1 2
ตวั อยา่ งที่ 2 จงหาคา่ ของ 1253
1 2 = 53 1 2
3
วิธที า 1253
= 52
= 25
1 2
ตอบ 1253 = 25
ตวั อยา่ งท่ี 3 a 3b2c2 5
จงหาค่าของ a 4b7c
a3b2c2 5
a 35b 25c 25
วิธที า a 4b7c = a 4b7c
= a b c154 107 101
= a 11b 3c 9
ตอบ 5
a 3b2c2
a 4b 7c = a 11b 3c 9
2) ขน้ั การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองของนักเรยี น ( 20 นาที)
ให้นักเรยี นทากิจกรรม นักเรียนร่วมกันทากิจกรรมโดยครใู หค้ วามช่วยเหลือ
และแนะนา คอยกระตุน้ แนวคิดของนักเรยี น และครสู งั เกตและบันทึกแนวคดิ ของนักเรียน
3) ขน้ั การนาเสนอแนวคดิ และอภิปรายแนวคดิ รว่ มกันต่อชัน้ เรียน ( 10 นาที)
ให้นักเรยี นรว่ มกันสรุป จากนน้ั ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปสมบตั ขิ ้อตอ่ ไป ของเลขยกกาลัง ดังน้ี
สมบัตขิ องเลขยกกาลัง ถ้า a และ b เปน็ จานวนใดๆ โดยท่ี b ไมเ่ ท่ากบั ศนู ย์ และ n เป็นจานวน
เตม็ บวก
แลว้ a n a n
b bn
สงวนสิทธิ์สำหรบั สำขำวิชำคณติ ศำสตรศึกษำ คณะครุศำสตร์ มหำวิทยำลัยนครพนม
4) ขนั้ การสรปุ บทเรียนจากการเชอ่ื มโยงแนวคดิ ของนักเรียนทเี่ กดิ ขึ้นในชัน้ เรียน ( 10
นาท)ี
สมบตั ขิ องเลขยกกาลงั ถ้า a และ b เป็นจานวนใดๆ โดยที่ b ไม่เท่ากับศูนย์ และ n เป็น
จานวนเต็มบวก
แล้ว a n a n
b bn
8. ส่อื การเรียนรู้ที่ใชใ้ นแต่ละขัน้ การสอน โดยระบุตามขนั้ การสอน (ระบสุ ่ือการเรียนรู้ท่ีใชใ้ นแตล่ ะขนั้
การสอนให้ชัดเจนและครบถว้ น)
1.ขน้ั การนาเสนอสถานการณ์
-
2.ขนั้ การเรียนรู้ดว้ ยตนเองของนกั เรยี น
-
3.ขนั้ การนาเสนอแนวคิดและอภิปรายแนวคิดร่วมกนั ต่อชัน้ เรยี น
-
4.ขั้นการสรุปบทเรยี นจากการเชื่อมโยงแนวคดิ ของนักเรียนทเี่ กิดขน้ึ ในชนั้ เรยี น
-
9. การคาดคะเนแนวคดิ ของนกั เรียนท่ีจะตอบสนองต่อคาสั่งแต่ละคาสง่ั
จงทาจานวนให้อยใู่ นรปู อย่างงา่ ย โดยใชส้ มบัตขิ องเลขยกกาลัง
1) =23 35 23 35 23 35
35 20 35 20 35 20
= 23 = 1
8
2) a5b3c2 3 a5b3c2 3 = a b c(5)(3) (3)(3) (2)(3)
\ a4b 7 a4b 7 a b(4)(3) (7)(3)
= a15b9c6
a12b 21
= a1512 c6
b219
สงวนสิทธิ์สำหรบั สำขำวิชำคณติ ศำสตรศึกษำ คณะครุศำสตร์ มหำวิทยำลัยนครพนม
= a3 c6
b12
10. ความยุง่ ยากของนกั เรียนทเ่ี กิดขึ้นมีอะไรบา้ ง (ให้รว่ มกนั คาดการณ์ความยุง่ ยากของนักเรียนทจ่ี ะ
เกิดขึน้ จากคาส่ังในขอ้ 2)
1. นักเรยี นสับสนในการหาคาตอบ
2. นักเรยี นไมเ่ ข้าใจส่ิงท่ตี ้องการให้หา
3. นกั เรียนยงั ไมส่ ามารถอธิบายแนวคดิ ทีเ่ กิดขน้ึ ได้
11. ประเด็นทีจ่ ะใชใ้ นการร่วมอภิปรายในชนั้ เรยี นเพ่อื ให้นักเรยี นบรรลเุ ป้าหมายของบทเรียนในแต่ละ
คาบ
นกั เรยี นช่วยกนั สรปุ สมบัติของเลขยกกาลงั ที่ได้เรยี นมาแลว้
สมบตั ิขอ้ ที่ 1 เม่ือ a เปน็ จานวนใดๆ m และ n เปน็ จานวนเตม็ บวก แล้ว am an = am + n
สมบัติข้อที่ 2 ถ้า a , b เป็นจานวนใดๆ m เปน็ จานวนเตม็ บวก แล้ว (ab)m = am bm
สมบตั ขิ อ้ ที่ 3 ถ้า a เป็นจานวนใดๆ m และ n เปน็ จานวนเตม็ บวก แลว้ (am)n = amn
สมบัติข้อที่ 4 ถ้า a และ b เป็นจานวนใดๆ โดยที่ b ไม่เท่ากับศูนย์ และ n เป็นจานวนเต็มบวก
แล้ว
a n a n
b bn
สมบัติขอ้ ที่ 5 ถ้า a เปน็ จานวนใดๆ a 0 และ n เปน็ จานวนนบั แลว้
12. การวัดและประเมินผล หลกั ฐาน
วธิ กี ารวดั และประเมินผล 1) บนั ทึกการสะทอ้ นผลหลงั การจัดการเรียนรู้ของ
ครู
1) ครสู ะท้อนผลหลงั การจัดการเรียนรู้ 2) บนั ทึกสังเกตการสงั เกตชัน้ เรยี นของครู
3) ใบกิจกรรมของนักเรียน
2) ครสู งั เกตแนวคิดของนักเรียน
3) นักเรยี นทาใบกิจกรรม
สงวนสิทธ์ิสำหรบั สำขำวิชำคณติ ศำสตรศกึ ษำ คณะครุศำสตร์ มหำวิทยำลัยนครพนม
ลงชื่อ…………………………………………….ผบู้ นั ทกึ การสร้างแผนการจัดการเรียนรู้
(นางสาวพรนภา สาระขนั ธ์)
นักศกึ ษาสาขาวิชาคณิตศาสตรศกึ ษา คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั นครพนม
ช้นั ปที ี่ 4 ห้อง 1 เลขที่ 8 รหัสนักศึกษา 623150710100
ความคดิ เห็นของครูพีเ่ ล้ยี ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ………………………………………………………….
(นายอนุวฒั น์ เดชไธสง)
ตาแหน่ง ครชู านาญพิเศษ โรงเรียนรามราชพิทยาคม
วนั ที่……….เดือน……………....พ.ศ.............
ความคิดเห็นของผอู้ านวยการโรงเรยี น รองผอู้ านวยการโรงเรียนฝา่ ยวชิ าการ หัวหน้ากลุม่ สาระฯ หรือ
ผูท้ ี่ได้รบั มอบหมาย
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ………………………………………………………….
( นายประชา สมศรี)
ตาแหนง่ ผู้อานวยการ โรงเรยี นรามราชพิทยาคม
วนั ท่ี…………เดือน……………………………………พ.ศ…………………
สงวนสิทธิ์สำหรบั สำขำวิชำคณติ ศำสตรศึกษำ คณะครุศำสตร์ มหำวิทยำลยั นครพนม
บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรแู้ ละการสะท้อนผล
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 5 ชื่อหน่วยการเรียนรู้ สมบตั ิของเลขยกกาลัง คาบที่ 7 / 8
วัน เดือน ปี ทจ่ี ดั การเรยี นรู้ วันจนั ทร์ ท่ี 19 เดอื น กนั ยายน พ.ศ 2565
ชือ่ เรื่อง/กิจกรรม สมบัติของเลขยกกาลัง (ตอ่ )
สะทอ้ นเม่ือวันท่ี 22 เดือน กันยายน พ.ศ 2565
1) การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้บรรลุตามเป้าหมายทผ่ี ูเ้ รียนจะได้เรยี นรใู้ นคาบเรียนน้ีขอ้ ใดบ้าง และนักเรยี นมี
แนวคิดเกดิ ขน้ึ อยา่ งไร
- นักเรียนสามารถอธิบายเก่ียวกบั สมบตั ิของเลขยกกาลงั
- นักเรียนสามารถเขยี นและยกตวั อย่างสมบัติของเลขยกกาลงั
- นักเรยี นสามารถใช้สมบัติของเลขยกกาลังในการคดิ คานวณแกป้ ัญหาเพ่ือหาคาตอบ
2) การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้บรรลตุ ามเปา้ หมายท่ผี ู้เรยี นยังไม่บรรลเุ ปา้ หมาย เพราะเหตุใด
- บรรลเุ ป้าหมายทกุ ข้อ
3) สาหรบั เปา้ หมายของคาบเรยี นที่ยังไมบ่ รรลุผล ใหน้ ักศกึ ษาระบุแนวทางในการพฒั นากจิ กรรมของคาบ
เรียนนี้ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ในครั้งต่อไป
- จัดกจิ กรรมร่วมกันและใหน้ ักเรยี นออกมานาเสนอหนา้ ช้ันเรยี น
ลงชือ่ …………………………………………….ครูผูส้ อน
(นางสาวพรนภา สาระขนั ธ์)
นกั ศึกษาสาขาวิชาคณิตศาสตรศกึ ษา คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั นครพนม
ช้ันปที ่ี 4 ห้อง 1 เลขท่ี 8 รหัสนกั ศึกษา 623150710100
สงวนสิทธิ์สำหรับสำขำวิชำคณติ ศำสตรศึกษำ คณะครุศำสตร์ มหำวิทยำลยั นครพนม
แบบบันทกึ การสรา้ งแผนการจัดการเรยี นรูค้ ณิตศาสตรท์ ี่เน้นการแกป้ ญั หา
หลักสูตรครศุ าสตรบณั ฑิต สาขาวชิ าคณิตศาสตรศกึ ษา คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลัยนครพนม
ชอ่ื หนงั สือเรียนท่นี ามาใช้ในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ หนงั สือคณิตศาสตร์ ม. 2 เล่ม 1 (สสวท)
ชั้น ม. 2/1 จานวนนกั เรยี น 32 คน ชาย 10 คน หญงิ 22 คน
กิจกรรมแบบ เดย่ี ว คู่ กล่มุ ยอ่ ย…คน
ชน้ั ม. 2/2 จานวนนักเรยี น 31 คน ชาย 22 คน หญงิ 9 คน
กจิ กรรมแบบ เดยี่ ว คู่ กลุม่ ยอ่ ย…คน
โรงเรียนรามราชพทิ ยาคม อาเภอ ทา่ อเุ ทน จงั หวัด นครพนม
รูปแบบการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ On-site On-line On-demand On-hand
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ สมบัติของเลขยกกาลงั คาบที่ 8 / 8
วนั เดือน ปี ทจ่ี ดั การเรียนรู้ วันองั คาร ที่ 20 เดือน กนั ยายน พ.ศ 2565
ชอ่ื เรอ่ื ง/กจิ กรรม สมบตั ิของเลขยกกาลัง (ต่อ)
ชื่อ-สกุล ครผู ู้สอน : นางสาวพรนภา สาระขนั ธ์ ชั้นปที ่ี 4 รหสั นกั ศึกษา 623150710100
ช่ือผู้รว่ มสรา้ งแผนและสังเกตการณ์สอน
1. นายอนุวัฒน์ เดชไธสง (ครูพ่ีเลีย้ ง) คุณครูสอนวิชาคณิตศาสตร์
2. นางสาวจีรารัตน์ ศรหี ะมงคล คณุ ครูสอนวิชาคณิตศาสตร์
3. นายธนากร อุมะวรรณ คุณครูสอนวชิ าคณิตศาสตร์
1) นางสาวพรนภา สาระขันธ์ นักศกึ ษาปฏบิ ตั ิการสอนในสถานศึกษา 4
2) นางสาวลักษกิ า ละราคี นกั ศกึ ษาปฏบิ ัตกิ ารสอนในสถานศึกษา 4
ช่ือผบู้ ันทกึ
นางสาวพรนภา สาระขันธ์ ชั้นปีท่ี 4 รหัสนักศึกษา 623150710100
สงวนสิทธ์ิสำหรับสำขำวิชำคณติ ศำสตรศึกษำ คณะครุศำสตร์ มหำวิทยำลยั นครพนม
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
สาระท่ี 1 จานวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนนิ การ
ของจานวนผลทีเ่ กิดขึ้นจากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนินการและนาไปใช้
ตัวชวี้ ดั
ค1.1 ม.2/1 เขา้ ใจและใช้สมบตั ิของเลขยกกาลงั ท่ีมีเลขชก้ี าลงั เป็นจานวนเตม็ ในการ
แกป้ ัญหาคณิตศาสตรแ์ ละปญั หาในชีวิตจริง
3. เป้าหมายของหน่วยการเรียนรู้ (จานวนคาบเรยี นในหน่วยการเรยี นรู้มี 8 คาบเรยี น)
1.1 นักเรยี นสามารถอธบิ ายเก่ยี วกับสมบตั ขิ องเลขยกกาลัง (K)
1.2 นักเรยี นสามารถเขียนและยกตัวอย่างสมบัติของเลขยกกาลัง (P)
1.3 นักเรียนสามารถใชส้ มบัติของเลขยกกาลังในการคดิ คานวณแกป้ ัญหาเพือ่ หาคาตอบ (P)
1.4 นักเรียนสามารถแสดงวธิ ีการหาผลคณู ในรปู เลขยกกาลังท่มี เี ลขช้ีกาลังเปน็ บวก (P)
1.5 อธบิ ายเกย่ี วกบั การดาเนินการของเลขยกกาลัง (K)
1.6 นกั เรยี นสามารถแสดงวธิ ีการหาผลหารในรูปเลขยกกาลังท่ีมเี ลขช้ีกาลังเป็นบวก (P)
1.7 นกั เรียนสามารถอธบิ ายเกย่ี วกบั สมบตั ิอืน่ ๆ ของเลขยกกาลัง (K)
1.8 นกั เรียนสามารถแสดงการคดิ คานวณโดยใช้สมบตั ิของเลขยกกาลัง (P)
1.9 นักเรยี นสามารถอธบิ ายเก่ยี วกับการเขียนจานวนในรปู สญั กรณว์ ิทยาศาสตร์ (K)
1.10 นกั เรียนสามารถเขียนจานวนในรปู สญั กรณว์ ิทยาศาสตร์และนาไปใช้ในการคดิ คานวณ (P)
4. เป้าหมายท่ผี ู้เรียนจะได้เรยี นรู้ในคาบเรียนนี้ (คาบเรยี นท่ี 8 / 8 )
1.1 นักเรียนสามารถใชส้ มบัตขิ องเลขยกกาลงั ในการคดิ คานวณแกป้ ัญหาเพื่อหาคาตอบ (P)
5. เนอ้ื หาสาระของคาบเรียน
คณุ สมบัตขิ องเลขยกกาลัง
1. am an amn
2. am amn ,a0
an
3. am n amn
4. abn an bn
5. a n an ,b0
b bn
สงวนสิทธิ์สำหรบั สำขำวิชำคณติ ศำสตรศกึ ษำ คณะครศุ ำสตร์ มหำวิทยำลัยนครพนม
6. สถานการณ์ปญั หา/คาสั่ง
สถานการณ์ :
คาส่งั : แบบทดสอบหลงั เรยี น
7. ลาดบั กิจกรรมการสอน
7.1 ลาดับการเคลอื่ นยา้ ยแนวคิดของนกั เรียน ตามลาดบั ดังนี้
การแสดงแทนโลกจริงของนักเรยี น [แสดงภาพจากหนงั สือเรยี นหรือสือ่ ด้วย (ถา้ มี)]
-
ส่ือก่ึงรูปธรรม [แสดงภาพจากหนงั สอื เรียนหรือสื่อด้วย (ถ้าม)ี ]
-
การแสดงแทนโลกคณิตศาสตร์ [แสดงภาพจากหนงั สอื เรยี นหรือสอ่ื ด้วย (ถ้าม)ี ]
-
7.2 ลาดับการสอน (4 ขั้นการสอนดว้ ยวธิ ีการแบบเปดิ ครูมีบทบาทอยา่ งไร ใช้คาถามอย่างไร
ระบุในแต่ละขั้นการสอน)
1) ขั้นการนาเสนอสถานการณป์ ญั หา ( 10 นาท)ี
ครูทบทวนคุณสมบัตขิ องเลขยกกาลังท้ัง 5 ขอ้ ทไ่ี ด้เรยี นผ่านมา
ให้นักเรียนทาแบบทดสอบหลังเรียน เรือ่ ง สมบตั ิของเลขยกกาลงั โดยใชแ้ บบทดสอบแบบ
ปรนัย 4 ตวั เลอื ก จานวน 5 ขอ้
เม่ือนกั เรียนทาเสรจ็ เรียบร้อยแลว้ นกั เรียนส่งใหค้ รตู รวจ และหากนกั เรยี นคนใดมขี ้อสงสยั
เกีย่ วกับข้อสอบ ครูเปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถาม
2) ข้ันการเรียนรูด้ ้วยตนเองของนกั เรียน ( 20 นาที)
ใหน้ กั เรยี นทากิจกรรม นักเรยี นร่วมกนั ทากจิ กรรมโดยครูใหค้ วามชว่ ยเหลือ
และแนะนา คอยกระตุ้นแนวคิดของนักเรียน
3) ขั้นการนาเสนอแนวคดิ และอภปิ รายแนวคิดร่วมกันต่อชน้ั เรียน ( 10 นาที)
ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั สรปุ นักเรียนร่วมกันสรปุ บทนิยาม สมบัตขิ องเลขยกกาลงั และการ
นาไปใชใ้ นการแก้ปัญหา
4) ขั้นการสรปุ บทเรียนจากการเช่อื มโยงแนวคิดของนกั เรียนที่เกิดขนึ้ ในชัน้ เรยี น ( 10
นาท)ี
ให้นกั เรยี นรว่ มกนั สรุป นักเรยี นรว่ มกันสรุปบทนิยาม สมบัตขิ องเลขยกกาลงั และการ
นาไปใชใ้ นการแกป้ ัญหา
สงวนสิทธ์ิสำหรบั สำขำวิชำคณติ ศำสตรศึกษำ คณะครุศำสตร์ มหำวิทยำลัยนครพนม
8. ส่อื การเรยี นรทู้ ี่ใช้ในแตล่ ะขั้นการสอน โดยระบุตามขั้นการสอน (ระบุส่ือการเรยี นรู้ท่ีใช้ในแต่ละข้ัน
การสอนให้ชัดเจนและครบถ้วน)
1.ขั้นการนาเสนอสถานการณ์
-
2.ข้ันการเรยี นรดู้ ้วยตนเองของนักเรยี น
-
3.ขน้ั การนาเสนอแนวคิดและอภปิ รายแนวคดิ ร่วมกันต่อช้ันเรียน
-
4.ข้นั การสรปุ บทเรยี นจากการเชอ่ื มโยงแนวคดิ ของนักเรียนที่เกดิ ขึ้นในชนั้ เรยี น
-
9. การคาดคะเนแนวคดิ ของนักเรียนที่จะตอบสนองต่อคาสงั่ แต่ละคาสั่ง
1. นกั เรยี นสามารถนาความรู้ที่ไดจ้ ากสมบัตเิ ลขยกกาลังมาใช้ในการแก้ปญั หา
10. ความย่งุ ยากของนกั เรียนทเ่ี กดิ ข้นึ มีอะไรบา้ ง (ให้รว่ มกันคาดการณ์ความยุ่งยากของนกั เรยี นท่จี ะ
เกดิ ข้ึนจากคาส่งั ในขอ้ 2)
1. นักเรยี นยงั สบั สนกับสมบตั ิเลขยกกาลัง
11. ประเด็นทจ่ี ะใช้ในการรว่ มอภิปรายในช้นั เรยี นเพื่อให้นกั เรยี นบรรลเุ ป้าหมายของบทเรียนในแตล่ ะ
คาบ
นกั เรยี นรว่ มกันสรุปบทนิยาม สมบตั ขิ องเลขยกกาลังและการนาไปใช้ในการแกป้ ญั หา
12. การวดั และประเมินผล
วิธกี ารวัดและประเมินผล หลักฐาน
1) ครสู ะท้อนผลหลังการจดั การเรียนรู้ 1) บนั ทึกการสะทอ้ นผลหลังการจัดการเรียนรู้ของ
ครู
2) ครสู งั เกตแนวคดิ ของนักเรียน 2) บันทึกสังเกตการสังเกตชน้ั เรียนของครู
3) นกั เรียนทาใบกจิ กรรม 3) ใบกิจกรรมของนักเรียน
สงวนสิทธิ์สำหรับสำขำวิชำคณติ ศำสตรศึกษำ คณะครุศำสตร์ มหำวิทยำลยั นครพนม
ลงชอ่ื …………………………………………….ผู้บนั ทกึ การสร้างแผนการจดั การเรยี นรู้
(นางสาวพรนภา สาระขันธ์)
นักศกึ ษาสาขาวชิ าคณิตศาสตรศกึ ษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม
ช้ันปีที่ 4 ห้อง 1 เลขที่ 8 รหัสนกั ศกึ ษา 623150710100
ความคดิ เห็นของครูพ่เี ลี้ยง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ………………………………………………………….
(นายอนุวฒั น์ เดชไธสง)
ตาแหน่ง ครชู านาญพเิ ศษ โรงเรียนรามราชพทิ ยาคม
วันที่……….เดือน……………....พ.ศ.............
ความคิดเห็นของผอู้ านวยการโรงเรยี น รองผอู้ านวยการโรงเรียนฝา่ ยวชิ าการ หัวหนา้ กลุ่มสาระฯ หรือ
ผูท้ ี่ได้รบั มอบหมาย
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
….……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่อื ………………………………………………………….
( นายประชา สมศรี)
ตาแหนง่ ผอู้ านวยการ โรงเรยี นรามราชพิทยาคม
วนั ท่ี…………เดือน……………………………………พ.ศ…………………
สงวนสิทธ์ิสำหรบั สำขำวิชำคณติ ศำสตรศึกษำ คณะครศุ ำสตร์ มหำวิทยำลยั นครพนม
ใบกจิ กรรม
แบบทดสอบหลงั เรยี น
1. ถ้า a แทนจานวนใด ๆ และ n เป็นจานวนเตม็ บวก แล้ว an หมายถงึ ขอ้ ใด
ก. a x a x a x … x a ข. a + a +a + … + a
n ตวั n ตวั
ค. n + n + n + … + n ง. n x n x n x … x n
a ตวั a ตวั
2. (-7) x (-7) x (-7) x (-7) x (-7) เขยี นให้อยใู่ นรปู เลขยกกาลังได้ดังข้อใด
ก. (-7)11 ข. -711
ค. (-7)5 ง. -75
3. ข้อใดต่อไปน้ีถกู ต้อง
ก. 54 = 1 ข. 73 = 7 + 7 + 7
54 ง. 24 21
ค. 50 = 1 (-2)4
4. (4x)2 มีค่าเทา่ กับเทา่ ไร ข. 16x2
ก. 8x2 ง. 8x2
ค. 16x2
ข. 2x3 y2
5. (xy2)3(2x2)2 มคี า่ เทา่ กบั เท่าไร ง. 2x2 y6
ก 4x7 y6
ค. 4x7 y6
สงวนสิทธิ์สำหรบั สำขำวิชำคณติ ศำสตรศึกษำ คณะครศุ ำสตร์ มหำวิทยำลัยนครพนม
บนั ทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้และการสะท้อนผล
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ สมบตั ิของเลขยกกาลงั คาบท่ี 8 / 8
วนั เดอื น ปี ทีจ่ ัดการเรยี นรู้ วนั อังคาร ท่ี 20 เดือน กันยายน พ.ศ 2565
ช่ือเรอื่ ง/กิจกรรม สมบตั ิของเลขยกกาลงั (ต่อ)
สะท้อนเมือ่ วนั ท่ี 22 เดือน กันยายน พ.ศ 2565
1) การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้บรรลตุ ามเป้าหมายที่ผเู้ รียนจะได้เรยี นร้ใู นคาบเรยี นนี้ขอ้ ใดบ้าง และนักเรยี นมี
แนวคิดเกิดขนึ้ อยา่ งไร
- นกั เรียนสามารถใชส้ มบตั ิของเลขยกกาลงั ในการคดิ คานวณแกป้ ัญหาเพื่อหาคาตอบ (P)
2) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้บรรลุตามเป้าหมายที่ผเู้ รยี นยังไม่บรรลุเป้าหมาย เพราะเหตุใด
- บรรลุเป้าหมายทุกข้อ
3) สาหรับเป้าหมายของคาบเรยี นที่ยงั ไมบ่ รรลุผล ใหน้ กั ศึกษาระบแุ นวทางในการพฒั นากิจกรรมของคาบ
เรียนน้ีในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ในคร้งั ตอ่ ไป
- จัดกจิ กรรมร่วมกันและให้นักเรียนออกมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน
ลงชื่อ…………………………………………….ครผู สู้ อน
(นางสาวพรนภา สาระขันธ์)
นักศกึ ษาสาขาวิชาคณติ ศาสตรศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นครพนม
ชั้นปที ่ี 4 หอ้ ง 1 เลขท่ี 8 รหสั นักศึกษา 623150710100
สงวนสิทธ์ิสำหรับสำขำวิชำคณติ ศำสตรศกึ ษำ คณะครศุ ำสตร์ มหำวิทยำลยั นครพนม