The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การดำเนินการตามมาตรการรองรับฯ COVID-19

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by TPSO 11, 2020-09-30 11:33:32

การดำเนินการตามมาตรการรองรับฯ COVID-19

การดำเนินการตามมาตรการรองรับฯ COVID-19

คำนำ
การแพรร่ ะบาดของเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ท่ลี ุกลามมาถงึ ประเทศไทย มีสาเหตุสำคัญมา
จากผู้ทีเ่ ดินทางกลบั จากประเทศที่มีการติดเชื้อและตนเองได้รบั เช้ือมาโดยไม่รู้ตัว หลงั จากน้นั ยังใชช้ ีวิตปกติ ไม่
มีการกักตัวหรือเฝ้าระวัง ทำให้เกิดการแพร่เชื้อไวรัสจากคนสู่คนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเชื้อไวรัสดังกล่าวเป็น
สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สามารถติดต่อได้จากการสัมผัส การหายใจ โดยเฉพาะ
ในบรเิ วณทมี่ ีจำนวนคนพลุกพล่าน หรืออยกู่ นั อย่างหนาแน่น โอกาสในการแพร่ระบาดของเช้ือจงึ เป็นไปได้มาก
ขึ้น ภาครัฐได้มีการกำหนดมาตรการออกมาอย่างต่อเนื่องตามความเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ เริ่มตั้ งแต่
การสวมหน้ากากอนามัยทุกครง้ั ที่ออกจากบา้ น การใชเ้ จลแอลกอฮอล์ในการลา้ งมอื เพ่ือเปน็ การป้องกันการติด
เชื้อจากสัมผัสสิ่งต่างๆ การหลีกเลี่ยงที่จะอยู่ในที่ๆ มีผู้คนจำนวนแออัด การทำงานแบบเหลื่อมเวลา การ
สลับกันทำงานทีบ่ า้ นเพื่อลดจำนวนคนในห้องทำงาน (work from home) การเข้ารับการตรวจหากมีอาการท่ี
คล้ายคลึงกับอาการของโรค และการกักตัวเมื่อเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เป็นต้น โดยได้มีการเผยแพร่
มาตรการผ่านชอ่ งทางตา่ งๆ ทัง้ สอ่ื โทรทัศน์ วิทยุ และสือ่ โซเชีย่ ลมเี ดีย ทำใหป้ ระชาชนมีความรคู้ วามเข้าใจและ
ตระหนักถึงความสำคัญของอันตรายจากการติดเชื้อ COVID-19 มาตรการสำคัญที่สุดที่นับเป็นจุดเริ่มต้นของ
การป้องกันที่ดีที่สุด และทำได้ง่ายที่สุด คือ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ซึ่งเป็นการ รับผิดชอบตนเองและ
ป้องกันไมใ่ หม้ กี ารแพร่ระบาดของเช้ือเพิ่มมากขนึ้
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 สงขลา ดำเนินโครงการศูนย์บริการทางวิชาการพัฒนา
สังคมและจัดสวัสดิการสังคม โดยกิจกรรมการจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) และ
พิจารณาคัดเลือกพื้นที่เป้าหมายที่มีผู้ตดิ เชื้อมากที่สดุ 3 ลำดับ และสืบค้นข้อมูลผา่ นเว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ได้แก่ สาธารณสุขจังหวัด ประชาสัมพันธ์จังหวัด ศูนย์ข้อมูล COVID-19 ฯลฯ ศึกษาการดำเนินงานตาม
มาตรการต่างๆ ทง้ั การเตรยี มความพร้อมรองรบั สถานการณ์ การป้องกนั และการช่วยเหลอื ของจงั หวัด ทสี่ ่งผล
ต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้เกิดการเรียนรู้ และเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับ
ประเทศไทยในการกำหนดมาตรการต่างๆ เพื่อรองรับสถานการณ์วกิ ฤติที่อาจเกดิ ข้ึนโดยไมท่ ันตั้งตวั มีการเฝา้
ระวัง และกำหนดมาตรการ ค่มู ือ วิธกี ารปฏบิ ัติ ยามที่เกิดสถานการณว์ กิ ฤติ เพ่อื ให้มคี วามพร้อมต่อการรองรับ
เหตุการณ์ และปอ้ งกนั การสูญเสยี ให้เกิดขน้ึ น้อยท่สี ดุ

สำนกั งานสง่ เสริมและสนับสนนุ วิชาการ 11 สงขลา
กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมน่ั คงของมนษุ ย์

กนั ยายน 2563

สารบญั 1
2
คำนำ 5
สถานการณ์การณแ์ พร่ระบาดในประเทศไทย 7
มาตรการป้องกนั และลดความเส่ียง 9
สถานการณ์ในพ้นื ทย่ี ะลา ปัตตานีและสงขลา” 15
สถานการณจ์ งั หวดั ยะลา 23
สถานการณ์จังหวดั ปัตตานี 30
สถานการณ์จังหวัดสงขลา
ปัจจยั ความสำเร็จ

สถานการณก์ ารณ์แพร่ระบาดในประเทศไทย

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โดย
เห็นได้จากตวั เลขจำนวนผูต้ ิดเชอ้ื ทีก่ รมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ แถลงผ่านศนู ยบ์ ริหารสถานการณ์การ
แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 พบผู้ติดเชื้อ
รายใหม่ 127 ราย รวมมีผู้ติดเชื้อสะสม 1,651 ราย ใน 61 จังหวัด เสียชีวติ เพิ่ม 1 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 10
ราย โดยผู้ตดิ เช้อื ท้ังหมดจำแนกเป็น สัญชาติไทย 1,407 ราย สัญชาตอิ ื่น 244 ราย เมอื่ จำแนกผู้ป่วยตามพ้ืนที่
พบว่าในพื้นที่ กทม. และนนทบุรี 869 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 77 ราย ภาคเหนือ 55 ราย ภาคกลาง
172 ราย และภาคใต้ 206 รายแต่หากพิจารณาลึกลงไปในระดับจังหวัดจะพบว่า มี 8 จังหวัด ยกเว้น
กรงุ เทพมหานคร ไดแ้ ก่ นนทบรุ ี 79 ราย, ภเู กต็ 69 ราย,ยะลา 42 ราย, สมุทรปราการ 48 ราย, ชลบุรี 53 ราย
, ปัตตานี 44 ราย, สงขลา 30 ราย และเชียงใหม่ 32 รายจากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าในพื้นที่ภาคใต้
ตอนล่าง ประกอบด้วย ยะลา ปัตตานี สงขลา จำนวนผู้ป่วยสูงติดอันดับ 3 ใน 8 ของประเทศ และ 3 จังหวัด
ดังกลา่ วเปน็ พนื้ ท่ใี นเขตรับผดิ ชอบของสำนกั งานส่งเสริมและสนับสนนุ วชิ าการ 11 สงขลา

จากสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันพบว่าจังหวัดยะลา ปัตตานีและสงขลา มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นจำนวนมาก
ขึ้นทุกวันอย่างน่ากังวลใจ โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อคนไทยที่ข้ามกลับมาจากประเทศมาเลเซีย เฉพาะวันที่ 23
มนี าคม 2563 จังหวดั ยะลามียอดผู้ตดิ เชื้อวนั เดยี วสูงถึง 17 ราย และยงั พบว่ามบี คุ ลากรทางแพทย์ติดเชื้อไวรัส
โควิด-19 ขณะท่ปี ัตตานีมผี ู้ปว่ ยเพมิ่ ขึน้ ทกุ วนั อย่างก้าวกระโดด โดยในวนั ที่ 24 มีนาคม 2563 ภายในวันเดียวมี
ยอดผู้ติดเชือ้ เพิ่มสูงขึ้นถึง 20 ราย ด้วยจำนวนผูต้ ิดเช้ือที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวดั ทั้ง 2 จังหวัด สั่งปิด
เมือง “lockdown” ห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออก ข้ามเขตพื้นที่จังหวัดยะลา เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการ
รักษาพยาบาล การขนส่งสินค้าที่จำเป็น สินค้าอุปโภค-บริโภค หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุม
โรคตดิ ต่อ ท้ังนี้ ผ้ไู ดร้ ับการยกเวน้ ตอ้ งปฏิบตั ติ ามมาตรการปอ้ งกันโรคตามทีท่ างราชการกำหนด ปดิ กน้ั เส้นทาง

2

เข้า-ออกทุกจุด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในขณะที่จังหวัดสงขลาท่ีเปน็ เมืองหน้าด่านพรมแดนไทย-มาเลเซยี
เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน ล่าสุดได้ประกาศปิดช่องทางเข้า-ออกระหว่างประเทศทั้งท่า
อากาศยานหาดใหญ่ และท่าเรือน้ำลึกสงขลา พร้อมประกาศปิดด่านและจุดผ่านแดนทั้งหมด ให้ผ่านได้เฉพาะ
การขนส่ง เพอื่ เป็นการป้องกนั และลดระดับความเสย่ี งในพนื้ ท่ี

การบรหิ ารราชการสถานการณโ์ ควิดในระดับพน้ื ท่ี

เนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโร
นา 2019 หรือโรคโควิด 19 ซึ่งเป็นโรคระบาดชนิดใหม่
ที่เพิ่งเกิดขึ้น สามารถติดต่อง่ายและเป็นอันตรายอย่าง
มากต่อชีวิตของผู้ได้รับเชื้อ และขณะน้ียังไม่มีวัคซีน
ป้องกันโรคหรือยาที่ใช้ในการรักษาให้หายได้โดยตรง
จากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดดังกลา่ วไดส้ ่งผลกระทบ
ต่อความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของ
ประชาชน นายกรัฐมนตรีจึงได้อาศัยอำนาจแห่งพระ
ราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ.2548 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องท่ี
ทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563 และได้ออกข้อกำหนด ฉบับที่ 1 ฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3
โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.
2548 เพื่อกำหนดมาตรการและข้อปฏิบัติทั้งหลายแก่ส่วนราชการ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินและป้องกัน
ไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรงมากข้ึน

ข้อกำหนดตาม มาตรา 9 พระราชกำหนดการ
บรหิ ารราชการในสถานการณฉ์ ุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับท่ี
1) ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563ให้อำนาจสำคัญแก่ให้ผู้ว่า
ราชการจังหวัดเป็นผู้กำกับบริหารราชการใน
สถานการณ์ฉุกเฉินทุกมิติในเขตท้องที่ที่ตนรับผิดชอบ
รวมถงึ การเตรยี มรับสถานการณ์ ดงั น้ี

1) ห้ามประชาชนเข้าพื้นที่หรือสถานที่ซึ่งมี
ความเสีย่ งต่อการติดต่อโรคตามท่ปี ระกาศกำหนด

2) ปดิ สถานท่เี ส่ียงต่อการติดตอ่ โรค เชน่ สนาม
มวย สนามกีฬา สถานบรหิ าร สถานบนั เทงิ แหลง่ ท่องเทยี่ วธรรมชาติ ห้องสมุดสาธารณะ ฯลฯ

3) ปิดช่องทางเดินทางเขา้ มาในประเทศ ยกเว้น
- การขนส่งสนิ ค้าเพือ่ ความจำเป็น
- เจ้าหนา้ ท่ปี ระจำยานพาหนะ ท่มี กี ำหนดเวลาเข้าออกชดั เจน

3

- คณะทตู คณะกงสลุ (ต้องมีใบรับรองแพทย์)
- ผไู้ มม่ ีสญั ชาตไิ ทยแตม่ ใี บอนญุ าตทำงาน (ตอ้ งมใี บรับรองแพทย์)
- ผู้มีสญั ชาติไทยแตม่ ใี บอนญุ าตทำงาน (ต้องมีใบรบั รองแพทย)์
4) ห้ามกักตนุ สินค้า เช่น ยา เวชภัณฑ์ อาหาร นำ้ ดื่ม
5) ห้ามชุมนุมหรือกิจกรรม ในสถานท่ีแออดั
6) หา้ มเสนอขา่ วปลอมเกย่ี วกบั สถานการณ์ COVID-19
7) ใหห้ นว่ ยงานของรฐั โรงพยาบาล และเจา้ หน้าทขี่ องรัฐ เตรียมรบั มอื สถานการณ์
- เผยแพร่ มาตรการช่วยเหลอื
- จดั หายา อปุ กรณต์ รวจโรคเตรยี มสถานทีก่ กั กนั
- เขม้ งวดในการดแู ละใหค้ ำแนะนำสำหรบั ผู้ต้องกักตวั
8) ให้กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้ออยู่ในเคหะสถานหรือบริเวณสถานที่พำนัก(เว้นแต่มีเหตุ
จำเป็น) เช่น ผู้สูงอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไปที่มีโรคประจำตัว และเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี เพื่อป้องกันการติด
เชอ้ื
9) ใหเ้ ขม้ งวดในการอนญุ าตให้ชาวตา่ งชาตอิ ยใู่ นประเทศ
10) ให้มีการตั้งด่านหรือจุดสกัดดูแลการเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัด เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการแพร่
เช้อื โรคและดแู ลความสงบเรียบรอ้ ย
11) ให้ทำความสะอาดสถานที่ ให้สวมหน้ากากอนามัย ให้เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร และให้
ควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมกจิ กรรมเพอ่ื ป้องกันโรค
12) ให้เปิดสถานที่บางแห่งและสถานท่ีราชการเพื่ออำนวยความสะดวกและความเป็นอยู่ของ
ประชาชน เช่น โรงพยาบาล รา้ นขายยา ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เกต็ ธนาคาร ตลาดจำหน่ายอาหาร ป๊มั น้ำมัน
สถานทบี่ รกิ ารขนส่งผู้โดยสารและขนส่งสินค้า ฯลฯ
- การเหล่ือมเวลาทำงานและพกั เทีย่ ง
- การทำงานนอกสถานท่ี
- การจัดประชุมส่ือสารทางไกล
- การขยายเวลา งดหรอื ลดคา่ ธรรมเนียม
13. งดหรอื ชะลอการเดินทางข้ามเขตพน้ื ทจ่ี งั หวัดกรณีจำเป็นต้องรบั การตรวจคัดกรองและปฏิบัติตาม
มาตรการทกี่ ำหนด
14. สามารถจัดกิจกรรมหรือพิธีการตามประเพณีได้ตามความเหมาะสมแต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการที่
กำหนด เชน่ พธิ ีศพ พธิ มี งคลสมรส พิธีไหว้บรรพบุรุษ ฯลฯ

4

มาตรการป้องกัน และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
เขา้ สู่หมบู่ ้าน/ชมุ ชน

ด้วยสถานการณก์ ารระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีแนวโน้มการแพร่ระบาดที่
เพ่ิมมากขนึ้ ดังนน้ั เพอื่ เปน็ การป้องกนั และลดความเสีย่ งในการแพร่ระบาดเข้าสหู่ มบู่ ้าน/ชุมนุม ตลอดจนเพื่อ
ปอ้ งกันกลมุ่ ผ้สู ูงอายุซ่ึงเปน็ กล่มุ เสย่ี งท่ีง่ายต่อการติดเช้ือที่อยู่ในหมู่บ้าน/ชมุ ชน กระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือ
แจง้ ไปยังทุกจังหวัด และขอให้จงั หวดั แจ้งอำเภอเพื่อแจ้งกำนนั ผใู้ หญ่บา้ น และแจ้งเทศบาล ดำเนินการในการ
คน้ หาและเฝา้ ระวงั คนในพื้นท่ี ท่มี คี วามเสย่ี งตอ่ การติดเชอ้ื โควิด-19 ทกุ แหง่ ในอำเภอ ดังน้ี

1. มาตรการปอ้ งกนั การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชือ้ เข้าส่หู มบู่ า้ น/ชมุ ชน
1.1 การคัดกรองผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน บูรณาการความร่วมมือของบุคลากรใน
หมู่บ้าน/ชุมชน ทุกภาคส่วน ได้แก่ ข้าราชการ สมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล คณะกรรมการหมู่บ้าน อสม. อปพร. ฯลฯ ร่วมกันค้นหาและคัดกรองว่ามี
คนในหม่บู ้านที่เป็นกลุ่มทีม่ ีความเส่ยี ง เขา้ มาพักอาศัยอยใู่ นหมบู่ ้าน/ชุมชน หรอื ไม่ดงั นี้

(1) ผู้ทเ่ี ดินทางกลับจากกรุงเทพมหานคร จากตา่ งประเทศ จากประเทศเพื่อนบา้ น หรือมีการ
เดินทางไปยังพื้นที่เส่ียงต่อการแพรร่ ะบาดที่จำนวนคนหนาแน่นและแออัด ได้แก่ สนามมวย สนามกีฬา สนาม
ม้า สนามชนโค สนามชนไก่ สถานบันเทิง หรือการไปร่วมกิจกรรมที่มีคนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ฯลฯ ตั้งแต่
วนั ท่ี 6 มีนาคม 2563 เป็นตน้ มา

(2) ผู้ที่อยู่ในระยะใกล้ชิดกับผู้ปว่ ยตดิ เชื้อโควิด-19 หรือไปร่วมอยู่ในสถานทีท่ ี่ผูป้ ่วยโควิด-19
ไปปรากฎตัว

1.2 การปฏิบัติในกรณีที่หมู่บ้าน/ชุมชนใดมีผู้เข้าข่ายตามข้อ 1.1 ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จัดทำบัญชี
รายชื่อตามสิ่งที่ส่งมาด้วย เพื่อเฝ้าติดตามสังเกตอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน นับแต่วันที่ผู้นั้นเดินทางไปยัง
สถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด และให้ขอความร่วมมือผู้นั้นให้งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ
นอกหมู่บา้ น/ชมุ ชนไว้กอ่ นหรือพกั อาศยั อย่แู ต่ในบ้านเรือนเป็นเวลาไมน่ ้อยกว่า 14 วัน และขอให้รายงานข้อมูล
ดังกล่าวให้เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล เพื่อติดตาม และเฝ้าระวัง และให้ส่งข้อมูลให้อำเภอทราบ
เพื่อบนั ทกึ ขอ้ มูลเขา้ ระบบรายงาน

2. มาตรการเฝา้ ระวังโรคตดิ ต่อภายในหมบู่ า้ น/ชมุ ชน
2.1 การแจง้ เตือนราษฎรในหมบู่ า้ น โดยกำนัน/ผู้ใหญ่บา้ น ฯลฯ ในฐานะเจา้ พนักงานควบคมุ โรคติดต่อ
แจ้งเจา้ บา้ น หรือ ผ้ดู ูแลบา้ น ให้ปฏบิ ัติ ตามมาตรา 31(1) แหง่ พระราชบญั ญัตโิ รคติดต่อ พ.ศ.2558 ว่า กรณีมี
ผู้ที่เป็นหรือมีเหตุอันควรสงสัยเป็นโรคติดเชื้ออยู่ในบ้านให้รีบแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล
สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในฐานะเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อโดยทันที และให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รีบ
แจ้งเจ้าหน้าทีส่ าธารณสขุ ประจำโรงพยาบาลส่งเสรมิ สขุ ภาพตำบล หรอื ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ทราบ
2.2 กรณีบุคคลที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ จากต่างประเทศ จากประเทศเพื่อนบ้าน หรือมีการ
เดินทางไปยังสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดที่มีจำนวนหนาแน่นและแออัดตามข้อ1.1 (1) มีอาการป่วย ให้
กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือขององค์กร

5

ปกครองส่วนท้องถิ่นทราบทันที เพื่อเข้ารับการรักษาและประเมนิ อาการว่าเข้าขา่ ยสงสยั ว่าจะติดเชื้อโควิด-19
หรอื ไม่ หากเขา้ ขา่ ยสงสัยให้ดำเนินการตามมาตรการท่คี ณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาตกิ ำหนด

2.3 กรณีบุคคลที่เป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หรือไปร่วมอยู่ในสถานที่เสี่ยงที่มีผู้ที่ติด
เชื้อโควิด-19ไปปรากฎ ตามข้อ 1.1 (2) ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านรีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำโรงพยาบาล
ส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทราบทันที เพื่อดำเนินการตามมาตรการคัดกรอง
คัดแยก กักกนั หรอื คุมไว้สังเกตอาการ ตามทีค่ ณะกรรมการโรคติดต่อแหง่ ชาติกำหนด

2.4 กรณีมีคนในหมูบ้าน/ชุมชน ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการ
กับผ้ทู ี่อยู่ในระยะใกล้ชดิ กบั ผู้ปว่ ยตามแนวทางในข้อ 2.3 และให้แจง้ เทศบาลหรือองค์การบรหิ ารส่วนตำบลเข้า
ไปดำเนินการทำความสะอาดฆ่าเชื้อพื้นที่ที่ผู้ติดเชื้อไปทำกิจกรรมเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ
โดยเร็ว

3. การป้องกันและเฝ้าระวังกลุ่มผู้สูงอายุในหมู่บ้าน/ชุมชน ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน
ให้คำแนะนำแก่ผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง ในหมู่บ้าน/ชุมชน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด -19 ได้
ง่าย ให้หลีกเลี่ยงการพบปะ และสัมผัสกับบุคคลที่เดินทางกลับจากกรุงเทพฯ จากต่างประเทศ จากประเทศ
เพอ่ื นบา้ น หรอื มีการเดินทางไปยงั สถานท่ีเสีย่ ง ตามข้อ 1.1 (1) และบุคคลทเ่ี ป็นผู้ทอ่ี ยูใ่ นระยะใกล้ชิดกับผู้ป่วย
ตดิ เชอ้ื ไวรสั โควิด-19 หรือไปร่วมอยู่ในสถานที่ท่ีผู้ปว่ ยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปปรากฎตวั ตามข้อ 1.1 (2) ท่ีอยู่
ในช่วงระยะเวลาเฝ้าสงั เกตอาการ 14 วนั รวมทง้ั งดกิจกรรมนอกบา้ นและงดการไปในที่ชมุ ชน

4. ในกรณีของชุมชนในเขตเทศบาลที่ไม่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้นายอำเภอแจ้งและประสานงานกับ
เทศบาลให้แจง้ ประธานกรรมการชุมชน และคณะกรรมการชมุ ชน ดำเนินการตามขอ้ 1-3 เช่นเดยี วกัน

5. ในกรณีที่หมู่บ้าน/ชุมชนใดปรากฎว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด-19 และผู้ว่าราชการจังหวัดโดยความ
เห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดตอ่ จงั หวดั ได้พิจารณาใช้อำนาจตามมาตรา 35 แห่งพระราชบญั ญตั โิ รคตดิ ต่อ
แห่งชาติ ปี 2558 ในการปดิ การเขา้ -ออกหมบู่ ้าน/ชุมชน น้นั ไวเ้ ปน็ การช่ัวคราวเพอื่ ปอ้ งกันการแพร่ระบาดของ
โรคตดิ ต่อไปยงั สถานทีต่ ่างๆ หรอื ดำเนินการอืน่ ใด ให้รายงานกระทรวงมหาดไทยทราบทกุ คร้งั

มาตรการการรกั ษาระยะห่างระหวา่ งกัน (Physical Distancing, Social Distancing)
โควิด-19 แพร่กระจายผ่านละอองฝอย โดยเฉพาะเวลาไอหรือจาม การรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย

อย่างเข้มงวด จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นที่จังหวัดต้องขับเคลื่อนจริงจังเพื่อช่วยลดการติดต่อของเชื้อระหว่างกัน ซ่ึง
เป็นวิธีการ/เครื่องมือที่ดีที่สุดประหยัดและคุ้มค่ามากที่สุดในการที่จะชะลอการแพร่ระบาดกระจายเชื้อไวรัส
อย่างมีประสทิ ธิภาพ

ความกังวลเก่ียวกับการติดต่อและการแพรร่ ะบาดของเช้ือ คือ ผู้ป่วยหรือ
ผู้ติดเชื้อในช่วงแรกๆ มักไม่แสดงอาการป่วยให้เห็นชดั เจน หลายคนยังมีสุขภาพดี
อยู่ทำให้ใชช้ ีวิตเปน็ ปกติ พบเจอคนหมู่มากแบบไม่ระวงั ตัว กว่าจะรู้ตัวจึงแพร่เชอื้
ไปท่ัวทุกสถานท่ที ไ่ี ป การเวน้ ระยะหา่ งระหว่างกนั จึงเปน็ ส่ิงจำเปน็

มาตรการของรัฐบาล“อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เป็นมาตรการท่ี

ถูกต้อง อยู่บ้านให้มากขึ้น ทำงานอยู่กับบ้าน การจำกัดคนมาเยี่ยมบ้าน ในกรณี
6

จำเป็นต้องออกจากบ้าน การรกั ษาระยะหา่ งไม่น้อยกว่า 1 – 2 เมตร ในที่มคี นเยอะหรืออยู่ห่างจากคนอ่ืนในที่
สาธารณะเปน็ เรอ่ื งจำเปน็ อย่างย่ิงในสถานการณ์ หรือกิจกรรมต่างๆ ที่มีอยใู่ นจงั หวัด เชน่ งานสวดอภิธรรมศพ
การรับประทานอาหาร การใช้รถร่วมกัน การเข้าคิวรับบริการท้ังภาครัฐและเอกชน การจัดที่นั่งประชุมการรบั
บริการในร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด หรือห้างสรรพสินค้า การออกกำลังกาย เป็นต้นมาตรการนี้ต้องอาศัยความ
รว่ มมอื ของประชาชนและจิตสำนึกของทุกคนในจังหวัด การรับผิดชอบต่อส่วนรวม ไมพ่ าตัวเองไปเส่ียงหรือรับ
เชื้อ ซึ่งจะส่งผลทางอ้อมให้ระบบการแพทย์และสาธารณสุขของพื้นที่ สามารถดูแลและรักษาผู้ป่วยให้หายได้
ทนั และลดความตึงเครียดของบุคลากรทางการแพทย์ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี

“สถานการณ์ในพนื้ ท่ียะลา ปตั ตานีและสงขลา”

การเตรียมความพร้อมรองรบั สถานการณ์ของประเทศไทยจากการที่รฐั บาลประกาศใชพ้ ระราช
กำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉกุ เฉนิ (พ.ร.ก. ฉกุ เฉิน)โดยเฝา้ ระวัง สอบสวน กักกนั โรคอยา่ งขนั แข็ง
ใชอ้ ปุ กรณป์ ้องกันส่วนบุคคล กกั กันตนเองอยู่ให้หา่ งคนอนื่ (Social Distancing)ทช่ี มุ นุมคนจำนวนมากโดยไม่
จำเปน็ เพ่ือใหโ้ รคขยายตัวชา้ ทีส่ ดุ

พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีการแพร่
ระบาดทำให้ผู้ติดเชื้อจากโควิด-19 มีจำนวนมาก
เน่อื งจากสาเหตุหลายปัจจัย ท้งั การมภี มู ิประเทศ
ติดต่อกับชายแดนของประเทศเพื่อนบ้าน ท้ัง
กลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางผ่านแดนใน
พืน้ ที่ คอื

1. กลุ่มแรงงานจำนวนมากที่ไปทำงาน
ในมาเลเซีย ซึ่งกลุ่มคนไทยในมาเลเซียจำนวน
มากที่ยังคงติดค้าง เนื่องจากทางการมาเลเซีย
ประกาศปิดประเทศเมอ่ื วันท่ี 18 มนี าคม 2563และรอเดนิ ทางกลับประเทศไทยในวันท่ี 18 เมษายน 2563

2. กลุ่มที่ไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาหรือกลุ่มดาวะห์จากต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย
อินเดีย ปากีสถาน โดยเฉพาะกลุ่มดาวะห์มาเลเซีย อินโดนีเซีย ที่มีการเดินทางกลับเข้ามาก่อนที่จะมีประกาศ
หา้ มอากาศยานบนิ เข้าประเทศไทย

3. กลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาในประเทศในจังหวัดปัตตานีและยะลา แม้ว่าจะมีประกาศจาก
สำนักจุฬาราชมนตรี ประกาศให้งดการละหมาดวนั ศุกร์และการละหมาดญะมาอะห์ทีม่ ัสยิดและสถานที่ต่าง ๆ
รวมทั้งให้งดจัดกิจกรรมและการรวมตัวกันเป็นกลุ่มในมสั ยิดและสถานท่ีต่าง ๆ แต่ก็ยังมีการฝ่าผืนจัดกิจกรรม
ร่วมกัน ซึ่งเป็นสาเหตุการแพร่ระบาดทำให้ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเป็นเหตุให้ผู้ว่า
ราชการจังหวดั ยะลาออกคำสัง่ ปิดศูนย์มัรกสั ยะลา หรือ ศูนย์ดะฮ์วะห์แห่งประเทศไทย มัสยิดอิล-นูร และให้มี
การคัดกรองผู้เข้าร่วมกิจกรรมตามมาตรการป้องกันการแพรร่ ะบาดและควบคุมเชื้อโรค แต่ยังมีผู้ร่วมกิจกรรม

7

บางส่วนได้นำเชื้อกลับไปแพร่เชื้อให้กับคนในครอบครัวอย่างกรณีที่อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ที่สอง
สามภี รรยาเดินทางกลบั จากศนู ยม์ ัรกสั ยะลาโดยไม่ทราบว่าตนเองเป็นผูต้ ิดเช้ือจากโควิด-19 เม่อื กลับถึงบ้านได้
แพร่เชื้อให้กับลูกอีก 5 คน หรือบางคนไม่ได้กลับบ้านทันทีแต่ได้เดินทางไปปรากฏตัวร่วมกิจกรรมในสถานที่
ตา่ ง ๆ กอ่ นจงึ จะเดินทางกลบั บ้าน

4. กลุ่มคนที่ลักลอบข้ามแดนโดยช่องทางธรรมชาติจากมาเลเซียเข้ามาประเทศไทยโดยไม่ผ่านด่าน
พรมแดนของทั้งสองประเทศ และไม่ไดผ้ ่านจุดคดั กรองและกักตัว 14 วนั

5. พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้มีคนนับถือ “ศาสนาอิสลาม” สูงถึงร้อยละ 80 มีความเชื่อ ความศรัทธา
และปฏิบัตกิ ิจกรรมทางศาสนาอยา่ งเครง่ ครดั ทง้ั การละหมาดร่วมกันที่มัสยิดในวันศุกร์และการฟังบรรยายทาง
ศาสนา มปี ระเพณกี ารทกั ทายท่ีเรียกว่า สลามด้วยการสมั ผัสมือ การสวมกอด การสมั ผสั แก้ม น่ีคือวิถีชีวิตที่ผูก
ติดกับลมหายใจของพี่นอ้ งมุสลิมมาอย่างยาวนานการเข้ามาของโควิด-19 ทำให้การจัดลำดับความสำคัญในวิถี
ชวี ิตของคนเปลี่ยนไป คอื ต้องเลอื กรักษาชีวติ ไว้ก่อนและต้องลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ เน่ืองจากเป็นพื้นที่ท่ี
มีการตดิ ต่อทางสงั คมระหว่างกนั สูง อีกทัง้ ยงั เปน็ พ้ืนทท่ี ี่คนข้ามประเทศกนั บ่อยคร้ัง

จังหวัด สัมผสั ผู้ สาเหตุการตดิ เชือ้ (ข้อมูล ณ 15 พฤษภาคม 2563) กลมุ่ รวม
ใกลช้ ิด กจิ กรรม เดินทางกลบั บคุ ลากร อสม. ตา่ งชาติ
ยะลา หลบหนี 133
ปัตตานี 87 ทาง จาก สาธารณสขุ เขา้ เมอื ง 91
สงขลา 54 ศาสนา ตา่ งประเทศ 128
44 0
34 5 52 0
36 1 00 65
19 0 00

จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นแสดงให้เห็นว่าสาเหตุของการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้ง 3 จังหวัด มีสาเหตุ
หลักๆ มาจากการเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาทั้งในและต่างประเทศและได้นำเชื้อโรคแพร่ขยายไปยังผู้ใกล้ชิด
และผู้สัมผสั การลกั ลอบหนเี ขา้ เมือง ทง้ั หมดนี้เจา้ หนา้ ทฝี่ ่ายปกครอง สาธารณสขุ และชมุ ชนไดพ้ ยายามเรียนรู้
ในการเตรียมความพรอ้ มรองรบั กลุม่ คนเหลา่ นี้

8

“จงั หวัดยะลา”

สถานการณ์ในจงั หวดั
จากการทีม่ ีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องท่ีท่วั ราชอาณาจักร ต้งั แต่วันที่ 26 มนี าคม 2563

จนถงึ วันที่ 30 เมษายน 2563 เพือ่ เปน็ การยกระดบั การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทุกมิติ การเตรียม
รับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโรคโควิด 19 อันกระทบต่อความสงบ
เรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชน อาศัยอำนาจตามความในมาตร 9 แห่งพระราชกำหนดการบรหิ าร
ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินทุกมิติในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ ประกอบกับมาตรา 57 แห่งพระราชบัญญัติ
ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534และที่แก้ไขเพิ่มเติม จึงแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานศูนย์
บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 จังหวัดยะลา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด
ยะลา เป็นผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามคำสั่งจังหวัดยะลา ที่ 01/2563 ลงวันที่ 26
มีนาคม 2563 มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและมาตรการเร่งด่วนในการบริหารสถานการณ์ตาม
พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และพระราช
กำหนดการบรหิ ารราชการในสถานการณ์ฉกุ เฉนิ พ.ศ.2548 มิใหข้ ยายวงกวา้ ง

9

สถานการณ์ในจังหวัดยะลาพบผ้ปู ่วยทีม่ ีการยนื ยนั ว่าติดเช้ือ COVID-19 รายแรกเม่อื วันที่ 16 มีนาคม
2563 เป็นผู้ป่วยรายที่ 145 ของประเทศไทย กลุ่มผู้ป่วยดังกล่าว พบว่าเป็นกลุ่มกิจกรรมทางศาสนาและแพร่
เชอื้ โดยการสมั ผัสกับผู้ใกลช้ ดิ ในครอบครัวซง่ึ แยกเป็นรายอำเภอ ดงั นี้ (ขอ้ มลู ณ 15 พฤษภาคม 2563)

อำเภอ จำนวน(ราย) ร้อยละ
บนั นังสตา 83 62.41
เมอื งยะลา 33 24.81
ธารโต 6 4.51
ยะหา 8 6.01
รามนั 3 2.26
กาบงั 0
กรงปนิ งั 0 0
เบตง 0 0
133 0
รวม 100

จากข้อมูลดังกล่าว พบว่ามียอดผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึน้ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอำเภอบันนงั สตา มีผู้ติด
เชอื้ มากทีส่ ดุ รองลงมาคือ อำภอเมอื งยะลา มาตรการของทางจงั หวดั ท่ีได้ดำเนินการไปแล้ว คือ ใหส้ ถานศึกษา
ทุกประเภทปิดการเรียนการสอนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เว้นแต่โรงเรียนปอเนาะที่มีนักศึกษาต่างชาติ
อยู่ประจำ ให้มีการป้องกันตนเองตามมาตรการป้องกันโรค ขณะที่เทศบาลนครยะลาได้จัดให้มีการทำความ
สะอาดและตั้งจุดคัดกรองเพิ่ม 2 แห่ง คือ ที่ตลาดใหม่และตลาดผังเมือง 4 รวมทั้งตั้งจุดคัดกรองที่ด่านตรวจ
ครอบคลุมทางเข้าทั้ง 4 มุมเมือง (มลายูบางกอก, ท่าสาป, ขุนไว, เมืองทอง) พร้อมเปิดสายด่วน COVID-19
ยะลา 1881 บริการโทรฟรี 24 ชัว่ โมง

นอกจากนั้นยังมีประชาชนบางส่วนเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร
หลังจากที่มีการประกาศปิดสถานที่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ทางจังหวัดจึงประชาสัมพันธ์ให้คน
กลุ่มนี้เข้ารายงานตัวกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน, เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน (อสม.)
ทนั ที พรอ้ มทั้งใหป้ ฏิบัตติ ามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสขุ ใหก้ ักกันตวั เองท่บี ้านอย่างเคร่งครัดอย่างน้อย
14 วัน ไม่อยใู่ กล้ชดิ ผูอ้ ่ืน เวน้ ระยะห่างระหว่างกนั 1-2 เมตร งดและลดการเดินทางโดยไมจ่ ำเป็น ไม่ไปในพื้นท่ี
แออดั และแยกสำรบั อาหาร สงั เกตอาการหากมีไข้ มอี าการระบบทางเดินหายใจ ให้รบี พบแพทย์ทันที

เบตง ดา่ นชายแดนใต้ จัดต้ังจุดคดั กรองเพมิ่ สกดั โควดิ แพร่ระบาด

มาตรการเฝ้าระวังและคัดกรองที่ช่องทางด่านเบตง ซึ่งอยู่ภายใต้มาตรการปิดด่านเชน่ กันนั้น ปัจจุบัน
เจ้าหน้าทีด่ า่ นเบตงทำงานในเวลา 08.30 – 16.30 น. โดยรถขนส่งสนิ ค้ายังสามารถเข้าออกดา่ นได้ จงึ มีการคัด
กรองพนักงานขับรถ และเพิ่มจุดคัดกรองที่ด่านตรวจ กม. 23 ตำบลตาเนาะแมเราะ พร้อมนำเจ้าพนักงาน
ควบคุมโรค อำเภอเบตง ร่วมกันคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้า–ออกเมืองเบตงทุกคน โดยการใช้เครื่องวัดไข้ดิจิทัล

10

พร้อมให้บริการเจลล้างมือ และจัดให้มีสถานที่ลงทะเบียนชื่อ ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรของ
ผู้โดยสารขาเขา้ ทุกราย พร้อมฉีดพ่นยารถโดยสาร เพื่อฆ่าเชื้อไวรัส ป้องกันการแพร่ระบาดเข้าสูเ่ มืองเบตงดว้ ย
มาตรการทเี่ ข้มงวดทำให้ขณะนอี้ ำเภอเบตง ยงั ไม่พบผู้ติดเช้อื

มาตรการปอ้ งกนั และควบคุมการแพรร่ ะบาด

จากสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดในพื้นที่อย่างรวดเร็ว การแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโดย
ใชม้ าตรการเชิงรุก ดงั ต่อไปนี้

1. กำหนดปิดพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-
19)จนกว่าสถานการณจ์ ะคลีค่ ลาย โดยหา้ มมิใหผ้ ใู้ ดเขา้ -ออกพน้ื ท่ี หรือหากมีความจำเปน็ ต้องแจ้งให้เจา้ หน้าที่
ควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายจากนายอำเภอในท้องที่นัน้ ๆ ทราบ หากฝ่าผืนคำสั่ง จะมีความผิด
ตามมาตรา 52 แหง่ พระราชบัญญัติโรคตดิ ต่อ พ.ศ.2558 ในพ้นื ท่ีดังตอ่ ไปน้ี

- อำเภอเมืองยะลา ตำบลสะเตง ถนนสิโรรส และตำบลสะเตงนอก หมู่ท่ี 3
- อำเภอรามนั ตำบลกาลูปัง หมู่ท่ี 2 ตำบลจะกวะ๊ หมทู่ ี่ 2,5
- อำเภอบันนังสตา ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ หมู่ที่ 2,4,5,9 ตำบลบันนังสตา หมู่ที่ 2,3,5,9 ตำบลเขื่อนบาง
ลาง หมูท่ ี่ 1,2,3,4,5,6 ตำบลบาเจาะ หม่ทู ่ี 2,3,5 ตำบลถ้ำทะลุ หม่ทู ่ี 3
- อำเภอธารโต ตำบลแม่หวาด หมทู่ ่ี 6,7,9ตำบลบ้านแหร หมทู่ ่ี 11
- อำเภอยะหา ตำบลบาโงยซิแน หมทู่ ่ี 1,2,3,4,5,6 ตำบลปะแต หม่ทู ี่ 9 ตำบลบาโร๊ะ หม่ทู ี่ 5
ซ่ึงคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 จังหวัด
ยะลา ได้พิจารณาจากข้อมูลที่ได้รับจากทุกฝ่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดว่าหมู่บ้าน
ชุมชนดังกล่าวเป็นพื้นที่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ในขณะเดียวกันโรงพยาบาลศูนย์ยะลา และ
สำนกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั ยะลาไดพ้ ัฒนาระบบการตรวจหาเชื้อโรคโควดิ -19 ใหส้ ามารถตรวจวิเคราะห์ได้เร็ว
ขึ้น โดยสามารถตรวจวิเคราะห์ได้วันละประมาณ 600 ตัวอย่าง จากเดิมที่ตรวจได้วันละเพียง 80 ตัวอย่าง ใน
ขณะเดียวกัน จังหวัดยะลาและทุกภาคส่วนได้ร่วมกัน
ดำเนินมาตรการป้องกัน ระงับยับยั้งการแพร่ระบาด
ของเชื้อโควิด-19 มาเป็นลำดับขั้นตอนและได้รับความ
ร่วมมือจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนเป็น
อยา่ งดี
2. ปดิ สถานที่เส่ยี งเพ่อื ควบคุมการแพร่ระบาด
ของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)

- ปิดสถานทีเ่ ล่นการพนนั ชนไก่
- หา้ มราชการ พนักงานของรัฐ
รฐั วิสาหกจิ พนกั งานส่วนท้องถิน่ และ
ประชาชน เดินทางไปตา่ งประเทศ

11

- ใหภ้ าคเอกชนงดหรือเลอ่ื นการจดั กิจกรรมท่ีมกี ารรวมตวั ของประชาชนจำนวนมาก
- สถานท่ีท่ีมผี ูใ้ ช้บรกิ ารเป็นจำนวนมาก ให้มจี ุดคัดกรอง วางเจลล้างมือ ทำความสะอาดพื้นที่
ผวิ สมั ผัส
- ปิดสำนักงานหนงั สอื เดนิ ทางชั่วคราวจงั หวัดยะลา
- งดการอบรมและทดสอบสำหรับการขอรับใบอนุญาตขบั รถบัตรประจำตวั คนขับรถ ของ
สำนกั งานขนสง่ และโรงเรียนสอนขบั รถ
- รา้ นอาหารในโรงแรมให้บริการเฉพาะผู้พักอาศัยหรือจำหน่ายอาหารเพ่ือนำกลบั ไปบริโภคที่อื่น
- ปิดตลาด ตลาดนัดเว้นแต่การจำหนา่ ยอาหารสด-แหง้ อาหารปรุงสำเรจ็ อาหารสัตวร์ า้ นขายยา
- ปิดสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วภายในจังหวดั
- ปิดศนู ย์การคา้ ซุปเปอร์มารเ์ ก็ต ยกเวน้ ธนาคาร รา้ นขายยา ร้านอาหารเคร่ืองด่มื (เฉพาะ นำ
กลบั ไปบริโภคท่ีอ่ืน)
- รถประจำทางงดเดินรบั -ส่งผู้โดยสารประจำทางระหว่างจังหวัด
- รา้ นจำหนา่ ยอาหารเคร่ืองดื่ม ซปุ เปอรม์ าร์เก็ต ร้านสะดวกซอ้ื ใหพ้ นกั งานสวมหน้ากากอนามัย
และสวมถุงมือทุกคน และจัดให้มีอ่างล้างมือและเจลลา้ งมอื ไว้บริการ ทำเครื่องหมายการเวน้ ระยะห่างเขา้ คิวรับ
บรกิ ารรวมท้ังใหผ้ ู้ใช้บริการใส่หนา้ กากอนามัยทุกครง้ั ท่ีมาใช้บรกิ าร
3. ขยายเวลาปิดสถานที่ที่มีผู้ใช้บริการเป็นการชั่วคราว เช่น ร้านคาราโอเกะ ร้านเกมส์/อินเตอร์เน็ต
สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ร้านสปา ร้านนวดเพื่อสุขภาพและเพื่อเสริมความงาม ศูนย์ดะฮ์วะห์แห่งประเทศไทย
ส่วนให้บริการประชาชนของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดยะลา สำนักงานที่ดินจังหวัดยะลาและสำนักงาน
ที่ดินสาขา
4. ระงบั การเดินทาง การปิดเส้นทาง กำหนดเวลาเปดิ -ปดิ ดา่ น

- หา้ มประชาชนเดนิ ทางเขา้ -ออกขา้ มเขตจงั หวดั ยะลา
- ระงบั การเดินทางเข้า-ออกของบุคคลทกุ สัญชาติ
- กำหนดเวลาเปิด-ปดิ ดา่ นขา้ มเขตพื้นทจี่ งั หวัดยะลา เวลา 06.00-20.00 น.
- ปดิ เสน้ ทางสญั จรข้ามจงั หวดั เพื่อควบคุมการแพรร่ ะบาดของโรคฯ
5. งดกจิ กรรม/ประเพณที างศาสนา
- กลมุ่ ญะมาอะห์ตับลีฆ งดกจิ กรรมทกุ ประเภทในพื้นท่จี ังหวัดยะลา
- พระภิกษุ สามเณร งดพิธีกรรมหรอื กจิ กรรมทางพระพทุ ธศาสนาทุกประเภท
6. จดั ต้ัง Local Quarantine เพ่อื เตรยี มความพร้อมรองรับหากมีผูท้ ี่อยู่ในกลุ่มเส่ียงที่ต้องเฝ้าระวงั

1. วิทยาลัยการสาธารณสุขสริ ินธร จงั หวัดยะลา
2. วทิ ยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จงั หวัดยะลา
3. สถาบนั ภาษานานาชาติ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี

12

4. กองร้อยบงั คับการและบริการ กองบญั ชาการกอง
อาสารักษาดินแดน 7

7. การตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงลึก สำนักงานสาธารณสุข
จังหวัด สาธารณสุขอำเภอนายอำเภอ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน
ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บุคลากรทางการแพทย์การ
สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจส่วนราชการทุกส่วนพี่น้อง
สื่อมวลชน อาสาสมัครและภาคเอกชน ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่อย่าง
สอดคล้อง สนับสนุนซึ่งกันและกันในการระดมเก็บตัวอย่างข้อมูลการ
ติดเชื้อในพื้นที่ ซึ่งมีการตรวจหาเชื้อดำเนินการเพื่อให้สามารถทราบ
ข้อเท็จจริงเชิงลึก และสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-
19 ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ประสทิ ธิผล

นอกจากนี้ยังมีการใช้มาตรการเชิงรุกในการร่วมกันป้องกัน
ยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019 (COVID-19)
ตามมาตรการ COVID-19 จังหวัดยะลาตามหลัก 5S โดยมาตรการ
ดังกล่าวเป็นแนวทางการปฏิบัติป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดใน
กรณปี ิดหม่บู ้านและกรณีพ้นื ท่ีปกติ

มาตรการ แนวทางการปฏบิ ัติ
1. การคดั กรอง (Screen)
2. การคน้ หา (Scan) กรณปี ดิ หมบู่ า้ น กรณีพนื้ ทป่ี กติ
3. การหยดุ การเคลอ่ื นไหว (Stop)
- หา้ มคนเข้า-ออก - ตั้งจุดคัดกรองกอ่ นเขา้ หมูบ่ า้ นและ
4. การเว้นระยะห่าง (Social
Distancing) - ตง้ั จดุ คดั กรองแหล่งชุมชน แหล่งชุมชน

5. การรับรู้มาตรการสงั คม(Social - ค้นหากลมุ่ เสีย่ งสัปดาหล์ ะครงั้ (ศุกร์- - ค้นหากล่มุ เสย่ี งสปั ดาหล์ ะคร้งั (ศุกร์-
Literacy)
เสาร์-อาทติ ย)์ เม่ือพบรายงานทนั ที เสาร์-อาทิตย)์ เมอื่ พบรายงานทนั ที

- งดออกนอกบา้ น - งดกิจกรรมในสถานท่ปี ดิ รวมคนหมู่

- งดกิจกรรมในสถานท่ปี ดิ รวมคนหมู่ มาก (20 คนข้ึนไป)

มาก (20 คนขึ้นไป)

- ปฏิบตั ศิ าสนกิจที่บา้ น - ปฏิบัติศาสนกิจทบี่ า้ น

- เวน้ ระยะหา่ ง 2 เมตร - เว้นระยะหา่ ง 2 เมตร

- ปรบั เวลาทที่ ำงาน - ปรับเวลาทที่ ำงาน

- งดใช้สงิ่ ของรว่ มกัน - งดใชส้ ิ่งของรว่ มกัน

- สรา้ งสังคมสวมหน้ากากอนามัย - สรา้ งสังคมสวมหนา้ กากอนามยั

- ต้งั ศนู ย์กักกันระดบั ชมุ ชน - ต้ังศนู ยก์ ักกนั ระดับชุมชน

- ฮูกมุ ปากัต(ข้อตกลงรว่ มกนั ของพืน้ ท)่ี - ฮกู มุ ปากตั (ขอ้ ตกลงร่วมกนั ของพื้นที่)

13

8. ยะลาโมเดล "บกุ หาคนตดิ เชอื้ เพ่อื แกป้ ัญหาระยะยาว” เน่อื งจากจังหวัดยะลา กลายเป็นจังหวัดท่ี
พบการติดเชอื้ โควิดสูงท่สี ดุ ในประเทศ ซงึ่ ไม่ไดห้ มายถงึ ความลม้ เหลวของมาตรการรฐั แต่คอื การร่วมมือของทีม
แพทย์ที่ใช้มาตรการเชิงบกุ ค้นหาคนติดเชื้อ เพื่อป้องกันสาเหตุทีย่ ะลามีผู้ติดเชื้อสูงกว่าจังหวัดอื่น ๆ นอกจาก
เป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มเสี่ยงเดินทางกลับจากต่างประเทศจำนวนมาก สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ทีมแพทย์มี
การลงพื้นที่หากลุ่มเป้าหมายท่ีเสี่ยงติดเชื้อในเชิงรุกที่ขยายผลจากผู้ป่วย 100 คน พบประวัติการสัมผัสคนใน
ชุมชน ทำให้ต้องทีมแพทย์ต้องตรวจสอบกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 3,500 คนเพิ่มเติมและพบผู้ป่วย 20 คนที่ไม่
แสดงอาการซึ่งมาตรการเชิงรกุ ดังกล่าวทำให้แก้ปัญหาระยะยาวได้ โดยที่ไม่ต้องรอให้ผู้ป่วยเข้าหาหมอเพื่อรับ
การรักษา หากมองในแงต่ วั เลขท่ีถูกมองวา่ สงู แตใ่ นฐานะผู้ปฏิบตั งิ านจรงิ มองว่าเปน็ การแกป้ ัญหาในระยะยาว
ขณะที่ข้อมูลของผู้ป่วยไม่แสดงอาการ ที่พบจากการทำ active case finding ของยะลา ก็สะท้อนให้เห็นถึง
ความน่ากลวั ของไวรสั โควดิ 19 ซง่ึ ตอ้ งมกี ารดำเนินมาตรการเชงิ บกุ ทำทุกพ้ืนท่ี อยา่ งรอบคอบ ถูกหลัก รวมถึง
ต้องสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีตามธรรมชาติ คือ วัคซีนของพ่อ วัคชีนตามหลักเศรษฐกิจ และช่วยเหลือ อุทิศตนร่วม
แรงรว่ มใจ พลังจิตอาสา เราทำดีดว้ ยหัวใจ ชว่ ยเหลือกนั และกนั
มาตรการเยียวยา

แตง่ ตัง้ คณะทำงานทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผปู้ ระสบภาวะวิกฤติ กรณี COVID-19 จงั หวัดยะลา โดย
มีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา เป็นประธาน โดยมีวัตถุประสงค์ ดูแลสุขภาพจิตใจควบคู่ไปกับการดูแล
สุขภาพกายของประชาชนท่ัวไป กลมุ่ เสย่ี งที่ตอ้ งกกั ตวั เอง ผู้ป่วย รวมถึงบคุ ลากรสาธารณสุข
มาตรการผอ่ นปรน

จากรายงานสถานการณก์ ารโควดิ -19 ในพื้นที่ ข้อมลู ณ วนั ท่ี 10 มิถุนายน 2563 จังหวดั ยะลา ไม่พบ
ผู้ติดเชื้อติดต่อกับเป็นเวลา 30 วัน ทำให้ทุกพื้นที่เป็นพื้นที่สีเขียว มีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ แต่ยังคง
มาตรการล้างมือ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง รักษาความสะอาดสถานที่ หลีกเลี่ยงการแออัด รวมถึงตรวจเฝา้
ระวังกลุ่มที่มีการพบปะผู้คนเป็นจำนวนมาก กลุ่มอาชีพเสี่ยง ในจังหวัดมีเป้าหมายรวม 1,310 ราย ตรวจเฝ้า
ระวังไปแล้ว 916 ราย ซึ่งผลการตรวจทั้งหมดเป็นลบ ส่วนเรื่องผ่อนคลายมาตรการของจังหวัดยะลา ทำให้
ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัด และให้เฝ้าระวังประชาชนที่กลับมาจากต่างประเทศ ให้เข้าสถานที่เฝ้า
สังเกตอาการ ยังคงมาตรการป้องกนั ตนเองตั้งแต่เรื่องสขุ อนามัยการล้างมอื การรับประทานอาหารที่สุกสะอาด
การกำหนดระยะหา่ งของบคุ คล หลกี เล่ียงการเข้าชุมชนทีม่ ีการรวมตวั กันอย่างแออดั

14

“จงั หวัดปัตตานี”

สถานการณ์ในจงั หวดั
สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ได้แพร่ระบาดอย่าง

รวดเร็วและกว้างขวางไปหลายประเทศท่ัวโลกกระทรวงสาธารณสุขไดอ้ อกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง
ชอ่ื และอาการสำคัญของโรคตดิ ต่ออันตราย (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ.2563 ลงวนั ท่ี 26 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2563 กำหนดให้
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 เป็นโรคติดต่ออันตรายตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.
2558 และจังหวัดปัตตานีพบว่ามีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในหลายอำเภอ
และพบว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ปว่ ยอย่างรวดเร็ว คณะกรรมการโรคตดิ ต่อจงั หวดั ปัตตานจี ึงได้ออกประกาศ
และคำสั่งต่าง ๆ เพื่อเป็นการยบั ยั้งการแพร่ระบาดของโรคไปสู่ประชาชนในวงกว้างและควบคุมพ้ืนที่ที่มปี ัจจยั
เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ต่อมากระทรวงมหาดไทยได้กำหนดรูปแบบของคำสั่งให้เป็นรูปแบบเดียวกัน
ทุกจังหวัด นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีไดม้ ีประกาศสถานการณฉ์ ุกเฉินในทุกเขตท้องท่ี
ทั่วราชอาณาจักร ฉบับลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ.2563 เกี่ยวกับโรคดังกล่าวจึงได้ออกคำสั่งจังหวัดปัตตานี ท่ี
(พิเศษ) 13/2563 เรื่อง การจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019
หรือโรคโควิด 19 จังหวัดปัตตานี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นผู้กำกับการบริหารราชการใน
สถานการณ์ฉุกเฉิน มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายและมาตรการเร่งด่วนในการบริหารสถานการณ์ตาม
พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 และพระราช
กำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548ดังนั้น เพื่อเป็นการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค
ไปสปู่ ระชาชนในวงกว้าง การควบคมุ พื้นท่ีท่ีมปี ัจจยั เสย่ี งต่อการแพร่ระบาดของโรค จงึ จำเป็นอย่างย่ิงที่จะต้อง
ใช้มาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคอย่างเข้มข้น เพื่อลดโอกาสการแพร่ระบาดของ
โรคในสถานทีต่ า่ ง ๆ ทีม่ ีความเสยี่ งสงู

15

จากรายงานสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโร

นา 2019 ในจังหวัดปัตตานี พบผู้ป่วยที่มีการยืนยันติดเช้ือ

COVID-19 รายแรกเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 เป็นผู้ป่วย

รายท่ี 163 ของประเทศไทยกลุ่มผู้ป่วยยนื ยันตดิ เช้อื COVID-

19 พบว่าเป็นกลุ่มท่ีเขา้ รว่ มในกจิ กรรมทางศาสนาทีม่ าเลเซีย

อินโดนีเซียและแพร่ระบาดไปยังสมาชิกในครอบครัว ญาติ

และคนในชุมชนสง่ ผลให้มีผู้ป่วยเพ่ิมขึ้นอย่างต่อเนอ่ื งในจำนวน

นี้มีเด็กหญิงอายุ 3 ขวบรวมอยู่ด้วย โดยอำเภอยะรังและทุ่งยางแดงมีผู้ปว่ ยตดิ เชื้อมากทีส่ ุดซึ่งผู้ป่วยติดเชื้อ ไม่

พบผตู้ ดิ เชอ้ื ใน 2 อำเภอ คือ ปะนาเระ แมล่ านจำแนกเป็นรายอำเภอดงั น้ี (ขอ้ มลู 15พฤษภาคม 2563)

อำเภอ จำนวน(ราย) รอ้ ยละ

ยะรัง 36 39.6

ทุ่งยางแดง 26 28.6

หนองจกิ 9 9.9

กะพอ้ 5 5.5

โคกโพธ์ิ 3 3.3

สายบรุ ี 3 3.3

ไมแ้ กน่ 3 3.3

เมอื ง 2 2.2

ยะหรง่ิ 2 2.2

มายอ 2 2.2

ปะนาเระ 00

แมล่ าน 0 0

รวม 91 100

ปัจจัยเสี่ยงผู้ป่วยติดเชื้อของปัตตานีเกิดจากการที่มีคนติดโรคจากที่อื่นแล้วนำไปแพร่เชื้อในชุมชน
โดยเฉพาะจุดท่ีมคี นอยกู่ ันอย่างหนาแนน่ จำแนกออกเปน็ 4 กลุ่ม คือ

1. กลุ่มทีเ่ ดินทางไปรว่ มกจิ กรรมทางศาสนามาเลเซยี อนิ โดนีเซีย อินเดีย มัรกสั จังหวัดยะลา
2. กลุม่ เดนิ ทางจากสนามมวยลุมพินแี ละสถานประกอบการที่มีการแพร่ระบาดต่างๆ
3. กลุม่ ผทู้ ่ีสัมผสั กับคนที่ไปร่วมกิจกรรมทางศาสนา
4. กลุ่มแรงงานไทยท่ีไปทำงานประเทศมาเลเซยี เชน่ ร้านอาหารต้มยำกุ้ง แรงงานในภาคประมง สวน
ยาง สวนปาล์ม และภาคบรกิ าร

16

มาตรการปอ้ งกนั และควบคุมการแพร่ระบาด
1. มาตรการรับมือกับผู้ที่เดินทางกลับ

จากตา่ งประเทศมีการแตง่ ต้ังเจา้ พนักงานควบคุม
โรคโดยแบ่งผู้ที่จะต้องเข้ารับการคัดกรองคือ 1)
ผู้สงสัยที่อาจติดเชื้อ2) ผู้ที่มีความเสี่งต่อการติด
เชื้อ3) ผู้ที่มีอาการป่วยสำหรับผู้ที่เดินทางกลับ
จากต่างประเทศถือเป็นกลุม่ เส่ียงใหก้ ักตัวภายใน
บ้านโดยจังหวัดปัตตานีได้จัดเตรียมสถานที่และ
ส ั ่ ง ก า ร ใ ห ้ น า ย อ ำ เ ภ อ เ ป ็ น ป ร ะ ธ า น ค ว บ คุ ม
โรคติดต่อประจำอำเภอสำหรับผู้ที่เดินทางกลับจากไปร่วมงานเผยแพร่ศาสนาณมัสยิดศรีเปตาลิงประเทศ
มาเลเซยี ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 2 มนี าคม 2563 ท่ผี ่านมา มจี ำนวน 25 ราย ขอให้แยกกักตัวเองอยู่ท่ี
บ้านเปน็ เวลา 14 วนั และให้ไปรายงานตวั ต่อสาธารณสุขโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลและขอความร่วมมือ
ห้ามออกงานและขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนให้เบาะแสว่า “บ้านหลังไหนใครบ้างที่เพิง่ เดินทางกลับมา
หรือใครที่รู้ตัวว่าตนเองกลับมาจากประเทศมาเลเซีย” ให้ไปรายงานตัวกบั โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
หรือสาธารณสุขอำเภอเพือ่ ทำการคัดกรองและรบั คำแนะนำจากทางเจ้าหน้าทีเ่ พ่ือให้ปฏบิ ตั ติ นถูกต้อง

2. มาตรการป้องกันการแพร่ระบาด เนื่องจาก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในจังหวัด
ปัตตานี มีสถิติของผู้ป่วยติดเชื้อรายแรกแพร่เชื้อใน
ครอบครัว ชุมชนเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถ
ตดิ ตามผ้ทู ่เี ดนิ ทางกลบั จากต่างประเทศหรือพื้นที่เสี่ยงมา
รายงานตัวได้ครบทุกคน รวมทั้งมีความพยายามติดตาม
ตัวผู้ที่เดินทางกลับจากมาเลเซียพื้นที่เสี่ยงให้มารายงาน
ตัวและกักตัวเอง 14 วันก็ไม่สามารถติดตามตัวให้มา
รายงานตัวได้ครบทุกคน ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงรวมท้ัง
ประชาชนเริ่มกังวลถึงมาตรการที่ออกมาไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเท่าที่ควร ผู้ว่าราชการจังหวัด
ปตั ตานีไดอ้ อกมาตรการป้องกันและขอความรว่ มมือจากประชาชนดังนี้

2.1 ขอความร่วมมือร้านค้าสถานประกอบการ ปรับตัวในช่วงสถานการณ์ Covid-19 แพร่
ระบาด โดยให้ประชาชนซอื้ อาหารกลับไปทานที่บา้ น ลดการนั่งทานรวมกลุ่มท่รี ้านอาหาร ร้านเครื่องดม่ื

2.2 ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงได้ทำการประชาสัมพันธ์โดยให้เจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการใช้
เครื่องบิน บินวนในทุกอำเภอของจังหวัดปัตตานีจำนวน 3 รอบ เพื่อประกาศให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึงใน
การปอ้ งกันการติดเช้อื ของโควิด-19

2.3 ให้ระมัดระวงั งดเดินทางไปมาในจงั หวัดปตั ตานีและให้มีการป้องกนั สวมใส่หน้ากากอย่าง
เขม้ งวด

17

2.4 เฝ้าระวังตัวเองหากมีอาการไข้ขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ทันที และหากคนในครอบครัวติด
เชือ้ ใหแ้ จ้งไปยังเจา้ หน้าที่ ห้ามขนยา้ ยผ้ปู ่วยดว้ ยตนเอง เพ่อื ความปลอดภยั และไม่ให้โรคดงั กล่าวแพร่มากขึ้น

2.5 มีการตรวจตราการบนถนนหลักและเส้นทางรองอย่างเข้มงวด
2.6 มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 สามารถติดตามได้ทางประกาศ
มาตรการการปอ้ งกันฯ (เพิ่มเตมิ ) ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวดั ปตั ตานี ทอ่ี อกมาเปน็ ระยะ ๆ
3. การขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพรร่ ะบาด โดยแม่ทัพภาคที่ 4
ร่วมกับผูว้ า่ ราชการจงั หวัดปัตตานี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปตั ตานี ลงพ้นื ท่ีพบผู้นำศาสนา
เพื่อหารือมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสCOVID-19 และรับทราบมาตรการการเฝ้าระวังป้องกันการระบาดพร้อม
นำไปชี้แจงสร้างความเขา้ ใจให้กบั โต๊ะอหิ ม่ามและผนู้ ำชุมชนในหมู่บ้านรับทราบอีกชอ่ งทางหนึง่
สถานการณแ์ พร่ระบาดอยา่ งรวดเร็วไปสคู่ นในครอบครวั และชุมชม
สถานการณ์ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสCOVID-19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานีมีการแพร่กระจายไปสู่คนในครอบครัว
และในชมุ ชน โดยแบง่ เปน็ ผทู้ ี่ติดเช้ือ 3 ประเภท คอื
1. ผู้ทต่ี ดิ เชือ้ ทเ่ี ดินทางกลบั การร่วมงานทางศาสนาท่ปี ระเทศมาเลเซยี จำนวน 8 ราย
2. ผู้ทีต่ ิดเช้ือจากคนในครอบครวั และผู้ใกล้ชิดท่ีไดส้ ัมผสั กับผู้ตดิ เชื้อ จำนวน 14 ราย
3. ผู้ทอี่ ย่อู าศัยในหม่บู ้านเดียวกันกบั ผ้ตู ิดเช้อื และไดส้ ัมผสั ผตู้ ดิ เชอื้ จำนวน 4 ราย
โดยผตู้ ดิ เช้ือทง้ั 26 ราย อาศยั อยูใ่ นหมบู่ า้ นเดยี วกันซง่ึ เป็นหมบู่ ้านทที่ างจังหวัดปตั ตานไี ดใ้ ห้มีการเฝ้าระวังและ
เพิ่มมาตรการเข้มในการเฝ้าตรวจสอบติดตามดูอาการอย่างใกล้ชดิ นอกจากนี้ยังมีการเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
อีก 30 ราย อีกทั้งยังคงเพิ่มมาตรการเข้มในการเฝ้าระวังในพืน้ ท่ี 5 อำเภอ คือ อำเภอหนองจิก ยะรัง โคกโพธ์ิ
ไม้แกน่ และอำเภอเมอื ง เพอื่ หยุดการแพร่ระบาดของไวรัสโควดิ -19
จากสถานการณ์ดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีออกประกาศให้จังหวัดปัตตานีเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อ
การติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เนื่องจากมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหลายอำเภอของ
จงั หวดั ปัตตานแี ละเป็นการยับยง้ั การแพร่ระบาดของโรคไปสปู่ ระชาชนในวงกว้าง และได้มคี ำสง่ั ห้ามประชาชน
เดินทางเขา้ –ออกขา้ มเขตพื้นที่ โดยใช้บังคบั อยา่ งจริงจังตั้งแตว่ ันอังคารที่ 31 มนี าคม 2563 เป็นต้นไป รวมทั้ง
เพิ่มมาตรการเข้มในการตรวจค้นรถทั้งขาเข้าและขาออกที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังจังหวัดยะลา นราธิวาส
และสงขลา รวมทั้งสิ้น 18 เส้นทาง โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทำความเข้าใจและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
หากพบผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยง และสงสัยว่าจะเป็นผู้ที่มีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ให้มีการกักตัวทันที 14 วัน และ
หากพบผ้ใู ดฝา่ ฝนื ให้ดำเนนิ การตาม พ.ร.ก.ฉกุ เฉนิ ฯ ไดท้ นั ที

18

มาตรการป้องกนั และยบั ยง้ั
1. จัดตั้ง local quarantine ระดับจังหวัด เพื่อรองรับผู้เดินทางมาจากพ้ืนท่ีท่ีมีการระบาดของโรคทง้ั

ผทู้ เ่ี ดินทางมาจากต่างประเทศ กรงุ เทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งจงั หวัดอืน่ ๆ
2. จดั ตัง้ โรงพยาบาลสนาม เพื่อเป็นทร่ี องรับผู้

ติดเชอื้ โควิด-19
3 . ก ำ ช ั บ ใ ห ้ ผ ู ้ น ำ ท ้ อ ง ถ ิ ่ น ท ุ ก พ ื ้ น ท่ี

ประชาสมั พันธ์ใหป้ ระชาชนรับรู้ถึงภยั อันตรายของโรค
โควดิ -19

4. ขอความร่วมมืองดการปฏิบัติศาสนกิจท่ี
มัสยิดในช่วงนี้ตามคำสัง่ ของจุฬาราชมนตรี และวัดทุก
แห่ง

5. มาตรการปิดเส้นทางเข้าออกจังหวดั ปัตตานี
ทกุ พนื้ ท่ีรอยต่อทุกอำเภอและจงั หวัด
การยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ให้แพร่ระบาด “โดยการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มกี ารแพร่ระบาดสู่คนในชุมชน
อย่างรวดเรว็ ” โดยดำเนินการ

1. สอบสวนสาเหตุการติดเชื้อจากผู้ที่ติดเชื้อ ส่วนใหญ่ระบุว่า มีบุคคล 2 ประเภทที่นำเชื้อมา
แพรก่ ระจายหลงั จากทไ่ี ดร้ บั เชอื้ มากอ่ นท่ีจะถูกนำตัวไปรักษา คอื

1.1 ผูต้ ดิ เชื้อท่ีไปร่วมละหมาดท่ีมัสยดิ
1.2 ผู้ติดเชื้อเข้าไปนั่งร้านน้ำชาร่วมกับประชาชน ซึ่งเป็นสาเหตุแพร่กระจายไปสู่คนใน
ครอบครัวและคนในชุมชน
2. เพิ่มมาตรการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด
2.1 ปิดหมู่บ้าน การทำการคัด

แยกการคัดกรองเข้มข้นอยา่ งต่อเนื่อง

2.2 สง่ เจา้ หน้าทเี่ คาะประตูบ้าน

เข้าค้นหาผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง กลุ่มเสี่ยงต่ำ เช่น

กลุ่มดะวะห์ และกลุ่มที่มาจากที่อื่น ในขณะท่ี

พืน้ ทท่ี ่ไี มพ่ บผตู้ ดิ เช้ือเลยมอี ยู่ 3 อำเภอ คือ ปะนา

เระ ยะหริ่ง และแม่ลาน

2.3 กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย
ไม่ประมาท ให้ทำงานเชิงรุก เข้าพื้นที่สุ่มตรวจ
ตดิ ตามผู้อยใู่ นกลมุ่ ตอ้ งสงสัยติดเชอ้ื อยา่ งเข้มข้น

19

3. เพมิ่ มาตราการณ์รักษา ป้องกนั คดั กรองให้เข้มงวดมากยิ่งขน้ึ ทกุ พ้นื ที่ ทงั้ ชมุ ชน ตำบล และอำเภอ
ดังต่อไปน้ี

3.1 ใหท้ กุ อำเภอมีสถานที่กักกัน 14 วนั โดยต้องมีสถานทกี่ ักกนั ทกุ ตำบล ทัง้ 12 อำเภอ และ
สถานท่ีกกั กันต้องไดม้ าตราการณเ์ ดยี วท้ังหมด เพราะหากมผี ูต้ ิดเชื้อจะไดน้ ำตวั เขา้ รักษาหรือกกั กนั ทันที

3.2 ส่วนบคุ คลท่เี ดนิ ทางมาจากต่างประเทศ บคุ คลเหลา่ นมี้ ีอัตราการตดิ เช้ือมากท่ีสุดและเร็ว
จะต้องคดั กรองอย่างละเอียดทสี่ ุด

แนวทางบรู ณาการสกดั และยับยั้งเชือ้ โรค COVID-19 ในพืน้ ท่ีขณะที่มีผ้ตู ดิ เชื้อเพ่มิ เป็น 88 ราย

จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ไดแ้ พรร่ ะบาดของโรคใน
หลายอำเภอและพบว่าการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยอย่างรวดเร็วครอบคลุมไปในพื้นท่ี 35 หมู่บ้านใน 10
อำเภอของจังหวัดปัตตานี จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำการสกัดและป้องกันเชื้อโรคเข้าพื้นที่โดย
ดำเนนิ การ ดังน้ี

1. ตั้งด่านจังหวัดด่านอำเภอและด่านประจำหมู่บ้านเพื่อการสกัดและคัดกรองคนที่เป็นและมีเหตุอัน
ควรสงสัยวา่ เปน็ ผ้ตู ดิ เชือ้ ไวรัส COVID-19

2. มาตรการห้ามบุคคลออกจากบ้านโดยเฉพาะผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ และผู้มี
โรคประจำตัวทเ่ี ส่ียงติดโรคได้ง่าย

3. การสกัดและห้ามบุคคลที่ไม่สวมหน้ากากอนามัย บุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยหรือพื้นที่ท่ี
หา้ มเดนิ ทางเข้า-ออก การสกัดและชะลอการเดินทางที่มากันเปน็ กลุ่มคณะและที่ไม่จำเปน็ โดยให้คำแนะนำการ
ป้องกนั โรค

มาตรการของทางราชการในการระงบั ยบั ย้งั ไม่ใหเ้ ช้ือโรคแพร่ระบาด

1. คัดกรองและนำตัวไปกักกันในที่เอกเทศ 14 วัน กรณีพบว่าประชาชนมีไข้หรือมีประวัติเกี่ยวข้อง
หรือมกี ารสัมผัสผตู้ ิดเชื้อ ใหเ้ จ้าหน้าท่ีนำตวั แยกไปยังสถานทีทีจ่ ังหวัดปัตตานีไดเ้ ตรียมไว้ เพ่ือทำการตรวจเช้ือ
และกักกัน 14 วัน โดยให้มกี ารสอบสวนโรค คน้ หาแหลง่ ทีม่ า และผ้สู มั ผัสคนติดเชื้อโรคอย่างละเอียด และเฝ้า
สังเกตอาการอยา่ งใกล้ชิด

2. ค้นหาผู้เดินทางซึ่งนำเชื้อเข้ามา/ไม่เจอ/ไม่ได้
รับความร่วมมือ/ต้องจัดการพิเศษให้เป้าหมายที่ไม่แสดง
ตัวเข้ารายงานตัวคัดกรองเฉพาะกลุ่มในการสอบสวนโรค
ต้องยกระดับให้มีมาตรฐานค้นหาเป้าหมายให้ครอบคลุม
มากทส่ี ดุ

3. จัดลำดับความสำคัญของการสัมผัสแบบ
ใกล้ชิดหรือแบบทั่วไปและหรือมีประวัติผู้มีอาการที่บ่งช้ี
และทำการตรวจเชื้อให้ครอบคลุมเป้าหมายตามลำดับ
ความสำคญั อยา่ ให้ขา้ มลำดบั เดด็ ขาด

20

4. การสนับสนุนการปฏิบัติในการสกัดป้องกันโรคและระงับยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโดยบูรณา
การ 4 ฝ่าย (รวมสาธารณสุข) เพื่อไม่ให้ประชาชนเดินทางข้ามเขตพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งระดับจังหวัดอำเภอตำบล
และหม่บู า้ นทเี่ ป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

ยกระดบั มาตรการปอ้ งกันเขม้ ข้น กรณีมผี ตู้ ดิ เชือ้ เพ่ิมข้ึน

กำหนดมาตรการเข้มข้นในหมูบ่ า้ น ที่ต้องเฝา้ ระวังหากยังปล่อยปละละเลย ไม่เว้นระยะหา่ งทางสังคม
อาจจะต้องปิดหมู่บ้านที่ไม่มีระเบียบวินัย ไร้ระเบียบ พร้อมฝากไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งมีบทบาทสำคัญ ได้
ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการ ยังมีความเป็นห่วงในกลุ่มโยร์ที่มาจากประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และ
จากอนิ เดีย ทอ่ี าจนำเชอ้ื ไปตดิ กบั บุคคลในครอบครัวและชุมชนโดย

1. ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันดูแลเป็นหูเป็นตาให้กับทางราชการควบคู่กับการ
ป้องกันและดูแลตนเอง เว้นระยะห่างทางสังคม หากพบบุคคลที่สงสัยว่ามีความเสี่ยง แนะนำให้ไปเข้ารับการ
ตรวจที่โรงพยาบาลใกล้บา้ นเพื่อทำการคดั กรอง เจ้าหน้าท่ีทกุ คนพร้อมที่จะปฏิบัตงิ านอย่างเต็มทีท่ างจังหวัดมี
ความพร้อมในการดูแล ทง้ั สถานท่ีกักกัน และสถานพยาบาล

2. มาตรการปิดทางเข้า-ออก เมืองปัตตานีมีการผ่อนผันว่าด้วยสินค้าเกษตรที่จำเป็น รวมไปถึงสินค้า
จำเป็นเรือ่ งรักษาพยาบาล ป้องกันโรค สินค้าอุปโภค บริโภค กู้ชีพ กู้ภัย การเงิน การธนาคาร กรณีจำเป็นตอ้ ง
ใช้ใบรับรองแพทย์กรณีที่อ้างเหตุความจำเป็น เช่น ไปร่วมงานศพ ไปหาหมอ สามารถผ่านไปได้ หรือให้
นายอำเภอในทอ้ งท่ีเปน็ คนรบั รองตามความจำเป็น

สถานทีร่ องรบั รกั ษาพยาบาลผ้ปู ว่ ย

1. จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ณ อาคารสำนักงานบริหารเขตพื้นที่อุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี เพื่อ
รองรับการรกั ษาพยาบาลผปู้ ่วย

2. จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพร่างการสำหรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จำนวน 2 ศูนย์
เพื่อให้ผู้ป่วยกลุ่มที่มีอาการปานกลางและกลุ่มที่มีอาการรุนแรง ได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและดูแล
อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้มักจะมีโรคเรือ้ รังร่วมด้วย เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจและโรค
เรื้อรังอืน่ ๆ ณ ตึกสงฆ์ โรงพยาบาลโคกโพธิ์ และตึกผู้ป่วยหญิง โรงพยาบาลสมเด็จพระยพุ ราชสายบุรี

มาตรการผอ่ นปรน

จากการให้ความร่วมมือของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ส่ือมวลชน ประชาชนทุกฝ่ายเป็นอย่างดีในการ
ป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรค Covid -19 ส่งผลให้จงั หวดั ปัตตานมี สี ถานการณ์คล่ีคลายดขี น้ึ เปน็ ลำดับ ไม่พบ
ผู้ปว่ ยตดิ เชอ้ื รายใหม่ครบ 27 วนั ยอดผู้ติดเช้ือยังคงอย่ทู ่ี จำนวน 91 ราย ข้อมลู ณ วันท่ี 18 พฤษภาคม 2563
พบว่าผู้ป่วยคนสดุ ท้ายสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ส่งผลให้จังหวัดปัตตานีไม่มีผู้ตดิ เชื้อ แต่ยังคงมาตรการ
“4 เรื่องใน 4 สถานที่” ในการสร้างมาตรฐานเสริมความปลอดภัยของคนในสังคม คือ 1) การสวมหน้ากาก
อนามัย 2) การเว้นระยะห่าง 3) การล้างมือ 4) การไม่แออัดจนเกินไป ซึ่งเป็นวิถีชีวิตใหม่ของคนปัตตานีท่ี
จะต้องปฏิบัติต่อเนื่องกันไปใน 4 สถานที่ คือ 1) ตลาดทั้งหมด 2) ร้านอาหาร 3) ธนาคาร 4) สถานที่ออก

21

กำลังกายซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จังหวัดปัตตานี
ไดม้ ีมตผิ ่อนปรนในพนื้ ท่ี คอื

1. การดำเนินการตามข้อกำหนด ออกตามมาตรา 9 ฉบับที่ 7 ผ่อนคลายร้านที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ
ต่างๆ และการสุขภาพอนามัย สามารถจัดจำหน่ายสุราได้ แต่ต้องกลับไปบริโภคที่บ้าน ไม่สามารถนั่งที่ร้านได้
สว่ นอื่นๆ นั้นใหผ้ อ่ นคลายตามลำดับ

2. การเปิดหมบู่ า้ น หมบู่ ้านทีถ่ กู ปิด 25 หมบู่ า้ น รวมหมู่บ้านใกล้เคยี งทั้งหมด 35-36 หมบู่ า้ น สามารถ
สญั จรไประหว่างหมู่บ้าน หรืออำเภอได้ แตย่ ังคุมเขม้ มาตรการป้องกนั โรค 4 เรือ่ ง คอื

1) การสวมหน้ากากอนามยั
2) การเวน้ ระยะหา่ ง
3) การล้างมือ
4) การไม่แออัดจนเกนิ ไป
3. การบริหารสถานการณโ์ ควดิ -19 ในระยะยาว ประกอบด้วย 10 เรื่อง คอื
1.การดูแลคนเดินทางเข้า-ออกจังหวัดปัตตานี มดี า่ นจงั หวัด ด่านอำเภอ
2. การเดนิ ทางเขา้ ออกหมบู่ า้ น ดา่ นหมูบ่ ้าน
3. ศูนยค์ ดั กรอง ทีจ่ ะยังคงทำหน้าท่เี หมือนเดมิ
4. สถานท่กี กั กัน ตอ้ งเตรียมสถานทีก่ ักกันทุกอำเภอไว้ตลอด
5.การเปิดให้บริการของภาครัฐ จดั ระเบยี บ การใหบ้ ริการ/ภาคเอกชน ต้องสอดคล้องกัน
6. การดำเนินชีวิตในรปู แบบใหม่ ในเร่อื งสขุ ภาพของคนในบ้าน
7. การใช้ชีวติ แบบใหม่ new normal เร่อื งการจดั ระเบียบสังคม
8. การเยียวยาผู้ได้รบั ผลกระทบ
9.การจัดกจิ กรรมตา่ ง ๆ
10.การฟนื้ ฟเู ศรษฐกจิ

22

“จังหวัดสงขลา”

สถานการณ์จังหวดั สงขลา
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตราย

ตามประกาศอันตรายตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรอื่ ง ชื่อและอาการสำคญั ของโรคติดต่ออนั ตราย(ฉบับ
ที่ 3) พ.ศ.2563 โดยมีการระบาดทั่วโลก สำหรับประเทศไทยมผี ูป้ ่วยยืนยัน 212 ราย เสียชีวติ 1 ราย(ข้อมูล ณ
วันที่ 18 มีนาคม 2563) และมีแนวโน้มแพร่ระบาดกระจายเป็นวงกว้าง จังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดที่มีแหล่ง
ท่องเที่ยว เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของภาคใต้ มีท่าอากาศยานและด่านชายแดนระหว่างประเทศทำให้มี
ผู้คนเดินทางเข้า-ออก จำนวนมากทำให้มีความเสี่ยงในการระบาดของโรค ดังนั้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนชาว
จังหวัดสงขลาปลอดภัยจากการแพร่ระบาดติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จึงมีความจำเป็นต้อง
กำหนดมาตรการเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22(7) มาตรา 35
แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
โรคตดิ ตอ่ จงั หวัดสงขลา มติคณะรฐั มนตรี หนงั สือกระทรวงมหาดไทย จึงไดม้ ีคำสงั่ คณะกรรมการโรคต่อจังหวัด
สงขลา ที่ 1/2563 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) เพอ่ื ป้องกนั และสกัดกน้ั การนำเชื้อ การยบั ยัง้ การระบาดเข้าสู่จังหวัดสงขลา

จากรายงานสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในจังหวัดปัตตานีพบผู้ป่วยยืนยันติดเช้ือ
COVID-19 รายแรกเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2563 เป็นผู้ป่วยรายที่ 308 ของประเทศไทยกลุ่มผู้ติดเชื้อยืนยัน
COVID-19 ในจังหวัดสงขลาส่วนใหญ่จะติดจากการไปร่วมกิจกรรมนอกพื้นที่ไม่ใช่เกิดจากการแพร่ระบาดใน
พื้นท่ีซึ่งมีสาเหตุเริ่มต้นมาจากผู้ติดเชื้อจากเวทีสนามมวยที่กรุงเทพมหานคร การชุมนุมทางศาสนาท่ีประเทศ
มาเลเซยี อนิ โดนเี ซีย แรงงานตา่ งชาติหลบหนเี ข้าเมอื งผดิ กฎหมาย ฯลฯ สำหรับผู้ติดเช้ือของจังหวดั สงขลา พบ
ในพื้นที่ 9 อำเภอ ไม่พบผู้ติดเชื้อใน 7 อำเภอ คือ รัตภูมิ ควนเนียง สทิงพระ กระแสสินธุ์ สะบ้าย้อย ปาดัง
เบซาร์ นาทวี ดังรายละเอยี ดดงั น้ี (ข้อมลู 15 พค.63)

23

อำเภอ จำนวน(ราย) ร้อยละ
หาดใหญ่ 12 9.37
จะนะ 6 4.69
เทพา 3 2.34
ระโนด 1 0.78
เมอื งสงขลา 1 0.78
บางกล่ำ 2 1.56
คลองหอยโข่ง 1 0.78
สิงหนคร 7 5.47
สะเดา 29 22.66
ตจว. 5 3.91
ดาวะห์อนิ โดนีเซีย 19 14.84
ต่างชาตหิ นีเข้าเมอื ง 42 32.82
128 100
รวม

จ า ก ร า ย ง า น ส ถ า น ก า ร ณ ์ ก า ร แ พ ร่
ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ณ วันที่ 28
เมษายน 2563 พบว่ามียอดผ้ปู ่วยตดิ เช้ือเพ่ิมขึ้น
อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีสาเหตุมาจากการพบผู้ติดเชอ้ื
ท่ีเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานท่ีศูนย์กักกันคนเข้า
เมืองและด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จากการ
สอบสวนโรคพบวา่ เจา้ หน้าทตี่ รวจคนเข้าเมืองที่
เป็นผู้ติดเชื้อคนแรก สาเหตุเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่
ควบคุมดูแลผู้ต้องหาชาวต่างชาติที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายขณะรอส่งกลับประเทศต้นทาง และได้รับ
ยืนยันจากประเทศต้นทางว่าผู้ต้องหาดังกล่าวติดเชื้อไวรัส โคโรน่า 2019 เช่นกัน จากการติดเชื้อดังกล่าวได้

แพร่ระบาดไปยังแรงงานต่างชาติหลบหนีเข้าเมืองท่ี
อยู่ภายในสถานที่กักกัน ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อของ
จงั หวัดสงขลาเพิ่มสงู ขน้ึ อยา่ งรวดเร็ว

24

มาตรการเฝา้ ระวัง

มาตรการเรง่ ด่วน คุมเข้มปอ้ งกันการติดตอ่ COVID-19
1. ปดิ สถานทีท่ ่เี สี่ยงต่อการเผยแพร่ระบาดทมี่ ีคนแออัด เช่น สนามมวย สนามกีฬา สระว่ายน้ำ สนาม
เดก็ เลน่ สวนสนกุ สนามชนโค ชนไก่ กัดปลา ฟิตเนส โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ รา้ นสปา ร้านนวด รา้ นเกมส์
2. หน่วยงานราชการและภาคเอกชน ให้งดหรือเลื่อนการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชน
ตง้ั แต่ 50 คนขึน้ ไป
3. สถานที่ทำงานให้ลดความแออดั เหล่อื มเวลาทำงาน นั่งหา่ งกัน 1 เมตรและคัดกรองบุคคลภายนอก
เน้นการทำงาน แบบ Work From Home
4. สถานท่ีทีป่ ระชาชนให้บริการจำนวนมาก ใหด้ ำเนนิ การตามมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
อย่างเครง่ ครัด
5. งดการเรยี นการสอนของสถาบนั การศึกษาหรือปรับวิธีการเรยี นเป็นทางออนไลน์
6. กิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรม ใหแ้ ตล่ ะศาสนาดำเนินการดงั นี้

ศาสนาพุทธ ให้ดำเนินการตามประกาศเจ้าคณะจังหวัดสงขลา
ศาสนาอสิ ลาม ให้ดำเนินการการแถลงการณ์สำนกั จฬุ าราชมนตรี
ศาสนาอื่น ๆ ให้จัดกิจกรรมหรือพิธีกรรมทางศาสนาให้เป็นไปตามมาตรการการป้องกันของ
กระทรวงสาธารณสขุ อย่างเครง่ ครัด
7. ระบบขนส่งสาธารณะ ให้คัดกรองผู้โดยสาร พนักงานและผู้โดยสารใส่หน้ากากอนามัยและเพิ่ม
ความถข่ี องการเดนิ รถ
8. ปิดช่องทางเขา้ ออกดา่ นควบคมุ โรคตดิ ต่อระหวา่ งประเทศ ท่าอากาศยาน พรมแดน ทา่ เรือ ดังน้ี
- ปิดช่องทางเข้า-ออก ท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่
- ปิดช่องทางเข้า-ออก
ทา่ เรือนำ้ ลึกสงขลา
- ปิดช่องทางเข้า-ออก จุด
ผ่านแดนถาวรด่านบ้านประกอบ อำเภอนาทวี
- ปิดช่องทางเข้า-ออก จุด
ผ่านแดนถาวรดา่ นสะเดา อำเภอสะเดา
- ปิดช่องทางเข้า-ออก จุด
ผา่ นแดนถาวรดา่ นปาดงั เบซาร์ อำเภอสะเดา
9. ขอความร่วมมือให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ ที่ทางจังหวัดได้ออกประกาศไปอย่าง
เครง่ ครดั และจรงิ จงั เพ่ือควบคมุ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 อย่างต่อเนือ่ งต่อไป รวมทั้ง
การปฏิบตั ิตัวในสว่ นบคุ คลในการป้องกนั ฯไดแ้ ก่
- การเว้นระยะหา่ งทางสงั คม ไมน่ อ้ ยกว่า 2 เมตร
- การสวมหนา้ กากอนามยั หรอื หน้ากากผ้าป้องกนั

25

- การหลกี เลย่ี งการสมั ผัสในจุดทีใ่ ชร้ ว่ มกนั เชน่ ลกู ปิดประตปู ่มุ กดลฟิ ท์ ราวบนั ได เป็นตน้
- การล้างมอื ด้วยนำ้ และสบู่บ่อยๆ หรอื ลา้ งด้วยเจอแอลกอฮอล์
- การหลีกเลยี่ งการนำมือมาสมั ผัสปาก จมูก และตา
- การไม่รวมกล่มุ จำนวนมากในการทำกจิ กรรมรว่ มกัน และไมเ่ ขา้ ไปในสถานทแี่ ออัด
- การหมั่นทำความสะอาดพื้นผิวด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือ แอลกอฮอล์ 70 % ในจุดสัมผัสร่วมกันหรือ
พ้นื ท่ีสาธารณะอยา่ งสม่ำเสมอ
นอกจากนี้จังหวัดสงขลา ดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่บุคลากรในสังกัด ประชาชน
ผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับสถานการณ์การป้องกันและดูแลตนเอง พร้อมขอความร่วมมือในการ
สรา้ งระยะหา่ งระหวา่ งบุคคล (Social Distancing) คือ
1. การพกั ผ่อนอยูบ่ ้าน การออกนอกบ้านให้นอ้ ยท่ีสดุ
2. สรา้ งจติ สำนกึ ใหท้ ุกคนตอ้ งมีส่วนรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม สร้างการรับรตู้ ามคำสัง่ ประกาศของทาง
ราชการ
3. กําหนดแผนและดำเนินการทำความสะอาดสำนักงาน สถานที่ราชการ สถานที่ให้บริการประชาชน
สถานทส่ี าธารณะท่ีประชาชนใช้บรกิ ารจำนวนมาก
4. การจดั เตรียมจดั หาเคร่ืองมือ อุปกรณ์ ท่ีจำเปน็ ต่อการปอ้ งกัน ควบคุม
5. การระงบั โรคสำหรับบุคลากรผูป้ ฏบิ ตั งิ าน รวมถงึ เครื่องมอื อุปกรณ์ท่ใี ชใ้ นการทำความสะอาดใน
ระยะเรง่ ด่วนและระยะต่อเนื่อง
6. การเตรียมความพร้อมด้านบคุ ลากรใหม้ ีความรู้ในการปฏิบัติ พรอ้ มสนบั สนนุ การปฏิบัติภารกจิ
รว่ มกับหน่วยงานอนื่ ในพื้นที่
7. การสนบั สนุนการตัง้ จุดสกัด เฝ้าระวงั โรค ท้ังบคุ ลากร วัสดอุ ุปกรณ์ตา่ ง ๆ
8. สำรวจสถานท่ีกกั กัน หรือควบคุมโรค หรือโรงพยาบาลสนาม และเตรียมอุปกรณ์ตา่ ง ๆให้พร้อมใช้
งานหากมีความจำเป็น เตรียมรถยนต์ส่วนกลางกรณีส่งตัวผู้เฝ้าระวังและสังเกตอาการหรือผู้เข้าข่ายติดเชื้อไป
โรงพยาบาล ทพี่ กั หรือท่กี ักกัน
9. สำรวจการขึ้นทะเบียนผู้ประสงค์จะ
ทำงานในพื้นท่ี ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือ
ท้องถน่ิ จ้างงานเอง
10. การดูแลกลุ่มเปราะบางหรือกลุ่มที่มี
ความเสี่ยงสงู ต่อการตดิ เชื้อ เชน่ ผ้สู ูงอายตุ ัง้ แต่ 70 ปี
ขึ้นไป กลุม่ คนทม่ี โี รคประจำตวั และกลุ่มเด็กตำ่ กวา่ 5
ปีลงมา ตลอดจนเร่งจัดการผลิตหน้ากากผ้าและ
แจกจ่ายตามเป้าหมายให้แล้วเสร็จตามกำหนด
โดยเรว็

26

มาตรการควบคมุ และป้องกัน

1. การตรวจคดั กรองท่ดี า่ นตรวจ 4 จดุ ประกอบด้วย ดา่ นตรวจควนมดี อำเภอจะนะ จุดบริการตำรวจ
ทางหลวง อำเภอรัตภูมิ ดา่ นตรวจบา้ นรบั แพรก อำเภอระโนด และด่านตรวจบ้านโต้นนท์ อำเภอนาทวีต่อมามี
ผ้ตู ิดเชอ้ื เพม่ิ สงู ข้นึ จึงได้มีคำสั่งใหเ้ พ่ิมจุดตรวจคัดกรองโควิด 19 เพิ่มข้นึ อีก 10 จดุ ครอบคลุมพ้ืนที่ท้ังถนนสาย
หลักและถนนสายรองที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดและระหว่างอำเภอทั้งเขตรอยต่อ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง
ปตั ตานี และยะลา เพื่อปอ้ งกนั การแพร่ระบาดของโควดิ 19

2. ตรวจเข้มรับคนไทยที่ตกค้างในประเทศมาเลเซีย ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา ด่านตรวจคนเขา้
เมืองปาดังเบซาร์ ด่านตรวจคนเข้าเมืองประกอบ โดยทาง
เจ้าหน้าที่จะทำการคัดกรองทุกขั้นตอนอย่างละเอียด
ตั้งแต่

- การวัดอุณหภูมิ การซักประวัติ การคดั แยก การ
เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล โดยขอความร่วมมือผู้ที่
เดินทางกลับเข้ามาให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
อย่างเคร่งครดั เพื่อปอ้ งกนั และควบคมุ การแพรร่ ะบาดของ
เช้อื ไวรัส COVID-19

- หลงั จากผ่านการคัดกรองคนทีม่ อี าการปกติ จะสง่ ไปกกั ตวั ในสถานกกั กันอำเภอตา่ ง ๆ ตามภมู ิลำเนา
ส่วนกลุ่มผู้ทีม่ ีภูมิลำเนาในพื้นทีจ่ ังหวัดสตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส จะส่งไปกักตัวตามสถานกักกันตัวแต่
ละจังหวัดส่วนคนที่อยู่ต่างภูมิภาคและต้องเดินทางไกลจะเข้ารับการกักตัวที่โรงแรมเอ็มโซโห ( M SOHO)
อำเภอสะเดา กอ่ น 14 วันเพอ่ื สงั เกตอาการ

- หากพบผู้ที่มีอาการหรือสงสัยก็จะนำตัวมาตรวจที่โรงพยาบาลสะเดาทันที ซึ่งได้มีการจัดเตรียมชุด
ปฏบิ ตั ิการณแ์ ละทมี แพทยพ์ ยาบาลไวพ้ ร้อมแลว้

- ส่วนผู้ถูกกักตัวโรงแรมเอ็มโซโห ด่านนอก(M SOHO DANOK) อำเภอสะเดา ได้มีการจัดทีมแพทย์
จิตแพทย์พยาบาลดูแลและโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ได้อบรมพนักงานโรงแรมที่มีจิตอาสาในการทำงาน
ร่วมกบั ทีมแพทยเ์ นอื่ งจากมีคนไทยเดินทางกลับมาจำนวนมาก จึงไดเ้ พิม่ สถานทีก่ กั กนั อีก 2 แห่งในพน้ื ทอี่ ำเภอ
สะเดา ได้แก่ โรงแรมคงิ ส์พาเลซและโรงแรมควนี ปาร์ค

3. กรณีที่มีผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ทั้งยังเป็นผู้ติดเชื้อโควิด -19 มีการตรวจพบ
ผู้ต้องหาต่างด้าว ที่ถูกจับในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง และถูกควบคุมตัวที่ห้องควบคุมตัว สำนักงานตรวจคนเข้า
เมอื ง อำเภอสะเดา จังหวดั สงขลา จำนวน 42 คน จากทงั้ หมด 115 คน ทำให้จงั หวัดสงขลาเป็นจงั หวัดที่มีผู้ติด
เชื้อสูงสุด 105 คนของจังหวัดชายแดนภาคใต้ แซงหน้าจังหวัดปัตตานี ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาร่วมกับ
สาธารณสุขและศูนย์ควบคุมโรคติดต่อเขต 12 ได้ประชุมเพื่อหาแนวทางในการรักษาพยาบาล เนื่องจากผู้ติด
เชื้อไม่ใช่ชาวบ้านทั่วไปแต่เป็นผู้ต้องหาที่เป็นต่างด้าว และถูกควบคุมตัวในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง มีข้อสรุป
แนวทางในการแก้ปัญหาผู้ต้องหาชาวต่างด้าวทั้ง 42 คน ซึ่งเป็นชาวเมียนมาร์ จำนวน 32 คน เวียดนาม

27

จำนวน 3 คน มาเลเซีย จำนวน 2 คน เยเมน จำนวน 1 คน กัมพูชา จำนวน 1 คน และอินเดีย 1 คน โดย
ดำเนนิ การ

3.1 สง่ ทีมแพทยเ์ ขา้ ไปรักษาอาการปว่ ยภายในสถานท่ีควบคมุ ตัวของตำรวจตรวจคนเขา้ เมือง
3.2 การปรบั สถานทคี่ วบคุมให้เป็นโรงพยาบาลสนาม มีการแยกผ้ตู ้องหาที่ไมม่ ีอาการออกไปกักตัวเพ่ือ
มใิ หป้ ะปนกับผ้ตู ดิ เชอื้ และหากพบว่ามผี ู้ป่วยอาการหนกั จะแยกส่งโรงพยาบาลทเ่ี ตรียมเอาไว้ดงั น้ี

มาตรการรองรับผตู้ ิดเชื้อ/ยับยั้ง
การเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล ในการรองรับผู้ติดเชื้อโรคCOVID-19 โดยจำแนกตามอาการผู้

ตดิ เชื้อท่ีมีอาการหนกั อาการไม่รนุ แรง ตลอดจนรองรบั ผ้ตู ดิ เชือ้ ทมี่ อี าการดขี น้ึ และต้องการพกั ฟ้นื ใหห้ ายขาด
1. โรงพยาบาลสงขลานครินทร์โรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่ และโรงพยาบาลสงขลา เป็นโรงพยาบาลท่ี

เตรียมพรอ้ มสำหรบั การดูแลผปู้ ว่ ยทมี่ อี าการหนักและจำเป็นต้องไดร้ บั การดูแลโดยใชเ้ คร่ืองชว่ ยหายใจ
2. โรงพยาบาลนาหม่อมอำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา จะรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

(COVID-19) ทีอ่ าการไม่รุนแรงเป็นการเฉพาะเพ่ือยกระดบั ความพร้อมในการให้บริการและรองรับสถานการณ์
การแพร่ระบาด ภายใต้ความร่วมมือของโรงพยาบาลหาดใหญ่ โรงพยาบาลนาหม่อม โรงพยาบาลสงขลา
นครินทร์ โรงพยาบาลชมุ ชนทกุ แหง่ ของจงั หวดั สงขลา และโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดสงขลา

3. จัดตงั้ โรงพยาบาลสงขลานครนิ ทร์
สาขา 2 ณ อาคารติณสูลานนท์ ศูนย์บริบาล
ผู้สูงอายุ สวนประวัติศาสตร์ พลเอก เปรม
ติณสูลานนท์ อำเภอเมอื ง จังหวัดสงขลา จาก
ข้อมูลด้านการดูแลผู้ติดเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิด
โรคโควิด – 19 พบว่ามีการแพร่ระบาดไป
อย่างรวดเร็วและผู้ที่ติดเชื้อส่วนหนึ่งจะเป็นผู้
แพรก่ ระจายเช้ือไปส่ผู ู้อ่นื ทง้ั ทีย่ งั ไม่มีอาการ ผู้
ติดเชื้อส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 80 จะมีอาการไม่
หนักสามารถหายเองได้ ซึ่งการกักบริเวณไม่ให้ผู้ติดเชื้อไวรัสมีโอกาสแพร่กระจายไปสู่ผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง
ศนู ยฯ์ นีจ้ ะทำหนา้ ทีร่ องรับผู้ติดเช้ือโควดิ - 19 ท่ีมีอาการดขี ึ้นแลว้ จากโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวดั สงขลา แต่
ยังต้องพกั ฟนื้ ใหห้ ายขาด เพ่ือใหโ้ รงพยาบาลเหลา่ น้นั มเี ตยี งเพียงพอสำหรับผ้ปู ว่ ยโควิด - 19 ที่มีอาการรุนแรง

4. จัดตั้งโรงพยาบาลสนามในศูนย์กักตัวผู้ต้องกัก โดยเปลี่ยนสภาพห้องกักเป็นโรงพยาบาลสนามมี
ระบบที่ได้มาตรฐานเช่นเดียวกับโรงพยาบาล โดยปรับแนวปฏิบัติตามบริบทพื้นที่ ซึ่งเป็นการทำงานประสาน
ความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเจ้าเมือง โดยยึดหลักความปลอดภัย
ของผู้ปฏิบัติงานอย่างเข้มงวด และดูแลผู้ป่วยในหลักมนุษยธรรม ทางทีมแพทย์ได้ดำเนินการตรวจประเมินผู้
เขา้ เกณฑ์ PUI ตรวจหาเชอ้ื คัดแยกผไู้ ม่ติดเชือ้ ออกจากผตู้ ิดเชอื้ จำแนกระดบั ความเสีย่ งของผู้ปว่ ย วางแผนการ
รักษาและการส่งต่อ โดยแต่ละวันจะมีแพทย์ 1 คน พยาบาล 2 คน เพื่อประเมิน ตรวจร่างกายบันทึกผลใน

28

Chart รายวัน วัดไข้ โดยมีล่ามภาษาแต่ละประเทศซึ่งเป็นผู้ต้องขังเช่นกันและนำเครื่องเอกซเรย์ ยาเวชภัณฑ์
เพ่ือไมใ่ ห้เกดิ การเคลื่อนยา้ ยซึง่ เส่ียงต่อการแพร่เช้อื

5. ประสานงานให้โรงพยาบาลเอกชนทกุ แห่งเปิดให้บรกิ ารคลนิ กิ โรคระบบทางเดนิ หายใจ (ARI Clinic)
และจัดเตรยี ม Cohort Ward เพือ่ รองรบั การดูแลผ้ปู ว่ ยโรค COVID-19 ท่ีอาจจะเพ่มิ จำนวนมากขน้ึ

6.จัดตั้ง Local Quarantine ของทุกอำเภอ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับหากมีผู้ที่อยู่
ในกลมุ่ เสี่ยงท่ีตอ้ งเฝ้าระวังในพืน้ ที่ 16 อำเภอของจงั หวดั สงขลา เพ่อื ปอ้ งกนั การแพร่กระจายเช้ือโรคในพื้นท่ีซึ่ง
ได้มีทีมแพทย์ พยาบาลทำการตรวจคดั กรอง และคอยติดตาม เฝ้าดูอาการอยา่ งใกล้ชดิ หากพบว่าผู้ใดมีไข้ จะ
นำไปพกั แยกในจุดทีเ่ ปน็ กลุ่มเส่ียงหรอื กลมุ่ เฝา้ ระวัง เพ่ือรอการนำสง่ ไปยังโรงพยาบาลใกลเ้ คยี ง

มาตรการผ่อนปรน

จากการที่นายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดฉบับที่ 5-6 ออกมา โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม
2563 เป็นต้นไป จังหวัดสงขลาได้จัดการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลาเพื่อพิจารณาการเปิด
สถานที่บางประเภท ตลอดจนมาตรการให้สอดคล้องกับข้อกำหนดทั้ง 2 ฉบับ จะขอสรุปสั้นๆ เพื่อความเข้าใจ
แบบง่ายๆ ดังนี้

1. ร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม
เน้นการจำหน่ายแบบนำไปบริโภคที่อื่น กรณี
บริโภคที่ร้านต้องจัดระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร
ต่อคน

2. กิจการค้าปลีก-ส่ง ห้างสรรพสินค้า
เปิดได้เฉพาะแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ต ยา สินค้า
เบ็ดเตล็ดที่จำเป็น ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสาร
โทรคมนาคม ธนาคาร หน่วยงานของรฐั และรฐั วสิ าหกจิ รา้ นอาหารในหา้ งฯ เปิดได้เฉพาะการนำกลบั ไปบริโภค
ทอ่ี ื่น

3. ตลาด ตลาดนัดให้เปิดดำเนินการ โดยควบคุมทางเข้า-ออก จัดระบบตรวจวัดอุณหภูมิ และเว้น
ระยะหา่ ง จัดให้มเี จลแอลกอฮอลส์ ำหรบั ลา้ งมอื บริเวณทางเข้าตลาด

4. ร้านเสรมิ สวย/ตัดผม เปดิ ให้บรกิ ารไดเ้ ฉพาะการสระ ตัด ซอยหรอื แตง่ ผม และตอ้ งไม่จัดทน่ี งั่ รอ
5. กีฬา/สันทนาการกิจกรรมในสวนสาธารณะ เดิน รำไทเก็ก สนามกีฬากลางแจ้ง ที่ไม่ได้เล่นเป็นทีม
และไมม่ ีการแขง่ ขนั ได้แก่ เทนนสิ ยิงปนื ยงิ ธนู จกั รยาน กอลฟ์ และสนามซอ้ ม
6. สวนสาธารณะ สถานที่ออกกำลังกาย สนามกีฬา ลานกีฬา เปิดได้เฉพาะพื้นที่โลง่ และเพื่อการเดนิ
วงิ่ หรือป่นั จักรยาน โดยเว้นระยะการทำกจิ กรรมอย่างนอ้ ย 2 เมตร
7. การจำหน่ายสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ สามารถกระทำได้เฉพาะการจำหน่าย
ให้นำกลบั บา้ นเท่าน้ัน

29

8. จังหวัดสงขลายังคงมาตรการการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกเคหะสถานให้รักษาระยะห่าง
ทางสังคม งดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตจังหวัดและงดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันเพื่อป้องกันการแพร่
ระบาดของโรค COVID-19

ปัจจยั ความสำเร็จ

1. การขับเคลื่อนการดำเนินงานของผู้ว่าราชการจังหวัด สาธารณสุขจังหวัดรวมถึงบุคลากรทาง
การแพทย์ของทั้ง 3จังหวัดโดยมีศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกอ.รมน.ภาค 4
ส่วนหน้าทำหน้าที่หน่วยงานกลางในการบูรณาการและเติมเต็มช่องว่าง ต่างก็ได้ออกปฏิบัติการและวาง
มาตรการต่าง ๆ พร้อมเดินหน้าสร้างความเข้าใจกับผูน้ ำศาสนาในพื้นที่อย่างเต็มที่เพื่อควบคุมสถานการณ์การ
แพรร่ ะบาดของโรคกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ โดยเฉพาะมีการประกาศ “ล็อกดาวน์” หรือออกคำสั่งปิด
พื้นที่ทั้งจังหวัดกันไปอย่างครบถ้วน และ “ปิดล็อก” ในระดับชุมชนและหมู่บ้านในหลายพื้นที่ พร้อมกำชับให้
ฝ่ายปฏิบัติการจริงจังในการทำหน้าที่ รวมถึงมีการประกาศให้ทุกคนที่ออกจากเคหสถานต้องสวมหน้ากาก
อนามยั หา้ มขายเหล้าเบยี ร์และเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ตามมาตรการเคอรฟ์ ิวจากการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ของศูนย์
บริหารสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)

2. การใชอ้ ำนาจฝ่ายปกครองควบคู่ไปวธิ จี ัดการทางการแพทย์โดยการชว่ ยเหลือและสนับสนุนจากคน
ในชุมชน และที่สำคัญคือการเผยแพร่และสื่อสารหลักการทางศาสนาอิสลามในการปฏิบัติตนในชุมชนภายใต้
สถานการณ์ที่ไม่ปกติทั้งกลุ่มทั่วไป กลุ่มคนที่ถูกกักตัว และญาติมิตร โดยให้ชุมชนเข้ามามีส่วนรว่ ม จนนำมาสู่
“ข้อตกลงร่วมกันของพื้นที่” อาทิ ให้ทุกมัสยิดเปิดให้คนเข้าละหมาดได้ไม่เกิน 3 คน มีการเชิญชวนทุกคน
ละหมาดท่บี ้าน หา้ มเยาวชนเล่นฟุตบอลหรือกจิ กรรมที่มีการรวมตัวกันหลายๆ คน ห้ามน่ังหรอื ด่ืมน้ำชาในร้าน
โดยเบือ้ งตน้ ขอ้ ตกลงน้ีจะมีผล 14 วัน แต่อาจมีการเพม่ิ ระยะเวลาไปตามสถานการณ์

3. การดำเนินการป้องกันโรคของผู้ติดเชื้อไม่มีเพิ่ม เป็นเพราะการทำงานอย่างหนักของบุคลากรทาง
สาธารณสุขและทกุ ฝ่าย ตลอดจนการใหค้ วามร่วมมอื ของคนในพนื้ ที เร่ิมต้ังแต่

1. มาตรการคัดกรอง และการรับมือผู้
กลบั จากต่างประเทศ พน้ื ท่ีเสี่ยง

2. การจัดเตรียมสถานที่กักกันตัว Local
quarantine

3. การรักษาผู้ติดเชื้อให้หายส่งตัวกลับ
บา้ นแลว้ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง

4. ความร่วมมือของประชาชนในเรื่อง
มาตรการป้องกันตนเอง การเว้นระยะห่าง การร่วมมือของ
รา้ นคา้ ธนาคาร ตลาด รวมทัง้ สถานทสี่ าธารณะตา่ ง ๆ

30

5. การควบคุมการเดินทางเข้าออกข้ามจังหวัด การคัดกรองที่ด่านข้ามเขตจังหวัด มีการวาง
มาตรการปอ้ งกนั เป็นอยา่ งดี

6. ความร่วมมือของพี่น้องไทยพุทธในการงดจัดวันพิธีกรรมสำคัญทางศาสนา และพี่น้องชาว
มุสลมิ ทร่ี ่วมมือตามแนวทางของสำนกั จุฬาราชมนตรี ใหห้ ยุดปฏิบตั ิตามศาสนกจิ ในมสั ยิด

31

คณะท่ปี รึกษา คณะผจู้ ัดทำ
นางสาวสุภาภรณ์ ณ นคร
นายวรวิทย์ โพธ์ิขาว ผ้อู ำนวยการสำนักงานส่งเสรมิ และสนับสนุนวิชาการ 11
นกั พฒั นาสงั คมชำนาญการพเิ ศษ

คณะผู้จดั ทำ นกั พฒั นาสังคมชำนาญการ
นางสาวพิมานมาศ สวุ รรณ นกั พฒั นาสังคมชำนาญการ
นางสาวบงกช บุณยะศวิ ะ นักพัฒนาสังคมชำนาญการ
นางสาวศลี ยิ า สุขอนนั ต์ นกั พัฒนาสังคม
วา่ ที่ ร.ต.หญิง ณัฐณิชา บษุ บา นักพัฒนาสงั คม
นางสาวรอบีอะห์ ยานยา


Click to View FlipBook Version