ประกาศนียบตั รของอสิ รยิ าภรณ์ COMMANDEUR DE LA LEGION D’HONNEUR
49
เอกอัครราชทูตประดับอิสริยาภรณ์ให้ ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน โดยมี
เลขานุการเอกสถานเอกอัครราชทูตเป็นผู้ช่วย ดร.ศรีภูมิ ศุขเนตร ประธานชมรม
ยืนอยู่ขา้ ง ๆ
50
เอกอคั รราชทูต ภรยิ าทตู และคณุ หญิงมณฑินี มงคลนาวนิ ร่วมแสดงความยนิ ดี
พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ สรรเสริญ ไกรจิตติ อธบิ ดีศาลอุทธรณ์
51
ผ้รู ว่ มแสดงความยินดี (จากซา้ ย) ศาสตราจารยว์ กิ รม เมาลานนท์ ประธานศาลฎกี า,
หม่อมกอบแก้ว อาภากร กรรมการสภากาชาดไทย, ท่านผ้หู ญงิ นวลผ่อง เสนาณรงค์
ประธานฝ่ายหารายได้ สภากาชาดไทย
52
ผู้ร่วมแสดงความยินดี
(จากซา้ ย)
Mr.Lee (หนงั สอื พมิ พซ์ นิ เสียเยียะเปา้ ), ดร.อภิชัย จันทรเสน,
ม.ร.ว.เฉลิมลกั ษณ์ จันทรเสน, ท่านผ้หู ญิงมนัสนติ ย์ วณกิ กุล ราชเลขานุการในสมเด็จ
พระนางเจ้าสริ กิ ิต์ิ พระบรมราชินีนาถ, คุณเมธินี-คุณเกริก วณิกกุล
(ด้านหลัง)
คณุ อทิ ธิเสก ตะเวทกิ ลุ , ดร.ชาญวิทย์ สวุ รรณบุณย,์
ร.ต.อ.ฐิติราช หนองหารพทิ กั ษ์
53
ผรู้ ่วมแสดงความยินดี (จากซ้าย) นายแพทยป์ ระสพ รตั นากร, ม.ล.ตรที ศยทุ ธ เทวกลุ ,
คณุ ดิลก มหาดำ� รงค์กลุ , คุณเปลง่ ศักดิ์ ประกาศเภสชั
54
ภาคผนวก
ภาคผนวก ๑
พระราชวงั แวรซ์ ายส์
พระราชวงั แวรซ์ าย (Versailles Palace) หนงึ่ ในสถานทท่ี อ่ งเทยี่ วทม่ี ี
ชอ่ื เสยี งมากทส่ี ดุ ของประเทศฝรงั่ เศส ตงั้ อยทู่ างทศิ ตะวนั ตกเฉยี งใตข้ องปารสี
ณ เมอื งแวรซ์ ายส์ นบั เปน็ พระราชวงั ทมี่ คี วามยงิ่ ใหญแ่ ละงดงามอลงั การมาก
จนติดหน่ึงในเจ็ดส่ิงมหัศจรรย์ของโลก อีกทั้งยังได้รับการข้ึนทะเบียนให้เป็น
มรดกทางวัฒนธรรม พระราชวังสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมสไตล์คริสต์
ศตวรรษที่ ๑๗ และ ๑๘ ภายในประกอบดว้ ยห้องถึง ๗๐๐ ห้อง รปู ภาพทรง
คณุ คา่ ๖,๑๒๓ ภาพ และงานแกะสลกั จากศลิ ปนิ ชน้ั เอก ๑๕,๐๓๔ ชนิ้ โดยมี
ห้องกระจก (Galerie des Glaces หรอื The Hall of Mirrors) อันแสนโดง่ ดัง
จากการเป็นห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับจักรวรรดิ
เยอรมัน ในสงครามโลกคร้ังท่ี ๑ ซึ่งถือเป็นห้องแห่งประวัติศาสตร์ท่ีส�ำคัญ
ทงั้ ยงั มขี นาดใหญจ่ ำ� นวน๑๗บานทสี่ ามารถเปน็ จดุ ชมววิ ทศั นข์ องสวนแวรซ์ าย
ท่ีสวยงาม ด้วยทุกๆเหตุผลมารวมกันจึงท�ำให้พระราชวังแห่งน้ีกลายเป็น
จดุ หมายปลายทางสำ� หรบั เหลา่ นกั ทอ่ งเทยี่ วทม่ี าเยอื นฝรง่ั เศสไมแ่ พห้ อ ไอเฟล
56
57
รัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ท่ี ๑๔ ได้ท�ำการบูรณะต�ำหนักแห่งนี้เพื่อ
ให้กลายเป็นพระราชวังศูนย์กลางการปกครองของพระองค์ โดยใช้เวลาการ
สร้างถึง ๓๐ ปี งบประมาณ ๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐ ฟรังก์ และคนงานก่อสร้าง
๓๐,๐๐๐ คน หลังการปฏิวัติครั้งส�ำคัญของฝรั่งเศส พระเจ้าหลุยส์-ฟิลิปป์
ได้เปลี่ยนแปลงพระราชวังให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์และสถานท่ีลงนามใน
สัญญาสงบศึกสงครามโลกคร้ังท่ี ๑ จึงเรียกได้ว่าเป็นสถานท่ีท่ีไม่เพียงแต่
ความสวยงามท่ีนา่ ตะลงึ แตย่ งั มีคณุ ค่าทางประวัตศิ าสตร์เป็นอยา่ งมาก
หากจะเรียกพระราชวังแห่งน้ีว่าสมบูรณ์แบบก็คงไม่ผิดนัก เนื่องจาก
ถูกสร้างข้ึนด้วยหินอ่อนสีขาว ทุกห้องถูกตกแต่งอย่างประณีต และประดับ
ดว้ ยภาพเขยี นของศลิ ปนิ ชอื่ ดงั ระดบั โลก นอกจากหอ้ งกระจกทเี่ ปน็ ทร่ี จู้ กั แลว้
ยงั มอี กี หลายหอ้ งทม่ี คี วามโดดเดน่ ไมแ่ พก้ นั “อาทิ หอ้ งวนี สั สำ� หรบั เหลา่ คณะ
ราชทตู ทเี่ ดนิ ทางมาไดพ้ กั กอ่ นเขา้ เฝา้ รวมทง้ั ยงั เคยเปน็ ทพ่ี กั ของราชทตู สมยั
สมเดจ็ พระนารายณม์ หาราชแหง่ กรงุ ศรอี ยธุ ยา สงิ่ ทที่ ำ� ใหห้ อ้ งนแ้ี ตกตา่ งจาก
หอ้ งอนื่ ๆคือบนเพดานมีภาพเขียนทแี่ สนงดงามทรงคุณค่า และหอ้ งไดอาน่า
58
ส�ำหรับพักผ่อนหลังพิธีส�ำคัญๆ ผนังทั้งสองด้านจะเต็มไปด้วยภาพวาดเทพี
ไดอานา่ ทขี่ นานนามวา่ “เทพแี หง่ การลา่ สตั ว”์ เปน็ ตน้ ” อกี สว่ นหนง่ึ ทมี่ องขา้ ม
ไม่ได้น่ันคือ สวนแวร์ซายส์ ท่ีถือว่ายิ่งใหญ่และงดงาม ผลงานชิ้นเอกของ
นักแต่งสวนช่ือก้องโลกนามว่า “เลอโนทด์” มีพ้ืนที่ถึง ๑๔,๘๒๐ เอเคอร์
มีแม้กระทั่งทะเลสาบจ�ำลอง มีรูปปั้นของสัตว์นานาชนิดและเทพเจ้ากรีก
ตามจุดต่างๆ และยังมีสวนดอกไม้ที่จะผันเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาล
โดยเฉพาะช่วงไฮซีซ่ันจะมีการแสดงน�้ำพุดนตรีนับเป็นอีกหน่ึงจุดท่ี
ไม่ควรพลาด การมาเยือนยังพระราชวังแวร์ซายจึงเปรียบเสมือนการ
มาเยือนยงั วิมานจักรพรรดทิ น่ี บั เป็นมรดกโลกตะวันตกโดยแทจ้ รงิ
59
ภาคผนวก ๒
พระราชวงั ลกุ ซอ็ งบรู ์ (Palais du Luxembourg หรอื Luxembourg
Palace)
ต้ังอยู่ในเขตของสวนลุกซ็องบูร์บริเวณทางเหนือ ในกรุงปารีส ก่อน
หนา้ นพี้ ระราชวงั เคยเปน็ พระราชวงั ของ สมเดจ็ พระราชนิ มี ารี เดอ เมดชิ ิ แหง่
พระเจา้ หลุยส์ที่ 13 แต่ในปจั จบุ ันไดก้ ลายเป็นทีท่ ำ� การของวุฒสิ ภาแทน
พระราชวังนี้ถูกออกแบบให้มีสไตล์คล้ายกับศิลปในเมืองฟลอเรนซ์
ซง่ึ เปน็ เมอื งบา้ นเกดิ ของพระราชนิ ี โดยสถาปนิกท่ชี ือ่ ซาลอมง เดอ บร็อส ได้
ส่งคนไปวาดโครงสรา้ งต่างๆ จนในทสี่ ุดพระราชินชี อบและรบั ซอ้ื โครงสร้างน้ี
และตง้ั ชอื่ วา่ พระราชวงั เมดชิ ิ (ชอ่ื เดมิ กอ่ นจะเปลยี่ นเปน็ พระราชวงั ลกุ ซอ็ งบรู )์
ในอดีตพระราชวังนี้มีของล้�ำค่ามากมายประดับตกแต่งอยู่ภายใน
ส่งเสริมใหใ้ นสมยั นน้ั การชา่ งรุง่ เรือง แต่ในปัจจบุ นั ของเหลา่ นี้สูญหายไปพอ
สมควร และถกู จดั สง่ ไปตามพพิ ธิ ภณั ฑต์ า่ งๆ แตม่ เี พยี งสง่ิ เดยี วทยี่ งั คงประดบั
อยู่ในพระราชวังน้ีเป็นภาพวาดของ พระราชินีมารี เดอ เมดิชิ ที่ถูกวาดโดย
นักจิตกรช่ือว่า ปีเตอร์ พอล รูเบนส์
เดนิ เขา้ มาภายในแลว้ จะพบหอ้ งโถงรบั รอง มองเหน็ ศลิ ปะสว่ นเพดาน
สวยมาก เปน็ ภาพวาดทสี่ อื่ ออกแนวศาสนา เยอื้ งๆ ไปเลก็ นอ้ ยจะพบหอ้ งสมดุ
ซึง่ เพดานก็ถกู วาดในรูปแบบสไตล์เดียวกันโดย เออแฌน เดอลาครวั บริเวณ
ศลิ ปะภายในรวมถงึ ลวดลายตา่ งๆบนผนงั จะเนน้ สคี รมี และสที อง ดแู ลว้ หรหู รา
ในสไตลโ์ รมนั และไฮไลทท์ นี่ จี้ ะเปน็ หอ้ งประชมุ วฒุ สิ ภาทอ่ี อกแบบไดเ้ ขา้ กบั
ตวั พระราชวงั พรอ้ มกบั รปู ปน้ั อนสุ าวรยี ท์ ง้ั เจด็ ทเี่ ปน็ ประวตั ศิ าสตรข์ องฝรงั่ เศส
นอกจากส่วนข้างหน้าพระราชวังที่เป็นลานน้�ำพุและทะเลสาบเล็ก ๆ
สวยงาม บริเวณรอบนอกของพระราชวังมีสวนลุกซ็องบูร์ให้ได้เดินเล่นชม
ววิ หรอื จะถา่ ยรูป พักผอ่ นหยอ่ นใจได้ ถือว่าเปน็ อกี ทหี่ นง่ึ ทไ่ี ดท้ ัง้ ความรทู้ าง
ประวัตศิ าสตร์และผอ่ นคลายไปในตวั
60
พระราชวังลกุ ซอ็ งบูร์
เนื่องจากพระราชวังแห่งนี้ต้ังอยู่ในสวนสาธารณะลุกซ็องบูร์ ในแต่
ละวันจึงมีคนเข้าไปชมและพักผ่อนจ�ำนวนมาก โดยเฉพาะในช่วงอากาศดี
มแี ดดออก
61
ภาคผนวก ๓
สถานเอกอคั รราชทูต
ทำ� เนยี บเอกอคั รราชทตู ณ กรงุ ปารสี ตง้ั อยเู่ ลขท่ี ๑๘ ถนน rue Alberic
Magnard กรงุ ปารีส เขต ๑๖ อย่เู ขตเดยี วกบั สถานทูต เลขท่ี ๘ rue Greuze
ปารสี เขต ๑๖ ต้งั แต่ พ.ศ. ๒๔๕๗
ประวตั ิความเปน็ มาของสถานเอกอัครราชทูต
ท่ีท�ำการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ในปัจจุบัน ด�ำเนินการ
เม่ือวันท่ี ๑๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจรูญศักดิ์
กฤดากร อัครราชทูตสยามประจ�ำกรุงปารีส (ขณะน้ันประทับอยู่ ณ เลขท่ี
๓๘ avenue du Trocadéro กรุงปารีส เขต ๑๖) ได้ลงนามในนามและใน
ฐานะอัครราชทูตผู้มีอ�ำนาจเต็มของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแห่งกรุง
สยาม ในสญั ญาซอื้ -ขายคฤหาสนแ์ ละทด่ี ิน ซ่ึงตัง้ อย่เู ลขท่ี ๘ ถนน Greuze
กรงุ ปารีสเขต ๑๖ จากเคานต์ เดอ โซนสี ซง่ึ เปน็ ผจู้ ดั การในนามและในฐานะ
เปน็ ตวั แทนของ เคานตเ์ ตส ฟรองซวส เดอ โซนีส (Comtesse Françoise de
Sonis) ผเู้ ปน็ เจา้ ของ ในราคา ๔๔๒,๕๐๐ ฟรงั ก ์ (สแี่ สนสห่ี มน่ื สองพนั หา้ รอ้ ย
ฟรงั ก์) ช�ำระเป็นเงนิ สด
ประเทศสยามซื้ออาคารและที่ดินแห่งน้ีเพื่อใช้เป็นที่ท�ำการสถาน
อัครราชทตู และท่ีพักของข้าราชการและลูกจ้าง ต้ังอยใู่ นเขต ๑๖ ซึง่ เป็นเขต
พำ� นกั อาศยั ทด่ี ที สี่ ดุ เขตหนง่ึ ของกรงุ ปารสี และเปน็ เขตทมี่ สี ถานทที่ ำ� การของ
สถานทูตต่างประเทศตั้งอยู่เปน็ จำ� นวนมาก
62
อาคารและทด่ี นิ แหง่ นกี้ อ่ สรา้ งมาแลว้ ประมาณ ๑๕ ปี กอ่ นขายใหแ้ ก่
ประเทศสยาม มพี น้ื ทที่ ง้ั สน้ิ ๖๔๗.๒๐ ตารางเมตร มที างเขา้ ทางเดยี วทางหนา้
บ้านเป็นประตูหลังคาโค้ง มีซุ้มประตูทางเข้าส�ำหรับรถม้าวิ่งตามทางจนถึง
ลานบา้ นและตกึ ขา้ งหลงั เดมิ มสี วนเนอื้ ท่ี ๑๒๖ ตารางเมตร คอกมา้ และลาน
กว้าง ๒๒๕.๕๕ ตารางเมตร ตัวตึกก่อหินมี 3 ช้ัน ชั้นล่างมีห้องขนาดใหญ่
หลายหอ้ ง หอ้ งอาหาร ชน้ั ทีส่ องมหี อ้ งนอนและหอ้ งนำ�้ ชนั้ ที่ ๓ มีห้องนอนอีก
หลายหอ้ ง ชั้นใต้ดนิ มีห้องครัว ห้องซกั รดี หอ้ งเก็บไวน์
อาคารปัจจุบันของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ประกอบด้วย
อาคารหลัก ๒ อาคาร โดยอาคารด้านหน้า เน้ือที่ ๒๖๐ ตารางเมตร ส่วน
อาคารท่ีอย่ดู า้ นหลงั เป็นอาคาร ๓ ชนั้ มีเน้อื ท่ี ๒๒๕.๕๕ ตารางเมตร ในอดตี
รฐั บาลไทยใชส้ ถานเอกอคั รราชทตู เลขท่ี ๘ ถนน Greuze เปน็ ทั้งที่ท�ำการ
สถานเอกอัครราชทูตและท�ำเนียบเอกอัครราชทูต จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๐๘ จึง
ได้ซ้อื อาคารตา่ งหาก เพือ่ ใชเ้ ปน็ ท�ำเนียบเอกอัครราชทตู
อาคารสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส มีความส�ำคัญต่อ
ประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เน่ืองจากชั้น ๒ ของตึกหน้าเคยเป็นที่
ประทับของสมเด็จพระนางเจา้ สิรกิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ ในพระบาทสมเดจ็
พระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ขณะยังทรงพระเยาว์
ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๙๐-๒๔๙๑ เม่อื ครัง้ ทรงติดตามพระบดิ า (พระวรวงศ์เธอ
พระองค์เจ้านักขัตรมงคล กรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ ขณะทรงด�ำรงพระยศ
พนั เอก หมอ่ มเจา้ นกั ขตั รมงคล กติ ยิ ากร) ซงึ่ ทรงเคยดำ� รงตำ� แหนง่ อคั รราชทตู
(ก่อนยกระดับหัวหน้าส�ำนักงานเป็นระดับเอกอัครราชทูตในเวลาต่อมา)
อีกท้ัง ยังเคยเป็นท่ีประทับและทรงงานของสมาชิกพระราชวงศ์ท่ีทรงด�ำรง
63
ต�ำแหน่งเป็นอัครราชทูต และเอกอัครราชทูต อีกหลายพระองค์ ล่าสุด
ได้ปรับปรุงห้องท�ำงานของเอกอัครราชทูตเป็นสถานท่ีทรงงานในบางโอกาส
ของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในช่วงปี ๒๕๕๒-
๒๕๕๔
ประวตั ิความเปน็ มาของทำ� เนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารสี
ท�ำเนยี บเอกอคั รราชทูต ณ กรุงปารสี ตง้ั อยเู่ ลขที่ ๑๘ rue Albéric-
Magnardกรุงปารสี เขต ๑๖
รฐั บาลไทยซอื้ อาคารและทด่ี นิ แหง่ นี้ เมอื่ วนั ท่ี ๑๒ มนี าคม ค.ศ. ๑๙๖๕
(พ.ศ. ๒๕๐๘) ซงึ่ ผคู้ รอบครองเดมิ ขายพรอ้ มเครอ่ื งเรอื น เครอ่ื งใช้ และเครอื่ ง
ตบแตง่ ท่ตี ดิ ตง้ั อยู่ในอาคาร
อาคารหลงั น้สี ร้างเม่อื ค.ศ. ๑๙๒๗ โดยสถาปนกิ ช่ือ André Hott ต้งั
อยู่ในเขตที่ ๑๖ ซึ่งเป็นเขตที่ดีท่ีสุดเขตหน่ึงของกรุงปารีส และเป็นท่ีตั้งของ
สถานเอกอัครราชทูตหลายประเทศ อาคารตั้งอยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะ
Bois de Boulogne ย่านชุมนุมชนและร้านค้า ใกล้กับสถานีรถใต้ดิน La
Muette (สาย ๙)
อาคารแหง่ นกี้ อ่ สรา้ งดว้ ยหนิ อยา่ งแขง็ แรง (pierre de taille) ดา้ นหนา้
ตดิ ถนน ภายในมที จี่ อดรถและสนามหญา้ อยดู่ า้ นขา้ ง ตวั อาคารมคี วามโอโ่ ถง
ชนั้ ลา่ ง (ชน้ั ๐) เปน็ ทเี่ ลยี้ งรบั รองและรบั ประทานอาหาร มหี อ้ งโถง บนั ไดขนาด
ใหญ่ ห้องรบั แขกใหญ่ หอ้ งรับแขกเล็ก หอ้ งอาหาร ตดิ กบั ห้องรับแขกใหญ่มี
เฉลียงหินยนื่ ออกไปในสวน สามารถใช้รับรองแขกไดใ้ นฤดูร้อน ช้ันท่ี ๑ เป็น
ทอี่ ยขู่ องเอกอคั รราชทตู และครอบครวั และไดจ้ ดั เปน็ ทป่ี ระทบั ชว่ั คราวถวาย
แด่สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสเสด็จฯ เยือน
กรงุ ปารีส ในปีตา่ ง ๆ
64
ช้ันท่ี ๒ มีห้องขนาดใหญ่และขนาดย่อมซึ่งมีห้องน้�ำในตัวหลายห้อง
ใช้เป็นห้องพักส�ำหรับแขกท่ีผ่านมาเย่ียมได้ นอกจากนั้นยังมีชั้นใต้ดินซึ่งมี
ห้องครวั ใหญ่และหอ้ งอกี หลายหอ้ งสำ� หรบั ผตู้ ดิ ตาม
65
สรุปการเยอื นประเทศฝรง่ั เศส
๑. คณะผู้แทนรัฐสภาไทยได้รับเกียรติอย่างสูง ซึ่งเป็นคณะผู้แทน
คณะสำ�คญั ทไี่ ดร้ บั เชญิ มาเยอื นฝรง่ั เศสเนอ่ื งในโอกาสฉลองครบรอบ ๓๐๐ ปี
ความสมั พนั ธ์ทางการทูตฝรงั่ เศส-ไทย
๒. การได้รับเชิญให้เป็นประธานในการเสวนา เนื่องในโอกาสฉลอง
ครบรอบ ๓๐๐ ปคี วามสมั พนั ธท์ างการทตู ฝรงั่ เศส-ไทย นบั เปน็ เกยี รตอิ ยา่ งสงู
๓. ในการเลี้ยงรับรองที่เมืองแวร์ซายส์ ซึ่งนายกเทศมนตรีเมือง
แวร์ซายส์ จัดขึ้นเนื่องในโอกาสสำ�คัญน้ีก่อนการชมพระราชวังแวร์ซายส์ซ่ึง
ผู้แทนต่างประเทศทุกคณะได้ถูกจัดให้เข้าเย่ียมชมพระราชวังแวร์ซายส์ แต่
ไม่มกี ารจดั งานรบั รองเช่นทค่ี ณะผ้แู ทนรฐั สภาไทยได้รบั เกยี รติ
๔. ในวันที่ไปเยี่ยมชมพระราชวังแวร์ซายส์มีเหตุการณ์ประหลาด
เกิดขึ้นคือปกติที่พระราชวังแวร์ซายส์จะมีผู้เข้าเย่ียมชมทุกวันและแต่ละวัน
จะมีผู้เยี่ยมชมเขา้ แถวคอยเข้าชมจำ�นวนมาก แต่ในวนั ทค่ี ณะของเราจะเข้า
เยี่ยมชม ปรากฏว่าเมืองแวร์ซายส์เงียบสงบ ไม่มียวดยานหรือผู้คนผ่านไป-
มาพลุกพล่าน เช่นเดียวกับวันปกติ ได้ความจากเจ้าหน้าที่ว่ามีการ “ขู่วาง
ระเบดิ ” พระราชวงั แวรซ์ ายส์
เมื่องานเลยี้ งรับรองสิ้นสดุ ประมาณครง่ึ ชัว่ โมงเจา้ หน้าทเ่ี ชิญคณะเรา
เข้าชมพระราชวังเป็นคณะแรกและคณะเดยี ว คณะอน่ื ๆ ถกู กันไวป้ ระมาณ
คร่ึงชว่ั โมง จึงปลอ่ ยให้ตามเขา้ ไปได้ “แปลกแต่จรงิ ”
66
๕. ขอ้ สงั เกตเกย่ี วกบั การจดั สง่ ขา้ ราชการทกุ ฝา่ ยไปประจำ�ทส่ี ถานทตู
ไทย ณ กรุงปารีส สว่ นใหญเ่ กอื บทั้งหมดและเกอื บทกุ ฝ่ายจดั ขา้ ราชการซ่ึงมี
ความรู้ความสามารถสงู ไปประจำ�ท่ีสถานทตู ซงึ่ แตล่ ะท่านไมม่ คี วามรูภ้ าษา
ฝรัง่ เศส ต้องเริ่มไปเรียนใหม่ การสือ่ สารจงึ ต้องใช้แตภ่ าษาอังกฤษ
๖. จากการศึกษาเร่ืองการส่งผู้แทนทางการทูตของบางประเทศมา
ประจำ�ที่ประเทศไทย เชน่ ประเทศองั กฤษหรือสหรฐั อเมรกิ า ประเทศทง้ั สอง
มกั จดั สง่ ขา้ ราชการระดบั ลา่ งเชน่ เลขานกุ ารตรี มาประจำ�กอ่ นในระหวา่ งนนั้
มีการเรียนภาษา ขนบธรรมเนียมประเพณีของไทย จนรู้ลึกซ้ึงพอสมควร
บางคนถกู สง่ ไปแถวภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื หรอื ภาคเหนอื เชน่ อบุ ลราชธานี
หรอื เชยี งใหม่ ทำ�ใหม้ คี วามรภู้ าษาทอ้ งถนิ่ เพมิ่ ความสนทิ สนมคนุ้ เคยในการ
ทำ�งานมากข้นึ
ต่อมา เมื่อมีตำ�แหน่งสูงข้ึน มักมีโอกาสได้กลับมาประจำ�ทำ�งาน
ในตำ�แหน่งท่ีสำ�คัญขึ้นเช่น “อัครราชทูต”หรือ “เอกอัครราชทูต” จึงทำ�ให้
ขา้ ราชการทางการทตู ท่านนั้น ๆ ไม่ใชค่ นแปลกหนา้ สำ�หรับประเทศไทยและ
คนไทย การทำ�งานจงึ ได้ผลและมีประสทิ ธภิ าพมาก
ส่วนประเทศไทยจัดส่งเอกอัครราชทูตที่จบการศึกษาจากประเทศ
ฝรั่งเศสไปเป็นเอกอัครราชทูตน้อยมาก นอกจากน้ัน ผู้ช่วยทูตทหาร ซึ่งมีผู้
ส�ำเรจ็ การศกึ ษาจากประเทศฝร่งั เศส ไม่เคยได้รบั แตง่ ตง้ั เปน็ “ผูช้ ่วยทูตฝ่าย
ทหาร” แม้กระทั่ง ผู้แทนส�ำนักงานข้าราชการพลเรือน ต่างต้องไปเริ่มเรียน
ภาษาฝรงั่ เศสเมือ่ เข้ารับต�ำแหนง่ ท�ำให้การท�ำงานไมไ่ ด้ผลเต็มท่ี จึงขอเสนอ
ให้ “กระทรวงการตา่ งประเทศไทย” พจิ ารณาเร่ืองน้ีด้วย
67
อนิ เดยี
๓-๗ เมษายน ๒๕๒๘
สาธารณรัฐอินเดีย
๓-๗ เมษายน ๒๕๒๘
สาธารณรฐั อนิ เดยี
๓-๗ เมษายน ๒๕๒๘
สาธารณรฐั อนิ เดยี
วันท่ี ๔ เมษายน ๒๕๒๘
ถึงสนามบินกรุงเดลฮี ผแู้ ทนประธานรัฐสภาอินเดยี ให้การต้อนรบั
74
รองประธานโลกสภาให้การต้อนรับพร้อมกับเอกอัครราชทูต พิรัช
อศิ รเสนา
ร่วมด้วยภริยาผู้ช่วยทูตทหารเรือ คุณภัทรพร มงคลนาวิน (ภริยา
น.อ.อุฬาร มงคลนาวิน (ยศในขณะนัน้ ตอ่ มาก่อนเกษียณอายุราชการไดย้ ศ
พลเรือเอก รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด) และบรรดาข้าราชการพร้อมท้ัง
ครอบครวั
75
พักท่ีโรงแรม ashok นิวเดลฮี เป็นโรงแรม ๕ดาว ต้ังอยู่ในพ้ืนที่
๒๕ เอเคอร์อยู่บนพนื้ ทีส่ ำ� หรับนักการทูต
เป็นที่พักส�ำหรับแขกต่างประเทศทุกระดับต้ังแต่ประธานาธิบดี
ลงมาอยู่ห่างจากสนามบิน ๑๕ กิโลเมตร ห่างจากท�ำเนียบประธานาธิบดี
๒ กิโลเมตรหอ้ งพักรับรองเป็นหอ้ งชุดใหญม่ าก
เม่ือ พ.ศ. ๒๕๒๘ ถอื ว่าเป็นโรงแรมทันสมัยในขณะน้นั สำ� หรบั รบั แขก
ส�ำคัญต่างประเทศเหมือนกับโรงแรมเอราวัณของเราในสมัยก่อน (โรงแรม
เกา่ ซึง่ รอ้ื ออก เม่อื พ.ศ. ๒๕๓๐ และได้สรา้ งโรงแรมทันสมยั ข้ึนมาแทนแล้ว
76
วางพวงมาลาหน้าอนุสาวรียม์ หาตมคานธชี ่อื ราชฆาฏ (Raj Ghat)
คุณพริ ัช อิศรเสนา เอกอคั รราชฑูตไทย ไดเ้ ขา้ ร่วมในพิธีดว้ ย
77
78
อนุสาวรียน์ ้ีสรา้ งข้ึนเพอ่ื รำ� ลึกถึงมหาตมคานธี บิดาแหง่ ชาติอนิ เดีย
สรา้ งขึ้นบรเิ วณทีเ่ ผาศพมหาตมคานธี
ณ จดุ ทเ่ี ผาศพสรา้ งเปน็ แผน่ หนิ เรยี บ ๆ สดี ำ� ยกพนื้ ทรงสเี่ หลยี่ มผนื ผา้
มีกองไฟจดุ ไว้ตลอดเวลา ขา้ ง ๆ แท่งหินเขียนไว้ว่า “เห ราม” (Oh God) อนั
เป็นกำ� เนดิ ทมี่ หาตมคานธี กลา่ วก่อนส้นิ ใจเมอ่ื ถูกยงิ
ราชฆาฎนเ้ี ปน็ อนสุ รณส์ ถานทอี่ าคนั ตกุ ะสำ� คญั จากตา่ งประเทศมกั ไป
วางพวงมาลาเพื่อแสดงความคารวะแดม่ หาตมคานธี
ต่อมา ได้เข้าเย่ียมคารวะ Dr.Bal Ram Jakhar ประธานสภาผู้แทน
ราษฎร เรียกว่า “โลกสภา”
79
ประธานสภาเปน็ คนปญั จาบ รปู รา่ งสงู มากประมาณ ๑๙๒ เซนตเิ มตร
เปน็ มงั สวริ ตั ิ ไมร่ บั ประทานเนือ้ สตั ว์
รบั ประทานนมเปรี้ยว ผัก ผลไม้
ได้ถามว่าไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ท�ำไมรูปร่างใหญ่โต ได้ค�ำตอบว่า
เคยเห็นช้างไหม ช้างเปน็ สตั ว์ท่ีมรี ปู ร่างใหญ่ แขง็ แรง โดยไมเ่ คยกินเนื้อสตั ว์
ท่านผู้น้ี ต่อมาได้มาเยือนประเทศไทยเป็นทางการ และได้เข้าเฝ้าฯ
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั รชั กาลที่๙ ณพระตำ� หนักจติ รลดารโหฐาน
80
ไดส้ นทนากนั และมอบของทรี่ ะลกึ เปน็ กลอ่ งกำ� มะหยใี่ สภ่ าพพระทน่ี ง่ั
อนนั ตสมาคมในกรอบเงนิ ลวดลายไทย
81
ประธานสภาน�ำเข้าร่วมประชุมกับสมาชิกโลกสภา แลกเปล่ียน
ความคิดเห็นกบั บรรดาผู้แทนซึ่งมาจากภมู ภิ าคต่าง ๆ เกอื บหนึง่ รอ้ ยคน
82
มกี ารตง้ั คำ� ถามวา่ “ไดท้ ราบวา่ ประเทศไทยเปน็ ประเทศประชาธปิ ไตย
ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพเต็มท่ี ท�ำไมไม่อนุญาตให้มีการจัดตั้งพรรค
คอมมวิ นสิ ต์”
ได้ตอบว่า ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ โดยมี
พระมหากษัตริยท์ รงเปน็ พระประมขุ
ในประเทศไทยมผี นู้ ยิ มลทั ธคิ อมมวิ นสิ ตอ์ ยบู่ า้ ง โดยเฉพาะทางจงั หวดั
ชายแดนภาคอีสาน ทางชายแดนภาคใต้ ซ่ึงพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ไปทรง
เย่ยี มเยียนและพระราชทานการช่วยเหลือดว้ ยโครงการต่าง ๆ เพอ่ื แก้ปัญหา
ความยากจนหลายโครงการ
83
พระเจา้ อยหู่ วั ฯเคยพระราชทานสมั ภาษณแ์ กส่ อ่ื โทรทศั นต์ า่ งประเทศ
ว่า พระองค์ท่านไม่เคยเป็นศัตรูกับคอมมิวนิสต์ แต่ทรงเป็นศัตรูกับความ
ยากจน ฉะนั้น พรรคคอมมิวนิสต์ที่มีอุดมการณ์ล้มล้างสถาบันพระมหา
กษัตริย์ซึ่งถือว่าเป็นศัตรูต่อประเทศชาติและประชาชน ไม่ยินยอมให้มีการ
จัดตั้งพรรคคอมมิวนิสตใ์ นประเทศไทย
เมือ่ ตอบเสร็จ บรรดาสมาชิกในทป่ี ระชมุ ต่างเอามอื ตบโต๊ะดงั สนน่ั
ท่านทตู กระซิบวา่ ประเพณีของอนิ เดยี การตบโต๊ะเสมอื นกบั การปรบ
มือเป็นการแสดงความพอใจ
ข้อซักถามที่แหลมคมข้อที่สองได้แก่ค�ำถามท่ีว่าท�ำไมทหารจึงเข้ามา
ยุ่งเก่ียวกบั การเมือง ไมป่ ลอ่ ยให้เป็นหน้าทีข่ องประชาชน
84
ความคิดเบ้ืองต้นต้องการอธิบายว่า การเมืองในประเทศไทยยัง
ไมส่ ามารถมคี วามสมบรู ณร์ อ้ ยเปอรเ์ ซน็ ต์เพราะประชาชนทว่ั ไปมกี ารศกึ ษานอ้ ย
รัฐบาลจงึ มีโครงการใหก้ ารศึกษาแกป่ ระชาชนให้ไดร้ บั การศึกษาอยา่ งท่วั ถงึ
แตเ่ มอื่ ศึกษาการเลอื กตงั้ ผูแ้ ทนราษฎรของอนิ เดยี ปรากฏว่า ผู้มีสทิ ธิ
เลือกต้ังหลายร้อยล้านคนมีการศึกษาตำ่� กวา่ เกณฑ์ แต่ปรากฏว่า การศึกษา
ไม่ใชป่ ญั หาของผเู้ ลือกต้งั ในประเทศอนิ เดีย ตัง้ แตไ่ ด้รบั เอกราชจากประเทศ
องั กฤษ และเนอ่ื งจากผู้มสี ิทธเิ ลอื กตัง้ มีจำ� นวนมาก จึงไมม่ ีขา่ วออื้ ฉาวเก่ียว
กับการซอ้ื สทิ ธ-ิ ขายเสยี งเหมือนในประเทศไทย
จากพฤติกรรมทางการเมืองของผู้เลือกตั้งในประเทศอินเดีย ท�ำให้มี
ข้อคิดว่า “การศึกษา” ไม่ใช่ข้ออ้างถึงความไม่พร้อมของประชาชนที่ยังขาด
การศกึ ษา จงึ ไม่เหมาะกบั การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
แต่ที่ส�ำคัญน่าจะเป็นการอบรมให้ประชาชนรู้จักสิทธิหน้าที่ของ
ประชาชนในระบอบประชาธิปไตยให้ซึมซับเข้าไปในสายเลือด ซึ่งปรากฏว่า
อินเดยี ท�ำไดส้ ำ� เร็จ
ท้งั น้ี น่าจะเปน็ การถา่ ยทอดมาจากประเทศองั กฤษซงึ่ เข้าครอบครอง
อินเดยี อยยู่ าวนาน
ดังนั้น การจะตอบข้อซักถามของสมาชิกสภาในที่ประชุมว่า ท่ี
ประเทศไทยยงั ไมส่ ามารถมกี ารปกครองระบอบประชาธปิ ไตยโดยประชาชน
จริง ๆ นอกจากปัญหาการด้อยการศึกษาของประชาชนแล้ว ประชาชนยัง
ขาดการอบรมจติ วิญญาณของการเป็นประชาธปิ ไตย ไม่สามารถน�ำมาตอบ
คำ� ถามของสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรของอินเดียได้
ผมจึงขอตอบตามความเป็นจริงว่า ในขณะน้ัน เหตุการณ์เมื่อเกือบ
สีสิบปีที่แล้ว ประเทศไทยมีปัญหาการคุกคามของภัยคอมมิวนิสต์ที่มีความ
พยายามบ่อนท�ำลายความม่ันคงของประเทศท้ังทางภาคตะวันออกเฉียง
เหนือและภาคใต้
85
การต่อต้านภัยจากลัทธิคอมมิวนิสต์คือการท�ำให้รัฐบาลมีความเข้ม
แขง็ ทำ� ใหค้ นไทยทกุ คนไมว่ า่ ประชาชนธรรมดาหรอื ทหารตอ้ งรว่ มมอื กนั เพอ่ื
ความอยู่รอดของประเทศโดยเฉพาะประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
จอมทพั ไทย ชายไทยทุกคนตอ้ งเป็นทหารเม่อื มอี ายุครบ ๒๐ ปี
การดำ� เนนิ นโยบายและการรวมพลงั ระหวา่ งทหารกบั ประชาชนทำ� ให้
ประเทศไทยอยู่รอดจากลัทธิล่าเมืองขึ้นในสมัยก่อน ท้ังท่ีเป็นประเทศเล็ก ๆ
มีประชาชนน้อย แต่มีความพยายามตลอดเวลาท่ีจะมีการปกครองระบอบ
ประชาธปิ ไตยเตม็ รูปแบบตะวนั ตก
เมอ่ื พดู จบสมาชกิ สภาอนิ เดยี ทเี่ ขา้ รว่ มประชมุ ตา่ งใชม้ อื ตบโตะ๊ ดงั สนน่ั
ท่านทตู พอใจและบอกว่าบรรยากาศการพบปะของสองสภาสำ� เรจ็ ลงดว้ ยดี
ต่อมา ได้เข้าเย่ียมคารวะนายกรัฐมนตรีคนท่ี ๗ ของอินเดีย ฯพณฯ
นายราชพี รตนะ คานธี
86
เข้าดำ� รงตำ� แหน่งต้งั แต่ ค.ศ. ๑๙๘๔ ถึง ค.ศ. ๑๙๘๙ โดยเป็นนายก
รฐั มนตรีที่อายุนอ้ ยท่ีสดุ เพราะขณะเขา้ ด�ำรงต�ำแหน่งมอี ายุเพียง ๔๐ ปี
ราชพี คานธี ถงึ แกอ่ สัญกรรมเม่ือวนั ที่ ๒๑ พฤษภาคม ค.ศ. ๑๙๙๑
ระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกต้ังซ่อมใกล้เมืองเจนไน โดยมือระเบิดพลี
ชีพเป็นสตรีชาวศรีลังกา สมาชิกกองทัพปลดปล่อยทมิฬอีแลม ไม่พอใจ
นโยบายของคานธีที่ส่งกองก�ำลังรักษาสันติภาพของอินเดียเข้าไกล่เกล่ีย
สงครามกลางเมอื งในศรลี งั กา
การพบปะครั้งนี้มีผู้เข้าพบจ�ำนวนน้อยเพราะห้องที่นายกรัฐมนตรี รา
ชีพ คานธี ทำ� งานและรับแขกเป็นห้องเลก็ ๆ อยใู่ นบรเิ วณรัฐสภา
ผู้เข้าพบในวันน้ันมเี ฉพาะผม คณุ มณฑนิ ี มงคลนาวนิ (เปน็ คุณหญิง
เมอื่ พฤษภาคม ๒๕๒๘) ท่านเอกอัครราชทตู พริ ชั อศิ รเสนา และสมาชิกสภา
อินเดยี ทีท่ ำ� หน้าทต่ี ดิ ตามคณะโดยตลอด
87
นอกจากการเขา้ พบพดู จาซงึ่ มบี รรยากาศดมี ากแลว้ ผมไดค้ วามคดิ ใน
การจัดห้องพักนายกรัฐมนตรีในรัฐสภาของอินเดียเพื่อสะดวกในการท�ำงาน
และสะดวกในการประสานงานกับรฐั สภา
เม่ือกลับเมืองไทยแล้วจึงมอบหมายให้เลขาธิการรัฐสภา (คุณบังอร
อม่ิ โอชา) จดั หอ้ งรบั รองนายกรฐั มนตรใี นรฐั สภาเปน็ ครง้ั แรก โดยในขณะนนั้
พลเอกเปรม ติณสลู านนท์ เปน็ นายกรฐั มนตรี
ในภาพ (ซา้ ยมือ) คณุ บังอร อ่มิ โอชา เลขาธกิ ารรฐั สภา,
ขวามอื ฯพณฯ พลเอกเปรม ตณิ สูลานนท์ นายกรฐั มนตรี
88
ตอ่ จากน้นั ไดเ้ ขา้ เยย่ี มคารวะประธานาธิบดี ฯพณฯ นายซาเอล ซงิ ก์
ณ ท�ำเนียบประธานาธบิ ดี
89
ท่านประธานาธิบดีเป็นผู้ใหญ่อัธยาศรัยงามให้ความสนิทสนมเป็น
กนั เองมาก มกี ารแลกเปล่ยี นของที่ระลกึ ตามธรรมเนียม
หลังจากน้ัน ท่านประธานาธิบดีให้น�ำชมท�ำเนียบประธานาธิบดี
(Presidential Palace หรือ Rashtrapati Bhawan)
ท�ำเนียบน้ีเป็นสถาปัตยกรรมแบบโมกุลผสานกับแบบตะวันตกที่มี
ขนาดใหญ่โตและซบั ซอ้ น เป็นหนึง่ ในทพ่ี ำ� นกั ของประธานาธิบดีทใ่ี หญท่ ส่ี ดุ
ในโลก
อาคารมีขนาด ๑๙,๐๐๐ ตารางเมตร (๒๐๐,๐๐๐ ตารางฟตุ ) มสี ช่ี ัน้
และ ๓๔๐ หอ้ ง ตง้ั อยบู่ นพ้ืนที่ ๓๒๐ เอเคอร์ ณ ใจกลางเมืองนวิ เดลี
90
แตเ่ ดมิ ทพี่ กั แหง่ นสี้ รา้ งขน้ึ สำ� หรบั ผสู้ ำ� เรจ็ ราชการขององั กฤษในอนิ เดยี
ไดร้ ับการออกแบบโดยสถาปนกิ ชาวอังกฤษ โดยมจี ุดมุ่งหมายให้อาคารเป็น
สญั ลักษณ์ อนั แสดงถงึ ความย่ังยืนถาวรของการปกครองขององั กฤษในโลก
ตะวันออก
ในปี ๑๙๕๐ หลงั จากไดร้ บั อสิ รภาพ ประธานาธบิ ดคี นแรกของอนิ เดยี
ไดเ้ ขา้ พ�ำนกั ท่ีน่ีซึ่งไดร้ บั การตั้งชอ่ื ใหม่เปน็ Rashtrapati Bhawan
91
หลังจากนั้น ได้เข้าเยี่ยมคารวะรองประธานาธิบดีและเป็นประธานสภาสูง
“ราชยสภา Rajya Sabha” โดยต�ำแหนง่ เหมือนระบบของอเมรกิ า ซ่งึ รองประธานาธบิ ดี
ทำ� หนา้ ทป่ี ระธานสภาสงู โดยต�ำแหน่งเชน่ กนั
92
เวลาคำ่� ประธานสภาได้จดั เล้ียงอาหารเพื่อเปน็ เกียรตกิ บั คณะผ้แู ทน
รฐั สภาไทยที่ Parliament House Annex (Banquet Hall)
93
เป็นที่น่าสังเกตว่า ปกติการเลี้ยงทางการของอินเดียจะไม่เสริฟเหล้า
แต่งานน้ีมีเสริฟเหล้า Rose Wine และมีการเชิญดื่ม ซึ่งเป็นการให้เกียรติ
นอกจากนน้ั ผไู้ ดร้ บั เชญิ ทว่ั ๆ ไปรบั ประทานอาหารโดยใช้ “มอื ” ตามประเพณี
94
วนั ท่ี ๕ เมษายน ๒๕๒๘
เยยี่ มชมทัชมาฮาล (Taj Mahal)
ทัชมาฮาลในศตวรรษนี้สังคมโลกรู้จักกันว่า เป็นหน่ึงในเจ็ดส่ิง
มหศั จรรยข์ องโลกยคุ ใหมแ่ ละเปน็ สถาปตั ยกรรมหนิ ออ่ นทสี่ วยทสี่ ดุ แหง่ หนงึ่
ของโลก
95
96
ทัชมาฮาลต้งั อยู่ในสวนริมฝ่งั แมน่ �้ำยมนุ า ในเมอื งอัครา ถูกสรา้ งดว้ ย
หินออ่ นสขี าว ศลิ าแลง
ไดร้ บั ค�ำรับรองวา่ สร้างข้ึนด้วยสดั ส่วนทว่ี ิจติ รและงดงามทส่ี ุด
มีขนาดกว้างยาวด้านละ ๑๐๐ เมตร สูง ๖๐ เมตร
มผี สู้ รา้ งและออกแบบรว่ ม ๒๐,๐๐๐ คน
การกอ่ สร้างกนิ เวลานานถึง ๒๒ ปี
ทัชมาฮาลมีเนอ้ื ที่ประมาณ ๔๑ เอเคอร์
นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิตเพ่ือมิให้ไป
ออกแบบสถาปตั ยกรรมใด ๆ ทส่ี วยกวา่ ได้
ส่วนยอดของทัชมาฮาลมีโดมรูปหัวหอม (Onion Dome) เป็น
สัญลักษณ์
สมเดจ็ พระจกั รพรรดชิ าหจ์ าหฮ์ าลเขา้ พธิ สี ยมุ พรกบั พระนางมมุ ตสั มา
ฮาล มพี ระโอรสและพระธิดามากถึง ๑๔ องค์ พระนางมมุ ตัส มาฮาล ทรงมี
ความสขุ ได้ ๑๘ ปกี ส็ น้ิ พระชนมล์ งเนอ่ื งจากทรงมปี ระสตู กิ าลพระธดิ าองคส์ ดุ
ทอ้ งและตกพระโลหติ ไมห่ ยดุ
พระเจ้าชาห์จาห์ฮาลปราบกบฎข่านและรีบกลับมาดูใจในชั่วโมง
สดุ ท้ายก่อนพระนางมุมตัส มาฮาล สิ้นพระชนม์
พระนางมมุ ตสั มาฮาล ไดข้ อรอ้ งพระสวามวี า่ หากพระองคส์ นิ้ พระชนม์
ลงขอใหส้ รา้ งสสุ านทส่ี วยงามใหพ้ ระนาง ขออยา่ ใหม้ มี เหสใี หม่ ขอใหท้ รงพระ
กรุณาตอ่ เดก็ ๆ และขอให้เสดจ็ มาเยยี่ มพระนางที่สสุ านทกุ ปี และนี่เองเปน็
ปฐมบทแหง่ สถาปตั ยกรรมทงี่ ดงามแหง่ นี้
97
สมเดจ็ พระจกั รพรรดชิ าหจ์ าหฮ์ าล ทรงทำ� ตามสญั ญาทกุ ขอ้ ขอ้ เดยี วท่ี
ทรงรกั ษาไวไ้ มไ่ ดค้ อื ขอ้ ทพ่ี ระมเหสขี อรอ้ งใหเ้ สดจ็ มาเยย่ี มพระนางทส่ี สุ านทกุ
ปี เพราะโอรสองค์หนง่ึ ของพระเจา้ ชาหจ์ าหฮ์ าลเองที่ทรงเหน็ ว่าพระราชบดิ า
ใช้จ่ายพระราชทรัพย์ไปกับการสร้างสุสานเพื่อพระนางมุมตัส มาฮาล จึงได้
ชงิ บลั ลงั กแ์ ละจบั พระราชบดิ าไปคมุ ขงั ไว้ พระเจา้ ชาหจ์ าหฮ์ าลจงึ ทำ� ไดเ้ พยี ง
“เขยง่ พระบาท” มองทชั มาฮาลผา่ นลกู กรงทค่ี มุ ขงั ทกุ วนั เทา่ นนั้ แมก้ ระทงั่ ยาม
ท่ีพระองค์ถึงกาลอันใกล้จะส้ินพระชนม์ก็ยังขอร้องให้ผู้คุมประคองพระเศียร
เพือ่ ทรงทอดพระเนตรทัชมาฮาลของพระองคเ์ ป็นครงั้ สุดทา้ ย
98