ก
คำนำ
ตามท่ีสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร ได้ส่งเสริมให้สถานศึกษา
จัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ให้เป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในช้ัน
เรียน สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียน มุ่งให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิด
กระบวนการคดิ ข้ันสงู ด้วยการวเิ คราะห์ สังเคราะห์ และประเมนิ ค่า แสวงหาเทคนิควิธกี ารจดั การเรียนรู้
และแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย ผู้เรียนสร้างองค์ความรู้ได้ มี
ความเข้าใจในตนเอง ใช้สตปิ ญั ญา คดิ วเิ คราะหส์ รา้ งสรรคผ์ ลงาน นวัตกรรมทบี่ ง่ บอกถึงการมสี มรรถนะ
สาคญั ในศตวรรษที่ 21
โรงเรียนเวียงสระได้มีการส่งเสริมให้ครูและบุคคลากรได้การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active
Learning) น้นั ขา้ พเจ้านางสาวอนญั ญา สยามล จึงทารายงานเพือ่ รับรางวลั ผลงาน/นวัตกรรมวิธีการ
ปฏิบตั ทิ ีเ่ ปน็ เลิศด้านการจัดการเรียนรเู้ ชงิ รุก (Best Practice for Active Learning) ประเภท ครูผู้สอน
ในจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยน เรียนรู้ยกย่องเชิดชูเกียรติการบริหารจัดการศึกษาและการจัดการเรียนรู้เชิง
รกุ (ActiveLearning) สูก่ ารพัฒนาผ้เู รียนในศตวรรษท่ี21
ในการน้ีข้าพเจ้าขอกราบขอบพระคุณผู้สนับสนุน ให้คาปรึกษาแนะนาในการทาเอกสาร
ช่วยเหลือในการทาเอกสารผลงาน (Best Practice) ได้สาเร็จลลุ ่วงไปดว้ ยดี
นางสาวอนัญญา สยามล
ผจู้ ดั ทา
สำรบัญ ข
หนา้
คานา
สารบญั ก
ความสาคญั ของผลงานหรือนวตั กรรมทีน่ าเสนอ ข
จุดประสงค์ของการดาเนินงาน 2
ขอบเขตของการดาเนินงาน 3
ประโยชนท์ ่ีจะได้รับ 3
กระบวนการผลติ ผลงาน หรอื ขนั้ ตอนการดาเนินงาน 3
ผลการดาเนนิ การ/ผลสัมฤทธ์ิ 4
ปจั จัยความสาเร็จ 8
บทเรียนทีไ่ ด้รับ (Lesson Learned) 8
บรรณานกุ รม 9
ภาคผนวก 10
11
ผจู้ ัดท า 1
แบบเสนอเพื่อรับรำงวลั ผลงำน/นวัตกรรมวธิ ีกำรปฏบิ ตั ิท่ีเปน็ เลศิ ดำ้ นกำรจัดกำรเรยี นรเู้ ชิงรุก (Best
Practice for Active Learning) ระดับเขตพ้นื ทีก่ ำรศึกษำ ปกี ำรศกึ ษำ 2565
สำนักงำนเขตพืน้ ท่ีกำรศกึ ษำมัธยมศึกษำสุรำษฎร์ธำนี ชุมพร
ชอื่ ผู้ส่งผลงำน นางสาวอนัญญา สยามล
ประเภท ครูแกนนา Active Learning ลาดบั ……… ครูผ้สู อน
กลุ่มสำระกำรเรียนร้กู ำรงำนอำชพี
โรงเรยี นเวยี งสระ
สงั กดั สหวทิ ยำเขต สุราษฎร์ธานี 1 ชมุ พร 1
สุราษฎรธ์ านี 2 ชุมพร 2
สุราษฎร์ธานี 3
ชือ่ ผลงำน การพฒั นาทกั ษะการเรียนเกษตรโดยการเขียนบนั ทึก (Keeping Journals or Logs)
ชื่อผลงาน 2
ชอ่ื ผ้สู ่งผลงาน การพัฒนาทักษะการเรียนเกษตรโดยการเขียนบนั ทึก (Keeping Journals or
สถานศึกษา Logs)
นางสาวอนัญญา สยามล ตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ย
กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ
โรงเรียนเวยี งสระ สานกั งานเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาสุราษฎรธ์ านี ชุมพร
1. ควำมสำคัญของผลงำนหรือนวัตกรรม
จากการศกึ ษาแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 พบว่าแผนการศึกษาชาติฉบับน้ี
เป็นการวางกรอบเป้าหมายและทิศทางของการศึกษาของประเทศในการพัฒนาศักยภาพและขีด
ความสามารถของคนไทยทุกช่วงวัยให้เต็มตามศักยภาพ สามารถแสวงหาความรู้และเรียนรู้ด้วยตนเอง
อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดารงชีวิตอย่างมีความสุขสอดคล้องกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพียง และการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษท่ี 21 นวัตกรรมจึงเป็นส่ิงสาคัญท่ีจะพัฒนาประเทศชาติให้
เจริญรุ่งเรือง การจัดการศึกษาในยุคปัจจุบันนี้จงึ จาเป็นที่จะต้องให้ความสาคัญกับการพัฒนานวตั กรรม
ของผู้เรียน
การเรียนรู้แบบการเขียนบันทึก (Keeping Journals or Logs) คือ การจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ที่ผู้เรียนจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ท่ีได้พบเห็น หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมท้ัง เสนอ
ความคดิ เพมิ่ เติมเก่ยี วกับบันทึกท่เี ขยี นเพอ่ื เปน็ การทบทวนบทเรยี นจากการลงมือปฏิบัติ
ผลการจัดการเรียนรู้รายวิชาการงานอาชพี 1 (งานเกษตร ) ในภาคเรียนท่ี 1 พบว่าผู้เรียน
มผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดบั ดีมากขนึ้ ไป คดิ เป็นร้อยละ 77.45 เป็นไปตามข้อตกลงของโรงเรียนที่ได้
วางไว้ นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในการเรียนรายวิชาการงานอาชีพ 1 (งานเกษตร ) สามารถอธิบาย
ลงมือปฏิบัติการปลูกพืชไร้ดิน นาเสนอผลงานและจัดจาหน่ายผักสลัดจากการปลูกพืชไร้ดินได้ มี
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะสาคัญเป็นไปตามที่กาหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน แต่จากการจัดการเรียนรู้ที่ผ่านมาพบว่านักเรียนยังไม่เห็นคุณค่าอย่างแท้จริงเร่ืองการปลูก
ผกั ไรด้ ิน ยงั มขี ้อกงั วลเรอ่ื งการลงมือปฏิบัติ หลักการปลูก การใสป่ ุย๋ น้า ยงั ไมส่ ามารถปลกู พืชไรด้ ินเพื่อ
นาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ ซ่ึงสามารถสังเกตได้จากคะแนนก่อนเรียน แบบสังเกตพฤติกรรมการ
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมกล่มุ
ดว้ ยหลักสูตรการศกึ ษาทม่ี ีการปรับปรุงเพ่อื ให้เข้ากับยุคสมยั มากข้ึน ใหค้ วามสาคญั ในเรื่อง
นวัตกรรม ดังนั้นการจัดการศึกษาในรายวิชาการงานอาชีพ 1 (งานเกษตร) จึงบูรณาการร่วมกับการ
เรียนรู้แบบการเขียนบันทึก (Keeping Journals or Logs) เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเขียนสรุปความรู้หลัง
การเรียนรู้รายวิชาการงานอาชีพ 1 (งานเกษตร ) เป็นประจาทุกสัปดาห์ การเขียนบันทึก (Keeping
Journals or Logs) เป็นวิธกี ารบันทึกการเรยี นรสู้ ง่ิ ต่างๆ ทน่ี ักเรยี นสามารถเเลกเปลี่ยนเรยี นรู้ใช้สรุปขุม
ความรู้ (Knowledge Asset) ท่ีได้เรียนรู้ในวิชาหรือประเด็นท่ีพูดคุยกันในห้องเรียน ว่าได้ประเด็น
ความรู้อะไรบา้ ง มีแนวคิดตอ่ ความรู้นนั้ อย่างไร รวมทัง้ สามารถนาไปสกู่ ารพัฒนางาน พฒั นาตนเอง
พฒั นากลมุ่ ได้อย่างไร ประโยชน์อกี ประการหนึ่งคือ เป็นการทบทวนความร้ทู ่ีได้หลังจาการเรยี นรูใ้ นการ 3
ลงมือปฏบิ ตั ิเเละเป็นเคร่ืองมือประเมินตนเองได้เป็นอยา่ งดี อกี ทัง้ ยังเป็นการตอบสนองนโยบายการจัด
การศึกษาด้วยการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ PLC จึงได้ร่วมกันออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อลด
ภาระงานแก่นักเรียน โดยงานหน่ึงชิ้นของนักเรียนสามารถประเมินผลร่วมกันได้มากกว่าหน่ึงรายวิชา
อีกท้ังยังตอบรบั ทักษะการพฒั นานวัตกรรรมของผเู้ รยี น
2. จดุ ประสงค์ของกำรดำเนนิ งำน
จดุ ประสงค์
1. เพอ่ื พัฒนาการจัดการเรียนการสอนดว้ ยการเรียนร้แู บบการเขยี นบันทกึ (Keeping Journals
or Logs) ในรายวิชาการงานอาชีพ 1 (งานเกษตร) ระดับมัธยมศึกษาปที ี่ 4
2. เพื่อใหผ้ ู้เรียนสามารถอธบิ าย ลงมือปฏบิ ัติการปลูกพืชไร้ดิน นาเสนอผลงานและจัดจาหนา่ ย
ผกั สลดั จากการปลกู พืชไรด้ ินได้
3. เพ่อื ศึกษาความพงึ พอใจของนักเรียนในการจัดการเรยี นการสอนดว้ ยการเรียนร้แู บบการเขียน
บนั ทกึ (Keeping Journals or Logs) ในรายวชิ าการงานอาชีพ 1 (งานเกษตร)
3. ขอบเขตของกำรดำเนนิ งำน
3.1 เปำ้ หมำยของกำรดำเนนิ งำน
เชงิ ปริมำณ
1. ประชากรนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565 จานวน 332 คน
2. กลุ่มเปา้ หมาย นักเรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4/1 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565
จานวน 32 คน
เชงิ คณุ ภำพ
1. พัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชาการงานอาชีพ 1 (งานเกษตร) ผลการเรียนเฉลี่ย
มากกวา่ ร้อยละ 75
2. ผู้เรียนสามารถอธิบาย ลงมือปฏิบัติการปลูกพืชไร้ดิน นาเสนอผลงานและจัดจาหน่ายผัก
สลัดจากการปลูกพชื ไร้ดนิ ได้ รอ้ ยละ 100
3. ผู้เรียนมีความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนด้วยการเรียนรู้แบบการเขียนบันทึก
(Keeping Journals or Logs) ในรายวิชาการงานอาชพี 1 (งานเกษตร) มากกวา่ ร้อยละ 80
3.2 ขอบเขตของเนือ้ หำ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 การปลูกพืชไร้ดิน ออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
จานวน 6 ชั่วโมง
3.3 ขอบเขตของระยะเวลำ
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565
4. ประโยชนท์ จี่ ะไดร้ ับ 4
4.1 ผลต่อผเู้ รยี น
1) นักเรียนมีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นดีขึ้น
2) นักเรยี นมีสมาธิในการฟัง การจดจะทาให้นกั เรียนฟังอย่างตั้งใจมากข้ึน
3) เพิม่ ความเขา้ ใจ การจดบันทกึ เรอ่ื งราวต่าง ๆ เปน็ การสร้างความเข้าใจในเน้อื หามากข้ึน
4) เพ่ิมความจดจา เมื่อมีการจดบันทึก ช่วยให้เราจดจาเน้อื หาไดด้ ีข้นึ อย่างเปน็ ระบบป้องกันการ
ลืม
5) ใช้เปน็ แหล่งสบื ค้นในภายหลัง นับเปน็ หลกั ฐานอย่างไมเ่ ป็นทางการ
6) ชว่ ยให้รู้ว่าปญั หาของนักเรยี นคอื อะไร และแกไ้ ขไดอ้ ย่างไร
7) ช่วยใหม้ องเห็นภาพรวมของความคิด และมหี ลายความคิดท่ีสามารถเช่ือมโยงกนั จนกลายเป็น
เรอ่ื งใหญ่ได้
4.2 ผลตอ่ สถำนศึกษำ
โรงเรียนเวียงสระมีการร่วมเรียนรู้ร่วมกันของครู ผู้บริหาร ของชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
(Professional Learning Community : PLC) เพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้ในการจัดการเรียนการสอนและ
นาเสนอการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนด้วยการเรียนรู้แบบการเขียนบันทึก (Keeping Journals
or Logs) บนพื้นฐานวัฒนธรรมความสัมพันธ์แบบกัลยาณมิตร ทาให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจในการเรียนรู้
มากขึ้น โดยผสู้ อนเปน็ ผู้อานวยความสะดวก แนะนาชว่ ยเหลือสนบั สนนุ การเรียนรู้ โดยการจดั การเรียน
การสอนแบบ Active Learning และความสุขของการทางานร่วมกันของสมาชิกในชุมชน PLC จึงเป็น
เคร่อื งมอื ชนดิ หนึง่ ที่ใช้ในการพฒั นากิจกรรมการเรยี นรู้ได้เป็นอย่างดใี นสถานศึกษา
4.3 ผลต่อชุมชน
ผ้ปู กครองและชุมชนให้ความไวว้ างใจตอ่ ระบบการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี นเวยี งสระ
5. กระบวนกำรผลิตผลงำนหรือขนั้ ตอนกำรดำเนนิ งำน
5.1 กำรออกแบบผลงำน/นวตั กรรมกำรเรียนรู้เชงิ รุก (Active Learning)
1) วิเคราะห์หลักสูตรและความต้องการและจุดเน้นของสถานศึกษา โดยการศึกษาหลักสูตร
การศึกษา หลกั สูตรแกนกลางการศึกษา 2551 ฉบบั ปรบั ปรงุ 2560 การพัฒนาผูเ้ รยี นเพื่อให้
ตอบสนองต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ตลอดจนแนวคิดทฤษฎที างการศึกษา
แบบ Active Learning สาหรับบทบาทผู้เรียนตามแนว Active Learning ได้วิเคราะห์และ
สังเคราะห์สาระสาคัญจากนักการศึกษา Johnson (1991), Ewell (1997), สุพรรณีชาญ
ประเสริฐ (2557) และจากเว็บไซต์ Center for Teaching Innovation (2562) สามารถ
จาแนกบทบาทของผู้เรียน
2) มีการมอบหมายงานให้ผู้เรียนเพ่ือการเตรียมตัวหรือเตรียมความรู้ก่อนการเข้าเรียน เช่น มี
การมอบหมายให้อา่ นเนอื้ หาสาระทจี่ ะเรยี นหรือเร่ืองท่ีเกย่ี วข้องในสง่ิ ทจี่ ะเรยี นลว่ งหน้า
3) บอกถึงกิจกรรมและประโยชน์ท่ีจะได้รับจากการร่วมกิจกรรมเพ่ือกระตุ้นให้ผู้เรียนค้นหา 5
คาตอบด้วยตนเอง มีความเข้าใจและสร้างมโนทัศน์ท่ีได้จากการเรียนรู้และสร้างองค์ความรู้
ดว้ ยตนเองได้
4) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ควรจัดเป็นกลุ่มเพื่อการเรียนรู้ร่วมกัน และกระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วน
ร่วมในการทากจิ กรรมการเรียนรอู้ ย่างสร้างสรรค์ด้วยการลงมือปฏิบัติการปลูกพชื ไร้ดิน
5) ให้ความสาคัญและกระตุ้นให้เกิดการสร้างปฏิสัมพันธ์ในช้ันเรียนโดยใช้ทักษะการส่ือสาร
แลกเปล่ียนเรียนรู้โดยการเรียนรู้แบบการเขียนบันทึก (Keeping Journals or Logs)
ขัน้ ตอนการปลกู พืชไร้ดนิ ในรายสปั ดาห์
6) ให้ผู้เรียนรบั ผิดชอบในผลงาน โดยกาหนดเวลาและงบประมาณท่ีใช้ในการปลกู พืชไร้ดิน
7) มีการสรปุ แลกเปล่ียนเรยี นรกู้ นั กอ่ นเร่ิมเน้ือหาใหม่ในรูปแบบการเขยี นบนั ทึกกลุ่ม
8) ประเมินผลการจัดการเรียนรู้ ประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ ประเมินคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ ประเมนิ สมรรถนะอ่าน คดิ วิเคราะห์ ประเมินความพงึ พอใจ ถสรปุ ผล รายงานผล
พร้อมเผยแพร่ผลการจัดกจิ กรรม
พฒั นาตนเอง วิเคราะห์หลักสูตร/นักเรียน/แผนพัฒนา 6
- หนังสือ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉ.12
- แหลง่ เรยี นรอู้ อนไลน์ - สร้างองค์ความร้ดู ้วยตนเองตาม
นกั เรยี นสรา้ งองค์ความรู้ ทฤษฎี Constructivism
- แหล่งเรียนรอู้ อนไลน์
วเิ คราะห์ปญั หา/ความตอ้ งการ - Google Classroom
- ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งครูกบั นักเรยี น
แบบ 2 way Communication
ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา
วางแผนแก้ปัญหา
สรา้ งนวตั กรรม/ช้นิ งาน/
โครงงานอาชีพ
นาเสนอผลงาน
ไม่ผา่ น ประเมนิ ผล - ประเมนิ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นรู้
- ประเมนิ ความพงึ พอใจ
ผ่าน
สรุปผล/รายงานผล/เผยแพร่
5.2 กำรดำเนินงำนตำมกิจกรรม (ตำมวงจร PDCA)
7
1. ขน้ั เตรยี มกำร (PLAN)
1.1 วิเคราะหห์ ลกั สูตร ความตอ้ งการและจดุ เน้นของสถานศกึ ษา
1.2 กาหนดจดุ ประสงค์
1.3 จัดหางบประมาณ แผนงานโครงการ เพื่อจัดโครงการพัฒนาศักยภาพครู และ
จดั ซ้อื อปุ กรณใ์ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1.6 กระตนุ้ นกั เรียนให้เกดิ การเรยี นร้ดู ้วยตนเอง สร้างองค์ความรไู้ ดด้ ว้ ยตนเอง
1.7 ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้และกิจกรรมการเรียนรู้ ออกแบบชิ้นงานร่วมกนั
รวมถงึ วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล
2. ขนั้ ดำเนนิ กำร (Do)
2.1 จดั กิจกรรมการเรียนรตู้ ามแผนการจดั การเรียนรู้ท่ีได้ออกแบบไว้
2.2 นักเรียนเขียนบันทึก (Keeping Journals or Logs) ขั้นตอนการปลูกพืชไร้ดิน
รายสัปดาห์
2.3 เย่ยี มชนั้ เรยี น/นิเทศการสอน
3. ขน้ั ตรวจสอบและประเมินผล (Check)
3.1 นักเรียนนาเสนอผลงานการปลูกพืชไร้ดินหน้าชั้นเรียนและส่งการเขียนบันทึก
(Keeping Journals or Logs)
3.2 ประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ประเมิน
สมรรถนะอา่ น คิด วิเคราะห์ ประเมินความพงึ พอใจ
4. ขั้นสรุปและรำยงำนผล (Action)
4.1 ครผู ้สู อน รายงานผลตอ่ กลุม่ PLC
4.2 กลุ่ม PLC อภิปลายผลการจัดกิจกรรม ช้ีแนะแนวทาง ข้อดี ข้อเสีย จุดแข็ง
จุดออ่ นแนวทางการแกไ้ ข และพฒั นาเพมิ่ เติม
4.3 ปรับปรุงและพัฒนา
4.4 รายงานผล
5.3 ประสิทธภิ ำพของกำรดำเนนิ งำน
นักเรียนแต่ละกลุ่มสามารถอธิบายขั้นตอนและลงมือปฏิบัติการปลูกพืชไร้ดิน นาเสนอ
ผลงานและจัดจาหนา่ ยผกั สลัดจากการปลกู พืชไร้ดนิ ได้
5.4 กำรใชท้ รพั ยำกร
มีการประยกุ ต์ใชท้ รัพยากรท่มี ีอยอู่ ย่างเหมาะสม คุ้มค่า สอดคล้องกบั บริบทของโรงเรียน
เวียงสระ เช่น ลดการใช้กระดาษโดยการเขียนบันทึก (Keeping Journals or Logs) ข้ันตอนการปลูก
พืชไร้ดินรายสัปดาห์ส่งในกลุ่ม Line ห้องเรียนโดยใช้การเขียน canva ส่งคุณครูแทนการใช้กระดาษ
สง่ เสรมิ การปลกู พืชไรด้ ินเพ่ือเป็นการอนุรักษด์ นิ และสร้างรายไดใ้ หน้ กั เรยี น
8
6. ผลกำรดำเนินกำร/ผลสัมฤทธ์ิ
6.1 ผลทเี่ กิดขน้ึ กบั ผู้เรยี น
1. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชาการงานอาชีพ 1 (งานเกษตร) ผลการเรียน ร้อยละ
77.45
2. ผู้เรียนอธิบาย ลงมือปฏิบัติการปลูกพืชไร้ดิน นาเสนอผลงานและจัดจาหน่ายผักสลัด
จากการปลกู พชื ไรด้ ินได้ รอ้ ยละ 100
3. ผู้เรียนมีความพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอนด้วยการเรียนรู้แบบการเขียนบันทึก
(Keeping Journals or Logs) ในรายวิชาการงานอาชีพ 1 (งานเกษตร) โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ท่ี
4.5 ซงึ่ สรปุ ผลคือ ความพงึ พอใจอยูท่ ี่ ระดับมากทสี่ ุด
6.2 ผลทเี่ กิดข้นึ กบั ครู
1. ครูมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน 2551 ฉบบั ปรับปรงุ 2560
2. ครมู ีความรคู้ วามเข้าใจในแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาตฉิ บบั ท่ี 12
3. ครูมีชุดการปลูกผักไร้ดินเพื่อเป็นส่ือในการเรียนรู้และนักเรียนสามารถลงมือปฏิบัติได้
จริง ในรายวิชาการงานอาชีพ 1 (งานเกษตร)
4. พฒั นาตนเองสคู่ วามเปน็ ครูมืออาชพี
6.3 ผลทีเ่ กดิ ข้ึนกบั โรงเรียน
1. เครอื ขา่ ยการเรยี นรทู้ างวิชาชีพ (PLC)
2. โรงเรยี นมีแหลง่ เรยี นร้ทู างด้านเทคโนโลยที ่หี ลากหลาย
3. เป็นท่ยี อมรบั ศรทั ธา ของผู้ปกครอง ชมุ ชน
6.4 ผลทเ่ี กดิ ข้นึ กับชุมชน
1. มีความเช่อื มั่นต่อกระบวนการจดั การเรยี นร้ขู องโรงเรยี น
2. ชุมชนได้รับเยาวชนทมี่ ีคุณภาพ มีความกระตอื รือร้น และรับผดิ ชอบ
7. ปัจจยั ควำมสำเร็จ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสาเร็จนวัตกรรมการพัฒนาทักษะการเรียนเกษตรโดยการเขียนบันทึก
(Keeping Journals or Logs) เพื่อความเป็นเลิศในครั้งน้ี ได้แก่
7.1 ผเู้ รยี น
1. นกั เรยี นมสี มาธิในการฟัง การจดจะทาให้นักเรยี นฟังอย่างตัง้ ใจมากข้ึน
2. เพม่ิ ความเขา้ ใจ การจดบันทึกเร่อื งราวตา่ ง ๆ เปน็ การสร้างความเข้าใจในเนื้อหามากขึ้น
3. เพ่ิมความจดจา เม่ือมีการจดบันทึก ช่วยให้เราจดจาเน้ือหาได้ดีขึ้นอย่างเป็นระบบ
ป้องกนั การลมื
4. ใชเ้ ป็นแหลง่ สบื ค้นในภายหลงั นบั เปน็ หลกั ฐานอย่างไม่เป็นทางการ
5. ช่วยให้มองเห็นภาพรวมของความคิด และมีหลายความคิดท่ีสามารถเช่ือมโยงกัน
ผู้เรยี นกระหายในความรู้ เกดิ การเรยี นรู้ที่ไมส่ ิ้นสุด นกั เรียนสามารถต่อยอดการปลูกผักไรด้ นิ ได้เอง
9
จากส่ือตัวอย่างชุดการปลูกพืชไร้ดินท่ีครูจัดสร้างขึ้น และจากอุปกรณ์ท่ีทางโรงเรียนจัดงบประมาณ
สนับสนนุ ให้มี
7.2 ครู
1. ครูผู้สอนได้เห็นความสาคัญของการเปล่ียนแปลงของหลักสูตรและคุณภาพผู้เรียนของ
นักเรยี นทจ่ี บชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 การสร้างสภาพแวดล้อมทเี่ อ้ือตอ่ การเรียนรู้ตลอดชวี ิต สร้างเคร่อื งมือ
ทใ่ี ช้ในการแลกเปลี่ยนเรยี นร้รู ว่ มกับนกั เรยี น เครือขา่ ยการเรียนรทู้ ้ังภายในและภายนอกสถานศึกษา
2. ครผู ้สู อนพฒั นาตนเองอยอู่ ย่างสม่าเสมอ
3. ครูผู้สอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ร่วมมือร่วมใจกันในการออกแบบกิจกรรมการ
เรียนรู้ ลดภาระงานใหน้ ักเรยี น โดยชิน้ งาน 1 ช้ินสามารถตดั สนิ ได้มากกว่า 1 รายวิชา
7.3 โรงเรียน
1. งบประมาณและวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ผู้บริหารสนบั สนนุ การจดั สรรงบประมาณในการ
จัดกิจกรรมโครงการ Best Practice และจัดสรรงบประมาณในการจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ ในการจัดการ
เรยี นรู้
2. สนับสนนุ ให้ครูไดพ้ ัฒนาตนเองในส่งิ ที่ชอบ และถกู ต้อง
3. ส่งเสริมครใู นการพฒั นานวัตกรรม
7.4 ชมุ ชน
1. ผู้ปกครองสนับสนุน ให้นักเรียนมีการพัฒนาตนเอง
8. บทเรียนทีไ่ ด้รับ (Lesson learned)
จากนวัตกรรมการพัฒนาทักษะการเรียนเกษตรโดยการเขียนบันทึก (Keeping Journals or
Logs) เพ่ือความเป็นเลศิ ในครั้งน้ี ได้รบั บทเรียนดงั นี้
8.1 ขอ้ สรุป
1. นกั เรียนเกดิ การเรียนรตู้ ลอดชีวติ มคี วามกระหายในความรู้ใหม่ ๆ และสามารถสืบเสาะหา
ความรูไ้ ด้ด้วยตนเอง
2. ครูได้พัฒนาตนเองตามแนวทางของชุมชนแห่งการเรียนรู้ PLC มีการบูรณาการการจัดการ
เรยี นรูใ้ นรายวิชาต่าง ๆ ในระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/1 เพื่อลดภาระงานให้กบั นกั เรยี น
3. นกั เรียนมสี มรรถนะด้านการคดิ วิเคราะห์
4. นักเรียนมสี มรรถนะด้านการใช้เทคโนโลยี
5. นกั เรยี นมีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ตามมาตรฐานของโรงเรียน
8.2 ข้อสงั เกต
1. การที่โรงเรียนเข้าใจและเห็นความสาคัญของการจัดการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล ทาให้การ
ดาเนนิ การเปน็ ไปไดอ้ ย่างสะดวก ราบร่นื และคล่องตวั
2. หากผู้เรียนมีความชอบ อยากรู้อยากเห็นในเรื่องใด ด้วยตัวของเขาเองแล้วการจัดการ
เรยี นรกู้ ็เป็นไปไดโ้ ดยง่าย
10
8.3 ข้อเสนอแนะ
1. ในการนานวัตกรรมการพัฒนาทักษะการเรียนเกษตรโดยการเขียนบันทึก (Keeping
Journals orLogs) ไปใช้ครูจะต้องกระหายใคร่รู้มีการพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา เพ่ือให้ก้าวทัน
เทคโนโลยี และเกิดการตื่นตัวเป็นแบบอย่างท่ีดีให้แก่ผู้เรียนได้ เพื่อสร้างผู้เรียนให้เป็นคนอยากรู้อยาก
เห็นในทางทถี่ ูกตอ้ ง
2. ครูจะตอ้ งปรับตัวให้เป็นผูอ้ านวยความสะดวกในชั้นเรียน ไมใ่ ช่แตเ่ พยี งผสู้ อนความรู้
3. หากผู้บริหารยังไม่เห็นความสาคัญครูต้องหาข้อมูลเพ่ือปรับความเข้าใจและพูดคุย
รายละเอยี ดให้ผบู้ ริหารรับทราบถึงการเปล่ียนแปลงของแผนพัฒนาการศกึ ษาแหง่ ชาติ
4. ผูส้ อนจะต้องมีเวลาว่างและเปิดใจเม่อื นักเรียนเข้ามาปรึกษาการทาบันทกึ
6. ผู้สอนต้องมีช่องทางการส่ือสารกับผู้เรียนที่หลากหลาย เช่น Google Classroom, กลุ่ม
Line, Facebook fanpage เปน็ ต้น
8.4 ข้อควรระวัง
1. ผู้เรียนแต่ละห้องเรียนมีความแตกต่างกัน ทั้งในด้านกระบวนการเรยี นรู้ และความชื่นชอบ
ความสนใจ ดงั นน้ั การจัดการเรียนรู้รปู แบบเดยี วกนั อาจจะใช้ไม่ได้กบั ทุกห้องเรียน ทุกแผนการเรียน ครู
จงึ ควรปรบั เปล่ยี นวิธีการสอนใหเ้ หมาะสมกับผ้เู รียนแตล่ ะกลุ่ม
2. ความรู้ของปนี ้ีอาจจะตกยคุ ในปีถดั ไป เทคโนโลยมี กี ารเปลีย่ นแปลงอยู่เสมอ
4. ความคาดหวงั ของตัวครผู ู้สอนทมี่ ีตอ่ ช้นิ งานของนักเรียน
8.5 แนวทำงกำรพฒั นำเพิ่มเติมให้ประสบควำมสำเรจ็
1. พัฒนารูปแบบหรือรูปเล่มการทดบันทึกให้สวยงาม และหลากหลายเพื่อดึงดูดความสนใจ
ของผู้เรยี น
2. จดั การประกวดเพื่อรับรางวัลสาหรับนกั เรยี นทเ่ี ขียนบันทกได้ดี
9. บรรณำนุกรม
ครบู า้ นนอก.คอม (2551).การจดั กิจกรรมการเรียนรู้แบบบรู ณาการ สืบค้นจาก https://www.
kroobannok.com/3735
นิพนธ์ บรรพสาร. (2564). คมู่ อื การขับเคล่ือนกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนร(ู้ Professional
Learning Community : PLC) สบื คน้ จาก https://www.sakonarea1.go.th
/view.php?article[9 กมุ ภาพันธ์ 2564].
วชิ ยั วงษ์ใหญ่ และ มารตุ พฒั ผล. (2562). การพฒั นาคุณภาพการจัดการเรยี นรู้ตามแนวคดิ ชมุ ชนแห่ง
การเรยี นรูท้ างวชิ าชีพ. กรงุ เทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวโิ รฒ.
สถาพร พฤฑฒกิ ุล.(2555).คณุ ภาพผู้เรียน.......เกดิ จากกระบวนการเรยี นรู้ (Quality of students
derivedfrom active learning). วารสารการบริหารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยบรู พา; 6(2): 1
12.สืบค้นจากhttps://sites.google.com/site/professionallearncom/สนอง โลหิตวิเศษ.
(2563). ชุมชนแหง่ การเรียนรู้. สืบค้นจาก http://ejournals.swu.ac.th/index.php/
11
ภำคผนวก
12
กำรเผยแพร่
1. กำรเผยแพร่
- เผยแพร่ใหแ้ กค่ ณะครูในโรงเรยี นผา่ นกระบวนการ PLC, Show & Share
- เผยแพรใ่ น insKru – พนื ้ ทแี่ บง่ ปันไอเดยี การสอน https://inskru.com/edit/-
NCsag6LD4EsiOsAvaTT ในหวั ข้อการเขยี นบนั ทึก (Keeping Journals or Logs) โดยครกู ระโดด
- เผยแพร่ผลงานและบทความในเพจ รักษ์เกษตร by ครู https://www.facebook
กระโดด.com/profile.php?id=100086559540807
2. กำรยอมรับ
- เป็นแกนนาและคณะทางานในการจัดอบรมครูการจัดการเรียนรู้เร่ืองเศรษฐกิจพอเพียง
และมีการนาความรู้เร่ืองการเขียนบันทึก (Keeping Journals or Logs) ให้แก่คณะครูโรงเรียนเวียง
สระเพอื่ นาไปต่อยอดในรายวชิ าอ่นื ๆ
13
ผลกำรประเมนิ ควำมพึงพอใจกำรจัดกำรเรียนรู้
รำยวิชำกำรงำนอำชีพ 1 ง31101 ภำคเรยี นท่ี 1 ปีกำรศึกษำ 2565
ตารางแสดง ความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้รายวิชารายวิชาการงานอาชีพ 1 ง31101
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
กิจกรรม คา่ เฉลย่ี คา่ S.D. สรุปผล
1. ครมู กี ารเตรียมการสอน 4.6 1.0 มากที่สดุ
มากทส่ี ดุ
2. การจัดบรรยากาศห้องเรียนเอ้อื ต่อการเรียนการสอน 4.5 0.6
3. เนื้อหาทสี่ อนทันสมยั นาไปใชไ้ ดจ้ รงิ 4.4 0.7 มาก
มากทส่ี ดุ
4. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนรชู้ ัดเจน 4.5 0.6
5. กิจกรรมการเรียนการสอนสอดคลอ้ งกับจุดประสงค์การเรยี นการสอน 4.4 0.7 มาก
มากทส่ี ดุ
6. ครสู ง่ เสริมให้นกั เรียนทางานร่วมกนั เป็นกลมุ่ และรายบุคคล 4.5 0.6
7. ครสู ่งเสริมใหน้ ักเรียนมีความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์และรว่ มกนั อภิปราย 4.2 0.8 มาก
มากทส่ี ดุ
8. กจิ กรรมการเรยี นสนุกและนา่ สนใจ 4.6 1.0 มากท่ีสุด
9. ครใู หโ้ อกาสนกั เรียนซักถามปญั หา 4.6 0.9
10. ครูใชว้ ธิ กี ารสอนและใชส้ อื่ อยา่ งหลากหลาย 4.2 0.9 มาก
11. ครูยอมรับความคิดเห็นของนกั เรียน 4.6 0.8 มากทสี่ ดุ
12. ครใู ห้ความสนใจแกน่ ักเรียนอย่างทัว่ ถึงขณะสอน 4.5 0.9 มากทส่ี ดุ
13. ครูส่งเสริมให้นกั เรยี นค้นควา้ หาความรจู้ ากห้องสมดุ อินเทอรเ์ นต็ หรือแหลง่ 4.5 0.9 มากทส่ี ดุ
เรยี นรู้อื่นๆ
14. ครตู ัง้ ใจสอน ให้คาแนะนา ชว่ ยเหลอื อานวยความสะดวกแก่นกั เรียนในการ 4.5 1.0 มากทส่ี ุด
ทากิจกรรม
15. ครมู ีบคุ ลกิ ภาพ การแต่งกายและการพูดจาเหมาะสม 4.6 1.0 มากที่สุด
16. ครูเขา้ สอนและออกตรงเวลา 4.6 1.0 มากที่สุด
17. นักเรียนทราบเกณฑ์การประเมนิ ผลล่วงหน้า 4.2 1.3
18. นกั เรยี นมสี ่วนรว่ มในการประเมนิ ผลการเรยี น 4.2 1.4 มาก
19. ครปู ระเมินผลอย่างยตุ ิธรรม 4.6 1.3 มาก
20. นักเรยี นเรยี นอยา่ งมคี วามสุข 4.4 1.4 มากทส่ี ุด
4.4 0.9 มาก
ค่าเฉลย่ี รวม มากทส่ี ุด
14
จากตารางแสดงความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้รายวิชาการงานอาชีพ 1 ง31101ภาคเรียน
ที่ 1 ปีการศึกษา 2565 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ที่ 4.4 อยู่ในระดับมากท่ีสุด โดย
ประเด็นทีผ่ ู้เรียนใหค้ ะแนนมากทส่ี ดุ อย่ทู ี่ กจิ กรรมการเรยี นรู้สนกุ และน่าสนใจ 4.6 ระดับมากที่สุด
เสยี งจำกผเู้ รียน
สิ่งทีน่ ักเรียนอยำกให้มใี นชนั้ เรยี น
1) อยากให้มีสอ่ื อิเล็กทรอนกิ สเ์ พิ่มเตมิ อีกเยอะๆ
2) อุปกรณ์ท่ีทันสมยั กวา่ นี้
3) เกมสผ์ อ่ นคลาย
4) เลน่ เกม
5) คอมพวิ เตอร์ทีท่ นั สมัยและอนิ เตอร์เน็ตทีร่ วดเรว็ เพ่ือการเรียนคะ่
6) อยากให้มีอปุ กรณ์เยอะ ๆ
สง่ิ ที่นักเรียนประทับใจ
1) คุณครสู อนดีมาก
2) ความขาขันของครู
3) ส่ือการสอน
4) คณุ ครูสอนดีสนุกและเป็นกันเอง
15
รายงานผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน
รายวิชา การงานอาชีพ ๑ รหัสวชิ า ง3๑10๑ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4
ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี
ชัน้ จานวน 4 3.5 ระดับผลการเรียน 0 ร คะแนน
นักเรยี น 3 2.5 2 1.5 1 มส เฉล่ยี
4/1 32 32 - - - - - - - - - 86.34
4/2 44 37 7 - - - - - - - - 81.55
4/3 44 28 7 8 1 - - - - - - 78.39
4/4 43 21 18 3 - - - - - - - 78.19
4/5 44 30 10 4 - - - - - - - 79.91
4/6 42 8 18 7 3 3 2 1 - - - 72.81
4/7 41 8 2 18 10 2 - 1 - - - 70.66
4/8 42 9 11 11 5 4 2 - - - - 72.48
รวม 332 173 73 51 19 9 4 2 0 0 0 620.33
รอ้ ย 100 52.11 21.99 15.36 5.72 2.71 1.20 0.60 0.00 0.00 0.00 77.54
ละ
รายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา การงานอาชีพ 1 รหัสวิชา ง3๑102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 รวมจานวนนกั เรียนท้งั หมด 332 คน
ได้ผลการเรยี น 4 จานวน 173 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 52.11
ได้ผลการเรยี น 3.5 จานวน 73 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 21.99
ไดผ้ ลการเรียน 3 จานวน 51 คน คิดเป็นร้อยละ 15.36
ไดผ้ ลการเรียน 2.5 จานวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 5.72
ไดผ้ ลการเรยี น 2 จานวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 2.71
ได้ผลการเรยี น 1.5 จานวน 4 คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.20
ได้ผลการเรยี น 1 จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 0.60
ไดผ้ ลการเรยี น 0 จานวน - คน คิดเป็นรอ้ ยละ 0
ได้ผลการเรยี น ร จานวน - คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 0
สรุปผลการจัดการเรียนการสอนรายวิชา รายวิชาการงานอาชีพ ๑ รหัสวิชา ง3๑10๑
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยรวมมีระดับคะแนนเฉล่ีย 77.54 ผลการเรียนเฉลี่ย ๓.5 ผลสาเร็จอยู่ใน
ระดับ ดีมาก
16
ตวั อย่าง การเขยี นบันทกึ (Keeping Journals or Logs)