- ๑๐๑ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ให้สมาชิกกลุ่มมีสิทธิฟ้องคดีเพ่ือตั้งหลักฐานสิทธิเรียกร้องหรือเพื่อให้ชำระหนี้ภายในหกสิบวันนับแต่
สำนกั วงันำนทคศี่ ณาละกมรีครำมสกัง่ ำถรงึกทฤีส่ษดุฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๒ค๒ณ๒ะ/ก๓ร๔รม๒๑ก๐ำรใกนฤกษรฎณีกีทำ ่ีอายุความสะสดำุดนหกั ยงำุดนลคงณเพะรการะรเมหกตำุตรกามฤษมฎาตีกรำา ๒๒๒/๓๓
หากมีกรณีดังตอ่ ไปนี้ ให้ถือวา่ อายคุ วามไมเ่ คยสะดุดหยดุ ลง สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤ)ษศฎาีกลำมคี ำพิพากษาสถำนงึ ทกั ง่ีสำดุ นใคหณย้ ะกกฟร้อรมงกำรกฤษฎีกำ
ส((๓๒ำน))กั ศศงาาำนลลคมมณีคคี ำำะสสกรงง่่ัั รยจมำกกหเลำนรกิ า่กกยฤาคษรดฎดีเีกำพำเรนาินะคเหดตแี บุถอบนกฟสลำุม่้อนงกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๔ฤ)ษศฎาีกลำยกคำฟ้องเพสรำานะกั เหงำตนุคคดณีไะมก่อรยรมู่ในกอำรำกนฤาษจฎศีกาำลหรอื โดยไม่ตสัดำสนิทกั ธงำิสนมคาณชะิกกกรลร่มุมทกำ่ี รกฤษฎีกำ
จะฟ้องคดีใหม่
ส(๕ำน)กั สงมำนาคชณิกกะกลรุ่มรอมอกกำรจกาฤกษกฎารีกเำป็นสมาชิกกลสุ่มำตนากั มงำมนาคตณราะก๒ร๒รม๒ก/ำ๑ร๖กฤมษาฎตีกรำา ๒๒๒/๒๙
หรอื มาตรา ๒๒๒/๓๐
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกในฤษกฎรณีกำีตาม (๒) (๓)ส(ำ๔น)กั แงำลนะคณ(๕ะ)กรหรามกกปำรรกาฤกษฏฎวีก่าำอายุความการสฟำน้อกังคงำดนีขคอณงะสกมรารมชกิกำรกฤษฎีกำ
กลุ่มครบกำหนดไปแล้วในระหว่างการพิจารณา หรือจะครบกำหนดภายในกำหนดเวลาหกสิบวันนับ
แต่วันท่ีคำพิพากสษำานหกั รงือำนคคำณสั่ะงกนร้ันรถมึงกทำรี่สกุดฤษใหฎีก้สำมาชิกกลุ่มมีสสิทำนธิกฟั ง้อำงนคคดณีเะพกื่อรตรมั้งกหำลรักกฐฤาษนฎสีกิำทธิเรียกร้อง
หรือเพ่ือให้ชำระหน้ีภายในหกสิบวันนับแต่วันที่คำพิพากษาหรือคำสั่งถึงท่ีสุดหรือนับแต่วันที่สมาชิก
สำนกั กงลำนมุ่ คไมณเ่ ะปกน็ รสรมมกาำชรกิ กกฤลษมุ่ ฎีกแำลว้ แตก่ รณี สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สคำวนากั มงำในนควณรระคกสรรอมงกใหำร้ใกชฤ้บษังฎคีกับำในกรณีที่สมสาำชนิกกั กงลำนุ่มคผณู้ใดะถกรูกรปมฏกิเำสรกธฤคษำฎขีกอำรับชำระหน้ี
โดยอ้างเหตุว่าไม่เป็นสมาชิกกลุ่มตามคำพิพากษา เน่ืองจากศาลได้มีคำพิพากษาโดยกำหนด
สำนกั ลงักำนษคณณะะเกฉรพรามะกขำรอกงฤกษลฎุ่มีกแำตกต่างจากลักสำษนณกั งะำเนฉคพณาะะกขรอรงมกกลำุ่มรกตฤาษมฎทีก่ีศำาลได้มีคำส่ังอสนำนุญกั างตำนใหค้ดณำะเกนรินรมคกดำี รกฤษฎีกำ
แบบกลุ่มตามมาตรา ๒๒๒/๑๒ วรรคสอง โดยให้มีสิทธิฟ้องคดีนับแต่วันที่คำส่ังปฏิเสธคำขอรับชำระ
หนถ้ี ึงที่สดุ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนสคว่ ณนะทกี่ร๔รมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คำพิพากษาและการบังคบั คดี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๒๒/๓๕๒๑๑สำนคกัำงพำิพนคากณษะการขรอมงกศำารกลฤมษีผฎลีกเำป็นการผูกพันสคำู่คนวกั างำมนแคลณะะสกมรรามชกิกำรกฤษฎีกำ
กลุ่มและในกรณีท่ีศาลมีคำพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี ให้โจทก์หรือทนายความฝ่ายโจทก์มีอำนาจ
ดำเนินการบังคบั คสำดนแี กั ทงนำนโจคทณกะแ์กลรระมสกมำารชกิกฤษกลฎมุ่ีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมาชิกกลุ่มมีสิทธิท่ีจะย่ืนคำขอรับชำระหนี้ แต่ไม่มีสิทธิที่จะดำเนินการบังคับคดี
สำนกั ตงาำมนคสณ่วนะกนรด้ี ร้วมยกตำนรกเอฤงษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๑๐ มาตรา ๒๒๒/๓๔ เพ่ิมโดยพระราชบญั ญัติแกไ้ ขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความ
แพ่ง (ฉบับท่ี ๒๖) พส.ศำน. ๒กั ง๕ำ๕น๘คณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๑๑ มาตรา ๒๒๒/๓๕ เพมิ่ โดยพระราชบญั ญัติแกไ้ ขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความ
สำนกั แงพำน่ง ค(ฉณบะบั กทรี่ ร๒ม๖ก)ำพรก.ศฤ.ษ๒ฎ๕ีก๕ำ๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๒ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
หากความปรากฏตอ่ ศาลว่าทนายความฝา่ ยโจทก์ไม่สามารถดำเนินการบังคบั คดีเพื่อ
สำนกั คงุม้ำนคครณองะปกรรระมโยกำชรนก์ขฤอษงฎสีกมำาชิกกล่มุ ได้อสยำา่ นงกั เพงำียนงคพณอะแกลระรมเปก็นำรธกรฤรษมฎศีกาำลอาจมีคำสงั่ สใหำน้โจกั ทงำกนแ์ คลณะะสกมรารมชกิกำรกฤษฎีกำ
กลุม่ จดั หาทนายความคนใหมม่ าดำเนนิ การบังคบั คดีต่อไปได้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๒๒/๓๖๒๑๒ คำพิพากษาของศาลตอ้ งกล่าวหรอื แสดงรายการดังต่อไปน้ี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤ)ษรฎาีกยำการตามที่กำสหำนนดกั ไงวำใ้นนคมณาะตกรรารม๑ก๔ำร๑กฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส((๒ำ๓น))กั ลใงนักำนษกคณรณณะะโีทดก่ีศรยราชมลดั กพเำจิพรนกาขฤกอษษงฎกาีกลใำหมุ่ ้จบำุคเคลลยหชรำือรกะสลหำมุ่ นนยกั้ีเป่องำย็นนทเคงี่จิณนะตะตก้อ้รองรงถมรูกกะผำบกูรุจกพฤำนั นษตฎวาีนกมำเคงำินพทิพี่จาำกเษลาย
สำนกั จงะำนตค้อณงชะำกรระรใมหก้แำรกกโ่ ฤจษทฎกีก์ รำวมทัง้ หลักเกสณำฑนกัแ์ งลำะนวคธิ ณีกะากรรครำมนกวำณรกใฤนษกฎาีกรำชำระเงนิ ใหส้ มสาำชนิกกั กงำลนุ่มคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) จำนวนเงินรางวัลของทนายความฝ่ายโจทกต์ ามมาตรา ๒๒๒/๓๗
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๒๒/๓๗๒๑๓ ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยกระทำการหรืองดเว้น
สำนกั กงรำนะคทณำะกการรรหมกรำือรสก่ฤงมษฎอีกบำทรัพย์สิน ใหสำ้ศนากั ลงำกนำคหณนะดกรจรำมนกวำรนกเฤงษินฎรีกาำงวัลท่ีจำเลยสจำะนตกั ้องำงนชคำณระะกใรหร้แมกกำ่ รกฤษฎีกำ
ทนายความฝ่ายโจทก์ตามท่ีเห็นสมควร โดยคำนึงถึงความยากง่ายของคดีประกอบกับระยะเวลาและ
การทำงานของทนสำานยกั คงวำานมคฝณ่าะยกโรจรทมกกำ์ รรกวฤมษทฎ้ังีกคำ่าใช้จ่ายเก่ียวกสำับนกกั างรำดนำคเณนะินกครดรมีแกบำบรกกฤลษุ่มฎซีกึ่งำมิใช่ค่าฤชา
ธรรมเนยี มทท่ี นายความฝ่ายโจทก์ได้เสียไป และเพ่ือประโยชน์แหง่ การน้ี เมอื่ การพจิ ารณาส้ินสุดลงให้
สำนกั ทงนำนาคยณควะกามรรฝมา่ กยำโรจกทฤกษ์ยฎืน่ ีกบำ ญั ชคี า่ ใช้จ่ายสดำงันกกั ลงำา่ นวคตณอ่ ศะการลรโมดกยำใรหก้สฤ่งษสฎำีกเนำาแกจ่ ำเลยด้วสยำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สถำ้านคกั ำงำพนิพคาณกะษกรารกมำกหำนรกดฤใษหฎ้จีกำำเลยใช้เงิน นสอำกนจกั างกำนศคาณละตก้อรงรคมำกนำรึงกถฤึงษหฎลีกักำเกณฑ์ตาม
วรรคหนึ่งแล้ว ใหศ้ าลคำนึงถึงจำนวนเงนิ ที่โจทกแ์ ละสมาชกิ กลุ่มมสี ิทธิไดร้ บั ประกอบดว้ ย โดยกำหนด
สำนกั เงปำ็นนจคำณนะวกนรรรม้อกยำลระกขฤอษงฎจีกำำนวนเงินดังกลส่าำนวกั แงตำน่จคำนณวะนกรเงรนิมกราำรงกวฤลั ษขฎอีกงทำ นายความฝ่าสยำโนจกั ทงกำน์ดคังกณละ่กาวรรตม้อกงำรกฤษฎีกำ
ไมเ่ กินร้อยละสามสบิ ของจำนวนเงนิ นัน้
สถำ้านคกั ำงำพนิพคณากะกษรารกมำกหำรนกดฤษใหฎ้ีกจำำเลยกระทำสกำานรกั หงำรนือคงณดะเวก้นรรกมรกะำรทกำฤกษาฎรีกหำรือส่งมอบ
ทรัพย์สินและใหใ้ ชเ้ งนิ รวมอยดู่ ้วย ให้นำความในวรรคหนึ่งและวรรคสองมาใชบ้ ังคบั โดยอนโุ ลม
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกในฤษกฎารีกกำำหนดจำนวนสำเนงินกั งรำานงควณัลขะกอรงรทมนกาำรยกคฤวษาฎมีกฝำ่ายโจทก์ตามสมำานตกั รงาำนน้ีคหณาะกกมรรีกมากรำรกฤษฎีกำ
เปลี่ยนทนายความฝ่ายโจทก์ ให้ศาลกำหนดจำนวนเงินรางวัลของทนายความฝ่ายโจทก์ตามสัดส่วน
ของการทำงานแลสะำคนา่กั ใงชำน้จคา่ ยณทะก่ที รนรามยกคำวรกาฤมษแฎตีกล่ ำะคนเสยี ไป สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ถือว่าทนายความฝ่ายโจทก์เป็นเจ้าหน้ีตามคำพิพากษาและจำเลยเป็นลูกหนี้ตาม
สำนกั คงำำนพคิพณาะกกษรารใมนกสำร่วกนฤขษอฎงีกเำงินรางวัลของสทำนนกัายงำคนวคาณมะฝก่ารยรมโจกทำรกก์ดฤ้วษยฎีกแำละเงินรางวัลสดำังนกกั ลง่าำนวคมณิใชะ่คก่ารรฤมชกาำรกฤษฎีกำ
ธรรมเนียม สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๒๒/๓๘๒๑๔สำในนกั กงำรนณคีทณี่ศะกาลรรมมีคกำำพรกิพฤาษกฎษีกาำให้โจทก์ชนะสคำดนี กัใหงำ้ศนาคลณมะีอกำรนรมากจำรกฤษฎีกำ
กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขในการปฏิบัติตามคำพิพากษา โดยจะกำหนดไว้ในคำพิพากษา
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๑๒ มาตรา ๒๒๒/๓๖ เพิ่มโดยพระราชบญั ญตั ิแก้ไขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความ
สำนกั แงพำน่ง ค(ฉณบะบั กทรี่ ร๒ม๖ก)ำพรก.ศฤ.ษ๒ฎ๕ีก๕ำ๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๑๓ มาตรา ๒๒๒/๓๗ เพมิ่ โดยพระราชบัญญัติแกไ้ ขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความ
แพ่ง (ฉบับที่ ๒๖) พส.ศำน. ๒กั ง๕ำ๕น๘คณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๑๔ มาตรา ๒๒๒/๓๘ เพ่ิมโดยพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
สำนกั แงพำนง่ ค(ฉณบะบั กทรี่ ร๒ม๖ก)ำพรก.ศฤ.ษ๒ฎ๕ีก๕ำ๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๓ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
หรอื โดยคำสั่งในภายหลงั ก็ได้ และในระหว่างการบังคบั คดีใหศ้ าลมีอำนาจออกคำบังคับเพ่ิมเติมเพอ่ื ให้
สำนกั เงปำน็นไคปณตะากมรครมำพกำิพรากกฤษษาฎไีกดำต้ ามทเ่ี หน็ สมสคำวนรกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้ศาลช้ันต้นมีอำนาจพิจารณาสั่งคำร้องขอทุเลาการบังคับตามคำพิพากษาคำสั่ง
ของศาลชั้นตน้ ใหส้เปำนน็ กั ทงีส่ำนุดคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๒๒/๓๙๒๑ส๕ำนใกั หงำ้ศนาคลณแะจก้งรครมำกพำิพรกาฤกษษฎาีกใำห้สมาชิกกลุ่มสำทนรกั างบำนตคาณมะวกิธรีกรมากรำรกฤษฎีกำ
เชน่ เดยี วกบั ท่กี ำหสในำนนดกกั ไรงวณำใ้ นนีทคมี่ศณาาตะลกรมราีคร๒ำมพก๒ำิพ๒ราก/ก๑ฤษษ๕าฎใวีกหรำ้จรำคเหลยนชึ่งำแรละะหใสนหำ้ีเน้แปกัจ็นงง้ เำองนินธคบิหณดระือีกกชรรมำรรบมะกังหคำรนับกี้เคฤปดษ็นีทฎเงรีกินาำบรวดม้วอยยู่ด้วย
สำนกั ใงหำ้ศนคาลณตะ้ักงเรจร้ามพกำนรักกงฤาษนฎบีกังำคับคดีเพื่อดำสเำนนินกั งกำานรคตณ่อะไกปรรรมวกมำทรก้ังฤกษำฎหีกนำดวันตามที่เหส็นำสนมกั งคำวนรคใณนะคกำรบรอมกกำรกฤษฎีกำ
กล่าวและประกาศตามวรรคหน่ึง เพื่อให้สมาชิกกลุ่มยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี
แต่ถ้าเป็นกรณีที่ศสาำลนมกั ีคงำำนพคิพณากะกษรารใมหก้จำำรเกลฤยษชฎำรีกะำหนี้อย่างอื่นแสลำะนจกั ำงเปำน็นคจณะะตก้อรงรมมีกกาำรรดกำฤเษนฎินีกกำารอย่างหน่ึง
อย่างใดเพ่ือประโยชน์แก่การบังคับตามคำพิพากษา โจทก์อาจยื่นคำขอต่อศาลเพื่อตั้งเจ้าพนักงาน
สำนกั บงังำนคคับณคดะกดี รำรเมนกนิ ำกรากรฤไษดฎ้ ีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เม่ือพ้นกำหนดระยะเวลาตามวรรคสอง สมาชิกกลมุ่ ที่ไม่ไดย้ ื่นคำขอรับชำระหน้ีไม่มี
สทิ ธิขอเฉลี่ยทรัพสยำ์สนินกั หงำรนือคเณงินะกในรรกมากรำบรังกคฤับษคฎดีกีตำ ามส่วนน้ี เว้นสำแนตกั ่ใงนำนกครณณะีทกี่มรีเรหมตกุสำรดุ กวฤิสษัยฎีกสำมาชิกกลุ่มที่
ไม่ได้ย่ืนคำขอรับชำระหนภี้ ายในกำหนดระยะเวลา อาจย่ืนคำขอรบั ชำระหน้ีต่อเจ้าพนักงานบังคบั คดี
สำนกั ไงดำภ้นาคยณใะนกสรารมมสกิบำรวกนั ฤนษับฎแีกตำ ่วนั พ้นกำหนสดำรนะกั ยงะำเนวคลณาะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๒๒/๔๐๒๑๖ คู่ความในคดีและสมาชิกกลุ่มรายอื่นอาจขอตรวจและ
สำนกั โงตำ้นแคยณ้งคะกำรขรอมรกับำรชกำฤรษะฎหีกนำ ้ีของสมาชิกสกำลนุ่มกั งผำู้ยนื่นคคณำะขกรอรรมับกชำรำกรฤะษหฎนีกี้ไำด้ แต่ต้องกระสำทนำกั ภงำานยคในณกะกำรหรนมกดำรกฤษฎีกำ
สามสิบวันนับแต่วันทพี่ ้นกำหนดเวลายื่นคำขอรบั ชำระหนี้ เวน้ แต่ในกรณีท่ีมีเหตุสุดวิสยั อาจขอขยาย
ระยะเวลาออกไปสอำกี นไกั ดง้ไำมน่เคกณนิ ะสการมรสมิบกวำรนั กฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๒๒/๔๑๒๑๗สำในหกั ้เงจำ้านพคนณักะงการนรมบกังำครับกฤคษดฎีมีกีอำำนาจเรียกคู่คสำวนากัมงใำนนคคดณี ะสกมรารมชกิกำรกฤษฎีกำ
กลุ่ม ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดี หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง มาสอบสวนในเร่ืองคำขอรับชำระหน้ีของ
สมาชิกกลุ่มเพือ่ พสจิ ำานรกั ณงำานมคคี ณำสะกั่งรตร่อมไกปำไรดก้ ฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีากำ๒๒๒/๔๒๒๑๘สำคนำกั ขงอำนรคับณชะำกรระรหมนก้ีขำรอกงฤสษมฎาีกชำกิ กลุ่มรายใด สถำ้านคกั ู่คงวำานมคใณนะคกดรีแรมลกะำรกฤษฎีกำ
สมาชิกกลุ่มรายอสื่นำไนมกั่โตงำ้แนยค้งณใะหก้เรจร้ามพกนำรักกงฤาษนฎบีกังำคับคดีมีอำนาจสำสนั่งกัองนำุญนคาณตใะหก้รรัรบมชกำำรระกหฤนษ้ีไฎดีก้ ำเว้นแต่มีเหตุ
อนั สมควรสง่ั เป็นอย่างอ่ืนโดยใหเ้ จา้ พนักงานบังคับคดแี จง้ ใหศ้ าลทราบถึงการดำเนินการดงั กล่าวด้วย
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพง่ (ฉบบั ท่ี ๒๖) พส๒.ศำ๑น.๕๒กั มง๕าำต๕นร๘คาณ๒ะ๒ก๒ร/ร๓ม๙กำเรพก่มิ ฤโษดฎยพีกรำะราชบัญญัติแสกำ้ไขนเกัพง่ิมำเนตคิมณประะกมรวรลมกกฎำรหกมฤาษยฎวธิีกีพำจิ ารณาความ
๒๑๖ มาตรา ๒๒๒/๔๐ เพ่ิมโดยพระราชบัญญตั ิแก้ไขเพม่ิ เตมิ ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความ
สำนกั แงพำน่ง ค(ฉณบะบั กทรี่ ร๒ม๖ก)ำพรก.ศฤ.ษ๒ฎ๕ีก๕ำ๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๑๗ มาตรา ๒๒๒/๔๑ เพิม่ โดยพระราชบัญญัติแกไ้ ขเพิ่มเตมิ ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความ
แพ่ง (ฉบับท่ี ๒๖) พส.ศำน. ๒กั ง๕ำ๕น๘คณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๑๘ มาตรา ๒๒๒/๔๒ เพิ่มโดยพระราชบัญญตั ิแก้ไขเพิม่ เตมิ ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความ
สำนกั แงพำนง่ ค(ฉณบะับกทร่ี ร๒ม๖ก)ำพรก.ศฤ.ษ๒ฎ๕ีก๕ำ๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๔ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
คำขอรับชำระหน้ีของสมาชิกกลุ่มรายใด ถ้ามีผู้โต้แย้ง ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมี
สำนกั คงำำสนงั่คอณยะา่ กงรหรนมกึง่ อำรยก่าฤงษใดฎีกดำังตอ่ ไปนี้ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ใหย้ กคำขอรบั ชำระหน้ี
ส(๒ำน)กั องนำนญุ คาณตะใกหร้ไรดมร้ กบั ำชรกำรฤะษหฎนีก้ีเำต็มจำนวน สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) อนญุ าตให้ได้รับชำระหนี้บางสว่ น
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกสฤมษาฎชีกิกำกลุ่มที่ยื่นคำขสอำรนับกั ชงำำนรคะณหะนกี้แรลรมะกไมำร่มกีผฤู้โษตฎ้แีกยำ้งตามวรรคหนส่ึงำนสกั มงำานชคิกณกะลกุ่มรทรม่ียก่ืนำรกฤษฎีกำ
พคำนขักองารนับบชังำครบั ะคหดนสีตำ้ีแนอ่ ลกัศะงาำมลนีผไคดู้โณภ้ตะ้าแกยยรใ้งรนตมกากำมำหรวนกรฤดรษสคฎิบสีกหอำ้างวนัหนรืบัอผแตู้โต่ว้แันสยทำ้งนีท่ กัรองาาำบนจคคยำณ่ืนสะคัง่ กขำรอรร้องมเงกจคำ้ารัดพกคนฤ้าักษนงฎาคีกนำำบสัง่ังคขับอคงดเจี ้า
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกคฤำษสฎั่งีกขำองศาลตามวสรำรนคกั สงำานมคใณหะ้อกุทรรธมรกณำร์แกลฤะษฎฎีีกกำาได้ภายใต้บทสำบนัญกั งญำนัตคิใณนะภการครม๓กำรกฤษฎีกำ
อทุ ธรณแ์ ละฎีกา
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๒๒/๔๓๒๑๙ เม่ือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินอย่างใด
สำนกั ขงอำนงลคูกณหะกนร้ีตรามมกคำรำกพฤิพษาฎกีกษำาในคดีอนื่ ไว้แสำทนนกั เงจำา้ นหคนณี้ตะากมรรคมำกพำิพรกาฤกษษฎาีกแำล้ว ให้ทนายคสวำานมกั ฝง่าำนยคโจณทะกก์ใรนรมคกดำี รกฤษฎีกำ
แบบกลุ่มมอี ำนาจยน่ื คำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาลทอี่ อกหมายบังคบั คดใี หย้ ึดหรอื อายัดทรพั ย์สินนั้น
เพ่ือให้ศาลมีคำสส่ังำในหกั ้เฉงำลนี่ยคทณระัพกรยร์แมกก่ทำรนกาฤยษคฎวีกาำมฝ่ายโจทก์ โสจำนทกักง์ ำแนลคะณสะมการชรมิกกกำลรุ่มกฤตษาฎมีกมำาตรา ๓๒๖
ตามจำนวนท่ีมีสทิ ธิได้รบั ๒๒๐
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกในฤษกฎรีกณำีที่จำนวนเงินสทำนี่สกัมงาำชนิกคณกละกุ่มรไรดม้ยกื่นำรคกำฤขษอฎรีกับำชำระหนี้ตามสมำนากั ตงรำานค๒ณ๒ะ๒กร/ร๔ม๒กำรกฤษฎีกำ
ยังไม่เป็นท่ียุติ ใหส้ศำนาลกั งทำ่ีไนดค้รณับะคกำรรร้อมงกขำรอกเฉฤษลฎี่ยีกทำรัพย์ตามวรรคสำหนนกั ่ึงงรำนอคกณาระมกีครรำมสก่ังำใรหก้เฤฉษลฎี่ยีกทำรัพย์ไว้ก่อน
และเม่ือได้ข้อยุตใิ นจำนวนเงนิ ดงั กล่าวแลว้ ใหท้ นายความฝ่ายโจทก์แจ้งให้ศาลนน้ั ทราบ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกเมฤื่อษศฎาีกลำได้มีคำส่ังให้เสฉำลน่ียกั งทำรนัพคยณ์แะลก้วรรใมหก้เำจร้ากพฤษนฎักีกงาำนบังคับคดีในสคำนดกัีนง้ันำนสค่งเณงินะกใรหร้เมจก้าำรกฤษฎีกำ
พนักงานบังคบั คดีในคดีแบบกลุ่มเพ่ือจ่ายให้แก่ผ้มู ีสทิ ธติ ามมาตรา ๒๒๒/๔๔
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๒๒/๔๔๒๒๑ เม่ือจำเลยนำเงินหรอื ทรัพย์สินมาวางต่อเจา้ พนักงานบงั คับคดี
สำนกั หงรำนอื คเมณอ่ื ะไกดร้ขรามยกทำรอกดฤตษลฎาีกดำหรอื จำหนา่ ยสโำดนยกั วงธิ ำอีนืน่ คซณ่งึ ะทกรรัพรมยกส์ ำนิ รกขฤอษงจฎำีกเำลย หรือเม่อื เจสา้ำพนกันงักำงนาคนณบะังกครับรมคกดำี รกฤษฎีกำ
ได้รวบรวมทรัพย์สินอ่ืนใดของจำเลยเสร็จ และได้หักค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดีแล้ว ให้เจ้า
พนักงานบงั คับคดสีจำน่ายกั เงงำินนใคหณแ้ ะกก่ผรมู้รมีสกทิ ำธริตกาฤมษลฎำีกดำบั ดงั น้ี สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑)๒๒๒ ผู้มสี ทิ ธิได้รับชำระหนก้ี ่อนตามมาตรา ๓๒๒ และมาตรา ๓๒๔
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๒ฤ)ษเฎงีกนิ ำรางวัลของทนสาำยนคกั วงำานมคฝณา่ ยะกโจรทรมกก์ตำารมกมฤษาตฎรีกาำ ๒๒๒/๓๗ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส(๓ำน)กั คง่าำนฤคชณาธะรกรรมรมเนกียำรมกใชฤษ้แฎทีกนำโจทก์ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔)๒๒๓ โจทก์ สมาชกิ กลุม่ และเจา้ หนี้อื่นทม่ี สี ทิ ธิไดร้ ับเฉล่ยี ทรัพยต์ ามมาตรา ๓๒๖
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
แพง่ (ฉบบั ท่ี ๒๖) พส๒.ศำ๑น.๙๒กั มง๕าำต๕นร๘คาณ๒ะ๒ก๒ร/ร๔ม๓กำเรพกมิ่ ฤโษดฎยพีกรำะราชบญั ญตั ิแสกำไ้ ขนเกัพงม่ิ ำเนตคมิ ณประะกมรวรลมกกฎำรหกมฤาษยฎวธิีกีพำจิ ารณาความ
๒๒๐ มาตรา ๒๒๒/๔๓ วรรคหนึ่ง แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล
สำนกั กงฎำนหมคาณยะวกธิ รีพรจิ มากรณำรากคฤวษาฎมแีกพำ่ง (ฉบบั ที่ ๓๐)สพำน.ศกั .ง๒ำน๕ค๖ณ๐ะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๒๑ มาตรา ๒๒๒/๔๔ เพิ่มโดยพระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
แพง่ (ฉบบั ที่ ๒๖) พส.ศำน. ๒กั ง๕ำ๕น๘คณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๒๒ มาตรา ๒๒๒/๔๔ (๑) แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธี
สำนกั พงิจำนารคณณาะคกวรารมมแกพำง่ ร(กฉฤบษบั ฎทีก่ี ๓ำ ๐) พ.ศ. ๒๕๖ส๐ำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๕ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนสคว่ ณนะทก่ีร๕รมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อุทธรณ์และฎีกา
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๒๒/๔๕๒๒๔สำนใหกั ้คงำู่คนวคาณมะมกีสริรทมธกิอำุทรกธฤรษณฎ์แีกลำะฎีกาคำพิพาสกำนษกั างหำนรือคคณำะสก่ัรงรขมอกงำรกฤษฎีกำ
ศาล โดยไมน่ ำข้อจำกัดสทิ ธิเรือ่ งทนุ ทรัพย์ของการอุทธรณแ์ ละฎกี าในข้อเท็จจรงิ มาใชบ้ งั คับ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๒๒/๔๖๒๒๕ สมาชิกกลุ่มไม่มีสิทธิอุทธรณ์และฎีกาคำพิพากษาหรือคำสั่งของ
สำนกั ศงาำลนคยณกะเวกน้รรใมนกกำรรณกฤีตษาฎมีกมำาตรา ๒๒๒/๔ส๒ำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๒ค๒ณ๒ะก/ร๔ร๗ม๒ก๒ำ๖รกใฤนษกฎรีกณำีที่จำเลยยื่นคสำำรน้อกั งงอำนุทคธณรณะก์ครำรสมั่งกไำมร่รกับฤอษุทฎีกธำรณ์หรอื ฎีกา
สำนกั ใงหำ้จนำคเณละยกนรำรคม่ากฤำรชกาฤธษรรฎมีกเำนียมท้งั ปวงมสาำวนากั งงศำานลคแณละะกนรรำมเงกินำมรกาฤชษำฎระีกตำามคำพิพากษสาำนหกัรงือำหนาคปณระะกกรรันมใกหำ้ รกฤษฎีกำ
ไว้ตอ่ ศาลเฉพาะในส่วนทจ่ี ำเลยต้องรับผิดชำระหน้ใี หแ้ ก่โจทก์ แตไ่ ม่ต้องนำเงนิ มาชำระหรอื หาประกัน
ใหไ้ ว้ต่อศาลสำหรสับำนเงกั นิ งรำานงควณัละขกอรงรทมนกำารยกคฤวษาฎมีกฝำ่ายโจทก์ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๒๒/๔๘๒๒ส๗ำนคกั งดำีทน่ีศคณาละกชร้ันรตมก้นำมรีกคฤำษสฎ่ังีกรำับอุทธรณ์หรสือำฎนีกกั งาำสน่งคมณาะใกหร้ศรมากลำรกฤษฎีกำ
อุทธรณ์หรือศาลฎีกา หากศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาแล้วแต่กรณีพิจารณาเห็นว่าอุทธรณ์หรือฎีกาน้ัน
ต้องห้ามอทุ ธรณ์หสรำนอื กัหง้าำมนฎคีกณาะกใหรรย้ มกกอำุทรกธฤรษณฎ์หีกรำอื ฎีกา โดยไมส่จำำนตกั ้องำงนวินคณิจฉะกัยรปรรมะกเำดรน็ กทฤษี่อฎทุ ีกธำรณ์หรือฎีกา
แต่ถ้าศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา แล้วแต่กรณี พิจารณาเห็นสมควรเพ่ือประโยชน์แห่งความยุติธรรม
สำนกั จงำำเนปคน็ ณตะ้อกงรแรกม้ไกขำขร้อกผฤษดิ พฎีกลำาดจะรบั พจิ ารสณำนาพกั งิพำานกคษณาะคกดรีทรมต่ี ก้อำงรหกา้ฤมษอฎุทีกธำรณ์หรือหา้ มฎสีกำานดกั งังกำนลคา่ วณนะ้ันกรกร็ไมดก้ ำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำส่วนที่ ๖ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งคำ่านธครณระมกเรนรียมมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๒๒/๔๙๒๒๘ ใหค้ ดิ ค่าธรรมเนยี มตามอตั ราดงั ต่อไปนี้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส๒ำ๒น๓กั มงาำตนรคาณ๒ะ๒ก๒รร/๔ม๔กำ(ร๔ก)ฤแษกฎ้ไีกขำเพิ่มเติมโดยพระสรำานชกั บงัญำนญคัตณิแะกก้ไรขรเพม่ิมกเำตริมกปฤรษะฎมีกวำลกฎหมายวิธี
พจิ ารณาความแพง่ (ฉบบั ที่ ๓๐) พ.ศ. ๒๕๖๐
สำนกั แงพำนง่ ค(ฉณบะับกทร่ี ร๒ม๖ก)ำพรก๒.ศ๒ฤ.๔ษ๒มฎ๕าีกต๕ำร๘า ๒๒๒/๔๕ เสพำ่ิมนโดกั ยงำพนรคะณราะชกบรญั รมญกตั ำิแรกก้ไฤขษเพฎม่ิ ีกเำติมประมวลกฎหสมำนายกั วงิธำีพนจิคาณระณการครวมากมำรกฤษฎีกำ
แพ่ง (ฉบบั ที่ ๒๖) พส๒.ศำ๒น.๕๒กั มง๕าำต๕นร๘คาณ๒ะ๒ก๒ร/ร๔ม๖กำเรพกม่ิ ฤโษดฎยพีกรำะราชบัญญตั ิแสกำ้ไขนเกั พงิม่ ำเนตคิมณประะกมรรวมลกกฎำรหกมฤาษยฎวธิีกีพำิจารณาความ
๒๒๖ มาตรา ๒๒๒/๔๗ เพ่ิมโดยพระราชบัญญัติแกไ้ ขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความ
สำนกั แงพำน่ง ค(ฉณบะับกทร่ี ร๒ม๖ก)ำพรก.ศฤ.ษ๒ฎ๕ีก๕ำ๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๒๗ มาตรา ๒๒๒/๔๘ เพิม่ โดยพระราชบญั ญัติแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความ
แพง่ (ฉบับท่ี ๒๖) พส.ศำน. ๒กั ง๕ำ๕น๘คณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๒๘ มาตรา ๒๒๒/๔๙ เพม่ิ โดยพระราชบัญญตั ิแก้ไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
สำนกั แงพำนง่ ค(ฉณบะบั กทรี่ ร๒ม๖ก)ำพรก.ศฤ.ษ๒ฎ๕ีก๕ำ๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๖ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๑) ค่ายื่นคำขอรับชำระหนี้สองร้อยบาท แต่การขอรับชำระหนี้ที่ไม่เกินสองหมื่น
สำนกั บงาำนทคไมณ่ตะ้อกงรเรสมียกคำรา่ กธฤรษรมฎเีกนำยี ม สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ค่าคัดค้านคำส่ังของเจ้าพนักงานบังคับคดีต่อศาลในเร่ืองการขอรับชำระหนี้เรื่องละ
สองรอ้ ยบาท สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ค่าข้ึนศาลในกรณีที่มีการอุทธรณ์เร่ืองการขอรับชำระหน้ี หรือการอุทธรณ์เร่ือง
สำนกั เงงำนิ นรคาณงวะลักขรรอมงกทำนรากยฤคษวฎาีกมำ เร่ืองละสองสรำ้อนยกั บงาำนทคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ตามตารางทา้ ยปรส(ะ๔ำนม)กัวคลง่ำากนธฎครหรณมมะาเกนยรียนรมมี้ กอำ่ืนรกนฤอษกฎจีกาำก (๑) (๒) แลสะำน(ก๓ั ง)ำในหค้คณิดะอกรัตรรมากเำดรียกวฤกษับฎคีก่าำธรรมเนียม
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ภาค ๓
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษอฎุทีกธำรณ์และฎีกา สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลกั ษณะ ๑
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำอุทธรณ์ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๒ค๒ณ๓ะกรภรามยกใำตรก้บฤงั ษคฎับีกบำทบัญญัติมาตสรำาน๑กั ง๓ำ๘นค, ณ๑ะ๖ก๘ร,รม๑ก๘ำ๘รกฤแษลฎะีก๒ำ๒๒ และใน
ลักษณะนี้ คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้นน้ัน ให้ย่ืนอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ เว้นแต่คำพิพากษา
สำนกั หงรำนอื คคณำสะั่งกนรรัน้ มปกรำะรมกฤวษลฎกีฎกำหมายนี้หรอื กสฎำหนมกั างำยนอค่ืนณจะะกไรดร้บมญั กำญรัตกฤิวษ่าใฎหีก้เำปน็ ทส่ี ุด สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๒ค๒ณ๓ะกทรรวมิ๒๒ก๙ำร(กยฤกษเฎลีกิกำ) สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๒๔๒๓๐ ในสคำนดกั ีทง่ีรำนาคคณาทะกรรัพรมย์กสำินรหกฤรษือฎจีกำำนวนทุนทรัพสยำ์ทนี่พกั งิพำนาคทณกะันกใรนรชมั้กนำรกฤษฎีกำ
อทุ ธรณ์ไมเ่ กนิ หา้ หม่ืนบาทหรอื ไม่เกินจำนวนท่ีกำหนดในพระราชกฤษฎีกา ห้ามมิให้คูค่ วามอทุ ธรณใ์ น
ข้อเทจ็ จรงิ เวน้ แตสผ่ำนู้พกั พิ งาำนกคษณาทะกีน่ รั่งรพมจิกาำรรกณฤาษคฎดีกนี ำั้นในศาลชัน้ ตส้นำไนดกั ท้ งำำนคควณามะเกหรน็รมแกยำง้ รไกวฤ้หษรฎือีกไดำ ้รบั รองวา่ มี
เหตุอันควรอุทธรณ์ได้ หรือถ้าไม่มีความเห็นแย้งหรือคำรับรองเช่นว่านี้ต้องได้รับอนุญาตให้อุทธรณ์
สำนกั เงปำ็นนหคณนงัะสกอืรรจมากกำอรธกิบฤดษผีฎูพ้ีกำิพากษาชัน้ ต้นสหำรนอื กั องำธนิบคดณีผะู้พกพิ รรามกกษำารภกาฤคษผฎูม้ีกีอำำนาจ แลว้ แตสำ่กนรกัณงีำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สบำทนกับงัญำนญคัตณิใะนกวรรรรมคกหำรนกึง่ ฤมษิไดฎ้ใีกหำบ้ ังคับในคดีเสกำ่ียนวกั ดง้วำยนสคิทณธะแิกรหรง่ มสกภำารกพฤบษุคฎคีกลำหรือสิทธิใน
ครอบครัวและคดีฟ้องขอให้ปลดเปลื้องทุกข์อันไม่อาจคำนวณเป็นราคาเงินได้ เว้นแต่ในคดีฟ้องขับไล่
สำนกั บงุคำนคคลณใดะกๆรรอมอกำกรจกาฤกษอฎสีกังำหาริมทรัพย์อสันำนมกัีคง่าำเนชค่าณหะรกือรอรามจกใำหร้เกชฤ่าษไฎดีก้ในำ ขณะย่ืนคำฟส้อำงนไกั มง่เำกนินคเณดะือกนรลรมะกสำี่ รกฤษฎีกำ
พนั บาทหรอื ไมเ่ กนิ จำนวนท่กี ำหนดในพระราชกฤษฎกี า
สกำานรกั ขงอำนใหค้ผณู้พะกิพรารกมษกาำรทกี่นฤ่ังษพฎิจีกาำรณาในคดีในสศำานลกั ชง้ันำนตค้นณระับกรรอรงมวก่าำมรกีเหฤตษุฎอีักนำควรอุทธรณ์
ได้ ให้ผอู้ ุทธรณ์ยน่ื คำร้องถึงผูพ้ ิพากษาน้ันพร้อมกับคำฟ้องอทุ ธรณ์ต่อศาลชั้นต้น เม่ือศาลได้รับคำร้อง
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๒๙ มาตรา ๒๒๓ ทวิ ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพ่ง (ฉบับที่ ๒ส๗ำน) กัพง.ศำน. ๒คณ๕๕ะก๘รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๓๐ มาตรา ๒๒๔ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมับกทำ่ี ร๑ก๒ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๓๔ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๗ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
เชน่ วา่ นั้น ให้ศาลส่งคำร้องพร้อมด้วยสำนวนความไปยังผพู้ พิ ากษาดังกลา่ วเพ่ือพจิ ารณารบั รอง
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๒๕๒๓๑ ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายท่ีจะยกขึ้นอ้างในการย่ืนอุทธรณ์น้ัน
คู่ความจะต้องกลส่าำวนไกั วง้โำดนยคชณัดะแกจรร้งมในกำอรุทกธฤรษณฎีก์แำละต้องเป็นขส้อำทนี่ไกั ดง้ยำนกคขณ้ึนะวก่ารกรันมมกาำรแกลฤ้วษโฎดีกยำชอบในศาล
ชัน้ ตน้ ทั้งจะต้องเปน็ สาระแกค่ ดีอนั ควรได้รับการวินิจฉยั ด้วย
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกถฤ้าษคฎู่คีกวำามฝ่ายใดมิไดส้ยำกนปกั ัญงำหนคาณข้อะกใดรรอมันกเำกร่ียกวฤดษ้วฎยีกคำวามสงบเรียบสรำน้อกัยงขำอนงคปณระะกชรารชมนกำรกฤษฎีกำ
ขเพึน้ รกาละ่าพวฤในตศิกาาลรชณสั้น์ไำตมน้น่เกั ปหงิดำรนชอื ค่อคณงู่คใะวหการ้กมรรฝมะ่ากทยำรำใกดไดฤไม้ษห่สฎราีกือมำเาพรรถายะกเปหัญตุเหปสา็นำขนเ้อรกั กื่องฎำงนหทคมี่ไณมา่ปะยกใฏดริบรมๆัตกิตขำาร้ึนมกกฤบลษท่าฎวบีกใัญนำ ญศาัตลิวช่า้ันดต้ว้นย
สำนกั กงรำะนบคณวนะกพริจรามรกณำรากชฤ้นั ษอฎุทีกธำรณ์ คูค่ วามทสเ่ี กำน่ยี กัวงขำ้อนงคยณ่อะมกมรีสรมิทกธำทิ รจี่กะฤยษกฎขีก้ึนำ อา้ งซงึ่ ปญั หาสเำชนน่ กั วงา่ ำนน้ันคณไดะ้ กรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๒ค๒ณ๖ะกรกรม่อกนำศรากลฤชษั้นฎีกตำ้นได้มีคำพิพาสกำษนากั หงำรนือคคณำสะก่ังรชรี้ขมากดำตรกัดฤสษินฎคีกดำี ถ้าศาลน้ัน
ได้มีคำส่ังอย่างใดอยา่ งหน่งึ นอกจากทีร่ ะบุไว้ในมาตรา ๒๒๗ และ ๒๒๘
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤ)ษหฎีกา้ มำ มใิ หอ้ ทุ ธรณ์คสำำนสกังั่ งนำั้นนใคนณระะกหรวร่ามงกพำรจิ กาฤรษณฎาีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ถ้าคู่ความฝ่ายใดโต้แย้งคำส่ังใด ให้ศาลจดข้อโต้แย้งนั้นลงไว้ในรายงานคู่ความท่ี
โต้แย้งชอบทีจ่ ะอสุทำธนรกั ณงำ์คนำคสณัง่ นะกั้นรไรดม้ภกาำยรกในฤษกฎำหีกนำ ดหนึ่งเดอื นนสำบั นแกั ตง่วำนันคทณี่ศะากลรไรดม้มกีคำำรพกฤพิ ษาฎกีกษำา หรือคำส่ัง
ช้ีขาดตัดสินคดีนน้ั เปน็ ต้นไป
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกเพฤ่ือษปฎีกรำะโยชน์แห่งมาสตำนรากั นงำี้ นไมค่วณ่าะศการลรมจกะำไรดก้มฤีคษำฎสีก่ังำให้รับคำฟ้องไสวำ้แนลกั ้วงำหนรคือณไมะก่ ใรหรม้ถกือำรกฤษฎีกำ
ว่าคำสั่งอย่างใดอสยำ่านงกั หงำนนึ่งคขณอะงกศรารลมนกับำรตกั้งฤแษตฎ่มีกีกำารย่ืนคำฟ้องสตำ่อนศกั งาำลนนคอณกะจการกรมทกี่รำะรบกุไฤวษ้ใฎนีกมำาตรา ๒๒๗
และ ๒๒๘ เปน็ คำสงั่ ระหวา่ งพิจารณา๒๓๒
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๒๗ คำสั่งของศาลชั้นต้นท่ีไม่รับหรือให้คืนคำคู่ความตามมาตรา ๑๘หรือ
คำส่ังวินิจฉัยชี้ขาสดำนเบกั ื้องำงนตค้นณตะากมรรมมากตำรรากฤ๒ษ๔ฎีกซำึ่งทำให้คดีเสสรำ็จนไกั ปงทำน้ังคเรณื่อะงกนร้ัรนมกมำิใรหก้ถฤือษวฎ่าีกเำป็นคำส่ังใน
ระหว่างพิจารณา และใหอ้ ยู่ภายในขอ้ บงั คับของการอทุ ธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งช้ขี าดตดั สินคดี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๒๘๒๓๓ ก่อนศาลชี้ขาดตัดสินคดี ถ้าศาลมีคำส่ังอย่างใดอย่างหนึ่ง
ดังตอ่ ไปนี้ คอื สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ให้กักขัง หรอื ปรบั ไหม หรอื จำขงั ผ้ใู ด ตามประมวลกฎหมายน้ี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๒ฤษ) ฎมีกีคำำส่ังอันเก่ียวสดำ้วนยกั คงำำนขคอณเพะก่ือรครมุ้มกคำรรอกฤงปษฎรีกะำโยชน์ของคู่คสวำานมกั ใงนำรนะคหณวะ่กางรรกมากรำรกฤษฎีกำ
พจิ ารณา หรอื มีคสำำสน่ังกัองนั ำนเกคยี่ ณวะดก้วรยรคมำกขำรอกเพฤษ่ือฎจีกะำบังคบั คดีตามคสำำนพกั ิพงาำนกคษณาตะก่อรไรปมกหำรรือกฤษฎีกำ
(๓) ไม่รับหรือคืนคำคู่ความตามมาตรา ๑๘ หรือวินิจฉัยช้ีขาดเบื้องต้นตามมาตรา
สำนกั ๒ง๔ำนคซณึ่งมะไิกดรท้รมำกใหำรค้ กดฤีเษสฎรจ็ีกไำปทัง้ เรอื่ ง หาสกำเนสกัรงจ็ ำไนปคเฉณพะกาะรรแมตก่ปำรระกเฤดษ็นฎบีกาำงข้อ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คำส่งั เชน่ ว่าน้ี คูค่ วามย่อมอุทธรณไ์ ดภ้ ายในกำหนดหนึ่งเดือน นับแต่วันมีคำสง่ั เป็นต้นไป
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๓๑ มาตรา ๒๒๕ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมบั กทำี่ ร๑ก๒ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๓๔ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๓๒ มาตรา ๒๒๖ วรรคสอง เพิ่มโดยพระราชบญั ญัตแิ ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณา
ความแพง่ (ฉบบั ท่ี ๑ส๒ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๓ะก๔รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๓๓ มาตรา ๒๒๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำี่ ร๕ก)ฤพษ.ศฎ.ีก๒ำ๔๙๙ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๘ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
แม้ถึงว่าจะมีอุทธรณ์ในระหว่างพิจารณา ให้ศาลดำเนินคดีต่อไป และมีคำพิพากษา
สำนกั หงรำนือคคำณสะ่งักชรี้ขรามดกตำรดั กสฤินษคฎดีกีนำ้ัน แต่ถ้าในระสหำวน่ากั งงพำนิจาครณณะากรครู่คมวกาำมรอกฤุทษธฎรณีกำ์คำสั่งชนิดท่ีระสบำุไนวกั ใ้ งนำอนนคุมณาะตกรรารม(๓ก)ำรกฤษฎีกำ
ถ้าศาลอุทธรณ์เห็นว่า การกลับหรือแก้ไขคำส่ังท่ีคู่ความอุทธรณ์นั้น จะเป็นการวินิจฉัยชี้ขาดคดี หรือ
วนิ ิจฉัยชี้ขาดประสเำดน็นกั ขง้อำนใดคทณี่ศะกาลรรลม่ากงำมริไกดฤว้ ษินฎิจีกฉำยั ไว้ ให้ศาลอสุทำธนรกั ณงำ์มนีอคำณนะากจรทรมำกคำำรสกั่งฤใษหฎ้ศีกาำลล่างงดการ
พิจารณาไวใ้ นระหว่างอุทธรณ์ หรืองดการวินิจฉัยคดีไว้จนกวา่ ศาลอุทธรณ์จะได้วินิจฉัยช้ีขาดอุทธรณ์
สำนกั นง้นัำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อุทธรณ์ได้ในเม่ือศสถาำ้านลคกัพู่คงพิ ำวนาากคมษณมาะิไคกดดร้อรีแุมทลกธว้ ำรตรณากมฤ์คษคำวฎสาีก่ังมำใในนรมะาหตวร่าาง๒พ๒ิสจำา๓นรกัณงำานตคาณมะทก่ีบรรัญมญกำัตริไกวฤ้ใษนฎมีกาำตรานี้ ก็ให้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๒๙ การอุทธรณ์น้ันให้ทำเป็นหนังสือย่ืนต่อศาลชั้นต้นซึ่งมีคำพิพากษา
หรือคำส่ังภายในสกำำนหกั นงำดนหคนณึ่งะเกดรือรนมนกับำรแกตฤ่วษันฎทีกำี่ได้อ่านคำพิพสาำกนษกั างหำนรคือณคำะกสร่ังรนมั้นกำแรลกะฤษผู้ฎอีุกทำธรณ์ต้องนำ
เงินค่าธรรมเนียมซึ่งจะต้องใช้แก่คู่ความอีกฝ่ายหนึ่งตามคำพิพากษาหรือคำส่ังมาวางศาลพ ร้อมกับ
สำนกั องุทำนธครณณะ์นก้ันรรดม้วกยำรใกหฤ้ผษู้อฎุทีกธำรณ์ย่ืนสำเนาสอำุทนธกั รงำณน์ตค่อณศะากลรรเมพกื่อำรสก่งฤใหษ้แฎกีกำ่จำเลยอุทธรณส์ ำ(นคกัืองฝำ่านยคโณจะทกกร์หรมรืกอำรกฤษฎีกำ
จำเลยความเดิมซึง่ เป็นฝ่ายทม่ี ไิ ด้อุทธรณ์ความนนั้ ) ตามทบี่ ัญญตั ไิ วใ้ นมาตรา ๒๓๕ และ ๒๓๖
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๓๐๒๓๔ คดตี ามมาตรา ๒๒๔ ถ้าคู่ความอทุ ธรณ์ในข้อเท็จจริง ใหศ้ าลช้ันต้น
สำนกั ตงรำนวจคเณสะียกกรอ่ รนมกว่าำรฟกอ้ ฤงษอฎทุ ีกธำรณ์นนั้ จะรบั ไสวำพ้ นจิกั างรำนณคาณไดะ้หกรรรือมไกมำ่ รกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สถำ้านผกั ู้พงำิพนาคกณษะากทรรี่ไดมก้พำิจรากรฤณษฎาคีกำดีน้ันมีความเหสำ็นนแกั ยง้งำนหครณือะไกดร้รรับมรกอำรงกไวฤ้แษลฎ้วีกำหรือรับรอง
ในเวลาที่ตรวจอุทธรณ์น้ันว่ามีเหตุอันควรอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงนั้นได้ ก็ให้ศาลมีคำสั่งรับ
สำนกั องทุำนธครณณะน์ กน้ั รไรวม้พกจิำรากรฤณษาฎใีกนำปัญหาขอ้ เท็จสจำรนงิ กัดงงั ำกนลค่าณวะแกลรว้ รมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้าไม่มีความเห็นแย้งหรือคำรับรองเช่นว่านั้น ให้ศาลมีคำส่ังไม่รับอุทธรณ์ในปัญหา
ข้อเท็จจริงท่ีกล่าสวำแนลกั ้วงำในนคกณระณกีรเชรม่นกนำ้ี รถก้าฤอษธฎิบีกดำีผู้พิพากษาหสรำือนอกั ธงิบำนดคีผณู้พะิพกรารกมษกาำภรกาฤคษมฎิไีดกำ้เป็นคณะใน
คำส่ังนั้น ผ้อู ุทธรณ์ชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลถงึ อธิบดีผู้พิพากษาหรืออธิบดีผู้พิพากษาภาคภายในเจ็ด
สำนกั วงันำนเคมณ่ือะศการลรไมดก้รำับรกคฤำษร้อฎีงกเำช่นว่าน้ัน ให้ศสาำนลกัสง่งำคนำครณ้อะงกนรั้นรพมกรำ้อรมกดฤ้วษยฎสีกำำนวนความไปสยำังนอกั ธงิบำนดคีผณู้พะิพการกรษมกาำรกฤษฎีกำ
หรืออธิบดีผู้พิพากษาภาคเพื่อมีคำส่ังยืนตามหรือกลับคำส่ังของศาลนั้น คำส่ังของอธิบดีผู้พิพากษา
หรืออธิบดีผูพ้ พิ ากสษำนากัภงาำคนคเชณน่ ะวก่ารรนม้ี ใกหำรเ้ ปกฤ็นษทฎส่ี ีกดุ ำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บทบัญญัติแหง่ มาตราน้ี ไม่ห้ามศาลในอันท่ีจะมีคำสง่ั ตามมาตรา ๒๓๒ ปฏิเสธไม่ส่ง
สำนกั องทุำนธครณณะใ์ กนรเหรมตกอุ ำนื่ รกหฤรษอืฎใีกนำอนั ทีศ่ าลจะมสีคำำนสกั ่ังงใำหน้สคง่ณอะุทกธรรรมณก์นำร้นั กไฤปษเทฎ่าีกทำี่เป็นอุทธรณใ์ สนำขน้อกั กงำฎนหคมณาะยกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๓๑ การย่ืนอุทธรณ์ย่อมไม่เป็นการทุเลาการบังคับตามคำพิพากษาหรือ
สำนกั คงำำนสค่ังณขอะกงรศรามลกชำร้ันกตฤ้ษนฎแีกำต่คู่ความท่ียื่นสำอนุทกั ธงรำนณค์อณาะจกยรรื่นมคกำำรขกอฤตษ่อฎศีกำาลอุทธรณ์ไมส่วำ่านเกั วงลำนาใคดณะๆกรกร่อมนกำรกฤษฎีกำ
พิพากษา โดยทำเป็นคำรอ้ งช้ีแจงเหตุผลอันสมควรแหง่ การขอ ให้ศาลอุทธรณ์ทเุ ลาการบังคบั ไว้
สคำำนขกั องำเชน่นคณว่าะนกรั้นรมใหกำ้ผรู้อกุทฤษธรฎณีกำ์ย่ืนต่อศาลช้ันสตำ้นนกัไดงำ้จนนคถณึงะเวกลรรามทกี่ศำารลกฤมษีคฎำีกสำ่ังอนุญาตให้
อทุ ธรณ์ ถ้าภายหลังศาลได้มีคำสั่งเช่นว่าน้ีแล้ว ให้ย่นื ตรงตอ่ ศาลอุทธรณ์ ถ้าได้ยื่นคำขอต่อศาลช้ันต้น
สำนกั กง็ใำหน้ศคาณละรกีบรรสม่งกคำำรขกอฤนษ้ันฎีกไปำ ยังศาลอุทธรสณำน์ ใกั นงำกนรคณณีทะี่มกรีเหรมตกุฉำุกรเกฉฤินษอฎยีก่าำงยิ่ง เม่ือศาลสชำ้ันนตกั ้นงำไนดค้รับณคะกำรขรอมไกวำ้ รกฤษฎีกำ
กใ็ ห้มอี ำนาจทำคำส่งั ให้ทเุ ลาการบงั คบั ไว้รอคำวนิ ิจฉยั ช้ขี าดของศาลอทุ ธรณ์ในคำขอเชน่ ว่านั้น
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๓๔ มาตรา ๒๓๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๕ก)ฤพษ.ศฎ.ีก๒ำ๔๙๙ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๐๙ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ถ้าผู้อุทธรณ์วางเงินต่อศาลชั้นต้นเป็นจำนวนพอชำระหนี้ตามคำพิพากษารวมท้ัง
สำนกั คง่าำนฤคชณาธะรกรรมรมเนกียำรมกใฤนษกฎาีกรำฟ้องร้องและกสาำรนบกั ังงำคนับคคณดะี กหรรรือมไกดำ้หรกาฤปษรฎะีกกำันมาให้สำหรับสเำงนนิ กั จงำำนนควนณเะชก่นรรวม่านกำี้ รกฤษฎีกำ
จนเป็นทีพ่ อใจของศาลให้ศาลทก่ี ล่าวมาแลว้ งดการบังคบั คดไี ว้ดังท่บี ัญญตั ิไว้ในมาตรา ๒๙๒ (๑)๒๓๕
สเำมนื่อกั ไงดำ้รนับคคณำะขกอรรเชม่นกำวร่ากนฤี้ ษศฎาีกลำอุทธรณ์จะอนสุญำนากั ตงใำหน้ทคุเณละากกรารรมบกังำครกับฤไษวฎ้ในีกกำ รณีที่มีเหตุ
ฉุกเฉินก็ได้ โดยมิต้องฟังคู่ความอีกฝ่ายหน่ึง แต่ในกรณีเช่นว่านี้ ให้ถือว่าคำสั่งนี้เป็นการช่ัวคราว
สำนกั จงนำนกควณา่ ศะกาลรรจมะกไำดร้ฟกังฤคษู่คฎวีกาำมอีกฝ่ายหน่ึงสใำนนภกั างำยนหคลณังะถก้ารรศมากลำมรีคกำฤสษ่ังฎใีกหำ้ทุเลาการบังคสับำไนวกั ้ตงำานมคทณี่ขะอกรครำมสกั่งำรกฤษฎีกำ
นจำี้อหานจอ่ายยทู่ภราัพยใยต์ส้บินสังขำคนอับกังเงตงำน่ือนนใคนไณขระะใกดหรวรๆ่มางกหอำรรุทือกธไฤมรษณ่กฎ็ไ์ ีกดหำ้ รศือาใลหจ้หะามปีครำะสสกั่งำันในหมกั ้ผางใู้อำหนุท้ศคธาณรลณะใกห์ทร้พรำมทอกัณกำับรฑกเ์บงฤินนษทวฎี่่ตาีกจ้อำะงไใมช่้ยตักามยค้ายำ
สำนกั พงิพำนาคกณษะากหรรรือมจกำะรใกหฤ้วษาฎงเีกงำินจำนวนนั้นตส่อำนศกัางลำกน็ไคดณ้ ถะ้ากผรรู้อมุทกธำรรกณฤ์ไษมฎ่ปีกฏำิบัติตามคำสั่งสนำ้ันนกั ศงาำนลคจณะสะั่งกใรหรม้ยกึดำรกฤษฎีกำ
หรืออายัดทรัพย์สินของผู้อุทธรณ์น้ันก็ได้ และถ้าทรัพย์สินเช่นว่าน้ัน หรือส่วนใดส่วนหน่ึงเป็น
สังหาริมทรัพย์ ศสาำลนอกั างจำมนีคคำณสะั่งกใรหร้เมอกาำอรอกฤกษขฎายีกทำ อดตลาดก็ไดส้ำถน้ากั ปงำรนาคกณฏวะก่ารกรามรกขำารยกนฤ้ันษฎเปีก็นำการจำเป็น
และสมควร เพราะทรัพย์สินน้ันมีสภาพเป็นของเสียได้ง่ายหรือว่าการเก็บรักษาไว้ในระหว่างอุทธรณ์
สำนกั นงา่ำนจคะนณำะไกปรสรมู่คกวำารมกยฤุง่ ษยฎาีกกำหรอื จะต้องเสสียำคน่ากั ใงชำจ้น่าคยณเะปกน็ รจรำมนกวำรนกมฤาษกฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงำาน๒คณ๓ะ๒กรรเมมื่อกำไรดก้รฤับษอฎุทีกธำรณ์แล้ว ให้ศสาำลนชกั ั้นงำตน้นคตณระวกจรรอมุทกธำรรณกฤ์แษลฎะีกมำีคำสั่งให้ส่ง
หรอื ปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์น้ันไปยังศาลอุทธรณ์ตามบทบญั ญัติแห่งประมวลกฎหมายน้ี ถา้ ศาลปฏิเสธไม่
สำนกั สง่งำนใคหณ้ศะากลรแรมสกดำงรเกหฤตษุทฎี่ีกไมำ่ส่งนั้นไว้ในคสำำนสกัั่งงทำุกนเครณื่อะงกไรปรมถก้าำครู่กคฤวษาฎมีกทำั้งสองฝ่ายได้ยสื่นำนอกั ุทงำธนรคณณ์ ะศการลรมจกะำรกฤษฎีกำ
วินิจฉัยอทุ ธรณท์ งั้สสำนอกังฉงำบนบั คนณัน้ ะใกนรครมำกสำ่ังรฉกบฤับษเฎดีกียำวกนั กไ็ ด้ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎราีกำ๒๓๓ ถ้าศาลสยำนอกัมงรำับนอคทุณธะรกณรร์แมลกะำรมกีคฤวษาฎมีกเหำ็นวา่ การอุทธสรำณน์นกั งั้นำคนู่คควณาะมกทรี่ศรมากลำรกฤษฎีกำ
พิพากษาให้ชนะจะต้องเสียคา่ ฤชาธรรมเนยี มเพมิ่ ข้ึน ให้ศาลมีอำนาจกำหนดไวใ้ นคำส่ังให้ผู้อุทธรณ์นำ
เงนิ มาวางศาลอีกสใหำนพ้ กั องกำนับคจณำนะกวรนรคมา่กฤำรชกาฤธษรรฎมีกเำนียมซง่ึ จะตอ้ สงำเสนียกั งดำังนกคลณ่าะวกแรลรว้ มกตำารมกอฤัตษรฎาีกทำ่ีใชบ้ งั คับอยู่
ในเวลาน้ัน ก่อนส้ินระยะเวลาอุทธรณ์หรือภายในระยะเวลาตามที่ศาลจะเห็นสมควรอนุญาต หรือ
สำนกั ตงาำนมคแณต่ผะกู้อรุทรธมรกณำร์จกะฤมษีคฎีกำขำ อขึ้นมาไม่เกสินำสนิบกั งวำันนนคับณแะกตร่สร้ินมรกะำรยกะฤเษวลฎาีกอำุทธรณ์นั้น ถ้าสผำนู้อกัุทงธำนรณคณ์ไมะก่นรำรเมงินกำรกฤษฎีกำ
จำนวนท่กี ล่าวข้างต้นมาวางศาลภายในกำหนดเวลาท่ีอนญุ าตไว้ก็ให้ศาลยกอุทธรณน์ ัน้ เสยี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๓๔๒๓๖ ถ้าศาลช้ันต้นไม่รับอุทธรณ์ ผู้อุทธรณ์อาจอุทธรณ์คำส่ังศาลนั้นไป
สำนกั ยงังำศนาคลณอะุทกรธรรมณก์โำดรยกฤยษื่นฎคีกำำขอเป็นคำร้องสตำ่อนศกั งาำลนชคั้นณตะ้นกรแรลมะกนำรำกคฤ่าษฤฎชีกาำธรรมเนียมท้ังสปำวนงกั มงำานวคางณศะากลรแรมลกะำรกฤษฎีกำ
นำเงนิ มาชำระตาสมำคนำกั พงำิพนาคกณษะากหรรรอืมกหำารปกรฤะษกฎันีกใำห้ไว้ต่อศาลภสาำยนในกั งกำำนหคนณดะสกบิรรหม้ากวำันรกนฤับษแฎตีก่วำนั ที่ศาลได้มี
คำสง่ั
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๓๕ เมื่อศาลชั้นต้นได้รับอุทธรณ์แล้วให้ส่งสำเนาอุทธรณ์น้ันให้แก่จำเลย
อทุ ธรณ์ภายในกำสหำนนกัดงเำจน็ดควณันะกนรับรแมตก่ำวรันกทฤ่ีจษำฎเีกลำยอุทธรณ์ยื่นคสำำแนกกั ง้อำุทนธครณณะ์กหรรรมือกถำ้ารจกำฤเษลฎยีกอำุทธรณ์ไม่ย่ืน
คำแก้อทุ ธรณ์ ภายในกำหนดเจด็ วันนับแต่ระยะเวลาที่กำหนดไว้ในมาตรา ๒๓๗ สำหรับการยน่ื คำแก้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๓๕ มาตรา ๒๓๑ วรรคสาม แกไ้ ขเพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญัติแก้ไขเพม่ิ เติมประมวลกฎหมายวธิ ี
พจิ ารณาความแพ่งส(ฉำนบับกั งทำี่ น๓ค๐ณ) พะก.ศร.ร๒ม๕ก๖ำร๐กฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๓๖ มาตรา ๒๓๔ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๑ก๒ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๓๔ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๐ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
อทุ ธรณไ์ ดส้ ้ินสุดลง ให้ศาลส่งอุทธรณ์และคำแกอ้ ุทธรณ์ถ้าหากมี พรอ้ มทัง้ สำนวนและหลักฐานต่าง ๆ
สำนกั ไงปำยนังคศณาะลกอรุทรมธกรำณร์กเฤมษ่ือฎศีกาำลอทุ ธรณไ์ ด้รับสำฟน้อกั งงอำนุทคธณรณะก์แรลรมะสกำำรนกวฤนษคฎวีกาำมไว้แล้ว ใหน้ สำคำนดกั ีลงงำสนาครณบะบกครรวมากมำรกฤษฎีกำ
ของศาลอุทธรณ์โดยพลัน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๓๖ เมื่อคู่ความยื่นคำร้องอทุ ธรณ์คำสั่งศาลที่ปฏิเสธไม่ยอมรับอุทธรณ์ ให้
สำนกั ศงาำนลคสณ่งคะำกรร้รอมงกเชำร่นกวฤ่าษนฎ้ันีกไำปยังศาลอุทธสรำณน์กัโดงำยนไคมณ่ชักะกชร้ารพมรก้อำรมกดฤ้วษยฎคีกำำพิพากษาหรือสคำนำกัสงั่งำชนี้ขคาณดะคกดรรีขมอกงำรกฤษฎีกำ
ชศน้ัาลตช้นนั้ สต่งน้สำแนลวะนฟไ้อสปงำยนอังกุทั ศงธาำรนลณคอ์ณุทถะธา้ กรศรณารล์มใอกนทุำกรธรกรณฤณษีเ์เชฎห่นีก็นำนเ้ีใปห็นศ้ กาาลรอจุทำเธปรส็นณำนท์พกัี่จิจงะำาตนร้อคณงณาตะครกำวรรจร้อสมงำกนำแรวลกนว้ ฤมษใีคหฎำ้มีกสำีค่ังำยสืน่ังตใหาม้ศคาลำ
สำนกั ปงฏำนิเสคธณขะอกงรศรมาลกชำร้ันกตฤน้ษหฎีรกอืำมคี ำสง่ั ใหร้ ับสอำุทนธกั รงณำน์ คคณำสะก่งั นรรใี้ มหกเ้ ปำร็นกทฤส่ีษุดฎีกแำล้วส่งไปให้ศาสลำชนนั้ กั ตงำน้ นอคา่ ณนะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เม่ือได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ให้รับอุทธรณ์แล้ว ให้ศาลชั้นต้นส่งสำเนาอุทธรณ์แก่
จำเลยอุทธรณ์ แสลำนะกภั งาำยนใคนณกะำกหรรนมดกเำจร็ดกฤวษันฎนีกับำแต่วันที่จำเลสยำนอกัุทงธำนรณคณ์ยะื่นกครรำมแกกำ้อรกุทฤธษรฎณีก์ ำหรือนับแต่
ระยะเวลาที่กำหนดไว้ในมาตรา ๒๓๗ สำหรับการยื่นคำแก้อุทธรณ์ได้ส้ินสุดลง ให้ศาลส่งคำแก้
สำนกั องุทำนธครณณะ์ไกปรยรังมศกาำรลกอฤุทษธฎรีกณำ์หรือแจ้งให้ทสรำานบกั งวำ่านไคมณ่มีคะกำรแรกม้อกุทำรธกรฤณษ์ฎเีมกำื่อศาลอุทธรณส์ไำดน้รกั ับงคำนำคแณก้อะกุทรธรรมณกำ์ รกฤษฎีกำ
หรือแจง้ ความเช่นว่าแลว้ ให้นำคดีลงสารบบความของศาลอทุ ธรณ์โดยพลนั
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๓๗ จำเลยอทุ ธรณอ์ าจยื่นคำแก้อุทธรณต์ ่อศาลชั้นตน้ ได้ภายในกำหนดสิบ
สำนกั หง้าำนวันคณนบัะกแรตร่วมันกสำรง่ กสฤำษเนฎาีกอำุทธรณ์ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อุทธรณ์ สไำมน่วกั ่างใำนนกครณณะกีใรดรมๆกหำร้ากมฤมษิใฎหีก้ศำาลแสดงว่า สจำำนเลกั งยำอนุทคธณระณกร์ขรามดกนำรัดกเฤพษรฎาีกะำไม่ยื่นคำแก้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๓๘๒๓๗ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๔๓ (๓) ในคดีที่อุทธรณ์ได้แต่เฉพาะใน
ปัญหาข้อกฎหมาสยำนน้ันกั งกำนาครณวินะกิจรฉรัยมปกัญำรหกาฤเษชฎ่นีกวำ่านี้ ศาลอุทธสรำณน์จกั ำงตำน้อคงณถือะกตรารมมขก้อำรเกทฤ็จษจฎรีกิงทำ ่ีศาลช้ันต้น
ไดว้ ินิจฉยั จากพยานหลกั ฐานในสำนวน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๓๙๒๓๘ อุทธรณ์คำส่ังนั้นจะต้องพิจารณาก่อนอุทธรณ์คำพิพากษาเท่าท่ี
สามารถจะทำไดส้ ำแนมกั ้ถงึงำนว่าคอณุทะกธรรรณม์กคำำรพกิพฤษาฎกีกษำานั้นจะได้ลงสไำวน้ในกั งสำานรคบณบะกครวรามมกขำรอกงฤศษาฎลีกอำุทธรณ์ก่อน
อุทธรณ์คำส่ังนัน้ ก็ดี สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงำาน๒คณ๔ะ๐ก๒ร๓ร๙มกศำารกลฤอษุทฎธีกรำณ์มีอำนาจทสี่จำะนวกั ินงำิจนฉคัยณคะดกีโรดรมยกเพำรียกงฤแษตฎ่พีกิจำ ารณาฟ้อง
อทุ ธรณ์ คำแกอ้ ุทธรณ์ เอกสารและหลกั ฐานทั้งปวง ในสำนวนความซง่ึ ศาลชัน้ ตน้ ส่งข้นึ มา เวน้ แต่
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤษ) ฎศีกาำลอุทธรณ์ได้นสัดำนฟกัังงคำำนแคถณละงกกรารมรณกำ์ดรก้วฤยษวฎาจีกำาตามที่บัญญัตสิไำวน้ใกั นงำมนาคตณระาก๒รร๔ม๑กำรกฤษฎีกำ
แต่ถ้าคู่ความฝ่ายใดหรือทั้งสองฝ่ายไม่มาศาลในวันกำหนดนัด ศาลอุทธรณ์อาจดำเนินคดีไปได้ และ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๓๗ มาตรา ๒๓๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำ่ี ร๕ก)ฤพษ.ศฎ.ีก๒ำ๔๙๙ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๓๘ มาตรา ๒๓๙ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพง่ (ฉบับท่ี ๕ส)ำนพกั.ศง.ำ๒น๔ค๙ณ๙ะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๓๙ มาตรา ๒๔๐ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมบั กทำี่ ร๕ก)ฤพษ.ศฎ.ีก๒ำ๔๙๙ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๑ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
คำพิพากษาหรอื คำสง่ั ของศาลอทุ ธรณน์ ้ัน ไม่ให้ถอื เป็นคำพิพากษาโดยขาดนัด
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๒ฤ)ษถฎ้าีกศำาลอุทธรณ์ยัสงไำมน่เกั ปง็นำนทคพี่ ณอะใกจรใรนมกกาำรรพกฤิจษารฎณีกำาฟ้องอุทธรณส์ คำนำกัแงกำ้อนุทคธณระณกร์ แรมลกะำรกฤษฎีกำ
พยานหลักฐาน ท่ีปรากฏในสำนวน ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๒๓๘ และเฉพาะในปัญหาที่อุทธรณ์ ให้
ศาลมีอำนาจท่ีจะสกำนำกัหงนำนดคปณระะกเดรร็นมทกำำกรกาฤรษสฎืบีกพำยานท่ีสืบมาสแำลน้วกั งหำรนือคพณยะการนรทมี่เกหำ็นรกคฤวษรฎสีกืบำต่อไป และ
พิจารณาคดีโดยท่ัว ๆ ไป ดังท่ีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายน้ีสำหรับการพิจารณาในศาลชั้นต้น และ
สำนกั ใงหำ้นนำคบณทะกบรญั รมญกตั ำิแรกหฤ่งษปฎรีะกมำ วลกฎหมายนสำ้ีวนา่ กัดง้วำยนกคาณระพกิจรารรมณกำารใกนฤศษาฎลีกชำัน้ ตน้ มาใช้บังสคำบันดกั งว้ ำยนโคดณยอะกนรุโรลมมกำรกฤษฎีกำ
มิได้พิจารณาหรือส(ว๓ำินน)ิจกั ใงฉนำัยคนปดคัญณีทคี่หะกู่คารขวรา้อมมเกทอำ็จุทรกจธฤรรษิงณอฎ์ใันีกนำเปปัญ็นหสาารขะ้อสกำฎคหสัญำมนใานกั ยงปำถรน้าะคศเณดา็ะนลกอรใทุ หรธม้ศรกาณำลรเ์อกหุทฤ็นษธวฎร่าณีกศำ์มาลีอชำนั้นตาจ้นทยำัง
สำนกั คงำำสน่ังคใณหะ้ศการลรชมั้นกำตรน้ กพฤษิจาฎรีกณำ าปญั หาข้อเทสำจ็ นจกั รงิงำเนชคน่ ณวา่ะนกร้นั รมแกลำ้วรพกพิฤษาฎกีษกำาไปตามรปู ควสาำมนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงำาน๒คณ๔ะ๑ก๒ร๔ร๐มกถำ้ารคกฤู่คษวฎาีมกำฝ่ายใดประสงสคำน์จกัะงมำนาแคถณละกงกรรามรกณำร์ดก้วฤยษวฎาีกจำาในชั้นศาล
อุทธรณ์ ให้ขอมาในตอนท้ายคำฟ้องอุทธรณ์ หรือคำแก้อุทธรณ์ แล้วแต่กรณี และให้ศาลอุทธรณ์
สำนกั กงำำนหคนณดะนกัดรฟรมังคกำำรแกถฤลษงฎกีกาำรณ์ด้วยวาจาสนำ้ันนกั เงวำ้นนแคตณ่ศะากลรอรมุทกธำรรณกฤ์จษะฎพีกิจำารณาเห็นว่ากสาำนรแกั ถงำลนงคกณาระกณร์ดรม้วกยำรกฤษฎีกำ
วาจาไม่จำเป็นแก่คดี จะส่ังงดฟังคำแถลงการณ์เสียก็ได้ ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำแถลงการณ์
ด้วยวาจา คู่ความสอำนีกกัฝง่าำยนหคนณ่ึงะชกอรรบมทก่ีจำะรกไปฤษแฎถีกลำงการณ์ด้วยวาสจำนาใกั นงำชน้ันคศณาะลกอรุทรมธกรำณรก์ไดฤ้ดษ้ฎวยีกำถึงแม้ว่าตน
จะมิไดแ้ สดงความประสงคไ์ ว้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกกฤาษรแฎถีกลำงการณด์ ้วยวสาำจนากั งผำู้ขนอคแณถะลกงรรเมปก็นำผรกูแ้ ฤถษลฎงีกกำ่อน แล้วอีกฝ่าสยำหนนกั ึ่งงำแนถคลณงแะกกร้ รแมลก้วำรกฤษฎีกำ
ผู้ขอแถลง แถลงไสดำ้อนีกกั งคำรนั้งคหณนะ่ึงกรถร้ามขกอำแรกถฤลษงทฎีกั้งสำ องฝ่าย ให้ผู้อสำุทนธกั รงณำน์แคถณละงกกร่อรนมกถำ้ารกทฤ้ังษสฎอีกงฝำ ่ายอุทธรณ์
และต่างขอแถลง ให้ศาลอทุ ธรณ์พิจารณาสัง่
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๔๒๒๔๑ เม่ือศาลอุทธรณ์ได้ตรวจสำนวนความและฟังคู่ความทั้งปวง หรือ
สบื พยานตอ่ ไปดังสบำนัญกั ญงำัตนิไคว้ใณนะมการตรมรกาำ๒รก๔ฤ๐ษฎเสีกรำ็จแล้ว ให้ศาลสำอนทุ กั ธงรำณนค์ชณ้ีขะากดรตรดัมสกินำรอกุทฤธษรฎณีกำ์โดยประการ
ใดประการหน่ึงในสป่ี ระการน้ี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤ)ษถฎ้าีกศำาลอุทธรณ์เหส็นำนวกั่างอำนุทคธณรณะก์นรรั้นมตก้อำงรหกฤ้ามษตฎีกามำ กฎหมาย ก็ใสหำ้ยนกกั องำุทนธครณณะ์นกรั้นรเมสกียำรกฤษฎีกำ
โดยไมต่ ้องวนิ จิ ฉยั ในประเดน็ แห่งอุทธรณ์
ส(ำ๒น)กั ถง้าำนศคาณลอะกุทรธรรมณกำ์เรหก็นฤวษ่าฎีกคำำวินิจฉัยของสศำานลกั ชงั้นำนตค้นณถะูกกตร้อรมงกไำมร่กว่าฤโษดฎยีกเำหตุเดียวกัน
หรือเหตอุ น่ื กใ็ หพ้ ิพากษายนื ตามศาลชน้ั ตน้ นั้น
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๓ฤ)ษถฎา้ีกศำาลอุทธรณ์เหส็นำนวก่าั งคำนำชค้ีขณาะดกขรรอมงกศำารลกชฤั้นษตฎ้นีกำไมถ่ ูกต้อง ให้กสลำนบั กัคงำำพนิพคณากะษกรารขมอกงำรกฤษฎีกำ
ศาลชน้ั ตน้ เสยี แลสะำนพกัิพงาำกนษคณาใะนกปรรัญมหกาำเรหกลฤ่าษนฎัน้ีกใำหม่ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ถ้าศาลอุทธรณ์เห็นว่า คำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นถูกแต่บางส่วน และผิดบางส่วน
สำนกั กง็ใำหน้แคกณ้คะกำรพริพมากกำรษกาฤศษาฎลีกชำ้ันต้นไปตามนส้ันำนโกั ดงำยนพคิพณาะกกษรรามยกืนำบรกาฤงสษ่วฎนีกำกลับบางส่วนสำแนลกั ะงมำนีคคำณพะิพการกรษมกาำรกฤษฎีกำ
ใหม่แทนส่วนทก่ี ลบั นน้ั
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔๐ มาตรา ๒๔๑ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพ่ง (ฉบบั ที่ ๕ส)ำนพกั.ศง.ำ๒น๔ค๙ณ๙ะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔๑ มาตรา ๒๔๒ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมบั กทำี่ ร๖ก)ฤพษ.ศฎ.ีก๒ำ๕๑๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๒ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
มาตรา ๒๔๓๒๔๒ ให้ศาลอุทธรณ์มอี ำนาจดงั ตอ่ ไปนี้ดว้ ย คอื
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤ)ษฎเมีกื่อำคดีปรากฏเหสตำนุทกั ี่มงิไำดน้ปคณฏะิบกัตริตรมากมำบรทกฤบษัญฎญีกำัติแห่งประมวสลำกนฎกั หงำมนาคยณนะี้วก่ารดรม้วกยำรกฤษฎีกำ
คำพพิ ากษาและคำสงั่ และศาลอุทธรณ์เห็นวา่ มเี หตุอันสมควร ก็ให้ศาลอุทธรณ์มีคำสง่ั ยกคำพิพากษา
หรือคำสั่งศาลชั้นสำตน้นกั นงำั้นนเคสณียะกแรลร้มวกสำ่งรสกำฤนษวฎนีกำคืนไปยังศาลสชำั้นนตกั ง้นำเนพคื่อณใะหก้พรริพมากกำรษกาฤหษฎรืีกอำมีคำสั่งใหม่
ในกรณีเช่นนี้ศาลชั้นต้นอาจประกอบด้วยผู้พิพากษาอื่นนอกจากที่ได้พิพากษาหรือมีคำสั่งมาแล้ว
สำนกั แงลำนะคคณำพะกิพรารกมษกำารหกรฤือษคฎำีกสำั่งใหม่น้ีอาจวสินำนิจกัฉงัยำชนี้ขคาณดะคกรดรีเมปก็นำอรกยฤ่าษงอฎื่ีนกำนอกจากคำพสิพำานกกั ษงำานหครณือะคกำรสรมั่งทกำี่ รกฤษฎีกำ
ถูกยกได้ ส(ำ๒น)กั เงมำ่ือนคคณดีปะกรรารกมฏกเำหรกตฤุทษ่ีมฎิไีกดำ้ปฏิบัติตามบสทำบนัญกั งญำนัตคิแณหะ่งกปรรรมะกมำวรลกกฤษฎฎหีกมำายนี้ว่าด้วย
สำนกั กงาำนรพคณิจาะรกณรรามหกรำรือกมฤีเษหฎตีกุทำี่ศาลได้ปฏิเสสธำไนมกั่สงืบำนพคยณานะกตรารมมทก่ีผำรู้อกุทฤธษรฎณีกำ์ร้องขอ และศสาำลนอกั ุทงำธนรคณณ์เะหก็นรวร่มามกีำรกฤษฎีกำ
เหตุอันสมควร ก็ให้ศาลอุทธรณ์มีคำส่ังยกคำพิพากษาหรือคำส่ังศาลชั้นต้นน้ันแล้วกำหนดให้ศาล
ชั้นต้นซ่ึงประกอบสดำน้วกัยงผำู้พนิคพณากะกษรารคมณกำะรเกดฤิมษหฎรีกือำผู้พิพากษาอื่นสำหนกัรืองำศนาคลณชะ้ันกตร้นรมอกื่นำใรดกตฤาษมฎทีกำี่ศาลอุทธรณ์
จะเหน็ สมควร พจิ ารณาคดนี ้ันใหม่ทงั้ หมดหรอื บางส่วน และพิพากษาหรือมคี ำส่ังใหม่
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๓ฤ)ษใฎนีกกำรณีท่ีศาลอทุ สธำรนณกั จ์ งำำนตค้อณงถะอืกตรรามมกขำ้อรเกทฤจ็ ษจฎรีกิงำของศาลชน้ั ตน้ สำถน้ากั ปงำรนาคกณฏะวกา่ รรมกำรกฤษฎีกำ
(ก) การท่ีศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงน้ันผิดต่อกฎหมาย ศาลอุทธรณ์อาจฟัง
ข้อเท็จจริงใหม่แทสำนนขกั ้องเำทน็จคจณระิงกขรอรมงศกำารลกชฤ้ันษตฎ้นีกำแล้วมีคำพิพาสกำนษกั างหำนรือคคณำะสก่ังรชรม้ีขกาำดรตกัดฤสษินฎีกคำดีไปตามนั้น
หรอื
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษ(ฎขีก)ำข้อเท็จจริงที่ศสำานลกั ชงั้นำนตค้นณฟะังกมรารไมมก่พำรอกแฤกษ่กฎาีกรำวินิจฉัยข้อกฎสหำนมกัางยำนศคาณลอะกุทรธรรมณกำ์ รกฤษฎีกำ
อาจทำคำสั่งให้ยกสำคนำกัพงิพำนาคกณษะากหรรรือมคกำำสรก่ังฤศษาฎลีกชำั้นต้นน้ันเสีย แสลำน้วกักงำำหนนคดณใะหก้ศรรามลกชำั้นรตกฤ้นษซฎึ่งีกปำระกอบด้วย
ผู้พิพากษาคณะเดมิ หรือผู้พิพากษาอ่ืน หรือศาลชั้นต้นอื่นใด ตามท่ีศาลอุทธรณ์เห็นสมควร พิจารณา
สำนกั คงดำนีนค้ันณใหะกมร่ทร้ังมหกำมรดกหฤรษือฎบีกาำงส่วน โดยดำสเำนนินกั งตำานมคคณำะชก้ีขรารดมกขำอรงกศฤาษลฎอีกุทำธรณ์แล้วมีคำสพำนิพกัางกำษนาคหณระือกครรำมสก่ังำรกฤษฎีกำ
วนิ ิจฉัยชีข้ าดคดีไปตามรปู ความ ท้งั นี้ ไม่วา่ จะปรากฏจากการอุทธรณ์หรือไม่
สใำนนคกั ดงีทำน้ังคปณวะงกทร่ีศรามลกชำร้ันกตฤ้นษไฎดีก้มำีคำพิพากษาหสรำนือกัคงำำสน่ังคใณหะมก่ตรารมมมกาำรตกรฤาษนฎ้ี คีกำู่ความชอบที่
จะอุทธรณ์คำพพิ ากษาหรอื คำสง่ั ใหม่เช่นว่าน้ไี ปยงั ศาลอุทธรณ์ได้ตามบทบญั ญัติแหง่ ลักษณะน้ี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๔๔ ศาลอุทธรณ์จะอ่านคำพิพากษานั้นเอง หรอื จะส่งไปให้ศาลชนั้ ต้นอา่ น
กไ็ ด้ ในกรณเี หลา่ สนำ้ใีนหกั ศ้ งาำนลคทณอ่ี า่ะกนรครำมพกพิำรากกฤษษาฎมีกีคำำสงั่ กำหนดนสัดำวนนั กั องำ่านนคสณ่งใะหก้แรรกม่คกู่คำวรากมฤอษุทฎธีกรำณ์ทุกฝ่าย
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๔๔/๑๒๔๓ สำภนากั ยงใำตน้คบณังคะกับรมรมากตำรรากฤ๒ษ๔ฎ๗ีกำคำพิพากษาสหำรนือกั คงำำนสคั่งณขะอกงรศรมากลำรกฤษฎีกำ
อทุ ธรณ์ใหเ้ ป็นท่ีสสุดำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๔๕ คำพสิพำนากกั งษำานหคณรือะกครำรสมั่งกชำัร้นกอฤุทษธฎรีกณำ ์ให้มีผลเฉพสาำะนรกั ะงหำนวค่าณงะคกู่ครวรามมกำรกฤษฎีกำ
ชั้นอุทธรณ์ เวน้ แตใ่ นกรณีต่อไปนี้
ส(๑ำน)กั ถง้าำนคคำพณิพะการกรษมากหำรรกือฤคษำฎสีกั่งำท่ีอุทธรณ์นั้นสเกำน่ียกัวงดำ้วนยคกณาะรกชรำรรมะกหำรนก้ีอฤันษไฎมีก่อำาจแบ่งแยก
ได้ และคู่ความแต่บางฝา่ ยเป็นผอู้ ทุ ธรณซ์ ึง่ ทำใหค้ ำพิพากษาหรือคำสง่ั นัน้ มผี ลเปน็ ที่สุดระหว่างค่คู วาม
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔๒ มาตรา ๒๔๓ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพ่ง (ฉบบั ท่ี ๕ส)ำนพกั.ศง.ำ๒น๔ค๙ณ๙ะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔๓ มาตรา ๒๔๔/๑ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
สำนกั แงพำนง่ ค(ฉณบะบั กทร่ี ร๒ม๗ก)ำพรก.ศฤ.ษ๒ฎ๕ีก๕ำ๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๓ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
อืน่ ๆ ถ้าศาลอุทธรณ์เหน็ ว่าควรกลับคำพิพากษาหรือคำส่งั ที่อุทธรณ์ ให้ศาลอทุ ธรณ์มีอำนาจชี้ขาดว่า
สำนกั คงำำพนคิพณากะกษรารหมรกือำครกำฤสษงั่ ศฎาีกลำอทุ ธรณ์ ให้มสผี ำลนรกั ะงำหนวคา่ ณงคะ่คูกรวรามมกทำกุรกฝฤ่าษยใฎนีกคำดใี นศาลช้ันตส้นำดน้วกั ยงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ถา้ ได้มีการอนุญาตให้ผู้ร้องสอดเขา้ มาในคดแี ทนคู่ความฝ่ายใด คำพพิ ากษาศาล
อทุ ธรณ์ย่อมมีผลบสำงั นคกัับงแำนกคค่ ณ่คู วะากมรรฝมา่ กยำนรนั้กฤดษว้ ฎยีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๔๖ เว้นแสตำน่ทกั่ีไงดำ้บนัญคณญะัตกริไรวม้ดกังำกรลกฤ่าษวมฎีกาำข้างต้น บทบสัญำนญกั ัตงิแำนหค่งณปะรกะรมรมวกลำรกฤษฎีกำ
แกลฎะหกมาารยชนี้ขี้วา่าดดต้วดั ยสสกำินนาคกัรดพงีใำิจนนาชครณน้ั ณอะากทุ แรธรลรมะณกก์ไำาดรรก้โชดฤ้ีขยษาอฎดนีกตำโุ ลัดมสินคดีในศสาลำนชกั ั้นงตำน้นคนณั้นะกใหรร้ใมชก้บำังรคกับฤษแฎกีก่กำารพิจารณา
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลกั ษณะ ๒
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ฎกี า สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๔๗๒๔๔ การฎีกาคำพิพากษาหรือคำส่ังของศาลอุทธรณ์ ให้กระทำได้เมื่อ
ได้รับอนญุ าตจากสศำานลกั ฎงำกี นาคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
การขออนุญาตฎีกา ให้ย่ืนคำร้องพร้อมกับคำฟ้องฎีกาต่อศาลชั้นต้นท่ีมีคำพิพากษา
สำนกั หงรำนือคคณำสะก่ังใรนรมคกดำีนร้ักนฤภษาฎยีกในำ กำหนดหน่ึงสเดำนือกั นงนำนับคแณตะ่วกันรทรมี่ไดก้ำอร่ากนฤคษำฎพีกิพำ ากษาหรือคำสสำั่นงขกั องำงนศคาณลอะกุทรธรรมณกำ์ รกฤษฎีกำ
แล้วให้ศาลชั้นต้นสำรนีบกั สง่ำงนคคำณร้อะกงพรรรม้อกมำรคกำฤฟษ้อฎงีกฎำีกาดังกล่าวไสปำยนังกั ศงำานลคฎณีกะากรแรลมกะำใรหก้ศฤาษลฎฎีกีกำ าพิจารณา
วนิ จิ ฉยั คำรอ้ งใหเ้ สร็จสิน้ โดยเรว็
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงำาน๒คณ๔ะ๘ก๒ร๔ร๕มกคำำรรก้อฤงษตฎาีกมำมาตรา ๒๔๗สำในหกั ้พงำิจนาครณณะากแรลรมะกวำินริจกฉฤัษยฎโดีกยำองค์คณะผู้
พิพากษาท่ีประธานศาลฎีกาแต่งต้ัง ซ่ึงประกอบด้วยรองประธานศาลฎีกาและผู้พิพากษาในศาลฎีกา
สำนกั ซง่งึำดนำครณงะตกำรแรหมนกำง่ รไมกฤต่ ษำ่ กฎวีก่าำผูพ้ ิพากษาศาสลำนฎกักี งาำอนีกคอณยะ่ากงรนรอ้มยกำสรากมฤคษนฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
การวนิ ิจฉัยให้เป็นไปตามเสียงขา้ งมาก ถา้ คะแนนเสยี งเทา่ กนั ให้บงั คับตามความเห็น
ของฝา่ ยท่ีเหน็ ควรสอำนนกั ญุ งาำนตคใหณ้ฎะกีกรารมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีากำ๒๔๙๒๔๖ ให้ศสำานลกั ฎงีกำนาพคณิจาะกรณรรามอกนำรุญกาฤตษใฎหีก้ฎำีกาตามมาตรสาำน๒กั๔ง๗ำนไคดณ้ เะมก่ือรรเหม็กนำรกฤษฎีกำ
วา่ ปญั หาตามฎีกาสนำนัน้ กัเปงำ็นนปคัญณหะการสรำมคกัญำรทกศี่ ฤาษลฎฎีกีกำาควรวนิ จิ ฉยั สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ปญั หาสำคญั ตามวรรคหนึง่ ใหร้ วมถงึ กรณดี ังตอ่ ไปนี้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤ)ษปฎีกญั ำหาทเ่ี กยี่ วพันสกำับนปกั รงำะนโยคชณนะ์สกรารธมากรณำระกฤหษรฎอื ีกคำวามสงบเรียบสรำอ้ นยกั ขงำอนงคปณระะชกรารชมนกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔๔ มาตรา ๒๔๗ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๒ก๗ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๕๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔๕ มาตรา ๒๔๘ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพ่ง (ฉบับท่ี ๒ส๗ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๕ะก๘รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔๖ มาตรา ๒๔๙ แก้ไขเพิ่มเติมเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธี
สำนกั พงิจำนารคณณาะคกวรารมมแกพำง่ ร(กฉฤบษบั ฎทีก่ี ๒ำ ๗) พ.ศ. ๒๕๕ส๘ำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๔ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
(๒) เมื่อคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยข้อกฎหมายท่ีสำคัญขัดกัน
สำนกั หงรำนอื คขณัดกะกบั รแรนมวกบำรรกรฤทษัดฎฐีกาำนของคำพพิ ากสำษนากั หงรำนือคคณำสะ่งักขรอรมงศกำารลกฎฤกี ษาฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) คำพิพากษาหรือคำส่ังของศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยข้อกฎหมายท่ีสำคัญซึ่งยังไม่มี
แนวคำพิพากษาหสรำือนคกั ำงำสนงั่ คขณองะศกรารลมฎกีกำารมกฤากษ่อฎนีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) เม่ือคำพิพากษาหรือคำส่ังของศาลอุทธรณ์ขัดกับคำพิพากษาหรือคำส่ังอันถึง
สำนกั ทง่สีำนดุ คขณอะงกศรารลมอกน่ื ำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส((๖๕ำน))กั ปเงพญัำื่อนหเคปาณน็สะำกกคารัญรรพมอกัฒนื่ ำนตรกาาฤมกษาขรฎอ้ ตีกกีคำำวหานมดกขฎอหงมปารยะสธำนานกั งศำานลคฎณีกะากรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกขฤ้อษกฎำีกหำนดของประธสาำนนศกั างำลนฎคีกณาะตการมรมวกรำรรคกสฤอษงฎีก(๖ำ ) เมื่อได้รับคสวำานมกั เงหำ็นนคชณอะบกจรารกมทกำ่ี รกฤษฎีกำ
ประชมุ ใหญศ่ าลฎกี าและประกาศในราชกจิ จานุเบกษาแล้วใหใ้ ช้บังคับได้
สใำนนกกั รงณำนีทคศ่ี ณาะลกฎรีกรมามกำีครำกสฤง่ั ษไมฎีก่อำนญุ าตใหฎ้ ีกาสใำหน้คกั ำงำพนิพคาณกะษการหรมรอืกำครำกสฤง่ั ษขฎอีกงำศาลอุทธรณ์
เป็นท่สี ดุ ต้งั แตว่ ันที่ได้อา่ นคำพพิ ากษาหรือคำสงั่ น้ัน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๕๐๒๔๗ หลักเกณฑ์และวิธีการในการย่ืนคำร้อง การพิจารณาวินิจฉัยและ
ระยะเวลาในการสพำิจนากั รงณำนาคคณำะรก้อรงรตมากมำมรกาฤตษรฎาีก๒ำ๔๗ การตรวสจำรนับกั ฎงำีกนาคกณาะรกแรรกม้ฎกีกำรากกฤาษรฎพีกิจำารณา และ
การพิพากษาคดี รวมทัง้ การสงั่ คืนค่าฤชาธรรมเนยี ม ใหเ้ ป็นไปตามข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกขฤ้อษกฎำีกหำนดของประธาสนำนศกัางลำฎนกีคาณตะากมรวรรมรกคำรหกนฤึง่ ษเฎมีกอื่ ำไดร้ บั ความเหสน็ ำชนอกั งบำจนาคกณทะ่ีปกรระรมชกุมำรกฤษฎีกำ
ใหญ่ศาลฎกี าและสปำรนะกั กงำานศคในณระากชรกรมจิ กจำารนกเุ ฤบษกฎษีกาำแลว้ ให้ใชบ้ งั คสบั ำนไดกั ้งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีากำ๒๕๑๒๔๘ ในคสำดนีทกั ี่ไงดำ้นรับคณอนะกุญรารตมกใหำร้ฎกีกฤาษทฎี่มีกีแำต่เฉพาะปัญหสาำนข้กอั งกำฎนหคณมาะยกรหรมากกำรกฤษฎีกำ
ศาลฎกี าเห็นว่าคำพิพากษาหรือคำส่ังของศาลอุทธรณ์ไม่ถูกต้องไมว่ ่าทงั้ หมดหรือบางส่วน ศาลฎีกาจะ
มีคำวินิจฉัยในปัญสำหนากั ขงำ้อนกคฎณหะมกรารยมนก้ันำรแกลฤะษยฎกีกคำำพิพากษาหสรำือนคกั ำงสำน่ังขคอณงะศการรลมอกุทำรธกรฤณษ์หฎรีกือำศาลชั้นต้น
แล้วมีคำสั่งให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลช้ันต้น แล้วแต่กรณี ทำคำพิพากษาหรือคำสั่งใหม่ภายใต้กรอบคำ
สำนกั วงินำนจิ คฉณัยขะกอรงรศมากลำฎรีกกฤากษ็ไฎดีก้ ำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงำาน๒คณ๕ะ๒ก๒ร๔ร๙มกใำนรกกรฤณษฎีทีกี่ไำม่มีข้อกำหนดสขำนอกั งงปำรนะคธณาะนกศรรามลกฎำีกรกาฤตษาฎมีกมำาตรา ๒๕๐
กำหนดไวเ้ ป็นอย่างอน่ื ให้นำบทบญั ญัตใิ นลกั ษณะ ๑ ว่าดว้ ยอุทธรณ์มาใชบ้ ังคับโดยอนโุ ลม
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำภาค ๔ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
วธิ กี ารชวั่ คราวก่อนพิพากษาและการบงั คับตามคำพิพากษาหรอื คำส่ัง
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔๗ มาตรา ๒๕๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมบั กทำี่ ร๒ก๗ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๕๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔๘ มาตรา ๒๕๑ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพ่ง (ฉบบั ที่ ๒ส๗ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๕ะก๘รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๔๙ มาตรา ๒๕๒ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมบั กทำี่ ร๒ก๗ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๕๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๕ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
ลักษณะ ๑
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ วิธสกี ำนารกั ชงำ่วั นคครณาวะกกอ่รรนมพกิพำรากกฤษษาฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ หมวด ๑ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนหคลณักทะกัว่ รไรปมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีากำ๒๕๓๒๕๐ ถ้าสโจำนทกักง์มำนิไดค้มณีภะูมกริลรำมเนกำารหกรฤือษสฎำีกนำักทำการงานอสำยนู่ในกั งรำานชคอณาะณการจรมักกรำรกฤษฎีกำ
และไมม่ ีทรพั ย์สนิ ที่อาจถกู บังคับคดีได้อยใู่ นราชอาณาจกั ร หรือถ้าเป็นท่ีเช่ือได้ว่าเมื่อโจทกแ์ พ้คดีแล้ว
จะหลีกเล่ยี งไม่ชำสรำะนคกั ่างฤำนชคาณธระรกมรรเนมียกมำรแกลฤะษคฎ่าีกใำชจ้ ่าย จำเลยอสาำนจกัยง่ืนำคนำครณ้อะงกตรอ่ รศมกาลำรไกมฤว่ ษ่าฎเวีกลำาใด ๆ ก่อน
พพิ ากษาขอใหศ้ าลมีคำสั่งให้โจทก์วางเงินต่อศาลหรือหาประกันมาให้เพ่ือการชำระค่าฤชาธรรมเนียม
สำนกั แงลำนะคคณ่าใะชก้จร่ารยมดกังำรกกลฤ่าษวฎไดีก้ำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้าศาลไต่สวนแล้วเห็นว่า มีเหตุอันสมควรหรือมีเหตุเป็นท่ีเชื่อได้ แล้วแต่กรณี ก็ให้
ศาลมีคำส่ังให้โจทสำกน์วกั างงำเนงคินณตะ่อกศรารลมกหำรรือกหฤษาปฎีกรำะกันมาให้ตาสมำจนำกั นงวำนนคแณละะกภรารยมใกนำรรกะฤยษะฎเวีกลำ าที่กำหนด
โดยจะกำหนดเง่อื นไขใด ๆ ตามทเี่ ห็นสมควรก็ได้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกถฤ้าษโจฎทีกกำ์มิได้ปฏิบัติตสาำมนคกั ำงสำนั่งศคาณละตการมรมวกรำรรคกสฤอษงฎีกใหำ ้ศาลมีคำส่ังจสำำหนนกั ่งาำยนคคดณีอะอกกรจรมากกำรกฤษฎีกำ
สารบบความ เวน้ แสำตนจ่ กัำงเลำนยคจณะขะอกใรหรม้ดกำเำนรกินฤกษาฎรพีกำิจารณาต่อไป สหำรนือกั มงกีำนารคอณทุ ะธกรรณรม์คกำำสรั่งกศฤาษลฎตีกาำมวรรคสอง
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีากำ๒๕๓ ทวิ๒๕๑ สใำนนกักงรำณนคีทณ่ีโจะทกรกร์ไมดก้ยำ่ืนรอกฤุทษธฎรีกณำ์หรือฎีกาคัดคส้าำนนคกั ำงำพนิพคาณกะษการถรม้ากมำี รกฤษฎีกำ
เหตุใดเหตุหน่ึงตามมาตรา ๒๕๓ วรรคหน่ึง จำเลยอาจยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา แล้วแต่
กรณี ไม่ว่าเวลาใดสำๆนกั กง่อำนนคพณิพะากกรษรมากขำรอกใฤหษ้ศฎาีกลำมีคำสั่งให้โจทสกำ์วนากั งงเำงนินคตณ่อะศการลรหมกรำือรหกาฤปษรฎะีกกำันมาให้เพื่อ
การชำระคา่ ฤชาธรรมเนยี มและคา่ ใชจ้ ่ายดงั กล่าวได้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกในฤรษะฎหีกวำ่างที่ศาลช้ันตส้นำนยกัังมงำิไนดค้สณ่งสะกำนรรวมนกคำวรกามฤษไปฎยีกังำศาลอทุ ธรณ์หสรำือนศกั งาำลนฎคีกณาะกครำรรม้อกงำรกฤษฎีกำ
ตามวรรคหน่ึงให้ย่ืนตอ่ ศาลชน้ั ตน้ และให้ศาลช้ันตน้ ทำการไต่สวน แล้วส่งคำรอ้ งนั้นพรอ้ มด้วยสำนวน
ความไปใหศ้ าลอทุ สธำนรณกั งห์ ำนรคือณศาะลกฎรรกี มากสำั่งรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้นำความในมาตรา ๒๕๓ วรรคสองและวรรคสาม มาใช้บังคับแก่การพิจารณาใน
สำนกั ชงั้นำนอคุทณธะรกณร์แรมลกะำฎรีกกาฤโษดฎยีกอำนุโลม สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๕๔๒๕๒ ในคดีอื่น ๆ นอกจากคดีมโนสาเร่ โจทก์ชอบที่จะยื่นต่อศาลพร้อม
สำนกั กงับำนคคำณฟะ้อกงรหรรมือกใำนรกเวฤลษาฎใีกดำๆ ก่อนพิพากสำษนากั งซำ่ึงนคคำณขะอกฝร่ารยมเกดำียรกวฤรษ้อฎงีกขำอให้ศาลมีคำสสั่งำนภกัางยำในนคบณังะคกับรแรมหก่งำรกฤษฎีกำ
เงื่อนไขซึ่งจะกล่าวต่อไป เพ่อื จัดใหม้ วี ธิ ีคุ้มครองใด ๆ ดงั ตอ่ ไปนี้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๕๐ มาตรา ๒๕๓ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำ่ี ร๑ก๕ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๓๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๕๑ มาตรา ๒๕๓ ทวิ เพ่ิมโดยพระราชบัญญัติแกไ้ ขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
แพง่ (ฉบบั ท่ี ๑๕) พส.ศำน. ๒กั ง๕ำ๓น๘คณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๕๒ มาตรา ๒๕๔ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๑ก๕ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๓๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๖ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๑) ให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินท่ีพิพาทหรือทรัพย์สินของจำเลยทั้งหมดหรือบางส่วน
สำนกั ไงวำ้กน่อคนณพะิพกรารกมษกาำรรกวฤมษทฎ้งั ีกจำำนวนเงนิ หรอื สทำนรกัพั งยำส์นินคขณอะงกบรรุคมคกลำภรกาฤยษนฎอีกกำซ่งึ ถึงกำหนดชสำำรนะกั แงกำน่จคำณเละยกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ให้ศาลมีคำส่ังห้ามชั่วคราวมิให้จำเลยกระทำซ้ำหรือกระทำต่อไป ซึ่งการละเมิด
หรือการผิดสัญญสาำหนรกั ืองำกนาครณกระกะรทรำมทก่ีถำรูกกฟฤ้อษงฎรีก้อำง หรือมีคำส่ังสอำน่ืนกั ใงดำในนคอณันะทก่ีจรระมบกรำรรเกทฤาษคฎวีกาำมเดือดร้อน
เสียหายท่ีโจทก์อาจได้รับต่อไปเน่ืองจากการกระทำของจำเลยหรอื มีคำสั่งห้ามช่ัวคราวมใิ ห้จำเลยโอน
สำนกั ขงาำยนคยณกั ะยก้ารยรหมรกือำรจกำฤหษนฎา่ ีกยำซึ่งทรพั ย์สินทส่ีพำนพิ กั างทำหนครอืณทะกรัพรรยม์สกินำรขกอฤงษจฎำีเกลำย หรือมีคำสัง่สใำหน้หกั ยงำุดนหครณือะปกอ้รรงมกกันำรกฤษฎีกำ
กคำาสรเ่ังปเปล็นือองยไป่างเปอ่ืนลส่าำหนกัรงือำกนาครณบะุบกสรรลมากยำซรกึ่งทฤษรฎัพีกยำ์สินดังกล่าว สทำนั้งนกั งี้ ำจนนคกณวะ่ากครดรมีจกะำถรึงกทฤี่สษุดฎหีกำรือศาลจะมี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๓ฤษ) ฎใหีก้ำศาลมีคำส่ังใหสำ้นนากั ยงทำนะคเณบีะยกนรรพมนกำักรงกาฤนษเฎจีก้าำหน้าท่ี หรือบสุคำนคกั ลงอำน่ืนคผณู้มะีอกำรนรมากจำรกฤษฎีกำ
หน้าท่ีตามกฎหมาย ระงับการจดทะเบียน การแก้ไขเปล่ียนแปลงทางทะเบียน หรือการเพิกถอนการ
จดทะเบียนที่เกี่ยสำวนกกั ับงำทนรคัพณยะ์สกิรนรทม่ีพกำิพรกาฤทษหฎรีกือำทรัพย์สินขอสงำจนำกั เงลำยนคหณรือะกทร่ีเรกมี่ยกวำรกกับฤกษาฎรีกกำระทำท่ีถูก
ฟ้องร้องไว้ช่ัวคราวจนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือศาลจะมีคำส่ังเป็นอย่างอื่น ท้ังนี้ เท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งต่อ
สำนกั บงทำนบคญั ณญะกตั ริแรหมง่กกำรฎกหฤมษาฎยีกทำ่เี ก่ยี วข้อง สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ให้จับกุมและกกั ขงั จำเลยไวช้ ่วั คราว
สใำนนรกั ะงหำนวค่าณงระะกรยระมเกวำลรากนฤับษฎแีกตำ่ศาลช้ันต้นหสรืำอนศกั างลำนอคุทณธะรกณร์รไดม้กอำ่ารนกคฤษำพฎีกิพำากษา หรือ
คำสั่งช้ีขาดคดีหรือช้ีขาดอุทธรณ์ไปจนถึงเวลาท่ีศาลช้ันต้นได้ส่งสำนวนความที่อุทธรณ์หรือฎีกาไปยัง
สำนกั ศงาำลนอคทุณธะกรณรรห์มรกือำรศกาฤลษฎฎีกีกาำ แล้วแต่กรณสี คำนำขกั องำตนาคมณมะากตรรรามนกี้ใำหรก้ยฤื่นษตฎอ่ ีกศำาลช้ันตน้ ให้ศสาำลนชกั ั้นงำตน้นคมณอี ะำกนรรามจกทำี่ รกฤษฎีกำ
จะสงั่ อนุญาตหรอื สยำกนคกั งำำขนอคเชณ่นะกวา่รรนมี้ กำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎราีกำ๒๕๕๒๕๓ ในกสาำนรพกั งิจำานรคณณาะอกนรรุญมากตำรตกาฤมษคฎำีกขำอทย่ี ื่นไวต้ ามมสาำตนรกั างำ๒น๕คณ๔ะตกร้อรงมใหกำ้ รกฤษฎีกำ
เป็นที่พอใจของศาลว่า คำฟ้องมีมูลและมีเหตุเพียงพอท่ีจะนำวิธีคุ้มครองตามที่ขอน้ันมาใช้ได้ตาม
หลกั เกณฑ์ ดงั ต่อสไำปนนกั ี้ งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ในกรณีท่ียื่นคำขอให้ศาลมีคำส่ังตามมาตรา ๒๕๔ (๑) ต้องให้เป็นท่ีพอใจของ
สำนกั ศงาำลนวค่าณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ก) จำเลยตั้งใจจะยักย้ายทรัพยส์ ินที่พิพาทหรอื ทรัพย์สินของตนท้ังหมดหรือแต่
บางส่วนไปให้พ้นสจำนากักงอำำนนคาณจะศการรลมหกำรรือกจฤะษโฎอีกนำ ขายหรือจำสหำนนกั่างยำทนรคัพณยะ์กสรินรดมังกกำรลก่าฤวษเพฎีก่ือำประวิงหรือ
ขัดขวางต่อการบังคับตามคำบังคับใด ๆ ซึ่งอาจจะออกบังคับเอาแก่จำเลยหรือเพ่ือจะทำให้โจทก์
สำนกั เงสำียนเคปณรียะกบรรหมรกือำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั (งขำ)นมคีเณหะตกุจรำรเมปกน็ ำอรกนื่ ฤใดษตฎาีกมำท่ศี าลจะพิเคสรำานะกั หง์เำหนน็คเณปะน็ กกรรามรยกตุำรธิ กรฤรษมฎแีกลำะสมควร
(๒) ในกรณีท่ีย่ืนคำขอให้ศาลมีคำส่ังตามมาตรา ๒๕๔ (๒) ต้องให้เป็นท่ีพอใจของ
สำนกั ศงาำลนวคา่ณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ก) จำเลยตั้งใจจะกระทำซ้ำหรือกระทำต่อไปซ่ึงการละเมิด การผิดสัญญา หรือ
การกระทำท่ถี ูกฟส้อำงนรกัอ้ งงำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ข) โจทกจ์ ะได้รบั ความเดอื ดรอ้ นเสียหายตอ่ ไปเนอื่ งจากการกระทำของจำเลย
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษ(ฎคีก)ำทรัพย์สินท่ีพสิพำานทกั หงำรนือคทณระัพกยร์สรินมกขำอรงกจฤำษเลฎยีกำน้นั มีพฤติการณสำ์วน่ากั จงะำนมคีกณาระกกรระรมทกำำรกฤษฎีกำ
ให้เปลืองไปเปลา่ หรือบบุ สลายหรอื โอนไปยังผอู้ ืน่ หรอื
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๕๓ มาตรา ๒๕๕ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมับกทำ่ี ร๑ก๕ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๓๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๗ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(ง) มีเหตุตาม (๑) (ก) หรือ (ข)
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๓ฤ)ษฎในีกกำรณีที่ย่ืนคำขสอำนใหกั ้ศงำานลคมณีคะำกสร่ังรตมากมำรมกาฤตษรฎาีกำ๒๕๔ (๓) ต้อสงำใหนกั้เปงำ็นนทคี่พณอะกใจรรขมอกงำรกฤษฎีกำ
ศาลวา่
สำนกั (งกำ)นเคปณ็นะทกี่เรกรมรงกวำร่ากจฤำษเลฎยีกจำะดำเนินการสใำหน้มกั ีกงำานรคจณดะทกะรเรบมียกนำรกแฤกษ้ไฎขีกเปำ ลี่ยนแปลง
ทางทะเบียน หรือเพิกถอนการจดทะเบียนเก่ียวกับทรัพย์สินที่พิพาทหรือทรัพย์สินของจำเลยหรือท่ี
สำนกั เงกำี่ยนวคกณบั ะกการรรกมรกะำรทกำฤทษ่ถี ฎูกีกฟำอ้ งร้อง ซึ่งกาสรำดนำกั เนงำนิ นกคาณระดกังรกรลม่ากวำจรกะฤกษ่อฎใหีก้เำกิดความเสียหสาำยนแกั กงำโ่ นจคทณก์ะหกรรรือมกำรกฤษฎีกำ
ส(ำ๔น)กั (ใงขนำ)นกมครเี ณณหะตีทกตุ ี่ยราื่รนมมคก(ำ๑ำขร)อก(ฤใขหษ)้ศฎีากลำ มีคำส่ังตามมสำานตกั รงาำน๒ค๕ณ๔ะก(ร๔ร)มตกำ้อรงกใฤหษ้เปฎีก็นำท่ีพอใจของ
สำนกั ศงาำนลคว่ณา ะเกพร่ือรทม่ีจกำะรปกรฤะษวฎิงีกหำรือขัดขวางตส่อำกนากั รงพำนิจคาณรณะการครดมีกหำรรือกกฤาษรฎบีกังำคับตามคำบังสคำนับกัใดงำนๆคซณ่ึงะอการจรมจกะำรกฤษฎีกำ
ออกบังคับเอาแกจ่ ำเลย หรอื เพอ่ื จะทำใหโ้ จทกเ์ สยี เปรียบ
สำนกั (งกำ)นจคำณเละกยรซรอ่ มนกตำรัวกเพฤษื่อจฎะีกไำมร่ ับหมายเรยีสกำนหกั รงือำคนำคสณั่งะขกอรงรศมากลำรกฤษฎีกำ
(ข) จำเลยได้ยักย้ายไปให้พ้นอำนาจศาลหรือซุกซ่อนเอกสารใด ๆ ซ่ึงพอจะเห็น
สำนกั ไงดำ้วน่าคจณะะใกชร้เรปม็นกพำรยกาฤนษหฎลีกัำกฐานยันจำเลสยำนในกั งคำดนีทคี่อณยะู่กในรรรมะกหำวร่ากงฤพษิจฎาีกำรณา หรือทรัพสำยน์สกั ินงทำนี่พคิพณาะทกรหรมรกือำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์สินของจำเลยท้ังหมดหรือแต่บางส่วน หรือเป็นที่เกรงว่าจำเลยจะจำหน่ายหรือทำลายเอกสาร
หรือทรพั ย์สนิ เช่นสวำ่านนกั ้ันงำหนครือณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ค) ปรากฏตามกิริยาหรือตามวิธีท่ีจำเลยประกอบการงานหรือการค้าของตนว่า
สำนกั จงำำเนลคยณจะะกหรลรกีมหกำนรหีกฤรอืษพฎีกอำเหน็ ไดว้ ่าจะหสลำีกนหกั นงำีไนปคใหณ้พะกน้ รอรำมนกาำจรกศฤาษลฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๕๖๒๕๔ ในกรณีท่ียนื่ คำขอใหศ้ าลมีคำสง่ั ตามมาตรา ๒๕๔ (๒) หรอื (๓) ถ้า
สำนกั ศงาำลนเคหณ็นะวก่ารหรมากกำใรหกโ้ ฤอษกฎาีสกำจำเลยคัดค้านสกำ่อนนกั จงำะนไคมณ่เสะียกหรรามยกแำกรโ่กจฤทษกฎ์ ีกกำ็ให้ศาลแจ้งกำสหำนนดกั งวำันนนค่ังณพะิจการรรณมกาำรกฤษฎีกำ
พร้อมทั้งส่งสำเนาคำขอให้แก่จำเลยโดยทางเจ้าพนักงานศาล จำเลยจะเสนอข้อคัดค้านของตนในการ
ที่ศาลน่งั พจิ ารณาสคำำนขกั องำนนนั้ คกณไ็ ดะก้ รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีากำ๒๕๗๒๕๕ ให้ศสำานลกัมงีอำำนนคาณจะทก่ีจรระมสก่ังำอรนกุญฤษาฎตีกตำามคำขอท่ีได้ยสื่นำนตกัางมำมนาคตณระากร๒ร๕ม๔กำรกฤษฎีกำ
ได้ภายในขอบเขตหรอื โดยมีเง่ือนไขอยา่ งใดก็ได้ แล้วแตจ่ ะเห็นสมควร
สใำนนกกั รงณำนีทค่ีศณาะลกรมรีคมำกสำร่ังกอฤนษุญฎาีกตำ ตามคำขอทส่ีไำดน้ยกั ื่นงำตนาคมณมะากตรรรามก๒ำร๕ก๔ฤษ(ฎ๒ีก)ำให้ศาลแจ้ง
คำสัง่ นน้ั ให้จำเลยทราบ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกในฤษกฎรีกณำีที่ศาลมีคำสส่ังำหน้ากั มงชำนั่วคคณระากวรมริใมหก้จำรำกเฤลษยฎโอีกำน ขาย ยักย้าสยำนหกั รงือำนจคำณหะนก่ารรยมซก่ึงำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์สินท่ีพพิ าทสหำรนือกั ทงำรนัพคยณ์สะินกขรรอมงกจำำรเกลฤยษศฎาีกลำจะกำหนดวิธสกี ำานรกั โงฆำษนคณณาะตการมรทมกี่เหำร็นกสฤมษคฎวีกรำเพ่ือป้องกัน
การฉ้อฉลกไ็ ด้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกในฤษกฎรีกณำีท่ีศาลมีคำสสั่งำหน้ากั มงชำนั่วคคณระากวรมริใมหก้จำรำกเฤลษยฎโอีกำน ขาย ยักย้าสยำนหกั รงือำนจคำณหะนก่ารยรมซก่ึงำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์สินท่ีพิพาทหรือทรัพย์สินของจำเลยที่กฎหมายกำหนดไว้ให้จดทะเบียน หรือมีคำส่ังให้นาย
ทะเบียน พนักงาสนำเนจกั้างหำนน้าคทณี่ ะหกรรือรมบกุคำครลกอฤษ่ืนฎผีกู้มำีอำนาจหน้าทสี่ตำานมกั กงำฎนหคมณาะยกรรระมงกับำกรกาฤรษจฎดีกทำะเบียน การ
แก้ไขเปล่ียนแปลงทางทะเบียน หรือการเพิกถอนการจดทะเบียนที่เกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าวหรือท่ี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๕๔ มาตรา ๒๕๖ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพ่ง (ฉบบั ที่ ๑ส๕ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๓ะก๘รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๕๕ มาตรา ๒๕๗ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๑ก๕ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๓๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๘ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เก่ียวกับการกระทำท่ีถูกฟ้องร้อง ให้ศาลแจ้งคำสั่งนั้นให้นายทะเบียน พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือบุคคล
สำนกั องน่ืำนผค้มู ณีอะำกนรารจมหกนำร้ากทฤต่ี ษาฎมีกกำฎหมายทราบสำแนลกั ะงใำหนบ้ คุคณคะลกดรรังมกกลำ่ารวกบฤันษทฎีึกกำคำส่ังของศาลสไวำใ้นนกั ทงำะนเบคณยี นะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ก่อนท่ีศาลจะออกหมายยึด หมายอายัด หมายห้ามช่ัวคราว
หมายจับ หรือคำสสำั่งนใกัดงำๆนคศณาละกจระรสม่ังกใำหร้ผกู้ขฤอษนฎีกำเำงินหรือหาปรสะำกนันกั งตำานมคจณำะนกวรนรมทก่ีเหำร็นกสฤมษคฎีวกำรมาวางศาล
เพือ่ การชำระคา่ สนิ ไหมทดแทนซึง่ จำเลยอาจไดร้ ับตามมาตรา ๒๖๓ ก็ได้ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๕๘๒๕๖ คำส่ังศาลซึ่งอนุญาตตามคำขอที่ได้ย่ืนตามมาตรา ๒๕๔ (๑) น้ัน
ให้บังคับจำเลยไดส้ทำนันกัทงีแำนล้ควแณจะ้งกครรำมสกั่งนำรั้นกใฤหษ้จฎำีกเำลยทราบโดยไสมำ่ชนักกั ชงำ้านแคตณ่จะะกใรชร้บมังกคำับรกบฤุคษคฎลีกภำายนอก ซึ่ง
สำนกั พงิสำนจู คนณ์ไดะก้ว่ารรไดม้รกบัำรโกอฤนษสฎจุ ีกรำิตและเสยี คา่ ตสอำบนแกั งทำนนกคอ่ณนะกกรารรมแกจำ้งรคกำฤสษัง่ ฎใหีกำจ้ ำเลยทราบมสิไดำน้ กั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คำส่ังศาลซ่ึงอนุญาตตามคำขอที่ได้ย่ืนตามมาตรา ๒๕๔ (๒) นั้น ให้บังคับจำเลยได้
ทันที ถึงแม้ว่าจำเสลำยนจกั ะงำยนังคมณิไดะก้รับรรแมจก้งำครำกสฤั่งษเฎชีก่นำว่านั้นก็ตาม เสวำน้นแกั งตำ่ศนาคลณจะะกไรดร้พมิเกคำรรากะฤหษ์พฎีกฤำติการณ์แห่ง
คดีแล้วเห็นสมควรใหค้ ำส่ังมผี ลบงั คบั เมอื่ จำเลยไดร้ บั แจ้งคำส่ังเชน่ วา่ นั้นแล้ว
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกคฤำษสฎ่ังศีกำาลซ่ึงอนุญาตสตำานมกั คงำำนขคอณทะ่ีไกดร้ยร่ืนมกตำารมกมฤาษตฎรีกาำ ๒๕๔ (๓) ทสี่เกำน่ียกัวงกำับนทคณรัพะกยร์สรินมทกำี่ รกฤษฎีกำ
พพิ าทหรอื ทรัพย์สินของจำเลย นั้น ให้มผี ลใช้บังคับไดท้ ันที ถึงแม้ว่านายทะเบียน พนักงานเจ้าหน้าที่
หรือบุคคลอ่ืนผู้มสีอำำนนกั างจำนหคนณ้าะทกี่ตรารมมกกำฎรหกฤมษาฎยีกจำะยังมิได้รับแจส้งำคนำกั สงำั่งนเชค่นณวะ่ากนรรั้นมกก็ตำารกมฤเษวฎ้นีกแำต่ศาลจะได้
พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นสมควรให้คำส่ังมีผลบังคับเม่ือบุคคลดังกล่าวได้รับแจ้งคำสั่งเช่น
สำนกั วงา่ ำนนนั้คณและกว้ รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สคำำนสกั ั่งงศำนาคลณซ่ึงะอกนรรุญมากตำรตกาฤมษคฎำีกขำอที่ได้ย่ืนตามสมำานตกั รงาำน๒ค๕ณ๔ะก(ร๓ร)มกทำ่ีเรกกี่ยฤวษกฎับีกกำารกระทำท่ี
ถูกฟ้องร้องให้มีผลใช้บังคับแก่นายทะเบียน พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลอ่ืนผู้มีอำนาจหน้าท่ีตาม
สำนกั กงฎำนหคมณาะยกตร่อรเมมกอ่ื ำบรกคุ ฤคษลฎดีกังำกล่าวได้รับแจส้งำคนำกั สงัง่ ำเนชค่นณวะ่ากนรนั้ รแมลกว้ำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมายจับจำเลยท่ีศาลได้ออกตามคำขอท่ีได้ย่ืนตามมาตรา ๒๕๔ (๔) ให้บังคับได้ท่ัว
ราชอาณาจกั ร กาสรำกนักกั ขงำงั นตคาณมหะกมรารยมจกับำรเชก่นฤษว่าฎนีก้ีำหา้ มมใิ ห้กระสทำำนเกกั งินำหนกคเณดะือกนรนรมับกแำตร่วกนัฤษจับฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๕๘ ทวิ๒๕๗สำกนกัารงำทน่ีจคำณเละกยรไรดม้กก่อำรใกหฤ้เษกฎิดีกโำอน หรือเปลสี่ยำนนแกั ปงำลนงคซณึ่งะสกิทรรธมิใกนำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์สินที่พิพาท หรือทรัพย์สินของจำเลยภายหลังท่ีคำส่ังของศาลท่ีห้ามโอน ขาย ยักย้าย หรือ
จำหน่าย ซึ่งออกสตำานมกั คงำำขนอคณที่ไะดก้ยรรื่นมตกาำมรกมฤาษตฎรีกาำ๒๕๔ (๒) มีผสลำนใชกั ้บงำังนคคับณแะลก้วรนรม้ันกหำรากอฤาษจฎใีกชำ้ยันแก่โจทก์
หรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่ ถึงแม้ว่าราคาแห่งทรัพย์สินนั้นจะเกินกว่าจำนวนหนี้และค่าฤชาธรรม
สำนกั เงนำยี นมคใณนะกการรรฟมอ้ กงำรร้อกงฤแษลฎะีกกำารบงั คบั คดี แสลำะนจกั ำงเำลนยคไณด้จะกำหรรนม่ากยำทรกรฤัพษยฎ์สีกินำเพียงสว่ นทีเ่ กนิสำจนำกันงวำนนนคน้ัณกะ็ตกรารมมกำรกฤษฎีกำ
สกำานรกั ทง่ีนำนาคยณทะะกเบรรียมนกำพรกนฤักษงฎานีกำเจ้าหน้าที่ หรสือำบนุคกั คงำลนอคื่นณผะู้มกีอรรำมนกาำจรหกนฤษ้าทฎีก่ีตำามกฎหมาย
รับจดทะเบียนหรือแก้ไขเปลยี่ นแปลงทางทะเบียน หรือเพิกถอนการจดทะเบยี นท่ีเกี่ยวกับทรัพย์สินท่ี
สำนกั พงิพำนาคทณหะรกือรทรมรัพกำยร์สกินฤษขอฎงีกจำำเลยภายหลสังำทนี่คกั ำงสำนง่ั ขคอณงะศการลรมซกึง่ อำรอกกฤตษาฎมีกคำำขอท่ีได้ยื่นตสาำมนมกั างตำรนาคณ๒ะ๕ก๔รร(ม๓ก)ำรกฤษฎีกำ
มีผลใช้บงั คับแล้วนั้นหาอาจใชย้ ันแก่โจทก์หรือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่ เว้นแตผ่ ู้รับโอนจะพิสูจนไ์ ด้
ว่าได้รับโอนโดยสสุจำรนิตกั งแำนลคะณเสะียกคร่ารมตกอำบรแกทฤษนฎกีก่อำนที่นายทะเบสียำนนกั พงนำนักคงณานะกเจร้ารมหกนำ้ารทกี่ฤหษรฎือีกบำุคคลอื่นผู้มี
อำนาจหนา้ ทีต่ ามกฎหมายจะไดร้ ับแจ้งคำส่ัง
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๕๖ มาตรา ๒๕๘ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพง่ (ฉบบั ท่ี ๑ส๕ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๓ะก๘รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๕๗ มาตรา ๒๕๘ ทวิ เพิ่มโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความ
สำนกั แงพำน่ง ค(ฉณบะบั กทรี่ ร๑ม๕ก)ำพรก.ศฤ.ษ๒ฎ๕ีก๓ำ๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๑๙ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
การที่นายทะเบียน พนักงานเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลอื่นผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
สำนกั รงบั ำนจคดณทะะกเบรรียมนกำหรรกือฤแษกฎ้ไีกขำเปล่ียนแปลงทสำานงกัทงะำเนบคยี ณนะกหรรรือมเกพำิกรกถฤอษนฎกีกาำรจดทะเบียนทส่ีเำกนีย่ กั วงกำนับคกณาระกกรรระมทกำำรกฤษฎีกำ
ท่ีถูกฟ้องร้องภายหลังที่บุคคลดังกล่าวได้รับแจ้งคำส่ังของศาลซึ่งออกตามคำขอท่ีได้ย่ืนตาม มาตรา
๒๕๔ (๓) แลว้ นั้นสำยนงั กัไมงำม่ นผี คลณใะชก้บรังรคมับกตำรากมฤกษฎฎหีกมำายในระหว่างสใำชน้วกั ิธงกีำนารคชณัว่ ะคกรรารวมกก่อำรนกพฤพิษาฎกีกษำา
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีากำ๒๕๙๒๕๘ ให้นสำำนบกั ทงบำนัญคญณัตะกิในรรลมักกษำรณกะฤษ๒ฎีกแำห่งภาคน้ีว่าด้วสยำนกกัางรำบนังคคณับะคกดรีรตมากมำรกฤษฎีกำ
คำพิพากษาหรือคสำำสนง่ักั มงาำนใชค้บณงั ะคกับรรแมกกว่ ำธิ รีกกาฤรษชฎ่ัวีกคำราวก่อนพพิ าสกำษนากั ดง้วำนยคโดณยะอกนรรุโมลกมำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีากำ๒๖๐๒๕๙ ในกสำรนณกั ีทงำ่ีคนำคพณิพะากกรษรมากหำรรือกคฤษำสฎั่งีกชำ้ีขาดตัดสินคดสีมำนิไดกั ้กงำลน่าควณถึงะวกิธรรีกมากรำรกฤษฎีกำ
ชว่ั คราวก่อนพพิ ากษาทศ่ี าลไดส้ ่ังไวใ้ นระหว่างการพจิ ารณา
ส(๑ำน)กั ถง้าำนคคดณีนะั้นกศรารมลกตำัดรสกินฤษใหฎ้จีกำำเลยเป็นฝ่ายสชำนนะกั คงำดนีเคตณ็มตะการมรขม้อกหำรากหฤรษือฎบีกาำงส่วนคำส่ัง
ของศาลเก่ียวกับวิธีการช่ัวคราวในส่วนท่ีจำเลยชนะคดีนั้น ให้ถือว่าเป็นอันยกเลิกเม่ือพ้นกำหนดเจ็ด
สำนกั วงันำนนคับณแะตก่วรันรมทกี่ศำารลกมฤีษคฎำพีกำิพากษาหรือคสำำสน่ังกั เงวำน้นคแณต่ะโจกทรรกม์จกะำไรดก้ยฤื่ษนฎคีกำำขอฝ่ายเดียวตส่อำศนากั ลงำชนั้นคตณ้นะภการยรมในกำรกฤษฎีกำ
กำหนดเวลาดังกล่าว แสดงว่าตนประสงค์จะย่ืนอุทธรณ์หรือฎีกาคำพิพากษาหรือคำสั่งน้ัน และมีเหตุ
อันสมควรท่ีศาลจสะำมนคีกั งำำสน่ังคใหณว้ะิธกีกรรามรกชำ่ัวรคกรฤาษวฎเชีก่นำ ว่านั้นยังคงมสีผำลนใกั ชง้ำบนังคคณับะตก่อรไรปมใกนำกรกรฤณษีเฎชีก่นำวา่ นี้ ถ้าศาล
ช้ันต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอของโจทก์ คำส่ังของศาลให้เป็นท่ีสุด ถ้าศาลช้ันต้นมีคำสั่งให้วิธีการช่ัวคราว
สำนกั ยงังำคนงคมณีผะลกใรชรม้บกังำครับกตฤ่ษอไฎปีกำคำส่ังของศาลสชำนั้นกั ตง้นำนใหค้มณีผะกลรใรชม้บกังำครับกฤตษ่อฎไปีกำจนกว่าจะครบสกำนำหกั งนำดนยค่ืนณอะกุทรธรรมณกำ์ รกฤษฎีกำ
หรือฎีกาหรือศาลสมำนีคกั ำงสำั่งนถคึงณทะี่สกุดรรไมมก่รำับรอกุทฤษธฎรณีกำ์หรือฎีกาแล้วสแำนตกั่กงรำณนคี เณมะื่อกมรีกรมารกอำรุทกธฤรษณฎี์กหำรือฎีกาแล้ว
คำส่งั ของศาลชั้นตน้ ใหม้ ผี ลใชบ้ ังคบั ตอ่ ไปจนกว่าศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาจะมีคำส่ังเปน็ อยา่ งอ่นื
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๒ฤษ) ฎถีก้าำคดีนั้นศาลตัดสำสนินกั ใงหำน้โคจณทะกก์เรปร็นมฝกำ่ารยกชฤนษฎะีคกำดี คำส่ังของศสาำลนกัเกงี่ำยนวคกณับะวกิธรีกรมากรำรกฤษฎีกำ
ช่ัวคราวยงั คงมีผลใช้บงั คบั ต่อไปเทา่ ทีจ่ ำเปน็ เพื่อปฏิบัติตามคำพิพากษาหรอื คำส่ังของศาล
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๖๑๒๖๐ จำเลยหรือบุคคลภายนอกซึ่งได้รับหมายยึด หมายอายัด หรือ
สำนกั คงำำนสั่คงตณาะมกมรรามตกรำารก๒ฤ๕ษ๔ฎีก(ำ๑) (๒) หรือ (ส๓ำ)นหกั งรำือนจคะณตะ้อกงรเรสมียกหำรากยฤเพษรฎาีกะำหมายยึด หมสาำยนอกั างยำนัดคหณระือกครรำมสกั่งำรกฤษฎีกำ
ดงั กล่าว อาจมีคำขอต่อศาลให้ถอนหมาย เพิกถอนคำสั่ง หรอื แก้ไขเปล่ียนแปลงคำสั่ง หมายยึด หรือ
หมายอายัด ซ่ึงอสอำกนตกั างมำนคคำณสะ่ังกดรังรกมลก่าำวรกไดฤ้ษแฎตีก่ถำ้าบุคคลภายนสำอนกกั เงชำ่นนวค่าณนะ้ันกรขรอมใกหำ้ปรกลฤ่อษยฎทีกรำัพย์สินท่ียึด
หรอื คัดคา้ นคำส่งั อายดั ให้นำมาตรา ๓๒๓ หรอื มาตรา ๓๒๕ แลว้ แตก่ รณี มาใชบ้ ังคับโดยอนุโลม๒๖๑
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกจฤำษเลฎยีกซำึ่งถูกศาลออกสคำนำกัสงั่งำจนับคกณุมะกตรารมมมกาำตรกรฤาษ๒ฎี๕กำ๔ (๔) อาจมีคสำำนขกัองตำ่อนศคณาละใกหรร้เพมกิกำรกฤษฎีกำ
ถอนคำสั่งถอนหมสาำยนกั หงำรนือคใหณ้ปะกลร่อรยมตกัวำรไปกฤโดษยฎไีกมำ่มีเง่ือนไขหรอื สใำหน้ปกั งลำ่อนยคตณัวะไกปรชร่วัมคกรำรากวฤโดษยฎมีกหีำ ลักประกัน
ตามจำนวนทศี่ าลเห็นสมควรหรือไม่กไ็ ด้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ความแพง่ (ฉบับที่ ๑ส๒๕ำ๕น๘) กัพมง.าศำตน.ร๒คา๕ณ๒๓ะ๕ก๘๙รรแมกก้ไำขรเกพฤิ่มษเตฎิมีกโำดยพระราชบัญสญำัตนิแกั กง้ไำขนเคพณิ่มเะตกิมรปรรมะกมำวรลกกฤฎษหฎมีกาำยวิธพี ิจารณา
๒๕๙ มาตรา ๒๖๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำ่ี ร๑ก๕ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๓๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๖๐ มาตรา ๒๖๑ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพง่ (ฉบับที่ ๑ส๕ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๓ะก๘รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๖๑ มาตรา ๒๖๑ วรรคหน่งึ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญตั ิแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลกฎหมายวิธี
สำนกั พงิจำนารคณณาะคกวรารมมแกพำง่ ร(กฉฤบษบั ฎทีก่ี ๓ำ ๐) พ.ศ. ๒๕๖ส๐ำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๐ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
ถา้ ปรากฏว่าวิธีการท่ีกำหนดไว้ตามมาตรา ๒๕๔ นั้น ไม่มีเหตุเพียงพอหรือมีเหตุอัน
สำนกั สงมำนคควณรปะกรระรกมากรำอร่ืนกฤศษาฎลีกจำะมคี ำส่ังอนุญสาำตนตกั างำมนคคำณขะอกหรรรือมมกีคำรำกสฤง่ั ษอฎื่นีกใำดตามที่เหน็ สมสคำนวกัรงเำพนื่อคปณระะกโรยรชมนกำ์ รกฤษฎีกำ
แห่งความยุติธรรมก็ได้ ท้ังนี้ ศาลจะกำหนดให้ผู้ขอวางเงินต่อศาลหรือหาประกันมาให้ตามจำนวน
และภายในระยะเสวำลนากั ทงำี่เนหค็นณสะมกครวรรมหกรำรือกจฤะษกฎำีกหำนดเง่ือนไขใดสๆำนตกั างำมนทคี่เณห็นะกสรมรคมวกรำรกกไ็ ฤดษ้แฎตีกใ่ นำ กรณีที่เป็น
การฟ้องเรียกเงนิ หา้ มไม่ให้ศาลเรยี กประกันเกนิ กว่าจำนวนเงนิ ท่ีฟ้องรวมทงั้ ค่าฤชาธรรมเนยี ม
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๖๒๒๖๒ ถ้าข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ที่ศาลอาศัยเป็นหลักในการมีคำสั่ง
อนุญาตตามคำขอสใำนนวกั ธิงีกำนาครชณ่ัวะคกรรรามวอกำยรา่ กงฤใดษอฎยีกา่ำงหนง่ึ น้ันเปลส่ยี ำนนแกั ปงำลนงคไณปะเกมรอื่ รศมากลำรเหกฤ็นษสฎมีกคำวร หรอื เม่ือ
สำนกั จงำำเนลคยณหะรกือรบรมุคกคำลรภกฤาษยนฎีกอำกตามที่บัญญสัตำิไนวก้ัในงำมนาคตณระาก๒รร๖ม๑กำมรกีคฤำษขฎอีกศำาลที่คดีนั้นอยสู่ในำนรกัะงหำวน่าคงณพะิจการรรณมกาำรกฤษฎีกำ
จะมีคำสง่ั แกไ้ ขหรอื ยกเลกิ วธิ ีการเชน่ วา่ น้นั เสยี กไ็ ด้
สใำนนรกั ะงหำนวค่างณระะกยระรเมวกลำารนกบัฤษแฎตีกศ่ ำาลช้ันตน้ หรือสศำานลกั องำุทนธครณณะ์ไกดร้อร่ามนกคำรำกพฤพิ ษาฎกีกษำาหรือคำสั่ง
ชี้ขาดคดีหรือช้ีขาดอุทธรณ์ไปจนถึงเวลาท่ีศาลชั้นต้นได้ส่งสำนวนความที่อุทธรณ์หรือฎีกาไปยังศาล
สำนกั องุทำนธครณณะ์หกรรือรมศกาำลรฎกีกฤาษฎแีกลำ้วแต่กรณี คำสขำอนตกั างมำนมคาณตระกานรร้ีใมหก้ยำื่นรกตฤ่อษศฎาีกลำชั้นต้นและให้สเปำน็นกัองำำนนาคจณขะอกงรศรมาลกำรกฤษฎีกำ
ชน้ั ตน้ ท่ีจะมคี ำส่ังคำขอเช่นว่าน้ัน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๖๓๒๖๓ ในกรณีท่ีศาลได้มีคำสั่งอนุญาตตามคำขอในวิธีการชั่วคราวตาม
สำนกั ลงักำนษคณณะะนกร้ี จรมำกเลำยรกซฤึ่งษตฎ้อีกงำถูกบังคับโดยสวำิธนีกกั างรำนนค้ันณอะากจรยรื่นมคกำำรขกอฤตษ่อฎศีกาำลช้ันต้นภายใสนำนสกัางมำสนิบคณวันะกนรับรแมตกำ่ รกฤษฎีกำ
วันที่มีคำพิพากษสาำขนกัองงำศนาคลณทะ่ีมกีรครำมสกั่งำตรกาฤมษวฎิธีกีกำารช่ัวคราวนั้สนำนขกั องใำหน้มคีณคะำกสรั่งรใมหก้โำจรทกฤกษ์ชฎดีกใำช้ค่าสินไหม
ทดแทนแก่ตนไดใ้ นกรณดี งั ตอ่ ไปนี้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤษ) ฎคีกดำีน้ันศาลตัดสสินำนใจกั งใำหน้โคจณทะกก์เรปรม็นกฝำ่รากยฤแษพฎ้ ีกแำละปรากฏว่าสศำนากั ลงมำนีคคำณสะ่ังกโรดรยมมกีำรกฤษฎีกำ
ความเห็นหลงไปวา่ สิทธิเรยี กรอ้ งของผู้ขอมีมลู โดยความผิดหรือเลนิ เลอ่ ของผูข้ อ
ส(๒ำน)กั ไงมำ่วน่าคคณดะีนก้ันรรศมากลำจรกะฤชษ้ีขฎาดีกตำ ัดสินให้โจทกส์ชำนนกัะงหำนรือคแณพะก้ครดรี มถก้าำปรรกาฤกษฏฎวีกา่ำศาลมีคำสั่ง
โดยมคี วามเหน็ หลงไปว่าวิธกี ารเชน่ ว่านมี้ ีเหตุผลเพยี งพอ โดยความผิดหรอื เลินเลอ่ ของผขู้ อ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกเมฤ่ือษฎไดีก้รำับคำขอตามสวำรนรกั คงำหนนค่ึงณศะการลรมมีอกำำรนกาฤจษสฎ่ังีกใำห้แยกการพิจสำานรกัณงำานเปคณ็นะสกำรนรมวนกำรกฤษฎีกำ
ต่างหากจากคดีเดิม และเมื่อศาลทำการไต่สวนแล้วเห็นว่าคำขอน้ันรับฟังได้ก็ให้มีคำสั่งให้โจทก์ชดใช้
ค่าสนิ ไหมทดแทนสใำหนแ้กั กงำ่จนำคเลณยะไกดร้ตรมามกำจรำกนฤวษนฎทีกศ่ีำาลเห็นสมควสรำนถกั้างศำานลคทณม่ี ะีคกำรสรมั่งตกาำรมกวฤิธษกี ฎาีกรำชั่วคราวเป็น
ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา เม่ือศาลชั้นต้นทำการไต่สวนแล้ว ให้ส่งสำนวนให้ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา
สำนกั แงลำน้วคแณต่กะกรรณรีมเกปำ็นรกผฤู้สษ่ังคฎีำกขำอน้ัน ถ้าโจทสกำ์ไนมกั ่ปงำฏนิบคัตณิตะากมรครมำกสำั่งรศกาฤลษฎศีกาำลมีอำนาจบังคสับำนโจกั งทำกน์เคสณมะือกนรหรมนกึ่งำรกฤษฎีกำ
วา่ เป็นลูกหน้ีตามสคำำนพกั ิพงำานกคษณาะกแรตร่ใมนกกำรรณกฤีทษ่ีศฎาีกลำมีคำส่ังให้โจทสกำน์ชกั ดงใำชน้คค่าณสะินกไรหรมมกทำดรแกทฤษนฎตีกาำม (๑) ให้งด
การบังคับคดีไวจ้ นกว่าศาลจะมคี ำพิพากษาถึงทีส่ ุดใหโ้ จทกแ์ พ้คดี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกคฤำษสฎ่ังีกขำองศาลช้ันต้นสหำนรกัืองศำนาคลณอุะทกธรรรณมก์ตำารกมฤวษรฎรีกคำสอง ให้อุทธรสณำน์หกั รงำือนฎคีกณาะไกดร้ตรมากมำรกฤษฎีกำ
บทบญั ญตั ิว่าดว้ ยการอุทธรณ์หรอื ฎกี า
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๖๒ มาตรา ๒๖๒ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพง่ (ฉบับท่ี ๑ส๕ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๓ะก๘รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๖๓ มาตรา ๒๖๓ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำี่ ร๑ก๕ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๓๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๑ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
มาตรา ๒๖๔๒๖๔ นอกจากกรณีที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๕๓ และมาตรา ๒๕๔
สำนกั คงู่คำนวคาณมะชกอรบรมทก่ีจำะรกยฤื่นษคฎำีกขำอต่อศาล เพสื่อำในหกั ้มงีำคนำคสณ่ังกะกำรหรนมกดำวริธกีกฤาษรฎเีกพำื่อคุ้มครองปรสะำโนยกั ชงำนน์ขคอณงะผกู้ขรอรมในกำรกฤษฎีกำ
ระหว่างการพิจารณาหรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษา เช่น ให้นำทรัพย์สินหรือเงินที่พิพาทมาวางต่อ
ศาลหรือต่อบุคคลสำภนากั ยงนำนอคกณหะรกือรรใมหก้ตำั้งรผกู้จฤัดษกฎาีกรำหรือผู้รักษาทสรำนัพกัยง์สำินนคขณองะหกร้ารงมรก้าำนรทก่ีทฤษำกฎีากรำค้าท่ีพิพาท
หรอื ให้จัดใหบ้ คุ คลผ้ไู ร้ความสามารถอยู่ในความปกครองของบุคคลภายนอก
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกคฤำษขฎอีกตำามวรรคหนงึ่ ใสหำบ้ นงักั คงบัำนตคาณมะมการตรรมากำ๒ร๑กฤมษาฎตีกรำา ๒๕ มาตราส๒ำน๒กั ๗งำมนาคตณระากร๒ร๒ม๘กำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๖๐ และสมำนากตั งรำาน๒คณ๖ะ๒กรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๖๕๒๖๕ ในสกำนรกัณงีทำน่ีศคาณละยกอรรมมรกับำเรอกาฤบษุฎคีกคำลเป็นประกันสตำานมกั งทำ่ีบนัคญณญะัตกริไรวม้ในกำรกฤษฎีกำ
ประมวลกฎหมายน้ี และบุคคลนั้นแสดงกิริยาซ่ึงพอจะเห็นได้ว่าจะทำให้โจทก์เสียเปรียบ หรือจะ
หลีกเล่ียง ขัดขวาสงำนหกั รงือำกนรคะณทะำกใรหร้เมนกิ่นำรชก้าฤซษงึ่ ฎกีการำปฏิบัติตามหสนำ้านทกั ี่ขงำอนงคตณนะใกหรร้นมำกบำทรกบฤัญษญฎีกตั ำิแห่งหมวดน้ี
มาใชบ้ งั คับโดยอนุโลม
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๒
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤคษำฎขีกอำในเหตฉุ ุกเฉนิ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงำาน๒ค๖ณ๖ะก๒ร๖ร๖มกในำรกกรฤณษฎีทีกี่มำีเหตุฉุกเฉินเมสื่อำโนจกั ทงำกน์ยคื่นณคะำกขรอรมตกาำมรมกาฤตษรฎาีกำ๒๕๔ โจทก์
จะยนื่ คำร้องรวมไปดว้ ยเพอื่ ให้ศาลมคี ำสัง่ หรือออกหมายตามท่ีขอโดยไมช่ กั ชา้ ก็ได้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกเมฤ่ือษไฎดีก้ยำื่นคำร้องเช่นสวำ่นามกั งาำนน้ี ควณิธีะพกิจรารมรณกำารแกฤลษะฎชีกี้ขำาดคำขอนั้น สใหำน้อกั ยงู่ภำนาคยณใตะก้บรังรคมักบำรกฤษฎีกำ
บทบัญญตั มิ าตรา ๒๖๗ มาตรา ๒๖๘ และมาตรา ๒๖๙
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๖๗๒๖๗ ใหศ้ าลพิจารณาคำขอเป็นการด่วน ถ้าเปน็ ที่พอใจจากคำแถลงของ
สำนกั โงจำทนกคห์ณระือกพรรยมากนำหรกลฤักษฐฎาีกนำท่ีโจทก์ได้นำมสำานสกัืบงำหนรคือณทะี่ศการลรมไดก้เำรรยีกกฤมษฎาสีกืบำ เองว่าคดีน้ันสเปำน็นกั คงดำนีมคีเหณตะุฉกรกุ รเมฉกินำรกฤษฎีกำ
และคำขอน้ันมีเหตุผลสมควรอันแท้จริง ให้ศาลมีคำส่ังหรือออกหมายตามที่ขอภายในขอบเขตและ
เง่ือนไขไปตามทีเ่ หสำ็นนจกั ำงเำปน็นคทณนั ะทกรี รถมา้ กศำารลกมฤีคษำฎสีกั่งำใหย้ กคำขอ คสำำสนง่ักั เงชำ่นนวคา่ ณนะใ้ี กหรเ้ รปม็นกทำร่สี กุดฤษฎีกำ
จำเลยอาจย่ืนคำขอโดยพลัน ให้ศาลยกเลิกคำสั่งหรือหมายน้ันเสีย และให้นำ
สำนกั บงทำนบคัญณญะกัตริแรมหก่งำวรรกรฤคษกฎ่อีกนำมาใช้บังคับโสดำยนอกั นงำุโนลคมณคะกำขรรอมเกชำ่นรวก่าฤนษ้ีอฎาีกจำทำเป็นคำขอสฝำ่นายกั งเดำนียควณโดะยกไรดรม้รกับำรกฤษฎีกำ
อนญุ าตจากศาล สถำา้ นศกั างลำมนีคคำณสะั่งกยรกรมเลกกิ ำครกำฤสษ่งั เฎดีกมิ ำตามคำขอคำสสำงั่ นเชกั น่งำวน่าคนณ้ีใหะก้เปรร็นมทก่สี ำุดรกฤษฎีกำ
การที่ศาลยกคำขอในเหตุฉุกเฉินหรือยกเลิกคำส่ังที่ได้ออกตามคำขอในเหตุฉุกเฉิน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ความแพ่ง (ฉบับท่ี ๑ส๒๕ำ๖น๔) กัพมง.าศำตน.ร๒คา๕ณ๒๓ะ๖ก๘๔รรแมกก้ไำขรเกพฤ่ิมษเตฎมิ ีกโำดยพระราชบัญสญำัตนิแกั กง้ไำขนเคพณ่ิมเะตกิมรปรรมะกมำวรลกกฤฎษหฎมีกาำยวิธพี ิจารณา
๒๖๕ มาตรา ๒๖๕ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำี่ ร๑ก๕ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๓๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๖๖ มาตรา ๒๖๖ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพ่ง (ฉบบั ที่ ๑ส๕ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๓ะก๘รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๖๗ มาตรา ๒๖๗ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมับกทำ่ี ร๑ก๕ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๓๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๒ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
น้นั ย่อมไมต่ ดั สิทธโิ จทก์ทจ่ี ะเสนอคำขอตามมาตรา ๒๕๔ น้ันใหม่
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๖๘๒๖๘ ในกรณีท่ีมีคำขอในเหตุฉุกเฉิน ให้ศาลมีอำนาจท่ีจะใช้ดุลพินิจ
วินิจฉัยว่าคดีน้ันมสีเำหนตกั ุฉงำุกนเฉคินณหะกรรือรไมมก่ ำสร่วกนฤวษิธฎีกีกาำรท่ีศาลจะกำสหำนนดกั นงำ้ันนคหณากะกจรำรเมปก็นำตรก้อฤงษเสฎ่ือีกมำเสียแก่สิทธิ
ของคคู่ วามในประเดน็ แหง่ คดี กใ็ หเ้ สอ่ื มเสียเทา่ ท่ีจำเป็นแกก่ รณี สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๖๙๒๖๙ คำส่ังศาลซ่ึงอนุญาตตามคำขอในเหตุฉุกเฉินน้ัน ให้มีผลบังคับ
ตามที่บัญญัติไว้ในสำมนากั ตงรำานค๒ณ๕ะ๘กรแรมลกะำมรากตฤรษาฎี๒กำ๕๘ ทวิ อน่ึง สศำานลกั จงำะนสค่ังณใหะ้โกจรทรมกก์รำอรกกาฤรษบฎังีกคำับไว้จนกว่า
สำนกั ศงาำลนจคะณไะดกว้ รนิ รมจิ กฉำยั รชก้ขี ฤาษดฎคีกำำขอให้ยกเลกิ คสำำสนั่งกั หงำรนือคจณนะกกวร่ารโมจกทำกร์จกฤะษไดฎว้ ีกาำงประกนั ก็ได้ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงำาน๒คณ๗ะ๐ก๒ร๗ร๐มกบำทรกบฤัญษญฎีกัตำิในหมวดน้ี ใสหำ้ในชกั้บงังำคนัคบณแกะก่ครำรขมอกอำร่ืนกฤๆษฎนีกอำกจากคำขอ
ตามมาตรา ๒๕๔ ได้ต่อเมื่อประมวลกฎหมายนีห้ รือกฎหมายอื่นบัญญัติไวโ้ ดยชดั แจ้ง
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ลกั ษณะ ๒
สำนกั งำนคณะกการรรบมังกคำรับกคฤดษีตฎาีกมำคำพิพากษาหสรำือนคกั ำงำสน่งั ค๒๗ณ๑ะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
หมวด ๑
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกหำลกั ท่ัวไป สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนท่ี ๑
สำนกั งำนคณะกรรมกศำารลกทฤี่มษีอฎำีกนำาจในการบงั คสับำนคกั ดงีำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๒ค๗ณ๑ะก๒ร๗๒รมศกำารลกทฤี่มษีอฎำีกนำาจในการบังสคำับนคกั ดงำีซน่ึงคมณีอะำกนรารจมกกำำหรกนฤดษวฎิธีกีกำารบังคับคดี
ตามมาตรา ๒๗๖ และมอี ำนาจทำคำวินิจฉัยชี้ขาดหรือทำคำสงั่ ในเร่อื งใด ๆ อันเก่ียวด้วยการบงั คับคดี
สำนกั ตงาำนมคคณำพะกิพรารกมษกำารหกรฤือษคฎำีกสำั่ง คือศาลท่ีไสดำ้พนิจกั างรำนณคาณแะลกะรชรมี้ขกาำดรตกัดฤสษินฎีกคำดีในชั้นต้น หรสือำนตกั างมำทนค่ีมณีกะฎกหรมรมากยำรกฤษฎีกำ
บัญญตั ิ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำี่ ร๑ก๒๕๖ฤ๘)ษพมฎ.าศีกต.ำร๒า๕๒๓๖๘๘ แก้ไขสเพำน่ิมกัเตงิมำนโดคยณพะรกะรรรามชบกำัญรญกฤัตษิแกฎ้ไีกขำเพิ่มเติมประมวสลำกนฎกั หงมำานยควณิธีพะกิจรารรมณกาำรกฤษฎีกำ
ความแพง่ (ฉบบั ท่ี ๑ส๒๕ำ๖น๙) กัพมง.าศำตน.ร๒คา๕ณ๒๓ะ๖ก๘๙รรแมกก้ไำขรเกพฤิ่มษเตฎิมีกโำดยพระราชบัญสญำัตนิแกั กง้ไำขนเคพณ่ิมเะตกิมรปรรมะกมำวรลกกฤฎษหฎมีกาำยวิธพี ิจารณา
๒๗๐ มาตรา ๒๗๐ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๑ก๕ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๓๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๗๑ ลักษณะ ๒ การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง มาตรา ๒๗๑ ถึงมาตรา ๓๖๗ แก้ไข
เพิม่ เติมโดยพระราชสบำัญนกัญงตั ำิแนกคไ้ ณขเะพกม่ิ รเรตมมิ กปำรระกมฤวษลฎกีกฎำหมายวธิ ีพจิ ารณสาำคนวกั างมำแนพคง่ ณ(ะฉกบรับรทมี่ ก๓ำ๐ร)กพฤ.ษศฎ. ีก๒ำ๕๖๐
๒๗๒ มาตรา ๒๗๑ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมับกทำี่ ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๓ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
ถา้ ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกาได้ส่งคดีไปยงั ศาลช้นั ต้นแห่งอ่ืนท่ีมิได้มีคำพิพากษาหรือ
สำนกั คงำำนส่ัคงทณ่ีอะุทกรธรรมณก์หำรรกือฤฎษีกฎาีกนำ้ันเพื่อการพิจสาำรนณกั างำแนลคะณพะิพการกรมษกาำใรหกมฤ่ตษาฎมีกมำาตรา ๒๔๓ (ส๒ำ)นแกั ลงำะนค(๓ณ)ะใกหร้ศรมากลำรกฤษฎีกำ
ที่มีคำพิพากษาหรือคำสั่งใหม่น้ันเป็นศาลท่ีมีอำนาจในการบังคับคดี เว้นแต่ศาลอุทธรณ์หรือศาลฎีกา
แลว้ แต่กรณี จะไดสก้ำนำกัหงนำดนไควณเ้ ปะก็นรอรยม่ากงำอรกื่นฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่จะตอ้ งบังคับคดีนอกเขตศาล ให้ศาลที่มีอำนาจในการบังคับคดีมีอำนาจต้ัง
สำนกั ใงหำ้ศนคาลณอะื่กนรบรังมคกับำรคกดฤีแษทฎีกนำได้ หรือเจ้าหสนำี้ตนกาั มงำคนำคพณิพะกากรรษมากอำรากจฤยษื่นฎคีกำำแถลงหรือเจ้าสพำนนกั ักงำงนาคนณบะังกครับรมคกดำี รกฤษฎีกำ
รวาิธยีกงาารนบใังหค้ศับาคลดที ่ีจสใะนำนมกกัีกรงาณำรนีเบชคัง่ณนควะับก่าครนดร้ี มใีแหกทำ้ศนรากทลฤรดษาังฎบกีกพลำร่า้อวมแดจว้ ้งยใหส้ศำเานสลาำทหนี่มกัมีองาำำยนนบคาังณจคะใับกนครกรดามหี รกรบำือรังสกคฤำับเษนคฎาดีกคีทำำรสาั่งบกโำดหยนไมด่
สำนกั ชงักำนชค้าณแะลกะรรใหมก้ศำารลกทฤ่ีจษะฎมีกีำการบังคับคดีสแำทนนกั ตงำั้งนเจค้าณพะนกรักรงมากนำบรกังฤคษับฎคีกดำีหรือมีคำส่ังอส่ืนำในดกั เงพำ่ืนอคดณำเะนกินรรกมากรำรกฤษฎีกำ
บังคับคดตี ่อไป
สถำ้านเกัปง็นำนกคารณยะดึ กทรรรมพั กยำ์สรกินฤหษรฎอื ีกอำายัดสิทธเิ รียกสรำ้อนงกั งใำหน้ศคาณละทกบ่ี รังรคมกับำครดกีแฤทษฎนีกสำ่งทรัพย์สนิ ท่ี
ไดจ้ ากการยดึ หรอื อายดั หรอื เงินท่ีได้จากการขายทรัพย์สินนน้ั แลว้ แตก่ รณี ไปยังศาลท่ีมอี ำนาจในการ
สำนกั บงังำนคคับณคดะกเี พรร่ือมดกำำเรนกินฤกษาฎรีกไำปตามกฎหมาสยำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีท่ีมีการบังคับคดีนอกเขตศาลโดยบกพร่อง ผิดพลาด หรอื ฝ่าฝนื กฎหมาย ให้
ศาลที่บังคบั คดีแทสนำนมกั ีองำำนนาคจณสะั่งกเรพริกมถกอำรนกหฤรษือฎแีกกำไ้ ขกระบวนวิสธำีกนากัรงบำงันคคับณคะดกีทรร้ังมปกวำงรหกรฤือษวฎธิ ีกีกำารบังคับคดี
ใด ๆ โดยเฉพาะ หรือมีคำส่ังกำหนดวิธีการอย่างใดแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีเพ่ือแก้ไขข้อบกพร่อง
สำนกั ผงดิำนพคลณาดะกหรรรมือกฝำ่ารฝกืนฤษกฎฎีกหำมายน้ัน รวมถสึงำนดกัำเงนำนินคกณระะกบรวรนมพกำิจรากรฤณษาฎอีกื่นำใดที่เกี่ยวเน่ือสงำไนดกั ้ งเวำน้นคแณต่เะมกอ่ืรรกมากรำรกฤษฎีกำ
บังคับคดีได้เสร็จสสำิ้นนแกั ลงะำนแคจณ้งผะกลรกรามรกบำังรคกฤับษคฎดีกีไำปยังศาลท่ีมีอสำำนนากั จงใำนนกคาณระบกังรครมับกคำดรกีแฤลษ้วฎใีกหำ้เป็นอำนาจ
ของศาลทมี่ อี ำนาจในการบังคบั คดีเท่าน้ัน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนท่ี ๒
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำคำบังคับ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๗๒๒๗๓ ถ้าศาลได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งอย่างใดซึ่งต้องมีการบังคับคดีแก่
ลูกหนี้ตามคำพิพสาำกนษกั างกำน็ใหค้ศณาะลกอรรอมกกคำำรบกฤังคษับฎีกทำันทีท่ีได้อ่านหสรำือนถกั ืองำวน่าคไดณ้อะ่ากนรรคมำกพำิพรกาฤกษษฎาีกหำรือคำส่ังนั้น
และใหถ้ ือวา่ ลูกหนีต้ ามคำพพิ ากษาได้ทราบคำบงั คบั แล้วในวนั นั้น
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกในฤษคฎดีกีทำ่ีลูกหนี้ตามคำสพำิพนกัางกำษนาคขณาะดกนรัดรมยก่ืนำครกำฤใหษ้กฎาีกรำหรือขาดนัดพสิจำนารกั ณงำานคแณละะกลรูกรหมนกำ้ี รกฤษฎีกำ
ตามคำพิพากษา ทนายความ หรือผูร้ ับมอบฉันทะจากบุคคลใดบุคคลหนึ่งดังกล่าวให้มาฟงั คำพิพากษา
หรือคำสั่ง มิได้อสยำู่ในนกั ศงาำนลคในณเะวกลรารทมี่กอำอรกกคฤษำบฎีกังคำ ับ ให้บังคับตสำานมกั มงาำนตคราณะ๑ก๙รร๙มกทำวรกิ หฤษรือฎีมกำาตรา ๒๐๗
สำนกั แงลำน้วคแณต่ะกกรรณรมี กำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงำาน๒คณ๗ะ๓ก๒ร๗ร๔มกถำ้รากในฤษคฎำีกบำังคับได้กำหนสดำนใหกั ้งใำชน้เงคินณะหกรรืรอมใกหำ้สร่งกทฤษรัพฎีกยำ์สิน หรือให้
กระทำการหรืองดเวน้ กระทำการอยา่ งใด ๆ ให้ศาลระบุไว้ในคำบังคับนนั้ โดยชดั แจ้ง ซงึ่ ระยะเวลาและ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๗๓ มาตรา ๒๗๒ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพง่ (ฉบับท่ี ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๗๔ มาตรา ๒๗๓ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมับกทำี่ ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๔ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
เงื่อนไขอื่น ๆ อันจะต้องใช้เงิน ส่งทรัพย์สิน กระทำการ หรืองดเว้นกระทำการใด ๆ นั้น แต่ถ้า
สำนกั เงปำน็นคคดณีมะกโนรรสมากเรำ่ศรกาฤลษไมฎ่จีกำำต้องให้เวลาแสกำ่ลนูกกั หงำนน้ีตคาณมะคกำรพรมิพกาำกรษกฤาษเกฎินีกกำวา่ สบิ หา้ วนั ในสำอนันกั ทงำ่ีจนะคปณฏะิบกตั ริรตมากมำรกฤษฎีกำ
คำพพิ ากษาหรือคำสั่งนน้ั
สใำนนคกั ดงำีทนี่มคีเณหะตกุตรารมมมกำารตกรฤาษ๒ฎีก๗ำ๒ วรรคสอง สใำหน้ศกั างลำนใหค้เณวะลการแรกม่ลกูกำรหกนฤี้ตษฎามีกคำ ำพิพากษา
ในอันทจี่ ะปฏิบัตติ ามคำพพิ ากษาหรือคำสัง่ ไมน่ ้อยกว่าเจ็ดวนั
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกรฤะษยฎะีกเวำลาตามวรรสคำหนนกั ่ึงงำแนลคะณวะรกรรครมสกอำงรกใฤหษ้เฎรีก่ิมำนับแต่วันที่ถสือำนวกั่างลำูกนหคณนะ้ีตการมรมคกำำรกฤษฎีกำ
ภพาิพยาหกลษงั าวไ่าดใ้ทหรน้ าับบสแคำตนำ่วบกั ันงังใำคดนับวคันแณหละ้วนกร่ึงเรตวมา้นกมแำทตรี่ศก่ศฤาาลษลเฎจหีกะน็ ำไสดม้กคำวหรนเพดอื่ไวป้โสรดำะยนโชกัยงัดชำแนนจแ์ค้งหณใ่งนะคกเววรารลมมากยทำุตี่อริธกอรฤกรษคมฎำีกบำังคับหรือใน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกในฤรษะฎหีกวำ่างท่ีระยะเวลสาำตนากั มงำคนำคบณังคะกับรยรังมไกมำ่ครกรบฤษกฎำหีกำนดหรอื การปฏสำิบนัตกั ิตงาำนมควิธณีกะากรรหรมรกือำรกฤษฎีกำ
เงื่อนไขในคำบังคับยังไม่เสร็จสิ้น เจ้าหน้ีตามคำพิพากษาอาจย่ืนคำขอฝ่ายเดียวต่อศาลให้มีคำส่ัง
กำหนดวิธกี ารอยส่าำงนหกันง่งึ ำอนยค่าณงะใดกรเพรม่ือกคำุ้มรคกรฤอษงฎปีกรำะโยชน์ของตสนำกน็ไกัดง้ ำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีท่ีศาลมีคำส่ังอย่างหนึ่งอย่างใดตามวรรคสี่แล้ว คำส่ังน้ันยังคงมีผลต่อไป
สำนกั เงทำ่านทคี่จณำะเกปร็นรเมพก่ือำรปกฏฤิบษัตฎิตีกาำมคำพิพากษสาำหนรกั ืองคำนำสค่ังณขะอกงรศรมาลกำแรกตฤ่ถษ้าฎเจีก้าำหน้ีตามคำพิพสาำนกกษั งาำมนิไคดณ้ขะอกบรังรคมับกำรกฤษฎีกำ
คดีภายในกำหนดสิบห้าวันนับแต่วันส้ินระยะเวลาท่ีกำหนดไว้ในคำบังคับเพื่อให้ปฏิบัติตามคำพิพากษา
หรอื คำส่ัง ให้ถือวสา่ ำคนำกั สง่งัำนน้นัคณเปะน็ กอรรันมยกกำเรลกิกฤเษมฎอื่ ีกสำ้นิ ระยะเวลาเชส่นำนวกัา่ งนำัน้นคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนสค่วณนะทกี่ร๓รมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษกฎาีกรำขอบังคับคดี สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๗๔๒๗๕ ถส้าำคนู่คกั วงำานมคหณระือกบรรุคมคกลำรซกึ่งฤเษปฎ็นีกฝำ่ายแพ้คดีหรสือำบนุคกั งคำลนคทณี่ศะากลรมรีมคกำำรกฤษฎีกำ
พิพากษาหรือคำสสำั่นงใกั หงำ้ชนำครณะะหกนรร้ี (มลกูกำรหกนฤ้ีตษาฎมีกำคำพิพากษา)สมำนิไกัดง้ปำนฏคิบณัตะิตการรมมคกำำบรกังฤคษับฎทีก่ีอำ อกตามคำ
พิพากษาหรือคำสั่งของศาลท้ังหมดหรือบางส่วน คู่ความหรือบุคคลซ่ึงเป็นฝ่ายชนะคดีหรือบุคคลที่ศาลมี
สำนกั คงำำพนคิพณากะกษรารหมรกือำรคกำฤสษ่ังฎใหีก้ำได้รับชำระหนสี้ำ(นเจกั ้างำหนนคี้ตณาะมกครรำมพกิพำารกกฤษษาฎ)ีกชำอบท่ีจะร้องขสอำในหกั ้มงำีกนาครณบะังกครับรคมดกำี รกฤษฎีกำ
โดยวิธียึดทรัพย์สิน อายัดสิทธิเรียกรอ้ ง หรือบังคับคดีโดยวิธอี ่ืนตามบทบัญญัติแห่งภาคนี้ภายในสิบปี
นับแต่วันท่ีมีคำพสิพำานกกั ษงำานหครณือะคกำรสรั่งมกแำลรกะฤถษ้าเฎจีก้าำหน้ีตามคำพิพสาำนกกัษงาำไนดค้รณ้อะงกขรอรใมหก้เำจร้ากพฤษนฎักีกงำานบังคับคดี
ยึดทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้องใดไว้หรือได้ดำเนินการบังคับคดีโดยวิธีอ่ืนไว้บางส่วนแล้วภายใน
สำนกั รงะำยนะคเณวะลการดรังมกกลำ่ารวกฤกษ็ใฎหีก้ดำำเนินการบังคสบั ำนคกัดงแี ำกนท่ ครณัพะยก์สรรินมหกรำือรกสฤทิ ษธฎิเรีกียำกร้อง หรือบังสคำนับกัคงดำีโนดคยณวะิธกีอร่ืนรนมก้ันำรกฤษฎีกำ
ตอ่ ไปจนแลว้ เสรจ็ ได้
สถำ้านคกั ำงพำนิพคาณกะษการหรมรกือำครำกสฤ่ังษกฎำีกหำนดให้ชำระหสนำนี้เปกั ็งนำงนวคดณเะปก็นรรรมากยำเรดกือฤนษฎหีกรำือเป็นรายปี
สำนกั หงรำนือคกณำหะกนรดรมใหกำ้ชรำกรฤะษหฎนีก้ีำอย่างใดในอนสาำคนกัตงำในหค้นณับะรกะรยรมะกเวำรลกาฤสษิบฎปีกีตำามวรรคหนึ่งสตำนั้งแกั งตำ่วนันคทณ่ีหะกนรี้ตรามมกำรกฤษฎีกำ
คำพิพากษาหรือคำสั่งนน้ั อาจบังคบั ใหช้ ำระได้
สถำ้านสกั ิทงำธนิเครียณกะรก้อรรงมตกาำมรคกฤำพษฎิพีกาำกษาหรือคำสสั่งำเนปกั็นงกำนาครใณหะ้ชกำรรรมะกเงำินรกสฤษ่งคฎืนีกำหรือส่งมอบ
ทรัพย์เฉพาะส่ิง บุคคลซึ่งได้รับโอนหรือรับช่วงสิทธิตามคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นมีอำนาจบังคับคดี
สำนกั ตงาำมนคคณวาะมกใรนรมหกมำวรดกฤ๒ษฎกีกาำรบังคับคดใี นกสรำนณกั ที งำ่ีเปน็คนณหะนก้เี งรินรมหกำรรือกหฤมษวฎดีกำ๓ การบังคับคสดำนีในกั กงำรนณคีทณี่ใะหก้สรร่งมคกืนำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๗๕ มาตรา ๒๗๔ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๕ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
หรือส่งมอบทรัพย์เฉพาะส่ิง แล้วแต่กรณี โดยการร้องขอต่อศาลเพ่ือเข้าสวมสิทธิเป็นเจ้าหนี้ตาม
สำนกั คงำำนพคิพณาะกกษรารมตก่อำไรปกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงำาน๒คณ๗ะ๕ก๒ร๗ร๖มกถำ้ารกเจฤ้าษหฎนีกีำ้ตามคำพิพากสษำนากจั งะำขนอคใณหะ้มกีกรรามรกบำังรคกับฤษคฎดีกี ำให้ยื่นคำขอ
ฝ่ายเดียวตอ่ ศาลใหบ้ งั คับคดโี ดยระบุให้ชัดแจง้ ซึ่ง
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤ)ษหฎีกนำ้ีท่ลี ูกหนตี้ ามคสำำพนพิกั งาำกนษคาณยะังกมรไิ รดม้ปกฏำริบกตั ฤิตษาฎมีกคำำบงั คบั สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สใ(๒ำนน)รกั ะวงหธิำีกนวาค่ารงณททะข่ีี่ศกอารลรใหมยก้ศังำมารลิไกดบฤ้กังษคำฎหับีกนคำดดวีนิธั้นีการบังคสับำคนดกั ีตงำานมคทณ่ีเจะ้ากหรรนม้ีตกาำมรกคฤำษพฎิพีกาำกษามีคำขอ
สำนกั ตงาำนมควรณระคกหรรนม่ึงกำถร้ากมฤีเษหฎตีกุจำำเป็น เจ้าหนสี้ตำานมกั คงำำนพคิพณาะกกษรารจมะกยำร่ืนกคฤำษขฎอีกฝำ่ายเดียวต่อศาสลำนใหกั ้มงำีคนำคสณั่งะกกำรหรนมกดำรกฤษฎีกำ
วิธีการอย่างหนึ่งอย่างใดเพ่ือคุ้มครองประโยชน์ของตนไว้ก่อนก็ได้ และถ้าศาลเห็นสมควร จะมีคำสั่ง
อนุญาตโดยไม่ต้อสงำไนตกั ่สงวำนนคกณ็ไดะก้ ใรนรมกกรำณรีกเชฤ่นษวฎ่าีกนำี้ ลูกหน้ีตามคสำำนพกัิพงาำกนษคณาอะการจรยมื่นกคำรำกขฤอษโดฎีกยำพลันให้ศาล
ยกเลิกคำสั่งอนุญาตดังกล่าวได้ คำขอเช่นว่านี้อาจทำเป็นคำขอฝ่ายเดียวโดยได้รับอนุญาตจากศาล
สำนกั แงลำนะคถณ้าศะการลรเมหก็นำสรกมฤคษวฎรีกจำะมีคำส่ังยกเลสำิกนคกั ำงสำน่ังอคนณุญะการตรมนก้ันำโรดกยฤไษมฎ่ตีก้อำงไต่สวนก็ไดส้ คำนำกสั งั่งำขนอคงณศะากลรตรมากมำรกฤษฎีกำ
วรรคนใ้ี หเ้ ป็นทส่ี ุด
สใำนนกกั รงณำนีทคี่ศณาะลกมรรีคมำกสำั่งรคกฤุ้มษคฎรีกอำงประโยชน์ขสอำงนเจกั ้างำหนนค้ีตณาะมกครรำมพกิพำรากกฤษษาฎตีกาำมวรรคสอง
แล้ว คำสง่ั น้นั ยังคงมีผลต่อไปเท่าท่ีจำเปน็ เพื่อปฏบิ ตั ติ ามคำพิพากษาหรอื คำส่งั ของศาล
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำสว่ นท่ี ๔ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
การพิจารณาคำขอบังคับคดี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงำาน๒คณ๗ะ๖ก๒ร๗ร๗มกเมำรื่อกเฤจษ้าฎหีกนำ้ีตามคำพิพากสษำนากั ขงอำนใหค้บณังะคกรับรคมดกีำถรก้าฤศษาฎลีกเหำ็นว่าลูกหนี้
ตามคำพิพากษาได้ทราบหรือถือว่าได้ทราบคำบังคับแล้ว ทั้งระยะเวลาที่กำหนดไว้เพื่อให้ปฏิบัติ
สำนกั ตงาำนมคคณำะบกังรครับมนกำ้ันรไกดฤ้ลษ่วฎงีกพำ้นไปแล้ว แลสะำคนำกั ขงอำนไดค้รณะะบกุขร้รอมคกวำารมกไฤวษ้คฎรีกบำถ้วน ให้ศาลกสำำหนกันงดำวนิธคีกณาะรกบรังรคมับกำรกฤษฎีกำ
คดีตามท่ีบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายนี้และตามมาตรา ๒๑๓ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ
พาณชิ ย์ ดังต่อไปสนำี้ นกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ถ้าการบังคับคดีต้องทำโดยทางเจา้ พนักงานบังคับคดี ให้ศาลออกหมายบงั คับคดี
สำนกั ตงั้งำเนจค้าณพะนกักรรงมานกำบรังกคฤับษคฎดีกีำและแจ้งให้เจส้าำพนนกั ักงำงนาคนณบะังกครับรคมดกำีทรรกาฤบษเฎพีกื่อำดำเนินการต่อสไำปนตกั งาำมนทค่ีกณำะหกนรรดมไกวำ้ รกฤษฎีกำ
ในหมายนัน้
ส(ำ๒น)กั ถงำ้านกคาณรบะกังรครับมคกำดรีอกาฤจษทฎีกำไำด้โดยไม่ต้องสตำั้งนเกัจง้าำพนนคัณกงะากรนรบมังกคำรับกคฤดษีฎใีกหำ้ศาลมีคำสั่ง
สำนกั กงำำหนคนณดวะกธิ รีกรามรกตำารมกทฤีเ่ษหฎ็นีกสำมควรเทา่ ทีส่ สภำานพกั แงหำนง่ คกณาระบกังรครมับกคำดรกีจฤะษเปฎิดีกชำ่องให้กระทำไสดำ้นกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ถ้าเป็นการขอให้ศาลสั่งจับกุมและกักขังลูกหนี้ตามคำพิพากษา ให้ดำเนิน
กระบวนพิจารณาสตำ่อนไกั ปงำตนาคมณบะทกบรัญรมญกตัำริวกา่ ฤดษว้ ฎยีกกำารน้ัน สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๗๖ มาตรา ๒๗๕ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพง่ (ฉบบั ที่ ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๗๗ มาตรา ๒๗๖ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมบั กทำี่ ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๖ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
ในคดีมโนสาเร่ ก่อนออกหมายบังคับคดี หากศาลเห็นเป็นการสมควร ศาลจะออก
สำนกั หงมำนาคยณเระียกกรรลมูกกหำนรกี้ตฤาษมฎคีกำำพิพากษาหรือสบำนุคกั คงลำนอค่ืนณมะากสรอรบมถกำารมกเฤกษี่ยฎวีกกำับการปฏิบัติตสาำมนคกั งำำพนิพคาณกะษกรารเพมก่ือำรกฤษฎีกำ
พิจารณาวา่ สมควรจะออกหมายบงั คับคดีหรือไม่ก็ได้
สใำนนกกั รงณำนีทค่ีผณู้ขะอกบรรงั มคกับำครดกีขฤษอฎใหีก้ดำำเนินการอยสา่ ำงนหกันง่งึ ำอนยค่าณงะใกดรเกรม่ียกวำกรับกกฤาษรฎบีกังำคับคดี หาก
มเี หตุสงสัยวา่ ไม่สมควรบังคับคดีแกท่ รพั ย์สินใดหรือมีเหตุสมควรอย่างอ่นื เพื่อคุ้มครองบุคคลภายนอก
สำนกั ทงี่อำนาคจณไดะ้รกับรรคมวกาำมรเกสฤียษหฎาีกยำจากการดำเนสำินนกกั างรำดนังคกณละ่ากวรรกม่อกนำรทกี่ศฤาษลฎจีกะำมีคำส่ังอนุญสาำตนตกั างมำนคคำขณอะกศรารมลกมำี รกฤษฎีกำ
เอหำ็นนสามจคสว่ังรใเหพ้ผือ่ ู้ขเปอส็นบำนปังกัครงัะบำกนคันคดกณีวาาะรกงชเรงำรินรมะกหคำรรา่ ือกสหฤินษาไฎปหีกมรำะทกดันแตท่อนศสำาหลรตสบั าำนคมกัวจงาำำมนนเวคสนณียหแะกลารยะรอภมนั ากจยำระใกนพฤึรงษเะกฎยดิีกะขำเึ้นวเลนา่อื ทงี่ศจาาลก
สำนกั กงาำนรดคำณเะนกินรกรมากรำบรังกคฤับษคฎีดกำีดังกล่าวถ้าผู้ขสอำนบกั ังงคำับนคคณดีไะมก่รปรฏมิบกัำตริตกาฤมษคฎำีกสำ่ังศาล ให้ศาลสมำนีคกั ำงสำั่งนยคกณคะำกขรรอมใหกำ้ รกฤษฎีกำ
ดำเนินการบังคับคดีนั้นเสียส่วนเงินหรือหลักประกนั ที่วางไว้ต่อศาลดังกล่าว เม่ือศาลเห็นว่าไม่มีความ
จำเป็นทจี่ ะต้องวาสงำไนวกั ต้ ง่อำนไปคจณะะสก่ังรครมืนกหำรรอื กยฤกษเฎลีกิกำประกันน้นั ก็ไสดำ้ นคกั ำงสำงั่นขคอณงะศการลรตมากมำวรกรฤรคษนฎีก้ใี หำเ้ ปน็ ทสี่ ุด
ในกรณีตามวรรคสาม ถ้าเกิดความเสียหายจากการบังคับคดีโดยความผิดหรือ
สำนกั เงลำินนเคลณ่อะขกอรงรผมู้ขกอำรบกังฤคษับฎคีกดำี ผู้ที่ได้รบั ควสามำนเสกั ียงำหนาคยณอะากจรยรื่นมกคำำรรก้อฤงษตฎ่อีกศำาลภายในสามสสำนิบกัวงันำนนคับณแตะก่วรันรทมี่กมำี รกฤษฎีกำ
การดำเนินการบังคับคดีเพือ่ ขอให้ศาลสัง่ ใหผ้ ู้ขอบงั คบั คดชี ดใชค้ ่าสนิ ไหมทดแทนสำหรับความเสียหาย
ท่ีเกิดข้ึนแก่ตนได้สใำนนกกั รงณำนีเชคณ่นวะ่กานรร้ี มใหก้ศำรากลฤมษีอฎำีกนำาจสั่งให้แยกกสาำรนพกั ิจงาำรนณคณาเะปก็นรสรมำนกำวรนกตฤ่าษงฎหีกาำกจากคดีเดิม
และเมื่อศาลไต่สวนแล้วเห็นว่าคำร้องน้ันฟังได้ ใหศ้ าลมีคำสั่งให้ผู้ขอบังคับคดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
สำนกั ตงาำนมคจณำนะกวรนรทมี่กศำารลกเฤหษ็นฎสีกมำควรถ้าบุคคลสำดนังกักงลำ่นาวคไณมะ่ปกฏรริบมัตกิตำรากมฤคษำฎสีกั่งำศาล ผู้ที่ได้รับสคำนวกัางมำเนสคียณหะากยรอรมาจกำรกฤษฎีกำ
ร้องขอให้ศาลบงั คสำบั นคกั ดงีแำนกค่บณคุ ะคกลรนรมน้ั กเสำรมกอื ฤนษหฎนีกึ่งำวา่ เปน็ ลูกหนสตี้ ำานมกั คงำำนพคิพณากะกษรารมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนสค่วณนะทกี่ร๕รมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
การขอใหศ้ าลไตส่ วนเกีย่ วกับกิจการและทรพั ยส์ นิ ของลกู หนตี้ ามคำพิพากษา
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๗๗๒๗๘ ในสกำานรกับงังำคนับคคณดะกี ถร้ารมเจก้าำหรกนฤ้ีตษาฎมีกคำำพิพากษามีเหสำตนุอกั ันงำสนมคคณวะรกเชรร่ือมไกดำ้ รกฤษฎีกำ
ว่าลกู หน้ีตามคำพิพากษามีทรัพย์สินท่ีจะต้องถูกบังคับคดีมากกว่าท่ีตนทราบ หรอื มีทรัพย์สินท่ีจะต้อง
ถูกบังคับคดีแต่ไมส่ทำนรากั บงำวน่าคทณรพัะกยร์สรินมกนำ้ันรตกฤ้ังอษยฎู่หีกำรอื เกบ็ รักษาไสวำท้ น่ีใกัดงำหนรคือณมะีเกหรตรุอมันกำครวกรฤสษงฎสีกัยำว่าทรัพย์สิน
ใดเป็นของลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือไม่ เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจยื่นคำขอฝ่ายเดียวโดยทำ
สำนกั เงปำ็นนคคณำระอ้กงรเรพมอ่ืกใำหรกศ้ ฤาษลฎทีกำำการไต่สวนไดส้ ำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เม่ือมีคำขอตามวรรคหนึ่ง หรือเม่ือศาลเห็นสมควรเพื่อประโยชน์แก่การบังคับคดีใน
คดมี โนสาเร่ ศาลสมำีอนำกั นงาำจนอคอณกะหกรมรามยกเำรรยี กกฤลษูกฎหีกนำี้ตามคำพพิ ากสษำนากัหงรำอืนบคคุณคะลกรอรื่นมทก่ีเำชร่อืกฤวษ่าอฎยีกู่ใำนฐานะที่จะ
สำนกั ใงหำ้ถน้อคยณคะำกอรรันมจกะำเรปก็นฤปษฎระีกโำยชน์มาศาลดส้วำยนตกั นงำเนอคงเณพะือ่ กกรารรมไกตำ่สรกวฤนษเชฎ่นีกวำา่ นั้นได้ และมสีอำนำกันงาำจนสค่ังณใหะก้บรุครมคกลำรกฤษฎีกำ
นั้น ๆ ส่งเอกสารหรือวัตถุพยานซึ่งอยู่ในความยึดถือหรืออำนาจของผู้น้ันอันเก่ียวกับทรัพย์สินของ
ลกู หน้ตี ามคำพพิ าสกำนษกัางำทนค้งั นณ้ี ะตการมรกมำกหำรนกดฤแษลฎะีกเำงอื่ นไขใด ๆ ทสเี่ำหนน็ กั สงำมนคควณระกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนสค่วณนะทก่ีร๖รมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
อำนาจท่วั ไปของเจ้าพนักงานบังคับคดี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๗๘ มาตรา ๒๗๗ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๗ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๗๘๒๗๙ เม่ือศาลได้ออกหมายบังคับคดีต้ังเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว ให้
เจ้าพนักงานบังคสำับนคกั ดงำีมนีอคำณนะการจรใมนกฐำารนกฤะษเปฎ็นีกำเจ้าพนักงานศสาำนลกัในงำกนาครณดะำกเรนรินมกกาำรรกบฤังษคฎับีกคำดีให้เป็นไป
ตามท่ีศาลได้กำหนดไว้ในหมายบังคับคดีและตามบทบัญญัติในลักษณะ ๒ แห่งภาคน้ี ทั้งนี้ จะเรียก
สำนกั ใงหำ้เนจค้าณหะนกี้ตรรามมกคำำรพกิฤพษาฎกีกษำาช่วยเหลือก็สไดำน้ คกั ำงำสน่ังคขณองะกเจร้ารพมกนำักรงกาฤนษฎบีกังำคับคดีในการดสำำเนนกั ินงำกนาครณบะังกครับรคมกดำี รกฤษฎีกำ
ต้องกลา่ วหรอื แสดงเหตผุ ลไวด้ ้วย
สใำหน้เกัจง้าำพนนคัณกงะากนรรบมังกคำับรกคฤดษีมฎีอีกำำนาจในฐานะสเปำน็นกั ผงู้แำนทคนณขะอกงรเรจม้ากหำนรกี้ตฤาษมฎคีกำำพิพากษาใน
อนั ทจี่ ะรับชำระหน้ีหรือทรัพยส์ ินทีล่ ูกหน้ีตามคำพิพากษาหรือบุคคลภายนอกนำมาวางและออกใบรับให้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกเงฤินษทฎ่ีลีกูกำหนี้ตามคำพพิสำานกกั ษงาำนหครณือบะกุครครลมภกำารยกนฤอษกฎนีกำำมาวางโดยมิไสดำเ้ นปกั ็นงผำนลคมณาจะากกรรกมากรำรกฤษฎีกำ
ยดึ หรืออายัด ให้นสำำนมกั างชำำนรคะณหะนก้ีแรรกม่เจก้าำรหกนฤี้ตษาฎมีกคำำพิพากษาผู้ขสอำนบกัังงคำับนคคดณี ะเวก้นรรแมตก่ใำนรกกฤรษณฎีทีกี่มำีเจ้าหน้ีผู้ขอ
เฉล่ียตามมาตรา ๓๒๖ อยู่ก่อนแล้วในขณะท่ีมีการวางเงินน้ัน ก็ให้ถือว่าเป็นเงินท่ีได้ยึดหรืออายัดไว้
สำนกั ตงาำมนคบณทะบกัญรรญมัตกิใำนรกลฤักษษฎณีกะำ ๒ แห่งภาคนสำี้ แนตกั ใ่งหำน้ไดคร้ณับะยกกรรเมวน้กำคร่ากธฤรษรฎมีกเนำียมในการบังคสำับนคกั ดงีำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทำบันทึกวิธีการบังคับคดีท้ังหลายที่ได้จัดทำไปและเก็บ
รกั ษาไวใ้ นทป่ี ลอดสำภนยั กั งแำลน้วครณายะกงรารนมตกอ่ ำศรกาฤลษเปฎน็ ีกรำะยะ ๆ ไป สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในการปฏิบัตหิ น้าทข่ี องเจา้ พนักงานบังคับคดี เจ้าพนกั งานบังคบั คดีจะมอบหมายให้
สำนกั บงุำคนคคลณอะ่ืนกรปรฏมิบกำัตริกกฤารษแฎทีกำนก็ได้ ทั้งน้ี สตำานมกั คงำุณนคสณมะบกัตริรหมกลำักรเกกฤณษฎฑีก์ ำวิธีการ และเสง่ือำนนกั ไงขำทนค่ีกณำหะกนรดรมในกำรกฤษฎีกำ
กฎกระทรวง
สใำหน้หกั ักงำคน่าคธณระรกมรเรนมียกมำรเกจฤ้าษพฎนีกักำงานบังคับคดสีตำนากัมงตำนารคาณงะก๕รรทม้ากยำรปกรฤะษมฎวีกลำกฎหมายน้ี
สำนกั เคงพลำ่ือนังใเคหปณ้็กนะรรกมารยบรไมังดคก้แำับรผคก่นดฤดีพษินฎจิ ีกาทรำณ้ังนาี้จต่าายมเปท็่ีนรัฐคสมา่ำนตนตอกั รงบำีวแนา่ ทคกนณาแระกกกรร่ผระู้ทมท่ีไกดรำว้รรงับกยฤมุตษอิธฎบรีกหรำมมกายำหตนามดวโดรรยคไสดหำ้นร้าับโกั ดงคำยวนไามคมณ่ตเห้อะกง็นนรชรำอมสบก่งำรกฤษฎีกำ
จากกระทรวงการสคำลนงักั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๗๙๒๘๐ ใหส้เำจน้ากั พงนำนักคงณานะกบรังรคมับกำครดกีฤรักษฎษีกาำไว้โดยปลอดภสัยำนซกั ่ึงงเำงนินคณทระกัพรยร์สมินกำรกฤษฎีกำ
และเอกสารที่ไดม้ าตามอำนาจหน้าท่ขี องตน รวมท้ังให้มอี ำนาจขัดขวางมใิ หบ้ ุคคลใดสอดเข้าเกี่ยวข้อง
โดยมิชอบด้วยกฎสหำนมกัางยำกนับคเณงินะกหรรรือมทกำรรัพกยฤ์สษินฎหีกำรือเอกสารเช่นสวำน่านกั งั้นำนตคลณอะดกจรนรมมกีอำำรนกาฤจษตฎิดีกตำ ามและเอา
คนื ซ่งึ เงนิ หรือทรพั ยส์ ินหรือเอกสารดงั กลา่ วจากบุคคลผู้ไมม่ สี ทิ ธจิ ะยึดถือเอาไว้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกในฤษกฎารีกดำำเนินการตาสมำวนรกั รงคำนหคนณ่ึงะเกมรื่อรมมีคกำวรากมฤจษำฎเีกปำ็น เจ้าพนักงาสนำบนังกั คงำับนคคดณีมะีอกำรนรมากจำรกฤษฎีกำ
แจง้ ใหพ้ นักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชว่ ยเหลอื ได้ ในกรณเี ช่นนี้ พนักงานฝ่ายปกครองหรอื ตำรวจมี
อำนาจจับกุมและสคำนวกบั งคำุมนตคัวณผะู้สกรอรดมเกขำ้ารเกกฤี่ยษวฎขีก้อำงหรือผู้ไม่มีสิทสำธนิจกั ะงยำนึดคถณือตะการมรวมรกรำครหกฤนษ่ึงฎไดีก้เำท่าที่จำเป็น
สำนกั ใงนำกนาครณปะฏกบิรรัตมิหกนำรา้ กทฤ่ีขษอฎงีกเจำ้าพนกั งานบังสคำับนคกั ดงำี นคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๗๙ มาตรา ๒๗๘ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพง่ (ฉบบั ที่ ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๘๐ มาตรา ๒๗๙ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๘ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
มาตรา ๒๘๐๒๘๑ ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจส่งเอกสารเกี่ยวกับการบังคับคดี
สำนกั ตงาำนมคคณำพะกิพรารกมษกำารหกรฤือษคฎำีกสำ่ังตามบทบัญสญำัตนิใกั นงลำนักคษณณะะกร๒รมแกหำร่งกภฤาษคฎนีก้ี ำและให้รายงาสนำกนากั รงสำน่งคเอณกะสการรรนมกั้นำรกฤษฎีกำ
รวมไว้ในสำนวนการบังคับคดีด้วย ทั้งนี้ ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๖๘ มาตรา ๗๓ มาตรา ๗๔
มาตรา ๗๖ มาตรสาำน๗กั ๗งำนมคาตณระากร๗ร๘มกแำรลกะฤมษาฎตีกรำา ๘๐ มาใช้บสงั คำนบั กั โงดำยนอคนณโุ ะลกมรรมกำรกฤษฎีกำ
นอกจากการส่งเอกสารตามวรรคหน่ึง ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจสั่งให้ส่งโดย
สำนกั ทงาำนงไคปณระษกณรรยี มล์ กงำทรกะฤเบษียฎนีกตำ อบรบั หรือโดสยำนทกัางงำไนปครณษณะกยี ร์ดรม่วกนำพรเิกศฤษษใฎนีกปำระเทศก็ได้ โดสยำนใหกั ง้ผำู้มนหี คนณา้ ะทก่ีนรรำมสก่งำรกฤษฎีกำ
บเปัง็นคผบั ู้เคสดียเีคป่า็นใชผ้จูส้ ่าง่ สยแำลกนะรกั ใณงหำีเน้นชคำ่นบณวทะ่ากบนรญั้ี รใหมญก้ถัตำือิมรวกา่าฤตเษอรากฎีสก๗ำา๔รทมี่สา่งตโดรายเ๗จ้า๖สพำแนนลักกั ะงงำมานนาคไตปณรราะษก๗ณร๗รียม์มมกำีผารใลกชเฤสบ้ ษมังฎคือีกบันำเโจด้ายพอนนักุโลงามน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกถฤ้าษกฎาีกรำส่งเอกสารไมส่สำานมกั างำรนถคจณะะทกำรไรดม้ดกัำงรทกี่บฤัญษฎญีกัตำิไว้ตามวรรคสหำนนึ่งกั แงำลนะควณระรกครสรมอกงำรกฤษฎีกำ
เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจส่ังให้ส่งโดยวิธีอื่นแทนได้ กล่าวคือ ปิดเอกสารไว้ในท่ีแลเห็นได้ง่าย ณ
ภมู ิลำเนาหรอื สำนสำกั นทกั ำงกำนารคงณาะนกขรอรงมบกุคำรคกลฤผษมู้ ฎชี ีก่อื ำระบไุ ว้ในเอกสสำานรกั หงรำนือคมณอบะกหรมรามยกเำอรกกฤสษารฎไีกวำแ้ ก่พนกั งาน
ฝ่ายปกครองหรือตำรวจแล้วปิดประกาศแสดงการที่ได้มอบหมายดังกล่าวแล้ว หรือลงโฆษณา หรือ
สำนกั ทงำำนวคิธณีอื่นะกใรดรตมากมำทรก่ีเหฤษ็นฎสีกมำควร ทั้งนี้ ใหส้มำนีผกัลงใำชน้ไคดณ้ตะ่อกเมรรื่อมกกำำหรกนฤดษเวฎลีกาำสิบห้าวันหรือสรำะนยกั ะงำเนวลคาณนะากนรรกมวก่าำรกฤษฎีกำ
น้นั ตามที่เจ้าพนักงานบงั คับคดีเห็นสมควรกำหนดไว้ล่วงพ้นไปแล้ว นบั แต่เวลาทีเ่ อกสารหรอื ประกาศ
แสดงการมอบหมสาำยนนกั งั้นำไนดค้ปณิดะไกวร้หรรมือกกำรากรฤโษฆฎษีกณำาหรือวิธีอื่นใสดำตนากั มงทำนี่เจค้าณพะนกรักรงมากนำบรกังฤคษับฎคีกดำีสั่งน้ันได้ทำ
หรือไดต้ ้งั ต้นแล้ว
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกกฤาษรสฎ่ีงกเำอกสารให้แก่คสำู่คนวกั างมำแนลคณะบะกุครครลมภกำารยกนฤอษกฎีกณำ ภูมิลำเนาหสรืำอนสกั ำงนำนักคทณำกะการรรงมานกำรกฤษฎีกำ
ของบุคคลดังกล่าสวำนนอกั กงำรนาคชณอาะณกรารจมกั กรำรถก้าฤไษมฎ่มีกีขำ้อตกลงระหวส่าำงนปกั รงะำเนทคศณทะีป่ กรระรมเทกศำรไกทฤยษเปฎ็ีกนำภาคีกำหนด
ไว้เป็นอย่างอื่น เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจส่ังให้ส่งโดยทางไปรษณีย์ด่วนพิเศษระหว่างประเทศ
สำนกั หงรำนือคผณู้ปะรกะรกรอมบกกำริจกกฤาษรฎรีกับำส่งพัสดุภัณฑส์รำะนหกั วง่าำนงปครณะะเกทรศรมหกรำือรกโดฤษยฎผี่กานำ กระทรวงยุตสิธำรนรกั มงแำนลคะณกระะกทรรรมวกงำรกฤษฎีกำ
การต่างประเทศ หากไม่อาจกระทำได้เพราะเหตุท่ีภูมิลำเนาและสำนักทำการงานของบุคคลดังกล่าว
ไม่ปรากฏหรือเพรสาำนะเกั หงตำนอุ คื่นณใดะกหรรรือมเกมำอ่ื รไกดฤ้ดษำฎเนีกำินการสง่ ใหแ้ กสค่ ำู่คนวกั างมำนหครณือะบกุครครมลกภำารยกนฤอษกฎแีกลำ้วแตไ่ ม่อาจ
ทราบผลการส่งได้ ถ้าเจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นสมควร ให้มีอำนาจสั่งให้ส่งเอกสารโดยวิธีอื่นแทนได้
สำนกั กงลำน่าควคณือะกปริรดมเอกกำรสกาฤรษไวฎ้ใีกนำท่ีแลเห็นได้งส่าำยนณกั งำสนำคนณักะงการนรทมกี่ตำั้งรขกอฤงษเฎจีก้าพำ นักงานบังคับสคำนดกั ี หงำรนือคลณงะโกฆรษรณมกาำรกฤษฎีกำ
หรอื ทำวธิ อี นื่ ใดตามที่เห็นสมควร สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๘๑๒๘๒ เจ้าพนักงานบังคับคดีจะต้องดำเนินการบังคับคดีในวันทำการงาน
สำนกั ปงกำนตคิใณนเะวกลรารมระกหำรวก่าฤงษพฎรีกะำอาทิตย์ขึ้นแลสะำนพกัรงะำอนาคทณิตะยก์ตรรกมกถำ้ารยกังฤไษมฎ่แีกลำ้วเสร็จประกอสบำกนักบั งมำีคนวคาณมะจกำรเรปม็นกำรกฤษฎีกำ
และสมควรจะกรสะำทนำกั ตงอ่ ำนไปคใณนะเกวลรรามหกลำังรพกฤระษอฎาีกทำิตย์ตกก็ได้ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่มีความจำเป็นและสมควร ศาลจะอนุญาตให้ดำเนินการบังคับคดีนอกวัน
สำนกั ทงำำนกคารณงะากนรปรมกกตำิหรกรืฤอษในฎเีกวำลาหลังพระอสาำทนิตกั ยง์ตำนกคกณ็ไดะ้กรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในการดำเนินการบังคับคดีแก่ลูกหนี้ตามคำพิพากษา ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแสดง
หมายบังคับคดีใหสำ้ลนูกกั หงำนนี้ตคาณมะคกำรพรมิพกาำกรกษฤาษผฎู้คีกำรอบครองหรสือำผนู้ดกั ูแงำลนทครณัพะยก์รสรินมทก่ีจำระกถฤูกษบฎังีกคำับคดีทราบ
ถ้าบุคคลดังกล่าวไม่อยู่หรือไม่อาจแสดงหมายบังคับคดีแก่บุคคลดังกล่าวได้ด้วยเหตุใด ๆ ให้เจ้าพนักงาน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๘๑ มาตรา ๒๘๐ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพง่ (ฉบบั ที่ ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๘๒ มาตรา ๒๘๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๒๙ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
บังคับคดีปิดสำเนาหมายบังคับคดีไว้ในท่ีแลเห็นได้ง่าย ณ สถานท่ีท่ีดำเนินการบังคับคดีนั้น ในกรณี
สำนกั เงชำน่ นวคา่ ณนะ้ี กใหรรถ้ มอื กวำา่ รเกปฤ็นษกฎาีกรำแสดงหมายบสังำคนับกั คงดำนใี หคบ้ณคุะกครลรดมงั กกำลรกา่ วฤทษฎราีกบำแลว้ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๒ค๘ณ๒ะก๒๘ร๓รมใกนำรกกรฤณษีทฎีม่ีกีเำหตุอนั ควรเชอื่สำวนา่ กัมงีทำรนัพคยณ์สะนิกรขรอมงกลำูกรหกฤนษี้ตฎาีกมำคำพิพากษา
หรือมีบัญชีเอกสาร จดหมาย หรือวัตถุอื่นใดเก่ียวกับทรัพย์สินหรือกิจการของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
สำนกั องยำนู่ในคสณถะกานรรทมี่ใกดำรๆกฤทษี่ลฎูกีกหำน้ีตามคำพิพสาำกนษกั างคำนรคอณบะคกรรอรงมหกรำรือกคฤรษอฎบีกคำรองร่วมกับผสู้อำื่นนกั ใงหำน้เจค้าณพะนกักรรงมากนำรกฤษฎีกำ
อบ่ืนังคใดับอคันดเีมกีอ่ียำวนกาับจสทคำรน้นัพกั สงยถำ์สานนินคทหณี่ดระืกังอกรกรลิจม่ากกวาำรรทกข้ังฤอมษงีอฎลำีูกกนำหาจนตี้ตราวมจคสำอพบิพสแาำลนกะกัษยงาึดำมนบาคัญเณพชะ่ือี กเตอรรรกมวสจกาสำรรอกจบฤดไษหดฎ้มีกแาำลยะมหีอรือำนวตัาจถุ
สำนกั กงรำะนทคณำกะากรรใรดมกๆำรตกาฤมษทฎจ่ี ีกำำเปน็ เพือ่ เปดิ สสำถนากั นงทำนี่ดคงั ณกละก่าวรรรมวกมำทรัง้กตฤู้นษิรฎภีกยัำ ตู้ หรอื ท่เี กบ็ สขำอนงกั องำ่ืนนคๆณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๒ค๘ณ๓ะก๒๘ร๔รมใกนำรกกรฤณษีทฎ่ีมีกีเำหตุอนั ควรเชื่อสำวน่ากัมงีทำรนัพคยณ์สะินกรขรอมงกลำูกรหกฤนษี้ตฎาีกมำคำพิพากษา
หรือมีบัญชี เอกสาร จดหมาย หรือวัตถุอื่นใดอันเก่ียวกับทรัพย์สินหรือกิจการของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
สำนกั องยำนู่ในคสณถะากนรทรม่ีทก่ีบำรุคกคฤลษอฎ่ืนีกคำรอบครองอยสู่ เำจน้ากั หงนำนี้ตคาณมคะกำรพริพมากกำษรกาฤอษาฎจีกยำ่ืนคำขอฝ่ายเดสียำวนโดกั ยงำทนำคเปณ็นะกครำรรม้อกงำรกฤษฎีกำ
ต่อศาลเพื่อขอให้ศาลออกหมายค้นสถานที่นั้น เมื่อได้รับคำร้องเช่นว่านี้ ให้ศาลไต่สวนโดยไม่ชักช้า
ถ้าเป็นที่พอใจจากสำพนยกั างนำนหคลณักะฐการนรทม่ีเกจำ้ารหกนฤษตี้ ฎามีกำคำพิพากษาไดส้นำนำกัมงาำสนืบคหณระอื กทรรีศ่ มากลำไรดก้เฤรษียฎกีกมำาสืบเองว่ามี
เหตุอันควรเชื่อตามท่ีร้องขอ ให้ศาลมีอำนาจออกหมายค้นสถานท่ีน้ันเพื่อให้เจ้าพนักงานบังคับคดี
สำนกั ตงรำนวจคสณอะบกรแรลมะกยำดึรกทฤรษัพฎยีก์สำินหรือส่ิงต่างสๆำนดกั ังงกำนลค่าวณภะกายรรใมนกขำอรบกเฤขษตฎแีกลำะเงอื่ นไขตามสทำี่ศนกาั ลงำเนหค็นณวา่ะกจรำรเปมก็นำรกฤษฎีกำ
ถ้าศาลมคี ำสัง่ ยกคสำำนขกัองคำำนสคั่งณเชะน่กรวร่ามนกัน้ ำใรหก้เฤปษน็ ฎทีก่ีสำดุ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๘๔๒๘๕ ใหส้เจำน้ากัพงนำนักคงาณนะกบรังรคมับกคำรดกีมฤีอษำฎนีกาำจดำเนินการสไปำนตกั างมำคนควาณมะจกำรรเปม็กนำรกฤษฎีกำ
และสมควรแห่งพฤติการณ์เพ่ือดำเนินการบังคับคดีจนได้ ในกรณีทีม่ ีผู้ขดั ขวางหรือมเี หตอุ ันควรเชื่อว่า
จะมีผู้ขัดขวาง เจส้าำพนกันงักำงนาคนณบะักงครรับมคกดำรีมกีอฤำษนฎาีกจำแจ้งให้พนักงสาำนนฝกั ่างำยนปคกณคะรกอรงรหมกรำือรตกำฤรษวฎจีกชำ่วยเหลือได้
ในการนี้ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรอื ตำรวจมอี ำนาจจบั กมุ และควบคุมตัวผูข้ ัดขวางได้เทา่ ทีจ่ ำเปน็ แก่
สำนกั กงาำรนปคฏณิบะกัตริหรนมา้กทำร่ีขกอฤงษเจฎา้ีกพำนักงานบงั คบั สคำนดกัี งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๒ค๘ณ๕ะก๒ร๘ร๖มกคำวรากมฤรษับฎผีกิดำทางละเมิดตสาำมนปกั รงะำนมควณลกะกฎรหรมมกาำยรแกพฤ่งษแฎลีกะำพาณิชย์ต่อ
ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือต่อบุคคลภายนอกเพ่ือความเสียหายท่ีเกิดจากหรือเก่ียวเนื่องกับการยึด
สำนกั องาำยนัดคณหะรกือรขรมายกำทรรกัพฤยษ์สฎินีกำโดยมิชอบหรือสำเกนินกั งกำวน่าคทณ่ีจะำกเรปร็นมแกกำร่กกาฤรษบฎังีกคำับคดี หรือการสบำังนคกั ับงำคนดคีโณดะยกมริชรมอกบำรกฤษฎีกำ
ในกรณีอ่ืนย่อมไมสำ่ตนกกั แงกำน่เจค้าณพะกนรักรงมากนำรบกังฤคษับฎคีกดำี แต่ตกอยู่แกส่เำจน้ากั หงำนน้ีตคาณมะคกำรพรมิพกาำรกกษฤาษฎเวีก้นำแต่ในกรณี
เจ้าพนักงานบงั คบั คดไี ดก้ ระทำการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายน้ี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ความแพง่ (ฉบบั ท่ี ๓ส๒๐ำ๘น๓) กัพมง.าศำตน.ร๒คาณ๕๒๖ะ๘ก๐๒รรแมกก้ไำขรเกพฤิ่มษเตฎิมีกโำดยพระราชบัญสญำัตนิแกั กง้ไำขนเพคณ่ิมเะตกิมรปรรมะกมำวรลกกฤฎษหฎมีกาำยวิธีพิจารณา
๒๘๔ มาตรา ๒๘๓ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมบั กทำี่ ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๘๕ มาตรา ๒๘๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพง่ (ฉบบั ที่ ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๘๖ มาตรา ๒๘๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมับกทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๐ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ในกรณีท่ีความรับผิดตกแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีตามวรรคหนึ่ง และเป็นเร่ืองความ
สำนกั รงับำนผคิดณทะากงรลระมเกมำิดรกขฤอษงฎเจีก้าำหน้าที่ในการสปำนฏกัิบงัตำนิหคนณ้าะทก่ี รกรามรกใำชร้สกิทฤษธฎิฟีก้อำงคดีต่อศาลตสาำมนกกั ฎงำหนมคาณยะวก่ารดรม้วกยำรกฤษฎีกำ
ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าท่ีหรือตามกฎหมายอ่ืนไม่ว่าโดยบุคคลใด ให้อยู่ในอำนาจของศาล
ยุตธิ รรม สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ถ้าเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ยึดทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้องอันจะต้องยึดหรือ
สำนกั องาำนยัดคณหะรกือรไรมม่ขกาำรยกทฤรษัพฎยีก์สำิน หรือไม่ดำสเนำนินกักงาำรนบคังณคะับกครรดมีใกนำกรรกณฤษีอฎื่นีกำหรือไม่กระทำสกำานรกั ดงังำกนลค่ณาวะภการรยมในกำรกฤษฎีกำ
เเวปล็นาเอหันตคุใหว้เรจโ้าดหยนจสต้ีงำนาใจมกั หคงำรำนพือคปิพณราะกากศษรจรามาไดกก้รำคับรวกคาฤวมษารฎมะีกเมสำัดยี รหะาวยังใหหรน้ ือำโคสดำวยนาสกัมมงใำรนนู้เวปคร็ณนรคใะจกสกรอรับงมมลกาูกำใรหชกนบ้ ฤ้ีตังษคาฎับมีกโคำดำยพอิพนาุโกลมษา
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๘๖๒๘๗ ในกรณีที่มีกฎหมายบัญญัติให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมาย
วิธพี จิ ารณาความสแำพน่งกั ไงปำนใชคบ้ ณังะคกบั รโรดมยกอำรนกโุ ฤลษมฎกีกบั ำการดำเนนิ กาสรำบนกัังคงำบั นคคดณตี ะากมรครมำกพำิพรากกฤษษฎาหีกำรอื คำสั่งของ
ศาลอื่นทไ่ี มใ่ ช่ศาลยุติธรรม คำวา่ ศาลยุตธิ รรม ตามมาตรา ๒๘๕ วรรคสอง ให้หมายถึงศาลนนั้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สว่ นท่ี ๗
สำนกั งำนคณะกรรมกผำ้มู รกีสฤ่วษนฎไดีกเ้ำสียในการบงั คสับำนคกัดงี ำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๘๗๒๘๘ บุคคลผมู้ ีส่วนไดเ้ สยี ในการบงั คบั คดี ไดแ้ ก่
ส(ำ๑น)กั เงจำ้านหคนณ้ีตะการมรคมำกพำริพกาฤกษษฎาีกำลูกหน้ีตามคำสพำนิพกั างกำษนคาณแะลกะรใรนมกกำรรณกีทฤษี่มฎีกีกาำรอายัดสิทธิ
สำนกั เงรำยี นกครณอ้ ะงกใรหร้รมวกมำรถก(ึง๒ฤล)ษูกบฎหคุีกนคำ้ีแลหผง่ มู้ สีทิทรธพั เิ รยยีสกิทสรำธอ้นิหงกั รงือผำไนู้ทดคร้จงณดสะททิกะธรเริเบรมียยี กนกำสรรกอ้ิทฤงธษิขหฎอรีกงือตำผนู้รเบักย่ีโอวนกสบั ิททธรสิเัพรำยยีน์สกกั ินรง้อำทนงี่ถคนกู ณัน้ บะดังกว้ครยับรคมดกำี รกฤษฎีกำ
ส(ำ๓น)กั บงำุคนคคลณซะึ่งกไรดร้มยกื่นำครกำรฤ้อษงฎขีกอำ ตามมาตราส๓ำน๒กั ๓งำนมคาณตระการ๓รม๒ก๔ำรกมฤาษตฎรีกาำ๓๒๖ และ
มาตรา ๓๒๙ เก่ียวกับทรัพย์สินหรอื สิทธเิ รียกรอ้ งทถี่ ูกบงั คบั คดี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๔ฤ)ษฎบีกุคำคลผู้เป็นเจ้าขสอำนงรกั วงมำนหครณือะบกุครครมลกผำู้มรีบกฤุรษิมฎสีกิทำธิ สิทธิยึดหน่วสงำนหกั รงืำอนสคิทณธะิอกื่นรตรมากมำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๓๒๒ เกย่ี วกับทรัพยส์ ินหรือสทิ ธิเรียกรอ้ งท่ีถกู บงั คับคดี
ส(๕ำน)กั บงคุำนคคลณอะนื่ กใรดรซมึง่ กตำอ้รกงเฤสษยี ฎหีกาำยเพราะเหตุแสหำง่นกกั างรำนดคำเณนะนิ กกรารรมบกงัำรคกับฤคษดฎนี ีกน้ัำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ ๒๘๘๒๘๙ นสอำกนจกั งาำกนสคิทณธะกิอรื่นรตมกาำมรทกีฤ่บษัญฎญีกำัติไว้ในประมสวำลนกกั ฎงำหนคมณายะกนรี้แรมลก้วำรกฤษฎีกำ
ให้ผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีมีสิทธิดังต่อไปน้ี
ส(ำ๑น)กั องำยนู่รคู้เณห็ะนกดร้วรมยกในำรกกาฤรษดฎำีกเำนินการบังคับสคำนดกั ีทง่ีตำนนคมณีสะ่วกนรรไมดก้เสำรียกฤแษตฎ่ตีก้อำงไม่ทำการ
สำนกั ปง้อำนงคกณันหะกรรือรขมัดกขำรวกาฤงกษาฎรีกบำังคบั คดี รวมทสำงั้ นเขกั า้งำสนรู้ คาคณาะหกรรรือมหกาำบรกคุ ฤคษลฎอีก่นื ำเขา้ สูร้ าคาในกสาำรนขกั างยำนทคอณดะตกลรารดมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๘๗ มาตรา ๒๘๖ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำี่ ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๘๘ มาตรา ๒๘๗ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพง่ (ฉบบั ที่ ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๘๙ มาตรา ๒๘๘ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำี่ ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๑ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
(๒) ขออนุญาตตรวจหรือคัดสำเนาเอกสารอันเกี่ยวด้วยการบังคับคดีทั้งหมดหรือ
สำนกั แงตำน่บคาณงฉะกบรับรมหกำรรือกขฤอษใฎหีก้เำจ้าพนักงานบสังำคนับกั คงำดนีคคัดณหะรกือรรรมับกรำอรงกสฤำษเฎนีกาำเอกสารน้ันโดสยำเนสกั ียงคำน่าคธณรระมกเรนรมียกมำรกฤษฎีกำ
ตามทีร่ ะบุไว้ในตาราง ๒ ทา้ ยประมวลกฎหมายนี้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ ส่วนท่ี ๘ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกกัางรำงนดคกณาระกบรังรคมับกคำรดกี ฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๘๙๒๙๐ ใหเ้ จา้ พนกั งานบังคบั คดงี ดการบงั คบั คดีในกรณดี ังต่อไปนี้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤ)ษเฎมีกื่อำศาลไดม้ ีคำสั่งสใำหน้งกั ดงำกนาครณบังะคกรับรคมดกีเำพรกราฤะษเฎหีกตำุมีการยืน่ คำขอสใำหน้พกั งจิ ำานรคณณาะคกดรรีใหมกมำ่ รกฤษฎีกำ
และได้แจ้งให้เจ้าสพำนนกั ักงำงนาคนณบะังกครับรมคกดำีทรกรฤาษบฎตีกาำมที่บัญญัติไวส้ใำนนมกั างตำนรคาณ๑ะก๙ร๙รมเกบำญรกจฤษวฎรีกรำคหนึ่ง หรือ
มาตรา ๒๐๗
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกในฤษกฎรณีกำีดังกล่าว ถ้าเสจำ้านหกั นงี้ำตนาคมณคะำกพริพรมากกำษรากยฤ่ืนษฎคีกำรำ้องว่าตนอาจสไำดน้รกัับงคำนวคามณเะสกียรหรมากยำรกฤษฎีกำ
จากการย่ืนคำขอดังกล่าวและมีพยานหลักฐานเบื้องต้นแสดงว่าคำขอน้ันไม่มีมูลและย่ืนเข้ามาเพ่ือ
ประวิงการบังคับสคำนดกั ี งศำานลคมณีอะกำนรรามจกสำ่ัรงกใหฤษ้ลฎูกีกหำน้ีตามคำพิพสาำกนษกั งาำวนาคงณเงะินกหรรรมือกหำรากปฤรษะฎกีกันำตามที่ศาล
เห็นสมควรภายในระยะเวลาที่ศาลจะกำหนด เพ่ือเป็นประกันการชำระค่าสินไหมทดแทนแก่เจ้าหนี้
สำนกั ตงาำนมคคณำพะกิพรารกมษกาำรสกำฤหษรฎับีกคำวามเสียหายทสำี่อนากั จงไำดน้รคับณเนะก่ือรงรจมากกำเรหกตฤุเษนฎ่ินีกชำ้าในการบังคับสำคนดกั ีองันำนเกคิดณจะากกรรกมากรำรกฤษฎีกำ
ย่ืนคำขอนั้น หรือกำหนดวิธีการช่ัวคราวเพื่อคุ้มครองอย่างใด ๆ ตามท่ีเห็นสมควรก็ได้ ถ้าลูกหน้ีตาม
คำพพิ ากษาไม่ปฏสบิ ำนัตกติั งาำมนคคำณสะั่งกศรารลมกใหำรศ้ กาฤลษสฎ่งั ีกเพำ ิกถอนคำส่ังทสี่ใำหนกั้งดงำกนาครณบะังกครบั รคมดกีำรกฤษฎีกำ
สำนกั คงดำนีทครณาบะกในรรกมรกณำรีเกช(๒ฤ่น)ษนเฎี้ใมีกหื่อำ้เศจา้าลพไนดัก้มงีคาำนสบสั่งังำใหนคกั้งับดงคำกดนาีงครดณบกะังากครรับบรคมังดกคำีับแรคกลดฤะษีไไวดฎ้ภ้สีกา่งำยคใำนสร่ังะนยั้นะไเปวใลหสาำ้เหจนร้ากั ือพงเำนงนื่อักคนงณาไะนขกตบราังรมคมทับกำี่ รกฤษฎีกำ
ศาลกำหนด สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) เมื่อเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้แจ้งเป็นหนังสือไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าตน
สำนกั ตงกำนลคงงณดะกการรรมบกังำครับกคฤดษีไฎวีก้ชำ่ัวระยะเวลาทสี่กำนำหกั งนำดนไควณ้หะรกือรภรมายกใำนรกเงฤ่ือษนฎไีกขำอย่างใดอย่างสหำนนึ่งกั โงดำยนไคดณ้ระับกครวรมามกำรกฤษฎีกำ
ยินยอมเป็นหนงั สือจากลกู หนีต้ ามคำพพิ ากษาและบคุ คลภายนอกผ้มู ีสว่ นไดเ้ สียในการบังคับคดี
ส(๔ำน)กั เงมำอ่ืนเคจณา้ หะกนรผ้ี รู้ขมอกบำรงั กคฤบั ษคฎดีกไี ำม่ปฏบิ ัตติ ามมสาำตนรกั างำ๑นค๕ณ๔ะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีส่งคำบอกกล่าวงดการบังคับคดีให้เจ้าหน้ีตามคำพิพากษา
สำนกั แงลำนะคบณุคะคกลรภรามยกนำรอกกฤผษู้มฎีสีก่วำนได้เสียทราบสำโดนยกั งไมำน่ชคกั ณชะ้ากเรวร้นมแกตำร่จกะฤไษดฎ้งีกดำการบังคับคดีตสาำนมกัคงำำขนอคขณอะงกบรุครมคกลำรกฤษฎีกำ
นนั้ เอง สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีากำ๒๙๐๒๙๑ ลูกสหำนนี้ตกั งาำมนคคำณพะิพการรกมษกาำอรากจฤยษื่นฎีคกำำร้องต่อศาลใหสำ้งนดกั กงาำรนบคังณคะับกครรดมีไกวำ้ รกฤษฎีกำ
โดยเหตุท่ีตนได้ย่ืนฟ้องเจ้าหน้ีตามคำพิพากษาเป็นคดีเร่ืองอนื่ ในศาลเดียวกันนั้นไว้แล้ว ซ่ึงศาลยังมิได้
วินิจฉัยช้ีขาดแลสะำถน้ากั หงาำนกคตณนะเกปร็นรมฝก่าำยรชกนฤษะฎจีกะำไม่ต้องมีการยสำึดนกัองาำยนัดคณขะากยรทรมอกดำตรกลฤาษดฎหีกำรือจำหน่าย
ทรัพยส์ ินของลกู หน้ีตามคำพิพากษาโดยวิธอี ืน่ เพราะสามารถจะหกั กลบลบหน้ีกนั ได้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๙๐ มาตรา ๒๘๙ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพ่ง (ฉบบั ท่ี ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๙๑ มาตรา ๒๙๐ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมับกทำี่ ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๒ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ถ้าศาลเห็นวา่ ข้ออา้ งของลกู หนีต้ ามคำพิพากษามีเหตุฟังได้ ศาลอาจมีคำสั่งใหง้ ดการ
สำนกั บงังำนคคับณคะดกีไรวร้คมำกสำั่งรนกี้อฤษาจฎอีกยำ ู่ภายใต้บังคับสเำงนื่อกั นงำไขนหคณรือะกเงร่ือรนมกเวำลรกาฤใดษฎๆีกำหรือไม่ก็ได้ แสลำะนศกั างลำนจคะณมีคะกำรสรั่งมใหกำ้ รกฤษฎีกำ
ลูกหน้ีตามคำพิพากษาวางเงินหรือหาประกันต่อศาลตามจ ำนวนท่ีเห็นสมควรภายในระยะเวลาท่ี
กำหนดเพ่ือเป็นปสรำะนกกั นั งำกนาครณชำะรกะรหรมนกี้ตำารมกฤคษำพฎีกิพำากษาและคา่ สสำินนไกัหงมำทนคดณแทะกนรแรกม่เกจำา้รหกฤนษตี้ ฎาีกมำคำพิพากษา
สำหรบั ความเสยี หายท่ีอาจได้รับเนื่องจากเหตุเน่ินช้าในการบังคับคดีอันเกดิ จากการย่ืนคำร้องน้ันด้วยก็ได้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกคฤำษสฎัง่ ขีกอำงศาลตามมาสตำรนากั นงี้ใำหนเ้คปณน็ ะทกี่สรุดรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๒ค๙ณ๑ะก๒ร๙๒รมใกนำรกกรฤณษีทฎ่ีเีกจำ้าพนักงานบังสคำับนคกั ดงำีไนดค้งณดกะการรรบมังกคำับรกคฤดษีไวฎ้ตีกาำมคำสั่งของ
สำนกั ศงาำนลคใณหะ้เกจร้ารพมนกักำรงกาฤนษบฎังีกคำับคดีดำเนินกสาำรนบกั งังำคนับคคณดะีตก่อรรไมปกเมำร่ือกไฤดษ้รฎับีกคำำสั่งจากศาลสโำดนยกั ศงำานลคเปณ็นะกผรู้อรอมกกำรกฤษฎีกำ
คำสั่งนั้นเองหรือโดยเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเป็นผู้ย่ืนคำขอให้ศาลออกคำส่ัง เน่ืองจากระยะเวลาท่ีให้
งดการบังคับคดีนส้ันำนไดกั ้ลงำ่วนงคพณ้นะไกปรแรมลก้วำรหกรฤือษมฎิไีกดำ้เป็นไปตามเงสื่อำนนไกั ขงทำน่ีศคาณละไกดร้กรำมหกนำรดกไฤวษ้ หฎรีกือำ คดีน้ันศาล
อุทธรณ์หรือศาลฎกี าไดพ้ พิ ากษายืนหรอื ไม่มีความจำเป็นท่ีจะต้องงดการบังคับคดีอีกต่อไปแลว้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกในฤษกรฎณีกำีท่ีเจ้าพนักงานสำบนังกั คงับำนคคดณีไดะ้งกดรรกมากรำบรังกคฤับษคฎดีกำีไว้ตามมาตราส๒ำน๘กั ๙งำ(น๓ค)ณหะรกือรร(ม๔ก)ำรกฤษฎีกำ
ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีต่อไปเม่ือระยะเวลาท่ีให้งดการบังคับคดีได้ลว่ งพ้นไปแล้ว
หรือมิได้เป็นไปตสาำมนเงกั ื่องำนนไคขณทะี่เจก้ารรหมนก้ีตำรากมฤคษำฎพีกิพำากษาได้กำหสนำดนไกั วง้ ำหนรคือณเจะก้ารหรนม้ีผกู้ขำรอกบฤังษคฎับีกคำดีได้ปฏิบัติ
ตามมาตรา ๑๕๔ แล้ว สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำส่วนท่ี ๙ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
การถอนการบังคบั คดี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๒ค๙ณ๒ะก๒๙ร๓รมใกหำ้เรจก้าฤพษนฎกัีกงำานบงั คบั คดีถสอำนนกักงาำรนบคังณคะับกครดรมีในกกำรรกณฤีดษังฎตีก่อำไปน้ี
(๑) เมื่อศาลได้มีคำส่ังให้ถอนการบังคับคดีเนื่องจากลูกหนี้ตามคำพิพากษาย่ืน
สำนกั องุทำนธครณณะ์หกรรือรฎมีกกาำรแกลฤะษไดฎ้วีกาำงเงินต่อศาลเปสำ็นนจกั ำงนำวนนคพณอะชกำรรระมหกำนรี้ตกาฤมษคฎำีกพำิพากษาพร้อมสทำั้งนคกั ่างฤำชนาคธณระรกมรเนรมียกมำรกฤษฎีกำ
และค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดี หรือได้หาประกันมาให้จนเป็นที่พอใจของศาลสำหรับจำนวน
เงนิ เช่นว่าน้ี สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) เมื่อศาลได้มีคำส่ังให้ถอนการบังคับคดีเนื่องจากคำพิพากษาในระหวา่ งบังคับคดี
สำนกั ไงดำ้ถนูกคกณละับกรหรรมือกถำรูกกยฤกษฎหีกรำือหมายบังคับสคำดนีไกั ดง้ถำนูกคเพณิกะกถรอรนมกแำตรก่ถฤ้าษคฎำพีกำิพากษาในระหสวำน่างกั บงำังนคคับณคะดกีนรร้ันมไกดำ้ รกฤษฎีกำ
ถกู กลับแต่เพียงบางส่วน การบังคับคดีอาจดำเนินการต่อไปจนกว่าเงินท่ีรวบรวมได้นั้นจะพอชำระแก่
เจ้าหนี้ตามคำพิพสาำกนษกั างำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๓ฤ)ษเฎมีก่ือำศาลได้แจ้งใหส้เำจน้ากั พงำนนักคงณานะกบรังรคมับกำครดกีทฤษราฎบีกวำ่าศาลมีคำส่ังอสำนนุญกั งาำตนใคหณ้พะิจการรรณมกาำรกฤษฎีกำ
คดใี หมต่ ามมาตรา ๑๙๙ เบญจ วรรคสาม หรอื มาตรา ๒๐๗
ส(๔ำน)กั เงมำอ่ืนศคาณละไกดรม้ รีคมำกสำร่งั กใหฤ้ถษอฎนีกำการบังคบั คดตีสาำนมกัมงาำตนรคาณ๒ะก๙ร๓รมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๙๒ มาตรา ๒๙๑ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพ่ง (ฉบับท่ี ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๙๓ มาตรา ๒๙๒ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๓ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
(๕) เมื่อลกู หน้ตี ามคำพิพากษาไดว้ างเงินต่อเจา้ พนักงานบงั คบั คดี เพ่ือเป็นการชำระ
สำนกั หงนำน้ตี คาณมะคกำรพรพิมากกำรษกาฤพษรฎอ้ ีกมำท้งั ค่าฤชาธรรสมำนเนกั ยีงำมนแคลณะะคก่ารฤรชมากธำรรรกมฤเษนฎียีกมำในการบงั คับคสดำนี กั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๖) เมื่อเจ้าหน้ีตามคำพิพากษาได้แจ้งเป็นหนังสือไปยังเจ้าพนักงานบังคับคดีว่าตน
สละสิทธิในการบสำังนคกั ับงคำนดคี ณในะกกรรรณมีกเชำร่นกวฤ่าษนฎี้ ีกเจำ้าหนี้ตามคำสพำินพกัางกำษนคาณนั้ะนกจระรมบกังำครับกฤคษดฎีแีกกำ่ลูกหนี้ตาม
คำพิพากษาสำหรบั หนนี้ ้นั อีกมิได้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๗ฤ)ษฎเมีกื่อำเจ้าหนี้ตามคสำำพนิพกั งาำกนษคาณไะดก้แรจร้งมเกปำ็นรกหฤนษังฎสีกือำไปยังเจ้าพนักสงำานนกั บงำังนคคับณคะดกีวร่ารมตกนำรกฤษฎีกำ
ขอถอนการบังคับสคำดนีกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๙๓๒๙๔ ถ้าสเำจน้ากัหงนำน้ีตคาณมคะกำรพริพมกาำกรษกาฤเษพฎิกีกเำฉยไม่ดำเนินกสาำรนบกั ังงำคนับคคณดะีภการรยมในกำรกฤษฎีกำ
ระยะเวลาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนด ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีรายงานต่อศาลขอให้ศาลส่ังถอน
การบงั คับคดนี ัน้ เสสำยี นกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎราีกำ๒๙๔๒๙๕ ในกสรำณนกัีทงี่มำนีกคาณรยะึดกทรรรมัพกยำ์รสกินฤซษึ่งฎมีกิใำช่ตัวเงิน หรือใสนำกนรกั ณงำียนึดคหณระือกอรรามยกัดำรกฤษฎีกำ
เงิน หรืออายัดทรัพย์สินแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่ายเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการบังคับ
คดีนั้นเองหรือถอสนำโนดกั ยงคำนำคสณั่งศะากลรรแมกลำะรผกู้ขฤอษใฎหีก้ยำึดหรืออายัดไสมำ่ชนำกั รงะำคน่คาฤณชะากธรรรมรมกำเนรกียฤมษใฎนีกกำารบังคับคดี
ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีรายงานต่อศาลขอให้บังคับคดีแก่ทรัพย์สินของผู้นั้นเพ่ือชำระค่าฤชาธรรม
สำนกั เงนำียนมคใณนะกการรรบมังกคำรับกคฤดษี ฎในีกำกรณีเชน่ ว่านี้สใำหน้ถกั ืองวำน่าเคจณา้ ะพกนรกัรมงากนำรบกังฤคษับฎคีกดำีเป็นเจ้าหนี้ตาสมำนคกั ำงพำิพนคาณกษะการแรมลกะำรกฤษฎีกำ
ผูข้ อให้ยึดหรอื อาสยำดั นเกัปง็นำนลคูกณหะนกีต้ รารมมคกำำรพกิพฤาษกฎษีกาำในส่วนที่เก่ียวสำกนับกั คง่าำฤนชคาณธะรกรรมรเมนกยี ำรมกใฤนษกฎาีรกำบังคับคดีน้ัน
และให้เจา้ พนกั งานบังคับคดบี งั คับคดไี ดเ้ อง โดยได้รบั ยกเวน้ ค่าธรรมเนียมทั้งปวง
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สว่ นท่ี ๑๐
สำนกั งำนคกณาระกเพรริกมถกอำนรกหฤรษอื ฎแีกกำไ้ ขการบังคบั คสดำีทนกัผ่ี งิดำรนะคเณบยีะกบรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๙๕๒๙๖ ในกรณีท่ีคำบังคับ หมายบังคับคดี หรือคำส่ังศาลในชั้นบังคับคดี
บกพร่อง ผิดพลาสดำนหกั รงือำนฝค่าฝณืนะกกรฎรหมกมำารยกฤเพษฎื่อีกปำระโยชน์แห่งคสวำนากัมงยำุตนิธครณระมกจรำรเมปก็นำรจกะฤตษ้อฎงีกเพำ ิกถอนหรือ
แก้ไขคำบังคับ หมายบังคับคดี หรือคำส่ังดังกล่าวน้ัน เม่ือศาลเห็นสมควรไม่ว่าในเวลาใดก่อนการ
สำนกั บงังำนคคับณคะดกีไรดร้เมสกรำ็จรลกงฤษหฎรีกือำเม่ือเจ้าพนักสงาำนนกั บงังำคนับคณคดะกีรรารยมงกาำนรกตฤ่อษศฎาีกลำหรือเมื่อเจ้าหสำนน้ีตกั างมำนคคำณพะิพการกรมษกาำรกฤษฎีกำ
ลูกหน้ีตามคำพิพากษาหรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีซึ่งต้องเสียหายเพราะเหตุ
ดังกล่าว ย่ืนคำร้อสงำนตกั่องศำานลคใณหะ้ศการลรมมกีอำำรนกาฤจษสฎั่งีกเำพิกถอนหรือแสกำน้ไขกั คงำำนบคังณคะับกรหรมมากยำรบกังฤคษับฎคีกดำี หรือคำสั่ง
สำนกั ดงังำกนลค่าณวะทกง้ัรหรมมกดำหรรกือฤบษฎางีกสำว่ น หรอื มคี ำสสำงั่ นอกั ยงา่ ำงนใคดณตาะกมรทร่ศี มากลำเรหกน็ฤษสฎมีกคำวร สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๙๔ มาตรา ๒๙๓ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๙๕ มาตรา ๒๙๔ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพ่ง (ฉบบั ท่ี ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๙๖ มาตรา ๒๙๕ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๔ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ภายใต้บังคบั มาตรา ๓๓๑ วรรคสาม ถ้าเจา้ พนักงานบังคับคดีไดด้ ำเนินการบังคับคดี
สำนกั บงกำนพครณ่อะงกผริดรมพกลำารดกฤหษรฎือีกฝำ่าฝืนกฎหมายสำเมน่ือกั งศำานลคเหณ็นะกสรมรคมวกรำไรมก่วฤ่าษใฎนีกเวำลาใดก่อนการสบำนังคกั งับำคนดคีไณดะ้เกสรรร็จมลกงำรกฤษฎีกำ
หรือเมื่อเจ้าหน้ีตามคำพิพากษา ลูกหน้ีตามคำพิพากษา หรือบุคคลภายนอกผู้มีส่วนได้เสียในการ
บังคับคดีซึ่งต้องเสสำียนหกั างยำนเพคณราะะกเรหรตมกุดำังรกกลฤ่าษวฎีกยำื่นคำร้องต่อศสาำลนใกั หงำ้ศนาคลณมะีอกำรนรมาจกสำร่ังกเพฤษิกฎถีกอำนหรือแก้ไข
กระบวนวธิ กี ารบงั คบั คดที ้งั ปวงหรือวิธีการบงั คบั ใด ๆ โดยเฉพาะหรือมคี ำสั่งกำหนดวิธีการอยา่ งใดแก่
สำนกั เงจำ้านพคนณกั ะงการนรบมกังคำรบั กคฤดษตี ฎาีกมำที่ศาลเหน็ สมสคำวนรกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
บังคับคดีได้เสร็จสกลำางนแรกั ยตงื่นำ่ตนค้อคำงณรไมะ้อก่ชงรต้ารกามมวก่าวำรสรกริบฤคหษห้าฎนวีกึั่นงำหนรับือแวตร่วรันคทสอี่ไสดงำ้อทนารกั จงาำกบนรขคะ้อณทคะำกวไราดรม้ไมมหก่วรำ่าือรใกพนฤฤเษวตฎลิกีกาาำใรดณก์่ออันนกเปา็นร
สำนกั มงูลำนแคหณ่งะขก้อรรอม้ากงำนรกั้นฤษฎทีกั้งำนี้ ผู้ยื่นคำร้อสงำนตกั้องงำมนิคไดณ้ดะกำรเนรมินกกำรากรฤอษันฎใีกดำขึ้นใหม่หลังสจำานกกั ไงดำน้ทครณาะบกรเรรมื่อกงำรกฤษฎีกำ
บกพร่อง ผิดพลาด หรือฝ่าฝืนกฎหมายนั้นแล้ว หรือต้องมิได้ให้สัตยาบันแก่การกระทำนั้น และใน
กรณีเช่นว่านี้ผู้ยื่สนำคนำกั รง้อำนงคจณะขะกอรตร่อมศกำารลกใฤนษขฎณีกำะเดียวกันนั้นสใำหน้มกั ีคงำำนสคั่งณงะดกกรารรมบกัำงรคกับฤคษดฎีไีกวำ้ในระหว่าง
วินิจฉัยชี้ขาดก็ได้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกเพฤื่อษปฎีกรำะโยชน์แห่งมาสตำนรกัางนำี้ในหค้ถณือะวก่ารกรมารกบำรังกคฤับษคฎดีกีไำด้เสร็จลงเมื่อสไำดน้มกั ีกงำานรคดณำเะนกินรรกมากรำรกฤษฎีกำ
ดังต่อไปน้ี ส(ำ๑น)กั ใงนำนกครณณะีทก่ีครรำมบกังำครกับฤกษำฎหีกนำดให้ส่งทรัพยส์ำสนินกั งกำรนะคทณำะกกรารรมหกำรรือกงฤดษเฎวีก้นำกระทำการ
อย่างใด เมื่อได้มีการปฏิบัติตามคำบังคับที่ให้ส่งทรัพย์สิน กระทำการ หรืองดเว้นกระทำการอย่างนั้น
สำนกั แงลำน้วคแณตะ่ถก้ารกรมารกปำรฏกบิ ฤัตษิตฎาีกมำคำบังคับดังกสลำ่านวกั องำานจคแณยกะกเปรร็นมสก่วำนรกๆฤษไฎดีก้ เำมื่อได้มีการปฏสิบำนัตกั ติ งาำมนคคำณบะังกครรับมใกนำรกฤษฎีกำ
สว่ นใดแล้ว ให้ถือสวำา่ นกกั างรำบนงัคคณับะคกดรรไี มดกเ้ สำรรก็จฤลษงเฎฉีกพำาะในสว่ นน้ันสำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ในกรณีที่คำบังคับกำหนดให้ใช้เงิน เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้จ่ายเงินตาม
สำนกั มงาำนตครณา ะ๓ก๓รร๙มกมำารตกฤราษฎ๓ีก๔ำ๐ มาตรา ๓ส๔ำ๒นกั มงำานตครณาะ๓กร๔ร๓มกหำรรกือฤมษาฎตีกรำา ๓๔๔ แล้วแสตำน่กกั รงณำนี แคลณ้วะกแรตรม่ถก้าำรกฤษฎีกำ
ทรัพย์สินที่ถูกบังคับคดีมีหลายรายการ เม่ือเจ้าพนักงานบังคับคดีได้จ่ายเงินที่ได้จากการขาย
ทอดตลาดทรพั ย์สสินำนรกัายงำกนาครณใดะแกลรรว้ มใกหำรถ้ กือฤวษา่ ฎกีการำบังคบั คดีไดเ้ สสำรนจ็ กัลงงำเนฉคพณาะะกทรรรพั มยกส์ำรินกรฤาษยฎกีกาำรนนั้
ในการยื่นคำร้องต่อศาลตามวรรคหน่ึงหรือวรรคสอง หากมีพยานหลักฐานเบื้องต้น
สำนกั แงสำนดคงวณ่าะคกำรรร้อมงกนำรั้นกไฤมษ่มฎีมีกูลำและยื่นเข้ามสาเำพน่ือกั งปำรนะควณิงะใหกร้ชรักมชก้าำรศกาฤลษมฎีอีกำำนาจส่ังให้ผู้ยื่นสำคนำกัรง้อำงนวคาณงเะงกินรหรมรกือำรกฤษฎีกำ
หาประกันต่อศาลตามจำนวนและภายในระยะเวลาท่ีศาลเห็นสมควรเพ่ือเป็ นประกันการชำระค่า
สินไหมทดแทนแสกำ่เนจกั้าหงำนนี้ตคาณมะคกำรรพมิพกาำกรกษฤาษหฎรีกือำบุคคลนั้นสำหสรำนับกั คงวำานมคเณสะียกหรารยมทกำี่อรากจฤไษดฎ้รีกับำจากการยื่น
คำร้องน้ัน ถ้าผู้ย่ืนคำร้องไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ให้ศาลมีคำส่ังยกคำร้องน้ันเสีย ส่วนเงินหรือประกัน
สำนกั ทง่ีวำนาคงไณวะ้ตก่อรรศมากลำดรังกกฤษล่ฎาวีกเำม่ือศาลเห็นวส่าำไนมกั ่มงีำคนวคาณมะจกำรเรปม็นกตำร่อกไฤปษฎจีกะำส่ังคืนหรือยกสเำลนิกกั ปงำรนะคกณันะนก้ันรรกม็ไกดำ้ รกฤษฎีกำ
คำส่งั ของศาลทอ่ี อสำกนตกั างมำคนวคาณมะใกนรวรรมรกคำนรก้ีใหฤษเ้ ปฎ็นีกทำ ่สี ุด สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีท่ีศาลได้มีคำส่ังยกคำร้องท่ียื่นไว้ตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ถ้าบุคคลท่ี
สำนกั ไงดำร้นบั คคณวะากมรเรสมยี กหำรากยฤเนษ่ือฎงีกจำากการยืน่ คำสรำอ้ นงกัดงังำกนลค่าณวะเหกรน็ รวม่ากคำำรรก้อฤงษนฎั้นีกไำมม่ ีมูลและยน่ื สเขำน้ากัมงาำเนพค่อื ณปะรกะรวริงมใกหำ้ รกฤษฎีกำ
ชักช้า บุคคลดังกล่าวอาจยื่นคำร้องต่อศาลภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีคำส่ังยกคำร้อง เพ่ือขอให้
ศาลส่ังให้ผู้ยื่นคำสรำน้อกังงนำั้นนคชณดะใชกร้คร่ามสกินำรไกหฤมษทฎดีกแำ ทน ในกรณสีเำชน่นกั วง่าำนนค้ี ใณหะ้ศการรลมมกีอำรำกนฤาษจฎสีกั่งำให้แยกการ
พจิ ารณาเป็นสำนวนตา่ งหากจากคดีเดิม และเม่อื ศาลไต่สวนแลว้ เหน็ วา่ คำร้องนนั้ ฟังได้ ให้ศาลมีคำสั่ง
สำนกั ใงหำ้ผนู้ยค่ืนณคะกำรรร้อมงกนำั้นรกชฤดษใชฎ้คีก่าำสินไหมทดแทสำนนใกั หง้แำนกค่บณุคะคกลรทรม่ีไดก้รำรับกคฤวษาฎมีกเำสียหายดังกล่าสวำตนากั มงำจนำคนณวะนกทร่ีรศมากลำรกฤษฎีกำ
เห็นสมควร ถ้าผู้ย่ืนคำร้องนั้นไม่ปฏิบัติตามคำส่ังศาล บุคคลที่ได้รับความเสียหายอาจร้องขอให้ศาล
บังคับคดแี ก่ผยู้ น่ื คสำำนร้อกั งงนำนั้นคเสณมะกอื รนรหมนก่งึำรวกา่ ฤเปษ็นฎลีกูกำหน้ีตามคำพสพิ ำานกกั ษงาำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๕ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
หมวด ๒
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ การบสำังนคกัับงคำนดคใี นณกะรกณรรีทมเ่ีกปำ็นรกหฤนษ้ีเฎงนิีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สว่ นท่ี ๑
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ อำนสาำจนขกั องงำนเจค้าณพะนกักรงรามนกบำรังกคฤับษคฎดีกีำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๙๖๒๙๗ ในกรณีที่คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลกำหนดให้ชำระเงิน ให้
สำนกั เงจำ้านพคนณักะงการนรมบกังำครบั กคฤดษีมฎีอีกำำนาจบังคับคดสีโำดนยกั วงำิธนีดคงั ณตอ่ะกไปรรนมี้ กำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ยดึ ทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
ส(๒ำน)กั องาำนยคัดณสิทะกธริเรรมียกกำรร้อกงฤขษอฎงีกลำูกหน้ีตามคำพสิพำนากกั งษำานทค่ีจณะะเกรรียรกมใกหำ้บรกุคฤคษลฎภีกาำยนอกชำระ
สำนกั เงงำินนหครณือะสกง่ รมรอมบกำหรรกอื ฤโษอฎนีกทำรัพย์สนิ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) อายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่จะเรียกให้บุคคลภายนอกชำระ
หนี้อย่างอืน่ นอกจสาำกนทกั กี่งำลน่าควณมะากแรลร้วมใกนำร(ก๒ฤ)ษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ขายทอดตลาดหรือจำหน่ายโดยวิธีอ่ืนซ่ึงทรัพย์สินท่ีได้มาจากการยึดหรือการ
สำนกั องาำยนัดคหณระอืกรซร่ึงมสกทิ ำธรเิกรฤยี ษกฎรีกอ้ ำงท่ีไดอ้ ายัดไวส้ ำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ยังไม่อาจยึดทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหน้ีตามคำพิพากษา
เนื่องจากมีเหตุขัดสขำนอ้ กังองำยน่าคงณหะนกึ่งรอรยม่ากงำใรดกทฤ่ีทษำฎใีกหำ้ไม่อาจยึดหรสือำอนากั ยงัดำนไดค้ทณันะกทรี รเมมื่อกเำจรก้าพฤษนฎักีกงำานบังคับคดี
เห็นเองหรือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาร้องขอ ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจสั่งห้ามมิให้ลูกหนี้
สำนกั ตงาำนมคคณำพะกิพรารกมษกำารกโอฤนษฎขีกาำย ยักย้าย หรสือำจนำกั หงำนน่าคยณซะึ่งกทรรรัพมยกำ์สรนิ กหฤรษือฎสีกิทำ ธิเรียกร้องน้ันสไำวน้เกั ปง็นำนกคาณรชะั่กวครรรมากวำรกฤษฎีกำ
ไว้ก่อนได้เท่าที่จำเป็น และถ้าทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องน้ันเป็นทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องที่
บุคคลภายนอกมสีสำ่วนนกั เงกำ่ียนวคขณ้อะงกดรร้วมยกใำหรก้เจฤ้าษพฎนีกำักงานบังคับคสดำีแนจกั ้งงคำนำสคั่งณหะ้ากมรรดมังกกำลร่ากวฤใษหฎ้บีกุคำคลท่ีมีส่วน
สำนกั เงกำี่ยนวคขณ้อะกงรนรั้นมทกำรรากบฤษหฎรีกือำ หากทรัพย์สสินำนหกั รงืำอนสคิทณธะิเกรรียรกมกรำ้อรงกนฤั้นษฎเปีกำ็นทรัพย์สินหสรำือนสกั ิทงำธนิเครณียกะกรร้อรงมทกีำ่ รกฤษฎีกำ
จะต้องจดทะเบียนหรือได้จดทะเบียนไว้ตามกฎหมาย ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งคำสงั่ หา้ มดังกล่าว
ให้นายทะเบียนหสรำอื นพกั นงำักนงคาณนะเจก้ารหรมนก้าำทรก่ีผฤู้มษีอฎำีกนำาจหน้าท่ีจดทสะำเนบกั ียงนำนตคาณมกะกฎรหรมมกาำยรวก่าฤดษ้วฎยีกกำารนั้นทราบ
ถ้าได้มีการจดทะเบียนไว้แล้ว ให้นายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าท่ีบันทึกคำส่ังของเจ้าพนักงาน
สำนกั บงังำนคคับณคะดกีไรวร้ใมนกทำะรเกบฤียษนฎีกแำละให้นำบทบสัญำนญกั งัตำิมนาคตณระากร๓ร๑มก๕ำร(๑กฤ)ษแฎลีกะำมาตรา ๓๒๐ส(ำ๑น)กั แงำลนะคณ(๒ะ)กมรรามใกชำ้ รกฤษฎีกำ
บังคับโดยอนุโลม ในกรณีมีเหตุอันสมควร เจ้าพนักงานบังคับคดีอาจมีคำส่ังยกเลิก หรือแก้ไข
เปลี่ยนแปลงคำสสั่งำดนังกั กงำลน่าควณไดะ้กโรดรยมใกหำ้รนกำฤบษทฎบีกัญำ ญัติมาตรา ส๒ำ๖นกั๑งำแนลคะณมะากตรรรมาก๒ำร๖ก๒ฤษมฎาีกใำช้บังคับโดย
อนุโลม
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกในฤกษรฎณีกำีเหตุขัดข้องสิ้นสสำนุดกัลงงำหนรคือณไะมกม่ รคี รวมากมำรจกำฤเปษ็นฎีกตำ้องบงั คับคดีต่อสไำปนกั หงรำนอื คเจณา้ ะหกนรต้ีรมากมำรกฤษฎีกำ
บคังำคพับิพคาดกแีษจา้งเพยกิกเเลฉสำิกยนคไมกั ำง่ดสำำง่ันเหนค้าณินมกะดกางั รรกรอลมยา่ก่าวำงรใหหกนฤ้บึ่ษงุคอฎคยีกล่าำทงใ่ีมดสี ต่วานมเทกี่เยี่ จว้าขสพ้อำนนงักทกั งงรำาานนบคบณังคะกับรครดมีกกำำรหกนฤดษฎใหีกำ้เจ้าพนักงาน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๙๗ มาตรา ๒๙๖ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมบั กทำี่ ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๖ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
มาตรา ๒๙๗๒๙๘ ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจบังคับคดีเอากับทรัพย์สิน
สำนกั ดงังำตน่อคไณปะนกไี้รดรเ้มชกน่ ำรเดกียฤวษกฎบัีกทำ บ่ี ัญญตั ไิ ว้ในสมำานตกั รงาำน๒ค๙ณ๖ะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) สินสมรสของคู่สมรสของลูกหน้ีตามคำพิพากษา เฉพาะในกรณีท่ีลูกหน้ีตาม
คำพิพากษาและคสู่สำนมกัรงสำเนปค็นณละูกกหรรนมี้รกว่ ำมรกกนัฤษตฎามีกำมาตรา ๑๔๙๐สำแนหกั ง่งำปนรคะณมะวกลรกรฎมกหำมรากยฤแษพฎี่งกแำละพาณิชย์
หรือทรัพย์สินของคู่สมรสของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซ่ึงตามกฎหมายอาจบังคับเอาชำระหนี้ตาม
สำนกั คงำำนพคพิ ณาะกกษรารไมดก้ ำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สใ(๒ำหน)้นกั ทงำรำบนพั ทคยบณ์สินัญะกขญรอรงัตมบิใกุคนำครลกลักฤอษษื่นณฎซีก่ึงะตำ า๒มกแฎหห่งมภาายคอสนาำจนี้ทบกั ี่เังงกำคี่ยนบั วคเกอณาับะชกกำรารรระมหบกนัำงรคี้ตกัาบฤมคษคฎดำีกีแพำกิพ่ทากรษัพายไ์ดส้ิน
สำนกั ขงอำนงคลณูกะหกนรรี้ตมากมำรคกำฤพษิฎพีกาำกษามาใช้บังสคำันบกัใงนำกนาครณบะังกครรับมคกดำรีแกกฤ่ทษรฎัพีกำย์สินของบุคคสลำตนกัามงำมนาคตณระากนรรี้โมดกยำรกฤษฎีกำ
อนุโลม
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๒๙๘๒๙๙ ในกรณีท่ีทรัพย์สินหรือสิทธเิ รียกร้องที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอ้าง
สำนกั วงา่ ำเนปค็นณขะอกงรลรกูมหกำนรีต้กาฤมษคฎำีกพำ ิพากษามีช่อื บสำุคนคกั ลงอำนื่นคเปณ็นะกเจร้ารมขกอำงรใกนฤทษะฎเบีกำียนหรือปรากฏสำตนากัมงหำนลคักณฐาะนกอรรยม่ากงำรกฤษฎีกำ
อื่นว่าเป็นของบุคคลอ่ืน หากเจ้าพนักงานบังคับคดีสงสัยว่าทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องนั้นไม่ใช่เป็น
ของลกู หนี้ตามคำสพำิพนกัางกำษนาคแณละะกไรมรย่มอกมำรทกำฤกษาฎรีกยำึดหรืออายดั ถสา้ ำเนจกั า้ งหำนนคี้ตณามะกครำรพมิพกาำกรกษฤาษยฎนื ีกยำันใหย้ ดึ หรือ
อายัดเจ้าพนักงานบังคับคดีจะทำการยึดทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้องนน้ั หรอื จะส่งั งดการยดึ หรือ
สำนกั กงาำนรอคณายะัดกรกร็ไมดก้ ำใรนกกฤรษณฎีีทกำ่ีสั่งงด ให้เจ้าพสำนนักกั งงาำนนคบณังะคกับรครมดกีมำีครกำสฤษ่ังหฎี้กามำ การโอน ขาสยำนยกัักงยำ้นายคณจะำกหรนรม่ากยำรกฤษฎีกำ
ทำลาย ทำใหเ้ สอ่ื สมำคน่ากั หงรำนือคเปณละ่ยี กนรรแมปกลำงรซก่ึงฤสษทิ ฎธีกใิำนทรัพยส์ นิ หรสือำนสกัทิ งธำเิ นรคยี ณกระอ้กรงรนมั้นกไำวร้กก่อฤนษฎีกำ
คำส่ังห้ามของเจ้าพนักงานบังคับคดีตามวรรคหน่ึงให้มีผลใช้บังคับได้ทันที และให้
สำนกั เงจำ้านพคนณักะงการนรมบกังำครับกคฤษดฎีแีกจำ้งคำส่ังห้ามใหส้ลำูกนหกั งนำี้ตนาคมณคะำกพรริพมากกำษรกาฤแษลฎะีกบำ ุคคลผู้มีช่ือเปส็นำนเจกั ้างำขนอคงณทะรกัพรยร์มสกินำรกฤษฎีกำ
หรือสิทธิเรียกร้องตามท่ีปรากฏในทะเบียนหรือหลักฐานอย่างอื่นทราบโดยเร็ว ในกรณีท่ีทรัพย์สิน
ดังกล่าวเปน็ ทรพั สยำ์สนินกั ทงำ่ีจนะคตณ้อะงกจรดรทมะกเำบรียกนฤษหฎรีกือำได้จดทะเบียนสไำวน้ตกั างมำนกคฎณหะมการยรมใหกำ้เรจกา้ ฤพษนฎักีกงำานบังคบั คดี
แจ้งคำส่ังห้ามดังกล่าวให้นายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าท่ีจดทะเบียนตาม
สำนกั กงฎำนหคมณาะยกวรร่ามดก้วำยรกกฤาษรฎนีกั้นำทราบด้วยถส้าำไนดกั้มงีกำนาครณจดะกทระรมเบกียำรนกไฤวษ้แฎลีก้วำ ให้นายทะเสบำียนนกั งหำนรืคอณพะนกักรรงมากนำรกฤษฎีกำ
เจ้าหน้าทบ่ี ันทึกคำส่ังของเจ้าพนักงานบังคบั คดีไวใ้ นทะเบียน ทั้งน้ี ให้นำบทบัญญตั ิมาตรา ๓๑๕ (๑)
และมาตรา ๓๒๐ส(ำ๑น)กั มงำานใคชณ้บงัะคกรับรโมดกยำอรนกฤุโลษมฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
เจา้ หนต้ี ามคำพิพากษาอาจยืน่ คำร้องตอ่ ศาลภายในสิบห้าวนั นับแตว่ ันท่ีเจา้ พนักงาน
สำนกั บงังำนคคับณคะดกีมรีครมำสก่ัำงรงกดฤกษาฎรีกยำึดหรือการอายสัดำนตกั างมำนวรครณคะหกนรร่ึงมเกพำรื่อกขฤอษใฎหีก้ศำาลส่ังให้เจ้าพสนำักนงกั างนำนบคังณคับะกครดรมีทกำำรกฤษฎีกำ
การยึดทรัพย์สินสหำรนือกั องำานยคัดณสะิทกธริเรรมียกกำรรก้อฤงษนฎ้ันีกำในกรณีเช่นนสี้ ำในหกั้ศงาำลนสค่ณงสะำกเรนรมาคกำำรรก้อฤงษแฎกีก่เำจ้าพนักงาน
บังคับคดีและบุคคลผู้มีช่ือเป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องตามท่ีปรากฏในทะเบียนหรือ
สำนกั หงลำนักคฐณาะนกอรยรม่างกอำร่ืนกทฤรษาฎบีกแำ ละบุคคลดังสกำลน่ากั วงอำนาคจณคะัดกคร้ารนมกวำ่ารทกรฤัพษยฎ์ีสกำินหรือสิทธิเรียสกำนรกั้องงำนนั้นคณไมะ่ใกชร่ขรมอกงำรกฤษฎีกำ
ลกู หนี้ตามคำพพิ ากษาได้ โดยย่ืนคำคัดค้านต่อศาลภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่รบั สำเนาคำรอ้ ง และให้
นำบทบัญญัติมาตสรำานกั๓ง๒ำน๓คหณระือกรมรามตกรำารก๓ฤ๒ษ๕ฎีกแำล้วแตก่ รณี มสาำในชกั้บงงั ำคนับคโณดะยกอรนรมโุ ลกมำรกโดฤยษหฎาีกกำศาลมคี ำสั่ง
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๙๘ มาตรา ๒๙๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพ่ง (ฉบับท่ี ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒คณ๕๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๒๙๙ มาตรา ๒๙๘ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำี่ ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๗ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
ให้ยึดทรัพยส์ ินหรอื อายดั สทิ ธิเรยี กรอ้ งแล้ว บคุ คลดงั กล่าวท่ีได้ยนื่ คำคัดค้านตามวรรคน้ีจะใช้สิทธติ าม
สำนกั มงาำนตคราณะ๓ก๒ร๓รมหกำรรือกมฤาษตฎรีกาำ๓๒๕ แล้วแตส่กำนรกณั งีำอนีกคหณาะไกดรไ้ รมม่ กำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณที ี่เจ้าหน้ีตามคำพิพากษามิได้ยื่นคำรอ้ งภายในกำหนดเวลาตามวรรคสามหรือ
ศาลมคี ำสัง่ ยกคำสร้อำนงกัดงังำกนลคา่ ณวะหกรรรือมใกนำกรรกณฤษที ฎ่ีศีกาำลมคี ำส่ังอนุญสาำตนตกั างมำนคคำณร้อะงกใรนรวมรกรำครกสฤาษมฎแีกตำ่เจา้ หนี้ตาม
คำพิพากษาไม่ดำเนินการบังคับคดีแก่ทรัพย์สินหรือสิทธเิ รียกร้องดังกล่าวภายในสิบห้าวันนับแต่วันท่ี
สำนกั ศงาำนลคมณีคำะกสรั่งรใมหก้คำำรสก่ังฤหษ้าฎมีกตำามวรรคหน่ึงสเำปน็นกั องำันนยคกณเละกิกรไรปมกแำลระกใฤหษ้เฎจีก้าำพนักงานบังคัสบำคนดกั ีแงำจน้งคกณาระยกกรรเมลกิกำรกฤษฎีกำ
คำส่งั ห้ามดงั กลา่ วสใำหนบ้กั งุคำคนลคตณาะมกวรรรรมคกสำรอกงฤทษรฎาีบกำดว้ ย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๒๙๙๓๐๐ ในสกำนรกั ณงำีทนี่เคจณ้าะพกนรรักมงกาำนรบกฤังษคฎับีกคำดีมีคำสั่งห้ามสตำนากั มงมำนาคตณราะก๒รร๙ม๘กำรกฤษฎีกำ
วรรคหน่ึง บุคคลผู้มีชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องตามที่ปรากฏในทะเบียนหรือหลักฐาน
อย่างอื่น หรือผู้มสีสำ่วนนกั ไงดำน้เสคียณใะนกทรรรมัพกยำ์สรินกฤหษรฎือีกสำิทธิเรียกร้องนสั้นำนจกั ะงำรน้อคงณขอะกตร่อรเมจก้าำพรกนฤักษงฎาีกนำบังคับคดีให้
เพิกถอนคำสั่งห้ามดังกล่าวโดยวางเงินหรือหาประกันมาให้แทนทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องนั้นก็ได้
สำนกั ถง้าำนเจค้าณพะนกรักรงมากนำบรกังฤคษับฎคีกดำีพอใจในเงินสหำนรือกั งปำรนะคกณันะกกร็ใรหม้เกพำิกรกถฤอษนฎคีกำำสั่งห้ามดังกลส่าำวนแกั งลำะนรคับณเะงกินรหรมรกือำรกฤษฎีกำ
ประกันน้ันไว้ สใำนนกกั รงณำนีทค่ีเณจะ้ากพรนรมักกงาำรนกบฤังษคฎับีกคำดีไม่เพิกถอนสคำนำสกั ่ังงำหน้าคมณตะากมรวรรมรกคำรหกนฤึ่งษฎผีกู้รำ้องน้ันจะย่ืน
คำร้องต่อศาลภายในสิบห้าวันนับแต่วันท่ีทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อขอให้เพิกถ อน
สำนกั คงำำนสค่ังหณ้าะมกรโดรมยกวำารงกเฤงินษฎหีกรำือหาประกันมสาำในหกั ้กง็ไำดน้คใณหะ้ศการลรมสก่งสำรำกเฤนษาฎคีกำำร้องแก่เจ้าพนสักำงนากั นงบำนังคคณับะคกดรีแรมลกะำรกฤษฎีกำ
เจ้าหนี้ตามคำพิพสาำกนษกั างเำพน่ือคทณำะกการรรไมตก่สำวรกนฤเปษ็นฎีกกำารดว่ น คำสั่งสขำอนงกัศงาำลนใคหณเ้ ปะก็นรทรส่ีมดุกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สนิ หรืออายัดสิทธิเรียกร้องตามมาตรา ๒๙๘ วรรคสาม
สำนกั ถง้าำนไมค่อณาะจกยรึดรมทกรำัพรกยฤ์สษินฎหีกรำืออายัดสิทธิเสรีำยนกกั รง้อำงนนค้ันณไะดก้ รแรตม่ไกดำ้มรกีกฤาษรฎวีกาำงเงินหรือประสกำันนไกั วง้แำทนคนณทะรกัพรยร์สมินกำรกฤษฎีกำ
หรือสิทธิเรียกร้องน้ัน เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจขอให้ศาลดำเนินการบังคับคดีแก่เงินหรือประกันที่
รบั ไวห้ รือแก่ผปู้ ระสำกนันกั ไงดำโ้นดคยณไมะกต่ ร้อรงมฟก้อำงรเกปฤน็ษคฎดีกีใำหม่ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่เจ้าหน้ีตามคำพิพากษามิได้ย่ืนคำร้องหรือศาลมีคำสั่งยกคำร้องตามมาตรา
สำนกั ๒งำ๙น๘คณวะรกรรครสมากมำรใกหฤ้เษจฎ้าีกพำนักงานบังคับสคำนดกัีคงืนำนเงคินณหะรกือรปรมรกะำกรันกฤทษี่รฎับีกไวำ้แก่ผู้วางเงินหสำรนือกั ปงรำนะคกณันะนกั้นรหรมรกือำรกฤษฎีกำ
ยกเลิกการประกัน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๓๐๐๓๐๑ เว้นแต่จะมีกฎหมายบัญญัติไว้หรือศาลมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ห้าม
สำนกั ไงมำ่ในหค้เณจ้าะกพรนรักมกงาำรนกบฤังษคฎับีกคำดียึดทรัพย์สสินำหนกัรืองำอนาคยณัดะสกิทรรธมิเรกียำรกกรฤ้อษงฎขีกอำงลูกหนี้ตามคสำำพนิพกั งาำกนษคาณหะรกือรขรมากยำรกฤษฎีกำ
ทอดตลาดหรือจำสหำนนก่ัายงำโนดคยณวิธะอีกรืน่ รซมง่ึ กทำรรัพกฤยษส์ ฎนิ ีกหำรอื สทิ ธิเรียกรส้อำนงทกั ีไ่งดำน้มคาณจาะกกกรรามรกยำึดรหกรฤือษอฎาีกยำดั หลายราย
เกินกว่าที่พอจะชำระหน้ีให้แก่เจ้าหน้ีตามคำพิพากษา พร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมและค่าฤชาธรรมเนียม
สำนกั ใงนำกนาครณบะังกครบั รมคกดำี รกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีท่ีมีความจำเป็นต้องยึดทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้องรายใดที่มีราคาสูง
เกินกว่าท่ีพอจะชสำำรนะกัหงนำน้ใี หค้แณกะ่เกจร้ารหมกนำ้ีตรากมฤคษำฎพีกิพำ ากษา ถ้าทรสพั ำยน์สกั ินงำหนรคอื ณสะิทกธริเรรมียกกำรรก้อฤงนษฎั้นีกอำยู่ในสภาพที่
จะแบ่งยึดหรืออายัดได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจแบ่งยึดหรือ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๐๐ มาตรา ๒๙๙ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพง่ (ฉบบั ท่ี ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒คณ๕๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๐๑ มาตรา ๓๐๐ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมับกทำี่ ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๘ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
แบ่งอายัดทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้องรายใดแต่เพียงบางส่วนหรือเฉพาะส่วนแห่งกรรมสิทธ์ิเท่าที่พอจะ
สำนกั ชงำำรนะคหณนะี้ใกหรแ้รกม่เกจำา้รหกนฤษ้ตี ฎามีกคำ ำพิพากษา พสรำอ้ นมกั ทงำง้ั นคคา่ ฤณชะากธรรรรมมกเำนรียกมฤษแลฎะีกคำ ่าฤชาธรรมเนสยี ำมนใกันงกำานรคบณังะคกับรครมดกี ำรกฤษฎีกำ
บุคคลผู้มีส่วนได้เสียในการบังคับคดีอาจคัดค้านคำส่ังหรือการดำเนินการตามวรรคหน่ึง
หรือวรรคสองของสเำจน้ากัพงนำนักงคาณนะบกังรครมับกคำดรีกโฤดษยฎยีื่กนำคำร้องต่อศาลสกำ่อนนกั วงำันนขคาณยทะกอรดรตมลกาำดรกหฤรษือฎจีกำหำ น่ายโดยวิธี
อื่นแตต่ ้องไม่ชา้ กว่าสบิ ห้าวนั นับแต่วนั ท่ไี ด้ทราบคำส่ังหรือการดำเนินการน้นั คำสงั่ ของศาลให้เป็นท่สี ดุ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคทณระัพกยร์สรมนิ กทำี่ไรมกอ่ฤยษใู่ฎนีกคำสวว่ านมทรี่ับ๒ผิดแหส่งำกนากั รงบำนงั คคับณคะกดรี รมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๓ค๐ณ๑ะก๓๐ร๒รมทกำรรัพกยฤ์สษินฎขีกำองลูกหน้ีตามคสำำนพกั ิพงาำนกคษณาตะก่อรไรปมนกี้ ำยร่อกมฤษไมฎ่อีกยำู่ในความรับ
ผิดแหง่ การบังคบั คดี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤษ) ฎเคีกำรื่องนุ่งห่มหสลำับนนกั งอำนนคเณคะรก่ือรรงมใชกำ้ใรนกคฤษรัวฎีเกรำือน หรือเครสื่อำนงกัใชงำ้สนอคยณสะก่วรนรตมกัวำรกฤษฎีกำ
โดยประมาณรวมกันราคาไม่เกินประเภทละสองหม่ืนบาท แต่ในกรณีที่เจ้าพนักงานบั งคับคดี
เห็นสมควร เจ้าพสนำนักกังงาำนนบคังณคะับกครรดมีจกะำกรกำฤหษนฎดีกใำห้ทรัพย์สินแตส่ลำนะกัปงรำะนเคภณทะดกังรกรมลก่าำวรทก่ีมฤีรษาฎคีกาำรวมกันเกิน
สองหมื่นบาทเป็นทรัพย์สินที่ไม่ต้องอยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีก็ได้ ทั้งน้ี โดยคำนึงถึงความ
สำนกั จงำำเนปคน็ ณตะากมรฐรมานกำะรขกอฤงษลฎกู ีกหำนตี้ ามคำพพิ าสกำษนกาั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) สัตว์ สิ่งของ เคร่ืองมือ เครื่องใช้ ในการประกอบอาชีพหรือประกอบวิชาชีพ
เท่าที่จำเป็นในกาสรำเนลกัีย้ งงำชนีพคขณอะงกลรกูรมหกนำ้ีตรกาฤมษคฎำีพกำิพากษา ราคาสรำวนมกั กงนัำนโคดณยปะกรระรมมากณำรไกมฤ่เกษินฎีกหำน่ึงแสนบาท
สำนกั แขงอตำน่อถค้นาณลุญะูกากหตรนรใมชี้ตก้สาำัตมรวกค์ฤำสษพิ่งฎขิพีกอาำงกเษคารมอื่ ีคงมวือามเจสคำำรนเื่อปกั งง็นใำชใน้เนคทกณ่าาทะรกี่จเรำลรเี้ยมปงก็นชำใรีพนกกกฤา็อษรฎาปจีกรำระ้อกงอขบออตา่อชเีพจ้หาสพรำือนนปกัักงรงำะานกนคอบณบังะวคกิชรับารคชมดีพกีำรกฤษฎีกำ
ในกิจการดังกล่าสวำขนอกั งงำลนูกคหณนะี้ตกรารมมคกำำพรกิพฤาษกฎษีกาำอันมีราคารวสมำนกกั ันงเำกนินคกณวะ่กาจรรำมนกวำรนกรฤาษคฎาีกทำี่กำหนดนั้น
ในกรณีเช่นนี้ ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีอำนาจใช้ดุลพินิจไม่อนุญาตหรืออนุญาตได้เท่าท่ีจำเป็น
สำนกั ภงาำนยคในณบะังกครรับมแกหำ่งรเกงฤ่อื ษนฎไีขกำตามท่ีเจ้าพนกั สงำานนกั บงำังนคคับณคะดกีเรหรน็ มสกมำรคกวฤรษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) สัตว์ สงิ่ ของ เครอื่ งใช้ และอุปกรณท์ ่จี ำเป็นต้องใชท้ ำหน้าท่ชี ่วยหรือแทนอวยั วะ
ของลกู หน้ตี ามคำสพำิพนกัากงำษนาคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ทรัพย์สินของลูกหน้ีตามคำพิพากษาอันมีลักษณะเป็นของส่วนตัวโดยแท้ เช่น
สำนกั หงนำนงั คสณอื สะกำรหรรมับกวำงรศก์ตฤษระฎกีกูลำโดยเฉพาะ จสดำหนมกั งาำยนคหณรอืะกสรมรดุ มบกัญำรชกีตฤา่ษงฎีกๆำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๕) ทรัพย์สินอย่างใดท่ีโอนกันไม่ได้ตามกฎหมาย หรือตามกฎหมายย่อมไม่อยู่ใน
ความรบั ผดิ แห่งกสาำรนบกั ังงคำับนคคณดีะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกทฤรษัพฎยีก์สำินหรือจำนวนสรำนากคั งาำทนรคัพณยะ์สกิรนรทม่ีเกจำ้ารพกฤนษักฎงีกาำนบังคับคดีกำสหำนนดกั งตำานมควณระรกครหรมนก่ึงำรกฤษฎีกำ
ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอาจร้องขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำ ส่ังกำหนด
ใหม่ได้ คำสัง่ ของสเจำ้านพกั งนำักนงคาณนะบกังรครับมกคำดรดีกังฤกษลฎ่าีกวำน้นั ลกู หนี้ตาสมำคนำกั พงำิพนาคกณษะากหรรรือมกเจำ้ารหกฤนษี้ตฎาีกมำคำพิพากษา
อาจร้องคัดค้านต่อศาลได้ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดี
สำนกั ใงนำกนครณณะีเกชร่นรนม้ีกใำหร้ศกฤาลษมฎีคีกำำสง่ั ตามทีเ่ หน็ สสำมนคกั วงำรนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๐๒ มาตรา ๓๐๑ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๓๙ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
ในกรณีที่พฤติการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป ลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือเจ้าหนี้ตาม
สำนกั คงำำนพคิพณาะกกรษรามอกาำรจกยฤ่ืนษคฎำีกรำ้องให้ศาลมีคสำำสน่ังกั เงปำนลคี่ยณนะแกปรรลมงกทำรรัพกฤยษ์สฎินีกหำรือจำนวนราสคำนาทกั งรำัพนคยณ์สิะนกทร่ีศรมากลำรกฤษฎีกำ
กำหนดไวเ้ ดิมได้
สปำรนะกั โงยำชนนค์ณแหะก่งขรร้อมยกกำเรวก้นฤทษ่ีบฎัีญกำญัติไว้ในมาตรสาำนนกั้ี ใงหำน้ขคยณายะไกปรถรมึงทกำรรัพกยฤ์สษินฎตีกาำมวรรคหน่ึง
อันเป็นของคู่สมรสของลูกหนี้ตามคำพิพากษาหรือของบุคคลอ่ืน ซ่ึงทรัพย์สินเช่นว่าน้ีตามกฎหมาย
สำนกั องาำจนบคณงั คะับกรเอรมาชกำำรรกะฤหษนฎ้ตี ีกาำมคำพพิ ากษาสไำดน้ กั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงำาน๓คณ๐ะ๒ก๓ร๐ร๓มกภำารยกฤใตษ้บฎีักงคำับบทบัญญัตสิแำนหกั่งงกำฎนหคณมาะกยรอรื่นมกเำงรินกหฤรษือฎสีกิทำ ธิเรียกร้อง
สำนกั เงปำ็นนเคงณินะขกอรงรลมกู กหำรนกี้ตฤาษมฎคีกำำพพิ ากษาต่อไสปำนนี้ กั ไงมำอ่ นยคใู่ ณนะคกวรารมมรกบั ำรผกดิ ฤแษหฎ่งีกกำารบังคับคดี สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) เบี้ยเลย้ี งชีพซ่ึงกฎหมายกำหนดไว้ สว่ นเงินรายได้เป็นคราว ๆ ซึ่งบุคคลภายนอก
ได้ยกใหเ้ พ่ือเล้ียงชสีพำนนกั ้ันงำในหค้มณีจะำกนรวรนมไกมำเ่รกกินฤเษดฎือีกนำละสองหม่ืนบสาำทนหกั รงือำนตคามณจะำกนรรวมนกทำี่เรจก้าฤพษนฎักีกงำานบังคับคดี
เห็นสมควร
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๒ฤ)ษเฎงีกินำเดือน ค่าจ้างสบำนำกั นงาำญนคบณำะเกหรนรม็จกเำบรกี้ยฤหษวฎัดีกำหรือรายได้อื่นสใำนนลกั ักงษำนณคณะเะดกียรวรมกกันำรกฤษฎีกำ
ของข้าราชการ เจ้าหน้าท่ี หรือลูกจ้างในหน่วยราชการ และเงินสงเคราะห์ บำนาญ หรือบำเหน็จที่
หน่วยราชการได้จส่าำยนใกั หง้แำนกค่คณสู่ ะมกรรสรหมรกอื ำรญกาฤตษิทฎย่ีีกังำมีชวี ิตของบุคสคำลนเกั หงลำนา่ นคณนั้ ะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) เงินเดือน ค่าจ้าง บำนาญ ค่าชดใช้ เงินสงเคราะห์ หรือรายได้อ่ืนในลักษณะ
สำนกั เงดำียนวคกณันะขกอรงรพมกนำกั รงกาฤนษฎลีกูกำจา้ ง หรือคนงสาำนนกั นงอำนกคจณากะทกรี่กรลม่ากวำไรวกใ้ ฤนษ(ฎ๒ีก)ำที่นายจ้างหรสอื ำบนุคกั คงำลนอคื่นณใดะกไดรร้จมา่ กยำรกฤษฎีกำ
ให้แก่บุคคลเหล่าสนำั้นนกั หงำรนือคคณู่สะมกรรสรมหกรำืรอกญฤาษตฎิทีกี่ยำังมีชีวิตของบสุคำนคกั ลงเำหนลค่าณนะั้นกรเรปม็นกำจรำกนฤวษนฎรีกวำมกันไม่เกิน
เดือนละสองหมน่ื บาทหรอื ตามจำนวนทีเ่ จา้ พนกั งานบังคบั คดีเหน็ สมควร
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๔ฤษ) ฎบีกำำเหน็จหรือค่าสชำดนเกั ชงยำนหครณือะรการยรไมดก้อำรื่นกใฤนษลฎักีกษำณะเดียวกันสขำอนงกั บงุคำนคคลณตะากมรร(ม๓ก)ำรกฤษฎีกำ
เป็นจำนวนไมเ่ กินสามแสนบาทหรือตามจำนวนทเ่ี จ้าพนักงานบังคับคดเี หน็ สมควร
ส(๕ำน)กั เงงำินนฌคณาปะกนรกริจมสกงำรเคกรฤาษะฎหีก์ทำ ี่ลูกหนี้ตามคสำำพนิพกั งาำกนษคาณไะดก้รรับรมอกันำเรนก่ือฤงษมฎาีกแำต่ความตาย
ของบุคคลอ่ืนเป็นจำนวนตามที่จำเป็นในการดำเนินการฌาปนกิจศพตามฐานะของผู้ตายท่ีเจ้าพนักงาน
สำนกั บงังำคนบัคณคดะกเี หรรน็ มสกมำครกวฤรษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่เจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นผู้กำหนดจำนวนเงินตาม (๑) (๓) และ (๔) ให้
เจ้าพนักงานบังคสับำนคกัดงีคำำนนคึงณถะึงกฐรารนมกะำใรนกทฤาษงฎคีกรำอบครัวของลสูกำหนนกั ้ีตงำานมคคณำะพกิพรรามกกษำารแกลฤษะฎจีำกนำ วนบุพการี
และผู้สืบสันดานซึ่งอยู่ในความอุปการะของลูกหน้ีตามคำพิพากษาด้วย และสำหรับในกรณีตาม (๑)
สำนกั แงลำนะค(ณ๓ะ)กใรหรม้เจก้าำพรกนฤักษงฎาีกนำบังคับคดีกำหสำนนดกั ใงหำน้ไมค่นณ้อะกยรกรวม่ากอำรัตกรฤาษเงฎินีกเำดือนขั้นต่ำสุดสขำนอกังงขำ้านรคาณชะกการรรพมกลำรกฤษฎีกำ
เรือนในขณะน้ันแสลำะนไกัมงเ่ ำกนนิ คอณัตะรการเรงมนิ กเดำรือกนฤขษนั้ ฎสีกูงำสดุ ของขา้ ราชสกำนากัรพงำลนเครณอื นะกในรรขมณกะำรนก้ันฤษฎีกำ
ถ้าเจ้าหนต้ี ามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพพิ ากษา หรอื บคุ คลภายนอกผู้มีส่วนได้เสีย
สำนกั ใงนำกนาครณบะังกครับรมคกดำีไรมก่เฤหษ็นฎดีกว้ ำยกับจำนวนเงสินำนทกั เ่ี งจำ้านพคนณักะงการนรบมกงั คำรบั กคฤดษกีฎำีกหำนด บุคคลดังสกำลน่ากั วงอำนาจคยณื่นะกครำรรม้อกงำรกฤษฎีกำ
ต่อศาลภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้ทราบถึงการกำหนดจำนวนเงินเช่นว่านั้น เพ่ือขอให้ศาลกำหนด
จำนวนเงนิ ใหม่ไดส้ ำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีท่ีพฤติการณ์แห่งการดำรงชีพของลูกหนี้ตามคำพิพากษาได้เปลี่ยนแปลงไป
สำนกั บงุคำนคคลณตะากมรวรรมรกคำรสกาฤมษจฎะีกยำ่ืนคำร้องให้ศสาำลนหกั รงือำนเจค้าณพะนกักรรงมากนำบรังกคฤับษฎคีกดำี แล้วแต่กรณีสกำนำหกั งนำดนจคำณนะวกนรรเมงินกำรกฤษฎีกำ
ตาม (๑) และ (๓) ใหม่ก็ได้ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๐๓ มาตรา ๓๐๒ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๐ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนสคว่ ณนะทกี่ร๓รมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
การยึดทรัพย์สิน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๓๐๓๓๐๔ กาสรำยนึดกั สงำังนหคาณริมะกทรรรัพมยกำ์มรีรกูปฤรษ่าฎงีกขำองลูกหน้ีตามสคำำนพกั งิพำานกคษณาะนกร้ันรมใหกำ้ รกฤษฎีกำ
เจา้ พนกั งานบังคบั คดกี ระทำโดย
ส(๑ำน)กั นงำำนทครณัพะยก์นรั้นรมมกาำเรกก็บฤรษักฎษีกาำไว้ หรือฝากทสรำัพนกัยง์นำ้ันนไควณ้ ณะกรสรถมากนำรทกี่ใฤดษหฎรีกือำแก่บุคคลใด
ตามท่ีเห็นสมควรหรือมอบให้ลูกหน้ีตามคำพิพากษาเป็นผู้รักษาทรัพย์นั้นโดยได้รับความยินยอมจาก
สำนกั เงจำา้ นหคนณต้ี ะากมรครมำพกำิพรากกฤษษาฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส(ำ๒น)กั แงำจน้งครณายะกกรารรมทกรำัพรกยฤ์ทษี่ยฎึดีกใำห้ลูกหนี้ตามคสำำนพกั ิพงำานกคษณาะแกลระรมผกู้คำรรอกบฤษคฎรีกอำงหรือผู้ดูแล
ทรัพย์น้ันทราบ ถ้าไม่สามารถกระทำได้ ให้ปิดประกาศแจ้งรายการทรัพย์ที่ยึดไว้ ณ สถานท่ีที่กระทำ
สำนกั กงาำรนยคดึณะหกรรือรแมจกง้ำโรดกยฤษวิธฎีอีก่ืนำใดตามทเ่ี จ้าพสำนนักกั งงาำนนบคังณคะบักครรดมีเกหำน็ รสกมฤษคฎวรีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) แสดงให้เห็นประจักษ์แจ้งโดยการประทับตราหรือโดยวิธีอ่ืนใดตามท่ีเจ้าพนักงาน
บงั คบั คดีเห็นสมคสวำรนวกั ่างไำดน้มคีกณาะรกยรดึ รทมกรพัำรยก์นฤ้ันษแฎลีกว้ำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีากำ๓๐๔๓๐๕ กาสรำยนึดกั งเรำนือคแณพะกสรัตรมว์พกำารหกนฤะษฎหีกรำือสังหาริมทรัพสำยน์มกั ีรงูปำนรค่าณงอะยก่ารงรอม่ืกนำรกฤษฎีกำ
ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาซึ่งจะต้องจดทะเบียนกรรมสิทธ์ิหรือได้จดทะเบียนกรรมสิทธิ์ไว้แล้วตาม
กฎหมาย ใหเ้ จ้าพสนำนกั งกั างนำนบคังณคะบั กครดรีกมรกะำรทกำฤโษดฎยีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก((๑๒ฤ)ษ) ดฎแำีกจเำ้งนใินหก้นาารยตทามะวเบธิสียกีำนานกัรหงทำรีบ่ นือัญคพณญนะตัักกไิงรวารใ้ นมนกเมจำาร้าตกหรฤนาษ้าฎ๓ทีก๐่ีผำ๓ู้มีอำนาจหนส้าำทน่ีจกั ดงำทนะคเณบะียกนรตรมากมำรกฤษฎีกำ
กฎหมายว่าด้วยกสาำรนนกั ั้นงำทนรคาณบะกถร้ารไมดก้มำีกรกาฤรจษดฎทีกำะเบียนกรรมสสิทำนธกั ิ์ไงวำ้แนลค้วณใะหก้นรรามยกทำะรกเบฤียษนฎีกหำรือพนักงาน
เจ้าหน้าทบ่ี นั ทึกการยดึ ไว้ในทะเบยี น
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๓๐๕๓๐๖ การยดึ หลกั ทรัพย์ที่เป็นหลักทรพั ย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรพั ย์
และตลาดหลักทรสัพำนยกข์ั งอำงนลคูกณหะนก้ีตรารมมกคำำรพกิพฤษากฎษีกำา ใหเ้ จา้ พนกั งสาำนนบกั งงั ำคนบั คคณดะกี กรระรทมกำำโดรกยฤษฎีกำ
(๑) ในกรณีที่ยังไม่มีการออกใบตราสาร ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งรายการและ
สำนกั จงำำนนควนณหะกลรักรทมรกัพำรยกท์ ฤี่ยษึดฎใีกหำ้ลูกหนี้ตามคำสพำนิพกั างกำษนคาแณละะกผรรู้อมอกกำหรกลฤักษทฎรีกัพำย์น้ันทราบ แลสำะนเมกั ่อืงำไนดค้ดณำเะนกินรรกมากรำรกฤษฎีกำ
ยึดหลักทรัพย์ดังกล่าวเสร็จแล้ว ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีสั่งให้ผู้ออกหลักทรัพย์ออกใบตราสารส่ง
ให้แก่เจา้ พนกั งานสบำนังคกั ับงำคนดคี ณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๒ฤ)ษฎในีกกำ รณีที่มีการอสอำนกกัใบงำตนรคาณสะากรรแรลม้วกำใรหก้เฤจษ้าฎพีกนำักงานบังคับคสดำนีแกั จง้งำรนาคยณกะากรรแรมลกะำรกฤษฎีกำ
จำนวนหลักทรัพย์ที่ยึดให้ลูกหน้ีตามคำพิพากษา ผู้ออกหลักทรัพย์ และผู้ครอบครองตราสารเท่าที่
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๐๔ มาตรา ๓๐๓ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมับกทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๐๕ มาตรา ๓๐๔ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพ่ง (ฉบบั ท่ี ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๐๖ มาตรา ๓๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมับกทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๑ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
ทราบ รวมทั้งบุคคลซึ่งต้องชำระหน้ีตามตราสารนั้น ทราบ และเมื่อได้ดำเนินการยึดหลักทรัพย์
สำนกั ดงงัำกนลคา่ณวะเกสรรรจ็ มแกลำว้รกใฤหษ้เจฎ้าีกพำ นักงานบงั คับสคำนดกันี งำำตนรคาณสะากรรนรน้ัมมกำารเกกบ็ฤษรกัฎีษกำาไว้หากสามารสถำนนกัำงมำานไคดณ้ ะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ในกรณีทเ่ี ป็นหลักทรัพยซ์ ึ่งฝากไว้กับศูนยร์ ับฝากหลักทรพั ย์ตามกฎหมายว่าด้วย
หลักทรัพย์และตสลำานดกั หงลำนักคทณระัพกยร์รใมหก้เำจร้ากพฤนษัฎกีกงาำนบังคับคดีแสจำ้งนรกัางยำกนาครณแะลกะรจรำมนกำวรนกหฤลษักฎทีกำรัพย์ท่ียึดให้
ลูกหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ออกหลักทรัพย์ ผู้ฝากหลักทรัพย์และศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ตามกฎหมาย
สำนกั วง่าำดน้วคยณหะกลรักรทมรกัพำรยก์แฤลษะฎตีกลำาดหลักทรัพยส์ ำทนรกั างบำนเคพณือ่ ะปกฏรบิรมตั กติ ำารมกทฤีไ่ษดฎร้ ีกับำแจ้งจากเจ้าพสนำักนงกั างนำนบคังณคบัะกครดรีมกำรกฤษฎีกำ
รายการและจำนสว(๔ำนนห)กั ใลงนักำนกทครรณณัพะีทยก่ีเ์ทรปี่รย็นมึดหกใำลหรัก้ลกทูกฤรษหัพฎนียก้ีตำ์ทามี่ไมค่มำีกพาิพราอกอษกสาใำแบนลตกั ะงรำผานสู้อคาอณรกะหใกหลร้เรักจมท้ากพรำัพรนกยักฤ์ทงษารฎนาีกบบำังเคพับื่อคปดฏีแิบจัต้งิ
สำนกั ตงาำมนคทณไี่ ดะร้กับรรแมจกง้ ำจรากกฤเษจฎ้าพีกำนกั งานบงั คับคสดำนี กั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีที่ไม่สามารถแจ้งบุคคลตามวรรคหนึ่งได้ ให้ปิดประกาศแจ้งรายการและ
จำนวนหลักทรัพสยำ์ทน่ียกั ึดงำไนวค้ในณทะกี่แรลรเมหก็นำไรดก้งฤ่าษยฎีกณำ ภูมิลำเนาหสรำือนสกั ำงนำนักคทณำะกการรรงมากนำขรกอฤงษบฎุคีกคำลเช่นว่านั้น
หรอื แจง้ โดยวิธอี ่นื ใดตามทเ่ี จา้ พนักงานบังคบั คดีเห็นสมควร และใหม้ ผี ลใชไ้ ด้นบั แตเ่ วลาที่ประกาศน้ัน
สำนกั ไงดำป้นิดคไณวะห้ กรรอื รกมากรำรแกจฤ้งษโดฎยีกวำิธอี ่ืนใดตามทสี่เจำน้าพกั งนำกันงคาณนะบกังรครมบั กคำดรีเกหฤ็นษสฎมีกคำวรนน้ั ได้ทำหสรำือนไกัดง้ตำัง้นตค้นณแะลกว้รรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั งรำานค๓ณ๐ะ๖กร๓๐ร๗มกกำรากรฤยษึดฎตีกั๋วำเงินหรือตราสสำนารกั เงปำนลคี่ยณนะมกืรอรอมื่นกใำดรกขฤอษงฎลีกูกำหนี้ตามคำ
พพิ ากษา ใหน้ ำบทบัญญัติมาตรา ๓๐๕ วรรคหน่งึ (๒) และวรรคสอง มาใช้บังคับโดยอนโุ ลม และให้มี
สำนกั ผงลำนเปคน็ณกะากรรอรมายกดัำรสกทิ ฤธษเิ ฎรีกียำกร้องตามต๋ัวเงสินำนหกั รงอื ำตนรคาณสะากรรนร้นัมกดำว้ รยกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สใำนนกกั รงำณนีทคณ่ีเหะ็นกรสรมมคกำวรรกเฤจษ้าฎพีกนำักงานบังคับคสำดนีอกั างจำนรค้อณงขะกอรใรหม้ศกาำรลกมฤีคษำฎสีก่ังำอนุญาตให้
จำหน่ายตามราคาท่ีปรากฏในต๋ัวเงินหรือตราสารหรือราคาต่ำกว่าน้ันตามที่ศาลเห็นสมควร ถ้าศาลส่ัง
สำนกั ยงกำนคคำรณ้อะงกรใรหม้นกำำตรกวั๋ ฤเงษนิ ฎหีกรำือตราสารน้นั อสำอนกกั ขงาำยนทคอณดะตกรลรามดกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๓ค๐ณ๗ะก๓ร๐๘รมกกำารรกยฤึดษหฎุ้นีกขำองลูกหนี้ตามสำคนำกั พงิพำนาคกณษะากซรึ่งรเมปก็นำหรกุ้นฤสษ่วฎนีกจำำพวกจำกัด
ความรับผดิ ในห้างหนุ้ สว่ นจำกดั หรือผูถ้ อื ห้นุ ในบริษทั จำกัด ใหเ้ จา้ พนักงานบังคับคดีกระทำโดย
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤ)ษฎแีกจำ้งการยึดให้ลูกสหำนนกั ี้ตงาำนมคคณำพะกิพรารกมษกำารแกลฤะษหฎ้าีกงำหุ้นส่วนจำกัดสหำนรกัืองบำนริษคณัทะจกำรกรัดมทกำ่ี รกฤษฎีกำ
ลูกหน้ีตามคำพิพากษาเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นอยู่ทราบ ถ้าไม่สามารถกระทำได้ ให้ดำเนินการตาม
วธิ ีการท่ีบัญญัตไิ วสใ้ ำนนมกั างตำนรคาณ๓ะ๐ก๕รรมวกรรำรคกสฤอษงฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) แจ้งใหน้ ายทะเบียนหนุ้ สว่ นบริษทั นนั้ บันทึกการยึดไว้ในทะเบียน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั งรำานค๓ณ๐ะ๘ก๓ร๐ร๙มกกำรากรฤยษึดฎสีกิทำธิในสิทธิบัตสรำนสกัิทงธำนิในคเณคะรกื่อรรงมหกมำารยกฤกษาฎรีกคำ้า หรือสิทธิ
อย่างอื่นของลูกหนต้ี ามคำพิพากษาทมี่ ลี กั ษณะคลา้ ยคลึงกนั หรอื ทเ่ี กี่ยวเนือ่ งกนั กบั สิทธิดังกลา่ ว ซ่งึ ได้
สำนกั จงดำนทคะณเบะียกนรรหมรกอื ำขรก้นึ ฤทษะฎเบีกียำ นไว้แล้ว ให้เสจำ้านพกั นงำักนงคาณนบะกงั รครับมคกดำรีกกรฤะษทฎำีกโดำย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๐๗ มาตรา ๓๐๖ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๐๘ มาตรา ๓๐๗ แก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพง่ (ฉบบั ที่ ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๐๙ มาตรา ๓๐๘ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๒ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๑) แจ้งรายการสิทธิที่ยึดให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาทราบ ถ้าไม่สามารถกระทำได้
สำนกั ใงหำ้ดนคำเณนะินกกรรามรกตำารมกวฤิธษีกฎาีกรำที่บัญญัติไว้ในสำมนากั ตงรำานค๓ณ๐ะ๕กรวรมรรกคำรสกอฤงษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) แจ้งให้นายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าท่ีผู้มีอำนาจหน้าท่ีจดทะเบียนตาม
กฎหมายวา่ ดว้ ยกสาำรนนกั ั้นงบำนันคทณกึ ะกการรรยมึดกไำวร้ใกนฤทษะฎเีกบำยี น สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ ๓๐๙๓๑๐ กสำานรกั ยงึดำนสคิทณธะิใกนรรเมคกรำื่อรกงฤหษมฎาีกยำ การค้าซึ่งยสังำมนิไกั ดงำ้จนดคทณะะกเบรรียมนกำรกฤษฎีกำ
พลิขิพสากิทษธาิ์ ทสี่มิทีลธกั ิขษอสณรำับะนคกัสลงิทำ้านธยิคบคณัตละรงึ กกสรันริทหมธรกิใือำนรทกชเี่ ฤ่ือกษี่ยทฎวาีกเงนำกอื่ างรกคนั ้ากหับรสือิทยธสี่หดิำ้อนังกักหงลรำ่านือวคสใณิทหะธ้เกจิอร้ายรพม่านงกอักำร่ืงนกาขฤนอษบงฎังลีกคูกำับหคนดี้ตีการมะทคำำ
สำนกั โงดำยนแคจณ้งะรการยรกมากรำรสกิทฤธษิทฎี่ยีกึดำให้ลูกหน้ีตามสคำนำกัพงิพำนาคกณษะากทรรรามบกำถร้ากไฤมษ่สฎาีกมำารถกระทำไดส้ ำในหกั ้ดงำำเนนคินณกะากรรตรมามกำรกฤษฎีกำ
วิธกี ารทบ่ี ัญญัติไว้ในมาตรา ๓๐๕ วรรคสอง
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๓๑๐๓๑๑ การยึดสิทธิการเช่าทรัพย์สินหรือสิทธิที่จะได้ใช้บริการต่าง ๆ ซ่ึง
สำนกั องาำนจคมณีราะกครารแมลกะำรถกือฤเษอฎาีไกดำ้ของลูกหน้ีตสาำมนคกั ำงำพนิพคาณกะษกรารมเชก่นำรกบฤรษิกฎาีกรำโทรศัพท์หรือสโำทนรกั คงำมนนคาณคะมกรหรมรกือำรกฤษฎีกำ
บรกิ ารอนื่ ใดท่ีอาจได้รับจากทรัพย์สนิ หรือบริการของผู้อน่ื ให้เจ้าพนกั งานบังคับคดีกระทำโดย
ส(ำ๑น)กั แงำจน้งครณายะกกรารรมสกิทำรธกิทฤ่ียษึดฎีใกหำ้ลูกหนี้ตามคสำำพนกัิพงาำนกคษณาแะกลระรผมู้ใกหำร้เกชฤ่าษหฎรีกือำผู้ให้บริการ
แล้วแต่กรณี ทราบ ถ้าไม่สามารถกระทำได้ ให้ดำเนินการตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๐๕
สำนกั วงรำรนคคสณอะงกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส(๒ำน)กั ใงนำกนรคณณีะทกไ่ี รดร้มมกี กาำรรจกดฤษทฎะีกเบำียนการเชา่ ทสรำัพนยกั ์สงินำนหครณอื ะกการรรใมหกบ้ ำรรกิกาฤรษดฎังีกกำล่าว ให้แจ้ง
นายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าท่ีผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการน้ันบันทึกการยึดไว้ใน
สำนกั ทงะำนเบคียณนะดกรว้ รยมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงำาน๓คณ๑ะ๑ก๓ร๑ร๒มกกำารรกยฤึดษสฎิทีกำธิของลูกหนี้ตสาำมนคกั ำงำพนิพคาณกะษการรตมากมำใรบกอฤนษฎุญีกาำต ประทาน
บัตร อาชญาบัตร สัมปทาน หรือสิทธิอย่างอ่นื ของลกู หน้ีตามคำพพิ ากษาที่มลี กั ษณะคล้ายคลงึ กันหรือ
สำนกั ทงีเ่ำกน่ียควณเนะกือ่ รงรกมันกกำรบั กสฤทิ ษธฎิดีกังำกลา่ ว ให้เจ้าพสำนนักกั งงาำนนบคงัณคะบั กครรดมีกกรำะรทกำฤโษดฎยีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) แจ้งรายการสิทธิที่ยึดให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาทราบ ถ้าไม่สามารถกระทำได้
ให้ดำเนินการตามสำวนิธกัีกงาำรนทคีบ่ณัญะกญรัตรมิไวก้ใำนรกมฤาษตฎราีกำ๓๐๕ วรรคสสอำงนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) แจ้งใหน้ ายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าทีผ่ ู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายวา่ ด้วย
สำนกั กงาำรนนคัน้ณบะกนั รทรกึมกกาำรรกยฤดึ ษไวฎ้ใีกนำทะเบียน สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๓๑๒๓๑๓ การยึดอสังหาริมทรัพย์ของลูกหน้ีตามคำพิพากษานั้น ให้เจ้า
สำนกั พงนำนักคงณานะกบรังรคมับกคำรดกกี ฤรษะฎทีกำำโดย สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๑๐ มาตรา ๓๐๙ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมบั กทำี่ ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๑๑ มาตรา ๓๑๐ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพง่ (ฉบับท่ี ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒คณ๕๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๑๒ มาตรา ๓๑๑ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมับกทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๓ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
(๑) นำหนังสือสำคัญสำหรับทรัพย์นั้นมาเก็บรักษาไว้ หรือฝากไว้แก่บุคคลใดตามท่ี
สำนกั เงหำน็นสคมณคะวกรรรเมวก้นำแรตกท่ฤษรพัฎีกยำน์ น้ั ยังไม่มีหนสงั สำนือกัสงำำคนัญคณหระกอื รนรำมหกนำรงั กสฤือษสฎำีกคำญั มาไม่ได้ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) แสดงให้เหน็ ประจักษ์แจง้ โดยการปิดประกาศไวท้ ่ีทรพั ย์นั้นวา่ ได้มีการยึดทรัพย์
นั้นแล้ว สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) แจง้ รายการทรัพยท์ ย่ี ึดให้บคุ คลดังตอ่ ไปนี้ทราบ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎ(กีก)ำ ลกู หนีต้ ามคสำำพนพิ กั างกำนษคาณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั ง((คขำน)) คบเจณุค้าะคพกลนรอรักน่ืมงซกาำง่ึนรมกทชี ฤ่ีดอื่ ษินใฎนหีกทรำะือเพบนยี ักนงวาา่ นเปเจ็นส้าเำจหนา้ นกัข้างอำทงนี่ผทคู้มรณีัพอะำยกน์นรารนั้ มจกหำนร้กาทฤษี่จฎดีกทำะเบียนสิทธิ
สำนกั แงลำนะคนณิตะิกกรรรรมมเกกำี่ยรวกกฤษับฎทีกรำัพย์นั้น ถ้าทรสัพำยน์นกั งั้นำมนีทคณะเะบกียรรนมกใหำร้เกจฤ้าษพฎนีกักำงานท่ีดินหรือสพำนนกัักงงำานนคเณจ้าะกหรนรม้าทกำี่ รกฤษฎีกำ
บันทึกการยึดไวใ้ นทะเบยี น
สใำนนกกั รงำณนีทคี่ณไมะ่สกรารมมากรำถรกแฤจษ้งฎตีกาำมวรรคหน่ึง (ส๓ำน) กั(กงำ)นหครณือะก(รขร)มไกดำ้รใกหฤ้ปษิฎดีกปำระกาศแจ้ง
รายการทรัพย์ท่ียึดไว้ในที่แลเห็นได้ง่าย ณ ภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานของบุคคลเช่นว่าน้ัน หรือ
สำนกั แงจำน้งโคดณยะวกิธรีอรื่นมกใดำรตกาฤมษทฎ่ีเีกจำ้าพนักงานบังคสำับนคกั ดงีเำหน็นคณสมะกครวรรมกแำลระกใฤหษ้มฎีผีกลำใช้ได้นับแต่เวสลำนาทกั งี่ปำรนะคกณาะศกนรร้ันมไกดำ้ รกฤษฎีกำ
ปดิ ไวห้ รือการแจง้ โดยวิธอี ่ืนใดตามทเ่ี จ้าพนกั งานบงั คบั คดเี หน็ สมควรนน้ั ได้ทำหรือไดต้ ั้งตน้ แล้ว
สเำมน่ือกั ไงดำ้นแคจณ้งกะการรรยมึดกใำหรก้ลฤูกษหฎนีกี้ตำ ามคำพิพากสษำนากแั งลำะนเคจณ้าะพกนรรักมงกาำนรทกฤี่ดษินฎหีกรำือพนักงาน
เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าท่ีจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับทรัพย์น้ันแล้ว ให้ถือว่าเป็นการยึด
สำนกั ตงาำมนคกณฎหะกมรารยมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๓๑๓๓๑๔ การยึดทรัพยสิทธิอันเก่ียวกับอสังหาริมทรัพย์น้ัน ให้เจ้าพนักงาน
สำนกั บงงัำนคคบั ณคดะกกี รรระมทกำำโรดกยฤดษำฎเีกนำนิ การตามวิธกี สาำนรทกั งบี่ ำัญนคญณตั ะิไกวร้ในรมมกาำตรรกาฤษ๓ฎ๑ีก๒ำ โดยอนโุ ลม สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๓ค๑ณ๔ะก๓ร๑ร๕มกกำารรกยฤึดษสฎังีกหำาริมทรัพย์มีรสูปำนรกั่างงำขนอคงณลูะกกหรนรมี้ตกาำมรคกำฤพษิพฎีกาำกษานั้นให้มี
ผลเป็นการยึดครอบไปถึงดอกผลธรรมดาและดอกผลนติ ินัยของทรัพยน์ ัน้ ดว้ ย
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกกฤาษรยฎดึีกอำสังหารมิ ทรัพสยำน์ขอกั งงำลนูกคหณนะต้ี การมรมคกำำพรพิ กาฤกษษฎาีกนำ ั้นใหม้ ผี ลเปน็ สกำานรกั ยงึดำนคครณอบะกไปรรถมึงกำรกฤษฎีกำ
(๑) เครอ่ื งอปุ กรณแ์ ละดอกผลนิตนิ ยั ของทรัพยน์ น้ั
ส(ำ๒น)กั ดงำอนกคผณละธกรรรรมมกดำารกขฤอษงฎทีกรำัพย์นั้นที่ลูกหสนำนี้ตกัางมำคนำคพณิพะการกรษมกาำมรีสกิทฤษธฎิเกีก็บำ เกี่ยว เมื่อ
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้แจ้งหรือปิดประกาศให้ลูกหนี้ตามคำพิพากษาและผู้ครอบครองหรือผู้ดูแล
สำนกั ทงรำนพั คยณ์นะัน้ กทรรรามบกใำนรกขฤณษะฎทีกำำการยดึ วา่ ไดย้ สดึ ำนดกัองกำผนลคดณว้ ะยกแรลรม้วกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๓๑๕๓๑๖ การยดึ ทรัพย์สนิ ของลกู หนต้ี ามคำพิพากษานน้ั ใหม้ ีผลดงั ต่อไปนี้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ความแพ่ง (ฉบบั ท่ี ๓ส๓๐ำ๑น๓) กัพมง.าศำตน.ร๒คา๕ณ๓๖ะ๑ก๐๒รรแมกก้ไำขรเกพฤ่ิมษเตฎิมีกโำดยพระราชบัญสญำัตนิแกั กง้ไำขนเพคณ่ิมเะตกิมรปรรมะกมำวรลกกฤฎษหฎมีกาำยวิธพี ิจารณา
๓๑๔ มาตรา ๓๑๓ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมบั กทำี่ ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๑๕ มาตรา ๓๑๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพง่ (ฉบับท่ี ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๑๖ มาตรา ๓๑๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๔ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
(๑) การที่ลูกหน้ีตามคำพิพากษาได้ก่อให้เกิด โอน หรือเปล่ียนแปลงซ่ึงสิทธิใน
สำนกั ทงำรนัพคยณ์สะินกทรรี่ถมูกกยำรึดกภฤาษยฎหีกำลังที่ได้ทำกาสรำยนึดกั ไงวำ้แนลคณ้วนะกั้นรรหมากอำรากจฤใษชฎ้ยีกันำแก่เจ้าหนี้ตาสมำคนกัำงพำิพนคาณกษะการหรรมือกำรกฤษฎีกำ
เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ไม่ถึงแม้ว่าราคาแห่งทรัพย์สินนั้นจะเกินกว่าจำนวนหนี้ตามคำพิพากษากับ
ค่าฤชาธรรมเนียสมำแนลกั ะงคำน่าคฤณชะากธรรรรมมกเำนรียกมฤษในฎกีกาำรบังคับคดี แสลำนะกัลงูกำหนคนณ้ีตะากมรครำมพกิพำรากกฤษษาฎไีกดำ้กระทำการ
ดงั กลา่ วแก่ทรัพยส์ นิ ทถ่ี ูกยดึ เพียงส่วนทม่ี ีราคาเกนิ จำนวนนน้ั ก็ตาม
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๒ฤ)ษถฎ้ีากลำูกหนี้ตามคำสพำิพนากั กงำษนาคไณด้ระักบรมรอมบกำใหรก้เปฤษ็นฎผีกู้รำักษาทรัพย์สินสทำี่ถนูกกั งยำึดนคลณูกะหกนร้ีตรมากมำรกฤษฎีกำ
ตคาำมพคิพำาพกิพษาากชษอาบจสทะำี่จนทะกั ำใงใชำห้นท้ทครรณัพัพะยยก์ส์สรินรินมเชนก่น้ันำรวเกส่าฤียนษห้ันฎาไีกยดำห้ตารมือสเกมรคงววร่าจแสะตำเนส่ถกัีย้างเหำจนา้ายคพณนโดะักกยงรเารจมน้ากพบำังนรคกักับฤงษาคนฎดีกบีเหำัง็นคับว่าคลดูกีเหห็นนี้
สำนกั เงอำงนหครณือะเกมร่ือรเมจก้าำหรกนฤ้ีตษาฎมีกคำำพิพากษาหรสือำนบกั ุคงคำนลคผณู้มะีสก่วรนรมไดก้เำสรียกฤในษกฎาีกรำบังคับคดีแก่ทสำรนัพกั ยง์สำนินคนณ้ันะรก้อรงรขมกอำรกฤษฎีกำ
เจา้ พนกั งานบังคับคดีจะรักษาทรพั ย์สินนน้ั เสียเองหรือต้ังให้ผู้ใดเปน็ ผ้รู กั ษาทรัพย์สนิ นั้นกไ็ ด้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส่วนที่ ๔
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สกำนารกั องำานยคดั ณสะิทกธริเรรมียกกำรรอ้ กงฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๓๑๖๓๑๗ การอายัดสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำพิพากษาที่จะเรียกให้
สำนกั บงุคำนคคลณภะากยรนรมอกกำชรำกรฤะษเฎงิีนกำหรือส่งมอบหสรำือนโกั องนำนทครณัพะยก์สรินรมกก็ดำี รหกรฤือษทฎ่ีจีกะำเรียกให้บุคคสลำภนากั ยงนำนอคกณชะำกรระรหมนกำ้ี รกฤษฎีกำ
อย่างอื่นนอกจากการชำระเงินหรือการส่งมอบหรือการโอนทรัพย์สินก็ดี ให้ศาลหรือเจ้าพนักงาน
บังคบั คดีกระทำโสดำยนมกั คี งำำสนงั่คอณาะยกัดรรแมลกะำรแกจฤง้ ษคฎำสีกำงั่ นนั้ ให้ลกู หนต้ีสำานมกัคงำำพนิพคณากะษกรารแมลกะำบรกุคฤคษลฎภีกาำยนอกทราบ
สำนกั เงรำียนกครณ้อะงกแรลระมมกำีขร้อกคหฤำ้ษาสมฎั่งบอีกำาุคยคัดลตภาามยวนรอรกคสไหำมนน่ใกั ่ึหงง้ำปตนฏ้อคิบงณมัตะีขิกก้อราหรรมช้ากมำำรลระูกกหฤหนษนฎ้ีนี้ตีก้ันาำแมกค่ลำูพกหิพนาก้ีตษามาสไคำมนำ่ใพกั หงิพ้จำนาำกคหษณนาะ่ากยแรสตริทม่ใหกธำิ้ รกฤษฎีกำ
ชำระเงินหรือส่งมสำอนบกั หงำรนือคโอณนะกทรรรัพมกยำ์สรินกหฤษรฎือีกชำำระหนี้อย่างอสำ่ืนนใกัหง้แำนกค่ศณาละกเรจร้ามพกำนรักกงฤาษนฎบีกัำงคับคดีหรือ
บคุ คลอื่น หรือให้ดำเนินการโดยวธิ ีอน่ื ใดตามที่ศาลหรอื เจ้าพนักงานบังคับคดีเห็นสมควร ณ เวลาหรือ
สำนกั ภงาำนยคในณเะวกลรารมหกรำือรเกงฤอื่ ษนฎไขีกตำามท่ีกำหนดใสหำน้ แกั ลงำว้ นแคตณ่กะรกณรีรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
คำสัง่ อายัดนน้ั ให้บังคบั ได้ไม่ว่าทใี่ ด ๆ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๓๑๗๓๑๘ การอายัดตามมาตรา ๓๑๖ อาจกระทำได้ไม่ว่าหนี้ที่เรียกร้องนั้น
สำนกั จงะำนมคีขณอ้ โะตก้แรยรมง้ กขำ้อรกจฤำษกฎดั ีกเำง่ือนไข หรอื วสา่ ำไนดกัก้ งำำหนนคดณจะำกนรวรมนกไวำรแ้ กนฤน่ ษอฎนีกหำรือไมก่ ็ตาม สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงำาน๓คณ๑ะ๘ก๓ร๑ร๙มกกำารรกอฤาษยฎัดีกสำิทธิเรียกร้องสขำอนงกั ลงูกำนหคนณ้ีตะากมรครมำกพำิพรกาฤกษษฎาีกทำ่ีมีสิทธิได้รับ
สำนกั ชงำำรนะคหณนะ้ีเกปร็นรมคกรำารวกฤๆษใฎหีกม้ ำีผลเป็นการอสาำยนดั กั สงิทำนธคิเรณียะกกรร้อรงมขกอำงรลกฤูกษหฎนีก้ีตำามคำพิพากษสาำทนีม่ กั ีสงิทำนธคิไดณ้ระับกชรรำมรกะำรกฤษฎีกำ
หนีภ้ ายหลังการอายดั นน้ั ด้วย
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๑๗ มาตรา ๓๑๖ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำี่ ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๑๘ มาตรา ๓๑๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพง่ (ฉบับที่ ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๑๙ มาตรา ๓๑๘ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมับกทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๕ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีากำ๓๑๙๓๒๐ กาสรำอนากัยงัดำสนิทคณธิเะรกียรกรมร้อกงำรขกอฤงษลฎูกีกหำน้ีตามคำพิพาสกำษนกาั ทงำี่มนีจคำณนะอกงรหรมรกือำรกฤษฎีกำ
จำนำเป็นประกัน ให้มีผลรวมตลอดถึงการจำนองหรือการจำนำนั้นด้วย ถ้าทรัพย์สินที่จำนองนั้นมี
ทะเบียน ให้เจา้ พสนำักนงกั างนำนบคังคณับะกครดรีแมจกง้ ำครกำสฤษั่งอฎาีกยำัดไปยังผู้มอี ำนสำานจกัหงนำน้าทคณีเ่ พะื่อกใรหรมจ้ กดำแรจกง้ฤไษวฎใ้ นีกทำ ะเบียน
ในกรณผี ู้จำนองหรอื ผู้จำนำมใิ ช่ลูกหนต้ี ามสิทธเิ รียกร้อง เมอื่ ไดด้ ำเนินการอายัดแล้ว
สำนกั ใงหำแ้นจค้งณผะู้จกำรนรมอกงหำรรกือฤผษูจ้ ฎำีกนำำเพอ่ื ทราบด้วสยำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั รงาำน๓ค๒ณ๐ะก๓๒ร๑รมกกาำรรกอฤาษยฎัดีกสำิทธิเรียกร้องนสัน้ ำในหกั ม้ งีผำนลคดณังตะอ่กไรปรมนกี้ ำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤษ) ฎกีกาำรที่ลูกหน้ีตามสำคนำกั พงำิพนาคกณษะากไรดรม้กก่อำใรหก้เฤกษิดฎสีกิทำ ธิแก่บุคคลภสาำนยกันงอำนกคเหณนะกือรสริทมกธำิ รกฤษฎีกำ
เรียกร้องท่ีได้ถกู อายัด โอน เปล่ยี นแปลง หรือระงบั ซึ่งสทิ ธเิ รียกร้องดังกล่าวภายหลังทไ่ี ด้ทำการอายัด
ไว้แล้วน้ัน หาอาจสำใชน้ยกั งันำแนกค่เณจะ้ากหรนรมี้ตกาำมรคกำฤพษิพฎีกาำกษาหรือเจ้าพสนำนักกั งงาำนนบคัณงคะับกรครดมีไกดำ้ไรมก่ถฤึงษแฎมีก้วำ่าราคาแห่ง
สิทธิเรียกรอ้ งนั้นจะเกินกว่าจำนวนหน้ีตามคำพิพากษากับค่าฤชาธรรมเนียมและค่าฤชาธรรมเนียมใน
สำนกั กงาำรนบคังณคะับกครรดมี กแำลระกลฤูกษหฎนีกำี้ตามคำพิพากษสำานไกดั ง้กำรนะคทณำะกการรรดมังกกำลรก่าฤวษแกฎี่สกำิทธเิ รียกร้องทถ่ีสำูกนอกั างยำันดคเพณยี ะงกสร่วรนมกทำ่ี รกฤษฎีกำ
มรี าคาเกินจำนวนนั้นกต็ าม
สคำวนากั มงำในนควณระรกครหรมนก่ึงำมรกิใฤหษ้ใชฎ้ีกบำังคับแก่ผู้จำนสำอนงกั หงำรนือคผณู้จะำกนรรำมซก่ึงำมริใกชฤ่ลษูฎกีกหำนี้ตามสิทธิ
เรียกร้องตามมาตรา ๓๑๙ วรรคสอง หากผู้จำนองหรือผู้จำนำพิสูจน์ได้ว่าความระงับส้ินไปแห่งการ
สำนกั จงำำนนคอณงหะกรือรรกมากรำจรำกนฤำษเฎกีกิดำข้ึนโดยผู้จำนสอำงนหกั รงือำนผคู้จณำนะกำรกรรมะกทำำรกกฤารษโฎดีกยำสุจริตและเสียสคำน่ากัตงอำบนคแณทนะกกร่อรนมกมำี รกฤษฎีกำ
การแจ้งการอายัดสไำปนยกั งั งผำนูจ้ คำนณอะงกหรรรมือกผำู้จรำกนฤำษเฎพีก่ือำทราบ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ถ้าค่าแห่งสิทธิเรียกร้องซ่ึงอายดั ไว้นั้นต้องเสื่อมเสยี ไปเพราะความผิดของเจ้าหนี้
สำนกั ตงาำมนคคำณพะิพกรารกมษกาำรเกจฤ้าษหฎนีกี้ตำามคำพิพากษสาำตน้อกั งงรำับนผคิดณชะดกรใชรม้คก่าำสรินกไฤหษมฎทีกดำแทนให้แก่ลูกสหำนนกัี้ตงาำมนคคำณพะิพการกรมษกาำรกฤษฎีกำ
เพ่ือความเสยี หายใด ๆ ซงึ่ เกดิ ขึ้นแกล่ กู หนตี้ ามคำพพิ ากษานน้ั
ส(๓ำน)กั กงาำนรชคณำระะกหรรนมี้โกดำยรบกฤุคษคฎลีกภำายนอกตามทสี่รำะนบกั ุไงวำน้ในคคณำะสก่ังรอรมายกำัดรนกั้นฤษใหฎ้ถีกือำว่าเป็นการ
ชำระหน้ตี ามกฎหมาย
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สว่ นที่ ๕
สำนกกั างรำขนอคใณหะ้ศการลรบมงักคำรับกบฤุคษคฎลีกภำ ายนอกชำระสหำนนกั้ีตงาำมนสคิทณธะิเกรรยี รกมรก้อำงรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๓๒๑๓๒๒ ถ้าบุคคลภายนอกไม่ชำระหนี้ตามคำสั่งอายัดของศาลหรือเจ้า
พนักงานบังคับคสดำีตนากั มงำมนาคตณระาก๓รร๑ม๖กำใรหก้เฤจษ้าฎพีกนำักงานบังคับคสดำีแนจกั ้งงใำหนค้เจณ้าะหกนรี้ตรมากมำครำกพฤิพษฎากีกษำ าทราบ ใน
สำนกั กงรำนณคีเณช่นะกวร่ารนมี้กเำจร้ากหฤนษ้ีฎตีกาำมคำพิพากษาสอำนาจกั งยำ่ืนนคคำณระ้อกงรตรม่อกศำารลกใฤหษ้บฎีักงคำ ับบุคคลภายสนำนอกักงนำั้นนคปณฏะิบกัตรริกมากรำรกฤษฎีกำ
ชำระหนี้ตามที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งหรือชำระค่าสินไห มทดแทนเพื่อการไม่ชำระหนี้แก่
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๒๐ มาตรา ๓๑๙ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมบั กทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๒๑ มาตรา ๓๒๐ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
ความแพง่ (ฉบบั ที่ ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒คณ๕๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๒๒ มาตรา ๓๒๑ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะ่งก(รฉรบมับกทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๖ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา
-
เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ได้ เมื่อศาลทำการไต่สวนแล้วถ้าเป็นท่ีพอใจว่าสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตาม
สำนกั คงำำนพคิพณาะกกษรรามนกั้นำรมกีอฤยษู่จฎรีกิงำและอาจบังคสัำบนไกัดง้จำนะคมณีคะำกสรั่งรใมหก้บำรุคกคฤลษภฎีกายำ นอกปฏิบัติกสำานรกัชงำำรนะคหณนะกี้ตรารมมทกำี่ รกฤษฎีกำ
เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำส่ังหรือให้ชำระค่าสินไหมทดแทนตามจำนวนที่เห็นสมควรก็ได้ ถ้า
บุคคลภายนอกนนั้สำมนไิ กัดงป้ ำฏนคบิ ณัตะิตการมรคมำกสำั่งรขกฤอษงศฎาีกลำ เจา้ หนต้ี ามคสำำนพกัพิ งาำกนษคาณอะากจรรรม้อกงขำรอกใฤหษ้ศฎาีกลำบังคับคดีแก่
บคุ คลภายนอกนน้ั เสมือนหน่ึงว่าเปน็ ลูกหนตี้ ามคำพพิ ากษาก็ได้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สิทสธำขิ นอกั งงบำนุคคคณลภะการยรนมอกกำรแกลฤะษผฎู้มีกสี ำส่วว่นนไดทเ้่ี ส๖ยี เกย่ี สวำกนับกั ทงรำนัพคยณส์ ินะกทรถ่ีรกูมบกำังรคกับฤคษดฎีีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สมำานตกั งรำานค๓ณ๒ะ๒ก๓ร๒ร๓มกภำรากยฤใษตฎ้บีกังำคับมาตรา ๓ส๒ำน๓กั งแำนลคะณมะากตรรรามก๓ำ๒รก๔ฤษบฎทีกบำ ัญญัติแห่ง
ประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยการบังคับคดีแก่ทรพั ย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาย่อมไม่กระทบกระท่ัง
สำนกั ถงึงำทนครณัพะยกสริทรมธิกบำรุรกิมฤสษิทฎธีกิ ำสิทธิยึดหน่วงสำหนรกั ืองำสนิทคธณิอะื่นกซรรึ่งมบกุคำครกลฤภษาฎยีกนำอกมีอยู่เหนือสทำนรกััพงยำน์สคินณหะรกือรอรมาจกำรกฤษฎีกำ
ร้องขอให้บังคบั เหนอื ทรพั ยส์ ินน้ันตามกฎหมาย
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๓๒๓๓๒๔ ภายใต้บังคับมาตรา ๕๕ บุคคลใดกล่าวอ้างว่าจำเลยหรือลูกหน้ี
สำนกั ตงาำนมคคณำพะกิพรารกมษกำารไกมฤ่ใษชฎ่เจีก้าำของทรัพย์สินสำทนี่เกัจง้าำพนนคักณงะากนรรบมังกคำับรกคฤดษีไฎดีก้ยำึดไว้ หรือตนเสปำ็นนเกั จง้าำขนอคงณระวกมรซรมึ่งมกำี รกฤษฎีกำ
กรรมสิทธิ์หรือสทิ ธิครอบครองในทรพั ยส์ ินนั้นซึ่งเป็นอสงั หาริมทรัพยท์ ่ีได้แบง่ การครอบครองเปน็ ส่วนสัด
หรือตนเป็นเจ้าขสอำงนรกัวงมำในนคทณระัพกยรร์สมินกนำร้ันกซฤ่ึงษเฎปีก็นำสังหาริมทรัพสยำ์ทน่ีเกั ปง็นำนทครณัพะยก์แรรบม่งกไดำร้ กหฤรษือฎตีกนำเป็นผู้อยู่ใน
สำนกั ทฐงารำนนพั คะยณอ์สะัินนกนจร้ันะรมใทหก้ังำ้จหรดมกทฤดษหะฎเรบีกือีำยบนางสสิท่วธนิขหอรงือตเสฉนำพนในกัางะทำสนร่วัพคนณยข์ะสอกินงรตนรนม้ันกไแำดรล้อก้วฤยแษู่กตฎ่่กอีกรนำณบี โุคดคยลยน่ืนั้คนำอรสา้อำจงนรขกั ้อองงำตขน่อคอศณใาหะล้กปทรลี่อร่อมอกยกำรกฤษฎีกำ
หมายบังคับคดีภาสยำนในกั หงำกนสคบิ ณวะันกนรรับมแกตำร่วกันฤทษมี่ ฎีกีกาำรยึดทรัพย์สินสนำนั้นกั แงำตนถ่ ค้าณไมะ่กสรารมมากรำถรยก่ืนฤษคฎำรีก้อำงขอภายใน
ระยะเวลาดังกล่าว บุคคลนั้นจะยื่นคำร้องขอเม่ือพ้นระยะเวลาเช่นว่าน้ันได้ก็ต่อเมื่อมีพฤติการณพ์ ิเศษ
สำนกั แงลำนะคไดณ้ยะื่นกรครำมรก้อำงรขกอฤไษมฎ่ชีก้าำกว่าเจ็ดวันก่อสำนนวกั ันงทำนี่เจค้าณพะนกรักรงมากนำบรกังคฤษับฎคีกดำีกำหนดไว้เพ่ือสกำนารกั ขงำานยคทณอะดกตรลรมากดำรกฤษฎีกำ
หรือจำหน่ายโดยวิธีอื่นซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นคร้ังแรก เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย บุคคลนั้นจะยื่น
คำรอ้ งขอในภายหสลำนงั กักง็ไำดน้ คแณต่จะะกตรรอ้ มงกยำนื่ รเกสฤยี ษกฎ่อีกนำขายทอดตลาสดำหนกรั ืองำจนำคหณนะ่ากยรโรดมยกวำธิรอีก่นืฤษซฎ่ึงทีกำรัพย์สนิ นั้น
ในกรณีทเี่ ป็นทรัพย์สินตามมาตรา ๓๓๒ ผกู้ ล่าวอ้างอาจยื่นคำร้องขอตอ่ ศาลภายใน
สำนกั หงกำนสคิบณวะันกนรับรมแกตำ่วรันกฤทษ่ีไดฎ้มีกีำการยึดทรัพย์สสำินนนกั ้ันงำแนตคณ่ถ้าะไกมร่สรมากมำารรกถฤยษื่นฎคีกำำร้องขอภายในสรำนะกัยงะำเนวคลณาดะังกกรรลม่ากวำรกฤษฎีกำ
บุคคลนั้นจะย่ืนคำร้องขอเมื่อพ้นระยะเวลาเช่นว่านั้นได้ก็ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ แต่จะต้องย่ืนเสีย
ก่อนที่เจ้าพนักงาสนำบนกัังงคำับนคคดณีจะกะรจร่ามยกเำงรินกทฤี่ไษดฎ้จีกาำกการขายทรสัพำยน์สกั ินงำนน้ันคแณกะ่เกจร้ารหมกนำ้ีตรากมฤคษฎำพีกำิพากษาตาม
สำนกั มงาำนตคราณะ๓ก๓ร๙รมหกำรรือกกฤ่อษนฎทีกำ่ีบญั ชีส่วนเฉลสย่ี ำแนสกั ดงงำนจำคนณวะนกเรงรินมทกำี่ขรากยฤทษรฎัพีกยำ์สนิ น้ันเปน็ ท่ีสสุดำนตกัางมำมนาคตณระากร๓ร๔ม๐กำรกฤษฎีกำ
แล้วแตก่ รณี ทง้ั นี้ ใหถ้ อื ว่าเงินจำนวนสทุ ธิทไี่ ด้จากการขายน้นั เป็นเสมอื นทรัพย์สินท่ีขอให้ปล่อย
สเำมนื่อกั ศงำานลคสณั่งะรกับรครมำกรำ้อรงกขฤอษไฎวีก้แำล้ว ให้ส่งสำสเำนนากั คงำำนรค้อณงขะกอรแรกม่โกจำรทกกฤ์หษรฎือีกำเจ้าหนี้ตาม
คำพิพากษาจำเลยหรือลูกหน้ีตามคำพิพากษา และเจ้าพนักงานบังคับคดี เม่ือเจ้าพนักงานบังคับคดี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๒๓ มาตรา ๓๒๒ แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความแพ่ง (ฉบบั ท่ี ๓ส๐ำน) กัพง.ศำน. ๒ค๕ณ๖ะก๐รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๒๔ มาตรา ๓๒๓ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
สำนกั คงวำานมคแณพะง่ ก(รฉรบมับกทำ่ี ร๓ก๐ฤ)ษพฎ.ศีก.ำ๒๕๖๐ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๗ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
ได้รับคำร้องขอเช่นว่านี้ถ้าทรัพย์สินท่ียึดนั้นไม่ใช่ทรัพย์สินตามมาตรา ๓๓๒ ให้งดการขายทอดตลาด
สำนกั หงรำนอื คจณำหะกนร่ารยมทกรำัพรกยฤ์สษินฎนีกั้นำไวใ้ นระหวา่ งสรำอนคกั ำงวำนินคจิ ณฉยัะกชร้ีขรามดกำแรลกะฤใษหฎ้ศีกาำลพิจารณาแลสะำชนี้ขกั างดำนตคัดณสินะกครดรนีมั้กนำรกฤษฎีกำ
เหมอื นอยา่ งคดธี รรมดา
สโำจนทกั กง์หำนรคอื ณเจะ้ากหรนรมี้ตกาำมรคกำฤพษิพฎีกาำกษาอาจยื่นคำสรำน้อกังวงำ่านคคำณร้อะงกขรอรมนก้ันำไรมก่มฤีมษูลฎแีกำละย่ืนเข้ามา
เพื่อประวิงการบังคับคดี เมื่อปรากฏพยานหลักฐานเบื้องต้นว่าคำร้องนั้นฟังได้ ศาลมีอำนาจส่ังให้
สำนกั ผงู้กำนลค่าณวอะก้ารงรวมากงำเงรินกฤหษรฎือีกหำาประกันต่อศสาำลนตกั างมำนจคำนณวะนกรแรลมะกภำรากยฤในษรฎะีกยำะเวลาท่ีศาลเสหำ็นนกัสงมำคนวครณเะพกื่อรรเปมก็นำรกฤษฎีกำ
ปไดร้ระับกจันากกากราชรำยรื่นะสคคำำ่านรสกั ้อินงงำไขนหอคมนณท้ันะดกแถรทร้ามผนกู้กแำลกร่าก่โจวฤอทษ้าฎกงีก์หไำมรือ่ปเฏจิบ้าหัตนิตาี้ตมาคมสำคำนสำกั่ังพศงิพำานาลคกณใษหะา้กศสราำรลหมมรกีคับำรำคกสวฤ่ังาษจมฎำเหีกสำียนห่ายาคยทดีอ่ีออาจก
สำนกั จงาำกนสคณาระบกบรรคมวกาำมรกสฤ่วษนฎเีกงำินหรือประกันสทำนี่วากั งงไำวน้ตค่อณศะากลรรดมังกกำลร่ากวฤษเมฎื่อีกศำ าลเห็นว่าไมส่มำีคนวกั างมำนจคำเณปะ็นกตรร่อมไปกำรกฤษฎีกำ
จะสัง่ คนื หรอื ยกเลิกประกันนั้นก็ไดค้ ำสง่ั ของศาลตามวรรคนใ้ี หเ้ ปน็ ท่ีสุด
สใำนนกกั รงณำนีทค่ีศณาะลกไรดรม้มกีคำำรสก่ังฤยษกฎคีกำำร้องขอที่ย่ืนสไวำน้ตกัางมำวนรครณคะหกนรร่ึงมหกรำือรวกรฤรษคฎสีกอำ ง ถ้าโจทก์
หรือเจ้าหน้ีตามคำพิพากษาที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากการย่ืนคำร้องขอดังกล่าวเห็นว่าคำ ร้องขอ
สำนกั นงั้นำนไมคณ่มีมะกูลรแรลมะกยำ่ืนรกเขฤ้าษมฎาีกเำพ่ือประวิงการสบำังนคกั ับงำคนดคี ณบะุคกครลรดมังกกำรลก่าฤวษอฎาจีกยำ่ืนคำร้องต่อศสาำลนภกั างยำในนคสณาะมกสริบรมวกันำรกฤษฎีกำ
นับแต่วันที่ศาลได้มีคำส่ังยกคำร้องขอเพ่ือขอให้ศาลสั่งให้ผู้กล่าวอ้างชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับ
ความเสียหายที่เกสิดำนขกั ้ึนงแำนกค่ตณนะไกดร้ รในมกกำรรณกฤีเชษ่นฎวีก่าำนี้ ให้ศาลมีอสำำนนากั จงสำนั่งคใหณ้แะยกรกรกมากรำพรกิจฤาษรฎณีกาำเป็นสำนวน
ต่างหากจากคดีเดิม และเม่ือศาลไต่สวนแล้วเห็นว่าคำร้องนั้นฟังได้ ให้ศาลมีคำสั่งให้ผู้กล่าวอ้างชดใช้
สำนกั คง่าำนสคินณไหะกมรทรดมแกทำรนกตฤษามฎจีกำำนวนที่ศาลเหส็นำนสกั มงคำนวครถณ้าะบกรุครคมลกดำรังกกฤลษ่าฎวีกไมำ ่ปฏิบัติตามคสำำสนั่งกั ศงาำนลคโณจะทกกร์หรมรกือำรกฤษฎีกำ
เจ้าหนตี้ ามคำพิพาสกำษนากั องำานจคร้อณงะขกอรใรหมศ้ กาำลรกบฤังษคฎับีกคำดีแก่บุคคลน้นั สเสำนมกัืองนำหนนคณ่ึงวะา่ กเรปรน็ มลกูกำรหกนฤ้ีตษาฎมีกคำำพิพากษา
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๓๒๔๓๒๕ บุคสคำลนกใั ดงำมนีสคิทณธะิทก่ีจรระมไดก้รำรับกชฤำษรฎะีกหำน้ีหรือได้รับสส่วำนนแกั บงำ่งนจคาณกะเงกินรรทม่ีไกดำ้ รกฤษฎีกำ
จากการขายทอดตลาดหรือจำหน่ายโดยวิธีอ่ืนซึ่งทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาท่ีเจ้าพนักงาน
บังคับคดีได้ยึดไวส้โดำนยกัองาำศนัยคอณำะนการจรมแกหำ่งรทกรฤัพษฎยีกสำิทธิ บุริมสิทธิสสำิทนกัธงิยำึดนหคนณ่วะงกรหรรมือกสำริทกธฤิอษ่ืนฎซีกึ่งำบุคคลน้ันมี
อยู่เหนือทรพั ย์สินหรืออาจร้องขอให้บังคับเหนอื ทรพั ย์สินนั้นตามกฎหมาย ให้ดำเนนิ การดงั ตอ่ ไปนี้
สำนกั งำนคณะกรรมกำรก(๑ฤ)ษใฎนีกกำรณีท่ีเป็นผู้รบัสำจนำกันงอำนงทครณัพะยกร์สรินมหกรำอืรกเปฤษ็นฎผีกู้ทำรงบุริมสทิ ธิเหสนำนือกัองสำังนหคาณระมิ กทรรรัพมกยำ์ รกฤษฎีกำ
อนั ได้จดทะเบยี นไว้ บุคคลนัน้ อาจยื่นคำร้องขอต่อศาลที่ออกหมายบังคับคดีก่อนเอาทรัพย์สนิ นั้นออก
ขายหรือจำหนา่ ยสขำนอกัใหงำ้มนคี คำณสะ่งั กอรยร่ามงกหำนรกึง่ ฤอษยฎ่างีกใำดดงั ต่อไปนี้ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(ก) ในกรณีท่ีอาจบังคับเอาทรัพย์สินซ่ึงจำนองหลุด ขอให้เอาทรัพย์สินซ่ึง
สำนกั จงำำนนคอณงนะน้ักรหรลมุดกำถร้ากศฤาษลฎมีกคี ำำส่งั อนญุ าต สกำานรกั ยงดึ ำทนครัพณยะก์ทรจี่ รำมนกอำรงกนฤั้นษเปฎี็นกำอันเพกิ ถอนไปสใำนนตกั วังำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั ง(ขำน) คในณกะกรรณรีอมื่นกำขรกอฤใษหฎเ้ จีก้าำพนักงานบังคสับำคนดกั งนี ำำนเคงินณทะก่ีไดรร้จมากกำกรากรฤขษาฎยีกหำรือจำหน่าย
ทรัพย์สินนั้นมาชำระหน้ีแก่ตนก่อนเจ้าหนี้อื่น ทั้งนี้ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ
สำนกั พงาำนณคชิ ณยะ์หกรรอืรมกกฎำหรมกฤายษอฎน่ืีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ในกรณีท่ีปรากฏแก่เจ้าพนักงานบังคับคดีว่าทรัพย์สินซึ่งขายหรือจำหน่ายนั้น
เป็นของเจ้าของรสวำนมกั องันำนไดค้ณจดะกทระรเมบกียำรนกไฤวษ้ ใฎหีก้เำจ้าพนักงานบสังำนคกัับงคำนดคีกณันะเกงินรรสม่วกนำรขกอฤงษเฎจีก้าำของรวมอื่น
นอกจากส่วนของลูกหนี้ตามคำพิพากษาออกจากเงนิ ที่ได้จากการขายหรือจำหน่ายทรพั ย์สินนั้นตามที่
สำนกั กงำำหนคนณดไะวก้ใรนรมมกาตำรรกาฤ๓ษฎ๔ีก๐ำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๒๕ มาตรา ๓๒๔ เพ่ิมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความแพ่ง
สำนกั (ฉงำบนับคทณ่ี ๓ะ๐กร) รพม.ศก.ำ๒รก๕ฤ๖ษ๐ฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๘ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
(๓) ในกรณีท่ีเป็นผู้ทรงสิทธิยึดหน่วงซึ่งไม่มีบุริมสิทธิเหนือทรัพย์สินที่ขายหรือ
สำนกั จงำำหนคนณ่ายะกบรรุคมคกลำนรก้ันฤอษาฎจีกยำ่ืนคำร้องขอตส่อำศนากั ลงำทนี่อคอณกะหกมรรามยกบำังรคกับฤษคฎดีกีภำายในสิบห้าวัสนำนนับกั แงำตน่วคันณขะากยรหรมรกือำรกฤษฎีกำ
จำหน่ายทรัพย์สนิ นั้นขอใหน้ ำเงินท่ีได้จากการขายหรือจำหนา่ ยมาชำระหนี้แก่ตนก่อนเจา้ หนี้อ่ืนซึ่งไม่
มบี ุรมิ สทิ ธิเหนือทสรำัพนยกั ส์งำินนนค้ันณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๔) ในกรณีอ่ืนนอกจากท่ีระบุไว้ใน (๑) (๒) และ (๓) ผู้ทรงสิทธิน้ันอาจยื่นคำร้องขอ
สำนกั ตง่อำนศคาณลทะก่ีอรอรกมหกำมรากยฤบษังฎคีกับำคดีภายในสิบสำหน้ากั วงันำนนคับณแะตก่วรันรมขกาำยรหกรฤือษจฎำีกหำน่ายทรัพย์สินสำนน้ันกั งขำอนใคหณ้ตะนกไรดรม้รับกำรกฤษฎีกำ
ทส่วง้ั นน้ีแตบา่งมใบนทเงบินัญที่ญไสดำตั ้จนิแากั หกงก่งำนปาครรขณะามะยกวหลรรรกมือฎกจหำำรมหกานฤย่าษแยฎพหีก่งรำแือลขะอพใาหณ้นิชำเยง์หินสรดำือนังกกกั ฎงลำ่หานวมคมาณายชะอกำืน่ รรระมหกนำ้ีแรกกฤ่ตษนฎกีก่อำนเจ้าหนี้อ่ืน
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
มาตรา ๓๒๕๓๒๖ เมื่อได้แจ้งคำส่ังอายัดสิทธิเรียกร้องให้บุคคลภายนอกตามมาตรา
๓๑๖ แล้ว บคุ คลสภำานยกั นงอำนกคนณัน้ ะอการจรยมนื่กคำรำกรฤ้อษงฎคีกัดำค้านคำสงั่ อายสัดำตน่อกั งศำานลคไณดภ้ะการยรใมนกสำิบรกหฤ้าษวฎนั ีกำ
บุคคลผู้จะต้องเสียหายเพราะคำส่ังอายัดอาจยื่นคำร้องคัดค้านคำส่ังดังกล่าวได้
สำนกั ภงาำนยคในณกะำกหรรนมดกเำวรลกาฤดษงัฎตีก่อำไปน้ี ทั้งนี้ ตสอ้ ำงนไกัมง่ชำ้านกควณา่ ะสกิบรหรม้ากวนัำรนกบัฤษแตฎ่วีกันำ ทราบคำส่ังอสาำยนัดกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๑) ถ้าสิทธิเรียกร้องนั้นเป็นการให้ชำระเงิน ให้ย่ืนคำร้องต่อศาลก่อนวันท่ีเจ้าพนักงาน
บงั คับคดจี ่ายเงินดสงัำนกกัลง่าำวนทค้ังณหะมกดรหรมรือกำแรตกบ่ ฤาษงฎสีกว่ ำนแก่เจ้าหนี้ตาสมำนคกั ำงพำิพนคากณษะการรมกำรกฤษฎีกำ
(๒) ถ้าสิทธิเรียกร้องนั้นเป็นการให้ส่งมอบหรือโอนทรัพย์สิน ให้ยื่นคำร้องต่อศาล
สำนกั กงอ่ำนนคขณายะกทรอรดมตกลำรากดฤหษรฎอื ีกจำำหน่ายโดยวธิ สีอำื่นนกซั งึง่ ำทนรคพั ณยะ์สกนิ รนรมน้ั กำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส(ำ๓น)กั ถงำ้านสคิทณธะิเกรรียรกมรก้อำรงกนฤั้นษเฎปีก็นำการให้ชำระสหำนนกัี้องยำน่าคงอณื่นะกนรอรกมกจำารกกฤ(ษ๑ฎ)ีกแำละ (๒) ให้
ย่ืนคำรอ้ งต่อศาลก่อนทบี่ ุคคลภายนอกจะปฏิบัตกิ ารชำระหน้ี
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกเมฤ่ือษศฎาีกลำส่ังรับคำร้องสคำัดนคกั ้างนำนตคาณมวะกรรรรคมหกนำึ่รงกหฤรษือฎวีกรรำคสองแล้ว ใหส้สำน่งสกั งำำเนนคาณคำะรก้อรรงมแกกำ่ รกฤษฎีกำ
เจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ลูกหนี้ตามคำพิพากษา และเจ้าพนักงานบังคับคดี และให้เจ้าพนักงานบังคับ
คดีงดการบังคับตสาำมนคกั ำงสำน่ังคอณายะัดกรไวรม้ในกรำระกหฤวษ่าฎงีกรอำ คำวินิจฉัยช้ีขสำานดกั เงมำน่ือคศณาละกทรำรกมากรำไรตก่สฤวษนฎแีกำล้ว ถ้าเป็นท่ี
พอใจว่าสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ตามคำพิพากษาน้ันมีอยู่จริงและอาจบังคับได้ ก็ให้ยกคำร้องน้ันเสีย
สำนกั แงลำนะคมณีคะำกสรั่งรใมหก้บำรุคกคฤลษภฎีกาำยนอกปฏิบัตสิตำานมกั คงำำนสคั่งณอะากยรัดรมแกตำ่รถก้าฤเปษฎ็นีกทำี่พอใจว่าคำรส้อำงนคกั ัดงคำน้าคนณระับกฟรรังมไดกำ้ รกฤษฎีกำ
ให้ศาลมีคำสั่งถอนการอายัดสิทธิเรียกร้อง
สใำนนรกั ะงหำนวค่างณกะากรรพรมิจการำรณกาฤคษำฎรีก้อำงคัดค้านตามสวำรนรกัคงสำานมคณเจะ้ากหรรนมี้ตกาำมรกคฤำษพฎิพีกาำกษาอาจย่ืน
คำร้องว่าคำร้องคัดค้านนั้นไม่มีมูลและย่ืนเข้ามาเพ่ือประวิงการบังคับคดี เมื่อปรากฏพยานหลักฐาน
สำนกั เงบำ้ือนงคตณ้นะวก่ารครมำรก้อำรงกนฤ้ันษฟฎังีกไำด้ ศาลมีอำนาสจำนสกั่ังงใหำน้ผคู้รณ้อะงกครัดรคม้ากนำรวกาฤงษเงฎินีกหำรือหาประกันสตำ่อนศกั งาำลนตคาณมะจกำรนรวมนกำรกฤษฎีกำ
และภายในระยะเสวำลนากั ทงำ่ีศนาคลณเหะ็กนรสรมมคกวำรรกเฤพษื่อฎเีกปำ็นประกันการสชำำนรกัะงเำงนินคคณ่าสะกินรไรหมมกทำรดกแฤทษนฎแีกกำเ่ จา้ หนี้ตาม
คำพิพากษาสำหรับความเสียหายท่ีอาจได้รับจากการย่ืนคำร้องคัดค้านนั้น ถ้าผู้ร้องคัดค้านไม่ปฏิบัติ
สำนกั ตงาำนมคคณำสะั่งกศรรามลกใหำร้ศกาฤลษมฎีคีกำำส่ังจำหน่ายคสำำรน้อกั งงคำนัดคคณ้านะกสร่วรมนกเงำินรกหฤรษือฎปีกรำะกันที่วางไว้ตส่อำนศกัาลงำดนังคกณละ่ากวรรเมมก่ือำรกฤษฎีกำ
ศาลเหน็ ว่าไม่มีความจำเปน็ ตอ่ ไป จะส่ังคนื หรือยกเลิกประกันนน้ั ก็ได้
สถำ้านศกั างลำนไดค้มณีคะกำสรรั่งมใหกำ้บรุคกคฤษลฎภีกาำยนอกปฏิบัติตสาำนมกัคงำำสนั่งคอณาะยกัดรรแมลกะำรบกุคฤคษลฎนีกั้นำ มิได้ปฏิบัติ
ตามคำส่ังศาลเจ้าหน้ีตามคำพิพากษาอาจร้องขอให้ศาลบังคับคดีแก่บุคคลภายนอกเสมือนหนึ่งว่า
สำนกั บงคุำนคคลณนะ้นั กเรปรน็ มลกูกำรหกนฤี้ตษาฎมีกคำำพิพากษา สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๒๖ มาตรา ๓๒๕ เพิ่มโดยพระราชบญั ญัตแิ ก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
สำนกั (ฉงำบนับคทณี่ ๓ะ๐กร) รพม.ศก.ำ๒รก๕ฤ๖ษ๐ฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๔๙ สำนกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
ในกรณีทีค่ ำร้องคัดค้านตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองไม่มีมลู และย่นื เข้ามาเพื่อประวิง
สำนกั กงาำนรบคังณคะับกรครดมีเกจำ้ารหกนฤี้ตษฎามีกคำ ำพิพากษาอสาำจนยกั ่ืนงคำนำคร้อณงะตก่อรรศมากลำภรากยฤใษนฎสีกาำมสิบวันนับแตสำ่วนันกั ทงี่ศำนาคลณไดะ้มกีครรำมสกั่งำรกฤษฎีกำ
ยกคำร้องคัดค้านเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ผู้ร้องคัดค้านชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับความเสียหายท่ี
เกิดข้ึนแก่ตนได้ ใสนำกนรกั ณงำีเนชค่นณว่าะนกร้ี ใรหม้ศกำารลกมฤีอษำฎนีกาำจส่ังให้แยกกาสรำพนิจกั างำรนณคาณเปะก็นรสรำมนกวำนรกตฤ่าษงหฎีกากำ จากคดีเดิม
และเม่ือศาลไต่สวนแล้วเห็นว่าคำร้องน้ันฟังได้ ให้ศาลมีคำส่ังให้ผู้ร้องคัดค้านชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
สำนกั ตงาำมนคจำณนะวกนรรทม่ีศกาำลรกเหฤ็นษสฎมีกำควรถา้ บุคคลดสังำนกกัลงา่ ำวนไคมณ่ปฏะกิบรัตรมติ กามำรคกำฤสษั่งฎศีกาำล เจ้าหน้ีตามสคำำนพกั ิพงำานกคษณาอะการจรรมอ้ กงำรกฤษฎีกำ
ขอใหศ้ าลบงั คับคสดำีแนกกั บ่ งำุคนคคลณนะน้ั กเรสรมมอืกนำรหกนฤ่งึษวฎ่าีกเปำ น็ ลูกหนีต้ ามสคำำนพกั ิพงำานกคษณาะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนสค่วณนะทก่ีร๗รมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
การขอเฉลย่ี และการเข้าดำเนินการบงั คับคดีต่อไป
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกมฤาษตฎรีกาำ๓๒๖๓๒๗ เมื่อสำมนีกกั างรำยนึดคณทระกัพรยร์สมินกำหรรกือฤอษาฎยีกัดำสิทธิเรียกร้อสงอำนยกั่างงำในดคขณอะงกลรูกรหมนกำ้ี รกฤษฎีกำ
ตามคำพิพากษาเพ่ือเอาชำระหน้ีแก่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษารายหน่ึงแล้ว ห้ามไม่ให้เจ้าหนี้ตามคำ
พิพากษาอ่ืนดำเนสินำนกกัางรำในหค้มณีกะากรรยรึดมทกำรรัพกยฤ์สษินฎหีกำรืออายัดสิทธสิเรำีนยกกั งรำ้อนงคนณ้ันะซก้ำรอรมีกกแำรตก่ใฤหษ้มฎีสีกิทำธิยื่นคำร้อง
ต่อศาลที่ออกหมายบังคับคดี ขอให้มีคำสั่งให้ตนเข้าเฉล่ียในทรัพย์สินหรือเงินที่ได้จากการขายหรือ
สำนกั จงำำหนคนณ่ายะทกรรรพั มยกส์ ำินรกจฤาษกฎกีกาำรยดึ หรอื อายัดสนำนั้นกั ไงดำต้ นาคมณสะว่ กนรแรมหก่งจำรำกนฤวษนฎหีกนำี้ตามคำพิพากสษำนากั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ห้ามมิให้ศาลอนุญาตตามคำร้องเช่นว่านี้ เว้นแต่ศาลเห็นว่าผู้ยื่นคำร้องไม่สามารถ
เอาชำระได้จากทสรำพั นยกั ์สงินำนอคน่ื ณๆะกขรอรมงลกูกำรหกนฤี้ตษาฎมีกคำำพิพากษา สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั ทงำรนัพคยณ์สะินกหรรรมือกอำรากถยฤ้าัดษเสจฎิท้าีกพธำินเรักียงการน้อผงู้มขีออำสงนำลานูกจกั หตงำานนมี้ตคกาณฎมะหคกมำรราพมยิพกวาำ่ารกดกษ้วฤยาษภฎเาพีกษำื่อีอบาังกครับหชรือำกระฎสหหำนมนี้ทากั ยงี่คำอ้าน่ืนงคชทณำี่จะระกะสรตรั่งมายมกึดำรกฤษฎีกำ
กฎหมายนั้น ๆ ไดสเ้ำอนงกั ไงดำ้ยนดึคทณระพักรยร์สมินกหำรรกือฤอษาฎยีกัดำสิทธิเรยี กรอ้ งสตำานมกั วงรำรนคคหณนะก่ึงไรวร้กม่อกนำรแกลฤว้ ษฎใหีกม้ำ ีสทิ ธขิ อเข้า
เฉลีย่ ไดโ้ ดยไมอ่ ยู่ภายในบังคับของบทบัญญัตวิ รรคสอง แตถ่ ้าเจ้าพนกั งานดังกล่าวมิได้ยดึ หรอื อายัดไว้
สำนกั กง่อำนนคใณหะม้ กสี รทิรมธกิขำอรเกขฤา้ ษเฉฎลีก่ียำไดเ้ ช่นเดยี วกสบั ำเนจกั ้างหำนนค้ีตณามะกครำรพมพิ กาำกรกษฤาษอฎนื่ ีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ในกรณีท่ียึดทรัพย์สินเพ่ือขายทอดตลาดหรือจำหน่ายโดยวิธีอื่น คำร้องเช่นว่านี้ให้
ย่นื ก่อนสิ้นระยะเสวำลนากั สงิบำนหค้าณวันะกนรับรแมตกำ่วรันกทฤ่ีมษีกฎาีกรำขายทอดตลาสดำนหกัรงือำจนำคหณนะ่ากยรทรมรกัพำยรส์กฤินษทฎี่ขีกาำยทอดตลาด
หรือจำหนา่ ยได้ในครั้งนั้น ๆ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกในฤษกรฎณีกำีท่ีอายัดสิทธิเสรีำยนกกั รง้อำงนคใหณ้ยะกื่นรครำมรก้อำงรเกสฤียษกฎ่อีกนำส้ินระยะเวลสาสำนิบกั หง้าำนวคันณนะับกแรตรม่วกันำรกฤษฎีกำ
ชำระเงินหรอื วนั ที่มกี ารขายทอดตลาดหรือจำหน่ายโดยวธิ อี น่ื ซง่ึ สทิ ธิเรยี กรอ้ งตามท่ีอายัดนั้นได้
สใำนนกกั รงณำนีทคี่ยณดึ ะเกงนิรรมใหก้ยำร่นื กคฤำษรฎอ้ ีกงำเชน่ ว่าน้ีก่อนสสน้ิำนรกัะงยำะนเควลณาะสกบิรรหมา้ กวำนั รกนฤบั ษแฎตีกว่ ำันยึด
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกเมฤ่ือษไฎดีกส้ ำ่งสำเนาคำร้อสงำดนังกักงลำ่านวคใณหะ้เจก้ารรพมนกักำงรากนฤษบฎังคีกับำ คดีแล้ว ให้เจส้าำพนนกั งักำงนาคนณบะังกครับรมคกดำี รกฤษฎีกำ
งดการจา่ ยเงินหรือทรพั ย์สนิ ตามคำบังคบั ต้งั แต่การขาย การจำหนา่ ย หรือการชำระเงินตามทไี่ ด้อายัด
ในครั้งที่ขอเฉล่ียนสำั้นนกัแงลำ้วนแคตณ่กะรกณรรี มไวก้จำรนกกฤวษ่าฎศีกาำลจะได้มีคำวินสำิจนฉกั ัยงชำน้ีขคาดณะเกมรื่อรศมากลำรไดก้ฤมษีคฎำีกสำ่ังประการใด
และสง่ ใหเ้ จ้าพนักงานบังคับคดีทราบแล้ว ก็ใหเ้ จ้าพนักงานบงั คับคดปี ฏิบตั ิไปตามคำส่งั เช่นวา่ นน้ั
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๒๗ มาตรา ๓๒๖ เพิ่มโดยพระราชบัญญัตแิ ก้ไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความแพ่ง
สำนกั (ฉงำบนับคทณ่ี ๓ะ๐กร) รพม.ศก.ำ๒รก๕ฤ๖ษ๐ฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
- ๑๕๐ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า
-
มาตรา ๓๒๗๓๒๘ ในกรณีที่มีการถอนการบังคับคดี ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีส่ง
สำนกั คงำำนบคอณกะกกลรร่ามวกถำอรกนฤกษาฎรีกบำังคับคดีให้ผู้ยส่ืนำนคกั ำงรำ้นอคงขณอะกซรึ่งรไมดก้รำับรอกฤนษุญฎาีกตำจากศาลตามสมำนาตกั งรำานค๓ณ๒ะ๔กรหรมรกือำรกฤษฎีกำ
เจ้าหน้ีผู้ขอเฉล่ียซึ่งได้รับอนุญาตตามมาตรา ๓๒๖ ทราบโดยไม่ชักช้า โดยบุคคลดังกล่าวอาจขอเข้า
ดำเนินการบังคับสคำดนีตกั ่องำไนปคจณากะกเจรร้ามหกนำี้ผรกู้ขฤอษยฎึดีกทำรัพย์สินหรืออสำานยกั ัดงสำนิทคธณิเระียกกรรรม้อกงำโรดกยฤยษ่ืนฎีกคำำร้องต่อเจ้า
พนกั งานบงั คบั คดภี ายในสิบห้าวันนับแตว่ ันส่งคำบอกกล่าวถงึ บุคคลเช่นว่านัน้ ถ้ามผี ูย้ ่ืนคำร้องภายใน
สำนกั กงำำหนคนณดเะวกลรารดมกังกำรลก่าฤวษใฎหีก้ผำู้น้ันเป็นผู้ขอดสำำเนนกั ินงกำนาครบณังะคกับรรคมดกีตำ่อรกไปฤษถฎา้ ีกไำมม่ ีผยู้ ื่นคำรอ้ งสภำนายกั ใงนำนกคำณหะนกดรเรวมลกาำรกฤษฎีกำ
ดังกล่าว ให้เจ้าพนสใำักนนงกกัารงนณำบนีทงัคคี่มณบั ีผะคกู้ยดรื่นรถี คมอำกนรำกร้อกางรฤหยษลึดฎาทีกยำรคัพนย์สใินหห้เจร้าอื พอสานำยักนดั งกั สางิทนำนธบิเคังรณคียะักบกรคร้อดรงมีอนกอัน้ ำกรกหฤมษาฎยีกเำรียกให้ผู้ยื่น
สำนกั คงำำนร้คอณงทะุกกรครนมมกาำรทกำฤคษวฎาีกมำตกลงกัน เลือสกำคนกันงใำดนคคนณหะนกรึ่งรเปม็กนำผรู้ดกำฤเษนฎินีกกำารบังคับคดีตส่อำไนปกั งแำนตค่ตณ้องะแกรจร้งมใหกำ้ รกฤษฎีกำ
ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสามวัน ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้ให้ผู้ย่ืนคำร้องซึ่งมาตามหมายเรียกและมี
จำนวนหน้ีมากทสี่สำุดนกัเปงำ็นนผคู้ดณำะเกนรินรมกกาำรรบกังฤคษับฎีกคำดีต่อไป ถ้าผู้ยสื่ำนนคกั ำงรำน้อคงดณังะกกรลร่ามวกมำีจรกำฤนษวฎนีกหำนี้มากท่ีสุด
เท่ากันหลายคน ให้ผู้ยื่นคำร้องซ่ึงมีหน้ีรายเก่าที่สุดเป็นผู้เข้าดำเนินการบังคับคดีต่อไป ในกรณีท่ีผู้ย่ืน
สำนกั คงำำนร้อคงณระากยรใรดมไกมำ่มรากตฤาษมฎหีกำมายเรียกให้ถสือำวน่ากัผงู้ยำื่นนคคณำระอ้กงรรรมายกนำรั้นกสฤลษะฎสีกิทำ ธิท่ีจะเป็นผู้เสขำ้านดกั ำงเำนนินคกณาะรกบรังรคมกับำรกฤษฎีกำ
คดีตอ่ ไป สใำนนกกั รงณำนีทค่ีมณีกะากรรเรขม้ากดำรำกเนฤิษนฎกีกาำรบังคับคดีต่อสไำปนกัใหงำ้ถนือควณ่าะผกู้ขรอรมเขก้าำดรกำฤเนษินฎีกกำารบังคับคดี
ต่อไปเป็นเจ้าหน้ีผู้ขอยึดทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้อง และให้ศาลที่ออกหมายบังคับคดีในคดีท่ีมี
สำนกั กงาำรนถคอณนะกกรารรมบกังำครับกฤคษดฎีเปีก็นำ ศาลท่ีมีอำนสาจำนในกั งกำานรคบณังะคกับรครมดกี ถำร้ากเจฤ้าษหฎนีกำี้ผู้เข้าดำเนินกาสรำบนกัังคงำับนคคดณีตะ่อกไรปรมจกะำรกฤษฎีกำ
ขอให้บังคับคดีแสกำ่ทนรกั ัพงำยน์สคินณทะก่ีถรูกรบมังกคำรับกคฤดษีไฎวีก้เำดิมแต่เพียงบสาำงนสกั ่วงนำนซค่ึงณเะพกียรงรมพกอำแรกกฤ่กษาฎรีกชำำระหนี้ของ
บรรดาเจ้าหน้ีตามวรรคหนึ่งพร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมและค่าฤชาธรรมเนียมในการบังคับคดี ให้ย่ืน
สำนกั คงำำนร้อคงณขะอกอรรนมุญกาำรตกตฤ่อษเฎจี้ากพำ นักงานบังคับสำคนดกั ีภงำานยคในณเะจก็ดรวรมันกนำับรกแฤตษ่วฎันีกทำี่เข้าดำเนินกาสรำบนังกั คงับำนคคดณีตะ่อกไรปรมในกำรกฤษฎีกำ
กรณีเช่นว่าน้ี ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตตามคำร้องหรือมีคำสงั่ อย่างหนึ่ง
อยา่ งใดตามทเี่ จ้าสพำนนกักั งงาำนนคบณังคะกบั รครดมีเกหำ็นรกสฤมษคฎวีกรำโดยคำนึงถึงสส่วำนนไกั ดงเ้ ำสนยี คขณอะงกบรรรรมดกาำเรจก้าฤหษนฎี้ตีกาำมวรรคหน่ึง
เจา้ หน้ีผู้เข้าดำเนินการบังคับคดีตอ่ ไปอาจร้องคัดค้านคำสัง่ ของเจ้าพนักงานบังคับคดีตอ่ ศาลได้ภายใน
สำนกั สงิบำนหค้าณวันะกนรบั รแมตกำ่วรนั กทฤ่ไีษดฎท้ ีกรำาบคำสง่ั ของเสจำา้ นพกั นงำักนงคานณบะกังรครับมคกดำรี กฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำหรบั เจา้ หนี้ผขู้ อยดึ ทรัพย์สินหรืออายัดสิทธิเรียกร้องท่ีมกี ารถอนการบงั คบั คดีนน้ั
ส(ำ๑น)กั ถง้าำนเปค็นณกะการรรถมอกนำรกกาฤรษบฎังีกคำับคดีเพราะตสนำไนดกั ้สงลำนะคสณิทะธกิใรนรกมากรำบรกังฤคษับฎคีกดำีตามมาตรา
๒๙๒ (๖) ไม่มีสิทธิได้รับส่วนเฉลี่ยในทรัพย์สินหรือเงินที่ได้จากการขายหรือจำหน่ายทรัพย์สินในการ
สำนกั บงงัำนคคบั ณคดะกี รรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
ส(๒ำน)กั ถง้าำนเปค็นณกะากรรรถมอกนำกรกาฤรบษฎังคีกับำ คดีตามมาตสรำาน๒กั ง๙ำ๒นค(ณ๔ะ)กแรตรม่ยกังำมรีหกนฤษี้ตฎามีกำคำพิพากษา
อยู่อาจยื่นคำร้องต่อศาลขอให้มีคำสั่งให้ตนได้รับชำระจากเงินที่เหลือภายหลังที่ได้ชำระให้แก่
สำนกั เงจำ้านหคนณ้ีผะู้ขกอรรเมฉกลำ่ียรแกลฤ้วษใฎนีกฐำานะเดยี วกนั กสบัำนผกั ยู้ งืน่ ำนคคำรณอ้ ะงกตรารมมมกำารตกรฤาษ๓ฎี๒กำ๙ (๑) สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
(๓) ถ้าเป็นการถอนการบังคบั คดีเพราะหมายบังคับคดีได้ถกู เพิกถอนหรอื ในกรณีอ่ืน
นอกจาก (๑) แลสะำ(น๒กั )งำแนตค่ยณังะมกีหรนรมี้ตกาำมรคกำฤพษิพฎีกากำ ษาอยู่ อาจยส่ืนำคนกำั รงำ้อนงคตณ่อะศการลรขมอกใำหรก้มฤีคษำฎสีกั่งำให้ตนมีสิทธิ
ได้รับส่วนเฉลี่ยในทรัพย์สินหรือเงินที่ได้จากการขายหรอื จำหน่ายทรัพย์สินในการบงั คบั คดคี รัง้ นี้ ก่อน
สำนกั กงาำรนจค่าณยะเกงนิรรตมากมำมรกาตฤษราฎีก๓ำ๓๙ หรือกอ่ นสสำ่งนคกั ำงบำนอคกณกะลก่ารวรตมากมำมรกาฤตษราฎีก๓ำ๔๐ (๓) แลว้ แสตำน่กกั รงณำนี คณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ
๓๒๘ มาตรา ๓๒๗ เพิ่มโดยพระราชบญั ญัติแก้ไขเพ่มิ เติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
สำนกั (ฉงำบนบั คทณี่ ๓ะ๐กร) รพม.ศก.ำ๒รก๕ฤ๖ษ๐ฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกฤษฎีกำ