เสาะหามาฝาก
ทุกวันนี้ชุมชนชนบท จะมีสักกี่ชุมชนที่คนในชุมชนรวมใจกันขจัดความทุกข์ยากของ
เพ่ือนมนุษย์ ลดความเล่ือมล้าและช่องว่างรายได้ระหว่างคนจนกับคนรวย สร้างชีวิต
ความเปน็ อยู่ของคนให้ดีขนึ้ และเปน็ ชมุ ชนต้นแบบให้กบั พนื้ ที่อื่นมาศึกษาดูงาน รวมท้ังชุมชน
มัสยิดบ้านเหนือ ตั้งอยู่ทห่ี มู่ 7 ต้าบลคูเต่า อ้าเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มีมสุ ลิมอาศยั อยู่
เป็นจ้านวนมากและมีการต้ังถิ่นฐานเป็นระยะเวลามายาวนาน โดยชมุ ชนมสุ ลิมมสั ยิดบ้านเหนือ
มีจุดเด่นตรงที่เป็นชุมชนที่มีจ้านวนมุสลิมมากท่ีสุดในต้าบลคูเต่า มีการพัฒนาในทุกๆ ด้าน
ตั้งอยู่ใกล้กับชุมชนที่มีความเช่ือทางศาสนาที่แตกต่างกันมีการผสมผสานภูมิปัญญาแต่คง
รักษาอัตลักษณ์และวิถีชีวิตของความเป็นมุสลิม พร้อมทั้งการอาศัยและพ่ึงพากันในกิจกรรม
ที่ไม่ขัดกับหลักศาสนา อีกทั้งยังมีกองทุนซะกาตมีการบริหารจัดการซะกาตในชุมชนอย่างเป็น
ระบบภายใต้การก้ากับดูแลของมัสยิดบ้านเหนือ ก่อเกิดการจัดสวัสดิการที่มาจากทรัพยากร
ชุมชนเพือ่ เยียวยาชาวบ้านที่เป็นคนที่มฐี านะยากจนหรือคนด้อยโอกาส ท้าให้ชาวบา้ นในชุมชน
มชี ีวิตความเป็นอยู่ที่ดีข้ึน ซึ่งนับว่าเป็นชุมชนมุสลิมที่สามารถน้าบทบัญญัติทางศาสนามาปรับ
ใช้เกิดการพัฒนาชุมชนได้อย่างน่าสนใจเป็นต้นแบบของการศึกษาการจัดสวสั ดกิ ารเพ่อื คนด้อย
โอกาสจากกองทุนซะกาตในชุมชน
ขอขอบคุณ ดร.วิสุทธิ์ บิลล่าเต๊ะ และคณะกรรมการอิสลามประจ้ามัสยิด
รวมถึงผู้ท่ีเก่ียวข้องที่ได้ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูลต่างๆท่ีเป็นประโยชน์แก่ทีมงานส้านักงาน
ส่งเสรมิ และสนบั สนุนวชิ าการ 12 ในการถอดบทเรียนจนส้าเรจ็ ดว้ ยดี
คณะผ้จู ัดท้า
ส้านกั งานสง่ เสริมและสนบั สนุนวิชาการ 12
เรอื่ ง หนา้
เสาะหามาฝาก ก
ทา้ ไมตอ้ งชุมชนมสุ ลิมมัสยิดบ้านเหนือ? 1
ค้าบอกเล่า...ว่า มัสยิดบ้านเหนอื ชมุ ชนตน้ แบบแห่งสนั ติสุข 5
คา้ คยุ ดร.ฏอ็ บรอนี บิลล่าเต๊ะ 6
บอกเล่าเกา้ สิบ...หลักการบริหารจัดการท่ีดี 7
- กองทุนซะกาต 24
- กลุ่มออมทรพั ย์
- มูลนธิ ิกลั ยาณชนรังสรรค์
- กองทุนการรักษาพยาบาล
บทส่งท้าย
ภาพเล่าเร่ือง
ทา้ ไมตอ้ งชมุ ชนมสุ ลิมมสั ยดิ บ้านเหนอื ?
สภาพท่วั ไปของชมุ ชนมสุ ลมิ มสั ยดิ บา้ นเหนือ
ชุมชนมสุ ลิมมัสยิดบา้ นเหนอื เป็นชุมชนทีช่ าวบ้านสว่ นใหญ่ประกอบอาชีพประมง
ขนาดเล็ก หรืออาชีพที่มีความเก่ียวข้องกับสัตว์น้า เช่น เลี้ยงกุ้ง เลี้ยงปลาดุกหรือปลาชนิด
อ่ืนๆ รวมทั้งธุรกิจค้าขายสัตว์น้า ชุมชนมุสลิมมัสยิดบ้านเหนือตั้งอยู่บริเวณทะเลสาบสงขลา
ตอนล่าง บ้านเรือนส่วนใหญ่สร้างอยู่อย่างหนาแน่นตามสองฝั่งล้าคลองสาขาของคลองอู่ตะเภา
ที่ไหลลงสู่ทะเสสาบสงขลาบางส่วนอยู่อย่างกระจัดกระจายตามแนวถนนสายหาดใหญ่-แหลมโพธิ์
ด้วยเหตุที่ใจกลางชุมชนเหลือพ้ืนท่ีน้อย จึงมีแนวโน้มท่ีจะขยายขอบเขตการตั้งบ้านเรือนท่ีอยู่
อาศยั ออกไปบนท่ีดนิ รอบนอกชมุ ชนซึ่งเคยเปน็ ทุ่งนามากอ่ น
ลกั ษณะทางกายภาพ
ชุมชนมุสลิมมัสยิดบ้านเหนือ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่หมู่ที่ 7 ต้าบลคูเต่า อ้าเภอ
หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา มี 2 ชุมชน คือ ชุมชนมัสยิดบ้านเหนือและชุมชน
บ้านหัวสะพาน มีเน้ือที่ 1,200 ไร่ มีจ้านวนครัวเรือน 733 ครัวเรือน
มีประชากรอาศัยทั้งหมด 3,649 คน โดยแยกเป็นชาย 1,820 คน หญิง
1,829 คน อยู่ใกล้กับทะเลสาบสงขลาตอนล่าง บริเวณทางด้านทิศตะวันออกติดต่อคลอง
สาขาของคลองอู่ตะเภาท่ีแยกในบริเวณวัดคูเตา่ ทางทิศใต้และไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลาทางทิศ
ตะวันตก โดยมีบ้านเต่า หมู่ท่ี 6 กั้นกลางระหว่างคลองสาขาอันเป็นที่ต้ังของชุมชนมุสลิม
มสั ยิดบ้านเหนือกับคลองอู่ตะเภา ชุมชนมุสลิมมสั ยิดบ้านเหนือเป็นพื้นทรี่ าบลุ่มและมีน้าท่วม
ขังตลอดทั้งปีมีน้าท่วมถึงหรือมีน้าทะเลหนุนในบางครั้งบางฤดูกาลก็ไม่สามารถท้าการเกษตร
ได้ ต้องอาศัยการทา้ อาชีพประมงเป็นหลกั
สภาพภูมศิ าสตร์
ชุมชนมุสลิมมัสยิดบ้านเหนือตั้งใกล้คลองอู่ตะเภาและติดกับ
คลองสาขาของคลองอู่ตะเภา ห่างจากทะเลสาบสงขลา ประมาณ 3 กิโลเมตร มีสภาพอากาศ
รอ้ นช้ืน ลมแรง และมีฝนตกชุกตลอดทั้งปี การท่ีชุมชนตั้งอยู่ปลายน้าคลองอู่ตะเภาท่ีไหลมา
จากอ้าเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ท้าให้เกิดน้าท่วมนานกว่าพ้ืนที่อ่ืน อีกทั้งในช่วงฤดูน้าทะเล
หนุนส่งผลให้ที่ดินมีลักษณะเป็นกรดจากน้าเค็มท้าให้ชาวบ้านในชุมชนหยุดอ าชีพการท้านา
การพลิกฟื้นนาข้าวเป็นนากุ้งและบ่อเลี้ยงปลาดุกได้เข้ามาแทนท่ี การปลูกข้าว ลักษณะ
ภูมิศาสตร์ของชุมชนจึงมีพื้นท่ีที่เหมาะสมต่อการท้าอาชีพเกษตรกรรมประเภทเพาะปลูกพืช
น้อยมาก
2
สภาพเศรษฐกจิ
ชาวบ้านในชุมชนมุสลมิ มัสยดิ บา้ นเหนือมีฐานะทางด้านเศรษฐกิจท่ีค่อนข้างดีเมื่อ
เทียบกับชุมชนใกล้เคียง ด้วยปัจจัยทางภูมิศาสตร์ท่ีมีคลองอู่ตะเภาและคลองสาขาตัดผ่าน
ชุมชนลงสู่ทะเลสาบสงขลา อนั เป็นแหล่งท้ามาหากินที่รวมทรัพยากรทางธรรมชาติ
ที่หลากหลายเอื้อให้ชาวบ้านประกอบอาชีพประมงหรือปรับเปล่ียนอาชีพไปตาม
ความสมบรู ณข์ องทรพั ยากรและฤดูกาลไดต้ ลอดท้งั ปี
อาชีพท่ีชาวบ้านส่วนใหญ่มีความช้านาญ คือการท้าประมงขนาดเล็ก ซ่ึงชาวบ้าน
มีเรือหางยาว อวนปลา อวนปู ไซตู้ ไซนั่ง และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการประมงเป็นของ
ตัวเอง ส่วนชาวบา้ นท่ีไม่มอี ุปกรณ์ท้าประมงเป็นของตัวเองจะรับจา้ งเป็นลกู น้องเจ้าของเรอื แลก
กับคา่ จา้ งเป็นเงนิ หรือปลาท่ีจับได้ ปลาและสัตว์นา้ ท่ีจับได้เกือบทั้งหมดมาจากทะเลสาบสงขลา
ชาวบ้านที่มีความรู้ความช้านาญเกี่ยวกับอุปกรณ์ประมงใช้เวลาว่างจากการออกทะเลมาหา
รายได้เสริมด้วยการรับจ้างซ่อมอวนและอุปกรณ์ท้าการประมงให้กับเพื่อนบ้าน อาชีพท้าการ
ประมงนี้ยังคงอยู่เป็นเอกลักษณ์คู่ชุมชนมุสลิมมัสยิดบ้านเหนือ ทั้งน้ีข้ึนอยู่กับปัจจัยท่ีส้าคัญ
อยู่ 2 ประการ คอื ระดับการศกึ ษาของชาวบา้ นและความอุดมสมบูรณ์ของทะเลสาบสงขลา
นอกจากนี้ชาวบ้านยังมีการประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์จ้าพวก วัว ควาย แพะ
ชาวบ้านอีกบางส่วนประกอบเลี้ยงสัตว์น้าเพ่ือการพาณิชย์ เช่น กุ้งกลุ าด้า กุ้งหางขาว ปลาดุก
ปลานิล ปลาตะเพียน ฯลฯ ส่วนคนท่ีไม่ช้านาญในการออกทะเลท้าการประมง แต่มีความ
ช้านาญด้านการค้าขายจะเลือกประกอบธรุ กิจแพปลาหรอื แมค่ ้าขายปลาที่ตลาดสด
ด้านสงั คม
มีการละหมาดร่วมกันท่ีมัสยิดเป็นประจ้าท้าให้มัสยิดกลายเป็นสถานที่ท่ีทรง
ความส้าคัญยิ่งส้าหรับคนส่วนใหญ่ ความผูกพันกับมัสยิดท้าให้พร้อมจะร่วมมือและสนอง
นโยบายต่าง ๆ ท่ีทางมัสยิดบ้านเหนือก้าหนดขึ้น แม้รายได้ส่วนใหญ่จะมาจากอาชีพประมง
ในทะเลสาบสงขลา แต่เม่ือถึงวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ จะไม่มีเรือล้าใดออกไปหาปลา ทุกคน
พร้อมใจกันหยุดเพ่ือไปปฏิบัติละหมาดญุมอัตรวมกันท่ีมัสยิดบ้านเหนือ (ละหมาดญุมอัตวัน
ศุกร์เป็นข้อบังคับเหนือผู้ชายมุสลิมท่ีบรรลุศาสนภาวะแล้ว) เฉพาะวันศุกร์จึงมีผู้มาละหมาดที่
มัสยิดบ้านเหนือ ร่วม 100 คน การละหมาด นั้นถือได้ว่าคือระบบการผลิตซ้าจักรวาลทัศน์
อิสลาม เม่ือการละหมาดได้รับการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จึงเท่ากับช่วยตอกตรึง
จกั รวาลทัศน์อสิ ลามไว้ในใจของผปู้ ฏบิ ัตอิ ย่างม่ันคง โดยสามารถมองเห็น
3
เป็นรูปธรรมในการแสดงออกของชาวชุมชน เช่น ในด้านการแต่งกาย สตรีแทบท้ังหมดให้
ความส้าคัญกับการคลุมฮิญาบ (ผ้าคลุมศีรษะ) ตามหลักศาสนาอิสลาม ในโรงเรียนบ้านใต้
เปน็ โรงเรยี นท่ีจดั การศกึ ษาโดยรัฐ
ภาพที่ 1 แผนภมู ิแสดงการบรหิ ารจัดการมสั ยดิ บา้ นเหนือ
4
คา้ บอกเลา่ ...ว่า
“มสั ยดิ บา้ นเหนอื ” ชมุ ชนตน้ แบบแหง่ สนั ตสิ ขุ
จากค้าบอกเล่าดังกล่าวท้าให้เป็นที่สนใจท่ีจะศึกษาเรียนรู้และหาค้าตอบว่าเป็น
จริงหรือไม่ ทีมงานถอดบทเรียนส้านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 12 ลงไปค้นหา
ค้าตอบกับอิหม่ามฏ็อบรอนี บิลล่าเต๊ะ ซึ่งเป็นผู้น้าศาสนา และจัดเวทีถอดบทเรียนโดยมี
เจ้าหน้าท่ีท่ีรับผิดชอบในส่วนต่างๆ จ้านวน 20 คน เข้าร่วมถอดบทเรียน ในวันท่ี 1 - 2
ธันวาคม 2559 พบว่า
ความเปน็ อยขู่ องมสั ยดิ บ้านเหนอื
มัสยิดบ้านเหนือได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายเม่ือวันที่ 17
มถิ ุนายน 2551 สัปบรุ ุษในชมุ ชนมัสยิดบ้านเหนือได้รบั การส่งเสริมให้มีการศกึ ษาเรยี นรู้กัน
เป็นประจ้าโดยใช้มัสยิดบ้านเหนือเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ไม่เฉพาะในด้านการปฏิบัติ
ศาสนกิจให้ถูกต้องเท่าน้ัน แต่ยังรวมถึงเรื่องการสร้างระบบสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง
บนกระบวนคิดดังกล่าวด้วย ปัจจุบันทุกวันพฤหัสบดี หลังละหมาดมัฆริบ (เวลา 18.30 น.
โดยประมาณ) ผู้ท่ีมาร่วมละหมาดที่มัสยิดบ้านเหนือมีประมาณไม่ต่้ากว่า 100 คน ในแต่ละ
ครั้งจะมีทุกกลุ่มวัยไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ และวัยชราที่มาละหมาด ส่วนหน่ึงจะเรียนรู้ด้าน
ศาสนาโดยผู้น้าหมู่บ้านอย่าง อิหม่ามฏ็อบรอนี บิลล่าเต๊ะ เป็นผู้สอนไปจนถึงเวลาละหมาด
อีซา (เวลา 19.30 น.) โดยประมาณส่วนเช้าวนั ศุกร์เวลา 09.00 - 10.00 น. เป็นเวลา
ในการศึกษาเรียนรู้ของบรรดา มุสลีมะห์ (สตรีมุสลิม) ท้ังในหมู่บ้านและนอกหมู่บ้าน
ใกล้เคียง หากอิหม่ามฏ็อบรอนี บิลล่าเต๊ะ ไม่ว่างก็จะมอบหมายครูคนอ่ืนมาสอนแทน
นอกเหนือจากเวลาท่ีถูกก้าหนดไว้แน่นอนท้ังสองช่วงดังกล่าวแล้ว นอกเหนือจากการละหมาด
แล้วจะมีการให้ความรู้ในแต่ละโอกาสจะแตกต่างกันไป ถ้ามีเร่ืองใดท่ีเป็นการประชาสัมพันธ์
ให้กบั ชุมชนก็สามารถท้าไดเ้ ลย
5
คา้ คยุ ...อิหมา่ มฏอ็ บรอนี
อิหม่ามนกั พัฒนา เป็นผู้มคี วามรทู้ ้ังทางธรรม
และทางโลก จนเป็นทย่ี อมรับว่าเป็นผู้บริหาร
มัสยิดต้นแบบอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ด้วยทัศนียภาพของชุมชนมุสลิมมัสยิดบ้านเหนือ ต้าบลคูเต่า อ้าเภอหาดใหญ่
จังหวัดสงขลา ตัง้ อยู่ริมคลองอ่ตู ะเภา ชาวบ้านสว่ นใหญป่ ระกอบอาชีพประมงและคา้ ขาย จึงมี
แนวคิดในการพัฒนาชมุ ชนควบคู่ท้ังด้านกายภาพรวมพลังศูนย์การเรียนรู้ศึกษาดูงานและด้าน
เศรษฐกิจ จากแนวคิดในการพัฒนาได้บริหารจัดการโดยใช้มัสยิดเป็นศูนย์กลาง จึงได้พาไป
ทัศนะศึกษาที่จงั หวัดภูเก็ต ซึ่งมีความก้าวหน้าในด้านการจัดสรรทรัพยากรและระดมเงินทุนใน
รูปกลุ่มออมทรัพย์ หลังจากดูงานได้ก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์มัสยิดบ้านเหนือ รวมไปถึงมี
ความต่นื ตวั ในดา้ นสิ่งแวดล้อมมากข้ึน
ส้าหรับหลักในการบริหารจัดการของคนในชุมชน การสร้างองค์ความรู้เพ่ือเป็น
การเรียนรู้อย่างหนึ่ง จัดการเรียนการสอนทุกสัปดาห์ สอนอัลกุร-อาน รวมถึงค้าแปล
เพ่ือที่จะน้าไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เรียนรูห้ ลักการอิสลามรวมไปถึงผลักดันการเรียน
สร้างอุดมการณเ์ ป็นการสร้างกลั ยาชนรังสรรค์มสั ยดิ บ้านเหนอื
ในแง่ของเศรษฐกิจ เรื่องการท้าซะกาต เราพยายามที่จะท้าความเข้าใจส้าหรับคน
ท่ีมีเงินครบจ้านวนท่ีสอดคล้องกับค้าสอนของศาสนา จัดสรรซะกาต ท้าให้เป็นไปในลักษณะ
จัดหาเคร่ืองมือท้ามาหากินหรือสร้างบ้านพักให้กับคนยากจนและเด็กก้าพร้า สนับสนุน
การศึกษา จัดสวัสดิการคนชรา ซึ่งทางมัสยิดจะจัดการบริหารให้ถึงมือคนท่ีมีสิทธิรับซะกาต
ตามที่หลักศาสนากา้ หนดไว้
“ การพฒั นาคนเป็นหัวใจของการพัฒนาทงั้ หมด
ในการสรา้ งคนและพฒั นาชมุ ชนมสุ ลมิ ”
6
บอกเลา่ เกา้ สบิ ....
หลกั การบรหิ ารจดั การที่ดภี ายใตก้ ารบรหิ ารของมสั ยดิ บา้ นเหนอื
แลว้ ทมี งานไดร้ บั คา้ ตอบ
กองทนุ ซะกาต
อิหม่ามฏ็อบรอนี บิลล่าเต๊ะ ได้ให้
ความหมายของค้าว่า ซะกาตไว้ว่า ซะกาตเป็นบทบัญญัติของศาสนาอิสลามเป็นพื้นฐานของ
คนมุสลิมจะต้องจ่ายซะกาต ก็เหมือนกับการละหมาดที่ทุกคนจะต้องละหมาด ทุกวันๆ ละ 5
เวลา แต่ซะกาตเป็นหน้าท่ีทางการเงินท่ีทุกคนต้องจ่ายปีละ 1 คร้ัง ส้าหรับคนท่ีมีรายได้สูง
ตามเกณฑ์ถูกก้าหนดไว้ในทางศาสนา ใครท่ีมีเงินเก็บจ้านวนของเงินเกือบเท่ากับราคาทองค้า
5 บาท เก็บมา 1 ปี ไม่มีหนี้สินมีเงินเก็บน่ันคือเง่ือนไขการจ่ายซะกาต เราไม่สามารถรู้ได้ว่า
แต่ละคนต้องจ่ายซะกาตเท่าไร เพราะว่าเราไม่ได้ไปตรวจสอบทรัพย์สินหรือเปิดสมุดให้ดูเรา
อาศัยความศรัทธาของผู้คนท่ีมี เขารู้ว่าน้ีเป็นบทบัญญัติของศาสนาถ้าคุณไม่จ่ายพระเจ้าก็จะ
ตดั สินคุณเอง ทางศาสนาอิสลามถือว่าทรัพย์สินก็เป็นบททดสอบอย่างหนึ่งถ้าคุณมีมากจนถึง
เกณฑ์ท่ีจะต้องจ่ายซะกาต แล้วถ้าคุณไม่จ่ายก็จะต้องถูกสอบสวนในวันโลกหน้าว่าที่คุณได้
ทรัพย์สินมาทุกบาททุกสตางค์ได้มาอย่างถูกต้องตามหลักศาสนาหรือไม่ และได้มาแล้วใช้จ่าย
ไปทางใดบ้าง เม่ือก่อนชาวบ้านไม่มีความรู้เร่ืองซะกาตเลย แต่ก็ยังมีคนจ่ายซะกาตอยู่บ้างแต่
จ่ายกันเองเป็นเงินหัวแตกยังไม่มีระบบ ท้าให้เกิดผลในวงแคบๆ เช่น เม่ือคนหน่ึงรู้ว่าตัวเอง
จะต้องจ่ายซะกาต 2,000 บาทต่อปี ก็จะจ่ายโดยตรงกับครอบครัวท่ียากจน สมมุติว่ามีคน
ยากจน 4 คน ก็ให้คนละ 500 บาท แตก่ ็ถือว่าถกู ต้องตามหลกั เกณฑ์ทุกประการ แต่หวั ละ
500 บาท ใช้จ่ายวันเดียวก็หมดมันก็ไม่ได้เป็นผลที่จะท้าให้เกิดความมั่นคงในชีวิตได้ จาก
ชาวบ้านที่มีอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก เช่น ท้านากุ้งหรือเลี้ยงกุ้งกุลาด้า รองลงมาก็ท้า
อาชีพค้าขาย ทุกคนก็ท้าตามแนวทางบัญญัติของศาสนาและจะต้องเช่ือว่ามันท้าให้เกิดผลดีต่อ
ชมุ ชน ดังนั้นในปี 2542 ท้าให้คลังซะกาตของมัสยิดบ้านเหนือสามารถเก็บรวบรวมเงิน
ซะกาต ได้จ้านวน 114,000 บาท จากชาวบ้านท่ีมาจ่ายกัน การจ่ายซะกาตก็รวมศูนย์อยู่ที่
มัสยิดบา้ นเหนือใช้ช่ือกองทนุ เรียกวา่ “กองทนุ ซะกาต” การจา่ ยซะกาตจะเปน็ การช่วยเหลือแค่
เพียงคนในชุมชนมัสยิดบ้านเหนือเท่าน้ัน คือในพ้ืนที่ต้าบลคูเต่า หมู่ท่ี 7 มี 2 ชุมชน คือ
ชุมชนมัสยิดบ้านเหนือและชุมชนบ้านหัวสะพาน เพราะว่าผู้จ่ายซะกาตเป็นคนในชุมชนน้ี
ยกเวน้ วา่ ผู้คนในชุมชนน้ีไม่มีคนจนแล้วจึงจะเผ่อื แผไ่ ปยังชุมชนอื่นข้างเคียงได้
กระบวนการท้างานของกองทุนซะกาต มีการประชาสัมพันธ์ต่อชาวบา้ นในชุมชน
ทุกขั้นตอนบริหารจัดการ กองทุนซะกาตจะใช้ช่องทางในการส่ือสารกับประชาชน 4 ช่องทาง
คือ การเรียนการสอนในมัสยิด การจัดกิจกรรมในชุมชน กระดานประชาสัมพันธ์ในมัสยิด
8
และเสียงตามสายของชุมชนมัสยิดบ้านเหนือ สามารถเข้าถึงชาวบ้านได้ทุกกลุ่มอายุ อกี ทั้งเป็น
การประชาสัมพันธ์การด้าเนินงานของกองทุนซะกาตไปด้วย
คณะกรรมการกองทนุ ซะกาตมสั ยดิ บา้ นเหนือ มาจากไหน?
กรรมการกองทุนซะกาตมัสยิดบ้านเหนือมาจากกรรมการอิสลาม
ประจ้ามัสยิดบ้านเหนือ ซ่ึงเป็นตัวแทนชาวบ้านในแต่ละเขต จากทั้งหมด
10 เขต มีวาระ 4 ปี ไม่ไดก้ ้าหนดว่าต้องมีอายุเท่าไร โดยมีการก้าหนด
คุณสมบัติท่ีส้าคัญไว้ 2 ประการ คือเป็นสัปบุรุษมัสยิดบ้านเหนือที่มี
คุณธรรม จริยธรรม และมีความสามารถในด้านการพูด มีท้ังหมด 15
คน รวมโตะ๊ อหิ มา่ ม คอเตบและบลิ านฮ. ท้ังหมดน้ีชาวบา้ นเป็นคนเลือกมาเพ่ือคัดเลือกจ้านวน
ผู้มีสิทธ์ิรับซะกาตให้มีจ้านวนพอดีกับปริมาณซะกาต แล้วยังมีหน้าท่ีในการส่งเสริม
ประชาสมั พนั ธเ์ ก่ยี วกบั เร่ืองซะกาต
ภาพที่ 2 กระดานแสดงรายชือ่ คณะกรรมการกองทุนซะกาต
9
ผจู้ ่ายซะกาต คอื ใคร
ชาวบ้านท่ีน้ีส่วนใหญ่ไม่ได้ร้่ารวยท้ังหมด แต่ในบริบทพ้ืนท่ีส่วนใหญ่ไม่ได้
ล้าบาก ประกอบธุรกิจค้าขายหรือเล้ียงกุ้งกุลาด้า กุ้งหางขาว เป็นต้น มีบ้านหลังใหญ่แต่ก็
ไม่ได้รวยมาก ผูจ้ ่ายซะกาตในชมุ ชนมัสยดิ บ้านเหนือ ตอ้ งจ่าย 2.5 % ต่อรายได้ต่อปีของเงิน
ท่ีเก็บไว้ ต้องซ่ือสัตย์ต่อตนเอง จ้านวนผู้จ่ายซะกาตในปีท่ีแล้วประมาณ 20 คน คิดเป็น
เปอรเ์ ซน็ ของผู้จา่ ยซะกาต อยทู่ ่ปี ระมาณ 70 – 80 % ในชุมชน
ภาพท่ี 3 กระดานแสดงรายชือ่ ผู้จา่ ยซะกาต
10
บคุ คล 8 ประเภท ทม่ี สี ิทธริ บั ซะกาต มใี ครบา้ ง?
1. คนยากจน
2. คนอนาถา
3. เจ้าหนา้ ทที่ ่ีดแู ลเร่ืองซะกาต ให้เปน็ เงินเดือนกบั เขาในการท้างาน
4. บคุ คลลม้ ละลายจากการท้าอาชพี สุจริต แตถ่ ้าไปเกี่ยวกบั ดอกเบยี้ ก็ไมไ่ ด้
5. ทาส
6. คนท่ีเข้ารับอิสลามมาใหม่หมายถึงเปล่ียนศาสนาก็จะต้องท้าให้เขาได้รับ
ความมน่ั คงในศาสนา
7. คนเดินทางก็คือคนเดินทางแต่ยังขาดปัจจัยหรือโดนขโมยเงินกลางทางยังไม่
ถงึ จุดหมายปลายทางกช็ ว่ ยใหเ้ ขาเดนิ ทางถึงจุดหมายด้วยความปลอดภยั
8. บุคคลท่ีท้างานจิตอาสาโดยไม่มีเงินเดอื น
ผู้รับซะกาตเป็นกลุ่มคนท่ีมียากจนหรือคนด้อยโอกาสที่มีคุณลักษณะครบทุก
เงื่อนไขของผู้มีสิทธิ์รับซะกาตหรือเป็น 1 จากบุคคล 8 ประเภท และต้องเป็นสัปบุรุษของ
มัสยิดบ้านเหนือท่ีอาศัยอยู่ในพ้ืนท่ีหมู่ท่ี 7 ต้าบลคูเต่าเท่าน้ัน มัสยิดบ้านเหนือมีคนใน
ชุมชนท้ังหมด 3,649 คน มีครัวเรือน 733 ครัวเรือน มีผู้รับผลประโยชน์เป็นคนยากจน
ในชุมชนประมาณ 10 ครัวเรือน คนยากจนหากมีเยอะและไม่สามารถช่วยเหลือได้ทัง้ หมดจะมี
เง่ือนไขข้อก้าหนดส้าหรับคนที่จะรับซะกาต 1. คนท่ีท้างานสุจริต 2. ไม่ยุ่งเก่ียวกับอบายมุข
ต่างๆ ไม่เสเพล ต้องเป็นคนขยันท้ามาหากินหาข้ีเกียจก็จะให้ไม่ได้แล้วบางครอบครัวท่ียากจน
แต่ไม่สามารถให้ได้เพราะว่าไม่ได้ขยันท้างานหรือบางคนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะคน
ในชุมชนแต่ละครวั เรอื นจะรจู้ ักเป็นอย่างดีอยู่แล้ววา่ ใครเป็นอย่างไร
ประเภทของซะกาต
การจ่ายซะกาตฟิตเราะฮ. หรือซะกาตอาหาร ที่มัสยิดบ้านเหนือมีการจ่ายซะกาต
อาหารทเ่ี ป็นขา้ วสาร โดยจะจ่ายปีละ 1 ครง้ั คนละ 1 ทะนานหรอื เท่ากับ 2.8 กิโลกรัม เรา
เรียกว่าซะกาตรายบุคคล ใครจะมีเงินเก็บหรือไม่มีเงินเก็บก็ต้องจ่ายให้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็น
เด็กหรอื ผู้ใหญ่ โดยจะจ่ายเป็นข้าวสารในช่วงเวลาท่ีเสร็จสิ้นเทศกาลถือศีลอดในเดอื นรอมฎอน
แต่ส่วนใหญ่ผู้น้าครอบครัวจะเป็นคนมาจ่ายให้กับสมาชิกในครอบครัวจะต้องจ่ายในช่วงเช้า
กอ่ นที่จะทา้ การละหมาด วันอีดหรอื วนั อดิ ล้ิ ฟติ รี ทกุ คนในหมูบ่ า้ นจะจา่ ยกันเป็นประจ้าทุกปี
การจ่ายซะกาตมาล หรือซะกาตทรัพย์สิน จ่ายในเรื่องของการจัดหาเครื่องมือท้า
กิน หรือสร้างบ้านพักอาศัยให้กับคนยากจนและเด็กก้าพร้า สนับสนุนการศึกษา และการจัด
11
สวสั ดกิ ารคนชรา การจ่ายของกองทุนซะกาตไม่ไดแ้ ยกว่าจ่ายให้เด็กเยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ
ว่าเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ แต่จะน้าเงินมารวมกันเป็นกองทุนรวมไปเลยแล้วจะจ่ายตามที่คัมภีร์ระบุ
เอาไว้ แยกการช่วยเหลือในแตล่ ะด้าน คือ
ดา้ นเด็กและเยาวชน แบง่ ออกเป็น 2 ประเภทใหญๆ่ คือ
1. เด็กนักเรยี นทกี่ ้าพรา้ พ่อ จะได้รบั สวสั ดิการ 100% โดย
จะให้เด็กมาเรียนที่มัสยิดบ้านเหนอื ต้ังแต่ช้ันเตรียมอนุบาลจนถงึ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 มที ่ีพัก
และอาหาร มีชุดนกั เรียน หนังสือเรยี น และประกันอบุ ัตเิ หตุ มเี งนิ บา้ รุงขวัญคนละ 500
บาทต่อเดือน ตอนน้ีมีเด็กท่ีอยู่ในระบบ จ้านวน 15 คน และก้าลงั รับมาเพิ่มอีกจ้านวน 7 คน
ถ้าเป็นเด็กในชมุ ชนจะให้ไป - กลับ แต่ถ้าเป็นเดก็ ทอ่ี ยนู่ อกชมุ ชนจะใหพ้ ักที่มสั ยิด
2. เด็กอนาถา คือ เด็กนักเรียนยากจนและเด็กนักเรียนที่พ่อแม่แยกทาง
กัน ได้รับสวัสดิการ 80% มีท่ีพักและอาหาร มีชุดนักเรียน หนังสือเรียน และประกัน
อุบตั ิเหตุ ยกเวน้ เงนิ บา้ รงุ ขวญั
การยกระดบั คุณภาพชีวิต โดยการสนับสนุนทุนการศกึ ษาแก่นักเรียน/นักศึกษา
ท่ีศึกษาอยู่ในระบบโรงเรียน ได้รับการพิจารณาจากกองทุนซะกาต ต่อจากผู้มีฐานะยากจน
กองทุนซะกาตได้จัดสรรซะกาตให้กับนักเรียนนักศึกษา โดยมอบซะกาตเป็นเงินสดในการให้
ความช่วยเหลือด้านการศึกษา โดยเข้าบัญชีของเด็กโดยตรง มีการช่วยเหลือเด็กสองระดับ คือ
ระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย จ้านวน 7 ทุนๆ ละ 4,000 บาทต่อปี และในระดับชั้น
อุดมศึกษา จ้านวน 18 ทุนๆ ละ 8,000 บาทต่อปี ซึ่งในระดับอุดมศึกษามีนักศึกษาท่ีได้
จบการศึกษาแล้ว จ้านวน 3 คน ซ่ึงในตอนนี้มีเด็กท่ีเคยได้รับทุนจากกองทุนซะกาตและกลับ
มาท้างานเพือ่ ตอบแทนให้แกม่ สั ยิดแห่งน้ีด้วย
ด้านผู้สูงอายุและคนพิการ จะมีเงินสวัสดิการรายเดือนๆ ละ 700 บาท
ให้ตลอดจนเสียชีวิต ท่ีมัสยิดบ้านเหนือตอนนี้มีผู้สูงอายุและคนพิการท่ีกองทุนซะกาตได้ให้
ความช่วยเหลืออยู่ ทั้งหมด 9 ครอบครัว ใน 1 ครอบครัวจะมีท้ังผู้สูงอายุ คนพิการทางด้าน
สายตา คนอมั พาตบ้าง อยู่รวมๆ กนั ประมาณ 10 ครอบครัวโดยประมาณ
ด้านสตรี ก็อยู่ในครอบครัวท่ีทางมัสยิดบ้านเหนือดแู ลชว่ ยเหลอื อยู่ โดยให้
เงนิ สวสั ดกิ ารรายเดือนๆ ละ 700 บาท ตอนน้ีมที ้งั หมด 8 ครอบครวั
ด้านผู้ด้อยโอกาส จะช่วยเหลือด้านการต่อยอดในการประกอบอาชีพ คนท่ี
ยังท้างานได้ก็จะช่วยเป็นอุปกรณ์หรือเคร่ืองมือประกอบอาชีพ จะไม่ได้ให้เป็นเงินสด ทาง
กองทุนจะให้อุปกรณ์หรือเคร่ืองมือประกอบอาชีพไป โดยไม่ต้องยืมแต่จะมีการท้าสัญญาหรือ
12
ค้าประกัน โดยมีเง่อื นไขว่าจะต้องเป็นคนดีไม่ยงุ่ เกีย่ วกับเรื่องยาเสพติดและปฏิบัติศาสนกิจเป็น
ประจ้าสม้่าเสมอต้องให้ความร่วมมือกับมัสยิดในการท้ากิจกรรมต่างๆ เป็นอย่างดี และต้องมี
คณะกรรมการเข้าไปตรวจสอบอีกคร้งั ว่าสมควรใหห้ รือไม่
คนท่ีล้าบากเร่ืองท่ีอยู่อาศัย จะให้เงินสนับสนุนครอบครัวละ 50,000 บาท เพื่อ
สร้างบ้านหรือซ่อมแซมบา้ น
กองทุนซะกาต มีช่ือบัญชีอยู่ในกลมุ่ ออมทรัพย์ของมัสยิดบ้านเหนอื โดยจะมีการจดั ซ้ือ
ท่ดี ินสร้างบ้านให้กับคนยากจน กรณีน้ีจะให้ทางกลุ่มออมทรัพย์ด้าเนินการไปซ้ือที่ดนิ จ้านวน 6 ไร่ แล้ว
กแ็ บง่ เป็นห้องให้กับคนที่มีความเดือดร้อนที่อยู่อาศัยท่ีเป็นคนยากจน ได้ไปซื้อผ่อนระยะยาว โดยผ่อนเดือน
ละ 525 บาท กา้ หนดระยะเวลาผ่อน 15 ปี
มัสยิดบ้านเหนือมีกองทุนในส่วนที่เป็นของมัสยิด ซึ่งน้าเงินในส่วนน้ีไปซ้อื ข้าวของเคร่ืองใช้
เพื่อแจกจ่าย คนที่ได้ซะกาตอยู่แล้วก็จะได้เหมือนกัน เงินส่วนนี้ได้มาจากการบ้ารุงหรือท้ากิจกรรมต่างๆ
ของมัสยิดเช่น กินน้าชาประจ้าวันศุกร์ในแต่ละปีจะมีน้าชาสามัคคีปีละ 3 คร้ัง จะมีคนเข้ามาจ่ายประมาณ
10 – 15 คนตอ่ ปี มีจ่ายผา่ นกลมุ่ ออมทรพั ย์ บางสว่ นไดจ้ ากการมาศกึ ษาดูงาน มีอาหารเครื่องดื่ม เพ่ือเป็น
รายได้เข้ากองทุนมัสยิด จะมีกลุ่มสตรีเป็นคนจัดท้าในส่วนของอาหาร แบ่งให้กองทุนมัสยิด 15 % ส่วนที่
เหลือกลุ่มสตรีไปจัดสรรกันเอง ก้าไรแต่ละปีก็จะแบ่งให้กับกองทุนมัสยิดก่อน 10 % ที่เหลือก็แบ่งให้กับ
ผ้ถู ือหนุ้ ทงั้ หมด ในชว่ งเดือนรอมฎอน
ภาพท่ี 4 กระดานแสดงรายรับ – รายจ่ายกองทุนมสั ยิดบา้ นเหนอื
13
ปัจจัยความสาเร็จ
1. ผู้น้าศาสนามีวิสัยทัศน์ มีความเป็นนักพัฒนา นักจัดการปกครองชุมชนท่ีเป็น
ระเบยี บ
2. ชาวบา้ นให้ความเชอื่ มน่ั ไว้วางใจในตัวผู้น้าศาสนา
3. คณะกรรมการ ได้รับความไวว้ างใจจากสมาชิกในชุมชน
4. เปน็ แหล่งเรยี นรู้ทีใ่ ห้ความรูแ้ ก่คนในระดบั ชุมชน นอกชมุ ชน และระดบั ประเทศ
ปัญหาอุปสรรค
ในชุมชนมุสลิมบ้านเหนือจะมีกลุ่มคนอยู่กลุ่มหนึ่งท่ีเป็นคนมีฐานะดีร้่ารวย
แต่ไม่ยอมจา่ ยซะกาตเพราะคิดเสียดายเงินของตัวเองท่ีไดม้ าจากการท้างาน
แนวทางแก้ไข
มีการรณรงค์อย่างจริงจังโดยสร้างความเข้าใจเรื่องซะกาต โดยใช้ช่องทางตอนท่ีคน
มาละหมาดหรือท้ากิจกรรมกินน้าชาตอนเช้า และประชาสัมพันธ์เสียงตามสายของหมู่บ้าน
เพ่ือเป็นการสร้างและท้าความเข้าใจและพูดถึงประโยชน์ของผู้ให้และผู้ที่ได้รับว่ามีผลบุญและ
ค่าตอบแทนมากเพยี งใด
14
อีกหน่ึงความเขม้ แข็งของชุมชนท่ีโดดเด่น
คือ กลุ่มออมทรัพย์ ต้ังขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือ
ส่งเสริมให้คนในชุมชนและนอกชุมชนรักการออม
และสะสมเงินไว้เป็นทุนในภายภาคหน้า เป็นสถาบัน
การเงินที่ใช้ระบบอิสลามในการด้าเนินการด้วยระบบ “ปลอดดอกเบ้ีย” และ “หะลาล”
บริการด้วยความสะดวก โปร่งใส ปลอดภัย และเป็นกันเอง ภายใต้สโลแกนท่ีว่า “มัสยิด
จ้าเริญ การเงินเข็มแข็ง ชุมชนร่วมแรง บูรณาการแห่งความดี” จัดต้ังข้ึนเมื่อปี 2548
ปัจจุบันมีเงินทุนหมุนเวียนในกลุ่มออมทรัพย์ประมาณ 30 ล้านกว่าบาท มีสมาชิกท้ังหมด
ประมาณ 2,000 กว่าคน โดยเปิดให้บริการต้ังแต่วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.30 –
15.00 น. สถานะตอนน้ีกลุ่มออมทรัพย์ยังไม่ได้เป็นสหกรณ์ เงินในกลุ่มออมทรัพย์ก็เอาไป
ฝากกับธนาคารพาณิชย์ที่รองรับการด้าเนินงานของสถาบันทางการเงินท่ีถูกหลักศาสนา
อิสลาม บุคคลท่ัวไปซ่ึงบางคนท่ีมีช่ืออยู่ในกองทุนซะกาต สามารถมาเป็นสมาชิกกองทุนออม
ทรัพย์ได้ หรือจะเป็นคนนอกพื้นท่ีก็สามารถมาเป็นสมาชิกได้ อยู่ท่ีว่าใครจะสะดวกมา
เพราะว่ากลุ่มออมทรัพย์ยังไม่มีระบบออนไลน์ต้องเดินทางมาที่นี้เพียงอย่างเดียวในการช้าระ
เงนิ แตล่ ะคร้งั โดยมีรปู แบบการฝาก 2 ประเภท
การฝากแบบออมทรัพย์ ฝากแบบท่ัวไป มีการฝาก – ถอน จะเป็นสมุด
เลม่ สีแดง จะฝาก – ถอน ตอนไหนก็ไดแ้ ต่จะไมม่ ีเงินปนั ผล
การฝากแบบหุ้น ไม่สามารถถอนได้แต่ถ้าต้องการถอนก็ต้องปิดบัญชี จะ
เป็นสมุดเล่มสีเขียว ฝากแบบหุ้นในแต่ละปีจะมีเงินปันผลให้กับสมาชิกอยู่ที่ผลประกอบการ
ของกลุ่มออมทรัพย์ว่าจะได้ก่ีเปอร์เซ็นต์ ซึ่งในปีท่ีแล้วได้เงินปันผล 5.7 % ถ้าสมาชิกลาออก
แลว้ จะมาสมัครสมาชิกใหม่ได้แคเ่ พียงครัง้ เดียว
15
ภาพที่ 5 แสดงสมุดฝากเงนิ 2 ปะเภท
ในแต่ละปีสมาชิกจะมีการเพิ่มและลาออก ซ่ีงสาเหตุท่ีลาออกเพราะบางคนจะมีภาระ
เยอะข้ึน ลูกเข้าโรงเรียนท้าให้พ่อแม่ส่งเงินให้ลูกไม่ทันในช่วงเปิดเทอม ไม่สะดวกบ้าง และที่มา
เปิดบัญชีใหม่ก็ค่อนข้างมีเยอะ กลุ่มออมทรัพย์ท่ีน้ีมีเด็กนักเรียนเป็นสมาชิกด้วย แต่ส่วนใหญ่
เป็นแบบฝาก – ถอนได้ ฝากขั้นต่้าเท่าไรก็ได้แล้วแต่เด็ก จะ 5 บาท 10 บาท ก็ได้ คุณครู
จะเปน็ คนเกบ็ เงินในห้องเรียน แล้วรวบรวมยอดกันมาฝากอาทิตย์ละ 1 ครัง้ และการถอนเงิน
ของเด็กส่วนใหญ่จะเป็นช่วงปิดเทอมมาถอนกับผู้ปกครอง แต่ถ้าอยู่ระหว่างเรียนสมุดบัญชีจะ
อย่กู บั คณุ ครู ผู้ปกครองของเด็กนกั เรียนจะต้องมารบั สมุดบญั ชีทค่ี ณุ ครู
กิจการของกลมุ่ ออมทรพั ย์ มอี ะไรบ้าง
ซ้ือสินค้ากับทางกลุ่มออมทรัพย์ โดยการผ่อนช้าระสินค้า เช่น มอเตอร์ไซด์
เคร่ืองใช้ไฟฟ้า ทองค้า เครื่องมือท้ามาหากิน เป็นต้น ทางกลุ่มออมทรัพย์มีการคิดก้าไรปีละ
8% อย่างเช่น ซ้ือสินค้าราคา 50,000 บาท จะคิด 8 % ถ้าสมาชิกผ่อนช้าระ 2 ปี ก็จะคิด
เพิ่มปีละ 8 % จากราคาสินค้าท่ีสมาชิกซื้อสินค้า ถ้าราคาสินค้ามีวงเงินเยอะ เช่น
200,000 – 300,000 บาท จะมีการค้าประกันโดยใช้โฉนดที่ดิน แต่ถ้าวงเงินหลักหม่ืน
ก็จะใช้แคเ่ ล่มทะเบียนของรถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ สว่ นปัญหาของกลุ่มออมทรพั ย์ท่ลี ูกหน้ี
ไม่จ่ายเงินจะไม่ค่อยมี เพราะส่วนใหญ่จะใช้โฉนดท่ีดินเพราะว่าสะดวกกว่าอย่างอ่ืน สมาชิกของ
กลุ่มออมทรัพย์ที่เข้ามาใช้บริการของกลุ่มออมทรัพย์มีการซ้ือสินค้าวัสดุก่อสร้างซ่อม แซมต่อ
เติมหรือสร้างบ้าน ในการซื้อวัสดุก่อสร้างทางออมทรัพย์จะให้เครดิตกับร้านในชุมชนช่ือร้าน
“คูเต่าวัสดุก่อสร้าง” สมาชิกก็จะไปเบิกของที่ร้านแล้วทางร้านจะน้าบิลมาเบิกกับกลุ่มออม
ทรัพย์เป็นงวดๆ ไป ถ้าเป็นร้านอ่ืนสมาชิกก็สามารถที่จะไปซื้อได้แต่ต้องจ่ายเงินสดไปก่อน
แลว้ จงึ จะน้าบิลมาเบกิ กับ กลมุ่ ออมทรพั ย์
16
การกู้เงิน รูปแบบในการกู้เงินคือจะเอาเงินสดไปประกอบอาชพี ตอ้ งมกี าร
น้าทองเก่าแล้วต้องกล่าวการซ้ือขายกัน ตามหลักศาสนาอิสลามก่อน แล้วจึงจะสามารถน้าเงิน
ไปใชไ้ ด้ และทุกครั้งที่น้าเงินมาคืนก็เช่นเดียวกัน ผกู้ ู้จะต้องกล่าวการซื้อขายกันกลับให้กับกลุ่ม
ออมทรัพย์เหมือนเดิม เพราะว่าในหลักการของศาสนาอิสลามในการท่ีจะเอาเงินสดไปใช้เลย
ทีเดียวโดยไม่ได้กล่าวค้าการซื้อขายจะผิดหลักศาสนาอิสลาม โดยสามารถน้าแหวนทอง
มากล่าวค้าการซื้อขายก็ได้ และสมาชิกก็สามารถผ่อนช้าระเป็นรายเดือนตามที่ตกลงกันตาม
กลุ่มออมทรัพย์ ว่าจะใช้เวลากี่ปีในการผ่อนช้าระทางกลุ่มจะคิดก้าไร 8 % ต่อปี เหมือนกับ
การกู้เงินซื้ออย่างอื่นขึ้นอยู่กับยอดเงินของสมาชิกท่ีกู้ไป มีสมาชิกมาท้าการขายในขณะน้ีมี 2
ราย ท่ีท้าสัญญาเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้มารับเงิน ในการท้าสัญญาแต่ ละคนจะผ่านหรือไม่ผ่าน
ในการกู้แต่ละครั้งจะมีคณะกรรมการของมัสยิดบ้านเหนือเป็นผู้พิจารณาในที่ประชุมทุกๆ
ต้นเดือนวา่ สมาชิกสามารถกไู้ ดห้ รือไม่ได้ ถา้ ผา่ นการอนุมัติจากคณะกรรมการมัสยิดบ้านเหนือ
กส็ ามารถท้าสัญญาได้เลย แต่ละเดือนก็มีคนซื้อสินค้าผ่อนกับกลุ่มออมทรัพย์ ประมาณ 4 –
5 ราย
17
มลู นธิ กิ ลั ยาณชนรงั สรรค์
มูลนิธิกัลยาณชนรังสรรค์ จัดตั้งขึ้น
เม่ือปี 2551 โดยมีศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ และ
โรงเรียนกัลยาณชนรังสรรค์ อยู่ภายใต้การดูแลและบริหารของมูลนิธิกัลยาณชนรังสรรค์
โครงสร้างการบริหารงานแบ่งออกเป็น 4 ฝ่าย ได้แก่ งานวิชาการ งานงบประมาณ งาน
บริหารบุคคล และงานบริหารทั่วไป อิหม่ามฏ็อบรอนี บิลล่าเต๊ะ เป็นผู้วางระบบการจัดการ
ท้ังหมดโดยใช้ระบบ “บรม” คือ บ้าน โรงเรียน และมัสยิด หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวเป็น
กลั ยาณชนโดยมีวิสัยทัศน์ “มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รูป้ ระสบการณ์ตรง ส่งเสริมพัฒนาการมุ่งผ่าน
อา่ นเรยี นเขยี นคลอ่ ง ถกู ต้องปฏิบัติกจิ อิสลาม มคี วามเขา้ ใจในการหาความรู้ ควบคคู่ ณุ ธรรม
น้าชีวิตอยู่ดีมีสุข” มีการแบ่งเขตในชุมชนเป็น 10 เขต โดยการนับจ้านวนประชากรเป็น
กลุ่มๆ ซ่ึงในแต่ละเขตจะมี หัวหน้าเขต เลขานุการ และเหรัญญิก โรงเรียนแห่งน้ียังเป็น
โรงเรียนน้องใหม่ท่ียังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก แต่เม่ือไม่นานมานี้ทางโรงเรียนได้รับคัดเลือก
เป็นโรงเรียนน้าร่องเรื่องการจัดการอันดับคุณภาพของการศึกษาจากเขตพ้ืนท่ีการศึกษาเขต 2
ถือว่าเป็นเร่ืองของการประกันคุณภาพภายในของโรงเรียนท้าได้อยู่ในเกณฑ์ดีเย่ียม เพ่ือท่ีจะให้
โรงเรียนต่างๆ เข้ามาศึกษาดูงานและดูเป็นแบบอย่างจากท่ีแห่งนี้ คร้ังแรกที่ได้ตั้งข้ึนมีเด็ก
นักเรียนประมาณไม่ถึง 100 คน ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานของคนในชุมชนเกือบท้ังหมด
เพราะว่ายังไม่ได้ประชาสัมพันธ์หรือยังไม่ทราบว่ามีโรงเรียนอยู่ที่มัสยิด และเม่ือต้นเดือน
พฤศจิกายน 2559 ทางโรงเรียนได้มีการประกาศรับสมัครเด็กนักเรียนท่ีสนใจที่จะเข้ามาเรียน
และอยู่หอพักของโรงเรียนจะเป็นสวัสดิการส้าหรับเด็กที่มีฐานะยากจน เด็กก้าพร้า ส้าหรับ
บุคคลท่ัวไปที่อยู่นอกพ้ืนที่ ซ่ึงในตอนนี้ก็มีที่มาสมัครใหม่แล้ว จ้านวน 7 คน และที่มีอยู่ใน
ระบบแล้ว จ้านวน 13 คน เป็นนักเรียนก้าพร้าที่ทางกองทุนซะกาตได้รับอุปการะมาโดย
ตลอด ส่วนเด็กท่ีอยู่ต่างจังหวดั มี 2 คนที่มาจากจังหวัดสตูล และเดือนหน้ามาจากจังหวัดภูเก็ต
อีก 1 คน โรงเรียนได้รับนักเรียนท่ัวประเทศและรับทุกศาสนา แต่ตอนน้ีมีแค่นักเรียนท่ีเป็น
มุสลิมเทา่ นั้น โรงเรยี นกัลยาณชนรังสรรคม์ ูลนิธิ ได้รับคัดเลือกจากเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษาเขต 2
ให้เป็นโรงเรียนน้าร่องในเร่ืองการจัดการอันดับคุณภาพของการศึกษาซึ่งทางโรงเรียนท้าได้อยู่
ในเกณฑ์ดีเยี่ยม เพ่ือที่จะให้โรงเรียนต่างๆ ได้เข้ามาศึกษาดูงานและเป็นแบบอย่างแก่ผู้ท่เี ขา้ มา
ศกึ ษาดงู าน
18
ช่องทางในการประชาสัมพันธ์ อิหม่ามฏ็อบรอนี บิลล่าเต๊ะ ท่านเป็นวิทยากร
ท่ีได้รับเชิญไปบรรยายในงานต่างๆ ทั่วประเทศ และอีกต้าแหน่งหน่ึง คือ ผู้อ้านวยการศูนย์
ประสานงานส้านักจุฬาราชมนตรีประจ้าภาคใต้ และอีกต้าแหน่งเป็นประธานสภาเครือข่าย
ด้านการช่วยเหลือมนุษยธรรม และทุกคร้ังที่ท่านได้ไปบรรยายท่านจะประชาสัมพันธ์ไปด้วย
ว่าโรงเรียนแห่งนี้รับอนุเคราะห์เด็กอนาถา เด็กก้าพร้ายากจน และอีกช่องทางหน่ึงก็คือทาง
Social เช่น Line Facebook เป็นตน้
จา้ นวนเด็กนักเรียนท่ีรับสมัคร จะรับนักเรียน 20 คน/ปีการศึกษา เฉพาะคน
ที่อยู่นอกพื้นที่ไม่รวมกับเด็กก้าพร้าที่กองทุนซะกาตรับอุปถัมภ์ไว้ก่อนหน้าน้ี ทางโรงเรียนจะมี
สวัสดิการที่พัก อาหาร 3 ม้ือ เส้ือผ้า หนังสือ ทางโรงเรียนจะออกให้หมดเลย และให้เงิน
ปลอบขวัญอีกคนละ 500 บาท/เดือน แต่มีข้อยกเว้นว่าเด็กนักเรียนคนนั้นยังไม่ได้รับการ
อุปถัมภ์จากองค์กรใดมาก่อน แต่ถ้าได้รับบริจาคท่ีอ่ืนมาแล้วก็จะไม่ได้ แต่จะอุปการะอย่างอื่น
แทน
นอกจากนี้ ยังมีบริการรถรับส่งเด็กนักเรียน ซึ่งเด็กนักเรียนส่วนใหญ่จะอยู่ใน
หมู่บ้านละแวกใกล้เคียงและในอ้าเภอหาดใหญ่ จะมีรถบริการรับ-ส่งนักเรียน ทั้งหมด 4
เส้นทาง เป็นรถตู้ 1 คัน และรถกระบะ 3 คัน รับส่งนักเรีย นเฉพาะในระดับชั้น
ประถมศึกษาเท่าน้ัน จะได้ลดภาระของผู้ปกครอง ส่วนในระดับช้ันมัธยมศึกษาทางโรงเรียน
ให้อยู่หอพักแยกชายและหญิง ในห้องเรียนจะแยกเดก็ นักเรียนชายและนักเรียนหญิง ต้ังแต่ชั้น
ประถมศึกษาตอนปลาย ป.4 – ป.6 ซึ่งเป็นระบบของโรงเรียนเพราะว่าเด็กเริ่มโตเป็นหนุ่ม
เป็นสาวแล้ว ท่ีโรงเรียนแห่งนี้มีเด็กนักเรียนท้ังหมด 500 คน มีเด็กนักเรียนหญิง 300
กว่าคน ที่เหลือก็เป็นนักเรียนชาย โดยจะแยกเด็กผู้หญิงไปที่โรงเรียนกัลยาณชนรังสรรค์
มูลนิธิ ซึ่งเป็นโรงเรียนสตรีล้วนอยู่ห่างจากมัสยิดไปประมาณ 500 เมตร ทางไปหาดแหลมโพธิ์
เป็นโครงการใหม่ท่ีรออนุมัติจากเทศบาลอยู่ตอนน้ีจะแยกเด็กนักเรียนตั้งแต่ ป.4 จนถึง ม.6
โดยใชง้ บประมาณในการก่อสร้างประมาณ 80 ล้านบาท มีเนื้อที่ 8 ไร่ ท้าเป็นศูนย์บริการ
ครบวงจร มีท้ังศูนย์บริการทางด้านการศึกษา ศูนย์กีฬา งบประมาณส่วนนี้ได้มาจากกองทุน
ออมทรัพย์ ช่ือบัญชี มูฎอรอบ๊ะฮ์ ให้คนภายนอกมาร่วมลงทุน เพื่อที่จะสร้างสถานศึกษา
และอีกทางหนึ่งคือการวะกัฟ (การบริจาคหรืออุทิศให้) เป็นตาโฉนดที่ดินแบ่งขายตารางเมตร
ละ 500 บาท ผู้ใดสนใจจะซ้ือและก็วะกัฟให้กับทางมัสยิด และอกี ทางหน่ึงคือการลงทุนแบ่ง
ก้าไร 50 : 50 ในปีแรกจะไม่มีแบ่งก้าไรจะเอาเงินส่วนน้ันไปลงทุนก่อน หลังจากปีท่ี 2
เป็นต้นไปจะมีการแบ่งผลก้าไร ซ่ึงที่ผ่านมาก็มีก้าไรทุกปีอยู่แล้ว เปิดให้ร่วมลงทุนกับบุคคล
19
ท่ัวไปไม่เฉพาะคนในพื้นที่เท่าน้ันร่วมลงทุนได้ทั่วประเทศถือว่าสร้างสถานศึกษา ร่วมสร้างอุมมะฮ..
(ประชาชาติมุสลิม) เพราะว่าจะต้องใช้งบประมาณเยอะจึงจ้าเป็นจะต้องมีเครือข่ายท่ัวประเทศ
และงบส่วนหนึ่งมาจากต่างประเทศเป็นมูลนิธิของประเทศคูเวตได้บริจาคเงิน ห้าล้านกว่าบาท
โรงเรียนแห่งนี้มีครูทั้งหมด 38 คน เป็นมุสลิมทั้งหมด และเป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ต้าบลคูเต่า
โดยมีการเรียนการสอนระบบสามัญและศาสนาควบคู่กันไป คุณครูท่ีนี้สอนตามเอกวิชาที่จบมา
หากเป็นวิชาภาษาอาหรับจะเป็นครูท่ีจบมาจากประเทศอาหรับโดยตรง การเรียนการสอนในตอนเช้า
สา้ หรับเดก็ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 – ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เร่ิมสอนใหเ้ ด็กอา่ นคัมภีร์อัล- กุรอาน
ที่มสั ยดิ และมีบทขอพรดว้ ย
20
กองทนุ รกั ษาพยาบาล
กองทุนรักษาพยาบาล อิหม่ามฏ็อบรอนี
บิลล่าเต๊ะ ได้มองเห็นถึงความต้องการของ
ชาวบ้านในชุมชนมัสยิดบ้านเหนือ เพราะ
เมื่อเวลาเจ็บไข้ได้ป่วยหรือคนท้องท่ีจะคลอดลูกบางส่วนมีผลกระทบมาจากเหตุการณ์น้าท่วม
มีความล้าบากท่ีจะเดินทางไปโรงพยาบาล จึงได้มีแนวคิดในการจัดต้ังกองทุนรักษาพยาบาล
ขึ้นในปี 2553 ภายในอาคารมัสยิดบ้านเหนือ โดยใช้งบประมาณจากกองทุนมัสยิด
มีสมาชิก 500 กวา่ คน เวลาชาวบ้านเจ็บป่วยไม่สบายก็มาพบหมอได้ที่นี้ จะมีหมอ
มาจากโรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ ชื่อว่านายแพทย์วีรวรรธ คลายนา ท่านรู้จัก
กับอิหม่ามเป็นการส่วนตัวและคุณหมอก็มีจิตอาสาท่ีจะเข้ามาตรวจรักษาคนไข้โดยไม่
คิดค่าใช้จ่ายใดๆ และจะมีผู้ช่วยพยาบาลที่ประจ้าอยู่ห้องพยาบาล ท้าหน้าท่ีจ่ายยาตามที่หมอ
สั่ง แต่จะมีค่าธรรมเนียมในการตรวจแต่ละครัง้ ๆ ละ 60 บาท ต่อการตรวจ 1 ครั้ง ในการ
จ่ายยาแต่ละคร้ังก็จ่ายตามเวลาราชการ รวมไปถึงการดูแลนักเรียนที่เจ็บไข้ได้ป่วยภายใน
โรงเรียนด้วย ซ่ึงหมอจะมาตรวจเดือนละ 2 ครั้ง คือ วันศุกร์เว้นวันศุกร์ ในช่วงเวลาบ่ายโมง
เปน็ ตน้ ไป มีการจา่ ยยาใหแ้ ต่จะรับยามาจากโรงพยาบาลหาดใหญ่
กองทุนรักษาพยาบาล ได้ก้าหนดอัตราขั้นต่้าในการสมัครเป็นสมาชิก คือจ่าย
ข้ันต่้าเดือนละ 50 บาท ไม่จ้ากัดจ้านวนเงินว่าจะจ่ายได้เท่าไรแล้วแต่สมาชิกแต่ละคน แต่
สา้ หรับสมาชิกท่อี ยากจะจ่ายเดือนละ 100 บาท 200 บาท กจ็ ะได้ค่ารักษาพยาบาลเพ่ิมขึ้น
อีก เช่น จ่ายเดือนละ 100 บาท ก็จะได้ค่ารักษาพยาบาล 4,000 บาทต่อปี ก็คิดตาม
อัตรา 40 เท่า ถ้าเดือนละ 200 บาท ก็สามารถเบิกได้ 8,000 บาทต่อปี สมาชิกรายใด
จ่ายรายเดือนมากก็จะได้ในส่วนของสวัสดิการมากตามไปด้วยนั่นเอง กองทุนรกั ษาพยาบาลจะ
ครอบคลุมถึงการคลอดบุตรด้วย แต่กรณีคลอดบุตรจะไม่คิดรวมกับการเจ็บป่วยแต่จะให้สิทธิ์
เพิ่มต่างหาก คือ จ่ายเงินเดือนละ 50 บาท ผู้หญิงจะได้สิทธิ์ 2 สิทธ์ิ
คือ การเจบ็ ป่วย และการคลอดบตุ ร
21
ภาพที่ 6 สมดุ แสดงรายชอ่ื สมาชกิ กองทุนการรักษาพยาบาล
สมาชิกกองทนุ รกั ษาพยาบาล แยกสมาชกิ ออกเปน็ 2 ประเภท
คณะกรรมการมัสยิด บุคลากร ครู เจ้าหน้าที่ที่ท้างานประจ้ามัสยิด บ้านเหนือ
(องคป์ ระชุม) มีทั้งหมด 137 คน
ภาพท่ี 7 สมุดเลม่ สดี า้ แสดงการจัดเก็บขอ้ มลู -หลักฐานของสมาชิก
22
สปั บรุ ุษประจ้ามัสยดิ บ้านเหนือและชาวบ้านในพื้นท่ี มีสมาชกิ ท้งั หมด 95 คน
ภาพที่ 8 สมุดเลม่ สีสม้ แสดงการจัดเก็บข้อมูล-หลักฐานของสมาชกิ
การเบิกจ่ายยา ในส่วนของค่ายาฟรี สมาชิกจะไม่มีสิทธ์ิเบิกเงินกับกองทุน
รกั ษาพยาบาลได้ แต่หากเปน็ ยาทเี่ สียเงินสามารถมาเบิกเงนิ กับกองทุนรักษาพยาบาลได้ 50
บาท ทางกองทุนรักษาพยาบาลจะให้ในอัตรา 40 เท่าต่อปี ก็คือปีละไม่เกิน 2,000 บาท
สมาชิกบางคนอาจจะใช้เงินในเดือนแรก 2,000 บาทเลยก็ได้ หรือสมาชิกบางคนอาจจะใช้
เงินเดือนละ 500 บาท 1,000 บาท ก็แล้วแต่สมาชิกคนนั้นๆ ในส่วนของการบริการรถ
ฉุกเฉินจะมีของเทศบาลต้าบลคูเต่าที่เข้ามาให้บริการใน ตรงน้ีอยู่แล้ว ผู้มีสิทธ์ิเบิกค่า
รกั ษาพยาบาลได้ มี 2 กรณี
กรณที ตี่ ้องนอนรักษาตัวอยู่ทโี่ รงพยาบาล
กรณีท่ีไม่ได้นอนรักษาที่โรงพยาบาล แต่มาพักฟื้นที่บ้านไม่สามารถ
ทา้ งานได้ ก็มาเบกิ คา่ รักษาพยาบาลกบั กองทุนรักษาพยาบาลได้
23
บท
สง่ ท้าย
เร่ืองราวความเข้มแข็งของชุมชนมัสยิดบ้ านเหนือ ได้ถูกน้ ามา
กล่าวถึงและเอามาถ่ายทอดเป็นบทเรียนต่อกระบวนการพัฒนาเพ่ือให้ชุมชนต่างๆ ได้เรียนรู้
และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เข้ามาศึกษาดูงาน มิติการพัฒนาสังคมในวิถีคิดแบบอิสลาม
ตามอัลกุรอ่านและซุนนะฮ.ของท่านรซูล (ซ.ล.) ใช้ระบบซะกาตเป็นเคร่ืองมือขับเคล่ือน
เศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ในการพัฒนาสังคมเพื่อสร้างความอยู่ดีกินดี และมีความสุข
ตามวิถีชุมชนในกรอบศาสนาอิสลาม นโยบายการพัฒนาสังคมไม่อาจแสดงศักยภาพได้หาก
ปราศจากทรัพยากรอันเป็นองค์ประกอบส้าคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เป็นกุ ญแจ
ส้าคัญในการแปรรูปทรัพยากรธรรมชาติมาเป็นผลผลิตก่อเกิดรายได้ และสร้างชีวิตความ
เป็นอยู่ท่ีดีให้เกิดข้ึนในสังคม มีปัจจัยท่ีจ้าเป็นในการด้ารงชีพครบถ้วนสมบูรณ์ ดังน้ันการพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์ให้มีความพร้อมทางด้านร่างกายและสติปัญญาจึงเป็นข้ันตอนส้าคัญน้าไปสู่
การพัฒนาท่ียั่งยืน คุณธรรมและจริยธรรมตามหลักธรรมค้าสอนจากอัลกุรอ่านและซุนนะฮ.
ของท่านรซูล (ซ.ล.) ต้องเข้ามาควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์ ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบ
และเห็นคุณค่าของวัตถุส้าคัญกว่าการขจัดความทุกข์ยากของเพื่อนมนุษย์ ลดความเหล่ือมล้า
ทางสังคมและช่องว่างของรายได้ระหว่างคนรวยกับคนจนไม่ให้มีมากจนเป็นสาเหตุของปัญหา
ทางสังคม ดังน้ันชุมชนใดสามารถใช้ซะกาตเป็นเคร่ืองมือในการขับเคล่ือนการพัฒนาสังคมได้
มากเท่าใด คุณภาพชีวิตของคนในสังคมจะเพิ่มมากข้ึน พร้อมกับการลดลงของปัญหาสังคม
ทเี่ กดิ จากความไม่เท่าเทยี มกนั ในการเข้าถึงแหล่งทรพั ยากรไปพร้อมๆ กนั
24
ภาพเลา่ เรอ่ื ง
การละหมาดใหญท่ ุกวนั ศุกรท์ ี่มสั ยิดบา้ นเหนอื
เดก็ ร่วมกันทา้ กิจกรรมบ้าเพญ็ ประโยชน์
การศึกษาเรยี นรู้ของมุสลมี ะห์ (สตรีมุสลมิ ) ทุกวันศุกร์
รางวัลตา่ งๆ ท่ีเดก็ ไดเ้ ข้าประกวดแข่งขัน
ภายในอาคารมัสยิดบ้านเหนือ
ทปี่ รึกษา
นางสาวซาราห์ บินเย๊าะ ผอู้ า้ นวยการส้านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 12
นางสาวนพรตั น์ กอวฒั นากุล นักพฒั นาสังคมชา้ นาญการ
นายอิระณัฏฐ์ ลขิ ิตตระกาลกุล นกั พัฒนาสังคมชา้ นาญการ
ทีมใหข้ ้อมลู
ดร.ฏอ็ บรอนี บลิ ล่าเตะ๊ อิหมา่ มมสั ยดิ บา้ นเหนอื
นางสาวปณิธาน หมัดหมัน ผอ.โรงเรยี นกัลยาณชนรังสรรค์มูลนิธิ
นางสาวลักขณา บินล่าเต๊ะ ผจก.โรงเรียนกัลยาณชนรังสรรค์มูลนธิ ิ
นายวษิ ณุ บินล่าเต๊ะ เจ้าหน้าท่ีมัสยิด
นายฮารสิ หมุดบินแหละ งานสวัสดิการและสาธารณประโยชน์
นายอับดลเลาะ บินล่าเตะ๊ คนดแู ลมัสยิด
คุณครโู รงเรียนมสั ยดิ บา้ นเหนือ
กล่มุ สตรีมัสยิดบ้านเหนือ
ทีมถอดบทเรยี น นกั พฒั นาสังคม
นางสาวจารุณี แก้วหอ่ ทอง นักพัฒนาสงั คม
นางสาวศิริพร เสน่หา นกั พัฒนาสงั คม
นายอนันต์ ไชยสงคราม นักพฒั นาสงั คม
นายนพดล ลาเฉลมิ พนกั งานขับรถยนต์ ระดับ ส 2
นายบุญธรรม อักษรชู
จดั พมิ พแ์ ละเผยแพร่
สา้ นักงานส่งเสริมและสนับสนุนวชิ าการ 12
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์
354 หมู่ 2 ต้าบลพะวง อ้าเภอเมือง จังหวัดสงขลา 90100
E-mail : [email protected]
https://tpso12.m-society.go.th