The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานสถานการณ์ทางสังคม ปี 65 สสว. 11 สงขลา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by TPSO 11, 2022-11-15 02:33:29

รายงานสถานการณ์ทางสังคม ปี 65 สสว. 11 สงขลา

รายงานสถานการณ์ทางสังคม ปี 65 สสว. 11 สงขลา

ตารางท่ี 2.19 แสดงจำนวนองค์กรภาคเี ครือขา่ ย

(หน่วย : คน)

องค์กร ตรงั นราธวิ าส ปัตตานี พัทลุง ยะลา สงขลา สตลู รวม
อาสาสมัครพฒั นา 2,683 2,148 9,411 4,062 1,342 3,349 3,745 26,740
สงั คมและความมนั่ คง
ของมนษุ ย์ (อพม.)
ขอ้ มลู คลังปญั ญา 606 318 240 752 529 198 271 2,914
ผสู้ ูงอายุ

ท่ีมา : สำนกั งานพฒั นาสังคมและความมนั่ คงของมนุษยจ์ ังหวดั ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 31 มีนาคม 2565

พิจารณาโดยภาพรวมพบว่า จำนวนองค์กรภาคีเครือข่ายประกอบด้วย อาสาสมัครพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) มีจำนวน 26,740 คน และเมื่อพิจารณารายจังหวัดที่มีจำนวนมากท่ีสุด คือ
จงั หวดั ปตั ตานี จำนวน 9,411 คน รองลงมา จงั หวัดพทั ลุง จำนวน 4,062 คน จังหวัดสตลู จำนวน 3,745 คน
จังหวัดสงขลา จำนวน 3,349 คน จังหวัดตรัง 2,683 คน จังหวัดนราธิวาส จำนวน 2,148 คน และจังหวัด
ยะลา จำนวน 1,342 คน ตามลำดบั และข้อมลู คลงั ปญั ญาผสู้ งู อายุ 2,914 คน

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 33

สว่ นที่ 3

สถานการณ์กลุม่ เปา้ หมายทางสงั คมระดบั กลมุ่ จงั หวดั

3.1 กลมุ่ เดก็ (อายุต่ำกวา่ 18 ปี บริบรู ณ)์

ตารางท่ี 3.1 แสดงสถานการณ์เด็ก จำแนกตามจงั หวดั

(หนว่ ย:คน)



จังหวดั จำนวนกลมุ่ (1) (2) (3) (4) (5) (6) (7)

เป้า เด็กทีไ่ ด้รบั *เดก็ ที่ เด็กทถ่ี กู เดก็ ทีอ่ ยู่ เดก็ ท่ี **เด็กนอก ***เด็กไร้

หมาย เงนิ อุดหนุน มี ทารณุ ในครอบ ตงั้ ครร ระบบ สัญชาติ

ทงั้ หมด เพ่อื การเลี้ยง พฤติกร กรรมทาง ครัวเลีย้ ง ภ์กอ่ น

ดเู ด็กแรกเกดิ รมไม่ ร่างกาย เดี่ยว วัยอนั

เหมาะ จติ ใจและ ควร

สม ทางเพศทม่ี ี

การ

ดำเนนิ คดี

ตรงั 137,907 29,294 135 3 606 152 1,558 ไม่มีขอ้ มลู

นราธวิ าส 238,411 64,035 131 1 1,018 209 21,247 ไมม่ ีข้อมูล

ปตั ตานี 223,635 60,639 86 3 578 35 21,171 5

พัทลงุ 28,494 22,226 11 9 361 135 5,752 ไมม่ ีข้อมูล

ยะลา 164,335 44,098 2 5 2,459 830 13,308 ไม่มีขอ้ มูล

สงขลา 324,053 65,463 182 182 188 3 1,550 ไมม่ ีข้อมลู

สตลู 86,051 23,450 137 3 456 177 9,071 ไม่มีขอ้ มูล

รวม 1,202,886 309,205 684 206 5,666 1,541 73,657 5

หมายเหตุ *เด็กที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม หมายถงึ
1) ดม่ื เครือ่ งด่มื ทมี่ แี อลกอฮอล์สูบบุหรแี่ ละตดิ สารเสพติดร้ายแรง เชน่ ยาบา้ ยาอี สารระเหย กัญชา เป็นต้น
2) มัว่ สุมและทําความรำคาญให้กับชาวบา้ น
3) ติดเกมส์ และเล่นการพนนั ต่าง ๆ
4) มพี ฤตกิ รรมทางเพศ
5) อ่ืน ๆ (ระบ)ุ ..............................................

**เด็กนอกระบบ หมายถงึ เดก็ ทม่ี ีอายอุ ยูใ่ นช่วงท่ตี ้องเขา้ เรยี นในสถานศึกษา แต่ไม่มโี อกาสเข้าเรียนหรือเคยเขา้
เรยี นแล้ว มีเหตตุ อ้ งออกจากสถานศกึ ษาไปกลางคัน และไม่ไดก้ ลับเขา้ มาเรยี นอีก (UNESCO, 2019)

***เด็กไรส้ ญั ชาติ หมายถงึ เด็กท่ไี มม่ สี ญั ชาติใดเลย (ไม่วา่ จะเปน็ สญั ชาตไิ ทยหรอื สญั ชาตริ ัฐใดๆ) แตอ่ าจไดร้ บั
การระบตุ วั ตนทางกฎหมายในรูปแบบใดรูปแบบหนง่ึ เชน่ ไดร้ ับการจดทะเบยี นการเกิด ไดข้ ึ้นทะเบียนเป็นบคุ คลไรส้ ญั ชาติ
ในกลุ่มตา่ ง ๆ

แหล่งท่ีมาของข้อมลู ณ วันที่ 31 มนี าคม 2565

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 34

(1) เดก็ ทไ่ี ดร้ ับเงินอดุ หนุนเพ่อื การเลย้ี งดูเด็กแรกเกดิ ข้อมลู จากสำนกั งานพัฒนาสงั คมและความมั่นคง
ของมนษุ ยจ์ งั หวัด

(2) เดก็ ทม่ี พี ฤติกรรมไมเ่ หมาะสม ขอ้ มลู จากสำนักงานพฒั นาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด .
(3) เดก็ ท่ถี กู ทารุณกรรมทางรา่ งกายจติ ใจและทางเพศที่มกี ารดำเนนิ คดี ข้อมูลจากสำนกั งานพัฒนาสงั คม
และความม่ันคงของมนุษยจ์ งั หวดั
(4) เดก็ ทอ่ี ยู่ในครอบครวั เลยี้ งเดีย่ ว ขอ้ มลู จากสำนกั งานพฒั นาสงั คมและความมั่นคงของมนษุ ย์จงั หวดั
(5) เด็กท่ีตั้งครรภก์ อ่ นวยั อนั ควรและไม่พรอ้ มในการเลย้ี งดู ท่มี าจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวดั

(6) เดก็ นอกระบบ ขอ้ มูลจากสำนกั งานสำนักงานศึกษาธกิ ารจงั หวดั

(7) เดก็ ไรส้ ญั ชาติ ขอ้ มูลจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่าสถานการณ์เด็ก อันดับหนึ่ง คือ เด็กที่ได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดู
เด็กแรกเกิด จำนวน 309,205 ราย รองลงมา เด็กนอกระบบ จำนวน 73,657 ราย เด็กที่อยู่ในครอบครัวเล้ยี ง
เดีย่ ว จำนวน 5,666 ราย เด็กทต่ี ั้งครรภ์ก่อนวัยอนั ควร จำนวน 1,541 ราย เด็กทมี่ ีพฤติกรรมไม่เหมาะสม จำนวน 684
ราย และเด็กทีถ่ กู ทารุณกรรมทางรา่ งกายจติ ใจและทางเพศท่มี ีการดำเนนิ คดี จำนวน 206 ราย

3.2 กลมุ่ เยาวชน (อายุ 18-25 ปี)

ตารางท่ี 3.2 แสดงสถานการณเ์ ยาวชน จำแนกตามจงั หวดั

จงั หวดั จำนวนกลมุ่ เปา้ หมาย (1) (หน่วย:คน)
ทั้งหมด **เยาวชนที่มพี ฤตกิ รรม
ตรัง (2)
นราธวิ าส 68,573 ไม่เหมาะสม เยาวชนท่ีถูกทารณุ กรรม
ปัตตานี 476 ทางร่างกายจิตใจและทางเพศ
พัทลุง 106,573
89,394 16 0
ยะลา 52,696 5
สงขลา 71,336 110 ไมม่ ีขอ้ มูล
สตูล 161,460 2 ไมม่ ีขอ้ มลู
37,705 182
รวม 171 0
587,737 5
962 116
5

126

หมายเหตุ * เยาวชนทมี่ พี ฤตกิ รรมไมเ่ หมาะสม หมายถงึ
1) ดม่ื เครอ่ื งดมื่ ทม่ี แี อลกอฮอล์ สบู บุหรี่และตดิ สารเสพตดิ ร้ายแรง เช่น ยาบา้ ยาอี สารระเหย กญั ชา เป็นตน้
2) มั่วสมุ และทําความรำคาญให้กบั ชาวบา้ น
3) ตดิ เกมส์ และเล่นการพนนั ตา่ ง ๆ
4) มีพฤตกิ รรมทางเพศ
5) อนื่ ๆ (ระบุ) ..............................................

แหลง่ ที่มาของขอ้ มูล ณ วนั ที่ 31 มีนาคม 2565
(1) เยาวชนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ข้อมลู จากสำนักงานพฒั นาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย์

จงั หวัด

สำนกั งำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 35

(2) เยาวชนที่ถูกทารุณกรรมทางรา่ งกายจิตใจและทางเพศ ข้อมูลจากสำนกั งานพัฒนาสังคมและความ

มั่นคงของมนษุ ย์จงั หวดั

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่า ประเด็นสถานการณเ์ ยาวชน อนั ดบั หนึ่ง ได้แก่เยาวชนท่มี ีพฤติกรรม
ไม่เหมาะสม 962 ราย รองลงมา เยาชนทถ่ี กู ทารุณกรรมทางรา่ งกายจิตใจและทางเพศ 126 ราย

3.3 กลุ่มสตรี (หญิงทีม่ อี ายุ 25-59ปี)

ตารางท่ี 3.3 แสดงสถานการณ์กลมุ่ สตรี จำแนกตามจงั หวัด

จงั หวดั จำนวน (1) (2) (3) (หนว่ ย:คน)
กลุ่มเป้าหมาย สตรีทถี่ ูกละเมดิ สตรที ถี่ กู ทาํ แมเ่ ลย้ี งเดยี่ ว
ตรัง รา่ ยรา่ งกาย ฐานะยากจน (4)
นราธวิ าส ทั้งหมด ทางเพศ สตรที ่ีถกู เลกิ
ปัตตานี จติ ใจ 654 จา้ ง/ตกงาน
พัทลงุ 167,469 ไมม่ ีข้อมลู 14 1,018
193,818 556 1,365
ยะลา 164,250 6 7 361
สงขลา 131,640 3 22 1,808 ไม่มีขอ้ มลู
สตูล 120,645 2,156
รวม 690,958 ไมม่ ีขอ้ มลู 3 456 7,507
81,297 7,009 71
12 93
1,550,077 16 1,247
1 94
32 12 4,282

245 ไม่มีขอ้ มลู

14,472

หมายเหตุ แหล่งท่มี าของขอ้ มลู ณ วนั ที่ 31 มีนาคม 2565
(1) สตรที ี่ถกู ละเมิดทางเพศ ทม่ี า จากสำนกั งานพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนุษยจ์ ังหวดั

(2) สตรีทีถ่ ูกทาํ ร้ายร่างกาย จติ ใจ ทม่ี าจากสำนกั งานพัฒนาสังคมและความมน่ั คงของมนษุ ย์จังหวดั

(3) แม่เลี้ยงเดี่ยวฐานะยากจนที่ต้องเลี้ยงดูบุตรเพียงลําพัง ที่มาจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ

มนุษยจ์ ังหวัด

(4) สตรที ่ีถูกเลกิ จา้ ง/ตกงาน ท่ีมาจาก สำนักงานจัดหางานจังหวดั , สำนักงานแรงงานจังหวดั

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่า สถานการณ์กลุ่มสตรี อันดับหนึ่ง ได้แก่ สตรีที่ถูกเลิกจ้าง/ตกงาน
จำนวน 14,472 ราย รองลงมา แมเ่ ล้ียงเด่ยี วฐานะยากจน จำนวน 7,009 ราย สตรที ่ถี กู ทำร้ายร่างกาย จติ ใจ จำนวน
245 ราย และสตรีทถี่ กู ละเมดิ ทางเพศ จำนวน 32 ราย

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 36

3.4 กล่มุ ครอบครัว

ตารางที่ 3.4 แสดงสถานการณ์กล่มุ ครอบครวั จำแนกตามจงั หวัด

(หน่วย:ครอบครัว)

จังหวดั จำนวน (1) (2) (3) (4)
กล่มุ เปา้ หมาย ครอบครวั ท่ีจด ครอบครัวหยา่ ครอบครวั ทีม่ ีคนใน ครอบครัว
ตรัง ทะเบียนสมรส ครอบครัวกระทํา ยากจน
นราธิวาส ทง้ั หมด รา้ ง ความรุนแรงต่อกัน
ปัตตานี 2,121
พทั ลุง 237,935 1,853 945 14 8,762
ยะลา 223,141 1,428 357
สงขลา 199,103 1,672 328 9 3,075
199,687 1,193 905
สตูล 173,226 5,232 189 25 20,447
รวม 562,422 903 2,297
107,562 402 10 10,110
14,402
1,703,076 5,423 9 20,460

17 17,477

14 1,608

98 81,939

หมายเหตุ แหลง่ ท่ีมาของขอ้ มลู ณ วันที่ 31 มนี าคม 2565
(1) ครอบครัวท่ีจดทะเบียนสมรส ท่มี าจาก กรมการปกครอง
(2) ครอบครวั หย่าร้าง ท่ีมาจาก กรมการปกครอง
(3) ครอบครัวท่ีมคี นในครอบครัวกระทาํ ความรุนแรงต่อกนั ทีม่ าจาก สำนกั งานสาธารณสขุ
(4) ครอบครัวยากจน ทม่ี าจาก TP MAP

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่า สถานการณก์ ลมุ่ ครอบครวั อนั ดบั หนึง่ ได้แก่ ครอบครวั ยากจน จำนวน
81,939 ครอบครัว รองลงมา ครอบครัวที่จดทะเบียนสมรส จำนวน 14,402 ครอบครัว ครอบครัวหย่าร้าง
จำนวน 5,423 ครอบครัว และครอบครวั ทม่ี ีคนในครอบครวั กระทาํ ความรุนแรงต่อกัน จำนวน 98 ครอบครวั

สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 37

3.5 กลมุ่ ผสู้ ูงอายุ (อายุ 60 ปีขน้ึ ไป)

ตารางท่ี 3.5 แสดงสถานการณ์ผสู้ งู อายุ จำแนกตามจงั หวัด

(หน่วย:คน)

จำนวน (1) (2) (3) (4) (5)
กล่มุ เปา้ ผู้สงู อายุท่ี ผู้สงู อายุจำแนกตามความสามารถใน ผู้สูงอายุท่ี ผู้สงู อายุ ผู้สงู อายุที่
หมาย ได้รับเบย้ี ต้องดำรง มที อ่ี ยู่ บรจิ าคเบ้ยี
ท้ังหมด การทำกิจวตั รประจำวัน (ADL) ชพี ดว้ ย อาศยั ไม่
ยังชีพ การเรร่ ่อน เหมาะสม ยังชีพ
110,291 ขอทาน
จงั หวัด 96,430 944,91 ตดิ บา้ น ติดสงั คม ช่วยเหลอื ไมม่ ขี ้อมลู 18
90,654 70,205 ตัวเองไม่ได้ 0 77 0
ตรัง 159,741 71,537 1,885 86,244 (ตดิ เตยี ง) 0 106 0
นราธวิ าส 68,067 95,290 1,195 59,167 2 2,836 1
ปตั ตานี 237,536 55,102 1,293 47,977 688 0 120 4
พัทลุง 44,768 205,437 1,610 54,293 6 37 0
ยะลา 807,487 40,483 620 40,187 234 15 667 0
สงขลา 538,054 5,379 140,533 0 3,843 23
2,096 41,575 245 23
สตลู 14,078 469,976
รวม 5,711

199

1,082

513

8,672

หมายเหตุ แหล่งที่มาของข้อมูล ณ วนั ที่ 31 มนี าคม 2565
(1) ผู้สูงอายทุ ี่ได้รบั เบยี้ ยงั ชีพ ท่ีมาจาก สำนักงานทอ้ งถ่ินจงั หวัด
(2) ผู้สงู อายจุ ำแนกตามความสามารถในการทำกจิ วัตรประจำวนั (ADL) ทีม่ าจาก สำนักงานสาธารณสขุ จังหวดั
(3) ผู้สูงอายทุ ี่ตอ้ งดำรงชีพดว้ ยการเรร่ อ่ น ขอทาน ที่มาจาก ศูนยค์ มุ้ ครองคนไรท้ ี่พง่ึ จงั หวัด
(4) ผู้สูงอายมุ ที ี่อยอู่ าศยั ไมเ่ หมาะสม ทีม่ าจาก สำนกั งานพัฒนาสงั คมและความมนั่ คงของมนษุ ย์จงั หวดั
(5) ผู้สูงอายุทบ่ี ริจาคเบย้ี ยังชพี ทีม่ าจาก สำนักงานทอ้ งถิ่นจังหวดั

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่า สถานการณผ์ ู้สงู อายุที่ไดร้ ับเบี้ยยังชีพ จำนวน 538,054 ราย รองลงมา
ผู้สูงอายุจำแนกตามความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน (ADL) อันดับแรก ผู้สูงอายุติดสังคม จำนวน
469,976 ราย รองลงมา ผู้สูงอายุติดบ้าน จำนวน 14,078 ราย และผู้สูงอายุช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ (ติดเตียง)
จำนวน 8,672 ราย ผู้สูงอายุมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม จำนวน 3,843 ราย ผู้สูงอายุที่บริจาคเบี้ยยังชีพ
จำนวน 23 ราย ผู้สูงอายุที่ต้องดำรงชีพด้วยการเร่ร่อน ขอทาน จำนวน 23 ราย

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 38

3.6 กลมุ่ คนพิการ

ตารางท่ี 3.6.1 แสดงสถานการณค์ นพิการ จำแนกตามจังหวัด

(หน่วย:คน)

คนพกิ ารทม่ี บี ตั ร คนพกิ ารทไ่ี ด้รับเบ้ียยังชีพ
จังหวัด จำนวน ประจำตวั คนพิการ
เบย้ี ยังชพี เบยี้ ยังชีพ
ตรัง 19,597 19,597 คนพกิ าร ผูส้ ูงอายุ
นราธวิ าส 22,818 22,818
ปตั ตานี 19,859 19,859 19,597 1,049
พัทลงุ 20,141 20,141
ยะลา 14,151 14,151 20,407 8,561
สงขลา 36,960 36,960
10,352 10,352 19,859 7,744
สตูล 143,878 143,878
รวม 19,352 10,128

14,151 5,242

35,584 18,232

9,278 5,509

138,228 56,465

ทมี่ า : ข้อมูลจากศนู ยบ์ รกิ ารคนพกิ ารจังหวัด ณ วนั ท่ี 31 มนี าคม 2565

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่า จำนวนคนพกิ ารมีจำนวนทั้งส้ิน จำนวน 143,878 ราย สถานการณ์
คนพิการท่ีมีบตั รประจำตวั คนพกิ าร จำนวน 143,878 ราย คนพิการทไ่ี ด้รบั เบี้ยยังชพี จำนวน 138,228 ราย
และคนพิการที่ได้รบั เบ้ยี ยังชพี ผสู้ งู อายุ จำนวน 56,465 ราย

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 39

ตารางที่ 3.6.2 แสดงจำนวนคนพกิ ารจำแนกตามสาเหตคุ วามพิการ แยกรายจงั หวัด

(หนว่ ย:คน)

จงั หวดั สาเหตคุ วามพกิ าร ไม่ทราบ มากกว่า 1 รวม
สาเหตุ สาเหตุ
ตรัง พนั ธกุ รรม โรคติดเช้อื อุบัติเหตุ โรคอ่ืน ๆ 13,176 4,184 19,600
นราธิวาส 64 2,349 8,954
ปัตตานี 95 297 1,830 18 4,225 10,144 19,859
พัทลงุ 292 646 2,037 3,566 15,886
ยะลา 184 234 1,258 3,814 10,205 39 4,014
สงขลา 145 225 2,152 3,120 15 954 18,806
125 224 764 1,932 10,352
สตลู 179 442 1,994 6,268 6,448 3,475 97,471
รวม 642 848 1,254 3,546 2,471 1,591
1,662 2,916 11,289 22,264
36,604 22,736

ท่ีมา : ข้อมูลจากศนู ยบ์ รกิ ารคนพกิ ารจังหวดั ณ วันที่ 31 มนี าคม 2565

พจิ ารณาโดยภาพรวม พบวา่ ประเด็นสาเหตุความพิการ อันดบั หนึง่ ได้แก่ พิการโดยไม่ทราบสาเหตุ
จำนวน 36,604 ราย รองลงมา พิการมากกว่า 1 สาเหตุ จำนวน 22,736 ราย พิการจากโรคอื่นๆ จำนวน
22,264 ราย พิการจากอุบัติเหตุ จำนวน 11,289 ราย พิการจากโรคติดเชิ้อ จำนวน 2,916 ราย และพิการ
จากพันธกุ รรม จำนวน 1,662 ราย

สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 40

ตารางที่ 3.6.3 แสดงจำนวนคนพกิ ารจำแนกตามประเภทความพิการ แยกรายจงั หวดั

(หนว่ ย:คน)

ความพิการ

พกิ าร พิการ พกิ าร พิการทาง พกิ ารทาง พกิ าร ออทิสติก พิการ
ทางการ ทางการได้ ทางการ จติ ใจหรอื สตปิ ญั ญา ทางการ มากกวา่
จังหวัด ยนิ หรอื สอ่ื เคลอ่ื นไหว พฤติกรรม เรียนรู้
เหน็ ความหมาย หรอื ทาง 1
ตรัง รา่ งกาย ประเภท
นราธวิ าส 1,502 2,780 10,580
ปตั ตานี 2,311 4,608 1,478 1,422 243 151 1,441
พทั ลงุ 1,348 2,792 16,821 2,937 2,407 167 97 2,486
ยะลา 1,036 5,087 2,643 1,539 144 98 2,239
สงขลา 1,018 2,160 9,056 1,014 967 167 87 1,184
1,999 8,591 1,719 1,526 130 94 990
สตลู 545 1,887 11,310 2,654 2,629 353 331 3,414
รวม 9,759 27,905 609 1,093 188 96 555
6,514 13,054 11,583 1,392 954 12,309

16,862

5,379

76,522

ท่ีมา : ข้อมูลจากศนู ยบ์ รกิ ารคนพิการจังหวดั ณ วันท่ี 31 มนี าคม 2565

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่า สถานการณ์คนพิการจำแนกตามประเภท อันดับหนึ่ง ได้แก่ พิการ
ทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย จำนวน 76,522 ราย รองลงมา พิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย
จำนวน 27,905 ราย พิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม จำนวน 13,054 ราย พิการมากกว่า 1 ประเภท จำนวน
12,309 ราย พกิ ารทางสติปัญญา จำนวน 11,583 ราย พิการทางการเห็น จำนวน 9,759 ราย พิการทางการ
เรียนรู้ จำนวน 1,392 ราย ออทิสตกิ จำนวน 954 ราย

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 41

3.7 กลมุ่ ผ้ดู ้อยโอกาส

ตารางท่ี 3.7 แสดงสถานการณก์ ลมุ่ ผดู้ ้อยโอกาส จำแนกตามจงั หวัด

(หนว่ ย:คน)

จงั หวดั คนยากจน คนเร่รอ่ น/ไร้ทอี่ ยู่ ไมม่ สี ถานะทาง ผู้พน้ โทษ ผตู้ ิดเชื้อ HIV

(คนจนเป้าหมาย อาศยั ทะเบยี นราษฎร

TPMAP)

ตรงั 13,448 0 0 2,717 4,779

นราธิวาส 19,205 39 ไม่มีข้อมูล 329 2,109

ปัตตานี 28,503 16 ไมม่ ีขอ้ มลู 1,931 1,447

พทั ลุง 14,029 0 3 1,000 2,837

ยะลา 20,460 79 0 2 21

สงขลา 27,368 50 2 43

สตูล 13,469 15 ไม่มีขอ้ มูล 293 1,325

รวม 136,482 199 5 6,276 12,521

ทีม่ า : ข้อมลู จากสำนักงานพฒั นาสังคมและความมน่ั คงของมนุษย์ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนลา่ ง ณ วันท่ี 31 มนี าคม 2565

หมายเหตุ นิยาม ผู้ด้อยโอกาส หมายถึง ผู้ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน และได้รับผลกระทบใน
ด้านเศรษฐกิจสังคม การศึกษา สาธารณสุข การเมือง กฎหมาย วัฒนธรรม ภัยธรรมชาติและภัยสงคร าม
รวมถึงผู้ที่ขาดโอกาสที่จะเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานของรัฐ ตลอดจนผู้ประสบปัญหาที่ยังไม่มีองค์กรหลัก
รับผิดชอบอันจะส่งผลให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้เท่าเทียมกับผู้อื่น” โดย กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมน่ั คงของมนุษย์ (พม.)

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่า สถานการณ์กลุ่มผู้ด้อยโอกาส อันดับหน่ึง ได้แก่ สถานการณ์ความ
ยากจน จำนวน 136,482 ราย รองลงมา ผู้ติดเชื้อ HIV จำนวน 12,521 ราย ผู้พ้นโทษ จำนวน 6,276 ราย
และไมม่ สี ถานะทางทะเบียนราษฏร จำนวน 5 ราย

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 42

ส่วนที่ 4

สถานการณ์เชิงประเดน็ ทางสงั คมในระดบั กลมุ่ จงั หวัด

4.1 สถานการณ์กลุ่มเปราะบางรายครวั เรือน

ตารางท่ี 4.1.1 แสดงกลุ่มคนเปา้ หมายตามฐานข้อมลู ระบบการพัฒนาคนแบบชเ้ี ปา้ TP MAP แยกรายมติ ิ รายจงั หวดั

(หนว่ ย:คน)

จังหวัด *จำนวนคน ดา้ นความ ดา้ น ดา้ นสขุ ภาพ ดา้ นรายได้ ดา้ นการเขา้ ถึง
เปราะบาง เป็นอยู่ การศกึ ษา บริการภาครัฐ

ตรัง 168,055 4,217 2,641 2,632 6,296 46

นราธิวาส 148,187 3,104 4,054 2,030 2,647 10

ปัตตานี 123,377 1,419 3,395 2,365 4,006 13

พทั ลุง 17,518 4,317 2,979 3,324 6,864 34

ยะลา 20,460 5,844 7,319 4,278 8,713 24

สงขลา 316,453 1,548 340 2,191 2,887 8
สตลู 83,631 10,774 10,979 2,065 5,285 0

รวม 877,681 31,223 31,707 18,885 36,698 135

ที่มา ฐานขอ้ มลู ระบบการพฒั นาคนแบบชเี้ ปา้ TP MAP สำนักงานการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ

หมายเหตุ กลุม่ คนเปราะบาง หมายถงึ บุคคลทต่ี อ้ งการได้รบั การพงึ่ พงิ จากผู้อ่ืน ไมส่ ามารถแสดงความคดิ เห็นได้อย่างอิสระ

หรอื ตัดสินใจไดด้ ้วยตัวเอง โดยสามารถแบง่ กลมุ่ คนเปราะบางได้ ดังน้ี

1.กลมุ่ ทม่ี ีความเสี่ยงสงู กวา่ บุคคลทั่วไป อาทิ หญิงต้งั ครรภ์ ผ้สู งู อายุ

2.กลุม่ ทุพพลภาพ อาทิ ผพู้ ิการ ผ้ปู ว่ ยจิตเวช ผปู้ ่วยเด็ก ผ้ปู ่วยสมองเส่ือม

3.กลุม่ ท่ีไมม่ อี สิ ระพอในการตดั สนิ ใจ อาทิ นกั โทษ ทหารเกณฑ์

ในช่วงปีงบประมาณ 2564 - 2565 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ดำเนิน
โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน โดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับ
12 กระทรวง 1 หน่วยงาน โดยกำหนดให้ใช้ข้อมูลจากระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า
(Thai People Map and Analytics Platform : TPMAP) ครัวเรือนเปราะบาง 4.1 ล้านครัวเรือน เป็น
ฐานข้อมูลหลักมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้กินดีอยู่ดี ซึ่งจากตารางที่ 4.1.1 จะพบว่า
จำนวนคนที่ต้องได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ที่เรียกว่าคนเปราะบางนั้น ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ
สสว.11 มีทั้งสิ้น 877,681 คน คิดเป็นร้อยละ 17.55 จำนวนคนเปราะบางเทียบกับจำนวนประชากรในกลุ่ม
จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง และหากเทียบกับจำนวนประชากรในจังหวัดนั้น ๆ พบว่า จังหวัดที่มีคนเปราะบาง
สูงสุด คือ จังหวัดตรัง ร้อยละ 26.27 จังหวัดสตูล ร้อยละ 25.75 และจังหวัดสงขลา ร้อยละ 22.11 ซึ่งใน
จำนวนคนเปราะบางข้างต้นเป็นผู้ที่ตกเกณฑ์ 5 มิติ (มิติความเป็นอยู่ มิติด้านการศึกษา มิติด้านสุขภาพ มิติ
ด้านรายได้ และมิติด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ) จากตารางข้างต้น จำแนกผู้ที่ตกเกณฑ์รายมิติมากที่สุดไป
นอ้ ยทีส่ ดุ ดังน้ี

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 43

1) มิติด้านรายได้ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.11 มีคนที่ตกเกณฑ์ จำนวน 36,698 คน
คิดเป็นร้อยละ 0.73 เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในกลุ่มจังหวัด จังหวัดที่ตกเกณฑ์มากที่สุดเมื่อเทียบกับ
จำนวนประชากรรายจงั หวัด คือ จังหวดั ยะลา รองลงมาจงั หวัดสตลู และจังหวดั ตรัง

2) มิติด้านการศึกษา ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.11 มีคนที่ตกเกณฑ์ จำนวน 31,707
คน คิดเป็นร้อยละ 0.63 เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในกลุ่มจังหวัด จังหวัดที่ตกเกณฑ์มากที่สุดเมื่อเทียบ
กับจำนวนประชากรรายจังหวดั คือ จงั หวัดสตลู รองลงมาจังหวดั ยะลา และจังหวดั นราธวิ าส

3) มิติด้านความเป็นอยู่ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.11 มีคนที่ตกเกณฑ์ จำนวน 31,223 คน
คิดเป็นร้อยละ 0.62 เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในกลุ่มจังหวัด จังหวัดที่ตกเกณฑ์มากที่สุดเมื่อเทียบกับ
จำนวนประชากรรายจังหวัด คือ จังหวัดสตูล รองลงมาจังหวดั ยะลา และจังหวัดพัทลงุ

4) มิติด้านสุขภาพ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.11 มีคนที่ตกเกณฑ์ จำนวน 18,885 คน
คิดเป็นร้อยละ 0.38 เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในกลุ่มจังหวัด จังหวัดที่ตกเกณฑ์มากที่สุดเมื่อเทียบกับ
จำนวนประชากรรายจังหวดั คอื จงั หวัดยะลา รองลงมาจงั หวัดพทั ลงุ และจงั หวัดสตลู

5) มิติด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.11 มีคนที่ตกเกณฑ์
จำนวน 135 คน คิดเป็นร้อยละ 0.003 เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในกลุ่มจังหวัด จังหวัดที่ตกเกณฑ์มาก
ท่สี ดุ เมื่อเทียบกบั จำนวนประชากรรายจังหวดั คอื จังหวดั ตรงั รองลงมาจังหวัดพทั ลุง และจังหวัดยะลา
ตารางที่ 4.1.2 แสดงข้อมลู ครวั เรือนเปราะบาง รายจงั หวัดในเขตพ้นื ทรี่ บั ผดิ ชอบ สสว.11 สงขลา

(หน่วย:ครัวเรือน)

จงั หวดั *จำนวน ครัวเรอื นที่อยู่ **ระดับความเปราะบางของครวั เรือน
ครวั เรอื น อาศัยไม่มั่นคง ระดบั 0 ระดบั 1 ระดบั 2 ระดับ 3
ตรัง เปราะบาง
นราธวิ าส
ปัตตานี 61,468 4,093 59,329 1,739 3,689 1,206
พัทลุง
ยะลา 51,278 1,915 48,206 370 1,721 981
สงขลา
42,314 1,234 33,623 1,794 5,109 1,788
สตลู
รวม 56,424 5,400 47,346 1,118 6,283 1,677

39,356 1,915 34,596 130 3,208 1,422

116,008 1,563 110,245 1,905 2,875 983

25,025 1,367 19,613 1,019 2,875 986

391,873 17,487 352,958 8,075 25,760 9,043

ท่ีมา : กองตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนษุ ย์ ขอ้ มูล ณ 31 มนี าคม 2565

*นยิ าม ครัวเรอื น หมายถึง บคุ คลหรือกลุ่มคนทีอ่ ยรู่ ่วมกนั และกินอยู่ร่วมกันในสถานทเี่ ดียวกันจำนวน 6 เดือน เป็นอย่าง
น้อย โดยจำแนกออกได้เป็น 2 ชนดิ คือ

1. ครวั เรือนคนเดยี ว ได้แก่ ครวั เรือนซึ่งประกอบดว้ ยบคุ คลคนเดียวโดยไมเ่ กี่ยวข้องเป็นสมาชิกของครัวเรือนอื่นใด
ทอ่ี ยใู่ นบา้ นเดยี วกนั หรือบคุ คลคนเดยี วอาศัยอยตู่ ามลำพังในบ้านหลงั หนงึ่

2. ครัวเรือนที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติ ได้แก่ ครัวเรือนที่มีบุคคลตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป อยู่รวมกันใ นบ้าน
เดียวกัน หรอื สว่ นหนง่ึ ของบา้ น และร่วมกนั ในการจัดหาและใชส้ ิ่งอปุ โภค บริโภคอันจำเป็นแกก่ ารครองชพี ของบคุ คลกลมุ่ นนั้
บคุ คลเหล่าน้อี าจเปน็ ญาตกิ นั หรือไม่เปน็ ญาติกันเลย

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 44

ครัวเรือนเปราะบาง ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและมีบุคคลที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ เช่น

ครอบครวั ยากจนที่มเี ด็กเล็ก แม่เลีย้ งเดยี่ ว ผสู้ ูงอายุ คนพกิ าร สามารถแบง่ ระดบั ความเปราะบางได้ ดังนี้

ครวั เรือนระดบั ๐ หมายถึง ครวั เรอื นท่ีไม่ตกมติ ิเรือ่ งรายไดแ้ ละมีบุคคลทมี่ ีภาวะพ่ึงพงิ

ครวั เรอื นระดบั 1 หมายถงึ ครัวเรือนทีม่ รี ายได้นอ้ ย ครวั เรอื นทมี่ รี ายไดน้ อ้ ยและมีปญั หาที่อยอู่ าศัย

ครัวเรือนระดบั 2 หมายถงึ ครัวเรอื นท่มี ีรายไดน้ ้อยและมีบคุ คลทอ่ี ยู่ในภาวะพ่ึงพิง 1 – 2 คน

ครัวเรือนระดับ 3 หมายถึงครัวเรือนทมี่ ีรายไดน้ ้อยและมีบุคคลทีอ่ ย่ใู นภาวะพ่ึงพงิ มากกวา่ 2 คน

ครัวเรือนทมี่ รี ายไดน้ ้อย คือ ครัวเรือนทีม่ รี ายได้เฉล่ียตอ่ ปีไมเ่ กิน 100,000 ต่อคน ตอ่ ปี

ภาวะพงึ่ พงิ หมายถงึ คนท่ตี ้องไดร้ ับการดแู ล/ช่วยเหลือจากคนอืน่ (อาทิ เดก็ เลก็ ผ้สู งู อายุ คนพิการ และผู้ปว่ ยตดิ เตยี งเปน็ ต้น)

ในส่วนข้อมูลครัวเรือนเปราะบาง ตามตารางที่ 4.1.2 จำนวนครัวเรือนเปราะบางในเขตพื้นท่ี
รับผิดชอบของ สสว.11 มีทั้งสิ้น 391,873 ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 22.41 เมื่อเทียบกับจำนวนครัวเรือนใน
กลุ่มจังหวัด จังหวัดที่มีจำนวนครัวเรือนเปราะบางมากที่สุดเมื่อเทียบกับจำนวนครัวเรือนรายจังหวัด คือ
จังหวัดพัทลุง รองลงมาจังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล มีครัวเรือนที่มีที่อยู่อาศัยไม่มั่นคง คิดเป็นร้อยละ 1.08
มากที่สุด คือ จังหวัดพัทลุง รองลงมาจังหวัดตรัง และจังหวัดนราธิวาส โดยมีครัวเรือนระดับ 0 มากที่สุด
(ครัวเรือนที่ไม่ตกมิติเรื่องรายได้และมีบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิง) จำนวน 352,958 ครัวเรือน ครัวเรือนระดับ 2
(ครัวเรอื นทมี่ ีรายได้น้อยและมีบุคคลที่อยู่ในภาวะพ่ึงพิง 1–2 คน) จำนวน 25,760 ครวั เรอื น ครัวเรือนระดับ
3 (ครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและมีปัญหาที่อยู่อาศัย) จำนวน 9,043 ครัวเรือน และ
ครัวเรือนระดับ 1 (ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและมีบุคคลที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงมากกว่า 2 คน) จำนวน 8,075
ครัวเรือน ซึง่ ครวั เรือนระดบั 3 เป็นกลุม่ เป้าหมายแรกทท่ี างกระทรวง พม. ตอ้ งให้การชว่ ยเหลือแบบเร่งด่วน
4.1.3 ผลการขับเคลื่อนโครงการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ กลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน (หนว่ ย:คน)

จังหวดั เปา้ หมาย เปา้ หมาย มติ ดิ ้าน มติ ิด้าน มติ ิด้าน มติ ดิ า้ น มิตดิ า้ น รวม รอ้ ยละ
100% 15% สขุ ภาพ ที่อยู่ การศึกษา รายได้ การเขา้ ถงึ ของ
อาศยั บรกิ าร เปา้ หมาย
ภาครัฐ 15 %

ตรงั 61,468 9,221 797 2,115 553 3,928 8 7,401 80.26

นราธิวาส 51,278 7,692 2,150 3,040 3,690 3,187 25 12,092 157.20

ปตั ตานี 42,314 6,348 823 438 762 1,237 5 3,265 51.43

พทั ลุง 52,851 7,928 2,079 107 - 200 1,994 4,380 55.25

ยะลา 39,457 5,919 73 299 2 1,166 43 1,583 26.74

สงขลา 116,008 17,402 1,268 321 127 923 6,076 8,715 50.08

สตลู 29,758 4,464 233 233 118 1,433 31 1,697 38.02

รวม 393,134 58,974 7,423 6,533 5,252 12,074 8,182 39,133 66.36

ท่ีมา : กองตรวจราชการ กระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่นั คงของมนุษย์ ขอ้ มลู ณ 31 กรกฎาคม 2565

สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 45

การดำเนินงานโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน มีการบูราณาการ
ทำงานร่วมกับทีม One Home และภาคีเครือข่ายในพื้นที่เริ่มตั้งแต่กระบวนการคัดกรองข้อมูล การตรวจสอบ
ความถูกต้อง การวิเคราะห์ การวางแผน ตลอดจนการดำเนินการช่วยเหลือ มีการวิเคราะห์โดยใช้หลักสังคม
สงเคราะห์ การประชุมทีม/คณะทำงานจังหวัด เกณฑ์ระดับครัวเรือนตามที่กระทรวงกำหนด (ระดับ 0-3)
นอกจากนี้ยังใช้กลไกศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียงจังหวัด (ศจพ.จ.) หรือบางจังหวัดใช้คณะทำงานของจังหวัดเคลื่อนที่เป็นกลไกสำคัญในการ
ขับเคลอื่ นงาน การวางแผนชว่ ยเหลือกลุ่มเปราะบางรายครวั เรือน โดยจังหวัดในเขตพ้ืนทร่ี บั ผิดชอบของ สสว.11
มีผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัด รอบ 6 เดือน พ.ศ. 2565 มีเป้าหมาย 15 % เมื่อเทียบกับจำนวนครัวเรือน
เปราะบาง จากตารางที่ 4.1.3 จังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบส่วนใหญ่มีผลการดำเนินเกินร้อยละ 50 ขึ้นไป มี
เพยี ง 2 จังหวดั ที่มผี ลการดำเนนิ งานไม่ถงึ ร้อยละ 50 คอื จงั หวดั ยะลา และจงั หวดั สตลู

4.2 สถานการณ์ภายใต้การแพร่ระบาดของเช้ือ COVID-19

ตารางท่ี 4.2.1 แสดงสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของCOVID-19พ้ืนท่กี ลุ่มจังหวดั ในเขตรบั ผิดชอบของสสว.11

(หนว่ ย:คน)

จังหวดั ติดเชอื้ สะสม กำลังรกั ษา รักษาหาย เสยี ชีวติ
ตรงั 37,782 412 27,193 177
นราธิวาส 50,663 143 50,116 404
ปัตตานี 59,703 60 52,081 540
พทั ลุง 24,773 134 24,544 95
ยะลา 36,607 11,282 25,247 78
สงขลา 34,711 80 34,507 124
สตูล 19,538 40 19,307 191
รวม 263,777 12,151 232,995 1,609

ท่ีมา : รายงานสถานการณ์ COVID-19 สำนักงานสาธารณสุขจังหวดั ขอ้ มูล ณ วนั ท่ี 31 พฤษภาคม 2565

จากสถานการณ์ภายใต้การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในเขตพื้นท่ีกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง
ต้งั แตร่ ะลอกท่ี 1 จนถึง วนั ท่ี 31 พฤษภาคม 2565 ยอดผตู้ ดิ เช้อื สะสม มีทัง้ สิน้ 263,777 คน คิดเป็นร้อยละ
5.93 เมื่อเทยี บกบั จำนวนผ้ตู ิดเชอื้ สะสมของประเทศ จงั หวัดทพ่ี บว่า มียอดผตู้ ิดเชือ้ สงู สุด คือ จงั หวัดปัตตานี
รองลงมา จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดตรัง เป็นจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย
ซึ่งคนไทยในสามจังหวัดชายแดนใต้ส่วนใหญ่นิยมไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ในช่วงการระบาดอย่างหนัก
ทำให้ทางการของประเทศมาเลเซียประกาศปิดประเทศทำให้มีการหลบหนีกลับเข้ามายังประเทศไทยผ่าน
ด่านช่องทางธรรมชาติขาดการตรวจและคัดกรองตามระบบของสาธารณสุขจึงส่งผลต่อการติดเชื้อเป็นกลุ่ม
ก้อนขนาดใหญ่ ระบาดไปตามหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว ทำให้การกระจายของเชือ้ โรคควบคมุ ไดย้ าก ส่วนจังหวดั
ทม่ี ผี ู้ตดิ เชอ้ื น้อยที่สุด คอื จงั หวดั สตลู จงั หวัดพทั ลุง และจังหวัดสงขลา ในสว่ นของการรักษาผู้ติดเช้ือจังหวัด
ในเขตพ้นื ทจี่ ังหวัดภาคใตต้ อนล่าง รอ้ ยละ 88 ข้ึนไปของผ้ตู ดิ เชอ้ื ทรี่ ักษาตัวหายจากการตดิ เช้ือดังกล่าว

สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 46

ตารางท่ี 4.2.2 แสดงข้อมูลการได้รับวัคซีนป้องกันโรค โควิด-19 ประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดใน

เขตรับผดิ ชอบของ สสว.11

(หน่วย:คน)

จงั หวดั เขม็ ท่ี 1 เขม็ ที่ 2 กระตุน้ เขม็ ที่ 3 กระตุ้นเขม็ ท่ี 4

ตรงั 527,744 429,459 132,897 10,017

นราธิวาส 442,623 355,294 51,129 4,962

ปัตตานี 421,899 337,896 55,114 4,993

พทั ลงุ 425,218 398,119 124,951 7,340

ยะลา 363,975 305,840 65,281 7,250

สงขลา 1,207,870 1,124,679 430,245 46,472

สตลู 208,044 192,516 29,623 2,049

รวม 3,597,373 3,143,803 889,240 83,083

ทมี่ า MOPH-Immunization Center (IC) กระทรวงวาธารณสุข ขอ้ มลู ณ ข้อมลู ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2565

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในปี 2563 – 2564 มีสถานการณ์ท่ี
รุนแรงเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลได้รณรงค์ให้ประชาชนทุกช่วงวัยได้รับวัคซีน โดยทางกระทรวง พม. ได้ให้การ
ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มเป้าหมายของกระทรวงฯ ให้ได้รับวัคซีนกันอย่างทั่วถึง ซึ่งในเขต
พืน้ ทก่ี ลมุ่ จังหวัดภาคใตต้ อนล่าง น้นั มผี ้ไู ดร้ บั วคั ซนี เข็มที่ 1 รวมทง้ั สิ้น 3,597,373 คน คดิ เป็นร้อยละ 71.94
เขม็ ท่ี 2 จำนวน 3,143,803 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 62.87 เมือ่ เทียบกบั จำนวนประชากรในกลมุ่ จังหวดั ทกุ จังหวัด
ประชาชนได้รบั ฉีดวัคซนี เข็มท่ี 1 เกนิ รอ้ ยละ 54 ข้ึนไป และเข็มที่ 2 เกินรอ้ ยละ 43 ขนึ้ ไป ในส่วนของเข็มที่
3 จงั หวดั ทป่ี ระชาชนได้รบั ฉดี วคั ซีนตำ่ กวา่ ร้อยละ 10 คือจงั หวัดนราธวิ าส ปัตตานี และจังหวัดสตลู เน่อื งจาก
เป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชือ้ COVID-19 มากเป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ จึงจำเป็นต้องขอความร่วมทุกภาคส่วน
ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ และภาคประชาสังคมช่วยกันรณรงค์และสนับสนุนให้ประชาชนได้รับวัคซีน
อย่างทั่วถึงเพื่อเป็นเข็มกระตุ้นรองรับการแพร่ระบาดในอนาคต และเข็มที่ 4 รับวัคซีนไม่เกินร้อยละ 4
เม่ือเทยี บกบั จำนวนประชากรแต่ละจังหวดั

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 47

ตารางท่ี 4.2.3 แสดงข้อมูลการใหค้ วามช่วยเหลอื ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรค

COVID-19 พื้นท่ีกลุ่มจังหวัดในเขตรบั ผดิ ชอบของ สสว.11

(หน่วย:คน)

จงั หวดั ผูป้ ว่ ย COVID-19 ครอบครวั ผูไ้ ด้รับผลกระทบท่ี ครอบครวั ผไู้ ด้รบั
(คน) ผ้เู สียชีวิตจาก ไดร้ ับการช่วยเหลือ ผลกระทบท่ไี ด้รับ
COVID-19 การทช่ี ่วยเหลือ
(ครอบครัว) (คน)
(ครอบครัว)

ตรัง 37,782 64 2,442 2,442

นราธิวาส 50,663 4 15 19

ปตั ตานี 59,703 177 6,539 3,244

พัทลุง 24,773 215 8,957 8,957

ยะลา 36,607 437 2,138 200

สงขลา 34,711 124 4,443 3,565

สตูล 19,538 191 1,397 1,397

รวม 263,777 1,212 25,931 19,824

ท่ีมา : รายงานข้อมลู การให้ความช่วยเหลอื ผไู้ ดร้ ับผลกระทบจากสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรค COVID-19
กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนุษย์ ขอ้ มลู ณ วนั ท่ี 31 พฤษภาคม 2565

จากตาราง 4.2.3 กระทรวง พม. ไดม้ ีการจัดทำข้อมลู การให้ความช่วยเหลือผู้ท่ีได้รับผลกระทบ
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2564
โดยจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.11 ได้ให้การช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาที่เป็นผู้ป่วย COVID-19
จำนวน 263,777 คน ครอบครวั ของผู้เสียชวี ิตจาก COVID-19 จำนวน 1,212 ครอบครัว และกลุ่มเปราะบาง
ที่ได้รับผลกระทบและได้รับการช่วยเหลือ จำนวน 25,931 คน ครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบที่ได้รับการ
ชว่ ยเหลือ จำนวน 19,824 ครอบครวั

สถานการณ์เชิงประเดน็ สำคัญในพื้นที่

4.3 สถานการณ์ความไมส่ งบในพน้ื ทจ่ี ังหวัดชายแดนภาคใต้
ข้อมลู สถานการณ์ทส่ี ำคญั อีกประการหนึ่ง ซง่ึ มีความแตกต่างจากพ้ืนท่ีอ่ืน ๆ ในเขตพ้ืนที่รับผิดชอบ

ของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 คือสถานการณ์การก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัด
ทางภาคใตข้ องประเทศไทย ได้แก่ จงั หวัดนราธิวาส ปตั ตานี ยะลา สตูล และสงขลา ใน 4 อำเภอ คือ อำเภอ
จะนะ เทพา นาทวี และสะบา้ ย้อย ซ่งึ เกิดขนึ้ มาตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบนั ซึ่งเหตุการณ์ได้ทวีความรุนแรง
ขยายเป็นวงกว้าง ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 จึงได้มีการติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับ
ผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้การดำเนินงานโครงการรวม
พลงั ชายแดนใต้ รว่ มสร้างสงั คมแห่งการแบ่งปนั ซง่ึ เป็นความร่วมมือระหวา่ งสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุน

สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 48

วชิ าการ 11 และสำนักงานพฒั นาสังคมและความมน่ั คงของมนุษย์จังหวัดนราธวิ าส ปัตตานี ยะลา สตูล และ
สงขลา รวมถึงการดำเนนิ งานร่วมกับภาคเี ครือข่ายที่เก่ียวข้อง และมกี ารจดั ทำระบบรายงานผลการดำเนินงาน
ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในปี 2564 สามารถสรุป
สถานการณไ์ ดด้ งั นี้

การช่วยเหลอื เยยี วยาผู้ไดร้ ับผลกระทบจากสถานการณค์ วามไม่สงบในพน้ื ทจี่ ังหวดั ชายแดนภาคใต้
จากข้อมูลศูนย์ประสานงานวิชาการให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบจังหวัด

ชายแดนใต้ (ศวชต.) ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2547 ถึงปัจจุบัน (กันยายน 2564) มีการก่อเหตุความไม่สงบใน
พื้นที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสงขลา จำนวน 13,243 ครั้ง เป็นเหตุการณ์จากสถานการณ์
จำนวน 7,716 ครั้ง จากสถานการณ์อื่น ๆ จำนวน 5,527 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 5,216 ราย
ผู้พกิ าร จำนวน 807 ราย และผไู้ ดร้ บั บาดเจ็บ จำนวน 14,703 ราย รวมจำนวนท้งั สน้ิ 20,726 ราย

แผนภูมิท่ี 4.3.1 แสดงการก่อเหตุความไม่สงบในพน้ื ทจี่ ังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา
ต้ังแต่ พ.ศ. 2547- กันยายน 2564 จำนวน 13,243 คร้งั

1,600 เหตกุ ารณจ์ ากสถานการณ์ จำนวน 7,716 คร้ัง
1,487 จากสถานการณอ์ น่ื ๆ จำนวน 5,527 คร้ัง

1,400

1,200

1,000 905

763 772
800 731

600 602 512 556 497
465 482

400 443 429 368 416 405
200
306 379 402 388 216 290 114
97
317 66 94 88 95

219 106 81 41 53 28

- 30

2547 2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 2563 2564

(ท่มี า : ศนู ยป์ ระสานงานวชิ าการใหก้ ารช่วยเหลือผไู้ ดร้ บั ผลกระทบจากเหตุความไมส่ งบจังหวดั ชายแดนใต้ (ศวชต.)

ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายการดำเนนิ งานเยยี วยาผูไ้ ด้รบั ผลกระทบจากสถานการณค์ วามไม่สงบใน
พนื้ ที่ จงั หวัดชายแดนภาคใต้ (ระหวา่ งปี 2547 ถึง กันยายน 2564)

จากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา
และสงขลา ในพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอจะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ส่งผลให้ประชาชนใน
พื้นที่ได้รับความเสียหายทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และทรัพย์สิน ซึ่งหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องต่างก็

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 49

ให้ความช่วยเหลือกันตามบทบาทหน้าที่ ในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
มบี ทบาทในการดแู ลผู้ได้รับผลกระทบแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คอื

1) การช่วยเหลือเฉพาะหน้า เป็นการให้ความช่วยเหลือหลังจากเกิดเหตุ เพื่อบรรเทา
ความเดอื ดร้อนในเบ้ืองต้น ได้แก่ เงินสงเคราะห์เฉพาะหน้าแกผ่ เู้ สยี ชวี ติ และผบู้ าดเจบ็

2) การช่วยเหลือระยะยาว เป็นการให้ความช่วยเหลือต่อเนื่อง จ่ายเงินเป็นรายเดือน
เพื่อดูแลกลุ่มเป้าหมายให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2547 – เดือนกันยายน 2564 กระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็กกำพร้า เด็กที่พ่อแม่
บาดเจ็บสาหัส/ทุพพลภาพ ผู้พิการ และสตรีหม้าย ทั้งสิ้น จำนวน 12,047 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างให้การ
ช่วยเหลอื จำนวน 9,321 ราย และได้ยตุ ิการช่วยเหลือ จำนวน 2,726 ราย สรปุ รายละเอียดได้ ดงั นี้

แผนภมู ิท่ี 4.3.2 แสดงผไู้ ด้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไมส่ งบฯ

ผไู้ ด้รับผลกระทบฯ จำนวนท้ังสิ้น 12,047 ราย โดยแยกตามประเภทกลุ่มเปา้ หมาย ดังนี้

7,000 ยตุ กิ ารชว่ ยเหลือ 2,726 ราย

6,000 อยู่ระหว่างการช่วยเหลือ 9,321 ราย

5,000 1,988

4,000

3,000

2,000 3,742 682

1,000 1,873 56 2,955
751
สตรหี มำ้ ย
0 เด็กกำพรำ้ เด็กท่พี ่อแมบ่ ำดเจบ็ สำหสั /พิกำร ผพู้ ิกำร

5,730 ราย 2,555 ราย 807 ราย 2,955 ราย

จากสถานการณ์ก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ ปี 2547-2564
ได้ก่อให้เกิดการสูญเสียของคนในครอบครัว โดยส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
ดังกล่าว ได้แก่ เด็กได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ผู้พิการ และสตรีหม้าย ซึ่งสามารถจำแนกข้อมูลตาม
กลุ่มเป้าหมาย ดังน้ี

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 50

เด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งกระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้การช่วยเหลือ รวมทั้งสิ้น 8,285 ราย ประกอบด้วย
เดก็ กำพรา้ จำนวน 5,730 ราย และเด็กท่พี ่อแม่บาดเจ็บสาหสั หรือพกิ าร จำนวน 2,555 ราย

จำแนกเป็นกลุ่มที่อยู่ระหว่างการให้ความช่วยเหลือ จำนวน 3,742 รายและยุติการให้ความช่วยเหลือ
จำนวน 1,988 ราย

แผนภมู ิที่ 4.3.3 แสดงจำนวนกลุ่มเปา้ หมายเดก็ ฯ อยู่ระหว่างการให้ความชว่ ยเหลอื และยตุ ิการให้ความช่วยเหลือ

1,988 1,800 1,156 1,585 889
1,600 659
3,742 1,400 617 593 112 119
1,200 ยะลำ
1,000 นรำธิวำส ปัตตำนี 889 สงขลำ
1,156 1,585 659 112
800 617 593 119
600
400
200

0

อยรู่ ะหว่ำงกำรชว่ ยเหลอื
ยตุ กิ ำรชว่ ยเหลอื

แผนภูมิท่ี 4.3.4 แสดงจำนวนกลุ่มเป้าหมายคนพกิ ารฯ อยรู่ ะหวา่ งการให้ความช่วยเหลอื และยตุ กิ ารให้ความช่วยเหลือ

คนพิการ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ที่กระทรวง พม.ให้การชว่ ยเหลือ ทั้งส้นิ 807 ราย

56 สาเหตขุ องการยตุ ิการช่วยเหลือ

-เสียชีวติ เนือ่ งจากป่วยเรือ้ รงั จากสถานการณ์
-เสียชีวติ ด้วยสาเหตุอ่นื ๆ

อยรู่ ะหว่างการช่วยเหลือ
ยตุ ิการชว่ ย (เสียชวี ิต)
751

ข้อมลู ผลการดำเนนิ งานช่วยเหลือเยียวยาผูไ้ ด้รบั ผลกระทบจากสถานการณค์ วามไม่สงบในพ้ืนที่
จงั หวดั ชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ 2564

สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 51

การดำเนินงานของโครงการหน่วยเคลื่อนที่เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ
ในภาคใต้ประจำอำเภอเพื่อประชาผาสุก อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์จังหวัด ทั้ง 5 จังหวัด มีบทบาทภารกิจในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รั บผลกระทบจาก
สถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ และผู้ประสบปัญหาทางสังคมตามกลุ่มเป้าหมาย รูปแบบในการดำเนินงาน
เป็นการให้คำแนะนำ เยี่ยมเยียน ติดตาม และประสานส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในปีงบประมาณ 2564
ไดก้ ำหนดเป้าหมาย จำนวน 15,000 ราย โดยจำแนกเปน็ รายจังหวดั ดังน้ี

ตารางที่ 4.3.1 แสดงผลการดำเนินงานโครงการหน่วยเคล่ือนทเ่ี ยียวยาผู้ไดร้ ับผลกระทบฯ ปี 2564

จงั หวดั เป้าหมาย ผลการดำเนินงาน ผลการดำเนินงาน คิดเปน็ รอ้ ยละ
(ครั้ง) (ราย) (ครง้ั )

นราธิวาส 3,900 2,811 4,289 109.97

ปตั ตานี 3,600 2,911 4,853 134.81

ยะลา 2,400 2,837 4,017 167.38

สงขลา 3,600 2,969 3,879 107.75

สตูล 1,500 2,236 2,615 174.33

รวม 15,000 13,764 19,653 131.02

จากตารางแสดงการเปรียบเทียบเป้าหมายในการดำเนินงาน ปงี บประมาณ 2564 จำนวน 15,000 ครั้ง
กับผลการดำเนินงานของผู้ปฏิบัติงาน หน่วยเคลื่อนที่เยียวยาฯ ในการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น
จำนวน 13,766 ราย (19,653 ครัง้ ) โดยจำแนกเปน็ การชว่ ยเหลือเปน็ รายจังหวัดได้ดงั นี้

แผนภูมิที่ 4.3.5 แสดงผลการดำเนินงานโครงการหน่วยเคลื่อนที่เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ ปี 2564
จำแนกเป็นการช่วยเหลือ

ท่มี า : ระบบรายงานผลการดำเนนิ งานผไู้ ดร้ ับผลกระทบฯ www.sdmutpso11.com

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 52

แผนภูมิท่ี 4.3.6 แสดงผลการใหค้ วามช่วยเหลือผู้ได้รบั ผลกระทบจากสถานการณค์ วามไมส่ งบในภาคใต้ จำนวน5,590ราย

สงขลา, สตลู ,124
246
ปัตตานี, นราธิวาส,
ยะลา, 1,976 2,388
856

ตารางที่ 4.3.2 แสดงผลการใหค้ วามช่วยเหลอื ผ้ไู ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์ความไมส่ งบในภาคใต้ จำนวน 5,590ราย

จังหวัด นราธิวาส ปตั ตานี ยะลา สงขลา สตูล รวม

เงินสงเคราะหป์ ระเภทต่างๆ เงิน 186 669 4 208 9 1,076
กู้ยืม และทนุ การศึกษา

มอบเคร่ืองอุปโภค/บริโภค 5 - - - 16

ยื่นเอกสารเพ่ือดำเนนิ การตอ่ 707 294 4 3 21 1,029

เยยี่ มเยียนแนะนำใหค้ ำปรึกษา 1,490 1,013 848 35 93 3,479

รวม 2,388 1,976 856 246 124 5,590

(ที่มา : ระบบรายงานผลการดำเนนิ งานผูไ้ ดร้ ับผลกระทบฯ www.sdmutpso11.com)

4.4 สถานการณ์ความยากจนของพนื้ ท่กี ลมุ่ จงั หวดั ภาคใตต้ อนลา่ ง

“ความยากจน” ปญั หาที่ไมเ่ คยหมดไปจากสังคมไทย

ทกุ วนั นป้ี ระชากรส่วนใหญ่ของประเทศตอ้ งประสบกับภาวะความยากจน ซง่ึ เป็นผลมาจากการแพร่
ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ไม่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเมือง การไม่มีงานทำ
ประชากรเพิ่มขึ้น และการมีหนี้สิน อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำเมื่อเทียบกับอัตราการเติบโตของ
ประชากร ลักษณะของภาคอุตสาหกรรม ปัจจัยทางด้านวัฒนธรรมและสังคม ตลอดจนขาดการกระจาย
รายไดท้ ่ีเหมาะสม

การแก้ไขปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัย โดย (ศจพ.,2565) รัฐบาลเล็งเห็นถึง
ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและความยากจนของประชาชนในทุกมิติเพื่อให้ประชาชนมี
คุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในทุกช่วงวัย นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงมีคำสั่งให้
จัดตั้งศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง (ศจพ.) เพื่อเป็นกลไกเชิงนโยบายในการดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ
และการพัฒนาคนทุกช่วงวัย เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาที่เกี่ยวข้องอย่างบูรณาการเป็น
รูปธรรมและยั่งยืนได้ในทุกพ้ืนที่ทั่วประเทศ โดยใช้ระบบ TPMAP (Thai People Mop and Analytics
Platform) ซึ่งเป็นระบบ Big Data ของภาครัฐที่สามารถระบุได้ว่ากลุ่มเป้าหมายนั้นอยู่ที่ไหน มีปัญหาในมิติ

สำนกั งำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 53

อะไรบ้าง เช่น การศึกษา สุขภาพ ความเป็นอยู่ การเข้าถึงบริการรัฐ และการเงิน ซึ่งข้อมูลที่ได้จะเป็น
ประโยชน์กับผู้กำหนดนโยบายและหน่วยงานแก้ไขปัญหาในพ้ืนท่ีให้สามารถออกนโยบายแก้ปัญหาได้ตรงจุด โดย
ออกมาตรการสวัสดิการแห่งรัฐ ถือเป็นแนวทางในการแก้ไข ปัญหาความยากจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ช่วยเหลือประชาชนในการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน โดยรัฐบาลจะให้เงินใส่ไปในบัตรสวัสดิการให้ผู้มีรายได้
น้อยท่ีมาลงทะเบยี น
ตารางที่ 4.4.1 รายชื่อจงั หวัดที่ติดอนั ดับ 10 จงั หวัดท่ีมสี ัดสว่ นคนจนสูงท่ีสดุ ในช่วงปี 2557-2563

ปี ลำดบั 1 ลำดับ2 ลำดับ3 ลำดบั 4 ลำดับ5 ลำดบั 6 ลำดบั 7 ลำดับ8 ลำดบั 9 ลำดับ
10

2563 ปตั ตานี แม่ฮ่องสอน นราธวิ าส กาฬสินธ์ ระนอง นครราชสีมา นครพนม ตาก ยะลา ศรสี ะเกษ
(43.96) (29.31) (24.65) (23.79) (21.32) (21.20) (20.33) (17.97) (17.49) (16.42)

2562 ปัตตานี นราธวิ าส แมฮ่ ่องสอน ตาก กาฬสินธ์ สระแก้ว พทั ลุง ชัยนาท อา่ งทอง ระนอง
(29.72) (25.53) (25.26) (21.13) (20.21) (18.74) (18.67) (17.89) (17.32) (16.43)

2561 แมฮ่ อ่ งสอน ปตั ตานี กาฬสินธุ์ นราธวิ าส ตาก ชยั นาท สระแกว้ พทั ลงุ อำนาจเจริญ อ่างทอง
(49.13) (39.27) (31.26) (30.10) (28.97) (27.72) (26.68) (24.93) (23.55) (23.40)

2560 ปตั ตานี นราธิวาส แมฮ่ อ่ งสอน กาฬสินธุ์ นครพนม ตาก ชยั นาท บรุ รี มั ย์ สระแกว้ พัทลงุ
(34.20) (34.17) (33.33) (32.96) (27.78) (27.18) (26.21) (20.99) (19.03) (18.67)

2559 แมฮ่ อ่ งสอน นราธิวาส ปตั ตานี กาฬสนิ ธุ์ นครพนม ชยั นาท ตาก บุรีรมั ย์ อำนาจเจริญ น่าน
(39.21) (37.30) (35.98) (31.99) (30.24) (28.34) (28.34) (24.32) (24.00) (22.73)

2558 ปตั ตานี แม่ฮ่องสอน ตาก บรุ ีรมั ย์ ยะลา นา่ น ชัยนาท นราธวิ าส กาฬสนิ ธ์ุ กาญจนบรุ ี
(34.91) (32.19) (24.48) (23.34) (21.04) (21.01) (16.94) (19.50) (17.78) (17.63)

2557 แม่ฮ่องสอน นราธิวาส กาฬสนิ ธ์ุ ปตั ตานี บุรีรัมย์ ตาก ยะลา นา่ น เชียงราย นครพนม
(46.08) (45.13) (42.67) (39.15) (39.13) (36.53) (32.83) (28.80) (26.83) (24.89)

ทีม่ า : สำนกั งานสภาพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ข้อมูล ณ ก.ย. 2564

จากตารางที่ 4.4.1 รายชื่อจังหวัดที่ติดอันดับ 10 จังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนสูงที่สุดในช่วงปี 2557-

2563 จังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนติดอันดับ 1 ใน 10 ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา (ปี 2557 ถึง 2563) ได้แก่

จังหวดั ปตั ตานี นราธิวาส และยะลา โดยพบว่าสดั สว่ นคนจนในปี 2563 จงั หวดั ปัตตานี อนั ดบั 1 ของประเทศ

ร้อยละ 43.96 รองลงมาจังหวัดนราธิวาส อันดับ 3 ของประเทศ ร้อยละ 24.65 และจังหวัดยะลา อันดับ 9

ของประเทศ รอ้ ยละ 17.49 ปี 2562 จังหวัดปัตตานี อันดบั 1 ของประเทศ รอ้ ยละ 29.72 จังหวัดนราธิวาส

อันดับ 2 ของประเทศ ร้อยละ 25.53 และจังหวัดพัทลุงอันดับ 7 ร้อยละ 18.67 ปี 2561 จังหวัดปัตตานี

อันดับ 2 ของประเทศ ร้อยละ 39.27 จังหวัดนราธิวาส อันดับ 4 ของประเทศ ร้อยละ 30.10 และจังหวัด

พทั ลงุ อันดับ 8 ร้อยละ 24.93 เป็นตน้

กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่างได้ขับเคลื่อนศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัย

อย่างยั่งยืนตาม หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (ศจพ.) จังหวัด โดยการกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

รับผิดชอบเป็น เจ้าภาพทั้ง 5 มิติ คือ มิติที่ 1 ด้านสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุข มิติที่ 2 ด้านความเป็นอยู่

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มิติที่ 3 ด้านรายได้ สำนักงานพัฒนาชุมชน มิติที่ 4

ด้านการศึกษา สำนักงานศึกษาธิการ และมิติที่ 5 การเข้าถึงบริการภาครัฐ สำนักงานพัฒนาสังคมและความ

มั่นคงของมนุษย์ ซึ่งในส่วนของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่รับผิดชอบ 2 มิติ

ได้ดำเนินการ รายมิติ คือ มิติ ที่ 2 ด้านความเป็นอยู่ มีการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยบ้านเรือนผู้ด้อยโอกาส

และมติ ิที่ 5 การเขา้ ถึงบริการภาครฐั ของผู้สงู อายแุ ละคนพิการ

สำนกั งำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 54

สว่ นท่ี 5

การวิเคราะห์สถานการณท์ างสังคมในพนื้ ที่กลมุ่ จังหวัด ของสสว.11

5.1 สถานการณ์กลมุ่ เด็ก (อายุ 0 – 17 ปี) ประชากรเด็ก จำนวน 1,202,886 คน

ตารางที่ 5.1 แสดงผลการจัดลำดบั ของสถานการณ์ทางสังคมกล่มุ จงั หวดั กลมุ่ เด็ก

อนั ดับ ประเดน็ สถานการณก์ ลุ่มเป้าหมาย จำนวน (หนว่ ย:คน)
1 เด็กนอกระบบ 73,657
2 เด็กที่อยูใ่ นครอบครวั เล้ียงเด่ยี ว 5,666 ร้อยละ

3 เด็กทตี่ ้งั ครรภก์ ่อนวัยอนั ควร 1,541 6.12

0.47
0.53

(เพศหญงิ อายุ 10-17 ปี
จำนวน 288,949 คน )

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่า การจดั ลำดบั ของสถานการณ์กลุ่มเด็ก จำนวน 1,202,886 คน อนั ดับหนึ่ง ได้แก่
ประเด็นเด็กนอกระบบ คิดเป็นรอ้ ยละ 6.12 ของประชากรเด็กท้งั หมดในกล่มุ จังหวดั รองลงมาประเด็นเด็กที่
อยู่ในครอบครัวเลี้ยงเด่ียว คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.47 และประเด็นเด็กท่ีต้ังครรภ์ก่อนวัยอันควร คิดเป็นร้อยละ 0.53
(คดิ จากเพศหญิง อายุ 10-17 ปี จำนวน 288,949 คน) ตามลำดบั

5.2 สถานการณ์กล่มุ เยาวชน (อายุ 18-25 ปี) ประชากรเยาชน จำนวน 587,737 คน

ตารางที่ 5.2 แสดงผลการจัดลำดับของสถานการณท์ างสังคมกลุ่มจังหวดั กลุ่มเยาวชน

อันดับ ประเดน็ สถานการณ์กลมุ่ เป้าหมาย จำนวน (หนว่ ย:คน)
1 เยาวชนท่ีมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม 962
ร้อยละ

0.16

2 เยาวชนทีถ่ กู ทารณุ กรรมทางร่างกายจติ ใจและทางเพศ 126 0.03

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่า การจัดลำดับของสถานการณ์กลุ่มเยาวชน จำนวน 587,737 คน
อันดับหน่ึง ได้แก่ ประเด็นเยาวชนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม คิดเป็นร้อยละ 0.16 ของประชากรเยาวชน
ทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด และประเด็นเยาวชนที่ถูกทารุณกรรมทางร่างกายจิตใจและทางเพศ คิดเป็นร้อยละ
0.03 ตามลำดับ

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 55

5.3 สถานการณ์กลุ่มสตรี (อายุ 26-59 ปี) ประชากรสตรี จำนวน 1,550,077 คน
ตารางที่ 5.3 แสดงผลการจัดลำดบั ของสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจงั หวัด กลุ่มสตรี

อันดับ ประเด็นสถานการณก์ ลุ่มเป้าหมาย จำนวน (หนว่ ย:คน)
1 สตรที ่ีถูกเลกิ จ้าง/ตกงาน 13,225
2 แม่เลย้ี งเดยี่ วฐานะยากจน 7,181 ร้อยละ
3 สตรีที่ถกู ทาํ รา้ ยร่างกายจิตใจ 161 0.85
0.46
0.01

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่า การจดั ลำดบั ของสถานการณ์กลุ่มสตรี จำนวน 1,550,077 คน อันดับหนึ่ง
ได้แก่ ประเด็นสตรีที่ถูกเลิกจ้าง/ตกงาน คิดเป็นร้อยละ 0.85 ของประชากรสตรีทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด
รองลงมาประเด็นแม่เลี้ยงเด่ียวฐานะยากจน คิดเป็นร้อยละ 0.46 และประเด็นสตรีที่ถูกทําร้ายร่างกายจิตใจ
คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.01 ตามลำดบั

5.4 สถานการณ์กลมุ่ ครอบครัว จำนวนครอบครัว 1,748,531 ครอบครัว (หนว่ ย:ครอบครัว)
ตารางท่ี 5.4 แสดงผลการจัดลำดับของสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มครอบครวั
จำนวน รอ้ ยละ
อันดับ ประเด็นสถานการณก์ ลุ่มเปา้ หมาย 81,939 4.81
1 ครอบครัวยากจน 5,353 0.31
2 ครอบครัวหยา่ รา้ ง
3 ครอบครวั ท่มี ีคนในครอบครัวกระทําความรุนแรงต่อกัน 98 0.01

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่า การจัดลำดับของสถานการณ์กลุ่มครอบครัว จำนวน 1,703,076
ครอบครัว อันดับหนึ่ง ได้แก่ ประเด็นครอบครัวยากจน คิดเป็นร้อยละ 4.81 ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมดใน
กลุ่มจังหวัด รองลงมาประเด็นครอบครัวหย่าร้าง คิดเป็นร้อยละ 0.31 และประเด็นครอบครัวที่มีคนใน
ครอบครัวกระทําความรนุ แรงต่อกนั คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.01 ตามลำดับ

5.5 สถานการณ์กล่มุ ผู้สูงอายุ ประชากรผ้สู ูงอายุ จำนวน 807,487 คน

ตารางท่ี 5.5 แสดงผลการจดั ลำดับของสถานการณท์ างสังคมกลุ่มจังหวัดกลมุ่ ผสู้ งู อายุ

(หนว่ ย:คน)

อนั ดับ ประเดน็ สถานการณ์กลุ่มเป้าหมาย จำนวน รอ้ ยละ

1 ผสู้ ูงอายตุ ิดบา้ น 14,078 1.74

2 ผู้สูงอายตุ ดิ เตียง 8,672 1.07

3 ผูส้ ูงอายุมีที่อยอู่ าศัยไมเ่ หมาะสม 3,843 0.48

สำนกั งำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 56

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่า การจัดลำดับของสถานการณ์กลุ่มผู้สูงอายุ จำนวน 807,487 คน
อนั ดับหน่งึ ได้แก่ ประเด็นผ้สู งู อายุติดบ้าน คิดเปน็ ร้อยละ 1.74 ของประชากรผู้สงู อายุทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด
รองลงมาประเด็น ผู้สูงอายุติดเตียง คิดเป็นร้อยละ 1.07 และประเด็น ผู้สูงอายุมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม คิด
เป็นรอ้ ยละ 0.48 ตามลำดับ

5.6 สถานการณ์กลมุ่ คนพิการ ประชากรกลมุ่ คนพกิ าร จำนวน 143,878 คน

ตารางที่ 5.6 แสดงผลการจดั ลำดับของสถานการณ์ทางสงั คมกลุ่มจงั หวัด กลุ่มคนพกิ าร

(หนว่ ย:คน)

อนั ดับ ประเดน็ สถานการณ์กล่มุ เปา้ หมาย จำนวน รอ้ ยละ

1 พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางรา่ งกาย 76,522 53.19

2 พกิ ารทางการได้ยนิ หรือสือ่ ความหมาย 27,905 19.39

3 พกิ ารทางจติ ใจหรือพฤตกิ รรม 13,054 9.07

พิจารณาโดยภาพรวม พบว่า การจัดลำดับของสถานการณ์กลุ่มคนพิการ จำนวน 143,878 คน
อันดับหนึ่ง ได้แก่ ประเด็นพิการทางการเคลื่อนไหวหรอื ทางร่างกาย คิดเป็นรอ้ ยละ 53.19 ของประชากรคน
พิการทั้งหมดในกลุ่มจังหวัด รองลงมาประเด็นพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย คิดเป็นร้อยละ 19.39
และประเด็นพิการทางจิตใจหรอื พฤติกรรม คดิ เปน็ ร้อยละ 9.07 ตามลำดับ

5.7 สถานการณ์กลุ่มผ้ดู ้อยโอกาส ประชากรผดู้ ้อยโอกาส จำนวน 155,483 คน
ตารางท่ี 5.7 แสดงผลการจดั ลำดับของสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัด กลุม่ ผ้ดู อ้ ยโอกาส

อันดบั ประเดน็ สถานการณก์ ลมุ่ เป้าหมาย จำนวน (หนว่ ย:คน)

ร้อยละ

1 คนยากจน 136,482 87.78
2 ผ้ตู ิดเชอ้ื HIV 7,788 8.05
3 ผูพ้ น้ โทษ 3,558 4.04

พิจารณาโดยภาพรวม พบวา่ การจดั ลำดับสถานการณก์ ลุ่มผู้ดอ้ ยโอกาส จำนวน 155,483 คน สถาน
อันดับหนึ่ง ไดแ้ ก่ ประเด็นคนยากจน คิดเป็นร้อยละ 87.78 ของประชากรผู้ด้อยโอกาสท้ังหมดในกลุ่มจังหวัด
รองลงมาประเด็นผ้ตู ิดเชอ้ื HIV คดิ เป็นรอ้ ยละ 8.05 และประเด็นผูพ้ น้ โทษ คดิ เป็นร้อยละ 4.04 ตามลำดับ

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 57

5.8 สถานการณ์กลุ่มเปราะบางรายครัวเรอื น

กลุ่มคนเปราะบาง หมายถึง บุคคลที่ต้องการได้รับการพึ่งพิงจากผูอ้ ื่น ไม่สามารถแสดงความคิดเห็น
ได้ อย่างอิสระหรือตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง โดยสามารถแบ่งกลุ่มคนเปราะบางได้ คือ 1.กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
กว่า บุคคลทั่วไป อาทิ หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ 2.กลุ่มทุพพลภาพ อาทิ ผู้พิการ ผู้ป่วยจิตเวช ผู้ป่วยเด็ก ผู้ป่วย
สมองเสื่อม 3.กลมุ่ ทไ่ี ม่มีอิสระพอในการตัดสินใจ อาทิ นกั โทษ ทหารเกณฑ์ ครัวเรอื นเปราะบาง ครัวเรือนท่ีมี
รายได้น้อยและมีบุคคลที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ เช่น ครอบครัวยากจนที่มีเด็กเล็ก
แมเ่ ล้ียงเดยี่ ว ผสู้ งู อายุ คนพกิ าร สามารถแบ่งระดบั ความเปราะบาง 4 ระดับ คือ

ครวั เรือนระดบั ๐ หมายถงึ ครัวเรือนที่ไม่ตกมติ เิ รอื่ งรายไดแ้ ละมีบคุ คลท่มี ีภาวะพึ่งพิง
ครัวเรือนระดบั 1 หมายถึง ครัวเรือนที่มีรายได้นอ้ ย ครัวเรอื นท่มี ีรายได้น้อยและมีปญั หาท่อี ยู่อาศัย
ครวั เรอื นระดบั 2 หมายถึง ครวั เรอื นท่ีมรี ายได้น้อยและมีบคุ คลทอี่ ยูใ่ นภาวะพ่งึ พิง 1 – 2 คน
ครวั เรือนระดับ 3 หมายถงึ ครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและมบี คุ คลท่อี ยู่ในภาวะพง่ึ พงิ มากกว่า 2 คน
ข้อมูลครัวเรือนเปราะบาง จำนวน 391,873 ครัวเรือน เปราะบางระดับ 0 จำนวน 352,958
ครัวเรือน เปราะบางระดับ 1 จำนวน 8,075 ครัวเรือน เปราะบางระดับ 2 จำนวน 25,760 ครัวเรือน และ
เปราะบางระดับ 3 จำนวน 9,043 ครัวเรือน เมื่อดำเนินการจัดเก็บสมุดพกเรียบร้อยแล้ว จัดทำแผนพัฒนา
คุณภาพชีวิตรายครัวเรือน และวางแผนการให้ความช่วยหลือ เพื่อการบูรณาการและให้ความช่วยเหลือ
ครัวเรือนในมิติที่ประสบปัญหา ซึ่งในปี 2565 กำหนดให้ขับเคลื่อนร้อยละ 15 ของครัวเรือนเปราะบางทั้ง
จังหวัด กลา่ วคือ จำนวน 58,974 ครวั เรอื น ตอ้ งได้รบั การช่วยเหลอื รอ้ ยละ 100

5.9 สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของ COVID-19

สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ระลอกที่ 1
จนถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ยอดผู้ติดเชื้อสะสม มีทั้งสิ้น 263,777 คน คิดเป็นร้อยละ 5.93 เมื่อเทียบ
กับจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมของประเทศ กำลังรักษา จำนวน 12,151 คน รักษาหาย จำนวน 232,995 คน
และเสียชีวิต 1,609 คน ข้อมูลการได้รับวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ประชาชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้
ตอนล่าง เข็มที่ 1 จำนวน 3,597,373คน เข็มที่ 2 จำนวน 3,143,803 คน กระตุ้นเข็มที่ 3 จำนวน 889,240 คน
และกระตุ้นเข็มที่ 4 จำนวน 83,083 คน ได้มีการจัดทำข้อมูลการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จากกระทรวง พม. ครอบครัวผู้เสียชีวิตจาก COVID-19
จำนวน 1,148 ครอบครัว และกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบและได้รับการช่วยเหลอื จำนวน 25,931 คน
ครอบครวั ผ้ทู ไ่ี ดร้ บั ผลกระทบท่ไี ด้รบั การชว่ ยเหลือ จำนวน 19,824 ครอบครวั

5.10 สถานการณ์ความไม่สงบในพืน้ ท่จี ังหวดั ชายแดนภาคใต้
สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบันมี

ความยืดเยื้อมายาวนานถึง 17 ปี ซึ่งเหตุการณ์ได้ทวีความรุนแรงขยายเป็นวงกว้าง ก่อให้เกิดความสูญเสีย
ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11
จึงได้มีการติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นท่ี
จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้การดำเนินงานโครงการรวมพลังชายแดนใต้ ร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน
ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 และสำนักงานพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสงขลา รวมถึงการดำเนินงานร่วมกับภาคี

สำนกั งำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 58

เครือข่ายที่เกี่ยวข้อง และมีการจัดทำระบบรายงานผลการดำเนินงานผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์
ความไมส่ งบในพื้นท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในปี 2564 สามารถสรุปสถานการณ์ได้ดังน้ี

จากข้อมูลศูนย์ประสานงานวิชาการให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบจังหวัด
ชายแดนใต้ (ศวชต.) ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2547 ถึงปัจจุบัน (กันยายน 2564) มีการก่อเหตุความไม่สงบใน
พื้นที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสงขลาจำนวน 13,243 ครั้ง เป็นเหตุการณ์จากสถานการณ์
จำนวน 7,716 ครั้ง จากสถานการณ์อื่น ๆ จำนวน 5,527 ครั้ง ส่งผลให้มีเสียชีวิต จำนวน 5,216 ราย
ผู้พกิ าร จำนวน 807 ราย และผู้ได้รับบาดเจบ็ จำนวน 14,703 ราย รวมจำนวนทงั้ ส้นิ 20,726 ราย

5.11 สถานการณค์ วามยากจนของพ้นื ที่กลุ่มจงั หวัดภาคใต้ตอนล่าง
ในพื้นที่กลุม่ จงั หวัดภาคใต้ตอนล่าง จงั หวัดท่มี ีสัดสว่ นคนจนสูงท่ีสุดในชว่ งปี 2557-2563 จังหวัดท่ีมี

สัดส่วนคนจนติดอันดับ 1 ใน 10 ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา (ปี 2557 ถึง 2563) ได้แก่จังหวัดปัตตานี
นราธิวาส และยะลา โดยพบวา่ สัดส่วนคนจนในปี 2563 จงั หวัดปตั ตานี อันดบั 1 ของประเทศ ร้อยละ 43.96
รองลงมาจังหวัดนราธิวาส อันดับ 3 ของประเทศ ร้อยละ 24.65 และจังหวัดยะลา อันดับ 9 ของประเทศ
ร้อยละ 17.49 ปี 2562 จังหวัดปัตตานี อันดับ 1 ของประเทศ ร้อยละ 29.72 จังหวัดนราธิวาสอันดับ 2
ของประเทศ ร้อยละ 25.53 และจังหวัดพัทลุงอันดับ 7 ร้อยละ 18.67 ปี 2561 จังหวัดปัตตานี อันดับ 2
ของประเทศ ร้อยละ 39.27 จังหวัดนราธิวาส อันดับ 4 ของประเทศ ร้อยละ 30.10 และจังหวัดพัทลุง
อนั ดบั 8 รอ้ ยละ 24.93 เป็นต้น

แนวทางการแก้ไขปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางสังคม เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติที่
รัฐบาลให้ความสำคัญ และได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมาตรการสวัสดิการแห่งรัฐถือเป็นแนวทาง
ในการแก้ไข ปัญหาความยากจน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยเหลือประชาชนในการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
โดยรฐั บาลจะใหเ้ งนิ ใสไ่ ปในบัตรสวัสดกิ ารใหผ้ มู้ ีรายไดน้ อ้ ยทม่ี าลงทะเบยี น

5.12 สถานการณ์ทางสงั คมทน่ี า่ หว่ งใยและประเด็นปัญหาทีส่ ำคญั กลมุ่ จังหวดั ภาคใตต้ อนลา่ ง
โดยการวิเคราะห์และจัดลำดับความรุนแรงของสถานการณ์ทางสังคมของแต่ละจังหวัด โดยอาศัย

แหล่งที่มาของข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ โครงสร้างประชากร ด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจ
ด้านแรงงาน ด้านสุขภาพ เป็นต้น จากข้อมูลประเด็นสำคัญด้านต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ส่วนราชราชการ
ในพื้นที่และรวมถึงองค์กรภาคีเครือข่าย สามารถนำมาเป็นข้อมูลพื้นฐานและหรือใช้ประโยชน์ในการดำเนิน
กิจกรรมโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมในมิติต่าง ๆ ได้ ทั้งนี้ สถานการณ์ทางสังคมที่น่าห่วงใยของแต่ละ
จังหวดั ซง่ึ มปี ระเด็นปัญหาทีต่ อ้ งไดร้ ับการแก้ไข 3 ลำดับ ดังน้ี

5.12.1 จังหวัดตรัง (รายงานสถานการณ์ทางสังคมจังหวัดตรัง ปี 2565
https://shorturl.asia/CFI6J)

1) ประเด็นครอบครัว ปัญหาครอบครัวทมี่ ีฐานะยากจน จากการจดั อนั ดบั ความรุนแรงของ
สถานการณ์กลุม่ ครอบครัวของจังหวัดตรัง มีจำนวนครอบครวั ยากจน 8,726 ครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 3.67
ของจำนวนกลุ่มเป้าหมายครอบครัวของจังหวดั ตรงั ท้ังหมด

2) ประเด็นเด็กและเยาวชน ปัญหาเด็กนอกระบบ จากการจัดอันดับความรุนแรงของ
สถานการณ์กลุ่มเด็กและเยาวชนของจังหวัดตรัง มีจำนวน 1,558 คน คิดเป็นร้อยละ 0.75 ของจำนวน
กลมุ่ เปา้ หมายเด็กและเยาวชนของจงั หวดั ตรงั ทัง้ หมด

สำนกั งำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 59

3) ประเดน็ ผ้ดู อ้ ยโอกาส ปญั หาคนยากจน จากการจัดอันดับความรุนแรงของสถานการณ์
กลุ่มผู้ด้อยโอกาสของจังหวัดตรัง มีจำนวน 13,448 คน คิดเป็นร้อยละ 64.21 ของจำนวนกลุ่มเป้าหมาย
ผูด้ ้อยโอกาสจังหวัดตรงั ทั้งหมด

5.12.2 จังหวัดนราธิวาส (รายงานสถานการณ์ทางสังคมจังหวัดนราธิวาส ปี 2565
https://shorturl.asia/CFI6J)

1) ประเด็นส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มครัวเรือนเปราะบาง หน่วยงานภาครัฐ
ควรมีนโยบายที่ชัดเจนสำหรับดูแลกลุ่มเปราะบาง เพื่อกำหนดรูปแบบแผนงาน โครงการให้เหมาะกับบริบท
ที่แตกต่างกันของแต่ละพื้นท่ี ไปสู่การยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มเปราะบางอย่างเป็นระบบ
ทัว่ ถึงเปน็ ธรรม มปี ระสิทธภิ าพ และยั่งยนื

2) ประเด็นการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมสมรรถนะในการประกอบอาชีพของผู้พิการ
และผู้สูงอายุ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการจา้ งงานทั้งผู้พิการและผูส้ ูงอายุ
ในการท่จี ะต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ด้านการช่วยเหลือให้คำปรึกษาแนะนำ เรือ่ งการเขา้ ถึงสิทธิสวัสดิการ
ด้านคนพิการ ผู้สูงอายุ (การขอมีบัตรประจำตัวคนพิการและผู้สูงอายุ) แนะนำช่องทางหาทุนประกอบอาชีพ
และแหล่งกยู้ ืมเงนิ ประกอบอาชพี อาชีพคนพกิ ารเพ่ือให้มีงานทำท่ีบา้ น

3) ประเดน็ ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพครอบครัวและครอบครัวแมเ่ ลี้ยงเด่ียว หน่วยงาน
ภาครัฐควรแนะแนวอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมที่สามารถทำได้จริง แหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำรวมถึงการ
รวมกลุ่มเพื่อการประกอบอาชีพสร้างรายได้ รวมถึงการช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ครอบครัว เพื่อบรรเทา
ปญั หาในเบ้อื งตน้ ใหก้ บั ครัวเรือนเปราะบางทีป่ ระสบปัญหารายไดไ้ ม่เพียงพอกบั รายจา่ ยในครอบครวั

5.12.3 จังหวัดปัตตานี (รายงานสถานการณ์ทางสังคมจังหวั ดปัตตานี ปี 2565
https://shorturl.asia/CFI6J)

1) ประเด็นความยากจน จากการจัดลำดับจังหวัดที่มีสัดส่วนคนจน จากสำนักงาน
สภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ จงั หวดั ปตั ตานีมสี ดั สว่ นคนจน ตดิ อนั ดับ 1 ใน 10 ตลอดระยะเวลา
10 ปี

2) ประเดน็ เดก็ และเยาวชนในครอบครัวยากจน จากการจดั ลำดบั จังหวัดที่มีสัดส่วนคนจน
ของจังหวดั ปัตตานี ซึ่งส่งผลกระทบไปยังเด็กและเยาวชนทีอ่ ยใู่ นครอบครัวท่มี ฐี านะยากจน

3) ประเด็นการมีงานทำ ในพื้นที่จังหวัดปัตตานีประชากรวัยทำงานส่วนใหญ่มีความ
ต้องการที่จะหางานทำในภูมิลำเนาของตัวเอง เพียงเพราะว่าอยากทำงานใกล้บ้าน และไม่อยากทำงาน
ต่างจงั หวดั ถึงแมว้ ่าค่าตอบแทนท่ีได้จะต่ำกว่าวฒุ กิ ารศึกษา จึงสง่ ผลใหม้ รี ายได้ไม่พอกับการครองชีพในปัจบุ นั

5.12.4 จังหวัดพัทลุง (รายงานสถานการณ์ทางสังคมจังหวัดพัทลุง ปี 2565
https://shorturl.asia/CFI6J)

1) ประเด็นผู้สูงอายุ ปัญหาผู้สูงอายุ ติดบ้าน ติดเตียง จากการจัดอันดับความรุนแรง
ของสถานการณ์กลุ่มผู้สูงอายุของจังหวัดสงขลา มีจำนวน 7,321 คน คิดเป็นร้อยละ 4.58 ของจำนวน
กลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุของจังหวัดพัทลุงทั้งหมด และมีแนวโน้มว่าจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในปี 2566 ทาง
จังหวดั พัทลุงจึงจำเป็นต้องมกี ารเตรียมความพร้อมเพื่อรองรบั การเขา้ สู่สงั คมผสู้ งู อายุ

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 60

2) ประเด็นปัญหาที่อยู่อาศัยไม่มั่นคง จากข้อมูลครัวเรือนเปราะบาง พบว่าจังหวัดพัทลุง
มีครัวเรือนที่อยู่อาศัยไม่มั่นคงมากที่สุดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง จำนวน 5,400 ครัวเรือน
คิดเปน็ ร้อยละ 9.57 เมื่อเทยี บกบั จำนวนครวั เรือนเปราะบางจงั หวัดพัทลงุ

3) ประเด็นเด็กและเยาวยชน ปญั หาเด็กนอกระบบและด้อยโอกาส จากการจดั อันดบั ความ
รุนแรงของสถานการณ์กลุ่มเด็กและเยาวชนจังหวัดพัทลุง มีจำนวน 5,752 คน คิดเป็นร้อยละ 20.19
ของจำนวนกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนของจังหวัดตรังทั้งหมด ซึ่งทางจังหวัดพัทลุงได้เล็งเห็นถึง
ความสำคญั ทจ่ี ะพฒั นากล่มุ เด็กและเยาวชนจึงจดั ทำโครงการกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตด้านอาชีพแก่เด็กและ
เยาวชนดอ้ ยโอกาส

5.12.5 จังหวัดยะลา (รายงานสถานการณ์ทางสังคมจังหวัดยะลา ปี 2565
https://shorturl.asia/CFI6J)

1) ประเด็นเด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ จากข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
ยะลา พบว่า ทารกแรกเกิดมีน้ำหนักต่ำกว่า 2,500 กรัม มีเกณฑ์เป้าหมายอยู่ที่ไม่เกิน ร้อยละ 7 ในปี 2563
จงั หวัดยะลามีสถติ ิอยทู่ รี่ อ้ ยละ 10.17 ซ่ึงถือว่าไมผ่ า่ นเกณฑ์

2) ประเด็นสตรีตั้งครรภ์มีภาวะโลหิตจาง จากข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา
พบวา่ ภาวะโลหิตจางในหญงิ ตัง้ ครรภม์ ีเกณฑเ์ ป้าหมายอยู่ท่ไี ม่เกนิ รอ้ ยละ 10 จังหวัดยะลามีสถติ ิอยูท่ ่ี 20.37
ไม่ผา่ นเกณฑ์

3) ประเด็นเด็กไม่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ จากข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา
พบวา่ การฉีดวคั ซีนป้องกนั โรคในเดก็ ในพ้นื ที่จงั หวดั ชายแดนภาคใต้มีอัตราต่ำกว่าเกณฑ์

5.12.6 จังหวัดสงขลา (รายงานสถานการณ์ทางสังคมจังหวัดสงขลา ปี 2565
https://shorturl.asia/CFI6J)

1) ประเด็นผู้สูงอายุ ปัญหาผู้สูงอายุ ติดบ้าน ติดเตียง จากการจัดอันดับความรุนแรงของ
สถานการณ์กลุ่มผู้สูงอายุของจังหวัดสงขลา มีจำนวน 6,461 คน คิดเป็นร้อยละ 2.72 ของจำนวน
กลมุ่ เปา้ หมายผสู้ ูงอายุของจงั หวัดสงขลาทั้งหมด

2) ประเด็นเด็กและเยาวชน ปัญหาเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม จากการจัด
อันดับความรุนแรงของสถานการณ์กลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนของจังหวัดสงขลา มีจำนวน 364 คน คิด
เป็นรอ้ ยละ 0.23 ของจำนวนกลมุ่ เปา้ หมายเด็กและเยาวชนของจังหวดั สงขลาทง้ั หมด

3) ประเด็นครอบครัว ปัญหาครอบครัวยากจน จากการจัดอันดับความรุนแรงของ
สถานการณ์กลุ่มเป้าหมายครอบครัวของจังหวัดสงขลา มีจำนวน 17,477 ครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 43.50
ของจำนวนกลุม่ เปา้ หมายครอบครัวของจงั หวดั สงขลาท้งั หมด

5.12.7 จังหวัดสตูล (รายงานสถานการณ์ทางสังคมจังหวัดสตูล ปี 2565
https://shorturl.asia/CFI6J)

1) ประเด็นความรุนแรงในครอบครัว จากข้อมลู รายงานความรุนแรงในครอบครัวของศูนย์
ปฏิบัติการกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวเปิดเผยสถิติความรุนแรง ที่เกิดขึ้นในครอบครัวรอบ 6 ปี
(ตั้งแต่ปี 2559-2564) มีแนวโน้มสูงขึ้น รวม 9,396 ราย เฉลี่ยปีละ 1,564 ราย เดือนละ 130 ราย และเฉลี่ย
ความรนุ แรงในครอบครวั วันละ 4 ราย ซ่งึ สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการใช้สารเสพติดที่เพ่ิมมากขึ้น ความเครียด
ทางเศรษฐกจิ ที่ส่งผลตอ่ รายได้ในครอบครวั

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 61

2) ประเด็นเด็กและเยาวชน ปัญหาเด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม จากการจัด
อันดับความรุนแรงของสถานการณ์กลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนของจงั หวดั สตลู มีจำนวน 308 คน คิดเปน็
ร้อยละ 0.82 ของจำนวนกลมุ่ เปา้ หมายเด็กและเยาวชนของจังหวัดสตลู ทง้ั หมด

3) ประเด็นผู้สูงอายุ ปัญหาผู้สูงอายุ ติดบ้าน ติดเตียง จากการจัดอันดับความรุนแรงของ
สถานการณก์ ลุ่มผสู้ ูงอายุของจงั หวัดสตลู มีจำนวน 2,609 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.83 ของจำนวนกลุ่มเป้าหมาย
ผสู้ งู อายุของจงั หวดั สตลู ทั้งหมด

สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 62

สว่ นท่ี 6

บทสรปุ และขอ้ เสนอแนะ

6.1 บทสรุป

รายงานสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ประจำปี 2565 จัดทำขึ้นโดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อวเิ คราะห์สถานการณ์ทางสงั คม คาดการณ์แนวโน้มในอนาคต และเสนอแนะแนวทางในการ
แก้ไขปญั หาทางสงั คม เพอื่ เป็นประโยชน์ในการจัดทำแผนงานโครงการ กจิ กรรม อนั จะนำไปสู่การบูรณาการ
การทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ ทั้งภาครัฐ หน่วยงานระดับท้องถิ่น เอกชน หรือองค์กรภาค
ประชาสังคม โดยในพื้น 7 จังหวัดภาคใตต้ อนลา่ ง ซ่งึ มีลักษณะเฉพาะท่ีนา่ สนใจและมีความแตกต่างจากพื้นท่ี
อ่นื ๆ ในประเดน็ สถานการณ์ความไม่สงบทีเ่ กดิ ขึน้ ในพนื้ ท่ี 3 จังหวดั ชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัด
สงขลา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการพัฒนาพื้นที่ และนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ให้เกิดขึ้นตามมารายงาน
สถานการณท์ างสงั คมฉบับน้ีประกอบดว้ ย

ส่วนที่ 1 บทนำ ซึง่ มีหลกั การและเหตผุ ล วตั ถุประสงค์ วิธีการดำเนินงาน และผลท่คี าดว่าจะไดร้ บั
ส่วนที่ 2 ข้อมูลพื้นฐานในพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดตรัง นราธิวาส ปัตตานี
พทั ลุง ยะลา สงขลา และสตลู ซึง่ รวบรวมขอ้ มลู ทุตยิ ภูมจิ ากหน่วยงานด้านสงั คม
ส่วนที่ 3 สถานการณ์กลุ่มเป้าหมายทางสังคมกลุ่มจังหวัด ทั้ง 7 กลุ่มเป้าหมายของ
กระทรวง พม.รับผิดชอบ (กลุ่มเด็ก กลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรี กลุ่มครอบครัว กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มคนพิการ และ
กลุม่ ผดู้ อ้ ยโอกาส)
ส่วนท่ี 4 สถานการณเ์ ชงิ ประเด็นทางสงั คมในกลุ่มจงั หวัด
ส่วนท่ี 5 การวิเคราะหส์ ถานการณ์ทางสงั คมในกลุ่มจงั หวัด
สว่ นที่ 6 บทสรุปและขอ้ เสนอแนะ
สรุปสถานการณ์ทางสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง โดยการวิเคราะห์และจัดลำดับความรุนแรง
ของสถานการณ์ทางสังคมของแต่ละจังหวัดโดยอาศัยมีแหล่งที่มาของข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
โครงสร้างประชากร ด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจ ด้านแรงงาน ด้านสุขภาพ เป็นต้น จากข้อมูลประเด็น
สำคญั ด้านต่าง ๆ ดังกล่าวขา้ งต้น สว่ นราชราชการในพนื้ ทแ่ี ละรวมถงึ องค์กรภาคีเครือข่าย สามารถนำมาเป็น
ขอ้ มลู พน้ื ฐานและหรือใช้ประโยชน์ในการดำเนินกจิ กรรมโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาสงั คมในมิติตา่ ง ๆ ได้ ท้ังน้ี
สถานการณท์ างสังคมทน่ี า่ ห่วงใยของแต่ละจงั หวดั ซึง่ มปี ระเด็นปัญหาทีต่ ้องไดร้ ับการแก้ไข 3 ลำดบั ดงั น้ี

จังหวดั ตรัง
1) ประเด็นครอบครัว ปัญหาครอบครัวท่ีมฐี านะยากจน
2) ประเดน็ เด็กและเยาวชน ปญั หาเด็กนอกระบบ
3) ประเดน็ ผูด้ ้อยโอกาส ปญั หาคนยากจน

สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 63

จงั หวดั นราธิวาส
1) ประเด็นสง่ เสริมและพฒั นาคุณภาพชีวติ กล่มุ ครวั เรือนเปราะบาง
2) ประเด็นการพฒั นาศกั ยภาพและสง่ เสรมิ สมรรถนะในการประกอบอาชีพของผู้พิการและ
ผสู้ ูงอายุ
3) ประเดน็ ส่งเสรมิ และพัฒนาศกั ยภาพครอบครัวและครอบครวั แม่เลยี้ งเดีย่ ว
จังหวดั ปัตตานี
1) ประเด็นความยากจน จังหวัดปตั ตานีมีสดั สว่ นคนจน ตดิ อนั ดบั 1 ใน 10 ตลอดระยะเวลา
10 ปี จากสำนกั งานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ
2) ประเดน็ เด็กและเยาวชน ปัญหาเด็กในครอบครวั ทมี่ ฐี านะยากจน
3) ประเดน็ การมงี านทำ ในพื้นทจี่ งั หวดั ปัตตานปี ระชากรวัยทำงานสว่ นใหญม่ ีความตอ้ งการ
ท่ีจะหางานทำในภูมลิ ำเนาของตวั เอง เพียงเพราะวา่ อยากทำงานใกลบ้ ้าน และไมอ่ ยากทำงานต่างจังหวดั
ถึงแม้ว่าค่าตอบแทนท่ีได้จะต่ำกว่าวุฒิการศึกษา จึงส่งผลใหม้ ีรายได้ไม่พอกบั การครองชีพในปัจุบนั
จงั หวดั พทั ลุง
1) ประเด็นผสู้ ูงอายุ ปัญหาผูส้ ูงอายุ ตดิ บ้าน ติดเตียง
2) ประเด็นท่ีอยู่อาศยั ไม่มนั่ คง ครัวเรือนเปราะบางจังหวัดพัทลงุ มีครัวเรอื นท่ีอยอู่ าศยั ไม่
มั่นคงมากที่สดุ ในพื้นท่ี 7 จงั หวดั ภาคใต้ตอนลา่ ง จำนวน 5,400 ครัวเรอื น
3) ประเดน็ เดก็ และเยาวชน ปัญหาเด็กนอกระบบและด้อยโอกาส
จงั หวดั ยะลา
1) ประเดน็ เดก็ แรกเกิดท่มี นี ำ้ หนักตำ่ กว่าเกณฑ์ จากข้อมูลสำนกั งานสาธารณสุขจงั หวดั
ยะลา พบวา่ ทารกแรกเกดิ มีนำ้ หนกั ต่ำกวา่ 2,500 กรมั มีเกณฑ์เปา้ หมายอยทู่ ี่ไม่เกนิ ร้อยละ 7 ในปี 2563
จังหวดั ยะลามีสถติ ิอยู่ท่รี ้อยละ 10.17 ซงึ่ ถอื วา่ ไม่ผา่ นเกณฑ์
2) ประเด็นสตรีตั้งครรภ์มีภาวะโลหิตจาง จากข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา
พบว่า ภาวะโลหิตจาง ในหญิงตั้งครรภ์มีเกณฑ์เป้าหมายอยู่ที่ไม่เกิน ร้อยละ 10 จังหวัดยะลามีสถิติอยู่ที่
20.37 ไม่ผ่านเกณฑ์
3) ประเด็นเด็กไม่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ จากข้อมูลสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา
พบว่า การฉีดวัคซนี ปอ้ งกันโรคในเดก็ ในพืน้ ท่ีจงั หวดั ชายแดนภาคใต้มีอัตราต่ำกวา่ เกณฑ์
จังหวดั สงขลา
1) ประเด็นผ้สู ูงอายุ ปญั หาผู้สูงอายุ ติดบา้ น ติดเตยี ง
2) ประเดน็ เด็กและเยาวชน ปัญหาเด็กและเยาวชนทม่ี ีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
3) ประเด็นครอบครวั ปัญหาครอบครวั ยากจน
จงั หวดั สตูล
1) ประเด็นความรุนแรงในครอบครัว จากข้อมูลรายงานความรุนแรงในครอบครัวของศูนย์
ปฏิบัติการกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวเปิดเผยสถิติความรุนแรง ที่เกิดขึ้นในครอบครัวรอบ 6 ปี
(ตั้งแต่ปี 2559-2564) มีแนวโน้มสูงขึ้น รวม 9,396 ราย เฉลี่ยปีละ 1,564 ราย เดือนละ 130 ราย และเฉลี่ย

สำนกั งำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 64

ความรนุ แรงในครอบครวั วันละ 4 ราย ซึง่ สาเหตสุ ว่ นใหญ่มาจากการใช้สารเสพติดที่เพิ่มมากข้ึน ความเครียด
ทางเศรษฐกิจทีส่ ่งผลตอ่ รายได้ในครอบครวั

2) ประเด็นเด็กและเยาวชน ปญั หาเด็กและเยาวชนที่มพี ฤติกรรมไม่เหมาะสม
3) ประเดน็ ผู้สงู อายุ ปญั หาผสู้ ูงอายุ ติดบ้าน ติดเตียง

สถานการณก์ ลมุ่ เป้าหมายทางสงั คมระดับกลุ่มจังหวดั
จากข้อมูลรายงานสถานการณ์จำนวนกลุ่มเป้าหมายในเขตพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง
ในปี พ.ศ. 2565 มีดงั นี้
สถานการณ์เด็ก อายุ 0-17 ปี มีประชากรจำนวน 1,202,886 คน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 0.36
เม่ือเปรยี บเทียบทั้ง 7 จงั หวัด พบว่า จังหวดั ทม่ี กี ารลงทะเบียนเด็กที่ได้รบั เงินอุดหนุนเพื่อการเล้ียงดูเด็กแรก
เกิด 3 อันดับแรก จังหวัดสงขลา นราธิวาส ปัตตานี ประเด็นเด็กนอกระบบ 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัด
นราธิวาส ปัตตานี และยะลา ประเด็นเด็กที่อยู่ในครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดยะลา
นราธิวาส และตรัง ประเด็นเด็กที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดยะลา นราธิวาส และ
สตลู ตามลำดบั
สถานการณ์เยาวชน อายุ 18–25 ปี มีประชากรจำนวน 501,624 คน ลดลงจากปี 2564 ร้อยละ
0.26 เมื่อเปรียบเทียบทั้ง 7 จังหวัด พบว่า จังหวัดที่ควรเฝ้าระวังประเด็นเยาวชนที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดตรัง สงขลา และสตูล ประเด็นเยาวชนที่ถูกทารุณกรรมทางร่างกายจิตใจและทาง
เพศ 3 อนั ดับ ไดแ้ ก่ จังหวดั สงขลา ยะลา และสตูล ตามลำดับ
สถานการณ์สตรี อายุ 26–59 ปี มีประชากรจำนวน 1,550,077 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ
0.05 เมื่อเปรียบเทียบทั้ง 7 จังหวัด พบว่า จังหวัดที่ควรเฝ้าระวังประเด็นสตรีที่ถูกเลิกจ้าง/ตกงาน 3 อันดับแรก
ได้แก่ จังหวัดปัตตานี สงขลา และตรัง แม่เลี้ยงเดี่ยวฐานะยากจน 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดสงขลา ยะลา
และนราธิวาส ประเด็นสตรีที่ถูกทำร้ายร่างกาย/จิตใจ 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดสงขลา ปัตตานี และตรัง
ตามลำดับ
สถานการณ์ครอบครัว จำนวน 1,748,531 ครอบครัว เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ1.58 เม่ือ
เปรียบเทยี บทั้ง 7 จังหวดั พบวา่ จังหวดั ทีค่ วรเฝา้ ระวังประเด็นครอบครวั ยากจน 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัด
ยะลา ปัตตานี และสงขลา ประเด็นครอบครัวหย่าร้าง 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดสงขลา ตรัง และพัทลุง
ประเด็นครอบครัวที่มีคนในครอบครัวกระทำความรุนแรงต่อกัน 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดปัตตานี สงขลา
และตรงั ตามลำดับ
สถานการณ์ผู้สงุ อายุ อายุ 60 ปีขนึ้ ไป มปี ระชากรจำนวน 807,487 คน เพม่ิ ข้ึนจากปี 2564 ร้อยละ
0.26 เมือ่ เปรียบเทยี บท้งั 7 จังหวดั พบว่า จังหวดั ทีค่ วรเฝา้ ระวงั ประเดน็ ผ้สู ูงอายุติดบา้ น 3 อันดับแรก ได้แก่
จังหวัดสงขลา สตูล และตรัง ประเด็นผู้สูงอายุมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดพัทลุง
สตูล และปัตตานี ประเด็นผู้สูงอายุท่ีดำรงชีพด้วยการเร่ร่อนขอทาน 3 อันดับ ได้แก่ จังหวัดสงขลา ยะลา
และปตั ตานี ตามลำดบั

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 65

สถานการณ์คนพิการ มีคนพิการที่มีบัตรประจำตัว โดยจดทะเบียนคนพิการจำนวน 143,878 คน
เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 6.75 เมื่อเปรียบเทียบทั้ง 7 จังหวัด พบว่า ประเด็นประเภทความพิการด้าน
ความเคล่อื นไหวหรอื ทางรา่ งกาย มากเป็นอนั ดับหนึ่ง จำนวน 76,522 คน รองลงมา พิการด้านการไดย้ ินหรือ
การสื่อความหมาย จำนวน 27,905 คน และพิการด้านจิตใจหรือพฤติกรรม จำนวน 13,054 คน พิการ
มากกว่า 1 ประเภท จำนวน 12,309 คน ตามลำดบั

สถานการณ์ผู้ด้อยโอกาส มีจำนวน 155,438 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ร้อยละ 11.19 เม่ือ
เปรยี บเทยี บท้งั 7 จังหวัด พบวา่ จังหวัดที่ควรเฝา้ ระวังประเด็นคนยากจน 3 อนั ดบั แรก ไดแ้ ก่ จังหวดั ปัตตานี
สงขลา และยะลา ประเด็นติดเชื้อ HIV 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดตรัง พัทลุง และนราธิวาส ประเด็นผู้พ้นโทษ
3 อนั ดับแรก ได้แก่ จงั หวัดตรงั ปตั ตานี และพัทลงุ ตามลำดบั

สถานการณ์เชิงประเด็นสังคมทางสังคมในระดบั กลมุ่ จงั หวดั

สถานการณ์กลมุ่ เปราะบางรายครวั เรือน
ปีงบประมาณ 2564 - 2565 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ดำเนิน
โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน โดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกับ
12 กระทรวง 1 หน่วยงาน โดยกำหนดให้ใช้ข้อมูลจากระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า
(Thai People Map and Analytics Platform : TPMAP) ครัวเรือนเปราะบาง 4.1 ล้านครัวเรือน เป็น
ฐานข้อมูลหลักมาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้กินดีอยู่ดี จำนวนคนที่ต้องได้รับการพัฒนา
คุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น ที่เรียกว่าคนเปราะบางนั้น ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.11 มีทั้งสิ้น 877,671 คน คิด
เป็นรอ้ ยละ 17.55 เม่ือจำนวนคนเปราะบางเทียบกบั จำนวนประชากรในกลมุ่ จังหวดั ภาคใต้ตอนล่าง
กลุ่มคนเปราะบาง TPMAP คือ บุคคลที่ต้องการได้รับการพึ่งพิงจากผู้อื่น มีรายได้น้อยและ
มีบุคคลที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง ต้องการได้รับความช่วยเหลือ เช่น ครอบครัวยากจนที่มีเด็กเล็ก แม่เล้ียงเดี่ยว
ผู้สูงอายุ คนพิการ เป็นต้น กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง มีคนเปราะบางจำนวน 877,671 คน โดยแบ่งตามมิติ
ตา่ ง ๆ 5 มติ ิ ดังนี้ 1) มติ ิด้านความเป็นอยู่ จำนวน 31,223 คน 2) มิติด้านการศึกษา จำนวน 31,770 คน 3) มิติ
ด้านสุขภาพ จำนวน 18,885 คน 4) มิติด้านรายได้ จำนวน 36,698 คน 5) มิติด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ
จำนวน 135 คน

สถานการณ์ภายใต้การแพร่ระบาดของเช้อื COVID-19
สถานการณ์ภายใต้การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในเขตพื้นที่รับผิดชอบกลุ่มจังหวัดภาคใต้
ตอนล่าง ตั้งแต่ระลอกที่ 1 จนถึง วันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ยอดผู้ติดเชื้อสะสม มีทั้งสิ้น 263,777 คน
คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.93 เมือ่ เทยี บกบั จำนวนผตู้ ิดเช้ือสะสมของประเทศ จงั หวัดท่ีพบว่า มยี อดผูต้ ดิ เช้ือสูงสุด คือ
จังหวัดปัตตานี รองลงมา จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดตรงั เป็นจังหวัดทีม่ ีชายแดนติดกับประเทศเพือ่ นบา้ น
อย่างมาเลเซีย ซึ่งคนไทยในสามจังหวัดชายแดนใต้ส่วนใหญ่นิยมไปทำงานในประเทศมาเลเซีย ในช่วงการ
ระบาดอย่างหนักทำให้ทางการของประเทศมาเลเซียประกาศปิดประเทศ ทำให้มีการหลบหนีกลับเข้ามายัง
ประเทศไทยผ่านด่านช่องทางธรรมชาติขาดการตรวจและคัดกรองตามระบบของสาธารณสุขจึงส่งผลตอ่ การ

สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 66

ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ ระบาดไปตามหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว ทำให้การกระจายของเชื้อโรคควบคุมได้
ยาก ส่วนจังหวัดทม่ี ีผู้ติดเชื้อนอ้ ยท่ีสดุ คอื จังหวัดสตลู จงั หวัดพทั ลงุ และจงั หวดั สงขลา ในส่วนของการรักษา
ผู้ติดเชื้อจังหวัดในเขตพื้นท่ีจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ร้อยละ 88 ขึ้นไปของผู้ติดเชื้อที่รักษาตัวหายจากการติด
เชือ้ ดงั กล่าว

ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 มีแมวโน้มลงลดอย่างต่อเนื่องแต่ก็ต้องมีการ
เฝา้ ระวัง และปอ้ งกันโดยการปฎิบตั ิตามที่กระทรวงสาธารณสุขออกประกาศ อยา่ งเคร่งครดั และการป้องกัน
ท่มี ีประสิทธภิ าพมากทีส่ ุดในขณะน้คี ือ การไดร้ บั วัคซนี เข็มกระตุ้นป้องกนั โรคโควิด-19 ทอี่ าจจะกลายพันธ์ุได้
อีกในอนาคต ที่ผ่านมารัฐบาลได้รณรงค์ให้ประชาชนทุกช่วงวัยได้รับวัคซีน โดยทางกระทรวง พม. ได้ให้การ
ช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มเป้าหมายของกระทรวงฯ ให้ได้รับวัคซีนกันอย่างทั่วถึง ซึ่งในเขต
พื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง นั้น มีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 รวมทั้งสิ้น 3,597,373 คน คิดเป็นร้อยละ 71.94
เขม็ ท่ี 2 จำนวน 3,143,803 คน คดิ เป็นร้อยละ 62.87 เข็มท่ี 3 จำนวน 889,240 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 17.78 และ
เข็มที่ 4 จำนวน 83,083 คน คิดเป็นร้อยละ 1.66 เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในกลุ่มจังหวัด แต่อย่างไรก็
ตามทางหนว่ ยงานไดป้ ระชาสมั พันธ์ให้ฉดี วคั ซีนเข็มกระตนุ้ อย่างต่อเน่ือง

กระทรวง พม. ได้มีการจัดทำข้อมูลการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การ
แพรร่ ะบาดของโรค COVID-19 ซ่ึงเปิดใชง้ านเม่อื วันท่ี 27 กรกฎาคม 2564 โดยจงั หวดั ในเขตพื้นทีร่ บั ผดิ ชอบ
ของ สสว.11 ไดใ้ หก้ ารชว่ ยเหลือผูป้ ระสบปัญหาท่ีเปน็ ผู้ป่วย COVID-19 จำนวน 263,777 คน ครอบครัวของ
ผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 จำนวน 1,148 ครอบครัว และกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบและได้รับการ
ช่วยเหลือ จำนวน 25,931 คน ครอบครวั ผทู้ ่ีได้รับผลกระทบท่ไี ด้รับการชว่ ยเหลอื จำนวน 19,824 ครอบครวั

สถานการณ์ความไม่สงบในพน้ื ท่ีจงั หวดั ชายแดนภาคใต้
ข้อมูลสถานการณท์ ี่สำคญั อีกประการหนึ่ง ซึ่งมีความแตกตา่ งจากพื้นที่อื่น ๆ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ
ของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 คือสถานการณ์การก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดทาง
ภาคใต้ของประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสงขลา ใน 4 อำเภอ คือ อำเภอจะ
นะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ซึ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบันมีความยืดเยื้อมายาวนานกว่า 17 ปี
กอ่ ใหเ้ กดิ ความสญู เสียต่อชีวติ และทรัพยส์ นิ อย่างประเมินมิได้ ลกั ษณะระดบั ความรุนแรงจะมีระดับสูงต่ำตาม
ช่วงเวลา และเทศกาลวันสำคัญต่าง ๆ ที่เป็นไปตามความเชื่อแล้ว เส้นแนวโน้มการก่อเหตุในช่วงปี พ.ศ.
2550 จะเป็นช่วงที่มีระดับความรุนแรงและจำนวนของเหตุการณ์มากที่สุด จากนั้นก็ลดต่ำลงและสูงขึ้นอีก
เป็นชว่ งๆ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11
จึงได้มีการติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นท่ี
จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้การดำเนินงานโครงการรวมพลังชายแดนใต้ ร่วมสร้างสังคมแห่งการแบ่งปัน
ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนกั งานส่งเสริมและสนับสนนุ วชิ าการ 11 และสำนกั งานพัฒนาสงั คมและความ
มั่นคงของมนุษย์จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสงขลา รวมถึงการดำเนินงานร่วมกับ

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 67

ภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง และมีการจัดทำระบบรายงานผลการดำเนินงานผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์
ความไม่สงบในพื้นทจ่ี ังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยในปี 2564 สามารถสรุปสถานการณไ์ ด้ดงั น้ี

การชว่ ยเหลือเยยี วยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นทจี่ งั หวดั ชายแดนภาคใต้
จากข้อมูลศูนย์ประสานงานวิชาการให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบจังหวัด
ชายแดนใต้ (ศวชต.) ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2547 ถึงปัจจุบัน (กันยายน 2564) มีการก่อเหตุความไม่สงบใน
พื้นที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสงขลาจำนวน 13,243 ครั้ง เป็นเหตุการณ์จากสถานการณ์
จำนวน 7,716 ครั้ง จากสถานการณ์อื่น ๆ จำนวน 5,527 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 5,216 ราย
ผูพ้ ิการ จำนวน 807 ราย และผูไ้ ด้รบั บาดเจบ็ จำนวน 14,703 ราย รวมจำนวนทง้ั สน้ิ 20,726 ราย

การวเิ คราะหแ์ ละจดั ลำดับความรนุ แรงของสถานการณท์ างสังคมกล่มุ จังหวดั

กลุ่มเด็ก พบว่า กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง มีความรุนแรงของปัญหาเด็กนอกระบบ จำนวน 73,657 คน

คิดเปน็ ร้อยละ 6.12 ของประชากรเด็กทั้งหมดในเขตพนื้ ที่กลุ่มจังหวัด รองลงมา เด็กทอ่ี ยู่ในครอบครัวเล้ียงเดี่ยว
จำนวน 5,666 คน คิดเป็นร้อยละ 0.47 ของประชากรเด็กทั้งหมดในเขตพื้นที่กลุ่มจังหวัด และเด็กที่ตั้งครรภ์
ก่อนวัยอนั ควร จำนวน 1,541 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 0.53 ของประชากรเด็กท้ังหมดในเขตพ้ืนที่กลุ่มจังหวัด (เพศ
หญงิ อายุ 10-17 ปี จำนวน 288,949 คน)

กลุ่มเยาวชน พบวา่ กลุม่ จังหวดั ภาคใตต้ อนลา่ ง มีความรนุ แรงของปัญหาเยาวชน ประเด็นเยาวชนที่
มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม จำนวน 962 คน คิดเป็นร้อยละ 0.16 ของประชากรเยาวชนทั้งหมดในเขตพื้นที่กลุ่ม
จงั หวดั และเยาวชนทถ่ี ูกทารุณกรรมทางร่างกายจิตใจและทางเพศ จำนวน 126 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.03 ของ
ประชากรเยาวชนทั้งหมดในเขตพนื้ ทีก่ ลุ่มจังหวัด

กลุ่มสตรี พบว่า กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง มีความรุนแรงของปัญหาสตรีที่ถูกเลิกจ้าง/ตกงาน
จำนวน 13,225 คน คิดเป็นร้อยละ 0.85 ของประชากรสตรีทั้งหมดในเขตพื้นที่กลุ่มจังหวัด รองลงมา แม่เลี้ยง
เดี่ยวฐานะยากจน จำนวน 7,181 คน คิดเป็นร้อยละ 0.46 ของประชากรสตรีทั้งหมดในเขตพื้นที่กลุ่มจังหวัด
และสตรีที่ถูกทําร้ายร่างกาย จิตใจ จำนวน 161 คน คิดเป็นร้อยละ 0.01 ของประชากรสตรีทั้งหมดในเขตพื้นที่
กล่มุ จังหวดั

กลมุ่ ครอบครวั พบว่า กลมุ่ จงั หวดั ภาคใตต้ อนล่าง มีความรุนแรงของปญั หาครอบครวั ยากจน จำนวน
81,939 ครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 4.81 ของกลุ่มครอบครัวทั้งหมดในเขตพื้นที่กลุ่มจังหวัด รองลงมา ครอบครัว
หย่าร้างจำนวน 5,353 คน คิดเป็นร้อยละ 0.31 ของกลุ่มครอบครัวทั้งหมดในเขตพื้นที่กลุ่มจังหวัด และ
ครอบครัวที่มีคนในครอบครัวกระทำความรนุ แรงต่อกัน จำนวน 98 ครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 0.01 ของกลุ่ม
ครอบครัวทง้ั หมดในเขตพน้ื ที่กลุม่ จังหวัด

กลุ่มผู้สูงอายุ พบว่า กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง มีความรุนแรงของปัญหาผู้สูงอายุติดบ้าน จำนวน
14,078 คน คิดเป็นร้อยละ 1.74 รองลงมา ผู้สูงอายุติดเตียง จำนวน 8,672 คน คิดเป็นร้อยละ 1.07 ของ
ประชากรผู้สูงอายุท้ังหมดในเขตพ้ืนท่ีกลุ่มจังหวัด และผูส้ ูงอายุมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสม จำนวน 3,843 คน คิด
เป็นรอ้ ยละ 0.48 ของประชากรผูส้ ูงอายทุ ั้งหมดในเขตพืน้ ที่กลุ่มจังหวัด

สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 68

กลุ่มคนพิการ พบว่า กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง มีประเด็นความพิการทางการเคลื่อนไหวหรอื ทาง
ร่างกาย จำนวน 76,522 คน คิดเป็นร้อยละ 53.19 ของประชากรกลุ่มคนพิการทั้งหมดในเขตพื้นที่กลุ่มจังหวัด
รองลงมา ความพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย จำนวน 27,905 คน คิดเป็นร้อยละ 19.39
ของประชากรกลุ่มคนพิการทั้งหมดในเขตพื้นที่กลุ่มจังหวัด และความพิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม จำนวน
13,054 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 9.07 ของประชากรกลุ่มคนพิการทั้งหมดในเขตพ้ืนท่ีกลมุ่ จังหวัด

กลุ่มผู้ด้อยโอกาส พบว่า กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง มีความรุนแรงของปัญหาประเด็นคนยากจน
จำนวน 136,482 คน คิดเป็นร้อยละ 87.78 ของประชากรกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทั้งหมดในเขตพื้นที่กลุ่มจังหวัด
รองลงมา ผู้ติดเชื้อ HIV จำนวน 7,788 คน คิดเป็นร้อยละ 8.05 ของประชากรกลุ่มผู้ด้อยโอกาสทั้งหมดในเขต
พืน้ ทกี่ ลมุ่ จังหวัด และผูพ้ น้ โทษ จำนวน 3,558 คน คิดเปน็ ร้อยละ 4.05 ของประชากรกลุ่มผดู้ ้อยโอกาสทั้งหมด
ในเขตพืน้ ที่กลุ่มจังหวัด

6.2 ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบาย

จากข้อมูลสถานการณ์ทางสังคมในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง พบว่า ประเด็นปัญหาที่มี
ความสำคัญเร่งด่วน ต้องรีบดำเนินการแก้ไขเป็นประเด็นหลักคือปัญหาความยากจน ข้อมูลจากสำนักงาน
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ข้อมูล ณ ก.ย. 2564 พบว่า รายชื่อจังหวัดที่ติดอันดับ 10
จังหวัดที่มีสัดส่วนคนจนสูงที่สุดในช่วงปี 2557-2563 ประกอบด้วย จังหวัดปัตตานี นราธิวาส ยะลา และ
พัทลุง ซึ่งสะท้อนถึงปัญหาความยากจนในพื้นที่ๆ เป็นปัญหาเรื้อรังอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดปัตตานี นราธิวาสและยะลา ที่ยังคงเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศที่มีความยากจน
มากที่สุด ทั้งนี้ความน่าสนใจของสถิติดังกล่าว พบว่า ในปี 2560-2562 มีจังหวัดพัทลุงที่ขึ้นมาติดอันดับ
ดงั กลา่ วเช่นกนั

แผนภูมิท่ี 4.3.7 แสดงอันดบั ของจังหวัดที่มสี ดั ส่วนคนจนสูงสดุ ในพน้ื ทภี่ าคใต้ตอนลา่ ง ปี 2557-2563

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 69

จากสถิติดังกล่าว แม้ว่าจะมีเพียง 4 จังหวัดที่ติดอันดับความยากจน 10 อันดับสูงสุดของประเทศ
แต่จากขอ้ มลู สถานการณ์กลุม่ จังหวัดตามกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะในกลมุ่ ครอบครวั ในพน้ื ที่ 7 จังหวดั ภาคใต้
ตอนล่าง พบวา่ สถติ คิ รอบครวั ยากจน ในระบบ TPMAP มจี ำนวนครอบครวั ยากจนทเ่ี พิ่มขนึ้ ซ่ึงมีผลกระทบ
มาจากหลากหลายปจั จัย ซ่งึ ในชว่ ง 3 ปที ผ่ี า่ นมา เกดิ สถานการณโ์ รคตดิ เช้ือ COVID-19 ซ่ึงส่งผลกระทบต่อ
สภาวะเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะกลุ่มประชากรที่เป็นแรงงานไทยในมาเลเซียที่ได้รับผลกระทบจาก
สถานการณ์ดังกล่าว มีการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานกลับมายังภูมิลำเนา ทำให้เกิดอัตราการว่างงานของประชากร
ที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่มีรายได้ รายจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตตั้งแต่ระดับปัจเจก ครอบครัว
ชุมชน และสงั คม ทำให้ปัญหาความยากจนในพ้ืนท่มี ีอตั ราท่ีสงู ขึน้ เช่นเดยี วกนั รวมถงึ บริบททางสงั คมในพื้นท่ี
โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) ที่เป็นครอบครัวมีบุตรมาก และมัก
อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ แต่รายได้ในครอบครัวไม่สอดคล้องกับจำนวนสมาชิก ทำให้ไม่เพียงพอต่อ
คา่ ใชจ้ ่าย ปญั หาดังกล่าวยงั สง่ ผลตอ่ การเลยี้ งดบู ตุ ร ในด้านต่างๆ เชน่ โภชนาการ สาธารณสขุ และการศึกษา
เป็นต้น ซึ่งสถิติของเด็กจำนวนมากที่มีปัญหาภาวะทุพโภชนาการ การไม่ได้รับวัคซีนตามเกณฑ์ นอกจากนี้
ปัญหาความยากจนยังมผี ลเชื่อมโยงถึงข้อมลู สถติ กิ ารออกจากระบบการศึกษากลางคนั โดยเฉพาะพ้ืนท่ีจังหวัด
ตรัง ที่พบข้อมูลสถิติสูงสุดในปี 2564 ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อบ่งชี้ที่สำคัญที่อาจนำไปสู่สภาวะการมีงานทำของ
เดก็ และเยาวชน ซึ่งจะกลายเป็นกลุ่มท่ีขาดโอกาสทางการศึกษา ไม่สามารถต่อยอดหรือพฒั นาตนเองต่อไปได้
และเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงที่ทำให้เกิดครอบครัวยากจนข้ามรุ่นในอนาคต สถิติที่น่าสนใจอีกประเด็น
หนึ่ง คือ ประเด็นกลุ่มเป้าหมายคนพิการโดยเฉพาะคนพิการที่เป็นผู้สูงอายุในพื้นที่มอี ัตราเพิ่มมากขึน้ ส่งผล
ใหเ้ กิดครอบครวั หรอื ครัวเรอื นท่ีอย่ใู นสภาวะพงึ่ พิงและมีความเปราะบางเพม่ิ มากขึ้นเช่นเดียวกัน ทำใหป้ ญั หา
ความยากจนกลายเป็นปัญหาท่ีวนเวยี นอยู่ในกลุม่ จังหวัดภาคใต้ตอนล่างมาอย่างยาวนาน สำนักงานส่งเสริม
และสนับสนนุ วชิ าการ 11 ไดเ้ ลง็ เหน็ ถงึ ความสำคัญ จงึ มขี ้อเสนอแนะเชงิ นโยบาย และข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติ
เพ่ือนำไปสู่การพัฒนาและแกไ้ ขปัญหาความยากจนในพน้ื ท่ีกลุ่มจังหวัดภาคใตต้ อนลา่ งดังต่อไปน้ี

1) จัดทำนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่สอดคล้องและ
ตอบโจทย์การแกไ้ ขปัญหาความยากจน โดยเฉพาะการจัดทำนโยบายสวสั ดกิ ารใหป้ ระชาชนทุกกล่มุ เป้าหมาย
สามารถเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่ควรจะได้รับครอบคลุมทุกช่วงวัย ตามบทบาทและภารกิจของกระทรวงฯ

2) จัดทำแผนงาน โครงการและกิจกรรมด้านการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในระดับ
จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวง โดยมีการบูรณาการแผนงานด้านสังคม
ตามกลุ่มเป้าหมาย ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและนอกกระทรวงอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะ
ในระดบั พน้ื ที่ เพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน

3) ส่งเสริม สนับสนุน และประสานการดำเนินงานกับองค์กรเครือข่ายในจังหวัดทั้งภาครัฐและ
ภาคเอกชน ขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านองค์กรเครือข่ายในจังหวัดทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในรูปแบบ
ขององค์กร ภาคธุรกิจเพื่อสังคมให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถงึ บริบททางสงั คมและวิถีชวี ติ ของประชาชนในพ้ืนที่

4) ปรับปรุงและพัฒนาระบบฐานข้อมูลครัวเรือนเปราะบาง MSO Logbook เพื่อเพิ่มขีด
ความสามารถของระบบให้มีการประมวลผลวิเคราะหป์ ัญหาและกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลอื ได้ตาม

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 70

สภาพปญั หาในมติ ิต่าง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้องกบั กลุ่มเป้าหมาย อกี ทงั้ กระทรวง พม. จำเป็นตอ้ งมกี ารต่อยอดสู่การจัด
ระทำระบบฐานข้อมูลกลางด้านสังคมทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศเพื่อนำไปสู่การเป็นเจ้าภาพด้าน
สงั คม

5) พัฒนาสมรรถนะและเพม่ิ ขดี ความสามารถของอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
รวมถึงภาคีเครือข่ายด้านสังคม แกนนำในพื้นที่ เพื่อสร้างกลไกการทำงานที่เข้มแข็งในการแก้ไขปัญหาความ
ยากจน และกลุ่มเปราะบาง เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือในการนำไปสู่การออกแบบและร่วมกันแก้ไข
ปัญหาในระดบั ชุมชน ทอ้ งถิ่น ผ่านการบรู ณาการและขับเคลื่อนของคณะทำงานศูนยช์ ว่ ยเหลือสังคมตำบล

6.3 ขอ้ เสนอแนะเชิงปฏบิ ตั ิระดบั กลมุ่ จงั หวดั

1) ส่งเสริมให้มีการขับเคลื่อนงานตามนโยบายสำคัญในการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างเร่งด่วน
โดยประสานความร่วมมือและบูรณาการร่วมกับจังหวัดและท้องถิ่น ในการจัดสรรสวัสดิการพื้นฐานที่จำเปน็
ใหก้ บั ประชาชนให้สามารถเขา้ ถึงสทิ ธแิ ละสวสั ดกิ ารอยา่ งเหมาะสม ทว่ั ถึง เทา่ เทยี มและเป็นธรรม

2) มีการสำรวจความต้องการ ความคิดเห็นและต้นทุนทางสังคมของประชาชนในระดับพื้นที่
ผ่านชุมชน ท้องที่ และท้องถิ่น โดยจัดเก็บข้อมูลลงสมุดพกครอครัว และนำเข้าในระบบสมุดพกครอบครัว
อิเล็กทรอนิกส์ (MSO-Logbook) เพื่อนำไปสู่การออกแบบแผนงานโครงการที่เหมาะสม และมีความจำเป็น
ตรงตามบรบิ ทของชมุ ชน สังคม รวมถึงการนำผลการจัดทำบนั ทึกข้อตกลง MOU ระดบั กระทรวงมาถ่ายทอด
สู่ผปู้ ฏิบัตจิ ริงในระดับพนื้ ท่ี เพ่อื ให้เกิดการบรู ณาการอย่างแท้จรงิ ซึ่งจะชว่ ยลดข้นั ตอนการทำงานของภาครัฐ
ในการให้ความช่วยเหลอื กลมุ่ เปา้ หมายไดอ้ ย่างรวดเรว็ และมปี ระสทิ ธภิ าพ

3) ส่งเสรมิ การเข้ามามีส่วนรว่ มขององค์กรภาคเอกชน ภาคประชาสงั คม ภาคธรุ กจิ เพ่ือสงั คม ในการ
ผลักดันนโยบายการแก้ไขปัญหาความยากจน โดยการทำความร่วมมือต่าง ๆ เช่น การจับคู่พัฒนา 1 องค์กร
1 ครัวเรือนเป้าหมาย ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางและครัวเรือนยากจน โดยมีภาครัฐเป็น
ตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างองคร์กรต่าง ๆ กับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นการบูรณาการทรัพยากรที่มีอยู่อย่าง
จำกัดให้เกิดความคมุ้ ค่า และเพิม่ โอกาสใหอ้ งค์กรต่าง ๆ เขา้ มามสี ว่ นร่วมในการแก้ไขปัญหาความยากจนมาก
ข้นึ

4) นำผลการวิเคราะห์สภาพปัญหามาออกแบบแนวทางการให้ความช่วยเหลือร่วมกับหน่วยงาน
ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ เช่น สาธารณสุข แรงงาน ศึกษาธิการ เป็นต้น ให้ครอบคลุม ในทุกมิติซึ่ง
ประกอบด้วย มิติด้านสุขภาพ มิติด้านที่อยู่อาศัย มิติด้านอาชีพรายได้ มิติด้านการศึกษา และมิติการเข้าถึง
บรกิ ารภาครฐั

5) หน่วยงาน พม. ในพื้นที่ต้องเพิ่มบทบาทในการทำงานเพื่อนำไปสู่การเป็นเจ้าภาพหลักในการ
ดำเนินงานด้านสังคมในระดบั พ้นื ท่ี โดยอาศยั ความรว่ มมือกบั หนว่ ยงานด้านสังคมท่ีเกี่ยวข้อง ในการประสาน
และเชื่อมโยงข้อมูลด้านสังคม เพื่อนำเข้าสู่ระบบฐานข้อมูลกลางด้านสังคมในภาพรวม ซึ่งดูแลและบริหาร
จัดการโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่จะสามารถนำไปวิเคราะห์ปัญหาและ
แนวทางแก้ไขให้กับกลุม่ เป้าหมายได้อย่างเหมาะสม

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 71

6) ให้สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ
มนุษย์จังหวดั ในพนื้ ท่ี สำรวจความตอ้ งการในการพฒั นาศักยภาพของ อพม. ทั้งท่ีเป็นทักษะจำเปน็ ข้ันพื้นฐาน
และทกั ษะที่มีความต้องการเฉพาะ รวมถึงภาคีเครอื ขา่ ย แกนนำชุมชน ทอ้ งทแ่ี ละท้องถิ่น เพือ่ สร้างเครือข่าย
ทางสังคมให้มีองค์ความรู้ ความเข้าใจในแนวทางนโยบายการทำงานของกระทรวงฯ และเพื่อให้เกิดการ
ปฏิบัติงานร่วมกันกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ได้อย่างมีเอกภาพ อีกทั้งยังเป็นการสร้างกลไกการทำงานที่มี
ประสิทธิภาพในระดับพื้นที่ภายใต้ศูนย์ช่วยเหลือสังคมตำบล เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับการ
ช่วยเหลือแกไ้ ขปญั หาแบบองคร์ วม อย่างทนั ท่วงที

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 72

ภาคผนวก

สำนกั งำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 73

บรรณานกุ รม

กรมการปกครอง.กระทรวงมหาดไทย.ระบบสถิติทางทะเบยี น.สบื ค้น 10 เมษายน 2565,
จาก http://stat.bora.dopa.go.th/stat/

กองตรวจราชการ.กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมน่ั คงของมนุษย.์ ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาคุณ
ภาพชวี ติ กลุ่มเปราะบางรายครัวเรอื นจังหวดั .สืบคน้ 1 มถิ นุ ายน 2565,จาก
https://datastudio.google.com/reporting/77481907-b414-4e6a-904e-
0901de2dd0c6/page/pjFWC

ฐานขอ้ มลู ระบบการพัฒนาคนแบบชี้เป้า TP MAP.สำนกั งานการพฒั นาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. ภาพรวม
คนจนในปี 2565.ประเทศไทย.สืบค้น 1 เมษายน 2565,จาก https://www.tpmap.in.th/2565/

สารสนเทศทางสาธารณสุข.กระทรวงสาธารณสุข.จำนวนหน่วยบริการสังกดั สำนักงานปลัดกระทรวง
สาธารสขุ จำแนกตามระดับของ สถานพยาบาล.สืบค้น 1 เมษายน 2565,
จาก hdc/reports/report.php?source=hospital/hospital1.php&cat_id=b415510618e1327
3b2f2918587f86e5d& id=67c3037f24c14781b03159583f5b7a58

สารสนเทศทางสาธารณสุข.กระทรวงสาธารณสขุ .จำนวนบุคลากรสาธารณสุขจากแฟ้ม PROVIDER จำแนก
ตาม PROVIDERTYPE.สืบค้น 1 เมษายน 2565, https://hdcservice.moph.go.th/hdc/
reports/report.php?source=pformated/format1.php&cat_id=c11dad88f80061c70cd
1ae96b500d017&id=680c8ce3c9c0f0bd6d9734664ad4eb13

ขอ้ มูลสารสนเทศดา้ นการศกึ ษาจงั หวดั ปีการศึกษา 2564 สำนกั งานศกึ ษาธิการจงั หวดั .สบื คน้ 10 เมายน 2565,
จาก https://www.tpeotrang.go.th/, https://narapeo.go.th/, https://www.ptnpeo.go.th/,
https://www.ptlpeo.go.th/, https://www.yalapeo.go.th/, https://www.spe.go.th/,
https://satunpeo.go.th/

สำนกั งานสถติ ิแห่งชาติ.กระทรวงดจิ ทิ ลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสังคม.สถติ แิ รงงาน.สืบค้น 10 เมษายน 2565,
จาก http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/th/

สำนกั งานสถติ ิแห่งชาต.ิ กระทรวงดจิ ิทลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสังคม.สถิตริ ายไดแ้ ละรายจ่ายของครัวเรือน.
สบื คน้ 10 เมษายน 2565,จาก http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/th/

สำนกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ (สศช.) ผลติ ภัณฑ์จังหวดั ต่อหัว
(GPP per capita). สืบคน้ 1 เมษ า ยน 2565,จาก
https://datastudio.google.com/u/0/reporting/ 704fe6c7-aecb-4362-
9062-3dc971c75982/page/p_nmxeulqptc

รายงานวเิ คราะหส์ ถานการณ์ ความยากจนและความเหล่ือมลำ้ ของประเทศไทย ปี 2563.รายช่อื จังหวัด
ทีต่ ดิ อนั ดับ 10 จังหวัดทีม่ สี ดั สว่ นคนจนสูงทส่ี ดุ หรือมคี วามยากจนหนาแนน่ สงู ที่สุดในช่วงปี
2557 – 2563.สำนกั งานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กองพัฒนาข้อมลู และตัวช้วี ัด
สงั คม (กขส.) กันยายน 2564. สบื ค้น 10 เมษายน 2565, จาก https://www.nesdc.go.th/

สำนกั งานพัฒนาสังคมและความมน่ั คงของมนุษย์จังหวัดตรัง.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมนั่ คง
ของมนษุ ย.์ ข้อมลู สถานการณท์ างสงั คมจังหวัดตรัง ปี 2565. สบื ค้น 31 มีนาคม 2565

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 74

สำนกั งานพัฒนาสังคมและความมนั่ คงของมนุษยจ์ ังหวัดนราธิวาส.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคง
ของมนุษย.์ ข้อมูลสถานการณ์ทางสังคมจังหวดั นราธิวาส ปี 2565. สืบคน้ 31 มีนาคม 2565

สำนกั งานพฒั นาสังคมและความมั่นคงของมนุษยจ์ ังหวดั ปัตตานี.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมนั่ คง
ของมนษุ ย.์ ข้อมลู สถานการณท์ างสงั คมจังหวดั ปตั ตานี ปี 2565. สืบค้น 31 มีนาคม 2565

สำนักงานพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์จังหวัดพทั ลงุ .กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่นั คง
ของมนุษย์.ข้อมลู สถานการณท์ างสงั คมจังหวัดพทั ลุง ปี 2565. สบื คน้ 31 มนี าคม 2565

สำนักงานพัฒนาสังคมและความม่นั คงของมนษุ ย์จังหวัดยะลา.กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมั่นคง
ของมนุษย์.ข้อมูลสถานการณท์ างสงั คมจังหวดั ยะลา ปี 2565. สืบคน้ 31 มนี าคม 2565

สำนักงานพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนษุ ย์จังหวัดสงขลา.กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมั่นคง
ของมนษุ ย.์ ข้อมูลสถานการณท์ างสงั คมจังหวดั สงขลา ปี 2565. สืบคน้ 31 มนี าคม 2565

สำนักงานพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษยจ์ ังหวดั สตูล.กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมน่ั คง
ของมนษุ ย.์ ข้อมลู สถานการณท์ างสังคมจังหวัดสตูล ปี 2565. สบื คน้ 31 มนี าคม 2565

ระบบรายงานผลการดำเนนิ งานผไู้ ด้รบั ผลกระทบจากความไม่สงบในพ้นื ทจ่ี ังหวดั ชายแดนภาคใต้.
สำนกั งานสง่ เสริมและสนับสนนุ วิชาการ 11 จังหวดั สงขลา. สืบคน้ 30 กันยายน 2565,
จาก https://www.sdmutpso11.com

รายงานสถานการณ์ COVID-19. รายงานยอดผตู้ ดิ เช้อื โควิด-19.ขอ้ มลู การไดร้ ับวัคซนี ป้องกันโรคโควดิ -19.
สบื คน้ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, จาก
https://www.facebook.com/profile.php?id=100064747848435,
https://www.facebook.com/NaraPublicHealth,
https://www.facebook.com/prpattani2018,
https://www.facebook.com/profile.php?id=100057075864798,
https://www.facebook.com/ylomoph,
https://www.facebook.com/profile.php?id=100052384876604,
https://www.facebook.com/covidsatun

MOPH-Immunization Center (IC).กระทรวงสาธารณสุข.ข้อมูลการไดร้ บั วคั ซีนป้องกันโรคโควิด-19
ประชาชนในพ้นื ที่. สบื ค้น 1 มิถุนายน 2565,จาก https://dashboard- vaccine.moph.go.th/
heatmap.html

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 75

คณะผู้จัดทำ
รายงานสถานการณ์ทางสงั คมกลมุ่ จงั หวัดภาคใตต้ อนล่าง ประจำปี 2565

สำนกั งานสง่ เสรมิ และสนับสนุนวิชาการ 11 จังหวัดสงขลา

ที่ปรกึ ษา
นางณิชาพัชฌ์ เพ็ชรพันธ์ุ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนนุ วิชาการ 11

นางสาวนพรตั น์ กอวฒั นากุล หวั หน้ากล่มุ นโยบายและยุทธศาสตร์

เรียบเรยี ง / วเิ คราะห์

นางสาวสดุ อนงค์ ชา้ งเพ็ง นักพัฒนาสงั คมปฏิบัติการ

นายอัสฮา การี นกั พฒั นาสงั คม

นางสาวอุบลวรรณ กะลงึ พัด นกั พัฒนาสงั คม

นายนพดล ลาเฉลิม นกั พฒั นาสังคม

สำนกั งำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วิชำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 76

สำนกั งำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 11 สงขลำ กระทรวงกำรพฒั นำสงั คมและควำมม่นั คงของมนษุ ย์ 77


Click to View FlipBook Version