แหล่งเรียนรู้สมุนไพร
กศน.ห่วงใย ต้านภยั โควคิ -19
ห้องสมุดประชาชนจงั หวดั สงขลา
กระชายเหลอื ง
ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. จดั อยใู่ นวงศข์ ิง (ZINGIBERACEAE)
ชื่ออ่ืน : วา่ นพระอาทิตย์ (กรุงเทพมหานคร), กระชายดา กะแอน ขิงทราย (มหาสารคาม), จ๊ีปู ซีฟู เปาซอ
เร๊าะ เป๊ าส่ี เป๊ าะสี่ ระแอน เป๊ าะซอเร้าะ (กะเหร่ียง-แมฮ่ ่องสอน), ละแอน (ภาคเหนือ), ขิงจีน เป็นตน้
ตน้ กระชาย มีถ่ินกาเนิดในเขตร้อนบริเวณเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ โดยจดั เป็ นไมล้ ม้ ลุก มีเหงา้ ส้ัน
แตกหน่อได้ มีรากอวบ เป็ นรูปทรงกระบอกหรือรูปทรงไข่ค่อนขา้ งยาว ปลายเรียว มีความยาวประมาณ 4-
10 เซนติเมตร และกวา้ งประมาณ 1-2 เซนติเมตร ออกเป็ นกระจุก ผิวมีสีน้าตาลอ่อน ส่วนเน้ือในมีสีเหลือง
และมีกล่ินหอมเฉพาะตวั มกั พบข้ึนในป่ าดิบร้อนช้ืน
ใบกระชาย คือลกั ษณะของส่วนที่อยเู่ หนือดิน มีประมาณ 2-7 ใบ ลกั ษณะของใบเป็ นใบเดี่ยว เรียง
สลบั ลกั ษณะเป็นรูปรี ใบยาวประมาณ 12-50 เซนติเมตรและกวา้ งประมาณ 5-12 เซนติเมตร โคนใบมนหรือ
แหลม ส่วนปลายใบเรียวแหลม มีขอบเรียบ เส้นกลางใบ ดา้ นใบ และกาบใบด้านบนจะเป็ นร่อง ส่วน
ดา้ นล่างจะนูนเป็นสนั ดา้ นใบเรียบมีความยาวประมาณ 7-25 เซนติเมตร ส่วนกาบใบเป็นสีชมพยู าวประมาณ
7-25 เซนติเมตร ระหวา่ งกา้ นใบและกาบใบจะมีลิ้นใบ
ดอกกระชาย ออกดอกเป็ นช่อแบบช่อเชิงลด โดยจะออกที่ยอดระหวา่ งกาบใบคู่ในสุด มีความยาว
ประมาณ 5 เซนติเมตร แตล่ ะดอกจะมีใบประดบั 2 ใบ มีสีขาวหรือสีขาวอมชมพอู ่อน ๆ เป็ นรูปใบหอกกวา้ ง
ประมาณ 8 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 3.5-4.5 เซนติเมตร ท่ีกลีบเล้ียงมีสีขาวหรือสีขาวอมชมพูอ่อน โคน
ติดกนั เป็ นหลอด ยาวประมาณ 1.7 เซนติเมตร ปลายจะแยกเป็ น 3 แฉก ส่วนกลีบดอกมีสีขาวหรือสีขาวอม
ชมพูอ่อน โคนติดกนั เป็ นหลอด ยาวประมาณ 6 เซนติเมตร และปลายแยกเป็ น 3 กลีบ เป็ นรูปใบหอก มี
ขนาดไม่เท่ากนั กลีบใหญ่มี 1 กลีบ กวา้ งประมาณ 7 มิลลิเมตรและยาวประมาณ 1.8 เซนติเมตร ส่วนอีก 2
กลีบจะมีขนาดเทา่ กนั กวา้ งประมาณ 5 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร มีเกสรตวั ผอู้ ยู่ 6 อนั แต่มี
5 อนั ท่ีเปลี่ยนไปมีลกั ษณะเหมือนกลีบดอก โดย 2 กลีบบนมีสีชมพู รูปไข่กลบั ขนาดเท่ากนั มีความกวา้ ง
ประมาณ 1.2 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1.7 เซนติเมตร ส่วนอีก 3 กลีบล่างมีสีชมพูติดกนั เป็ นกระพุง้ มี
ความกวา้ งประมาณ 2 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2.7 เซนติเมตร และที่ปลายจะแผ่กวา้ งประมาณ 2.5
เซนติเมตร มีสีชมพูหรือสีม่วงแดงเป็ นเส้นอยเู่ กือบท้งั กลีบ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงตรงกระเปาะและปลายกลีบ
จะมีเกสรตวั ผทู้ ่ีสมบูรณ์อยู่ 1 อนั กา้ นชูอบั เรณูหุม้ กา้ นเกสรตวั เมีย
ผลกระชาย ผลแก่จะแตกเป็น 3 เส่ียง มีเมลด็ ค่อนขา้ งใหญ่
กระชาย มีอยดู่ ว้ ยกนั 3 ชนิด คือ กระชายดา กระชายแดง และกระชายเหลือง โดยกระชายเป็ นพืช
สมุนไพรที่คนไทยตา่ งรู้จกั กนั เป็นอยา่ งดี สามารถนามาปรุงเป็นอาหารไดห้ ลากหลายเมนู โดยเฉพาะอยา่ งยิ่ง
ในการนามาใชเ้ ป็นส่วนผสมสาคญั ในแกงป่ า หรือผดั ต่าง ๆ โดยส่วนที่นิยมนามาใชป้ ระกอบอาหารกนั มาก
ท่ีสุดคือ รากสะสมอาหาร หรือท่ีเรียกวา่ "นมกระชาย" ซ่ึงรากกระชายน้ีจะมีกล่ินหอมเฉพาะตวั สามารถใช้
เป็นผกั จิ้มไดโ้ ดยตรง แตค่ นส่วนใหญ่มกั จะนิยมนามาใชเ้ ป็นเคร่ืองแกงซะมากกวา่ เพราะมีคุณสมบตั ิในการ
ช่วยดบั กลิ่นคาวของเน้ือสตั วเ์ น้ือปลาไดเ้ ป็นอยา่ งดี
สรรพคุณ
กระชายมีสรรพคุณช่วยบารุงร่างกาย เป็นยาอายวุ ฒั นะ
ช่วยบารุงธาตุในร่างกาย (ใบ)
กระชายเหลืองมีสรรพคุณช่วยแกล้ มวงิ เวยี น แน่นหนา้ อก
ช่วยบารุ งกาลัง เสริ มสมรรถภาพทางเพศ บาบัดโรคนกเขาไม่ขันหรื อโรคอีดี (Erectile
Dysfunctional หรือ ED) (เหงา้ ใตด้ ิน)
ช่วยบารุงหวั ใจ ดว้ ยการใชเ้ หงา้ และรากของกระชายนามาปอกเปลือก ลา้ งน้าให้สะอาด นามาหัน่
ตากแหง้ แลว้ บดจนเป็ นผง และให้ใชผ้ งแหง้ ที่เตรียมไวป้ ระมาณ 1 ชอ้ นชา นามาชงกบั น้าร้อนคร่ึง
ถว้ ยชา แลว้ รับประทานเพียงคร้ังเดียว (เหงา้ , ราก)
ช่วยบารุงกระดูก ช่วยทาใหก้ ระดูกไมเ่ ปราะบาง
ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนตา่ ง ๆ ในร่างกาย
ช่วยบารุงกาหนดั แกอ้ าการกามตายดา้ น (เหงา้ ใตด้ ิน)
ช่วยบารุงสมอง เพราะช่วยทาใหเ้ ลือดไปเล้ียงสมองส่วนกลางไดด้ ีมากข้ึน
ช่วยปรับสมดุลของความดนั โลหิตในร่างกาย ช่วยลดความดนั โลหิตเม่ือความดนั โลหิตสูง แต่เมื่อ
ความดนั โลหิตต่ากจ็ ะช่วยทาใหค้ วามดนั เพมิ่ ข้ึนจนเป็นปกติ
สรรพคุณกระชายช่วยแกโ้ ลหิตเป็นพษิ (ใบ)
กระชายมีสรรพคุณทางยาช่วยแกโ้ รคในปากและคอ เช่น ปากเป่ื อย ปากแห้ง ปากเป็ นแผล (ใบ,
เหงา้ )
ช่วยแกฝ้ ้ าขาวในปาก ดว้ ยการใชก้ ระชายท่ีลา้ งสะอาดนามาบดแบบไม่ตอ้ งปอกเปลือก แลว้ ใส่ใน
โถป่ันพอหยาบ แลว้ นามาใส่ขวดปิ ดฝาแช่ไวใ้ นตเู้ ยน็ แลว้ นามากินก่อนอาหารคร้ังละ 1 ชอ้ นชาเล็ก
กินวนั ละ 3 ม้ือก่อนอาหารประมาณ 15 นาที ประมาณ 1 อาทิตย์ (ราก)
เหงา้ ใตด้ ินมีรสเผ็ดร้อนและขม มีสรรพคุณช่วยแกอ้ าการปวดทอ้ ง มวนในท้อง อาการทอ้ งอืด
ทอ้ งเฟ้ อ ดว้ ยการใชเ้ หงา้ และรากประมาณคร่ึงกามือ ถา้ สดให้ใชป้ ระมาณ 5-10 กรัม แต่ถา้ เป็ นแหง้
ให้ใช้ประมาณ 3-5 กรัม แล้วนามาต้มเอาน้าด่ืมแก้อาการ หรือจะนามาใช้ปรุงเป็ นอาหารไว้
รับประทานกไ็ ดเ้ ช่นกนั (เหงา้ ใตด้ ิน)
ช่วยแกอ้ าการทอ้ งร่วง ทอ้ งเดิน ดว้ ยการใช้เหงา้ สด 1-2 เหงา้ ใช้เหงา้ ท่ีปิ้ งไฟแลว้ นามาฝนหรือตา
ผสมกบั น้าปนู ใส หรือจะค้นั ใหข้ น้ ๆ แลว้ นามารับประทานคร้ังละ 1-2 ชอ้ นชากไ็ ด้ (เหงา้ , ราก)
ช่วยแกบ้ ิด โดยใชเ้ หงา้ สดประมาณ 2 เหงา้ นามาบดจนละเอียดแลว้ เติมน้าปูนใส ค้นั เอาแต่น้ามาด่ืม
(เหงา้ สด)
ช่วยรักษาอาการทอ้ งเดินในเดก็ (เหงา้ , ราก)
รากกระชายมีสรรพคุณช่วยแกโ้ รคกระเพาะ (ราก)
ช่วยแกอ้ าการบิดมูกเลือด (เหงา้ , ราก)
ใชเ้ ป็นยาขบั ปัสสาวะ แกอ้ าการปัสสาวะพกิ าร (เหงา้ , ราก)
ช่วยบารุงตบั และไตใหแ้ ขง็ แรง ช่วยรักษาโรคไต ช่วยทาใหไ้ ตทางานไดด้ ียง่ิ ข้ึน
ช่วยป้ องกนั ไทรอยดเ์ ป็นพิษ
ช่วยรักษาอาการกระเพาะปัสสาวะเกร็ง ซ่ึงในกรณีน้ีอาจจะตอ้ งใชเ้ มด็ บวั ท่ีตม้ แลว้ นามารับประทาน
ร่วมดว้ ย
ช่วยแกอ้ าการไส้เลื่อนในเพศชาย
ช่วยควบคุมไม่ใหต้ ่อมลูกหมากโต
ช่วยบารุงมดลูกของสตรี ป้ องกนั ไม่ใหม้ ดลูกโต
แกอ้ าการตกขาว ช่วยขบั ระดูขาวของสตรี (เหงา้ )
ช่วยขบั น้าคาวปลาของสตรีหลงั คลอดบุตร
ใช้เป็ นยารักษาริดสีดวงทวาร ดว้ ยการใชเ้ หงา้ สดประมาณ 60 กรัม (6-8 เหงา้ ) นามาผสมกบั เน้ือ
มะขามเปี ยกประมาณ 60 กรัม เกลือแกง 3 ชอ้ นแกง และนามาตาแลว้ ตม้ กบั น้า 6 แกว้ แลว้ เคี่ยวจน
เหลือ 2 แกว้ นามารับประทานคร้ังละคร่ึงแกว้ ก่อนนอน แลว้ รับประทานติดต่อกนั ประมาณ 1 เดือน
จนกวา่ จะหาย (เหงา้ ใตด้ ิน)
ใบช่วยถอนพิษตา่ ง ๆ (ใบ)
ช่วยแกอ้ าการปวดเมื่อย ดว้ ยการใชเ้ หงา้ หรือรากแก่ ๆ นามาหนั่ เป็ นแวน่ บาง ๆ แลว้ นาไปตากแห้ง
และนามาชงกบั น้าด่ืม (ราก, เหงา้ )
ช่วยบารุงเส้นเอน็ ใหแ้ ขง็ แรง
เหงา้ และรากใชเ้ ป็นยาภายนอก สรรพคุณช่วยรักษาข้ีกลาก ข้ีเกล้ือน (เหงา้ , ราก)
ช่วยรักษาโรคน้ากดั เทา้ ดว้ ยการใชร้ ากกระชายท้งั เปลือกมาลา้ งแลว้ ผ่งึ ให้แหง้ ฝานเป็ นแวน่ ๆ และ
นาไปบดให้เป็ นผงหยาบ ๆ และใชน้ ้ามนั มะกอกหรือน้ามนั มะพร้าวมาอุ่นในหมอ้ ใบเล็ก ๆ เติมผง
กระชาย ใชน้ ้ามนั 3 เทา่ ของปริมาณกระชาย แลว้ นามาหุงดว้ ยไฟอ่อน ๆ ราว 15-20 นาที แลว้ กรอง
กระชายออก เก็บน้ามนั ไวใ้ นขวดแกว้ สีชา นามาใชท้ าบริเวณที่เป็น (ราก)
ช่วยแกอ้ าการคนั หนังศีรษะจากเช้ือรา ดว้ ยการใช้น้ามนั ดงั กล่าว (จากสูตรรักษาโรคน้ากดั เทา้ )
นามาเขา้ สูตรทาเป็นแชมพสู ระผม หรือจะใชน้ ้ามนั กระชายโกรกผมแลว้ นวดใหเ้ ขา้ หนงั ศีรษะก็ได้
แลว้ ค่อยลา้ งออก (น้ามนั กระชาย)
ช่วยรักษาฝี ดว้ ยการใช้เหงา้ กบั รากมาตาให้ละเอียดแลว้ นามาทาหวั ฝี ที่บวม จะทาให้หายเร็วย่งิ ข้ึน
(เหงา้ , ราก)
เหง้ามีฤทธ์ิในการช่วยต้านเช้ือราที่เป็ นสาเหตุของการเกิดโรคผิวหนังและโรคในช่องปากดี
พอสมควร (เหงา้ )
กระชายมีสารท่ีออกฤทธ์ิช่วยตา้ นการก่อการกลายพนั ธุ์ โดยการบริโภครากกระชายสามารถช่วยลด
ความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้
กระชายมีสารท่ีออกฤทธ์ิทาใหอ้ นุมูลอิสระเป็นกลาง จึงมีผลช่วยลดความเสียหายของการเกิดอนุมูล
อิสระภายในร่างกายได้
กระชายมีฤทธ์ิช่วยต้านการอักเสบ การบริโภคกระชายเป็ นประจาอาจได้ผลคล้ายกับการ
รับประทานยาแอสไพรินและอาจจะช่วยป้ องกนั การเกิดโรคท่ีมีสาเหตุมาจากการอกั เสบเร้ือรัง
ภายในร่างกายได้
ประโยชน์
สามารถนามาทาเป็ นน้ ากระชายป่ัน ด่ืมเพ่ือเพ่ิมความสดช่ืน บารุ งร่างกาย ทาให้ร่างกาย
กระปร้ีกระเปร่าไดเ้ ป็นอยา่ งดี
ช่วยทาให้เส้นผมแข็งแรง เปลี่ยนผมขาวให้กลบั เป็ นดา ช่วยทาให้ผมบางกลบั มาหนาข้ึน และช่วย
แกป้ ัญหาผมหงอก ผมร่วงได้
รากนามาใช้เป็ นเคร่ืองแกงในการประกอบอาหาร ช่วยดบั กล่ินคาวของเน้ือและปลาไดเ้ ป็ นอยา่ งดี
โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ปลาดุก ปลาไหล ปลากุลา เป็ นตน้ และยงั ทาใหอ้ าหารมีกลิ่นและรสที่หอมแบบ
เป็นเอกลกั ษณ์อีกดว้ ย
รากกระชายสามารถช่วยไล่แมลงได้ ดว้ ยการนาตะไคร้ ข่า หอมแดง ใบสะเดาแก่ นามาตาผสมกนั
แลว้ ใชผ้ สมกบั น้าฉีดในบริเวณที่มีแมลงรบกวน
วธิ ีทานา้ กระชาย
การทาน้ากระชายใหเ้ ตรียมวตั ถุดิบดงั น้ี กระชายเหลืองสดคร่ึงกิโล (หรือจะใชส้ ูตรผสมก็ได้ โดยใช้
กระชายเหลือง 5 ส่วน กระชายดา 1 ส่วน และกระชายแดง 1 ส่วน) / น้าผ้งึ / น้ามะนาว / น้าเปล่าตม้
สุกที่ทิ้งไวจ้ นเยน็
ข้นั ตอนแรกใหน้ ากระชายมาลา้ งใหส้ ะอาด ตดั รากท่ีรกรุงรังออก ตดั หวั และทา้ ยทิ้งไป ถา้ ขดู เปลือก
ออกบา้ งกจ็ ะดีมาก
เม่ือเสร็จแลว้ นามาหน่ั เป็ นท่อน ๆ เพอ่ื ใหง้ ่ายตอ่ การนามาป่ัน
ใหเ้ ตรียมผา้ ขาวบางรองดว้ ยกระชอนไวใ้ หพ้ ร้อม
นากระชายที่เตรียมไวใ้ ส่ในโถปั่นและผสมกบั น้าเปล่าตม้ สุกพอประมาณ แลว้ ป่ันจนละเอียด
เสร็จแลว้ ใหเ้ ทใส่กระชอนที่เตรียมไว้ ถา้ น้านอ้ ยกใ็ หผ้ สมน้าเปล่าลงไปอีก แลว้ ค้นั เอาแตน่ ้าเท่าน้นั
ท่ีน้ีเราก็จะไดน้ ้ากระชายเหลืองสด ๆ ซ่ึงสามารถเก็บไวใ้ นตูเ้ ยน็ ไดน้ านเป็นเดือน
เม่ือจะด่ืมกเ็ พียงแคน่ ามาผสมกบั น้ามะนาว น้าผ้งึ ในถว้ ยแลว้ คนใหเ้ ขา้ กนั แลว้ จึงใส่น้ากระชายตาม
ลงไป
เมื่อผสมจนรสชาติกลมกล่อมตามท่ีตอ้ งการแลว้ กเ็ ป็ นอนั เสร็จ
แตถ่ า้ กลวั วา่ กล่ินกระชายจะแรงไป ก็สามารถใชใ้ บบวั บกหรือใบโหระพามาปั่นรวมกนั ก็ไดต้ ามใจ
ชอบ เพราะไมม่ ีส่วนผสมท่ีเป็นสูตรตายตวั เทา่ ไหร่
*** น้ากระชายไม่ควรเก็บไวน้ านมาก เพราะจะทาใหค้ วามซ่าและความหอมของกระชายลดนอ้ ยลง ทาให้
เกิดตะกอนท่ีก้น ถ้าจะให้ดีที่สุดก็ควรด่ืมให้หมดภายใน 1 อาทิตย์ จะได้ท้งั รสชาติที่ซ่า ด่ืมแล้วช่ืนใจ
พร้อมสรรพคุณอีกเต็ม ๆ ดว้ ย แต่สาหรับผทู้ ี่ดื่มน้ากระชายแลว้ มีอาการแปลก ๆ ร้อนวูบวาบ หรือมีอาการ
เหง่ือออกหรือเรอออกมาก็ไมต่ อ้ งตกใจ เพราะเป็นอาการปกติที่อาจเกิดข้ึนได้ หากด่ืมไปสักพกั เด๋ียวก็ชินไป
เอง