The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติศาสตร์ราชวงศ์ อาณาจักร ที่เกี่ยวข้องกับราชอาณาจักรไทรัฏฐาธิปัตย์อ้างอิงจากบทวิจัย ความเป็นมาของราชอาณาจักรไทรัฏฐาธิปัตย์ ของ ดร.อาภรณ์ รัตนวรางกุล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wannakornkonykhen, 2022-02-27 00:14:57

ประวัติศาสตร์ราชวงศ์ อาณาจักร ที่เกี่ยวข้องกับราชอาณาจักรไทรัฏฐาธิปัตย์อ้างอิงจากบทวิจัย ความเป็นมาของราชอาณาจักรไทรัฏฐาธิปัตย์ ของ ดร.อาภรณ์ รัตนวรางกุล

ประวัติศาสตร์ราชวงศ์ อาณาจักร ที่เกี่ยวข้องกับราชอาณาจักรไทรัฏฐาธิปัตย์อ้างอิงจากบทวิจัย ความเป็นมาของราชอาณาจักรไทรัฏฐาธิปัตย์ ของ ดร.อาภรณ์ รัตนวรางกุล

ประวัติศาสตร์
ราชวงศ์ อาณาจักร
ที่ เกี่ ยวข้องกับราชอาณาจักรไทรัฏฐาธิปัตย์

อ้างอิงจากบทวิจัย
ความเป็นมาของราชอาณาจักรไทรัฏฐาธิปัตย์

ของ ดร.อาภรณ์ รัตนวรางกุล

อาณาจักร สิงขรศรีเทพธานี

อาณาจักร สิงขรปุระราชธานี เป็นราชธานีแรกเท่าที่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์
อักษร และหลักฐานที่ทำให้ทราบถึงการมีอยู่ของอาณาจักรนี้ คือ
พระราชพงศาวดารพระเจ้าศศิธรธิบดี
โดยกล่าวว่า "เมื่อพระพุทธศักราชปริพพานล่วงแล้วหนึ่งพันเจ็ดร้อยหกสิบหก
ราชธานีสิงขร พระเจ้าจันทราบวรราชทรงครองราชย์ผ่านสมบัติ สถาปนาสิงขร
ศรีเทพธานีขึ้นเป็นราชธานี กว้างยาวพระนคร ข้างทิศบูรพาสามร้อยสามโยชน์
ข้างทิศอุดรสองร้อยเก้าโยชน์ ท้างทิศทักษิณถึงเมืองมัชปาหิต
ข้างทิศประจิมติดเมืองหงสาวดี" ข้อความส่วนใหญ่ก็จะกล่าวถึงความกว้างยาว
ของอาณาจักรครั้งแรกสถาปนา โดยหน่วยโบราณสมัยนั้น และหลักฐานการสืบ
สันตติวงศ์ การดำรงอยู่ของกษัตริย์หรือผู้นำ ค้นพบที่จังหวัดบริเวณทางเหนือ
ของ ราชอาณาจักรไทรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่ งนักวิชาการคาดว่าเป็นศูนย์กลางของ
อาณาจักรสิงขรศรีเทพธานี โดยตามหลักฐานที่ค้นพบเป็นหลักฐานของเสนาบดี
คนนึ่ งที่ น่าจะรับราชการในช่วงท้ายของอาณาจักรได้บันทึกพระนามของกษัตริย์
หรือผู้ปกครองขณะนั้นไว้ ในข้อมูลกล่าวถึงกษัตริย์ห้าพระองค์ โดยส่วนใหญ่จะ
มีพระนามเกี่ยวกับพระจันทร์ซึ่ งเป็นเทวดา
นพเคราะห์ นักวิชาการจึงสันนิษฐานว่า ที่มาของชื่ออาจจะมาจากคนส่วนใหญ่ใน
สมัยบูชาพระจันทร์เป็นส่ วนมากดังนั้ นผู้ที่ จะปกครองจึงต้องผูกใจประชาชนจึง
สมมติให้ตัวเองเป็นเทพที่ประชาชนนับถือ พระนามของกษัตริย์อาณาจักรนี้ จึงมี
พระนามเกี่ยวกับพระจันทร์เส่วนใหญ่ และการราชาภิเษกของษัตริย์
ในราชอาณาจักรนี้ ตามบันทึกเรียกว่า"จันทราบวรภิเษก".และตามบันทึกราชวงศ์
นี้ มีนามว่า "จันทราวงศ์"

ราชวงศ์ จันทราวงศ์

รัชกาล พระนาม วันเดือน ปี วันเดือน ปี
พระราชสมภพ ครองราชย์
รัชกาล พระเจ้าจันทราบวรราช
ที่ ๑ พระเจ้าจันทรธรรมมาธิบดีที่ ๑ พ.ศ.๑๗๔๑ พ.ศ.๑๗๖๖
พระเจ้าจันทรธรรมมาธิบดีที่ ๒ ถึง ถึง
รัชกาล พระเจ้าจันทรธรรมมาธิบดีที่ ๓
ที่ ๒ พระเจ้าศศิธรธิบดี พ.ศ.๑๘๔๑ พ.ศ.๑๘๔๑

รัชกาล พ.ศ.๑๘๒๐ พ.ศ.๑๘๔๑
ที่ ๓ ถึง ถึง

รัชกาล พ.ศ.๑๙๑๔ พ.ศ.๑๙๑๔
ที่ ๔ พ.ศ.๑๘๔๓ พ.ศ.๑๙๑๔

รัชกาล ถึง ถึง
ที่ ๕ พ.ศ.๑๙๓๓ พ.ศ.๑๙๓๓

พ.ศ.๑๘๙๓ พ.ศ.๑๙๓๓
ถึง ถึง

พ.ศ.๑๙๗๓ พ.ศ.๑๙๗๓
พ.ศ.1741 พ.ศ.๑๙๗๓

ถึง ถึง
พ.ศ.๑๙๗๘ พ.ศ.๑๙๗๕

อาณาจักร อยุธเยศรราชธานี

อาณาจักร อยุธเยศรราชธานี เป็นราชธานีแห่งที่สองที่มีการบันทึกเป็น
ลายลักษณ์อักษร และหลักฐานที่ทำให้ทราบถึงการมีอยู่ของอาณาจักรนี้ คือ
พระราชพงศาวดารราชปฐฒวงศ์ พระธรรมนูญศาสน์
โดยหลักฐานที่ชัดเจน คือ พระธรรมนูญศาสน์ กล่าวว่า "เมื่อพระพุทธศักราช
พุทธนิพพานล่วงแล้วหนึ่งพันเก้าร้อยหนึ่ง พระบาทพระรามราชาธิราช
ทรงครองราชย์สมบัติ สถาปนาอยุธเยศรเป็นราชธานี กว้างยาวพระนคร ข้างทิศ
บูรพาติดเมืองลาว ข้างทิศอุดรเชียงตุ้ง ท้างทิศทักษิณถึงเมืองชวาข้างทิศประจิม
ตริาดมพุบ้กดีารมาปชรเะมเื่ท่อศกาเรมื่ศอพผ่เาจน้ารผ้าูพม่อรารชาามธิบรดาีชรสาชมัไยปลต่ีวไดง้สพิงรขะรบุปตุรระไเดปุ้็เนสอวายณราาชบรนิวาามร
หลังจากอันรมย์รื่นธานีสงบเรืองรุ่ง ผ่าสุข จนผ่านกาลมาถึงพ่ออยู่เกล้าปนัดดา
ราเมศวรรามราช ก็สิ้นวงศ์ราม ได้วงศ์พราหมณ์พรหมมาแทน เมืองสุขอโรคา
ภัย มีเจุ้าผ่านเกล้า ยีบเก้า องค์ ก็สิุ้นวงศ์บุญมี เสนางเสนีจึงไดุ้ไปทูลให้ผูุ้สาย
อมรินทร์เสวยสมบัติ เมืองหามีทุกข์ใด สมัยกาลรื่นสมหทัยเจ้า สี่ สิบสองเข้าเจ้า
นครินทร์ " ข้อความพูดถึงความเป็ูนมาของอาณาจักร ลำดับราชวงศ์ที่มา
สืบสันตติวงศ์เป็ูนผู็ุ้ปกครอง การดำรงอยู่ของกษัตริย์หรือผู้นำ ค้นพบที่จังหวัด
บริเวณทางเหนือ ภาคกลาง และเอกสารในพระบรมหาราชวัง ของราอาณาจักร
ไทรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่ งนักวิชาการคาดว่าเป็นศูนย์กลางของอาณาจักร โดยตามหลัก
ฐานที่ค้นพบเป็นหลักฐานของเจุ้านายในราชวงศ์ ชาวต่างชาติที่น่าจะเข้ามารับ
ราชการในช่วงขณะเวลานั้ นได้บันทึกพระนามของกษัตริย์หรือผู้ปกครองขณะนั้ น
ไว้ ในข้อมูลกล่าวถึงกษัตริย์สี่ สิบสองพระองค์ อาณาจักรหรือราชอาณาจักรนี้
มีกษัตริย์ทัุ้งหมดสี่ สิบสองพระองค์ มีทั้งหมดสามราชวงศ์

ราชวงศ์ รามราช

รัชกาล พระนาม วันเดือน ปี วันเดือน ปี
พระราชสมภพ ครองราชย์
รัชกาล พระบาทพระรามราชาธิราช
ที่ ๑ (พระรามราชาธิราช) พ.ศ.๑๘๘๐ พ.ศ.๑๙๗๑
ถึง ถึง
รัชกาล พระบาทพระรามบดีราชที่ ๑
ที่ ๒ พ.ศ.๑๙๗๕ พ.ศ.๑๙๗๕
พระบาทพระรามบดีราชที่ ๒ พ.ศ.๑๘๙๐ พ.ศ.๑๙๗๕
รัชกาล (พระรามราชราเมศ)
ที่ ๓ ถึง ถึง
พระบาทพระรามบดีราชที่ ๓ พ.ศ.๑๙๗๙ พ.ศ.๑๙๗๙
รัชกาล (พระหน่อรามรามา) พ.ศ.๑๙๑๐ พ.ศ.๑๙๗๙
ที่ ๔
พระบาทพระรามบดีราชที่ ๔ ถึง ถึง
รัชกาล (พระรามราเมศ) พ.ศ.๑๙๘๓ พ.ศ.๑๔๘๒
ที่ ๕ พ.ศ.๑๓๘๓ พ.ศ.๑๔๘๒
พระบาทรามราชที่ ๑
รัชกาล ถึง ถึง
ที่ ๖ พระบาทรามราชที่ ๒ พ.ศ.๒๐๐๓ พ.ศ.๑๙๘๗
(พระมงกุฎ) พ.ศ.๑๙๔๔ พ.ศ.๑๙๙๗
รัชกาล
ที่ ๗ ถึง ถึง
พ.ศ.๑๙๙๑ พ.ศ.๑๙๙๑
พ.ศ.๑๙๒๕ พ.ศ.๑๙๙๑

ถึง ถึง
พ.ศ.๑๙๙๕ พ.ศ.๑๙๙๒
พ.ศ.๑๙๔๕ พ.ศ.๑๙๙๒

ถึง ถึง
พ.ศ.๑๙๙๒ พ.ศ.๑๙๙๙

ราชวงศ์ รามราช

รัชกาล พระนาม วันเดือน ปี วันเดือน ปี
พระราชสมภพ ครองราชย์
รัชกาล พระบาทพระรามราเมศรที่ ๑
ที่ ๘ (พระรามราเมศร) พ.ศ.๑๘๘๐ พ.ศ.๑๙๗๑
พระบาทพระรามราเมศรที่ ๒ ถึง ถึง
รัชกาล
ที่ ๙ พระบาทพระรามราเมศรที่ ๓ พ.ศ.๑๙๗๕ พ.ศ.๑๙๗๕
พ.ศ.๑๘๙๐ พ.ศ.๑๙๗๕
รัชกาล พระบาทราเมศวรรามราชที่ ๑
ที่ ๑๐ ถึง ถึง
พระบาทราเมศวรรามราชที่ ๒ พ.ศ.๑๙๗๙ พ.ศ.๑๙๗๙
รัชกาล (พระอนุราเมศ) พ.ศ.๑๙๑๐ พ.ศ.๑๙๗๙
ที่ ๑๑ พระบาทราเมศวรรามราชที่ ๓
ถึง ถึง
รัชกาล พระบาทราเมศวรรามราชที่ ๔ พ.ศ.๑๙๘๓ พ.ศ.๑๔๘๒
ที่ ๑๒ (พระลพ) พ.ศ.๑๓๘๓ พ.ศ.๑๔๘๒

รัชกาล ถึง ถึง
ที่ ๑๓ พ.ศ.๒๐๐๓ พ.ศ.๑๙๘๗
พ.ศ.๑๙๔๔ พ.ศ.๑๙๙๗
รัชกาล
ที่ ๑๔ ถึง ถึง
พ.ศ.๑๙๙๑ พ.ศ.๑๙๙๑
พ.ศ.๑๙๒๕ พ.ศ.๑๙๙๑

ถึง ถึง
พ.ศ.๑๙๙๕ พ.ศ.๑๙๙๒
พ.ศ.๑๙๔๕ พ.ศ.๑๙๙๒

ถึง ถึง
พ.ศ.๑๙๙๒ พ.ศ.๒๐๒๒

ราชวงศ์ พรหมมาธิบดี

รัชกาล พระนาม วันเดือน ปี วันเดือน ปี
พระราชสมภพ ครองราชย์

รัชกาล ท้าวพรหมธาดา พ.ศ.๑๙๒๖ พ.ศ.๒๐๒๒
ที่ ๑๕ ถึง ถึง

รัชกาล ท้าวมหาสุรพรหม พ.ศ.๒๐๓๐ พ.ศ.๒๐๓๐
ที่ ๑๖ พ.ศ.๑๙๔๖ พ.ศ.๒๐๓๐

รัชกาล ท้าวพรหมราชบดีที่ ๑ ถึง ถึง
ที่ ๑๗ พ.ศ.๒๐๓๘ พ.ศ.๒๐๓๘
พ.ศ.๑๙๖๘ พ.ศ.๒๐๓๘
รัชกาล ท้าวพรหมราชบดีที่ ๒
ที่ ๑๘ ถึง ถึง
พ.ศ.๒๐๕๓ พ.ศ.๒๐๔๐
รัชกาล ท้าวอนุชพรหม พ.ศ.๑๙๘๙ พ.ศ.๒๐๔๐
ที่ ๑๙
ถึง ถึง
รัชกาล ท้าวเชษฐพรหม พ.ศ.๒๐๕๔ พ.ศ.๒๐๕๔
ที่ ๒๐ พ.ศ.๑๙๙๑ พ.ศ.๒๐๕๔

รัชกาล ท้าวพรหมราชบดีที่ ๓ ถึง ถึง
ที่ ๒๑ พ.ศ.๒๐๕๕ พ.ศ.๒๐๕๕
พ.ศ.๑๙๘๘ พ.ศ.๒๐๕๕

ถึง ถึง
พ.ศ.๒๐๕๘ พ.ศ.๒๐๕๘
พ.ศ.๒๐๔๓ พ.ศ.๒๐๗๘

ถึง ถึง
พ.ศ.๒๐๗๗ พ.ศ.๒๐๗๗

ราชวงศ์ พรหมมาธิบดี

รัชกาล พระนาม วันเดือน ปี วันเดือน ปี
พระราชสมภพ ครองราชย์

รัชกาล ท้าวมหาบรมพรหม พ.ศ.๒๐๔๓ พ.ศ.๒๐๗๘
ที่ ๒๒ ถึง ถึง

รัชกาล ท้าวมหากบิลพรหม พ.ศ.๒๐๘๗ พ.ศ.๒๐๘๗
ที่ ๒๓ พ.ศ.๒๐๗๑ พ.ศ.๒๐๘๗

รัชกาล ท้าวทัศนพรหม ถึง ถึง
ที่ ๒๔ พ.ศ.๒๐๙๓ พ.ศ.๒๐๙๓
พ.ศ.๒๐๖๒ พ.ศ.๒๐๙๓
รัชกาล ท้าวพรหมทัศน์
ที่ ๒๕ ถึง ถึง
พ.ศ.๒๑๑๑ พ.ศ.๒๑๑๑
รัชกาล ท้าวพรหมมฤคมาศ พ.ศ.๒๐๘๒ พ.ศ.๒๑๑๑
ที่ ๒๖
ถึง ถึง
รัชกาล ท้าวพรหมสุวรรณเทเวศ พ.ศ.๒๑๓๓ พ.ศ.๒๑๓๓
ที่ ๒๗ พ.ศ.๒๐๙๘
พ.ศ.๒๑๓๓
รัชกาล ท้าวพรหมหัตถาสุวรรณ ถึง ถึง
ที่ ๒๘ พ.ศ.๒๑๓๕
พ.ศ.๒๑๓๙ พ.ศ.๒๑๓๕
พ.ศ.๒๑๓๕
ถึง
พ.ศ๒๑๗๗ ถึง
พ.ศ.๒๑๔๐ พ.ศ.๒๑๗๗
พ.ศ.๒๑๗๗
ถึง
พ.ศ.๒๑๘๘ ถึง
พ.ศ.๒๑๘๘

รัชกาล ท้าวพรหมเทวาธิบดี พ.ศ.๒๑๓๖ พ.ศ.๒๑๘๘
ที่ ๒๙ ถึง ถึง

พ.ศ.๒๒๒๑ พ.ศ.๒๒๒๑

ราชวงศ์ อินทราวงศ์

รัชกาล พระนาม วันเดือน ปี วันเดือน ปี
พระราชสมภพ ครองราชย์
รัชกาล สมเด็จพระพันเนตรบรมจักรพรรดิ
ที่ ๓๐ (เจ้าพระพันเนตรบรมจักรพรรดิ) พ.ศ.๒๑๗๓ พ.ศ.๒๒๒๒
ถึง ถึง
รัชกาล (ไม่มีปรากฏพระนามทางการ
ที่ ๓๑ เนื่ องจากไม่ไดุ้ทำการบรมราชาภิเษก) พ.ศ.๒๒๒๖ พ.ศ.๒๒๒๖
(เจ้าพระอินทราชา)
รัชกาล พ.ศ.๒๑๙๐ พ.ศ.๒๒๒๖
ที่ ๓๒ (ไม่มีปรากฏพระนามทางการ
เนื่ องจากไม่ไดุ้ทำการบรมราชาภิเษก) ถึง ถึง
รัชกาล (เจ้าพระบรมอินทราช)
ที่ ๓๓ พ.ศ.๒๒๒๖ พ.ศ.๒๒๓๗
สมเด็จพระจักรพรรดิสหัสนัยที่ ๑
รัชกาล (เจ้าอินทราราช) พ.ศ.๒๒๑๔ พ.ศ.๒๒๓๗
ที่ ๓๔
สมเด็จพระจักรพรรดิสหัสนัยที่ ๒ ถึง ถึง
รัชกาล (เจ้าวชิระ)
ที่ ๓๕ พ.ศ.๒๒๕๗ พ.ศ.๒๒๕๗
สมเด็จพระจักรพรรดิสหัสนัยที่ ๓
(เจ้ามัฆวานราชา) พ.ศ.๒๑๙๔ พ.ศ.๒๒๕๗

ถึง ถึง

พ.ศ.๒๒๗๒ พ.ศ.๒๒๗๒

พ.ศ.๒๒๑๑ พ.ศ.๒๒๗๒

ถึง ถึง

พ.ศ.๒๒๗๕ พ.ศ.๒๒๗๕

พ.ศ.๒๒๒๗ พ.ศ.๒๒๗๕

ถึง ถึง

พ.ศ.๒๒๗๘ พ.ศ.๒๒๗๘

ราชวงศ์ อินทราวงศ์

รัชกาล พระนาม วันเดือน ปี วันเดือน ปี
พระราชสมภพ ครองราชย์
รัชกาล
ที่ ๓๖ สมเด็จพระจักรพรรดิสหัสนัยที่ ๔ พ.ศ.๒๒๔๔ พ.ศ.๒๒๗๘
(เจ้าอมรินทรามาศ) ถึง ถึง
รัชกาล
ที่ ๓๗ สมเด็จพระจักรพรรดิสหัสนัยที่ ๕ พ.ศ.๒๒๙๐ พ.ศ.๒๒๙๐
(เจ้าวัชรินทร์) พ.ศ.๒๒๔๔ พ.ศ.๒๒๙๐
รัชกาล
ที่ ๓๘ สมเด็จพระจักรพรรดิสหัสนัยที่ ๖ ถึง ถึง
(เจ้าสักกะราช) พ.ศ.๒๒๙๕ พ.ศ.๒๒๙๕
รัชกาล พ.ศ.๒๒๔๕ พ.ศ.๒๒๙๕
ที่ ๓๙ สมเด็จพระจักรพรรดิสหัสนัยที่ ๗
(เจ้าอมเรศร) ถึง ถึง
รัชกาล พ.ศ.๒๓๐๕ พ.ศ.๒๓๐๕
ที่ ๔๐ สมเด็จพระจักรพรรดิสหัสนัยที่ ๘ พ.ศ.๒๒๔๕ พ.ศ.๒๓๐๕
(เจ้าโกสินทร์)
รัชกาล ถึง ถึง
ที่ ๔๑ สมเด็จพระจักรพรรดิสหัสนัยที่ ๙ พ.ศ.๒๓๒๕ พ.ศ.๒๓๒๕
(เจ้าพันเนตรราชา) พ.ศ.๒๒๖๔ พ.ศ.๒๓๒๕
รัชกาล
ที่ ๔๒ สมเด็จพระจักรพรรดิสหัสนัยที่ ๑๐ ถึง ถึง
(เจ้าวัชระราช) พ.ศ.๒๓๒๙ พ.ศ.๒๓๒๙
พ.ศ.๒๒๘๓ พ.ศ.๒๓๒๙

ถึง ถึง
พ.ศ.๒๓๓๓ พ.ศ.๒๓๓๓
พ.ศ.๒๓๐๐ พ.ศ.๒๓๓๓

ถึง ถึง
พ.ศ.๒๓๖๐ พ.ศ.๒๓๖๐

ราชอาณาจักร ไทรัฏฐาธิปัตย์

ราชอาณาจักร ไทรัฏฐาธิปัตย์ เป็นราชธานีปัจจุบัน ที่สืบต่อมาจากอาณาจักร
อยุธเยศรราชธานี โดยปรับเปลี่ยนใหุ้ทันสมัยตามรูปแบบตะวันตก และสถาปนา
เป็ูนราชธานีที่นานาอารยประเทศรู้จักโดยทั่ว และเนื่องด้วยราชวงศ์ที่พอจะมีเชื่อ
สายจากราชวงศ์ เดิมที่ พอจะบริหารราชการแผ่นดินได้ไม่มี
ดังนั้น เสนาบดีทั้งปวงจึ่งเห็นพร้อมให้ถวายราชสมบัติ แด่ สมเด็จพระวีรพงษ์
ราชา ซึ่ งเป็นอุปราชที่เมืองศรีทักษิณ เป็นเชื่อสายสมเด็จพระจักรพรรดิสหัสนัย
ที่๑๐(เจ้าวัชระราช) ใน
รัชสมัยของพระองค์นั้น ปรับเปลี่ยนทางการทหาร พลเรือน และบุ้านเมืองใหุ้
เป็นแบบตะวันตกโดยมรพระธรรมนูญการปกครองเป็นกฎหมายสูงสุด
ปกครองในระบอบเทวาธิปไตย
ต่อมาในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดีที่๒ ได้เกิดการปฏวัตินำโดย
พระยาสมุหนายก (ช่วง ยามาเวช) ซึ่ งเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระ
มหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่ งก็อยู่ได้สามปี ทางฝ่ายขุนนางเก่าก็ทำการยึดอำนาจ
ถวายกลับสมเด็ูจพระเจ้าสุ้ริเยนทราธิบดีที่๒ และเปลี่ยนเป็นระบอบ
สมบูรณาญาสิทธิราช ต่อมาในช่วง ๑๐ ปีปลายรัชสมัย เจ้าพระยาสมุหนายก
(ตรีมงคล ยามาเวช) ซึ่ งเป็นบุตรพระยาสมุหนายก (ช่วง ยามาเวช)ก็ทำการปฏิ
วัติขึุ้นอีกครั้งเเละเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบนายก และเปลี่ยนเป็น
สาธารณรัฐดีโมเครซี แต่ยังคงราชวงศ์ไว้เป็นสัญลักษณ์
ต่อมาพระพุทธศักราช ๒๕๕๘สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดีที่๒ ทรงสละ
ราชสมบัติ จากนั้นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าฯกรมพระราชาศรีนครินทร์
ก็เสวยราชสมบัติเป็นสมเด็จพระเจุ้าสุ้ริเยนทราธิบดีที่๓ และ
เมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์พระพุทธศักราช ๒๕๕๙ และไดุ้เจรจากับผู้ปฏิวัติจน
สำเร็จ เปลี่ยนเป็นระบอบราชาธิปไตย สถาปนาเป็น ราชอาณาจักรไทฏฐาธิปัตย์
จนมาถึงปัจจุบันนี้

ราชวงศ์ เทวราช

รัชกาล พระนาม วันเดือน ปี วันเดือน ปี
พระราชสมภพ ครองราชย์
รัชกาล
ที่ ๑ สมเด็จพระบรมอัยกาธิราช พ.ศ.๒๓๔๒ พ.ศ.๒๓๖๙
(สมเด็จพระวีรพงศ์ราชา) ถึง ถึง
รัชกาล
ที่ ๒ สมเด็จพระปฐมบรมอัยกาเจ้า พ.ศ.๒๓๘๐ พ.ศ.๒๓๘๐
(สมเด็จพระพีรวงศ์ราชา) พ.ศ.๒๓๕๙ พ.ศ.๒๓๘๐
รัชกาล
ที่ ๓ สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดีที่ ๑ ถึง ถึง
พ.ศ.๒๔๗๐ พ.ศ.๒๓๘๐
รัชกาล สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดีที่ ๒ พ.ศ.๒๔๔๒ พ.ศ.๒๔๗๐
ที่ ๔ (สมเด็จพระวีรวงศาราชา)
ถึง ถึง
พ.ศ.๒๕๑๐ พ.ศ.๒๕๑๐
พ.ศ.๒๔๘๙ พ.ศ.๒๕๑๐

ถึง ถึง
ปัจจุบัน พ.ศ.๒๕๕๘

พระยาสมุหนายก (ช่วง ยามาเวช) ได้ทำการปฏิวัติและเปลี่ยนการปกครอง พ.ศ.๒๕๒๒ ถึง พ.ศ.๒๕๒๔ ต่อมาก็เข้าสู่สม

บูรณาญาสิทธิราช พ.ศ.๒๕๒๔ ถึง พ.ศ.๒๕๓๙ จากนั้นเจ้าพระยาสมุหนายก(ตรีมงคล ยามาเวช) ซึ่ งเป็นบุตร
พระยาสมุหนายก (ช่วง ยามาเวช)ก็ทำการปฏิวัติขึุ้นอีกครั้งเเละเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบนายก และเปลี่ยนเป็น
สาธารณรัฐดีโมเครซี แต่ยังคงราชวงศ์ไว้เป็นสัญลักษณ์ต่อมาพระพุทธศักราช ๒๕๕๘สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดีที่๒

ทรงสละราชสมบัติ จากนั้นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าฯกรมพระราชาศรีนครินทร์ ก็เสวยราชสมบัติเป็น
สมเด็จพระเจุ้าสุ้ริเยนทราธิบดีที่๓ และเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์พระพุทธศักราช ๒๕๕๙

และได้เจรจากับผู้ปฏิวัติจนสำเร็จ เปลี่ยนเป็นระบอบราชาธิปไตย สถาปนาเป็น ราชอาณาจักรไทฏฐาธิปัตย์

รัชกาล สมเด็จพระเจ้าสุริเยนทราธิบดีที่ ๒ พ.ศ.๒๕๔๐ พ.ศ.๒๕๕๙
ที่ ๕ (สมเด็จพระวีรกรบรมราชา) ถึง ถึง

ปัจจุบัน ปัจจุบัน


Click to View FlipBook Version