ประเพณี
วนั สารทเดอื นสบิ
-ความสาคญั ของประเพณี
-ช่วงเวลาของประเพณี
-สาระสาคญั ของประเพณี
-พิธีกรรมของประเพณี
ความสาคญั ของประเพณี
เป็นความเช่ือของพทุ ธศาสนกิ ชนชาวนครศรีธรรมราช ทเี่ ชอ่ื ว่าบรรพบรุ ุษ
อันได้แก่ ปยู่ ่า ตายาย และญาติพ่ีนอ้ งทล่ี ว่ งลบั ไปแลว้ หากทาความชวั่ จะตกนรก
กลายเป็นเปรต ต้องทนทุกข์ทรมานในอเวจี ตอ้ งอาศยั ผลบญุ ทล่ี กู หลานอทุ ศิ สว่ น
กศุ ลใหแ้ ต่ละปมี ายังชพี ดงั นั้นในวันแรม ๑ ค่าเดอื นสบิ คนบาปทั้งหลายท่เี รียกวา่
เปรตจึงถกู ปลอ่ ยตวั กลับมายงั โลกมนษุ ยเ์ พ่อื มาขอสว่ นบญุ จากลกู หลานญาตพิ น่ี ้อง
และจะกลับไปนรกในวนั แรม ๑๕ ค่า เดอื นสบิ ในโอกาสน้เี องลกู หลานและผ้ยู งั มี
ชีวิตอย่จู ึงนาอาหารไปทาบุญที่วัด เพื่ออุทศิ สว่ นกศุ ลให้แกผ่ ทู้ ่ลี ว่ งลับไปแลว้ เป็น
การแสดงความกตญั ญกู ตเวที
ชว่ งเวลาของประเพณี
ช่วงเวลา ระยะเวลาของการประกอบพิธีสารทเดอื นสิบมีขึน้ ใน
วนั แรม ๑ ค่าถงึ แรม ๑๕ คา่ เดอื นสบิ แต่วนั ท่ชี าวนครศรธี รรมราช
นิยมทาบุญคอื วนั แรม ๑๓-๑๕ ค่า
สาระสาคญั ของประเพณี
ประเพณีสารทเดอื นสิบมีสาระสาคัญหลายประการ ดงั นี้
๑. เปน็ การแสดงความกตัญญูกตเวทตี ่อบรรพบรุ ษุ ทีล่ ่วงลบั ไปแลว้ ที่ไดอ้ บรมเลี้ยงดลู กู หลาน เพอ่ื
ตอบแทนบญุ คุณ ลูกหลานจึงทาบุญอทุ ศิ สว่ นกศุ ลไปให้
๒. เปน็ โอกาสได้รวมญาตทิ ่ีอยู่หา่ งไกล ได้พบปะทาบญุ ร่วมกนั สรา้ งความรกั ใคร่สนิทสนมในหมู่
ญาติ
๓. เป็นการทาบุญในโอกาสทไี่ ด้รับผลผลติ ทางการเกษตรท่เี ร่ิมออกผลเพราะเชอ่ื วา่ เป็นสริ มิ งคลแก่
ตนเองและครอบครวั
๔. ฤดูฝนในภาคใต้จะเร่ิมข้นึ ในปลายเดอื นสบิ พระภกิ ษสุ งฆ์บณิ ฑบาตยากลาบาก ชาวบ้านจึงจัด
เสบียงอาหารนาไปถวายพระในรปู ของหมฺ ฺรบั ให้ทางวดั ได้เก็บรักษาเป็นเสบยี งสาหรบั พระภิกษสุ งฆใ์ นฤดฝู น
พิธีกรรมของประเพณี
พธิ ีกรรมของประเพณีสารทเดอื นสิบ มดี งั นี้
๑. การจัดหมฺ รฺ บั
๒. การยกหมฺ รฺ ับ
๓. การฉลองหฺมฺรับและบงั สกุ ุล
๔. การตั้งเปรต
การจัดหฺมฺรับ
เริ่มในวนั แรม ๑๓ คา่ ชาวบา้ นจะเตรียมซ้อื อาหารแห้ง พชื ผักที่เกบ็ ไวไ้ ด้นาน ข้าวของเคร่ืองใช้ใน
ชีวติ ประจาวนั และขนมที่เป็นสัญลักษณข์ องสารทเดือนสิบ จดั เตรียมใส่หมฺ ฺรบั
การจัดหมฺ ฺรบั คอื การบรรจแุ ละประดบั ดว้ ยส่ิงของ อาหาร ขนมเดอื นสบิ ลงในภาชนะที่เตรยี มไว้ เชน่ ถาด กา
ละมัง เข่ง กระเชอ เปน็ ตน้ ชั้นลา่ งสุดบรรจุอาหารแห้ง ชั้นสองเป็นพืชผกั ทเี่ กบ็ ไว้นาน ชนั้ สามเปน็ ของใชใ้ น
ชวี ิตประจาวนั ข้นั บนสดุ ประดับขนมสญั ลักษณ์เดือนสิบ ได้แก่ ขนมพอง ขนมลา ขนมบา้ ขนมดซี า ขนมแต่ละ
ชนดิ มคี วามหมายดงั นี้
ขนมลา เปน็ เสมือนเส้ือผา้ ทใี่ ห้บรรพบรุ ุษใช้นงุ่ หม่
ขนมพอง เปน็ เสมือนแพทใ่ี ห้บรรพบุรษุ ข้ามห้วงมหรรณพ
ขนมกง เปน็ เสมอื นเครอื่ งประดับ ใชต้ กแตง่ รา่ งกาย
ขนมบ้า เป็นเสมือนเมล็ดสะบา้ ไว้เลน่ ในวนั ตรุษสงกรานต์
ขนมดซี า เป็นเสมอื นเงินตรา ไว้ให้ใช้สอย
การยกหมฺ ฺรบั
ในวนั แรม ๑๔ หรือ ๑๕ คา่ ชาวบา้ นจะยกหมฺ รฺ ับทีจ่ ดั เตรยี มไวไ้ ปวัด และนา
ภัตตาหารไปถวายพระด้วย โดยเลอื กไปวัดทอ่ี ยใู่ กลบ้ า้ นหรือวดั ที่บรรพบุรษุ ของตน
นิยมไป
การฉลองหฺมฺรบั และบังสกุ ุล
เมื่อนาหมรฺ ับไปวัดแล้ว จะมีการฉลองหมฺ รฺ ับ และทาบุญเล้ียงพระเสร็จแล้วจงึ มี
การบงั สุกุล การทาบุญวันน้เี ป็นการส่งบรรพบรุ ษุ และญาติพนี่ ้องให้กลบั ไปยังเมืองนรก
การตง้ั เปรต
เสร็จจากการฉลองหมฺรับและถวายภัตตาหารแล้ว ชาวบา้ นจะนาขนมอีกส่วนหนึ่งไป
วางไว้ตามบรเิ วณลานวดั ขา้ งกาแพงวัด โคนไม้ใหญ่ เรยี กวา่ ตงั้ เปรต เพ่อื แผส่ ่วนกศุ ลเปน็
ทานแกผ่ ้ลู ่วงลบั ทีไ่ มม่ ญี าติ หรอื ญาติไมม่ ารว่ มทาบุญให้ การชิงเปรตจะทาตอนตั้งเปรตเสร็จ
แล้ว เพราะเช่ือว่าถา้ หากใครไดก้ ินของเหลอื จากการเซน่ ไหว้บรรพบรุ ุษ จะได้รับกุศลเปน็ สิริ
มงคลแกต่ นเอง
บางวดั นยิ มสร้างหลาเปรต เพ่ือสะดวกแกก่ ารตั้งเปรต บางวดั สร้างหลาเปรตไวบ้ นเสาสงู
เพยี งเสาเดียว เกลาและชะโลมน้ามันเสาจนลน่ื เม่ือเวลาชงิ เปรตผู้ชนะคอื ผู้ท่สี ามารถปีนไปถงึ
หลาเปรตซ่ึงต้องใชค้ วามพยายามอยา่ งมาก จงึ สนกุ สนานและตนื่ เตน้