The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงการเสริมสร้างทักษะอาชีพสำหรับแม่เลี้ยงเดี่ยวหนองบัวลำภู (2563)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ปิ่นมนัส โคตรชา, 2023-02-26 03:35:41

โครงการเสริมสร้างทักษะอาชีพสำหรับแม่เลี้ยงเดี่ยวหนองบัวลำภู (2563)

โครงการเสริมสร้างทักษะอาชีพสำหรับแม่เลี้ยงเดี่ยวหนองบัวลำภู (2563)

ลำดับที่ ชื่อกิจกรรม วันที่จัดกิจกรรม (วัน/เดือน/ปี) กลุ่มเป้า หมาย วิธีการ 5.3 ก ฝึกอบรม โด มกราคม 256 อาชีพนวดแผน ที่ 4 ต.เมืองใ หนองบัวลำภู โ แผนไทย จำน กิจกรรม 5.4 วิ นางสาวดวงเด แผนไทย ประ สุขภาพตำบล ตำบลโนนทัน หนองบัวลำภู แ วิทยากร บจ.อั 5.5 ส นำข้อเสนอแนะ


43 รดำเนินกิจกรรม อธิบายผลที่เกิดขึ้นจากกิจกรรม ผลผลิต ผลลัพธ์ กำหนดวันจัดกิจกรรม ดยจัดขึ้นในวันที่ 30 64 ณ จุดปักหมุดกลุ่ม นไทย บ้านหนองม่วง หมู่ ใหม่ อ.ศรีบุญเรือง จ. โดยมีกลุ่มเป้าหมายนวด นวน 20 คน เข้าร่วม วิทยากรฝึกอบรม ได้แก่ ดือน ชุมสนาม แพทย์ จำโรงพยาบาลส่งเสริม ลบ้านหนองบัวเหนือ น อำเภอเมือง จังหวัด และนายศักดิ์ชัย อินธิกูด ัตลักษณ์ สรุปผลการฝึกอบรมและ ะ ข้อคิดเห็นของแม่เลี้ยง


ลำดับที่ ชื่อกิจกรรม วันที่จัดกิจกรรม (วัน/เดือน/ปี) กลุ่มเป้า หมาย วิธีการ เดี่ยวนำมาปรั ปรับปรุงในกระ 5.6 จ ดำเนินงานแล ร่วมกัน 6 กิจกรรมที่ 6 กระบวนการ ติดตามและถอดบทเรียน โครงการ 15-25 กุมภาพันธ์ 2564 30 คน การดำเนินกิจก กิจกรรมย่อย ดั 1. กิจกรรมย่อ พัฒนาและทำค กระบวนการ มี ดังนี้ 1.1 จั พัฒนาทักษะอ และเตรียมคว หน้าที่ในการป กุมภาพันธ์ 25 จำกัด อ.นาวัง


44 รดำเนินกิจกรรม อธิบายผลที่เกิดขึ้นจากกิจกรรม ผลผลิต ผลลัพธ์ รับปรุงและพัฒนาเพื่อ ะบวนการต่อไป จัดทำรายงานผลการ ะถอดบทเรียนกิจกรรม กรรม ได้แบ่งออกเป็น 3 ดังนี้ อยที่ 6.1 ประชุมหน่วย ความเข้าใจ มีขั้นตอนการดำเนินงาน ัดประชุมทีมหน่วย าชีพ เพื่อทำความเข้าใจ วามพร้อม มอบหมาย ปฏิบัติงาน เมื่อวันที่ 15 64 ณ บริษัท อัตลักษณ์ จ.หนองบัวลำภู ผลผลิต ผลผลิตจากการ ดำเนินงานกิจกรรมที่ 6 มีดังนี้ 1. รายงานการประชุม คณะทำงาน จำนวน 1 ฉบับ 2. ร า ยงา นกา ร ถอด บทเรียนและสรุปปัญหา จำนวน 1 ฉบับ 3. ร า ย ง า น ผ ล ก า ร วิเคราะห์สภาพจิตใจและ กระบวนการฟื้นฟูจากสห วิชาชีพ จำนวน 1 ฉบับ ผลลัพธ์ ผลลัพธ์จากการ ดำเนินงานกิจกรรมที่ 6 ดังนี้ 1. ผลการดำเนินงาน สามารถสะท้อนภาพปัญหาและ ความสำคัญของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถนำเอาผลลัพธ์ของ กระบวนการแต่ละกิจกรรม นำมาออกแบบกระบวนการ เรียนรู้และพัฒนากลุ่มเป้าหมาย ในระยะต่อไปได้ ซึ่งเป็น ฐานข้อมูลสำคัญในการจัด


ลำดับที่ ชื่อกิจกรรม วันที่จัดกิจกรรม (วัน/เดือน/ปี) กลุ่มเป้า หมาย วิธีการ 1.2 จัด ความอนุเครา กลุ่มเป้าหมายเ 1.3 บัน และประเมินผล 1.4 สรุ ข้อคิดเห็นจากกิ 2. กิจกรรมย่ และประเมิน เยียวยาจิตใจ มีขั้นตอนการดำ 2.1 ปร มอบหมายหน้า 2.2 ติด ปักหมุด สหวิช พื้นที่ ทั้ง 5 ก


45 รดำเนินกิจกรรม อธิบายผลที่เกิดขึ้นจากกิจกรรม ผลผลิต ผลลัพธ์ ดทำเอกสารหนังสือขอ าะห์สถานที่ และเชิญ เข้าร่วมกิจกรรม นทึกผลการดำเนินงาน ลการปฏิบัติงาน รปและรวบรวม กิจกรรม ่อยที่ 6.2 สรุปติดตาม ผลกระบวนการฟื้นฟู จแม่เลี้ยงเดี่ยวและลูก ดำเนินงาน ดังนี้ ระชุมคณะทำงานเพื่อ าที่ ดต่อประสานงานหน่วย ชาชีพ และผู้นำชุมชนใน ลุ่มอาชีพ เพื่อประสาน กระบวนการดูแลสตรีและแม่ เลี้ยงเดี่ยวของจังหวัดต่อไป 2. บทเรียนที่ได้สามารถ เป็นต้นแบบหรือโมเดลในการ ต ่ อ ย อ ด ห ร ือ น ำ ไ ป พ ัฒนา กลุ่มเป้าหมายที่ใกล้เคียงใน พื้นที่อื่น ๆ เพื่อสร้างสังคมแห่ง การเรียนรู้ร่วมกับชุมชนและ หน่วยงานในพื้นที่ และเกิดการ ช่วยเหลือพึ่งพาตนเองได้อย่าง ยั่งยืน


ลำดับที่ ชื่อกิจกรรม วันที่จัดกิจกรรม (วัน/เดือน/ปี) กลุ่มเป้า หมาย วิธีการ การติดตามปร ออฟไลน์ 2.3 ดำ ประเมินผลการ ทางออนไลน์ วันที่ 16-20 กุม 2.4 สรุ 3. กิจกรรมย ปฏิบัติการก เครือข่าย แล โครงการ มีขั้ ดังนี้ 3.1 ป มอบหมายหน้า 3.2 ป วัสดุอุปกรณ์ แ


46 รดำเนินกิจกรรม อธิบายผลที่เกิดขึ้นจากกิจกรรม ผลผลิต ผลลัพธ์ ะเมินทางออนไลน์ และ ำเนินการติดตามและ รฟื้นฟูเยียวยาจิตใจผ่าน และออฟไลน์ ระหว่าง มภาพันธ์ 2564 รปผลการดำเนินงาน ย่อยที่ 6.3 ประชุมเชิง กลุ่มเป้าหมาย ภาคี ะผู้นำชุมชน เพื่อสรุป ั้นตอนการดำเนินงาน ประชุมคณะทำงานเพื่อ าที่ ประสานจัดหาสถานที่ และเอกสารประกอบการ


ลำดับที่ ชื่อกิจกรรม วันที่จัดกิจกรรม (วัน/เดือน/ปี) กลุ่มเป้า หมาย วิธีการ ประชุม เพื่อจ กุมภาพันธ์ 2 เ จ ร ิ ญ อ ำ เ หนองบัวลำภู 3.3 ด เพื่อสรุปบทเรีย ปัญหาจากโครง 3.4 ส รายงานผล 7 กิจกรรมที่ 7 กิจกรรม สนับสนุนการบริหาร จัดการ 1-25 กุมภาพันธ์ 2564 10 คน กิจกรรมมีวิธี ดำเนินงานตาม 1. ประ ตัวแทนแม่เลี้ย เพื่อทบทวนเอ และพัสดุให้ถูก จริง


47 รดำเนินกิจกรรม อธิบายผลที่เกิดขึ้นจากกิจกรรม ผลผลิต ผลลัพธ์ จัดประชุมในวันที่ 25 2564 ณ โรงแรมทรัพย์ ภ อ น า ว ั ง จ ั ง ห วั ด ดำเนินการจัดประชุม ยนและรับฟังการสะท้อน งการ สรุปผลการประชุมและ ธีการและขั้นตอนการ มลำดับ ดังนี้ ะชุมคณะทำงานและ ยงเดี่ยวกลุ่มเป้าหมาย กสารการเงิน การบัญชี กต้อง ตรงกับความเป็น ผลผลิต 1. ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้แก่ หน่วยพัฒนาทักษะอาชีพ กลุ่มเป้าหมาย และสำนักงาน บัญชีเกิดองค์ความรู้ในด้านการ ตรวจสอบการเงินการบัญชี และความโปร่งใสในการจัดทำ โครงการระดับประเทศ ผลลัพธ์ 1. กิจกรรมสนับสนุนการ บริหารจัดการ ผลที่เกิดคือมีการ ตรวจสอบความโปร่งใส และ กระบวนการในการดำเนินงาน โดยผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาต (CPA) เพื่อประเมินผลที่เกิดจาก ก ร ะ บ ว น ก า ร ด ำ เ นิน ง า น


ลำดับที่ ชื่อกิจกรรม วันที่จัดกิจกรรม (วัน/เดือน/ปี) กลุ่มเป้า หมาย วิธีการ 2. จัดเ เพื่อสะดวกต่อก 3. ประ บริษัทฯ เพื่ ตรวจสอบบั ดำเนินการเส ตามที่ผู้ตรวจร้อ 4. ดำเนิ บัญชี และคว มาตรฐานการ จัดซื้อจัดจ้างขอ 5. สรุป ตรวจสอบบัญชี


48 รดำเนินกิจกรรม อธิบายผลที่เกิดขึ้นจากกิจกรรม ผลผลิต ผลลัพธ์ รียงเอกสารตามลำดับ การเรียกตรวจสอบ ะสานสำนักงานบัญชี อติดต่อขอรายชื่อผู้ ญชีรับอนุญาต และ สนอแบบฟอร์มต่าง ๆ องขอ นินการตรวจสอบการเงิน วามถูกต้องตามหลัก บัญชี และระเบียบการ อง กสศ. ปและรายงานผลการ ชี 2. ได้รายงานผลการ ตรวจสอบบัญชีและการเงินที่ ส า ม า ร ถ ร ั บ ร อ ง ผ ล ก า ร ดำเนินงานของหน่วยได้อย่าง โปร่งใส โ ค ร ง ก า ร ใ ห ้ ถ ู ก ต ้ อ ง ต า ม วัตถุประสงค์ และมีรูปแบบการ บริหารจัดการภายในองค์กร สอดคล้องกับเป้าหมายของการ จัดตั้งบริษัท อัตลักษณ์ จำกัด โดยมุ่งเน้นการเป็นกิจการเพื่อ สังคมอย่างแท้จริง 2. เกิดความเชื่อถือ เชื่อมั่นต่อการดำเนินงานในครั้ง ต่อไป หรือในโอกาสวาระต่าง ๆ เนื่องจากบริษัท เป็นกิจการเพื่อ สังคมที่ได้รับการรับรองโดย สำนักงานวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) กระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของ มนุษย์ ตาม พรบ. ส่งเสริม วิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562


ลำดับที่ ชื่อกิจกรรม วันที่จัดกิจกรรม (วัน/เดือน/ปี) กลุ่มเป้า หมาย วิธีการ


49 รดำเนินกิจกรรม อธิบายผลที่เกิดขึ้นจากกิจกรรม ผลผลิต ผลลัพธ์ ซึ่งด้านความโปร่งใส ยุติธรรม เป็นหัวใจหลักของกิจการเพื่อ สังคมทุกประเภท และส่งผลให้ ภาพลักษณ์ของหน่วยพัฒนา ทักษะอาชีพเป็นที่ยอมรับมาก ขึ้น


4 บทที่3 ผลการดำเนินงานโครงการ 3.1 การพัฒนาศักยภาพและทักษะของหน่วยพัฒนาอาชีพ หน่วยพัฒนาทักษะอาชีพเกิดผลการดำเนินงานใน ระดับสูง ซึ่งผลการดำเนินโครงการได้รับการรับรองจาก สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (สวส.) กระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) อนึ่งหน่วยได้นำความรู้ประสบการณ์ที่สำคัญมากจาก โครงการนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบการมีพี่เลี้ยงแต่ละทีม ทั้ง ทีมกลาง ทีมภาค ซึ่งเป็นภาพรวมที่เราไม่เคยมองเห็นในการ ทำงานของตนเอง ได้นำมาเป็นบทเรียนและรูปแบบในการ ทำงานและโครงการร่วมกับกลุ่มเป้าหมายและผู้ด้อยโอกาสอื่น ๆ ที่เรารับผิดชอบดูแล โดยกระบวนการนี้จะช่วยให้เกิดการ ติดตาม เฝ้าระวัง และช่วยเหลือเมื่อกลุ่มเป้าหมายต้องการ คำแนะนำ หรือความช่วยเหลือได้ทันท่วงที ลดความเสียหายที่ อาจจะเกิดขึ้น หรือลดความผิดพลาดอย่างน้อยที่สุด ให้การ ดำเนินงานแต่ละครั้งบรรลุเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์ครบถ้วน ซึ่งนอกจากสร้างชื่อเสียงและความเชื่อมั่นเชื่อถือของหน่วย พัฒนาแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจในฐานะกิจการเพื่อสังคมอีกด้วย 3.2 องค์ความรู้ในการส่งเสริมทักษะอาชีพแก่กลุ่มเป้าหมาย ความรู้ที่ได้รับจากการจัดกิจกรรมในงวดที่ 1 ดังนี้ 1. องค์ความรู้ที่เกิดจากกิจกรรมที่ 2.1 การฝึกอบรมทักษะอาชีพกลุ่มอาชีพช่างทอผ้า จำนวน กลุ่มเป้าหมาย 5 คน โดยทักษะอาชีพที่ได้รับเพิ่มเติมมีดังนี้ 1) เทคนิคการมัดย้อมเส้นด้ายด้วยสีธรรมชาติ 2) การกำหนดสีผ้า และการวางลายผ้าเพื่อความต้องการของตลาดปลอดภัย 3) การพัฒนาผ้าทอสู่การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) 4) ปฏิบัติการออกแบบลายผ้าสร้างสรรค์ และการทอสีผ้ายอมสีธรรมชาติ (บัวหลวง ฝาง และขมิ้น) 5) ความรู้เรื่องการทำบัญชีครัวเรือน และการจัดการหนี้สินอย่างง่าย 6) ความรู้เรื่องการป้องกัน ดูแลตนเองและลูกให้ปราศจากโรคติดต่อโควิด 2019 7) เทคนิคการเลี้ยงลูกอย่างคุณแม่มืออาชีพ


5 8) การคำนวณต้นทุนสินค้า และการจำหน่ายสินค้าเบื้องต้น 2. องค์ความรู้ที่เกิดจากกิจกรรมที่ 2.2 การฝึกอบรมทักษะอาชีพกลุ่มอาชีพช่างเย็บผ้า จำนวน กลุ่มเป้าหมาย 20 คน โดยทักษะอาชีพที่ได้รับเพิ่มเติมมีดังนี้ 1) เทคนิควัดตัวลูกค้าและการวิเคราะห์สรีระมนุษย์ 2) การสร้างและพัฒนาแบบตัด /เกรดไซต์ 3) เทคนิคการปัก ชุน และซ่อมแซมเสื้อผ้า 4) เทคนิคการตัดเย็บผลิตภัณฑ์ผ้ามูลค่าสูง ได้แก่ หน้ากากผ้าแบบสายคล้องคอ กระเป๋าแก้ว เยติ เสื้อคลุมบุรุษ/สตรี หมวก ผ้าพันคอม และเนคไทน์ 5) ความรู้เรื่องการทำบัญชีครัวเรือน และการจัดการหนี้สินอย่างง่าย 6) ความรู้เรื่องการป้องกัน ดูแลตนเองและลูกให้ปราศจากโรคติดต่อโควิด 2019 7) เทคนิคการเลี้ยงลูกอย่างคุณแม่มืออาชีพ 8) การคำนวณต้นทุนสินค้า และการจำหน่ายสินค้าเบื้องต้น 3. องค์ความรู้ที่เกิดจากกิจกรรมที่ 2.3 การฝึกอบรมทักษะอาชีพกลุ่มอาชีพ อาหาร/ขนม จำนวน กลุ่มเป้าหมาย 40 คน โดยทักษะอาชีพที่ได้รับเพิ่มเติมมีดังนี้ 1) โภชนาการอาหารและการควบคุมปริมาณสารพิษ 2) การแปรรูปอาหารและคงเก็บรักษา 3) เทคนิคการแปรรูปอาหาร/ขนมมูลค่าสูง ได้แก่ ผงโรยข้าวกากมะพร้าว เมี่ยงคำดอกบัว หลวง คุ้กกี้บัวหลวง และข้าวดอกบัว 4) ความรู้เรื่องการทำบัญชีครัวเรือน และการจัดการหนี้สินอย่างง่าย 5) ความรู้เรื่องการป้องกัน ดูแลตนเองและลูกให้ปราศจากโรคติดต่อโควิด 2019 6) เทคนิคการเลี้ยงลูกอย่างคุณแม่มืออาชีพ 7) การคำนวณต้นทุนสินค้า และการจำหน่ายสินค้าเบื้องต้น 4. องค์ความรู้ที่เกิดจากกิจกรรมที่ 2.4 การฝึกอบรมทักษะอาชีพกลุ่มอาชีพงานฝีมือ จำนวน กลุ่มเป้าหมาย 15 คน โดยทักษะอาชีพที่ได้รับเพิ่มเติมมีดังนี้ 1) เทคนิคการประดิษฐ์ดอกไม้จากผ้า 2) งานบายศรีและขันหมากเบ็ง 3) งานจัดดอกไม้สด/แห้ง 4) งานจัดกระเช้าของขวัญมูลค่าสูง 5) ความรู้เรื่องการทำบัญชีครัวเรือน และการจัดการหนี้สินอย่างง่าย 6) ความรู้เรื่องการป้องกัน ดูแลตนเองและลูกให้ปราศจากโรคติดต่อโควิด 2019 7) เทคนิคการเลี้ยงลูกอย่างคุณแม่มืออาชีพ 8) การคำนวณต้นทุนสินค้า และการจำหน่ายสินค้าเบื้องต้น


6 5. องค์ความรู้ที่เกิดจากกิจกรรมที่ 2.5 การฝึกอบรมทักษะอาชีพกลุ่มอาชีพนวดแผนไทย จำนวน กลุ่มเป้าหมาย 20 คน โดยทักษะอาชีพที่ได้รับเพิ่มเติมมีดังนี้ 1) การตรวจสอบสภาพร่างกายผู้รับบริการก่อนนวด 2) การนวดเท้า 3) การนวดไทย (เทคนิคราชสำนัก) 4) การทำยาหม่องสมุนไพรไทย (ดอกบัวหลวง) 5) การทำลูกประคบสมุนไพร/น้ำสมุนไพรขับไล่โลหิตพิษ 6) ความรู้เรื่องการทำบัญชีครัวเรือน และการจัดการหนี้สินอย่างง่าย 7) ความรู้เรื่องการป้องกัน ดูแลตนเองและลูกให้ปราศจากโรคติดต่อโควิด 2019 8) เทคนิคการเลี้ยงลูกอย่างคุณแม่มืออาชีพ 9) การคำนวณต้นทุนสินค้า และการจำหน่ายสินค้าเบื้องต้น 6. องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมย่อยที่ 4.1 การสร้างแบรนด์ (Branding) ได้แก่ ความรู้เรื่องการสร้างแบรนด์ (Branding) ความรู้เรื่องการออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ สำหรับผลิตภัณฑ์ ชุมชน 7. องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมย่อยที่ 4.2 ฝึกอบรมส่งเสริมการตลาดออนไลน์ “Super Mom Market Place” ได้แก่ ความรู้เรื่องการจัดจำหน่ายสินค้าออนไลน์ความรู้เรื่องการถ่ายภาพ และการนำเสนอผลิตภัณฑ์ 8. องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมย่อยที่ 5.1 การฝึกอบรมอาชีพกลุ่มอาชีพช่างทอ ผ้า กลุ่มเป้าหมายสตรีแม่เลี้ยงเดี่ยว จำนวน 5 คน ผ่านการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะความรู้ด้านอาชีพช่างทอ ผ้า มีความรู้ด้านการผลิตสินค้า ได้แก่ ผ้ามัดย้อมดอกจาน และผ้ามัดย้อมเปลือกมะม่วง 9. องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมย่อยที่ 5.2 การฝึกอบรมอาชีพกลุ่มอาชีพช่างเย็บ ผ้า กลุ่มเป้าหมายสตรีแม่เลี้ยงเดี่ยว จำนวน 20 คน ผ่านการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะความรู้ด้านอาชีพช่าง เย็บผ้า มีความรู้ด้านการผลิตสินค้า ได้แก่ หมวกผ้าพื้นเมือง และกระเป๋าสะพายข้าง 10. องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมย่อยที่ 5.3 การฝึกอบรมอาชีพกลุ่มอาชีพ ทำอาหาร/ขนม กลุ่มเป้าหมายสตรีแม่เลี้ยงเดี่ยว จำนวน 40 คน ผ่านการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะความรู้ ด้านอาชีพทำอาหาร/ขนม มีความรู้ด้านการผลิตสินค้า ได้แก่ ขนมปั้นสิบ ข้าวเกรียบสมุนไพร และข้าวแต๋นห น้าไทย 11. องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมย่อยที่ 5.4 การฝึกอบรมอาชีพกลุ่มอาชีพงาน ฝีมือ กลุ่มเป้าหมายสตรีแม่เลี้ยงเดี่ยว จำนวน 15 คน ผ่านการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะความรู้ด้านอาชีพงาน ฝีมือ มีความรู้ด้านการผลิตสินค้า ได้แก่ แจกันดอกบัว และต่างหูดอกแก้ว 12. องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมย่อยที่ 5.5 การฝึกอบรมอาชีพกลุ่มอาชีพนวด แผนไทย กลุ่มเป้าหมายสตรีแม่เลี้ยงเดี่ยว จำนวน 20 คน ผ่านการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะความรู้ด้าน อาชีพนวดแผนไทย มีความรู้ด้านการผลิตสินค้า ได้แก่ ครีมนวดผิวดอกบัว และลูกประคบสมุนไพร


7 3.3 ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังจากการดำเนินกิจกรรม 3.3.1 ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเป้าหมาย • ด้านความสนใจและการกระตือรือร้นในการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มอาชีพมีความสนใจและกระตือรือร้นต้นในการเรียนรู้เป็นอย่างมาก เพราะผลิตภัณฑ์ที่ นำมาใช้เป็นต้นแบบในการเรียนรู้มีการกำหนดโจทย์จากหน่วยพัฒนา ให้เกิด "ความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่มี อยู่ตามท้องตลาดทั่วไป" เนื่องจาก หน่วยพัฒนาได้วิเคราะห์ศักยภาพและพื้นฐานของกลุ่มเป้าหมายก่อนนำมา สู่การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ โดดเด่น และที่สำคัญต้องมีความเป็น "อัตลักษณ์ของจังหวัด หนองบัวลำภู" ซึ่งยังไม่มีกลุ่มหรือรายใดผลิตมาก่อนในพื้นที่ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เกิดความน่าสนใจแล้วยัง สามารถสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในพื้นที่ในระยะยาวได้เป็นอย่างดี ทำให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นภาพอนาคต และเป้าหมายของกลุ่มอาชีพตนเองชัดเจนมากขึ้น จึงมีความสนใจ ตั้งใจ และเรียนรู้อย่างสนใจใฝ่รู้จาก วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มากด้วยประสบการณ์ ฝีมือ และสามารถตอบโจทย์ข้อสงสัยของกลุ่มเป้าหมายในวิชา เรียนอย่างเต็มที่ กลุ่มอาชีพมีความสนใจและกระตือรือต้นในการเรียนรู้เป็นอย่างมาก เพราะผลิตภัณฑ์ที่ นำมาใช้เป็นต้นแบบในการเรียนรู้มีการกำหนดโจทย์จากหน่วยพัฒนา ให้เกิด "ความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่มี อยู่ตามท้องตลาดทั่วไป" เนื่องจาก หน่วยพัฒนาได้วิเคราะห์ศักยภาพและพื้นฐานของกลุ่มเป้าหมายก่อนนำมา สู่การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ โดดเด่น และที่สำคัญต้องมีความเป็น "อัตลักษณ์ของจังหวัด หนองบัวลำภู" ซึ่งยังไม่มีกลุ่มหรือรายใดผลิตมาก่อนในพื้นที่ ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เกิดความน่าสนใจแล้วยัง สามารถสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในพื้นที่ในระยะยาวได้เป็นอย่างดี ทำให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นภาพอนาคต และเป้าหมายของกลุ่มอาชีพตนเองชัดเจนมากขึ้น จึงมีความสนใจ ตั้งใจ และเรียนรู้อย่างสนใจใฝ่รู้จาก วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่มากด้วยประสบการณ์ ฝีมือ และสามารถตอบโจทย์ข้อสงสัยของกลุ่มเป้าหมายในวิชา เรียนอย่างเต็มที่ และยังได้รับการยอมรับจากในชุมชนเป็นอย่างดียิ่ง ทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสุข และ ความภาคภูมิใจในการมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชน รวมถึงเห็นถึงคุณค่าของตนเองและครอบครัว มีกำลังใจ ในการเลี้ยงลูก และอยู่กับครอบครัวอย่างมีความสุข • การมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มมีความสัมพันธ์ระหว่างในกลุ่มเป็นอย่างดี มีการแบ่งและมอบหมาย งานกันในเบื้องต้น รวมถึงการประชุมและวางแผนการจัดหาทรัพยากรสนับสนุนเพิ่มเติม เช่น วัสดุจาก ธรรมชาติ หรือของดีแต่ละพื้นถิ่นนำมาออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันภายในกลุ่ม เพื่อสร้างอัตลักษณ์ ของกลุ่มตนเอง โดยนำพื้นฐานความรู้ที่ได้ฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ จากนั้นในระดับโครงการ ได้มีการเชื่อมโยง ทุกกลุ่มเป้าหมายเข้าด้วยกัน โดยนำผลิตภัณฑ์จากทุกกลุ่มเป้าหมาย มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิเคราะห์และชี้ จุดเด่น จุดควรพัฒนาให้แต่ละกลุ่มรับทราบ เพื่อปรับปรุงแล้วนำผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นมารวมกันเป็นเซ็ตผลิตภัณฑ์ (Product Gift Set) เพื่อจำหน่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึงนี้


8 กลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มมีความสัมพันธ์ระหว่างในกลุ่มเป็นอย่างดี มีการแบ่งและมอบหมาย งานกันในเบื้องต้น รวมถึงการประชุมและวางแผนการจัดหาทรัพยากรสนับสนุนเพิ่มเติม เช่น วัสดุจาก ธรรมชาติ หรือของดีแต่ละพื้นถิ่นนำมาออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันภายในกลุ่ม เพื่อสร้างอัตลักษณ์ ของกลุ่มตนเอง โดยนำพื้นฐานความรู้ที่ได้ฝึกอบรมไปประยุกต์ใช้ จากนั้นในระดับโครงการ ได้มีการเชื่อมโยง ทุกกลุ่มเป้าหมายเข้าด้วยกัน โดยนำผลิตภัณฑ์จากทุกกลุ่มเป้าหมาย มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ วิเคราะห์และชี้ จุดเด่น จุดควรพัฒนาให้แต่ละกลุ่มรับทราบ สำหรับภายหลังการดำเนินการในรอบที่ 2-3 นี้สิ่งที่เกิดด้าน ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มเป้าหมายเกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เช่น การรวมกลุ่มจัดตั้งวิสาหกิจ โดยมีการเลือก กรรมการดำเนินงานบริหารงานกลุ่ม เพื่อให้เกิดความชัดเจน และมีรูปธรรม สามารถเป็นผู้นำด้านการประกอบ อาชีพในท้องถิ่นได้ อีกสิ่งที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดคือมีการแลกเปลี่ยน พูดคุย และเข้าใจซึ่งกันและกัน มีการให้ คำแนะนำช่วยเหลือทั้งด้านการเงิน ครอบครัว การเลี้ยงดูบุตร และการจัดการหนี้สินครัวเรือน ซึ่งทำให้มีความ ไว้วางใจและรักสามัคคีในกลุ่มมากขึ้น • การมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มเป้าหมายกับครอบครัว เนื่องจากโครงการของหน่วยพัฒนาทักษะอาชีพครั้งนี้ ให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูและ เยียวยาสภาพจิตใจ โดยเฉพาะเรื่องการเลี้ยงดูและดูแลจิตใจทั้งแม่และลูก ซึ่งจุดนี้เองเป็นส่วนสำคัญของ โครงการชุมชน โดยเมื่อกลุ่มเป้าหมายได้ทำงานหรือประกอบอาชีพในพื้นที่ตนเองแล้ว จะต้องแบ่งเวลาในการ ทำงานหรือเวลาพักส่วนหนึ่งคืนให้กับลูกและครอบครัว เพื่อให้เวลากับความสุขในบ้าน โดยหน่วยพัฒนาอาชีพ ได้กำชับกลุ่มปักหมุดและพี่เลี้ยงแต่ละกลุ่มปักหมุดให้ติดตามและช่วยเหลือให้กำลังใจกลุ่มเป้าหมายกับ ครอบครัวให้ดีที่สุด ในระหว่างครอบครัวกลุ่มเป้าหมายเกิดการเรียนรู้และเข้าใจถึงความแตกต่าง รวมถึงมีการ เข้าถึงบทบาทและหัวใจของ "ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวสมบูรณ์" เพราะแม่ได้เห็นสิ่งที่ลูก ๆ กำลังทำและเรียนรู้ ในขณะที่ลูก ๆ ก็ได้เห็นและเข้าใจสิ่งที่แม่กำลังทำ ทำให้ต่างฝ่ายต่างมีความเข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น มีการ กำหนดเป้าหมายและทิศทางอนาคตของครอบครัวร่วมกัน มีการพูดคุยสร้างความรับรู้ เข้าใจ และแลกเปลี่ยน "เปิดใจ" กันมากขึ้น ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำร่วมกันได้ เช่น การทำขนม การเย็บผ้า การทอผ้า หรือการนวด ซึ่งลดช่องว่างของความสัมพันธ์และเยียวยาจิตใจของทั้งแม่และลูกให้พร้อมที่จะเป็น "ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว สมบูรณ์" ได้อย่างดี • การมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มเป้าหมายกับชุมชน ชุมชนเริ่มมีบทบาทและส่วนร่วมในการให้กำลังใจและความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายใน รูปแบบต่างๆ เช่น การสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติม การสนับสนุนหรืออุดหนุนสินค้าของกลุ่ม รวมถึงการเข้า ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ โดยปัจจุบันมีหน่วยงานในพื้นที่เริ่มสนับสนุนและเข้าช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติมเพื่อ "เสริมความแข็งแรง" ในการสร้างงาน สร้างรายได้ และสร้างอาชีพให้กับกลุ่มเป้าหมายอย่างยั่งยืน • การมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มเป้าหมายกับหน่วยพัฒนาอาชีพ กลุ่มเป้าหมายมีความไว้วางใจหน่วยพัฒนาอาชีพ มีความเชื่อมั่นและตั้งใจร่วมมือในทุก กิจกรรม รวมถึงสามารถเปิดใจกล้าพูดคุยกับสมาชิกในหน่วยพัฒนาทุกคนได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้เกิดการ ช่วยเหลือ แลกเปลี่ยนและกำหนดเป้าหมายการทำงานร่วมกัน ซึ่งหน่วยพัฒนามีกลยุทธ์สำคัญคือ "เราคือลูก


9 เราคือเพื่อน เราคือพี่" ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่วางไว้สำหรับการทำงานกับกลุ่มเป้าหมายอย่างกลมกลืน ซึ่งช่วยสร้าง บรรยากาศความผ่อนคลายในการเรียนรู้ และเปิดโอกาสให้เราเข้าถึงการพัฒนาจากส่วนลึกของจิตใจสู่การ พัฒนาภายนอกอย่างครบถ้วน ซึ่งสังเกตได้จากการเรียกคณะทำงานของหน่วยว่า "หัวหน้า" "คุณครู" หรือ "ลูกๆ" ซึ่งสร้างความอบอุ่น และสัมพันธ์ในการทำงานร่วมกันในระยะยาวต่อไปได้อย่างมั่นคง 3.3.2 ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับหน่วยพัฒนาอาชีพ หน่วยพัฒนาทักษะอาชีพเกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านการเข้าถึง เช้าใจ และบริหารจัดการ ชุมชน จากเดิมเน้นการลงพื้นที่และปฏิบัติด้วยตนเอง แต่จากรูปแบบของ กสศ. สร้างจุดเปลี่ยนให้เห็นว่า ศักยภาพของกลุ่มเป้าหมายสามารถนำมาพัฒนาและต่อยอดเป็นผู้นำกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ เพื่อช่วยดูแล สมาชิก และเป้าหมายอื่นในพื้นที่ได้ จึงเป็นแนวคิดใหม่ที่หน่วยพัฒนาจะนำมาใช้ในการจัดการโครงการต่อไป


10 3.3.3 การทำงานร่วมกับภาคีเครือข่าย หน่วยพัฒนางาน เนื่องจากเป็นหน่วยงานเอกชนที่ปฏิบัติงานด้านการฝึกอบรมอาชีพในพื้น ที่มาพอสมควร ทำให้เกิดเครือข่ายด้านการเรียนรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อโครงการอย่างมาก โดยมีผลการ ดำเนินงานและบทบาทของภาคีเครือข่าย ดังนี้ 1. วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี หน่วยงานสำคัญในการเป็นแหล่งเรียนรู้ วิทยาการให้กับ โครงการ ที่ช่วยในการเป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษาด้านอาชีพ เครือข่าย และการสร้างฐานแรงงานผลิตที่สำคัญจาก องค์ความรู้ระดับสูงในสถานศึกษา สู่งานบริการอาชีพเพื่อสังคม โดยมีการเรียนรู้และถ่ายทอดร่วมกันอย่างเท่า เทียม บทบาทและความร่วมมือที่เกิดขึ้นในงวดที่ 1 ได้แก่ องค์ความรู้จากวิทยากร และบุคลากรที่ทรงคุณค่า ของหน่วยงานทั้งปัจจุบันและผู้เกษียณอายุราชการ ได้แก่ อาจารย์เบญจวรรณ บุ้งทอง อาจารย์สมศักดิ์ นอหน่อ อาจารย์ปิยกรานต์ รักขพันธ์ ณ หนองคาย อาจารย์ณัทญา ญาณพลดิลก และอาจารย์ศรีวรรณ เหรียญเจริญ ซึ่งทำหน้าที่ให้คำแนะนำปรึกษา ร่วมพัฒนาหลักสูตร และเป็นที่ปรึกษาสำคัญในการวางแผน เป้าหมายกลุ่มอาชีพ และต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่การพัฒนาเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ทำให้ช่วยปลดล็อคปัญหา อุปสรรค์หรือแนวทางในการส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต้นแบบให้สามารถจำหน่ายได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ กลุ่มเป้าหมายมีความพึงพอใจต่อการให้บริการและคำแนะนำจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี เป็นอย่างยิ่ง 2. สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดหนองบัวลำภู หน่วยงานที่ให้คำแนะนำปรึกษา และพี่เลี้ยง ในการยกระดับต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่การสร้างความเข้มแข็งในเชิงปฏิบัติ เช่น แนวทางในการขึ้นทะเบียน OTOP การจดหรือขอรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) รวมถึงการวางแผนการจำหน่ายในพื้นที่เพื่อเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และโครงการต่อไป บทบาทความร่วมมือในระยะที่ 1 ของโครงการ คือ ได้ให้การ สนับสนุนในการส่งเสริมสินค้าของโครงการเพื่อต่อยอดมาตรฐานสู่การรับรองเป็นสินค้า OTOP โดยใน ระยะแรกเจ้าหน้าที่จากพัฒนาชุมชนอำเภอนาวัง และอำเภอนากลาง เสนอให้ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการ OTOP และนำสินค้าเข้าร่วมจัดแสดงและจำหน่ายเนื่องในงานเฉลิมฉลองสถาปนาจังหวัดหนองบัวลำภู ครบรอบ 27 ปี ระหว่างวันที่ 1-7 ธันวาคม 2563 ณ สนามนเรศวรมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ทั้งนี้เมื่อเสร็จสิ้นงานดังกล่าว ผลิตภัณฑ์ต้นแบบของโครงการจะถูกนำไป "ทดลองตลาด" โดยการจำหน่ายจริง ในศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP@Nong Bua Lum Phu ณ ภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. (สาขา เมืองนาง) หน้าศูนย์ราชการจังหวัดหนองบัวลำภู (ติดถนนอุดร-เลย) ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 พร้อมทั้งนำสินค้าอื่น ๆ ร่วมจำหน่ายได้ตลอด โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียม ผลิตภัณฑ์ ออกแบบบรรจุภัณฑ์และหีบห่อ เพื่อนำเข้าร่วมจัดจำหน่ายตามข้อเสนอแนะดังกล่าว


11 3. สมาคมสตรี / คณะกรรมการพัฒนาบทบาทสตรีหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด (ผ่าน ทางพัฒนาชุมชนอำเภอ ทั้ง 6 อำเภอ) กลุ่มภาคีที่ทำหน้าที่เข้าถึงและให้การช่วยเหลือหรือรับรองคุณสมบัติ ของแม่เลี้ยงเดี่ยวในพื้นที่เบื้องต้น รวมถึงร่วมเป็นเครือข่ายจิตอาสาในพื้นที่เพื่อฟื้นฟูดูแลสภาพจิตใจแม่เลี้ยง เดี่ยวในชุมชน บทบาทความร่วมมือในระยะที่ 1 ของโครงการ คือการประชาสัมพันธ์และคัดกรอง กลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ ผ่านทาง ประธานกรรมการสตรีตำบล หรือกรรมการสตรีระดับหมู่บ้าน เพื่อ พิจารณาและนำเสนอคุณลักษณะของกลุ่มสตรีให้กับผู้นำชุมชนหรือผู้ใหญ่บ้านรับรอง โดยได้รับความร่วมมือ จากพัฒนาการตำบลแต่ละพื้นที่ช่วยประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ รวมถึงสามารถการันตีหรือสร้างความ เชื่อมั่นของโครงการในระดับชุมชนได้เป็นอย่างดี 4. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู หน่วยงานให้คำแนะนำสำคัญในด้านการพัฒนา จิตใจ และสุขภาวะทั้งแม่และลูกให้เกิดความยั่งยืน เข้มแข็ง สามารถเติบโตและวางแผนครอบครัวในการเป็น "ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวสมบูรณ์" ได้อย่างเต็มศักยภาพ บทบาทและหน้าที่ในงวดที่ 1 สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดหนองบัวลำภู ได้ร่วมส่งบุคคลากรที่เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา และสุขภาวะแม่และเด็กร่วมสังเกตการณ์ และให้คำแนะนำปรึกษากลุ่มเป้าหมายและหน่วยพัฒนาทักษะอาชีพ คือ นายวีระยุทธ พลท้าว นักวิชาการ สาธารณสุขชำนาญการ เพื่อให้คำแนะนำปรึกษาและเสริมสร้างกำลังใจ ปูพื้นฐานกลุ่มเป้าหมาย และเตรียม ความพร้อมหน่วยพัฒนาในการร่วมฟื้นฟูหรือเป็นสหวิชาชีพที่ช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายตลอดโครงการ ทำให้เกิด ความเชื่อใจและเชื่อถือจากกลุ่มเป้าหมายที่มีบุคลากรสาธารณสุขเข้าร่วมโครงการครั้งนี้ 5. สถานประกอบการในพื้นที่ มีบทบาทใ้ห้คำแนะนำปรึกษาในการออกแบบและพัฒนา สินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าปัจจุบันรวมถึงสามารถเป็นแหล่งรองรับผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ สามารถ จำหน่ายและสร้างรายได้อย่างยั่งยืนได้ โดยในระยะที่ 1 มีสถานประกอบการในพื้นที่ประสงค์เข้าร่วมให้ความ ช่วยเหลือหรือแนะนำโครงการ ดังนี้ 1) เรือนไหมคุณระพีพรรณ ให้ความอนุเคราะห์ส่วนที่ฝึกอบรมกลุ่มช่างทอผ้า และวิทยากร ได้แก่ คุณอมรเทพ เรืองศรี รวมถึงแนวคิดในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจาก ผ้าพื้นเมืองให้เกิดความทันสมัย ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า 2) แบรนด์ชม ให้ความอนุเคราะห์วิทยากร ได้แก่ คุณโยธิน ชมภูวิเศษ รวมถึง แนวคิดในการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผ้าพื้นเมืองให้เกิดความทันสมัย ในรูปแบบของ ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์เครื่องประกอบการแต่งกาย 3) ร้านขวัญตาผ้าเย็บมือ ให้ความอนุเคราะห์ด้านองค์ความรู้ และแนวคิดในการทำ ตลาดผ้าทอสมัยใหม่ โดยเน้นเทคนิคการฉีกด้าย กรุยผ้า และการวางผ้าแบบทั้งผืน ซึ่งเกิดความทันสมัย และมี มิติที่แปลกใหม่ของผ้าไทยและผลิตภัณฑ์ รวมถึงเป็นประธานเครือข่ายผู้ประกอบการ OTOP จังหวัด หนองบัวลำภู (คุณสุมามานย์ เต๋จ๊ะ) ให้คำแนะนำในการผลักดันเป็นสินค้า OTOP กลุ่มใหม่ของจังหวัด หนองบัวลำภู


12 4) ร้านเทวาผ้าไทย ให้ความอนุเคราะห์เศษผ้าพื้นเมืองหนองบัวลำภู เพื่อนำมา ออกแบบและพัฒนาเป็นชิ้นงานต้นแบบในระยะแรก เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มผลกำไร ซึ่งกลุ่มเป้าหมายช่างเย็บ ผ้า และงานฝีมือ สามารถนำเอาวัสดุที่ได้รับความอนุเคราะห์ไปใช้ในการพัฒนาสินค้าได้ตามศักยภาพ 5) ร้านภูพยอม ให้ความอนุเคราะห์วิทยากร ได้แก่ คุณพยอม ยอดคีรี ครูภูมิปัญญา ช่างทอผ้าย้อมสีธรรมชาติ และอนุเคราะห์มอบวัตถุดิบธรรมชาติในการย้อมสีผ้า ได้แก่ ไม้แก่นฝาง 10 กิโลกรัม และครั่งแดง 5 กิโลกรัม รวมถึงดินโคลนที่บ่มแล้วจำนวน 5 กิโลกรัม ในการเตรียมความพร้อมการย้อมผ้า พื้นเมืองหมักโคลนจากสีธรรมชาติเพื่อเป็นสินค้าของกลุ่มอาชีพช่างทอผ้า 6. สถาบันการศึกษา มีบทบาทในการให้คำปรึกษาและการแนะนำในด้านวิชาการ และ การบริหารจัดการโครงการอย่างเป็นระบบ มีเป้าหมายและการวัดผลกระทบทางสังคมอย่างเห็นได้ชัดเจน รวมถึงการสร้างหรือพัฒนาเครื่องมือในการทำงานที่รองรับความแตกต่างของกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มอย่าง เหมาะสมและเกิดประโยชน์ต่อการเก็บรวบรวมข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการส่งเสริมการตลาด การพัฒนา ระบบธุรกิจอุตสาหกรรมและเพื่อสังคม โดยในระยะที่ 1 มีหน่วยงานสถาบันการศึกษาอุดมศึกษาให้คำแนะนำ ช่วยเหลือดังนี้ 1) มหาวิทยาลัยมหิดล ให้คำแนะนำปรึกษาในเรื่องการเพิ่มผลผลิตและการสร้างช่อง ทางการจำหน่ายออนไลน์ โดยสนับสนุนการนำสินค้าเข้าร่วมจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ของ มหาวิทยาลัยมหิดล และเว็บไซต์ข้างบ้าน.com ซึ่งจะมีการเปิดให้บริการจำหน่ายโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ในวันที่ 15 ธันวาคม 2563 นี้อย่างเป็นทางการ 2) มหาวิทยาธรรมศาสตร์ ให้คำแนะนำปรึกษาการจัดเก็บและพัฒนาข้อมูลเพื่อส่ง ต่อสู่การยกระดับเป็น "นวัตกรรมเพื่อสังคม" (Social Innovation) เพื่อต่อยอดการพัฒนากิจการให้มีทิศทาง และเป้าหมายของหน่วยพัฒนาอาชีพที่ชัดเจนมากขึ้น สามารถขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์สู่นวัตกรรม ที่ตอบโจทย์ ผู้บริโภค และเกิดความยั่งยืนในกระบวนการผลิตมากขึ้น โดยได้มีการนำเสนอผลงานและสร้างเครือข่ายผ่าน สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ในงาน SID Talk จัดโดยวิทยาลัยพัฒนาสังคมป๋วย อึ้งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งได้ข้อคิดเห็นและเครือข่ายที่น่าสนใจจากทั่ว ประเทศในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อสังคมต่อไป 3) มหาวิทยาลัยอิสเทิร์นเอชีย ให้ความช่วยเหลืออนุเคราะห์บุคคลากรของ หน่วยงาน ได้แก่ อาจารย์สุริยะ สามิบัติ อาจารย์ประจำคณะการบิน ร่วมให้เกียรติเป็นที่ปรึกษา และ ผู้รับผิดชอบโครงการ รวมถึงสนับสนุนองค์ความรู้ด้านงานวิจัยเพื่อสังคม และกระบวนการหรือแนวทางการ ฟื้นฟูจิตใจนำมาประยุกต์ใช้สำหรับการดำเนินงานโครงการให้บรรลุเป้าหมายได้จริง


13 7. สำนักงานคลังจังหวัดหนองบัวลำภู มีบทบาทในการให้ความรู้และแนวทางการบริหาร จัดการหนี้สินครัวเรือนสำหรับประชาชน เพื่อถ่ายทอดให้กับแม่เลี้ยงเดี่ยวในการบริหารจัดการหนี้สินและ ปัญหาการเงินของครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ปลอดภัย (PICO Finance) โดยระยะที่ 1 โครงการได้ขอรับคำแนะนำปรึกษาจากสำนักงานคลังจังหวัดผ่านทางผู้ถือหุ้นบริษัท ซึ่งเป็น บุคลากรในหน่วยงานสำนักงานคลังจังหวัดหนองบัวลำภู ได้แก่ คุณรุ่งลาวรรณ โคตรชา เจ้าหน้าที่การคลัง สำนักงานคลังจังหวัดหนองบัวลำภู โดยได้รับคำแนะนำและเอกสารประกอบการบรรยายในเรื่อง การเข้าถึง แหล่งเงินทุน (PICO Finance) การจัดการหนี้สินของสถาบันการเงินชุมชน รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องในฐานะ คณะผู้บริหารการเงินการคลังประจำจังหวัดหนองบัวลำภู (คบจ.นภ.) เพื่อเป็นสื่อประกอบคำแนะนำเบื้องต้น ซึ่งในระยะที่ 2 จะมีการให้ความรู้กลุ่มเป้าหมายอย่างเข้มข้น เพื่อ "เพิ่มรายได้ ลดภาระหนี้สิน" ร่วมกันต่อไป 8. สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดหนองบัวลำภู ประสานงานและ รับสมัครรวมถึงแหล่งข้อมูลสำคัญของแม่เลี้ยงเดี่ยวในพื้นที่ รวมถึงการส่งเสริมสนับสนุนกิจการบริษัท อัต ลักษณ์ จำกัด เพื่อส่งเสริมสู่การสร้างเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ในระยะต่อไป ผลการ ดำเนินงานคือ หน่วยพัฒนาอาชีพ ได้รับคำแนะนำจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หนองบัวลำภู ในการนำกิจการเข้าสู่การจดแจ้งเป็นกลุ่มกิจการเพื่อสังคม (ตาม แบบ สวส.ก.01) ภายใต้ พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 ที่รับผิดชอบโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความ มั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. ทั้งนี้ บริษัท อัตลักษณ์ จำกัด ในปีที่ผ่านมาเราเน้นการสร้างองค์กรสู่การเป็นกิจการ เพื่อสังคมแบบเต็มรูปแบบ โดยการจ้างงานแรงงานแม่เลี้ยงเดี่ยวและสตรีในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู จึงเข้า ร่วมเป็นกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) ในลักษณะ “ไม่ประสงค์แบ่งปันผลกำไร” เนื่องจากบริษัทฯ เน้นการผลิตสินค้าจากวัสดุท้องถิ่น นำเสนอความเป็นอัตลักษณ์ ที่สำคัญคือเราใช้แรงงานผลิตเป็นกลุ่มแม่เลี้ยง เดี่ยว และกลุ่มเปราะบาง เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยวมากขึ้น โดยได้รับการ รับรองเป็นกลุ่มกิจการเพื่อสังคม ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม พ.ศ. 2562 ต่อสํานักงาน ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม (ทะเบียนเลขที่ 2) ซึ่งหากได้รับการรับรองจะช่วยให้เกิดความมั่นคงทางด้านการ บริหารจัดการและความโปร่งใส่ของกิจการ เพราะจะสามารถดำเนินงานด้านการส่งเสริมสังคม และการ ตรวจสอบโดยหน่วยงานรัฐได้ รวมถึงการมีมาตรการช่วยเหลือในระยะยาวจากหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ใน อนาคต 9. องค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟ เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จุดปักหมุด อาชีพเข้าร่วมส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรม ได้แก่ องค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟ อำเภอสุวรรณคูหา จังหวัดหนองบัวลำภู โดยได้สนับสนุนองค์ความรู้ด้านอาชีพและการจัดฝึกอบรมเพิ่มเติมในการยกระดับ วิสาหกิจชุมชน และนำเข้าแผนจัดสรรงบประมาณแผนปฏิบัติการประจำปีขององค์การบริหารส่วนตำบลเพื่อ สนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือกลุ่มเพิ่มเติมในระยะต่อไป 10. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนยานาง อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู ได้ สนับสนุนส่งเสริมการติดตามและฟื้นฟูสภาพจิตใจแม่และลูก ภายใต้ทีมสหวิชาชีพ นำโดยคุณหมอวีระยุทธ และทีมงาน ซึ่งให้คำแนะนำปรึกษาในการติดตามผลตลอดระยะเวลาโครงการ


14 นอกจากนี้ ยังมีภาคีเครือข่ายที่เกิดขึ้นเพิ่มเติมจากกิจกรรมได้แก่ 11. สำนักงานเกษตรจังหวัดหนองบัวลำภู ได้สนับสนุนองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการ กลุ่ม ให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิภาพ และความมั่นคงในการยกระดับอาชีพกลุ่มอาชีพอาหาร/ขนม สู่การ สร้างเป็นโมเดลอาชีพ ได้รับการคัดเลือกเป็นกลุ่มวิสาหกิจเข้มแข็งดีเด่นระดับอำเภอสุวรรณคูหา ประจำปี 2564 12. ชมรมเพื่อคนพิการจังหวัดเลย สนับสนุนและให้ความรู้กับกลุ่มเป้าหมายอาหาร/ขนม เรื่องการจัดหาและการจัดเตรียมวัตถุดิบออร์แกนิกส์ หรือเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้เกิดความถูกต้อง และสร้าง ความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยได้รับคำแนะนำช่วยเหลือตลอดระยะเวลาโครงการ 13. คณะกรรมการเครือข่าย OTOP จังหวัดหนองบัวลำภู ให้การสนับสนุนด้านพื้นที่ จำหน่ายและการเข้าร่วมเครือข่ายสู่การยกระดับและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของแต่ละกลุ่มอาชีพสู่การเป็นเครือข่าย OTOP ในอนาคต ทั้งนี้หากสามารถผลักดันผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มอาชีพเข้าร่วมเป็นสินค้า OTOP ได้ จะสามารถ สร้างมูลค่าเพิ่มและมาตรฐานสินค้าให้เป็นที่ยอมรับมากยิ่งขึ้นได้ในระยะยาว และมีแนวโน้มจะมีภาคีเครือข่ายในระดับพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม และสนับสนุนกลุ่มเป้าหมายทั้ง ทางตรงและทางอ้อมเพิ่มมากขึ้น จากผลลัพธ์และการประสบความสำคัญของกลุ่มอาชีพที่เป็นต้นแบบและ ได้รับรางวัลระดับจังหวัด 3.4 ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นโดยอ้อม 3.4.1 ครอบครัว มีความภาคภูมิใจในอาชีพของครอบครัว และมีรายได้จากแม่เป็นรายได้หลักและรายได้เสริม ในการเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัวด้วยความสุจริต และเป็นแบบอย่างที่ดี อีกทั้งยังได้คืนเวลาแห่งความสุขให้กับ ครอบครัวเนื่องจากแม่ไม่ต้องเดินทางไปทำงานห่างไกลครอบครัว สามารถใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและได้รับ คำแนะนำช่วยเหลือในด้านการศึกษาต่อ และการเรียนรู้หรือสนใจประกอบอาชีพร่วมกันในโครงการอีกด้วย 3.4.2 ชุมชน มีส่วนร่วมในการสนับสนุน หรือได้รับประโยชน์จากกลุ่มอาชีพ เช่น สมาชิกชุมชนรอบข้างจุด ปักหมุดอาหาร สามารถนำผลผลิตทางเกษตรอินทรีย์ที่มีคุณภาพมาจำหน่ายเพื่อเป็นวัตถุดิบหลักให้กับ กลุ่มเป้าหมายได้ผลิตเป็นอาหาร/ขนมในการจำหน่ายสร้างอาชีพ หรือกลุ่มช่างเย็บผ้าชุมชนทั่วไปสามารถนำ เศษผ้ามาร่วมบริจาคมอบให้กับกลุ่มเป้าหมายจุดปักหมุดช่างเย็บผ้าเพื่อนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ลดต้นทุน ได้อีกด้วย 3.4.3 เศรษฐกิจชุมชน ได้รับประโยชน์จากโครงการเนื่องจากสามารถเกิดแรงงานในการผลิตสินค้าที่ใกล้เคียงกันได้ เช่น กลุ่มช่างทอผ้า สามารถสั่งจ้างกลุ่มเป้าหมายช่างทอผ้าผลิตผ้าทอโดยใช้องค์ความรู้จากโครงการได้ เพื่อให้ เกิดการจ้างงานในระยะยาวต่อไปได้ รวมถึงกลุ่มนวดแผนไทย โดยผู้ประกอบการร้านนวดในพื้นที่ตำบลเมือง


15 ใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู สามารถเรียกใช้บริการเสริม หรือฝึกอบรมต่อยอดเพื่อเป็นหมอ นวดประจำร้านต่อได้ 3.4.4 ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของชุมชน ชุมชนได้รับการเรียนรู้เรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ชุมชน เช่น 1. กลุ่มอาหาร/ขนม ได้ให้ความรู้สมาชิกในชุมชนในการเพาะปลูกด้วยเกษตรวิถีอินทรีย์ (Organic) เพื่อลดปัญหาการใช้สารเคมีและการเจ็บป่วยของสมาชิกชุมชนในด้านสารเคมีและสารพิษตกค้าง 2. กลุ่มช่างเย็บผ้า และช่างฝีมือ ซึ่งส่งเสริมให้ประสานชุมชนรับซื้อหรือรับบริจาคเศษผ้า พื้นเมืองนำมาเป็นวัสดุในการประดิษฐ์สินค้าเนื่องจากนอกจากลดต้นทุนแล้วยังช่วยลดการกำจัดขยะชุมชนโดย การฝังและเผาด้วย 3. กลุ่มช่างทอผ้า สนับสนุนให้ชุมชนลดการใช้สารเคมีในกระบวนการย้อมผ้า เนื่องจาก ส่งผลกระทบโดยตรงต่อดินและน้ำในพื้นที่รอบโรงทอ ซึ่งหากลดได้จะช่วยให้สภาพดินและน้ำมีความสมบูรณ์ และพลิกฟื้นกลับมาได้ด้วย 3.5 นวัตกรรมที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ (เช่น หลักสูตร, ผลิตภัณฑ์, นวัตกรรมทางด้านการบริหาร โครงการ) 1. นวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ โดยโครงการได้ร่วมกับกลุ่มเป้าหมายและวิทยากรวางแผนการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่สร้าง ความแปลกใหม่และเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกของประเทศ คือ การรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ของฝากของที่ระลึก จังหวัดหนองบัวลำภู ภายใต้แบรนด์ลุ่มภูภัณฑ์ (Lum Phu Pan) ซึ่งเป็นสินค้าที่มี อัตลักษณ์สำคัญคือ "บัวหลวง" ดอกไม้มงคลประจำจังหวัด และสื่อถึงเมืองดอกบัว ที่มีการนำเอาเอกลักษณ์ ของดอกบัวหลวงไปผสมผสานในผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มอาชีพ ก่อนที่จะนำมาจัดเรียงไว้ด้วยกันในกระเช้าอย่าง สวยงาม สร้างสรรค์และเกิดมูลค่าเพิ่ม ดังนี้ 1) ผ้าทอย้อมสีกลีบบัว (ผลิตจากผ้าฝ้ายย้อมด้วยสีของฝาก ผสมขมิ้น ปูนแดง และบัวแห้ง) 2) หน้ากากและแก้วปักกลับบัว (ผลิตจากผ้าทอพื้นเมืองหนองบัวลำภู ปักลายกลับบัวที่เป็น เอกลักษณ์เฉพาะ) 3) เมี่ยงคำ คุ้กกี้ และผงโรยข้าวบัวหลวง (ผลิตจากกากมะพร้าว กลีบบัว แป้งสาลี และ ส่วนผสมอื่น ๆ) 4) กระเช้าดอกบัวหลวง (ผลิตจากตระกร้า ห่อและประดับด้วยผ้าจับจีบ ตกแต่งด้วยช่อ ดอกบัวหลวงประดิษฐ์อย่างสวยงาม) 5) ยาหม่องสมุนไพรเกสรบัว (ผลิตจากน้ำมันยูคาริปตัส เจลลาติน พาราฟิน น้ำมันสกัดเกสร บัว และพิมเสน)


16 2. นวัตกรรมกระบวนการ โดยกระบวนการที่เป็นนวัตกรรมของโครงการ คือการผลิตแบบแยกชิ้นส่วน ซึ่งนำมาจาก รูปแบบของโรงงานอุตสาหกรรม นำมาใช้ในกระบวนการผลิต เพื่อเพิ่มทักษะ และลดความยุ่งยากซับซ้อนของ งานผลิต เช่น การผลิตอะไหร่ การเตรียมวัตถุดิบ การประกอบชิ้นส่วน การแพ็คเก็จและหีบห่อ โดยในแต่ละ กลุ่มร่วมกันวางแผนและมอบหมายหน้าที่แต่ละคน ซึ่งจะช่วยให้สามารถรับมือในการผลิตสินค้าจำนวนมากได้ ดีกว่าการผลิตแบบครบถ้วนด้วยคน ๆ เดียว เพียงแต่ในระยะแรกนี้ทั้งหมดจะต้องมีพื้นฐานขั้นตอนการทำงาน ร่วมกันทุกขั้นตอน จากนั้นจะวางแผนการมอบหมายขั้นตอนปฏิบัติงานแบบรายขั้นตอน หรือ 1 คน 1 ขั้นตอน (1 Process/ 1 adult) ซึ่งเป็นรูปแบบการทำงานร่วมกันเป็นทีม จะสามารถสร้างรายได้อย่างเสมอภาค และ ช่วยให้เกิดความชำนาญในการปฏิบัติงาน ส่งผลให้ชิ้นงานมีความสวยงาม ประณีต และเกิดมูลค้าสูงขึ้นได้จริง 3. นวัตกรรมทางด้านการบริหารโครงการ ก ร ะ บ ว น ก า ร ห รื อ เทคนิค ATTALAK MODEL มาใช้กับ กลุ่มเป้าหมาย เพียงแต่เพิ่มระดับ ความเข้มข้นของเนื้อหาและหลักสูตร รวมถึงการเรียนรู้แบบรายบุคคล เพื่อเสริมสร้างศักยภาพและทักษะให้ เข้มแข็งสามารถก้าวสู่การเป็นผู้นำ เศรษฐกิจชุมชนได้ ดังนี้ 1. Analyze target groups and communities ขั้นตอนการวิเคราะห์และจำแนกกลุ่มเป้าหมายและบริบทชุมชน โดยจัดจำแนกกลุ่มเป้าหมายตามลักษณะพื้นฐานเฉพาะรายบุคคล โดยวิเคราะห์จากศักยภาพ กายภาพ อายุ ความสามารถและความถนัด ทักษะในการอ่านและเขียน รวมถึงทักษะการคำนวณพื้นฐาน จากนั้นวิเคราะห์ถึงทรัพยากรสำคัญในพื้นที่ เพื่อวางแผนกำหนดแนวทางในการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ ให้สอดรับกับวัสดุอุปกรณ์ และต้นทุนการผลิตในแต่ละพื้นที่เป้าหมาย 2. The courses target professionals that meet their needs ขั้นตอนออกแบบและ พัฒนาหลักสูตรอาชีพที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย จัดทำหลักสูตรให้สอดคล้องกับระดับความสามารถและศักยภาพของกลุ่มเป้าหมาย โดย แบ่งกลุ่มเรียนเป็นกลุ่มเก่ง กลาง และอ่อน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้แบบรายบุคคล โดยประกอบด้วย 3 ส่วน สำคัญ ได้แก่ 1) ทักษะอาชีพ 2) การฝึกทักษะการเป็นผู้ประกอบการและการจัดการเศรษฐกิจครัวเรือน และ 3) ทักษะสุขภาพเกี่ยวกับ COVID-19 ดังนี้ 1. ทักษะอาชีพ 5 กลุ่มอาชีพ (จุดปักหมุดอาชีพ) 1.1 จุดปักหมุดช่างทอผ้า 1.2 จุดปักหมุดช่างเย็บ


17 1.3 จุดปักหมุดอาหาร/ขนม 1.4 จุดปักหมุดช่างฝีมือ 1.5 จุดปักหมุดนวดแผนไทย 2. การฝึกทักษะการเป็นผู้ประกอบการและการจัดการเศรษฐกิจครัวเรือน เมื่อแม่เลี้ยงเดี่ยว และแรงงานด้อยโอกาสเกิดทักษะในการประกอบอาชีพ และมีการพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่องแล้ว หนึ่งใน กระบวนการที่ช่วยเสริมรายได้ให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย คือการวางแผนการตลาด และการจัดการการค้า สำหรับผู้ประกอบการใหม่ ดังนี้ 2.1 ด้านการเงิน (Finance) ความรู้ด้านการเงินจัดเป็นความรู้พื้นฐานที่ทุกคนควรจะมี เริ่ม ตั้งแต่การเข้าใจในการอ่านงบการเงิน และการวิเคราะห์งบการเงิน การทำบัญชีนั้นเป็นสิ่งที่ทุกกิจการต้องทำ ในช่วงเริ่มต้นที่กิจการยังไม่ใหญ่โต เราสามารถจ้างบริษัทให้ทำบัญชี และสอบบัญชีให้เราได้ แต่ผู้ประกอบการ ควรจะอ่านงบเป็น ในเบื้องต้นคืองบดุล งบกำไรขาดทุน และงบกระแสเงินสด เพื่อให้เข้าใจถึงโครงสร้างของ ฐานะการเงิน กระแสเงิน และความสามารถในการทำกำไรของกิจการของเรา 2.2 ด้านกฎหมายสำหรับการจะเป็นผู้ประกอบการ เช่น ในการก่อตั้งกิจการครั้งแรก ผู้ถือ หุ้นในรุ่นก่อตั้งโดยปกติจะเป็นหุ้นสามัญซึ่งมีสิทธิ์เท่า ๆ กัน แต่ถ้าเข้าใจเรื่องกฎหมายดีพอก็ควรที่จะทำสัญญา ระหว่างผู้ถือหุ้น ที่กำหนดเงื่อนไขในการทำงานร่วมกันตั้งแต่เริ่มก่อการ ซึ่งจะช่วยได้มากในการกำหนดทิศทาง ของกลุ่มอาชีพ และขจัดข้อขัดแย้งต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 2.3 ด้านเทคโนโลยี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีคือตัวขับเคลื่อนสำคัญของทุกธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ซึ่งในปัจจุบันผู้ประกอบการที่มีข้อมูลเยอะ และ วิเคราะห์ข้อมูลเป็นมีโอกาสสูงมากที่จะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ นอกจากนี้ผู้ประกอบการเองก็ควรมี ความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Blockchain ที่เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ ใน ปัจจุบัน ประสบการณ์ผู้ใช้ของผู้บริโภคทุกวันนี้ย้ายมาอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นผู้ประกอบการ ที่สามารถออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience) ได้ดีจะเป็นผู้ที่ได้เปรียบมาก ๆ ในโลกธุรกิจยุค ดิจิทัลอย่างในปัจจุบัน นอกจาก 3 ความรู้สำคัญข้างต้นแล้ว ยังมีทักษะสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ การเขียนแผนธุรกิจ การ วางกลยุทธ์ขององค์กร ซึ่งเป็นตัวกำหนดทิศทางของบริษัทในระยะยาว การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรทักษะในการนำเสนอก็เป็นอีกเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการ pitching ให้กับนัก ลงทุนในกรณีที่มีการระดมทุนกับนักลงทุน VC หรือ Angel Investors ซึ่งการ Pitching นี้เองเป็นทั้งศาสตร์ และศิลป์ที่สำคัญ เป็น Skill ที่ผู้ประกอบการควรรู้เพื่อให้สามารถประสบความสำเร็จในการ Pitching ให้ได้ ตรงตามเป้าหมาย 3. ทักษะสุขภาพเกี่ยวกับ COVID-19 กระบวนการป้องกันในการปฏิบัติงานฝึกอบรมอาชีพ แบบวิถีใหม่ (New Normal) 1. ฝึกทักษะการผสมเจลแอลกอฮอร์เพื่อใช้ภายในครัวเรือน หรือเพื่อจำหน่าย 2. การตัดเย็บหน้ากากผ้าเบื้องต้น


18 3. กระบวนการผลิตเป็นแบบลดการสัมผัสวัสดุ เนื่องจากในการจัดส่งและจัดทำวัสดุ ฝึกอบรมทุกชิ้น จะทำการใส่ถุงมือยางหรือถุงพลาสติก หน้ากากอนามัย และ Face shield เพื่อป้องกันและลด การสัมผัสวัสดุระหว่างมือ จากแหล่งวัตถุดิบ บจ.อัตลักษณ์ ทีมงาน ขนส่ง และแม่เลี้ยงเดี่ยวและแรงงานด้อย โอกาส เพื่อให้การส่ง/รับพัสดุแต่ละครั้งเป็นไปด้วยความปลอดภัย และปลอดเชื้อ 100% โดยเฉพาะการส่งจาก ต้นทางสู่แม่เลี้ยงเดี่ยวและแรงงานด้อยโอกาส เนื่องจากมีภาระต้องเลี้ยงดูบุตร บางรายบุตรเป็นเด็กเล็กซึ่งมี ความเสี่ยงสูง จึงต้องระมัดระวังเรื่องความสะอาดเป็นพิเศษ 4. กรณีเป็นวัสดุที่ทนความร้อน หรืออุณหภูมิสูง จะใช้กรรมวิธีการทางธรรมชาติ เช่น การตากไว้กลางแดดจัด และแห้งสนิทเพื่อฆ่าเชื้อเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง 5. กรณีเป็นวัสดุที่ทนความเย็น การเปียกชื้น จะใช้วิธีการทำความสะอาดด้วยแอลกอ ฮอร์ หรือน้ำสบู่ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทั่วไป เพื่อทำความสะอาดผลิตภัณฑ์พร้อมมจัดเก็บให้ถึงมือผู้ผลิต ผู้บริโภคอย่างปลอดภัยสูงสุด พร้อมติดเครื่องหมายแสดงการรับรู้ว่า “ผ่านการฆ่าเชื้อแล้ว” กระบวนการสร้างการรับรู้โควิด 2019 1. มีการเพิ่มเติมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเชื้อไวรัส และการป้องกันในเบื้องต้น เพื่อสร้างความรับรู้ และลดความตื่นตระหนก ตลอดจนสามารถให้แม่เลี้ยงเดี่ยวและแรงงานด้อยโอกาสเป็น กระบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้ในชุมชน เพื่อลดสภาวะความเครียดจากการระบาดของ โรคได้ 2. ในกลุ่มจะช่วยสกรีนข่าวสาร ข่าวลือ (Fake news) เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และ สามารถเป็นมาตรฐานการรับรู้เพื่อให้แม่เลี้ยงเดี่ยวและแรงงานด้อยโอกาสส่งต่อในชุมชนได้ทันท่วงที และไม่ สร้างความตื่นตระหนกจากการระบาดของข่าวลือ (Fake News) 3. Training to develop skills and have their own career plans. ขั้นตอนการจัด ฝึกอบรมพัฒนาทักษะและมีแผนการประกอบอาชีพของกลุ่มเป้าหมาย จัดฝึกอบรมทักษะตามศักยภาพและความถนัด เป็นกลุ่มเก่ง กลาง และอ่อน โดยในระยะแรก ฝึกอบรมแบบแยกระดับ และภายหลังจัดคละระดับเพื่อให้เกิดการช่วยเหลือภายในกลุ่มเป้าหมายเอง โดยแบ่ง ออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ 1) การฝึกอบรมในสถาบันการศึกษา จัดฝึกอบรมหลักสูตร 30 ชั่วโมง (2 วัน) ในสถานศึกษา ได้แก่ วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี 2) การฝึกอบรมในพื้นที่เป้าหมาย นำหลักสูตรที่ได้มาฝึกอบรมทบทวน (5 ชั่วโมง) ณ พื้นที่เป้าหมาย จุดปักหมุดอาชีพทั้ง 5 กลุ่มอาชีพ เพื่อทบทวนทักษะ และปฏิบัติกับเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีอยู่จริง โดยใช้วัสดุ ของท้องถิ่น


19 4. A network of organizations working in the area. ขั้นตอนเกิดเครือข่ายหน่วยงาน ทำงานในพื้นที่ เป็นช่องทางในการสร้างรายได้ของกิจการส่วนหนึ่ง คือเมื่อแรงงานมีทักษะและฝีมือแล้ว จะจัดส่ง แรงงานทำงานร่วมกับผู้ประกอบการในชุมชน เช่น ร้านอาหาร ร้านค้าชุมชน ร้านตัดเสื้อ ห้องเสื้อต่าง ๆ เพื่อ พัฒนาทักษะและทดลองปฏิบัติจริง รวมถึงการรับงานผลิตเพื่อหารายได้ในลักษณะของงานผลิตตามคำสั่งซื้อ (Made to order) การพัฒนาความร่วมมือกับหน่วยงานและสถานประกอบการในพื้นที่ ของทีมอัตลักษณ์ มีลักษณะของการพัฒนางานดังนี้ 1. การพัฒนาความร่วมมือกับสถานประกอบการชุมชน บริษัท อัตลักษณ์ จำกัด วิธีการทำความเข้าใจกับสถานประกอบการและการเข้าถึงดังนี้ 1.1 สำรวจประเภทอาชีพ และสถานประกอบการในชุมชน หรือผู้ประกอบการชุมชน ที่ แม่เลี้ยงเดี่ยวและแรงงานด้อยโอกาสอาศัยอยู่ โดยการสัมภาษณ์แม่เลี้ยงเดี่ยวและแรงงานด้อยโอกาส และผู้นำ ชุมชน 1.2 ประสานงานกับเจ้าของสถานประกอบการหรือผู้มีอำนาจเพื่อเสนอโครงการ และ เสนอแรงงานฝีมือ (แม่เลี้ยงเดี่ยวและแรงงานด้อยโอกาสกลุ่มเข้มแข็ง) โดยโครงการทำข้อตกลงร่วมกับสถาน ประกอบการ (MOU) และจะรับผิดชอบในการดูแลระยะแรก ดังนี้ 1) การฝึกอบรมทักษะการปฏิบัติงานให้ตรงกับที่สถานประกอบการต้องการ 2) ค่าใช้จ่ายจากการจัดส่ง/รับผลิตภัณฑ์ระหว่างสถานประกอบการกับ กลุ่มเป้าหมาย 3) ปรับปรุงและคัดแยกงานด้อยคุณภาพ หรืองานเสีย ที่เกิดจากความผิดพลาดของ แม่เลี้ยงเดี่ยวและแรงงานด้อยโอกาสในระยะแรก โดยบริษัท จะทำการรับผิดชอบส่วนต่างค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความกระทบต่อรายได้ของแม่เลี้ยงเดี่ยวและแรงงานด้อยโอกาสน้อยที่สุด 1.3 สถานประกอบการในชุมชนรับผิดชอบสำคัญคือ การจัดส่งวัสดุ สำหรับผลิตสินค้า และผลิตภัณฑ์ให้กับแม่เลี้ยงเดี่ยวและแรงงานด้อยโอกาสในพื้นที่ ในลักษณะการตกลงร่วมกัน จากนั้นแม่เลี้ยง เดี่ยวและแรงงานด้อยโอกาสทำการผลิตตามระยะเวลา และกรอบมาตรฐานที่สถานประกอบการชุมชนกำหนด แล้วจัดส่งให้ทันต่อเวลา เพื่อนำไปจำหน่ายหรือบริโภคต่อไป 2. การพัฒนาความร่วมมือด้านการฟื้นฟูสภาพจิตใจและการดูแลครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวและ แรงงานด้อยโอกาสโดยหน่วยงานรัฐในพื้นที่ การประสานงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ โดยใช้การทำหนังสือราชการของความร่วมมือ และขอความอนุเคราะห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยงานด้านสาธารณะสุข และผู้นำชุมชน ทั้งนี้ สิ่งที่จำเป็นต้อง ปกปิดและรักษาคือการรักษาความรู้สึก และความลับของแม่เลี้ยงเดี่ยวและแรงงานด้อยโอกาส เช่น สาเหตุของ การสูญเสีย หรือลักษณะของความสูญเสียที่ก่อให้เกิดครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว เพราะบางครั้งอาจกระทบกระเทือน


20 จิตใจแม่เลี้ยงเดี่ยวและแรงงานด้อยโอกาสได้มาก ดังนั้น บริษัท จะต้องทำคู่มือและความเข้าใจ โดยใช้บทเรียน ที่บริษัทมี ในการนำเสนอเป็นแนวปฏิบัติให้กับหน่วยงานและช่วยกำกับติดตาม วัดผลในระดับเบื้องต้น 5. Leaders Community economic ขั้นตอนการต่อยอดเป็นแกนนำเศรษฐกิจของชุมชน พัฒนาฝีมือจนเกิดเป็นความชำนาญ และก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการเอง หรือผู้รับจ้าง ผลิตส่งให้กับบริษัทฯ ได้อย่างมืออาชีพ และมีประสิทธิภาพ มีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากเดิม 6. A small entrepreneur on a community resource base. ขั้นตอนการกลุ่มเป้าหมาย รวมกลุ่มเป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กหรือเป็นแรงงานฝีมือ กรณีที่แรงงานมีความสามารถหลายคนในพื้นที่เดียวกันสามารถรวมกลุ่มเพื่อสร้างอำนาจ ต่อรองการสั่งซื้อ และการรับจ้างงานผลิตได้อย่างมีเสถียรภาพและเกิดความยั่งยืนยิ่งขึ้น 7. Kick off the new area ขั้นตอนการขยายผลโครงการสู่พื้นที่ หรือกลุ่มเป้าหมายอื่น ขยายผลการดำเนินงานไปยังกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ หรือในพื้นที่อื่น ๆ เพื่อสร้างความช่วยเหลือ โดย นำหลักสูตรที่มีอยู่ไปใช้ถ่ายทอดให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีความแตกต่างกัน


21 3.6 ผลที่เกิดขึ้นกับกลุ่มเป้าหมาย 3.6.1 ด้านการเรียนรู้(เช่น ทักษะด้านเศรษฐศาสตร์ครัวเรือน, การวางแผนชีวิต, การเรียนรู้ตลอด ชีวิต) ทักษะและองค์ความรู้ที่เกิดจากการเรียนรู้ในโครงการนี้ มีดังนี้ 1. กลุ่มอาชีพช่างทอผ้า จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 5 คน โดยทักษะและองค์ความรู้ที่เกิดมีดังนี้ 1) ทักษะและองค์ความรู้ด้านการย้อมเส้นด้ายด้วยสีธรรมชาติ หลังจากกระบวนการ ฝึกอบรม กลุ่มเป้าหมายซึ่งเดิมนิยมย้อมสีผ้าด้วยสีเคมี ซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่ผ่านระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) เนื่องจากมีความเข้มข้นของสารเคมีสูง แต่เมื่อผ่านการฝึกอบรมเทคนิคการย้อมสีผ้าด้วยสีธรรมชาติ ซึ่งเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการย้อม และการจัดเตรียมวัสดุ รวมถึงมีแนวคิดในการต่อยอดงาน เช่น การนำ วัสดุธรรมชาติในพื้นถิ่นตัวเองมาประยุกต์ใช้ในการย้อมสีผ้า เช่น สีเปลือกไม้ แก่นไม้ สีของแร่ธาตุ ดินและหินที่ แตกต่างกัน ทำให้เกิดความหลากหลายของสี ภายใต้ข้อกำหนดคือมาตรฐานของสีและเนื้อผ้า ต้องได้คุณภาพ มาตรฐาน เนื่องจากบริษัทฯ ตั้งเป้าในการพัฒนาให้ได้การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ต่อไปใน อนาคต 2) กลุ่มเป้าหมายเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการจัดทำบัญชีครัวเรือนอย่างง่าย โดย ใช้เอกสารบัญชี 3 ช่อง (รายรับ รายจ่าย และคงเหลือ) ที่ฝึกอบรมให้นำไปใช้ในการทดลองจดบันทึกบัญชี เบื้องต้น ซึ่งเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการปฏิบัติพอสมควร เพียงแต่มีบางรายไม่สามารถอ่านเขียนได้ จึงได้ ถ่ายทอดให้กับลูก ๆ เพื่อนำไปช่วยคุณแม่ในการจดบันทึกแทนกันได้ 3) มีทักษะและองค์ความรู้ในการเลี้ยงลูกและวางแผนอนาคตสำหรับลูก เนื่องจาก ในกิจกรรมได้ใช้วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี เป็นสถานศึกษาต้นแบบในการเรียนรู้ ซึ่งลูกและแม่ ได้เห็นถึง ศักยภาพและความสำเร็จของรุ่นพี่ตัวอย่างที่มาเป็นผู้ช่วยวิทยากร รวมถึงเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาสาย อาชีพ ทำให้ระหว่างกิจกรรมมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และทักษะและองค์ความรู้กับครูผู้สอน วิทยากร และกลุ่มเป้าหมายด้วยกันเอง ในการเรียนรู้และวางแผนอาชีพ โดยมีทีมสหวิชาชีพคอยให้คำแนะนำปรึกษา ตลอดการฝึกอบรม 4) ทักษะและองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการสร้างแบรนด์ (Branding) และ การส่งเสริมการตลาดออนไลน์ เมื่อเข้าสู่กระบวนการพัฒนาอาชีพในระยะที่ 2 สิ่งที่เกิดขึ้นที่เห็นได้ชัดคือ กลุ่มเป้าหมายเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการสร้างแบรนด์ (Branding) โดยกลุ่มเป้าหมายมีความเข้าใจและ สามารถสื่อสารและนำเสนอผลิตภัณฑ์ตนเองได้จากประสบการณ์ขายทั้งออนไลน์และออฟไฟลน์ ความรู้เรื่อง การออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ สำหรับผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมถึงมีทักษะและองค์ความรู้ในการจำหน่าย สินค้าออนไลน์ และทักษะและองค์ความรู้การถ่ายภาพและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เกิดความสวยงาม น่าสนใจและสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้


22 2. กลุ่มอาชีพช่างเย็บผ้า จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 20 คน โดยทักษะและองค์ความรู้ที่เกิดมี ดังนี้ 1) กลุ่มเป้าหมายมีทักษะและองค์ความรู้การวิเคราะห์รูปร่าง และการออกแบบ สร้างแบบตัดเย็บเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์มากขึ้น โดยเฉพาะเทคนิคในการตัดเย็บให้สวยงามและมีมูลค่าเพิ่มขึ้น รวมถึงการประยุกต์ใช้ความรู้กับการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ในการเย็บผ้า เช่น เศษผ้าที่เหลือจากการตัดเย็บ นำมาออกแบบ สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น หน้ากากผ้าแบบสายคล้องคอ กระเป๋าแก้วเยติ เสื้อคลุม บุรุษ/สตรี หมวก ผ้าพันคอม และเนคไทน์ ที่สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับกลุ่มอาชีพได้เป็นอย่างดี 2) กลุ่มเป้าหมายเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการจัดทำบัญชีครัวเรือนอย่างง่าย โดย ใช้เอกสารบัญชี 3 ช่อง (รายรับ รายจ่าย และคงเหลือ) ที่ฝึกอบรมให้นำไปใช้ในการทดลองจดบันทึกบัญชี เบื้องต้น ซึ่งเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการปฏิบัติพอสมควร เพียงแต่มีบางรายไม่สามารถอ่านเขียนได้ จึงได้ ถ่ายทอดให้กับลูก ๆ เพื่อนำไปช่วยคุณแม่ในการจดบันทึกแทนกันได้ 3) มีทักษะและองค์ความรู้ในการเลี้ยงลูกและวางแผนอนาคตสำหรับลูก เนื่องจาก ในกิจกรรมได้ใช้วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี เป็นสถานศึกษาต้นแบบในการเรียนรู้ ซึ่งลูกและแม่ ได้เห็นถึง ศักยภาพและความสำเร็จของรุ่นพี่ตัวอย่างที่มาเป็นผู้ช่วยวิทยากร รวมถึงเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาสาย อาชีพ ทำให้ระหว่างกิจกรรมมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และทักษะและองค์ความรู้กับครูผู้สอน วิทยากร และกลุ่มเป้าหมายด้วยกันเอง ในการเรียนรู้และวางแผนอาชีพ โดยมีทีมสหวิชาชีพคอยให้คำแนะนำปรึกษา ตลอดการฝึกอบรม 4) ทักษะและองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการสร้างแบรนด์ (Branding) และ การส่งเสริมการตลาดออนไลน์ เมื่อเข้าสู่กระบวนการพัฒนาอาชีพในระยะที่ 2 สิ่งที่เกิดขึ้นที่เห็นได้ชัดคือ กลุ่มเป้าหมายเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการสร้างแบรนด์ (Branding) โดยกลุ่มเป้าหมายมีความเข้าใจและ สามารถสื่อสารและนำเสนอผลิตภัณฑ์ตนเองได้จากประสบการณ์ขายทั้งออนไลน์และออฟไฟลน์ ความรู้เรื่อง การออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ สำหรับผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมถึงมีทักษะและองค์ความรู้ในการจำหน่าย สินค้าออนไลน์ และทักษะและองค์ความรู้การถ่ายภาพและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เกิดความสวยงาม น่าสนใจและสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ 3. กลุ่มอาชีพ อาหาร/ขนม จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 40 คน โดยทักษะและองค์ความรู้ที่เกิดมี ดังนี้ 1) กลุ่มเป้าหมายเกิดความรู้และทักษะและองค์ความรู้ในการดูแลโภชนาการอาหาร และการควบคุมปริมาณสารพิษ การแปรรูปอาหารและคงเก็บรักษา และเทคนิคการแปรรูปอาหาร/ขนมมูลค่า สูง ได้แก่ ผงโรยข้าวกากมะพร้าว เมี่ยงคำดอกบัวหลวง คุ้กกี้บัวหลวง และข้าวดอกบัว 2) กลุ่มเป้าหมายเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการจัดทำบัญชีครัวเรือนอย่างง่าย โดย ใช้เอกสารบัญชี 3 ช่อง (รายรับ รายจ่าย และคงเหลือ) ที่ฝึกอบรมให้นำไปใช้ในการทดลองจดบันทึกบัญชี เบื้องต้น ซึ่งเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการปฏิบัติพอสมควร เพียงแต่มีบางรายไม่สามารถอ่านเขียนได้ จึงได้ ถ่ายทอดให้กับลูก ๆ เพื่อนำไปช่วยคุณแม่ในการจดบันทึกแทนกันได้


23 3) มีทักษะและองค์ความรู้ในการเลี้ยงลูกและวางแผนอนาคตสำหรับลูก เนื่องจาก ในกิจกรรมได้ใช้วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี เป็นสถานศึกษาต้นแบบในการเรียนรู้ ซึ่งลูกและแม่ ได้เห็นถึง ศักยภาพและความสำเร็จของรุ่นพี่ตัวอย่างที่มาเป็นผู้ช่วยวิทยากร รวมถึงเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาสาย อาชีพ ทำให้ระหว่างกิจกรรมมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และทักษะและองค์ความรู้กับครูผู้สอน วิทยากร และกลุ่มเป้าหมายด้วยกันเอง ในการเรียนรู้และวางแผนอาชีพ โดยมีทีมสหวิชาชีพคอยให้คำแนะนำปรึกษา ตลอดการฝึกอบรม 4) ทักษะและองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการสร้างแบรนด์ (Branding) และ การส่งเสริมการตลาดออนไลน์ เมื่อเข้าสู่กระบวนการพัฒนาอาชีพในระยะที่ 2 สิ่งที่เกิดขึ้นที่เห็นได้ชัดคือ กลุ่มเป้าหมายเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการสร้างแบรนด์ (Branding) โดยกลุ่มเป้าหมายมีความเข้าใจและ สามารถสื่อสารและนำเสนอผลิตภัณฑ์ตนเองได้จากประสบการณ์ขายทั้งออนไลน์และออฟไฟลน์ ความรู้เรื่อง การออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ สำหรับผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมถึงมีทักษะและองค์ความรู้ในการจำหน่าย สินค้าออนไลน์ และทักษะและองค์ความรู้การถ่ายภาพและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เกิดความสวยงาม น่าสนใจและสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ 4. กลุ่มอาชีพงานฝีมือ จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 15 คน โดยทักษะและองค์ความรู้อาชีพที่ ได้รับเพิ่มเติมมีดังนี้ 1) กลุ่มเป้าหมายมีทักษะและองค์ความรู้ในการประดิษฐ์ดอกไม้จากผ้า งานใบตอง การจัดประดับ และการจัดเรียงองค์ประกอบของช่อดอกไม้ ซึ่งเป็นทักษะและองค์ความรู้งานอาชีพที่สร้าง รายได้สูง ต้นทุนต่ำ เนื่องจากใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบผลงาน โดยเฉพาะกระเช้าของขวัญ ซึ่งมี ความแตกต่าง โดดเด่น และสร้างอัตลักษณ์ให้กับกลุ่มอาชีพ ครั้งนี้ยังสามารถเชื่อมโยงทักษะและองค์ความรู้ กับกลุ่มเป้าหมายอื่น ในการเป็นฐานรองรับผลิตภัณฑ์จากกลุ่มอื่น เพื่อจัดรวมเป็นกระเช้าแล้วนำมาจำหน่ายใน โครงการ สร้างรายได้ให้กับสมาชิกได้เป็นอย่างดี 2) กลุ่มเป้าหมายเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการจัดทำบัญชีครัวเรือนอย่างง่าย โดย ใช้เอกสารบัญชี 3 ช่อง (รายรับ รายจ่าย และคงเหลือ) ที่ฝึกอบรมให้นำไปใช้ในการทดลองจดบันทึกบัญชี เบื้องต้น ซึ่งเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการปฏิบัติพอสมควร เพียงแต่มีบางรายไม่สามารถอ่านเขียนได้ จึงได้ ถ่ายทอดให้กับลูก ๆ เพื่อนำไปช่วยคุณแม่ในการจดบันทึกแทนกันได้ 3) มีทักษะและองค์ความรู้ในการเลี้ยงลูกและวางแผนอนาคตสำหรับลูก เนื่องจาก ในกิจกรรมได้ใช้วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี เป็นสถานศึกษาต้นแบบในการเรียนรู้ ซึ่งลูกและแม่ ได้เห็นถึง ศักยภาพและความสำเร็จของรุ่นพี่ตัวอย่างที่มาเป็นผู้ช่วยวิทยากร รวมถึงเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาสาย อาชีพ ทำให้ระหว่างกิจกรรมมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และทักษะและองค์ความรู้กับครูผู้สอน วิทยากร และกลุ่มเป้าหมายด้วยกันเอง ในการเรียนรู้และวางแผนอาชีพ โดยมีทีมสหวิชาชีพคอยให้คำแนะนำปรึกษา ตลอดการฝึกอบรม


24 4) ทักษะและองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการสร้างแบรนด์ (Branding) และ การส่งเสริมการตลาดออนไลน์ เมื่อเข้าสู่กระบวนการพัฒนาอาชีพในระยะที่ 2 สิ่งที่เกิดขึ้นที่เห็นได้ชัดคือ กลุ่มเป้าหมายเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการสร้างแบรนด์ (Branding) โดยกลุ่มเป้าหมายมีความเข้าใจและ สามารถสื่อสารและนำเสนอผลิตภัณฑ์ตนเองได้จากประสบการณ์ขายทั้งออนไลน์และออฟไฟลน์ ความรู้เรื่อง การออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ สำหรับผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมถึงมีทักษะและองค์ความรู้ในการจำหน่าย สินค้าออนไลน์ และทักษะและองค์ความรู้การถ่ายภาพและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เกิดความสวยงาม น่าสนใจและสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ 5. กลุ่มอาชีพนวดแผนไทย จำนวนกลุ่มเป้าหมาย 20 คน โดยทักษะและองค์ความรู้ที่เกิดมี ดังนี้ 1) เกิดทักษะและองค์ความรู้ในการสำรวจและตรวจสอบสภาพร่างกายผู้รับบริการ ก่อนนวด รวมถึงทักษะและองค์ความรู้การนวดพื้นฐาน เช่น การนวดฝ่าเท้า การนวดตัวด้วยเทคนิคราชสำนัก ซึ่ง จากเดิมกลุ่มเป้าหมายบางรายมีพื้นฐานความรู้แบบภูมิปัญญาอยู่บ้าง ทำให้สามารถรับรู้และเข้าใจถึงการ วิเคราะห์สรีระ และตำแหน่งของเส้นสำคัญ ๆ ในร่างกาย รวมถึงสามารถระมัดระวัง และให้คำแนะนำ กลุ่มเป้าหมายมือใหม่ และเก่า ร่วมกันได้อย่างสนุกสนาน เกิดการเรียนรู้ช่วยเหลือ และฝึกปฏิบัติไปอย่าง พร้อมเพียงกัน 2) เกิดทักษะและองค์ความรู้ในการผลิตสินค้าจากสมุนไพร เช่น การทำยาหม่อง สมุนไพรไทย (ดอกบัวหลวง) และลูกประคบ ซึ่งสามารถเป็นสินค้าของฝากของที่ระลึกเพื่อร่วมจำหน่ายและ สร้างรายได้เสริมนอกเหนือจากการนวดได้อีกช่องทางหนึ่ง โดยกลุ่มเป้าหมายได้ทดลองทำสมุนไพรจากดอกบัว หลวง ซึ่งเป็นพืชประจำจังหวัดหนองบัวลำภู มีความสวยงาม และอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น สามารถสร้างความ แตกต่างกับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในท้องตลาดได้ 3) กลุ่มเป้าหมายเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการจัดทำบัญชีครัวเรือนอย่างง่าย โดย ใช้เอกสารบัญชี 3 ช่อง (รายรับ รายจ่าย และคงเหลือ) ที่ฝึกอบรมให้นำไปใช้ในการทดลองจดบันทึกบัญชี เบื้องต้น ซึ่งเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการปฏิบัติพอสมควร เพียงแต่มีบางรายไม่สามารถอ่านเขียนได้ จึงได้ ถ่ายทอดให้กับลูก ๆ เพื่อนำไปช่วยคุณแม่ในการจดบันทึกแทนกันได้ 4) มีทักษะและองค์ความรู้ในการเลี้ยงลูกและวางแผนอนาคตสำหรับลูก เนื่องจาก ในกิจกรรมได้ใช้วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี เป็นสถานศึกษาต้นแบบในการเรียนรู้ซึ่งลูกและแม่ ได้เห็นถึง ศักยภาพและความสำเร็จของรุ่นพี่ตัวอย่างที่มาเป็นผู้ช่วยวิทยากร รวมถึงเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาสาย อาชีพ ทำให้ระหว่างกิจกรรมมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และทักษะและองค์ความรู้กับครูผู้สอน วิทยากร และกลุ่มเป้าหมายด้วยกันเอง ในการเรียนรู้และวางแผนอาชีพ โดยมีทีมสหวิชาชีพคอยให้คำแนะนำปรึกษา ตลอดการฝึกอบรม


25 4) ทักษะและองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการสร้างแบรนด์ (Branding) และ การส่งเสริมการตลาดออนไลน์ เมื่อเข้าสู่กระบวนการพัฒนาอาชีพในระยะที่ 2 สิ่งที่เกิดขึ้นที่เห็นได้ชัดคือ กลุ่มเป้าหมายเกิดทักษะและองค์ความรู้ในการสร้างแบรนด์ (Branding) โดยกลุ่มเป้าหมายมีความเข้าใจและ สามารถสื่อสารและนำเสนอผลิตภัณฑ์ตนเองได้จากประสบการณ์ขายทั้งออนไลน์และออฟไฟลน์ ความรู้เรื่อง การออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ สำหรับผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมถึงมีทักษะและองค์ความรู้ในการจำหน่าย สินค้าออนไลน์ และทักษะและองค์ความรู้การถ่ายภาพและการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เกิดความสวยงาม น่าสนใจและสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ 3.6.2 ด้านการเกิดอาชีพ (เช่น เกิดทักษะอาชีพบนฐานชุมชน, เกิดการต่อยอดอาชีพ, การเป็น ผู้ประกอบการ) 1. เกิดอาชีพชุมชนและการต่อยอดเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น ภายใต้โครงการ จำนวน 5 แบรนด์ ได้แก่ 1) กลุ่มอาหารและขนม ภายใต้แบรนด์ "วังซา" (Wang -Sa) เช่น ขนมปั้นสิบ ข้าวเกรียบ ข้าวพอง เมี่ยงไทสุวรรณ และข้าวแต๋นอีสาน 2) กลุ่มช่างเย็บผ้า ภายใต้แบรนด์ "บาย็อง" เช่น หน้ากากผ้า หมวกผ้า กระเป๋าแก้วเยติ และถุงสำเร็จสวมใส่เสื้อผ้า 3) กลุ่มช่างทอผ้าพื้นเมือง ภายใต้ชื่อแบรนด์ "แพรพรรณ" เช่น ผ้าพันคอ และผ้าคลุมไหล่ มัดย้อม 4) กลุ่มงานฝีมือ ภายใต้แบรนด์ "ชมพูทอง" เช่น พวงกุญแจต่างหู และดอกบัวประดิษฐ์ 5) กลุ่มนวดแผนไทย ภายใต้ชื่อกิจกรรม "มือทอง" เช่น ยาหม่องสมุนไพร และลูกประคบ 2. มีการยกระดับจัดตั้งกลุ่มอาชีพรับรอง 1) ปัจจุบันได้รับการรับรองแล้ว 1 กลุ่ม คือ กลุ่มจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนจากสำนักงาน เกษตรอำเภอสุวรรณคูหา ภายใต้ชื่อ "กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปเกษตรอินทรีย์บ้านวังหินซา" (ทะเบียนเลขที่ 4-39-05-05/1-0066) 2) อยู่ระหว่างการรับรองกลุ่มสัมมาชีพจากกรมการพัฒนาชุมชน จำนวน 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มช่างเย็บผ้า ได้รวมกลุ่มเตรียมจัดตั้งเป็นกลุ่มสัมมาชีพ (กรมการพัฒนาชุมชน) ภายใต้การสนับสนุนจากคณะกรรมการพัฒนาบทบาทสตรีอำเภอเมืองหนองบัวลำภู โดยใช้ชื่อ "กลุ่มสัมมาชีพ แปรรูปผ้าพื้นเมืองอำเภอเมืองหนองบัวลำภู" อยู่ระหว่างการจัดเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอจัดตั้งกลุ่ม และ ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ "บาย็อง" (2) กลุ่มช่างทอผ้าพื้นเมือง ได้รวมกลุ่มจัดตั้งเป็นผู้ประกอบการชุมชน ภายใต้ชื่อแบ รนด์ "แพรพรรณ" โดยอยู่ระหว่างการเสนอขอจัดตั้งกลุ่มอาชีพจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต.โนนเมือง อ.นากลาง)


26 (3) กลุ่มงานฝีมือ ได้รวมกลุ่มและจัดตั้งผู้ประกอบการภายใต้ชื่อกลุ่มสัมมาชีพของที่ ระลึกพื้นเมืองจากเศษวัสดุ โดยเสนอต่อสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอศรีบุญเรือง เพื่อขอรับรองการขึ้น ทะเบียนในเดือนเมษายน ภายใต้แบรนด์ "ชมพูทอง" 3) อยู่ระหว่างเสนอรับรองกลุ่มอาชีพจาก อบต. จำนวน 1 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มนวด ภายใต้ ชื่อกิจกรรม "มือทอง" โดยมีช่างและหมอนวดพื้นบ้านเข้าร่วมกิจกรรมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับชุมชน แต่ ยังไม่สามารถถึงขึ้นจดทะเบียนหรือขึ้นทะเบียนกลุ่มอาชีพกับหน่วยงานได้ เนื่องจากส่วนใหญ่ยังขาดลูกค้า สำคัญและยังอยู่ร่วมในชุมชนเดียวเป็นหลัก 3.6.3 การเกิดรายได้(เกิดรายได้หลักหรือรายได้เสริมอย่างไร) จากการดำเนินโครงการเกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่องรายได้ของกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉลี่ยแบ่งตามกลุ่ม อาชีพ ได้ ดังนี้ 1. กลุ่มอาชีพช่างทอผ้า จำนวน 5 คน เกิดรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมสี ธรรมชาติ ซึ่งขายให้กับกลุ่ม OTOP ในพื้นที่ เช่น รัศมีผ้าไทย เรือนผ้าไหมคุณระพีพรรณ (B2B) โดยเฉลี่ยคน ละ 20 ผืน ๆ ละ 250 บาท (ต้นทุนสินค้า 120 บาท) เฉลี่ยมีรายได้เพิ่มขึ้น 2,600 บาท/คน/เดือน 2. กลุ่มอาชีพช่างเย็บผ้า จำนวน 20 คน เกิดรายได้เพิ่มขึ้นจากการจำหน่ายสินค้าหน้ากาก ผ้าไทย กระเป๋า และหมวกผ้า ให้กับลูกค้าออนไลน์ (B2C) และผู้ประกอบการร้านชม (CHOMM) (B2B) โดย เฉลี่ยวันละ 250 บาท/คน หรือคิดเป็นรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 7,000-7,500 บาท/คน/เดือน 3. กลุ่มอาหาร/ขนม จำนวน 40 คน เกิดรายได้จากการจำหน่ายขนมปั้นสิบ ข้าวเกรียบทอด และเมี่ยงน้ำพริกไทสุวรรณ ให้กับลูกค้าในชุมชน (B2C) และหน่วยงานราชการในพื้นที่ (B2G) คิดเป็นรายได้ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2,500-3,000 บาท/คน/เดือน 4. กลุ่มงานฝีมือ จำนวน 15 คน เกิดรายได้จากการจำหน่ายตะกร้าดอกบัว ให้กับกลุ่ม ผู้ประกอบการ OTOP ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู (B2B) เป็นรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3,200 บาท/คน/เดือน 5. กลุ่มนวดแผนไทย จำนวน 20 คน เกิดรายได้จากการจำหน่ายลูกประคบสมุนไพร และยา หม่อง รวมถึงการรับบริการนวดแผนไทย โดยมีลูกค้าหลักในพื้นที่ชุมชน (B2C) เกิดรายได้เฉลี่ย 1,500 บาท/ คน/เดือน 3.6.4 การยกระดับคุณภาพชีวิต (เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างไร) การดำเนินโครงการครั้งนี้ได้ยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มเป้าหมาย 2 ด้าน ได้แก่ 1. เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้เสริมให้กับแม่เลี้ยงเดี่ยวและผู้ว่างงานจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ได้รับ ผลกระทบจากสภาวะโควิด 2019 ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้ สามารถสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ ที่มีศักยภาพของและ สามารถผลิตสินค้าและบริการจำหน่ายได้ สามารถเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่รวมกลุ่ม เพิ่มขึ้นเฉลี่ยราย ละ 850-3,200-3,500 บาท/เดือน


27 2. เพื่อเพิ่มกำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับแม่เลี้ยงเดี่ยวที่กำลังประสบปัญหา ตลอดจนส่งเสริม การสร้างเครือข่ายช่วยเหลือแม่เลี้ยงเดี่ยวในจังหวัดหนองบัวลำภู แม่เลี้ยงเดี่ยวและครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยว มีดัชนีความสุขเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 37.5 โดยมีภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน สถานประกอบการ และผู้นำชุมชนให้ความร่วมมือในการวางแผน และ ให้คำแนะนำปรึกษาทั้งปัญหาของแม่ และลูกไปพร้อม ๆ กัน โดยผ่านช่องทางออนไลน์ และการลงพื้นที่ให้ คำแนะนำการรับบริการ ตลอดจนกระบวนการส่งต่อกลุ่มเป้าหมายในการเสริมสร้างศักยภาพของพื้นที่ร่วมกัน ในการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนผลักดันการสร้างเครือข่ายแม่เลี้ยงเดี่ยวภาคกลาง ให้ประสบความสำเร็จและ สามารถเป็นองค์กรที่ต่อรอง หรือมีบทบาทในการช่วยเหลือสมาชิกร่วมกันได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน 3.6.5 การสร้างเครือข่ายและสังคม (เช่น เกิดการสร้างเครือข่าย, เกิดการรวมกลุ่มคน, การมีเป้าหมาย ร่วมกันเพื่อพัฒนาอาชีพโดยใช้ชุมชนเป็นฐานอย่างไร) เกิดการรวมกลุ่มอาชีพผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์ภายใต้โครงการ ทั้งที่ผ่านการรับรองและจดทะเบียนกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1) กลุ่มอาหารและขนม ได้รวมกลุ่มจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนจากสำนักงานเกษตรอำเภอสุวรรณ คูหา ภายใต้ชื่อ "กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปเกษตรอินทรีย์บ้านวังหินซา" (ทะเบียนเลขที่ 4-39-05-05/1-0066) โดยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ "วังซา" (Wang -Sa) 2) กลุ่มช่างเย็บผ้า ได้รวมกลุ่มเตรียมจัดตั้งเป็นกลุ่มสัมมาชีพ (กรมการพัฒนาชุมชน) ภายใต้การ สนับสนุนจากคณะกรรมการพัฒนาบทบาทสตรีอำเภอเมืองหนองบัวลำภู โดยใช้ชื่อ "กลุ่มสัมมาชีพแปรรูปผ้า พื้นเมืองอำเภอเมืองหนองบัวลำภู" อยู่ระหว่างการจัดเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอจัดตั้งกลุ่ม และผลิตสินค้า ภายใต้แบรนด์ "บาย็อง" 3) กลุ่มช่างทอผ้าพื้นเมือง ได้รวมกลุ่มจัดตั้งเป็นผู้ประกอบการชุมชน ภายใต้ชื่อแบรนด์ "แพร พรรณ" โดยอยู่ระหว่างการเสนอขอจัดตั้งกลุ่มอาชีพจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบต.โนนเมือง อ.นา กลาง) 4) กลุ่มงานฝีมือ ได้รวมกลุ่มและจัดตั้งผู้ประกอบการภายใต้ชื่อกลุ่มสัมมาชีพของที่ระลึกพื้นเมือง จากเศษวัสดุ โดยเสนอต่อสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอศรีบุญเรือง เพื่อขอรับรองการขึ้นทะเบียนในเดือน เมษายน ภายใต้แบรนด์ "ชมพูทอง" 5) ได้เค้าโครงการรวมกลุ่มนวด ภายใต้ชื่อกิจกรรม "มือทอง" โดยมีช่างและหมอนวดพื้นบ้านเข้า ร่วมกิจกรรมและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระดับชุมชน แต่ยังไม่สามารถถึงขึ้นจดทะเบียนหรือขึ้นทะเบียนกลุ่ม อาชีพกับหน่วยงานได้ เนื่องจากส่วนใหญ่ยังขาดลูกค้าสำคัญและยังอยู่ร่วมในชุมชนเดียวเป็นหลัก


28 บทที่4 สรุปและอภิปรายผลการดำเนินโครงการ 4.1 สรุปภาพรวมการดำเนินงานตลอดทั้งโครงการ 1. ชุมชนพื้นที่เป้าหมาย 1.1 สภาพพื้นที่ พื้นที่เป้าหมายคือ จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีความยากจนเป็น ลำดับต้น ๆ ของประเทศ และมีสถิติการหย่าร้างสูง ส่วนใหญ่ในจังหวัดเน้นเศรษฐกิจด้านเกษตรกรรม ปลูก อ้อย มันสำปะหลัง และข้าว และมีการส่งเสริมอาชีพหัตถกรรมผ้าทอพื้นเมือง เนื่องจากเป็นแหล่งภูมิปัญญาผ้า ทอที่สำคัญ โดยเฉพาะผ้ามัดหมี่สลับขิด หรือผ้าสามกษัตริย์ที่เป็นของดีเมืองหนองบัวลำภู 1.2 จุดแข็งของพื้นที่ จุดแข็งของพื้นที่คือมีการส่งเสริมอาชีพด้านผ้าทอ และหัตถกรรมพื้นเมือง เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตสินค้าผ้าทอที่สำคัญของภาคอีสาน มีการส่งจำหน่ายและรับซื้อจากตลาดผ้าทอนาข่า อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี รวมถึงมีผู้ประกอบการท้องถิ่นให้การสนับสนุนชุมชนในการผลิตประเภทเสื้อผ้า เครื่องประดับ และผ้าทอพื้นเมืองจำนวนมาก 1.3 จุดอ่อนของพื้นที่ จุดอ่อนของพื้นที่คือ การคมนาคมขนส่งค่อนข้างเป็นปัญหา เนื่องจากมี ลักษณะภูมิประเทศภูเขาล้อมลอบจังหวัด ทำให้มีเส้นทางผ่านหลักไม่กี่สาย ไม่ได้เป็นแหล่งที่ตั้งของสนามบิน หรือสถานีรถไฟ ทำให้การขนส่ง หรือการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องวางแผน การปฏิบัติงาน รวมถึงกำลังการผลิต การจัดหาวัสดุต่าง ๆ ให้ชัดเจน และไม่เป็นปัญหาต่อกลุ่มเป้าหมาย 1.4 ปัญหาของพื้นที่ที่ต้องการแก้ไข เมื่อเกิดปัญหาวิกฤตการณ์โควิด ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ ถูกเลิกจ้าง และตกงานจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งมีรายได้เดิมน้อยและมีภาระมาก รวมถึง ขาดความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง 2. กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการช่วยเหลือ กลุ่มแม่เลี้ยงเดี่ยว และสตรีผู้ตกงานที่ได้รับผลกระทบจาก ปัญหาการระบาดของโรคไวรัสโควิด 2019 ซึ่งขาดแคลนรายได้ หรือรายได้ลดลงจากการประกอบอาชีพเดิม และมีความต้องการรายได้เสริมเพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจครัวเรือนให้สูงขึ้น 3. กระบวนการดำเนินงาน/กิจกรรมที่เกิดขึ้น การดำเนินงานเริ่มจากการสำรวจ และวิเคราะห์ ศักยภาพของพื้นที่ ตลอดจนสำรวจถึงทรัพยากรและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นเดิม จากนั้นได้ทำการออกแบบและ พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับเป้าหมายและกิจการของบริษัท อัตลักษณ์ จำกัด โดยได้จัดฝึกอบรม ใน สถานศึกษา (วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี) จำนวน 2 วัน และในพื้นที่จุดปักหมุดอาชีพกลุ่มละ 1 วัน มีจำนวน ผู้เข้ารับการฝึกอบรมรวมกว่า 100 ราย จากนั้นได้ทำการคัดเลือกและวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความ ต้องการของตลาดท้องถิ่น เพื่อฝึกอบรมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้ง Online และ On ground ในกลุ่มย่อยอย่าง จริงจัง จากนั้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยระหว่างโครงการเปิดโอกาสให้แม่เลี้ยงเดี่ยวและสตรีผู้ว่างงานได้เลือก พิจารณาในการจำหน่ายเองตามความสามารถ หรือรวมกลุ่มผลิตเพื่อจำหน่าย และการรับจ้างผลิตให้กับ ผู้ประกอบการในพื้นที่ (OEM) ซึ่งสามารถรองรับจำนวนการผลิตได้ตามกำลังการผลิตที่มี


29 5. ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการโครงการ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้ สามารถสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ ที่มีศักยภาพของและสามารถ ผลิตสินค้าและบริการจำหน่ายได้ 5 แบรนด์ ประกอบด้วย วังซา (กลุ่มอาหาร/ขนม) บาย็อง (กลุ่มเย็บผ้า) ชมพูทอง (กลุ่มงานฝีมือ) แพรพรรณ (กลุ่มทอผ้า) และมือทอง (กลุ่มนวดแผนไทย) โดยสามารถเพิ่มยอดผลิต สินค้า และสามารถเพิ่มรายได้ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่รวมกลุ่ม เพิ่มขึ้นเฉลี่ยรายละ 3,200—3,500 บาท/เดือน 4.2 ยกระดับความสำเร็จของการดำเนินโครงการ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด เพราะ จากเดิมตั้งเป้าหมายเพียงเพื่อให้แม่เลี้ยงเดี่ยวมีอาชีพ มีรายได้โดยลำพัง และใช้กลุ่มจุดปักหมุด เพื่อเป็นแหล่งซื้อขาย แลกเปลี่ยนประสานงานความร่วมมือในพื้นที่ เพื่อลดการเดินทาง และเวลาในการ ปฏิบัติงานในพื้นที่ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ กลุ่มเป้าหมายมีความต้องการจับกลุ่มรวมตัวประกอบอาชีพโดย ขอรับคำแนะนำในการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง เพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายความช่วยเหลือ ตลอดจนผลักดัน ขีดความสามารถของกลุ่มอาชีพ ให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว ซึ่งเมื่อเริ่มต้นแล้วนั้น ผลที่ตามมาอีกประการ คือหน่วยงานในพื้นที่ รวมถึงส่วนราชการในจังหวัดเริ่มเห็นความสำคัญและให้บทบาทกับกลุ่มอาชีพ ได้เป็น ต้นแบบกลุ่มเข้มแข็ง เช่น กลุ่มอาหาร/ขนม ที่ได้รับการจดทะเบียนเป็นกลุ่มวิสาหกิจขุมชน เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2564 และได้รับการประเมินรับรองเป็นกลุ่มวิสาหกิจเข้มเข็ง ระดับอำเภอ เนื่องจากสมาชิกมีความ ผูกพัน และมีการแลกเปลี่ยนปรึกษาซึ่งกันและกัน โดยมีหน่วยพัฒนา และทีมพี่เลี้ยงเป็นที่ปรึกษาคอยให้ คำแนะนำช่วยเหลือจนประสบความสำเร็จ และเป็นต้นแบบได้ ก่อให้เกิดความต้องการในการขยายผลและ พัฒนาตนเองของกลุ่มอาชีพอื่น ๆ ที่พร้อมจะเรียนรู้และก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำเศรษฐกิจชุมชนแบบครบห่วงโซ่ เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นวาระของหน่วยพัฒนาที่ต้องนำมาวางแผนรองรับและออกแบบกระบวนการเพื่อช่วยเหลือ สนับสนุน และหนุนเสริมศักยภาพของกลุ่มเป้าหมายในระยะและโอกาสต่อไป 4.3 บทเรียน/ข้อค้นพบสำคัญของการดำเนินโครงการที่ผ่านมา ข้อค้นพบของโครงการ ได้แก่ กระบวนการรวมกลุ่มตามธรรมชาติ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายนอกเหนือจาก ผลลัพธ์หลักที่ต้องการคือรายได้ และกำลังใจ สิ่งหนึ่งสำคัญที่กลุ่มเป้าหมายต้องการคือ “เพื่อน” เพราะสังคม อีสานคือสังคมของครอบครัวและการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสังคมใหญ่ เดิมกลุ่มเป้าหมายถูกกดดันและกีดกันจาก สังคม รวมถึงยังไม่ได้รับการยอมรับจากชุมชนเท่าที่ควร ทำให้เสียกำลังใจ ซึ่งข้อค้นพบเมื่อเกิดการรวมกลุ่มกัน เรียนรู้และฝึกอบรม ทำให้เกิดความรู้สึกไว้ใจ อบอุ่น และมีเพื่อน ทำให้แต่ละจุดปักหมุดตกลงร่วมกันในการ


30 รวมกลุ่มอาชีพ และผลักดันเป็นกลุ่มอาชีพที่ได้รับการรองรับ รวมถึงการส่งเสริมในระยะยาว โดยบริษัทฯ ใน ฐานะหน่วยพัฒนาอาชีพ จึงได้ปรึกษาคณะที่ปรึกษาและทีมพี่เลี้ยงภาค ในการยกระดับกลุ่มอาชีพสู่การรับรอง ของหน่วยงานตามลักษณะประกอบการของกลุ่ม และได้ประสานไปยังเครือข่ายส่วนราชการ เช่น สำนักงาน เกษตรจังหวัด สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด และสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด ซึ่งสามารถจำแนกและยกระดับกลุ่มได้หลากหลายวิธี อาทิ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มสัมมาชีพ กลุ่มอาชีพชุมชน และได้ดำเนินการสำเร็จเป็นต้นแบบสำคัญคือ กลุ่มอาหาร/ขนม ซึ่งได้ยกระดับเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูป เกษตรอินทรีย์บ้านวังหินซา โดยมีความเข้มแข็งและได้รับการส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยกย่องเป็น วิสาหกิจชุมชนเข้มแข็งดีเด่น ประจำปี 2564 จากสำนักงานเกษตรอำเภอสุวรรณคูหา และมีโอกาสได้ต้อนรับ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ท่านศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการหญิงท่านเดียวในประเทศไทยในขณะนี้ และมีโอกาสทูลเกล้าฯ ถวายผลิตภัณฑ์จากโครงการร่วมกับกลุ่มอาชีพช่างทอผ้า แด่ทูลกระหม่อมหญิงอุบล รัตน์ราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในโอกาสเสด็จเยือน อ.สุวรรณคูหา 4.4 การดำเนินโครงการสร้างโอกาสให้แก่กลุ่มเป้าหมาย หน่วยพัฒนาอาชีพ และชุมชนอย่างไร 4.4.1 กลุ่มเป้าหมาย 1. กลุ่มเป้าหมายมีทักษะพื้นฐานในการประกอบสัมมาอาชีพ และมีการฝึกฝนเกิดความชำนาญ 2. กลุ่มเป้าหมายเกิดการรวมกลุ่มสร้างรายได้ สร้างอาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตตนเองให้ รอดพ้นวิกฤตการณ์โควิด 3. กลุ่มเป้าหมายสามารถพัฒนาตนเองสู่การเป็นผู้ประกอบการและผู้นำเศรษฐกิจชุมชนได้ 4.4.2 หน่วยพัฒนาอาชีพ 1. ลดต้นทุนในการฝึกอบรมพนักงานใหม่ โดยสามารถใช้แรงงานอิสระที่ผ่านการฝึกอบรมได้ ตามความถนัด ลดต้นทุนที่พัก และค่าใช้จ่ายในการจ้างงานแบบถาวร (พนักงานประจำ) 2. มีแรงงานฝีมือเพิ่มมากขึ้นในกิจการ สามารถรองรับงานผลิตคุณภาพสูงที่มีกำลังสั่งซื้อสูง แต่ขาดทรัพยากรแรงงานฝีมือในการผลิต 4.4.3 ชุมชน 1. ชุมชนเกิดกลุ่มอาชีพใหม่ ที่ช่วยสนับสนุนและขับเคลื่อนสายพานเศรษฐกิจชุมชนให้เกิด รายได้และความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจชุมชนได้ 2. ชุมชนมีแหล่งเรียนรู้ด้านอาชีพ และสามารถช่วยเหลือส่งเสริมในระยะยาวได้ 4.5 แนวทางการขยายผลและการต่อยอดโครงการ จากการพัฒนากลุ่มในระยะแยกเริ่มแรกถึงปัจจุบันสามารถรวบกลุ่มอาชีพ และเกิดแนวคิดในการ ทำงานร่วมกันเป็นเครือข่าย โดยเมื่อกลุ่มเริ่มเกิดความเข้มแข็งและมีต้นแบบที่ดีแล้ว ทำให้กลุ่มอื่น ๆ หรือ ประชาชนผู้ว่างงานอื่น ๆ ในชุมชนเกิดความสนใจเข้าร่วมโครงการ และต้องการผลักดันคุณภาพกลุ่มให้เป็น กลุ่มเครือข่ายผู้นำทักษะอาชีพของชุมชน สามารถต่อยอดเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของท้องถิ่น และมีส่วนร่วม ในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนแบบครบห่วงโซ่ ซึ่งเริ่มมีโอกาสและหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และประชาชนใน


31 พื้นที่โดยรอบจุดปักหมุดให้ความสนใจและสนับสนุนกิจกรรมมากขึ้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะต่อยอดสู่การเป็น แหล่งเรียนรู้ด้านกลุ่มอาชีพเพื่อผู้ว่างงานในระยะยาวต่อไปได้ 4.6 ข้อเสนอแนะ ควรเพิ่มเติมการสนับสนุนเรื่องคำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน เช่น กระบวนการจัดการด้าน การเงิน การบัญชี และพัสดุ ที่ช่วยเป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการเอกสาร รายงาน และการตรวจสอบ ภายใน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีความถูกต้องตามหลักการเบิกจ่ายงบประมาณแผ่นดิน สอดคล้องกับระเบียบและข้อปฏฺิบัติตามกฎหมาย ซึ่งช่วยให้เกิดความสุจริตและเม็ดเงินงบประมาณถูกนำไปใช้ จ่ายอย่างเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาสังคมอย่างสูงสุด ตลอดจนกระบวนการพัฒนาช่องทางในการสื่อสาร รายงานผล และช่องทางติดต่อออนไลน์ต่าง ๆ ที่อำนวยความสะดวก ทันสมัย และสามารถสื่อสารหรือตอบโต้ ช่วยให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้ในทุกปัญหาอย่างเท่าเทียมกันโดยตลอดมา


32 ภาคผนวก


33


34


35


36


37


38


39


Click to View FlipBook Version