โครงงานอาชีพ
เร่ือง พดั จกั สานไมไ้ ผ่
จดั ทาํ โดย
นางสาวอรจิรา อินทรโคตร
ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/16 เลขท่ี 8
เสนอ
คุณครูวนิดา บญุ พิเชฐวงศ์
โรงเรียนสตรีราชินูทิศ อุดรธานี สพม.เขต 20
ก
ชื่อโครงงาน พดั จกั สานไมไ้ ผ่
ผู้จัดทํา นางสาวอรจิรา อินทรโคตร
ระดับ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปี ที่ 5
ประเภท หตั ถกรรม
ครูที่ปรึกษา คุณครูวนิดา บุญพเิ ชฐวงศ์
โรงเรียน สตรีราชินูทิศ อุดรธานี
สาํ นกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษามธั ยมศึกษาเขต 20
บทคดั ย่อ
โครงงานเรื่องพดั จกั สานไมไ้ ผ่ ประเภทหตั ถกรรม มีจุดมุ่งหมายเพอ่ื พดั คลายรอ้ น ประหยดั ค่าไฟ ใหผ้ ทู้ ่ี
ตอ้ งการคลายรอ้ นโดยทไ่ี ม่ตอ้ งการใชไ้ ฟฟ้ า สามารถพดั สานไดด้ ว้ ยตนเอง อีกท้งั เพอ่ื เป็ นแนวทางในการ
ประกอบอาชีพ หรืออาชีพเสริมใหก้ บั ชุมชน จากการดาํ เนินงานเราสามารถ สานพดั ไดส้ วยงาม และสามารถ
ใชไ้ ดจ้ ริง สามารถขายไดจ้ ริง อีกท้งั ยงั มีวธิ ีการทาํ ทงี่ ่าย สามารถทาํ ไดท้ กุ คน และสามมารถเพม่ิ รายได้
ระหวา่ งเรียนได้
ข
กติ ติกรรมประกาศ
โครงงานเร่ืองพดั จกั สานไมไ้ ผ่ ประเภทหตั ถกรรม สาํ เร็จลงดว้ ยดีตามวตั ถุประสงค์ ขอขอบพระคุณผทู้ ่ี
สนบั สนุนและช่วยเหลือการทาํ โครงงานพดั สาน ดงั รายชื่อผสู้ นบั สนุนตอ่ ไปน้ี วา่ ท่รี ้อยตรีสมประสงค์ วงษ์
อุบลผอู้ าํ นวยการโรงเรียนสตรีราชินูทิศ คุณครูวนิดา บญุ พเิ ชฐวงศ์ ครูทปี่ รึกษาโครงงาน รวมถึงคณะครูทุก
ทา่ นในโรงเรียนสตรีราชินูทศิ ท่ีไดใ้ หค้ าํ แนะนาํ รายงาน โครงงานฉบบั สมบรู ณ์ตลอดเวลาในการทาํ
โครงงาน
อน่ึงคณะผจู้ ดั ทาํ โครงงานหวงั วา่ โครงงานฉบบั น้ีจะมีประโยชนอ์ ยไู่ ม่นอ้ ยสาํ หรับผศู้ กึ ษา ขอ้ บกพร่อง
ตา่ งๆ ท่อี าจจะเกิดข้นึ น้นั ผจู้ ดั ทาํ ขออภยั ไว้ ณ ทน่ี ้ีดว้ ย และยนิ ดีทจี่ ะรบั ฟังคาํ แนะนาํ จากทุกทา่ นทีไ่ ดเ้ ขา้ มา
ศึกษาเพอื่ เป็ นประโยชน์ในการพฒั นาโครงงานตอ่ ไป
ผจู้ ดั ทาํ โครงงาน
สารบญั ค
บทคดั ยอ่ หน้า
กิตติกรรมประกาศ ก
สารบญั ข
สารบญั รูปภาพ ค
บทที่ 1 บทนาํ ง
บทที่ 2 เอกสารทีเ่ กี่ยวขอ้ ง 1
บทที่ 3 อุปกรณ์และวธิ ีดาํ เนินการ 2
บทที่ 4 ผลการดาํ เนินการ 4
บทที่ 5 สรุป อภิปรายผลการดาํ เนินการ 6
บรรณานุกรม 7
8
สารบัญรูปภาพ ง
ภาพที่
หน้า
ภาพที่ 1 แสดงการนาํ ตอกไปสานและตดั พดั เป็ นรูปวงรี
ภาพท่ี 2 แสดงการนาํ ผา้ มาติดทีพ่ ดั โดยใชก้ าวสองหนา้ ตดิ 4
ภาพท่ี 3 แสดงการตดิ ไมไ้ ผท่ ีพ่ ดั โดยใชผ้ า้ มดั และใชก้ รรไกรตดั ส่วนเกินออก 5
ภาพที่ 4 แสดงการทดสอบการใชง้ าน 5
5
1
ที่มาและความสําคญั บท 1
บทนํา
การจกั สานเป็นการนาํ วสั ดุขนาดเลก็ และยาวมาขดั มาสานกนั จนเป็ นช้ินเป็ นอนั เช่น เส่ือ ตะกรา้
ลูกตะกรอ้ พดั วสั ดุทใ่ี ชจ้ กั สานนาํ มาจากธรรมชาติ เช่น ไมไ้ ผ่ หวาย ปอ กระจูด เป็ นตน้ ในภายหลงั มีการนาํ
ผกั ตบชวาหรือมีวสั ดุเลียนแบบธรรมชาติเพอื่ ความทนทานมากข้ึนการสานน้นั มีลกั ษณะคลา้ ยกบั การทอผา้
น้นั คือใชว้ สั ดุขนาดเล็กและยาวท่ีเรียกวา่ ตอก หรือตน้ ไผท่ ่ีนาํ มาขดั กนั กลายเป็ นเสน้ เล็กๆ มาขดั
ประสานกนั แตต่ อกในการจกั สานน้นั มีขนาดใหญก่ วา่ เสน้ ดา้ ยมากลวดลายของงานจงึ มีขนาดใหญ่
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพอื่ ส่งเสริมสินคา้ ของทอ้ งถิน่
2. เพอ่ื หารายไดด้ ว้ ยตนเอง
3. เพอื่ ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์
ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้
1. ใชใ้ นเวลาจาํ เป็นทไ่ี ม่มีไฟฟ้ า
2. ประหยดั พลงั งานสิ่งแวดลอ้ ม
ค่าใช้จ่ายในการปฏบิ ตั งิ าน
ไม่มีคา่ ใชจ้ า่ ย
ปัญหา
1.เลบ็ ฉีก
2.สีติดมือเพอ่ื นแลว้ ลา้ งไมอ่ อก
2
บทที่ 2
เอกสารทเี่ กย่ี วข้อง
โครงงานอาชีพ เรื่องพดั สานไมไ้ ผ่ เน้ือหาในบทนี่จะนาํ เสนอส่ิงทีเ่ กี่ยวขอ้ งดงั น้ี
1.อุปกรณ์ทีใ่ ชใ้ นการประดิษฐ์
2.ประวตั ิความเป็นมาของพดั สาน
3.ประโยชน์ของพดั สาน
1.อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการประดษิ ฐ์
1.ตอกไมไ้ ผ่ คือตอกทไี่ ดจ้ ากไมไ้ ผผ่ า่ กลีบแลว้ จกั เลือกเอาเฉพาะผวิ ของไมไ้ ผไ่ ม่เอาเน้ือไม้
2.ไมไ้ ผ่ (ไวท้ าํ ดา้ มจบั )
3.ผา้ ลายลูกไม้ หรือผา้ ท่ีไม่ไดใ้ ชแ้ ลว้
4.กาวร้อนหรือกาวสองหนา้
2.ประวตั คิ วามเป็ นมาของพดั จกั สานไม้ไผ่
พดั สาน เป็นของใชส้ าํ หรบั โบกเตาไฟของคนไทยในสมยั ก่อน หรือใชส้ าํ หรบั โบกพดั ร่างกายใหห้ าย
คลายจากความร้อนได้ สามารถทจี่ ะนาํ ติดตวั ไปไหนมาไหนไดอ้ ยา่ งสะดวก วสั ดุทใ่ี ชพ้ ดั สานเป็ นผลผลิต
จากพชื พรรณธรรมชาติในทอ้ งถิ่น คือไมไ้ ผ่ การสานพดั ผสู้ านนิยมสานเป็ นรูปลกั ษณะตา่ ง ๆ มุ่งเนน้
ประโยชน์การใชง้ าน มีการปรับปรุงพฒั นารูปแบบใหม้ ีความสวยงามประณีต เช่น พดั สานหา้ เหล่ียมเหมาะ
สาํ หรบั โพกพดั เตาไฟ พดั ลายดอกสานเป็นลวดลายตา่ งๆพดั ละเอียดรูปใบโพธ์ิหรือรูปหวั ใจและรูป
ตาลปัตร พดั สานเป็ นงานหตั ถกรรมพน้ื บา้ นอนั ทรงคุณค่าทเี่ กิดจากภูมิปัญญาชาวบา้ นทม่ี ีการประยกุ ต์
ปรบั ปรุงรูปแบบตลอดเวลา การสานพดั เป็นอาชีพเสริมทาํ รายไดด้ ีภายในครัวเรือน ชาวบา้ นจะสานพดั
ในช่วงวา่ งเวน้ จากการทาํ นาเป็นสินคา้ พ้นื เมืองท่สี าํ คญั อยา่ งหน่ึงของชาวบา้ น
3
3.ประโยชน์ของพดั สาน
ประโยชน์ต่อผู้จดั ทํา
1.ใชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชน์
2.ฝึกการทาํ งานเป็นกลุ่ม มีความสามคั คี
3.รู้จกั นาํ ทรพั ยากรท่มี ีอยมู่ าใชใ้ ห้เกิดประโยชน์
4.รู้จกั การทาํ พดั เริ่มต้งั แตข่ ้นั ตอนการเก็บช่อครามน้าํ จนไปถึงข้นั ตอนการสานพดั สาน
ประโยชน์ต่อสังคม
1.นาํ ไปใชเ้ พอ่ื พดั คลายความรอ้ น
2.นาํ ไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั การแสดงตา่ งๆ เช่น ราํ พดั เป็ นตน้
3.นาํ ไปจาํ หน่าย เพอ่ื เป็นรายไดเ้ สริม
4
บทที่ 3
อปุ กรณ์ และวธิ ีการดาํ เนนิ การ
1.อปุ กรณ์
1.ไมไ้ ผ่
2.ตอไมไ้ ผ่
3.ผา้
4.กรรไกร
2.วิธีการดาํ เนนิ การ
1.ประชุมวางแผนการดาํ เนินงาน
2.ออกแบบพดั สาน
3.การประดิษฐอ์ ุปกรณ์ และทดสอบการใชง้ าน
ข้ันตอนการประดษิ ฐ์
1.นาํ ตอกไปสาน แลว้ ก็นาํ มาตดั เป็นรูปวงรี
ภาพท่ี 1 แสดงการนาํ ตอกไปสานและตดั พดั เป็ นรูปวงรี
5
2.นาํ ผา้ มาตดิ ท่ขี อบของพดั โดยใชก้ าวสองหนา้
ภาพที่ 2 แสดงการนาํ ผา้ มาติดท่พี ดั โดยใชก้ าวสองหนา้ ติด
3.นาํ ไมไ้ ผท่ ี่เหลาและผา่ กลางไวแ้ ลว้ นาํ มาใส่พดั ทตี่ ดิ ผา้ ไวแ้ ลว้ จากน้นั ยดึ ไมใ้ หต้ ดิ กบั พดั
ภาพท่ี 3 แสดงการตดิ ไมไ้ ผท่ ่พี ดั โดยใชผ้ า้ มดั และใชก้ รรไกรตดั ส่วนเกินออก
4.ทดสอบการใชง้ านโดยการพดั
ภาพท่ี 4 แสดงการทดสอบการใชง้ าน
6
บทที่ 4
ผลการดาํ เนินงาน
การจดั ทาํ โครงงานอาชีพ เร่ืองพดั จกั สานไมไ้ ผ่ มีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ ส่งเสริมดา้ นภมู ิปัญญาในทอ้ งถิ่นเพอื่
อนุรกั ษก์ ารจกั สานไทยท่เี ป็นเอกลกั ษณ์ของไทยไวเ้ พอ่ื ใหเ้ กิดความรูค้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั การทาํ พดั สานมากยง่ิ ข้นึ
และคน้ ควา้ เร่ืองทีส่ นใจเก่ียวกบั การทาํ พดั สานเพอื่ ใหผ้ จู้ ดั ทาํ โครงงานสามารถนาํ มาประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ ขา้ กบั การ
เรียนรู้ของตนเองมากยงิ่ ข้นึ ซ่ึงมีผลการดาํ เนินงานโครงงาน ดงั น้ี
ผลการโครงงาน เรื่องพัดสาน
เร่ืองการทาํ พดั สาน ผจู้ ดั ทาํ ไดเ้ ร่ิมดาํ เนินงานตามข้นั ตอนการดาํ เนินงานทีเ่ สนอในบทที่ 3 แลว้ จากน้นั ได้
นาํ เสนอหนา้ ช้นั เรียน โดยท้งั ครูทป่ี รึกษา เพอ่ื นๆในหอ้ งเรียนไดเ้ ขา้ ไปมีส่วนร่วมในการจดั การเรียนรู้ โดย
แสดงความเห็นในเน้ือหาและรูปแบบของการนาํ เสนออยา่ งหลากหลาย ซ่ึงทาํ ใหเ้ กิดการเรียนรู้และเป็ น
แหล่งเรียนรูใ้ นหอ้ งเรียนไดอ้ ยา่ งหลากหลาย
7
บทที่ 5
สรุป อภปิ รายผลการดาํ เนินการ
สรุปผลการดําเนินการ
จากการดาํ เนินการโครงงานอาชีพ เรื่องพดั จกั สานไมไ้ ผ่ สรุปผลการทดลองตามวตั ถุประสงคด์ งั น้ี
1.ไดส้ ่งเสริมสินคา้ ของทอ้ งถิน่
2.ไดใ้ ชเ้ วลาวา่ งให้เกิดประโยชน์
3.ไดป้ ระหยดั พลงั งานส่ิงแวดลอ้ ม
4.เป็ นแนวทางประกอบอาชีพหลกั หรืออาชีพเสริมตอ่ ไปในอนาคตและใหผ้ อู้ ่ืนสามารถศึกษาและนาํ ไป
พฒั นาใหด้ ียงิ่ ข้นึ
อภปิ รายผลการดําเนินการ
เร่ืองการทาํ พดั จกั สานไมไ้ ผ่ ผจู้ ดั ทาํ ไดเ้ ร่ิมดาํ เนินงานตามข้นั ตอนการดาํ เนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แลว้
จากน้นั ไดน้ าํ เสนอหนา้ ช้นั เรียน โดยท้งั ครูทีป่ รึกษา เพอ่ื นๆในหอ้ งเรียนไดเ้ ขา้ ไปมีส่วนร่วมในการจดั การ
เรียนรู้ โดยแสดงความเห็นในเน้ือหาและรูปแบบของการนาํ เสนออยา่ งหลากหลาย ซ่ึงทาํ ใหเ้ กิดการเรียนรู้
และเป็ นแหล่งเรียนรู้ในหอ้ งเรียนไดอ้ ยา่ งหลากหลาย
ข้อเสนอแนะ
1.ควรสานใหต้ อกอยชู่ ิดกนั
ประโยชน์ทไ่ี ด้รับ
1.ไดร้ บั ความรูเ้ กี่ยวกบั การทาํ พดั สาน
2.ไดน้ าํ มาใชจ้ ริงในเวลาท่ไี ม่มีไฟฟ้ า
3.ไดป้ ระหยดั พลงั งานส่ิงแวดลอ้ ม
4.สามารถนาํ ไดจ้ าํ หน่ายได้
8
บรรณานุกรม
วกิ ิพเี ดีย การจกั สาน (ออนไลน)์ แหล่งทีม่ า - https://th.wikipedia.org/wiki/การจกั สาน วนั ทสี่ ืบคน้ ขอ้ มลู
27 สิงหาคม 2563.
ประวตั คิ วามเป็นมาของพดั จกั สานไมไ้ ผ่ (ออนไลน)์
แหล่งทม่ี า - https://sites.google.com/site/umbella5501125314/reuxng-na-ru/khan-txn-kar-tha-phad-san
วนั ทส่ี ืบคน้ ขอ้ มูล 23 ตุลาคม 2563.