หน่วยการเรยี นรู้เพอ่ื เสรมิ สรา้ งคุณลกั ษณะ ม.๒
อยอู่ ย่างพอเพียง
ช่อื หนว่ ย : คอมพิวเตอรพ์ ื้นฐานสรา้ งงานอย่างพอเพียง
ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ
ครปู ระจาวชิ า นางสาวสริ ินธร วงศ์สนทิ
โรงเรียนบา้ นหนองแสง อาเภอหนองแสง
สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 2
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน
ผังโครงสร้างหนว่ ยการเรียนรู้เพ่ือเสรมิ สรา้ งคุณลกั ษณะอยู่อย่างพอเพียง
กลมุ่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพ
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ คอมพิวเตอรพ์ ืน้ ฐานสร้างงานอยา่ งพอเพียง ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 3 ชั่วโมง
แผนที่ 1 (1 ช่ัวโมง)
เร่อื ง หลักการทางานของคอมพิวเตอร์
มฐ./ตัวช้วี ัด ง 3.1 ม 1/1
สาระการเรียนรู้ : การทางานของคอมพวิ เตอร์ ประกอบด้วย
หนว่ ยสาคญั 5 หนว่ ย
หนว่ ยการเรียนรู้ : คอมพิวเตอร์พืน้ ฐานสร้างงานอยา่ งพอเพยี ง
( 3 แผน 3 ชัว่ โมง )
สาระสาคัญ : คอมพวิ เตอรเ์ ป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกสช์ นิดหนง่ึ ทมี่ ี
หลักการทางาน 3 ข้ันตอน การทางานของคอมพิวเตอร์ประกอบดว้ ย 5
หนว่ ยสาคญั คอมพวิ เตอรม์ ีบทบาทและมปี ระโยชน์ตอ่ มนุษย์ จงึ มกี าร
จดั กระบวนการเรยี นรู้โดยยึดหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
แผนที่ 2 ( 1 ชั่วโมง) แผนท่ี 3 ( 1 ชั่วโมง)
เร่ือง บทบาทของคอมพิวเตอร์ เรือ่ ง ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
มฐ./ตวั ช้วี ัด ง 3.1 ม 1/1 มฐ./ตวั ชีว้ ัด ง 3.1 ม 1/1
สาระการเรียนรู้ : คอมพิวเตอร์มบี ทบาทในการช่วย สาระการเรียนรู้ : คอมพิวเตอรม์ ีประโยชนโ์ ดย
อานวยความสะดวกในการดาเนนิ กิจกรรมตา่ งๆ และ
ตอบสนอง ความตอ้ งการเฉพาะบุคคลและสงั คมมาก ใชเ้ ปน็ เคร่ืองมือในการทางาน
ขน้ึ
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ภาระงาน/ชิ้นงาน
1. มคี วามสามารถในการสื่อสาร 1.รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 6. มุง่ มั่นในการทางาน 1. สร้างงานนาเสนอ/
2. มีความสามารถในการคดิ งานนาเสนอ Power Point
3. มีความสามารถในการแกป้ ัญหา 2.ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 7. รักความเป็นไทย
4. มีความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
5. มคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 3.มวี นิ ยั 8. มีจิตสาธารณะ
4.ใฝ่เรยี นรู้
5.อยู่อย่างพอเพยี ง
แผ่นที่ 2 ผังภาพการออกแบบการเรยี นร้แู บบย้อนกลับ (Backward Design)
กลุม่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี
แผนการจดั การเรียนรู้ เร่อื ง หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ ระดบั ช้ัน ม.2 เวลา 1 ชวั่ โมง
1. เปา้ หมายการเรียนรู้ 2. หลักฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด ภาระงาน/ชิน้ งาน : สร้างงานนาเสนอ/งานนาเสนอ
ง 3.1 เขา้ ใจ เหน็ คณุ คา่ และใช้กระบวนการเทคโนโลยี Power point
การวัดประเมินผล :
สารสนเทศในการสืบค้นขอ้ มลู
ง 3.1 ม.1/1 อธบิ ายหลักการทางาน บทบาทและประโยชน์ ประเดน็ วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์
ประเมิน
ของคอมพิวเตอร์
สาระสาคัญ ด้าน K ทดสอบ แบบทดสอบ ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 80
คอมพิวเตอร์เปน็ เคร่อื งอเิ ล็กทรอนิกสช์ นิดหนงึ่ ทมี่ หี ลักการ
ทางาน 3 ขัน้ ตอน การทางานของคอมพิวเตอรป์ ระกอบดว้ ย 5 หนว่ ย ด้าน P ประเมนิ แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์
สาคญั คอมพิวเตอรม์ บี ทบาทและมปี ระโยชน์ตอ่ มนษุ ย์ ชิ้นงาน ชิน้ งาน รอ้ ยละ 80
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธิบายหลกั การทางานของคอมพิวเตอรไ์ ด้ถูกต้อง (K) ด้าน A สงั เกต แบบสงั เกต ผา่ นเกณฑ์
2. สามารถสรา้ งงานนาเสนอไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (P) พฤติกรรม พฤติกรรม ร้อยละ 80
3. มเี จตคติทดี่ ใี นการใชค้ อมพวิ เตอรใ์ นการนาเสนองาน (A) การทางาน การทางาน
สาระการเรียนรู้
2
การทางานของคอมพิวเตอรป์ ระกอบด้วย หนว่ ยสาคญั 5 1
หน่วย ได้แก่ หนว่ ยรบั เข้า หน่วยประมวลผลกลาง หนว่ ยความจาหลกั
หน่วยความจารอง และหนว่ ยสง่ ออก ชอ่ื แผน
สมรรถนะสาคัญ หลักการทางานของคอมพิวเตอร์
1. ความสามารถในการสอื่ สาร : การพูด อธิบาย เสนอความคิดเหน็
2. ความสามารถในการคดิ : คดิ วิเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ตามจนิ ตนาการ 3
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา : แก้ปญั หาในขณะปฏบิ ัติงาน
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ : การทางานรว่ มกนั การยอมรบั 3. กิจกรรมการเรียนรู้
ความคิดเหน็ ของผอู้ ่ืน
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี : การใชค้ อมพวิ เตอรใ์ นการสรา้ ง กิจกรรมการเรียนรู้ :
งานนาเสนอ 1. ศึกษาวิเคราะห์ อธบิ ายหลักการทางานของ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ คอมพิวเตอรด์ ว้ ยกระบวนการกลมุ่
1. มีวินัย : เชือ่ ฟงั คาส่ังสอนของครู ปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บข้อตกลงในการ 2. นกั เรยี นสรา้ งงานนาเสนอด้วยโปรแกรม Power point
ใช้หอ้ งคอมพวิ เตอร์ 3. นักเรยี นนาเสนองาน
2. ใฝ่เรยี นรู้ : กระตอื รือรน้ ในการปฏบิ ัตงิ าน
3. อย่อู ยา่ งพอเพยี ง : รู้จกั วางแผนและประมาณตนในการคิด พดู สอ่ื เรยี นรู้/แหล่งเรียนรู้ : ใบความรู้ หอ้ งปฏิบตั ิการ
ทางานใหเ้ หมาะสมกบั ศักยภาพของตน และทางานบรรลเุ ป้าหมายอย่าง คอมพวิ เตอร์
มีเหตผุ ล
4. ม่งุ ม่ันในการทางาน : มีความมงุ่ ม่นั ต้งั ใจทางานให้บรรลเุ ปา้ หมาย เวลา : 1 ชั่วโมง
กิจกรรมการเรียนรู้เพือ่ เสริมสร้างคณุ ลักษณะอยอู่ ย่างพอเพยี ง
กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี
แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ ระดับชนั้ ม.2 เวลา 1 ชวั่ โมง
1. ครใู ห้นักเรยี นดูภาพของ Bill Gates เพอ่ื รว่ มกันสนทนาถงึ หลกั การทางานของเคร่อื ง Tablet PC ท่ี
บคุ คลท่านนี้ไดใ้ ช้เปน็ เครื่องทางานส่วนตัว ณ ปัจจบุ นั ครูใช้คาถาม Q1
2. นักเรียนศึกษาใบความรู้ พร้อมฟังครูบรรยายเนื้อหาผ่าน Presentation ครใู ช้คาถาม Q2
3. ครูให้นกั เรียนแบง่ กลุ่ม 5 กลุ่ม แลว้ ให้นกั เรียนเขา้ กล่มุ ของตัวเอง รว่ มกนั ตัง้ ช่ือกลมุ่ ครใู หน้ กั เรยี นเข้า
ฐานการเรยี นรู้ ที่มีอยู่ทั้งหมด 5 ฐาน โดยให้เวียนกันเข้าฐาน กลุ่มละ 5 นาที
4. หลงั จากท่นี ักเรยี นได้ศึกษาหลักการทางานของคอมพวิ เตอร์แลว้ ครใู ห้นกั เรียนทาแบบฝกึ หัด
ครูใช้คาถาม Q3
5. เม่อื นักเรียนทาแบบฝึกหดั เสร็จแล้ว ครูใหน้ กั เรียนเปลยี่ นกนั ตรวจแบบฝึกหดั โดยฟังจากท่ีครเู ฉลย
6. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปหลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ ครใู ชค้ าถาม Q4
ชุดคาถามกระต้นุ เพ่ือปลูกฝังหลักคดิ พอเพียง
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพ
แผนการจัดการเรียนรู้ เรอื่ ง หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ ระดบั ช้ัน ม.2 เวลา 1 ช่วั โมง
Q1 คอมพิวเตอร์ทีบ่ ้านของนักเรียนเปน็ เคร่ืองในลกั ษณะใด
Q2 นกั เรียนคดิ วา่ คอมพิวเตอรท์ างานไดเ้ องโดยไมต่ อ้ งมมี นุษย์คอยควบคุมใชห่ รือไม่
Q3 นักเรียนมวี ิธกี ารใชค้ อมพิวเตอร์อย่างไรเพื่อประหยดั พลงั งาน
Q4 ถา้ ปัจจุบันไม่มีคอมพิวเตอรจ์ ะใช้จะมผี ลกระทบต่อความเป็นอยู่ของมนุษยอ์ ย่างไร
แนวทางทคี่ รูนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้จัดการเรยี นรู้
กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี
แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ ระดับชน้ั ม.2 เวลา 1 ช่วั โมง
ครูนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชจ้ ัดการเรียนรู้ ดังนี้
ความรทู้ คี่ รตู ้องมกี ่อนสอน คณุ ธรรมของครใู นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. รักและเมตตาตอ่ ศษิ ย์
1. หลักสูตร มาตรฐานตัวช้ีวัด 2. มีความรับผิดชอบ
3. มีความเสยี สละ
2. หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ 4. มคี วามยุติธรรม
3. เทคนคิ วธิ ีการสอน
4. การวัดผลประเมนิ ผล
5. หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์
ประเดน็ พอประมาณ มีเหตผุ ล มีภมู ิคมุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี
เนื้อหา สอดคล้องกบั มาตรฐานตวั ชวี้ ัดภูมิ บรรลตุ ามมาตรฐานตวั ช้วี ัด วเิ คราะห์ตวั ชวี้ ัด
สังคมของโรงเรียน สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน จดุ ประสงค์การเรียนรสู้ าระ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ การเรียนรู้
เวลา แบง่ เวลาใหเ้ หมาะสมกับเน้ือหา จดั กจิ กรรมใหต้ รงตามเวลา วางแผนในการใชเ้ วลาใน
กจิ กรรม และวัยของผู้เรียน
ครบถว้ น การปฏิบัตงิ านอย่าง
เหมาะสม
การจดั กจิ กรรม ใช้วธิ ีการกลุม่ ให้นักเรยี นพอดีกบั เวลา - นกั เรียนไดเ้ รยี นร้ตู าม สรา้ งข้อตกลงรว่ มกันในการ
ในการเข้าฐานการเรยี นรู้
จดุ ประสงค์การเรียนรทู้ ี่ ทางาน
กาหนด
- เกดิ ความเสมอภาคเทา่ เทียม
กันในห้องเรยี น
ส่อื /อุปกรณ์ เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ใช้งานงา่ ย สามารถเรียนรู้ได้ ตรวจสอบความพร้อมของ
สื่อและโปรเจคเตอร์ทจี่ ะใช้
ในการนาเสนอ
แหลง่ เรียนรู้ ห้องคอมพวิ เตอร์มีความเหมาะสมกบั - ส่งเสรมิ ให้นักเรียนใชแ้ หลง่ วางแผนกาหนดเวลาในการ
ประเมนิ ผล จานวนนักเรียน
เรยี นภายในโรงเรียน ใช้
- เครื่องมือวดั และประเมนิ ผล
เหมาะสมกับกจิ กรรมการเรยี นรู้ - เกิดการเรียนรู้ได้งา่ ยขึ้น
- เคร่ืองมือวดั และประเมินผล
สอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรียนรู้ สะท้อนผลการวดั และ ตรวจสอบการเคร่ืองมือวดั
ประเมินผลตามกิจกรรมการ และประเมนิ ผลสอดคล้อง
เรยี นรู้ ตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้
ผลท่ีจะเกดิ ขนึ้ กับผเู้ รยี นจากการจัดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
กล่มุ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชพี
แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง หลักการทางานของคอมพิวเตอร์ ระดบั ชั้น ม.2 เวลา 1 ช่วั โมง
1. ผเู้ รียนจะไดฝ้ ึกคดิ และฝกึ ปฏิบัติตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ดงั นี้
ความรทู้ ่ีนกั เรียนตอ้ งมกี ่อน คณุ ธรรมของนกั เรยี นทจี่ ะทาให้การเรียนรูส้ าเร็จ
1. หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์ 1. มคี วามซื่อสตั ย์
2. การใชส้ ื่อและอปุ กรณน์ าเสนอ 2. มีความรบั ผดิ ชอบ
3. มีความมุ่งมั่นในการทางาน
พอประมาณ มีเหตผุ ล มีภูมคิ มุ้ กันในตัวทีด่ ี
1. เลือกใช้ฮาร์ดแวรแ์ ละซอฟต์แวร์ 1. ตดั สนิ ใจเลอื กใชค้ อมพิวเตอรแ์ ละ 1. มกี ารวางแผนในการทางานอยา่ งรอบคอบ
ตามความจาเป็น ใชง้ านไมฟ่ มุ่ เฟือย โปรแกรมต่างๆ ไดต้ รงตามการใชง้ าน และเปน็ ระบบ
เสียคา่ ใชจ้ ่ายเกินความจาเป็น 2. ยอมรบั ความคดิ เห็น และ 2. เตรียมพร้อมแกป้ ัญหาท่ีอาจจะเกิดข้นึ ในช่วง
2. แบง่ หนา้ ท่ีการทางานได้ตรงกับ ความสามารถของสมาชกิ ในกลมุ่ ที่สร้างงานและนาเสนองาน
ความสามารถของสมาชิกแตล่ ะคนใน 3. ใชท้ กั ษะการทางานกลุ่ม เพื่อใหภ้ าระ 3. เตรียมพรอ้ มสาหรบั ผลคะแนนทไ่ี ด้จากการ
กลมุ่ ภายใต้เวลาทกี่ าหนด งานบรรลตุ ามเป้าหมาย ตรวจชนิ้ งานของครู
3. ปฏิบัติงานโดยใช้เวลาทีเ่ หมาะสม
กับภาระงาน
2. ผเู้ รียนจะไดเ้ รียนรกู้ ารใช้ชีวิตที่สมดลุ และพรอ้ มรับการเปล่ยี นแปลง 4 มิตติ ามหลกั ปศพพ. ดังน้ี
ดา้ น สมดุลและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในดา้ นต่าง ๆ
องค์ประกอบ วตั ถุ สงั คม สง่ิ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม
- มีความรใู้ นการวางแผนการ - การทางานรว่ มกบั เพือ่ นใน - มคี วามรใู้ นการเลือกใช้ - รู้วฒั นธรรมในการทางาน
ทางานเป็นกลมุ่ กลมุ่ เทคโนโลยเี พ่อื ให้เกดิ รว่ มกบั ผ้อู ่ืน
ความรู้ - มีความรใู้ นเร่อื งการใช้ - แลกเปลย่ี นเรียนรรู้ ่วมกนั ประโยชน์และเหมาะสม - รวู้ ัฒนธรรมในการแบ่งปนั
คอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณอ์ ื่นๆ - รู้ระเบยี บการใช้คอมพิวเตอร์ กบั สภาพแวดลอ้ ม การใช้เทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์
เพือ่ สร้างงาน ร่วมกับผู้อ่ืน - มีความรู้ในการใช้ ในการสร้างงาน
เทคโนโลยอี ยา่ งค้มุ ค่า - รู้มารยาทในการใช้
เทคโนโลยรี ว่ มกับผู้อื่น
- มีทกั ษะในการวางแผนการ - มีทักษะในการทางานรว่ มกับ - มีทักษะในการเลอื กใช้ - ถ่ายทอดวฒั นธรรมในการ
ทักษะ ทางานและการใชอ้ ุปกรณเ์ พื่อให้ ผูอ้ ่นื เทคโนโลยเี พื่อใช้ แบ่งปนั การใชเ้ ทคโนโลยี
เกิดความคมุ้ ค่า - มที ักษะในการทางานอยา่ งเปน็ ประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ ง คอมพิวเตอรใ์ นการสร้างงาน
- มีทักษะในการออกแบบและ ระเบียบแบบแผน เหมาะสมกับ - มมี ารยาทในการใช้
สรา้ งชิ้นงานโดยใชค้ อมพิวเตอร์ - ปฏิบัตติ ามกฎระเบยี บในการ สภาพแวดลอ้ ม เทคโนโลยีร่วมกับผูอ้ น่ื
- มีทักษะในการเลอื กส่ือในการ ใช้คอมพิวเตอรร์ ว่ มกบั ผ้อู ่นื - มที กั ษะในการใช้
นาเสนอ เทคโนโลยอี ยา่ งค้มุ คา่
และประหยดั พลังงาน
- ตระหนักและเหน็ คณุ ค่าของ - มีเจตคติทด่ี ีในการช่วยเหลือ - ตระหนกั และเหน็ - มเี จตคตติ ่อวัฒนธรรมการใช้
คา่ นยิ ม การวางแผนการทางานและการ เกอื้ กูลในการทางานกลมุ่ คุณค่าในการเลือกใช้ เทคโนโลยีร่วมกบั ผู้อื่น
ใชอ้ ุปกรณ์เพื่อใหเ้ กิดความคุ้มคา่ - ตระหนกั และเห็นคณุ คา่ ในการ เทคโนโลยี
- มเี จตคติทดี่ ีต่อการใช้ ใชค้ อมพวิ เตอร์ร่วมกับผ้อู ืน่
คอมพิวเตอรใ์ นการนาเสนองาน
ใบความรู้ท่ี 1 “หลักการทางานของคอมพวิ เตอร์”
คอมพิวเตอร์ เป็นอปุ กรณ์อิเลก็ ทรอนิกสท์ สี่ ามารถเข้าใจคาส่งั รบั ขอ้ มูล
ประมวลผลข้อมลู และให้ผลลัพธ์เป็นสารสนเทศ
ขน้ั ตอนการทางานของ “คอมพวิ เตอร์”
รับข้อมลู (Input) ประมวลผล (Process) แสดงผลข้อมลู (Output)
คุณลกั ษณะของ “คอมพิวเตอร์”
o ความเร็ว
o ความนา่ เชอื่ ถือ
o ความเทีย่ งตรงแมน่ ยา
o จัดเกบ็ ข้อมลู ไดป้ ริมาณมาก
o ความสามารถในการส่ือสารและเครือข่าย
ชนดิ ของ “คอมพิวเตอร์”
๑. ซูเปอรค์ อมพิวเตอร์ (Super Computer) เปน็ คอมพวิ เตอรท์ ี่มปี ระสิทธภิ าพและความสามารถในการ
ทางานสงู มากเปน็ พิเศษ มักใชใ้ นองค์กรขนาดใหญ่ ซเู ปอร์คอมพวิ เตอร์ท่มี คี วามเรว็ มากท่ีสดุ ในโลกในปจั จุบนั คอื IBM’s Blue Gene
๒. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe computer) สามารถประมวลผลด้วยความเรว็ ทส่ี งู มากและมี
หนว่ ยความจาขนาดใหญ่ แตม่ ีประสิทธิภาพด้วยกวา่ ซเู ปอรค์ อมพวิ เตอร์ ตัวอยา่ งองคก์ รท่ใี ช้เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ ได้แก่ บรษิ ัท
ประกันภยั ใชเ้ มนเฟรมคอมพิวเตอรส์ าหรับประมวลผลสารสนเทศเก่ียวกบั ผู้ถือประกนั ซง่ึ มจี านวนเปน็ ลา้ นๆ คน
๓. มนิ ิคอมพวิ เตอร์ (Mini Computer) เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดกลาง (midrange computer) นยิ มใชใ้ น
บริษัทขนาดกลาง หรือตามฝา่ ยตา่ งๆ ของบริษทั ขนาดใหญ่ เชน่ ฝ่ายผลติ ใชม้ นิ คิ อมพวิ เตอรเ์ พ่ือตรวจสอบกรรมวิธีในการผลิตและ
สายงานการประกอบ เป็นตน้
๔. ไมโครคอมพวิ เตอร์ (Micro Computer) เปน็ คอมพวิ เตอรท์ ีม่ ปี ระสทิ ธิภาพน้อยทส่ี ุด แตไ่ ด้รบั ความ
นิยมมากท่ีสดุ และพฒั นาไปเร็วกว่าคอมพิวเตอร์ชนิดอนื่ ๆ ไมโครคอมพิวเตอร์สามารถแบง่ ไดเ้ ปน็ 5 ชนิดย่อย ไดแ้ ก่
4.1) เดสกท์ ็อปคอมพวิ เตอร์
4.2) โน้ตบกุ๊ คอมพวิ เตอร์
4.3) แทบ็ แลต็ พซี ี
4.4) พีดีเอ
4.5) สมารท์ โฟน
ประเภทของ “คอมพิวเตอร์” แบง่ ตามการสรา้ งไดเ้ ป็น 3 ประเภท ไดแ้ ก่
๑. คอมพวิ เตอรช์ นิดดจิ ติ อล (Digital Computer) เป็นเคร่ืองที่มีการคานวณ โดยการนับจานวน
โดยตรง ข้อมลู ท่ีนบั ไดจ้ ะเก็บเปน็ รหสั เลขฐานสอง คอื มเี ลข 0 กับ 1 การประมวลผลจะทางานต่อเนอ่ื งกันไป และมีการเกบ็ บันทึก
ขอ้ มูลไวใ้ หอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งแม่นยา ซง่ึ จะขนึ้ อยกู่ ับงานที่นาไปใช้ด้วย เชน่ ใชใ้ นการจองสายการบิน การควบคมุ การยิงขีปนาวุธ เปน็ ตน้
๒. คอมพวิ เตอร์ชนิดอนาลอก (Analog Computer) เปน็ เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ท่ที างานโดยการรับข้อมลู
แบบวดั จานวนท่ตี อ่ เน่อื งกัน ซึง่ จะนาข้อมลู ท่วี ัดไดม้ าแปลเปน็ ตัวเลข เช่น การวัดอุณหภูมิของอากาศ ผลการวัดจะมคี วามละเอียด
คอ่ นขา้ งมาก จงึ เหมาะกับงานดา้ นวทิ ยาศาสตร์ วิศวกรรม และทางดา้ นคณติ ศาสตร์
๓. คอมพิวเตอร์ชนิดไฮบรดิ จ์ (Hybrid) หรอื คอมพวิ เตอรผ์ สม เปน็ เครื่องคอมพวิ เตอรท์ ี่นาลกั ษณะการทางานแบบ
ดจิ ิตอลและแบบอนาลอกมารวมกนั ลักษณะการทางานของคอมพิวเตอร์แบบนี้จะมีการรบั ข้อมูลเข้าเครอ่ื งหรือมีการ
แสดงผลข้อมูลออกมาอยา่ งต่อเนอื่ งเหมาะกบั งานด้านวิทยาศาสตร์ ฝกึ บนิ วงการแพทย์
การทางานของคอมพิวเตอร์
การทางานของคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย 5 หน่วยสาคญั ได้แก่ หน่วยรบั เขา้ หนว่ ยประมวลผลกลาง หน่วยความจาหลัก
หน่วยความจารอง และหนว่ ยส่งออก
1. หนว่ ยรับข้อมลู (Input Unit)
หน่วยรับขอ้ มูลเป็นส่วนทอ่ี นญุ าตให้ผใู้ ช้ปอ้ นคาส่งั หรือข้อมลู เข้าไปใหค้ อมพิวเตอรป์ ระมวลผล ในปจั จบุ นั
อปุ กรณ์รับข้อมลู มหี ลายชนดิ เช่น คยี บ์ อรด์ เมาส์ ไมโครโฟน สแกนเนอร์ จอยสต๊ิก และเครื่องอา่ นบาร์โค้ด เปน็ ตน้
2. หนว่ ยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU)
หน่วยประมวลผลกลางหรอื ซีพยี ูเป็นหวั ใจของคอมพวิ เตอร์ หรอื เปรียบเสมอื นกบั สมองมนุษยท์ ่ีควบคมุ การ
ทางานทัง้ ระบบ ภายในซพี ยี ปู ระกอบดว้ ยหน่วยยอ่ ย 2 สว่ น คือ
- หนว่ ยคานวณและตรรกะ (Arithmetic and Logical Unit: ALU)
- หนว่ ยควบคมุ (Control Unit)
ซพี ียสู ามารถเรียกได้หลายชอ่ื เชน่ โปรเซสเซอร์ ชปิ ไมโครโปรเซสเซอร์ เปน็ ต้น
3. หน่วยความจา (Memory Unit)
หน่วยความจาหรือหน่วยความจาหลักเป็นพื้นทท่ี ี่ใชจ้ ดั เกบ็ ข้อมลู และคาสัง่ ซึง่ มีอยู่ 2 ชนดิ คอื
รอม (Read Only Memory: ROM) / หน่วยความจาแบบถาวร
แรม (Random Access Memory: RAM) / หน่วยความจาแบบชวั่ คราว
4. หน่วยแสดงผลขอ้ มูล (Output Unit)
หนว่ ยแสดงผลขอ้ มลู คือ ฮารด์ แวร์ท่ีใชแ้ สดงผลลัพธจ์ ากการประมวลผล ไดแ้ ก่ จอภาพ เครอื่ งพิมพ์ ลาโพง
และโปรเจคเตอร์ เป็นตน้
5. หนว่ ยจดั เก็บขอ้ มูล (Storage Unit / Storage Device)
หน่วยจัดเก็บขอ้ มลู หรอื เรยี กวา่ หนว่ ยจัดเกบ็ ขอ้ มลู สารอง มไี วเ้ พอ่ื จดั เกบ็ ข้อมูลและโปรแกรมต่างๆ ไว้
อย่างถาวร เม่อื ต้องการเรยี กใชก้ ส็ ามารถดึงข้อมลู ออกมาใชง้ านได้ ได้แก่ ฮารด์ ดิสก์ แฟลชไดรว์ และซดี รี อม เป็นต้น
ใบความรู้ท่ี 2 เร่ือง บทบาทและประโยชน์ของคอมพวิ เตอร์
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- คอมพวิ เตอร์มีบทบาทในการช่วยอานวยความสะดวกในการดาเนิน
กิจกรรมตา่ งๆ และตอบสนองความต้องการเฉพาะบคุ คลและสงั คมมากขนึ ้
- คอมพวิ เตอร์มีประโยชน์โดยใช้เป็นเคร่ืองมือในการทางาน เชน่
แก้ปัญหา สร้างงาน สร้างความบนั เทงิ ตดิ ตอ่ สอ่ื สาร ค้นหาข้อมลู
1. บทบาทและประโยชน์ของคอมพวิ เตอร์ในชีวติ ประจาวนั
คอมพิวเตอรเ์ ข้ามามีบทบาทและเกี่ยวขอ้ งกบั ชวี ติ ประจาวนั ในหลาย ๆ ด้าน ดงั นี้
1.1 ธรุ กิจทวั่ ไป เช่น นาคอมพิวเตอร์ไปชว่ ยภายในบรษิ ทั ซึ่งในบรษิ ทั เองอาจแยกโครงสรา้ งการทางานออกเป็น
แผนกต่างๆ เชน่ แผนกบคุ ลากร แผนกบัญชี แผนกจดั ซ้ือ สามารถนาคอมพวิ เตอรไ์ ปใช้ในการพมิ พ์จดหมาย
และเอกสาร จัดเก็บประวตั พิ นกั งาน จัดทางบประมาณ และปจั จบุ นั ก็มกี ารนาเครื่องคอมพิวตอร์ Notebook มา
ใชง้ านมากขน้ึ นอกเหลือจากการใชเ้ คร่อื ง Desktop
1.3 ธนาคาร ใชร้ ะบบคอมพวิ เตอรช์ ่วยงานแทบจะครบวงจร ท้งั งานด้านการใหบ้ รกิ ารแกล่ กู คา้ และงานภายใน
ของธนาคารเอง และปจั จุบนั กใ็ ห้บรกิ ารในการทาธรุ กรรมบน Internet มากขนึ้
1.4 ด้านวทิ ยาศาสตร์ นาคอมพวิ เตอรม์ าชว่ ยพฒั นาทฤษฎตี ่าง ๆ ใชแ้ ลกเปลยี่ นข่าวสารระหวา่ งกนั และ
นักวิทยาศาสตรย์ งั ใชค้ อมพวิ เตอรใ์ นการจาลองเหตุการณต์ ่าง ๆ เชน่ ทานายความรนุ แรงของแผน่ ดนิ ไหวทมี่ ี
ผลกระทบตอ่ อาคาร ใชด้ าวเทียมในการสารวจระบบสรุ ิยะจกั วาลเพอ่ื นาขอ้ มลู กลับมายังโลก
1.4 ดา้ นวิศวกรรม ใชใ้ นการประดษิ ฐ์นวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น วศิ วกรรมยานยนต์ก็จะใชค้ อมพิวเตอร์ในการสรา้ ง
แบบจาลองรถยนตร์ นุ่ ต่าง ๆ หรือสร้างแบบจาลอง (Model) สาหรบั ทดสอบการชนและการกระแทก เป็นตน้
1.5 ดา้ นอตุ สาหกรรม ในอุตสาหกรรมการผลติ สามารถใช้หุ่นยนตท์ างานแทนคนสาหรบั งานที่เสย่ี งอนั ตราย เช่น ใช้หุน่ ยนต์พ่น
สี เช่อื ม ตัดส่วนโคง้ ตา่ ง ๆ ของตวั รถยนต์
1.6 ด้านการศึกษา นาคอมพิวเตอร์เขา้ มาชว่ ยงานไดเ้ กอื บทุกดา้ นโดยเฉพาะในเรือ่ งการพฒั นาสื่อการเรียนการสอน
1.7 ดา้ นการแพทย์ ใชใ้ นการวินิจฉัยโรค ผ่าตัด ผลติ อุปกรณด์ า้ นการแพทย์ เป็นต้น
1.8 ดา้ นการทหาร ใชค้ านวณวธิ กี ระสุนของปืนใหญ่ และความแมน่ ยาในการยงิ
1.9 ด้านการบันเทงิ ใช้สร้างโน้ตเพลง ออกแบบตกแตง่ ภาพเสมอื นจริง สรา้ งภาพเคลื่อนไหว สร้างภาพยนตร์ Animation เป็นตน้
1.10สารสนเทศในชวี ติ ประจาวนั ใชใ้ นการค้นหาข้อมูลขา่ วสารทตี่ อ้ งการในแต่ละวนั
1.11 ระบบบา้ นอจั ฉรยิ ะ ระบบภายในบา้ นจะสามารถควบคุมโดยอาศัยคอมพวิ เตอร์ อณุ หภมู ภิ ายในบา้ นจะไดร้ บั การปรบั ให้คงท่ี
ม่านจะปรบั ตามทิศทางของแสง ซึ่งสอดคลอ้ งกบั แสงไฟในบ้าน สามารถ Connect เข้าไปทางานใน Office ไดโ้ ดยผ่านคอมพวิ เตอร์
Network
1.12 การรักษาผปู้ ่วยทาง Internet ผ้ใู หบ้ ริการและผ้ใู ช้บริการอยคู่ นที่กนั เปน็ บริการตรวจสขุ ภาพผ่านระบบเครอื ขา่ ย ใช้กลอ้ ง
Digital และอปุ กรณต์ รวจจับสญั ญาณตา่ ง ๆ เพอ่ื ตรวจอาการผปู้ ว่ ย
1.14 ห้องสมุดในบ้านสามารถใชร้ ะบบ Virtual Library จาลองห้องสมดุ เสมือนจริง เหมอื นยกห้องสมดุ มาไวท้ ีบ่ า้ น
1.15 ชิปสมองเทียม สามารถฝงั ไมโครชปิ เขา้ ไปในสมองมนษุ ย์ทก่ี าลังจะตายใหก้ ลับฟ้นื มาใหม่ ใช้ในการรกั ษา
โรคทางสมองสาหรับผสู้ งู อายุ เช่น อัลโซเมอร์ พาร์กนิ สัน ลมบ้าหมู พัมพาต
ผลกระทบของคอมพวิ เตอร์
2.1 ตอ่ บุคคล
ดา้ นบวก
1. คอมพิวเตอรจ์ ะช่วยคอยสนบั สนุนและตัดสินใจแทนอาจทาใหร้ ูส้ กึ ดีทีง่ านดูงา่ ยขึ้น
2. คอมพิวเตอร์ชว่ ยทางานแทนมนษุ ยไ์ ดห้ ลายด้าน และชว่ ยใหเ้ ข้าถึงขอ้ มูลไดง้ า่ ยในระบบอินเทอรเ์ นต็
3. ในด้านอาชพี และการแข่งขนั ถา้ มีความรดู้ ้านคอมพวิ เตอร์ โอกาสได้งานก็จะสูงข้ึน
ด้านลบ
1.คนจะมคี วามรสู้ กึ โดดเดี่ยวและขาดมนษุ ยสมั พนั ธม์ ากขึน้ เน่ืองจากมี Internet เข้ามาแทนท่กี ารสือ่ การและการทางานในรูป
แบบเดิม
2.ความกังวลในขา่ วสารที่มากเกินไป อาจมีความผดิ หวงั จากคุณภาพของขา่ วสารทไี่ ดร้ บั บน Web site
3.ผลกระทบตอ่ สุขภาพและความปลอดภยั ถ้าใชค้ อมพวิ เตอรเ์ ปน็ เวลานานหลายชั่วโมงอาจทาให้เกดิ ความตงึ เครยี ดต่อรา่ งกาย การ
นัง่ ทางานในท่าเดิมซ้า ๆ ทาใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ สุขภาพ
2.2 ตอ่ สังคม
1. ช่วยส่งเสรมิ งานค้นคว้าดา้ นเทคโนโลยี
2. ช่วยสง่ เสริมดา้ นความสะดวกสบายของมนษุ ย์
3. ช่วยส่งเสรมิ สติปัญญาของมนุษย์
4. ช่วยสง่ เสริมประชาธปิ ไตย
การสญู เสยี ทางดา้ นวัฒนธรรม
วฒั นธรรมทม่ี ีมาต้ังแต่อดตี กับความกา้ วหน้าอยา่ งรวดเร็วของเทคโนโลยสี มัยใหม่ จะคอ่ ย ๆ กลนื วัฒนธรรมความเป็นอยู่
ไปอยา่ งชา้ ๆ เมือ่ เรานาเทคโนโลยนี ัน้ มาใช้ ปจั จุบนั เกดิ ความลม้ เหลวในการพฒั นาซอฟตแ์ วรท์ ี่เหมาะสมกบั การนา
ออกมาใชใ้ หส้ อดคล้องกบั สังคมโดยกว้าง ซึ่งจะนาปญั หาต่าง ๆ มาสู่สังคม
แนหลอ่งกขจ้อามกูลค: อwมwพwิวเ.ตhอttรpจ์ :/ะ/มsผีchลoกoระl.ทoบbทecัง้ ใ.gนoด.t้าhนบ, วhกttแpล:/ะ/ลwบwแลw้ว.nกoา-รpนoาoคrอ.cมoพmิวเ,ตhอtรtม์ oา:/ใ/ชlห้ibร.อืkrบuร.aโิ ภc.คthคอมพวิ เตอร์ใหม่ ๆ
ยงั สง่ ผลกระทบต่อประเทศชาตดิ ้วย เช่น การใช้คอมพิวเตอรต์ ามกระแสแต่ขาดความจรงิ จัง อาจทาใหเ้ สียเงินลงทนุ โดย
เปลา่ ประโยชน์ และขาดดลุ การคา้ ให้กับต่างชาติเพราะต้องนาเข้าสนิ ค้าเหล่านั้น แต่ถ้าหากเราไม่กา้ วตามเทคโนโลยี ก็
อาจสง่ ผลใหเ้ รารไู้ ม่เทา่ ทันประเทศอน่ื ล้าหลงั หรือเปน็ ผู้ดอ้ ยพัฒนาได้เช่นกนั
แบบฝกึ หดั
เรื่อง หลักการทางานของคอมพิวเตอร์
ชอ่ื -สกลุ .................................................................................................. เลขท.่ี .............................ชัน้ .........................
โรงเรียนบ้านหนองแสง อาเภอหนองแสง สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต 2
ตอนที่ 1 ให้นกั เรียนนาความรเู้ รอ่ื งหลักการทางานของคอมพิวเตอร์มาเขยี นเปน็ แผนผังความคิดแสดง
ขน้ั ตอนการทางานของคอมพิวเตอร์ ตกแตง่ ตามจนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์
ของนักเรยี น
คะแนนเตม็ 5 คะแนน คะแนนท่ไี ด้.............................................
แนวทางในการทาแบบฝกึ หัดที่ 1 เรื่อง หลกั การทางานของคอมพิวเตอร์
รับข้อมลู ประมวลผล แสดงผล
(Input) (Process) (Output)
ตอนที่ 2 ใหน้ ักเรียนนาช่ือฮารด์ แวรด์ า้ นขวามอื มาเขยี นลงในหน่วยสาคัญในการทางาน
หน่วยรบั ขอ้ มูล หน่วยความจาหลกั หน่ว
……………………… ………………… ……
……………………… ………………… ……
……………………… ………………… ……
……………………… ……
……………………… หน่วยประมวลผลกลาง ……
……………………… ……
……………………… …………………… ……
……………………… …………………… ……
…………………… ………
…………….............
หนว่ ยความจารอง
…………………
…………………
…………………
นของคอมพวิ เตอรใ์ ห้ถูกต้อง
วยแสดงผลข้อมูล Keyboard ROM
Photo Printer Mouse
…………………… Memory Card Speaker
…………………… Scanner Microphone
…………………… Harddisk CPU
…………………… Touchpad OS
…………………… RAM Flash drive
…………………… Monitor Joystick
…………………… Digital board Trackball
…………………… Barcode reader Mouse pen
………............. คะแนนเต็ม 20 คะแนน
คะแนนท่ไี ด้.....................................................
ลงช่ือผูต้ รวจ....................................................
ใบงาน เรอ่ื ง การนาเสนองานด้วยสอื่ ไอซีที
หัวข้อ บทบาทและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
คาชี้แจง
1. ให้นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ ๆ ละ 5-6 คน (เลือกหวั หนา้ กลุม่ และตั้งชอื่ กลุ่ม)
2. ใหห้ ัวหน้ากลมุ่ มาจับฉลากเลอื กหวั ข้อนาเสนอ ซงึ่ มที งั้ หมด 5 หวั ขอ้ ดังนี้
บทบาทและประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ในดา้ นการศึกษา
บทบาทและประโยชน์ของคอมพวิ เตอร์ในด้านการเมอื งการปกครอง
บทบาทและประโยชน์ของคอมพวิ เตอร์ในดา้ นธรุ กิจและอุตสาหกรรม
บทบาทและประโยชน์ของคอมพวิ เตอร์ในด้านการแพทยแ์ ละการสาธารณสขุ
บทบาทและประโยชนข์ องคอมพวิ เตอร์ในดา้ นสง่ิ แวดลอ้ ม
3. ให้นกั เรยี นเขา้ กลุ่มเพ่ือวางแผนการทางาน แบ่งงาน มอบหน้าที่รบั ผดิ ชอบ และเตรยี ม
นาเสนองานหน้าชัน้ เรยี นด้วยสือ่ ไอซีที ในช่วั โมงถัดไป
4. ให้เวลานาเสนองานกลุ่มละ 7-10 นาที จากนัน้ เตรยี มตอบคาถามจากเพื่อนและครู
5. นกั เรยี นสามารถเลอื กโปรแกรมสาหรับสรา้ งงานนาเสนอไดต้ ามความชอบ ความถนดั หรือ
ความสนใจ
6. กรณีคัดลอกข้อมลู มาจากแหล่งข้อมลู ใด ให้ระบุแหลง่ ข้อมลู น้นั ดว้ ยทุกครั้ง เช่น หาข้อมูล
มาจากเวบ็ ไซตข์ องกระทรวงไอซที ี ใหร้ ะบแุ หลง่ ขอ้ มูลเปน็ www.mict.go.th
7. ให้นักเรยี นยึดหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการทางาน
“งานกลุ่ม เราต้องช่วยกันนะ”
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ช่ืองาน ........................................................................................................
เกณฑ์การประเมนิ
1.ใฝร่ เู้ รียนรู้ 2 .อยู่อยา่ งพอเพียง 3.มุ่งมนั่ ในการทางาน
เลขที่ 1.1 1.2 2.1 2.2 3.1 3.2 คะแนน
ชื่อ – สกุล ตั้งใจเรยี น แสวงหา พอประมาณ มีภูมิคมุ้ กนั ตงั้ ใจ เพยี ร
ความรู้ ทางาน พยายาม
432143214321432143214321
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
ลงชอ่ื .........................................................ผปู้ ระเมนิ
(นางสาวสิรินธร วงศ์สนทิ )
เกณฑก์ ารประเมนิ ปรับปรงุ
0 – 10 คะแนน พอใช้
11 – 15 คะแนน ดี
16 – 20 คะแนน ดีมาก
21 – 28 คะแนน
เกณฑ์การประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ตัวช้ีวัด เกณฑก์ ารประเมนิ
1. ใฝเ่ รยี นรู้ 4 32 1
1.1 ตงั้ ใจ เพียร
พยายาม ในการ เขา้ เรียนตรงเวลาตั้งใจเรียน เขา้ เรยี นตรงเวลาตัง้ ใจ เข้าเรยี นตรงเวลา ตั้งใจ ไม่ต้งั ใจเรยี น
เรียนและเขา้ รว่ ม เอาใจใสแ่ ละมคี วามเพยี ร
กจิ กรรม พยายามในการเรียนรู้ มสี ่วน เรยี น เอาใจใส่และมีความ เรียน เอาใจใส่ในการเรยี น ไม่ศึกษาคน้ ควา้ หา
ร่วมในการเรยี นรู้ และเขา้ รว่ ม ความรู้
1.2 แสวงหา กิจกรรมการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ ทง้ั เพียรพยายามในการ มสี ว่ นร่วมในการเรียนรู้
ความร้จู ากแหลง่ ภายในและภายนอกโรงเรยี น
เรียนรู้ ตา่ ง ๆ ทัง้ เปน็ ประจา เรยี นรมู้ สี ่วนร่วมในการ และเขา้ รว่ ม
ภายในและ
ภายนอกโรงเรยี น ศกึ ษาค้นควา้ หาความรจู้ าก เรียนรู้ และเขา้ ร่วม กจิ กรรมการเรยี นรู้
ด้วยการเลือกใช้ หนังสือเอกสาร สง่ิ พมิ พ์ สือ่
ส่อื อยา่ ง เทคโนโลยี และสารสนเทศ กิจกรรมการเรยี นรตู้ ่าง ๆ ตา่ ง ๆ เป็นบางครง้ั
เหมาะสม สรุป แหล่ง
เปน็ องคค์ วามรู้ เรียนรู้ทง้ั ภายในและภายนอก บอ่ ยครั้ง
สามารถนาไปใช้ โรงเรียน เลอื กใชส้ ื่อไดอ้ ย่าง
ในชีวิตประจาวนั เหมาะสมมีการบนั ทกึ ความรู้ ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ ศึกษาคน้ ควา้ ความรจู้ าก
ได้ วเิ คราะห์ข้อมูล
สรุปเป็นองคค์ วามรแู้ ละ จากหนงั สือ เอกสาร หนงั สือ เอกสารส่งิ พมิ พ์
แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ ด้วยวิธีการ
ท่ีหลากหลาย และนาไปใช้ใน สงิ่ พมิ พ์ สื่อเทคโนโลยแี ละ ส่ือเทคโนโลยี แหล่งเรียนรู้
ชวี ิตประจาวนั ได้
สารสนเทศ แหล่ง ท้ังภายในและภายนอก
เรยี นรู้ ท้ังภายในและ โรงเรยี น เลอื กใชส้ ่อื ได้
ภายนอกโรงเรยี นและ อย่าง
เลอื กใชส้ ือ่ ได้อย่าง เหมาะสม และมกี าร
เหมาะสมมกี ารบนั ทึก บันทึกความรู้
ความรวู้ ิเคราะหข์ ้อมูล
สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ และ
แลกเปลยี่ นเรยี นรกู้ ับผู้อ่ืน
ได้
2.อยู่อยา่ ง ใชท้ รพั ยส์ ินของตนเองและ ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเอง ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเอง ใชเ้ งนิ และของใช้
พอเพยี ง ทรัพยากรของสว่ นรวม อย่าง และทรพั ยากรของ และทรพั ยากรของ ส่วนตวั อย่างไม่
2.1 ดาเนนิ ชีวติ ประหยดั คมุ้ ค่าเกบ็ รักษาดแู ล ส่วนรวม อยา่ งประหยดั ส่วนรวมอย่างประหยดั ประหยดั
อยา่ ง อย่างดี รอบคอบมเี หตุผลไม่ คุ้มคา่ เกบ็ รกั ษาดูแลอย่าง คมุ้ ค่าเก็บรกั ษาดูแลอยา่ ง
พอประมาณ มี เอาเปรียบผูอ้ ่ืน ดรี อบคอบ มีเหตุผลไมเ่ อา ดรี อบคอบมีเหตผุ ล ไมว่ างแผนการ
เหตุผล รอบคอบ ไม่ทาให้ผอู้ ืน่ เดอื ดร้อน และให้ เปรียบผู้อ่ืน และไม่ทาให้ เรียนและการใช้
มคี ณุ ธรรม อภยั เมือ่ ผู้อน่ื ผูอ้ ืน่ ใช้ ความรู้ ขอ้ มลู ชวี ติ ประจาวัน
กระทาผดิ พลาด เดือดร้อน ข่าวสาร ในการวาง
2.2 มภี มู ิคมุ้ กนั แผนการเรยี นการทางาน
ในตัวทีด่ ี ปรับตวั ใช้ ความรู้ ข้อมลู ข่าวสารใน ใช้ ความรู้ ข้อมลู และใชใ้ นชวี ิตประจาวัน
เพือ่ อยใู่ นสังคม การวางแผนการเรียนการ ขา่ วสารในการวาง รบั รกู้ ารเปลย่ี นแปลงของ
ได้อยา่ งมี ทางานและใชใ้ นชวี ิตประจาวัน แผนการเรียนการทางาน ครอบครวั ชมุ ชนและภาพ
ความสุข ยอมรับ การเปล่ยี นแปลงของ และใช้ในชวี ติ ประจาวนั แวดล้อม
ครอบครัว ชมุ ชน สังคม ยอมรับการเปลย่ี นแปลง
สภาพ- ของครอบครัว ชมุ ชน
แวดลอ้ มและปรบั ตวั อยู่ สงั คมและสภาพแวดลอ้ ม
รว่ มกับผู้อน่ื ได้อยา่ งมคี วามสุข
ตวั ชีว้ ัด 4 เกณฑ์การประเมิน 2 1
3
3.มุ่งม่ันในการ ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบในการ ต้ังใจและรับผิดชอบ ต้งั ใจและรบั ผิดชอบ ไม่ต้ังใจปฏบิ ตั ิ
ปฏบิ ัติหนา้ ท่ที ไี่ ด้รับมอบหมาย ในการปฏบิ ัติหนา้ ทท่ี ไ่ี ดร้ บั ในการปฏิบัติหนา้ ทีท่ ี่ไดร้ บั หน้าทีก่ ารงาน
ทางาน
ใหส้ าเรจ็ มกี ารปรับปรงุ และ มอบหมายใหส้ าเรจ็ มีการ มอบหมายใหส้ าเรจ็ มกี าร
3.1ต้ังใจและ พัฒนาการทางานให้ดีขึน้ ดว้ ย ปรับปรงุ และพฒั นาการ ปรบั ปรุงการทางานใหด้ ี
รับผดิ ชอบในการ ตนเอง ทางานใหด้ ีขึ้น ข้นึ
ปฏิบตั หิ น้าท่กี าร
งาน
3.2 ทางานดว้ ย ทางานด้วยความขยันอดทน ทางานดว้ ยความขยนั ทางานด้วยความขยัน ไม่ขยัน อดทน
และพยายามใหง้ านสาเร็จตาม อดทน และพยายาม อดทน และพยายามให้ ในการทางาน
ความเพียร เป้าหมายภายในเวลาที่ ใหง้ านสาเรจ็ ตาม งานสาเรจ็ ตาม
พยายามและ กาหนดไมย่ อ่ ท้อตอ่ ปญั หา เปา้ หมาย ไมย่ ่อท้อ เป้าหมาย และชื่นชม
อดทนเพอ่ื ให้งาน แก้ปัญหาอุปสรรคในการ ต่อปญั หาในการ ผลงานด้วยความ
สาเรจ็ ตาม ทางาน และชนื่ ชมผลงานด้วย ทางาน และชน่ื ชม ภาคภมู ิใจ
เป้าหมาย ความภาคภมู ิใจ ผลงานดว้ ยความ
ภาคภมู ใิ จ
แบบประเมนิ งานนาเสนอ
ช่ืองาน ...................................................................................................................................................................
ชอื่ กลุ่ม.............................................................................................................................กลมุ่ ท.ี่ ............................
ท่ี รายชื่อสมาชิกกลุ่ม กระบวนการ หัวข้อประเมิน การใชเ้ ทคโนโลยี คะแนน
ทางาน เนอ้ื หาความรู้ และการนาเสนอ
1 4321
2 4321 4321
3
4
5
6
7
8
ลงช่ือ.........................................................ผ้ปู ระเมิน
(นางสาวสริ นิ ธร วงศ์สนทิ )
เกณฑ์การประเมนิ ปรับปรุง
0 – 3 คะแนน พอใช้
4 – 6 คะแนน
7 – 9 คะแนน ดี
10 – 12 คะแนน ดีมาก
เกณฑก์ ารประเมินงานนาเสนอ
ตวั ชวี้ ัด เกณฑ์การประเมิน
กระบวนการ
ทางาน 4 32 1
เนอ้ื หาความรู้ มีการวางแผน และแบง่ หนา้ ที่ มีการวางแผน และแบง่ มีการวางแผน และแบ่ง ขาดการวางแผน และแบ่ง
การใช้เทคโนโลยี ในการทางานชดั เจน เป็นระบบ หนา้ ทใี่ นการทางานชัดเจน หน้าทใ่ี นการทางานแต่ หนา้ ท่ใี นการทางานทชี่ ัดเจน
และการนาเสนอ
สมาชกิ ให้ความรว่ มมือและ สมาชิกใหค้ วามรว่ มมือ ไม่ชัดเจน สมาชกิ ให้ สมาชิกให้ความรว่ มมือน้อย
กระตือรือร้นในการทางาน พอสมควรและ ความร่วมมอื บา้ งแต่ไม่ และไม่กระตือรอื ร้นในการ
กระตือรอื ร้นในการทางาน กระตอื รอื ร้นในการ ทางาน
ทางานเทา่ ทีค่ วร
เนื้อหาถกู ต้องสมบรู ณร์ อบคลมุ เนือ้ หาถกู ต้องสมบรู ณ์ เนอื้ หาถูกตอ้ งตามหวั ข้อ เนือ้ หาไมต่ รงตามหัวข้อท่ี
หวั ข้อที่ได้รบั ครอบคลมุ หวั ข้อที่ไดร้ ับ ท่ีไดร้ บั แตข่ าด ได้รับ
ใช้ภาษาถกู ตอ้ งตามหลักไวทยา ใชภ้ าษาบางสว่ นยังไม่ สาระสาคญั บางสว่ น ใชภ้ าษาผดิ หลักไวทยากร
กร ถูกต้องตามหลกั ไวทยากร ใช้ภาษาบางสว่ นยังไม่ ชัดเจนหลายคา
ถกู ตอ้ งตามหลกั ไวทยา
กร
นาเสนองานอยา่ งเป็นระบบ นาเสนองานอย่างเปน็ นาเสนองานอย่างเปน็ นาเสนองานอยา่ งไมเ่ ปน็
ชัดเจน มีความน่าสนใจมาก มี ระบบ ชดั เจน มคี วาม ระบบแตไ่ มช่ ดั เจน มี ระบบ ขาดความน่าสนใจ
ทักษะในการใช้เทคโนโลยี น่าสนใจมาก มีทักษะใน ความนา่ สนใจพอสมควร ขาดทกั ษะในการใช้
นาเสนอไดเ้ ป็นอย่างดเี ยย่ี ม มี การใชเ้ ทคโนโลยนี าเสนอ มที กั ษะในการใช้ เทคโนโลยีนาเสนอ ไม่
การปอ้ งกันและแกป้ ัญหา ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี และสามารถ เทคโนโลยนี าเสนอไดด้ ี สามารถแก้ปญั หาเบ้ืองตน้ ได้
เบื้องต้นได้ แกป้ ญั หาเบื้องต้นได้ พอสมควร และสามารถ
บางสว่ น แกป้ ัญหาเบ้ืองต้นได้
บางสว่ น
แบบประเมินเว็บบอรด์ และแบบฝึกหดั
ชือ่ งาน ........................................................................................................
หัวขอ้ ประเมนิ
เลขที่ ชอื่ – สกุล เว็บบอร์ด แบบฝึกหดั
1 ตอนท่ี 1 ตอนที่ 2 คะแนน
2
3 432143214321
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
ลงชอื่ .........................................................ผปู้ ระเมิน
(นางสาวสริ ินธร วงศส์ นทิ )
เกณฑก์ ารประเมิน
0 – 3 คะแนน ปรบั ปรุง
4 – 6 คะแนน พอใช้
7 – 9 คะแนน ดี
10 – 12 คะแนน ดีมาก
เกณฑ์การประเมินเว็บบอร์ดและแบบฝึกหัด
ตัวชี้วัด เกณฑก์ ารประเมิน
เวบ็ บอรด์
4 321
แบบฝึกหดั
ตอนที่ 1 เข้าไปตอบคาถามในเวบ็ เข้าไปตอบคาถามใน เข้าไปตอบคาถามใน ไม่เขา้ ไปตอบคาถามใน
แบบฝึกหดั บอร์ดและ ตอบคาถาม เว็บบอรด์ ตอบคาถาม เวบ็ บอร์ดตอบคาถาม เวบ็ บอร์ด
ตอนที่ 2
ถกู ต้องตรงประเด็น ทงั้ สองข้อ ตรงประเดน็ ขอ้ ใดขอ้ หน่ึง
ชัดเจนทงั้ สองข้อ ข้อใด
ข้อหนึง่
เขียนแผนผงั ความคดิ ได้ เขยี นแผนผงั ความคดิ เขียนแผนผงั ความคิด เขยี นแผนผังความคดิ
ครบทัง้ สามสว่ นของ ได้ครบท้ังสามสว่ นของ ได้ครบทั้งสามสว่ นของ ไดค้ รบท้ังสามส่วนของ
หลักการทางานของ หลักการทางานของ หลกั การทางานของ หลกั การทางานของ
คอมพิวเตอร์ถูกต้อง คอมพิวเตอร์ถูกต้อง คอมพวิ เตอร์ถูกต้อง คอมพวิ เตอร์แต่
ตามลาดับ ตกแต่งได้ ตามลาดบั มีการ ตามลาดับ แต่ไม่มีการ เรยี งลาดับ ไมถ่ ูกต้อง
สวยงามมคี วามคิด ตกแตง่ บ้าง ตกแต่งใหส้ วยงาม
สร้างสรรค์
เตมิ คาไดถ้ ูกต้องตาม เตมิ คาไดถ้ ูกตอ้ งตาม เติมคาไดถ้ ูกตอ้ งตาม เตมิ คาได้ถูกต้องตาม
ความสมั พันธท์ ง้ั หมด มี ความสมั พันธ์มีคาที่ไม่ ความสมั พันธ์มีคาท่ีไม่ ความสมั พันธม์ ีคาที่ไม่
คาท่ีไมถ่ ูกต้องไมเ่ กนิ 2 ถกู ต้อง 3 – 5 คา ถูกต้อง 5 – 10 คา ถกู ต้องมากกว่า
คา 10 คา
ความเหน็ ของอานวยการ
............................................................................................................................. ...............................................................
.......................................................................................................... ................................................................................ .
................................................................ ................................................................................................................ ............
............................................................................................................................. ...............................................................
ลงชื่อ..................................................
(นายเสง่ยี ม กมลเศษ)
ผอู้ านวยการโรงเรียนบ้านหนองแสง
บนั ทกึ หลังสอน
ผลการเรียนร้ตู ามมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชว้ี ัด
..................................................................................................................................................................... ...........
....................................................................................................................... .........................................................
............................................................................................................................. ...................................................
.................................................................................................................................................. ..............................
.................................................................................................... ............................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
............................................................................................................................... .................................................
................................................................................................................................................................................
ข้อสงั เกต /ข้อค้นพบ
............................................................................................................................. ...................................................
............................................................................................................................. ...................................................
.............................................................................................................................................................. ..................
................................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
........................................................................................................................................... .....................................
ปญั หา/ อุปสรรค
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
............................................................................................................................. ...................................................
................................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปญั หา
........................................................................................... .....................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
............................................................................................................................. ...................................................
................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................................
............................................................................................................................. ...................................................
ลงชอ่ื ................................................ครูผู้สอน
(นางสาวสิรนิ ธร วงศส์ นทิ )
................/...................../...........