“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 1
คำนำ
สำนักงำนส่งเสริมและสนับสนุนวิชำกำร 12 ได้ดำเนินกำรถอดบทเรียนองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีกำรจัดสวัสดิกำรสังคมครอบคลุมกลุ่มเป้ำหมำยและดีเด่น (อปท.
ครบวงจร) ในจังหวัดปัตตำนี ซ่ึงผ่ำนกำรคัดเลือกจำกหน่วยงำนในพ้ืนท่ี ได้แก่ องค์กำร
บริหำรส่วนตำบลยะรัง อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตำนี ในกำรจัดสวัสดิกำรสงั คมให้แก่เด็กและ
เยำวชน ผ่ำนกำรเรียน กำรสอนอัลกุรอำน (ระบบกีรออำตี) ภำยใต้กำรกำหนดประเด็นใน
กำรถอดบทเรียน ประกอบดว้ ย โครงสรำ้ งกำรทำงำน รปู แบบหรือวิธกี ำรดำเนนิ งำนดำ้ นกำร
จัดสวัสดิกำรสังคมขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแก่กลุ่มเป้ำหมำย ปัจจัยควำมสำเร็จ
ปัญหำอปุ สรรคตลอดจนขอ้ เสนอแนะและสง่ิ ท่ีอยำกดำเนนิ กำรต่อไปในอนำคตข้ำงหน้ำ
คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่ำงย่ิงว่ำ กำรถอดบทเรียนควำมสำเร็จขององค์กรปกครอง
ส่วนท้องถ่ินที่มีกำรจัดสวัสดิกำรสังคมครอบคลุมกลุ่มเป้ำหมำยและดีเด่น (อปท.ครบวงจร)
ขององค์กำรบริหำรส่วนตำบลยะรัง อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตำนี จะให้ควำมรู้และประโยชน์
แก่ผู้ที่สนใจ ได้นำไปประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เด็กและเยำวชนหรือกำรนำไป
บูรณำกำรกำรทำงำนร่วมกันในพ้ืนที่หรือหน่วยงำนที่เกี่ยวข้องต่อไป พร้อมน้ีสำนักงำน
ส่งเสริมและสนับสนุนวิชำกำร 12 ขอขอบคุณองค์กำรบริหำรส่วนตำบล ยะรัง ทั้งผู้บริหำร
ข้ำรำชกำรและเจ้ำหน้ำที่ ตลอดจนผู้นำ ครูผู้สอนนักเรียนและประชำชนท่ัวไป ท่ีให้ควำม
ร่วมมือและแลกเปล่ียนเรียนรู้จนทำให้กำรดำเนินกำรถอดบทเรียนประสบควำมสำเร็จตำม
วตั ถุประสงค์
สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนบั สนุนวิชำกำร 12
มกรำคม 2560
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 2
สำรบัญ
สิ่งสำคญั 1 3 เลำ่ สู่กนั ฟัง
กำรจดั ตั้งองค์กำรบริหำรส่วนตำบลยะรัง 5
7 สวสั ดิกำรสังคมสำคญั ไฉน ?
สวัสดกิ ำร 7 เร่ือง 10
สวัสดิกำรดำ้ นกำรศึกษำ : กำรสง่ เสริมกำร 12 12 เหตุผลควำมสำคัญ
เรยี นกำรสอนอัลกุรอำน (ระบบกรี ออำตี)
13 สิ่งสำคัญ..เพอ่ื
สรุป 19 14 วธิ กี ำรดำเนนิ กำร
ขอ้ คิดทไ่ี ดจ้ ำกกำรถอดบทเรยี น 19 16 ผลทไ่ี ดร้ บั
ขอ้ เสนอแนะ 20 17 ควำมภำคภมู ิใจ
18 สง่ิ สำคัญ
18 ปจั จัยควำมสำเร็จ
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 3
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 4
สงิ่ สำคญั ทไี่ ม่ควรมองข้ำม...
“สวัสดิการสังคม” หมำยควำมว่ำ ระบบกำรจัดบริกำรทำงสังคม เก่ียวกับกำรำร
แก้ไขปัญหำ กำรพัฒนำและกำรส่งเสริมควำมม่ันคงทำงสังคม ตอบสนองควำมจำเป็นข้ัน
พื้นฐำนของประชำชนให้มีคุณภำพชีวิตและพึ่งตนเองได้ท่ัวถึง เหมำะสม เป็นธรรม
ตำมมำตรฐำน ทง้ั ทำงดำ้ นกำรศกึ ษำ สขุ ภำพอนำมยั ท่อี ยู่อำศัย กำรทำงำนและกำรมีรำยได้
นันทนำกำร กระบวนกำรยุติธรรมและบริกำรทำงสังคมท่ัวไป โดยคำนึงถึงศักด์ิศรีควำมเปน็
มนุษย์ สิทธิที่ประชำชนจะต้องได้รับและมีส่วนร่วมในกำรจัดสวัสดิกำรสังคมทุกระดับซ่ึง
องค์ประกอบของงำนสวัสดิกำรสังคมในลักษณะกว้ำง แบ่งเป็น 7 ด้ำน ได้แก่ กำรศึกษำ
(Education) สุขภำพอนำมัย (Health) ที่อยู่อำศัย (Housing) กำรทำงำนและกำรมีรำยได้
( Employment and Income Maintenance) ควำมมั่นคงทำงสังคม ( Social Security)
บริกำรสงั คม (Social Services) และ นนั ทนำกำร (Recreation)
“องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน” มีอำนำจหน้ำท่ีในกำรจัดสวัสดิกำรสังคมและกำร
พัฒนำกำรจัดกำรศึกษำ และคุณภำพชีวิตของเด็ก สตรี ผู้สูงอำยุและผู้ด้อยโอกำส ซ่ึงได้
กำหนดไว้ในพระรำชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนกำรกระจำย อำนำจให้ แก่องค์กร
ปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ พ.ศ.2542 มำตรำ 16 (9,10)
“องค์การบริหารส่วนตาบลยะรัง” อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตำนี เป็นองค์กร
ปกครองส่วนท้องถ่ินขนำดเล็กต้ังอยู่ในพื้นที่ จังหวัดชำยแดนภำคใต้ ซ่ึงยังคงมีสถำนกำรณ์
ควำมไม่สงบ แต่สถำนกำรณ์ที่เกิดข้ึน ไม่ได้เป็นปัญหำต่อกำรดำเนินงำนเพื่อให้ประชำชน
สำมำรถดำรงชีวิตอยู่ในพ้ืนที่ได้อย่ำงสงบสุขเทศบำลตำบลยะรัง ดำเนินกำรจัดสวัสดิกำร
สังคมครอคลุมทุกกลุ่มเป้ำหมำย แต่ท่ีดีเด่นและเห็นได้ชัด ได้แก่ กำรส่งเสริมกำรเรียน
กำรสอนอัลกุรอำน (ระบบกีรออำตี) ให้แก่เด็กและเยำวชนในท้องถิ่น จึงเป็นประเด็นท่ี
น่ำสนใจว่ำเทศบำลตำบลยะรัง มีกำรบริหำรจัดกำรอย่ำงไรในกำรพัฒนำคุณภำพชีวิต
กำรจดั กำรศึกษำ ให้กับเดก็ เยำวชน และนกั เรยี น ตลอดจนครผู ู้สอน และกำรทำงำนร่วมกัน
ระหว่ำงหน่วยงำน บุคคล และกลุ่มเป้ำหมำย ในพื้นที่ภำยใต้เงื่อนไขของบริบทพ้ืนท่ีและ
สถำนกำรณ์ควำมไม่สงบที่ เกิดขึ้นโดยเฉพำะกำรจัดสวัสดิกำรสังคมเพ่ือรองรับ
ควำมตอ้ งกำร/ควำมจำเป็นพืน้ ฐำน
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 5
สานักงานสง่ เสรมิ และสนับสนุนวชิ าการ 12 กระทรวงกำรพฒั นำสังคมและควำม
มั่นคงของมนุษย์ ในฐำนะของหน่วยงำนท่ีดำเนินงำนด้ำนวิชำกำรกำรพัฒนำสังคมในเขต
พื้นท่ี รับผิดชอบ 5 จังหวัดชำยแดนภำคใต้ จึงตระหนักถึงควำมสำคัญของกำรถอดบทเรียน
เกี่ยวกับแนวทำง/รูปแบบในกำรจัดสวัสดิกำรสังคมสำหรับกลุ่มเป้ำหมำยในเขตพื้นท่ีของ
องค์กำรบริหำรส่วนตำบลยะรัง เพ่ือนำองค์ควำมรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้และเป็นต้นแบบ
ในกำรดำเนินงำนดำ้ นกำรจัดสวสั ดกิ ำรสำหรบั พน้ื ทีอ่ งคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ อ่ืน ๆ ตอ่ ไป
วัตถปุ ระสงค์
1. เพื่อถอดบทเรียนเก่ียวกับแนวทำง/รูปแบบในกำรจัดสวัสดิกำรสังคมกำรส่งเสริม
กำรเรยี นกำรสอนอลั กุรอำน (ระบบกีรออำตี) ใหแ้ กเ่ ดก็ เยำวชน นักเรยี น ตลอดจน
ครูผสู้ อนขององค์กำรบริหำรสว่ นตำบลยะรงั
2. เพื่อศึกษำปัจจัยควำมสำเร็จในกำรดำเนินงำนด้ำนกำรจัดสวัสดิกำรสังคม
ดำ้ นกำรศกึ ษำขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินตำบลยะรัง
วธิ ีกำรดำเนนิ งำน
1. ประสำนงำนหน่วยงำนในพื้นท่ีจังหวัดปัตตำนี ได้แก่ สำนักงำนพัฒนำสังคมและ
ควำมม่ันคงของมนุษย์จังหวัดปัตตำนีและองค์กำรบริหำรส่วนตำบลยะรัง อำเภอ
ยะรัง จงั หวัดปัตตำนี เพอื่ ขอขอ้ มูลเบือ้ งตน้
2. ลงพืน้ ท่เี พือ่ เกบ็ รวบรวมข้อมูลจำกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3. ประชุมปรึกษำหำรือโดยวิเครำะห์ข้อมูลเบ้ืองต้นจำกกำรลงเก็บข้อมูลรอบแรก
จำกองคก์ ำรบริหำรส่วนตำบลยะรัง
4. ลงพ้นื ท่เี พือ่ สมั ภำษณ์ผใู้ ห้ข้อมูลสำคัญ ไดแ้ ก่ นำยกองคก์ ำรบรหิ ำรสว่ นตำบลยะรงั
และเจ้ำหน้ำท่ีท่เี กี่ยวข้อง ตวั แทน กลุ่มเปำ้ หมำยที่ไดร้ บั สวัสดกิ ำร
5. วิเครำะห์ข้อมลู และถอดบทเรียนกำรดำเนนิ งำนด้ำนสวัสดิกำรสังคมด้ำนกำรศึกษำ
กำรสง่ เสริมกำรเรียนกำรสอนอัลกรุ อำน (ระบบกรี ออำตี)
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 6
เล่ำสกู่ นั ฟงั ...
ตำบลยะรัง เป็นเมืองท่ีมีควำมเจริญ ในช่วงปี พ.ศ. 700 - 1400 ทิศเหนือ
ติดต่อเมืองสงขลำ และพัทลุง ทิศใต้แผ่ไปจนสุดแหลมมลำยู ทิศตะวันตกและทิศตะวันออก
จรดชำยฝั่งทะเลท้ังสองฝ่ัง มีซำกโบรำณสถำนและโบรำณวัตถุสมัยศรีวิชัยและทวำรำวดี
เมืองโบรำณยะรังเป็นชุมชนที่มีควำมสำคัญทำงด้ำนประวัติศำสตร์ และโบรำณคดีเป็น
อย่ำงมำก อำจมีควำมสัมพันธ์กับอำณำจักร "ลังกำสุกะ" ซ่ึงเป็นอำณำจักรท่ีเก่ำแก่ท่ีสุด
อำณำจักรหนึ่งบนคำบสมุทรมลำยู มีหลักฐำนอยู่ในเอกสำรจีน อำหรับ ชวำ และมลำยู
ในรำวพทุ ธศตวรรษที่ 13
สันนิษฐำนว่ำน่ำจะมีศูนยก์ ลำงอยู่ในบริเวณจังหวัดปตั ตำนีในปัจจุบัน และอำจ
มีอทิ ธพิ ลคลุมไปถึง รฐั ไทรบุรี ของสหพนั ธรัฐมำเลเซียด้วย อีกทั้งจะต้องเปน็ เมอื งท่ำท่ีสำคัญ
ตั้งอยู่ใกล้ทะเลและเป็นดินแดนที่มีควำมม่ันคงมีบทบำททำงกำรเมือง ทำงเศรษฐกิจ
เกย่ี วข้องกบั ดนิ แดนใกล้เคียงอยเู่ สมอและได้ทำกำรติดต่อค้ำขำยกับชำวตำ่ ง ประเทศอย่ำง
กว้ำงขวำงมำต้ังแต่พุทธศตวรรษที่ 12
ลักษณะทั่วไป
มีลกั ษณะผงั เมืองเปน็ รปู ส่ีเหลี่ยมคำงหมู ขนำดประมำณ 500 X 550 เมตร
มคี นู ้ำ คันดินล้อมรอบทัง้ สด่ี ำ้ นและทปี่ ้องทงั้ ส่ีมมุ และมคี ูน้ำขดุ ลอ้ มต่อลงมำเปน็ รปู ส่ีเหลยี่ ม
ของเมืองขยำยทำงทิศใต้ คือเมืองโบรำณบำ้ นจำและ หลกั ฐำนทพ่ี บจำกกำรขดุ แต่ง
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 7
พบโบรำณวตั ถุหลำยประเภท ได้แก่
1. สถปู จำลองดนิ ดิบ ดินเผำจำนวนมำก ประกอบดว้ ยประติมำกรรมนนู ต่ำ
รูปทำ้ วกูเวระพระพุทธเจำ้ ประทับนงั่ ขนำบดว้ ยสถปู จำลองท้ังสองข้ำง
2. พระพิมพด์ ินเผำและพระพิมพ์ดนิ ดิบรูปแบบตำ่ ง ๆ เช่น
2.1 พระพิมพด์ ินดิบ รปู สถปู เด่ียว แบบสำญจ(ี โอคว่ำ) ด้ำนล่ำง มีจำรึก
คำถำเยธมั มำ
2.2 พระพิมพด์ นิ ดบิ รูปสถูปจำลอง ฐำนสูง 3 องค์เรยี งกันด้ำนลำ่ งมจี ำรกึ
คำถำเยธัมมำ
2.3 พระพมิ พด์ นิ ดบิ รปู พระพุทธเจ้ำประทบั ยืนในท่ำตกิ ังกแ์ ละทำง
วิตรรกะมุตรำ
3. เศษภำชนะดินเผำ เครื่องถ้วยเปอร์เซียเคลือบสฟี ำ้ อมเขียว
4. เศษภำชนะดนิ เผำ เครื่องถ้วยเซลำคอน สีเขียวมะกอก โบรำณวัตถุเหล่ำน้ี
เปรียบเทยี บรูปแบบทำงศลิ ปะร่วมสมัยศิลปทวำรำวดี ทำงภำคกลำงของประเทศไทย ซึ่ง
กำหนดอำยุในช่วงพุทธศตวรรษท่ี 9 – 11
เสน้ ทำงเขำ้ ส่เู มืองโบรำณยะรัง จำกตวั เมืองปตั ตำนี ไปทำงทิศใต้ตำมถนนสำย
ปัตตำนี - ยะลำ ประมำณ กโิ ลเมตร ถงึ อำเภอยะรัง เลย้ี วซ้ำยส่เู มอื งโบรำณ ระยะทำง 1.5
กิโลเมตร
ตำบลยะรัง คำว่ำ "ยะรัง" สันนิษฐำนว่ำ เป็นคำแผลงมำจำกคำว่ำ "ปรำแว"
ในภำษำมำลำยูท้องถ่ิน ซึ่งตรงกับภำษำไทยว่ำ "พระวัง" หรือ"พระรำชวัง" สำเหตุที่ได้เรียก
พ้ืนที่แถบนี้ว่ำ"ปรำแว"หรือ"พระรำชวัง"นั้น เน่ืองมำจำกว่ำมีหลักบำนทำงประวัติศำสตร์
ท่ีแสดงให้เห็นว่ำ พ้ืนที่แห่งนี้เคยเป็นที่ต้ังของเมืองโบรำณ ชื่อ"โกตำมำหำลิไฆ" ปัจจุบันยังมี
ซำกกำแพงดิน คูเมือง สระ(บ่อโบรำณ) และซำกปรักหักพังของโบรำณสถำนหลำยแห่ง
ในพ้ืนที่ หมู่ที่ 3 บ้ำนปรำแว ตำบลยะรัง จำกคำว่ำ"ปรำแว" ซึ่งแปลว่ำ"พระรำชวัง"หรือ"
พระวัง" หลำยร้อยปีต่อมำก็กลำยเป็น"ยะรัง"เมื่อตั้งช่ือตำบลก็ได้นำช่ือนี้มำตั้งเป็นช่ือของ
ตำบล
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 8
กำรจดั ตงั้ องค์กำรบริหำรสว่ นตำบลยะรงั
เดิมทีองค์กำรบริหำรส่วนตำบลยะรังเป็นสภำตำบลยะรัง และได้รับกำรยก
ฐำนะข้ึนเป็นองค์กำรบริหำร ส่วนตำบลยะรังพร้อมกับองค์กำรบริหำรส่วนตำบลอื่น รวม
3,637 แห่ง ตำมประกำศกระทรวงมหำดไทย เรื่องจัดต้ังองค์กำรบรหิ ำรส่วนตำบล เม่ือวันที่
16 ธันวำคม 2539 ซ่ึงได้ลงประกำศไว้ในรำชกิจำนุเบกษำ ฉบับประกำศท่ัวไป เล่ม 113
ตอนพิเศษ 52ง ลงวันที่ 25 ธันวำคม 2539 ดังนั้นองค์กำรบริหำรส่วนตำบลยะรัง จึงจัด
ต้ังขึ้น นับเนื่องมำจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลำมำกว่ำ 20 ปี ท่ีต้ังที่ทำกำรองค์กำรบริหำร
ส่วนตำบลยะรัง (เดิมทีตั้งอยู่ท่ี หมู่ที่ 1 บ้ำนกรือเซะ ตำบลยะรัง อำเภอยะรัง จังหวัด
ปัตตำนี) ปัจจุบันที่ตั้งอยู่หลังท่ีว่ำกำรอำเภอยะรัง (สำนักงำนชั่วครำว) โดยมีนำยซูลกีฟลี
เอ็งปิงยำ เป็นนำยกองคก์ ำรบริหำรส่วนตำบล
วสิ ัยทศั น์
“กำรศึกษำคุณภำพ สงั คมคุณธรรม
เศรษฐกจิ กำ้ วล้ำ ชำวยะรงั มสี ขุ ”
องค์กำรบริหำรส่วนตำบลยะรัง (สำนักงำนชั่วครำว)
ตง้ั อย่หู ลงั ทวี่ ่ำกำรอำเภอยะรัง เนอ้ื ทใ่ี นเขตรบั ผิดชอบขององค์กำรบริหำรสว่ นตำบลยะรงั มี
เนอื้ ทป่ี ระมำณ 6.46 ตำรำงกโิ ลเมตร มีมลี ักษณะพืน้ ทเ่ี ปน็ ทรี่ ำบลมุ่ มีแมน่ ำ้ ปัตตำนีไหลผ่ำน
ในหมู่ที่ 1 และหมทู่ ี่ 2 พ้ืนที่สว่ นใหญเ่ ปน็ สวน
ทิศเหนือ ติดต่อ ตำบลวังประจัน อำเภอยะรงั จงั หวดั ปัตตำนี
ทิศตะวนั ออก ติดต่อ ตำบลแว้งและตำบลสะนอ อำเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตำนี
ทิศตะวนั ตก ติดต่อ ตำบลยำบี อำเภอหนองจกิ จังหวัดปัตตำนี
ทิศใต้ ติดต่อ ตำบลปติ มู ดุ ี ตำบลคลองใหม่ อำเภอหนองจิก จงั หวดั ปตั ตำนี
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 9
โดยมี สภำพภูมิประเทศและลักษณะภูมิอำกำศ เป็นที่รำบลุ่ม มีแม่น้ำปัตตำนีไหลผ่ำน
หมู่ 1 และหมู่ 2 พื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นท่ีนำและสวน และลักษณะภูมิอำกำศเป็นแบบร้อนชื้น
มี 2 ฤดูกำล คือ ฤดูฝนและฤดูร้อน พ้ืนท่ีส่วนใหญ่เป็นที่รำบลุ่ม
มี ประชำกร 6,239 คน 1,497 ครัวเรือน ประชำกรนับถือศำสนำ
อสิ ลำม 100% ชำวบำ้ นส่วนใหญ่ใชภ้ ำษำยำวีและภำษำไทย
ในกำรติดตอ่ ส่อื สำร
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 10
กำรจัดสวัสดกิ ำรสังคม สำคัญไฉน ?
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 11
รูปแบบสวัสดิกำร
หมำยถึง รูปแบบสวัสดิกำรท่ีเกิดจำกกำรจัดสวัสดิกำรมำกกว่ำ 1 รูปแบบข้ึนไป
ถือเป็นรูปแบบใหม่ท่ีเกิดจำกกำรจัดระเบียบโลกใหม่ (New World Order Model)
ของนักคิดสวัสดิกำรสังคมทั่วโลกท่ีเชื่อว่ำ หลังยุคโลกำภิวัตน์ได้ส่งผลให้ระบบสวัสดิกำร
สังคม ในอดีตท่ีผ่ำนมำต้องปรับตัวใหม่ เน่ืองจำกควำมหลำกหลำยของชนเผ่ำ เช้ือชำติ
วัฒนธรรมมีมำกขึ้น กำรจัดสวัสดิกำรในรูปแบบนี้จึงให้ควำมสำคัญกับมนุษย์ทุกคน
(Welfare for Alls) ภำยใตห้ ลักกำรสิทธิ ควำมเทำ่ เทยี ม ควำมเปน็ ธรรม กำรมสี ่วนร่วมและ
ควำมตอ้ งกำรของประชำชนในทีน้ีหมำยถงึ 3 ส่วนหลัก ได้แก่
1. สวัสดิกำรกระแสหลัก หมำยถึง สวัสดิกำรโดยรัฐ เป็นกำรจัดสวัสดิกำรภำค
บังคับของรัฐท่ีจัดให้กับประชำชน โดยคำนึงถึงควำมครอบคลุม ทั่วถึง เป็นธรรม ครบถ้วน
รูปแบบท่ีจัดให้ เช่น กำรจัดบริกำรในรูปแบบของสถำบันกำรจัดบริกำรโดยองค์กรปกครอง
ส่วนท้องถ่ิน กำรจัดสวัสดิกำรกระแสหลักนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกำรจัดโดยผ่ำนกลไกระบบ
กำรเงินกำรคลัง ระบบภำษีของรัฐ และโครงสร้ำงกำรบริหำรงำนของ องค์กรเป็นหลัก เช่น
รูปแบบสวัสดกิ ำรพนื้ ฐำน (ภำคบังคับ) รูปแบบสวสั ดิกำรท้องถ่นิ เปน็ ต้น
2. สวัสดิกำรกระแสรอง หมำยถึง สวัสดิกำรทำงเลือกท่ีเกิดข้ึนจำกศักยภำพ ควำม
เข้มแขง็ ของภำคชุมชน ภำคประชำชน และ ภำคพน้ื ถิ่น สวสั ดิกำรในรูปแบบนจ้ี ะเกิดขึ้นจำก
ควำมสนใจ ควำมสมคั รใจร่วมกันของกลุ่มเปำ้ หมำย เปน็ รูปแบบท่ีไมเ่ ปน็ ทำงกำร
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 12
กำรจัดระบบสวัสดิกำรจึงขึ้นอยู่กับข้อตกลงร่วมกัน ประกอบด้วย สวัสดิกำรพ้ืนถนิ่
หมำยถึง กำรสรำ้ งหลักประกันผำ่ นช่องทำงของวัฒนธรรม ให้กับคนในชุมชนเปน็ สวสั ดิกำรท่ี
เกิดขึ้นจำกฐำนคิดด้ำนประเพณี ด้ำนวัฒนธรรมเฉพำะถิ่น ด้ำนภูมิปัญญำ ชำวบ้ำน
ด้ำนศำสนำ ด้ำนจิตวิญญำณ ด้ำนอ่ืน ๆ เช่น กองบุญข้ำว กองทุนซำกำดในศำสนำอิสลำม
เป็นต้น สวัสดิกำรชุมชน หมำยถึง กำรสร้ำงหลักประกันเพื่อควำมม่ันคงของคนในชุมชน
หมำยรวมถึงทุกอย่ำงที่จะทำให้คนในชุมชนมีควำมเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งในรูปแบบของสิ่งของ
เงินทุน น้ำใจ กำรช่วยเหลือเก้ือกูล เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตำย
เช่น กองทุนสัจจะออมทรัพย์ กองทุนออมวันละบำท กองทุนสวัสดิกำรผู้นำชุมชน กองทุน
สวัสดกิ ำรผู้สงู อำยุในชมุ ชน เปน็ ตน้
3. สวัสดิกำรท้องถ่ิน หมำยถึง สวัสดิกำรโดยรัฐที่เกิดจำกกำรกระจำยอำนำจจำก
สว่ นกลำงสูท่ ้องถนิ่ เป็นรปู แบบ กำรจัด สวสั ดิกำรร่วมระหว่ำงรัฐบำลกลำงกบั รัฐบำลทอ้ งถิ่น
โดยใช้แผน โครงกำร กิจกรรมด้ำน สวัสดิกำรสังคมที่ตอบสนองกับควำมต้องกำรของแต่ละ
ท้องถิ่น
องคก์ ำรบรหิ ำรส่วนตำบลยะรังจดั สวสั ดกิ ำรเรือ่ งอะไรกนั บำ้ ง...
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 13
สวสั ดกิ ำรที่จดั ขน้ึ ในท้องถ่นิ 7 เรื่อง
เป็นควำมโชคดีที่ผู้นำท้องถิ่นมีวิสัยทัศน์ มีนโยบำยที่ชัดเจน และมีทีมงำนท่ีมีควำม
ตั้งใจในกำรพัฒนำคุณภำพชีวติ ของคนในชุมชน นอกจำกน้ียังมีกำรพัฒนำต่อยอดจำกส่ิงทมี่ ี
อยู่ให้ดีขึ้น (ทุนทำงสังคม เช่น ปรำชญ์ชำวบ้ำน ศิลปะวัฒนธรรม ทรัพยำกรธรรมชำติ)
จงึ สำมำรถจัดใหก้ บั ทกุ กลมุ่ เปำ้ หมำย....ได้แก่
1. กำรเรยี นกำรสอนอัลกุรอำน ระบบกรี ออำตี (เด็ก 3 ขวบขน้ึ ไป)
เป็นโครงกำรท่ีใช้งบประมำณ ในกำรสนับสนุนเร่ืองค่ำตอบแทนของครูผู้สอน
(เจ๊ะฆู) กำรจัดสวัสดิกำรในเรื่องน้ีสืบเน่ืองมำจำก กำรต้องกำรให้บุตรหลำนตำบลยะรังได้
อ่ำนอัลกุรอำนได้ สำมำรถแปลควำมและนำเอำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ “อัลกุรอำน
กเ็ ปรียบเสมือนธรรมนญู ชีวติ ”
2. โครงกำรขยะแลกบุญ
จัดขึ้นเพ่ือเป็นกำรลดปริมำณขยะในท้องถิ่น และนำเงินที่ได้จำกำรทำโครงกำรขยะ
แลกบณุ เข้ำกองทุนเด็กกำพรำ้ และผู้ด้อยโอกำส ในพ้ืนท่ี (โดยไดม้ ำจำกกำรนำขยะท่ีไร้ค่ำมำ
เป็นส่ิงที่มีคำ่ ) ปจั จุบันมีสมำชกิ 100 ครวั เรือน
3. โครงกำรโรงเรียนผสู้ งู อำยุ
มศี นู ย์ผสู้ งู อำยุตั้งอยู่ท่ีหมบู่ ้ำนต้นทุเรยี น มกี ำรดำเนินกำรเรยี นกำรสอน 3 หลักสตู ร
คือ กำรเรียนกำรสอนอัลกุรอำนระบบกีรออำตี คือกำรเรียนฮำดิษ 2 ตัว และกำรเรียนรู้
เก่ียวกับกำรดูแลสุขภำพจำก รพสต. และกำรได้รับกำรตรวจสุขภำพไปพร้อม ๆ กัน เปิด
เรียนในวันพฤหัสบดี วันศุกร์และวันเสำร์ และสิ่งท่ีได้รับ คือ ผู้สูงอำยุมีสุขภำพที่ดีข้ึนและ
สำมำรถอำ่ นอัลกรุ อำนไดถ้ กู ตอ้ งตำมหลักไวยกรณ์
4. โครงกำรสรำ้ งเครอื ขำ่ ยตำสับปะรด (สภำเด็กและเยำวชนตำบลยะรงั )
เพื่อให้เด็กและเยำวชนเป็นแรงสนับสนุน ช่วยเป็นหูเป็นตำดูแลควำมเรียบร้อย
ภำยในชุมชน โครงกำรนี้ได้ผ่ำนกำรคัดเลือกให้เป็นโครงกำรต้นแบบ จำกสำนักงำนพัฒนำ
สังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปัตตำนี โครงกำรน้ีจัดเพื่อให้เด็กและเยำวชน
ได้เข้ำถึงคุณโทษของยำเสพติด และกำรให้ควำมรู้เร่ืองกระบวนกำรยุติธรรม มีหลักสูตร
5 แฉก คอื 1. กำรใหค้ วำมร้เู ร่อื งยำเสพตดิ 2. กระบวนกำรยุติธรรม 3. เรือ่ งเกมส์ที่ได้รับกำร
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 14
ถ่ำนทอดจำก Unicef 4. กำรแลกเปล่ียนเรียนรู้ 5. กำรผ่อนคลำยโดยกำรจัดทำเส่ือเพื่อ
สขุ ภำพ
5. กำรบริกำรรถ EMS กชู้ ีพกู้ภยั 1669
โดยให้บริกำรประชำชนในพื้นทตี่ ำบลยะรงั และตำบลใกล้เคยี ง ให้บริกำร 24 ช่วั โมง
(ในทุกกรณ)ี
6. กำรจัดตง้ั กองทุนเด็กกำพร้ำและผู้ดอ้ ยโอกำส
โดยมีกำรมอบเงินสงเครำะห์เด็กคนละ 1,000 บำท ประมำณ 50 คน และมอบ
ปัจจัยยังชีพ ข้ำวสำรอำหำรแห้งและอื่น ๆ (และน้ีถือว่ำเป็นหน้ำท่ีของพี่น้องมุสลิมทุกคนท่ี
ตอ้ งดูแลเดก็ กำพรำ้ และผ้ดู ้อยโอกำส)
7. จัดตงั้ กองทนุ สวัสดกิ ำรชุมชน (สจั จะวนั ละ 1 บำท)
จัดสวัสดิกำรตั้งแต่แรกเกิดจนเสียชีวิต ปัจจุบันมีสมำชิก 100 กว่ำคน เด็กแรกเกิด
จะได้ของขวัญเย่ียม ส่วนแม่เด็กจะได้รับเงินชดเชย คืนละ 100 บำท ไม่เกิน 3 วัน ปีละไม่
เกิน 5 คร้ัง รวม 1,500 บำท กรณีเสียชีวิต 3,000 บำท (แต่ต้องเป็นสมำชิกไม่ต่ำกว่ำ
6 เดือน) สำหรับผสู้ ูงอำยุ จำ่ ย 365 บำทครั้งเดียว
กำรจัดสวัสดิกำรในท้องถิ่น ท้ัง 7 เร่ืองที่กล่ำวมำข้ำงต้น ได้ดำเนินกำรจัดให้กับ
ทกุ กลมุ่ เปำ้ หมำยแตท่ ท่ี อ้ งถิน่ เรำเน้นและให้ควำมสำคัญเป็นลำดับตน้ ๆ คอื กำรจดั สวัสดิกำร
ด้ำนกำรศึกษำ โดยนำหลักทำงศำสนำมำเป็นแนวทำงในกำรพัฒนำสังคมท่ีสอดคล้องกับ
บรบิ ทของพ้ืนที่ ซึ่งประชำชน 100% นับถอื ศำสนำอิสลำม...
“โดยยึดถือ อลั กุรอำนเป็นธรรมนญู ชีวติ ”
รไู้ หมวำ่ ธรรมนญู ชีวติ คืออะไร?
คือกำรนำเอำหลักศำสนำมำใชใ้ นกำรดำรงชีวิต ไงค่ะ
รูปแบบสวสั ดกิ ำรของกิจกรรมที่เรำจัดน้นั มลี ักษณะเฉพำะท่ี
เหมำสมกับกลุม่ เป้ำหมำยนน้ั คอื เด็ก เยำวชนซ่ึงเปน็ กำรจดั สวสั ดกิ ำร
ด้ำนกำรศึกษำ ภำยใตโ้ ครงกำร “กำรส่งเสริมกำรเรยี นกำรสอน
อลั กุรอำน (ระบบกรี ออาตี) ซึง่ เน้นกำรส่งเสรมิ กำรอ่ำน แก่เดก็ อำยุ 3 -
12 ปี เพื่อเปน็ กำรสรำ้ งภมู ิคมุ้ กันให้เดก็ มวี ิธีคดิ วธิ ีปฏิบัติทีด่ ีตำมหลกั ศำสนำและกำรอบรม
เพือ่ พัฒนำศักยภำพครูผสู้ อนดำ้ นศำสนำอีกดว้ ย
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 15
กำรจัดสวสั ดิกำรด้ำนกำรศกึ ษำ
กำรส่งเสรมิ กำรเรยี นกำรสอน อัลกรุ อำน
(ระบบกีรออาตี)
ให้กับเด็กเยำวชนในพน้ื ท่ีองค์กำรบริหำร
ส่วนตำบลยะรงั
เหตผุ ลและควำมสำคญั ...
เนื่องจำกปัญหำทำงสังคมในปจั จุบนั ได้ทวีควำมรุนแรงข้ึนเรื่อย ๆ จังหวัดชำยแดน
ใตก้ ก็ ำลงั เผชิญปัญหำ และสำเหตขุ องปญั หำสว่ นหนงึ่ ก็มำจำกสภำพแวดล้อมท่เี ปล่ียนแปลง
ไปจำกเดิมตำมกระแสโลกำภิวัตน์และกำรพัฒนำเทคโนโลยีต่ำง ๆ รวมถึงกำรส่ือสำร ซึ่ง
มุ่งเน้นกำรแข่งขันด้ำนเศรษฐกิจ ส่งผลให้เด็กและเยำวชนและนักเรียนได้หลงผิด ขำดควำม
เป็นระเบียบวินัย ขำดศีลธรรม จริยธรรมละเลยกำรดำเนินวิถีชวี ิตอย่ำงพอเพียงตำมค่ำนยิ ม
ด้ังเดิม จึงทำให้เกิดปัญหำสังคมตำมมำอย่ำงมำกมำย เช่น กำรประพฤติตัวไม่เหมำะสม
กำรทะเลำะววิ ำท กำรมเี พศสัมพนั ธ์ก่อนวัยอนั ควร (วยั เรียน) ปญั หำอำชญำกรรม ปญั หำยำ
เสพติด และปัญหำอื่น ๆ อีกมำกมำย ท้ังน้ีอำจเกิดมำจำกกำรขำดกำรกล่ันเกลำจิตใจและ
กำรปลูกฝังที่ดีในเร่ืองศีลธรรม จริยธรรม จนทำให้เด็กและเยำวชนขำดควำมสำนกึ ต่อหน้ำท่ี
ควำมรู้สึกผิดชอบช่ัวดี ขำดกำรพิจำรณำย้ังคิด มีกำรแสดงพฤติกรรมท่ีไม่เหมำะสม ซึ่งเกิด
จำกกำรห่ำงไกลคำสอนของศำสนำ และขำดกำรดูแลจำกสถำบัน องค์กร บุคคลและพื้นท่ีท่ี
จะช่วยกันดูแลและแกไ้ ขปญั หำเดก็ และเยำวชนอยำ่ งแท้จรงิ
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 16
เทศบาลตาบลยะรัง ซ่ึงมีประชำกรท่ีนับถือศำสนำอิสลำม 100% จึงมีวิธี
กำรดำเนินชีวิตท่ีสอดคล้องตำมหลักกำรของศำสนำอิสลำม ท้ังด้ำนเศรษฐกิจ สังคมและ
กำรศกึ ษำ ในดำ้ นกำรศึกษำประชำชนท่ีนับถือศำสนำอสิ ลำม (มสุ ลมิ ) จำเปน็ จะตอ้ งเรียนใน
วิชำหลักกำรศรทั ธำ (อำกดี ะห์) ศำสนบญั ญตั ิ (ฟกิ ฮ) และวิชำอัล-กุรอำน ทงั้ ในดำ้ นกำรเรียน
เพื่อกำรอ่ำนและกำรแปลควำมหมำย (ติฟซิร) และกำรเรียนเพื่อนำบทบัญญัติและหลัก
คำสอนท่ีมีในอัลกุรอำน (กำรวิเครำะห์มำตรฐำนและตัวระบบ
กำรเรียนกำรสอบอัลกุรอำนแบบเดิม) ซ่ึงกำรเรียนกำรสอน
อัลกุรอำนแบบเดิมนั้น ยังมีจุดอ่อนอยู่มำก โดยเฉพำะ
พัฒนำกำรของเด็กนักเรียน ในเร่ืองของกำรเรียนยังล่ำช้ำ จึง
ทำให้ผลสัมฤทธ์ิของเด็กนักเรียนอยู่ในเกณฑ์ต่ำ และเป็นที่น่ำ
สังเกตว่ำประชำชนที่นับถือศำสนำอิสลำม ในเขตพื้นที่ตำบล
ยะรัง จะมีผู้ท่ีอ่ำนอัลกุรอำนที่ถูกต้องตำมหลักกำรออกเสียง
และหลักกำรอ่ำนไดน้ ้อยลง
สง่ิ สำคญั ...เพอ่ื
1. พฒั นำศักยภำพครผู สู้ อน ใหม้ คี วำมรูค้ วำสำมำรถในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน
อัลกรุ อำน
2. เพมิ่ ปรมิ ำณครูผู้สอนอลั กรุ อำนท่ีนับวนั จะมีนอ้ ยลง
3. ได้มีครูผู้สอนอัลกุรอำน ที่มีคุณภำพในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนและปลูกฝัง
คุณธรรม จรยิ ธรรมแกเ่ ดก็ และเยำวชน และนักเรยี นในทอ้ งถนิ่
4. เป็นกำรยกย่องครูผู้สอนอัลกุรอำน ซ่ึงเป็นบุคคลสำคัญในกำรพัฒนำเด็กและ
เยำวชนและนักเรียนในทอ้ งถ่นิ
5. ส่งเสริมให้เด็กเยำวชนและนักเรียนในท้องถ่ินได้เรียนอัลกุรอำนให้ถูกต้องตำม
หลักกำรเรยี นกำรสอนแบบกีรออำตี สำมำรถอ่ำนได้อยำ่ งถูกตอ้ งและรวดเรว็
6. ส่งเสริมและพัฒนำกำรเรียนกำรสอนอัลกุรอำนแบบกีรออำตีให้แก่เด็กและเยำวชน
นักเรียนอย่ำงต่อเนื่อง และได้ให้กำรปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ตลอดจน
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 17
บรรทัดฐำนทำงสังคม สำมำรถลดปัญหำทำงสังคมรวมทั้งกำรอยู่รวมกันในสังคมได้
อยำ่ งสันติสุข
7. สร้ำงควำมเชอื่ ม่นั ให้กบั ประชำชนถึงแนวทำงกำรจัดกำรศึกษำของหนว่ ยงำนภำครัฐ
สำมำรถตอบสนองควำมต้องกำรของประชำชนและร่วมกับประชำชนในกำรจัด
กำรศกึ ษำเพื่อพัฒนำศักยภำพของประชำชนในท้องถิ่นได้
เปำ้ หมำย... คือ
เด็กและเยำวชนในท้องถน่ิ
วธิ กี ำรเรียนกำรสอน
ศูนยก์ ำรเรียนรอู้ ลั กุรอำน ระบบกีรออำตี ตง้ั อยทู่ ี่ หมู่ 1 – หมู่ท่ี 6 รวมท้งั หมด 8 ศูนย์
ดำเนินกำรมำแล้ว 7 ปี มีเด็กนักเรียนประมำณ 500 คน และ
ครูผู้สอน 1 คน จะสอนนักเรียนประมำณ 15 คน จัดข้ึนโดยกำร
ร่วมมือระหว่ำงจิตอำสำ กับองค์กำรบริหำรส่วนตำบลตำบลยะรัง
โดยส่วนกำรศึกษำ ศำสนำ วัฒนธรรมและสวัสดิกำรสังคม
เปน็ ผ้ดู ูแล ศูนยฯ์ ได้ดำเนินกำรแต่งต้ังคณะทำงำน โดยจดั ทำสมุด
ประจำตัวของสมำชิก โดยอำศัยมัสยิดเป็นศูนย์กลำงดำเนิน
กิจกรรม
มกี ำรเรียนกำรสอน 3 วชิ ำ ไดแ้ ก่
1) กำรศึกษำอัลกุรอำน
2) กำรอ่ำนฮำรด์ สิ ซึง่ เป็นแนวคดิ ของศำสดำในศำสนำอสิ ลำม
3) กำรดแู ลสุขภำพ
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 18
สำหรับครูผู้สอนจะต้องผ่ำนกำรอบรมหลักสูตรกีรออำตี
(หลกั สตู รของประเทศอินโดนเี ซยี ) และต้องผำ่ นกระบวนกำร
สอบ ถ้ำสอบผ่ำนถึงจะได้เป็นครูสอนอัลกุรอำนในระบบกีรอ
อำตี
ในแต่ละสัปดำห์จะหยุดทำกำรเรียนกำรสอนในวัน
พฤหัสบดีและวันศุกร์ และก็หยุดในเดือนรอมฎอน เป็นเวลำ
1 เดือน
เด็ก ๆ มำพร้อมกันท่ีศูนย์ฯ ในเวลำ 17.30 น. และเวลำ 18.25 น. เตรียมตัว
ละหมำดมักริบพร้อมกัน / อะซำนมักริบ (ละหมำดมักริบ ซิกรุลลอฮ ขอดุอำร์) เวลำ 19.00
น. และเร่ิมเรียนอัลกุรอำน เวลำ 20.00 น. ถึงเวลำละหมำดอีซำพร้อมกัน เวลำ 20.15 น.
กำรอบรมให้ควำมรู้ กำรปลูกฝังคุณธรรมจริธรรม บรรทัดฐำนในสังคม กำรปฏิบัติศำสนกิจ
มำรยำททำงสงั คมและกำรอยรู่ วมกันกับผู้อนื่ ในสงั คม
เวลำ 20.30 น. เดนิ ทำงกลับบ้ำน
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 19
ผลทีไ่ ด้รบั จำกกำรส่งเสรมิ กำรเรยี นกำรสอนฯ
1. มีครูผู้สอนอัลกุรอำน ท่ีมีควำมรู้ควำมสำมำรถในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน
อลั กรุ อำน หลักสตู รกรี ออำตี และมีจำนวนครูผ้สู อนเพิ่มมำกขึ้น
2. เด็กและเยำวชนในท้องถิ่น ได้รับควำมรู้และมี
ควำมสำมำรถในกำรอำ่ นอัลกรุ อำนที่ถูกต้องตำมหลักกำร
อ่ำนและกำรออกเสียง สำมำรถอ่ำนได้อย่ำงถูกต้อง
รวดเรว็ เพ่มิ ขน้ึ และเปน็ กำรใช้เวลำวำ่ งให้เกิดประโยชน์
3. เป็นกำรยกย่องครูผู้สอนอัลกุรอำน ซึ่งเป็นบุคคล
สำคัญในกำรช่วยส่งเสริมและพัฒนำเด็กและเยำวชนใน
ท้องถิ่น
3. ได้ส่งเสริมและพัฒนำกำรเรียนกำรสอนอัลกุรอำนแบบกีรออำตีให้แก่เด็กและ
เยำวชนในท้องถน่ิ อย่ำงต่อเน่อื ง
4. เด็กและเยำวชนในท้องถ่ินได้รับกำรปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ตลอดจนบรรทัด
ฐำนทำงสังคม สำมำรถลดปัญหำทำงสังคมรวมท้ังกำรอยู่รวมกันในสังคมได้อย่ำง
สันติสุข
5. ประชำชนมีควำมเช่ือมันในแนวทำงกำรจัดจัดกำรศึกษำของหน่วยงำนภำครัฐ
ที่สำมำรถตอบสนองควำมต้องกำรของประชำชนและร่วมกับประชำชนในกำรจัด
กำรศึกษำเพื่อพัฒนำคุณภำพเด็กและเยำวชนในท้องถ่ินให้มีคุณธรรม จริยธรรม
และกำรเรียนกำรสอนตำมหลกั ศำสนำอสิ ลำมอย่ำงถูกต้อง
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 20
ควำมภำคภมู ใิ จ ...
รำงวลั ชนะเลศิ ระดบั ประเทศ
ในกำรอ่ำน อัลกรุ อำน ในรุ่นเดก็ เล็ก จำกหลกั สูตรกำรเรียนกำรสอน กีรออำตี
(ทำสถติ เิ ดก็ อำยนุ ้อยยที่สดุ คอื 5 ขวบ สำมำรถอ่ำนครบ 30 ยธุ )
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 21
ส่ิงสำคัญทสี่ ดุ
กำรใหค้ วำมสำคญั กบั กำรดำเนนิ กำรท่ีสอดคลอ้ งกับควำมต้องกำรของประชำชน
"ทอ้ งถิ่นจะต้องจดั บริกำรสำธำรณะ บนพ้ืนฐำนควำมต้องกำรของประชำชน
โดยเป็นกำรดูแลต้งั แต่อยู่ในครรภ์มำรดำจนถึงหลุมฝงั ศพ"
ปจั จัยควำมสำเรจ็
1. ด้ำนนโยบำย ท่ีมองถึงปัญหำในปัจจุบัน
และแกไ้ ขไดต้ รงจดุ ทำให้เกดิ ควำมสำเร็จ
2. ด้ำนบุคลำกร อดตี ครูผู้สอนจะใหน้ กั เรียน
ทอ่ งจำแต่เมื่อมกี ำรอบรมใหค้ วำมรู้กำรใช้
หลกั สตู รกรี ออำตีทำใหเ้ ดก็ มคี วำมเขำ้ ใจและอ่ำน นำยซุลกฟิ ลี เอ็งปงิ ยำ
ถกู ต้องชดั เจนย่ิงข้ึน นำยก อบต.ยะรัง
3. ด้ำนผู้เรยี น ผลสมั ฤทธิท์ ี่ได้คือเด็กสำมำรถเข้ำใจ
อ่ำน แปลควำมหมำยและท่องจำได้อย่ำงถูกตอ้ ง รวดเร็ว
4. ด้ำนหลักสูตร ถ้ำไม่มีกำรกำหนดหลักสูตรกำรเรียนกำรสอนข้ึนมำ ครูและเด็กก็มี
วิธีกำรสอนและเรียนแบบเดิม ๆ ส่ิงสำคัญท่ีสุดท่ีเป็นปัจจัยอีกอย่ำงคือ ผู้ปกครอง ท่ีให้กำร
สนบั สนุน เอำใจใส่ ดูแลอยำ่ งใกลช้ ดิ และใหค้ วำมสำคญั กบั กำรศึกษำของบุตรหลำน
ปัจจุบัน ศูนย์กีรออำตีของตำบลยะรัง มีกำรได้รับควำมสนใจและเข้ำมำศึกษำดูงำน
จำก 3 จังหวัดชำยแดนใต้ ซึ่งถือได้ว่ำ ศูนย์กีรออำตีประสบควำมสำเร็จและสำมำรถเป็น
ตน้ แบบ ให้กบั ผู้ทส่ี นใจเขำ้ มำศกึ ษำหรือนำกลับไปพัฒนำโรงเรยี น พัฒนำครู พัฒนำนักเรยี น
เพอื่ อนำคตตอ่ ไปได้
ท่ีมำของข้อมลู : องคก์ ำรบริหำรส่วนตำบลยะรัง อำเภอยะรัง จังหวัดปตั ตำนี
http://www.yarang.go.th/default.asp
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 22
สรุป ...
จำกกระบวนกำรถอดบทเรียน กำรดำเนินงำนขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินที่มี
กำรจัดสวัสดิกำรกำรสังคมครอบคลุมกลุ่มเป้ำหมำยและดีเด่นในพื้นที่ตำบลยะรัง อำเภอยะ
รัง จังหวัดปัตตำนี ในเรื่องกำรเรียนกำรสอนอัลกุรอำน “ระบบกีรออำตี” ทำให้ทรำบถึง
ควำมสำเรจ็ ของกำรบริหำรจดั กำรที่มีรูปแบบวิธีกำรดำเนินกำร ซ่งึ มำจำกกำรมองเห็นปัญหำ
สถำนกำรณ์ ในท้องถ่ิน สู่กำรวำงแผนเพื่อพัฒนำ ส่งเสริมให้สอดคล้องกับควำมต้องกำรของ
กลุ่มเป้ำหมำย จนประสบผลสำเร็จ ทำให้มีครูผู้สอบที่มีศักยภำพเพ่ิมขึ้น เด็กและเยำวชนใน
ท้องถ่ินได้รับกำรศึกษำและสำมำรถพัฒนำตนเองให้มีควำมก้ำวหน้ำ สำมำรถเป็ น
“ตน้ แบบ” ให้กบั พืน้ ทีอ่ น่ื ๆ ได้เข้ำมำเรียนรูแ้ ละนำไปปรับใชใ้ นกำรบริหำรจดั กำรได้ อกี ทั้ง
ยังได้รับกำรสนับสนุนจำกภำคีเครือข่ำย ชุมชน หน่วยงำน เป็นอย่ำงดี และสำมำรถบูรณำ
กำรควำมร่วมมือเพื่อประโยชน์ของประชำชนเป็นหลัก ก่อให้เกิดกำรจัดสวัสดิกำรสังคม ทั้ง
7 ด้ำน ในท้องถิ่นได้แก่ ด้ำนกำรศึกษำ ด้ำนสุขภำพ ด้ำนท่ีอยู่อำศัย ด้ำนกำรมีรำยได้ ด้ำน
นันทนำกำร ด้ำนกระบวนกำรยุติธรรม และด้ำนกำรบริกำรทำงสังคม ซ่ึงสวัสดิกำรเหล่ำน้ี
ครอบคลุมกลุ่มเป้ำหมำยท้ัง 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเด็กและเยำวชน กลุ่มสตรี ผู้สูงอำยุ ผู้พิกำร
ผู้ด้อยโอกำส และยังเป็นเร่ืองที่โดดเด่น มีกำรดำเนินงำนโครงกำรวิจัยร่วมกับ สกว. เรื่อง
แนวทำงกำรส่งเสริมและพัฒนำครูผู้สอนให้มีคุณภำพของโรงเรียนมัรกัซลูเฆำะอัล -กุรอำน
พงศตำ เพ่ือเป็นแนวทำงในกำรเรยี นกำรสอนและพัฒนำครูผู้สอนอัลกุรอำนในอนำคตต่อไป
ข้อคดิ ท่ไี ด้จำกกำรถอดบทเรียน ...
1. ผู้นำท้องถ่ิน มีส่วนร่วมในกำรผลักดันให้กิจกรรม/โครงกำรกำรเรียนกำรสอน
อัลกุอำนในระบบกีรออำตี ให้สำมำรถดำเนินกำรได้อย่ำงเป็นระบบ เพรำะผู้นำเป็นส่วน
สำคัญท่ีจะช่วยกำหนดทิศทำง กำรเล็งเห็นควำมสำคัญของกำรบริหำรจัดกำรสู่กำรพัฒนำ
ทอ้ งถ่นิ ใหด้ ีขน้ึ
2. เจ้ำหน้ำท่ีผู้ปฏิบัติงำน มีควำมรู้ ควำมสำมำรถมีส่วนร่วมในกำรขับเคล่ือนงำนดำ้ น
กำรจัดสวัสดิกำรสังคม และเข้ำถึงกลุ่มเป้ำหมำย ทำงำนอย่ำงมีประสิทธิภำพ ก่อให้เกิด
ผลลัพธ์ท่เี ป็นรูปธรรมและตอ่ เน่ือง
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 23
3. ครูผู้สอน มีควำมรู้ ควำมสำมำรถในกำรถ่ำยทอดกระบวนกำรเรยี นในระบบกีรออำ
ตีย์ และกำรสง่ เสริมและสนบั สนนุ ให้เด็กและเยำวชนมีควำมเข้ำใจในบทบำทของตนเองมำก
ขน้ึ จนนำไปสคู่ วำมสำเรจ็
4. เดก็ และเยำวชน มีควำมกระตือรือรน้ ที่จะเข้ำมำเรียนรู้มำกขึ้น และมีกำรพฒั นำไป
ในทำงทดี่ ี ได้รบั กำรปลูกฝังเร่ืองคุณธรรม จริยธรรม โดยกำรยดึ อัลกุรอำนเป็นธรรมนญู ชวี ติ
5. ประชำชน/ผู้ปกครอง/ชุมชน กำรเปิดโอกำสให้เข้ำมำมีส่วนร่วม ทรำบข้อมูลและ
ร่วมสนับสนุน ส่งเสรมิ ให้บตุ รหลำน เข้ำมำเรียนอลั กุรอำนในระบบกีรออำตี
6. กำรกำหนดแผนงำนโครงกำร กำรจัดกำรเรียนกำรสอนในระบบกีรออำตีนั้น มี
ควำมยั่งยืนและต่อเน่ืองของกิจกรรม/โครงกำร คือส่ิงสำคัญคือควำมรู้ควำมเข้ำใจของคนใน
ท้องถ่ินท่ีมีต่อกิจกรรม/โครงกำร ท่ีดำเนินกำรในพ้ืนท่ี โดยผ่ำนกำรสร้ำงควำมรู้ควำมเข้ำใจ
จำกทุกภำคสว่ น จนไปสกู่ ระบวนขับเคลอ่ื นงำนด้ำนสวสั ดิกำรสงั คมในท้องถิ่นต่อไป
ขอ้ เสนอแนะ ...
อยำกให้สำนักงำนส่งเสรมิ และสนับสนุนวชิ ำกำร 12 นำผลทไ่ี ดจ้ ำกกระบวนกำร
ถอดบทเรียนไปถ่ำยทอดและประชำสมั พนั ธห์ ลักสูตรกำรเรียนกำรสอนระบบกรี ออำตขี อง
ตำบลยะรัง ใหค้ รอบคลมุ ในเขตพื้นที่รบั ผิดชอบ เพ่ือประโยชน์ในกำรพัฒนำต่อไป
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 24
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 25
ทีป่ รกึ ษำ ... คณะผูจ้ ดั ทำ ...
นำงสำวซำรำห์ บินเยำ๊ ะ
นำงญำณศิ ำ ณ นคร ผู้อำนวยกำรสำนกั งำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 12
นำงสำวจำรุวรรณ สุวรรณทตั นกั พฒั นำสงั คมชำนำญกำรพิเศษ
เจำ้ พนกั งำนกำรเงินและบญั ชีชำนำญงำน
คณะทำงำน ...
วำ่ ที่รอ้ ยตรีหญิงณัฐณิชำ บษุ บำ นกั พฒั นำสังคม
นำงณัฐนรี สดุ สงวน นกั พฒั นำสังคม
นำงสำววรรณวษิ ำ พรหมคุณ เจำ้ พนกั งำนพัฒนำสังคม
นำยอนวุ ัฒน์ คำช่วย เจ้ำพนักงำนพัฒนำสงั คม
นำงสำวพิรดำ บลิ ังโหลด พนักงำนพิมพ์ดดี ชนั้ 2
สรปุ และจัดทำรูปเล่ม ...
ว่ำทร่ี ้อยตรหี ญงิ ณฐั ณิชำ บษุ บำ นกั พฒั นำสงั คม
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 26
“องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลยะรงั อาเภอยะรงั จงั หวดั ปตั ตาน”ี 27