The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ศิลปะ ม.1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by baiborn9229, 2022-05-23 09:12:19

แผนการจัดการเรียนรู้ ศิลปะ ม.1

แผนการจัดการเรียนรู้ ศิลปะ ม.1

แผนการจดั การเรยี นรู้
รายวชิ า ทศั นศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ ๒๑๑๐๑ / ศ ๒๑๑๐๒

กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ
ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑
ภาคเรยี นที่ ๑-๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕

ชอ่ื นายจรี ชั ญ์ ภกั ดี
ตาแหน่ง ครู ค.ศ.๒

โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๔๗ จงั หวดั เพชรบรุ ี
สานกั บรหิ ารงานการศึกษาพเิ ศษ

สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

บนั ทกึ ขอ้ ความ

สว่ นราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๔๗ อาเภอชะอา จังหวัดเพชรบุรี
ท…่ี ………………………………………… วนั ท่ี …………………………………………………….
เรอื่ ง ขออนมุ ัติใช้แผนการจัดการเรยี นรู้
เรียน ผูอ้ านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๔๗ จังหวดั เพชรบรุ ี

ดว้ ยขา้ พเจา้ นายจีรัชญ์ ภักดี ตาแหนง่ ครู ค.ศ ๒ ไดร้ บั มอบหมายให้สอนในรายวชิ าศิลปะ ทัศนศิลป์ รหัสวิชา
ศ ๒๑๑๐๑ จานวน ๑ หน่วยกิต เวลาเรียน ๒ ชั่วโมง / สัปดาห์ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง / ภาคเรียน และ ศ ๒๑๑๐๒
จานวน ๑ หนว่ ยกิต เวลาเรยี น ๒ ช่ัวโมง / สัปดาห์ จานวน ๔๐ ช่ัวโมง / ภาคเรียน ได้จัดทาแผนการจัดการเรียนรู้
ในรายวชิ าดงั กลา่ ว เพ่อื ใช้ในการประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี
๑-๒ ประจาปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ เป็นที่เรยี บรอ้ ยแลว้

จึงเรียนมาเพ่อื โปรดอนุมัติ
ลงช่ือ ....................................
( นายจีรชั ญ์ ภักดี )

..........................................................................................................................................................
ความเห็นของรองผู้อานวยการกล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ / ผู้ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย

ได้ตรวจสอบองค์ประกอบของแผนการจดั การเรียนรรู้ ายวชิ าดังกล่าวแล้ว พบว่า
ครบถ้วน ครอบคลมุ และสอดคล้องตามหัวขอ้ เนอ้ื หา สาระมาตรฐานตวั ช้ีวัด / ผลการเรียนรู้
ควรปรบั ปรุง เพิม่ เติม หรอื แก้ไข ดงั น้ี …………………………………………………………………………………….

ลงชอื่ ......................................

( นายชาญยุทธ สทุ ธธิ รานนท์ )

รองผูอ้ านวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ

............/............./.............

..............................................................................................................................................................

เรียนเสนอเพื่อโปรดพจิ ารณา

อนมุ ตั ติ ามเสนอ ไมอ่ นุมัติ เนื่องจาก ......................................................................

ลงช่ือ.....................................................

( นายวรี ะ แกว้ กลั ยา )

ผูอ้ านวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๔๗ จงั หวดั เพชรบรุ ี

คาอธบิ ายรายวชิ า
รายวิชา ทศั นศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ ๒๑๑๐๑
กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑

ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕
เวลา ๔๐ชวั่ โมง ( ตลอดภาคเรยี น ) จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ

คาอธบิ ายรายวชิ า
ศกึ ษาเพอื่ ใหม้ คี วามร้คู วามเข้าใจถงึ ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลึงกนั ของทศั นธาตุในงานทัศนศลิ ป์ การ

สรา้ งสรรคง์ านศลิ ปะโดยเนน้ หลักการจดั องคป์ ระกอบศลิ ป์ ปฏบิ ัติงานวาดภาพทศั นยี ภาพให้เหน็ ระยะไกล –ใกล้ เพ่อื
สื่อความคิด และจนิ ตนาการ ความรสู้ กึ ประทับใจตอ่ งานทศั นศลิ ปข์ องทอ้ งถนิ่ ตนเองจากอดตี จนถงึ ปจั จุบันเปรียบเทียบ
ความแตกต่างของจุดประสงคใ์ นการสรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ป์ของวฒั นธรรมไทยและสากลโดยเน้นความเป็นเอกภาพ
ความกลมกลนื ทศั นศิลปข์ องชาตแิ ละทอ้ งถ่นิ

สาระ / มาตรฐาน / ตวั ชว้ี ดั
สาระที่ ๑.ทศั นศลิ ป์
มาตรฐานที่ ๑ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ปต์ ามจนิ ตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วิจารณ์คณุ คา่

งานทศั นศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคิดตอ่ งานศิลปะอยา่ งอสิ ระ ชนื่ ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ น
ชวี ติ ประจาวนั
ตวั ชวี้ ดั ที่ ศ ๑.๑ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓, ม.๑/๔, ม.๑/๕, ม.๑/๖

มาตรฐานท่ี ๒ เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งทศั นศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคณุ ค่า
งานทัศนศิลปท์ ่เี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ ภมู ปิ ัญญาไทยและสากล

ตวั ชวี้ ดั ท่ี ศ ๑.๒ ม.๑/๑, ม.๑/๒, ม.๑/๓

ผงั มโนทัศนร์ ายวชิ าศลิ ปะ ทศั นศิลป์
ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๒
ความรเู้ บอื้ งตน้ ทางทศั นศิลป์ หลกั การสรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์

ทศั นศิลป์ ม.๑

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๓
สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์

โครงสรา้ งรายวชิ า ศลิ ปะ ทศั นศิลป์ ชอ่ื วชิ า ทศั นศิลป์ ( พนื้ ฐาน )

รหัสวชิ า ศ ๒๑๑๐๑ รายวชิ า ทศั นศลิ ป์ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕

กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑

*** เวลาเรยี น ๒ ชว่ั โมง / สปั ดาห์ จานวน ๔๐ ชวั่ โมง / ภาคเรยี น จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ

หนว่ ยที่ ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี / เรอ่ื ง สาระ / มาตรฐานการเรยี นรู้ / สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั คะแนน
๑ ความรเู้ บอ้ื งตน้ ทาง (ชม.) K A P รวม
ทัศนศิลป์ ตวั ชว้ี ดั / ผลการเรยี นรู้ ๑ /// -

หลกั การสรา้ งสรรคง์ าน ปฐมนเิ ทศและขอ้ ตกลงในการเรยี น ศ ๑.๑ ม๑/๑ ปฐมนเิ ทศและขอ้ ตกลงในการเรยี น/ ๑ /// -
ทัศนศิลป์ ๑ /// -
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ๑ /// -

๑.ทศั นธาตุ จดุ ศ ๑.๑ ม๑/๑ การนาจดุ มาใช้ในงานทศั นศิลป์ ๑ /// -

๒.เสน้ ศ ๑.๑ ม๑/๑ การนาเสน้ มาใชใ้ นงานทศั นศลิ ป์ ๑ /// -
๑ /// -
๓.รปู รา่ งรปู ทรง ศ ๑.๑ ม๑/๑ การนารปู รา่ งรปู ทรงมาใชใ้ นงาน ๑ /// -
๑ /// -
ทัศนศลิ ป์ ๓ / / / ๒๐
๓ / / / ๒๐
๔.ขนาดสัดสว่ น ศ ๑.๑ ม๑/๑ การนาขนาดสัดสว่ นมาใช้ในงาน

ทัศนศลิ ป์

๕.แสงเงา ศ ๑.๑ ม๑/๑ การนาแสงเงามาใชใ้ นงานทศั นศิลป์

๖.สี ศ ๑.๑ ม๑/๑ การนาสมี าใช้ในงานทศั นศลิ ป์

๗.ทวี่ า่ ง ศ ๑.๑ ม๑/๑ การนาทวี่ า่ งมาใชใ้ นงานทศั นศลิ ป์

๘.พนื้ ผวิ ศ ๑.๑ ม๑/๑ การนาพนื้ ผวิ มาใชใ้ นงานทศั นศลิ ป์

๙.การประยกุ ตน์ าไปสรา้ งผลงาน ศ ๑.๑ ม๑/๑ สร้างสรรคผ์ ลงานเรอื่ งทศั นธาตุ

๑.ความเปน็ เอกภาพ ศ ๑.๑ ม๑/๒ การใชเ้ อกภาพดว้ ยวธิ สี มั ผัส วธิ ที บั

ซอ้ น วธิ จี ดั กลมุ่ ในงานทัศนศิลป์

๒.ความกลมกลนื ศ ๑.๑ ม๑/๒ การใชค้ วามกลมกลนื ดว้ ยขนาดเสน้ สี ๓ / / / -

ลักษณะผวิ สงิ่ ทเ่ี หมอื นกนั และสง่ิ ที่

คลา้ ยกนั ในงาน ทัศนศลิ ป์

๓.ความสมดลุ ศ ๑.๑ ม๑/๒ การใชค้ วามสมดลุ ในงานทศั นศิลป์ ๓ / / / -

๓ สรา้ งสรรคง์ านทัศนศลิ ป์ ๑.การเขยี นแบบทศั นยี ภาพ ศ ๑.๑ ม๑/๓ การเขยี นทัศนยี ภาพเปน็ พนื้ ฐานสาคญั ๑๐ / / / ๒๐

ในการเขยี นภาพทวิ ทศั น์ การออกแบบ

สถาปตั ยกรรม การออกแบบตกแตง่

และการออกแบบผลติ ภัณฑ์

๒.การออกแบบรปู ภาพและ ศ ๑.๑ ม๑/๕ การออกแบบหมายถงึ การสรา้ งสรรค์ ๓ / / / ๑๐

สญั ลกั ษณ์ สงิ่ ใหม่ เชน่ การออกแบบรปู ภาพ และ

การออกแบบสญั ลกั ษณ์เปน็ ตน้

๓.เอกภาพและความกลมกลนื ของ ศ ๑.๑ ม๑/๔ เอกภาพและความกลมกลนื ของ ๔ / / / ๑๐

เรอื่ งราวในงานปนั้ และงานสอื่ ผสม เรอ่ื งราวในงานปนั้ และงานสอ่ื ผสม

รวม เวลา / คะแนน หนว่ ยการเรยี น ๓๘ ๘๐

สอบวดั ผลกลางภาคเรยี น ๑ ๑๐

สอบวดั ผลปลายภาคเรยี น ๑ ๑๐

รวมเวลาเรยี น / คะแนน ตลอดภาคเรยี น ๔๐ ๑๐๐

หมายเหต.ุ ...เวลาเรยี น ๑ ชว่ั โมง / สปั ดาห์ = ๐.๕ หนว่ ยกติ เวลาเรยี น ๒ ชว่ั โมง / สัปดาห์ = ๑.๐ หนว่ ยกติ

เวลาเรยี น ๓ ชว่ั โมง / สัปดาห์ = ๑.๕ หนว่ ยกติ เวลาเรยี น ๔ ชวั่ โมง / สัปดาห์ = ๒.๐ หนว่ ยกติ

การวเิ คราะหม์ าตรฐานและตวั ชวี้ ดั / ผลการเรยี นรู้

รายวิชา ทศั นศลิ ป์ ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕

หนว่ ยการ ตวั ชวี้ ดั ท่ี รอู้ ะไร / ทาอะไร ภาระงาน / ชนิ้ งาน สมรรถนะสาคญั คณุ ลกั ษณะของวชิ า คุณลกั ษณะอนั พงึ
เรยี นรทู้ ี่ /เรอ่ื ง ประสงค์
๑.ความรู้ ศ ๑.๑ รอู้ ะไร -สรา้ งสรรคง์ านทศั น- ๑.ความสามารถใน -เปน็ วชิ าทวี่ า่ ดว้ ยความรู้
เบอื้ งตน้ ทาง ม๑/๑ -บรรยายความแตกตา่ งและความ ธาตดุ ว้ ยวธิ ตี ่าง ๆ ใน การสอ่ื สาร พนื้ ฐานทว่ั ไปเกย่ี วกบั ศิลปะ -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ี
ทัศนศิลป์ คลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ป์ งานทัศนศิลป์ รวมทง้ั หลกั เกณฑ์ในการ คุณลกั ษณะอนั พงึ
และสง่ิ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรเู้ รอื่ ง ๒.ความสามารถใน สร้างสรรค์ และคุณค่าของ ประสงคไ์ ดอ้ ยา่ งมี
ทัศนธาตุ การคดิ ศลิ ปะ ทาใหผ้ ู้ศกึ ษาเขา้ ใจ ความสขุ
ทาอะไร ประทับใจในศลิ ปะแลว้ นา
๑.อธบิ ายความหมายของคาวา่ ๓.ความสามารถใน ความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ ปน็
ทศั นศลิ ป์ และลกั ษณะของทศั น การแกป้ ญั หา ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั
ธาตทุ มี่ อี ย่ใู นงานทศั นศิลปไ์ ด้ ของตนเองและสงั คม
๒.ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของ ๔.ความสามารถใน
ทศั นธาตุในงานทศั นศิลป์ การใชท้ กั ษะชวี ติ
๓.สรา้ งสรรคง์ านทัศนธาตดุ ว้ ย
วธิ ตี า่ งๆในงานทศั นศิลปไ์ ด้

๒.หลกั การ ศ ๑.๑ รอู้ ะไร -สรา้ งสรรคผ์ ลงาน ๑.ความสามารถใน -เปน็ วชิ าทวี่ า่ ดว้ ยความรู้ -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ี
สร้างสรรคง์ าน ม๑/๒ -ระบแุ ละบรรยายหลกั การ
ศลิ ปะ โดยใชห้ ลกั การ การสอื่ สาร พนื้ ฐานทว่ั ไปเกยี่ วกบั ศลิ ปะ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ

ทศั นศิลป์ ออกแบบงานทศั นศลิ ป์ โดยเนน้ ออกแบบงานทัศนศลิ ป์ ๒.ความสามารถใน รวมทงั้ หลกั เกณฑ์ในการ ประสงคไ์ ดอ้ ยา่ งมี
สร้างสรรค์ และคณุ ค่าของ ความสขุ
ความเปน็ เอกภาพ ความกลมกลนื การคดิ ศิลปะ ทาใหผ้ ศู้ กึ ษาเขา้ ใจ
ประทบั ใจในศลิ ปะแลว้ นา -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ ี
ความสมดลุ ๓.ความสามารถใน ความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ ปน็ คุณลกั ษณะอนั พงึ
ประโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั ประสงคไ์ ดอ้ ยา่ งมี
ทาอะไร การแก้ปญั หา ของตนเองและสงั คม ความสุข

๑.ใชห้ ลกั การออกแบบงาน ๔.ความสามารถใน -เปน็ วชิ าทว่ี า่ ดว้ ยความรู้
พน้ื ฐานทวั่ ไปเกย่ี วกบั ศิลปะ
ทศั นศลิ ป์ ในการสรา้ งสรรค์ การใชท้ กั ษะชวี ติ รวมทง้ั หลกั เกณฑ์ในการ
สรา้ งสรรค์ และคณุ คา่ ของ
ผลงาน ศลิ ปะ ทาใหผ้ ู้ศกึ ษาเขา้ ใจ
ประทับใจในศลิ ปะแลว้ นา
๒.วเิ คราะหผ์ ลงานศลิ ปะในเรอื่ ง ความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ ปน็
ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั
หลกั การออกแบบงานทศั นศลิ ป์ ของตนเองและสงั คม

๓.นาหลกั การออกแบบงาน

ทศั นศลิ ปม์ าใช้ในการสรา้ งสรรค์

ผลงานสอื่ ผสม -สรา้ งสรรค์ผลงาน

๓.สรา้ งสรรค์ ศ ๑.๑ รอู้ ะไร ศลิ ปะ โดยใชห้ ลกั การ ๑.ความสามารถใน
งานทศั นศลิ ป์ ม๑/๓
ม๑/๔ -วาดภาพทศั นยี ภาพแสดงใหเ้ หน็ ออกแบบงานทศั นศลิ ป์ การสอื่ สาร
ม๑/๕
ระยะไกลใกลเ้ ปน็ ๓ มติ ิ ๒.ความสามารถใน

-ออกแบบรปู ภาพ และสญั ลกั ษณ์ การคดิ

หรอื กราฟกิ อนื่ ๆ ๓.ความสามารถใน

-เขา้ ใจหลกั ของงานปน้ั และงาน การแกป้ ญั หา

ส่อื ผสมสร้างเปน็ เรอ่ื งราว ๓ มติ ิ ๔.ความสามารถใน

ทาอะไร การใช้ทกั ษะชวี ติ

๑.ใชห้ ลกั การวาดภาพของ

ทศั นยี ภาพนามาสรา้ งสรรค์
ผลงานทศั นศลิ ปใ์ หเ้ ปน็ รปู ๓ มติ ิ
๒.สามารถออกแบบรปู ภาพและ
สญั ลกั ษณ์หรอื กราฟกิ ได้
๓.นาหลกั การออกแบบงาน
ทศั นศลิ ป์ในงานปน้ั มาใช้ในการ
สรา้ งสรรคผ์ ลงานสอ่ื ผสม

ผงั มโนทศั นห์ นว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑
เรอื่ ง ความรเู้ บือ้ งตน้ ทางทศั นศลิ ป์ รายวิชา ทศั นศลิ ป์
ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๒ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ

๑.เรอื่ ง ปฐมนเิ ทศและขอ้ ตกลงในการเรยี น
เวลา ๑ ชว่ั โมง

๑๐.เรอ่ื ง การประยกุ ตน์ าไปสรา้ งผลงาน ๒.เรอ่ื ง ทศั นธาตุ จดุ
เวลา ๓ ชว่ั โมง เวลา ๑ ชวั่ โมง

๙.เรอ่ื ง พน้ื ผวิ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๑ ๓.เรอ่ื ง เสน้
เวลา ๑ ชวั่ โมง เรอ่ื ง ความรเู้ บอ้ื งตน้ ทางทศั นศลิ ป์ เวลา ๑ ชวั่ โมง

๘.เรอื่ งพน้ื ทวี่ า่ ง ๔.เรอ่ื ง รปู ร่าง รปู ทรง
เวลา ๑ ชวั่ โมง เวลา ๑ ชว่ั โมง

๗.เรอ่ื ง สี ๖.เรอ่ื ง แสง เงา ๕.เรอื่ ง ขนาด สดั สว่ น
เวลา ๑ ชวั่ โมง เวลา ๑ ชว่ั โมง เวลา ๑ ชวั่ โมง

ผงั มโนทศั นห์ นว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒
เรอื่ ง หลกั การสรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ รายวชิ า ทศั นศลิ ป์
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๒ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒
๑.เรอ่ื ง ความเปน็ เอกภาพ ๒.เรอ่ื ง ความกลมกลนื

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๒
เรอื่ ง หลกั การสรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒
๓.เรอื่ ง ความสมดลุ

ผงั มโนทัศนห์ นว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓
เรอ่ื ง สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ รายวชิ า ทศั นศลิ ป์
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๒ ชว่ั โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกติ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓
๑. เรอื่ ง การเขยี นทศั นยี ภาพ ๒. เรอ่ื ง การออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓
เรอ่ื ง สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓
๓. เรอื่ ง เอกภาพและความกลมกลนื ของเรอ่ื งราวในงานปนั้ และสอ่ื ผสม

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรอ่ื ง ทศั นธาตุ จานวน ๑๒ ชวั่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕

รายวชิ า ทศั นศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ ๒๑๑๐๑ ครูผสู้ อน นายจรี ชั ญ์ ภกั ดี
_________________________________________________________
สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด (Learning Concepts)
การนาทศั นธาตุมาใชใ้ นงานทัศนศลิ ป์
สาระที่ ๑ ทัศนศลิ ป์
มาตรฐานท่ี ๑ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์ตามจนิ ตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คณุ คา่
งานทศั นศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคิดตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ ชนื่ ชม และประยกุ ต์ใชใ้ น
ชวี ติ ประจาวนั
ตวั ชวี้ ดั บรรยายความแตกตา่ งและความคล้ายคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ป์ และสิ่งแวดลอ้ มโดยใชค้ วามรู้เรอ่ื ง
ทัศนศิลป์ ( ศ ๑.๑ ม.๑/๑ )

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ( Competency ) คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Desired Characteristics )
๑.ความสามารถในการสอื่ สาร -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคไ์ ดอ้ ย่างมี
๒.ความสามารถในการคิด ความสขุ
๓.ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process ) ทกั ษะการคดิ
ทกั ษะเฉพาะวชิ า -ระดมสมอง
-การคน้ ควา้ ขอ้ มลู
-การฝกึ สงั เกตและลงมอื ปฏบิ ตั ิ -การนาเสนอข้อมลู
-การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ -ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ
-การจาแนกประเภท

ความเขา้ ใจทยี่ งั่ ยนื
-บรรยายความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ป์และสงิ่ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรเู้ รอื่ งทศั นธาตุ

ความสมั พนั ธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ นื่
-แนวทางบรู ณาการโดยพจิ ารณาเกย่ี วกับความสอดคลอ้ งและความเหมาะสม เชน่ การเชอื่ มโยงกบั วิชาตา่ ง ๆ ดงั น้ี

ภาษาไทย การอ่าน การเขยี น การสรปุ การบนั ทกึ ขอ้ มลู และการบรรยาย
คณติ ศาสตร์ การจาแนกเรอ่ื งทศั นธาตใุ นลกั ษณะต่าง ๆ
วทิ ยาศาสตร์ การสงั เกตเรอื่ งทศั นธาตใุ นลกั ษณะตา่ ง ๆ
สงั คมศกึ ษาฯ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามหนา้ ที่ และการปฏิบตั กิ จิ กรรมเปน็ กลมุ่
สขุ ศกึ ษาฯ การพฒั นากลา้ มเนอื้ มอื ในการขูด ขดี ลาก ปฏบิ ตั สิ รา้ งสรรค์ผลงานทศั นศลิ ป์
การงานอาชพี ฯ การจดั เตรยี มและดูแล รกั ษาวสั ดอุ ปุ กรณ์
ภาษาตา่ งประเทศ การอา่ น การเขยี นชอื่ ผลงานทศั นศลิ ปแ์ ละชอื่ ศลิ ปนิ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑

เรอื่ ง ทศั นธาตุ เวลา ๑๒ ชวั่ โมง ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑

__________________________________________________________________________

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรยี นรู้ / การวดั และการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละ สงิ่ ทต่ี อ้ งรแู้ ละปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน / ชน้ิ งาน การวดั ผลและการ

ตวั ชวี้ ดั ประเมนิ ผล

บรรยายความแตกต่างและ ผเู้ รยี นรอู้ ะไร บรรยายความแตกตา่ ง -แบบประเมนิ ผล

ความคลา้ ยคลงึ กนั ของงาน ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ และความคล้ายคลงึ กนั ด้านความรู้

ทัศนศลิ ปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม กนั ของทศั นธาตใุ นงานทศั นศลิ ปแ์ ละ ของงานทัศนศลิ ปแ์ ละ -แบบบนั ทกึ การจด

โดยใชค้ วามรเู้ รอื่ งทัศนธาตุ สง่ิ แวดลอ้ ม สง่ิ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรู้ บนั ทกึ และวาด

ผ้เู รยี นทาอะไรได้ เรอื่ งทศั นธาตุ ภาพประกอบ

บรรยายความแตกตา่ งและความ -แบบประเมนิ ผล

คลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ปแ์ ละ ด้านคณุ ธรรม

สงิ่ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรเู้ รอ่ื งทศั น จรยิ ธรรม และ

ธาตเุ ปน็ สื่อได้ คา่ นยิ ม

๒. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
๑. ความรู้ (Knowledge)
- ทบทวนความรเู้ รอ่ื งทัศนธาตุ
- กาหนดความสมั พนั ธแ์ ละความแตกตา่ งของงานทศั นศิลปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
- อภปิ รายเกย่ี วกบั ความสมั พนั ธแ์ ละความแตกตา่ งของงานทศั นศลิ ป์และสง่ิ แวดลอ้ ม
- บรรยายและสรปุ ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ปแ์ ละสงิ่ แวดล้อมโยใชค้ วามรู้
เรอื่ งทัศนธาตุ

๒. ทกั ษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทกั ษะการจาแนกประเภท

๓. สมรรถนะ (Competency)
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
-นกั เรยี นนาความรเู้ รอื่ งทศั นธาตมุ าบรู ณาการตามหลกั แนวคิดของเศรษฐกจิ พอเพยี งโดยสรา้ งสรรคผ์ ลงานเพอ่ื
ใชเ้ ปน็ ของเลน่ เชน่ ตัดกระดาษเปน็ รปู รา่ งรปู ทรงของการต์ นู ตา่ ง ๆ /ปน้ั ดนิ นา้ มนั เปน็ รปู สตั ว์ เปน็ ตน้

๓. หลกั ฐานการเรยี นรชู้ น้ิ งานหรอื ภาระงาน (Work)
- การสร้างสรรคผ์ ลงานทศั นศิลปด์ ว้ ยเรอ่ื งของทศั นธาตุ

๔. การวดั และการประเมนิ ผล ( Evaluation )

สง่ิ ทว่ี ดั ผล วธิ วี ดั ผล เครอ่ื งมอื วดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ

ดา้ นความรู้ (K) สงั เกตจากการถามและการแสดง -แบบประเมนิ ผลดา้ น -แบบบนั ทกึ การจด

ความคดิ เหน็ ตอ่ ขอ้ ตกลงในการเรยี น ความรู้ บนั ทกึ

-แบบบนั ทกึ การจด

บนั ทกึ และวาด

ภาพประกอบ

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ(P) สงั เกตจากพฤตกิ รรมในการทางาน -สังเกตจากความตงั้ ใจ -แบบบนั ทกึ การจด

เปน็ รายบคุ คลหรอื เปน็ กลุ่ม และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม บนั ทกึ

ตามขนั้ ตอน -พิจารณาจากการวาด

-สังเกตจากการนาไปใช้ ภาพประกอบ

ในชวี ติ ประจาวนั

เจตคต/ิ คุณลกั ษณะ (A) สงั เกตจากการมเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ การ -สังเกตจากความ -พิจารณาจากการวาด

เรยี น รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทท่ี ี่ ภาพประกอบ

ไดร้ บั มอบหมาย -เกณฑ์คณุ ภาพ ๕ ระดบั

สมรถนะของผเู้ รยี น (C) มคี วามสามารถในการสอื่ สาร/คิด/แกไ้ ขปญั หา/การใช้ทกั ษะชวี ติ

๕. กระบวนการการจดั กจิ กรรม / รูปแบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจดั กจิ กรรมการเรยี นร/ู้ แนวทางการเสรมิ แรงหรอื ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น
-วธิ ีสอนแบบสาธติ
เป็นวธิ ีสอนท่ีครูแสดงให้นกั เรียนดแู ละให้ความรู้แกน่ ักเรยี นโดยใช้สื่อการเรียนรู้ท่ีเป็นรูปธรรม และ
ผู้เรียนไดป้ ระสบการณต์ รง การสอนแบบสาธติ แบง่ ออกเปน็ ประเภทตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ผู้สอนเปน็ ผูส้ าธติ ผสู้ อนและ
ผเู้ รยี นรว่ มกนั สาธิต ผูเ้ รยี นสาธิตเปน็ กลุม่ ผเู้ รียนสาธติ เปน็ รายบคุ คล วทิ ยากรเป็นผู้สาธิต และการสาธิตแบบ
เงยี บโดยใหน้ ักเรียนสงั เกตเอง

๖. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
๑. (ปฐมนเิ ทศและขอ้ ตกลงในการเรยี นการสอน)
๑.ครสู รา้ งบรรยากาศและสง่ิ แวดลอ้ มในการเรยี นรทู้ เ่ี หมาะสมเพอื่ กระตนุ้ ใหน้ กั เรยี นอยากเรยี นรู้ อาจจะนา

นกั เรยี นศกึ ษานอกหอ้ งเรยี น เชน่ สนามหญา้ ใตต้ น้ ไม้ หอ้ งศิลปะ เปน็ ตน้
๒.ครูแนะนาตนเอง แลว้ ใหน้ กั เรยี นแนะนาตนเองตามลาดบั ตวั อกั ษร ตามลาดบั เลขท่ี หรอื ทน่ี ง่ั ตามความ

เหมาะสม
๓.ครใู หค้ วามรทู้ วั่ ๆ ไปเกยี่ วกบั การเรยี นรศู้ ิลปะทศั นศิลป์ พรอ้ มกับซกั ถามในประเดน็ ตา่ ง ๆ
๔.ครูแจง้ ใหน้ กั เรยี นทราบวา่ การตดั สนิ ผลการเรยี น นกั เรยี นจะตอ้ งมเี วลาเรยี นไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๘๐ของ

เวลาเรยี นทง้ั หมด
๕.ควรเขา้ หอ้ งเรยี นตรงตอ่ เวลา และรกั ษามารยาทในการเรยี น
๖.ในชวั่ โมงทมี่ กี ารปฏิบตั กิ จิ กรรม ควรเตรยี มวสั ดุ อุปกรณแ์ ละเครอื่ งมอื ใหพ้ รอ้ ม
๗.รบั ผดิ ชอบการเรยี น การสรา้ งชน้ิ งาน และการสง่ งานตามทกี่ าหนด
๘.ครูแนะนาสอ่ื การเรยี นรแู้ ละแหลง่ การเรยี นรทู้ ่ีจะใชป้ ระกอบในการเรยี นการสอน เชน่ หนงั สอื เรยี น หอ้ งสมดุ

ในโรงเรยี น หอ้ งศลิ ปะ หอ้ งสบื คน้ ตา่ ง ๆ ดสู อ่ื การเรยี นการสอนในหอ้ งเรยี นศลิ ปะ เปน็ ตน้
๑.๑ ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น ( ๑ ชวั่ โมง )
-ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเพอื่ ประเมนิ ความรเู้ บอ้ื งตน้
-ครูถามคาถามนกั เรยี นใหช้ ว่ ยกนั ตอบตามประสบการณ์ของตวั เอง เพอื่ ประเมนิ ความรกู้ อ่ นเรยี น
๒. ขนั้ สอน ( ๑๐ ชวั่ โมง )
-ครอู ธบิ ายความหมายเรอื่ งของทศั นธาตใุ หน้ กั เรยี นฟงั และอธบิ ายเพม่ิ เติมแยกออกทลี ะประเดน็ ในสว่ นของ
เรอื่ ง จดุ เสน้ รปู รา่ งรปู ทรง ขนาดสดั สว่ น แสงเงา สี พนื้ ทว่ี า่ ง และพนื้ ผวิ พรอ้ มกบั ตง้ั คาถาม และให้
นกั เรยี นตอบตามความร้คู วามเขา้ ใจ /ครพู รอ้ มอธบิ ายเพม่ิ เตมิ
-ครหู ยบิ ผลงานตวั อย่างของศลิ ปนิ หรอื ผลงานรนุ่ พขี่ นึ้ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏบิ ตั ใิ นเรอื่ งของ

ทัศนธาตุเรอ่ื งจดุ พรอ้ มกบั ดสู อ่ื การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็ จานวน ๑ ชว่ั โมง

-ครหู ยบิ ผลงานตวั อย่างของศลิ ปนิ หรอื ผลงานรนุ่ พขี่ นึ้ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏบิ ตั ใิ นเรอื่ งของ
ทัศนธาตุเรอื่ งเสน้ พรอ้ มกบั ดูสอื่ การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็ จานวน ๑ ชว่ั โมง

-ครหู ยบิ ผลงานตวั อย่างของศลิ ปนิ หรอื ผลงานรนุ่ พข่ี น้ึ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏบิ ตั ใิ นเรอื่ งของ
ทัศนธาตเุ รอ่ื งรปู รา่ งรปู ทรง พรอ้ มกบั ดสู อ่ื การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็ จานวน ๑ ชวั่ โมง

-ครหู ยบิ ผลงานตวั อย่างของศลิ ปนิ หรอื ผลงานรนุ่ พขี่ น้ึ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏบิ ตั ใิ นเรอื่ งของ
ทัศนธาตเุ รอ่ื งขนาดสดั สว่ น พรอ้ มกบั ดสู อื่ การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็ จานวน ๑ ชว่ั โมง

-ครหู ยบิ ผลงานตวั อยา่ งของศลิ ปินหรอื ผลงานรนุ่ พขี่ น้ึ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏิบตั ิในเรอ่ื งของ
ทศั นธาตุเรอื่ งแสงเงา พรอ้ มกบั ดสู อ่ื การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็ จานวน ๑ ชว่ั โมง

-ครหู ยบิ ผลงานตวั อยา่ งของศลิ ปนิ หรอื ผลงานรนุ่ พขี่ น้ึ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏิบตั ิในเรอ่ื งของ
ทศั นธาตุเรอื่ งสี พรอ้ มกบั ดูสอื่ การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็ จานวน ๑ ชวั่ โมง

-ครหู ยบิ ผลงานตวั อย่างของศลิ ปนิ หรอื ผลงานรนุ่ พขี่ นึ้ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏิบตั ใิ นเรอ่ื งของ
ทศั นธาตเุ รอ่ื งพนื้ ทว่ี า่ ง พรอ้ มกบั ดสู อ่ื การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็ จานวน ๑ ชวั่ โมง

-ครหู ยบิ ผลงานตวั อยา่ งของศลิ ปนิ หรอื ผลงานรนุ่ พขี่ นึ้ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏิบตั ใิ นเรอื่ งของ
ทศั นธาตเุ รอื่ งพน้ื ผวิ พรอ้ มกบั ดสู อ่ื การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็ จานวน ๑ ชว่ั โมง

๓. ขน้ั สรุป ( ๑ ชว่ั โมง )
-ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั บรรยายสรปุ เรอื่ ง ทัศนธาตุ ซง่ึ มคี วามสาคญั ตอ่ การถา่ ยทอดความคดิ จนิ ตนาการในการ

สร้างสรรคเ์ ปน็ ผลงานทศั นศิลปป์ ระเภทตา่ ง ๆ โดยครคู อยใหค้ วามรเู้ พมิ่ เตมิ ในสว่ นทนี่ กั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจหรอื สรปุ ไมต่ รงกบั
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นไปศกึ ษาคน้ ควา้ เรอ่ื งทัศนธาตุ โดยใหน้ กั เรยี นศกึ ษาขอ้ มูลจากแหลง่ การเรยี นรู้ เชน่
หอ้ งเรยี นศิลปะ หอ้ งสบื คน้ หอ้ งสมดุ เปน็ ตน้

-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทกุ คนลงมอื ปฏบิ ตั งิ านทศั นศลิ ป์ จานวน ๑ ชน้ิ ผลงาน
๔. สอื่ การสอน / แหลง่ เรยี นรู้

๑. ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม
๒. หอ้ งเรยี นศลิ ปะ /หอ้ งสมดุ / หอ้ งสบื คน้
๓. อนิ เทอรเ์ นต็
๔. หนงั สอื เรยี นศลิ ปะ ทัศนศลิ ป์ ม.๑
๕.ภาพวาดผลงานรนุ่ พี่

๕. บนั ทกึ ผลหลงั แผนการจดั การเรยี นรู้

๑. ผลการเรยี นรู้

๑.๑ ดา้ นความรู้ (K)

ตารางที่ ๑ แสดงคา่ รอ้ ยละระดบั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น เรอ่ื ง ...................................................

ระดบั ผลสมั ฤทธิ์ จานวนนกั เรยี น รอ้ ยละ

ดมี าก (๘๐-๑๐๐คะแนน)

ดี (๗๐-๗๙ คะแนน)

พอใช้ (๖๐-๖๙ คะแนน)

ปรบั ปรงุ (๕๐-๕๙ คะแนน)

จากตารางท่ี ๑ พบวา่ นกั เรยี นผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น รอ้ ยละ................อยใู่ นระดบั ..........และ
รองลงมารอ้ ยละ.................อยใู่ นระดบั ...............และพบว่านกั เรยี น....................................................
............................................................................................................................................................

๑.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P )

ตารางที่ ๒ แสดงคา่ รอ้ ยละระดบั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี น เรอื่ ง ..................................................

ระดบั ผลสมั ฤทธ์ิ จานวนนกั เรยี น รอ้ ยละ

ดมี าก (๘๐-๑๐๐คะแนน)

ดี (๗๐-๗๙ คะแนน)

พอใช้ (๖๐-๖๙ คะแนน)

ปรบั ปรงุ (๕๐-๕๙ คะแนน)

จากตารางที่ ๒ พบวา่ นกั เรยี นผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น รอ้ ยละ................อยใู่ นระดบั ..........และ
รองลงมารอ้ ยละ.................อยใู่ นระดบั ................และพบวา่ นกั เรยี น..........................................................
...........................................................................................................................................................

๑.๓ ดา้ นเจตคติ / คณุ ลกั ษณะฯ (A)/ สมรรถนะ (C) เชอ่ื มโยงกบั มาตรฐานหลกั สตู ร

ตารางที่ ๓ แสดงคา่ รอ้ ยละคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เรอ่ื ง ............................................

ระดบั ผลสมั ฤทธิ์ จานวนนกั เรยี น รอ้ ยละ

ดมี าก (๘๐-๑๐๐คะแนน)

ดี (๗๐-๗๙ คะแนน)

พอใช้ (๖๐-๖๙ คะแนน)

ปรบั ปรงุ (๕๐-๕๙ คะแนน)

จากตารางท่ี ๓พบว่านกั เรยี นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ รอ้ ยละ..............อย่ใู นระดบั ............และ
รองลงมารอ้ ยละ.................อยใู่ นระดบั ...............และพบวา่ นกั เรยี น.....................................................

..................................................................................................................................................................
สรุป ผลการใช้แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี …………………………..
๑.นกั เรยี นมผี ลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี นอยใู่ นระดบั ...................
๒.นกั เรยี นมที กั ษะในระดบั ..................
๓.นกั เรยี นมคี ุณลกั ษณะในระดบั ...............

๒.บรรยากาศการเรยี นรู้
.............................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

๓. การปรบั เปลยี่ นแผนการจัดการเรยี นรู้ (ถา้ ม)ี
.............................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

๔. ขอ้ คน้ พบดา้ นพฤตกิ รรมการจดั การเรยี นรู้
.............................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................

๕. อน่ื ๆ....................................................................................................................................................

(หลงั จากจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนจบ ๑ หนว่ ยการเรยี นร)ู้

ปญั หา/สงิ่ ทพี่ ฒั นา / แนวทางแกป้ ญั หา / แนวทางการพฒั นา

ปญั หา/สง่ิ ทพี่ ฒั นา สาเหตขุ องปญั หา/ แนวทางแกไ้ ข/ วธิ แี กไ้ ข/พฒั นา ผลการแกไ้ ข/พฒั นา
สง่ิ ทพี่ ฒั นา พฒั นา

ลงชอ่ื ............................................. ผู้สอน
(นายจรี ชั ญ์ ภกั ด)ี

รบั ทราบผลการดาเนนิ การ

ลงชอ่ื ...............................................
(นายจรี ัชญ์ ภกั ด.ี )

หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

ลงชอื่ ............................................
( นายชาญยทุ ธ สทุ ธธิ รานนท์ )
รองผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ

ลงชอื่ ...........................................
( นายวรี ะ แกว้ กลั ยา )

ผอู้ านวยการโรงเรยี นโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๔๗ จงั หวดั เพชรบรุ ี

๘. ความคดิ เหน็ (ผบู้ รหิ าร / หรอื ผทู้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย)
ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรขู้ อง.................................................แลว้ มีความเหน็ ดงั นี้
๘.๑ เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่
ดมี าก ดี
พอใช้ ตอ้ งปรบั ปรงุ
๘.๒ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรไู้ ดน้ าเอากระบวนการเรยี นรู้
ทเ่ี นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคญั ใชก้ ระบวนการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ที่ยงั ไมเ่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคญั ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป
๘.๓ เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี
นาไปใชส้ อนได้
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนาไปใช้
๘.๔ ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ
.....................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ....................................................................
(นายจรี ชั ญ์ ภกั ด)ี

หวั หนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ
ความคดิ เหน็ ของรองผอู้ านวยการฝา่ ยวชิ าการ

...............................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

ลงชอื่ ............................................
( นายชาญยทุ ธ สทุ ธธิ รานนท์ )

รองผอู้ านวยการกล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ

ความคดิ เหน็ ของผ้อู านวยการโรงเรยี น
...............................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................

ลงชอื่ .............................................
( นายวรี ะ แกว้ กลั ยา )

ผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๔๗ จงั หวดั เพชรบรุ ี

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรอ่ื ง เอกภาพ จานวน ๓ ชว่ั โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕

รายวิชา ทศั นศลิ ป์ รหสั วิชา ศ ๒๑๑๐๑ ครูผสู้ อน นายจรี ชั ญ์ ภกั ดี
_________________________________________________________
สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด (Learning Concepts)
การใชเ้ อกภาพดว้ ยวธิ สี มั ผัส วธิ ที บั ซอ้ น วธิ จี ดั กลมุ่ ในงานทศั นศลิ ป์
สาระที่ ๑ ทัศนศลิ ป์
มาตรฐานท่ี ๑ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ปต์ ามจนิ ตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณค์ ณุ คา่
งานทศั นศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ ชนื่ ชม และประยกุ ต์ใชใ้ น
ชวี ติ ประจาวนั
ตวั ชว้ี ดั ระบแุ ละบรรยายหลกั การออกแบบงานทศั นศลิ ป์ โดยเนน้ ความเปน็ เอกภาพ ความกลมกลนื และความ
สมดุล ( ศ ๑.๑ ม.๑/๒ )

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ( Competency ) คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Desired Characteristics )
๑.ความสามารถในการสอื่ สาร -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคไ์ ดอ้ ย่างมี
๒.ความสามารถในการคดิ ความสุข
๓.ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process ) ทกั ษะการคดิ
ทกั ษะเฉพาะวชิ า -ระดมสมอง
-การคน้ ควา้ ขอ้ มลู
-การฝกึ สงั เกตและลงมอื ปฏบิ ตั ิ -การนาเสนอขอ้ มลู
-การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ -ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ
-การจาแนกประเภท

ความเขา้ ใจทย่ี ง่ั ยนื
-ระบแุ ละบรรยายความหมายของเอกภาพในลกั ษณะต่าง ๆ ได้
-เหน็ คณุ ค่าและประโยชนข์ องเอกภาพในงานทศั นศิลป์
-สรา้ งสรรคเ์ อกภาพในลกั ษณะตา่ ง ๆ กบั ผลงานทศั นศลิ ปไ์ ด้

ความสมั พนั ธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื

-แนวทางบรู ณาการโดยพจิ ารณาเกยี่ วกบั ความสอดคล้องและความเหมาะสม เชน่ การเชอื่ มโยงกบั วชิ าต่าง ๆ ดงั น้ี

ภาษาไทย การอา่ น การเขยี น การสรปุ การบนั ทกึ ขอ้ มลู และการบรรยาย
คณติ ศาสตร์ การจาแนกเรอ่ื งเอกภาพในลกั ษณะตา่ ง ๆ
วทิ ยาศาสตร์ การสงั เกตเรอ่ื งเอกภาพในลกั ษณะตา่ ง ๆ
สงั คมศกึ ษาฯ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามหนา้ ที่ และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเปน็ กลมุ่
สุขศกึ ษาฯ การพฒั นากลา้ มเนอ้ื มอื ในการขูด ขีด ลาก ปฏบิ ตั สิ ร้างสรรคผ์ ลงานทัศนศิลป์
การงานอาชพี ฯ การจดั เตรยี มและดูแล รกั ษาวสั ดอุ ปุ กรณ์
ภาษาตา่ งประเทศ การอ่าน การเขยี นชอื่ ผลงานทศั นศลิ ปแ์ ละชอ่ื ศิลปนิ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒

เรอ่ื ง เอกภาพ เวลา ๓ ชว่ั โมง ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑

__________________________________________________________________________

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรยี นรู้ / การวดั และการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละ สง่ิ ทต่ี อ้ งรแู้ ละปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน / ชนิ้ งาน การวดั ผลและการ

ตวั ชว้ี ดั ประเมนิ ผล

บรรยายความแตกตา่ งและ ผู้เรยี นรอู้ ะไร บรรยายความแตกต่าง -แบบประเมนิ ผล

ความคลา้ ยคลงึ กนั ของงาน ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ และความคล้ายคลงึ กนั ดา้ นความรู้

ทัศนศลิ ปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม กนั ของทศั นธาตใุ นงานทศั นศลิ ปแ์ ละ ของงานทัศนศลิ ปแ์ ละ -แบบบนั ทกึ การจด

โดยใชค้ วามรเู้ รอ่ื งทศั นธาตุ สงิ่ แวดลอ้ ม สง่ิ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรู้ บนั ทกึ และวาด

ผเู้ รยี นทาอะไรได้ เรอ่ื งเอกภาพ ภาพประกอบ

บรรยายความแตกตา่ งและความ -แบบประเมนิ ผล

คลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ปแ์ ละ ดา้ นคณุ ธรรม

สง่ิ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรเู้ รอ่ื ง จรยิ ธรรม และ

เอกภาพเปน็ สือ่ ได้ คา่ นยิ ม

๒. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
๑. ความรู้ (Knowledge)
- ทบทวนความรเู้ รอ่ื งเอกภาพ
- กาหนดความสมั พนั ธแ์ ละความแตกต่างของงานทศั นศลิ ปแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม
- อภปิ รายเกย่ี วกบั ความสมั พนั ธแ์ ละความแตกตา่ งของงานทศั นศลิ ปแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม
- บรรยายและสรปุ ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ปแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ มโยใชค้ วามรู้
เรอื่ งเอกภาพ

๒. ทกั ษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทกั ษะการจาแนกประเภท

๓. สมรรถนะ (Competency)
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
-นกั เรยี นนาความรเู้ รอื่ งเอกภาพ มาบรู ณาการตามหลกั แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งโดยสรา้ งสรรค์ผลงานเพอื่
ใชเ้ ปน็ ของทร่ี ะลกึ ได้ เชน่ การวาดภาพการจัดองคป์ ระกอบศิลป์ ในสว่ นของเรอ่ื งความเปน็ เอกภาพได้ เพอื่ จะ
เปน็ ชน้ิ งานมอบเปน็ ของทร่ี ะลกึ เปน็ ตน้
๓. หลกั ฐานการเรยี นรชู้ นิ้ งานหรอื ภาระงาน (Work)
- การสรา้ งสรรคผ์ ลงานทัศนศิลปด์ ว้ ยเรอ่ื งของความเปน็ เอกภาพ

๔. การวดั และการประเมนิ ผล ( Evaluation )

สงิ่ ทวี่ ดั ผล วธิ วี ดั ผล เครอ่ื งมอื วดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ

ด้านความรู้ (K) สงั เกตจากการถามและการแสดง -แบบประเมนิ ผลดา้ น -แบบบนั ทกึ การจด

ความคิดเหน็ ตอ่ ขอ้ ตกลงในการเรยี น ความรู้ บนั ทกึ

-แบบบนั ทกึ การจด

บนั ทกึ และวาด

ภาพประกอบ

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ(P) สงั เกตจากพฤตกิ รรมในการทางาน -สงั เกตจากความตง้ั ใจ -แบบบนั ทกึ การจด

เปน็ รายบคุ คลหรอื เปน็ กลุ่ม และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม บนั ทกึ

ตามขน้ั ตอน -พจิ ารณาจากการวาด

-สงั เกตจากการนาไปใช้ ภาพประกอบ

ในชวี ติ ประจาวนั

เจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะ (A) สงั เกตจากการมเี จตคตทิ ่ีดตี อ่ การ -สังเกตจากความ -พจิ ารณาจากการวาด

เรยี น รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่ท่ี ภาพประกอบ

ไดร้ บั มอบหมาย -เกณฑ์คณุ ภาพ ๕ ระดบั

สมรถนะของผเู้ รยี น (C) มีความสามารถในการสอ่ื สาร/คิด/แกไ้ ขปญั หา/การใชท้ กั ษะชวี ติ

๕. กระบวนการการจดั กจิ กรรม / รปู แบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจดั กจิ กรรมการเรยี นร/ู้ แนวทางการเสรมิ แรงหรอื ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น
-วธิ ีสอนแบบสาธติ
เปน็ วิธีสอนทค่ี รแู สดงให้นักเรยี นดแู ละใหค้ วามร้แู ก่นักเรียนโดยใช้ส่ือการเรียนรู้ท่ีเป็นรูปธรรม และ
ผู้เรียนไดป้ ระสบการณต์ รง การสอนแบบสาธติ แบง่ ออกเปน็ ประเภทตา่ ง ๆ ได้แก่ ผูส้ อนเปน็ ผสู้ าธติ ผสู้ อนและ
ผ้เู รยี นรว่ มกนั สาธติ ผู้เรียนสาธิตเปน็ กลุ่ม ผู้เรียนสาธติ เป็นรายบคุ คล วิทยากรเป็นผู้สาธติ และการสาธิตแบบ
เงียบโดยให้นักเรยี นสังเกตเอง

๖. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
๑.๑ ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น ( ๑ ชว่ั โมง )
-ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเพอื่ ประเมนิ ความรเู้ บอื้ งตน้
-ครูถามคาถามนกั เรยี นใหช้ ว่ ยกนั ตอบตามประสบการณ์ของตวั เอง เพอ่ื ประเมนิ ความรกู้ อ่ นเรยี น
๒. ขนั้ สอน ( ๑ ชว่ั โมง )
-ครอู ธบิ ายความหมายเรอ่ื งของเอกภาพใหน้ กั เรยี นฟงั และอธบิ ายเพมิ่ เตมิ แยกออกทลี ะประเดน็ ในสว่ นของ
เรอ่ื งความเปน็ เอกภาพดว้ ยวธิ ีสมั ผัส/วธิ ที ับซอ้ น/วธิ จี ดั กลมุ่ พรอ้ มกบั ตงั้ คาถาม และใหน้ กั เรยี นตอบตาม

ความรคู้ วามเข้าใจ /ครพู รอ้ มอธบิ ายเพมิ่ เตมิ
-ครหู ยบิ ผลงานตวั อยา่ งของศลิ ปนิ หรอื ผลงานรนุ่ พขี่ น้ึ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏบิ ตั ิในเรอื่ งของ

เอกภาพ พรอ้ มกบั ดสู อ่ื การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็

๓. ขนั้ สรปุ ( ๑ ชว่ั โมง )
-ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั บรรยายสรปุ เรอื่ ง เอกภาพ ซงึ่ มคี วามสาคญั ตอ่ การถ่ายทอดความคดิ จนิ ตนาการในการ

สรา้ งสรรคเ์ ปน็ ผลงานทศั นศิลป์ประเภทต่าง ๆ โดยครคู อยใหค้ วามรเู้ พมิ่ เตมิ ในสว่ นทนี่ กั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจหรอื สรปุ ไมต่ รงกบั
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นไปศกึ ษาคน้ ควา้ เรอื่ ง เอกภาพ โดยใหน้ กั เรยี นศกึ ษาขอ้ มูลจากแหลง่ การเรยี นรู้ เชน่
หอ้ งเรยี นศิลปะ หอ้ งสบื คน้ หอ้ งสมดุ เปน็ ตน้

-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทกุ คนลงมอื ปฏบิ ัตงิ านทศั นศลิ ป์ จานวน ๑ ชน้ิ ผลงาน
๔. สอื่ การสอน / แหลง่ เรยี นรู้

๑. ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
๒. หอ้ งเรยี นศลิ ปะ /หอ้ งสมดุ / หอ้ งสบื คน้ /อนิ เทอรเ์ นต็
๓. ภาพวาดผลงานรนุ่ พี่
๔. หนงั สอื เรยี นศลิ ปะ ทัศนศลิ ป์ ม.๑

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรอื่ ง ความกลมกลนื จานวน ๓ ชวั่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕

รายวชิ า ทศั นศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ ๒๑๑๐๑ ครผู สู้ อน นายจรี ชั ญ์ ภกั ดี
_________________________________________________________
สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด (Learning Concepts)
การใชค้ วามกลมกลนื ดว้ ยขนาด/ กลมกลนื ดว้ ยเสน้ / กลมกลนื ดว้ ยส/ี กลมกลนื ดว้ ยลกั ษณะผวิ /กลมกลนื จากสงิ่
ท่เี หมอื นกนั ในงานทศั นศลิ ป์
สาระท่ี ๑ ทัศนศลิ ป์
มาตรฐานที่ ๑ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลปต์ ามจนิ ตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คณุ คา่
งานทศั นศิลป์ ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคิดตอ่ งานศิลปะอยา่ งอสิ ระ ชนื่ ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ น
ชวี ติ ประจาวนั
ตวั ชว้ี ดั ระบแุ ละบรรยายหลกั การออกแบบงานทศั นศลิ ป์ โดยเนน้ ความเปน็ เอกภาพ ความกลมกลนื และความ
สมดลุ ( ศ ๑.๑ ม.๑/๒ )

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ( Competency ) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Desired Characteristics )
๑.ความสามารถในการสอ่ื สาร -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคไ์ ดอ้ ย่างมี
๒.ความสามารถในการคดิ ความสขุ
๓.ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process ) ทกั ษะการคดิ
ทกั ษะเฉพาะวชิ า -ระดมสมอง
-การคน้ ควา้ ขอ้ มลู
-การฝกึ สงั เกตและลงมอื ปฏบิ ตั ิ -การนาเสนอข้อมลู
-การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ -ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ
-การจาแนกประเภท

ความเขา้ ใจทยี่ ง่ั ยนื
-ระบแุ ละบรรยายความหมายของความกลมกลนื ในลกั ษณะตา่ ง ๆ ได้
-เหน็ คณุ คา่ และประโยชนข์ องความกลมกลนื ในงานทศั นศลิ ป์
-สรา้ งสรรคค์ วามกลมกลนื ในลกั ษณะตา่ ง ๆ กบั ผลงานทศั นศิลปไ์ ด้

ความสมั พนั ธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ นื่
-แนวทางบรู ณาการโดยพจิ ารณาเกย่ี วกับความสอดคลอ้ งและความเหมาะสม เชน่ การเชอ่ื มโยงกบั วิชาต่าง ๆ ดงั น้ี

ภาษาไทย การอ่าน การเขยี น การสรปุ การบนั ทกึ ขอ้ มลู และการบรรยาย
คณติ ศาสตร์ การจาแนกเรอ่ื งความกลมกลนื ในลกั ษณะตา่ ง ๆ
วทิ ยาศาสตร์ การสงั เกตเรอ่ื งความกลมกลนื ในลกั ษณะตา่ ง ๆ
สงั คมศกึ ษาฯ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามหนา้ ท่ี และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเปน็ กลมุ่
สขุ ศกึ ษาฯ การพฒั นากล้ามเนอ้ื มอื ในการขดู ขีด ลาก ปฏบิ ตั สิ ร้างสรรคผ์ ลงานทัศนศิลป์
การงานอาชพี ฯ การจดั เตรยี มและดแู ล รกั ษาวสั ดอุ ปุ กรณ์
ภาษาต่างประเทศ การอ่าน การเขยี นชอ่ื ผลงานทศั นศลิ ปแ์ ละชอื่ ศิลปนิ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๓

เรอื่ ง ความกลมกลนื เวลา ๓ ชว่ั โมง ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑

__________________________________________________________________________

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรยี นรู้ / การวดั และการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละ สงิ่ ทต่ี อ้ งรแู้ ละปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน / ชน้ิ งาน การวดั ผลและการ

ตวั ชวี้ ดั ประเมนิ ผล

บรรยายความแตกตา่ งและ ผเู้ รยี นรอู้ ะไร บรรยายความแตกตา่ ง -แบบประเมนิ ผล

ความคลา้ ยคลงึ กนั ของงาน ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ และความคลา้ ยคลงึ กนั ดา้ นความรู้

ทัศนศิลปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม กนั ของทศั นธาตใุ นงานทศั นศลิ ปแ์ ละ ของงานทัศนศลิ ปแ์ ละ -แบบบนั ทกึ การจด

โดยใช้ความรเู้ รอื่ งทัศนธาตุ สง่ิ แวดลอ้ ม สงิ่ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรู้ บนั ทกึ และวาด

ผู้เรยี นทาอะไรได้ เรอ่ื งความกลมกลนื ภาพประกอบ

บรรยายความแตกตา่ งและความ -แบบประเมนิ ผล

คลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ปแ์ ละ ดา้ นคณุ ธรรม

สง่ิ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรเู้ รอ่ื งความ จรยิ ธรรม และ

กลมกลนื เปน็ สอ่ื ได้ คา่ นยิ ม

๒. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
๑. ความรู้ (Knowledge)
- ทบทวนความรเู้ รอื่ งความกลมกลนื
- กาหนดความสมั พนั ธแ์ ละความแตกต่างของงานทศั นศลิ ปแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม
- อภิปรายเกย่ี วกบั ความสมั พนั ธแ์ ละความแตกตา่ งของงานทศั นศลิ ปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
- บรรยายและสรปุ ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ปแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ มโยใชค้ วามรู้
เรอื่ งความกลมกลนื

๒. ทกั ษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
- ทักษะการคิดวเิ คราะห์
- ทกั ษะการจาแนกประเภท

๓. สมรรถนะ (Competency)
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
-นกั เรยี นนาความรเู้ รอื่ งความกลมกลนื มาบรู ณาการตามหลกั แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งโดยสรา้ งสรรค์
ผลงานเพอื่ ใชเ้ ปน็ ของทร่ี ะลกึ ได้ เชน่ การวาดภาพการจัดองคป์ ระกอบศลิ ป์ ในสว่ นของเรอ่ื งความกลมกลนื ได้
เพอื่ จะเปน็ ชน้ิ งานมอบเปน็ ของทร่ี ะลกึ เปน็ ตน้
๓. หลกั ฐานการเรยี นรชู้ น้ิ งานหรอื ภาระงาน (Work)
- การสรา้ งสรรค์ผลงานทัศนศลิ ปด์ ว้ ยเรอ่ื งของความกลมกลนื

๔. การวดั และการประเมนิ ผล ( Evaluation )

สงิ่ ทว่ี ดั ผล วธิ วี ดั ผล เครอ่ื งมอื วดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ

ด้านความรู้ (K) สงั เกตจากการถามและการแสดง -แบบประเมนิ ผลดา้ น -แบบบนั ทกึ การจด

ความคิดเหน็ ตอ่ ขอ้ ตกลงในการเรยี น ความรู้ บนั ทกึ

-แบบบนั ทกึ การจด

บนั ทกึ และวาด

ภาพประกอบ

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ(P) สงั เกตจากพฤตกิ รรมในการทางาน -สงั เกตจากความตงั้ ใจ -แบบบนั ทกึ การจด

เปน็ รายบคุ คลหรอื เปน็ กลมุ่ และการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม บนั ทกึ

ตามขนั้ ตอน -พจิ ารณาจากการวาด

-สังเกตจากการนาไปใช้ ภาพประกอบ

ในชวี ติ ประจาวนั

เจตคต/ิ คุณลกั ษณะ (A) สงั เกตจากการมเี จตคตทิ ่ดี ตี อ่ การ -สังเกตจากความ -พิจารณาจากการวาด

เรยี น รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทที่ ี่ ภาพประกอบ

ไดร้ บั มอบหมาย -เกณฑ์คณุ ภาพ ๕ ระดบั

สมรถนะของผเู้ รยี น (C) มคี วามสามารถในการสอื่ สาร/คดิ /แกไ้ ขปญั หา/การใช้ทกั ษะชวี ติ

๕. กระบวนการการจดั กจิ กรรม / รปู แบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจดั กจิ กรรมการเรยี นร/ู้ แนวทางการเสรมิ แรงหรอื ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น
-วธิ ีสอนแบบสาธติ
เป็นวิธสี อนทีค่ รแู สดงให้นกั เรียนดแู ละใหค้ วามรู้แก่นกั เรยี นโดยใช้สื่อการเรียนรู้ที่เป็นรูปธรรม และ
ผเู้ รยี นไดป้ ระสบการณ์ตรง การสอนแบบสาธติ แบง่ ออกเปน็ ประเภทตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ผ้สู อนเปน็ ผูส้ าธติ ผสู้ อนและ
ผู้เรยี นรว่ มกนั สาธิต ผูเ้ รยี นสาธิตเป็นกลมุ่ ผ้เู รยี นสาธติ เปน็ รายบคุ คล วิทยากรเป็นผสู้ าธิต และการสาธติ แบบ
เงยี บโดยใหน้ ักเรยี นสังเกตเอง

๖. กิจกรรมการเรยี นการสอน
๑.๑ ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น ( ๑ ชวั่ โมง )
-ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเพอ่ื ประเมนิ ความรเู้ บอ้ื งตน้
-ครูถามคาถามนกั เรยี นใหช้ ว่ ยกนั ตอบตามประสบการณข์ องตวั เอง เพอื่ ประเมนิ ความรกู้ อ่ นเรยี น
๒. ขนั้ สอน ( ๑ ชว่ั โมง )
-ครอู ธบิ ายความหมายเรอื่ งของความกลมกลนื ใหน้ กั เรยี นฟงั และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ แยกออกทลี ะประเดน็ ในสว่ น

ของเรอื่ งความกลมกลนื ดว้ ยขนาด/เสน้ /ลกั ษณะผวิ /สงิ่ ท่เี หมอื นกนั /และสง่ิ ทค่ี ลา้ ยกนั ในงานทศั นศลิ ป์ พรอ้ มกบั ตง้ั
คาถาม และใหน้ กั เรยี นตอบตามความรคู้ วามเข้าใจ /ครพู รอ้ มอธบิ ายเพม่ิ เตมิ

-ครหู ยบิ ผลงานตวั อยา่ งของศลิ ปนิ หรอื ผลงานรนุ่ พขี่ น้ึ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏิบตั ิในเรอ่ื งของ
ความกลมกลนื ในลกั ษณะตา่ ง ๆ พรอ้ มกบั ดูสอื่ การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็

๓. ขน้ั สรุป ( ๑ ชวั่ โมง )
-ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั บรรยายสรปุ เรอื่ ง ความกลมกลนื ซง่ึ มคี วามสาคญั ตอ่ การถ่ายทอดความคดิ จนิ ตนาการ

ในการสรา้ งสรรค์เปน็ ผลงานทศั นศลิ ปป์ ระเภทตา่ ง ๆ โดยครูคอยใหค้ วามรเู้ พมิ่ เตมิ ในสว่ นทนี่ กั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจหรอื สรปุ ไม่
ตรงกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นไปศกึ ษาคน้ ควา้ เรอ่ื งความกลมกลนื โดยใหน้ กั เรยี นศกึ ษาขอ้ มลู จากแหลง่ การเรยี นรู้
เชน่ หอ้ งเรยี นศิลปะ หอ้ งสืบคน้ หอ้ งสมดุ เปน็ ตน้

-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทกุ คนลงมอื ปฏบิ ัตงิ านทศั นศลิ ป์ จานวน ๑ ชน้ิ ผลงาน
๔. สอ่ื การสอน / แหลง่ เรยี นรู้

๑. ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
๒. หอ้ งเรยี นศลิ ปะ /หอ้ งสมดุ / หอ้ งสบื คน้ /อนิ เทอรเ์ นต็
๓. ภาพวาดผลงานรนุ่ พี่
๔. หนงั สอื เรยี นศลิ ปะ ทศั นศลิ ป์ ม.๑

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ เรอ่ื ง ความสมดลุ จานวน ๓ ชว่ั โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕

รายวชิ า ทศั นศลิ ป์ รหสั วิชา ศ ๒๑๑๐๑ ครูผสู้ อน นายจรี ชั ญ์ ภกั ดี
_________________________________________________________
สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด (Learning Concepts)
การใชค้ วามสมดลุ ในงานทศั นศิลป์
สาระที่ ๑ ทัศนศลิ ป์
มาตรฐานที่ ๑ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลปต์ ามจนิ ตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณค์ ณุ คา่
งานทัศนศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคิดตอ่ งานศิลปะอยา่ งอสิ ระ ชนื่ ชม และประยกุ ตใ์ ช้ใน
ชวี ติ ประจาวนั
ตวั ชวี้ ดั ระบแุ ละบรรยายหลกั การออกแบบงานทศั นศิลป์ โดยเนน้ ความเปน็ เอกภาพ ความกลมกลนื และความ
สมดลุ ( ศ ๑.๑ ม.๑/๒ )

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ( Competency ) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Desired Characteristics )
๑.ความสามารถในการสอื่ สาร -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคไ์ ดอ้ ย่างมี
๒.ความสามารถในการคิด ความสุข
๓.ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต

ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process ) ทกั ษะการคดิ
ทกั ษะเฉพาะวชิ า -ระดมสมอง
-การคน้ ควา้ ขอ้ มลู
-การฝกึ สงั เกตและลงมอื ปฏบิ ตั ิ -การนาเสนอขอ้ มลู
-การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ -ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ
-การจาแนกประเภท

ความเขา้ ใจทย่ี งั่ ยนื
-ระบแุ ละบรรยายความหมายของเอกภาพในลักษณะต่าง ๆ ได้
-เหน็ คณุ ค่าและประโยชนข์ องความสมดุลในงานทัศนศลิ ป์
-สรา้ งสรรคค์ วามสมดุลในลกั ษณะตา่ ง ๆ กบั ผลงานทัศนศลิ ปไ์ ด้

ความสมั พนั ธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ น่ื
-แนวทางบรู ณาการโดยพจิ ารณาเกยี่ วกับความสอดคลอ้ งและความเหมาะสม เชน่ การเชอ่ื มโยงกบั วิชาต่าง ๆ ดงั น้ี

ภาษาไทย การอา่ น การเขยี น การสรปุ การบนั ทกึ ขอ้ มลู และการบรรยาย
คณติ ศาสตร์ การจาแนกเรอื่ งความสมดุลในลกั ษณะตา่ ง ๆ
วทิ ยาศาสตร์ การสงั เกตเรอื่ งความสมดลุ ในลกั ษณะตา่ ง ๆ
สงั คมศกึ ษาฯ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามหนา้ ที่ และการปฏิบตั กิ จิ กรรมเปน็ กลมุ่
สุขศกึ ษาฯ การพฒั นากล้ามเนอ้ื มอื ในการขดู ขีด ลาก ปฏบิ ตั สิ รา้ งสรรค์ผลงานทศั นศิลป์
การงานอาชพี ฯ การจดั เตรยี มและดูแล รกั ษาวสั ดอุ ปุ กรณ์
ภาษาตา่ งประเทศ การอา่ น การเขยี นชอื่ ผลงานทศั นศลิ ปแ์ ละชอ่ื ศลิ ปนิ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๓

เรอื่ ง ความสมดุล เวลา ๓ ชว่ั โมง ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑

__________________________________________________________________________

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรยี นรู้ / การวดั และการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละ สงิ่ ทตี่ อ้ งรแู้ ละปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน / ชน้ิ งาน การวดั ผลและการ

ตวั ชวี้ ดั ประเมนิ ผล

บรรยายความแตกตา่ งและ ผูเ้ รยี นรอู้ ะไร บรรยายความแตกต่าง -แบบประเมนิ ผล

ความคลา้ ยคลงึ กนั ของงาน ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ และความคลา้ ยคลงึ กนั ด้านความรู้

ทศั นศิลปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม กนั ของทศั นธาตใุ นงานทัศนศลิ ปแ์ ละ ของงานทศั นศลิ ป์และ -แบบบนั ทกึ การจด

โดยใชค้ วามรเู้ รอื่ งความ สงิ่ แวดลอ้ ม สง่ิ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรู้ บนั ทกึ และวาด

สมดุล ผู้เรยี นทาอะไรได้ เรอื่ งความสมดลุ ภาพประกอบ

บรรยายความแตกต่างและความ -แบบประเมนิ ผล

คลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ปแ์ ละ ด้านคณุ ธรรม

สงิ่ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรเู้ รอื่ งความ จรยิ ธรรม และ

สมดลุ เปน็ สอ่ื ได้ คา่ นยิ ม

๒. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
๑. ความรู้ (Knowledge)
- ทบทวนความรเู้ รอื่ งความสมดลุ
- กาหนดความสมั พนั ธแ์ ละความแตกต่างของงานทศั นศลิ ปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
- อภปิ รายเกยี่ วกบั ความสมั พนั ธแ์ ละความแตกตา่ งของงานทศั นศลิ ป์และสงิ่ แวดลอ้ ม
- บรรยายและสรปุ ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศิลปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ มโยใชค้ วามรู้
เรอื่ งความสมดลุ

๒. ทกั ษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทกั ษะการจาแนกประเภท

๓. สมรรถนะ (Competency)
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
-นกั เรยี นนาความรเู้ รอ่ื งความสมดุล มาบรู ณาการตามหลกั แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งโดยสรา้ งสรรค์ผลงาน
เพอ่ื ใชเ้ ปน็ ของทรี่ ะลกึ ได้ เชน่ การวาดภาพการจดั องคป์ ระกอบศลิ ป์ ในส่วนของเรอ่ื งความสมดลุ ได้ เพอื่ จะเปน็
ชนิ้ งานมอบเปน็ ของทร่ี ะลกึ เปน็ ตน้
๓. หลกั ฐานการเรยี นรชู้ น้ิ งานหรอื ภาระงาน (Work)
- การสรา้ งสรรคผ์ ลงานทศั นศิลปด์ ว้ ยเรอื่ งของความสมดลุ

๔. การวดั และการประเมนิ ผล ( Evaluation )

สงิ่ ทว่ี ดั ผล วธิ วี ดั ผล เครอื่ งมอื วดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ

ดา้ นความรู้ (K) สงั เกตจากการถามและการแสดง -แบบประเมนิ ผลดา้ น -แบบบนั ทกึ การจด

ความคดิ เหน็ ตอ่ ขอ้ ตกลงในการเรยี น ความรู้ บนั ทกึ

-แบบบนั ทกึ การจด

บนั ทกึ และวาด

ภาพประกอบ

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ(P) สงั เกตจากพฤตกิ รรมในการทางาน -สงั เกตจากความตงั้ ใจ -แบบบนั ทกึ การจด

เปน็ รายบคุ คลหรอื เปน็ กลุ่ม และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม บนั ทกึ

ตามขน้ั ตอน -พิจารณาจากการวาด

-สังเกตจากการนาไปใช้ ภาพประกอบ

ในชวี ติ ประจาวนั

เจตคต/ิ คุณลกั ษณะ (A) สงั เกตจากการมเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ การ -สงั เกตจากความ -พิจารณาจากการวาด

เรยี น รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทท่ี ่ี ภาพประกอบ

ไดร้ บั มอบหมาย -เกณฑค์ ณุ ภาพ ๕ ระดบั

สมรถนะของผเู้ รยี น (C) มีความสามารถในการสอื่ สาร/คดิ /แกไ้ ขปญั หา/การใช้ทกั ษะชวี ติ

๕. กระบวนการการจัดกจิ กรรม / รูปแบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจดั กจิ กรรมการเรยี นร/ู้ แนวทางการเสรมิ แรงหรอื ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น
-วธิ ีสอนแบบสาธติ
เปน็ วิธีสอนทีค่ รแู สดงให้นกั เรียนดแู ละให้ความรแู้ ก่นกั เรยี นโดยใช้ส่ือการเรียนรู้ท่ีเป็นรูปธรรม และ
ผู้เรียนไดป้ ระสบการณต์ รง การสอนแบบสาธติ แบง่ ออกเปน็ ประเภทตา่ ง ๆ ได้แก่ ผสู้ อนเปน็ ผู้สาธติ ผ้สู อนและ
ผ้เู รียนรว่ มกนั สาธิต ผู้เรียนสาธิตเป็นกล่มุ ผู้เรียนสาธิตเปน็ รายบคุ คล วิทยากรเปน็ ผู้สาธติ และการสาธติ แบบ
เงยี บโดยใหน้ กั เรยี นสังเกตเอง

๖. กิจกรรมการเรยี นการสอน
๑.๑ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น ( ๑ ชว่ั โมง )
-ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเพอื่ ประเมนิ ความรเู้ บอ้ื งตน้
-ครูถามคาถามนกั เรยี นใหช้ ว่ ยกนั ตอบตามประสบการณข์ องตวั เอง เพอ่ื ประเมนิ ความรกู้ อ่ นเรยี น
๒. ขน้ั สอน ( ๑ ชว่ั โมง )
-ครอู ธบิ ายความหมายเรอ่ื งของความสมดลุ ใหน้ กั เรยี นฟงั และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ แยกออกทลี ะประเดน็ ในสว่ นของ

เรอื่ งความสมดลุ แบบสองขา้ งเท่ากนั /ความสมดลุ แบบสองข้างไมเ่ ทา่ กนั ในงานทศั นศลิ ป์ พรอ้ มกบั ตงั้ คาถาม และให้
นกั เรยี นตอบตามความรคู้ วามเขา้ ใจ /ครพู รอ้ มอธบิ ายเพมิ่ เตมิ

-ครหู ยบิ ผลงานตวั อย่างของศลิ ปนิ หรอื ผลงานรนุ่ พข่ี น้ึ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏบิ ตั ใิ นเรอื่ งของ
ความสมดลุ ในลกั ษณะตา่ ง ๆ พรอ้ มกบั ดสู อื่ การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็

๓. ขนั้ สรุป ( ๑ ชวั่ โมง )
-ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั บรรยายสรปุ เรอื่ ง ความสมดลุ ซง่ึ มคี วามสาคญั ตอ่ การถา่ ยทอดความคดิ จนิ ตนาการใน

การสรา้ งสรรคเ์ ปน็ ผลงานทศั นศลิ ปป์ ระเภทตา่ ง ๆ โดยครคู อยใหค้ วามร้เู พมิ่ เตมิ ในสว่ นทน่ี กั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจหรอื สรปุ ไม่
ตรงกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นไปศกึ ษาคน้ ควา้ เรอื่ งความสมดลุ โดยใหน้ กั เรยี นศกึ ษาขอ้ มูลจากแหลง่ การเรยี นรู้
เชน่ หอ้ งเรยี นศลิ ปะ หอ้ งสบื คน้ หอ้ งสมดุ เปน็ ตน้

-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทกุ คนลงมอื ปฏบิ ตั งิ านทศั นศลิ ป์ จานวน ๑ ชนิ้ ผลงาน
๔. สอื่ การสอน / แหลง่ เรยี นรู้

๑. ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม
๒. หอ้ งเรยี นศลิ ปะ /หอ้ งสมดุ / หอ้ งสบื คน้ /อนิ เทอรเ์ นต็
๓. ภาพวาดผลงานรนุ่ พ่ี
๔. หนงั สอื เรยี นศลิ ปะ ทัศนศลิ ป์ ม.๑

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรอ่ื ง การเขยี นทัศนยี ภาพ จานวน ๑๐ ชว่ั โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕

รายวิชา ทศั นศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ ๒๑๑๐๑ ครูผสู้ อน นายจรี ชั ญ์ ภกั ดี
_________________________________________________________
สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด (Learning Concepts)
การเขยี นทัศนยี ภาพเปน็ พนื้ ฐานสาคญั ในการเขยี นภาพทวิ ทศั น์ การออกแบบสถาปตั ยกรรม การออกแบบ
ตกแตง่ และการออกแบบผลติ ภณั ฑ์
สาระที่ ๑ ทศั นศลิ ป์
มาตรฐานที่ ๑ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลป์ตามจนิ ตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คณุ คา่
งานทศั นศิลป์ ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคิดตอ่ งานศิลปะอยา่ งอสิ ระ ชนื่ ชม และประยกุ ต์ใชใ้ น
ชวี ติ ประจาวนั
ตวั ชวี้ ดั วาดภาพทศั นยี ภาพแสดงใหเ้ หน็ ระยะไกล-ใกลเ้ ปน็ ๓ มติ ิ ( ศ ๑.๑ ม.๑/๓ )

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ( Competency ) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Desired Characteristics )
๑.ความสามารถในการสอื่ สาร -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคไ์ ดอ้ ยา่ งมี
๒.ความสามารถในการคดิ ความสุข
๓.ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต

ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process ) ทกั ษะการคดิ
ทกั ษะเฉพาะวชิ า -ระดมสมอง
-การคน้ ควา้ ขอ้ มลู
-การฝกึ สงั เกตและลงมอื ปฏบิ ัติ -การนาเสนอขอ้ มลู
-การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ -ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ
-การจาแนกประเภท

ความเข้าใจทยี่ ง่ั ยนื
-อธบิ ายความหมายการเขยี นทศั นยี ภาพได้
-เหน็ ความสาคญั และประโยชนข์ องการเขยี นทัศนยี ภาพ
-วาดภาพทศั นยี ภาพเพอ่ื แสดงระยะไกล-ใกลแ้ ละความลกึ ได้

ความสมั พนั ธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ นื่
-แนวทางบรู ณาการโดยพจิ ารณาเกยี่ วกับความสอดคล้องและความเหมาะสม เชน่ การเชอื่ มโยงกบั วชิ าต่าง ๆ ดงั นี้

ภาษาไทย การอา่ น การเขยี น การสรปุ การบนั ทกึ ขอ้ มลู และการบรรยาย
คณติ ศาสตร์ การจาแนกเรอื่ งการเขยี นทศั นยี ภาพในลกั ษณะตา่ ง ๆ
วทิ ยาศาสตร์ การสงั เกตเรอ่ื งการเขยี นทศั นยี ภาพในลกั ษณะตา่ ง ๆ
สงั คมศกึ ษาฯ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามหนา้ ท่ี และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเปน็ กลมุ่
สขุ ศกึ ษาฯ การพฒั นากล้ามเนอ้ื มอื ในการขดู ขีด ลาก ปฏบิ ตั สิ ร้างสรรคผ์ ลงานทศั นศิลป์
การงานอาชพี ฯ การจดั เตรยี มและดแู ล รกั ษาวสั ดอุ ปุ กรณ์
ภาษาตา่ งประเทศ การอ่าน การเขยี นชอ่ื ผลงานทศั นศลิ ปแ์ ละชอื่ ศลิ ปนิ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๓

เรอ่ื ง การเขยี นทัศนยี ภาพ เวลา ๑๐ ชวั่ โมง ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑

__________________________________________________________________________

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรยี นรู้ / การวดั และการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละ สงิ่ ทตี่ อ้ งรแู้ ละปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน / ชน้ิ งาน การวดั ผลและการ

ตวั ชว้ี ดั ประเมนิ ผล

บรรยายความแตกต่างและ ผู้เรยี นรอู้ ะไร บรรยายความแตกต่าง -แบบประเมนิ ผล

ความคลา้ ยคลงึ กนั ของงาน ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ และความคล้ายคลงึ กนั ด้านความรู้

ทศั นศิลปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม กนั ของการเขยี นทศั นยี ภาพในงาน ของงานทัศนศลิ ปแ์ ละ -แบบบนั ทกึ การจด

โดยใช้ความรเู้ รอ่ื งความ ทศั นศลิ ปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม สงิ่ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรู้ บนั ทกึ และวาด

สมดุล ผู้เรยี นทาอะไรได้ เรอื่ งการเขยี น ภาพประกอบ

บรรยายความแตกต่างและความ ทัศนยี ภาพ -แบบประเมนิ ผล

คลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ปแ์ ละ ด้านคณุ ธรรม

สงิ่ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรเู้ รอ่ื งการ จรยิ ธรรม และ

เขยี นทศั นยี ภาพเปน็ สอื่ ได้ ค่านยิ ม

๒. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
๑. ความรู้ (Knowledge)
- ทบทวนความรเู้ รอื่ งการเขยี นทศั นยี ภาพ
- กาหนดความสมั พนั ธแ์ ละความแตกตา่ งของงานทศั นศิลปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
- อภปิ รายเกย่ี วกบั ความสมั พนั ธแ์ ละความแตกตา่ งของงานทศั นศลิ ปแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม
- บรรยายและสรปุ ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศิลปแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ มโยใชค้ วามรู้
เรอื่ งการเขยี นทศั นยี ภาพ

๒. ทักษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
- ทักษะการคิดวเิ คราะห์
- ทกั ษะการจาแนกประเภท

๓. สมรรถนะ (Competency)
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ

๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
-นกั เรยี นนาความรเู้ รอ่ื งการเขยี นทัศนยี ภาพ มาบรู ณาการตามหลกั แนวคดิ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งโดยสรา้ งสรรค์
ผลงานเพอ่ื ใชเ้ ปน็ ของทร่ี ะลกึ ได้ เชน่ การวาดภาพการจัดองคป์ ระกอบศลิ ป์ ในสว่ นของเรอ่ื งทศั นยี ภาพได้ เพอ่ื
จะเปน็ ชน้ิ งานมอบเปน็ ของทรี่ ะลกึ เปน็ ตน้
๓. หลกั ฐานการเรยี นรชู้ น้ิ งานหรอื ภาระงาน (Work)
- การสร้างสรรคผ์ ลงานทัศนศลิ ปด์ ว้ ยเรอื่ งการเขยี นทศั นยี ภาพ

๔. การวดั และการประเมนิ ผล ( Evaluation )

สงิ่ ทวี่ ดั ผล วธิ วี ดั ผล เครอ่ื งมอื วดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ

ด้านความรู้ (K) สงั เกตจากการถามและการแสดง -แบบประเมนิ ผลดา้ น -แบบบนั ทกึ การจด

ความคดิ เหน็ ตอ่ ขอ้ ตกลงในการเรยี น ความรู้ บนั ทกึ

-แบบบนั ทกึ การจด

บนั ทกึ และวาด

ภาพประกอบ

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ(P) สงั เกตจากพฤตกิ รรมในการทางาน -สงั เกตจากความตงั้ ใจ -แบบบนั ทกึ การจด

เปน็ รายบคุ คลหรอื เปน็ กลมุ่ และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม บนั ทกึ

ตามขน้ั ตอน -พจิ ารณาจากการวาด

-สังเกตจากการนาไปใช้ ภาพประกอบ

ในชวี ติ ประจาวนั

เจตคต/ิ คุณลกั ษณะ (A) สงั เกตจากการมเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ การ -สังเกตจากความ -พิจารณาจากการวาด

เรยี น รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ที ี่ ภาพประกอบ

ไดร้ บั มอบหมาย -เกณฑ์คณุ ภาพ ๕ ระดบั

สมรถนะของผเู้ รยี น (C) มคี วามสามารถในการสอื่ สาร/คดิ /แกไ้ ขปญั หา/การใชท้ กั ษะชวี ิต

๕. กระบวนการการจดั กจิ กรรม / รปู แบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจดั กจิ กรรมการเรยี นร/ู้ แนวทางการเสรมิ แรงหรอื ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น
-วธิ สี อนแบบสาธติ
เป็นวิธสี อนทีค่ รูแสดงให้นักเรียนดูและให้ความรแู้ กน่ กั เรยี นโดยใช้ส่ือการเรียนรู้ท่ีเป็นรูปธรรม และ
ผูเ้ รยี นไดป้ ระสบการณ์ตรง การสอนแบบสาธติ แบง่ ออกเปน็ ประเภทตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ผู้สอนเปน็ ผสู้ าธติ ผู้สอนและ
ผเู้ รียนรว่ มกนั สาธิต ผูเ้ รยี นสาธติ เปน็ กลมุ่ ผู้เรียนสาธิตเป็นรายบุคคล วทิ ยากรเปน็ ผ้สู าธติ และการสาธติ แบบ
เงยี บโดยให้นักเรยี นสังเกตเอง

๖. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
๑.๑ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรยี น ( ๑ ชวั่ โมง )
-ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเพอื่ ประเมนิ ความรเู้ บอ้ื งตน้
-ครถู ามคาถามนกั เรยี นใหช้ ว่ ยกนั ตอบตามประสบการณ์ของตวั เอง เพอื่ ประเมนิ ความรกู้ อ่ นเรยี น
๒. ขน้ั สอน ( ๘ ชว่ั โมง )
-ครอู ธบิ ายความหมายเรอื่ งการเขยี นทศั นยี ภาพ ใหน้ กั เรยี นฟงั และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ แยกออกทลี ะประเดน็ ในสว่ น

ของเรอื่ งการเขยี นทศั นยี ภาพแบบเสน้ ระดบั สายตาหรอื เสน้ ขอบฟา้ / เสน้ จุดรวมสายตาแบบ ๑ จดุ และแบบ ๒ จุดใน
งานทัศนศลิ ป์ พรอ้ มกบั ตงั้ คาถาม และใหน้ กั เรยี นตอบตามความรคู้ วามเขา้ ใจ /ครพู รอ้ มอธบิ ายเพมิ่ เตมิ

-ครหู ยบิ ผลงานตวั อยา่ งของศลิ ปนิ หรอื ผลงานรนุ่ พข่ี นึ้ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏบิ ตั ิในเรอ่ื งการ
เขยี นทศั นยี ภาพในลกั ษณะตา่ ง ๆ พรอ้ มกบั ดสู อื่ การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็

-การเขยี นทศั นยี ภาพแบบเสน้ ระดบั สายตา ทง้ั หมด ๓ ระดบั (๓ ชวั่ โมง)
-การเขยี นทัศนยี ภาพจดุ รวมสายตาแบบ ๑ จดุ (๒ ชว่ั โมง)
-การเขยี นทัศนยี ภาพจดุ รวมสายตาแบบ ๒ จดุ (๓ ชวั่ โมง)

๓. ขนั้ สรปุ ( ๑ ชวั่ โมง )
-ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั บรรยายสรปุ เรอื่ งการเขยี นทศั นยี ภาพ ซง่ึ มคี วามสาคญั ตอ่ การถา่ ยทอดความคิด

จนิ ตนาการในการสรา้ งสรรคเ์ ปน็ ผลงานทศั นศิลปป์ ระเภทตา่ ง ๆ โดยครคู อยใหค้ วามรเู้ พม่ิ เตมิ ในสว่ นทนี่ กั เรยี นไมเ่ ขา้ ใจ
หรอื สรปุ ไมต่ รงกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นไปศกึ ษาคน้ ควา้ เรอื่ งการเขยี นทศั นยี ภาพ โดยใหน้ กั เรยี นศกึ ษาขอ้ มลู จากแหลง่ การ
เรยี นรู้ เชน่ หอ้ งเรยี นศิลปะ หอ้ งสบื คน้ หอ้ งสมดุ เปน็ ตน้

-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทกุ คนลงมอื ปฏบิ ตั งิ านทศั นศลิ ป์ จานวน ๓ ชน้ิ ผลงาน

๔. สอ่ื การสอน / แหลง่ เรยี นรู้
๑. ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มในโรงเรยี น
๒. หอ้ งเรยี นศลิ ปะ /หอ้ งสมดุ / หอ้ งสบื คน้ /อนิ เทอรเ์ นต็
๓. ภาพวาดผลงานรนุ่ พี่
๔. หนงั สอื เรยี นศลิ ปะ ทศั นศลิ ป์ ม.๑

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรอ่ื ง การออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์ จานวน ๓ ชวั่ โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕

รายวิชา ทศั นศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ ๒๑๑๐๑ ครูผสู้ อน นายจรี ชั ญ์ ภกั ดี
_________________________________________________________
สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด (Learning Concepts)
การออกแบบ หมายถงึ การสรา้ งสรรคส์ งิ่ ใหม่ เชน่ การออกแบบรูปภาพ การออกแบบสญั ลกั ษณ์
สาระที่ ๑ ทัศนศลิ ป์
มาตรฐานที่ ๑ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศิลปต์ ามจนิ ตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณค์ ณุ คา่
งานทศั นศิลป์ ถา่ ยทอดความรู้สกึ ความคดิ ตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ ชน่ื ชม และประยกุ ต์ใช้ใน
ชวี ติ ประจาวนั
ตวั ชว้ี ดั ออกแบบรปู ภาพ สญั ลกั ษณ์ หรอื กราฟกิ อน่ื ๆ ในการนาเสนอความคดิ และขอ้ มลู ( ศ ๑.๑ ม.๑/๕ )

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ( Competency ) คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Desired Characteristics )
๑.ความสามารถในการสอื่ สาร -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคไ์ ดอ้ ยา่ งมี
๒.ความสามารถในการคิด ความสุข
๓.ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต

ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process ) ทกั ษะการคดิ
ทกั ษะเฉพาะวชิ า -ระดมสมอง
-การคน้ ควา้ ขอ้ มลู
-การฝกึ สงั เกตและลงมอื ปฏบิ ัติ -การนาเสนอข้อมลู
-การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ -ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ
-การจาแนกประเภท

ความเขา้ ใจทย่ี งั่ ยนื
-อธบิ ายความหมายการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์ได้
-เหน็ ความสาคญั และประโยชนข์ องการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์
-สรา้ งสรรคผ์ ลงานการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณไ์ ด้

ความสมั พนั ธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ นื่
-แนวทางบรู ณาการโดยพจิ ารณาเกยี่ วกบั ความสอดคลอ้ งและความเหมาะสม เชน่ การเชอื่ มโยงกบั วชิ าต่าง ๆ ดงั น้ี

ภาษาไทย การอา่ น การเขยี น การสรปุ การบนั ทกึ ขอ้ มลู และการบรรยาย
คณติ ศาสตร์ การจาแนกเรอื่ งการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์ในลกั ษณะตา่ ง ๆ
วทิ ยาศาสตร์ การสงั เกตเรอื่ งการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์ในลกั ษณะตา่ ง ๆ
สงั คมศกึ ษาฯ การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามหนา้ ที่ และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเปน็ กลมุ่
สขุ ศกึ ษาฯ การพฒั นากลา้ มเนอื้ มอื ในการขดู ขดี ลาก ปฏบิ ตั สิ ร้างสรรค์ผลงานทศั นศิลป์
การงานอาชพี ฯ การจดั เตรยี มและดแู ล รกั ษาวสั ดอุ ปุ กรณ์
ภาษาตา่ งประเทศ การอา่ น การเขยี นชอื่ ผลงานการออกแบบของศลิ ปนิ

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๓

เรอื่ งการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์ เวลา ๓ ชวั่ โมง ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๑

__________________________________________________________________________

๑. เปา้ หมายการเรยี นรู้ / หลกั ฐานการเรยี นรู้ / การวดั และการประเมนิ ผล

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละ สง่ิ ทต่ี อ้ งรแู้ ละปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงาน / ชนิ้ งาน การวดั ผลและการ

ตวั ชวี้ ดั ประเมนิ ผล

บรรยายความแตกต่างและ ผูเ้ รยี นรอู้ ะไร บรรยายความแตกต่าง -แบบประเมนิ ผล

ความคลา้ ยคลงึ กนั ของงาน ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ และความคล้ายคลงึ กนั ด้านความรู้

ทัศนศลิ ปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม กนั ของการเขยี นทศั นยี ภาพในงาน ของงานทัศนศลิ ปแ์ ละ -แบบบนั ทกึ การจด

โดยใชค้ วามรเู้ รอื่ งการ ทัศนศิลปแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม สง่ิ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรู้ บนั ทกึ และวาด

ออกแบบรปู ภาพและ ผู้เรยี นทาอะไรได้ เรอ่ื งการออกแบบ ภาพประกอบ

สญั ลกั ษณ์ บรรยายความแตกตา่ งและความ รปู ภาพและสญั ลกั ษณ์ -แบบประเมนิ ผล

คลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศลิ ปแ์ ละ ด้านคณุ ธรรม

สง่ิ แวดลอ้ มโดยใชค้ วามรเู้ รอื่ งการ จรยิ ธรรม และ

ออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์เปน็ คา่ นยิ ม

สอ่ื ได้

๒. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)
๑. ความรู้ (Knowledge)
- ทบทวนความรเู้ รอ่ื งการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์
- กาหนดความสมั พนั ธแ์ ละความแตกตา่ งของงานทศั นศิลปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
- อภปิ รายเกยี่ วกบั ความสมั พนั ธแ์ ละความแตกตา่ งของงานทศั นศลิ ปแ์ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
- บรรยายและสรปุ ความแตกตา่ งและความคลา้ ยคลงึ กนั ของงานทศั นศิลปแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ มโยใชค้ วามรู้
เรอ่ื งการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์
๒. ทักษะ/กระบวนการ (Skill during the process)
- ทักษะการคิดวเิ คราะห์
- ทกั ษะการจาแนกประเภท
๓. สมรรถนะ (Competency)
๑. ความสามารถในการสอื่ สาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา

๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
-นกั เรยี นนาความรเู้ รอื่ งการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์ มาบรู ณาการตามหลกั แนวคิดของเศรษฐกจิ
พอเพยี งโดยสรา้ งสรรค์ผลงานเพอ่ื ใช้เปน็ การออกแบบสญั ลกั ษณต์ า่ ง ๆ ตามหอ้ งเรยี น อาคารเรียนของโรงเรยี น
ได้ ออกแบบผลิตภณั ฑ์สงิ่ ของผลผลติ จากโรงเรยี นได้ เปน็ ตน้
๓. หลกั ฐานการเรยี นรชู้ น้ิ งานหรอื ภาระงาน (Work)
- การสร้างสรรคผ์ ลงานทศั นศลิ ปด์ ว้ ยเรอื่ งการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์

๔. การวดั และการประเมนิ ผล ( Evaluation )

สงิ่ ทว่ี ดั ผล วธิ วี ดั ผล เครอ่ื งมอื วดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ

ด้านความรู้ (K) สงั เกตจากการถามและการแสดง -แบบประเมนิ ผลดา้ น -แบบบนั ทกึ การจด

ความคดิ เหน็ ตอ่ ขอ้ ตกลงในการเรยี น ความรู้ บนั ทกึ

-แบบบนั ทกึ การจด

บนั ทกึ และวาด

ภาพประกอบ

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ(P) สงั เกตจากพฤตกิ รรมในการทางาน -สังเกตจากความตง้ั ใจ -แบบบนั ทกึ การจด

เปน็ รายบคุ คลหรอื เปน็ กลมุ่ และการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม บนั ทกึ

ตามขนั้ ตอน -พิจารณาจากการวาด

-สงั เกตจากการนาไปใช้ ภาพประกอบ

ในชวี ติ ประจาวนั

เจตคต/ิ คณุ ลกั ษณะ (A) สงั เกตจากการมเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ การ -สังเกตจากความ -พิจารณาจากการวาด

เรยี น รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทท่ี ่ี ภาพประกอบ

ไดร้ บั มอบหมาย -เกณฑค์ ณุ ภาพ ๕ ระดบั

สมรถนะของผเู้ รยี น (C) มีความสามารถในการสอื่ สาร/คิด/แกไ้ ขปญั หา/การใชท้ กั ษะชวี ติ

๕. กระบวนการการจัดกจิ กรรม / รปู แบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจดั กจิ กรรมการเรยี นร/ู้ แนวทางการเสรมิ แรงหรอื ชว่ ยเหลอื นกั เรยี น
-วธิ ีสอนแบบสาธติ
เป็นวธิ สี อนที่ครแู สดงใหน้ ักเรยี นดแู ละใหค้ วามรู้แกน่ กั เรยี นโดยใช้สื่อการเรียนรู้ท่ีเป็นรูปธรรม และ
ผ้เู รียนไดป้ ระสบการณ์ตรง การสอนแบบสาธติ แบง่ ออกเปน็ ประเภทตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ ผสู้ อนเปน็ ผู้สาธติ ผสู้ อนและ

ผูเ้ รยี นรว่ มกนั สาธิต ผ้เู รยี นสาธิตเป็นกลุ่ม ผ้เู รยี นสาธิตเปน็ รายบุคคล วทิ ยากรเป็นผู้สาธิต และการสาธติ แบบ
เงียบโดยให้นักเรยี นสงั เกตเอง

๖. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
๑.๑ ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
-ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเพอื่ ประเมนิ ความรเู้ บอื้ งตน้
-ครถู ามคาถามนกั เรยี นใหช้ ว่ ยกนั ตอบตามประสบการณข์ องตวั เอง เพอ่ื ประเมนิ ความรกู้ อ่ นเรยี น
๒. ขนั้ สอน ( ๓ ชว่ั โมง )
-ครอู ธบิ ายความหมายเรอื่ งการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์ ใหน้ กั เรยี นฟงั และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ แยกออกทลี ะ

ประเดน็ ในสว่ นของเรอื่ งการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์ในงานทศั นศลิ ป์ พรอ้ มกบั ตงั้ คาถาม และใหน้ กั เรยี นตอบ
ตามความรคู้ วามเขา้ ใจ /ครพู รอ้ มอธบิ ายเพม่ิ เตมิ

-ครหู ยบิ ผลงานตวั อยา่ งของศลิ ปนิ หรอื ผลงานรนุ่ พขี่ นึ้ มาพรอ้ มอธบิ ายตวั อยา่ ง ในการลงมอื ปฏบิ ตั ิในเร่ืองการ
ออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์ในลกั ษณะตา่ ง ๆ พรอ้ มกบั ดสู อื่ การเรยี นการสอนทางอนิ เทอรเ์ นต็

-การออกแบบรปู ภาพเหมอื นจรงิ /รปู แบบตดั ทอน/รปู แบบนามธรรม
-การออกแบบสญั ลกั ษณเ์ ครอ่ื งหมายจราจร/สถาบนั /บรษิ ทั /สถานท/ี่ กจิ กรรมตา่ ง ๆ

๓. ขนั้ สรุป ( ๑ ชวั่ โมง )
-ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั บรรยายสรปุ เรอ่ื งการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์ ซง่ึ มคี วามสาคญั ตอ่ การถา่ ยทอด

ความคิดจนิ ตนาการในการสรา้ งสรรคเ์ ปน็ ผลงานทัศนศลิ ปป์ ระเภทตา่ ง ๆ โดยครคู อยใหค้ วามรเู้ พม่ิ เตมิ ในสว่ นทนี่ กั เรยี น
ไมเ่ ขา้ ใจหรอื สรปุ ไมต่ รงกบั จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นไปศกึ ษาคน้ ควา้ เรอื่ งการออกแบบรปู ภาพและสญั ลกั ษณ์ โดยใหน้ กั เรยี นศกึ ษาขอ้ มลู
จากแหลง่ การเรยี นรู้ เชน่ หอ้ งเรยี นศลิ ปะ หอ้ งสบื คน้ หอ้ งสมดุ เปน็ ตน้

-ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทกุ คนลงมอื ปฏบิ ตั งิ านทศั นศลิ ป์ จานวน ๒ ชน้ิ ผลงาน

๔. สอื่ การสอน / แหลง่ เรยี นรู้
๑. ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มในโรงเรยี น
๒. หอ้ งเรยี นศลิ ปะ /หอ้ งสมดุ / หอ้ งสบื คน้ /อนิ เทอรเ์ นต็
๓. ภาพวาดผลงานรนุ่ พี่
๔. หนงั สอื เรยี นศลิ ปะ ทัศนศลิ ป์ ม.๑

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ เรอื่ ง เอกภาพและความกลมกลนื ของเรอื่ งราวในงานปน้ั และงานสอื่ ผสม จานวน ๔ ชว่ั โมง
กลมุ่ สาระการเรยี นรศู้ ลิ ปะ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕
รายวชิ า ทศั นศลิ ป์ รหสั วชิ า ศ ๒๑๑๐๑ ครูผสู้ อน นายจรี ชั ญ์ ภกั ดี
_________________________________________________________

สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด (Learning Concepts)
เอกภาพและความกลมกลนื ของเรอื่ งราวในงานปนั้ และงานสอื่ ผสม

สาระที่ ๑ ทศั นศลิ ป์
มาตรฐานท่ี ๑ สรา้ งสรรคง์ านทศั นศลิ ป์ตามจนิ ตนาการ และความคดิ สรา้ งสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คณุ คา่

งานทศั นศลิ ป์ ถา่ ยทอดความรสู้ กึ ความคิดตอ่ งานศลิ ปะอยา่ งอสิ ระ ชน่ื ชม และประยกุ ต์ใชใ้ น
ชวี ติ ประจาวนั
ตวั ชวี้ ดั รวบรวมงานปน้ั หรอื สอื่ ผสมมาสรา้ งเปน็ เรอื่ งราว ๓ มิติ โดยเนน้ ความเปน็ เอกภาพ ความกลมกลนื และการสอื่
ถงึ เรอ่ื งราวของงาน ( ศ ๑.๑ ม.๑/๔ )

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ( Competency ) คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ( Desired Characteristics )
๑.ความสามารถในการสอื่ สาร -มงุ่ พฒั นาผเู้ รยี นใหม้ คี ุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคไ์ ดอ้ ย่างมี
๒.ความสามารถในการคดิ ความสขุ
๓.ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔.ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต

ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process ) ทกั ษะการคดิ
ทกั ษะเฉพาะวชิ า -ระดมสมอง
-การคน้ ควา้ ขอ้ มลู
-การฝกึ สงั เกตและลงมอื ปฏบิ ตั ิ -การนาเสนอข้อมลู
-การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ -ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละจนิ ตนาการ
-การจาแนกประเภท

ความเขา้ ใจทย่ี งั่ ยนื
-อธบิ ายความหมายในงานปนั้ และงานสอื่ ผสมได้
-เหน็ ความสาคญั และประโยชน์ในงานปนั้ และงานสอื่ ผสม
-สรา้ งสรรคง์ านปนั้ และงานสอ่ื ผสมได้


Click to View FlipBook Version