The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

209360_พม.กับงานบริการทางสังคม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by TPSO 11, 2020-08-24 13:08:51

209360_พม.กับงานบริการทางสังคม

209360_พม.กับงานบริการทางสังคม

สถานที่ตั้ง เลขท่ี 590 หมู่ท่ี 11 ตาบลกาแพงเพชร อาเภอรัตภูมิ
จังหวดั สงขลา บนเนือ้ ท่ี 60 ไร่
วสิ ยั ทัศน์

เป็นองค์กรทีม่ ีความเชี่ยวชาญดา้ นการฝกึ อาชพี และจดั สวสั ดิการ
ไดม้ าตรฐาน กลมุ่ เป้าหมายพง่ึ ตนเองได้ เครือขา่ ยมีส่วนร่วม
พันธกจิ

1. พัฒนารูปแบบ วิธีการจัดระบบการฝึกอาชีพและบริการ
สวสั ดิการทีม่ มี าตรฐาน

2. พัฒนาศักยภาพสตรีใหส้ ามารถพึ่งตนเองได้
3. สง่ เสริมสนบั สนนุ องคก์ รเครือข่ายและกลไกที่เกยี่ วข้อง
4. พัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการให้มีประสิทธิภาพ

ภารกจิ
1. จัดบริการสวัสดิการสังคมและดาเนินการให้ความช่วยเหลือ

คุ้มครอง แก้ไข เยียวยาบาบัด ฟื้นฟู พัฒนาอาชีพ การฝึกอาชีพ
การสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต
แก่ผู้ประสบปัญหาทางสังคมและครอบครัวหรือผู้ได้รับผลกระทบ
จากการค้าประเวณี

2. พฒั นาวิชาการ ระบบและรูปแบบการให้บริการสวัสดิการสังคม
และกาหนดมาตรฐานการคุ้มครองและพัฒนาอาชีพแก่ผู้ประสบปัญหา
ทางสังคมและครอบครวั หรอื ผทู้ ่ีได้รบั ผลกระทบจากการค้าประเวณี

3. เป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการพัฒนาอาชีพการสร้างทางเลือกในการ
ประกอบอาชีพ การฝึกอาชีพ การพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาศักยภาพ

พม.กับงานบริการทางสงั คม 50

และสถานภาพสตรี และครอบครัวท่ีประสบปัญหาทางสังคม ผู้ที่ต้องได้รับ
การคุ้มครองสวัสดภิ าพ

4. กาหนดมาตรการ กลไกในการแก้ไขปัญหาการค้าประเวณี
และร่วมกับองค์กรเครือข่ายทุ กภาคส่วนท่ี เก่ียวข้องทั้ งภายใน
และต่างประเทศเพ่อื แกไ้ ขปญั หาการค้าประเวณี
ขอบเขตความรบั ผิดชอบ

พน้ื ทคี่ วามรับผิดชอบ 14 จังหวดั ภาคใต้

พม.กบั งานบริการทางสงั คม 51

พม.กบั งานบริการทางสังคม 52

พม.กบั งานบริการทางสังคม 53

การดาเนินงานตามภารกิจ
การฝึกอาชีพให้แก่เยาวสตรีและสตรี ในเขตพ้ืนที่รับผิดชอบ

14 จังหวัดภาคใต้ อายุระหว่าง 14 - 60 ปี เป็นการฝึกอบรมอาชีพภายใน
และนอกสถาบนั ดงั น้ี

1. การฝึกอบรมอาชีพในสถาบัน ประกอบด้วย หลักสูตรระยะสั้น
5 วัน หลักสูตรระยะสั้น 1 เดือน หลักสูตรระยะสั้น 3 เดือน หลักสูตร
6 เดือน ได้แก่ การแต่งหน้า เสริมสวยและตัดผมชาย โภชนาการ เบเกอรี่
นวดแผนไทยตดั เยบ็ เส้ือผา้ ตัดเย็บเสือ้ ผ้ายกระดบั ปกั จกั ร ฯลฯ

บริการท่ีทางศูนย์ฯ จัดให้กับผู้รับการฝึกอบรมขณะฝึกอาชีพ
ภายในศูนย์ฯ คือ ที่พักพร้อมอาหาร 3 มื้อ วัสดุฝึกอบรม เคร่ืองแบบ
การรกั ษาพยาบาล การสังคมสงเคราะห์ นนั ทนาการและทุนประกอบอาชพี

2. การฝึกอาชีพในชุมชน(นอกสถาบัน) ศูนย์ฯ จัดหน่วยฝึกอบรม
เคล่ือนที่เข้าไปฝึกอบรมมอบอาชีพให้แก่กลุ่มแม่บ้าน หรือกลุ่มอาชีพ
ในชุมชนท่ีต้องการความรู้ด้านการฝึกอาชีพ ต้องการฝึกทักษะเพ่ิมเติม
เฉพาะด้าน แต่มีภาระดแู ลครอบครวั ไม่สามารถเข้ามารับการฝึกอบรมภายใน
ศูนย์ฯ ได้ เช่น โครงการสร้างชีวิตให้สตรีและครอบครัวหลักสูตร 44 วัน
โครงการสนับสนุนการรวมกลมุ่ ประกอบอาชีพ 60 วันตามโครงการสร้างชีวิต
ใหม่ให้สตรีและครอบครัวหลักสูตร 44 วัน โครงการสนับสนุนการรวมกลุ่ม
ประกอบอาชีพ 110 วัน ในส่วนของกลไกเครือข่ายขับเคล่ือนงานในชุมชน
ตามภารกิจของกรมกิจการสตรีและครอบครัว คือศูนย์พัฒนาครอบครัว
ในชุมชน มีการฝึกอบรมอาชีพระยะส้ัน ซ่ึงถือเป็นการให้ความรู้แก่สตรี

พม.กบั งานบริการทางสังคม 54

และครอบครัวในชุมชน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวที่ประสบปัญหาทางด้าน
เศรษฐกิจให้มีอาชีพและมีรายไดเ้ ลี้ยงดตู นเองและครอบครวั

นอกจากการฝึกทักษะ พัฒนาศักยภาพ สร้างรายได้สร้าง
ความเข้มแข็งให้กับสตรีและครอบครัวในชุมชนแล้ว ในส่วนของ
กลุ่มอาชีพที่จบหลักสูตรฝึ กอบรม ทางศูนย์ฯ ยังจัดให้มี
การสนับสนุนการรวมกล่มุ ประกอบอาชีพ เสริมสรา้ งโอกาสในการ
ดาเนินธุรกิจแก่สตรี เป็นการอบรมให้ความรู้แก่กลุ่มสตรีท่ีผ่านการเข้าร่วม
โครงการต่างๆ ที่ศูนย์ดาเนินการไปก่อนแล้ว พร้อมทั้งพัฒนา
ศักยภาพเครือข่ายด้านอาชีพในพ้ืนท่ี 14 จังหวัดภาคใต้ เนื่องจาก
ผู้ท่ีผ่านการฝึกอบรมจานวนหน่ึง สามารถสร้างธุรกิจเป็นของตนเอง
และประสบความสาเร็จเป็นอย่างดี และบุคคลกลุ่มน้ีกลายเป็น
แรงบนั ดาลใจให้กับรุน่ นอ้ งๆ ตอ่ ไป

3. การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเพ่ือป้องกันการถูกล่อลวง
โดยการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกบั การค้าประเวณีและการถูกล่อลวง
การตั้งครรภ์ไม่พร้อม เพ่ือเสริมสร้างศักยภาพเครือข่ายภาครัฐ
เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้าประเวณี ผ่านโครงการต่างๆ
ระหว่างฝกึ อบรม ซึง่ จะสง่ ผลใหเ้ กิดการพัฒนาอยา่ งยงั่ ยืน

พม.กบั งานบริการทางสงั คม 55

การดาเนินงานร่วมกับสานักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสงั คม
และความม่นั คงของมนุษย์

จากการย้ายห น่วยงาน มาสังกัดกรมกิจการสตรี
และสถาบันครอบครัว มีการปรับเปลี่ยนภารกิจให้สอดคล้องกับ
นโยบายของกรม โดยศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคใต้
จังหวัดสงขลา ดาเนินงานตามภารกิจร่วมกับสานักงานพัฒนาสังคม
และความมั่นคงของมนษุ ย์ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ 14 จงั หวัด ดังนี้

1. การขับเคลื่อนกลไกในระดับจังหวัด โดยมีคณะอนุกรรมการ
คุ้มครองและพัฒนาอาชีพจังหวัด คณะอนุกรรมการส่งเสริมและ
พัฒนาครอบครัวจงั หวดั เป็นกลไกขบั เคลอ่ื น

2. การสร้างครอบครัวเข้มแข็ง โดยการประเมินสถานการณ์
ความเข้มแข็งของครอบครัวในพื้นที่ และดาเนินงานร่วมกับ
เครอื ขา่ ยในพน้ื ที่

3. การคุ้มครองช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย ดาเนินการพัฒนาระบบ
ของศูนย์ปฏิบัติการจังหวัด และการให้ความช่วยเหลือตามกรอบภารกิจ
ตามพระราชบัญญัตทิ เี่ กยี่ วขอ้ ง

4. การรณรงค์/ประชาสัมพันธ์ ผ่านกิจกรรมการจัดงาน
วันสตรีสากลจังหวัด การจัดกิจกรรมรณรงค์ลดความรุนแรงในครอบครัว
และการจัดงานวนั แหง่ ครอบครวั ระดบั จังหวัด

พม.กับงานบริการทางสังคม 56

รางวัลที่ได้รับจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์

ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคใต้ จังหวัดสงขลา
ได้รับรางวัลประเภทหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม.ท่ีมีผลงานเป็นเลิศ
เมื่อวันท่ี 3 ตุลาคม 2559 ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกผลงานด้าน
การพัฒนาสังคมเป็นเลิศ ได้พิจารณาจากหน่วยงานท่ีมีการปฏิบตั ิงานดีเลิศ
เป็นที่ประจักษ์ บุคลากรมีความมุ่งมั่น ต้ังใจปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบ
อย่างเต็มกาลังและมีความสุขในการปฏิบัติงาน สุขกาย สุขใจ
สงิ่ แวดลอ้ มรอบขา้ งมีความสุข

พม.กับงานบริการทางสงั คม 57

ข้อคดิ เหน็ ผู้บริหาร
“ดแู ลดงั่ ลูก ปลูกฝังคณุ ธรรม
หนนุ นาอาชีพ”

นางวรยิ า สนทิ วาที
ผูอ้ านวยการศูนยเ์ รียนรกู้ ารพัฒนาสตรี
และครอบครัวภาคใต้ จังหวัดสงขลา
ได้เล่าถึงบทบาทภารกิจของหน่วยงานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
มกี ารพฒั นาเปลยี่ นแปลงในหลายดา้ น ดังน้ี
ในอดีตศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคใต้
จังหวัดสงขลา เป็นศูนย์สงเคราะห์ในการช่วยเหลือสตรี ยุวสตรี
ท่ีประสบปัญหาทางสังคม โดยเฉพาะการทางานในเชิงป้องกันเพ่ือไม่ให้สตรี
ถูกหลอกลวงไปประกอบอาชีพท่ีไม่เหมาะสม ด้วยสถานการณ์ทางสังคม
เปลี่ยนแปลงไป และมีการโอนย้ายหน่วยงานมาสังกัดกรมกิจการสตรี

พม.กับงานบริการทางสงั คม 58

และสถาบันครอบครัว(สค.) ซ่ึงเป็นโจทย์ที่ท้าทาย ทาอย่างไรให้
ศนู ย์พัฒนาครอบครัวในชุมชนเป็นกลไกขับเคล่ือนงานในชุมชนควบคู่กันไป
กบั การดาเนินงานตามภารกิจของหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายนอกเหนอื จาก
ภารกิจหลัก คือ การฝึกอาชีพแล้ว ยังได้รับมอบหมายให้ดาเนินการ
สร้างความเข้มแข็งของสตรีและครอบครัวในชุมชน ในขณะเดียวกัน
มีการถ่ายโอนภารกิจงานของกรมลงมาให้ทางศูนย์ฯ เพื่อดาเนินงาน
ด้านสตรีและครอบครัว เช่น การจัดค่ายครอบครัว การจัดทา
โรงเรียนครอบครัวและการเผยแพร่ข้อมูล พระราชบัญญัติต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
กับภารกิจของกรม เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกการความรุนแรงใน
ครอบครัว พ.ศ. 2550 พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ.2558
พระราชบัญญตั ิฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.2545เป็นต้น

ด้วยภารกิจของศูนย์ฯ เป็นตัวแทนของกรมกิจการสตรี
และสถาบันครอบครัวเพียงแห่งเดียวของภาคใต้ ดูแลเขตพ้ืนที่รับผิดชอบ
14 จังหวัด เป็นกลไกสาคัญในการขับเคลื่อนการป้องกันความเสี่ยงแก่เด็ก
สตรี หรือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ตลอดจนการใช้พัฒนาศักยภาพสตรี
ในระดับพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้สตรีมีโอกาสได้ใช้ศักยภาพของตนเอง
และเป็นหน่วยงานหนึ่งที่ตั้งรับและปรับบทบาทภารกิจให้เท่าทัน
กบั สภาพปญั หาทเ่ี กดิ ขน้ึ ก่อใหเ้ กดิ การเปล่ยี นแปลงในหลายดา้ นเชน่

1. กลุ่มเป้าหมาย ในอดีตศูนย์ฯ จะรับบุคคลท่ีส่งต่อมาจาก
หน่วยงานท่ีประสบปัญหาทางด้านสังคมค่อนข้างน้อย แต่ปัจจุบัน
เปิดโอกาสให้บุคคลเหล่านั้นเข้ามาฟื้นฟูสภาพจิตใจหรือพัฒนา

พม.กับงานบริการทางสังคม 59

ศักยภาพด้านอาชีพให้สามารถออกไปสู่สังคม และยืนอยู่ในสังคม
ดว้ ยความเข้มแข็ง

2. การเปลี่ยนบทบาทจากศูนย์สงเคราะห์ฯ เป็นศูนย์เรียนรู้ฯ
รองรับกลุ่ม บุคคล องค์กรภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามาศึกษาเรียนรู้
นอกจากภารกิจการฝึกอบรมด้านอาชีพแล้ว ยังดาเนินการอบรม
โครงการพิเศษควบคู่ไปด้วย หน่ึงในโครงการดังกล่าว คือ
โครงการแนะแนวการประกอบอาชพี ปัจฉิมนิเทศและจัดหางานซึ่ง
เป็นโครงการ ท่ีมีวัตถุประสงค์เพื่อแนะแนวทางให้ผู้เข้ารับการ
ฝึกอบรมอาชีพที่ใกล้จบหลักสูตร ได้มีความรู้ ทักษะ มีแนวทางท่ีสามารถ
นาไปประกอบอาชีพ เลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยให้ความรู้เร่ืองทักษะ
การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจาวัน สมัครงานอย่างไรไม่ให้ตกเป็นเหย่ือ
การค้ามนุษย์ ความรู้เรื่องการส่ือสารและการวางตัวท่ีเหมาะสม
ในการประกอบอาชีพ การประกันสังคม และการเสวนาเรื่อง การนาทักษะ
ความรไู้ ปประกอบอาชีพจากรุ่นพีท่ จ่ี บหลกั สตู รไปแลว้

3. การเปิดรับสมัคร เดิมรับบุคคลท่ัวไปอายุ 14 ปีไม่เกิน 35 ปี
ปัจจุบันขยายอายุเป็น 14-60 ปี เพื่อช่วยเหลือสตรีท่ีประสบปัญหา
ทางสังคมและพัฒนาศักยภาพของสตรีและคนในครอบครัวและรองรับ
สังคมผู้สูงอายุ เพราะในอนาคตคนกลุ่มน้ีจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ
เนื่องจากปัจจุบันผู้สูงอายุส่วนใหญ่ถูกทอดท้ิงให้อยู่ตามลาพัง
หากไม่มศี ักยภาพจะไมส่ ามารถดูแลตนเองได้

พม.กับงานบริการทางสังคม 60

4. การพัฒนาสถานท่ีฝึกอบรมให้มีความพร้อม รองรับคนพิการ
ผสู้ ูงอายุ โดยการปรับปรุงสิ่งอานวยความสะดวกภายในและนอกอาคารเรียน
เช่น ห้องน้า อาคารเรียน ถนนหนทาง โรงอาหารซ่ึงปัจจุบันผ่านมาตรฐาน
ด้านสุขาภิบาลอาหาร โครงการอาหารสะอาด รสชาติอร่อย
(Clean Food Good Teste) จากกระทรวงสาธารณสุข

5. การพัฒนาหลักสูตร ในอดีตจะกาหนดให้ผู้ท่ีเข้าเรียน
ต้องมาเรียนภายในศูนย์ฯ เท่านั้น เป็นการจากัดสิทธิคนอีกกลุ่มหน่ึง
ท่ีมีภาระไม่สามารถเข้ามาเรียนภายในศูนย์ฯ ได้ โดยเฉพาะคนท่ีอยู่
ในวัยทางานแต่มีภาระครอบครัว แต่ต้องการความรู้เพ่ือนาไป
ประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้กับครอบครัว และอีกกลุ่มหน่ึงท่ีมีความรู้
มีอาชีพ แต่ที่ต้องการพัฒนาทักษะอาชีพของตนให้เท่าเทียม
หรือเหนือกว่าคนอื่น เพื่อเข้าไปสู่การแข่งขันของตลาด ซ่ึงการปรับปรุง
หลักสูตรเพ่ือให้บุคคลดังกล่าวเข้ามาเรียนรู้ในสิ่งท่ีต้องการ แต่เนื่องจาก
ข้อกาจัดด้านครูผู้สอนวิชาชีพ งบประมาณ จึงเปิดสอนได้เพียง
หลักสูตรระยะส้ัน หลกั สูตรท่ีได้รบั ความนิยมและเป็นเอกลักษณ์
ของศูนย์ฯ คือ หลักสูตรปักจักรและหลักสูตรตัดเย็บเส้ือผ้า
เป็นที่ต้องการของตลาด แต่ยังขาดการออกแบบลวดลายผลิตภัณฑ์
ที่หลากหลายในการเพิ่มมูลค่าสินค้า ผลิตภัณฑ์ท่ีได้รับความนิยม
คือ ผลิตภัณฑ์จากผ้าปาเต๊ะ โดยผลิตเป็นสินค้าตกแต่งบ้าน เช่น ผ้าปูโต๊ะ
หรอื เซท็ ผ้าบนโต๊ะอาหาร กระเป๋าใส่โนต๊ บุ๊ค ปกไดอารี่ เปน็ ตน้

พม.กับงานบริการทางสังคม 61

6. ขยายภาคีเครือข่ายภายนอกเดิมเครือข่ายมเี พียงกลุ่มเปา้ หมาย
ที่เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯ และเครือข่ายหน่วยงานราชการบางส่วน
แต่เม่ือโอนมาสังกัดกรมกิจการสตรีฯ ได้นาศูนย์พัฒนาครอบครัวในชุมชน
มาเป็นกลไกขับเคล่ือนงานในพื้นที่ควบคู่ไปกับภารกิจของกรมฯ ในการสร้าง
ความเข้มแข็งของสตรีและครอบครัว ซ่ึงศิษย์เก่าท่ีจบการศึกษา
ออกไป มีส่วนสาคัญอย่างย่ิงในการประชาสัมพันธ์บทบาทภารกิจ
ของหน่วยงานไดเ้ ป็นอย่างดี

7. ขยายช่องทางประชาสัมพันธ์หน่วยงาน เดิมใช้แผ่นพับ
ส่ือทางวิทยุเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์แต่ไม่แพร่หลาย จึงขยายช่องทาง
ส่ือการประชาสัมพั นธ์ โดยริเริ่มจัดท าเว็บไซต์ เฟสบุ๊ ค ปฏิ ทิ น
ประชาสัมพันธ์หรือปฏิทินจีน ซึ่งสามารถประชาสัมพันธ์ภารกิจของศูนย์ฯ
ไดต้ ลอดท้ังปี

พม.กบั งานบริการทางสังคม 62

8. การก่อตั้งมูลนิธิสงเคราะห์เด็ก สตรีและผู้ด้อยโอกาสภาคใต้
เพอ่ื ชว่ ยเหลอื เด็กท่ีมคี ุณสมบัติ คอื เรียนดี แต่มีภาระรับผิดชอบครอบครัว
ทางมูลนิธิฯ จะมอบทุนและจัดซื้ออุปกรณ์ประกอบอาชีพ สามารถทางาน
มีรายได้หลังจากจบออกไป ซ่ึงเป็นผลสืบเนื่องจากการจัดประชุม
เครือข่ายสตรีท่ีผ่านการฝึกอบรมของศูนย์ฯ ซึ่งได้เร่ิมดาเนินการ
ในช่วง 2-3 ปีท่ีผ่านมา และมีส่วนสาคัญในการก่อตั้งมูลนิธิฯ จากเดิม
การช่ วยเหลื อเพ่ื อจั ดซื้ ออุ ปกรณ์ ในการประกอบอาชี พเป็ นไปได้ ยาก
ต้องประสานหน่วยงาน พม.ในพ้ืนท่ี ในการให้ความช่วยเหลือ
เป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัว ซง่ึ ไมเ่ พียงพอตอ่ ความต้องการ

9. พัฒนาบุคลากรของศูนย์ฯ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นคน
รุน่ เกา่ ใหส้ ามารถใชค้ อมพิวเตอรร์ ะดับพ้นื ฐานได้ทุกคน
ปัจจัยความสาเรจ็

1. การกาหนดนโยบายผู้บริหาร กระทรวง พม. เป็นส่วนสาคัญ
ในการขับเคลื่อนงานให้เกิดความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะอย่างย่ิง
การกาหนดนโยบายของ รมต.พม. ปลัด พม. และผู้บริหารระดับสูงร่วมคิด
วางแผนขบั เคลือ่ นการทางานให้บรรลตุ ามนโยบาย 9 - 5 - 5

2. บุคลากรของศูนย์ฯ มีความรับผิดชอบในหน้าท่ีของตนเอง
คอ่ นข้างสูง พยายามสอนงานให้กับรุ่นน้องให้เข้ามารับช่วงงานต่อ
จากรุ่นพี่ ในการลงพื้นที่จะมีรุ่นพ่ีเป็นพ่ีเลี้ยง มีผู้บังคับบัญชาทาหน้าที่
เป็นผู้ส่งเสริม กระตุ้นและช่วยแก้ไขปัญหา โดยการกระตุ้นให้รู้จักคิด
และกระทาดว้ ยตนเองรบั ผิดชอบงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายแบง่ งานให้เหมาะสม

พม.กับงานบริการทางสังคม 63

กับตัวบุคคล ช่วยแก้ปัญหาท่ีเกิดข้ึนจากการปฏิบัติงานหากเกิด
ขอ้ ผิดพลาดจากการทางาน

3. หนว่ ยงาน พม.และภาคีเครอื ขา่ ย ให้การชว่ ยเหลอื
หน่วยงานสังกัดกระทรวง พม. ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ
อาทิเช่น จัดหากลุ่มเป้าหมายในพ้ืนที่ 14 จังหวัดภาคใต้ นาเคส
ของแต่ละหน่วยงานเข้ารับการฝกึ อบรมอาชพี ภายในศูนย์ฯเม่อื จบหลักสูตร
จะนากลับดูแลหรือดาเนินการส่งต่อ ประสานอัยการกรณีเคส
ได้รับความรุนแรงของครอบครัว ติดต่อประสานงานศูนย์พัฒนา
ครอบครัวในพ้ืนท่ี ฝึกอบรมทักษะการทาอินโฟกราฟฟิกให้กับ
เจ้าหน้าท่ีของศูนย์ฯ สนบั สนุนคนสวนตัดหญ้าและตกแต่งภูมิทัศน์
ภายในศูนย์ฯ เปน็ ต้น
ภาคีเครือข่าย มีการบูรณาการกับหน่วยงานอ่ืน เช่น
วิทยากรบรรยาย จัดหากลุ่มเป้าหมายในพ้ืนท่ี การให้ความช่วยเหลือ
ในด้านต่างๆ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ได้แก่ ทีมสหวิชาชีพ,
ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสงขลา, สานักงานคุมประพฤติ
จงั หวัดสงขลา, สานักงานจัดหางานจังหวัดสงขลา , สานักงานประกันสงั คม ,
สานักประชาสัมพันธ์เขต 6 สงขลา , คณะแพทย์ศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์
คณะทันตแพทย์ มหาวิทยาสงขลานครินทร์ , ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรม
ภาค 11 , หน่วยงานสังกัดกรมทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ,
หน่วยงานสังกัดกรมป่าไม้, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น , หน่วยงานในพื้นท่ี
อาเภอรัตภูมิ , มูลนธิ ิเฟือ่ งฟ้า , สถานประกอบการตา่ งๆ ในพื้นท่ี 14จังหวัด

พม.กับงานบริการทางสังคม 64

ภาคใต้ , มัสยิด , หอการค้า , สภาสตรีมุสลิมภาคใต้ , ประธานสตรีมุสลิม
14จังหวัดภาคใต้ , ชมรมคนพกิ าร, ชมรมผู้สงู อายุ , ศษิ ยเ์ ก่ารุ่นพี่ ฯลฯ

4. การสร้างแรงจูงใจผู้รับการฝึกอบรม การเรียนการสอนภายใน
ศูนย์ฯ ไม่ได้สอนวิชาชีพเพ่ือเล้ียงตนเองและครอบครัวเท่าน้ัน แต่สอนให้มี
คุณธรรมจริยธรรมด้วย ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นมุสลิมจึงได้เน้นการอบรมวิถีชีวิต
เพ่ือให้ออกไปเป็นคนดีของสังคม สอนให้รู้จักการทักทายและการเคารพ
ด้วยการไหว้ ทุกคนเข้ามาเรียนด้วยความต้ังใจ ไม่มีใครบังคับและพักอาศัย
ภายในศนู ยฯ์ น้ีอยา่ งมคี วามสขุ หลายคนได้รับงานจากภายนอกศูนยฯ์ มาทา
โดยศูนย์ฯ เป็นผู้ประสานติดต่อสามารถนารายได้ส่วนหนึ่งส่งให้ทางบ้าน
แม้จะไม่มากมายนักแต่ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจท่ีได้มีส่วนช่วยเหลือ
ครอบครัว ที่สาคัญผู้ท่ีเข้ามาเรียนส่วนใหญ่ได้ทราบเรื่องการพัฒนาอาชีพ
ของศูนย์ฯ จากรุ่นพี่ท่ีสาเร็จ การฝึกอบรมและได้ประกอบอาชีพ
อยูใ่ นชมุ ชนแล้ว ซง่ึ ถอื เป็นการประชาสัมพนั ธ์ท่ีได้ผลดที ี่สุด

นอกจากน้ีทางศูนย์ฯ ยังได้ติดต่อประสานงานกับผู้ที่
ประสบความสาเร็จในการประกอบอาชีพในชุมชนมาเป็นวิทยากรบรรยาย
ให้แก่นักเรียน บางคนหวงวิชามากไม่ยอมถ่ายทอดให้ใคร แต่ยอม
เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้แก่นักเรียนภายในศูนย์ฯ เช่น
วิทยากรท่ีมีอาชีพขายชาชัก นอกจากน้ันนักเรียนท่ีสาเร็จการศึกษา
และไปประกอบอาชีพจนประสบผลสาเร็จ ได้กลับมาเป็นวิทยากร
ใหท้ างศนู ย์ฯ ด้วย ถอื เป็นการสร้างความสัมพันธ์ท่ีดีระหวา่ งศูนย์ฯ
กบั ศิษย์เก่าและชมุ ชน

พม.กับงานบริการทางสงั คม 65

ตัวอย่างความสาเรจ็ ของผู้เข้ารับบรกิ าร (นอกสถาบัน)
นางปรีดะ อายะหมีน ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้าน

เกษตรกรบ้านหัวเขา หมู่ที่ 9 ตาบลฉลุง อาเภอเมือง จังหวัดสตูล
จัดต้ังเม่ือวันที่ 14 พฤศจิกายน 2548 สมาชิกเริ่มแรก 15 คน
จุดเริ่มต้นจากแม่บ้านเกษตรกรรวมตัวกันใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
รวมกลุ่มกันด้วยความสมัครใจเข้ารับการฝึกอาชีพกับศูนย์ฯ เพื่อรับความรู้
ด้านการทาขนมพ้ืนเมือง อาทิเช่น ขนมโรตีกรอบ ครองแครงกรอบ ขนมมัน
รงั นกขนมไข่ ขนมผิงขนมโดนทั เปน็ ต้น ภายใตแ้ บรนด์ “ฟารดี า”ซงึ่ ไดร้ ับ
การสนับสนุนงบประมาณรวมกลุ่มประกอบอาชีพ 110 วัน จากศูนย์เรียนรู้
การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคใต้ จังหวัดสงขลา และหน่วยงานอื่นๆ
ในพ้ืนท่ีจังหวัดสตูล จนสามารถผลิตสินค้าท่ีมีคุณภาพผ่านมาตรฐาน มผช.
(มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน) ฮาลาลและโอทอป ระดับห้าดาว “ผลิตภัณฑ์
โรตีกรอบ” ปัจจุบันมีสมาชิก จานวน 21 คน สามารถสร้างรายได้
และลดรายจ่ายให้กับครอบครัว ซ่ึงนับว่าเป็นกลุ่มอาชีพที่มีความเข้มแข็ง
และพยายามอนุรักษ์สืบทอดภูมิปัญญาด้ังเดิมของบรรพบุรุษ สามารถ
ฝึกทักษะด้านอาชีพให้แก่สมาชิกและถ่ายทอดความรู้ความสามารถ
แก่เยาวชนคนรุ่นหลังที่สนใจ มีการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ พัฒนา
บรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงาม ตลอดจนแสวงหาความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ
เพื่อนามาปรับปรุงกระบวนการผลิตและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย
ขยายช่องทาง การจาหน่ายผลิตภัณฑ์ไปยังจังหวัดใกล้เคียง และประเทศ

พม.กับงานบริการทางสงั คม 66

มาเลเซีย ถือเป็นกลุ่มอาชีพท่ีเป็นแบบอย่างที่ดีในการทากิจกรรมของกลุ่ม
เป็นตน้ แบบในการบริหารโครงการใหม้ ีประสทิ ธภิ าพและมีความยง่ั ยนื
การจัดระบบสวสั ดิการ เพื่อช่วยเหลือสมาชิก ได้แก่

-กรณปี ระสบอบุ ตั เิ หตเุ สียชวี ติ จา่ ยคา่ ทาศพๆละ1,000บาท
- กรณีเจ็บป่วย นอนโรงพยาบาลไม่เกิน 2 คืน จ่ายค่า
รักษาพยาบาลคร้ังละ 500 บาท
- กรณีคลอดบุตร จา่ ยครงั้ ละ 500 บาท
- เงนิ ทนุ ก้ยู ืมแก่สมาชกิ ครั้งละ 2,000 บาท ผอ่ นชาระคืน
ภายใน 4 เดือน โดยไม่มดี อกเบี้ย
-จัดกิจกรรมบาเพ็ญประโยชน์ในชุมชน เช่น การจัดเลี้ยงอาหาร
แก่เด็กกาพร้าและเด็กก่อนวัยเรียน มอบทุนการศึกษาแก่เด็กกาพร้า
ในวันตรษุ อดิ ้ลิ ฟติ รี
ตัวอยา่ งความสาเรจ็ ของผูเ้ ขา้ รับบริการ (ในสถาบัน)
นางสาวกมลเนตร หนูรักษ์ อายุ 36 ปี เป็นคนจังหวัดสงขลา
จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
วิทยาเขตพระนครใต้ คณะคหกรรมศาสตร์ วิชาเอกอาหารและโภชนาการ
เข้าทางานท่ีโรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ ตาแหน่งนักโภชนาการ
ได้รับเงินเดือนประมาณ 20,000 บาท/เดือน แต่มีใจรักและใฝ่ฝัน
อยากจะมีร้านเสริมสวยเป็นของตนเอง ในปี 2552 มารดาแจ้งให้ทราบว่า
ทางศูนย์ฯ เปิดรับสมัครหลักสูตรเสริมสวยสตรีและตัดผมชาย รุ่นท่ี 40
หลักสูตร 6 เดือน เรียนฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ พร้อมท่ีพักภายในศูนย์ฯ

พม.กับงานบริการทางสงั คม 67

จึงลาออกจากงานประจามาสมัครเรียนจนจบหลักสูตร จากนั้นได้สมัคร
เป็นลูกจ้างร้านเสริมสวยใกล้บ้าน เพื่อฝึกทักษะสั่งสมประสบการณ์
และเก็บออมเงินเพื่อเป็นทุนเปิดร้าน ประมาณ 6 เดือน จึงลาออก
มาเปิดร้านเสริมสวย “เอ บิวต้ี” โดยใช้บ้านพักเป็นสถานท่ีเปิดร้าน
โดยบิดามารดาสนับสนุนเงินทุนเปิดร้านบางส่วน จนประสบผลสาเร็จ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2558 ได้ร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านเสริมสวย BL ซาลอน
ในอาเภอหาดใหญ่ ปัจจุบันมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 80,000–100,000 บาท
ในอนาคตวางแผนจะเปิดให้บริการนวดสปา ทาเล็บเจลอะคริลิก
นอกการนั้นยังแบ่งเวลามาเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้และแนะแนวอาชีพ
ให้กับรุ่นน้องภายในศูนย์ฯ โดยไม่คิดค่าตอบแทน ซ่ึงกว่าจะ
ประสบความสาเร็จในทุกวันนี้ต้องฝ่าฟันปัญหาอุปสรรค หนักเอาเบาสู้
อดทนต่อคาสบประมาท แต่ด้วยกาลังใจจากบิดามารดา เพื่อน ครูผู้สอน
ซงึ่ เปรยี บเสมือนยาชกู าลังใหม้ ีพลังกา้ วเดนิ ต่อไปใหถ้ ึงฝัน

จากท่ีกล่าวมาข้างต้นนี้ มีส่วนสาคัญเป็นแรงกระตุ้นผลักดัน
ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางท่ีดีข้ึนจากเดิม จนประสบผลสาเร็จ
ในการทางาน โดยไม่ไดม้ องทง่ี บประมาณเป็นตวั ตัง้

พม.กบั งานบริการทางสงั คม 68

แผนการพฒั นาในอนาคต
1. แบรนด์สินค้า ปัญหาส่วนใหญ่คือ กลุ่มอาชีพผลิตสินค้า

จาหน่ายในท้องตลาด ไม่มีเงินทุนในการออกแบบแบรนด์สินค้า
แต่เน่ืองจากทางศูนย์ฯ มีงบประมาณ จงึ มีแนวคิดจะออกแบบแบรนดส์ ินค้า
ให้กลุ่มอาชีพดูเป็นตัวอย่าง โดยจะปรึกษากับผู้เช่ียวชาญในการออกแบบ
เพ่ือให้มีแบรนด์ท่ีเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของแต่ละกลุ่ม สร้างนวัตกรรม
เพ่มิ มลู คา่ ผลิตภณั ฑ์ เพื่อก้าวให้ทนั ไทยแลนด์ 4.0

2. ปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนให้ทันสมัย ทันต่อ
สถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง โดยจะทบทวนหลักสูตรการเรียน
การสอนของแต่ละแผนกและวิเคราะห์สภาพปัญหาอุปสรรค หาก
ปรับปรุงแล้วส่งผลดีจะทาต่อ หากปรับปรุงแล้วไม่มีผลดีอาจจะ
กลบั ไปใช้หลกั สตู รเดมิ หรอื คดิ หลกั สูตรการเรยี นการสอนขึน้ มาใหม่

3. อบรมครูในเรื่องของหลักสูตรเทคนิคและจิตวิทยา
ของการเป็นครูผู้สอน ซ่ึงครูผู้สอนของศูนย์ฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้ผ่านการอบรม
หลักสูตรน้ี เพราะต้ังแต่เปิดศูนย์ฯ จัดอบรมเพียงคร้ังเดียว โดยจะ
เชิญบุคคลภายนอกมาให้ความรู้ เน่ืองจากหลักสูตรในอดีตกับเด็กที่เรียน
ในปจั จบุ ันได้เปลยี่ นแปลงไป และทางศูนยฯ์ ได้พยายามสร้างคนท่ี
มีความพร้อมท่ีจะรองรับบทบาทภารกิจใหม่ที่เพิ่มมากข้ึน คือ ต้องเป็นท้ัง
นักสังคมสงเคราะห์ เป็นครู และเป็นผู้ท่ีจะสามารถเผยแพร่
ถ่ายทอดความรู้วิทยากรให้กบั บคุ คลภายนอกได้

พม.กับงานบริการทางสังคม 69

4. ก่อสรา้ งอาคารแสดงและจาหนา่ ยผลิตภัณฑ์บริเวณด้านหน้า
ของศูนย์ฯ ตอนน้ีอยู่ระหว่างเสนอแปลนของบประมาณ เพื่อรองรับ
นักเรยี นท่จี บการศกึ ษา กรณไี ม่สามารถไปทางานขา้ งนอกได้

5. อาคารเรียน จะมีการพัฒนาอุปกรณ์ฝึกอบรมให้แข็งแรง
ทนทานตอ่ การใชง้ าน โดยการเปล่ียนโตะ๊ ไม้ โตะ๊ ไฟเบอรเ์ ปน็ โตะ๊ สแตนเลส

6. อาคารหอพักจะปรับปรุงให้สามารถอาบน้าถูกสุขลักษณะ
เพื่อเปิดบริการให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้สถานที่ เช่น ใช้เป็น
สถานท่ีจัดงานแต่งงาน จัดประชุม ซึ่งขณะน้ีได้ปรับปรุงอาคาร
เอนกประสงค์ ติดตั้งพัดลม ปูกระเบื้อง สร้างห้องน้า เพ่ือรองรับ
คนทจ่ี ะเขา้ มาใช้บรกิ ารภายในศูนย์ฯ เพิม่ ขึน้

7. การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์กลุ่มให้เป็น
ไทยแลนด์ 4.0 ซ่งึ มสี ว่ นสาคญั ยิ่งในการเพมิ่ มลู ค่า
ปญั หาอุปสรรค

ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคใต้ จังหวัดสงขลา
เป็นหน่วยงานเดียวของกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวที่รับผิดชอบ
14จงั หวัดภาคใต้ ภายใต้บุคลากรจากดั พ้ืนทร่ี ับผดิ ชอบมากกว่าศนู ย์ฯอ่ืน
แต่มีจานวนบุคลากรใกล้เคียงกัน ปัญหาท่ีสาคัญคือ บุคลากรส่วนใหญ่
อยู่ในวัยใกล้เกษียณ ขาดคนมาทดแทน ซ่ึงควรจะมาเรียนรู้งานก่อนท่ีรุ่นพี่ๆ
จะเกษียณอายรุ าชการ เพ่อื ใหง้ านดาเนินต่อไปไดอ้ ยา่ งต่อเน่ือง

พม.กบั งานบริการทางสงั คม 70

สถานสงเคราะหเ์ ด็กบ้านสงขลา

สถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา เป็นท่ีรู้จักกันในช่ือ
“บ้านสงขลา” ตั้งอยู่เลขที่ 57/5 หมู่ 2 ตาบลพะวง อาเภอเมือง
จังหวัดสงขลา เป็นหน่วยงานภาครัฐ สังกัดกองส่งเสริมและพฒั นา
และสวัสดิการเด็กเยาวชนและครอบครัว กรมกิจการเด็กและเยาวชน
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ก่อต้ังข้ึน
เม่ือปี พ.ศ. 2526 และเปิดทาการในวันท่ี 9 เมษายน 2529
บนเนื้อท่ี 19 ไร่ 32 ตารางวา
ปรัชญาของ

“บา้ นสงขลา” เด็กดมี วี ินยั คอื หวั ใจขององค์กร
วิสยั ทศั น์

เด็กสขุ ภาพดี มพี ัฒนาการทสี่ มวัย ก้าวไกลด้านการศกึ ษา
พึ่งพาตนเองได้ กลับคนื สคู่ รอบครวั ที่อบอ่นุ

พม.กบั งานบริการทางสังคม 71

พนั ธกจิ
1. ให้การเล้ียงดู คุ้มครองและพัฒนาเด็ก ให้มีพัฒนาการท่ีดี

มีการศึกษา มีความรู้ความสามารถ พ่ึงพาตนเองและอยู่ในสังคม
ได้อย่างมีความสุข

2. ส่งเสริมองค์กรเครือข่ายทุกภาคส่วนให้มีส่วนร่วม
ในการดาเนนิ งานเพือ่ พัฒนาคุณภาพชีวติ เดก็

3. พัฒนาศักยภาพบุคลากรและทีมงานอย่างต่อเนื่อง
เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และรองรับการเข้าสู่
ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น
คาขวัญ

เล้ยี งดดู ว้ ยความรัก ฟูมฟักดว้ ยใจ
โครงสร้างการบริหาร

พม.กับงานบริการทางสงั คม 72

อตั รากาลงั ประจาปี 2560

ภารกจิ ในการดาเนินงาน คอื
1. ให้การอุปการะเลี้ยงดูและพัฒนาเด็กท่ีจาต้องได้รับ

การสงเคราะห์ ได้แก่ เด็กกาพร้าอนาถา ถูกทอดทิ้ง เร่ร่อน หรือ
เด็ ก ใน ค ร อ บ ค รั ว ที่ ผู้ ป ก ค ร อ ง ป ร ะ ส บ ปั ญ ห า ค ว า ม เดื อ ด ร้ อ น
สามารถเลี้ยงดูเด็กได้ เช่น ถูกจาคุก กักขัง พิการ ทุพพลภาพ
เจ็บป่วยเรื้อรัง ยากจน เป็นผู้เยาว์ หย่าร้าง ถูกทาร้าย เป็นโรคจิต
โรคประสาท หรือเด็กท่ีผู้ปกครองมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เล้ียงดู
โดยมิชอบและอ่ืนๆ ตามพ.ร.บ.คุ้มครอง เด็ก พ.ศ. 2546 โดยให้
การอุปการะเลี้ยงดูเด็กหญิงอายุแรกเกดิ จนถึง 18 ปี และเด็กชาย
อายุแรกเกดิ ถึง 6 ปี เด็กชายที่มีอายุเกิน 6 ปี จะส่งตอ่ ไปยังสถาน
สงเคราะห์ฯ อนื่ ทใ่ี หก้ ารอุปการะเลี้ยงดเู ดก็ ชาย

2. ให้การอุปการะ เด็กท่ีติดเชื้อไวรัสเอดส์ ตั้งแต่แรกเกิด
ทั้งชายและหญงิ

พม.กบั งานบริการทางสังคม 73

3. ดาเนินการเชิงรุก เพ่ือเป็นการป้องกันปัญหาด้านเด็ก
และเยาวชน โดยการออกปฏิบัติงานในชุมชน จัดอบรมให้ความรู้
ให้คาแนะนาปรึกษาแก่เด็ก/เยาวชนและครอบครัวรวมทั้ง
เดก็ ตดิ เชอ้ื ไวรสั เอดสแ์ ละไดร้ บั ผลกระทบจากปัญหาเอดส์
การให้บรกิ าร

1. ด้านปัจจัยสี่ อาหารตามหลักโภชนาการที่อยู่อาศัย
ที่ถูกสุขลักษณะ เครื่องนุ่งห่มที่เหมาะสมตามวัย ยารักษาโรค
และจัดให้มีการตรวจสุขภาพกาย สุขภาพจิต พร้อมท้ังดาเนินการ
รกั ษาเยียวยา ตามหลักการแพทย์

2. ด้านการพัฒนา ท้ังทางร่างกาย สังคม อารมณ์ จิตใจ
และสติปัญญา ส่งเสริมการเลน่ กฬี าและการนันทนาการ

3. ด้านการศึกษา เริ่มต้ังแต่การเตรียมความพร้อม
ก่อนวัยเรียนในสถานสงเคราะห์ และส่งไปรับการศึกษาภายนอก
สถานสงเคราะห์ ต้ังแต่อายุ 3 ปีข้ึนไป โดยการส่งเสริมสนับสนุน
ใหไ้ ด้รับการศึกษาในระดับสูงๆ ตามความสามารถของเด็ก รวมทั้ง
ส่งไปรบั การฝกึ อบรมอาชพี ตามความถนัดสาหรับเด็กท่ีไม่สามารถ
เรยี นในระบบได้

4. ดาเนินการ เพ่ือให้เด็กได้รับการอุปการะเป็นบุตรบุญธรรม
หรอื จัดหาครอบครัวทดแทนให้

5. ติดตามผล เยี่ยมเยียนเด็กที่พ้นจากการสงเคราะห์ไปแล้ว
เพ่ือให้การช่วยเหลือตามความเหมาะสมหรือคุ้มครองสวัสดิภาพ
ใหเ้ ดก็ ทเ่ี คยอยู่ในสถานสงเคราะห์ไม่ให้กลบั ไปสสู่ ภาพเดมิ

พม.กบั งานบริการทางสังคม 74

6. ให้คาแนะนาปรึกษาช่วยเหลือแก่ครอบครัวในรูปของเงิน
วัสดุส่ิงของตามความเหมาะสม เพ่ือให้ครอบครัวสามารถเล้ียงดูเด็กได้
โดยปกตสิ ขุ
เด็กทีร่ ับการสงเคราะห์

1. เด็กที่ถูกทอดท้ิงโดยส้ินเชิง สามารถดาเนินการ
ด้านครอบครัวทดแทนได้ โดยพิจารณาจากครอบครัวชาวไทย
และชาวตา่ งประเทศ

2. เด็กท่ีมีผู้ปกครอง (เข้ารับการสงเคราะห์เป็นการชั่วคราว)
ไม่สามารถหาครอบครัวทดแทนได้ เด็กอยู่รับการสงเคราะห์
จนกวา่ ครอบครัวจะมีความพร้อมที่รบั กลบั คืนสู่ครอบครัว ในกรณี
ดงั กลา่ ว สถานสงเคราะห์จะมบี ทบาทสาคญั ในการเชอ่ื มประสาน
ระหว่างเด็กและผู้ปกครอง ในการฟ้ืนฟูความสัมพันธ์ ระหว่างเด็ก
กับผู้ปกครอง สร้างความผูกพันที่เป็นเชิงบวก และความผูกพัน
ท่ีม่ันคงถาวร สถานสงเคราะห์ถือเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะเลือก
ให้เด็กอยู่
เขตพน้ื ทค่ี วามรบั ผิดชอบ

พื้นทคี่ วามรับผิดชอบ 14 จงั หวดั ภาคใต้

พม.กับงานบริการทางสงั คม 75

การมีสว่ นร่วมสนับสนนุ ของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน
1. สนับสนุนเงินค่าจ้างพี่เลี้ยงและครูพัฒนาการ ในอัตรา

เดือนละ 7,000 บาท ในรูปแบบงบประมาณและการบรจิ าค
2. อาสาสมัครช่วยเลี้ยงดู/ดูแลเด็ก ในลักษณะของจิตอาสา

ช่วยเหลอื สังคมเพอ่ื แบ่งปันความรักความอบอนุ่ ใหแ้ ก่เด็ก
3. เคร่ืองอุปโภค บริโภค และส่ิงของที่จาเป็นที่ต้องใช้

ในชีวิตประจาวัน ได้แก่ ข้าวสาร/ไข่ไก่/นมผง/นมยูเอสที/ผ้าอ้อม
สาเร็จรูป/ของเล่นท่ีส่งเสริมพัฒนาการและอ่ืน ๆ ตามแต่ผู้บริจาค
ประสงค์บริจาคให้

4. ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กได้มีครอบครัวทดแทน
เป็นรายบุคคล เช่น ครอบครัวอุปการะ ครอบครัวอุปถัมภ์ บุตรบุญธรรม
และโครงการทอฝันปันรัก ซ่ึงสถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา
ได้ดาเนินการมาตั้งแต่ปีงบประมาณ 2550 ปัจจุบันมีผู้สนใจเข้า
ร่วมโครงการแต่ยังไม่เพียงพอกับความต้องการท่ีเด็กๆ รอคอย
การแบ่งปันความรักจากท่านผู้มีจิตใจเต็มเป่ียมไปด้วยความรัก
ความเมตตา

5. การเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกได้เข้ามามีส่วนร่วม

ในการดูแล ช่วยเหลือ สงเคราะห์ เด็กในสถานสงเคราะห์

“โครงการทอฝันปันรัก” โดยการกรอกใบสมัครเพ่ือเข้าร่วมโครงการ

และสามารถระบุข้อมูลท่ีต้องการได้ ประกอบด้วย เพศชายหรือเพศหญิง

ช่วงอายุตั้งแต่ 1-3 ปี, 3-6 ปี หรือ 6 ปี ขึ้นไป และประเภทเด็ก 3 กลุ่ม

คือ เด็กกาพร้าถูกทอดทิ้ง เด็กที่ผู้ปกครองฝากชั่วคราว หรือ

พม.กบั งานบริการทางสังคม 76

เด็กติดเชื้อ HIV ซ่ึงผู้เข้าร่วมสามารถระบุความประสงค์ได้
ตามความต้องการ สาหรับระยะเวลาในการเข้าร่วมกิจกรรม
จะเป็นทุกสัปดาห์ๆ ละกี่คร้ัง หรือทุกเดือนๆ ละก่ีครั้ง ก็สามารถ
ระบไุ ดเ้ ชน่ กัน
วัตถปุ ระสงคข์ องผ้เู ข้าร่วมโครงการ

1. เย่ยี มเยยี นและให้กาลังใจ
2. ช่วยเหลือเลย้ี งดูภายในสถานสงเคราะห์
3. บริจาคทรัพยเ์ พอื่ เปน็ ทุนการศึกษา
ข้อควรรู้ เม่ือเข้าร่วมโครงการทอฝันปันรัก ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบ
ของสถานสงเคราะห์อย่างเคร่งครัด คอื

1. เข้าเยยี่ มเดก็ ตามเวลาท่ีกาหนด
2. ช่วยเหลือเล้ียงดู แนะนาส่ังสอนเป็นตัวอย่างที่ดแี กเ่ ดก็
3. เขา้ ร่วมโครงการ/ใหก้ าลงั ใจอย่างต่อเนื่อง
- หากไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือเข้าร่วมโครงการ
ตอ่ ไปได้ ต้องยนิ ดีออกจากโครงการโดยต้องแจ้งสถานสงเคราะห์ฯ
ล่วงหน้า 1 เดือน
- หากสถานสงเคราะห์ พิจารณาว่าผู้เข้าร่วมโครงการมีคุณสมบัติ
ท่ีไม่เหมาะสม หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อการเป็นอาสาสมัครโครงการ
ทอฝันปนั รกั ก็จะยินดีใหส้ ถานสงเคราะหฯ์ ถอนช่ือออกจากโครงการได้

พม.กบั งานบริการทางสงั คม 77

สถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา หน่วยงานท่ีมีผลงานด้าน
การพัฒนาสังคมเป็นเลิศ ประเภท “หน่วยงานที่มีการปฏิบัติงาน
เปน็ เลศิ ปี 2560”

พม.กับงานบริการทางสังคม 78

นางณิชาพชั ฌ์ เพชรพันธ์
ผปู้ กครองสถานสงเคราะหเ์ ด็กบา้ นสงขลา
ได้กล่าวว่า “การได้มาซ่ึงโล่ประกาศเกียรติคุณ
หน่วยงานท่ีมีผลงานด้านการพัฒนาสังคมเป็นเลิศในปี 2560
นั้นไม่ใช่เร่ืองง่าย เพราะต้องอาศัยความมุ่งมั่นในการบริหาร
การให้บริการกลุ่มเป้าหมาย การพัฒนาองค์กร พัฒนาคนให้ไป
ในทิศทางเดียวกนั เพื่อนาพาองค์กรสูค่ วามสาเรจ็ ”
แนวคดิ การดาเนินงาน
การกาหนด ปรัชญา วิสัยทัศน์ พันธกิจ ที่ชัดเจนเป็นส่วนสาคัญ
ท่ีให้การดาเนินงาน การบริหารประสบความสาเร็จ สามารถตอบสนอง
นโยบายหลกั ขององค์กรได้ ผู้บริหารต้องดาเนินงานตามนโยบาย
และแผนงานที่ได้กาหนดไว้ ประสานรับนโยบายจากผู้บริหารระดับสูง
เพ่ือกาหนดนโยบายให้ผู้ปฏิบัติงานระดับล่าง ได้นาแผนงานไปปฏิบัติ
อยา่ งรวดเรว็ ถกู ตอ้ งและเหมาะสม

พม.กับงานบริการทางสังคม 79

หลักการบริหาร คอื “การสรา้ งองคก์ รแหง่ ความสุข”
องค์กรแห่งความสุข ประกอบด้วย บุคลากรท่ีปฏิบัติงาน

อย่างมีความสุขและผู้รับบริการได้รับบริการท่ีดีและมีความสุข
เปรยี บเสมอื นครอบครวั ที่มีท้งั พ่อ แม่และลกู
บุคลากร ถือเป็นปัจจัยที่สาคัญในการขับเคลื่อนงาน ให้ “บ้านสงขลา”
ประสบความสาเร็จ การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้มีความพร้อม
มีทักษะ เทคนิค เพ่ือรองรับกับทุกสถานการณ์ ซ่ึงพ่ีเล้ียงจะอยู่
ในช่วงอายุเจเนอเรช่ัน เอ๊กซ์ ทาให้การดูแลเด็กไม่สอดคล้อง
กับ ยุคสมัยปัจจุบัน ดังนั้น บุคลากรต้องมีการอบรม พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
เพ่ือให้เข้ากับยุคสมัยและการดูแลเด็กอย่างถูกต้อง เหมาะสม ที่สาคัญ
บคุ ลากรและเจา้ หน้าทต่ี ้อง “ทางานอย่างมีความสุข”
กิจกรรม/โครงการเพอ่ื พัฒนาศักยภาพของบุคลากร ไดแ้ ก่

1. การเสริมพลังให้กับบุคลากร การพัฒนาศักยภาพ อบรม
ในด้านต่างๆ แก่เจ้าหน้าท่ีทุกคน ปีละ 2 คร้ัง โดยมีวิทยากรจาก
โรงพยาบาล หมอ นกั จิตวทิ ยา

2. เสริมสร้างสมรรถนะ เพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน
ของข้าราชการ เจา้ หน้าท่บี า้ นสงขลา

3. จัดสวัสดิการถ้วนหน้าชาวบ้านสงขลาชื่นใจ เพ่ือให้
บุคลากรมีขวัญและกาลงั ใจในการปฏบิ ัติงาน

4. อบรมเชิงปฏิบัติการ ทบทวนการป้องกันและแก้ไขปัญหา
เฉพาะหนา้ เม่อื เกิดอคั คภี ยั

พม.กบั งานบริการทางสงั คม 80

5. จัดสวัสดิการให้กับบุคลากร เช่น ท่ีพัก อาหาร และสวัสดิการ
ด้านอ่ืนๆ ทคี่ วรจะได้รับ เพอื่ ให้บุคลากรดูแลเด็กอย่างมคี ุณภาพ
เด็ก ที่เข้ามายังสถานสงเคราะห์ เป็นกลุ่มที่หลากหลาย มีตั้งแต่
แรกเกิดถึงอายุ 6 ปี ปัจจุบันขยายไปถึงอายุ 18 ปี ซ่ึงการรับเด็ก
เข้าสถานสงเคราะห์ มีหน่วยงานท่ีได้รับการประสานนาส่ง ได้แก่
บ้านพักเด็กและครอบครัว โรงพยาบาล สถานีตารวจ หรือ
พลเมืองดีโทรแจ้ง เป็นต้น เด็กที่รับเข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก
ทปี่ ระสบปญั หาทางครอบครัว ได้แก่

1. เด็กถูกทอดท้ิง ซึ่งเป็นเด็กที่เร่ร่อน กาพร้า อนาถา
พลัดหลง ไมม่ ผี อู้ ุปการะ ไม่มีครอบครวั

2. เด็กที่มีครอบครัว แต่ประสงค์ท่ีจะฝากลูกไว้ช่ัวคราว
เน่ืองจากประสบปัญหา ความเดือดร้อน ไม่สามารถให้การเล้ียงดูได้
แ ล ะ เมื่ อ ค ร อ บ ค รั ว มี ค ว า ม พ ร้ อ ม ก็ ส า ม า ร ถ รั บ ก ลั บ ไป อ ยู่
ในครอบครวั ได้ตามเดิม

3. กลุ่มแม่วัยใส ต้ังครรภ์ไม่พร้อม สาเหตุมาจากการไม่รับผิดชอบ
ของฝา่ ยชายและการมีเพศสัมพนั ธก์ ่อนวยั อนั ควรและไมม่ ีการป้องกนั

พม.กบั งานบริการทางสงั คม 81

“จานวนเดก็ แยกตามอายุ” ปี 2560

ปัญหาสาคัญ เด็กท่ีเข้ามาส่วนใหญ่จะมีปัญหาเร่ืองสุขภาพ
ต้ังแต่อยู่ในครรภ์มารดา จากการถูกทาร้าย รับสารอาหารท่ีไม่ครบถ้วน
ทาให้เด็กที่เข้ามามีสุขภาพไม่แข็งแรง ร่างกายพิการ น้าหนักน้อย
เสี่ยงต่อการติดโรค หรือติดโรคมาแล้ว เด็กบ้านสงขลาทุกคน
ต้องได้รับการส่งเสริมพัฒนาการท่ีเหมาะสมตามช่วงวัย และได้รับ
การดแู ลรกั ษา ถกู ต้องและเหมาะสมอยา่ งต่อเน่อื ง

เด็กบ้านสงขลาจะก้าวออกไปสู่สังคมภายนอกอย่างมีความสุข
มีอาชีพ มีรายได้ ช่วยเหลือสังคมได้ ซ่ึงเราให้ความสาคัญต่อการ
พัฒนาเด็กตามช่วงวัย 4 ดา้ น ไดแ้ ก่

พม.กับงานบริการทางสงั คม 82

1. ส่งเสริมพัฒนาการในเด็กเล็ก โรงเรียนมอนเตสซอร่ี
(Montessori) เเนวทางของมอนเตสซอรม่ี ีหลกั 5 ประการ คอื

1.1 เด็กจะต้องได้รับการยอมรับนับถือ เพราะเด็กเเต่ละคน
มีความเเตกต่างกัน ผู้ใหญ่จึงควรยอมรับเด็กในเเบบท่ีเขาเป็น
เเละพัฒนาเด็กไปตามจุดเเข็ง

1.2เดก็ ท่ีมีจิตซมึ ซาบได้ จิตใจของเด็กในวยั นี้เรียนรู้ ซึมซบั ข้อมลู
ทุกสิ่งทุกอย่างได้ง่าย โดยเฉพาะอายุต้ังแต่เกิด ถึง 3 ขวบ
ผา่ นประสาทสัมผัสด้านการไดย้ นิ การชมิ การดมกลิ่น และการสัมผสั

1.3 ช่วงเวลาหลักของชีวิต ช่วงแรกจนถึง 6 ขวบเป็นช่วงสาคัญ
ในการพัฒนาทั้งสติปัญญาเเละจิตใจ ในช่วงน้ีควรมีอิสระ เด็กๆ
สามารถเรียนรู้ทักษะเฉพาะอย่างได้ดี ดังนั้น ควรหม่ันสังเกตความสนใจ
เเละเตรยี มการเรยี นการสอนให้สอดคลอ้ งกบั ตัวเด็ก

1.4 การเตรียมส่ิงแวดล้อม เด็กจะเรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อม
ที่เหมาะสม ซ่ึงการเรียนเเบบมอนเตสซอรี่จะมีการเตรียม
สภาพแวดลอ้ มให้เด็กๆ ไว้เปน็ อยา่ งดี

1.5 การศึกษาด้วยตนเอง ทาให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องระเบียบวินัย
ได้ทดลองแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยตนเองและทาให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจ
พร้อมท้ังเกดิ การเหน็ คุณคา่ ในตัวเอง

2. ด้านทักษะ กีฬา ศิลปะ ดนตรี ส่งเสริมกระตุ้นจินตนาการ
เด็กจะได้รับการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองตามช่วงวัย ตามยุทธศาสตร์
การพัฒนาเดก็ ในสถานรองรบั เพือ่ เข้าสู่ “เพชรน้าหน่ึง”

พม.กบั งานบริการทางสงั คม 83

3. ด้านวิชาการ เด็กที่อยู่ในวัยที่ต้องได้รับการศึกษา จะเน้น
การเรียนพิเศษให้เด็กได้มีความรู้ มีการศึกษาท่ีดี และเด็กทุกคน
ตอ้ งไดร้ ับการศึกษา และต้องเปน็ ความต้องการของตัวเด็กเองด้วย
ว่าต้องการศึกษาสายอาชีพหรือสายสามัญ เพราะเราคิดว่าเด็ก
ท่ีได้รับการศึกษาย่อมมีคุณภาพชีวิตท่ีดี และใช้ความรู้ที่ได้รับ
ไปดารงชีวิตได้อย่างมีความสุข สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงดู
ตนเองและครอบครัวได้ เด็กที่จบมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว
ก็จะส่งเสริมให้เด็กได้ศึกษาในระดับท่ีสูงขึ้น ปัจจุบันเด็กสามารถ
สอบเข้ามหาวิทยาลัยในระดับปริญญาตรี ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
1 คน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 คน มหาวิทยาลัยทักษิ ณ 1 คน
โรงเรยี นปญั ญาภวิ ัฒน์ 1คนถอื เป็นอกี ความสาเรจ็ ในด้านการศึกษา

4 ดา้ นอาชีพ โดยเฉพาะโรงเรยี นปญั ญาภิวฒั น์ ทางเลอื ก
ของการเรียนสายอาชีพของเดก็ ๆ โอกาสท่ีเด็กจะมีอาชีพ มีรายได้
และสรา้ งตวั ได้เร็ว
เป้าหมาย คือให้เด็กทุกคนออกไปสู่สังคมได้อย่างภาคภูมิ โดยมี
กจิ กรรม/โครงการเพ่อื การพฒั นาเด็ก เช่น

1. ส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็กในความอุปการะในแต่ละช่วงวัย
ตั้งแต่เด็กอ่อนถึงเด็กโต เพ่ือพัฒนาคุณภาพในการเล้ียงดูเด็กครบ
ทั้ง 4 ด้าน และปลูกฝังให้เด็กๆ มีระเบียบวินัย มีหัวใจรักชาติ
ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์

2. ถนนเดก็ เดิน และงานสขุ สันต์วนั เกิด

พม.กบั งานบริการทางสงั คม 84

3. ฝึกอาชีพระยะส้ันให้เด็กในวัยเรียน หลักสูตร 5 วัน
ในโรงเรยี นประถม ในเขตพ้ืนท่จี ังหวัดสงขลา จานวน 4 รนุ่

4. วันเด็กแห่งชาติ วันสงกรานต์
5. วนั สาคัญตา่ งๆ
6. เสริมทกั ษะและกระบวนการเรียนรู้แก่เด็กในสังคมอาเซียน
7. การอนุรักษ์ สืบสานศิลปะมโนราห์
8. “Science forkids Camp”ความสุขของการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์
9.ต้นทนุ ชวี ติ วยั รุ่นกบั แนวคิดการพ่ึงพาตนเองบนวิถีชีวิตชมุ ชน
ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

“โครงการเพชรน้าหนึง่ ”
โครงการเพชรน้าหนงึ่ เป็นโครงการพฒั นาศักยภาพเด็กและเยาวชน
ในสถานรองรับ รูปแบบ One Talent One Model (ด้านกีฬาฟุตบอล)
ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กในสถานรองรับเพชรน้าหน่ึง
เพ่ือพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความอุปการะของ
สถานรองรับให้มีศักยภาพในทุกช่วงวัยเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ
พัฒนาการเหมาะสมตามวัย มีความเช่ือมั่นในตนเอง มีการศึกษา
มีทักษะชีวิต และทักษะทางสังคมที่ดี ตลอดจนมีความพร้อม
ในการกลับคืนสู่ครอบครัวและใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ ท้ังน้ีเพ่ือพัฒนาเด็ก
ท่มี ีความสามารถ และมีใจรกั ในกีฬาฟุตบอล ให้ได้รับการคัดเลือก
เข้าสู่ DCY Football Academy หรือศูนย์ฝึกนักกีฬาฟุตบอล
ท่ีกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มอบหมายให้

พม.กับงานบริการทางสงั คม 85

สถานสงเคราะห์เยาวชนมูลนิธิมหาราช จัดตั้งข้ึนเพื่อพัฒนาและส่งเสริม
ให้เด็กได้รับการศึกษาในด้านกีฬา และสนับสนุนเด็กให้มีโอกาส
ก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างเต็มตัว ซ่ึงเด็กท่ีได้รับการคัดเลือก
เข้าสู่ DCY Football Academy จะได้รับการพัฒนาท้ังในด้านรา่ งกาย จิตใจ
อารมณ์ สังคมและสติปัญญา จนนาไปสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
ให้กับเดก็ ท่ีผ่านการคดั เลอื ก

“บ้านสงขลา” ส่งเสริมสนับสนุนเด็กเข้าโครงการเพชรน้าหน่ึง
ด้านกีฬา ผ่านการคัดเลือก จานวน 6คน เป็นตัวแทนนักกีฬาฟุตบอลหญิง
ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจท่ีสามารถส่งต่อความสาเร็จอีกข้ันให้กับเด็กๆ
ในความดูแลของเรา ปัจจุบันเด็กได้เข้าฝึกซ้อมที่สถานสงเคราะห์
บ้านราชวถิ ี กรงุ เทพมหานคร
งบประมาณ

งบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานภาคเอกชน ถือเป็นปัจจัย
สาคัญและเป็นประโยชน์ต่อการบริหารองค์กร ตามแผนงานเพื่อเกิด
ประโยชน์สงู สดุ ตอ่ ผูร้ บั บรกิ าร ปี 2560ดงั นี้

พม.กบั งานบริการทางสังคม 86

หนว่ ยงานที่ใหก้ ารสนับสนุนเงนิ จา้ งลกู จ้างชั่วคราว

การประชาสัมพนั ธ์
เน้นส่ือประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ การประสานงาน

กับหน่วยงานและทุกภาคส่วนในทุกระดับ อาทิ แผ่นพับ เว็บไซต์
Facebook Line การออกหน่วยเคล่ือนท่ีให้บริการร่วมกับหน่วยงาน
ในสังกัดกระทรวง พม. (ทีม onehome) จังหวัด และหน่วยอื่นๆ
ซึ่ งเป็ นการสร้ างเครื อข่ ายและบู รณาการความร่ วมมื อในการท างาน
กับกลุม่ เปา้ หมายในพื้นท่ี

พม.กับงานบริการทางสงั คม 87

“มุมมอง ของคนในบา้ น”

นางสาวกมลพัฒน์ นนทรี หัวหน้าฝ่ายสังคมสงเคราะห์
ไดแ้ สดงความคดิ เหน็ ในฐานะผูป้ ฏบิ ตั ิงาน ดงั นี้

นโยบายจากผู้บริหาร มีความชัดเจนในทางปฏิบัติ ทาให้บุคลากร
มีความพร้อมที่จะปฏิบัติงานตลอดเวลา มีการทางานในทิศทางเดียวกัน
การอยู่เป็นครอบครัว การสร้างองค์กรแห่งความสุข การให้ความสาคัญ
ต่อบุคลากรทุกระดับ ในส่วนน้ีเป็นส่วนช่วยในการขับเคล่ือนงาน
ของบ้านสงขลา ให้เป็นรูปธรรม เป็นท่ีประจักษ์ต่อผู้บริหารระดับสูง
ต่อประชาชน และเกิดประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมาย(เด็ก) อย่างเห็นได้ชัดเจน
นาไปสู่การได้รับรางวัลหน่วยงานท่ีมีผลงานด้านการพัฒนาสังคม
เป็นเลศิ ในปี 2560 ทผ่ี ่านมา

พม.กบั งานบริการทางสังคม 88

นางบุปผา นิยม ตาแหน่งพ่ีเล้ียง ได้แสดงความคิดเห็น
ในฐานะผูป้ ฏิบัติงาน ดังน้ี

1. ผู้บริหารมีนโยบายและการบริหารจัดการท่ีดี บคุ ลากร
มีความพร้อม มีทักษะ มีความรู้ในการทางาน ทางานเป็นทีม
สวัสดิการครบถ้วน ดูแลบุคลากรเสมือนคนใครอบครัว เม่ือเกิดปัญหา
บุคลากรสามารถเข้าถึงผู้บริหาร และแก้ไขปัญหาไปพร้อมๆ กัน
การเข้าใจ เข้าถึง เป็นส่ิงสาคัญท่ีก่อให้เกิดความสาเร็จของบ้าน
สงขลาแห่งนี้

2. เด็กๆ มีการตอบสนองอย่างดีต่อการรับบริการ
สามารถปรับตัวและยอมรับกับส่ิงท่ีเราหยิบย่ืนให้ในวันที่เขาขาด
ท่ีเขาต้องการ เราภูมิใจที่เราได้เป็นครอบครัวของเด็กๆ เป็นพ่อเป็นแม่
เป็นพ่ีของพวกเขา เรามีความสุขกับงานท่ีเราทา เราภูมิใจที่เราเลี้ยงดูเขา
ต้ังแต่แรกเกิดจนมีพัฒนาการท่ีดีขึ้น มีความสุขและมองเห็นเขา
ประสบความสาเร็จในอนาคต ชว่ ยผอู้ ่ืนได้ ไมเ่ ป็นภาระของสงั คม

พม.กับงานบริการทางสงั คม 89

เสยี งสะท้อนเล็กๆ จากเด็กคนหนึง่

จากการสัมภาษณ์ผู้รับบริหารของบ้านสงขลา หนูเข้ามาอยู่
ในบ้านน้ี ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ด้วยเหตุแม่ป่วย หนูก็ป่วย บ้านหลังนี้
ที่เรียกกันว่า “สถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา” ความรู้สึกแรก
ที่จาได้...ทาไม? แม่ถึงพาเรามาอยู่ท่ีน่ี แต่สิ่งท่ีได้รับเม่ือเข้ามาอยู่ท่ีน้ี
หนูถูกเล้ียงดูอย่างดี หนูมีพ่อ มีแม่ มีพี่ มีเพื่อน ได้ทั้งความรัก
ความอบอุ่น เสมือนเป็นคนในครอบครัว ได้รับการศึกษาในสายอาชีพ
ปัจจุบันหนูอายุ 21 ปี มีงานทา มีเงินเก็บ ได้ดูแลคนในครอบครัว
เท่าทจ่ี ะทาได้ และทีส่ าคัญไดก้ ลบั มาดูแลนอ้ งๆในบา้ นหลงั นที้ ี่หนเู คยอยู่

ความฝันในอนาคต หนูอยากเรียนจบในระดับปริญญาตรี
และอยากกลับไปเย่ียมบ้าน

ส่ิงท่ีอยากเห็น อยากให้บ้านน้ีมีพ่ีๆ เพิ่มขึ้น เพราะจะได้
ช่วยดูแลน้องๆ ได้อย่างทั่วถึง และที่สาคัญคือการได้รับโอกาส
ได้รับความรักจากบ้านหลังนี้และไม่เคยอายท่ีจะบอกใครๆ ว่าที่น้ี
คือบ้านของหนู “เราเลือกเกดิ ไม่ได้...แตเ่ ราเลือกทีจ่ ะอยูไ่ ด้”

พม.กบั งานบริการทางสังคม 90

บทสรุปปัจจัยสูค่ วามสาเร็จ
สถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา ปัจจัยแห่งความสาเร็จ

ท่สี าคัญ ดังน้ี
1. นโยบาย (Policy) ซ่ึงเป็นตัวกาหนดแนวทางในการดาเนินงาน

ของสถานสงเคราะห์และสอดรับกับกลุ่มเป้าหมาย บริบทในพ้ืนท่ี
เพ่ือใหเ้ กดิ ความสาเร็จในองค์รวม

2. ผู้บริหาร/ผู้ปกครองสถานสงเคราะห์ เป็นตัวกาหนดทิศทาง
เพ่ือให้เกิดความชัดเจนของการทางานท้ังภายในและภายนอกหน่วยงาน
ซ่ึงบ้านสงขลามีผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ในการบริหาร สามารถเข้าใจ เข้าถึง
ทั้งนโยบายหลกั บทบาท ภารกจิ อานาจหนา้ ที่ ตลอดจนการให้ความสาคัญ
ต่อบุคลากร การสร้างขวัญกาลังใจ การให้สวัสดิการต่างๆ ที่บุคลากร
ควรได้รับการแก้ไขปัญหาท่ีเกิดขึ้น ที่สาคัญการให้ความสาคัญกับเด็ก
ที่เข้ามาอยู่ในสถานสงเคราะห์แห่งน้ี และแนวคิด “การสร้าง
องค์กรแห่งความสุข” ที่ให้ทุกฝ่ายสามารถขับเคล่ือนงานของ
สถานสงเคราะห์ไปพร้อมๆกันจนประสบความสาเร็จเปน็ ท่ีประจักษ์

3. บุคลากร เจ้าหน้าที่ สถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา
เป็นฟันเฟืองสาคัญ ในการขับเคล่ือนงานทั้งภายในและภายนอก
ให้บรรลุวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน การทางานไปในทิศทาง
เดยี วกันด้วยความสุขความสามคั คี ความเสยี สละและมีความรกั ในองค์กร

พม.กับงานบริการทางสงั คม 91

4.งบประมาณ ได้รับจากส่วนกลางและภาคีเครือข่าย
หรือหน่วยงานภายนอกน้ัน ล้วนมีความสาคัญและเป็นประโยชน
ต่อการบ ริห ารจัดการ เพ ราะสถาน สงเคราะห์ สาม ารถ
นางบประมาณ มาใช้เป็นเคร่ืองมือในการบริหารจัดการ
ตามแผนงานและกาลังเงินท่ีมีอยู่โดยให้มีการปฏิบัติงานให้สอดคล้อง
กับแผนงานโครงการ กิจกรรมท่ีวางไว้ให้หน่วยงาน บุคลากร และเด็กๆ
ในสถานสงเคราะหแ์ หง่ นี้ ไดป้ ระโยชนส์ งู สดุ

5. เด็ก ในสถานสงเคราะห์ทุกคนได้รับการดูแลภายใต้
ปัจจยั สี่ คือ การไดร้ ับพัฒนาตามช่วงวยั ที่เหมาะสม ได้รับความรัก
ความอบอุ่น การดูแล การศึกษา ในช่วงเวลาที่เหมาะสมตามช่วยอายุ
การได้รับการพัฒนาด้าน กีฬาจนประสบความสาเร็จ การส่งเสริมด้านอาชีพ
ฝึกให้เด็กๆ ได้เรียนรู้และมีทักษะ การหาครอบครัวทดแทน
ครอบครัวอุปถัมภ์เพ่ือให้เด็กกลับไปอยู่ในระบบครอบครัวอีกครั้ง
เพราะทส่ี ถานสงเคราะหแ์ ห่งน้ี จะเปน็ ท่ีสุดท้ายที่เลอื กให้เด็กอยู่

6. เครือข่าย ท้ังภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ผู้มีจิตเมตตา
จะเป็นตัวหนุนเสริมในหลายๆ มิติ ให้กับสถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา
ในการขับเคลื่อนงาน พัฒนางาน พัฒนาเด็ก จนเกิดผลสัมฤทธ์ิ
เป็นทป่ี ระจักษ์ร่วมกัน

พม.กับงานบริการทางสงั คม 92

เด็กสขุ ภาพดี มีพฒั นาการสมวัย
กา้ วไกลด้านการศึกษา พง่ึ พาตนเองได้

...กลบั คนื สูค่ รอบครัวท่ีอบอุ่น...

พม.กบั งานบริการทางสังคม 93

ศูนยพ์ ัฒนาการจัดสวัสดกิ ารสังคมผ้สู ูงอายบุ ้านทกั ษณิ
จงั หวดั ยะลา

ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านทักษิณ
หรือช่ือเดิม “สถานสงเคราะห์คนชราบ้านทักษิณ ” สังกัด
กรมประชาสงเคราะห์ โดยได้เล็งเห็นว่าควรจะจัดต้ังสถาน
สงเคราะห์คนชราในเขตพื้นท่ี 14จังหวัดภาคใต้อีก 1 แห่ง เพ่ือรับอุปการะ
คนชราในเขตชายแดนภาคใต้เหมือนกับที่ได้จัดตั้งขึ้นตามภาคต่างๆ มาแล้ว
เพราะคนชราทีไ่ รญ้ าติขาดที่พึ่ง มอี ยจู่ านวนมากสมควรท่ีจะจดั หา
ที่อยู่อาศัยให้กับคนชราเหล่านั้น เพ่ือเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน
ในช่วงบั้นปลายชีวิต ด้วยเหตุนี้จึงได้ดาเนินการให้จัดต้ังสถาน
สงเคราะหค์ นชราแห่งใหม่ข้ึนท่ีจงั หวดั ยะลา โดยเร่ิมรับคนชราเข้า
รับอุปการะเม่ือวันที่ 13 เมษายน 2511 และกระทาพิธีเปิด
ดาเนินการเปน็ ทางการเม่ือวนั ที่ 14 กรกฎาคม 2512

พม.กับงานบริการทางสงั คม 94

สถานสงเคราะห์คนชราบ้านทักษิณ จังหวัดยะลา
เป็นสถานสงเคราะห์ที่ไม่ได้ถ่ายโอนภารกิจ ให้แก่องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่น ตามนโยบายกระจายอานาจของรัฐบาลต่อมา ก.พ.
ไดม้ ีมตเิ ปล่ียนแปลงช่ือหน่วยงาน จาก “สถานสงเคราะห์คนชรา”
เป็น “ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านทักษิณ”
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2548 โดยมีภารกิจรับผิดชอบเป็นศูนย์
ดาเนินการสนับสนุน และพัฒนามาตรฐาน รวมท้ังพัฒนาการ
จัดบริการด้านผู้สูงอายุ แก่หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนเพื่อเป็น
ศนู ยต์ ้นแบบในการจัดสวสั ดกิ ารผสู้ ูงอายแุ ละผ้สู นใจสามารถนาไป
ประยุกต์ใชใ้ นการจดั สวัสดกิ ารผูส้ ูงอายุ
วิสัยทศั น์

เป็นศูนย์ต้นแบบแห่งการเรียนรู้ด้านสวัสดิการสังคม
ผสู้ งู อายุท่ีมมี าตรฐานอับดับ 1 ของภาคใต้
พนั ธกิจ

1. จดั ตง้ั ศนู ยต์ ้นแบบแหง่ การเรยี นรู้ด้านสวสั ดิการสงั คมผสู้ งู อายุ
2. บริการด้านการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุให้สอดคล้อง
กบั วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของภาคใต้
3. สร้างความพงึ พอใจให้กับผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสีย
4. พฒั นาองค์ความร้ดู ้านการจดั สวสั ดกิ ารสงั คมผ้สู ูงอายุ
อยา่ งต่อเนอ่ื ง

พม.กบั งานบริการทางสงั คม 95

ภารกิจ
1. เป็นหน่วยงานต้นแบบท่ีได้มาตรฐานในการจัดสวัสดิการ

ผู้สงู อายใุ นจงั หวดั ชายแดนใต้
2. ส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาบุคลากรในการปฏิบัตงิ าน

ดา้ นการจัดสวสั ดิการสังคมผ้สู งู อายุท้งั ภาครัฐและเอกชน
3. ส่งเสริม พัฒนา ประสานท้องถ่ินและภาคี เครือข่ายชุมชน

ใน ก า ร จั ด ห า ท รั พ ย า ก ร เพื่ อ ส นั บ ส นุ น ก า ร จั ด ส วั ส ดิ ก า ร สั ง ค ม
แก่กลมุ่ เปา้ หมาย

4. ส่งเสริม สนับสนุน เผยแพร่ข่าวสารด้านวิชาการ การวิจัย
และให้ความร้ดู า้ นการจัดสวัสดกิ ารผสู้ ูงอายุ

พม.กบั งานบริการทางสงั คม 96

โครงสรา้ งการบรหิ าร

ผู้อานวยการศนู ยพ์ ัฒนา
การจัดสวสั ดิการสังคมผสู้ งู อายุ

บ้านทักษิณ จังหวัดยะลา

ผูช้ ่วยผู้อานวยการศูนย์พัฒนา
การจดั สวสั ดกิ ารสังคมผู้สงู อายุ

บ้านทกั ษิณ จงั หวดั ยะลา

ฝา่ ยริหาร ฝา่ ยการพฒั นา ฝ่ายสวัสดิการสังคม
งานท่วั ไป ศกั ยภาพผ้สู ูงอายุ ผ้สู ูงอายใุ นสถาบนั

พม.กับงานบริการทางสงั คม 97

รปู แบบภารกิจหน้าทใี่ นการดาเนนิ งาน ประกอบดว้ ย
1. การจัดสวัสดกิ ารสังคมผู้สงู อายแุ บบสถาบนั ประกอบดว้ ย

1.1 บริการบ้านพักฉุกเฉิน จัดบริการเล้ียงดูผู้สูงอายุ
ช่ัวคราวตามระยะเวลาท่ีกาหนด และบริการที่พักอาศัยรูปแบบ
สถานสงเคราะห์ ประกอบด้วย การเลี้ยงดูผู้สูงอายุ ได้แก่ บริการ
ด้านปัจจัย 4 ที่จาเป็นต่อการดารงชีวิต คือ จัดที่พักอาศัย อาหาร
วันละ 3 ม้ือ เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค ให้มีความสุข
ทั้งร่างกายและจิตใจในบ้ันปลายชีวิต ให้เป็นอยู่ตามสมควร
แก่อัตภาพตามเหมาะสมโดยไมค่ ดิ คา่ ใช้จ่าย

1.2 บริการด้านสังคมสงเคราะห์ มีนักสังคมสงเคราะห์
ทาหน้าที่ ให้คาแนะนา ปรึกษา แก้ไขปัญหาแก่ผู้รับบริการ
เม่ือประสบปัญหาโดยยดึ หลกั สังคมสงเคราะห์ ชว่ ยเขาเพ่ือให้เขา
ชว่ ยเหลือตัวเองได้ โดยการใช้การจัดกิจกรรมเป็นส่ือเพ่ือส่งเสริม
สขุ ภาพกาย จติ ใจ สตปิ ัญญา

1.3 บริการด้านจิตวิทยาจัดให้มีนักสังคมสงเคราะห์
ให้คาปรึกษาแนะนาหรือแก้ไขปัญหาพฤติกรรมด้านต่างๆ ของผู้สูงอายุ
ฟื้นฟูและปรับสภาพจิตใจให้กับผู้สูงอายุ โดยการใช้กลุ่มบาบัด
การเข้าร่วมกิจกรรมหรือแยกเฉพาะราย เพ่ือให้ผู้สูงอายุดารงชีวิต
ไดอ้ ยา่ งปกติสขุ

พม.กับงานบริการทางสังคม 98

1.4 บริการทางแพทย์ได้จัดให้มีให้บริการด้านการตรวจสุขภาพ
เช่น การเอ็กซ์เรย์ปอด ตรวจเลือด การส่งเสริมสุขภาพจากหน่วยแพทย์
เคลือ่ นที่ จัดให้เจ้าหนา้ ท่ีจดั กิจกรรมเพอ่ื สง่ เสริมสุขภาพผรู้ ับบรกิ าร

1.5 ด้านการฟื้นฟูพัฒนาสุขภาพและอนามัย ได้จัดให้มี
เจ้าหน้าที่พยาบาล อาสาสมัครจากโรงพยาบาลต่างๆ มาให้ความรู้เกี่ยวกับ
การส่งเสริมสุขภาพอนามัย ให้แก่ผู้สูงอายุด้านกายภาพบาบัด เน้นหลัก
การป้องกัน และฟื้นฟูทั้งทางด้านระบบประสาท ระบบกระดูก
และกล้ามเนื้อ ตามคาแนะนาของแพทย์และการทาความสะอาด
ท่พี ักอาศยั การกาจัดยุงและแมลง

1.6งานอาชีวบาบัด ได้จัดให้มีเจ้าหน้าท่ี สอนงานประดิษฐ์ต่างๆ
แก่ผู้สูงอายุ เช่น การทาดอกไม้จันทน์ ทาช่อประธาน การทาการบูร
การทาดอกไม้จากถุงน่อง การปลูกผักปลอดสารพิษ และ
เคร่ืองจักรสานต่างๆ เป็นต้น เพ่ือส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรมยามว่าง
และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ให้เหมาะสมกับความสามารถ
และเสริมสรา้ งรายได้ใหแ้ กผ่ สู้ งู อายุ

1.7การนันทนาการ ได้จัดกิจกรรมต่างๆ ในวันสาคัญทางศาสนา
ขนบธรรมเนียม และประเพณี เป็นกิจกรรมที่เน้นให้ผู้สูงอายุได้แสดงออก
ได้รับความบันเทิงสนุกสนานคลายความวิตกกังวล เกิดความเพลิดเพลิน
และคลายเครียดและประชาสัมพันธ์ให้แก่บุคคลภายนอก และหน่วยงาน
ทกุ ภาคส่วนเขา้ มาจดั กิจกรรมนันทนาการแก่ผู้สูงอายอุ ย่างต่อเน่ือง

พม.กับงานบริการทางสงั คม 99


Click to View FlipBook Version