SONGKHLA ศุนย์ต้นแบบการฟื้นฟูพัฒนา ศักยภาพและพึ่งตนเอง TRUST MODEL พัฒนา เพื่อการแบ่งปัน ที่ยิ่งใหญ่ KNOWLEDGE MANAGEMENT ที่รัก ที่พักใจ : ส า นั ก ง าน ส่ ง เส ริ มแ ละ สนั บสนุน วิช าการ 1 1 : ก ร ะ ท ว ง กา ร พัฒน าสัง ค มแ ล ะ ความ มั่น ค ง ของ ม นุษ ย์
พัฒนา… เพื่อการแบ่งปัน ที่ยิ่งใหญ่ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา “กลุ่มเป้าหมายได้รับการคุ้มครอง พัฒนา สู่การพึ่งพาตนเอง”
ค าน า ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา เป็นหน่วยงานสังกัดกรมพัฒนาสังคมและ สวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มีภารกิจในการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบปัญหาทางสังคม เพื่อเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองชั่วคราว พร้อมสนับสนุนให้ผู้ใช้บริการ ได้เข้าถึงสวัสดิการพื้นฐาน มีการพัฒนาจนพึ่งพาตนเองได้ จากความรู้สึก ที่อยากให้ผู้รับบริการมีที่ "พักกาย พักใจ“ ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ อย่างน้อยก็ได้ผ่อนคลายจากปัญหาที่เขาพบเจอ ประโยคสั้นๆ จากความรู้สึก เป็นจุดเริ่มต้น ของ “แนวคิด เศรษฐกิจพอเพียง” ที่น ามาเป็นแนวทางหลัก โดยยึดสิ่งส าคัญก็คือความพอเพียง ในการด ารงชีวิต ซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่ท าให้คนไทยสามารถพึ่งตนเอง และด าเนินชีวิตไปได้ อย่างมีศักดิ์ศรีจึงเป็นที่มาของ โครงการ Songkhla Trust Model ที่รัก ที่พักใจ ศูนย์ต้นแบบ การฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพและพึ่งตนเอง เป็นการท าการเกษตรแบบพื้นบ้าน โดยการน าหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้กับผู้รับบริการ เพื่อช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกาย จิตใจ ให้กับผู้รับบริการ ตลอดจนการเข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมสนับสนุน ดูแล จากภาคีเครือข่าย ทุกภาคส่วน จากการให้โอกาส ท าให้ผู้รับบริการสามารถพัฒนาตัวเอง ปรับพฤติกรรม อยู่ร่วมกับ ผู้อื่นได้ และสามารถออกไปใช้ชีวิตในสังคมได้ ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 จึงรวบรวมและสกัดเป็นองค์ความรู้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานทั้งภายในและภายนอก ตลอดจนผู้ที่สนใจหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางในการด าเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประสบปัญหาทางสังคม และเป็น แนวปฏิบัติในการด ารงชีวิต ในการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน คณะผู้จัดท า ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 มีนาคม 2566
สารบัญ หน้า สารจาก...ผอ.กระต่าย (นางณิชาพัชฌ์เพ็ชร์พันธุ์) ผอ.สสว.11 .................................... ก ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา บทบาท ภารกิจ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา .......................................... 1 เปิด...เส้นทาง สู่การพัฒนา ..................................................................................... 6 กระบวนการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพผู้รับบริการ ..............................................................7 ขั้นตอนกระบวนการ ............................................................................................... 8 โครงการ Songkhla Trust Model ที่รัก ที่พักใจ ศูนย์ต้นแบบ การฟื้นฟู พัฒนาศักยภาพและพึ่งตนเอง ....................................................................................... 9 คนต้นเรื่อง “แนวคิดและที่มา” ............................................................................. 10 การมีส่วนรวมของภาคีเครือข่าย .............................................................................12 ความร่วมมือจากภาคธุรกิจในการจ้างงาน.............................................................. 13 เรื่องเล่า…คนท างาน …………………………………………………………….………...........……….... 14 การประเมินศักยภาพผู้รับบริการเพื่อให้การช่วยเหลือ.......................................... 15 การขจัดผลกระทบทางลบที่อาจจะเกิดขึ้น ............................................................ 15 ผลลัพธ์ที่ส าคัญจากการด าเนินโครงการ ................................................................ 16 จากเรื่องเล่า...สู่เรื่องจริง ............................................................................................... 17 กิจกรรมภายใต้โครงการ Songkhla Trust Model ที่รัก ที่พักใจ ................................18 ภาพกิจกรรม ...........................................................................................................19 หยิบ...มาเล่า .......................................................................................................... 22 ตัวอย่าง แบบฉบับที่ดีต่อสังคม และรางวัลความภูมิใจ ที่ได้รับ ..................................... 27 เรื่อง...ส่งท้าย.................................................................................................................. 28 โครงการ Songkhla Trust Model .............................................................................. 30
สารจาก…ผอ.กระต่าย Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” ก นางณิชาพัชฌ์เพ็ชรพันธุ์ ผอ.สสว.11 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีเป้าหมาย การพัฒนา คือ การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น โดยท าให้คน ในกลุ่มที่ต่ ากว่าสามารถเลื่อนไหลขยับชั้นทางสังคม (Social Mobility) ได้นั้น คือ ขยับจากกลุ่ม Suffered เป็นกลุ่ม Survived ขยับจากกลุ่ม Survived เป็น กลุ่ม Sufficient และขยับจากกลุ่ม Sufficient เป็นกลุ่ม Sustained ในที่สุด รวมถึงต้องหาทาง ป้องกันไม่ให้เกิดการตกชั้นทางสังคม และหาทางช่วยเหลือเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 เล็งเห็นถึงความส าคัญของการพัฒนา เพื่อ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ในมิติต่างๆ ทั้ง มิติด้านการศึกษา รายได้ ที่อยู่อาศัย สุขภาพ และการเข้าถึงบริการภาครัฐ ซึ่งการพัฒนาที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะส่งผลให้คุณภาพของประชาชน โดยรวมดีขึ้น แต่ยังคงมีประชาชนบางกลุ่ม ที่ยังคงประสบปัญหา ต้องเผชิญกับภาวะเสี่ยงที่แตกต่างกัน และความยากจน ยังคงท าให้เกิดความเหลื่อมล้ าทางสังคม ในความเหลื่อมล้ านั้นยังคงมีความส าเร็จ ในการพัฒนาที่สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ประสบปัญหาทางสังคมยังคงมีให้เห็น เช่น เราดูแล ผู้ประสบปัญหาทางสังคมที่เข้ารับบริการในช่วงระยะหนึ่ง จนผู้รับบริการสามารถออกไปใช้ชีวิต โดยพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว มีรายได้ มีงานท า มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในทางที่ดี สุขภาพกาย สุขภาพจิต ดีขึ้นตามล าดับ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจ และควรหยิบยกเอามาเป็นแบบอย่างในการพัฒนา วันนี้ สสว.11 ได้ถอดบทเรียนองค์ความรู้ “ต้นแบบ” การพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่ม เป้าหมายในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา ตั้งแต่แรกรับผู้ประสบปัญหาทางสังคม เข้าสู่ กระบวนการคุ้มครองสวัสดิภาพ และให้การช่วยเหลือตามกระบวนการสังคมสงเคราะห์ ได้รับการฟื้นฟู การพัฒนาศักยภาพ มีเครือข่ายเข้ามาร่วมส่งเสริม พัฒนา จนผู้รับบริการสามารถออกไปใช้ชีวิต ในสังคมได้โดยการพึ่งพาตนเอง และเป็นที่ยอมรับของสังคม ผอ.หวังเป็นอย่างยิ่งว่า องค์ความรู้ที่จัดท าขึ้นมานี้ จะท าให้หน่วยงาน ภาคีเครือข่าย ที่มี ภารกิจเหมือนหรือคล้ายกัน ได้น าแนวทางในการพัฒนาศักยภาพกลุ่มเป้าหมาย ของศูนย์คุ้มครองฯ ไปเป็นแนวทางในการดูแล พัฒนาผู้ประสบปัญหาทางสังคม เพื่อให้เขามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและพึ่งพา ตนเองได้อย่างยั่งยืนต่อไป
การช่วยเหลือคนอื่น “ท าให้เรามีความสุข” สังคมเราพัฒนาได้ถ้าทุกคนช่วยเหลือกัน และรางวัลเบื้องต้นที่จูงใจให้ทุกคนช่วยเหลือคนอื่นก็คือ “ความสุขจากการให้”
ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา (ศคพ.สงขลา) เดิมชื่อ “บ้านมิตรไมตรีสงขลา” จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2558 และประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงวันที่ 23 เมษายน 2558 สังกัดกองคุ้มครองสวัสดิภาพและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต กรมพัฒนา สังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงขอมนุษย์ มีบทบาทภารกิจให้ การช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายตามที่ก าหนดไว้ในพระราชบัญญัติการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ.2557 และพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 ประกอบด้วย 1. บุคคลที่กระท าการขอทาน 2. คนไร้ที่พึ่งซึ่งหมายถึง คนยากจนและไม่มีที่อยู่อาศัย 3. กลุ่มบุคคลผู้อยู่ในภาวะยากล าบาก ซึ่งคณะกรรมการคนไร้ที่พึ่งแห่งชาติ จักเป็นผู้ก าหนดและออกประกาศ โดยด าเนินงานตามกรอบการด าเนินงาน 4P ประกอบด้วย 1. Protection - ด้านการคุ้มครอง 2. Prevention - ด้านการป้องกัน 3. Partnership - ด้านการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย 4. Policy - ด้านนโยบาย Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 1 ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา
ด้านการคุ้มครอง (Protection) 1. รับแจ้งเหตุและประสานหน่วยงาน ทั้งภายใน ภายนอกองค์กร ในการปฏิบัติ ตาม พ.ร.บ. การคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง พ.ศ.2557 และ พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 2. ส ารวจและสืบเสาะข้อมูลที่เกี่ยวกับคนไร้ที่พึ่งที่ขอรับการคุ้มครอง หรือที่ถูกส่งตัวมายัง ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง และให้การคุ้มครองในเบื้องต้น โดยการประเมินสภาพปัญหา วางแผนการ ให้ความช่วยเหลือให้สอดคล้องกับความต้องการ และความจ าเป็นขั้นพื้นฐาน รวมทั้งบ าบัดฟื้นฟู เบื้องต้น ภายใต้การมีส่วนร่วมของทีมสหวิชาชีพ ครอบครัว และชุมชน 3. ประสานงานเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการของคนไร้ที่พึ่ง ไปยังหน่วยงาน ที่มี กฎหมายเฉพาะ รวมถึงให้การคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งตามที่สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งมอบหมาย หรือตามที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งเห็นสมควร ทั้งนี้มีกระบวนการท างานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเป้าหมายให้สามารถอยู่ร่วมกับครอบครัวและชุมชนได้ 4. คัดกรองผู้กระท าความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 โดยการประเมิน สภาพปัญหา วางแผนการให้ความช่วยเหลือให้สอดคล้องกับความต้องการและความจ าเป็นขั้น พื้นฐาน ก่อนประสานส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 5. เตรียมความพร้อมและเสริมสร้างทักษะชีวิตกลุ่มเป้าหมาย ครอบครัว และชุมชน ก่อน คืนสู่ครอบครัว 6. ติดตาม และประเมินผลคนไร้ที่พึ่ง และผู้กระท าการขอทานที่กลับคืนสู่ครอบครัวและ ชุมชน Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 2
ด้านการป้องกัน (Prevention) 1. ส ารวจและติดตามสภาพปัญหาเกี่ยวกับประชาชน กลุ่มเสี่ยง และบุคคลที่อยู่ในสภาวะยากล าบาก กลายเป็นบุคคล ไร้ที่พึ่งหรือเข้าสู่วิถีการขอทาน ตลอดจนให้การช่วยเหลือตามสภาพ ปัญหาความต้องการจ าเป็น รวมทั้งบ าบัดฟื้นฟูเบื้องต้นภายใต้ การมีส่วนร่วมของครอบครัวชุมชน 2. ด าเนินมาตรการเชิงรุกในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อ ป้องกันมิให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและบุคคลที่อยู่ในสภาวะยากล าบาก กลายเป็นบุคคลไร้ที่พึ่งหรือเข้าสู่วิถีการขอทาน 3. ให้ค าปรึกษา แนะน า และช่วยเหลือประชาชนกลุ่ม เสี่ยง และบุคคลที่อยู่ในสภาวะยากล าบากกลายเป็นบุคคลไร้ที่พึ่ง หรือเข้าสู่วิถีการขอทาน ด้านการด ารงชีวิต สิทธิตามกฎหมายหรือ ด้านอื่น เพื่อให้สามารถด ารงชีวิต อยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุข เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป 4. เป็นศูนย์เรียนรู้ในการพัฒนาและจัดสวัสดิการส าหรับ คนไร้ที่พึ่งและผู้กระท าการขอทานให้แก่บุคคลทั่วไป องค์กรภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน และภาคประชาสังคม 5. ประชาสัมพันธ์สร้างความรู้ความเข้าใจแก่ครอบครัว ชุมชน สังคม ในการตระหนักถึงปัญหาคนไร้ที่พึ่ง และผู้กระท า การขอทานในพื้นที่ ด้านการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย (Partnership) 1. สนับสนุนหน่วยงานของรัฐ องค์กรสาธารณะประโยชน์องค์กรสวัสดิการชุมชน องค์กรภาคเอกชนอื่นสถาบันศาสนา กลุ่มคนไร้ที่พึ่ง หรือกลุ่มบุคคลให้มีการด าเนินการในลักษณะ เดียวกับศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 2. ส่งเสริมสนับสนุนครอบครัว ชุมชน ท้องถิ่น และเครือข่าย ให้มีส่วนร่วมหรือ ด าเนินการเพื่อป้องกันคุ้มครองช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเสี่ยง บุคคลที่อยู่ในสภาวะยากล าบากและ มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาคนไร้ที่พึ่งและผู้กระท าการขอทาน Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 3
ด้านนโยบาย (Policy) 1. ด าเนินงานตามนโยบายแห่งรัฐ 2. ก าหนดนโยบายและมาตรการเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ในลักษณะประชารัฐ เช่น การรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ การก าหนด มาตรการในการจัดสวัสดิการทั้งในระดับพื้นที่จังหวัด กลุ่มจังหวัด และภาพรวมของประเทศ ส าหรับกลุ่มเป้าหมาย และจัดท าข้อมูลสารสนเทศ เพื่อเป็นข้อมูล ประกอบการวางแผน การด าเนินงาน “กลุ่มเป้าหมายได้รับการคุ้มครอง พัฒนา สู่การพึ่งพาตนเอง” Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 4
ปีงบประมาณ จ านวนผู้รับบริการ (ราย) 2559 181 2560 196 2561 171 2562 134 2563 194 2564 118 2565 94 ต.ค.65 – มีนาคม 66 76 การฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพ ผู้อยู่ในสภาวะยากล าบาก คนเร่ร่อน ไร้ที่พึ่ง คนขอทาน คนพิการ ผู้ติดเชื้อเอดส์ผู้ป่วยจิตเวชสิ้นสุดกระบวนการรักษา ผู้ประสบปัญหาทางสังคม ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัด สงขลา ในการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย ตามที่ก าหนดไว้ในพระราชบัญญัติการคุ้มครอง คนไร้ที่พึ่ง พ.ศ.2557 และพระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 รวมทั้งกลุ่มผู้ประสบ ปัญหาทางสังคมในพื้นที่ 16 อ าเภอของจังหวัดสงขลา ในปีงบประมาณ 2559-2566 ศูนย์คุ้มครอง คนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา มีสถิติผู้รับบริการภายใน ดังนี้.- ซึ่งผู้รับบริการกลุ่มดังกล่าว เป็นผู้ประสบปัญหาทางสังคม เร่ร่อน ไร้ที่พึ่ง ใช้พื้นที่ สาธารณะเป็นที่พักอาศัยหลับนอน ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง นอกจากไม่มีที่อยู่อาศัยแล้ว ยังประสบปัญหาเรื่องรายได้จากกรณีตัวอย่างลูกเรือประมงที่ถูกเลิก จ้างงาน ไม่มีเงิน ติดตัว ไม่มี ที่พักอาศัย ไม่มีครอบครัว ซึ่งอยู่ในสภาพท้อแท้ในการด าเนินชีวิต ตกอยู่ในภาวะเสี่ยง ต่อการเป็น โรคซึมเศร้า ทางศูนย์คุ้มครองฯ จึงมีความจ าเป็นต้องฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพผู้รับบริการ ระหว่าง เข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ ซึ่งเดิมเป็นหนึ่งในกระบวนการฟื้นฟูสุขภาพกายและสุขภาพจิต ร่วมกับการน าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ใช้ในการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพ คนเร่ร่อน ไร้ที่พึ่ง คนขอทาน คนพิการ ผู้ติดเชื้อเอดส์ผู้ป่วยจิตเวชสิ้นสุดการรักษา ผู้ประสบปัญหาทางสังคมในพื้นที่ Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 5
จังหวัดสงขลา ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559-2563 จนกระทั่งช่วงสถานการณ์ โรคระบาดโควิด-19 จึงเกิดแนวคิดรูปแบบใหม่ เพื่อแบ่งปันผลผลิตสวนผักโควิด-19 ให้ผู้ประสบปัญหาทางสังคม ทั้งภายในและภายนอก เปิด... เ ส้ น ท า ง สู่ ก า ร พั ฒ น า Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 6 จากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ท าให้มีผู้ประสบปัญหาทางสังคม จ านวนเพิ่ม มากขึ้น และไม่สามารถเดินทางกลับภูมิล าเนาบ้านเกิดของตนเองได้ จึงมีความจ าเป็นต้องเข้ารับ การคุ้มครองชั่วคราวภายใน ศคพ.สงขลา ซึ่งระหว่างเข้ารับบริการ ท าให้ผู้รับบริการบางราย เกิดความเครียด ความวิตกกังวล เกี่ยวกับสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 ดังนั้น เพื่อลดความตึงเครียดให้น้อยลง และเป็นการฟื้นฟูสุขภาพกาย สุขภาพจิต ทาง ศคพ.สงขลา จึงได้จัดกิจกรรมให้ผู้รับบริการมีส่วนร่วมในการปลูกผัก เนื่องด้วยขณะนั้น ศคพ. สงขลา มียอดผู้เข้ารับบริการสูงสุด ในช่วงสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 แต่ด้วยสถานที่ และ จ านวนห้องพักที่มีอย่างจ ากัด รองรับผู้รับบริการได้เพียง 10 ราย อีกทั้งยังไม่มีห้องพักที่เป็นสัดส่วน ที่ใช้ส าหรับกักตัวผู้รับบริการรายใหม่อย่างชัดเจน ซึ่งมีความเสี่ยงในการติดเชื้อต่อเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานและผู้รับบริการเดิมรวมถึงค่าอาหารของผู้รับบริการที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นซึ่งถือได้ว่า เป็นการเบิกจ่ายค่าอาหารสูงที่สุดของหน่วยงาน จึงได้ต่อยอดความคิดจากกิจกรรมการปลูกผัก สวนครัว ซึ่งเดิมเป็นหนึ่งในกระบวนการฟื้นฟูสุขภาพกายและสุขภาพจิต ให้กับผู้รับบริการ ให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ซึ่งทาง ศคพ.สงขลา ยังมีที่ดินว่างด้านหลังส านักงานฯ ซึ่งยังใช้ ประโยชน์ไม่เต็มพื้นที่ จึงได้น า “แนวคิด เศรษฐกิจพอเพียง”มาเป็นแนวทางหลัก โดยยึดสิ่งส าคัญ ก็คือ “ความพอเพียงในการด ารงชีวิต” ซึ่งเป็นเงื่อนไข พื้นฐานที่ท าให้คนไทยสามารถพึ่งตนเองและ ด าเนินชีวิต ไปได้อย่างมีศักดิ์ศรีจึงเป็นจุดเริ่มต้น ของ ไว้ รับประทาน เอง 10% บริจาค 30% ขาย 60% สร้างรายได้ ให้ผู้รับบริการ ปรุงอาหารให้ ผู้รับบริการ ภายใน ศคพ.สข โครงการ “ปิ่นโตตุ้มตุ้ย” “ตู้ปันสุข” บริเวณ ชุมชนรถไฟ ชุมชนรัถการ ชุมชนแยกโรงปูน ชุมชนศรีนิล ฯลฯ “สวนผักโควิด-19"
กระบวนการฟื้นฟู พัฒนาศักยภาพผู้รับบริการ ระหว่างเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ ปีงบประมาณ 2559-2563 ให้ผู้รับบริการปฏิบัติกิจวัตรประวัน กิจกรรมปลูกผักสวนครัว “สวนผักโควิด-19” Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 7
ขั้นตอน/กระบวนการ ก่อน (2559) หลังการปรับปรุง (2563) 1. ส ารวจความต้องการ 2. วางแผนปรับพื้นที่ 3. ปรับพื้นที่ 4. จัดเตรียมอุปกรณ์(เตรียมแปลงผัก ดิน ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์พืช) 5. ลงพันธุ์ผักตามโซนที่จัดเตรียมพื้นที่ 6. ดูแลผักตามระยะเวลา 7. เก็บเกี่ยวผลผลิต 8. น ามาปรุงอาหารเพื่อบริโภคภายในศูนย์ฯ 1. ส ารวจความต้องการและประเมินศักยภาพ ของผู้รับบริการแต่ละราย 2. มอบหมายงานตามศักยภาพของผู้รับบริการ 3. วางแผนแปลงผัก 3 โซน สั้นได้แก่1) ผักระยะ 2) ผักระยะกลาง 3) ผักระยะยาว 4. ปรับพื้นที่ 5. จัดเตรียมอุปกรณ์ (เตรียมดิน, แปลงผัก, ปุ๋ยหมักชีวภาพ, เมล็ดพันธุ์พืช) 6. จัดวางระบบน้ าให้เพียงพอ 7. วางระบบนิเวศเพื่อเลี้ยงปลา, ไก่, เป็ด, ร่วมกับการปลูกผักและไม้ผล 8. ดูแลผักตามระยะเวลา 9. น ามาปรุงอาหารเพื่อบริโภคภายในศูนย์ฯ 10. น าไปบริจาค 11. น าขายสู่ตลาดเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ ผู้รับบริการ โดยผลผลิตที่ได้แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 ให้ผู้รับบริการได้เก็บเกี่ยวผลผลิตไว้รับประทานกันเอง ซึ่งเป็นผลผลิตที่สดและ ปลอดสารพิษ ส่วนที่ 2 ส่งต่อให้ชุมชนแหลมสนอ่อน ภายใต้โครงการ “ปิ่นโตตุ้มตุ้ย” เพื่อเป็นการ ช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบฯ เพื่อน าไปประกอบอาหารแจกจ่ายให้คนภายในชุมชน โดยทางชุมชน ส ารวจข้อมูลผู้ประสบปัญหาทางสังคมที่อยู่ในสภาวะยากล าบากและร่วมกันประกอบอาหารส่งต่อ ให้ผู้ประสบปัญหาทางสังคมที่น าปิ่นโตมาวางไว้ในจุดที่ก าหนดซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่แก้ไขปัญหา ได้ตรงจุด ตอบสนองความต้องการของผู้ประสบปัญหาทางสังคมในชุมชนได้เป็นอย่างดี เป็นการเชื่อมโยงกิจกรรมกับชุมชน ซึ่งสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนได้เป็นอย่างดีซึ่งตรงตามแนวคิด ที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้นอกจากนี้น าผลผลิตไปใส่ใน “ตู้ปันสุข” เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบสามารถน าไป ประกอบอาหาร กิจกรรมดังกล่าวท าให้ผู้รับบริการรู้จักการแบ่งปัน รวมทั้งสร้างความภาคภูมิใจ ให้กับตัวผู้รับบริการเอง ส่วนที่ 3 น าผลผลิตไปจ าหน่ายเพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้รับบริการในระหว่างที่เข้ารับบริการ จากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 8
Songkhla Trust Model ที่รัก ที่พักใจ ศูนย์ต้นแบบการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพและพึ่งตนเอง
ส าหรับผู้รับบริการที่เข้ามาอยู่ภายใน ศคพ.สงขลา แห่งนี้ผอ.คิดเลยว่าอยากให้เขาได้ พักกาย พักใจ ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆอย่างน้อยเขาก็ได้ผ่อนคลายจากปัญหาที่เขาพบเจอเป็น ที่มาว่า จะให้เขาพักกาย พักใจ อย่างไร เขาถึงจะมีความสุข และสามารถฟื้นศักยภาพ ของเขาได้ ทาง ศคพ.สงขลา มีกระบวนการในการให้การช่วยเหลือผู้ประสบปัญหา คือ กระบวนการฟื้นฟูกาย จิต ของผู้รับบริการ ในระหว่างรอการส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือส่งกลับภูมิล าเนา ผอ.คิดว่า ต้องมีกิจกรรม ในช่วงที่เขาอยู่กับเรา ภายใน 45 วัน ให้เขาได้รู้สึกว่า “ผ่อนคลาย” เราจะเริ่ม จากการสังเกต สอบถาม ความถนัด ความชอบ เพื่อที่เราจะได้ดึงศักยภาพของเขาออกมา เพื่อให้ เขาได้ใช้ศักยภาพที่มีอีกครั้งนึง และเป็นที่มาของโครงการ Songkhla Trust Model ที่รัก ที่พักใจ เป็นการด าเนินกิจกรรมฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพ การเรียนรู้ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แบบครบวงจร ตามศาสตร์พระราชา และกิจกรรม Art Therapy ศิลปะบ าบัด วาดภาพ เป็นกระบวนการจิตบ าบัดที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ซึ่ง ผอ.ใช้ทั้ง 2 ศาสตร์ในการฟื้นฟูผู้รับบริการ ที่อยู่ภายในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลาแห่งนี้จึงเป็นที่มาของโครงการ Songkhla Trust Model ที่รัก ที่พักใจ คน...ต้นเรื่อง อยากให้ผู้รับบริการ พักกาย พักใจ ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ อย่างน้อยก็ได้ ผ่อนคลายจากปัญหาที่เขาพบเจอ นางลัลธิมา หมาดปูเต๊ะ ผู้อ านวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา แนวคิดและที่มา Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 10
Songkhla Trust Model ที่รัก ที่พักใจ ศูนย์ต้นแบบการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพ และพึ่งตนเอง เป็นโครงการที่ด าเนินในปี2565 เป็นการท าการเกษตรแบบพื้นบ้าน โดย การน าหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้กับผู้รับบริการ เพื่อฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพ ผู้อยู่ในสภาวะยากล าบาก คนเร่ร ่อน ไร้ที่พึ่ง คนขอทาน คนพิการ ผู้ติดเชื้อเอดส์ผู้ป่วย จิตเวชหลังสิ้นสุดกระบวนการรักษา ผู้ประสบปัญหาทางสังคม ประโยชน์ที่ผู้รับบริการจะได้รับ • ผู้รับบริการได้รับการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพ ทั้งด้านสุขภาพกาย และสุขภาพจิต ในระหว่างเข้ารับการคุ้มครองเพื่อฝึกทักษะการใช้ชีวิตการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น และ การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ • ผู้รับบริการได้เก็บเกี ่ยวผลผลิตไว้รับประทานกันเอง ซึ ่งเป็นผลผลิตที ่สด และ ปลอดสารพิษ • ผู้รับบริการรู้จักการแบ่งปัน รวมทั้งสร้างความภาคภูมิใจให้กับตัวผู้รับบริการเอง ในการน าผลผลิตออกไปช ่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมที ่ตกอยู ่ในสภาวะ ยากล าบากภายนอก • เป็นการสร้างรายได้ให้กับผู้รับบริการในระหว่างที่เข้ารับการคุ้มครองภายในศูนย์ฯ • เป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับชุมชนภายนอก เพื่อเป็นเครือข่ายในการท างาน และ ช่วยเฝ้าระวังบุคคลผู้มีภาวะเสี่ยงที่จะเป็นผู้ไร้ที่พึ่งในพื้นที่ภายนอก • เปิดโอกาสให้ชุมชนสังคม เข้าถึงข้อมูลการด าเนินงานของศูนย์ฯ ที่เป็นประโยชน์ต่อ การคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งและเกิดการบูรณาการการท างานร่วมกัน • ส ่งเสริมสนับสนุนให้มีอาสาสมัครที ่เป็นจิตอาสา เข้ามาดูแลช ่วยเหลือคนไร้ที ่พึ ่ง เพิ่มมากขึ้น Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 11
ส าหรับการมีส่วนร่วมของเครือข่าย ทั้งในส่วนของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม ภาคธุรกิจ ผอ.มองหาช่องทาง มองหาโอกาสที่จะเข้าไปเชื่อมโยง ซึ่งสิ่งส าคัญ อย่างแรกที่เราจะท า คือ การเปิดบ้านของเราให้เขาได้รู้ให้เขาได้เห็น ให้เขาได้รู้จักบ้านของเรา ว่าเราท ากิจกรรมอะไรบ้าง เมื่อเขาเห็นเขาจะได้ร้อง "ว้าว“ ในทันทีว่าเราท าจริง ประสบ ความส าเร็จจริง ซึ่งจากผลของกิจกรรมที่เราท านั้น ส่งผลให้เครือข่ายทุกภาคส่วน ยื่นมือเข้ามาร่วม กับเรา พร้อมที่จะส่งเสริมสนับสนุน ให้ผู้รับบริการมีงานท า มีรายได้สามารถออกไปใช้ชีวิตในสังคม ร่วมกับผู้อื่นได้ซึ่งในส่วนของ ศคพ.สงขลา ถ้าเรามีผู้รับบริการทีมีศักยภาพ ก็สามารถส่งต่อไปยัง สถานประกอบการอื่นๆ เพื่อให้เขาได้มีงานท า รู้สึกภาคภูมิใจในตนเอง และสามารถพึ่งพาตนเองได้ อย่างยั่งยืน ณ วันนี้ทาง ศคพ.สงขลา มีเครือข่ายและ CSR ที่เป็นบริษัท ภาคธุรกิจ ได้จ้างงาน ผู้รับบริการ ตามมาตรา 35 ท างานประจ าอยู่ภายใน ศคพ.สงขลา และเครือข่ายที่เป็นสถาน ประกอบการ ได้รับผู้รับบริการไปท างาน ถือว่าเป็นการให้โอกาสผู้รับบริการที่อยู่ภายใน ศคพ. สงขลา นอกจากนี้ก็ยังมีผู้ประกอบการท าสวนยางพารา รับผู้รับบริการเข้าไปช่วยดูแลสวน ซึ่งท าให้ ศคพ.สงขลา มีเครือข่าย และเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วนในพื้นที่ แต่สิ่งส าคัญที่ทาง ศคพ.สงขลา ต้องค านึงเป็นพิเศษคือ ศักยภาพของผู้รับบริการแต่ละราย เพราะเมื่อออกไปท างานแล้วจะต้อง ไม่เป็นภาระของเครือข่าย และของสถานประกอบการ นั้นๆ ปัจจุบันทาง ศคพ.สงขลา ได้รับ ความร่วมมือจากเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดสงขลาเป็นอย่างดี การมีส่วนร่วมของเครือข่าย มองหาช่องทาง สร้างโอกาส ขยายความร่วมมือ ถือประโยชน์ เพื่อผู้รับบริการ นางลัลธิมา หมาดปูเต๊ะ ผู้อ านวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 12
Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 13 ความร่วมมือจากภาคธุรกิจในการจ้างงาน บริษัท อุตสาหกรรมทวีวงษ์ หาดใหญ่ จ ากัด นอกจากการให้ความส าคัญของการผลิต เพื่อพัฒนาสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้วนั้น ยังให้ความส าคัญของการด าเนินกิจกรรม CSR เพื่อสังคม ให้การส่งเสริมและสนับสนุนการจ้างงานแก่ผู้ประสบปัญหาทางสังคม ผู้ที่มีความ บกพร่องทางร่างกาย ผู้พิการ เพื่อให้มีงานท า มีรายได้เลี้ยงตัวเอง ครอบครัว และสามารถพึ่งพา ตนเองได้ในระยะยาว ปัจจุบัน บริษัทฯ มีพนักงาน/เจ้าหน้าที่ 150 คน และ 1 ใน 150 คนนั้น ก็คือ น้องเต้ย (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ผู้พิการประเภท 5 (ด้านสติปัญญา) ที่ผ่านกระบวนการฟื้นฟู พัฒนา ศักยภาพ จากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา ซึ่งทางบริษัทได้จ้างงาน ตามมาตรา 33 ตั้งแต่ ปี พ.ศ.2563 จนถึงปัจจุบัน ให้ท างานประจ าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา ท าสัญญาว่าจ้างปีต่อปี โดยมีอัตราค่าจ้างต่อวัน วันละ 340 บาท ซึ่งจะจ่ายเฉพาะวันที่น้อง ท างานเท่านั้น โดยบริษัทฯ จะติดตามน้องเป็นระยะๆ โดยการโทรศัพท์สอบถามกับทางศูนย์ คุ้มครองฯ เพื่อประเมินการต่อสัญญาจ้างน้องโดยผ่านคณะท างานของบริษัทฯ ท้ายที่สุดนี้ บริษัท อุตสาหกรรมทวีวงษ์ หาดใหญ่ จ ากัด รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็น ส่วนหนึ่งของการจ้างงานคนพิการ และอยากให้ บริษัท หรือสถานประกอบการอื่นๆ ที่มีก าลัง ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลผู้ประสบปัญหาทางสังคม เพราะการให้โอกาส ถือเป็นการต่อ ลมหายใจ ให้พวกเขาเหล่านี้ได้มีก าลังใจในการต่อสู้กับปัญหาต่างๆ ให้ผ่านพ้นไป และอยู่ใน สังคมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข และทางบริษัทฯ ขอขอบคุณทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดสงขลา ที่ให้บริษัทฯ ได้มีส่วนร่วมในการดูแลผู้ประสบปัญหาทางสังคม และบริษัทฯ ยินดี ให้การสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชน และสังคม นางสาวนุธิตา แก้วประทุมวัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล บริษัท อุตสาหกรรมทวีวงษ์ หาดใหญ่ จ ากัด นางสาวลัดดาวัลย์ เต็มตระกูล เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล บริษัท อุตสาหกรรมทวีวงษ์ หาดใหญ่ จ ากัด ผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูล
ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา เป็นสถานแรกรับ มีกระบวนการคุ้มครองภายใน ไม่เกิน 45 วัน ซึ่งมีระยะเวลาค่อนข้างจ ากัดในแต่ละเดือน จะมีผู้รับบริการเข้ามา เดือนละประมาณ 20 ราย แต่ละรายมีสภาพปัญหาแตกต่างกัน เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานต้องใช้ความละเอียดรอบคอบ ในทุกกระบวนการของการให้ความช่วยเหลือ ตั้งแต่การแสวงหาข้อเท็จจริงของปัญหา การประเมิน สภาพปัญหา การวางแผนให้ความช่วยเหลือโดยร่วมมือกับทีมสหวิชาชีพ การด าเนินการช่วยเหลือ ไปจนถึงขั้นของการติดตามและประเมินผล การให้ความช่วยเหลือแต่ละราย เพื่อให้ผู้รับบริการ ได้รับการแก้ไขปัญหาได้ตรงตามความต้องการและเหมาะสม หากเร่งรัดท าไปจะไม่เป็นผลดีต่อตัว ผู้รับบริการซึ่งกระบวนการขั้นตอนขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของผู้รับบริการแต่ละราย จากอดีตถึง ปัจจุบัน จ านวนผู้เข้ารับบริการภายใน ศคพ.สงขลา จ าแนกออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. ผู้ป่วยจิตเวช มีปัญหาด้านจิตใจและพฤติกรรม สาเหตุมาจากมีความเครียด ต้องแบกรับภาระหลายอย่างติดสุราใช้สารเสพติดครอบครัวแตกแยกไม่มีความสัมพันธ์ที่ดี กับครอบครัว เดินออกจากบ้านจนกลายเป็นคนเร่ร่อน ไร้ที่พึ่ง ต้องใช้ชีวิตในที่สาธารณะ 2. คนพิการ มีปัญหาด้านร่างกายจากอุบัติเหตุ รู้เพียงว่ารักษาตัวให้หายจาก อาการ บาดเจ็บ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องได้รับการประเมินความพิการจากแพทย์ผู้ท าการรักษา เพื่อยื่นเอกสาร ท าบัตรคนพิการ และสวัสดิการที่คนพิการควรจะได้รับ 3. ผู้แสดงค วามส ามา รถ เดิมเ รียกว่ า “คนขอทาน” ต่อม าได้มีกา รป ระกาศ ใช้พระราชบัญญัติควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 แบ่งแยกผู้แสดงความสามารถกับขอทาน อย่างชัดเจน เนื่องจากคนขอทานเป็นกลุ่มแสวงหาผลประโยชน์และท ากันเป็นขบวนการ หลักส าคัญในการให้บริการของเจ้าหน้าที่คือ การเป็นที่พึ่งทางใจ การให้ความรัก การดูแลเอาใจใส่ การฟื้นฟูสภาพจิตใจ ในส่วนของครอบครัวของผู้รับบริการการท าความเข้าใจ และสร้างการยอมรับ ในการอยู่ร่วมกันระหว่างผู้รับบริการภายหลังจากสิ้นสุดกระบวนการคุ้มครองและส่งกลับคืน ครอบครัวเป็นเรื่องส าคัญ เรื่องเล่า...คนท างาน นายพิเชฐพงศ์อินทรสกุล เจ้าพนักงานพัฒนาสังคม Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 14
การประเมินศักยภาพผู้รับบริการเพื่อให้การช่วยเหลือ การประเมินศักยภาพเพื่อให้การช่วยเหลืออาจพิจารณาจากหลายๆ องค์ประกอบ เช่น พฤติกรรมการอยู่ร่วมกันการช่วยเหลือระหว่างผู้รับบริการด้วยกันเองความรับผิดชอบงานที่ได้รับ มอบหมาย โดยเจ้าหน้าที่จะแบ่งงานให้แต่ละคนรับผิดชอบ และเฝ้าสังเกตพฤติกรรมผู้รับบริการ แต่ละราย และน าข้อมูลจากการประเมินด้านครอบครัวมาท าการวิเคราะห์ศักยภาพของผู้รับบริการ แต่ละคน เพื่อให้การช่วยเหลือที่เหมาะสม พบว่า ส่วนใหญ่ผู้รับบริการมีความพิการด้านร่างกาย จะมีความจ าและการรับรู้การรับฟัง และรับผิดชอบงานได้ดีกว่าผู้รับบริการที่มีภาวะป่วยจิตเวช ซึ่งจะมีสภาพร่างกายพร้อมแต่สภาพจิตใจต้องรักษาและทานยาต่อเนื่อง การจัดการผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ในเรื่องข้อจ ากัด เราไม่ได้กังวล เพราะเราสามารถเชื่อมโยงภาคีเครือข่ายทั้งภายในและ ภายนอกทั้งในเรื่องของข้อจ ากัดของงบประมาณ ทาง ศคพ.สงขลา ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ จากคนในครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหายของเจ้าหน้าที่ เพื่อมาด าเนินกิจกรรม และได้รับ ความอนุเคราะห์จากส านักงานพัฒนาที่ดิน เขต 12 เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการท าน้ าหมัก ชีวภาพ เพื่อใช้เป็นปุ๋ยและก าจัดศัตรูพืช เรามีจ านวนผลผลิตที่มีเยอะเกินจ าหน่าย ก็ได้หาพ่อค้า คนกลางเข้ามารับซื้อ เพื่อความยั่งยืนของโครงการ ท าให้ปัจจุบันผลกระทบหรือข้อจ ากัดที่เกิดขึ้น เราสามารถแก้ไข และด าเนินกิจกรรมทุกกิจกรรมได้อย่างราบรื่น และยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อรองรับความต้องการ ความถนัด ของผู้ที่เขามารับบริการภายใน ศคพ.สงขลา แห่งนี้ Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 15
ผลลัพธ์ที่ส าคัญจากการด าเนินโครงการ 1. ผู้รับบริการได้เรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ฝึกการปลูก และดูแลผัก สวนครัว ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และได้บริโภคผลผลิตที่สดและปลอดสารพิษ 2. ผลผลิตที่ได้สามารถแบ่งปันไปยังตู้ปันสุขของชุมชน ได้แก่ ชุมชนรถไฟ ชุมชนรัถการ ชุมชนแยกโรงปูน ชุมชนศรีนิล ชุมชนแหลมสนอ่อน เพื่อประกอบอาหารให้กับผู้ประสบปัญหาทาง สังคมที่ตกอยู่ในสภาวะยากล าบาก ในกิจกรรรม “ปิ่นโตตุ้มตุ้ย” 3. ท าให้ผู้รับบริการเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง และยังเป็นการสร้าง เครือข่ายที่ดีกับชุมชน เพื่อให้ชุมชนเข้ามีส่วนร่วมในการช่วยเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ 4. เกิดความร่วมมือของภาคีเครือข่ายในพื้นที่ในการท างาน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน สถานประกอบการ เพื่อให้ทุกภาคส่วนเข้ามีส่วนร่วมในการช่วยเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยง ในพื้นที 5. ผู้รับบริการมีอาชีพ มีรายได้ 6. ผู้รับบริการสามารถช่วยเหลือตัวเองได้เมื่อออกไปอยู่ในสังคม การท างานร่วมกับผู้รับบริการ นอกจากการช่วยให้ผ่านพ้นปัญหาและวิกฤตในเบื้องต้น แล้ว สิ่งส าคัญต่อมาก็คือ การพัฒนาศักยภาพให้กับผู้รับบริการ การให้โอกาส ให้เวลา ให้สังคม เปิดบ้านให้ภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือผู้รับบริการ เพื่อ การพึ่งพาตนเองของผู้รับบริการให้สามารถกลับไปด าเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ และ ปกติสุข ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ส าคัญคือการดึงเอาศักยภาพและความเข้มแข็งจากภายในที่ซ่อนอยู่ ของผู้รับบริการให้ออกมานั้นเป็นเรื่องที่มีความส าคัญเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่จะต้องให้การเคารพ และยอมรับในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้รับบริการ กระตุ้นให้ผู้รับบริการรู้สึกถึงความมีคุณค่า และความสามารถของตนเองด้วยวิธีการร่วมมือกัน ให้ผู้รับบริการเป็นผู้คิดและตัดสินใจ จนน าไปสู่ พฤติกรรมและความปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 16 ไร้ ที่พึ่ง...แต่ไม่ไร้ ที่พัก ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา
Facebook ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดสงขลา ด้วยจ านวนเจ้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่มีไม่เพียงกับจ านวนผู้รับบริการที่มีจ านวนมาก ประกอบกับ งานประจ า และงานเร่งด่วนต่างๆ ศคพ.สงขลา ได้น าเสนอกิจกรรม “สวนผักโควิด -19” กับหน่วยงานในสังกัด พม.สงขลา เครือข่ายในพื้นที่จังหวัดสงขลา รวมถึงผู้มีจิตศรัทธา ที่เข้ามา เยี่ยมเยียน และบริจาคสิ่งของให้กับผู้รับบริการ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ผ่าน Social ได้แก่ Facebook “ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา” อย่างสม่ าเสมอและต่อเนื่อง ปัจจุบัน กิจกรรม “สวนผักโควิด-19” ภายใต้โครงการ Songkhla Trust Model ที่รัก ที่พักใจ ยังคงด าเนินการอย่างต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในกระบวนการฟื้นฟู พัฒนาศักยภาพในระหว่างเข้ารับการคุ้มครองให้กับผู้รับบริการภายในศูนย์ฯ การท างานร่วมกับผู้รับบริการที่มาจากที่ต่างกัน มีอารมณ์ ความต้องการ ที่แตกต่างกันออกไป นอกจากการช่วยให้ผ่านพ้นปัญหาและวิกฤตในเบื้องต้นแล้ว สิ่งส าคัญต่อมา ก็คือ การพัฒนาศักยภาพให้กับผู้รับบริการ การให้โอกาส ให้เวลา ให้สังคมการเปิดบ้านให้ภาคี เครือข่ายทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลช่วยเหลือผู้รับบริการ เพื่อการพึ่งพาตนเอง ของผู้รับบริการ ให้สามารถกลับไปด าเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ และปกติสุข สิ่งส าคัญคือ การดึงเอาศักยภาพและความเข้มแข็งจากภายในที่ซ่อนอยู่ของผู้รับบริการให้ออกมานั้นเป็นเรื่องที่มี ความส าคัญเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่จะต้องให้การเคารพ และยอมรับในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ของผู้รับบริการ กระตุ้นให้ผู้รับบริการรู้สึกถึงความมีคุณค่าและความสามารถของตนเองด้วยวิธีการ ร่วมมือกัน ให้ผู้รับบริการเป็นผู้คิดและตัดสินใจจนน าไปสู่พฤติกรรมและความปลี่ยนแปลงอย่าง ยั่งยืน จากเรื่องเล่า...สู่เรื่องจริง Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 17 เข้าใจ = ปัญหาและความต้องการ เข้าถึง = ชุมชน ท้องถิ่น เครือข่ายทุกภาคส่วน จนเกิดความร่วมมือ พัฒนา = ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน “ศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน”
ผู้เข้ารับบริการได้รับการฟื้นฟู ตามกระบวนการของศูนย์คุ้มครอง คนไร้ที่พึ่ง มีรายได้มีงานท า โดยอาศัย Model เพื่อเรียนรู้ การพึ่งพาตนเอง ก่อนออกไปใช้ชีวิตในสังคมภายนอกด้วยตนเอง ท าการเกษตร แบบพื้นบ้าน น าหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง มาปรับใช้กับผู้รับบริการ กิจกรรมภายใต้โครงการ SONGKHLA TRUST MODEL Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 18
บ่อเลี้ยงปลา เน้นท า การเกษตรแบบพื้นบ้าน น าหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง มาปรับใช้กับผู้รับบริการ เรียนรู้ระบบน้ า ตามศาสตร์ พระราชา การน าระบบน้ าเสีย ในท่อระบายน้ าทิ้งท่อสาธารณะ กลับมารีไซเคิล และใช้ ประโยชน์ในแปลงผัก และ บ่อเลี้ยงปลา น าผลผลิตไปจ าหน่าย ภายนอกศูนย์ฯ เพื่อสร้าง รายได้ให้กับผู้รับบริการ ในระหว่างเข้ารับบริการ จากศูนย์ฯ Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 19
น าผักสดปลอดสารพิษ ประกอบอาหารให้ผู้รับบริการ รับประทานภายในศูนย์ฯ ซึ่งได้ผลผลิตที่สด ปลอดสารพิษ และ ช่วยลดค่าใช้จ่าย ผู้ประสบปัญหาทางสังคม ผู้พิการ ผู้สูงอายุ ครอบครัวยากจน รายได้ไม่เพียงพอ สามารถ รับผลผลิตได้ฟรี สร้างโรงเลี้ยงไก่และเลี้ยงไก่บ้าน เรียนรู้ระบบนิเวศ การสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมตามหลัก เศรษฐกิจพอเพียง Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 20
กิจกรรม ในกระบวนการฟื้นฟู กาย/จิต และเสริมสร้างศักยภาพ ของ ผู้รับบริการ #ศิลปะบ าบัด สร้างรายได้จากงานฝีมือ วาดภาพบนกระเป๋ากระจูด #ลูกค้าสามารถน าแบบ มาให้วาดได้ สร้างเรือนเพาะเห็ด เน้นเรียนรู้ระบบนิเวศ การสร้าง ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและ สิ่งแวดล้อมตามหลักเศรษฐกิจ พอเพียง Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 21
ลุงด า (นามสมมุติ) ปัจจุบันอายุ61 ปีก่อนหน้าที่ลุงด าจะมาอยู่ ที่ศูนย์ฯ แห่งนี้ลุงด าอยู่แถวๆ ในเมืองหาดใหญ่ บ้านเดิมของ ลุงด า เป็นคนสตูล เนื่องจากลุงตกงาน ไม่มีรายได้ไม่มีที่พักอาศัย ลุงด า อยากให้ หน่วยงานช่วยเหลือ กองสวัสดิการสังคม ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ เทศบาลเมืองคอหงส์อ าเภอ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พบเจอลุง เลยติดต่อมาทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา ทางศูนย์ฯ จึงเดินทางไปรับลุงด ามา เมื่อวันที่30 พ.ย.2565 เพื่อให้การช่วยเหลือตามกระบวนการ ลุงด า อายุ61 ปีแต่สุขภาพร่างกายยังแข็งแรง สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่าง และ สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ได้หลังจากที่ลุงด าเข้ามาอยู่ในศูนย์ฯ สิ่งที่ลุงด าได้รับ คือ 1. ได้รับการตรวจสุขภาพทางกาย เข้ารับการประเมินอาการทางร่างกาย อาการทางจิต จากโรงพยาบาลหาดใหญ่ 2. ได้เข้ารับการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพ กาย จิต ที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา 3. มีการติดตามสืบค้นประวัติคัดทะเบียนราษฎร์อ าเภอเมืองสงขลา 4. เจ้าหน้าที่ลงเยี่ยมบ้าน ประเมินการให้ความช่วยเหลือ โดยศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดสตูล 5. ลุงด าได้รับการฉีดวัคซีน โควิด-19 ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลาด าเนินการ ประสาน ติดต่อและพาลุงด าไปรับการฉีดวัคซีน 6. ประสานส่งต่อเข้ารับการสงเคราะห์สถานสงเคราะห์ของหน่วยงานราชการ ขณะที่ลุงด า อยู่ภายใน ศคพ.สงขลา ลุงด าได้ท ากิจวัตรประจ าวัน ได้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งความสามารถของลุงด านั้นไม่ธรรมดาเลย ฝีมือการวาดภาพศิลปะของลุงด าสวยมาก ผลงาน วาดภาพของลุงด าตอนนี้ภายใน ศคพ.สงขลา ไม่มีพื้นที่ว่างอีกแล้ว มีสีสันตั้งแต่ก าแพงรั้ว ของ ศคพ.สงขลา บริเวณที่พักผู้รับบริการ และทุกพื้นที่ที่ลุงด าจะวาดได้สภาพร่างกาย จิตใจ ค่อยๆ ดีขึ้นตามล าดับ ปัจจุบันลุงด าไม่ได้กลับภูมิล าเนาที่จังหวัดสตูล ลุงด าอยู่ที่ ศคพ.สงขลา วาดภาพบนกระเป๋ากระจูด ออกงานตามสถานที่ต่างๆ ไปโชว์ฝีมือการวาดภาพ ท าให้ทุกวันนี้ลุงด า มีงานท า มีรายได้มีที่อยู่อาศัย มีเพื่อน ได้วาดภาพศิลปะในทุกๆ วัน ได้ท าในสิ่งที่ชอบ สิ่งที่รัก มีที่พักกาย พักใจ หยิบ...มาเล่า Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 22
ลุงเขียว (นามสมมุติ) อายุ50 ปีเดิมลุงเขียวเป็นคน ต าบลท่าตะเภา อ าเภอเมือง จังหวัดชุมพร เร่ร่อน ไร้ที่พึ่ง และได้เข้ามาอาศัยที่สาธารณะ เป็นที่พักอาศัยหลับนอน บริเวณศาลาสถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลนครหาดใหญ่ ลุงเขียวเป็นผู้ พิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย ศคพ.สงขลา จึงได้รับตัว เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ให้การช่วยเหลือเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ พาลุงเขียวเข้ารับการประเมินอาการ ทางกาย จิต ที่โรงพยายาบาลหาดใหญ่ ผลปรากฏว่า มีลักษณะความพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย จึงได้ประสานศูนย์คนพิการ ส านักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา เพื่อท า บัตรประจ าตัวคนพิการ ประเภทความพิการ 2 ระหว่างเข้ารับการฟื้นฟู ระหว่างอยู่ใน ศคพ.สงขลา ลุงเขียวบอกว่าอยากจะท างาน ลุงเขียวสามารถช่วยเหลือ ตนเองได้สุขภาพร่างกายยังแข็งแรงอยู่ เข้ากับคนอื่นๆ ได้มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ขณะที่ลุงเขียวอยู่ใน ศคพ.สงขลา แห่งนี้ลุงเขียวได้ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหารายอื่นที่อยู่ ภายใน ศคพ.สงขลา ได้จึงอยากท างานที่คนพิการท าได้ทาง ศคพ.สงขลา พิจารณาแล้วเพื่อเป็น การคุ้มครองสวัสดิภาพ คนพิการ เร่ร่อนไร้ที่พึ่ง ไม่มีที่พักอาศัย ตกงาน ประสานส านักงานพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา ขึ้นทะเบียนคนพิการ ท าบัตรประจ าตัวประชาชน เนื่องจากบัตรเก่าช ารุด ได้ยื่นสิทธิรับเบี้ยยังชีพผู้พิการ โดยองค์การบริหารส่วนต าบลท่าตะเภา ด าเนินการให้และทางศูนย์ครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชุมพร ได้ติดตามสืบค้นประวัติเยี่ยมบ้าน วางแผนครอบครัว ประเมินการให้ความช่วยเหลือที่ส าคัญ ปัจจุบันลุงเขียวได้เซ็นสัญญาจ้างงาน ผู้พิการกับทางบริษัทโชติวัฒน์อุตสหกรรม ตามมาตรา 33 ปฎิบัติหน้าที่ภายใน ศคพ.สงขลา และได้ เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทยก่อนเข้าสมัครงาน ท าให้ลุงเขียวมีเงินเดือน มีรายได้มีงานท า มีสุขภาพจิตที่ดีได้ท างานที่ชอบ มีที่พักกาย พักใจ หยิบ...มาเล่า Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 23
น้ าหวาน (นามสมมุติ) น้ าหวาน อายุ37 ปีเดิมเป็นคนอ าเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เนื่องจากพ่อได้เสียชีวิต และแม่เข้าไปอยู่ในความดูแลของศูนย์ พัฒนาการจัดสวัสดิการผู้สูงอายุจังหวัดสงขลา น้ าหวานจึงไม่มีเสาหลัก เร่ร่อน ไร้ที่พึ่ง ไม่มีที่พัก อาศัย ทาง ศคพ.สงขลา ได้รับตัวน้ าหวานและให้การช่วยเหลือคุ้มครองสวัสดิภาพ น้ าหวานเป็น ผู้พิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม น้ าหวานเป็นคนอัธยาศัยดีชอบพูด ช่วยเหลือตัวเองได้ร่างกาย แข็งแรง อยู่ร่วมกับคนอื่นๆได้และมีความสามารถในเรื่องคองพิวเตอร์หลังจากที่น้ าหวานเข้ามา อยู่ใน ศคพ.สงขลา แห่งนี้น้ าหวานบอกว่าอยากท างาน ทาง ศคพ.สงขลา ได้ด าเนินการฟื้นฟู สวัสดิภาพและให้การช่วยเหลือตามสิทธิที่พึงได้รับ จนสิ้นสุดกระบวนการ เพื่อเป็นการคุ้มครอง สวัสดิภาพคนพิการ เร่ร่อน ไร้ที่พึ่ง ไม่มีที่พักอาศัย ตกงาน ได้ประสานกับส านักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา เรื่องการจัดหางาน ให้กับน้ าหวาน ซึ่งเป็นผู้พิการ ทางจิตใจหรือพฤติกรรม ประเภทความพิการ 4 ระหว่างน้ าหวานอยู่ใน ศคพ.สงขลา น้ าหวานได้รับการตรวจสุขภาพทางกาย ที่โรงพยาบาลสงขลา ประเมินอาการทางกาย และจิตใจ ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ได้รับการรักษา บ าบัดฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพ จากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา มีการติดตามสืบค้นประวัติ เยี่ยมบ้านวางแผนครอบครัว ประเมินการให้ความช่วยเหลือ เข้ารับประเมินความพิการ ทางด้านจิตใจหรือพฤติกรรม ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ได้ขึ้นทะเบียนผู้พิการ โดยส านักงาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ด าเนินการให้และเทศบาลคลองแห ยื่นสิทธิรับเบี้ยยังชีพ ผู้พิการ ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว น้ าหวานชอบท ากิจกรรม จึงเข้ารับการฝึกอบรมอาชีพ ตั้งแต่ 1 ก.ค.63 – 22 ก.ย.63 ที่ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคใต้จังหวัดสงขลา และเคย ท างานที่โรงพยาบาลปาดังเบซาร์อ าเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งปัจจุบันน้ าหวานได้รับการจ้าง งานจากบริษัทศรีตรัง ท างานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา ท างานภายใน สนง. น้ าหวานยังช่วยเพื่อนๆ ขายผลผลิตทางการเกษตร ออกบูธจัดกิจกรรมต่างๆ ท าให้น้ าหวาน มีรายได้มีที่พักกาย พักใจ มีพัฒนาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หยิบ...มาเล่า Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 24
น้องเต้ย (นามสมมุติ) น้องเต้ย อายุ24 ปีเดิมเป็นคนอ าเภอหาดใหญ่ น้องเต้ยเคยหลงผิด เข้าไปในวงโคจรของยาเสพติด เข้ารับการรักษา บ าบัด สารเสพติดที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ หลังจากนั้น ศคพ.สงขลา ได้รับการประสานจากฝ่ายสังคม สงเคราะห์ โรงพยาบาลหาดใหญ่ อ าเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อให้การช่วยเหลือน้องเต้ย ได้เข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพ หลังสิ้นสุดกระบวนการรักษาการบ าบัดสารเสพติดที่โรงพยาบาล หาดใหญ่ เนื่องจาก ไร้ที่พึ่ง ไม่มีที่พักอาศัย มีความประสงค์ให้หน่วยงานราชการให้การช่วยเหลือ ตามกระบวนการ น้องเต้ยสามารถเข้ากับคนอื่นๆ ได้ ช่วยเหลือตนเองได้ ร่างกายแข็งแรง น้องเต้ย เข้ามาอยู่ ใน ศคพ.สงขลา ได้รับการตรวจสุขภาพทางกาย ได้รับการประเมิน อาการทางกาย และจิตใจ คัดกรอง RT-PCR ก่อนเข้ารับการคุ้มครอง และระหว่างเข้ารับ การคุ้มครอง ได้รับการคัดทะเบียนราษฎร์จากเทศบาลนครสงขลา ติดตามสืบค้นประวัติ เยี่ยมบ้านวางแผนครอบครัว ประเมินการให้ความช่วยเหลือ โดย ศคพ.สงขลา นอกจากนี้น้องเต้ย ได้รับการฉีดวัคซีนโรควิด -19 ท าบัตรประจ าตัวประชาชน เนื่องจากบัตรเก่าสูญหาย ท าบัตร ประจ าตัว ผู้พิการประเภท 5 ด้านสติปัญญา เข้ารับการจัดหางานประเภทผู้พิการ โดยส านักงาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา ปัจจุบันน้องเต้ย ได้รับการจ้างงานจาก บริษัท อุตสาหกรรมทวีวงษ์ หาดใหญ่ จ ากัด จ้างงาน ตามมาตรา 33 ปฏิบัติงาน ณ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา น้องเต้ยได้ท างาน ภายใน ศคพ.สงขลา ร่วมกับเพื่อนๆ ท ากิจกรรมที่ได้รับมอบหมายได้เป็นอย่างดี ออกจ าหน่าย ผักสวนครัว ที่ได้ร่วมกันปลูก จนตอนนี้น้องเต้ยมีพัฒนาการ ดีขึ้นตามล าดับ และมีสภาพร่างกาย จิตใจ ที่ดีขึ้นอย่าง เห็นได้ชัด มีงานท า มีรายได้ และมีบ้านหลังแรก หลังจาก พึ่งพาตนเองได้ มีงานท า มีรายได้ ซื้อที่พักอาศัยชั่วคราว (ขน าน้อย) เพื่อใช้เป็นพักอาศัยภายในศูนย์คุ้มครองฯ หยิบ...มาเล่า Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 25
นอกจากผู้รับบริการและภาคธุรกิจที่หยิบยกมาเล่าแล้วนั้น ทางศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดสงขลา ยังมีผู้รับบริการอีกหลายรายที่เข้าสู่กระบวนการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟูพัฒนา ศักยภาพประเมินทางกายและจิตใจ ฝึกทักษะ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น จนสามารถช่วยเหลือและพึ่งพาตนเองได้ในชีวิตประจ าวัน มีความรับผิดชอบ มีรายได้จากการ ท างาน มีที่พักอาศัยเป็นหลักแหล่ง ไม่เร่ร่อน ไม่อาศัยที่สาธารณะหลับนอน สามารถอยู่กับผู้อื่น ในสังคม ประสบความส าเร็จ มีชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถออกไปใช้ชีวิตในสังคมได้ด้วยตนเอง และ ได้รับการจ้างงานจากบริษัท และสถานประกอบการต่างๆ ได้แก่ • นาย ก. (นามสมมุติ) อายุ53 ปีได้ท างานที่ร้านไอศครีมลมเชย • นาย ข. (นามสมุติ) อายุ34 ปีได้ท างานร้านโรงเตี้ยมมุสลิมหาดใหญ่ • นาย ค. (นามสมุติ) อายุ39 ปีจ้างงานโดยบริษัทศรีตรัง แอโกรอินดัสทรีจ ากัด ท างานภายในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา • นาย ง. (นามสมมุติ) อายุ50 ปีเจ้าของสถานประกอบการ เจ.ไฮเวย์แอนด์ ทราฟฟิค จ ากัด รับตัวเข้าท างานในสถานประกอบการ • นางสาว จ. (นามสมมุติ) อายุ43 ปีทาง ศคพ.สงขลา ประสานส่งต่อ ศคพ. เพชรบุรีเดินทางกลับภูมิล าเนา ท างานในสถานประกอบการรีสอร์ทที่จังหวัด เพชรบุรี • นาย ฉ. (นามสมมุติ) อายุ23 ปีจ้างงานโดยบริษัทอุตสาหกรรม ทวีวงศ์ จ้างงาน ตามมาตรา 33 ท างานภายในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 26 ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง… เป็นได้แค่ที่พักกาย พักใจ ให้พอได้คลายความทุกข์ เป็นที่ เติมความสุข เติมพลัง เติมความรู้ สู่การพึ่งพาตนเอง
สิ่งที่เป็นตัวอย่าง หรือแบบฉบับที่ดีต่อสังคม • การช่วยเหลือบุคคลเร่ร่อน ไร้ที่พึ่ง จนสามารถพึ่งพาตนเองได้ • การช่วยเหลือเข้าถึงสิทธิที่พึงได้รับ และการเข้าถึงสวัสดิการสังคม บุคคลเร่ร่อน ไร้ที่พึ่ง กลุ่มเปราะบางทางสังคม • การสนับสนุนผักปลอดสารพิษ ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม โรงพยาบาลสนาม วัด โรงทาน ท้องถิ่น ผู้น าชุมชน และภาคีเครือข่าย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 จนถึงปัจจุบัน • ภาคีเครือข่ายที่มีส่วนร่วมและหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์จังหวัดสงขลา (One Home) ให้การยอมรับในกระบวนการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบปัญหาทางสังคมตามกระบวนการของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง • สถานประกอบการ CSR ยอมรับและให้โอกาสให้ผู้รับบริการได้รับการจ้างงาน ท าให้มีรายได้ มีงานท า มีสังคม พึ่งพาตนเองได้ รางวัลความภูมิใจ • องค์กรดีเด่นที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมทางสังคมแก่ผู้สูงอายุประจ าปี2558 สาขาสมาคม สภาผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี ประจ าจังหวัดสงขลา ปี2558 • รางวัลดีเด่นด้านการด าเนินสนับสนุนงานสุขภาพจิตและจิตเวช เขตสุขภาพที่ 12 ประจ าปี 2562 จากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ปี2562 • รางวัลยกย่ององค์การที่มีกิจกรรมทางสังคมดีเด่น ประจ าปีพ.ศ.2564 จากกรมพัฒนาสังคม และสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ปี2564 • รางวัลการประเมินองค์กรประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2564 ระดับคุณธรรม จากคณะ กรรมการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติปี2565 รางวัลที่ได้หยิบยกมานี้เป็นแค่บางส่วนเท่านั้น ศคพ.สงขลา ยังได้รับรางวัลอีกหลายๆ รางวัล ทั้งนี้เป็นเครื่องการันตีได้ว่า ศพค.สงขลา การท างานที่ผ่านมาย่อมเป็นที่รับรู้และเป็นที่ยอมรับ ของหน่วยงานทั้งภายในและภายนอก Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 27
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากดึงศักยภาพ จากภายในที่ซ่อนอยู่ของผู้รับบริการให้ ออกมานั้น เป็นเรื่องที่มีความส าคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยกระตุ้นให้ผู้รับบริการรู้สึกถึง ความมีคุณค่าและความสามารถของตนเอง ให้สามารถคิดและตัดสินใจ จนน าไปสู่ การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรม ในการพึ่งพาตนเองได้ นอกจากการช่วยให้ผู้รับบริการผ่านพ้นปัญหาและวิกฤตในเบื้องต้นแล้ว สิ่งส าคัญต่อมา ก็คือ การพัฒนาศักยภาพให้กับผู้รับบริการ ให้โอกาส ให้เวลา ให้ที่พักกาย พักใจ และให้ใช้ ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า เน้นความพอเพียง เลี้ยงตัวเองได้ ซึ่งถ้ามองตามเป้าหมาย การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ที่สนับสนุนให้บรรลุเป้าหมาย ตามเป้าหมายที่ 1 : การขจัดความยากจน ในทุกรูปแบบ เป็นเป้าหมายว่าด้วยการลดความยากจน ทั้งทางเศรษฐกิจ และในมิติอื่นๆ ครอบคลุมคนทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มคนยากจน และกลุ่ม คนเปราะบาง คือ การให้ผู้รับบริการได้เข้ารับการฟื้นฟูตามกระบวนการ ฝึกทักษะด้านการเกษตร เพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง โดยเป็นแนวทางการพัฒนาที่ตั้งอยู่ บนพื้นฐานทางสายกลาง ความไม่ประมาท ไม่ฟุ่มเฟือย ค านึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง ตลอดจนการใช้ความรู้และคุณธรรม เป็นพื้นฐานในการด ารงชีวิต และเป็นบันไดในการก้าวข้ามความยากจน เป้าหมายที่ 2 : ยุติความหิวโหย บรรลุความมั่นคง ทางอาหาร และยกระดับโภชนาการ และส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน การเข้าถึงอาหาร ที่ปลอดภัยและมีโภชนาการ เพิ่มผลิตภาพและการเข้าถึงทรัพยากรและโอกาสต่างๆ การใช้ ประโยชน์ และแบ่งปันผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม คือ ผู้รับบริการ ที่ได้รับ ความคุ้มครองสวัสดิภาพภายในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา จะได้เรียนรู้การท าสวนผัก แบบพื้นบ้าน ฝึกทักษะอาชีพ ตามความถนัด ท าให้มีรายได้เพื่อใช้ในชีวิตประจ าวัน โดยการสร้าง แหล่งอาหารด้วยตนเอง สร้างระบบนิเวศอย่างง่าย ช่วยในการขจัดความหิวโหย และเพื่อเตรียม ความพร้อมกลับคืนสู่ครอบครัวและสังคม ใช้ชีวิตโดยการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน การช่วยเหลือผู้รับบริการ ต้องเน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน การเปิดบ้านเพื่อให้ ภาคีเครือข่ายได้รู้จัก ได้เข้ามามีส่วนร่วม และมีบทบาทส าคัญในการดูแลช่วยเหลือผู้รับบริการ และที่ส าคัญควรส่งเสริมสนับสนุนหน่วยงานของรัฐ องค์กรต่างๆ หรือกลุ่มบุคคลให้มีการ ด าเนินการในลักษณะเดียวกับศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง และส่งเสริมสนับสนุนครอบครัว ชุมชน ท้องถิ่น และเครือข่าย ให้มีส่วนร่วมหรือด าเนินการเพื่อป้องกันคุ้มครองช่วยเหลือประชาชนกลุ่ม เสี่ยง บุคคลที่อยู่ในสภาวะยากล าบาก และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาคนไร้ที่พึ่ง และผู้กระท า การขอทานในพื้นที่ เพื่อลดผู้ประสบปัญหาให้ลดน้อยลงไปจากพื้นที่และจากสังคมไทย Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 29 เรื่อง...ส่งท้าย
“ศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน” Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 30 - หน่วยงาน One Hone พม.สงขลา - หน่วยงานภายนอก สนง.พัฒนาที่ดิน,อบจ. - ภาคีเครือข่ายจากชุมชน - ผู้บริหาร จนท. - ครอบครัว ญาติ CSR ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ จ้างงานผู้รับบริการ - กระบวนการคุ้มครองสวัสดิภาพ - ช่วยเหลือตามกระบวนการ สังคมสงเคราะห์ - ฟื้นฟู พัฒนาศักยภาพ - มีรายได้ มีงานท า - มีสุขภาพกายที่ดี - สุขภาพจิตที่ดี - มีที่อยู่อาศัย - พฤติกรรมเปลี่ยน ผู้อยู่ในสภาวะยากล าบาก คนเร่ร่อน ไร้ที่พึ่ง คนขอทาน คนพิการ ผู้ติดเชื้อเอดส์ป่วยจิตเวชสิ้นสุดกระบวนการ รักษา ผู้ประสบปัญหาทางสังคม ที่เข้ารับบริการภายใน ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสงขลา กลุ่มเป้าหมาย - เลี้ยงสัตว์ (ไก่,แพะ,ปลา) - สวนผักโควิด-19 - เกษตรแบบพื้นบ้าน - ปลูกผัก Facebook หน่วยงาน เปิดให้เข้าเยี่ยมชม เข้าศึกษาดูงาน ออกบูธจัดกิจกรรม ในโอกาสต่างๆ แนวคิด “หลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง” ศิลปะบ าบัด วาดภาพ ผู้รับบริการได้รับการคุ้มครอง พัฒนา สามารถพึ่งพาตนเองได้ อย่างยั่งยืน กระบวนการ - ส ารวจความต้องการ - ประเมินศักยภาพของผู้รับบริการแต่ละราย - มอบหมายภารกิจงาน - ติดตาม ประเมินผลรายบุคคล รับประทาน เอง 10% บริจาค 30% ขาย 60% โครงการ “ปิ่นโตตุ้มตุ้ย” “ตู้ปันสุข” บริเวณ ชุมชน รถไฟ ชุมชนรัถการ ชุมชน แยกโรงปูน ชุมชนศรีนิล สร้างรายได้ ผลลัพธ์ ปัจจัยความส าเร็จ ประชาสัมพันธ์ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา กิจกรรม ปรุงอาหารให้ ผู้รับบริการ ภายใน ศคพ.สข
Songkhla Trust Model “ที่รัก ที่พักใจ” 31 หากเราอยากให้โลกนี้ หนีพ้นวิกฤติ ก็ต้องมาร่วมกันสร้างสรรค์ การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) หัวใจของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ก็คือ “การพัฒนาคน” เมื่อคนได้รับการพัฒนา สิ่งต่างๆ ก็จะได้รับอานิสงส์ด้วย หากคนได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดี คนจะไปเกี่ยวข้องกับอะไรก็ตาม ในโลกนี้ ก็จะไม่มีปัญหา แต่หากคนยังเต็มไปด้วยกิเลสตัณหา ไปอยู่ที่ไหน ที่นั่นก็ย่างกรายเข้าสู่วิกฤติ โดย ว.วชิรเมธี
ที่ปรึกษา นางณิชาพัชฌ์ เพ็ชรพันธุ์ ผู้อ านวยการส านักงานส่งเสริมและ สนับสนุนวิชาการ 11 คณะกรรมการจัดการความรู้ 1. นางสาวนพรัตน์ กอวัฒนากุล นักพัฒนาสังคมช านาญการพิเศษ 2. นางสาวสุวรรณา ไชยโยธา นักพัฒนาสังคมช านาญการพิเศษ 3. นางสาวจารุวรรณ แก้วทองราช นักจัดการงานทั่วไปช านาญการ 4. นางสาวบงกช บุณยะศิวะ นักพัฒนาสังคมช านาญการ 5. นางสาวพิมานมาศ สุวรรณ นักพัฒนาสังคมช านาญการ 6. นางสาวสุดอนงค์ ช้างเพ็ง นักพัฒนาสังคมปฏิบัติการ 7. ว่าที่ ร.ต.หญิง ณัฐณิชา บุษบา นักพัฒนาสังคม 8. นายชาญวิทย์ คุปต์กาญจนากุล นักพัฒนาสังคม 9. นางสาวปาลิตา เจ๊ะหะ นักพัฒนาสังคม เขียน เรียบเรียง ออกแบบ ว่าที่ ร.ต.หญิง ณัฐณิชา บุษบา นักพัฒนาสังคม จัดพิมพ์และเผยแพร่ ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11
Website สสว.11 Line OA สสว.11 จัดท าโดย : ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ11 ส านักปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่อยู่ : 354 หมู่2 ต าบลพะวง อ าเภอเมือง จังหวัดสงขลา 90100 โทรศัพท์ : 0 7433 0222 โทรสาร : 0 7433 0228 E-mail : [email protected] Website : http://tpso-11.m-society.go.th Facebook : ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ11 ปีที่จัดพิมพ์ : 2566 พิมพ์ที่ : ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ11