The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ทุกปัญหาครอบครัว จบที่ชุมชน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by TPSO 11, 2020-09-30 11:39:37

ทุกปัญหาครอบครัว จบที่ชุมชน

ทุกปัญหาครอบครัว จบที่ชุมชน

คำนำ

ปัจจุบันสถาบันครอบครัวประสบปัญหาท่ีทำให้เกิดความคลอนแคลนหลายประการ ปัญหาท่ีพบท่ัวไป
คือครอบครัวไม่สมบูรณ์แบบ ครอบครัวแตกแยก และความรุนแรงในครอบครัว ปัญหาความรุนแรงใน
ครอบครัวได้รับการยอมรับว่าเป็นปัญหาสากลที่เกิดขึ้นได้ในทุกสังคมและวัฒนธรรม สังคมไทยพบว่าปัญหา
ความรุนแรงในครอบครัวนับวันจะปรากฏมากข้ึน ปัญหาครอบครัวเป็นเร่ืองท่ีเกิดข้ึนได้ท่ัวไป เพราะทุก
ครอบครัวล้วนมีเหตุที่อาจก่อความขัดแย้งระหว่างสมาชิกภายในบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นที่แตกต่าง
การเลี้ยงลูก ปัญหาสุขภาพ หรือสถานภาพทางการเงิน ซ่ึงความขัดแย้งเหล่านี้อาจบานปลายจนกระทบต่อ
ความสัมพันธ์ในครอบครัว อาจทำให้ชีวิตคู่จบลงและส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็กได้ด้วย ดังน้ัน เม่ือมี
ปัญหาเกิดขึ้นภายในครอบครัว คนในบ้านควรร่วมมือกันจัดการปัญหาต่างๆ เพ่ือให้ชีวิตคู่ราบรื่น และสมาชิก
คนอน่ื ๆ ก็สามารถอยรู่ ว่ มกนั อย่างมีความสุขได้

สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 สงขลา ดำเนินโครงการศูนย์บริการทางวิชาการพัฒนา
สังคมและจัดสวัสดิการสังคม โดยกิจกรรมการจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) และ
พิจารณาคัดเลือกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล ซ่ึงมีแนวคิดในการดำเนินการ
แก้ไขปัญหาครอบครัวให้กับสมาชิกในชุมชน โดยการสร้างกลไกการขับเคล่ือนศูนย์ปฏิบัติการเพ่ือป้องกันการ
กระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวระดับตำบล (ศปก.ต.) และในการดำเนินงานที่ผ่านมานับว่าประสบ
ความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยได้รับรางวัลผลงานดีเด่น ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรง ภาคใต้
ประจำปี 2558 จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์ ในลักษณะของการบรู ณาการร่วมกัน
อันจะนำไปสู่การเชื่อมโยงกับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันภายในครอบครัวและการคุ้มครองดูแลผู้สูงอายุภายใต้
สังคมสูงวยั

ในโอกาสน้ี สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 ขอขอบคุณนายบาเสด ยาพระจันทร์
นายกองค์การบรหิ ารส่วนตำบลทา่ เรือ นายบณั ฑติ เลขะกุล ปลัดองคก์ ารบริหารส่วนตำบล นางสาวกนกวรรณ
กอลาบันหลง ผู้อำนวยการกองสวัสดิการสังคม นางยุภา แสงสีคำ นางบุหลัน หวังกุหลำ และนายสักการีญา
กาเสม็ สัน ที่ให้การสนับสนนุ องคค์ วามร้แู ละขอ้ มลู สำหรับการจดั ทำองค์ความร้ดู งั กลา่ ว

สำนกั งานส่งเสรมิ และสนบั สนุนวชิ าการ 11 สงขลา
กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์

กนั ยายน 2563

สารบญั 1
คำนำ 2
บทนำ 3
เร่ิมต้นแกป้ ญั หาครอบครวั 8
การขับเคล่ือน ศปก.ต. 11
ขั้นตอนการชว่ ยเหลอื 12
กระบวนการดำเนินงาน ศปก.ต. 14
เกิดการเปล่ียนแปลงอยา่ งไรในชมุ ชน 16
เกิดการคน้ พบและการเปลี่ยนแปลง 17
ขอ้ เสนอแนะและแนวทางในการพัฒนาการดำเนินงาน 18
บทสรปุ

การขับเคลือ่ น ศปกต. “ทุกปญั หาครอบครัว จบทช่ี ุมชน”

สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันที่มีความเปลี่ยนแปลง ความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ
รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่เอื้ออำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิตของคนในปัจจุบันมากขึ้น เศรษฐกิจบาง
ประเภท อาชีพบางอาชีพ มีการพัฒนาและสร้างรายได้มหาศาล แต่ในทางตรงกันข้ามเศรษฐกิจจากการ
ประกอบอาชีพบางอยา่ งไม่ได้ทำให้ประชาชนมฐี านะความเป็นอยู่ทีด่ ีขึน้ โดยเฉพาะอาชีพทางด้านการเกษตรที่
เป็นอาชีพดั้งเดมิ ของคนไทย อาจด้วยมีอาชีพที่หลากหลาย คนมีทางเลือกในการประกอบอาชีพมากขึ้น อาชีพ
ทางด้านการเกษตรจึงถูกลดความสำคัญลง แม้จะมกี ารนำเทคโนโลยมี าประยุกต์ใช้แต่ก็ยงั มีปัจจัยอ่ืนๆ ท่ีส่งผล
กระทบทำให้อาชีพเกษตรกรใหผ้ ลตอบแทนที่ไม่ดีเทา่ ท่ีควร ขณะทบี่ างอาชีพให้ผลตอบแทนที่สูง แต่บางอาชีพ
กลับให้ผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า ช่องว่างทางด้านรายได้ของประชาชนจึงยิ่งขยายกว้างมากขึ้น ปัญหาความ
ยากจนจงึ เปน็ ปัญหาสำคัญลำดับตน้ ๆ ของประเทศไทย

สำหรับพื้นที่ทางภาคใต้ การประกอบอาชีพส่วนใหญ่คือการทำสวนยางพาราซึ่งเคยสร้างรายได้ให้
ผลตอบแทนที่ดี ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีชีวิตความเป็นอยู่และฐานะที่มั่นคงพอสมควร แต่ด้วยความผันผวน
ทางเศรษฐกิจ ทำให้ยางพารามีราคาตกต่ำ ประชาชนมีรายไดไ้ ม่เพียงพอต่อค่าใชจ้ ่าย มีปัญหาหนี้สิน และเกิด
การหารายได้ด้วยวิธีที่ผิดกฎหมายตามมา เช่น การลักลอบค้ายาเสพติด โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนที่ขาด
ภูมิคุ้มกันทางสังคมทำให้เข้าไปพัวพันกับสิ่งผิดกฎหมาย ปัญหาต่างๆ ดังกล่าวที่เกิดขึ้นส่งผลต่อภาวะ
ความเครียดของคนในครอบครัว จนเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง การกระทำความรุนแรงทางด้านร่างกายและ
จติ ใจ ปญั หาการหย่าร้าง เป็นตน้ ในพื้นทตี่ ำบลท่าเรือ อำเภอท่าแพ จงั หวดั สตลู ปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้นและ
มีการแจ้งเหตุแก่อาสาสมัครเฝ้าระวัง ได้แก่ มีครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มารดาทอดทิ้งบุตรจำนวน 4 คน เป็น
เด็กผู้ชาย 3 คน คนโตเป็นผู้ชายอายุ 15 ปี และคนเล็กเป็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 1 ปี สาเหตุคาดว่าน่าจะ
เกดิ จากปญั หาการมีรายไดไ้ ม่เพียงพอต่อการดำรงชีวติ และเปน็ การหลบหนีเจ้าหนี้นอกระบบ

จากสถานการณ์ปัญหาที่ยกตัวอย่างมาดังกล่าว ทำให้องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ อำเภอท่าแพ
จังหวัดสตูล มีแนวคิดในการดำเนินการแก้ไขปัญหาครอบครัวให้กับสมาชิกในชุมชน โดยการสร้างกลไกการ
ขบั เคลื่อนศนู ย์ปฏบิ ตั ิการเพ่ือป้องกนั การกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัวระดบั ตำบล (ศปก.ต.) และในการ
ดำเนินงานที่ผ่านมา (ศปก.ต.) นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยได้รับรางวัลผลงานดีเด่น ด้านการ
ป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรง ภาคใต้ ประจำปี 2558 จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์ ซึ่งประเด็นนี้ทำให้สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 มีความสนใจที่จะเรียนรู้กลไกการ
ทำงานของศูนย์ฯ และถอดบทเรียนความสำเร็จในการดำเนินงาน เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและขยายผลไปสู่การ
ขับเคล่ือนในพื้นทอ่ี น่ื ๆ

2

ระดมความคดิ เห็น เพื่อหาแนวทางแก้ไข

1. จดั เวทปี ระชาคมในตำบลระดมความคิดเห็น นำปัญหาท่ีพบของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย เดก็ เยาวชน ผู้
พิการและผู้สูงอายุ โดยเริ่มต้นจากปัญหา นำมาสู่การออกแบบกิจกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาเพื่อร่วมกันหาแนว
ทางการแกป้ ญั หาใหล้ ดลงหรอื หายไปไดอ้ ย่างไร ปัญหาทเี่ กดิ ในชุมชนแตล่ ะกลมุ่ เปา้ หมาย

- ปญั หาดา้ นเด็ก เยาวชน ได้แก่
ยาเสพติด เช่น ยาบา้ น้ำกระทอ่ ม
ตดิ เกมส์ออนไลน์ เด็กแวน้ เด็กขาดระเบยี บวินยั
ออกจากโรงเรยี นกลางคัน ไม่มที นุ ศึกษาต่อ
มเี พศสัมพนั ธ์ก่อนวยั อนั ควร

- ปัญหาด้านครอบครวั
การสอื่ สารท่ีไมเ่ ข้าใจ มีความคิดเหน็ ต่าง
บคุ คลในครอบครัวเกย่ี วกับกับยาเสพติด
รายได้ไมเ่ พียงพอ มภี าระหน้ีสิน

- ปญั หาคนพกิ าร ผสู้ งู อายุ
สขุ ภาพไม่แขง็ แรง มโี รคประจำตวั
ติดบ้านและตดิ เตียง
ผูด้ ูแลไมส่ ามารถทำงาน ทำใหข้ าดรายได้
ไมม่ ผี ้ดู ูแลต้องอยตู่ ามลำพัง เนื่องจากสมาชิกในครอบครวั ต้องออกไปทำงาน

2. นำปัญหาของแต่ละกลุ่มเป้าหมายจากการระดมความคิดในระดับตำบล โดยองค์การบริหารส่วน
ตำบลท่าเรือ จะเชิญภาคีเครือข่ายระดับตำบลและระดับอำเภอ เข้ามาร่วมรับฟังและระดมความคิดเห็นเพ่ือ
หาทางแก้ไขปัญหารว่ มกัน เช่น นายอำเภอท่าแพ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าแพ ปศสุ ัตว์อำเภอ พัฒนาชุมชน
อำเภอท่าแพ เครือข่ายสุขภาพจิต คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสตูล อสม รพ.สต.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
ผนู้ ำศาสนา เจา้ อาวาส เปน็ ตน้ และสรปุ ผลจากการระดมความคดิ เหน็ นำไปสกู่ ารจัดโครงการ/กิจกรรมในพนื้ ท่ี

เรมิ่ ตน้ แกป้ ัญหา....ครอบครวั

อบต.ท่าเรือจัดตั้งศูนย์พัฒนาครอบครัว(ศพค.) ในปี พ.ศ. 2547 โดยการขับเคลื่อนของคณะกรรมการ
ศพค. ซึ่งการขับเคลื่อนผ่านกิจกรรมภายในพื้นที่ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นพี่เลี้ยงทั้ง พจม. สตูล อัยการ
บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสตูล หน่วยงานทางสังคมที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดสตูลและให้การช่วยเหลอื ทั้งใน
เร่อื งของความรู้ทางวชิ าการ การใหค้ วามชว่ ยเหลือทางดา้ นงบประมาณในการทำกิจกรรม และอบต.ท่าเรือ ได้
มีการสร้างเครอื ขา่ ยเฝา้ ระวังการยตุ ิความรนุ แรงขึน้ ในตำบล

3

ขัน้ ตอนการดำเนนิ งาน
1.ประชุมคณะทำงานศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนตำบลท่าเรือ ระดับหมู่บ้านและระดับตำบล มี

วตั ถุประสงคเ์ พอื่
- เพื่อชีแ้ จงแนวทางการดำเนินการเฝา้ ระวงั และยตุ ิความรุนแรง
- รว่ มกำหนดแนวทางการดำเนินโครงการ/กิจกรรมเพอ่ื ให้บรรลุเป้าหมาย

2.แต่งตั้งคณะทำงานตำบลเข้มแข็งไร้ความรุนแรง ตำบลท่าเรือเพื่อลงจัดเก็บข้อมูลในพื้นท่ีจำนวน 2
คณะ คอื คณะทำงานระดบั หมบู่ า้ นและคณะทำงานระดับตำบล

4

3. จดั ประชมุ ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนตำบลทา่ เรือระดับหมู่บา้ นและระดบั ตำบล
- วางแผนการลงพน้ื ที่สำรวจข้อมลู ตามแบบสอบถาม
- ช้ีแจงแนวทางการดำเนินการเฝ้าระวงั และยุติความรุนแรง
- รว่ มกำหนดแนวทางการดำเนินโครงการ/กจิ กรรมเพื่อให้บรรลุเปา้ หมาย
- ลงพ้นื ท่จี ัดเก็บขอ้ มูล โดยอาสาสมัครในพ้ืนทจ่ี ดั เก็บข้อมูลโดยการสัมภาษณ์และแบบสอบถาม
ครัวเรือนตวั อย่าง

5

4. ประสานสำนกั งานสถติ ิจงั หวัดสตลู เพือ่ ขอความอนเุ คราะหส์ รปุ ผลการสำรวจข้อมูลความรุนแรงต่อ
เด็ก สตรี และความรนุ แรงในครอบครัว วิเคราะหข์ อ้ มูลจากการเก็บแบบสอบถามเพื่อสำรวจสถานการณ์ความ
รนุ แรงตอ่ เด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครวั

5. จัดเวทีประชาคม โดยนำผลการวิเคราะห์มาหารอื หาแนวทางแก้ไขปัญหา เด็ก สตรี และครอบครัว
และนำความคิดเห็นที่ได้จากการจัดทำประชาคม มาจัดทำเพื่อจัดทำโครงการ/กิจกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับ
สภาพปญั หาในพื้นท่ี เช่น แผนเฝ้าระวัง ปอ้ งกนั และ แกไ้ ขปัญหาความรุนแรง ตอ่ เดก็ สตรีและความรุนแรงใน
ครอบครัว ฯลฯ

6. ทำร่างแผนโครงการตำบลเข้มแข้งไร้ความรนุ แรง โดยนำความคิดเห็นที่ได้จากการจัดทำประชาคม
มาจัดทำแผนเฝ้าระวงั ป้องกัน และแก้ไขปัญหาความรนุ แรง ตอ่ เดก็ สตรีและความรุนแรงในครอบครวั

6

7.ประชุมคณะทำงานศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนตำบลท่าเรือ เพื่อให้ความเห็นชอบร่างแผนท่ี
จดั ทำเปน็ รปู เลม่ เรยี บรอ้ ย

8. นายกอบต.ท่าเรือ ลงนามอนุมัติแผนและประกาศใช้แผนวาระตำบลท่าเรือ “ตำบลเข้มแข็งไร้
ความรุนแรงในครอบครวั ”

7

9. จัดทำโครงการตามแผนและงบประมาณที่วางไว้ (โครงการที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการ
ของสภาพปัญหาในพ้นื ที่ เนน้ เรอ่ื งนวตั กรรม/โครงการใหม่ ในการป้องกันหรอื ช่วยเหลือผู้ถกู กระทำด้วยความ
รนุ แรงในครอบครวั )

การขบั เคลอ่ื น ศปก.ต.
จากผลดำเนินงานข้างต้น สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว ได้คัดเลือกอบต.ท่าเรื อ เป็น

พื้นที่ดำเนินโครงการตำบลเข้มแข็งไร้ความรุนแรง ประจำปี 2559 โดยมีศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนตำบล
ท่าเรือ (ศพค.) เป็นกลไกหลักในการดำเนินงานป้องกัน ช่วยเหลือ หรือให้บริการเบื้องต้นแก่ผู้ถูกกระทำความ
รนุ แรงในครอบครวั พร้อมทัง้ ได้จดั ตั้งศูนยเ์ ฝ้าระวงั ความรุนแรงในครอบครวั และแต่งตั้งอาสาสมคั รเฝ้าระวังยุติ
ความรุนแรงในครอบครัวตำบลท่าเรือ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ
สามารถใหบ้ ริการได้ทนั เวลาและบรรลวุ ัตถุประสงค์ของศนู ยฯ์
บทบาทหนา้ ที่

1. รบั แจง้ เหตุการณ์การกระทำความรนุ แรงในครอบครัว
2. ประสานงานด้านข้อมลู กับหน่วยงาน พนกั งาน เจ้าหน้าท่ี เพือ่ เข้าระงบั เหตุ
3. รายงานเหตกุ ารณ์การกระทำความรุนแรงในครอบครัวใหค้ ณะทำงานหรือศนู ยเ์ ฝ้าระวงั ความรุนแรง
ในครอบครัวทราบ เดือนละ 3 คร้ัง
4. ติดตามผลการกระทำความรนุ แรงในครอบครัวและแจ้งให้คณะทำงานหรือศนู ย์เฝา้ ระวังความ
รุนแรงในครอบครัว
5. รณรงค์ เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ เพื่อการป้องกันและเฝ้าระวงั ปญั หาการกระทำความรุนแรงใน
ครอบครวั
6. รายงานสถานการณ์ด้านครอบครัวและความรุนแรงต่อเดก็ และสตรใี นชมุ ชนต่อคณะทำงานระดับ
ตำบลอย่างน้อย 3 เดอื นครงั้ (เดอื นมกราคม , เมษายน, กรกฎาคม)

8

7. ดำเนนิ การอ่ืนๆ ท่ีเกยี่ วข้อง หรอื ทไี่ ด้รับมอบหมายจากคณะทำงานระดับตำบล เพ่ือป้องกนั และ
แกไ้ ขปญั หายตุ ิความรนุ แรงต่อเด็ก สตรี และความรุนแรงในครอบครวั ในชุมขน
ข้นั ตอนการทำงาน
1. ผู้เสียหาย/ผู้พบเหน็ เหตกุ ารณ์แจง้ เบาะแสไปยังศนู ยร์ ับแจ้งเหตุ (ศปก.ต.) ผา่ นช่องทางต่างๆ ดงั ต่อไปนี้

- แจ้งเรอื่ งดว้ ยตนเองผ่าน Mobile Application Line
- ติดตอ่ ดว้ ยตนเองทีห่ นว่ ยรับเรือ่ งและคดั กรองเบ้ืองตน้ (อบต.)
- แจง้ ผา่ นเวบไซต์[email protected]
- โทรสายดว่ น 1300 ตลอด 24 ช่วั โมง

9

2. เจา้ หน้าท่ี ศปก.ต. ใหบ้ รกิ ารสอบข้อเทจ็ จรงิ รายละเอียดดงั นี้
- ตรวจสอบ คดั กรอง วเิ คราะห์ปัญหา
- บนั ทกึ ข้อมลู กล่องความรุนแรง
- ให้บรกิ ารเบอ้ื งตน้ รวมทงั้ คำปรกึ ษา/ไกลเ่ กล่ีย/ส่งโรงพยาบาล
- ยตุ ิเรอ่ื ง หรอื สง่ ต่อ (บันทึกข้อมลู ท่ใี หบ้ ริการ)

10

ข้นั ตอนการชว่ ยเหลอื กรณกี ารใหค้ วามรนุ ตอ่ เดก็ สตรี ผู้สงู

งอายุ คนพกิ าร โดยมีขน้ั ตอนการชว่ ยเหลอื 5 ข้นั ตอน ดงั นี้

11

กระบวนการดำเนนิ งาน ของศูนยป์ ฏบิ ัตกิ ารกระทำความรุนแรงในครอบครวั

วตำบลท่าเรือ โดยการบูรณาการการชว่ ยเหลือของภาคีเครอื ข่าย สรุปได้ดังนี้

12

3. กลไกการปฏบิ ตั งิ านของศูนย์ ประกอบดว้ ย
3.1 อาสาสมคั รเครอื ขา่ ยเฝ้าระวงั ประกอบด้วย คณะทำงานระดับตำบลและหมบู่ ้าน

ทำหนา้ ท่ี
1. รับแจง้ เหตุการณ์การกระทำความรุนแรงในครอบครวั
2. ประสานงานดา้ นข้อมลู กับหน่วยงาน พนักงาน เจ้าหน้าที่ เพ่อื เข้าระงับเหตุ
3. รายงานเหตุการณ์การกระทำความรุนแรงในครอบครัวให้คณะทำงานหรือศนู ยเ์ ฝ้าระวงั รุนแรงใน

ครอบครวั ทราบ
4. ติดตามผลการกระทำความรนุ แรงในคตรอบครัวและแจง้ ใหค้ ณะทำงานหรือศนู ยเ์ ฝา้ ระวงั ความ

รนุ แรงในครอบครัวทราบ
5. รณรงค์ เผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ เพ่ือการป้องกนั และเฝ้าระวงั ปญั หาการกระทำความรนุ แรงใน

ครอบครวั
3.2 เจ้าหนา้ ท่ศี ูนยร์ ับแจง้ เหตุ (ศปก.ต.)

ทำหน้าท่ี ประสาน ช่วยเหลอื ส่งตอ่
1. ใหบ้ ริการเบ้ืองต้น รวมท้ังคำปรึกษา/ไกลเ่ กลีย่ /ส่ง รพ.ยุติไดเ้ องหรอื ส่งต่อ (บันทึกข้อมูลที่

ให้บรกิ าร)
2. ตรวจสอบ คดั กรอง วเิ คราะหป์ ัญหา
3. บนั ทึกข้อมูลกล่องควมรุนแรง
4. ขอ้ มูลถูกสง่ ไปท่ีศูนยป์ ฏิบัตกิ าร (พมจ.) เพ่ือดำเนินการตอ่ (ประสาน พนง.จนท.)หรือ ปิด case

13

4. จัดกิจกรรม/โครงการเพื่อขับเคลอ่ื นงาน

1. การอบรมเครอื ข่ายอาสาสมัครเฝา้ ระวัง ยุติความรุนแรงในครอบครัวเพ่ือให้เขา้ ใจบทบาทหน้าที่ของ
ตนสามารถช่วยเหลอื ประสานงาน สง่ ต่อใหก้ ับหนว่ ยงานที่เกีย่ วข้องได้อย่างทนั ทว่ งทเี ม่อื เกิดเหตกุ ารณค์ วาม
รุนแรงข้นึ ในพื้นที่

2. การจำลองเหตุการณค์ วามรุนแรง ทำให้ประชาชนในพ้ืนทีม่ ีความรมู้ ากขึ้น สง่ ผลให้ในพ้นื ทเี่ กิด
เหตุการณค์ วามรุนแรงลดลง การอบรมให้ความรู้แก่
อาสาสมัครเฝ้าระวงั ฯ

3. กิจกรรมค้นหาปัญหาในชุมชน ระดมความ

คิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์โดยเครือข่าย

อาสาสมคั รเยี่ยมประชาชน

4. การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ยุติปัญหาความ

รุนแรงในครอบครัว โดยการติดป้ายประชาสัมพันธ์

เดินรณรงค์ ปั่นจักรยานประชาสัมพันธ์ และการใส่เสื้อเพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์สนับสนุนการยุติความ

รนุ แรง

5. การจัดโครงการ/กิจกรรมครอบครัวที่สอดคล้องกับความต้องการของครอบครัวและบริบทชุมชน
การแสดงความรักความอบอุ่นของคนในครอบครัว ความสัมพันธ์และการยอมรับของบุคคลในครอบครัวเป็น
พลังหลกั ในการขบั เคลื่อนการทำงานของศนู ย์ฯ ใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพ เชน่

โครงการป้องกันแกไ้ ขปญั หาและยตุ คิ วามรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว
โครงการพ่อแม่ลูกสานสมั พนั ธ์สายใยครอบครัว
โครงการครอบครัวสัมพันธส์ ร้างสรรคค์ วามเสมอภาค
โครงการจัดอบรมคุณธรรมแก่สตรีและผู้นำชุมชนเพื่อป้องกันปัญหาการกระทำความรุนแรงใน
ครอบครัว(กิจกรรมอบรมให้ความรู้/กิจกรรมสานสัมพันธ์นันทนาการ/กิจกรรมแบ่งกลุ่มฐานเรียนรู้/กิจ กรรม
สร้างพลังใหต้ ำบลท่าเรอื เป็นตำบลเขม้ แขง็ ไร้ความรนุ แรง)
6. การแก้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ต้องเริ่มต้นที่สมาชิกทุกคนในครอบครัว การดำเนิน
โครงการ/กจิ กรรมจงึ จำเป็นตอ้ งมีทุกกล่มุ เป้าหมายในครอบครัว( เดก็ เยาวชน พอ่ แม่ ผู้สูงอายุ คนพกิ าร) การ
ปลกู ฝังคา่ นยิ ม ทัศนะคตทิ ีด่ แี ก่คนในครอบครัวจึงจำเป็นในการท่ีจะนำครอบครัวไปสู่สงั คมลดความรุนแรงและ
ครอบครวั มสี ขุ
เกดิ การเปลีย่ นแปลงอย่างไรในชมุ ชน
ภายหลังจากมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัว (ศปก.ต.) ใน
พืน้ ท่ี ทำให้ประชาชนในพนื้ ทที่ ราบช่องทางแจ้งเหตุเม่ือเกิดเหตุการณ์ความรนุ แรงขึน้ ในพ้นื ท่ี ประสานวิทยากร
บรรยายเพื่อให้ความรู้แก่คณะทำงานในการประสานงาน สง่ ต่อได้อย่างรวดเรว็ และถูกต้อง ตลอดจนมีการและ
ประชาสัมพันธ์และจัดโครงการ/กิจกรรมเพื่อป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัว (ศปก.ต.) อย่าง

14

ต่อเน่อื ง ส่งผลใหเ้ กดิ ความร่วมมือร่วมใจเกดิ ขน้ึ ในพ้ืนที่ในการแก้ไขปัญหาทเ่ี กิดข้ึนในแต่ละกลุ่มเป้าหมาย โดย
ดำเนินกิจกรรมภายใต้โรงเรยี นครอบครัว เช่น

1. เด็กในวัยเรียน ให้ความรู้ด้านไอทีและหน้าที่ของลูก เป็นการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดย
ปรับทัศนคติการใช้ไอทีโดยคำนึงถึงทั้งด้านบวกและลบ และติดตามประเมินผลภายหลังการอบรม โดยการ
เยี่ยมบ้านสอบถามผู้ปกครอง พบว่าส่วนใหญ่มี
การเล่นโทรศัพท์น้อยลง ช่วยแบ่งเบาภาระงาน
บ้านและเช่ือฟังพ่อแมม่ ากขนึ้

2. เดก็ วยั รุน่ วยั เรยี น ใหค้ วามรเู้ กยี่ วกับ
การท้องก่อนวัย การปฏิบัติตัวเมื่อมีแฟนในวัย
เรียน โดยเชิญโต๊ะอิหม่ามมาบรรยายให้ความรู้
และตดิ ตามประเมินผลภายหลังการจัดโครงการ

3. แม่เด็ก เชิญวิทยากรจาก รพ.สต.
บรรยายให้ความรู้การเลี้ยงดูลูกอย่างไร
โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นที่ยังไม่พร้อมท่ีจะเป็นแม่ต้องดูแลตนเองและลูกอย่างไร แนะนำการกินโฟเลทและการ
เตรยี มตวั เป็นคุณแมม่ อื ใหม่

4. ผู้สูงอายุ ในพื้นที่ตำบลท่าเรือ มีผู้สูงอายุบางส่วนไม่ได้เข้ามาร่วมกิจกรรมในโรงเรียนผู้สูงอายุ
เนือ่ งจากบางหม่บู า้ นพ้ืนทห่ี ่างไกล ลกู หลานไม่สามารถรับ-ส่งได้ จงึ แกป้ ัญหาโดยจัดรถรับ-ส่งผู้สูงอายุกลุ่มนี้มา
เข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนผู้สูงอายุและเชญิ วิทยากรมาบรรยายใหค้ วามรู้ สร้างความสนุกสนาน ซึ่งผู้สูงอายุ
บางคนไม่ได้ออกจากบ้านมานานหลายปีแทบจะ
ไมไ่ ดพ้ บปะเพื่อนบ้านให้ได้มโี อกาสมาเจอกัน โดย
เน้นกิจกรรมที่ทำให้จิตใจสดชื่น แจ่มใส ลดความ
ซึมเศร้า ความเครียดและความกังวล เช่น ลีลาศ
กิจกรรมเข้าจังหวะ ช่วยฝึกสมอง, ฝึกการทรงตัว
และสร้างสมาธิให้กับผู้สูงอายุ ตลอดจนการออก
กำลังกายด้วยยางยืด จะช่วยเพิ่มความแข็งแรง
ให้กับกล้ามเนื้อ เอ็นกล้ามเนื้อ และเอ็นข้อต่อ
เพิ่มมวลกล้ามเนื้อให้กระชับและป้องกันการ
เส่ือมสภาพ

5. คนพิการ มนี ักกายภาพบำบัดจาก รพ.สตูลและศูนย์กายภาพ รพ.ท่าแพ และ รพ.สต. มาบรรยายให้
ความรู้ แนะนำและการทำกายภาพบำบดั แก้ไขปัญหาทางกายภาพที่เหมาะสมกับผพู้ ิการแตล่ ะคน

15

เกดิ การคน้ พบและการเปล่ียนแปลง

คณะทำงานมีความทุ่มเท เสียสละ ก่อเกิดการรวมตัวของกลุ่มจิตอาสาเข้ามาร่วมเป็นคณะทำงาน
เชื่อมโยงการทำงานและการเรียนรู้ร่วมกัน เกิดสังคมที่เอื้ออาทร ทำให้ครอบครัวที่มีปัญหาความรุนแรง กล้า
เปิดใจพูดคุยสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัว เปิดโอกาสให้คณะทำงานฯ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไข
ปญั หาความรุนแรงในครอบครวั ทุกรูปแบบ “การเปิดใจยอมรับฟังโดยไม่มีอคติ เอาใจเขามาใส่ใจเราของคน
ในครอบครวั เป็นสงิ่ สำคัญท่ีจะนำพาแก้ไขปญั หาความรนุ แรงในครอบครัวได้”

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น คือ “ทัศนคติของชาวบ้าน” เดิมชาวบ้านมองว่า การกระทำความรุนแรง
เป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดข้ึนได้ในครอบครวั หน่ึง แต่หลังจากมีโครงการ/กิจกรรม การอบรมให้ความรู้ ทำให้
ทัศนคติของชาวบ้านเปลี่ยนไป คือ การกระทำความรุนแรงส่งผลให้เกิดอะไรบ้าง จากความคิดเดิมที่ว่าไม่ใช่
หน้าที่ของตนเมื่อพบเหตุการณ์การกระทำความรุนแรง แต่เมื่อได้รับความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการ
กระทำความรุนแรง เมื่อพบเห็นเหตุการณ์การกระทำความรุนแรงก็จะรู้ว่าตนเองมีหน้าที่ต้องแจ้งเหตุไปยัง
ช่องทางใดเพื่อระหับเหตุการ์ณไม่ให้เกิดขึ้น ส่งผลให้เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นท่ีลดน้อยลงหรือ
เกอื บจะไม่มี

ข้อเสนอแนะเพือ่ การขับเคลื่อนงาน

1. ความเข้มแข็งของคนในชุมชน ชี้เป้า
ชว่ ยให้หน่วยงานทีเ่ ขา้ มาช่วยเหลือทำงานได้ง่าย
ขึ้นซึ่งได้ระดมค้นหาปัญหาหลักๆในชุมชน จน
เป็นที่มาของการจัดกิจกรรมโครงการต่างๆ ใน
ตำบล โดยให้แกนนำค้นหาปัญหาของแต่ละ
กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ของตนเอง เช่น ปัญหา
ของเด็ก ปัญหาของครอบครัว ปัญหาของ
ผู้สูงอายุ ปัญหาของคนพิการ ฯลฯ จากนั้นนำ
ปัญหามาตวั ต้งั ในการคิดจดั ทำโครงการและเชิญ
หน่วยงานทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั ปัญหานี้เขา้ มารว่ มกันหาแนวทางชว่ ยเหลือเพ่ือแก้ไขปัญหา

2. หลักคิดการแก้ปัญหาของชุมชน “ปัญหาในบ้าน คนในบ้านคุยกันก่อน ตัวแทนแต่ละ
กลุ่มเป้าหมายมาพูดคุยกัน ก่อนที่จะดึงคนภายนอกเข้ามาช่วยคิด” ซึ่งภาคีเครือข่ายที่มีหน้าที่ภารกิจที่
หลากหลาย มีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาให้สำเร็จ โดยคนในชุมชนต้องมีความตระหนักและห่วงใยต่อความ
เปน็ ไปของชมุ ชน

3. การทำงานเป็นทีมและมีเครือข่าย ศพค.ที่เข้มแข็งรวมไปถึงการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน
ในชุมชน พัฒนากระบวนการและศักยภาพในการทำงานเชอื่ มโยงระดับหมู่บ้าน เพ่อื กอ่ ใหเ้ กิด ศปก.ต.ท่าเรือที่
เข้มแข็งคณะทำงาน ศพค. พูดคุยให้คำแนะนำการดูแลครอบครัวซึ่งแต่ละครอบครัวจะมีการดำเนินชีวิต
แตกต่างกัน ทำหน้าที่เป็นศิราณีให้ปรึกษาปัญหาและไกล่เกลี่ยปัญหาในครอบครัว โดยยึดหลัก “ปัญหา

16

ครอบครัวมีหลายเรื่อง ให้ชั่งใจ รัก ความห่วงใยคืออะไร ยอมรับฟังข้อดีข้อเสียแต่ละคน” ซึ่งคณะทำงาน
ศพค. สว่ นใหญ่มาจากอาสาสมคั รสาธารณสขุ ประจำหม่บู า้ น(อสม.)

4. การศึกษาดูงาน/อบรม/สัมมนา แลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อนำมาปรับปรุง ศปก.ต. ในพื้นที่
วิเคราะห์จดุ เดน่ จุดด้อย นอกเหนือจากทุนทางสังคมทมี่ ีอยู่ในตำบล

5. การทำให้ ศปก.ต. ปราศจากความรนุ แรงในพื้นทีห่ รอื เปน็ ศูนย์ และการขยายเครือข่าย ศปก.ต. เพื่อ
เฝ้าระวังและรบั แจ้งข้อมูลในระดับหมู่บ้านทุกหมู่บา้ น เพื่อการทำงานที่ทันเหตุการณ์และเข้าถึงกลุม่ เปา้ หมาย
และเป็นการสรา้ งสัมพนั ธภาพท่ดี ีใหเ้ กิดข้ึนแก่สมาชิกในครอบครวั

6. การบูรณาการภาคีเครือขา่ ยเชอ่ื มโยงการทำงานในพื้นที่
- สำนักงานสถิติจังหวัดสตูล วิเคราะห์ข้อมูลสรุปผลการสำรวจข้อมูลความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และ
ความรนุ แรงในครอบครัว
- สำนักงานอยั การจงั หวดั ค้มุ ครองสทิ ธิและช่วยเหลอื ทางกฎหมายและการบังคับคดีจงั หวัดสตลู ให้
คำปรกึ ษาดา้ นกฎหมาย
- หน่วยงานสังกดั กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่นั คงของมนษุ ย์ โดยมี
กรมกิจการสตรแี ละสถาบนั ครอบครัว ใหค้ วามอนุเคราะห์เข็มกลดั รบิ บิ้นขาวสัญลักษณย์ ุติความรนุ แรง
บ้านพกั เดก็ และครอบครัวจังหวัดสตลู ใหค้ ำปรึกษาปญั หาด้านเดก็ และเยาวชนการชว่ ยเหลอื สง่ ต่อ
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล ให้คำปรึกษาและสนับสนุนบุคลากรให้
ความรู้
- โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตำบล แนะนำใหค้ วามรู้ดา้ นการดแู ลสุขภาพ
- กำนัน ผใู้ หญ่บ้าน ใหค้ ำปรึกษา คอยสอดสอ่ ง ดแู ลปญั หาตา่ งๆ ในพ้นื ท่ี
- โรงเรยี นและมสั ยดิ ใหค้ ำปรึกษาและบรรยายให้ความรู้

ขอ้ เสนอและแนวทางในการพฒั นาการดำเนินงาน

อบต.ท่าเรอื มีขอ้ เสนอและแนวทางในการพฒั นางาน แบง่ เป็นระยะส้ัน ระยะกลางและระยะยาว ดังนี้

ระยะสั้น ส่งเสริมให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องและการประชาสัมพันธ์ด้วย
วธิ กี ารต่าง ๆ

ระยะกลาง ผปู้ ระสบปญั หาและบุคคลใกล้ชดิ มีความกล้าท่ีจะแจ้งเหตหุ รือบอกเล่าให้บุคคลภายนอก
ครอบครัวทีต่ นเองเช่ือใจและไว้ใจได้รับรู้สภาพปัญหาทเ่ี กดิ ขึ้นและหาแนวทางแก้ไขเพื่อป้องกันก่อนท่ีจะนำไปสู่
ความรนุ แรงในครอบครัวหรอื รบั การช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกยี่ วข้อง

ระยะยาว พัฒนาเครือข่ายให้มีความเข้มแข็งสามารถเป็นกระบอกเสียงให้กับคนในชุมชนและ
สนับสนนุ การทำงานของหนว่ ยงานท่เี ก่ยี วข้องในการช่วยเหลอื และส่งต่อ
ประโยชนท์ ไี่ ด้รับ

1. การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันการกระทำความรุนแรงในครอบครัว (ศปก.ต.) ในพื้นที่ ทำให้

ประชาชนรบั รู้วา่ เม่ือเกิดเหตุการณ์ความรนุ แรงในพ้ืนท่สี ามารถแจง้ ไดก้ ับใคร ทีไ่ หน และเมื่อเจ้าหน้าที่ลงพื้นท่ี

17

เพ่ือรวบรวมข้อมูลสถานการณท์ ่ีเกิดขึ้น จะมกี ารดำเนนิ การต่อเน่ืองโดยประสานงานช่วยเหลือและส่งต่อ ทำให้
การชว่ ยเหลือเปน็ ไปอย่างรวดเร็ว ถูกตอ้ งตามกระบวนการ

2. เกิดการทำงานแบบมีส่วนร่วมระหว่าง
คณะทำงานที่มีความทุ่มเท เสียสละ และขยาย
ความร่วมมือไปยังจิตอาสา สร้างสังคมแห่งความ
เอื้ออาทร มีการเรียนรู้ร่วมกัน เป็นช่องทางให้
ครอบครัวที่มีปัญหาเข้ามาปรึกษาหารือโดยให้
คณะทำงานร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา
ความรุนแรงในครอบครวั

3. เกิดนวัตกรรมทางความคดิ ที่เปลี่ยนทัศนคติของคนในชมุ ชนว่า “ปัญหาความรุนแรงในครอบครวั
ไมไ่ ด้เป็นเพียงปญั หาภายในครอบครัวใดครอบครัวหน่งึ เท่าน้ัน แต่เป็นปญั หาที่ทกุ คนควรมีส่วนร่วมในการ
ป้องกันและแก้ไข” จากการจัดโครงการ/กิจกรรมการอบรมให้ความรู้เกีย่ วกับผลกระทบจากการกระทำความ
รุนแรงและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทำให้คนในชุมชนมีความเข้าใจทีช่ ัดเจน และร่วมเป็นส่วนหนึง่ ในการเฝ้าระวงั
และแจง้ เหตุเมือ่ มีสถานการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในพ้ืนท่ี
บทสรุป
แนวทางการขบั เคล่ือนการดำเนนิ งานของชุมชนท่ีถือว่าเป็นฐานของการจัดการตนเองของชมุ ชนทส่ี ำคัญคือ

1. ความตระหนักถึงปัญหาที่ชุมชนประสบอยู่และสามารถแก้ไขได้ด้วยพลังของคนในชุมชนเองผ่าน
กระบวนการเรียนรู้ที่มที ั้งรูปแบบการอบรมอย่างเป็นทางการและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อค้นหาปัญหาและ
ความตอ้ งการจรงิ ๆ ของชมุ ชนเองแลว้ หาแนวทางการทำงานทีจ่ ะจัดการปัญหาท่เี หมาะสมรว่ มกัน

2. เวทีประชาคม เป็นเครื่องมือสำคัญในกระบวนการตดั สินใจและกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหา
ชมุ ชนจงึ ควรมกี ารทำประชาคมกนั เพ่อื การพูดคุยท่ีไม่เป็นทางการ ทุกคนมโี อกาสได้พูดและรับฟังเสียงของทุก
คนเพื่อร่วมมอื กนั ในการหาทางแก้ไขปญั หา

3. การมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ถือเป็นรากฐานสำคัญที่จะยอมรับว่าแต่ละคนในชุมชนมีสิ่งที่มี
ความสำคัญที่จะให้และเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมได้ การที่มีส่วนร่วมก็เพราะตระหนักว่าเขามีสิ่งที่จะให้แก่
ส่วนรวมไม่ว่าสิ่งนั้นจะเล็กน้อยหรือสำคัญมากน้อยเพียงใดก็ตาม ซึ่งเกิดจากการได้เรียนรู้จนเข้าใจปัญหาและ
เปา้ หมายของชมุ ชนทำใหอ้ ยากมสี ว่ นรว่ มในการจดั การกับปญั หานัน้ ๆ

4. ความสามัคคีและความผูกพันกันของคนในชุมชน ความสามัคคีเกิดจากความสัมพันธ์ที่ดีของคนใน
ชุมชน ทั้งความสัมพันธ์แบบเครือญาติตามลำดับอาวุโสและแบบอุปถัมภ์กับความสัมพันธ์บนฐานความเสมอ
ภาค

18

5. ภาวะผู้นำ เป็นปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการจัดการชุมชนท้องถิ่นทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
ผู้นำมีบทบาทสำคัญมากในการขับเคลือ่ นคนและงานไปสู่เป้าหมายด้วยการทำงานหนักโปร่งใสมวี ิสัยทศั น์เป็น
ธรรมและมคี วามอดทนสงู

จากแนวทางการแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงานของชุมชนเพื่อการจัดการตนเองของชุมชนที่กล่าว
มาข้างต้น ชุมชนมีขีดความสามารถในการจัดการปัญหาของตนเองได้ในระดับหนึ่ง ด้วยการมีผู้นำที่มี
ความสามารถ มีการเรียนรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง บนพื้นฐานวัฒนธรรม ความเชื่อ คุณค่าดั้งเดิม ศาสนา และ
เศรษฐกิจชุมชนที่พึ่งพาเอื้อเฟื้อกันและกัน โดยแต่ละชุมชนได้ใช้ศักยภาพของตนเองเข้าคลี่คลายและจัดการ
ปัญหาไดด้ ้วยตนเองภายใตค้ วามร่วมมือและสนบั สนนุ จากองค์กรภายนอก

19

คณะผ้จู ดั ทำ

คณะท่ีปรึกษา

นางสาวสุภาภรณ์ ณ นคร ผู้อำนวยการสำนกั งานส่งเสริมและสนับสนุนวชิ าการ 11

นายวรวิทย์ โพธิ์ขาว นักพัฒนาสงั คมชำนาญการพิเศษ

นายนายบาเสด ยาพระจนั ทร์ นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบลทา่ เรอื

นายบัณฑิต เลขะกุล ปลัดองค์การบรหิ ารสว่ นตำบล

นางสาวกนกวรรณ กอลาบันหลง ผูอ้ ำนวยการกองสวัสดิการสงั คม

คณะผู้จัดทำ นกั พัฒนาสังคมชำนาญการ
นางสาวพิมานมาศ สวุ รรณ นักพฒั นาสังคมชำนาญการ
นางสาวบงกช บณุ ยะศิวะ นักพัฒนาสังคมชำนาญการ
นางสาวศลี ยิ า สุขอนนั ต์ นักพัฒนาสังคม
วา่ ท่ี ร.ต.หญิง ณัฐณชิ า บษุ บา นักพฒั นาสงั คม
นางสาวรอบอี ะห์ ยานยา


Click to View FlipBook Version