The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลุ่มเปราะบางทางสังคม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by TPSO 11, 2021-10-27 00:31:40

แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลุ่มเปราะบางทางสังคม

แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลุ่มเปราะบางทางสังคม

Km
การจดั การความรู้

แนวทางการจดั เกบ็ ขอ้ มลู

กลมุ่ เปราะบางทางสงั คม



สำนกั งานสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 11
กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนษุ ย์



คำนำ

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีนโยบาย การพัฒนา
ศักยภาพชวี ติ กลุม่ เปราะบางรายครวั เรอื นใหส้ ามารถดำรงชวี ิตดว้ ยตนเองได้อย่าง
ยั่งยืน สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการขจัด
ความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง ท่ีมุ่งเน้นการขจดั ความยากจน และลดความเหลอ่ื มล้ำพร้อม
กับการพัฒนาคนในทุกช่วงวัย ซึ่งเน้นการดำเนินแบบบูรณาการกับหน่วยงาน
ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและประชาชน ทีเ่ กี่ยวข้องในระดบั จงั หวดั อำเภอ
ตำบล ซึ่งในส่วนของการลงเยี่ยมบ้านเป็นข้อมูลที่มีส่วนสำคัญ ในการหาข้อเท็จจริง
เพิ่มเติมเพื่อนำไปสู่การวางแผนให้การช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด และนำสมุดพก
ครอบครัวมาใชเ้ ป็นเครื่องมือในการสร้างกระบวนการความร่วมมือของหน่วยงาน
ต่าง ๆ มาร่วมกันหาทางออกให้ครอบครัวหลุดพ้นความยากจนร่วมกัน โดย
มีเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมจัดทำข้อมูล
ครอบครัวเพ่ือบนั ทึกในสมดุ พกครอบครวั

สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 จึงรวบรวมและสกัด
เป็นองค์ความรู้เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
ในการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางให้สามารถพึ่งพาตนเอง และดำรงชีวิตอยู่
ในสังคมไดอ้ ยา่ งปกติสขุ

สำนกั งานส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วิชาการ 11
สิงหาคม 2564

สารบญั

หนา้

คำนำ
หลักปฏบิ ัตงิ านสงั คมสงเคราะห์ ............................................................1
หลักปรชั ญาของงานสงั คมสงเคราะห์ ................................................... 3
หลกั สังคมสงเคราะห์ ............................................................................ 5
สถานการณป์ ญั หาทางสังคม ................................................................ 7
การพฒั นาคุณภาพชวี ติ กลมุ่ เปราะบางรายครัวเรือน ............................11
กระบวนการดำเนนิ งาน ........................................................................15
นิยามครวั เรอื นเปราะบาง .....................................................................24
แนวทางจดั เกบ็ ขอ้ มลู ........................................................................... 27
สรปุ ขอ้ มลู ท่คี วรไดจ้ ากการแสวงหาขอ้ เทจ็ จรงิ .....................................34

หลกั การ ปฏบิ ตั งิ านสงั คมสงเคราะห์
กบั การทำงานดา้ นสวสั ดกิ ารสงั คม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำรัสในพิธี
เปิดการประชุมการสงั คม สงเคราะหแ์ หง่ ชาติ คร้ังท่ี 2 เมื่อวันท่ี 26 มีนาคม
2505 ความว่า "...การสังคมสงเคราะห์นั้น มีความหมายกว้างขวางมาก
กนิ ความถึงการดำเนินการทุกอยา่ งทีจ่ ะช่วยเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์ หรือกลมุ่ ชน
ที่ร่วมกันเป็นสังคม เป็นชาติ และผู้ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ให้มีความสุข
ทั้งทางกายและจิตใจ ให้ได้มีปัจจัยอันจำเป็นแก่การครองชีพคือ อาหาร
เครื่องนุ่งหม่ ท่ีอยอู่ าศยั และการบำบัดโรคภัยไข้เจ็บ ได้รับการศึกษาอบรม
ตามควร ตลอดจนมคี วามร้ทู ีจ่ ะนำมาเลี้ยงชพี โดยสจุ รติ เพอ่ื ความเรียบร้อย
และความเปน็ ปึกแผน่ ของสังคม..."

มีหลายคนเข้าใจว่า การสังคมสงเคราะห์ คือ การแจกเงิน
แจกสิ่งของ การสังคมสงเคราะห์ คือ การกุศล ซึ่งความจริงแล้ว การสังคม
สงเคราะห์มีรากฐานมาจากการกุศล แต่การกุศลไม่ใช่การสังคมสงเคราะห์
การสังคมสงเคราะห์กับการกุศล มีข้อแตกต่างที่เห็นเด่นชัดดังตาราง
ข้างล่างน้ี

1

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

การสงั คมสงั เคราะห์ การกศุ ล

1. การชว่ ยเหลือระยะยาวจนกวา่ 1. เปน็ การชว่ ยเหลือเฉพาะหนา้ โดย

ผรู้ บั บริการน้ันจะสามารถช่วยเหลอื ไม่สนใจว่าผรู้ ับจะสามารถช่วยเหลอื

ตนเองได้ในทส่ี ดุ ตนเองไดห้ รือไม่

2. การช่วยเหลอื คำนึงถึงศกั ดิศ์ รี 2. การทำบญุ ทำกศุ ล มีองคป์ ระกอบ
ของผ้รู บั บรกิ าร และถอื ว่าเป็นสทิ ธิ คือ มผี ้ใู หแ้ ละผรู้ บั
มนุษยช์ นขั้นพื้นฐานทผ่ี รู้ บั จะตอ้ ง
ไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื เมอื่ มปี ญั หา

3. การดำเนนิ งานทำเปน็ 3. การดำเนินงานไมเ่ ปน็ กระบวนการ

กระบวนการ อาศัยทัง้ ศาสตรแ์ ละ ไม่ต้องอาศัยทั้ง ศาสตรแ์ ละศลิ ป์

ศลิ ป์

4. อาศยั นักวชิ าชีพสังคม 4. คนท่ัวไปสามารถทำไดโ้ ดยไม่ต้อง
สงเคราะหห์ รือคนที่ ไดร้ ับ อาศยั นกั วิชาชีพสงั คมสงเคราะห์
การอบรม และมีประสบการณ์
ทำงานด้านน้ี

2

Km แนวทางการจดั เก็บข้อมูลกลุ่มเปราะบางรายครัวเรอื น

หลกั ปรชั ญา

ของงานสงั คมสงเคราะห์

ปรัชญาพื้นฐานของการสังคมสงเคราะห์
help them to help themselves หมายถึ ง
“ การช่วยเขา เพื่อให้เขาช่วยเหลือตัวเองได้ ”
เ ป ็ น ก า ร ใ ห ้ ค วา ม ส ำ ค ั ญ ใ น ค ว า ม ค ิ ด ท ี ่ ว่ า
มนุษยน์ ัน้ สามารถพฒั นาศักยภาพของตนเองจนสามารถพ่ึงพาตนเองได้ นัก
สังคมสงเคราะห์จะเลือกวิธีการช่วยเหลือที่ไม่ได้ท ำให้ผู้รับบริการสูญเสยี
ความเป็นมนุษย์ไป โดยยึดมั่นในหลักปรัชญาพื้นฐานที่เชื่อมั่นในความเป็น
มนษุ ย์

จุดมุ่งหมายของการปฏิบตั งิ านสังคมสงเคราะห์

1. เพื่อการสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อน
ท่ีชว่ ยตนเองไมไ่ ดใ้ ห้สามารถชว่ ยตนเองได้

2. เพื่อการแก้ไขปัญหาสังคม เป็นการแก้ไขปัญหาสังคมให้ลดน้อย
หรอื หมดไป

3. เพื่อการพัฒนาสังคม หมายถึง การพัฒนาคนเพ่ือใหช้ ่วยพัฒนา
สังคมใหม้ คี วามเจรญิ กา้ วหน้า

3

Km แนวทางการจัดเกบ็ ขอ้ มลู กลุม่ เปราะบางรายครวั เรือน

หลกั การ ปฏบิ ตั งิ านสงั คมสงเคราะห์กบั การทำงาน

ดา้ นสวสั ดกิ ารสงั คม

ผู้ทำกิจกรรมการสังคมสงเคราะห์เรียกว่า "นักสังคมสงเคราะห์"
นักสงั คมสงเคราะห์ มี 3 ประเภท

ประเภทท่ี 1 คือ นักสงั คมสงเคราะห์
อาชีพ หมายถึง ผู้ที่ได้ผ่านการศึกษาทาง
สังคมสงเคราะห์ศาสตรจ์ ากสถาบันการศกึ ษา
ทางสังคมสงเคราะห์ จนได้ปรญิ ญาทางด้านน้ี
ถึงแม้ว่าจะไม่ปฏิบัติงานสังคมสงเคราะห์
เราก็ยังเรียกว่า นกั สังคมสงเคราะห์อาชพี

ประเภทที่ 2 คือ ผู้อาสาปฏิบัตงิ าน
สังคมสงเคราะห์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า
"อาสาสมัครสงั คมสงเคราะห"์ หมายถึง ผ้ทู ม่ี ีความศรทั ธาในการทำงาน เพ่ือ
สาธารณประโยชนโ์ ดยไมร่ บั เงินเดือน หรอื ค่าตอบแทนใดๆ งานท่ีทำเป็นงาน
ทไ่ี ม่เหลอื ความสามารถ และรบั ทำโดยพิจารณาตามเวลาวา่ งทมี่ ี

ประเภทที่ 3คือ ผู้ช่วยงานสังคมสงเคราะห์ หมายถึงผู้ทำงาน เคียงข้าง
นักสังคมสงเคราะห์อาชีพ ให้ความช่วยเหลือ เตรียมงาน และมีส่วนร่วม
ในการทำงาน เพอ่ื บรรลวุ ัตถปุ ระสงคข์ องวชิ าชพี คนเหลา่ นี้ ไม่มคี ุณวุฒิทาง
สงั คมสงเคราะห์ การทำงานนั้นได้รบั คา่ ตอบแทน

4

Km แนวทางการจัดเกบ็ ขอ้ มลู กลมุ่ เปราะบางรายครัวเรอื น

กลมุ่ เปา้ หมาย การปฏบิ ตั งิ าน สามารถแบง่ ได้ดงั ตอ่ ไปน้ี

กลุ่มเด็กและเยาวชน ได้แก่
เด็กกำพร้าอนาถา ถูกทอดทิ้งเร่ร่อน พิการ
ทางร่างกายหรือจิตใจ มีปัญหาทางความ
ประพฤติ เด็กยากจน ขาดการศึกษา เด็ก
ที่กระทำความผิดและศาลสั่งให้เข้ารับ
การฝกึ อบรม
กลุ่มสตรี ได้แก่ หญิงม่ายที่ต้องการความช่วยเหลือ โสเภณี สตรี
ตั้งครรภน์ อกสมรสสตรที ส่ี ามตี อ้ งโทษจำคกุ สตรที ย่ี ากจนขาดการศึกษา และสตรที ่ีมี
บุตรแต่สามไี มร่ บั เลี้ยง
กลุ่มหัวหน้าครอบครัว ได้แก่ หัวหน้าครอบครัวที่มีปัญหา
ความแตกแยก หยา่ ร้าง ไมม่ งี านทำ ไมม่ อี าชพี และหวั หน้าครอบครวั ซ่ึงไม่
มีท่พี ่ึง(ขอทาน)
กลุ่มคนชรา ได้แก่ คนที่ไร้ญาติ ไม่มีที่อยู่อาศัย หรือคนชราที่อยู่กับ
ครอบครวั ไมม่ คี วามสขุ
กลุม่ คนพกิ ารได้แก่ คนปัญญาอ่อนคนทพ่ี ิการทางด้านร่างกายและจติ ใจ
กลุม่ ผปู้ ระสบสาธารณภยั ไดแ้ ก่ ผทู้ ่ีประสบสาธารณภยั ทกุ ชนิด ผทู้ ่ีพน้ โทษ
แล้วไม่มีญาติ พี่น้องผู้ที่ติดยาเสพติดผู้ที่ตายโดยไร้ญาติขาดมิตร ผู้อพยพมาจาก
ประเทศอ่ืน(ผูล้ ้ภี ัย) ชนกลมุ่ น้อยท่มี ปี ญั หา

5

Km แนวทางการจดั เก็บข้อมูลกลุ่มเปราะบางรายครวั เรอื น

หลกั การสงั คมสงเคราะห์

งานสังคมสงเคราะห์มีหลักการที่สำคัญที่นักสังคมสงเคราะห์ต้องยึดถือ
เป็นหลักในการปฏบิ ัติงานดงั นี้

1. หลักการยอมรับ หมายถึง การยอมรับผู้มาขอรับบริการว่าเปน็
มนษุ ยค์ นหนง่ึ มีศกั ด์ิศรี มีความตอ้ งการ และมีความสามารถในตนเอง

2. หลักในเรื่องปัจเจกบุคคลหมายถึงการเข้าใจว่ามนษุ ย์ทุกคน มีลักษณะ
เฉพาะตวั มคี วามแตกตา่ งกนั ทงั้ ในด้านรปู รา่ ง หน้าตา ลกั ษณะท่าทาง อุปนิสยั ใจคอ
ความรสู้ ึกทางด้านจติ ใจ การแสดงออก เปน็ ตน้

3. หลักการไมต่ ำหนิติเตียนผู้ที่มีปัญหาหมายถึงการที่นักสังคมสงเคราะห์
จะต้องมีทศั นคตทิ ีด่ ีต่อผู้รับบริการ ไม่ติเตียนหรอื ประณามการกระทำของ
ผรู้ บั บริการ

4.หลักการตัดสินใจด้วยตนเองโดยถือว่าบุคคลทุกคนมีสิทธิ ในการเลือก
แนวทางในการดำเนินชีวิตและแกไ้ ขปัญหาของเขาเอง นักสังคมสงเคราะห์
จะเป็นแตเ่ พยี งผู้ทีค่ อยชแี้ นะเทา่ นนั้

5. หลักการเก็บรักษาความลับ เป็นจรรยาบรรณของนักสังคม
สงเคราะหอ์ ยา่ งหนึง่ เน่อื งจากผทู้ ่มี ีปญั หาทุกคนยอ่ มไม่ตอ้ งการให้เรื่องราว
หรือปัญหาของเขาเป็นท่ีเปดิ เผย ล่วงรู้ต่อบคุ คลอ่ืน นักสังคมสงเคราะห์จงึ
จำเป็นต้องรกั ษาความลบั ของผูร้ บั บรกิ าร ไมน่ ำไปเปดิ เผยใหผ้ ูอ้ ่ืนลว่ งรู้ เว้น
แต่ในกรณกี ารให้ความช่วยเหลือแก่ผขู้ อรับบริการเท่านั้น

6. หลักการรู้จักบทบาทของตนเอง นักสังคมสงเคราะห์จะต้อง
ระลึกถึงบทบาทของตนเองอยู่ตลอดเวลาที่ปฏิบัติงาน ไม่ใช้อารมณ์
สนองตอบปฏกิ ริ ิยาของผรู้ ับบริการ

6

Km แนวทางการจดั เกบ็ ขอ้ มูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

ทกั ษะ ทใี่ ชใ้ นการปฏิบตั งิ านดา้ นสงั คมสงเคราะห์

1. ทกั ษะการสังเกต เปน็ ทกั ษะข้ันพื้นฐานทจ่ี ำเป็นสำหรบั นกั สังคม
สงเคราะห์ มักเกิดควบคู่กับการสัมภาษณ์ นักสังคมสงเคราะห์จะสังเกต
ผู้ใชบ้ รกิ ารไดจ้ ากพฤติกรรม ทัศนคตแิ ละปฏกิ ิรยิ าตอบโต้

2. ทักษะการสัมภาษณ์ เป็นทักษะที่จำเป็นในทุกวิชาชีพ ทำให้
ได้มาซึ่งข้อมูลต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ การสัมภาษณ์ในทางวิชาชพี
ต้องมีการเตรียมตัว ฝึกหัด ดังนั้น การสัมภาษณ์ทางสังคมสงเคราะห์
เป็นการสัมภาษณ์ เพ่ือชว่ ยเหลอื และกอ่ ใหเ้ กิดการเปล่ยี นแปลง

3. ทักษะการเยี่ยมบ้าน เป็นวิธีการหนึ่งสำหรับการแสวงหา
ข้อเท็จจริงประกอบการสัมภาษณ์ ช่วยให้การติดตามประเมินผลมีความ
สมบูรณ์มากขึ้น เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ของปัญหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ
สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างนักสังคมสงเคราะห์และ
ผู้ใช้บรกิ าร และเพื่อตดิ ตามและประเมนิ ผล

4. ทักษะการบันทึก เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการอ้างอิง
ตัดสินใจ และสะท้อนให้เห็นวัตถุประสงค์ เป้าหมาย แผนงาน กิจกรรม
ความก้าวหนา้ ตลอดจนความตอ่ เนื่องในการปฏิบตั ิงาน

5. ทักษะการส่งต่อ เป็นการเชื่อมโยงทรัพยากรทีม่ ีอยู่ในสังคมกับ
ความต้องการของผู้ใช้บริการ การส่งต่อภายในหน่วยงานเดียวกัน และ
การสง่ ตอ่ ระหว่างหนว่ ยงาน เปน็ ตน้

6. ทักษะการยุติเรื่อง นักสังคมสงเคราะห์จะยตุ ิเรื่องได้นั้นไดจ้ าก
อาการที่หายไปของผู้ใช้บริการ และการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพของ
ผูใ้ ช้บริการ ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ทางสงั คม

7

Km แนวทางการจัดเก็บขอ้ มลู กล่มุ เปราะบางรายครวั เรอื น

สถานการณ์ปญั หาทางสงั คม

ปจั จบุ ันสถานการณป์ ัญหาสงั คมมีจำนวนและความซับซอ้ นมากขึ้น รวมท้ัง
วกิ ฤตเศรษฐกจิ การเขา้ ถงึ บริการภาครัฐ กระบวนยุติธรรมและสถานการณก์ าร
แพร่ระบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (โควดิ -19) ส่งผลกระทบตอ่ ประชาชน
โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่มีภูมิคุ้มกันต่อตนเองและสังคมต่ำ จะได้รับความ
เดือดร้อนมากกว่ากลุม่ อื่นเมื่อหวั หนา้ ครัวเรือน ได้รับผลกระทบย่อมส่งผลตอ่
สมาชิกในครัวเรอื น

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งมีพันธกิจ ในการ
พัฒนาคนและสังคมให้มีคุณภาพเตม็ ศักยภาพ มภี ูมคิ ุม้ กนั ตอ่ การเปล่ียนแปลง
สร้างเสริมเครือข่ายจากทุกภาคส่วน ในการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม จัดระบบ
สวัสดิการที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย เพื่อให้ประชาชน

มีหลักประกันและมคี วามม่ันคงในชวี ิต โดยให้ความสำคญั กับกลมุ่ ประชาชน
ผูไ้ ดร้ ับผลกระทบท่อี ยู่อาศยั ในพืน้ ทภ่ี ูมิภาคตา่ งๆ ทัว่ ประเทศ

ดังนั้น กระทรวงฯ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพ
ชีวิตประชาชนกลุม่ เปราะบางให้สามารถดำรงชีวติ ได้ด้วยตนเองอย่างย่ังยืน
จึงจัดทำ “โครงการบูรณาการเพื่อพัฒนา
คุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน”
ขึ้น โดยมีวัตถปุ ระสงค์

1. เพื่อจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกจาก
การจัดทำข้อมูลรายครัวเรือน (สมุดพก
ครอบครัว) และแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตราย
ครอบครวั

8

Km แนวทางการจัดเกบ็ ข้อมลู กลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน

2. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือนให้สามารถ
ดำรงชีวติ ดว้ ยตนเองไดอ้ ยา่ งยงั่ ยืน

โดยเน้นการดำเนินการแบบบูรณาการร่วมกับ12 กระทรวง 1 หน่วยงาน
ประกอบด้วย

1) สำนักนายกรฐั มนตรี (นร)
2) กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมั่นคงของมนษุ ย์ (พม)
3)กระทรวงการอดุ มศกึ ษาวทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรม(อว)
4) กระทรวงมหาดไทย (มท)
5) กระทรวงกลาโหม (กห)
6) กระทรวงศกึ ษาธิการ (ศธ)
7) กระทรวงแรงงาน (รง)
8) กระทรวงสาธารณสขุ (สธ)
9) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ)
10) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ)
11) กระทรวงการทอ่ งเท่ียวและกฬี า (กก)
12) กระทรวงพาณิชย์ (พณ)
13) กรงุ เทพมหานคร
และร่วมกับภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและประชาชนที่เกี่ยวข้องในระดับ
จังหวัดอำเภอ ตำบล และภาคีครือข่าย
ในพื้นท่ี เพื่อให้ประชาชนสามารถ
ดำรงชวี ิตได้ด้วยตนเองต่อไป

9

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมลู กลุ่มเปราะบางรายครวั เรือน

10

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

11

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

12

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

13

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

14

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

กระบวนการดำเนนิ งาน

1. การเตรียมการ
1.1การประสานความรว่ มมือการทำงานในพืน้ ท่ี ทง้ั องคก์ รกจิ การเพ่ือสงั คม

(SocialEnterprise : SE) และหนว่ ยงานท่ีมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสังคมและส่งิ แวดล้อม
(Corporate Social Responsibility : CSR)

1.2 การแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนโครงการฯ ในระดับ
กระทรวง

1.3 การจัดระบบ IT ซึ่งเน้นเครื่องมือสำหรับการทำงานและ
การส่อื สาร ในลกั ษณะ

- รปู แบบ Electronic file และทนั ตอ่ เวลา (Real time)
- บูรณาการฐานข้อมูลรวม 7 กรมของกระทรวงฯ ในรูปแบบ
Big rock Bigdata
- การสอื่ สารสองทาง (Two way communication)
- สนบั สนุนคนทำงานพน้ื ที่และสว่ นกลาง
1.4 การเสริมพลัง (Empower) ให้กับเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวง
การพฒั นาสงั คมและความมั่นคงของมนษุ ย์ และอาสาสมัครพัฒนาสงั คมและ
ความม่ันคงของมนษุ ย์
1.5 การบูรณาการการทำงานร่วมกันภายในหน่วยงานสังกัดกระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ภาคีเครือข่ายทั้งหน่วยงาน
ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสงั คม และประชาชน

15

Km แนวทางการจดั เก็บข้อมลู กลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน

1.6 การสนับสนุนคู่มือและเครือ่ งมือให้แก่ผู้ปฏบิ ัติงาน (เจ้าหนา้ ที่
สงั กดั กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมน่ั คงของมนุษย์ และอาสาสมัคร
พัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย์)

1.7 การจดั ทำบันทกึ ตกลงความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน
ท่เี ก่ียวข้อง

1.8 การเปดิ ตัวการดำเนินกิจกรรม (Kick off โครงการ)
2. การชแ้ี จงสรา้ งความเข้าใจโครงการฯ รว่ มกันทกุ ระดบั เพื่อสร้าง
ความเข้าใจให้แก่ผ้ทู ีเ่ กยี่ วขอ้ ง ไดแ้ ก่
2.1 ผวู้ ่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการ
2.2 เจ้าหน้าที่ One Home กระทรวงการพัฒนาสังคมและ
ความมน่ั คงของมนุษย์
2.3 อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ องค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น ศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน ศูนย์พัฒนาคุณภาพ
ชวี ิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ และสภาเดก็ และเยาวชน
โดยมีการแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อขับเคลื่อนโครงการในระดับจังหวัด
ซึ่งมีอาสาสมคั รพัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย์ มีหน้าทีใ่ นการเยี่ยม
บ้าน ค้นหาความต้องการของกลุ่มเปราะบาง สร้างผู้นำเครือข่ายการทำงาน
เชื่อมโยงความสัมพันธ์ คนบา้ นวัดโรงเรียน
3. การกรองข้อมูล เพื่อค้นหากลุ่มเปราะบางซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย
ของโครงการฯโดยใช้ข้อมลู จากแหลง่ ต่างๆทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง ประกอบดว้ ย
3.1 ฐานข้อมูลในระบบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนษุ ย์ ได้แก่

16

Km แนวทางการจัดเกบ็ ขอ้ มูลกลุม่ เปราะบางรายครวั เรอื น

- ผปู้ ระสบปญั หาทางสังคม (เงนิ อดุ หนนุ 11 ระเบียบ)
- Social Map
- ศูนยช์ ่วยเหลือสงั คม 1300
- ผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของของโรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนา 2019 (โควิด-19)
3.2 ฐานข้อมูลผไู้ ด้รบั บัตรสวสั ดกิ ารแห่งรัฐ
3.3 ฐานข้อมลู ในระบบบริหารจัดการข้อมลู การพัฒนาคนแบบชเี้ ปา้
(Thai people Map and Analysis Platform : TPMAP)
3.4 เบ้ียยงั ชพี ผสู้ งู อายุและเบี้ยยังชีพคนพกิ าร
4. การเยี่ยมบ้านเพื่อสอบข้อเท็จจริงเป็นการจัดทีมร่วมกันระหว่าง
เจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์
อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สภาเด็กและเยาวชน และภาคี
เครือข่าย เยี่ยมบ้านในระดับครัวเรือน เพื่อสอบถาม รับฟัง สร้างความสัมพันธ์
ระหว่างผู้ลงเยี่ยมและผู้ถูกเยี่ยม มีการนำข้อมูลมาบันทึกในสมุดพก
ครอบครัวในรูปแบบ Electronic file โดยมีเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์ รว่ มจดั ทำข้อมูลครอบครวั เพอ่ื บนั ทกึ ในสมุดพกครอบครัว
ดังนั้น การเยี่ยมบ้านเป็นหนึง่ ในเครื่องมือสำคัญในการปฏิบตั ิงาน
สังคมสงเคราะห์ นักสังคมสงเคราะห์ได้นำวิธีการเยี่ยมบ้านมาใช้
ในกระบวนการทางสังคมสงเคราะห์ เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนในการแสวงหา
ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมนอกเหนือจากการสัมภาษณ์ การสังเกตของนักสังคม
สงเคราะห์ต่อผูใ้ ช้บรกิ ารในหน่วยให้บรกิ าร ขั้นตอนการตดิ ตามประเมนิ ผล

17

Km แนวทางการจดั เกบ็ ขอ้ มลู กลมุ่ เปราะบางรายครัวเรอื น

ภายหลังการให้บริการ ขณะเดียวกันการเยี่ยมบ้านมิใช่เป็นเพียงเครื่องมือ
ในการแสวงหาข้อมลู เพิ่มเตมิ ดังทก่ี ลา่ วมาเทา่ น้นั ทวา่ การเยีย่ มบา้ นสามารถ
ส่งผลให้เกิดกระบวนการช่วยเหลือหรือการให้บริการ (Implementation)
แก่ผู้ใช้บริการและครอบครัวให้เกิดกระบวนการเปลีย่ นแปลงในทิศทางทีด่ ี
ขึน้ ด้วย

5. การวิเคราะห์ร่วมรายครัวเรือน เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้
จากการเยีย่ มบา้ นกลุ่มเปราะบางรายครวั เรอื น เพอื่ นำขอ้ มลู มาใชใ้ นการคืน
ข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์สู่ครอบครัวและชุมชน ซึ่งมีการดำเนินการ
ในระดับตำบล หมู่บา้ นและชุมชน ดำเนินการโดยเจ้าหนา้ ที่สังกดั กระทรวง
การพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและ
ความมัน่ คงของมนุษย์และภาคเี ครือข่าย สำหรบั ขอ้ มลู ที่คนื สู่ครอบครัวและ
ชุมชน ประกอบดว้ ย

5.1 ประเภทกล่มุ ความยากจน
5.2 สาเหตทุ ีท่ ำให้เกิดความยากจน
5.3 ความต้องการของครัวเรือน
5.4 แนวทางพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตครัวเรอื น
6. การจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตรายครอบครัวเป็นการจัดประเภท
ข อ ง ก า ร พ ั ฒ น า ค ร อ บ ค ร ั ว ต า ม ล ำ ดั บ
ความเร่งด่วนของกลุ่มเปราะบางที่ต้อง
ช่วยเหลือ โดยการจัดทำแผนพัฒนา
คุณภาพชีวิตรายครอบครัวเป็น 3 ระยะ
ไดแ้ ก่

18

Km แนวทางการจัดเกบ็ ข้อมูลกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน

5 กระบวนการชว่ ยเหลือ

รายได้ ระยะสน้ั การช่วยเหลอื เงนิ สงเคราะห์ 1) การ กอาชีพเพม่ิ เตมิ รง. พม. ผส. สค.
ระยะกลาง 1) การจดั หาอาชพี สาหรบั บตุ รชายของผู้ใชบ้ รกิ าร2) การรบั งานมาทาทบ่ี า้ น3) การจัดหาอาชพี 2) การจัดหาอาชพี ที่
เสรมิ สาหรับลูกสะใภ้ 4) การส่งเสรมิ และ กอาชีพสาหรับผูป้ ระสบป หาทางสงั คม(ตากบั ยาย) เหมาะสม ูนย์บริการสาธารณสขุ
ระยะยาว 1) การชว่ ยเหลอื ด้านทุนประกอบอาชพี 2) การส่งเสริมความมัน่ คงดา้ นอาชพี ของครอบครวั ในระยะ สธ.
ยาวตามความ นดั และความเหมาะสม
กระทรวง ึกษาธกิ าร
19 สุขภาพ ระยะสนั้ 1) การช่วยเหลอื ผา้ อ้อมสาหรับผ้ใู ห2)่ การดูแลสุขภาพในโรคประจาต(ัวโรคเบาหวาน อมั พ กษ์ครึง่ )ีก 1) การดูแลรกั ษาพยาบาล กระทรวง พม.
ระยะกลาง การให้คาแนะนาปรกึ ษาในการดแู ละสุขภาพ อยา่ งตอ่ เน่อื งในดา้ นสุขภาพ
Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน พม. กคช. มท.
ระยะยาว การประสาน ูนย์บริการสาธารณสขุ เพอื่ ตดิ ตามเยีย่ มเยือนและใหบ้ รกิ ารด้านสุขภาพของผ้ปู ระสบ 1) การใหค้ วามช่วยเหลือ
ป หาทางสังคม ด้านทนุ การ ึกษา พม. มท.
2) ส่งเสริมพฒั นาการเดก็
ระยะสน้ั 1) ทนุ การ กึ ษา 2) เงินสงเคราะหเ์ ด็กในครอบครวั 3) เงนิ จากกองทนุ คุ้มครองเด็กจังหวดั ตามความเหมาะสม
(ทนุ การ กึ ษาคา่ รกั ษาพยาบาล)
การ กึ ษา ระยะยาว การสง่ เสรมิ พัฒนาเด็ก โดยเข้าร่วมสภาเดก็ และเยาวชน

ระยะสั้น การใหค้ วามชว่ ยเหลือดา้ นทอ่ี ยู่อา ยั ใหม้ ที ่อี ยอู่ า ัยเปนของตนเอง 1) การมอบทีอ่ ยู่อา ัยให้ผู้
ประสบป หาทางสงั คมมที ่ี
ความ ระยะกลาง การจดั หาท่อี ยอู่ า ยั ให้ผู้ประสบป หาทางสงั คม อย่อู า ัยเปนของตนเอง
เปนอยู่ ระยะยาว มที อ่ี ย่อู า ยั เปนของตนเอง
1) ประสาน อพ ม. ในพืน้ ที่
การเข้า ึง ระยะส้ัน การช่วยเหลือดา้ นเงนิ สงเคราะห์ เคร่ืองอปุ โภค บริโภค เพอ่ื ใหค้ วามชว่ ยเหลอื และ
บริการ ระยะกลาง การมที ะเบียนบ้านเพอ่ื ให้สามาร ไดร้ ับสทิ ธแิ ละสวสั ดกิ ารตามความเหมาะสม ตดิ ตาม
ของรั 2) ให้ความรเู้ กี่ยวกบั สิทธิ
ระยะยาว การติดตามเย่ียมบา้ น โดย อพม. เพอ่ื ใหค้ วามชว่ ยเหลือและตดิ ตามครอบครวั อยา่ งต่อเนื่อง และสวสั ดกิ ารดา้ นตา่ ง ที่
เกี่ยวข้อง

6.1 แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตรายครอบครัวระยะเร่งด่วน (ระยะสั้น) เช่น
การช่วยเหลือทางด้านเครื่องอุปโภคบริโภคเงินสงเคราะห์ (เงินอุดหนุน) และ
การเขา้ ถึงสิทธิ เป็นต้น

6.2 แผนพัฒนาคณุ ภาพชีวิตรายครอบครัวระยะกลาง เช่น การให้
ความรู้ การฝึกอาชพี การเขา้ ถงึ โอกาส การเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่มของชุมชน
การเข้าถงึ ระบบ IT และการปรบั สภาพแวดล้อม เป็นต้น

6.3 แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตรายครอบครัวระยะยาว เช่น การปรับปรุง/
ซอ่ มแซมทอ่ี ยู่อาศยั การมีท่ดี ินทำกนิ การเปน็ ชุมชนสีเขียว (ปลอดภัย ไม่มี
การขโมย) การมีพื้นที่สาธารณะและการบรรจุแผนการพัฒนาคุณภาพชีวิต
รายครอบครัวในแผนขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ เป็นตน้

7.การบรู ณาการการทำงานรว่ มกับภาคเี ครอื ข่ายเป็นการบรู ณาการความ
ร่วมมอื กับหน่วยงานภาครัฐเพ่อื รว่ มกนั พัฒนาคณุ ภาพชีวติ กลมุ่ เปราะบางทง้ั
ด้านข้อมูล ด้านสังคม ด้านการศึกษา ด้านที่อยู่อาศัย ด้านอาชีพและการมี
งานทำ และด้านท่องเที่ยวและชุมชน สำหรับหน่วยงานที่มีการบูรณาการ
การทำงาน ประกอบด้วย

7.1 สำนักนายกรฐั มนตรี (นร)
7.2 กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนษุ ย์ (พม)
7.3กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม(อว)
7.4 กระทรวงมหาดไทย (มท)
7.5 กระทรวงกลาโหม (กห)
7.6 กระทรวงศึกษาธกิ าร (ศธ)
7.7 กระทรวงแรงงาน (รง)

20

Km แนวทางการจัดเกบ็ ข้อมูลกล่มุ เปราะบางรายครวั เรอื น

7.8 กระทรวงสาธารณสขุ (สธ)
7.9 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ)
7.10 กระทรวงวัฒนธรรม (วธ)
7.11 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก)
7.12 กระทรวงพาณชิ ย์ (พณ)
7.13 กรุงเทพมหานคร
7.14 สำนกั งานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
8. การติดตามประเมินผล เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการวางแผน
การดำเนนิ งานในระยะตอ่ ไป
9. การจัดเวทีสรุปบทเรียน เป็นการถอดบทเรียนที่ได้จาก
การดำเนนิ โครงการ เพ่ือนำไปจัดทำคู่มอื การดำเนินงานทีส่ มบูรณ์แบบและ
การจัดการองคค์ วามรู้ (KM) เพ่อื เผยแพรป่ ระชาสมั พนั ธ์ และศึกษาต่อไป

21

Km แนวทางการจัดเก็บขอ้ มูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรอื น

22

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

ภายใตโ้ ครงการบุรณาการเพื่อพฒั นาคุณภาพชวี ติ กล่มุ เปราะบางรายครวั เรอื น

23

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

นยิ าม ครวั เรอื นเปราะบาง

ครัวเรือนเปราะบาง หมายถงึ ครวั เรอื นท่ีมรี ายไดน้ อ้ ย ครัวเรอื นท่มี ี
รายได้น้อยและมีบุคคลที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ
จากคนอื่น เช่น ครอบครัวยากจนที่มีเด็กเล็ก แม่เลี้ยงเดี่ยว ผู้สูงอายุ
คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง มีปัญหาที่อยู่อาศัย จำเป็นต้องร่วมกันพัฒนา
คุณภาพชีวิตกลมุ่ ดังกล่าวอย่างเรง่ ดว่ น จรงิ จัง และต่อเนอื่ ง

ระดบั ของความเปราะบางของครวั เรือน

ระดับ 1 ครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและ
มปี ัญหาทีอ่ ยู่อาศัย

ระดับ 2 ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและมีบุคคลที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง
1 – 2 คน (อาทิ เด็กเล็กผู้สูงอายุ คนพิการและผปู้ ่วยตดิ เตยี งเปน็ ตน้ )

ระดับ 3 ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและมีบุคคลที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง
มากกว่า 2 คน

หมายเหตุ :

ครัวเรือนที่มีรายได้น้อย คือ ครัวเรือนที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน
100,000 บาท/คน/ครวั เรอื น

ภาวะพึ่งพิง หมายถึง คนที่ต้องการได้รับการดูแล/ช่วยเหลือ
จากผู้อ่ืน

24

Km แนวทางการจัดเก็บขอ้ มูลกลุ่มเปราะบางรายครัวเรอื น

25

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

26

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

27

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

28

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

29

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

30

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

31

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

32

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

33

Km แนวทางการจัดเก็บข้อมูลกลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน

ดังนั้น การนำสมุดพกครอบครัวมาใช้

เ ป ็ น เ ค ร ื ่ อ ง ม ื อ ใ น ก า ร จ ั ด เ ก ็ บ ข ้ อ ม ู ล ก ลุ่ ม
เปราะบางรายครัวเรือน ด้วยการแสวงหา
ข้อเท็จจรงิ โดยการลงเยีย่ มบา้ นเพ่อื จะไดเ้ ข้าใจ
สภาพปัญหาของผู้ใช้บริการที่เกี่ยวข้อง
กับสภาวะแวดล้อมของผู้ใช้บริการตามความ
เป็นจรงิ สร้างสมั พนั ธภาพที่ดรี ะหว่างนกั สงั คมสงเคราะห์กับผู้ใช้บริการร่วม
วางแผน ในการปฏิบัติงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาได้ตรงกับความต้องการ
ของผู้ใช้บริการได้ตรงจุด ตลอดจนติดตามและประเมินผลการดำเนินงาน
ตามแผนที่ไดว้ างไว้
การแสวงหาข้อเท็จจริง/การสืบค้นข้อเท็จจริง (Fact finding)
ควรพิจารณาถึงหลักการทำงานและวิธีการสืบคืนข้อมูลเบื้องต้น การแสวงหาข้อมลู
ที่เป็นสาระสำคัญ รายละเอียดของปัญหาในเชิงกายภาพ จิตใจ อารมณ์
ความสมั พันธ์ในครอบครัว ปจั จัยท่ีเปน็ สาเหตขุ องปญั หาทง้ั ภายในและภายนอก การใช้
ทักษะต่างๆทีเ่ หมาะสมในการเข้าถงึ ข้อเทจ็ จรงิ เชน่ การเย่ียมบา้ นการสงั เกตการพดู คยุ
กับกลุ่มสังคมที่เกี่ยวข้อง การเข้าถึงข้อเท็จจริงอย่างครอบคลุมรอบด้าน
ผ่านผปู้ ระกอบวิชาชพี สาขาต่างๆ เพือ่ ให้ไดข้ อ้ เทจ็ จริงสำหรับการวิเคราะห์
วนิ ิจฉยั ปัญหา

สรปุ ขอ้ มลู ทค่ี วรไดจ้ ากการแสวงหาขอ้ เทจ็ จรงิ

1. ขอ้ มูลสว่ นบคุ คลของสมาชกิ ในครัวเรือน
- สมาชิกในครอบครัวมีกี่คน มีใคร อายุ มีสถานภาพความสัมพันธ์
กันอยา่ งไร

34

Km แนวทางการจัดเกบ็ ขอ้ มลู กล่มุ เปราะบางรายครวั เรอื น

- ระยะเวลาการอาศยั อยรู่ ่วมกนั ในครอบครวั ของแต่ละคน (ใครอยู่
ดว้ ยกนั มานานแล้ว ใครเพ่งิ ยา้ ยเขา้ มาอยู่ใหม่ เป็นต้น)

2.ความสัมพนั ธใ์ นครอบครัวและบคุ ลกิ ภาพของสมาชกิ ในครอบครัว
- ความสัมพนั ธใ์ นครอบครัว (ใครมีความสัมพนั ธด์ ี สนิทสนม/ขัดแย้ง
กบั ใครใครมีความห่างเหินกับใครลกั ษณะการใช้อำนาจของสมาชิกในครอบครัว
-บคุ ลกิ ภาพและภาวะอารมณ์ของสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนเป็นอย่างไร
ภาวะอารมณน์ ้นั สง่ ผลตอ่ กันอยา่ งไร บรรยากาศในครอบครัวเปน็ อยา่ งไร
-บทบาทในครอบครวั (ใครเป็นผ้ปู กครองดแู ลผเู้ ปราะบาง ในครอบครวั ถูก
ดูแลและสร้างเสริมพัฒนาการอย่างไร การหารายได้เลี้ยงดูครอบครัว
การแก้ไขปัญหา/ความขดั แยง้ ทผี่ ่านมาของครอบครัวมกี ารแก้ไขอย่างไร ใคร
เปน็ หลักในการแกไ้ ขปัญหา)
- การสื่อสารในครอบครัว (ลักษณะการสื่อสาร การพูดคุยของครอบครัว
เป็นอยา่ งไร ใครพูดคยุ กับใคร หรอื ไมค่ ่อยมีการพูดคยุ )
3. ลกั ษณะทอ่ี ยูอ่ าศัย เพื่อนบ้านและชมุ ชน
- สุขภาพของสมาชิกแต่ละคนเป็นอย่างไรเคยมีประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรค
หรอื อุบัติเหตอุ ะไรมีโรคประจำตัวอะไรไดร้ บั การรกั ษาทีไ่ หน ผลการรกั ษาเป็นอยา่ งไร
ไปรักษาต่อเนื่องหรือไม่ ถ้าไม่รักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะเหตุใด การเจ็บป่วยมีผลตอ่
การกระทำหรือถูกกระทำความรนุ แรงหรอื ไม่อย่างไร
-ลักษณะทางกายภาพและบคุ ลกิ ภาพจากความพกิ ารสมาชกิ แตล่ ะคนมรี ปู รา่ ง
ลักษณะมีความพิการด้านร่างกายหรือมีการใช้กายอุปกรณอ์ ะไร บุคลิกภาพ เป็น
อยา่ งไร
4. รายได้และการมีงานทำ

35

Km แนวทางการจัดเก็บขอ้ มลู กลุม่ เปราะบางรายครวั เรือน

- การมีงานทำและรายได้ของสมาชิกในครอบครัวแต่ละคน สถานที่ทำงาน
ลักษณะงาน ตำแหน่ง ใครเปน็ หลกั ในการหารายได้ และสนบั สนุนค่าใช้จ่าย
ในครอบครวั

- หนี้สินของครอบครัวและสมาชิกในครอบครัว ลักษณะของแหลง่
หนสี้ นิ ความพอเพยี งของรายไดแ้ ละหนี้สนิ การใช้หน้ีสนิ เป็นอยา่ งไร

- ลกั ษณะการใชจ้ ่ายเงินของครอบครวั และสมาชิก
5. สิทธสิ วสั ดกิ ารและการได้รบั การชว่ ยเหลอื จากรฐั และภาคเอกชน
และชมุ ชน
- สวัสดิการสังคมหรือสิทธิสวัสดิการที่สมาชิกในครอบครัวได้รับ
หรือยงั ไม่ได้รับ
6. การศึกษา
- การศึกษาการเรียนรทู้ สี่ มาชกิ ครอบครวั ไดร้ บั ท้งั ในอดีตและปัจจุบนั
7. สถานการณค์ วามรุนแรงในครอบครัว
- สถานการณ์ปัญหาความรุนแรง รูปแบบความรุนแรงและขอ้ บ่งช้ี
ความเส่ียงที่มีในครอบครัวความพยายามในการแกไ้ ขปัญหาและมีใครบา้ งในครอบครวั
ที่ ได้รบั ผลจากความรุนแรงหรืออาจเปน็ การกระตนุ้ ใหเ้ กดิ ความรุนแรงข้ึน
8. กฎหมายทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับสถานการณ์ความเปราะบาง
- สถานการณ์ของการใช้กฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ งกับครอบครัว อันเนื่องมาจาก
สถานการณ์ความเปราะบาง เช่น การถูกจับกุมดำเนินคดี การสอบสวน
การชดใชค้ า่ เสยี หาย หรือการดำเนินคดีตามขั้นตอนต่างๆ ของกฎหมาย เชน่
คุ้มครองผู้ถูกกระทำความรนุ แรง กฎหมายคุ้มครองเด็ก กฎหมายอาญาอืน่
ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

36

Km แนวทางการจัดเกบ็ ข้อมูลกลุ่มเปราะบางรายครัวเรอื น

คณะผจู้ ดั ทำ

คณะทีป่ รึกษา ผู้อำนวยการสำนกั งานส่งเสรมิ
และสนับสนนุ วชิ าการ 11
นางสาวสภุ าภรณ์ ณ นคร

คณะผูจ้ ดั ทำ นกั พฒั นาสังคมชำนาญการพิเศษ
นกั พัฒนาสังคมชำนาญการ
นางสาวนพรตั น์ กอวัฒนากุล นกั พฒั นาสงั คม
นางสาวพมิ านมาศ สวุ รรณ
วา่ ที่ ร.ต.หญิง ณฐั ณชิ า บษุ บา

37

Km แนวทางการจัดเกบ็ ข้อมลู กลุ่มเปราะบางรายครวั เรอื น

สำนกั งานสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ าการ 11

กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความมน่ั คงของมนษุ ย์

ทอี่ ยู่ 354 หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมอื ง จ.สงขลา 90100
โทร. 0-7433-0-222 แฟกซ.์ 0-7433-0-228
เว็บไซต์ : http://tpso11.m-society.go.th
อเี มลล์ : [email protected]
เพจ Facebook : สำนักงานส่งเสรมิ และสนบั สนุนวิชาการ 11
Facebook ศูนย์เรียนรู้ : ศูนยเ์ รียนรู้ สสว สิบเอด็ สงขลา
Line OA : @474pmdw
Youtube : tpso11 songkhla


Click to View FlipBook Version