ความสมั พนั ธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ นื่
-แนวทางบรู ณาการโดยพจิ ารณาเกยี่ วกับความสอดคลอ้ งและความเหมาะสม เชน่ การเชอื่ มโยงกบั วชิ าตา่ ง ๆ ดงั นี้
ภาษาไทย การอา่ น การเขยี น การสรปุ การบนั ทกึ ขอ้ มลู และการบรรยาย
คณติ ศาสตร์ การจาแนกเรอื่ งงานปนั้ และงานสอื่ ผสมในลกั ษณะตา่ ง ๆ
วทิ ยาศาสตร์ การสงั เกตเรอ่ื งงานปนั้ และงานสอื่ ผสมในลกั ษณะตา่ ง ๆ
สงั คมศกึ ษาฯ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามหนา้ ท่ี และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเปน็ กลมุ่
สขุ ศกึ ษาฯ การพฒั นากลา้ มเนอื้ มอื ในการขดู ขดี ลาก การปนั้ สรา้ งสรรคผ์ ลงานทศั นศลิ ป์
การงานอาชพี ฯ การจดั เตรยี มและดแู ล รกั ษาวสั ดอุ ปุ กรณ์
ภาษาตา่ งประเทศ การอ่าน การเขยี นชอ่ื ผลงานการออกแบบของศลิ ปนิ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๓
เรอื่ งเอกภาพและความกลมกลนื ของเรอ่ื งราวในงานปน้ั และงานสอ่ื ผสม เวลา ๓ ชวั่ โมง ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑
__________________________________________________________________________
๑. เปา้ หมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรยี นรู้ / การวดั และการประเมนิ ผล
มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละ สง่ิ ทต่ี อ้ งรแู้ ละปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน / ชนิ้ งาน การวดั ผลและการ
ตวั ชวี้ ดั ประเมนิ ผล
บรรยายความแตกตา่ งและ ผู้เรยี นรอู้ ะไร บรรยายความแตกตา่ ง -แบบประเมนิ ผล
ความคลา้ ยคลงึ กนั ของงาน ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ และความคลา้ ยคลงึ กนั ด้านความรู้
ทัศนศิลปแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม กนั ของเอกภาพและความกลมกลนื ของงานทศั นศลิ ปแ์ ละ -แบบบนั ทกึ การจด
โดยใช้ความรเู้ รอื่ งเอกภาพ ของเรอื่ งราวในงานปน้ั และงาน สง่ิ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรู้ บนั ทกึ และวาด
และความกลมกลนื ของ สื่อผสมในงานทศั นศลิ ปแ์ ละ เรอ่ื งเอกภาพและความ ภาพประกอบ
เรอื่ งราวในงานปนั้ และงาน สง่ิ แวดลอ้ ม กลมกลนื ของเรอื่ งราวใน -แบบประเมนิ ผล
สอ่ื ผสม ผเู้ รยี นทาอะไรได้ งานปน้ั และงานสอ่ื ผสม ด้านคณุ ธรรม
บรรยายความแตกตา่ งและความ จรยิ ธรรม และ
คลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ปแ์ ละ คา่ นยิ ม
สงิ่ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรเู้ รอื่ ง
เอกภาพและความกลมกลนื ของ
เรอ่ื งราวในงานปนั้ และงานสอื่ ผสม
เปน็ สอ่ื ได้
๒. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
๑. ความรู้ (Knowledge)
- ทบทวนความรเู้ รอื่ งเอกภาพและความกลมกลนื ของเรอ่ื งราวในงานปน้ั และงานสอื่ ผสม
- กาหนดความสมั พนั ธแ์ ละความแตกต่างของงานทศั นศิลปแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม
- อภปิ รายเกย่ี วกบั ความสมั พนั ธแ์ ละความแตกตา่ งของงานทศั นศลิ ปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
- บรรยายและสรปุ ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศิลปแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ มโยใชค้ วามรู้
เรอ่ื งเอกภาพและความกลมกลนื ของเรอื่ งราวในงานปน้ั และงานส่ือผสม
๒. ทกั ษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทกั ษะการจาแนกประเภท
๓. สมรรถนะ (Competency)
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
-นกั เรยี นนาความรเู้ รอ่ื งเอกภาพและความกลมกลนื ของเรอื่ งราวในงานปน้ั และงานสอ่ื ผสม มาบรู ณาการตาม
หลกั แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งโดยสรา้ งสรรคผ์ ลงานเพอื่ ใชเ้ ปน็ การตกแตง่ สถานท่ีตามหอ้ งเรยี น อาคาร
เรยี นของโรงเรยี นได้ เปน็ ตน้
๓. หลกั ฐานการเรยี นรชู้ น้ิ งานหรอื ภาระงาน (Work)
- การสรา้ งสรรค์ผลงานทัศนศิลปด์ ว้ ยเรอ่ื งการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์
๔. การวดั และการประเมนิ ผล ( Evaluation )
สงิ่ ทว่ี ดั ผล วธิ วี ดั ผล เครอื่ งมอื วดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ
ด้านความรู้ (K) สงั เกตจากการถามและการแสดง -แบบประเมนิ ผลดา้ น -แบบบนั ทกึ การจด
ความคดิ เหน็ ตอ่ ขอ้ ตกลงในการเรยี น ความรู้ บนั ทกึ
-แบบบนั ทกึ การจด
บนั ทกึ และวาด
ภาพประกอบ
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ(P) สงั เกตจากพฤตกิ รรมในการทางาน -สงั เกตจากความตง้ั ใจ -แบบบนั ทกึ การจด
เปน็ รายบคุ คลหรอื เปน็ กลุ่ม และการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม บนั ทกึ
ตามขน้ั ตอน -พจิ ารณาจากการวาด
-สงั เกตจากการนาไปใช้ ภาพประกอบ
ในชวี ติ ประจาวนั
เจตคต/ิ คุณลกั ษณะ (A) สงั เกตจากการมเี จตคตทิ ีด่ ตี อ่ การ -สงั เกตจากความ -พจิ ารณาจากการวาด
เรยี น รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ที ี่ ภาพประกอบ
ไดร้ บั มอบหมาย -เกณฑค์ ณุ ภาพ ๕ ระดบั
สมรถนะของผเู้ รยี น (C) มีความสามารถในการสอ่ื สาร/คดิ /แกไ้ ขปญั หา/การใชท้ กั ษะชวี ติ
๕. กระบวนการการจัดกจิ กรรม / รปู แบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจดั กจิ กรรมการเรยี นร/ู้ แนวทางการเสรมิ แรงหรอื ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น
-วธิ ีสอนแบบสาธติ
เป็นวิธีสอนทีค่ รูแสดงให้นักเรยี นดูและให้ความรแู้ ก่นักเรยี นโดยใช้ส่ือการเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรม และ
ผเู้ รยี นไดป้ ระสบการณต์ รง การสอนแบบสาธติ แบง่ ออกเปน็ ประเภทตา่ ง ๆ ได้แก่ ผสู้ อนเปน็ ผู้สาธติ ผู้สอนและ
ผู้เรยี นรว่ มกนั สาธิต ผเู้ รยี นสาธติ เปน็ กลุ่ม ผูเ้ รียนสาธิตเปน็ รายบุคคล วิทยากรเปน็ ผูส้ าธติ และการสาธติ แบบ
เงยี บโดยใหน้ ักเรยี นสังเกตเอง
๖. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
๑.๑ ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
-ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเพอ่ื ประเมนิ ความรเู้ บอื้ งตน้
-ครูถามคาถามนกั เรยี นใหช้ ว่ ยกนั ตอบตามประสบการณ์ของตวั เอง เพอ่ื ประเมนิ ความรกู้ อ่ นเรยี น
๒. ขน้ั สอน ( ๓ ชว่ั โมง )
-ครอู ธบิ ายความหมายเรอื่ งเอกภาพและความกลมกลนื ของเรอ่ื งราวในงานปน้ั และงานสอ่ื ผสม ใหน้ กั เรยี นฟงั
และอธบิ ายเพมิ่ เตมิ แยกออกทลี ะประเดน็ ในสว่ นของเรอื่ งเอกภาพและความกลมกลนื ของเรอ่ื งราวในงานปั้นและงาน
สอ่ื ผสมพรอ้ มกบั ตง้ั คาถาม และใหน้ กั เรยี นตอบตามความรคู้ วามเขา้ ใจ /ครพู รอ้ มอธบิ ายเพมิ่ เตมิ
-ครหู ยบิ ผลงานตวั อยา่ งของศลิ ปนิ หรอื ผลงานรนุ่ พข่ี นึ้ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏบิ ตั ใิ นเรื่อง
เอกภาพและความกลมกลนื ของเรอ่ื งราวในงานปน้ั และงานสอื่ ผสมในลกั ษณะตา่ ง ๆ พรอ้ มกบั ดสู อื่ การเรยี นการสอน
ทางอนิ เทอรเ์ นต็
-การสรา้ งสรรคง์ านปนั้ เปน็ เรอ่ื งราว ๓ มติ ิ
-การสรา้ งสรรคง์ านสอื่ ผสมเปน็ เรอื่ งราว ๓ มิติ
๓. ขนั้ สรปุ ( ๑ ชว่ั โมง )
-ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั บรรยายสรปุ เรอื่ งเอกภาพและความกลมกลนื ของเรอื่ งราวในงานปน้ั และงานสอื่ ผสม ซงึ่
มคี วามสาคญั ตอ่ การถา่ ยทอดความคดิ จนิ ตนาการในการสรา้ งสรรค์เปน็ ผลงานทศั นศลิ ปป์ ระเภทตา่ ง ๆ โดยครูคอยให้
ความรเู้ พม่ิ เตมิ ในสว่ นทนี่ กั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจหรอื สรปุ ไมต่ รงกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นไปศกึ ษาคน้ ควา้ เรอื่ งเอกภาพและความกลมกลนื ของเรอื่ งราวในงานปน้ั และงาน
สอื่ ผสม โดยใหน้ กั เรยี นศกึ ษาขอ้ มูลจากแหลง่ การเรยี นรู้ เชน่ หอ้ งเรยี นศิลปะ หอ้ งสบื คน้ หอ้ งสมดุ เปน็ ตน้
-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทกุ คนลงมอื ปฏบิ ัตงิ านทศั นศลิ ป์ จานวน ๒ ชน้ิ ผลงาน
๔. สอ่ื การสอน / แหลง่ เรยี นรู้
๑. ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น
๒. หอ้ งเรยี นศลิ ปะ /หอ้ งสมดุ / หอ้ งสบื คน้ /อนิ เทอรเ์ นต็
๓. ภาพวาดผลงานรนุ่ พี่
เทอม 2
คาอธบิ ายรายวชิ า
รายวชิ า ทศั นศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ ๒๑๑๐๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑
ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕
เวลา ๔๐ชวั่ โมง ( ตลอดภาคเรยี น ) จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
คาอธบิ ายรายวชิ า
ประเมนิ งานทัศนศลิ ป์ และบรรยายถงึ วธิ กี ารปรับปรุงงานของตนเองและผอู้ ื่น โดยใช้เกณฑ์ท่กี าหนดให้
ระบแุ ละบรรยายเกย่ี วกบั ลักษณะรปู แบบงานทศั นศิลป์ของชาตแิ ละของทอ้ งถน่ิ ตนเองจากอดีตถงึ ปจั จุบนั สามารถ
เปรยี บเทียบความแตกตา่ งจดุ ประสงคใ์ นการสรา้ งสรรค์งานทัศนศลิ ปข์ องวฒั นธรรมไทยและสากล
สาระ / มาตรฐาน / ตวั ชว้ี ดั
สาระที่ ๑.ทศั นศลิ ป์
มาตรฐานที่ ๑ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลปต์ ามจนิ ตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์คณุ คา่
งานทศั นศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคิดตอ่ งานศิลปะอยา่ งอสิ ระ ชนื่ ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ น
ชวี ติ ประจาวนั
ตวั ชวี้ ดั ที่ ศ ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖
มาตรฐานท่ี ๒ เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งทศั นศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ ค่า
งานทัศนศิลปท์ ่เี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ภูมปิ ัญญาไทยและสากล
ตวั ชวี้ ดั ท่ี ศ ๑.๒ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓
1.ความหมายการวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์ 2. แนวทางการประเมนิ คณุ ค่าของงานทศั นศลิ ป์
3. ประโยชนข์ องการประเมนิ คณุ คา่ งานทศั นศลิ ป์ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4
4.องค์ประกอบของการวเิ คราะห์ วจิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์ วจิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์
5.กระบวนการวจิ ารณง์ านศลิ ปะตามหลกั และวธิ กี าร
โครงสรา้ งรายวชิ า ศลิ ปะ (พน้ื ฐาน)
รหสั วชิ า ศ ๒๑๑๐๒ รายวชิ า ทศั นศิลป์ ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑
เวลาเรยี น ๒ ชว่ั โมง/สปั ดาห์ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง/ภาคเรยี น จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
หน่วย ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระ/มาตรฐาน/ สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั คะแนน
ท่ี (ชม.) K A P รวม
ตวั ชวี้ ดั /ผลการ ประเมินงานทัศนศลิ ปแ์ ละ
๔ วจิ ารณง์ านทัศนศลิ ป์ บรรยายถึงวธิ ีการปรับปรุงงาน (๑๘) ๓๐
เรยี นรู้ ของตนเองและผู้อื่น โดยใชเ้ กณฑ์ ๑
ท่กี าหนดใหไ้ ด้ ๓
ความหมายของการวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ าน ศ ๑.๑ ม.๑/๖ ๓
๓
ทัศนศิลป์ ๓
๓
-ปฐมนิเทศและ
ข้อตกลงในการเรียน
-แผนท่ี ๑ ความหมายของการ
วิจารณง์ านทศั นศิลป์
-แผนที่ ๒ แนวทางการประเมิน
คุณค่าของงานทศั นศลิ ป์
-แผนท่ี ๓ ประโยชน์ของการประเมิน
คณุ ค่างานทศั นศิลป์
-แผนที่ ๔ องค์ประกอบของการ
วิเคราะห์วิจารณง์ านทศั นศิลป์
-แผนท่ี ๕ กระบวนการวจิ ารณ์งาน
ศิลปะตามหลักและวธิ กี าร ๑
สรปุ องคค์ วามรู้ /สรา้ งสรรค์ผลงาน ๑
ทดสอบกลางภาค
๕ ทศั นศิลปก์ บั วฒั นธรรม -แผนท่ี ๙ ลักษณะรูปแบบงานทัศนศลิ ป์ ศ ๑.๑ ม.๑/๒ ระบุและบรรยายเกี่ยวกับลักษณะ (๒๒) ๕๐
รูปแบบของงานทัศนศิลป์ของ ๑๐
ของไทย ศ ๑.๒ ม.๑/๓ ชาตแิ ละของทอ้ งถ่ินตนเองจาก ๑๐ ๘๐
อดตี จนถงึ ปจั จบุ ัน และ ๑๐
-แผนที่ ๑๐ งานทัศนศลิ ป์ภาคต่างๆของ เปรยี บเทยี บความแตกต่างการ ๒ ๑๐
สร้างงานทัศนศลิ ป์ของวฒั นธรรม ๑๐๐
ประเทศไทย ไทยและสากล
-แผนที่ ๑๑ ความแตกต่างของงาน
ทัศนศิลปใ์ นวัฒนธรรมไทย
และสากล
ทดสอบปลายภาค
รวมเวลา/คะแนน หนว่ ยการเรยี น ๓๘
๑
สอบวดั ผลกลางภาคเรยี น ๑
๔๐
สอบวดั ผลปลายภาคเรยี น
รวมเวลาเรยี น/คะแนน ตลอดภาคเรยี น
หมายเหต.ุ ...เวลาเรยี น ๑ ชวั่ โมง / สปั ดาห์ = ๐.๕ หนว่ ยกติ เวลาเรยี น ๒ ชวั่ โมง / สัปดาห์ = ๑.๐ หนว่ ยกติ
เวลาเรยี น ๓ ชว่ั โมง / สัปดาห์ = ๑.๕ หนว่ ยกติ เวลาเรยี น ๔ ชวั่ โมง / สปั ดาห์ = ๒.๐ หนว่ ยกติ
การวเิ คราะหม์ าตรฐานและตวั ชว้ี ดั / ผลการเรยี นรู้
รายวิชา ทศั นศลิ ป์ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕
หนว่ ยการ ตวั ชว้ี ดั ที่ รอู้ ะไร / ทาอะไร ภาระงาน / ชน้ิ งาน สมรรถนะสาคญั คุณลกั ษณะของวชิ า คุณลกั ษณะอนั พงึ
เรยี นรทู้ ่ี /เรอ่ื ง ประสงค์
๔.วจิ ารณง์ าน ศ ๑.๑ รอู้ ะไร -สรา้ งสรรคง์ านทศั น- ๑.ความสามารถใน -เปน็ วชิ าทว่ี า่ ดว้ ยความรู้
ทศั นศลิ ป์ ม๑/๖ การสอ่ื สาร พน้ื ฐานทว่ั ไปเกย่ี วกบั ศิลปะ -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ี
-บรรยายความแตกตา่ งและการ ธาตดุ ว้ ยวธิ ตี า่ ง ๆ ใน รวมทงั้ หลกั เกณฑ์ในการ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ
๒.ความสามารถใน สรา้ งสรรค์ และคุณค่าของ ประสงคไ์ ดอ้ ยา่ งมี
ปรบั ปรงุ ผลงานของตนเองและ งานทศั นศลิ ปพ์ รอ้ ม การคดิ ศิลปะ ทาใหผ้ ศู้ กึ ษาเขา้ ใจ ความสุข
ประทบั ใจในศิลปะแลว้ นา
ผอู้ น่ื โดยใชเ้ กณฑท์ กี่ าหนดให้ กบั วเิ คราะหว์ จิ ารณ์ ๓.ความสามารถใน ความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ ห้เปน็
การแกป้ ญั หา ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั
ทาอะไร ผลงานทัศนศลิ ปข์ อง ของตนเองและสงั คม
๔.ความสามารถใน
๑.อธบิ ายความหมายของคาวา่ ตนเองและผอู้ นื่ ไดโ้ ดย การใช้ทกั ษะชวี ติ
การวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทัศนศลิ ป์ ใชเ้ กณฑท์ กี่ าหนดให้
ไดโ้ ดยใช้เกณฑ์ทกี่ าหนดให้
๒.สรปุ ความสาคญั ของ
การวเิ คราะหว์ จิ ารณผ์ ลงาน
ทศั นศลิ ป์
๓.สรา้ งสรรคง์ านทศั นธาตดุ ว้ ย
วธิ ตี า่ งๆในงานทศั นศิลปไ์ ด้
รอู้ ะไร
๕.ทศั นศลิ ปก์ บั ศ ๑.๒ -ระบแุ ละบรรยายเกยี่ วกบั -สรา้ งสรรคผ์ ลงาน ๑.ความสามารถใน -เปน็ วชิ าทว่ี า่ ดว้ ยความรู้ -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ี
วฒั นธรรม ม๑/๑, ลักษณะรปู แบบงานทศั นศลิ ปข์ อง ทัศนศลิ ปข์ องภาค การสอื่ สาร พนื้ ฐานทวั่ ไปเกยี่ วกบั ศิลปะ คุณลกั ษณะอนั พงึ
ศ ๑.๒ ชาตแิ ละของทอ้ งถนิ่ ตนเองจากอ ต่างๆของประเทศไทย รวมทงั้ หลกั เกณฑ์ในการ ประสงคไ์ ดอ้ ยา่ งมี
ม๑/๒ ดีดจนถงึ ปัจจบุ นั และเปรยี บเทยี บความ ๒.ความสามารถใน สรา้ งสรรค์ และคณุ ค่าของ ความสุข
ศ ๑.๒ -เปรยี บเทยี บความแตกต่างของ แตกตา่ งของ การคดิ ศลิ ปะ ทาใหผ้ ู้ศกึ ษาเขา้ ใจ
ม๑/๓ จุดประสงคใ์ นการสรา้ งสรรคง์ าน จุดประสงคใ์ นการ ประทบั ใจในศิลปะแลว้ นา
ทศั นศิลปข์ องวฒั นธรรมไทยและ สร้างสรรคง์ าน ๓.ความสามารถใน ความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ ห้เปน็
สากล ทศั นศิลปข์ อง การแก้ปญั หา ประโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั
ทาอะไร วฒั นธรรมไทยและ ของตนเองและสงั คม
๑.สรา้ งสรรคง์ านทัศนศิลปภ์ าค สากล ๔.ความสามารถใน
ตา่ งๆของประเทศไทย การใช้ทกั ษะชวี ติ
๒.วเิ คราะหผ์ ลงานทัศนศลิ ปใ์ น
ภาคตา่ งๆของประเทศไทย
๓.เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของ
จุดประสงค์ในการสรา้ งสรรคง์ าน
ทัศนศิลปข์ องวฒั นธรรมไทยและ
สากล
ผงั มโนทศั นห์ นว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๔
เรอื่ ง วจิ ารณง์ านทศั นศิลป์ รายวชิ า ทัศนศลิ ป์
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ เวลา ๑๘ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๔
วจิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์
๑.ความหมายการวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทศั นศิลป์ ๒. แนวทางการประเมนิ คุณคา่ ของงานทศั นศลิ ป์
จานวน ๔ ชวั่ โมง จานวน ๓ ชว่ั โมง
๓. ประโยชนข์ องการประเมนิ คณุ คา่ งานทศั นศลิ ป์ ๔.องคป์ ระกอบของการวเิ คราะห์ วจิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์
จานวน ๓ ชวั่ โมง จานวน ๓ ชว่ั โมง
๕.กระบวนการวจิ ารณง์ านศลิ ปะตามหลกั และวธิ กี าร
จานวน ๕ ชวั่ โมง
ผงั มโนทัศนห์ นว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๕
เรอ่ื ง ทศั นศลิ ปก์ ับวฒั นธรรม รายวชิ า ทศั นศิลป์
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ เวลา ๒๒ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕
เรอื่ ง ทศั นศลิ ปก์ บั วฒั นธรรม
๑. ลกั ษณะรปู แบบงานทศั นศลิ ปข์ องไทย ๒. งานทศั นศลิ ปภ์ าคตา่ งๆในประเทศไทย
จานวน ๑๐ ชวั่ โมง จานวน ๑๐ ชวั่ โมง
๓. ความแตกตา่ งของงานทศั นศลิ ปใ์ น
วฒั นธรรมไทยและสากล
จานวน ๒ ชวั่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ เรอ่ื ง การวิเคราะหว์ จิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์ จานวน ๑๘ ชว่ั โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕
รายวิชา ทศั นศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ ๒๑๑๐๒ ครผู สู้ อน นายจรี ชั ญ์ ภกั ดี
_________________________________________________________
สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด (Learning Concepts)
การประเมนิ งานทัศนศลิ ป์ การวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์ และบรรยายถงึ วธิ กี ารปรบั ปรงุ งานของตนเองและผอู้ น่ื
โดยใชเ้ กณฑท์ ก่ี าหนดให้
สาระที่ ๑ ทัศนศลิ ป์
มาตรฐานที่ ๑ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ปต์ ามจนิ ตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คณุ คา่
งานทศั นศิลป์ ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคิดตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ ชน่ื ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ น
ชวี ติ ประจาวนั
ตวั ชวี้ ดั ประเมนิ งานทศั นศลิ ป์ การวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทศั นศิลป์ และบรรยายถงึ วธิ กี ารปรบั ปรงุ งานของตนเองและผอู้ นื่
โดยใชเ้ กณฑท์ ก่ี าหนดให้ ( ศ ๑.๑ ม.๑/๖ )
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ( Competency ) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Desired Characteristics )
๑.ความสามารถในการสอ่ื สาร -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคไ์ ด้อย่างมี
๒.ความสามารถในการคิด ความสุข
๓.ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process ) ทกั ษะการคดิ
ทกั ษะเฉพาะวชิ า -ระดมสมอง
-การคน้ ควา้ ขอ้ มลู
-การฝกึ สงั เกตและลงมอื ปฏบิ ตั ิ -การนาเสนอขอ้ มลู
-การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ -ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ
-การจาแนกประเภท
ความเข้าใจทย่ี ง่ั ยนื
- ประเมนิ งานทศั นศลิ ป์ การวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทัศนศิลป์ และบรรยายถงึ วธิ กี ารปรบั ปรงุ งานของตนเองและผอู้ นื่
โดยใชเ้ กณฑท์ ก่ี าหนดให้
-แนวทางบรู ณาการโดยพิจารณาเกยี่ วกบั ความสอดคลอ้ งและความเหมาะสม เชน่ การเชอื่ มโยงกบั วชิ าตา่ ง ๆ ดงั น้ี
ภาษาไทย การอา่ น การเขยี น การสรปุ การบนั ทกึ ขอ้ มลู และการบรรยาย
คณติ ศาสตร์ การจาแนกเรอื่ งการวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์ในลกั ษณะตา่ ง ๆ
วทิ ยาศาสตร์ การสงั เกตเรอื่ งทัศนธาตใุ นลกั ษณะตา่ ง ๆ
สงั คมศกึ ษาฯ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามหนา้ ท่ี และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเปน็ กลมุ่
สขุ ศกึ ษาฯ การพฒั นากลา้ มเนอื้ มอื ในการขดู ขดี ลาก ปฏบิ ตั สิ รา้ งสรรค์ผลงานทศั นศิลป์
การงานอาชพี ฯ การจดั เตรยี มและดแู ล รกั ษาวสั ดอุ ปุ กรณ์
ภาษาตา่ งประเทศ การอา่ น การเขยี นชอ่ื ผลงานทศั นศลิ ปแ์ ละชอ่ื ศิลปนิ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๔
เรอ่ื ง การวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทัศนศลิ ป์ เวลา ๑๘ ชว่ั โมง ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑
__________________________________________________________________________
1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรยี นรู้ / การวดั และการประเมนิ ผล
มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละ สงิ่ ทตี่ อ้ งรแู้ ละปฏบิ ตั ิได้ ผลงาน / ชน้ิ งาน การวดั ผลและการ
ตวั ชว้ี ดั ประเมนิ ผล
ประเมนิ งานทัศนศลิ ปแ์ ละ ผ้เู รยี นรอู้ ะไร -บรรยายความแตกตา่ ง -แบบประเมนิ ผล
บรรยายถงึ วธิ กี ารปรบั ปรงุ - รหู้ ลกั และวธิ กี ารวเิ คราะหว์ จิ ารณ์ และการวเิ คราะหว์ จิ ารณ์ ด้านความรู้
งานของตนเองและผอู้ น่ื งานทศั นศลิ ป์ สามารถประเมนิ ผล งานทัศนศลิ ปข์ องตนเอง -แบบบนั ทกึ การจด
โดยใชเ้ กณฑ์ทกี่ าหนดให้ งานการวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ าน และผอู้ น่ื โดยใชเ้ กณฑท์ ่ี บนั ทกึ และวาด
ทศั นศลิ ปข์ องตนเองและผอู้ น่ื ได้ โดย กาหนดใหไ้ ด้ ภาพประกอบ
ใชเ้ กณฑท์ ก่ี าหนดให้ -แบบประเมนิ ผล
ผเู้ รยี นทาอะไรได้ ด้านคณุ ธรรม
-บรรยายความแตกตา่ งของการ จรยิ ธรรม และ
วเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทศั นศลิ ปข์ อง ค่านยิ ม
ตนเองและผอู้ น่ื โดยใชค้ วามรเู้ รอ่ื ง
การวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์
โดยใชเ้ กณฑ์ทก่ี าหนดให้ได้
๒. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
๑. ความรู้ (Knowledge)
- ทบทวนความรเู้ รอ่ื งการวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทศั นศิลป์
- บรรยายถงึ วธิ กี ารปรบั ปรงุ งานของตนเองและผอู้ น่ื โดยใชเ้ กณฑ์ทก่ี าหนดใหไ้ ด้
- อภิปรายเกยี่ วกบั ความสมั พนั ธแ์ ละความแตกตา่ งของการวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์
๒. ทักษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทกั ษะการจาแนกประเภท
๓. สมรรถนะ (Competency)
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
-นกั เรยี นนาความรเู้ รอื่ งการการวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทศั นศิลป์ มาบรู ณาการตามหลกั แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งโดย
สร้างสรรคผ์ ลงานเพอ่ื ใชเ้ ปน็ ของทร่ี ะลกึ ได้ เชน่ การวาดภาพการจดั องคป์ ระกอบศลิ ป์ เพอื่ จะเปน็ ชน้ิ งานมอบเปน็ ของท่ี
ระลกึ เปน็ ตน้
๓. หลกั ฐานการเรยี นรชู้ นิ้ งานหรอื ภาระงาน (Work)
- การสรา้ งสรรค์ผลงานทศั นศิลปด์ ว้ ยเรอื่ งการวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทัศนศลิ ป์
๔. การวดั และการประเมนิ ผล ( Evaluation )
สง่ิ ทว่ี ดั ผล วธิ วี ดั ผล เครอื่ งมอื วดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ
ดา้ นความรู้ (K) สงั เกตจากการถามและการแสดง -แบบประเมนิ ผลดา้ น -แบบบนั ทกึ การจด
ความคดิ เหน็ ตอ่ ขอ้ ตกลงในการเรยี น ความรู้ บนั ทกึ
-แบบบนั ทกึ การจด
บนั ทกึ และวาด
ภาพประกอบ
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ(P) สงั เกตจากพฤตกิ รรมในการทางาน -สงั เกตจากความตงั้ ใจ -แบบบนั ทกึ การจด
เปน็ รายบคุ คลหรอื เปน็ กลมุ่ และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม บนั ทกึ
ตามขนั้ ตอน -พิจารณาจากการวาด
-สังเกตจากการนาไปใช้ ภาพประกอบ
ในชวี ติ ประจาวนั
เจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะ (A) สงั เกตจากการมเี จตคตทิ ี่ดตี อ่ การ -สงั เกตจากความ -พจิ ารณาจากการวาด
เรยี น รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทท่ี ่ี ภาพประกอบ
ไดร้ บั มอบหมาย -เกณฑ์คณุ ภาพ ๕ ระดบั
สมรถนะของผเู้ รยี น (C) มคี วามสามารถในการสอื่ สาร/คดิ /แกไ้ ขปญั หา/การใชท้ กั ษะชวี ติ
๕. กระบวนการการจดั กจิ กรรม / รูปแบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจดั กจิ กรรมการเรยี นร/ู้ แนวทางการเสรมิ แรงหรอื ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น
-วธิ สี อนแบบสาธติ
เปน็ วิธีสอนท่ีครูแสดงใหน้ กั เรยี นดูและให้ความร้แู ก่นักเรียนโดยใชส้ อ่ื การเรยี นร้ทู ่ีเป็นรูปธรรม และผู้เรียนได้
ประสบการณ์ตรง การสอนแบบสาธติ แบ่งออกเป็นประเภทตา่ ง ๆ ได้แก่ ผ้สู อนเป็นผู้สาธิต ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกัน
สาธติ ผเู้ รยี นสาธิตเป็นกล่มุ ผู้เรียนสาธิตเปน็ รายบุคคล วิทยากรเป็นผู้สาธิต และการสาธิตแบบเงียบโดยให้นักเรียน
สังเกตเอง
๖. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
๑.๑ ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น ( ๑ ชวั่ โมง )
-ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเพอื่ ประเมนิ ความรเู้ บอ้ื งตน้
-ครูถามคาถามนกั เรยี นใหช้ ว่ ยกนั ตอบตามประสบการณ์ของตวั เอง เพอื่ ประเมนิ ความรกู้ ่อนเรยี น
๒. ขนั้ สอน ( ๘ ชว่ั โมง )
-ครอู ธบิ ายความหมายเรอื่ งการวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทัศนศลิ ป์ ใหน้ กั เรยี นฟงั และอธบิ ายเพมิ่ เตมิ แยกออกทลี ะประเดน็
ในสว่ นของเรอ่ื งการวเิ คราะหแ์ ละการวจิ ารณง์ านทัศนศิลป์ พรอ้ มกับตง้ั คาถาม และใหน้ กั เรยี นตอบตามความรคู้ วามเข้าใจ /ครู
พรอ้ มอธบิ ายเพมิ่ เตมิ
-ครหู ยบิ ผลงานตวั อยา่ งของศลิ ปนิ หรอื ผลงานทศั นศลิ ป์ของรนุ่ พข่ี น้ึ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏิบตั ใิ นเรอื่ ง
การสรา้ งสรรคผ์ ลงานทศั นศิลป์ต่าง ๆ พรอ้ มกบั ดสู อ่ื การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็
-การสรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลปแ์ ละบรรยายงานทศั นศลิ ปข์ องตนเอง (๘ ชวั่ โมง)
-การฝกึ วเิ คราะหง์ านทศั นศลิ ป์ (๓ ชวั่ โมง)
-การฝกึ วจิ ารณง์ านทศั นศลิ ป์ (๓ ชวั่ โมง)
-รว่ มวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทศั นศิลปข์ องตนเองและผอู้ น่ื โดยใชเ้ กณฑท์ กี่ าหนดให้ (๒ ชวั่ โมง)
๓. ขน้ั สรุป ( ๑ ชวั่ โมง )
-ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั บรรยายสรปุ เรอ่ื งการวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทศั นศิลป์ ซงึ่ มคี วามสาคญั ตอ่ การถา่ ยทอดความคดิ
จนิ ตนาการในการสรา้ งสรรคเ์ ปน็ ผลงานทศั นศลิ ปป์ ระเภทตา่ ง ๆ โดยครคู อยใหค้ วามรเู้ พม่ิ เติมในสว่ นทน่ี กั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจหรอื สรปุ
ไมต่ รงกบั จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นไปศกึ ษาคน้ ควา้ เรอื่ งการวเิ คราะหว์ จิ ารณง์ านทัศนศิลป์ โดยใหน้ กั เรยี นศกึ ษาขอ้ มูลจากแหลง่
การเรยี นรู้ เชน่ หอ้ งเรยี นศิลปะ หอ้ งสบื คน้ หอ้ งสมดุ เปน็ ตน้
-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทกุ คนลงมอื ปฏบิ ตั งิ านทศั นศลิ ป์ จานวน ๑ ชน้ิ ผลงาน
๔. สอ่ื การสอน / แหลง่ เรยี นรู้
๑. ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น
๒. หอ้ งเรยี นศลิ ปะ /หอ้ งสมดุ / หอ้ งสบื คน้ /อนิ เทอรเ์ นต็
๓. ภาพวาดผลงานทศั นศิลปข์ องรนุ่ พ่ี
๔. หนงั สอื เรยี นศลิ ปะ ทัศนศลิ ป์ ม.๑
- ทดสอบกลางภาค ๑ ชว่ั โมง รวม ๑๘ ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ เรอื่ งทศั นศิลปก์ บั วฒั นธรรม จานวน ๒๒ ชวั่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕
รายวชิ า ทศั นศลิ ป์ รหสั วิชา ศ ๒๑๑๐๒ ครูผสู้ อน นายจรี ชั ญ์ ภกั ดี
_________________________________________________________
สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด (Learning Concepts)
ระบแุ ละบรรยายเกย่ี วกบั ลกั ษณะรปู แบบของงานทัศนศิลปข์ องชาตแิ ละของทอ้ งถน่ิ ตนเองจากอดตี จนถงึ ปจั จุบัน และ
เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งการสรา้ งงานทศั นศลิ ปข์ องวฒั นธรรมไทยและสากล
สาระท่ี ๑ ทัศนศลิ ป์
มาตรฐานที่ ๒ เขา้ ใจความสมั พันธ์ระหว่างทศั นศลิ ป์ ประวัติศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคณุ ค่า
งานทัศนศิลป์ที่เปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาท้องถ่นิ ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล
ตวั ชว้ี ดั - ระบแุ ละบรรยายเกยี่ วกบั ลกั ษณะรปู แบบงานทศั นศลิ ป์ของชาตแิ ละของทอ้ งถน่ิ ตนเองจากอดตี จนถงึ ปจั จบุ นั
( ศ ๑.๒ ม.๑/๑ )
- ระบแุ ละเปรยี บเทยี บงานทัศนศลิ ปข์ องภาคตา่ งๆในประเทศไทย ( ศ ๑.๒ ม.๑/๒ )
- เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของจดุ ประสงคใ์ นการสรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ปข์ องวฒั นธรรมไทยและสากล
( ศ ๑.๒ ม.๑/๓ )
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ( Competency ) คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Desired Characteristics )
๑.ความสามารถในการสอ่ื สาร -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคไ์ ดอ้ ย่างมี
๒.ความสามารถในการคิด ความสขุ
๓.ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process ) ทกั ษะการคดิ
ทกั ษะเฉพาะวชิ า -ระดมสมอง
-การคน้ ควา้ ขอ้ มลู
-การฝกึ สงั เกตและลงมอื ปฏบิ ตั ิ -การนาเสนอขอ้ มลู
-การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ -ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ
-การจาแนกประเภท
ความเขา้ ใจทย่ี งั่ ยนื
- เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งทศั นศลิ ป์ ประวตั ิศาสตร์ และวัฒนธรรม เหน็ คุณค่างานทศั นศิลป์ท่เี ป็นมรดกทาง
วฒั นธรรม ภูมิปัญญาท้องถนิ่ ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล
-แนวทางบรู ณาการโดยพจิ ารณาเกย่ี วกบั ความสอดคลอ้ งและความเหมาะสม เชน่ การเชอื่ มโยงกบั วชิ าตา่ ง ๆ ดงั นี้
ภาษาไทย การอา่ น การเขยี น การสรปุ การบนั ทกึ ขอ้ มลู และการบรรยาย
คณติ ศาสตร์ การจาแนกเรอื่ งทัศนศลิ ปก์ บั วฒั นธรรมในลกั ษณะตา่ ง ๆ
วทิ ยาศาสตร์ การสงั เกตเรอื่ งวฒั นธรรมไทยและสากลในลกั ษณะตา่ ง ๆ
สงั คมศกึ ษาฯ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามหนา้ ท่ี และการปฏิบตั กิ จิ กรรมเปน็ กลมุ่
สุขศกึ ษาฯ การพฒั นากลา้ มเนอ้ื มอื ในการขดู ขีด ลาก ปฏบิ ตั สิ รา้ งสรรค์รปู แบบผลงานทัศนศลิ ป์
การงานอาชพี ฯ การจดั เตรยี มและดแู ล รกั ษาวสั ดอุ ปุ กรณ์
ภาษาต่างประเทศ การอา่ น การเขยี นชอ่ื ผลงานทศั นศลิ ปแ์ ละชอื่ ศิลปนิ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๕
เรอื่ ง ทศั นศิลปก์ บั วฒั นธรรม เวลา ๒๒ ชว่ั โมง ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑
__________________________________________________________________________
1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรยี นรู้ / การวดั และการประเมนิ ผล
มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละ สงิ่ ทตี่ อ้ งรแู้ ละปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน / ชน้ิ งาน การวดั ผลและการ
ตวั ชว้ี ดั ประเมนิ ผล
เขา้ ใจความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง ผเู้ รยี นรอู้ ะไร -สรา้ งสรรค์ผลงาน -แบบประเมนิ ผล
ทัศนศิลปป์ ระวตั ศิ าสตรแ์ ละ -ระบแุ ละบรรยายเกย่ี วกับลกั ษณะ ทศั นศิลปข์ องภาคตา่ งๆ ด้านความรู้
วฒั นธรรมเหน็ คณุ คา่ งาน รูปแบบงานทศั นศลิ ปข์ องชาติ ของประเทศไทยและ -แบบบนั ทกึ การจด
ทศั นศลิ ปท์ เ่ี ปน็ มรดกทาง และของทอ้ งถนิ่ ตนเองจากอดดี เปรยี บเทยี บความ บนั ทกึ และวาด
วฒั นธรรมภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ จนถงึ ปจั จบุ นั แตกตา่ งของจดุ ประสงค์ ภาพประกอบ
ภมู ปิ ญั ญาไทยและสากล -เปรยี บเทยี บความแตกต่างของ ในการสรา้ งสรรคง์ าน -แบบประเมนิ ผล
จดุ ประสงคใ์ นการสรา้ งสรรคง์ าน ทัศนศลิ ปข์ องวฒั นธรรม ด้านคณุ ธรรม
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ศ ๑.๒ ม.๑/๑, ทศั นศลิ ป์ของวฒั นธรรมไทยและ ไทยและสากล จรยิ ธรรม และ
ม.๑/๒, ม.๑/๓ สากล คา่ นยิ ม
ผเู้ รยี นทาอะไรได้
๑.สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ปภ์ าค
ตา่ งๆของประเทศไทย
๒.วเิ คราะหผ์ ลงานทัศนศลิ ปใ์ น
ภาคตา่ งๆของประเทศไทย
๓.เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของ
จดุ ประสงคใ์ นการสรา้ งสรรค์
งานทศั นศลิ ป์ของวฒั นธรรมไทย
และสากล
๒. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
๑. ความรู้ (Knowledge)
- ทบทวนความรเู้ รอ่ื งทศั นศลิ ป์กบั วฒั นธรรมของชาติ และของทอ้ งถน่ิ ตนเองจากอดดี จนถงึ ปจั จุบนั
- เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของจดุ ประสงคใ์ นการสรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ปข์ องวฒั นธรรมไทยและสากล
๒. ทกั ษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทกั ษะการจาแนกประเภท
๓. สมรรถนะ (Competency)
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
-นกั เรยี นนาความรเู้ รอ่ื งทศั นศลิ ปก์ บั วฒั นธรรม มาบรู ณาการตามหลกั แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งโดยสรา้ งสรรค์
ผลงานเพอ่ื ใชเ้ ปน็ ของทร่ี ะลกึ ได้ เชน่ การวาดภาพวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ของตนเอง/วฒั นธรรมของสากล และการจดั
องคป์ ระกอบศลิ ป์ นามาจดั นทิ รรศการ หรอื ชน้ิ งานเพอื่ มอบเปน็ ของทร่ี ะลกึ เปน็ ตน้
๓. หลกั ฐานการเรยี นรชู้ นิ้ งานหรอื ภาระงาน (Work)
- การสรา้ งสรรค์ผลงานทศั นศลิ ปด์ ว้ ยเรอื่ งทศั นศิลปก์ ับวฒั นธรรม
๔. การวดั และการประเมนิ ผล ( Evaluation )
สง่ิ ทว่ี ดั ผล วธิ วี ดั ผล เครอ่ื งมอื วดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ
ดา้ นความรู้ (K) สงั เกตจากการถามและการแสดง -แบบประเมนิ ผลดา้ น -แบบบนั ทกึ การจด
ความคดิ เหน็ ตอ่ ขอ้ ตกลงในการเรยี น ความรู้ บนั ทกึ
-แบบบนั ทกึ การจด
บนั ทกึ และวาด
ภาพประกอบ
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ(P) สงั เกตจากพฤตกิ รรมในการทางาน -สงั เกตจากความตง้ั ใจ -แบบบนั ทกึ การจด
เปน็ รายบคุ คลหรอื เปน็ กลุม่ และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม บนั ทกึ
ตามขนั้ ตอน -พิจารณาจากการวาด
-สังเกตจากการนาไปใช้ ภาพประกอบ
ในชวี ติ ประจาวนั
เจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะ (A) สงั เกตจากการมเี จตคตทิ ่ีดตี อ่ การ -สงั เกตจากความ -พิจารณาจากการวาด
เรยี น รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทท่ี ่ี ภาพประกอบ
ไดร้ บั มอบหมาย -เกณฑ์คณุ ภาพ ๕ ระดบั
สมรถนะของผเู้ รยี น (C) มีความสามารถในการสอ่ื สาร/คดิ /แกไ้ ขปญั หา/การใชท้ กั ษะชวี ติ
๕. กระบวนการการจดั กจิ กรรม / รูปแบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจดั กจิ กรรมการเรยี นร/ู้ แนวทางการเสรมิ แรงหรอื ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น
-วธิ ีสอนแบบสาธติ
เป็นวิธีสอนที่ครแู สดงใหน้ กั เรียนดูและใหค้ วามรแู้ กน่ กั เรียนโดยใชส้ อื่ การเรียนรทู้ ่เี ป็นรูปธรรม และผู้เรียนได้
ประสบการณ์ตรง การสอนแบบสาธิตแบง่ ออกเปน็ ประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ผูส้ อนเป็นผู้สาธิต ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกัน
สาธติ ผูเ้ รียนสาธติ เป็นกลมุ่ ผเู้ รียนสาธติ เป็นรายบุคคล วิทยากรเป็นผู้สาธิต และการสาธิตแบบเงียบโดยให้นักเรียน
สังเกตเอง
๖. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
๑.๑ ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น ( ๑ ชวั่ โมง )
-ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเพอ่ื ประเมนิ ความรเู้ บอ้ื งตน้
-ครูถามคาถามนกั เรยี นใหช้ ว่ ยกนั ตอบตามประสบการณ์ของตวั เอง เพอื่ ประเมนิ ความรกู้ อ่ นเรยี น
๒. ขนั้ สอน ( ๑๘ ชว่ั โมง )
-ครอู ธบิ ายความหมายเรอ่ื งทศั นศลิ ป์กบั วฒั นธรรม ใหน้ กั เรยี นฟงั และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ แยกออกทลี ะประเดน็ ในสว่ นของ
เรอ่ื งทัศนศิลปก์ บั วฒั นธรรมของทอ้ งถิ่นของตนเองหรอื ของชาติ พรอ้ มกบั ตงั้ คาถาม และใหน้ กั เรยี นตอบตามความรคู้ วามเขา้ ใจ /
ครพู รอ้ มอธบิ ายเพม่ิ เตมิ
-ครอู ธิบายความหมายเรอ่ื งทศั นศลิ ปก์ บั วฒั นธรรมของสากล ใหน้ กั เรยี นฟงั และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ แยกออกทลี ะประเดน็ ใน
สว่ นของเรอ่ื งทศั นศิลปก์ บั วฒั นธรรมของสากล พรอ้ มกบั ตงั้ คาถาม และใหน้ กั เรยี นตอบตามความรคู้ วามเข้าใจ /ครพู รอ้ มอธบิ าย
เพม่ิ เตมิ
-ครหู ยบิ ผลงานตวั อย่างของศลิ ปนิ หรอื ผลงานทศั นศลิ ปข์ องรนุ่ พขี่ นึ้ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏิบตั ใิ นเรอ่ื ง
การสรา้ งสรรค์ผลงานทศั นศิลป์กบั วฒั นธรรมตา่ ง ๆ พรอ้ มกบั ดสู อื่ การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็
-การสรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลปแ์ ละบรรยายงานทศั นศลิ ปข์ องทอ้ งถนิ่ ตนเอง (๔ ชว่ั โมง)
-การสรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ปแ์ ละบรรยายงานทศั นศลิ ปข์ องชาตไิ ทย (๔ชว่ั โมง)
-การสรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ปแ์ ละบรรยายงานทัศนศลิ ปข์ องสากล (๔ ชว่ั โมง)
-การฝกึ วเิ คราะหง์ านทศั นศลิ ป์กบั วฒั นธรรมไทย (๑ ชวั่ โมง)
-การฝกึ วเิ คราะหง์ านทศั นศลิ ปก์ บั วฒั นธรรมสากล (๑ ชว่ั โมง)
-รว่ มวเิ คราะหร์ ปู แบบผลงานทศั นศลิ ปข์ องทอ้ งถนิ่ ตนเอง / ของชาตไิ ทย โดยใช้เกณฑท์ กี่ าหนดให้ (๑ ชวั่ โมง)
-รว่ มวเิ คราะหร์ ปู แบบผลงานทศั นศลิ ปข์ องสากล โดยใชเ้ กณฑท์ กี่ าหนดให้ (๑ ชวั่ โมง)
-รว่ มวเิ คราะหค์ วามแตกต่างรปู แบบการสร้างสรรคผ์ ลงานทศั นศลิ ปข์ องชาตไิ ทยและของสากล โดยใชเ้ กณฑ์ท่ี
กาหนดให้ (๑ ชวั่ โมง)
๓. ขน้ั สรปุ ( ๒ ชวั่ โมง )
-ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั บรรยายสรปุ เรอ่ื งทัศนศลิ ป์กบั วฒั นธรรม ซงึ่ มคี วามสาคญั ตอ่ การถา่ ยทอดความคดิ จนิ ตนาการ
ในการสรา้ งสรรค์เปน็ ผลงานทศั นศลิ ปป์ ระเภทตา่ ง ๆ โดยครคู อยใหค้ วามรเู้ พมิ่ เตมิ ในสว่ นทน่ี กั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจหรอื สรปุ ไมต่ รงกบั
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นไปศกึ ษาคน้ ควา้ เรอื่ งทศั นศิลปก์ ับวฒั นธรรม โดยใหน้ กั เรยี นศกึ ษาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรู้
เชน่ หอ้ งเรยี นศิลปะ หอ้ งสืบคน้ หอ้ งสมดุ เปน็ ตน้
-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทกุ คนลงมอื ปฏบิ ัตงิ านทศั นศลิ ป์ จานวน ๑ ชน้ิ ผลงาน
๔. สอ่ื การสอน / แหลง่ เรยี นรู้
๑. ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มในโรงเรยี น
๒. หอ้ งเรยี นศลิ ปะ /หอ้ งสมดุ / หอ้ งสบื คน้ /อนิ เทอรเ์ นต็
๓. ภาพวาดผลงานทัศนศิลปข์ องรนุ่ พี่
๔. หนงั สอื เรยี นศลิ ปะ ทศั นศลิ ป์ ม.๑
- ทดสอบปลายภาค ๑ ชว่ั โมง รวม ๒๒ ชวั่ โมง
ทศั นศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ ๒๑๑๐๑ / ศ ๒๑๑๐๒