์ในการใช้งานและแง่อื่นๆ ที่ผ่านมาองค์กร EUCIA มีการทำ งานร่วมกับผู้ประกอบการในวงการคอมโพสิท เพื่อผลักดันและพัฒนาการนำผลิตภัณฑ์ คอมโพสิทมาใช้ซํ้ารวมไปถึงการรีไซเคิลแบบต่างๆ องค์กรฯ มีความมุ่งมั่นที่จะนำ เสนอหนทางใหม่ๆ ในการจัดการผลิตภัณฑ์ ที่สิ้นสุดอายุการใช้งาน โดยกระบวนการใช้ซํ้าต้องมีความคุ้มค่าทั้งทางเศรษฐกิจและมีความยั่งยืนด้วย การจะทำสิ่งนี้ให้สำ เร็จ จะต้องมีการแก้กฎหมายบางข้อและทางองค์กรฯเองก็พร้อมที่จะคุยกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะ : • ปรับปรุงรายการของเสียคอมโพสิท เพื่อสร้างรหัสแต่ละชนิดของเสียที่มาจากใบพัดกังหันลมและเรือที่ปลดระวางแล้ว • ปรับปรุงข้อกำ หนดการจัดการของเสีย เพื่อใช้ในการตั้งเป้าหมายเชิงรุกในการใช้ซํ้าและการรีไซเคิลวัสดุคอมโพสิท ที่มาจากใบพัดกังหันลมและเรือที่ปลดระวางแล้ว • พัฒนารูปแบบการทำ งานในสหภาพยุโรป เพื่อแยกและเก็บขยะคอมโพสิทที่มาจากใบพัดกังหันลมและเรือที่ ปลดระวางแล้ว องค์กรฯจะคงความร่วมมืออย่างต่อเนื่องกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยมีเป้าประสงค์ในการร่างระเบียบและกรอบการทำ งาน ที่จะช่วยสนับสนุนการใช้ซํ้าของวัสดุคอมโพสิทเพื่อความยั่งยืนและไปถึงเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ของอุตสาหกรรม คอมโพสิทในสหภาพยุโรป For further information please visit www.eucia.eu เกี่ยวกับ EUCIA : องค์กรมีสำ นักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงบรัสเซลส์ EUCIA ย่อมาจาก European Composites Industry Association (สมาคมอุตสาหกรรมคอมโพสิทแห่ง ทวีปยุโรป) องค์กรฯ จะทำ หน้าที่เป็นตัวแทนระดับสหภาพยุโรปให้กับสมาคมและ กลุ่มอุตสาหกรรมคอมโพสิทระดับชาติต่างๆ ด้วยความสนับสนุนจากเหล่าสมาชิก EUCIA พยายามที่จะมีส่วนร่วมอย่างใกล้ชิดให้มีความยั่งยืนในวงการคอมโพสิทของ ทวีปยุโรปทั้งในแง่เศรษฐศาสตร์และสิ่งแวดล้อม องค์กรมีการสนับสนุนกิจกรรมการ ศึกษาและยังช่วยเฝ้ามองมาตรฐานและข้อกฎหมายโดยจะสื่อสารกับผู้ที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางต่างๆ ที่จะให้อุตสาหกรรมคอมโพสิท มีส่วนช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมโลก เราริเริ่มให้มีการเติบโตที่ยั่งยืนโดยยังคงความสามารถในการแข่งขันของบริษัท กว่า 10000 แห่ง รวมไปถึงบุคลากรกว่า 150,000 คนในอุตสาหกรรมคอมโพสิทในภาคพื้นทวีปยุโรปไว้ได้ ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.eucia.eu
8 THAI COMPOSITES MAGAZINE Asia International Hemp Expo & Forum 2023 22-25 November 2023 At QSNCC China Composites Expo 2023 In Shanghai China 7/12/2566 ศึกษาดูงาน Carbon Magic (Thailand) & Viking Life-Saving Equipment (Thailand) กิจกรรมช่วงปลายปี 2566 ยังคงมีให้ติดตามอีกมากมาย รวมถึงต้นปี 2567 ซึ่งก็ยังได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกด้วยดีเสมอมา ท่านสามารถเข้าชม ภาพบรรยากาศกิจกรรมต่างๆ ที่ผ่านมาทั้งหมดทาง www.thaicomposites.org และ www.facebook.com/thaicomposites2538 กิจกรรม 2566- ประจ�ำปี 2567
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 9 Carbon Prepreg by Oven # Zigma Project & Asia Kangnum วันพุธที่ 27 มีนาคม 2567 Hand Lay Up By Concrete Composites Co.,Ltd. 27-29/2/2567 ฝึกอบรม "Silicone mold: The miracle of vacuum Infusion" By Neotech Composites Co.,Ltd. 23/1/2567 WWW.THAICOMPOSITES.ORG 9
10 THAI COMPOSITES MAGAZINE โครงการ C-Blade มีจุดมุ่งหมายที่จะหาแนวทางต่างๆ ในการสร้างวงจรวัฏจักรการใช้งานของใบพัดกังหันลม โครงการฯ ได้รับทุนสนับสนุนจากโปรแกรม Builds Back Circular ของประเทศเบลเยียม ตามนโยบายการนำกลับมาใช้ ใหม่และแผนการปรับตัวของประเทศเพื่อจะนำ ประเทศเข้าสู่ระบบเศรษฐศาสตร์แบบวงจรวัฏจักร กังหันลมไฟฟ้านอกชายฝั่ง มีความสำคัญมากขึ้นและมากขึ้นต่อการปริมาณอุปทานไฟฟ้าของประเทศเบลเยียม ณ ปัจจุบันนี้เบลเยียมอยู่ในอันดับสาม ของกำ ลังผลิตไฟฟ้าจากพลังลมต่อจำ นวนประชากร โดยรองจากเดนมาร์กและสหราชอาณาจักร ในปี 2021 จำ นวน 8 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการใช้ไฟฟ้าของประเทศเบลเยียมมาจากฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่งเหล่านี้ ปัจจุบันนี้มีกังหันลม จำ นวน 399 ตัวที่ทำการผลิตไฟฟ้าอยู่ในบริเวณทะเลฝั่งเหนือของประเทศที่มีกำลังผลิตไฟฟ้าที่ 2.262 เมกะวัตต์ และมี เป้าหมายที่จะขยายกำลังการผลิตเป็น 6-8 กิกะวัตต์ ภายในปี 2030 ถึงแม้ว่ากังหันลมเหล่านี้จะถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ 20-25 ปี ก็ตาม กังหันลมเครื่องแรกๆ ก็เดินทางมาถึง การสิ้นอายุการใช้งานของพวกมันแล้ว จำ นวนของกังหันหมดอายุเหล่านี้จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ในขณะเดียวกัน ประเทศในทวีปยุโรปเองพยายามที่จะเข้าสู่เศรษฐศาสตร์แบบวงจรวัฏจักรที่ของเสียเป็นศูนย์ เป้าหมายคือการรีไซเคิล ทุกๆ วัสดุของกังหันลมเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามในขณะนี้มีเพียง 80-90% ของวัสดุที่มีเส้นทางของการรีไซเคิลที่มีมานาน และเข้มแข็งคือในส่วนที่เป็นโลหะ ส่วน 10%-20% ที่เหลือจะเป็นส่วนของตัวใบพัดซึ่งทำ มาจากคอมโพสิทที่ตอนนี้มีเพียง การนำ ไปใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์แบบกระบวนการร่วมที่เป็นหนทางเดียวที่คุ้มค่าทางการค้า การรีไซเคิลคอมโพสิทใยแก้วโดยใช้ในการผลิตปูนซีเมนต์แบบกระบวนการร่วมถูกพิสูจน์แล้วว่าเป็นกระบวนการที่ คุ้มค่าทางด้านต้นทุนและช่วยลดคาร์บอนฟุตปรินท์ของอุตสาหกรรมผลิตซีเมนต์ จากการนำ เอาเศษวัสดุคอมโพสิทมาบด แล้วนำ มาใช้เป็นวัตถุดิบและพลังงานทดแทนไปในขณะเดียวกัน ทำ ให้ลดการใช้แร่ใหม่และเชื้อเพลิงฟอสซิลพวกถ่านหิน ปิโตรเลียม และแก๊สธรรมชาติ ลงได้ ตามที่ได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ของการสร้างวัฏจักรการใช้งานคอมโพสิท ที่จัดทำขึ้นโดย Sirris ซึ่งเป็นศูนย์วิจัย ร่วมในประเทศเบลเยี่ยม เศษชิ้นส่วนคอมโพสิทจากใบพัดกังหันลมนอกชายฝั่งของประเทศเบลเยียมจะมีถึง 12,000 ตัน/ปี ภายในปี 2040 ส่วนกังหันลมในชายฝั่งจะมีเศษชิ้นส่วนคอมโพสิทประมาณ 3,000 ตัน/ปี ภายในปี 2030 ทั้งทวีปยุโรป พวกมันมีปริมาณ 50,000 ตัน ในปี 2022 และในภาพรวมทั้งโลกจะมีจำ นวน 43.5 ล้านตัน/ปี ภายในปี 2050 ตัวเลข ณ ปัจจุบัน ในทวีปยุโรปมีการติดตั้งใบกังหันลมทั้งหมดที่แยกคิดเป็นจำ นวนใยแก้วได้ 500,000 ตัน และอีพ็อกซีอีกเป็นจำ นวน 1.5 ล้านตัน การสร้างห่วงโซ่ทางมูลค่าของ การรีไซเคิลใบพัดกังหันลม ในประเทศเบลเยียม >>> แปลและเรียบเรียง โดย คุณจุติ เพียรล�้ ำเลิศ
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 11 ทีเดียว การจัดการกับจำ นวนคอมโพสิทที่เพิ่มขึ้นนี้คงต้องมีการจัดการใหม่ๆ ในการรีไซเคิลพวกมันเพื่อที่การสร้างวงจรวัฏจักร ให้เป็นจริง และการที่จะทำสิ่งนี้โดยให้มีความคุ้มทางด้านต้นทุนเหล่าบริษัทที่อยู่ในห่วงโซ่ทางเศรษฐศาสตร์จำต้องพยายาม ที่จะนำ เอาวัสดุรีไซเคิลที่ยังมีมูลค่าสูงเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่ๆ และสินค้าใหม่ๆ ด้วย เกี่ ยวกับ C-blade C-blade เป็นโครงการที่เริ่มขึ้นในปี 2023 ภายใต้โครงสร้าง Belgium Builds Back Circular ซึ่งเป็นสมาคมที่ ประกอบไปด้วยบริษัทก่อสร้างในประเทศเบลเยียม 6 ราย ผู้ผลิตเครื่องจักร 1 ราย ร่วมกับ Sirris ที่ทำ หน้าที่ผู้นำ ทีมโดย Sirris จะทำ การประสานงานระหว่างบริษัทเหล่านี้ อบรมให้ความรู้ในส่วนที่ต้องการ และช่วยสร้างระบบนิเวศของการ ทำ งานที่ทำ ให้เกิดความสมดุลของการใช้วัตถุดิบ ของต้นทุน ของผลลัพธ์ ของการลงทุน และของความเสี่ยงต่างๆ ด้วย ระบบนิเวศใหม่นี้โครงการฯ จะเข้าถึงผู้ออกแบบ และผู้รับจ้างผลิตชิ้นส่วนใหม่ๆ ได้กว้างขึ้นซึ่งจะก่อให้เกิดการพัฒนาสินค้า ใหม่ๆ และงานวิจัยใหม่ๆ ทาง Agoria ที่เป็นสมาพันธ์ทางการค้าสำ หรับบริษัททางด้านเทคโนโลยีของประเทศเบลเยียม ก็ร่วมกับ C-Blade ในการเผยแพร่ผลการดำ เนินงานของโครงการไปสู่ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยผ่านข่ายงานของพวกเขา C-blade มุ่งหมายที่จะสร้างห่วงโซ่มูลค่าทางการค้าในประเทศเบลเยียม โดยยึดคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบ เป็นเกณฑ์และพยายามที่จะให้อุตสาหกรรมกังหันลมมีลักษณะเป็นวงวัฏจักรอย่างแท้จริง โครงการฯ มีจุดมุ่งหมายที่จะ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่ทำขึ้นจากเศษใยแก้วและพลาสติกรีไซเคิล โดยให้มีการสร้างความเข้าใจถึงกระบวนการและ ข้อกำ หนดที่จำ เป็นต่างๆ เศษวัสดุเหล่านี้มาจากการตัดหรือบดใบพัดกังหันลมก่อนถูกนำ ไปผสมกับเทอร์โมเซ็ตเรซิ่นต่อไป กล่าวอย่างสั้นๆ กระบวนการลักษณะนี้จะก่อให้เกิดการใช้ซํ้าของวัตถุดิบที่จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลง ในอนาคต โครงการคาดว่าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบได้จำ นวน 6 ประเภท จากกระบวนการนี้ ในโครงการ C-blade ใบพัดกังหันลมจะถูกบดเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อนำ ไปใช้ร่วมกับเรซิ่นแบบเทอร์โมเซ็ต WWW.THAICOMPOSITES.ORG 11
12 THAI COMPOSITES MAGAZINE “ประหยัดได้มากกว่าด้วย เทคโนโลยีล่าสุดของเครื่ องอัดอากาศ” ภาพ การอธิบายค่าเฉลี่ยความประหยัดของปั๊มลมระบบ VSD ภาพ ปั๊มลมระบบ VSD และ Inverter • ควบคุมแรงดันได้แม่นยำ : ระบบ VSD ช่วยให้ ควบคุมแรงดันลมอัดได้แม่นยำ เหมาะกับงานที่ ต้องการความแม่นยำสูง การใช้งานปั๊มลมระบบ VSD จึงไม่เพียงแต่เป็นการ อัปเกรดทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ในระยะยาว เพราะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุน การผลิต ลดการสูญเสียพลังงาน และสนับสนุนการผลิตที่ ยั่งยืนในอนาคต หลังจากที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับปั๊มลมระบบ Variable Speed Drive (VSD) ที่ช่วยในการปรับความเร็วของมอเตอร์ ในยุคที่องค์กรต่างๆ มุ่งมั่นลดการปล่อยคาร์บอน และค่าใช้จ่ายในการดำ เนินงาน, เครื่องอัดอากาศของเราถูก ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการเหล่านี้ได้อย่าง มีประสิทธิภาพสูงสุด เทคโนโลยีของเราที่ช่วยให้ประหยัด พลังงานและลดการสูญเสียได้มากที่สุด ได้แก่ ระบบขับเคลื่อน แปรผัน (Variable Speed Drives) และระบบกู้คืนพลังงาน (Energy Recovery Systems) ที่สามารถลดการใช้พลังงาน ได้ถึง 50% เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องอัดอากาศแบบดั้งเดิม ปั๊มลมระบบขับเคลื่อนแปรผัน (Variable Speed Drives) หรือ VSD Compressor คืออะไร? โดยปั๊มลมทั่วไปจะทำ งานด้วยความเร็วคงที่ หมายความว่า มอเตอร์จะหมุนด้วยความเร็วเท่าเดิมตลอดเวลา ไม่ว่าความ ต้องการลมอัดจะมากหรือน้อยก็ตามซึ่งอาจไม่ตรงกับความ ต้องการของระบบอากาศอัดเสมอไป การทำ งานของมอเตอร์ แบบความเร็วคงที่นี้อาจทำ ให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานใน ช่วงที่ความต้องการลมน้อย แต่ปั๊มลมระบบ VSD จะแตกต่างออกไป ปั๊มลมระบบ ขับเคลื่อนแปรผัน (Variable Speed Drives) คือ เทคโนโลยี ที่ใช้ควบคุมความเร็วรอบของมอเตอร์ไฟฟ้าในปั๊มลมแบบ เรียลไทม์ โดยมอเตอร์จะปรับความเร็วรอบให้สัมพันธ์กับ ความต้องการลมอัด เมื่อความต้องการลมอัดมาก มอเตอร์ จะหมุนเร็วขึ้น เมื่อความต้องการลมอัดน้อย มอเตอร์จะหมุน ช้าลง ส่งผลดีดังนี้ • ประหยัดพลังงาน : มอเตอร์ทำ งานหนักน้อยลง ใช้พลังงานน้อยลง ประหยัดค่าไฟฟ้า • ลดเสียงรบกวน : มอเตอร์หมุนช้าลง เสียงรบกวน ลดลง • ยืดอายุการใช้งาน : มอเตอร์ทำ งานหนักน้อยลง ชิ้นส่วนสึกหรอน้อยลง อายุการใช้งานยาวนานขึ้น
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 13 ภาพ กราฟจำลองการทำ งานของปั๊มลมระบบ VSD และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานไปแล้ว คำว่า "Specific Power" หรือกำ ลังเฉพาะก็เป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่สำ คัญใน การประเมินประสิทธิภาพของปั๊มลม ในบทความนี้ เราจะ สำรวจความหมายของ Specific Power และวิธีที่ระบบ VSD สามารถช่วยให้ปั๊มลมมีประสิทธิภาพมากขึ้นผ่านตัวชี้วัดนี้ Specific Power ในบริบทของปั๊มลมหมายถึง อัตราส่วนของกำลังไฟฟ้าที่ใช้ (โดยปกติจะวัดเป็นกิโลวัตต์ หรือ kW) ต่อปริมาณอากาศที่สามารถผลิตได้ต่อหน่วยเวลา (โดยปกติจะวัดเป็นลูกบาศก์เมตรต่อนาทีหรือ m³/min) ตัวเลขนี้ช่วยให้เราเข้าใจถึงประสิทธิภาพของปั๊มลมในการ ใช้พลังงานเพื่อผลิตอากาศอัด ยิ่งค่า Specific Power ตํ่า ยิ่งหมายถึงปั๊มลมมีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากใช้พลังงาน น้อยกว่าในการผลิตอากาศอัดเท่าเดิม VSD และการปรับปรุง Specific Power ระบบ VSD มีบทบาทสำ คัญในการปรับปรุงค่า Specific Power ของปั๊มลม เนื่องจากการทำ งานที่ความเร็ว ที่แตกต่างกันให้เหมาะสมกับความต้องการจริงของระบบ อากาศอัด ช่วยลดการใช้พลังงานเมื่อความต้องการลมลดลง ปั๊มลมที่มีระบบ VSD สามารถปรับลดความเร็วของมอเตอร์ ในช่วงที่ความต้องการอากาศอัดไม่สูง ซึ่งช่วยให้ค่า Specific Power ดีขึ้น โดยการใช้พลังงานเฉพาะที่จำ เป็นเท่านั้น การลด Specific Power ไม่เพียงแต่ช่วยให้ประหยัด ค่าใช้จ่ายจากพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังช่วยลดผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อม การใช้ระบบ VSD ทำ ให้ปั๊มลมสามารถทำ งาน อย่างมีประสิทธิภาพในระดับที่ตํ่ากว่าความเร็วสูงสุดของ มอเตอร์ ทำ ให้เกิดความร้อนและการสึกหรอน้อยลง ส่งผล ให้อายุการใช้งานของอุปกรณ์ยืนยาวขึ้นและค่าใช้จ่ายในการ บำ รุงรักษาลดลง การใช้ปั๊มลมระบบ VSD จึงไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพของการใช้พลังงานเท่านั้น แต่ยังช่วยให้การ ผลิตในภาคอุตสาหกรรมมีความยั่งยืนมากขึ้นด้วยการลด การปล่อยก๊าซเรือนกระจกและค่าใช้จ่ายโดยรวมในการผลิต โดยสรุปแล้วการใช้งานระบบขับเคลื่อนแปรผันช่วยให้ เครื่องอัดอากาศสามารถปรับกำลังการทำ งานให้เหมาะสม กับความต้องการของระบบอัดอากาศในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งไม่ เพียงแต่ช่วยลดการใช้พลังงานเท่านั้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้ งานของเครื่องอีกด้วย ในขณะที่ระบบกู้คืนพลังงานจะเปลี่ยน พลังงานที่ปกติจะสูญเปล่าในระหว่างกระบวนการอัดอากาศ ให้กลายเป็นพลังงานที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ช่วยให้ องค์กรของคุณสามารถประหยัดต้นทุนได้อย่างมาก ปั๊มลมเกี่ยวข้องอย่างไรกับงานคอมโพสิท? ปั๊มลมมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมหลายประเภท และหนึ่งในนั้นคืออุตสาหกรรมคอมโพสิท หรือการผลิต วัสดุผสมจากสองส่วนหรือมากกว่าที่เมื่อรวมกันแล้วจะให้ คุณสมบัติที่เหนือกว่าแต่ละส่วนเดี่ยวๆ ด้วยลักษณะการ ทำ งานที่ต้องการความแม่นยำและความเที่ยงตรงสูง ปั๊มลม จึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนกระบวนการผลิตนี้ การใช้ปั๊มลมในการผลิตคอมโพสิท 1. การฉีดวัสดุ : ในกระบวนการผลิตคอมโพสิท เช่น การผลิตไฟเบอร์กลาสหรือคาร์บอนไฟเบอร์ ปั๊มลมถูกใช้เพื่อ ฉีดวัสดุหลักเข้ากับเมทริกซ์ (matrix) ที่มักจะเป็นเรซิน การ ควบคุมแรงดันอากาศที่แม่นยำ เป็นสิ่งจำ เป็นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ ที่มีคุณภาพสูงและความเท่าเทียมกันของวัสดุทั่วทั้งผลิตภัณฑ์ 2. การอัดรูป : ใช้ปั๊มลมในการสร้างแรงดันเพื่ออัด วัสดุคอมโพสิทในแม่พิมพ์ เพื่อให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ และเพื่อให้วัสดุกระจายตัวอย่างสมํ่าเสมอภายในแม่พิมพ์ 3. การแห้งและการกาว : ปั๊มลมใช้ในการเป่า วัสดุเพื่อลดความชื้นหรือเร่งกระบวนการแห้งของเมทริกซ์ หลังจากที่วัสดุถูกฉีดเข้าไป นอกจากนี้ ในกระบวนการผลิต ที่ต้องใช้กาว ปั๊มลมก็มีบทบาทในการกระจายกาวให้ทั่ว ทั้งผิวของวัสดุอีกด้วย
14 THAI COMPOSITES MAGAZINE ภาพ การขึ้นรูปจากวัสดุคอมโพสิท ภาพ ปั๊มลมประหยัดพลังงาน Chicago Pneumatic ภาพ ปั๊มลมคุณภาพ Gardner Denver 3. การลดต้นทุน : แม้ว่าการติดตั้งระบบปั๊มลมอาจ มีค่าใช้จ่ายในตอนแรก แต่การใช้งานระยะยาวสามารถช่วย ลดต้นทุนการผลิตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการลดการ สูญเสียวัสดุและการเพิ่มความเร็วในการผลิต การลงทุนกับเครื่องอัดอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงไม่ เพียงแต่เป็นการช่วยโลกของเราให้สะอาดขึ้น แต่ยังเป็นการ สร้างความยั่งยืนในการดำ เนินงานของคุณในระยะยาวด้วย พร้อมทั้งช่วยให้คุณตอบสนองต่อกฎหมายและข้อกำ หนด เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เลือกเครื่องอัดอากาศจากเรา รับประกันว่าคุณจะได้รับ ความพึงพอใจสูงสุดจากผลลัพธ์ที่ยั่งยืนทั้งในด้านการประหยัด พลังงานและการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 4. การตัดและการขึ้นรูป : ในขั้นตอนสุดท้ายของการ ผลิตคอมโพสิท ปั๊มลมอาจถูกใช้เพื่อให้ใช้เป็นเครื่องมือในการ ตัดหรือแกะสลักวัสดุคอมโพสิทเป็นชิ้นส่วนตามขนาดและ รูปทรงที่ต้องการ การใช้แรงดันอากาศสูงช่วยให้การตัดและ ขึ้นรูปเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ปั๊มลมในงานคอมโพสิท การใช้ปั๊มลมในงานคอมโพสิทนำ มาซึ่งประโยชน์ หลายประการ : 1. ความแม่นยำและความเสมอมาตรฐาน : ปั๊มลม ช่วยให้สามารถควบคุมการกระจายวัสดุและกาวได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและความเสมอมาตรฐานสูง 2. ความรวดเร็วในการผลิต : การใช้แรงดันอากาศ ในการฉีดวัสดุและการอัดรูปช่วยลดเวลาที่ใช้ในการผลิต ทำ ให้กระบวนการผลิตมีความรวดเร็วและตอบสนองต่อความ ต้องการของตลาดได้ดีขึ้น
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 15 ่
16 THAI COMPOSITES MAGAZINE Cleaners Aqua-Clean 220 Aqua-Clean 220 is a non-flammable, noncorrosive, water-based stripper. 220 adds a very fine abrasive for additional strength. This is the products of choice for removing mold release agents, silicone contamination, and residue from many mold polishes and compounds. Xtend CX-500 Solvent based cleaner for removing most polishes and compounds, as well as light styrene build-up. The most important step for high performance. AXEL’s complete system of products provides the best overall performance when used together. Pick one product from each category based on your needs. Your molds will stay cleaner for up to five times longer before stripping is necessary. Ease of release, cosmetics, and post adhesion will improve, and scrap will go down. Simple Solutions External Release Xtend 8 0 Wipe on, Leave On, Class A Release Agents. 820 for best combination of release and longevity. Xtend 1110 Use with UMS Mold Sealer for highest performance or more challenging applications such as B-faces in RTM processes. Xtend 8 8 Medium solids. Wipe on, wipe off mold release for class A thermoset applications. Cleaners Aqua-Clean 220 Aqua-Clean 220 is a non-flammable, noncorrosive, water-based stripper. 220 adds a very fine abrasive for additional strength. This is the products of choice for removing mold release agents, silicone contamination, and residue from many mold polishes and compounds. Primers Xtend PR-ACP A high-gloss tool primer that maximizes surface sealing and eliminates substrate porosity. Used to condition the surface of CFRP and FRP molds. Epoxy/PU and hybrid tooling substrates. Sealers Xtend CX-500 Solvent based cleaner for removing most polishes and compounds, as well as light styrene build-up. The most important step for high performance. Xtend UMS Newest sealer with industry-leading ease of application and highest gloss. Quickest mold sealer to apply on the market; best-in-class. e t ฝ่ายขายและเทคนิค โทร 092-429-4282 AXEL’s complete system of products provides the best overall performance when used together. Pick one product from each category based on your needs. Your molds will stay cleaner for up to five times longer before stripping is necessary. Ease of release, cosmetics, and post adhesion will improve, and scrap will go down. Simple Solutions External Release Xtend 8 0 Wipe on, Leave On, Class A Release Agents. 820 for best combination of release and longevity. Xtend 1110 Use with UMS Mold Sealer for highest performance or more challenging applications such as B-faces in RTM processes. Xtend 8 8 Medium solids. Wipe on, wipe off mold release for class A thermoset applications. Xtend W-9165 Water-based semi-permanent release agent for gelcoat surfaces. Gives A-class finish for marine applications. Internal Release INT-1890M Excellent for difficult molding applications, such as: fiberglass stringers for marine, fan shrouds, difficult closed molded parts, rotational casting, and polymer concrete. For use with MEKP compatible catalysts. Eliminates mold build-up. Pultrusion INT-PUL24 Internal mold release for polyester and vinyl ester resins. Will not interfere with painting, bonding, or powder INT N XT N M ผ้ผลิตนํ�ายาถอดแบบและสารเติมแต่งู
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 17
18 THAI COMPOSITES MAGAZINE
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 19
20 THAI COMPOSITES MAGAZINE วารสารไทยคอมโพสิทฉบับนี้ มีโอกาสเยี่ยมชมอาณาจักร CARRYBOY ย่านลาดกระบัง และพบคุณพนิช ธีรติ ผู้บริหารได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับวารสาร ไทยคอมโพสิท เกี่ยวกับธุรกิจ CARRYBOY รวมถึงข้อแนะนำ ดีๆ สำ หรับ SMEs น้องใหม่ และปิดท้ายกับแนวคิดต่อวงการคอมโพสิทไทยอีกด้วย คุณพณิช หรือ คุณพั้งค์ ปัจจุบัน ดำ รงตำ แหน่งผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ที. เค. ดี. ไฟเบอร์ จำ กัด เป็นทายาทคุณธีระ ธีรติ ผู้ก่อตั้งสินค้า CARRYBOY ผ่านการบริหารจากคุณปรีดา วงศ์ตั้งใจ ส่งผลให้สินค้าแบรนด์แครี่บอยตอบโจทย์ แบรนด์หลังคาไฟเบอร์อันดับหนึ่งจนถึงทุกวันนี้ กิจการ CARRYBOY เริ่มต้นในปี 2512 โดย คุณธีระ ธีรติ และคุณปรีดา วงศ์ตั้งใจ ได้จัดตั้ง บริษัท ที.อาร์.เค. กรุงเทพฯ อุตสาหกรรมและผู้ส่งออก จำ กัด เริ่มแผนธุรกิจด้านประกอบอะไหล่รถยนต์ ค้าปลีก-ค้าส่ง อะไหล่รถยนต์ ในปี 2525 เริ่มสายการผลิตหลังคาไฟเบอร์กลาส สำ หรับรถบรรทุกขนาดเล็กภายใต้ เครื่องหมายการค้า "CARRYBOY" คุณพั้งก์ เล่าถึงจุดเริ่มต้นกิจการนี้ว่า “คุณพ่อผมกับคุณปรีดา เดิมทำ ธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งอะไหล่รถยนต์ ซื้อขายอะไหล่รถยนต์ เป็นตัวกลางระหว่าง โรงงานและลูกค้า ทำ ให้มีองค์ความรู้เรื่องโรงงาน โรงกลึง การผลิตต่างๆ ในช่วง นั้นพวกหลังคารถกระบะที่วิ่งๆ ดีไซน์ไม่สวย ดูไม่น่าใช้มีลักษณะเหลี่ยมๆ ไม่เข้า รูปกับตัวรถ เลยเกิดความคิดว่าอยากทำ ให้สวยกว่าเดิม ประกอบกับมีความรู้ เรื่องไฟเบอร์กลาสที่สามารถขึ้นรูปได้หลากหลายแบบ รวมกับประสบการณ์ที่มี เกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์ รู้ว่าแหล่งวัสดุที่จะนำ มาพัฒนาสินค้าตัวนี้อะไหล่แบบนี้ เอามาจากที่ไหนบ้าง เมื่อรวบรวมองค์ความรู้ทั้งหมดได้จึงพัฒนาและผลิตออกมา ทำ ออกมาแล้วดูสวย ทันสมัย ตอนนั้นพอเปิดตัวปุ๊บก็กลายเป็นที่ต้องการของ ตลาดเลย ทำ ให้ทุกวันนี้ 43 ปีแล้ว จากโรงงานเล็กๆ ปัจจุบันเรามีส่วนแบ่งการตลาด หลังคาไฟเบอร์กลาส 90% ในประเทศ มีตัวแทนจำ หน่ายกว่า 120 แห่ง ที่เป็นหลังคา ไฟเบอร์ มีตัวแทนประดับยนต์ 400 กว่าแห่ง ส่งออก 150 ประเทศทั่วโลก มีสาขา ประเทศออสเตรเลีย 2 แห่ง ที่เราเปิดตัวเอง” กลุ่มธุรกิจในเครือ โรงงานแครี่บอยใหญ่และทันสมัยที่สุดในประเทศไทย มีมาตรฐานสากลเป็น ที่ยอมรับไปทั่วโลก แครี่บอยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ พร้อมปรับปรุง กระบวนการผลิตและการออกแบบให้ดูดียิ่งขึ้น เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า ผลิตภัณฑ์แครี่บอยทุกชิ้นได้รับการจดทะเบียนสิทธิบัตรผลิตภัณฑ์ จากกรมทรัพย์สิน ทางปัญญาว่าเป็น เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาที่มีผลงานดีเด่น สินค้าทุกตัวของ แครี่บอยยังได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์จากสถาบัน TÜV ประเทศเยอรมนี และได้รับ การรับรองมาตรฐานคุณภาพ ISO 9001:2008 แสดงถึงศักยภาพความมุ่งมั่น ของบริษัทในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ ยินดีต้อนรับสู่อาณาจักร CARRYBOY ปัจจุบัน แครี่บอย อยู่ภายใต้ การบริหารงานของ บริษัท ที.เค.ดี. ไฟเบอร์ จำ กัด สินค้าภายใต้ แบรนด์ “แครี่บอย” มีมาตรฐาน การออกแบบและกรรมวิธีการผลิต ส่วนต่างๆ ตรงตามมาตรฐาน อุตสหกรรมรถยนต์ แครี่บอย มุ่งมั่นพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อนำ เสนอออกสู่ตลาดทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศอย่างสม่ำ เสมอ มีสินค้า 4 กลุ่มหลัก คือ 1. กลุ่มหลังคาไฟเบอร์กลาส เป็นกลุ่มที่สร้างชื่อให้กับเราทุกวันนี้ ในกลุ่มนี้เรามีหลังคาหลายรุ่น สไตล์ เลเชอร์ สไตล์คอมเมอเชี่ยล ทรงสูง บรรทุกของกลุ่มนี้ผลิตช่วงขายดี สุดเดือนละ 2,000 หลัง ปัจจุบัน ยอดผลิตจะประมาณ 1,000-1,500 หลัง สัมภาษณ์
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 21 2. กลุ่มประดับยนต์ มี 1,000 กว่ารายการ เป็นสินค้า ตามเทรนด์ เช่น ชุดแต่งรถกระบะ กันชนรถ ฝาครอบ รถกระบะ โรลบาร์ แร็คหลังคา สเกิร์ตข้าง โรลบาร์ เป็นต้น 3. กลุ่มรถดัดแปลงพิเศษเพื่อการพาณิชย์ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม • รถตู้ทึบ ตู้แห้ง สำ หรับขนของโลจิสติกส์ • รถตู้เย็น ต้องคุมอุณหภูมิ เช่น ส่งยา เวชภัณฑ์ อาหารแช่แข็ง • รถคีออส รถฟู๊ดทรัค รถสั่งทำ ตามที่ลูกค้า ต้องการ 4. กลุ่มรถดัดแปลงพิเศษ เช่น รถพยาบาล รถกู้ภัย รถดับเพลิง รถบ้านหรืออาร์วี ซึ่งกำ ลังบูมใน ปัจจุบัน สำ หรับรถบ้านหรือ MOTOR HOME ที่กำ ลังบูมใน ขณะนี้เกิดจากที่แครี่บอยไปเปิดสาขาออสเตรเลีย ที่นั่น มีสินค้ากลุ่มรถบ้านเยอะและทะเบียนรถเยอะมาก เพราะ ที่นั่นบางคนเมื่อเกษียณ จะขายบ้านแล้วมาซื้อรถบ้านเพื่อ ใช้ตระเวนท่องเที่ยวไปที่ต่างๆ กัน ดังนั้นรถเขาต้องเป็น บ้านจริงๆ เมื่อต้องผลิตรถบ้านให้ประเทศออสเตรเลีย เราก็กลับมาก็ลองทำ ที่ไทย พอดีมีงานมอเตอร์โชว์ ต้องทำ อะไรให้คนเห็นแล้วว้าว ให้คนมาบูธ ทำ รถบ้านไปเปิดตัว นี่ก็คือที่มาของการทำ รถบ้านในไทย “2 ปีที่ผ่านมานี้ ตลาดรถบ้านโตเยอะมาก ทำ ให้ธุรกิจ ของเราโตตามไปด้วย ความสำ เร็จของรถบ้าน แครี่บอย เริ่มจากพอโควิดจบไป คนก็เริ่มเข้าสู่ยุคการท่องเที่ยว เกิดกระแสคนชอบขับรถท่องเที่ยวไปที่ต่างๆ กันเอง และท่องเที่ยวแบบใช้รถบ้านที่เหมือนกับต่างประเทศของ ทำ กัน ซึ่งผมเองก็อยากเห็นคนออกไปเที่ยวด้วยรถบ้าน ก็ผลิตออกมาขาย ทำ ให้ปีที่แล้วรถบ้านขายดี เติบโตจาก ปีก่อน 5.6 เท่า ราคารถบ้านเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท” พลิกปัญหาและอุปสรรค กลายเป็นโอกาสใหม่ ผมเหมือนทุกคนที่อยู่ในธุรกิจ บอกไม่ได้เลยว่า ธุรกิจ เราประสบความสำ เร็จแล้ว ไม่มีโปรดักส์ตัวไหนที่สำ เร็จยั่งยืน สินค้ามีขึ้นมีลง แต่องค์กรเราสามารถสร้างแบรนด์ที่อยู่ยาว และยั่งยืนได้ เราต้องทำ สินค้าให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลอด เวลา ถ้าหยุดพัฒนาเมื่อไหร่ล้าหลังทันที ปัญหามีมาตลอด ปัญหาของเราคือความเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่ทำ ให้เราอยู่รอดก็คือความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน เรามีแพลตฟอร์มที่กว้างๆ หลากหลาย เมื่อตลาด ต้องการอะไร เราก็พร้อมจะกระโดดเข้าไปทำ ก่อนใคร เช่น ยุคก่อนโควิด ไฟเบอร์กลาสขาลงเพราะรถเปลี่ยน รูปแบบเป็นเก๋งมีสามตอน เป็นรถ SUV คนที่อยากซื้อกระบะ แล้วใส่หลังคาหายไปเลย แต่กลับมีกลุ่มลูกค้าใช้กระบะเพื่อ การขนส่งสินค้าโตขึ้น กลายเป็นว่าเราก็มีหลังคาที่สำ หรับ อีคอมเมิร์ซทำ กระบะตู้ ผลกระทบจากโควิด กลับทำ ให้ธุรกิจ ด้านโลจิสติกส์ยิ่งขยายตัวเพิ่มมากขึ้น ใครสนใจในวงการนี้ ต้องเรียนรู้อะไรบ้าง ผู้ประกอบการหน้าใหม่ๆ ที่สนใจจะเข้ามาสู่วงการนี้ น่าจะเกิดได้ง่ายกว่าองค์กรใหญ่ การทำ ไฟเบอร์กลาส สำ หรับ SMEs ทุกวันนี้เริ่มต้นง่ายมาก คุณไม่ต้องมี ประสบการณ์อะไรเลย ไม่ต้องใช้เครื่องจักรแพงๆ เป็น สิบล้าน แค่เลย์แผ่นเรียบเป็น มีองค์ความรู้ การทำ มีความ คิดสร้างสรรค์ ต้องผสมผสาน Mix & Match จับคู่การ เข้ากันให้ได้ การเป็น SMEs สามารถโฟกัสในเรื่องๆ เดียวได้ ทำ ให้มีความคล่องตัวในการเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่าองค์กร ใหญ่อย่างเรา ปิดท้ายในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิกสมาคม มายาวนาน “ผมอยากเห็นคอมโพสิทแบบไทยๆ ที่ทำ ออกมาแล้วตอบคำ ถามสากลได้จริง ตลาด คอมโพสิทยังมีที่ว่างอีกเยอะให้ได้ทำ ได้ลองผิด ลองถูกอะไร แล้วถ้าวันหนึ่งมีคนที่กำ ลังที่ต้องการ สิ่งที่คุณทำ แล้วเป็นที่เขาไม่สามารถจะทำ แบบนี้ใน ประเทศเขาได้ เขาก็จะต้องมาหาคุณแน่นอนครับ”
22 THAI COMPOSITES MAGAZINE Your partner in the Composites Industry อุปกรณ์ขัด ปั ด เงา เจียร แต่ง คุณภาพสูง ตั้ งแต่ปี ค.ศ. 1919 www.tyrolit.com Experience perfection in any application – our new system solutions for machining composites combine innovation and quality for unrivalled results. Tyrolit now offers you a specially developed product range for all applications in the composites industry. TYROLIT (THAILAND) CO., LTD. Tel: (02) 021 8388 | EMAIL: [email protected]
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 23
24 THAI COMPOSITES MAGAZINE Valeo บริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ยักษ์ใหญ่ ได้คิดค้นนวัตกรรมสำ หรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในเชิงของการขับเคลื่อน อัตโนมัติสำ หรับรถยนต์ไฟฟ้า และการลดการปลดปล่อยมลภาวะของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ด้วยวิธีการใช้เทคโนโลยี การลดนํ้าหนัก ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักสำคัญในการลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงและการเพิ่มระยะการเดินทางของรถยนต์ไฟฟ้า ทีมงานของ Valeo ได้เริ่มทำ การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของวัสดุคอมโพสิท เพื่อตอบโจทย์ในการใช้งานที่ขึ้นรูปผลิต ชิ้นงานจำ นวนมาก (ในระยะเวลาที่น้อย) และสำ หรับใช้งานควบคู่กับงานขึ้นรูปชิ้นงานแบบฉีด ในช่วงปี 2018 นั้น Valeo Front End Product Group (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท Valeo Thermal Systems) ได้เสนอการใช้เทคโนโลยีของวัสดุคอมโพสิทในรูปแบบ Organosheet [1] และได้นำ เสนอชิ้นส่วนของคานรถยนต์ที่ใช้วัสดุ คอมโพสิท [2] สำ หรับรถยนต์รุ่น GLE Class ของ Daimler กล่องแบตเตอรี่ที่ทำ มาจากวัสดุคอมโพสิท ซึ่งได้ร่วมวิจัยและ พัฒนากับ OEM เดิมในช่วงปี 2021 โดยงานโครงการล่าสุดที่มุ่งเน้นไปทางชิ้นงานคานกันชนที่ทำจากวัสดุคอมโพสิท เทคโนโลยีของวัสดุคอมโพสิทในรูปแบบ Organosheet Organosheet คือรูปแบบของวัสดุคอมโพสิทชนิดหนึ่งที่ส่วนใหญ่จะมีการใช้วัสดุคอมโพสิท prepreg แบบมี เทอร์โมพลาสติกเป็นตัว matrix ที่มีการวางกันเป็นชั้นๆ (มากถึง 20 ชั้นโดยปกติ) แล้วมีการนำ มากดเป็นแผ่นหนา 1 แผ่นที่ เรียกว่า “Organosheet” ซึ่งจะถูกนำ ไปใช้ในการขึ้นรูปชิ้นงานในกระบวนการต่อๆ ไป Veleo Thermal Front End ได้เลือกใช้วัสดุคอมโพสิทในรูปแบบ Organosheet เนื่องจากวัสดุพอลิเมอร์แบบ เทอร์โมพลาสติกนั้นมีคุณสมบัติของวัสดุที่ต้องการ สามารถขึ้นรูปชิ้นงานได้ด้วยระยะเวลาสั้น และสามารถใช้ในการขึ้นรูป ชิ้นงานแบบ overmoulding ได้ด้วย ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีความต้องการขึ้นรูปชิ้น งานจำ นวนมาก (ในระยะเวลาที่น้อย) ในช่วงขั้นตอนของการเลือกชนิดของวัสดุใน Organosheet นั้น ทางทีมจะเลือกวัสดุโดย การการคำ นึงถึงคุณสมบัติทางกายภาพและราคาเป็นหลัก เมื่อเทียบกับวัสดุเหล็กและอะลูมิเนียมนั้น Organosheet มีส่วนผสม ของเส้นใยแก้วเป็นวัสดุเสริมแรงนั้น ได้ให้คุณสมบัติทางกายภาพที่น่าสนใจ (ตารางที่ 1) Organosheet วัสดุคอมโพสิท สำ หรับการผลิตชิ้นงานจำ นวนมาก (ในระยะเวลาที่น้อย) ในอุตสาหกรรมยานยนต์ > แปลและเรียบเรียง โดย ดร.คมกฤช ภิงคารวัฒน์
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 25 กราฟแกน y นั้นค่าจำ เพาะความแข็งแรงจะหมายถึงค่าความแข็งแรงแนวดึง เมื่อเทียบอัตราส่วนกับความหนาแน่น ของวัสดุ ส่วนในกราฟแกน x นั้นค่าจำ เพาะความแข็งนั้นจะหมายถึงค่าความแข็งหรือค่า modulus ของแรงแนวดึงเมื่อเทียบ อัตราส่วนกับความหนาแน่นของวัสดุ ส่วนเส้นประทั้งในแนวนอนและแนวดิ่งนั้น จะเป็นการบ่งบอกว่า ถ้าต้องการเน้นวัสดุที่มี ความแข็งและแข็งแรงและนํ้าหนักเบาควบคู่กัน ดังนั้นวัสดุ Organosheet ที่มีวัสดุใยแก้วเป็นวัสดุเสริมแรงนั้นจะเป็นตัวเลือก ที่เหมาะสม (รูปที่ 1) ตารางที่ 1 การเปรียบเทียบคุณสมบัติทางกายภาพของวัสดุ ระหว่างวัสดุคอมโพสิทแบบ Organosheet และวัสดุโลหะ (เหล็ก, อะลูมิเนียม, และแมกนีเซียม) รูปที่ 1 คุณสมบัติเชิงกายภาพของวัสดุคอมโพสิทแบบ Organosheet
26 THAI COMPOSITES MAGAZINE การเลือกใช้วัสดุ Organosheet แบบมีเส้นใยแก้ว เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ในเรื่องของราคาได้ดีกว่าแบบมีใยคาร์บอน เป็นวัสดุเสริมแรง ซึ่งคุณสมบัติความแข็งและแข็งแรงนั้นเป็นความต้องการหลักๆ ของชิ้นส่วนยานยนต์ที่อยู่บริเวณด้านหน้า ของรถยนต์ การออกแบบชิ้นส่วนยานยนต์นี้ก็เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน สำ หรับการออกแบบชิ้นงานกล่องชนของตัวรถยนต์ เหตุผลที่สองที่มีการเลือกใช้วัสดุ Organosheet แบบมีเส้นใยแก้วนั้นคือมีการใช้วัสดุพอลิเมอร์ matrix ที่ทำ ให้วัสดุคอมโพสิท แบบ Organosheet นี้สามารถขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยี overmoulding โดยเทคนิคการกด (thermoforming) ควบคู่กับเทคนิค การขึ้นรูปชิ้นงานแบบฉีด (injection moulding) ด้วยในรูปแบบขึ้นรูปแบบขั้นตอนเดียวและมีวัสดุสูญเสียน้อย (one-shot, net shape process) การขึ้นรูปแบบดังกล่าวนั้นเหมาะสมกับการขึ้นรูปชิ้นงานที่จำ นวนมาก (ในระยะเวลาที่น้อย) ดังเช่น อุตสาหกรรมยานยานยนต์นั่นเอง (รูปที่ 2) รูปที่ 2 การขึ้นรูปชิ้นงานด้วยวัสดุคอมโพสิทแบบ Organosheet ของ Valeo; เทคโนโลยี overmoulding โดยเทคนิค การกด (thermoforming) ควบคู่กับเทคนิคการขึ้นรูปชิ้นงานแบบฉีด (injection moulding) ด้วยในรูปแบบขึ้นรูปแบบ ขั้นตอนเดียวและมีวัสดุสูญเสียน้อย (one-shot, net shape process) ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นเทคโนโลยี overmoulding กับการใช้วัสดุคอมโพสิทในรูปแบบ Organosheet นั้นจะใช้แค่เฉพาะ ในกลุ่มของรถแข่งเท่านั้น (ซึ่งเป็นตลาดที่ใช้ชิ้นส่วนยานยนต์ที่ราคาสูงและจำ นวนผลิตไม่มากนัก) แต่ปัจจุบันการนำ เทคโนโลยี ดังกล่าวเข้าสู่ตลาดที่ต้องการจำ นวนผลิตชิ้นส่วนที่สูงและระยะเวลาในการขึ้นรูปชิ้นงานที่ตํ่า ทำ ให้ราคาชิ้นส่วนนี้สามารถลด ลงมาได้ในเกณฑ์ราคาที่น่าสนใจ การใช้วัสดุ Organosheet ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เน้นจำ นวนการผลิตสูง (ในระยะเวลา ที่ตํ่า) เป็นเทคโนโลยีหลักตัวหนึ่งที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมในเชิงของความเป็นกลางทางคาร์บอน CO 2 eq/kg ของวัสดุเทอร์โมพลาสติกแบบพอลิโพรพิลีนนั้นตํ่ากว่าวัสดุโลหะแบบอะลูมิเนียมถึงสองเท่า กล่องแบตเตอรี่เป็นชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีการผลิตมากที่สุดเป็นอันดับสองของ Valeo นี่ก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงการที่ Valeo ได้มีเปลี่ยนแปลงมุมมองของอุตสาหกรรมยานยนต์โดยเห็นตระหนักถึงการปลดปล่อยมลภาวะของคาร์บอนไดออกไซด์ มากขึ้น แผนงานการใช้วัสดุคอมโพสิทของ Valeo เนื่องด้วยการที่ Valeo Thermal Front End มีความเชี่ยวชาญทางด้านการออกแบบและผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ โดยเฉพาะชิ้นส่วนบริเวณด้านหน้าของรถยนต์นั้น ชิ้นส่วนชนิดแรกที่มีการใช้วัสดุคอมโพสิทคือ ชิ้นส่วนคานรถยนต์ [2] และ ตามมาด้วย กล่องชน คานกันชน และตามมาด้วยชิ้นส่วนอันล่าสุดคือ กล่องแบตเตอรี่สำ หรับรถยนต์ไฟฟ้า (EVs) เนื่องด้วย การความชำ นาญของ Valeo Thermal Front End เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปีนั้น ทำ ให้ทางบริษัทนั้นก็ยังคงมีแผนที่จะ ขยายการใช้วัสดุคอมโพสิทในชิ้นส่วนยานยนต์ชิ้นส่วนอื่นๆ เพิ่มขึ้นด้วย
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 27 ชิ้ นส่วนคานรถยนต์ที่ท�ำจากวัสดุคอมโพสิทของรถยนต์ Daimler GLE Class สายการผลิตชิ้นส่วนคานรถยนต์ได้ริเริ่มในช่วงปี 2018 ที่โรงงานที่ตั้งอยู่ที่ Smyrna, Tennessee, USA ด้วยกำลังการ ผลิตชิ้นส่วนนี้ที่ 320,000ชิ้น/ปี ชิ้นส่วนนี้ที่ทำ มาจากวัสดุคอมโพสิทได้มีการแทนที่ชิ้นส่วนดั้งเดิมที่ทำ มาจากวัสดุแบบ hybrid ซึ่งประกอบไปด้วยชิ้นส่วนย่อยๆ ที่ทำ มาจากวัสดุทั้งเหล็กและพลาสติก โดยผลลัพธ์ที่ได้คือชิ้นส่วนที่มีนํ้าหนักลดลงจากเดิมไป 30% การเผยโฉมชิ้นส่วนนี้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ทำ ให้ชิ้นงานนี้เข้าร่วมงานประกวดชิงรางวัลรอบสุดท้ายของงาน PACE และได้รับรางวัลจาก Society of Plastics Engineers กล่องแบตเตอรี่ที่ท�ำจากวัสดุคอมโพสิทแบบ Organosheet ของรถยนต์ Daimler S Class ในช่วงกลางปี 2017 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการที่ Valeo กำลังวิจัยและพัฒนาชิ้นส่วนคานรถยนต์ของ GLE Class นั้น Daimler ได้จ้าง Valeo ในการวิจัยและพัฒนา กล่องแบตเตอรี่สำ หรับรถยนต์รุ่น S Class ในช่วงเวลานั้นถึงแม้ว่าจะมีการ วิจัยเบื้องต้นจากลูกค้าแล้ว แต่ก็ยังคงมีปัญหาหลักเรื่องรูปทรงที่ซับซ้อนของกล่องแบตเตอรี่ โดยเฉพาะบริเวณกล่องแบตเตอรี่ ที่มีบริเวณรูปทรงแบบหลุมลึกซึ่งทำ ให้การขึ้นรูปชิ้นงานเป็นไปได้ยาก กล่องแบตเตอรี่ได้ถูกออกมาสู่ตลาดยานยนต์ช่วงปี 2020 สำ หรับการขึ้นรูปชิ้นงานที่มีความต้องการผลิตจำ นวนมาก โดยสามารถผลิตชิ้นส่วนยานยนต์นี้ได้ถึง 200,000 ชิ้น/ปี (รูปที่ 3) งานจำลองการขึ้นรูปแบบกด (thermoforming) ของ Valeo ได้ถูกนำ มาใช้และได้ช่วยในการออกแบบชิ้นงานและแม่พิมพ์ การจำลองการขึ้นรูปแบบนี้ได้ถูกพัฒนาช่วงเวลาเดียวกันกับช่วงเวลาที่มีการวิจัยและพัฒนากล่องแบตเตอรี่ และได้ช่วยในการ เตรียมและติดตั้งรูปแบบของวัสดุ Organosheet ให้เหมาะสมเพื่อที่สามารถผลิตชิ้นงานที่มีคุณภาพสูงและวัสดุ Organosheet ที่ถูกอัดโดยสภาวะเหมาะสม เพื่อที่จะลดความเสี่ยงของนํ้าซึมเข้ากล่องแบตเตอรี่ รูปที่ 3 กล่องแบตเตอรี่ที่ทำจากวัสดุคอมโพสิท ในรูปแบบ Organosheet ของรถยนต์ Daimler S Class กล่องแบตเตอรี่ที่ทำจากวัสดุคอมโพสิทนั้น สามารถรับความเค้นได้สูงและนํ้าหนักเบากว่าชิ้นงานที่ทำจากแผ่นเหล็กถึง 40% ทุกๆ กรัมที่สามารถลดลงไปได้นั้น ส่งผลถึงการลดการปลดปล่อยมลภาวะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากรถยนต์เครื่องยนต์ สันดาปหรือการเพิ่มระยะการเดินทางของรถ EV วัสดุคอมโพสิทในรูปแบบ Organosheet นั้นสามารถเพิ่มทั้งความแข็งและ แข็งแรงซึ่งส่งผลทำ ให้กล่องแบตเตอรี่สามารถปกป้องแบตเตอรี่ภายในได้ในเหตุการณ์รถชน นอกจากนี้แล้วกล่องแบตเตอรี่ที่ ทำจาก Organosheet ของ Valeo Thermal Front Ends นั้นยังสามารถที่จะกันการไหลซึมเข้าของของเหลว เช่น นํ้า และ กันของเหลว เช่น สารอิเล็กโตรไลต์ของแบตเตอรี่ ออกจากตัวกล่องแบตเตอรี่ได้อีกด้วย ความสำ เร็จของการขึ้นรูปชิ้นงาน จำ นวนมาก (ในระยะเวลาที่น้อย) ของกล่องแบตเตอรี่นี้ที่ทำจาก Organosheet สามารถที่พิสูจน์ความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี ดังกล่าว และยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้วิศวกรในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่จะนำ เทคโนโลยีนี้ไปประยุกต์ใช้หรือต่อยอดได้ ความเป็นเอกลักษณ์ของชิ้นงานกล่องแบตเตอรี่นี้ยังส่งผลให้ทีมงานได้เรียนรู้ถึงความซับซ้อนของการออกแบบชิ้นงานดังกล่าว และเข้าใจถึงข้อจำกัดของเทคโนโลยีของ overmoulding อีกด้วย
28 THAI COMPOSITES MAGAZINE คานกันชนรถยนต์และระบบการจัดการการชน กล่องกันชนที่ทำจากวัสดุคอมโพสิทในรูปแบบ Organosheet ของ Valeo ได้ถูกประเมินจาก OEM ด้วยการทดสอบ แบบ drop tower และทดสอบแบบ catapult crash กล่องกันชนนี้สามารถประกอบสำ เร็จโดยควบคู่กับชิ้นส่วนย่อยที่ทำ จากอะลูมิเนียม หรือสามารถเป็นชิ้นส่วนเดี่ยวที่ทำจากวัสดุ Organsheet อย่างเดียวก็เป็นได้ (รูปที่ 4) รูปที่ 4 ชิ้นงานต้นแบบคานกันชนรถยนต์ ที่ทำจากวัสดุคอมโพสิทของ Valeo รูปที่ 5 การเปรียบเทียบระหว่างคากันชนรถยนต์ที่ทำ มาจากวัสดุโลหะ (เหล็กและอะลูมิเนียม) และวัสดุคอมโพสิทในรูปแบบ organosheet วัสดุคอมโพสิทในรูปแบบ Organosheet สามารถให้ข้อดีได้สองอย่างหลักๆ คือ ช่วยลดนํ้าหนักและช่วยเพิ่มศักยภาพ ในการทนแรงกระแทกได้ ทั้งนี้เนื่องจากมีการใช้เส้นใยเสริมแรงแบบยาวต่อเนื่องนั่นเอง วัสดุ organosheet ประเภทนี้ สามารถให้นํ้าหนักชิ้นงานที่เบากว่าแบบเหล็กได้ถึง 40% และให้นํ้าหนักได้เทียบเท่ากับชิ้นงานที่ทำ จากอะลูมิเนียม และ ยังให้ค่าระยะย่นจากการชนถึง 20 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถช่วยลดความยาวโดยรวมของตัวรถยนต์หรือช่วยเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสาร หรือสามารถเพิ่มศักยภาพของทนแรงกระแทกได้ วัสดุ Organosheet สามารถช่วยในเรื่องคุณสมบัติเชิงกลและราคาของ ชิ้นงานสำ หรับอุตสาหกรรมรถยนต์ในตลาดที่ต้องการผลิตปริมาณที่มากและในระยะเวลาทีสั้น (รูปที่ 5) เนื่องจากชิ้นงานต้นแบบดังกล่าวนั้นถูกพัฒนาภายในบริษัท Valeo ทาง OEM จึงได้มีความไว้วางใจกับ Valeo ใน งานวิจัยและพัฒนาชิ้นส่วนคานกันชนรถยนต์ที่ทำจากวัสดุคอมโพสิทแบบมีเทอร์โมพลาสติกเป็นตัว matrix ในช่วงปี 2019 นอกเหนือจากความต้องการในการทนแรงกระแทกแล้วนั้น ก็ยังมีความต้องการในงานรูปแบบการลากด้วย ซึ่งนํ้าหนักจาก ผลลัพธ์นี้ก็ยังคงส่งผลให้นํ้าหนักที่เบาขึ้นเมื่อเทียบกับวัสดุโลหะ การวิจัยและพัฒนางานกระบวนการจ�ำลองการชน • ในขั้นตอนแรกนั้นวัสดุคอมโพสิทในรูปแบบ Organosheet แบบเป็นชิ้นงานทดสอบในเชิงวัสดุเชิงกลในห้องปฏิบัติ การด้วยการ เช่น การทดสอบความสามารถในการทนแรงดึง กด และเฉือน การทดลองเหล่านี้จะช่วยในการปรับเทียบ กราฟความเค้น-ความเครียดในช่วง elastic กับ plastic ของวัสดุที่จะใช้ต่อไปในกระบวนการจำลอง • ในขั้นตอนที่สองนั้นจะเป็นการทดสอบแรงกระแทกของแผ่น Organosheet ด้วยพลังงานหรือความเร็วของการ กระแทกที่ระดับที่แตกต่างกันและก็นำผลลัพธ์นี้มาใช้ในการปรับเทียบคุณสมบัติของอัตราความเครียดของวัสดุและ รูปแบบการเสียหายที่จะใช้ต่อไปในกระบวนการจำลอง
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 29 • ในขั้นตอนที่สามนั้นอาจจะมีการยํ้ากลับไปมาในกระบวนการที่หนึ่งและสอง เพื่อที่จะได้มีการปรับเทียบครั้งสุดท้าย เพื่อให้ได้คุณสมบัติของวัสดุที่จะนำ ไปใช้ต่อไปในกระบวนการจำลอง (รูปที่ 6) • ในขั้นตอนสุดท้ายจะเป็นตรวจสอบความถูกต้องของกระบวนการจำลองซึ่งจะเอาผลลัพธ์ของการจำลองมาเปรียบ เทียบกับผลลัพธ์ที่มาจากการทดลอง Valeo สามารถที่หาคุณสมบัติของวัสดุที่จะนำ ไปใช้ในกระบวนการจำลองแบบ CAE โดยจำลองในรูปแบบการชนของ ชิ้นงานที่ทำจากวัสดุคอมโพสิทในรูปแบบ organosheet ที่มีคุณสมบัติของความเครียดที่ขึ้นอยู่กับเวลา ควบคู่กับการนำ เอา เกณฑ์ความล้มเหลว (failure criteria) ของวัสดุมาใช้ในกระบวนการจำลอง นอกจากนั้นแล้วในกระบวนการจำลองนี้ได้มีการ นำ รูปแบบการชนที่มาจากกฎเกณฑ์มาตรฐานสากลและจากเงื่อนไขความต้องการจาก OEM Valeo ได้นำ เสนอข้อได้เปรียบ ของการเปลี่ยนชนิดวัสดุจากโลหะเป็นวัสดุคอมโพสิท และได้แสดงให้เห็นด้วยว่าจากแต่ก่อนวัสดุคอมโพสิทมีความเสียเปรียบ ในเชิงที่มีความสามารถในการทนแรงกระแทกที่ตํ่านั้น ข้อเสียเปรียบนี้ไม่ได้เป็นประเด็นอีกต่อไป เมื่อมีการนำ เอาเทคโนโลยี ของวัสดุนี้มาประยุกต์ใช้ กระบวนการและเครื่องมือที่ใช้ในการจำลองดังกล่าวนี้ได้ให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ เมื่อเทียบกับการทดลอง จริง วัสดุคอมโพสิทในรูปแบบ Organosheet ที่ใช้ในการขึ้นรูปชิ้นส่วนยานยนต์นี้สามารถช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ ปล่อยออกมาได้ในแต่ละระดับ: วัสดุที่ใช้ เทคโนโลยีขึ้นรูปชิ้นงาน จนถึงการช่วยลดนํ้าหนักของรถยนต์ จากชิ้นส่วนยานยนต์ ด้านหน้าของตัวรถยนต์ที่ Valeo ได้พัฒนาและผลิต เช่น ชิ้นส่วนคานรถยนต์ ชิ้นส่วนรับแรงกระแทก และคานกันชนรถยนต์ Valeo จึงมีความเพียบพร้อมที่จะเสนอกล่องแบตเตอรี่แบบนํ้าหนักที่เบาสำ หรับรถ EVs ที่ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับ ความต้องการของ OEM และกฎเกณฑ์ระดับสากลในอุตสาหกรรมยานยนต์ในราคาที่ยอมรับได้และสำ หรับการขึ้นรูปชิ้นงาน แบบจำ นวนมาก (ในระยะเวลาที่น้อย) References [1] Organosheet: continuous fi bre-reinforced thermoplastic composite material. [2] Bolster: the front end structural part of the vehicle. [3] OEM: Original Equipment Manufacturer = automotive customer [4] Front end module: structural part including assembly of sub-components; part delivered just-intime to OEM. รูปที่ 6 กระบวนการปรับเทียบจากการทำการทดลองเชิงกลไปถึงการจำลองแบบ CAE
30 THAI COMPOSITES MAGAZINE จากบทความชื่อบทนำ เพื่อรู้จักที่มาของอีพ็อกซี ลงตีพิมพ์ในนิตยสารไทยคอมโพสิท ฉบับที่ 11 มิถุนายนธันวาคม 2566 ได้นำ เสนอความเป็นมาของชื่ออีพ็อกซี ที่ได้มาจากโครงสร้างโมเลกุลเคมีของสารเคมีตั้งต้นใน กลุ่มพรีพอลิเมอร์อีพ็อกซีที่มีหมู่อีพ็อกไซด์ (Epoxide Group) ดังแสดงในรูปที่ 1 เป็นองค์ประกอบหลัก และ บอกเล่าประวัติความเป็นมาอันยาวนานที่เริ่มต้นกำ เนิด เกิดขึ้นครั้งแรกจากฝั่งทวีปยุโรป ราวปี ค.ศ.1891 (พ.ศ. 2434) ขยายมายังฝั่งทวีปอเมริกา มาในนิตยสารไทย คอมโพสิทฉบับนี้ จะขอนำ เสนอเนื้อหาต่อเนื่องเกี่ยวกับ นํ้ายาพรีพอลิเมอร์อีพ็อกซีลงไปที่เคมีพื้นฐานกัน รูปที่ 1 โครงสร้างโมเลกุลทางเคมี ของหมู่อีพ็อกไซด์ (Epoxide Group) (ค) นํ้ายาพรีพอลิเมอร์อีพ็อกซี (ก) พื้นอีพ็อกซี (Epoxy Flooring) (ข) ท่ออีพ็อกซีเรซิ่นเสริมใยแก้ว (Glass Reinforcement Epoxy Conduit) รูปที่ 2 ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เทอร์โมเซ็ตติ่งพลาสติก (Thermosetting Plastics) เรียบเรียงโดย ดร.พิทักษ์ วราฤทธิชัย เคมีพื ้ นฐาน ของอีพ็อกซี นํ้ายาพรีพอลิเมอร์อีพ็อกซีนี้ถูกจัดให้เป็นพลาสติก (Plastic) ในกลุ่มสารเคมี “เทอร์โมเซ็ตติ่งพอลิเมอร์ (Thermosetting Polymer)” หรือนิยมเรียกกันโดย ทั่วไปสั้นๆ ว่า “เทอร์โมเซ็ต (Thermoset)” ในสายงาน วัสดุศาสตร์ (Materials Science) จะหมายถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 31 พลาสติกหรือ พอลิเมอร์ที่เมื่อผ่านกระบวนการผลิตขึ้นรูป แข็งเป็นผลิตภัณฑ์แล้ว จะไม่สามารถนำมาหลอมเพื่อขึ้น รูปผลิตภัณฑ์ใหม่ได้อีก ดังตัวอย่างผลิตภัณฑ์ในรูปที่ 2 ซึ่ง จะมีคุณสมบัติแตกต่างไปจากผลิตภัณฑ์ของสารในกลุ่ม เทอร์โมพอลิเมอร์ (Thermo-polymer) หรือเทอร์โม พลาสติก (Thermoplastics) ที่สามารถนำผลิตภัณฑ์มา หลอมขึ้นรูปร่างเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ได้ เมื่อให้ความร้อนจน ละลายหลอมอ่อนตัว ดังตัวอย่างแสดงในรูปที่ 3 นํ้ายาพรีพอลิเมอร์อีพ็อกซีที่นิยมนำมาใช้งานใน อุตสาหกรรมต่างๆนั้น สามารถจำแนกตามโครงสร้างโมเลกุล ทางเคมีในสายโซ่พอลีเมอร์ออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ 1. กลุ่มไกลซิดิวซ์อีพ็อกซี (Glycidyl Epoxies) หรือที่นิยมเรียกกันว่า “อะโรมาติกอีพ็อกซี (Aromatic Epoxies)” คือ กลุ่มนํ้ายาพรีพอลิเมอร์อีพ็อกซีที่มี วงอะโรมาติก (Aromatic Ring) จับอยู่ในโครงสร้างโมเลกุล ทางเคมี ส่งผลให้นํ้ายาพรีพอลิเมอร์อีพ็อกซีมีความไวในการ เกิดปฏิกิริยากับสารบ่ม (Curing Agents) ทำให้แห้งแข็งได้เร็ว ตัวอย่างเช่น นํ้ายาพรีพอลิเมอร์อีพ็อกซีชนิดไดไกลซิดิล อีเทอร์ของบิสฟีนอลเอ (Diglycidyl Ether of Bisphenol A, DGEBA) ที่สังเคราะห์ได้มาจากกระบวนการทางปฏิกิริยา เคมีระหว่างสารบิสฟีนอลเอ (Bisphenol A) คุณสมบัติของนํ้ายาพรีพอลิเมอร์ของอีพ็อกซีชนิด ไดไกลซิดิลอีเทอร์ของบิสฟีนอลเอ (DGEBA) จะขึ้นกับ จำนวนหน่วยซํ้า (Repeating Unit, n) ในโมเลกุล โดยทั่วไป แล้วที่ใช้งานในอุตสาหกรรมพรีพอลิเมอร์ของอีพ็อกซีจะมี จำนวนซํ้าหรือ ค่า “n” ตั้งแต่ 2.5 จนถึง 18 เนื่องจาก นํ้ายาพรีพอลิเมอร์ของอีพ็อกซีจะยังมีสถานะเป็นของเหลวที่ มีค่าความหนืดไม่สูงมาก สามารถเทไหลได้ดี เหมาะกับการ ใช้ทำงานในกระบวนการผลิตได้ง่าย สะดวก และให้คุณภาพ ผลิตภัณฑ์อีพ็อกซีที่มีคุณสมบัติเชิงกายภาพที่ดี รูปที่ 3 ตัวอย่างผลิตภัณฑ์เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastics) รูปที่ 4 การสังเคราะห์สารพรีพอลิเมอร์ของอีพ็อกซีชนิดไดไกลซิดิลอีเทอร์ของบิสฟีนอลเอ (DGEBA)
32 THAI COMPOSITES MAGAZINE 2. กลุ่มนอนไกลซิดิวซ์อีพ็อกซี (Non-Glycidyl Epoxies) หรือกลุ่มไซโคลอะลิแฟติก (Cycloaliphatic) หรือ ที่นิยมเรียกกันทั่วไปว่า “อะลิแฟติกอีพ็อกซี (Aliphatic Epoxies)” คือ กลุ่มนํ้ายาพรีพอลิเมอร์ของอีพ็อกซีที่ไม่มี วงอะโรมาติกจับอยู่ในโครงสร้างโมเลกุลทางเคมี จึงช่วยเพิ่มคุณสมบัติของนํ้ายาพรีพอลิเมอร์ของอีพ็อกซีให้มีความทนทาน ต่อรังสี UV (Ultraviolet Rays) ในแสงแดดจากดวงอาทิตย์ได้ดี ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้จากนํ้ายาพรีพอลิเมอร์ของอีพ็อกซี กลุ่มนี้มีความคงทน สามารถใช้งานกลางแจ้ง ภายนอกอาคารได้ดี ตัวอย่างนํ้ายพรีพอลิเมอร์ของอีพ็อกซี กลุ่มนอน-ไกลซิดิวซ์ อีพ็อกซีที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มคาร์บอกซีเลทอีพ็อกซี (Carboxylate Epoxies) เช่น ECC (3,4-epoxycyclohexylmethyl-3,4-epoxycyclohexane carboxylate) ดังแสดงโครงสร้างโมเลกุลทางเคมีในรูปที่ 5 รูปที่ 5 โครงสร้างโมเลกุลทางเคมีของสาร ECC Hawk Mountain (Thailand) Co., Ltd. บริษัท ฮอว์คเม้าน์เท่น (ไทยแลนด์) จำกัด สำนักงานใหญ่ 60/19 หมู่ 4 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150 Tel. (66) 038 236 955 E-mail : [email protected] Website : www.hawk-mountain-thailand.com
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 33 ¥¶«³ ¯¥·¯£Ä ¬¶ Ï´³ CONCRETE COMPOSITE CO.,LTD. 12/13 £.7 . º£§¬´¤ 3 é©·©³´ ©·©³´ ¥ºÂ ± 10170 12/13 Moo.7 Phuthamonthon Sai3 Rd., Taveewatthana, Bangkok 10170 Thailand WWW.CONCRETECOMPOSITE.COM Email : [email protected] Tel : +66-2431-5361-3 Fax : +66-2431-5360 1 ª»¤ q ¥©£©³º¶ - ¯º¥qơ¯¥q §´¬ ¥ʶ • ŤÃn © • ¯ · o¯Ê· §Äo • ¤´¶§¶Ä • n ´´¥ q ¯ CONCRETE COMPOSITE Epoxy Resin Polyester Resin Silicone Rubber
34 THAI COMPOSITES MAGAZINE ขั้นตอนการใช้งานมี 3 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 ขัดหยาบ 1) งานทั่วไป Profile Select 2) งานที่ต้องการ ความเงาเร็ว Profile Advance 3) งานที่ต้องการความ เงาเร็วที่สุด Profile Premium 4) งานคอมโพสิทที่พ่นทับ ด้วยสีพ่นรถยนต์ G3 Advance 5) งานคาร์บอนคอมโพสิท ที่เคลือบด้วยแลคเกอร์ G360 การมองเห็นความเงาของชิ้นงาน ENGINEERED ABRASIVE TECHNOLOGY (E.A.T) การเลือกนํ้ายาขัดเงา สำหรับชิ้นงานคอมโพสิท • ไม่มีฟิลเลอร์ ลดงานซํ้า ลดเวลา = ประหยัด ผลิตภัณฑ์ หลักการใช้นํ้ายาขัดสําหรับการกําจัดรอยขีดข่วน บนพื้นผิวยานยนต์ คือการทำ ให้ผิวเรียบ เพื่อให้การสะท้อน ของแสงที่ตกกระทบเป็นเส้นตรงมากที่สุด เป็นหลักการ เดียวกับผิวชิ้นงานคอมโพสิท ดังรูป ผิวชิ้นงานคอมโพสิทที่สวยงาม มีความเงางาม ยิ่งทำ ให้ชิ้นงานมีราคาและคุณค่ามากขึ้น และการปรับผิว โมลด์ให้เนียนเรียบ มีความเงางาม ก็จะทำ ให้ผลิตชิ้นงานได้ สวยงามด้วยเช่นกัน ขั้นตอนการขัดชิ้นงานนั้น เริ่มจากการ ขัดกระดาษทรายเบอร์หยาบและเปลี่ยนเป็นเบอร์ละเอียด บางครั้งต้องขัดให้เรียบถึงเบอร์ 2000 ซึ่งต้องใช้เวลาและ แรงงานมาก หลังจากจบด้วยกระดาษทราย จึงเริ่มใช้นํ้ายา ขัดหยาบและขัดเงาในการขัดชิ้นงาน นํ้ายาขัดเงาที่เป็นที่ นิยมมีหลากหลายชนิดและหลายยี่ห้อ ตั้งแต่ก้อนไขปลาวาฬ นํ้ายาขัดที่ผสมเม็ดทราย หรือนํ้ายาขัดที่ผสมผงขัดอื่นๆ บางครั้งเราใช้นํ้ายาขัดที่มีขายในตลาดสำ หรับขัดรถยนต์ มาใช้ขัดผิวงานคอมโพสิท ซึ่งเสียเวลานานกว่าและเป็น ฝุ่นผง ใช้ทั้งแรงงานและเวลามาก การใช้นํ้ายาขัดที่ออกแบบมาโดยตรงสำ หรับขัดผิว ชิ้นงานที่เป็นเจลโค้ทหรือเรซิ่นที่มีความแข็งกว่า หนากว่า แล็คเกอร์บนผิวสีรถยนต์ จึงมีความเหมาะสมกว่า ช่วยลด เวลา ลดแรงงาน และค่าใช้จ่ายลงได้มาก ดังนั้นการเลือก นํ้ายาขัดที่เหมาะสมจึงมีความสำ คัญเป็นอย่างยิ่ง การเลือกนํ้ายาขัดที่ดีมีประสิทธิภาพในการขัดเจลโค้ท ได้ดี ใช้เวลาน้อย ลดขั้นตอนการผลิต ใช้ปริมาณน้อย ไม่มีฝุ่น ผงมาก และไม่ต้องทำ งานซํ้าซ้อน แต่ให้ความเงางามได้เร็ว ที่สุด จึงเป็นคำตอบของการเลือกใช้นํ้ายาขัดเงา ทำไมต้องเลือกใช้นํ้ายาขัดเงา สำหรับงานคอมโพสิท • ขัดหยาบ เพื่อลดรอยกระดาษทรายได้รวดเร็ว = ประหยัดเวลา • ลดปริมาณการใช้นํ้ายาขัด = ประหยัดผลิตภัณฑ์ • ลดขั้นตอนให้น้อยลง = ประหยัดเวลาและ ผลิตภัณฑ์
WWW.THAICOMPOSITES.ORG 35 ขั้นตอนที่ 2 ขัดเงา 1) งานทั่วไป Profile Finish 2) งานคอมโพสิทที่ พ่นทับด้วยสีพ่นรถยนต์ G3 fine 3) งานคาร์บอนคอมโพสิท ที่เคลือบด้วยแลคเกอร์ G360 Finish ขั้นตอนที่ 3 ปกป้องผิว การเลือกใช้นํ้ายาขัดแต่ละเบอร์ ขึ้นกับความต้องการ ของลูกค้า ลักษณะชิ้นงาน เวลาที่ต้องการ และค่าใช้จ่าย 1) งานทั่วไป Profile UV Wax 2) งานคอมโพสิท ที่พ่นทับด้วยสีพ่นรถยนต์ G3 Glaze 3) งานคาร์บอน คอมโพสิทที่เคลือบด้วยแลคเกอร์ G360 ขั้นตอนการใช้นํ้ายาขัด จะมีรายละเอียดในคู่มือหรือ ติดบนข้างขวด ตัวอย่างเช่น 1. การเลือกแผ่นขัด และเทคนิคในการขัด 2. เขย่านํ้ายาให้เข้ากัน 3. เทนํ้ายา ตามปริมาณที่เหมาะสม 4. การเลือกความเร็วของเครื่องขัด ให้เหมาะสมกับ นํ้ายา และนํ้าหนักมือในการกด 5. การใช้ผ้าเช็ดออก หลังการขัด เปิดหน้าแผ่นขัดเล็กน้อย โดยที่ไม่ตั้งฉากมากจนเกินไป จบที่รอบขัดอยู่ที่ 900 rpm – ไม่ต้องใช้แรงกด หน้าแผ่นขัดให้ราบไปกับผิว ชิ้นส่วนห้องนํ้าสำ เร็จรูป ขั้นตอนที่ 1 ใช้นํ้ายาขัด Profile Advanced กับแผ่นขัดขนแกะสองด้าน ขั้นตอนที่ 2 ใช้นํ้ายาขัด Profile UV Wax กับแผ่นขัดแบบโฟมหรือผ้า เพื่อความเงาและปกกัน UV ผิวโมล ขั้นตอนที่ 1 ขัดด้วยกระดาษทราย เบอร์ P600 แล้วต่อด้วยกระดาษทราย P800 ขั้นตอนที่ 2 ใช้นํ้ายาขัด Profile Select กับแผ่นขัดขนแกะ สองด้าน ขั้นตอนที่ 3 ใช้นํ้ายาขัด Profile Finish กับแผ่นขัดขนแกะแบบนิ่ม โดยทั่วไป จะใช้ขัดด้วยกระดาษทราย เบอร์ 320 > 500 > 1000 นํ้ายาขัดหยาบ 2 รอบ และ นํ้ายาขัดละเอียด 2 รอบ แต่สามารถเปลี่ยน ใช้นํ้ายาขัด Profile Select โดยใช้กระดาษทรายขัดก่อน เบอร์ 400 > 800 แล้วใช้นํ้ายาขัด Profile Select 1-2 รอบ ตัวอย่างชิ้นงานที่ขัดเสร็จ มีความเงาที่ดีขึ้นที่ดีกว่าทั่วไป บนผิวโมล : Profile Select + Profile Finish Line official Neotech Composite เบอร์โทร 02-5174955-62 รอบขัดอยู่ที่ 1500 rpm – แรงกดเบาเปิดหน้าแผ่นขัดเล็กน้อย เครื่องวัดค่าความเงาที่อ่านค่าออกมาได้ของนํ้ายาขัด Profile Finish รอบขัดอยู่ที่ 1500 rpm – แรงกดเบาไม่ต้อง ใช้นํ้าหนักแรงกดเยอะ จบที่รอบขัด อยู่ที่ 900 rpm – ไม่ต้องใช้แรงกด หยดปริมาณเล็กน้อย
36 THAI COMPOSITES MAGAZINE STRONGER TOGETHER Carbon . E-Glass . Innegra . Aramid Multi-Axials . UD . Woven . Tape . Weaveset NEW!!! Carbon and Glass Prepregs ñĎšĂĂÖĒïïĒúąñúĉêñšćÙćøŤïĂîĒúąĔ÷ĒÖšüĀîċęÜđéĊ÷üĔîðøąđìýĕì÷ Your Local Partner of Composite Fabrics for Ultimate Strength and Beauty ǰÿĉîÙšćóøšĂöÿŠÜ : 038-573-635 : www.ASKN.co.th