The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารประกอบการสอน วิชา การพยาบาลสุขภาพชุมชน 2 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

หน่วยที่ 4 กระบวนการพยาบาลชุมชน

เอกสารประกอบการสอน วิชา การพยาบาลสุขภาพชุมชน 2 คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

Keywords: nursing process

หน่วยท(ี * กระบวนการพยาบาลชุมชน

วัตถุประสงค์ : เพื&อให้นกั ศกึ ษาสามารถ
1. อธิบายความสําคญั และแนวคิดหลกั ของกระบวนการพยาบาล
ชมุ ชนได้
2. อธิบายขนัJ ตอนและกระบวนการในการประเมินชมุ ชนได้
3. วิเคราะห์ข้อมลู สขุ ภาพชมุ ชน การระบปุ ัญหาและความต้องการ
ด้านสขุ ภาพของชมุ ชนได้
4. อธิบายการวางแผนในการจดั การปัญหาและความต้องการของ
ชมุ ชนได้
5. เขียนโครงการและวธิ ีการประเมินผลโครงการได้

ขอบเขตของเนือ4 หา
1. ความสาํ คญั และแนวคดิ หลกั ของกระบวนการพยาบาลชมุ ชน
2. การประเมินชมุ ชน
2.1 หลกั การในการประเมินชมุ ชน
2.2 ขนัJ ตอนการประเมินชมุ ชน
2.3 กระบวนการประเมินชมุ ชน
3. การวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพชุมชน การระบุปัญหา และความ
ต้องการด้านสขุ ภาพของชมุ ชน
3.1 การตรวจสอบข้อมลู
3.2 การวเิ คราะห์ข้อมลู
3.3 การตีความข้อมลู
3.4 การจดั ลําดบั ความสําคญั ของปัญหาและความต้องการ
ด้านสขุ ภาพของชมุ ชน
4. การออกแบบบริการสขุ ภาพในชมุ ชน
5. การเขียนโครงการ
6. การประเมินผลการปฏิบตั งิ านในโครงการ

112

กระบวนการพยาบาลชุมชน

ขนิษฐา นันทบุตร
ลัฆวี ปิ ยะบณั ฑติ กุล

นิศาชล บุบผา
กติ ตภิ มู ิ ภญิ โย

1. ความสาํ คัญและแนวคดิ หลักของกระบวนการพยาบาลชุมชน
การพยาบาลชุมชนถือเป็นการพยาบาลเฉพาะสาขา ท&ีกําหนดการบริการสุขภาพให้ตอบสนอง

ความต้องการด้านสขุ ภาพของประชาชนทุกคนในชุมชน ในลกั ษณะท&ีเป็นบริการสขุ ภาพรายบุคคล ราย
กลุ่มและรายครอบครัวในทุกสภาวะสุขภาพทังJ สุขภาพดี มีภาวะเส&ียงด้านสุขภาพ มีการเจ็บป่ วยหรือ
ต้องการการฟื นJ ฟูสขุ ภาพและบริการสขุ ภาพรายชมุ ชนท&ีเน้นการจดั การส&ิงแวดล้อมในชมุ ชนเพื&อส่งผลต่อ
ภาวะสขุ ภาพคนในชมุ ชนโดยรวม โดยเฉพาะการจดั การส&ิงแวดล้อมทางธรรมชาติและสิ&งแวดล้อมท&ีสงั คม
และคนเป็นผู้กระทําให้เกิดขึนJ กระบวนการนีตJ ้องอาศยั การนําองค์ความรู้ด้านต่างๆมาใช้ในการกําหนด
แนวทางการให้บริการสขุ ภาพของพยาบาลชมุ ชน โดยเปา้ หมายสงู สดุ ของ การบริการสขุ ภาพในชมุ ชนนี J
มงุ่ ให้ประชาชนทกุ คนได้รับการดแู ลในทกุ สภาวะสขุ ภาพแบบองค์รวม อยา่ งผสมผสานและตอ่ เน&ืองสอดรับ
กับวิถีการดําเนินชีวิต มีการเข้าถึงบริการสขุ ภาพที&จําเป็นขนัJ พืนJ ฐานได้อย่างเท่าเทียมและส่งผลให้การ
ดําเนินชีวิตเป็นไปอย่างสมดุลและมีคุณภาพชีวิตที&ดี (Pursey, 1995; Parse, 1999) ทังJ นีโJ ดยอาศัยการ
ทํางานร่วมกนั แบบสหสาขาวิชาชีพและเป็นเครือขา่ ยกบั องค์กรที&เก&ียวข้องกบั การพฒั นาคณุ ภาพชีวิตคนใน
ชมุ ชนทงัJ หมด

แนวคดิ หลักของกระบวนการพยาบาลชุมชน
แนวคิดหลักของกระบวนการพยาบาลชุมชนคือการจัดการกับปั ญหาและความต้ องการด้ าน

สขุ ภาพของคนโดยอาศยั การเสริมสร้างความเข้มแข็ง ความสามารถให้กบั คนในชมุ ชนและสมรรถนะตาม
ขอบเขตการประกอบวิชาชีพของพยาบาลซง&ึ เป็นกระบวนการตอ่ เนื&องไม่สินJ สดุ เป็นการทํางานและพฒั นา
ทงัJ นีเJ ป็นไปตามกระบวนทศั น์เร&ืองสขุ ภาพและการดแู ลสขุ ภาพแนวใหม่ท&ี“สขุ ภาพ”มีความหมายเกินกว่า
เรื&องของความแข็งแรงทางร่างกายโรคและความเจ็บป่ วย เป็นเร&ืองของปฏิสมั พนั ธ์ของคนกบั สิ&งแวดล้อมท&ี
ก่อให้เกิดผลลพั ธ์ด้านร่างกาย จิตใจ สงั คมและจิตวิญญาณ ทําให้คนมีชีวิตดําเนินอย่ไู ด้ ซง&ึ สขุ ภาพท&ีดีเป็น
ภาพรวมคณุ ภาพชีวิตที&ดีแสดงออกถึงการดําเนินวิถีชีวิตตามบริบทสงั คมวฒั นธรรม ได้อย่างเหมาะสม
ดงั นนัJ หากสงั คม วฒั นธรรมและสิ&งแวดล้อมเปลี&ยนสขุ ภาพคนย่อมเปล&ียนแปลงตามการดแู ลสขุ ภาพจึง
ต้องเปลยี& นตามเพราะต้องสอดรับกบั ปัญหาและความต้องการตามวถิ ีชีวติ ของคนด้วย

การดําเนินการตามกระบวนการพยาบาลชุมชนตามแนวคิดหลกั ดงั กล่าว ต้องอาศยั องค์ความรู้
ภายใต้กระบวนทศั น์สองแนวคือ การแพทย์ชีวะภาพและเชิงสงั คม วฒั นธรรมและวิถีชีวิต โดยการแพทย์
ชีวะภาพชีใJ ห้เห็นเร&ืองราวที&เกี&ยวกบั โรค ความเจ็บป่ วย สาเหตขุ องโรคและวิธีการรักษา การระบาดของโรค
การเฝา้ ระวงั โรค ส่วนกระบวนทศั น์ เชิงสงั คม วฒั นธรรมและวิถีชีวิตนนัJ อธิบายสภาพการดําเนินชีวิตของ
คนที&ทําให้คนมีปฏิสมั พนั ธ์กบั คนอื&นและสิ&งแวดล้อมซง&ึ อาจเป็นเงื&อนไขของการเกิดโรค ความเจ็บป่ วยและ
วิธีการดแู ลรักษาตนเองและคนอ&ืนในครอบครัวและชมุ ชนได้ การใช้กระบวนทศั น์ทงัJ สองแนวนี Jอาจกลา่ วได้
ว่าเป็นการใช้ทงัJ วิทยาศาสตร์และศิลปะศาสตร์ในการเรียนรู้สขุ ภาพชุมชนและประเมินปัญหาและความ
ต้องการของชมุ ชนได้ สว่ นการออกแบบบริการสขุ ภาพและการวางแผนและให้บริการสขุ ภาพนนัJ ต้องอาศยั
องค์ความรู้เพิ&มเติมในเรื&อง ลักษณะบริการสุขภาพ การจัดการบริการสุขภาพและการประเมินผลการ

113

ให้บริการสุขภาพต่างๆตลอดจนการประเมินผลลัพธ์ด้านสุขภาพท&ีเกิดขึนJ กับคนในชุมชน การบริการ
สขุ ภาพชุมชนท&ีมีประสิทธิภาพต้องอาศยั การทํางานร่วมกบั ชุมชนเป็นสําคญั เพราะวตั ถุประสงค์หลกั คือ
การสร้างความเข้มแข็งด้านสขุ ภาพให้กบั ชมุ ชน ดงั นนัJ การทําความเข้าใจใน องค์ความรู้ที&วางรากฐานใน
การทํางานร่วมกบั ชมุ ชนจงึ มีความจําเป็นยิ&งสาํ หรับพยาบาล

สําหรับวิธีการท&ีใช้ในกระบวนการพยาบาลชุมชนนันJ ประกอบไปด้วยขันJ ตอนสําคญั 4 ขันJ ตอน
ได้แก่ (1) การศกึ ษาชมุ ชนและการประเมินชมุ ชน (2) การออกแบบและวางแผนการให้บริการสขุ ภาพชมุ ชน
(3) การให้บริการสขุ ภาพชมุ ชน และ (4) การประเมินผลการบริการสขุ ภาพชมุ ชน สว่ นการประเมินผลลพั ธ์
ด้านสขุ ภาพชมุ ชนนนัJ อาจเกิดขนึ J ได้ทงัJ ในขนัJ ตอนการประเมินชมุ ชนและการประเมินผลการบริการสขุ ภาพ
ชมุ ชนได้

เคร&ืองมือท&ีใช้ในกระบวนการพยาบาลชมุ ชนนนัJ ขนึ J อยกู่ บั แตล่ ะขนัJ ตอน เช่น เคร&ืองมือในการศกึ ษา
ชุมชน แนวทางการวิเคราะห์ข้อมลู สขุ ภาพชุมชน แนวทางการสงั เคราะห์ปัญหาและความต้องการด้าน
สขุ ภาพของชมุ ชน ลกั ษณะบริการสขุ ภาพและตวั อย่างนวตั กรรมในการให้บริการสขุ ภาพในกลมุ่ ประชากร
ต่างๆ ในรูปของโครงการสขุ ภาพชมุ ชนและกิจกรรมการบริการสขุ ภาพ แนวทางการประเมินผลการบริการ
สุขภาพชุมชนและแนวทางการประเมินผลลัพธ์ด้านสุขภาพชุมชน เป็นต้น ซ&ึงพยาบาลชุมชนสามารถ
เลอื กใช้เครื&องมือท&ีมีอยหู่ รือสร้างเคร&ืองมือขนึ J ใหมเ่ พ&ือใช้ในการทํางานได้

ผลลพั ธ์ท&ีเกิดขนึ J จากกระบวนการพยาบาลชมุ ชนอีกประการหน&ึงคือ กระบวนการเรียนรู้ของคนใน
ชมุ ชนในเรื&องสขุ ภาพและการจดั การสขุ ภาพภายใต้เงื&อนไขของการดําเนินชีวิต การพงึ& พาอาศยั ซง&ึ กนั และ
กันของผู้คนในชุมชน ทําให้คนในชุมชนสามารถประเมินปัจจยั คุกคามสขุ ภาพ ปัจจยั ท&ีก่อให้เกิดปัญหา
สุขภาพและปัจจัยเกือJ หนุนศักยภาพในการดูแลและจัดการสุขภาพได้ ซ&ึงกระบวนการศึกษาชุมชนให้
ประสบความสําเร็จ ผ้ศู กึ ษาต้องมีความเข้าใจพืนJ ฐานเก&ียวกบั ข้อมลู ชมุ ชน แนวทางในการประเมินชมุ ชน
และสามารถวเิ คราะห์และสงั เคราะห์ตอ่ ได้วา่ การทํางานกบั ชมุ ชนควรนําเคร&ืองมือใดมาใช้ในระยะใด เป็นต้น

114
ภาพทPี 4.1 สรุปขนัJ ตอนของกระบวนการพยาบาลชมุ ชน

115
ภาพทPี 4.2 แนวคดิ และวิธีการในการศกึ ษาข้อมลู ชมุ ชน

116

2. การประเมนิ ชุมชน
2.1 หลักการในการประเมนิ ชุมชน
การประเมินชมุ ชนหรือท&ีเคยเรียกกนั ว่า “การวินิจฉยั ชมุ ชน” เป็นกระบวนการเก็บและตีความ

ข้อมลู ชมุ ชนอยา่ งเป็นระบบ (ขนิษฐา นนั ทบตุ ร, 2544; Billings, 1996; Elliot, et.al., 1986; Lawton, 1999;
Pickin & Leger, 1993; Kate, Linda, Ann, 1999 ; Torres, 1998 ; Kulbok 1999) เพื&อให้พยาบาลชมุ ชน
หรือ บคุ ลากรด้านสขุ ภาพได้ทําความเข้าใจเร&ืองราวที&เกี&ยวกบั สขุ ภาพและสถานะสขุ ภาพของคนในชมุ ชนที&
เป็นพืนJ ที&บริการทงัJ นีตJ ามบริบทสงั คม วฒั นธรรม วิถีการดําเนินชีวิตของคนในแตล่ ะท้องถิ&น สามารถอธิบาย
สถานะสขุ ภาพของคนในชุมชน ระบุปัจจัยเส&ียงหรือสาเหตุการเจ็บป่ วยท&ีเป็นพฤติกรรม พนั ธุกรรมและ
สิ&งแวดล้อมทังJ กายภาพ ชีวะเคมีและสังคมวัฒนธรรมเพ&ือนําสู่การจัดกิจกรรมการทํางานสร้ างความ
เข้มแขง็ ให้ชมุ ชนและบริการหรือโครงการสขุ ภาพได้อยา่ งครอบคลมุ และมีประสทิ ธิภาพ

การประเมินชมุ ชนยงั ทําให้เกิดความเข้าใจถงึ ชีวิตความเป็นอยขู่ องประชาชนในพืนJ ที& ที&มาของ
ปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพ ลกั ษณะการจดั การกับปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพของ
ประชาชนในท้องถิ&น เช่น การดแู ลสขุ ภาพตนเอง การใช้บริการด้านสขุ ภาพท&ีมีอยู่ การร่วมกนั สร้างกิจกรรม
การป้องกันการเกิดโรคและความเจ็บป่ วยและการส่งเสริมสขุ ภาพเป็นต้น อีกทงัJ ยงั เป็นการเตรียมความ
พร้อมให้คนในชมุ ชนและพยาบาลหรือบคุ ลากรด้านสขุ ภาพท&ีทํางานร่วมกบั ชมุ ชนได้มองเห็นทิศทางในการ
ดําเนินการจดั การกบั ปัญหา และความต้องการด้านสขุ ภาพร่วมกบั ประชาชนในชมุ ชนด้วย

คุณค่าของกระบวนการประเมินชุมชนส่วนใหญ่เกิดขึนJ กับคน ทังJ 2 กลุ่มคือ (†) คนท&ีเป็น
เปา้ หมายท&ีต้องได้รับการดแู ลซงึ& มกั เป็นคนท&ีได้รับผลกระทบจากปัญหาสขุ ภาพ และ (‡) คนท&ีเป็นผ้ใู ห้การ
ดแู ลหรือสนบั สนนุ การดแู ลผ้ไู ด้รับผลกระทบจากปัญหาสขุ ภาพตา่ งๆ ในหลายด้าน กลา่ วคือ

§ ประโยชน์ในสว่ นชมุ ชนอาจสง่ ผลให้ชมุ ชนสามารถจดั การกบั ปัจจยั เส&ียง สาเหตุ ภาวะ
คกุ คาม ที&ทําให้เกิดการตาย การเจ็บป่ วย ความพิการหรืออุบตั ิเหตไุ ด้ คนในชุมชนมีความเข้าใจในเร&ือง
พฤติกรรมสขุ ภาพและพฤติกรรมการส่งเสริมสขุ ภาพที&เหมาะสมให้เกิดการปรับพฤติกรรมเพื&อจดั การกบั
ปัจจยั ที&เป็นสาเหตุ การเจ็บป่วย การตาย ความพิการหรืออบุ ตั เิ หตหุ รือก่อให้เกิดการจดั การเรื&องสงิ& แวดล้อม
ท&ีเป็นปัจจยั เสย&ี งในชมุ ชน

§ ประโยชน์ต่อพยาบาลหรือบคุ ลากรด้านสขุ ภาพอาจเน้นที&กระบวนการเรียนรู้ทําความ
รู้จกั กบั คนในชมุ ชน วิถีการดําเนินชีวิตและวิถีการจดั การกบั ตนเองและส&ิงแวดล้อมที&เป็นผลตอ่ สขุ ภาพของ
ตน ทําให้สามารถจดั บริการสขุ ภาพได้อยา่ งเหมาะสมครอบคลมุ คนทกุ คน และมีสว่ นในการปรับปรุงระบบ
บริการสขุ ภาพในพืนJ ท&ีได้

§ ประโยชน์ตอ่ ผ้ทู &ีมีสว่ นได้สว่ นเสียในการจดั หาบริการสขุ ภาพหรือสวสั ดิการด้านสขุ ภาพ
แก่คนในชมุ ชน เช่น (1) กล่มุ ฌาปนกิจ กล่มุ ออมทรัพย์คือการได้เรียนรู้ข้อมลู อย่างต่อเน&ืองและเป็นระบบ
ทําให้สามารถคาดการณ์หรือวางแผนการจดั การในภารกิจของตนได้ เช่น การจดั สรรกองทนุ สวสั ดิการค่า
รักษาพยาบาลของกล่มุ ออมทรัพย์ การรณรงค์หรือจดั การสภาพชุมชนท&ีเป็นผลต่อการเจ็บป่ วยและตาย
จากอบุ ตั ิเหตุ เป็นต้น และ (2) องค์กรปกครองสว่ นท้องถ&ินสามารถจดั ระบบการดแู ลตามภารกิจตนได้ เช่น
ระบบการส่งเสริมสุขภาพและสวัสดิการแก่ผู้สูงอายุ ระบบการจัดการและเฝ้าระวังอุบัติเหตุและภาวะ
ฉกุ เฉิน ระบบการดแู ลเดก็ วยั ก่อนเรียน เป็นต้น

แนวคดิ ในการประเมนิ ชุมชน
ผ้ปู ฏิบตั ิการให้บริการสขุ ภาพชมุ ชนสว่ นใหญ่ทําการประเมินชมุ ชนภายใต้วิธีคิดตามบริบทของการ

เรียนรู้ฝึกฝนของตน โดยทว&ั ไปจะพบว่ามีการใช้หลายแนวคิดประกอบกันทงัJ นีเJ พื&อสร้างความครอบคลมุ

117

ให้กับกระบวนการประเมินชุมชนให้มากที&สุด โดยเฉพาะอย่างย&ิงเม&ือต้องเปิดเผยข้อมูลด้านต่างๆที&
เกี&ยวข้องกบั สขุ ภาพชมุ ชนซง&ึ มีหลายด้าน (ตารางท&ี 4.1)

ตารางทPี 4.1 แนวคดิ การใช้ข้อมลู ในการประเมินชมุ ชน

แนวคดิ ตวั อย่างข้อมูล

ประชากรศาสตร์ - องค์ประกอบทางประชากรของชมุ ชน

- ประชากรกลมุ่ ตา่ งๆ ตามอายแุ ละเพศ
- อตั ราเกิด อตั ราตาย
- การย้ายถ&ิน และอื&นๆ
ระบาดวิทยาและสถิตกิ ารเจ็บป่วย - ปัญหาสขุ ภาพ แบบแผนการเจ็บป่วยและโรค อตั ราป่วย อตั รา
ตาย พร้อมปัจจยั เหตุ
- กลมุ่ ตา่ งๆท&ีเป็นผ้ไู ด้รับผลกระทบจากปัญหาสขุ ภาพและตาม
ความต้องการการดแู ลด้านสขุ ภาพด้านตา่ งๆ

- กลมุ่ คนท&ีมีความต้องการการดแู ลด้านสขุ ภาพเป็นพิเศษ อาจ
ได้แก่ เดก็ หญิงตงัJ ครรภ์ ผ้สู งู อายุ ผ้ดู ้อยโอกาส คนพิการ
ผ้ปู ่วยโรคเรือJ รัง เป็นต้น

พฤตกิ รรมศาสตร์และวฒั นธรรมที& - พฤตกิ รรมสขุ ภาพ พฤตกิ รรมเสยี& ง พฤตกิ รรมการสง่ เสริม
กําหนดพฤตกิ รรม สขุ ภาพ พฤตกิ รรมการแสวงหาการรักษา พฤตกิ รรมการดแู ล

สขุ ภาพ การดแู ลตนเองและคําอธิบายหรือตีความพฤตกิ รรม
ดงั กลา่ วของคนในชมุ ชน
- วิถีการดําเนินชีวิตของคนในชมุ ชน ที&เป็นเหตหุ นงึ& ของการ
เจ็บป่วยและโรค หรือ เป็นปัจจยั เสริมสขุ ภาพ
- วิถีการจดั การด้านสขุ ภาพของชมุ ชน โดยเฉพาะอยา่ งยิ&ง การ
จดั การสง&ิ แวดล้อม พฤตกิ รรม และ การกระทําตา่ งๆในการ

ดําเนินชีวิต การประกอบอาชีพ ทงัJ ของตนเองและกลมุ่ รวมทงัJ
คนสาํ คญั ในการจดั การด้านสขุ ภาพ
- คา่ นิยมของคนในชมุ ชน ความคดิ ของคนในชมุ ชนเก&ียวกบั
สขุ ภาพ การจดั การด้านสขุ ภาพ การเช&ือถือคนอื&น ตลอดจน

การพงึ& ตนเองด้านสขุ ภาพ
- วฒั นธรรมท&ีมีผลตอ่ การดําเนินชีวิต สขุ ภาพ การดแู ลสขุ ภาพ
และการรักษา
- การเข้าถงึ และใช้บริการสขุ ภาพจากแหลง่ ให้บริการสขุ ภาพ
พร้อมทงัJ ผลการใช้บริการสขุ ภาพตา่ งๆ

ทนุ ทางสงั คมและศกั ยภาพชมุ ชน - คา่ นิยมของคนในชมุ ชน ความไว้ใจกนั ตอ่ สงั คมตนและคนใน
สงั คม

- คนสาํ คญั ที&มีความรู้ความสามารถในการทํางาน การ
แก้ปัญหา หรือ การดําเนินการภารกิจของชมุ ชน
- การดแู ลเกือJ กลู กนั ของคนในชมุ ชน การอาสาชว่ ยเหลอื กนั

118

แนวคดิ ตวั อย่างข้อมูล
- คนสาํ คญั ท&ีมีสว่ นร่วมหรือชีนJ ําการแก้ปัญหาตา่ งๆของชมุ ชน
สงิ& แวดล้อมเป็นพิษ นโยบาย - ผลกระทบของสง&ิ แวดล้อมตอ่ สขุ ภาพคนในพืนJ ท&ี
สาธารณะที&คกุ คามสขุ ภาพคนใน - กระบวนการประเมินสง&ิ แวดล้อมที&คกุ คามหรือมีผลกระทบตอ่
ชมุ ชน
สขุ ภาพคน ในด้าน (1) พิษจากสารเคมี (2) ผลจากนโยบาย
(3) ผลจากระบบนิเวศวิทยา และอื&นๆ
- สง&ิ แวดล้อมที&เป็นปัจจยั คกุ คามสขุ ภาพ และ ระบบการจดั การ
ที&ชมุ ชนมีหรือสามารถปฏิบตั กิ ารในพืนJ ท&ี

2.2 ขัน4 ตอนการประเมนิ ชุมชน
1) การสร้างทมี ประเมนิ ชุมชน
การสร้ างทีมประเมินชุมชนนีเJ ป็นไปตามบริบทการทํางานของแต่ละพืนJ ที& ที&ผ่านมา

กระบวนการประเมินมกั เป็นกระบวนการของผู้ปฏิบตั ิจากส่วนวิชาชีพ เช่น จากหน่วยบริการสขุ ภาพใน
ชมุ ชน ได้แก่ พยาบาล นกั วิชาการสาธารณสขุ เจ้าหน้าท&ีสาธารณสขุ หากต้องการให้การประเมินชมุ ชนเป็น
สว่ นหนง&ึ ของชอ่ งทางการสร้างการมีสว่ นร่วมขององค์กรภาคีที&เกี&ยวกบั การดแู ลสขุ ภาพชมุ ชนแล้ว การสร้าง
ทีมประเมินถือเป็นหนง&ึ ในวิธีการท&ีได้ผล ทีมอาจประกอบด้วยคนทํางานจากองค์กรภาคีอยา่ งน้อย ‰ องค์กร
หลกั ในพืนJ ที& (องค์กรปกครองสว่ นท้องถ&ิน-องค์กรภาคประชาชน-หน่วยบริการสขุ ภาพ)ร่วมกบั องค์กรนอก
พืนJ ท&ี เช่น หน่วยบริการสขุ ภาพในระดบั อ&ืน องค์กรเอกชนที&ทํางานด้านสขุ ภาพ องค์กรรัฐท&ีเก&ียวข้องกบั การ
พฒั นาคณุ ภาพชีวิต และ การบริการของรัฐอ&ืนๆ ตลอดจนผ้สู นใจ ลกั ษณะของทีมอาจพบได้ ได้แก่

- มีผ้สู นใจ สมาชิก อปท.หรือองค์กรชมุ ชน ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิในชมุ ชน อสม.หรือกรรมการ
ชมุ ชนหรือเยาวชนกลมุ่ หนมุ่ สาว

- สมาชิกทีมอาจเป็นผู้ท&ีมีความรู้ความเข้าใจในบางแง่มุมหรือทุกแง่มุมท&ีเกี&ยวกับ
สขุ ภาพคนในชมุ ชนและเป็นผ้ทู ี&จะดําเนินการจดั การเร&ืองสขุ ภาพชมุ ชนได้อยา่ งตอ่ เนื&อง

- หวั หน้าทีมต้องรู้จกั คนในชมุ ชนเป็นอยา่ งดีจงึ จะสามารถสร้างทีมได้
- การรวบรวมสมาชิกของทีมและมอบหมายการดําเนินการนันJ อาจต้องพิจารณา
ลกั ษณะข้อมลู ชมุ ชนและวิธีการเก็บรวบรวมข้อมลู ประกอบ เช่น ข้อมลู เก&ียวกบั องค์กรต่างๆในชมุ ชน กลมุ่
ต่างๆท&ีมีการจดั ตงัJ และดําเนินการมาอย่างต่อเนื&องอาจต้องอาศยั ผ้ใู หญ่ท&ีได้รับการยอมรับจากหลายส่วน
ในชมุ ชน หากเป็นข้อมลู เกี&ยวกบั คา่ ใช้จ่ายตา่ งๆ ในครัวเรือน กิจกรรมการงาน และอาชีพสมาชิกท&ีเป็นหน่มุ
สาวอาจเก็บข้อมลู ได้ละเอียด เป็นต้น
- การทําความรู้จกั คนในชมุ ชนสามารถเกิดได้เองแต่ต้องอาศยั เวลา เช่น คนทํางานใน
พืนJ ที&มาเป็นเวลานานมีความคุ้นเคยกับคนในชุมชน ส่วนผู้ท&ีเข้ าทํางานในชุมชนใหม่ๆต้องอาศัย
กระบวนการทําความรู้จกั ชมุ ชนเพื&อช่วยให้รู้จกั คนในชมุ ชนและเกิดความเข้าใจสงั คม วฒั นธรรมและชีวิต
ความเป็นอยขู่ องคนในชมุ ชนในเบือJ งต้นได้
ในขันJ นีทJ ีมประเมินชุมชนต้องกําหนดพืนJ ที&ท&ีเป็นขอบเขตการประเมินให้ชัดเจนว่าชุมชนท&ี
ต้องการประเมินเป็นหม่บู ้าน ชมุ ชนเมืองหรืออื&นๆมีอาณาเขตอย่างไร ประชากรในชมุ ชนควรรวมใครบ้าง
เชน่ ผ้ทู ี&อยอู่ าศยั ถาวรหรือชวั& คราว แรงงานอพยพ คนเร่ร่อนหรือไมม่ ีที&อยอู่ าศยั เป็นต้น

119

2) การรวบรวมข้อมูลชุมชนและข้อมูลสุขภาพของประชาชนในชุมชน
ขันJ ตอนนีจJ ะต้องบอกถึงลักษณะและชนิดข้อมูลสุขภาพชุมชนท&ีต้องการเพื&อประกอบการ

ประเมินภาวะสุขภาพชุมชน แหล่งข้อมูลและวิธีการได้มาซ&ึงข้อมูลด้านสุขภาพ เช่น ข้อมูลมือสองจาก
เอกสารหรือสถิติ ข้อมลู ใหม่จากการเก็บใหม่ เป็นต้น ส่วนสําคญั ของขนัJ ตอนนีคJ ือ การวางแผนการเก็บ
ข้อมลู ให้ครอบคลมุ ซง&ึ ต้องการการออกแบบที&มีประสิทธิภาพการออกแบบท&ีดีจะสามารถชีนJ ํากระบวนการ
เก็บรวบรวมได้ดี ตอนท้ายของขนัJ ตอนนีจJ ะได้ข้อมลู ที&เกี&ยวกบั สขุ ภาพในทกุ แงม่ มุ ที&ต้องการ (ตารางท&ี ‹.‡)

ตารางทPี 4.2 ข้อมลู ที&ต้องการจากการศกึ ษาชมุ ชนพร้อมแหลง่ และวิธีการเข้าถงึ ข้อมลู

ข้อมูลทPตี ้องการ แหล่งข้อมูล วธิ ีการเข้าถงึ ข้อมูล
1. องค์ประกอบทางประชากรของชมุ ชน - สํามะโนประชากร - ศกึ ษาข้อมลู มือสอง
- จปฐ.
ประชากรกลมุ่ ตา่ งๆตามอายแุ ละเพศ

อตั ราเกิด อตั ราตาย การย้ายถ&ิน

2. ปัญหาสขุ ภาพ แบบแผนการเจ็บป่วย - สถิตกิ ารใช้บริการ - ศกึ ษาข้อมลู มือสอง
และโรค อตั ราป่วย อตั ราตาย พร้อม สขุ ภาพที&หนว่ ย - การสงั เกต
ปัจจยั เหตุ กลมุ่ คนที&มีความต้องการ
บริการสขุ ภาพใน - การสมั ภาษณ์เจาะลกึ
การดแู ลด้านสขุ ภาพเป็นพิเศษ เชน่ พืนJ ที& - การสาํ รวจ
เดก็ หญิงตงัJ ครรภ์ ผ้สู งู อายุ
ผ้ดู ้อยโอกาส ผ้พู ิการ ผ้ปู ่วยเรือJ รัง เป็น - ข้อมลู การจดั - การระดมสมอง
ต้น สวสั ดกิ ารขององค์กร - การสนทนากลมุ่
ปกครองสว่ นท้องถ&ิน

- อสม.ผ้นู ําชมุ ชน กลมุ่ - การสงั เกต
ผ้ปู ่วยเรือJ รัง กลมุ่ - การสมั ภาษณ์
ผ้สู งู อายุ หญิง - การสาํ รวจ
ตงัJ ครรภ์ และอื&นๆ - การระดมสมอง
- การสนทนากลมุ่
3. พฤตกิ รรมสขุ ภาพตา่ งๆ การดแู ล - กลมุ่ คนท&ีเก&ียวข้อง
สขุ ภาพและการรักษา และคําอธิบาย เชน่ เจ้าของปัญหา
หรือตีความพฤตกิ รรมของคนในชมุ ชน สขุ ภาพ ผ้ปู ่วย
ผ้เู กี&ยวข้องในการ

4. วิถีการดําเนินชีวิตของคนในชมุ ชน ท&ี ดแู ล
เป็นเหตหุ นงึ& ของการเจ็บป่วยและโรค
หรือ เป็นปัจจยั เสริมสขุ ภาพ

5. วิถีการจดั การปัญหาด้านสขุ ภาพของ
ชมุ ชน

6. คา่ นิยมของคนในชมุ ชน การเชื&อถือ
คนอื&น

7. คนสาํ คญั ที&มีความรู้ความสามารถ ที& - ผ้นู ําด้านตา่ งๆของ - การสงั เกต
ชีนJ ําการทํางาน การแก้ปัญหา การ ชมุ ชน - การสมั ภาษณ์
- การสาํ รวจ

120

ข้อมูลทPตี ้องการ แหล่งข้อมูล วธิ ีการเข้าถงึ ข้อมูล
อาสาชว่ ยเหลือกนั กลมุ่ คนที&ก่อตงัJ - การระดมสมอง
เพื&อชว่ ยเหลอื กนั
- การสนทนากลมุ่
8. สงิ& แวดล้อมท&ีกระทบภาวะสขุ ภาพของ - ผ้นู ําชมุ ชน - สงั เกต
ประชาชนในชมุ ชน - ผ้มู ีปัญหาสขุ ภาพ - สาํ รวจเพ&ือประเมิน

ผ้ปู ่วย ผลกระทบด้าน
- พืนJ ท&ีทางกายภาพของ สขุ ภาพ
ชมุ ชน

3) การวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพชุมชนและการระบุปัญหาและความต้องการด้านสุขภาพ
ของชุมชน
การวิเคราะห์ข้อมลู สขุ ภาพชมุ ชนมีเปา้ หมาย เพ&ือ

- ระบุภาวะสขุ ภาพคนในชุมชน ปัญหาและความต้องการการดแู ลด้านสขุ ภาพและปัจจยั
เสยี& ง สาเหตุ ภาวะคกุ คามตอ่ สขุ ภาพประชาชน

- ระบแุ หลง่ ทรัพยากรในชมุ ชน ทนุ ทางสงั คมของชมุ ชน ในการจดั การกบั ปัญหาสขุ ภาพของ
ประชาชนในชมุ ชน

- เป็นการเลือกจดั หมวดหม่ขู ้อมลู ให้เห็นความสมั พนั ธ์เชื&อมโยงกนั ในแง่ความเป็นเหตแุ ละ
ผลต่อกนั โดยเน้นเรื&องสขุ ภาพและการเจ็บป่ วยและโรค ส&ิงแวดล้อม การจดั การส&ิงแวดล้อมท&ีมีผลกระทบ

ต่อสขุ ภาพคน ทงัJ นีสJ ิ&งแวดล้อมเป็นเรื&องทางกายภาพ ชีวภาพ ทางสงั คม วฒั นธรรม วิถีชีวิตและเศรษฐกิจ
และทรัพยากรบคุ คลและการบริการ สวสั ดกิ ารตา่ งๆรวมทงัJ การบริการสขุ ภาพ
- เป็นการสงั เคราะห์ให้เห็นลกั ษณะความต้องการการดแู ลด้านสขุ ภาพของกล่มุ ประชากร

สําคญั ในพืนJ ท&ีท&ีเป็นเป้าหมายการดแู ลร่วมกนั ขององค์กรภาคีทงัJ หมด ซึ&งชีนJ ําภารกิจของแต่ละองค์กรใน
การทํางานร่วมกันดงั กล่าวและ ชีคJ วามครอบคลมุ ของการดูแลด้านสขุ ภาพท&ีจําเป็น โดยการสงั เคราะห์

แสดงออกมาในรูปของลกั ษณะบริการ การดแู ล กิจกรรม หรือการสนบั สนนุ ใดๆตามปัญหาสขุ ภาพ
ขันJ ตอนนีจJ บลงด้วยความเข้าใจในเรื&องความต้องการด้านสุขภาพ ปัญหาสุขภาพและความ

เจ็บป่วยท&ีสาํ คญั ของคนในชมุ ชน และปัจจยั ที&เป็นสาเหตหุ รือปัจจยั ที&คกุ คามสขุ ภาพคนซง&ึ จะนําไปสกู่ ารคดิ
ร่วมกนั ในการให้ความสาํ คญั กบั ปัญหาหรือความต้องการเร&ืองใดเป็นการเร่งดว่ น

4) การออกแบบและวางแผนบริการสุขภาพชุมชน
ทีมประเมินชมุ ชนร่วมกบั องค์กรนําของชมุ ชนทําการวิเคราะห์ข้อมลู เพ&ือออกแบบและวางแผน
บริการสขุ ภาพชมุ ชน และสร้างแนวทางในการให้บริการสขุ ภาพชมุ ชนโดยพยายามให้โอกาสผ้เู กี&ยวข้องมี

สว่ นร่วมในการดําเนินกิจกรรมมากท&ีสดุ และให้คนในชมุ ชนเข้าถงึ บริการสขุ ภาพอยา่ งเทา่ เทียม

2.3 กระบวนการประเมนิ ชุมชน
การประเมินชมุ ชนเป็นหวั ใจสําคญั ของกระบวนการพยาบาล เปา้ หมายของการประเมินชมุ ชนคือ
1) การระบกุ ลมุ่ คนท&ีต้องได้รับการดแู ลและกลมุ่ คนท&ีให้การดแู ลผ้อู ื&น กลมุ่ คนท&ีต้องได้รับการ

ดูแลถือเป็นกลุ่มเป้าหมายของการทํางานดูแลสุขภาพชุมชน ซ&ึงอาจได้แก่ กลุ่มมีภาวะเสี&ยงสูงต่อการ
เจ็บป่ วย ความพิการ การตายก่อนกําหนด กล่มุ คนท&ีต้องการการดูแลเพราะมีการเจ็บป่ วยเรือJ รัง กล่มุ ที&

ต้องการการดแู ลพิเศษ เชน่ สตรีตงัJ ครรภ์ มารดาหลงั คลอดและทารกแรกเกิด กลมุ่ ผ้สู งู อายุ และ
ผ้ดู ้อยโอกาส เป็นต้น กลมุ่ คนที&ให้การดแู ลผ้อู &ืน เช่น ผ้ดู แู ลในครอบครัว อสม. แกนนําตา่ งๆ กลมุ่ ช่วยเหลือ

121

กนั ผ้นู ําชมุ ชน ผ้นู ําหรือสมาชิกองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ&น ครู พระหรือผ้นู ําศาสนา ผ้นู ําทางพิธีกรรม เป็น
ต้น

2) เพ&ือแสวงหาทนุ ทางสงั คมและแหล่งทรัพยากรทงัJ ที&เป็นบคุ คลและแหล่งบริการหรืออ&ืนๆท&ี
สามารถนํามาใช้ในการจดั การกบั ปัจจยั เสี&ยงต่างๆที&ปรากฏในชมุ ชนหรือความต้องการการการดแู ลด้าน
สขุ ภาพและบริการด้านตา่ งๆ

การประเมินชุมชนเป็นไปได้ดี เมื&อมีความรู้ความเข้าใจในองค์ความรู้เก&ียวกับสังคม
วัฒนธรรมและวิถีการดําเนินชีวิตการประกอบอาชีพของประชาชนในชุมชนและระบาดวิทยา ที&ทําให้
สามารถสงั เกตปัจจยั เสยี& ง ทงัJ ท&ีเป็นพฤตกิ รรม พนั ธกุ รรมและสงิ& แวดล้อมท&ีปรากฏในชมุ ชน ในขณะเดียวกนั
สามารถมองเห็นศักยภาพ และแหล่งทรัพยากรของชุมชนท&ีสามารถนํามาใช้ในการจัดการกับปัญหา
สขุ ภาพ ประชาชนในชมุ ชนได้ ตวั อย่างเช่น พยาบาลในโรงงานอตุ สาหกรรมต้องมีความรู้เกี&ยวกบั สารพิษ
หรือของเสยี ที&เกิดจากกระบวนการของโรงงานท&ีมีผลตอ่ สขุ ภาพของคน ความรู้เหลา่ นีจJ ะกระต้นุ ให้พยาบาล
คํานึงถึงผลเสียท&ีเกิดจากปัจจัยดังกล่าวต่อสุขภาพของคนในโรงงาน ในกระบวนการประเมินชุมชน
พยาบาลสามารถหาความรู้เพิ&มเติมในสว่ นที&อธิบายเก&ียวกบั ปัจจยั เส&ียงดงั กลา่ วได้มากและลกึ ซงึ J ขนึ J ได้จาก
การศกึ ษาทฤษฎีการเกิดโรคหรือความเจ็บป่วยสืบเน&ืองจากปัจจยั เสย&ี งเหลา่ นนัJ ด้วย

ทักษะสําคัญของการประเมินชุมชนอยู่ท&ีการพยายามจัดหมวดหมู่ของข้ อมูลชุมชนเพื&อให้
สามารถอธิบายสถานะสขุ ภาพของคนในชมุ ชนให้ได้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที&สดุ และ การเช&ือมโยงเหตุ
ปัจจยั ของสถานะสขุ ภาพดงั กล่าว ให้เป็นขนัJ นําก่อนการการระบปุ ัญหาสขุ ภาพของชมุ ชนและสงั เคราะห์
ความต้องการการดแู ลด้านสขุ ภาพของแตล่ ะกลมุ่ ประชากรได้อยา่ งครอบคลมุ ตวั อยา่ งที&ชดั เจน (Bullough
& Bullough, 1990) ซงึ& เสนอขนัJ ตอนการประเมินชมุ ชนท&ีสาํ คญั 5 ขนัJ ตอน คือ

ขัน4 ทPี 1 กาํ หนดขอบเขต หรือนิยาม “ชุมชน” ให้ชัดเจน (Define the community)
การศึกษาชุมชนในเร&ืองสุขภาพ มักมีการกําหนดขอบเขตหรือคํานิยามสอดคล้องกับ

ขอบเขตการบริการสุขภาพของหน่วยหรือสถานบริการสุขภาพในระดบั ชุมชน หรือพืนJ ที&รับผิดชอบของ
องค์กรปกครองสว่ นท้องถ&ิน เป็นต้น

ขัน4 ทPี 2 อธิบายลักษณะทางประชากรของคนในชุมชน (Describe the people)
ข้อมูลท&ีจําเป็นท&ีต้องรวบรวมเพ&ือใช้อธิบายลกั ษณะทางประชากรของคนที&อยู่ในชุมชน

ได้แก่ อายุ เพศ ระดบั การศกึ ษา สถานภาพสมรส อาชีพ รายได้ เชือJ ชาติ ศาสนา ฯลฯ ซงึ& ข้อมลู ตา่ งๆเหลา่ นี J
จะมีประโยชน์ในการนํามาพิจารณาในการมองปัญหาสุขภาพ การนําไปประกอบการวางแผนและ
ดําเนินการแก้ไขปัญหาสขุ ภาพของประชาชนในชมุ ชนได้ เชน่

• ข้อมูลเกPียวกับอายุ ทําให้ทราบว่ามีคนกลมุ่ วยั ใดบ้างมากน้อยอย่างไรในชมุ ชน มีวยั
เด็กมาก หรือวยั สงู อายมุ าก ซง&ึ กล่มุ อายจุ ะมีความสมั พนั ธ์กบั ลกั ษณะของโรค หรือแบบแผนการเจ็บป่ วย
ถ้าเป็นกล่มุ วยั เด็กอาจเส&ียงต่อการเป็นโรคติดเชือJ ระบบทางเดินหายใจ ถ้าเป็นกล่มุ ผู้สงู อายุมกั เจ็บป่ วย
ด้วยโรคเรือJ รัง ความพิการจากความสงู อายุ

• ข้อมูลทางด้านเพศ ทําให้คาดการณ์ถึงแนวโน้มของปัญหาสขุ ภาพท&ีจะเกิดขึนJ จาก
ปัจจยั เสี&ยงต่างๆที&เก&ียวกบั ความแตกต่างทางเพศ ได้แก่ ปัจจยั ด้านพฤติกรรมสขุ ภาพ ด้านพนั ธุกรรมและ
ด้านสงั คม เช่น เพศชายมกั ชอบสบู บหุ ร&ีดื&มเหล้าอาจเป็นโรคมะเร็งปอด มะเร็งตบั หรือเพศหญิงอาจป่ วย
ด้วยโรคทางสตู นิ รีเวช การคกุ คามทางเพศหรือการทารุณกรรมในครัวเรือน

• ข้อมูลเกPียวกับอาชีพ อาจชีใJ ห้เห็นถึงฐานะทางเศรษฐกิจ โรคหรือภาวะเสี&ยงต่อการ
เกิดโรคและการเจ็บป่ วย ความพิการ การตายก่อนกําหนดที&เก&ียวข้องกบั การประกอบอาชีพอาชีพได้เช่น

122

อาชีพทําสวนผกั สวนผลไม้อาจมีภาวะเสี&ยงตอ่ การเจ็บป่ วยเน&ืองจากการสมั ผสั สารเคมีหรือยาฆา่ แมลงที&ใช้
ในการทําสวน อาชีพรับจ้างรายวนั ที&ต้องเดินทางไปกลบั ทกุ วนั อาจได้รับอนั ตรายจากการเดินทางหรือการ
ทํางานที&ไมม่ ีการปอ้ งกนั ตนเองที&ดี (safety first)

• ข้อมูลด้านศาสนา สว่ นนีอJ าจชีนJ ําถึงศกั ยภาพของชมุ ชนในแง่ผ้นู ําความคิดท&ีเป็นฐาน
ในการอยู่ร่วมกันในสงั คมชุมชน เช่น การใช้หลกั ธรรมะมาชีนJ ําการดําเนินการของกล่มุ ออมทรัพย์ กล่มุ
สจั จะสะสมทรัพย์ที&ทําให้เกิดความเข้มแข็งในหลายชุมชนของอําเภอจะนะ จงั หวดั สงขลา จงั หวดั ตราด
จังหวัดจันทบุรี หรือแม้แต่การนําข้อมูลเก&ียวกับกิจกรรมทางศาสนาท&ีมีในชุมชนมาใช้ร่วมกับการจัด
กิจกรรมการให้บริการสขุ ภาพ เช่น ข้อมลู งานบญุ ท&ีมีการดื&มสรุ าของคนในชมุ ชน โครงการงดสรุ าในงานศพ
งานบวช (พระไมร่ ับนิมนต์หากมีเหล้า) เป็นต้น

• ข้อมูลด้านเชือ4 ชาติ มีความเกี&ยวพนั กบั ลกั ษณะโรคและการเจ็บป่ วยด้วย เนื&องจาก
แต่ละเชือJ ชาติมกั มีสงั คมวฒั นธรรม วิถีในการดําเนินชีวิตที&เฉพาะและพฤติกรรมบางอย่างมีผลเป็นปัจจยั
เส&ียงต่อการเกิดโรคได้ เช่น พฤติกรรมการด&ืมนําJ ชาขณะที&ยังร้ อน อาหารและการรับประทานอาหาร
ตลอดจนการดแู ลรักษาเม&ือเจ็บป่ วย ส่วนสําคญั ของขนัJ ตอนนีคJ ือสามารถเข้าถึงคนสําคญั ในชมุ ชนได้จาก
การสงั เคราะห์ข้อมลู จะทําให้สามารถบอกได้วา่ มีใครบ้างที&เป็นเปา้ หมายการดแู ล และ มีใครบ้างที&เป็นผ้ใู ห้
การดแู ล ผ้ชู ่วยเหลือ ซง&ึ การที&สามารถระบกุ ลมุ่ คนเหลา่ นีไJ ด้จะทําให้การทํางานในกระบวนการอ&ืนๆเป็นไป
ได้มากขนึ J

ขัน4 ทPี o ระบุโครงสร้างของชุมชน (Identify structures that organize the community)
โครงสร้ างของชุมชน คือ องค์กรต่างๆในชุมชนท&ีมีบทบาทหน้าท&ีในชุมชนแตกต่างกัน

ออกไป เป็นส่วนของข้อมูลชุมชนท&ีสามารถอธิบายร่องรอยของปัจจัยเส&ียงต่อสุขภาพและอธิบายแหล่ง
ทรัพยากรตา่ งๆที&มีอย่ใู นชมุ ชน และสามารถนํามาใช้ในการวางแผนการดําเนินการพฒั นาสขุ ภาพชมุ ชนได้
องค์กรท&ีเป็นโครงสร้างเหลา่ นี Jมีอํานาจในการควบคมุ การดําเนินการกิจกรรมตา่ งๆ ของชมุ ชน

องค์กรที&เป็นโครงสร้างของชมุ ชน มกั ประกอบด้วยหลายด้าน เช่น ด้านการปกครอง การ
สาธารณสุข ส&ิงแวดล้อม เศรษฐกิจ การศึกษา ความปลอดภัยและอื&นๆ บริการหรือการดําเนินการของ
โครงสร้างเหล่านี Jถือว่าเป็นบริการสําหรับคนทกุ คนในชมุ ชน การศึกษาข้อมลู โครงสร้างของชมุ ชน ต้องดู
การดําเนินกิจกรรมขององค์กร ผลหรืออิทธิพลของการดําเนินการต่อการดําเนินชีวิตของคนและการ
ตอบสนองของประชาชนเป็นอย่างไร โดยเก็บข้อมลู จากคนที&เกี&ยวข้องกบั แต่ละองค์กร ความคิดเห็นและ
ความเข้าใจของคนในชมุ ชนตอ่ การดําเนินการของแตล่ ะองค์กรท&ีผา่ นมา

การหาข้อมลู เพื&อชีชJ ดั ถึงโครงสร้างทางอํานาจที&เป็นทางการถือเป็นเร&ืองท&ีซบั ซ้อนและยาก
มาก ข้อมลู อาจได้จากการพดู คยุ กบั คนที&เกี&ยวข้องกบั องค์กรต่างๆที&เป็นกรรมการชดุ ต่างๆของชมุ ชนทงัJ ท&ี
เป็นทางการและไม่เป็นทางการ คนท&ีมีอิทธิพลต่อการดําเนินกิจกรรมต่างๆ ในชมุ ชนอาจเป็นคนท&ีไม่ได้อยู่
ในองค์กรท&ีเป็นทางการแตอ่ ยเู่ บือJ งหลงั การตดั สนิ ใจตา่ งๆ คนกลมุ่ นีอJ าจเป็นคนที&สนบั สนนุ หรือขดั ขวางการ
ดําเนินการใดๆในชุมชนได้ การค้นหากล่มุ คนท&ีมีอิทธิพลเหล่านีตJ ้องอาศยั ทกั ษะในการสงั เกตที&มีความ
ชํานาญมากจากการทํางานร่วมกนั อยา่ งใกล้ชิด

โครงสร้ างของครอบครัวเป็นอีกโครงสร้ างหน&ึงที&มีความสําคญั ในการจัดการกับปัญหา
สุขภาพของคนในชุมชน ลกั ษณะของครอบครัวชีคJ วามต้องการด้านสุขภาพท&ีต่างกันได้ เช่น ชุมชนท&ีมี
โครงสร้างครอบครัวเดี&ยวมากอาจต้องการบริการในการดแู ลเด็กเลก็ มากกวา่ ชมุ ชนท&ีมีโครงสร้างครอบครัว
ขยายมาก เป็นต้น ข้อมลู สว่ นนีอJ าจหาได้จากการพดู คยุ กบั คนในชมุ ชนได้

123

ขัน4 ทPี 4 การระบุปัจจยั เสPียงด้านสุขภาพ (Identify health risk factors)
ปัจจัยเสี&ยงมีที&มาจากพฤติกรรม พันธุกรรมและส&ิงแวดล้อมทังJ ท&ีเป็นกายภาพ สารเคมี

มลพิษและอ&ืนๆท&ีเป็นเหตุของการเกิดโรคซึ&งปัจจัยเหล่านีอJ ยู่ร่วมในวิถีการดําเนินชีวิตของคนในชุมชน
นน&ั เอง

ปัจจยั เสี&ยงด้านสขุ ภาพของชมุ ชนอาจระบไุ ด้จากข้อมลู เก&ียวกบั สถิติชีพที&แสดงสาเหตกุ าร
ตาย โรค และการเจ็บป่ วยที&ได้จากสถิติการรับบริการการรักษาของคนในชุมชนและรายงานการเกิด
โรคติดต่อต่างๆในชุมชน ข้อมลู ส่วนที&สําคญั อีกส่วนหนึ&งท&ีสามารถใช้อธิบายร่วมกับข้อมลู ท&ีกล่าวมาคือ
ความเข้าใจ ความคิดเห็นของคนในชุมชนว่าปัญหาสุขภาพของคนในชุมชนเกิดจากสาเหตุปัจจัยเส&ียง
ใดบ้าง

การอธิบายถงึ รายละเอียดที&มาและความเก&ียวพนั กนั ของสาเหตขุ องปัญหาหรือปัจจยั เสี&ยง
ตา่ งๆตอ่ ปัญหาสขุ ภาพนนัJ ๆของคนในชมุ ชน สามารถทําให้ชดั เจนได้จากการศกึ ษาเจาะลกึ ถงึ ปัจจยั สาเหตุ
ของการเกิดโรคซ&ึงเป็นการศึกษาทางระบาดวิทยา เช่น จากสถิติสาเหตกุ ารตายแสดงว่าภาวะแทรกซ้อน
จากโรคเบาหวานพบมากในชุมชน ปัจจยั เสี&ยงที&มีการศึกษาวิจยั มาบอกว่าสาเหตุท&ีมีผลต่อการควบคุม
ภาวะแทรกซ้อนในผ้ทู &ีเป็นเบาหวาน ได้แก่ อาหาร การสบู บุหร&ี การดื&มเครื&องด&ืมท&ีมีแอลกอฮอล์ การออก
กําลงั กายน้อย การมีภาวะความดนั โลหิตสงู เป็นต้น ซ&ึงในชุมชนที&ศึกษาอาจพบปัจจัยเหล่านีใJ นผู้ท&ีเป็น
เบาหวานได้ การทําโยงใยปัญหาอาศยั ข้อความรู้ 2 สว่ น คือ ข้อความรู้เชิงทฤษฎีท&ีวา่ ด้วยโรคและสาเหตทุ ี&
ทําให้เกิดโรคนนัJ ๆ และข้อความรู้ที&เป็นเหตกุ ารณ์จริงในชมุ ชนว่าด้วยการดําเนินชีวิตของคนท&ีเป็นโรค หรือ
อาจเป็นโรคที&แสดงให้เหน็ วา่ มีปัจจยั สาเหตขุ องโรคอยดู่ ้วยเป็นต้น (ภาพท&ี ‹.3)

ภาพทPี 4.3 การใช้แผนผงั โยงใยปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพท&ีเก&ียวข้องกบั เหล้า
ขัน4 ทPี 5 การระบุแหล่งทรัพยากรในการจัดการกับปัจจัยเสPียงด้านสุขภาพใน ชุมชน
(identify resources for dealing with risk factors)

ทุนทางสงั คมและแหล่งทรัพยากรในการจัดการกับปัจจัยเสี&ยงด้านสุขภาพในชุมชนได้แก่
องค์กรท&ีเกี&ยวกบั การบริการด้านสขุ ภาพ สวสั ดิการทางสงั คม ศาสนาและองค์กรอาสาสมคั รตา่ งๆหรือแม้กระ
ทง&ั กล่มุ คนท&ีมีอํานาจหรืออิทธิพลเหนือการดําเนินการใดๆ ในชมุ ชน ข้อมลู เหล่านีแJ สดงให้เห็นแบบแผนการ
ดําเนินกิจการใดๆของชมุ ชนหรือการใช้อํานาจของคนในชมุ ชน การส&ือสารต่างๆซ&ึงเป็นส่วนท&ีสําคญั ต่อการ

124

เลือกใช้แหลง่ ทรัพยากรให้เหมาะสมกบั การดําเนินกิจกรรมของการพยาบาลชมุ ชนในขนัJ การวางแผน ชมุ ชน
ตอ่ ไป ตวั อยา่ งแหลง่ ทรัพยากรตา่ งๆในชมุ ชน

• สถานบริการด้านสขุ ภาพ เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพตําบล โรงพยาบาลท&ีใกล้ที&สดุ
เป็นต้น

• องค์การบริหารสว่ นตําบล กรรมการหมบู่ ้าน
• วดั กรรมการวดั หมอพืนJ บ้าน
• โรงเรียนในชมุ ชนและกรรมการบริหารโรงเรียน
• กรรมการกลมุ่ ออมทรัพย์ กลมุ่ บริหารกองทนุ หมบู่ ้าน เป็นต้น
ข้อมูลทPตี ้องการในการประเมนิ ชุมชน
ข้อมลู ท&ีต้องการในการประเมินชมุ ชนเป็นไปตามแนวคิดท&ีเลือกใช้ในการประเมินชมุ ชน ภาพที& 5.2
ที&แสดงแนวคิดและวิธีการในการศึกษาข้อมลู ชุมชน ข้อมลู ในการประเมินชุมชน ต้องสามารถสร้ างภาพ
ความคิดท&ีอธิบายชมุ ชนในสองประการคือ (1) กลมุ่ คนตา่ งๆในชมุ ชนและสถานะสขุ ภาพ ปัญหาและความ
ต้องการด้านสขุ ภาพ พฤติกรรม ความคิด ความเช&ือของคนในชมุ ชนท&ีเป็นปัจจยั สาเหตขุ องปัญหาสขุ ภาพ
ปัจจยั ที&คกุ คามสขุ ภาพของคนในชุมชน หรือเงื&อนไขสนบั สนนุ การจดั การปัญหาสขุ ภาพของคนในชุมชน
และ (2) สิ&งแวดล้อมทังJ ท&ีเกิดขึนJ ตามธรรมชาติ และท&ีมนุษย์สร้ างขึนJ ที&เป็นทางกายภาพและสังคม
วฒั นธรรม ซงึ& เป็นปัจจยั สาเหตขุ องปัญหาสขุ ภาพปัจจยั ที&คกุ คามสขุ ภาพ หรือเง&ือนไขสนบั สนนุ การจดั การ
ปัญหาสขุ ภาพของคนในชุมชน (ขนิษฐา นันทบุตร, 2540) ข้อมลู สําคญั ของชุมชนจดั หมวดหม่ไู ด้หลาย
แนวทางตามฐานคิดท&ีต่างกนั ไป เช่น แนวทางการประเมินสขุ ภาพชมุ ชน ที&จดั หมวดหม่ขู ้อมลู เป็น 5 กล่มุ
ได้แก่ (1) ส&ิงแวดล้อมทางกายภาพ (2) ลกั ษณะทางประชากร (3) สงั คมและวฒั นธรรม (4) สถานะ
สขุ ภาพ และ (5) บริการทางสขุ ภาพและการดแู ลสขุ ภาพ เป็นต้น (นิตย์ ทศั นิยม พนิษฐา พานิชาชีวะกลุ
อมั พร เจริญชยั และ เปร&ืองจิตร ฆารรัศมี, 2550) อยา่ งไรก็ดีการได้มาซง&ึ ข้อมลู เหลา่ นีตJ ้องอาศยั วิธีการใน
การรวบรวมข้อมลู ตามลกั ษณะและชนิดของข้อมลู ที&แตกตา่ งกนั ดงั นี J

ชนิดของข้อมูล โดยทว&ั ไปข้อมลู มี 2 ชนิด คือ
1) ข้อมูลเชิงปริมาณ ใช้ตวั เลข จํานวน หรือท&ีค้นุ เคยกันคือ สถิติ เป็นพืนJ ฐาน จํานวนนบั

เหตุการณ์ต่างๆ เช่น จํานวนการตายจากมะเร็ง จากโรคเอดส์ การเจ็บป่ วย อัตราเช่น อัตราทารกตาย
จํานวนเงินท&ีใช้จ่ายในครัวเรือนในแต่ละสปั ดาห์หรือเดือนในกรณีต้องการรู้เรื&องการจดั การการเงินภายใน
ครัวเรือน เป็นต้น

2) ข้อมูลเชิงคุณภาพ เป็นข้อมลู จาก การรับรู้ การสงั เกตของบุคคลและมกั จะนําเสนอใน
ภาพการอธิบาย ตีความ ตวั อย่างเช่น ข้อมลู จากการสนทนากล่มุ การใช้คําถามปลายเปิดหรือคําอธิบาย
โครงการหรือบริการที&ใช้ จากการสงั เกตแบบมีส่วนร่วม เป็นต้น ข้อมลู ลกั ษณะนีมJ กั เปล&ียนแปลงไปตาม
มุมมองของแต่ละคนซึ&งมีประสบการณ์ชีวิตเป็นตัวร่วมกําหนด การวิเคราะห์จึงเป็นการเปรียบเทียบ
เช&ือมโยงกบั บริบทของสถานการณ์หรือเหตกุ ารณ์ชีวิตที&เกิดขนึ J ในชมุ ชน

แหล่งข้ อมูลเป็ นบุคคล กลุ่มบุคคลท&ีร่วมให้ ความคิดเห็น คําอธิบายต่อเร&ืองหรือ
สถานการณ์ที&เก&ียวกบั ชีวิตและสขุ ภาพ หรืออาจเป็นเอกสารที&เก็บเรื&องราวต่างๆเป็นข้อมลู ท&ีบอกเรื&องราว
โดยคําพดู คําอธิบาย เชน่ ความคดิ เหน็ ของประชาชนในเร&ืองที&เก&ียวกบั สขุ ภาพและการดแู ลสขุ ภาพ วิธีการ
ดแู ลสขุ ภาพตนเอง การดําเนินกิจกรรมสขุ ภาพชมุ ชนที&ผา่ นมา เป็นต้น

125

แหล่งข้อมูล แบง่ เป็น 2 แบบได้แก่
1) ข้อมูลสดหรือข้อมูลปฐมภูมิ เป็นข้อมลู ที&เก็บเองโดยทีม เช่น ข้อมลู จากการสํารวจ การ

ทําสนทนากลมุ่ การสมั ภาษณ์ผ้รู ู้ การสงั เกตหรือการสงั เกตแบบมีสว่ นร่วม
2) ข้อมูลมือสองหรือข้อมูลทุตยิ ภมู ิ เป็นข้อมลู ท&ีมีอยแู่ ล้วเก็บไว้โดยทีมอื&นมกั เป็นข้อมลู ที&

ผ่านการวิเคราะห์แล้วเช่น ข้อมลู ในรายงานประจําปี ข้อมลู มือสองบางชดุ ไม่ได้วิเคราะห์ ทีมต้องวิเคราะห์
เองตามวตั ถปุ ระสงค์ของการใช้ข้อมลู เช่น จํานวนการตายตามทะเบียนตายมาคํานวณเป็นอตั ราตายเป็น
ต้น ข้อมูลรายงานของสถานีอนามัยหรือศูนย์บริการสุขภาพชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตําบล
โรงพยาบาล รายงานประจําปีของหนว่ ยงาน ข้อมลู จากการดําเนินการโครงการสขุ ภาพชมุ ชนที&ผา่ นมา เป็นต้น

วิธีการศึกษาข้อมูล ประกอบด้วย อย่างน้อย ‡ กลมุ่ คือ วิธีการศกึ ษาข้อมลู มือสอง และ วิธีการเก็บ
ข้อมลู สด ซง&ึ ไมว่ า่ จะทําการประเมินชมุ ชนในรูปแบบใดก็มกั พบวา่ วิธีการเหลา่ นีถJ กู นํามาใช้เป็นหลกั ๆ

วิธีการศึกษาข้อมูลมือสอง ทีมประเมินชุมชนอาจเร&ิมต้นที&การรวบรวมข้อมูลมือสองที&มีอยู่มา
แยกแยะหมวดหม่ตู ามต้องการ เป็นการเร&ิมทําความรู้จกั ชมุ ชนในแง่มมุ ของสขุ ภาพเพ&ือนําไปส่กู ารขยาย
ความในการศกึ ษาข้อมลู สดจากชมุ ชนตอ่ ไป วธิ ีการวเิ คราะห์ข้อมลู มือสองอาจทําได้ดงั นี J

1) ใช้ฐานความรู้ทางระบาดวิทยาท&ีเก&ียวข้องกบั การเกิดโรค การกระจายโรค สาเหตขุ องโรคและ
การควบคมุ ปอ้ งกนั โรค ประกอบการวิเคราะห์เพ&ือศกึ ษาข้อมลู ท&ีมีอย่วู า่ เพียงพอหรือไมใ่ นการอธิบายภาวะ
สขุ ภาพของคนในชุมชน โดยเป้าหมาย คือ (1) การระบุปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพของคนใน
ชมุ ชนโดยเฉพาะการเจ็บป่วยด้วยโรคตา่ งๆ และ (2) การปรากฏของสาเหตขุ องการเกิดโรคนนัJ ๆ ได้แก่ ด้าน
ส&ิงแวดล้อมทางกายภาพท&ีคกุ คามสขุ ภาพ ด้านคณุ ลกั ษณะทางประชากรของชมุ ชนตลอดจนพฤติกรรม
สขุ ภาพ การกิน การอยู่ การดําเนินชีวิต ความคิด ความเช&ือ สงั คม วฒั นธรรม คา่ นิยม และด้านการบริการ
สขุ ภาพต่างๆท&ีมีอยู่ การเข้าถึงและการใช้บริการตลอดจนการดแู ลหรือการบริการท&ีต้องการแต่ไม่มี โดย
สามารถเปรียบเทียบสถิติต่างๆของชุมชนและในระดบั ตําบล อําเภอ จงั หวดั จนกระทงั& ระดบั ชาติและใน
ภูมิภาคและศึกษาว่าข้อมลู ส่วนใดยงั ไม่สามารถอธิบายภาพท&ีเปรียบเทียบได้ชัดเจนซ&ึงจะเป็นท&ีมาของ
การศึกษาข้อมูลเพ&ิมเติมต่อไป ทังJ นีทJ ีมประเมินชุมชนต้องระบุข้อมูลท&ีขาดและแหล่งที&เช&ือว่าน่าจะเก็บ
รวบรวมได้

2) เม&ือเปรียบเทียบข้อมูลที&มีอยู่กับการตอบคําถามตามแนวทางท&ีใช้ในการศึกษาชุมชนและ
ภาวะสุขภาพของคนในชุมชนแล้ว หากพบว่ามีส่วนใดท&ีไม่สามารถให้ความเข้าใจที&กระจ่างชัดแก่ทีม
ประเมินฯได้ให้เก็บข้อมลู เพิ&มเติมเพ&ือที&จะสามารถวิเคราะห์ภาวะสขุ ภาพของคนในชมุ ชนพร้อมทงัJ นําเสนอ
ท&ีมาของแตล่ ะปัญหาสขุ ภาพได้อยา่ งชดั เจนมากย&ิงขนึ J

วธิ ีการเกบ็ ข้อมูลสด
วิธีการท&ีมักใช้ในการประเมินชุมชนเพ&ือศึกษาข้อมูลสุขภาพชุมชนด้านต่างๆ อาจได้แก่ การ

สมั ภาษณ์บคุ คลสําคญั การสํารวจสภาพทางกายภาพของชมุ ชน การสอบถามพดู คยุ กบั คนในชมุ ชนอย่าง
ไมเ่ ป็นทางการ การสนทนากลมุ่ คนตา่ งๆ การสงั เกตพฤตกิ รรมของคนกลมุ่ ตา่ งๆในชมุ ชน และวธิ ีการสาํ รวจ
โดยใช้แบบสอบถาม แบบสํารวจตา่ งๆ เชน่ จปฐ. แบบสํารวจการดแู ลสขุ ภาพตนเอง แบบสํารวจพฤติกรรม
เส&ียงซ&ึงอาจใช้การสัมภาษณ์ โดยเป็นไปตามแนวทางการรวบรวมข้อมูลท&ีผู้ประเมินกําหนดไว้ และ
การศกึ ษาจากเอกสารตา่ งๆ เป็นต้น อยา่ งไรก็ดีวิธีการเก็บข้อมลู เหลา่ นีสJ ามารถเทียบเคียงได้กบั วิธีการเก็บ
ข้อมลู ของการวิจยั รูปแบบตา่ งๆ มกั เป็นวิธีการที&เฉพาะตามลกั ษณะของข้อมลู ที&ต้องการ ดงั ตวั อยา่ ง

126

1) การสัมภาษณ์บุคคลสําคัญของชุมชน เช่น ผ้นู ําชมุ ชน ผ้อู าวโุ ส หมอพืนJ บ้าน เจ้าของร้าน
ขายยา ขายของชํา เจ้าอาวาสวดั ผ้ปู ่ วยเรือJ รัง ผ้ทู &ีเก&ียวข้องกบั การดแู ลสขุ ภาพคนในครอบครัว หรือเพื&อน
บ้าน เป็นต้น เป็นการสมั ภาษณ์อย่างไม่เป็นทางการเน้นการพูดคุยเพื&อเจาะลึกในเร&ืองที&เก&ียวกับภาวะ
สุขภาพของคนในชุมชนและการจัดการใดๆตามความคิดเห็นของบุคคลที&ถูกสัมภาษณ์ ข้อมูลที&ได้มี
ลักษณะเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น การดูแลสุขภาพของคนกลุ่มต่างๆ การรักษาเม&ือเจ็บป่ วย การ
สมั ภาษณ์เร&ืองประวตั ิการจดั ตงัJ ศสมช. การจดั ตงัJ กองทนุ สขุ ภาพระดบั ตําบล ประวตั ิชุมชน ประวตั ิชีวิต
ผ้นู ําคนสาํ คญั หรือผ้ปู ่วยเรือJ รังท&ีดแู ลสขุ ภาพตนเองได้ดีเร&ือยมา เป็นต้น

หลักการ คือ พยายามให้ได้ข้อมลู โดยละเอียดท&ีสามารถอธิบายให้เห็นภาพเคล&ือนไหวของ
ชมุ ชนได้ เชน่ ข้อมลู เกี&ยวกบั ประวตั กิ ารเจ็บป่วยการดแู ลเมื&อเจ็บป่วยและการดําเนินชีวติ ของผ้คู นในชมุ ชน

วิธีการ พยายามสร้างแนวคําถามจากประเดน็ ข้อมลู ที&ต้องการดวู า่ แนวคําถามสมบรู ณ์หรือไม่
และสมาชิกทีมต้องเข้าใจร่วมกนั เม&ือเริ&มใช้แนวคําถามอาจปรับเปล&ียนให้เป็นท&ีง่ายต่อผ้ถู กู ถามหรือผ้รู ่วม
พดู คยุ จะเข้าใจและสามารถคยุ ได้ตามประเด็นท&ีต้องการ เวลาคยุ อาจต้องใช้สถานที&ที&เหมาะสมใช้เวลาไม่
มากและสร้างความเป็นกนั เองให้มากท&ีสดุ ใช้คํากะทดั รัดเข้าใจกนั ได้ เปิดโอกาสให้ผ้ถู กู สมั ภาษณ์พดู ให้
มากทีมมีหน้าท&ีฟังทบทวนคําถามและคําตอบ อยา่ ลืมพดู คยุ ด้วยสมั มาคารวะแตเ่ ป็นกนั เอง การบนั ทกึ สงิ& ท&ี
พดู คยุ กนั เป็นเรื&องท&ีต้องทําเพ&ือให้ข้อมลู ไม่หลงลืมและนํามาวิเคราะห์ในภายหลงั ได้โดยไม่ต้องนง&ั นึก อย่า
ลมื บนั ทกึ ความคดิ ของทีมด้วยในระหวา่ งท&ีสมั ภาษณ์

2) การเดินสํารวจสภาพทางกายภาพของชุมชน เพ&ือพบปะผู้คนและทําความรู้จักสถานที&
สําคญั

หลักการ เป็นการทําความรู้จกั โครงสร้ างของชุมชนจากการสงั เกตระหว่างการเดินสํารวจ
ข้อมูลที&ต้องการจากการเดินสํารวจ ได้แก่ สภาพถนน สภาพการระบายนําJ เสีย การกําจัดขยะในแต่ละ
ครัวเรือนและการกําจัดของชุมชน แหล่งนําJ ชุมชน สถานท&ีสําคญั ของชุมชน สถานที&ท&ีคนแต่ละกลุ่มมา
รวมกนั ในชว่ งสงั สรรค์หรือการประชมุ หารือและอื&นๆ หรือบ้านเรือนของคนท&ีเก&ียวโยงกนั บ้านญาติ บ้านคน
มีอนั จะกิน บ้านคนไมม่ ีเงิน บ้านผ้ปู ่ วยเรือJ รังผ้พู ิการหรือผ้ปู ่ วยทางจิต บ้านท&ีเป็นท&ีรวมของคนในค้มุ หรือคน
ในละแวกเดียวกนั ในขณะเดินได้ทําความรู้จกั กบั คนในชมุ ชนด้วย วิธีการนีสJ ามารถใช้ได้กบั ทกุ รูปแบบของ
การประเมินชมุ ชน

วิธีการ เริ&มที&การทบทวนความเข้าใจในทีมกําหนดผ้รู ับผิดชอบในแง่ที&จะนําข้อมลู ท&ีได้ไปใช้
อธิบายเร&ืองสขุ ภาพของชมุ ชนและปัจจยั ที&เป็นสาเหตขุ องปัญหาสขุ ภาพคนในชมุ ชน ทีมอาจศกึ ษาแผนที&
ชมุ ชนถ้ามี ให้เข้าใจโดยขอคําอธิบายจากคนในชมุ ชนและเดินสํารวจพร้อมกนั จดบนั ทกึ ข้อมลู ท&ีได้หรือวาด
ภาพถ้าจําเป็น เช่น แผนที&คร่าวๆ แผนภาพคนกบั บ้าน หรือสถานท&ีสําคญั ต่างๆ แผนผงั ความสมั พนั ธ์ของ
คนหลายคนในบางเร&ือง เช่น ผ้นู ําชมุ ชนกบั การดแู ลผ้ดู ้อยโอกาสในชมุ ชน อย่างไรก็ดีการ “ลง” พืนJ ท&ีด้วย
การเดนิ เย&ียมบ้านหรือเข้าร่วมกิจกรรมของชมุ ชนอาจเป็นสว่ นหนง&ึ ของวิธีการนีไJ ด้

3) การสอบถามพดู คุยกับคนในชุมชน
หลักการ เป็นการเร&ิมการพูดคุยสร้ างความคุ้นเคยกับคนในชุมชนในเร&ืองที&จะทําคือการ

ประเมินภาวะสขุ ภาพชมุ ชน ทําให้รู้จกั คนมากขนึ J หรือทําให้คนในชมุ ชนเริ&มเข้าใจการประเมินภาวะสขุ ภาพ
ชุมชนจากกระบวนการที&ทําอยู่ หรือ อาจพูดคุยเพ&ือค้นหาทุนทางสงั คม แหล่งสนับสนุนทางสงั คม หรือ
ปัจจยั ท&ีเกี&ยวข้องกบั การดแู ลสขุ ภาพชมุ ชน อาจเป็นการพดู คยุ ขยายความเข้าใจในเรื&องต่างๆตามต้องการ
เชน่ เร&ืองการจดั การขยะของแตล่ ะครัวเรือน เรื&องความเข้าใจเกี&ยวกบั บทบาทชมุ ชนตอ่ การจดั บริการสขุ ภาพ

127

ในชมุ ชน โดยสรุปแล้วสามารถพดู คยุ ได้ทกุ เร&ืองที&เป็นข้อมลู สขุ ภาพชมุ ชน แต่อย่ใู นระดบั ที&เป็นข้อมลู ท&ีให้
ชอ่ งทาง ชีโJ อกาส หรือบอกเบาะแสในการเข้าถงึ ข้อมลู ระดบั ลกึ ตอ่ ไป

4) การสนทนากลุ่มกับคนกลุ่มต่างๆ เช่น กรรมการกองทุนสุขภาพระดับตําบล สมาชิก
องค์การบริหารส่วนตําบล ประชาชน กล่มุ สตรีหรือแม่บ้าน กล่มุ เด็กหรือเยาวชน กล่มุ ผ้สู งู อายุ กล่มุ หมอ
พืนJ บ้าน แกนนําสขุ ภาพครอบครัว อสม. การสนทนากลมุ่ เป็นการชีคJ วามคดิ เหน็ ที&เก&ียวข้องกบั ภาวะสขุ ภาพ
ของคนในชุมชนและการจัดการใดๆเป็นต้น การสนทนากลุ่มเป็นการหาข้อคิดเห็นร่วมกันของคนท&ีมี
ประสบการณ์ท&ีเกี&ยวข้องกบั ภาวะสขุ ภาพและการจดั การของคนในชุมชนในเรื&องท&ีทีมให้ความสนใจและ
เหน็ วา่ ยงั ไมม่ ีข้อมลู ท&ีจะอธิบายได้เพียงพอ

หลักการ เมื&อต้องการข้อมลู จากหลายคนพร้ อมกันเพื&อยืนยนั หรือเจาะประเด็นปัญหาหรือ
ประเด็นที&สําคญั ร่วมกัน ข้อมลู ที&เหมาะสม เช่น การมีส่วนร่วมของกรรมการหรือคนในชุมชนในกิจกรรม
พฒั นาสขุ ภาพชมุ ชน กองทนุ ตา่ งๆ ความเช&ือ ความคดิ เหน็ คา่ นิยม สภาพการณ์ท&ีเกิดขนึ J ในชมุ ชน เป็นต้น

วิธีการ กําหนดแนวการสนทนากลมุ่ เพื&อเจาะประเด็นข้อมลู ท&ีต้องการ นดั ผ้ใู ห้ข้อมลู โดยเลือก
สถานท&ีท&ีเหมาะสมกับกลุ่ม จํานวนสมาชิกไม่ควรมากเกินไป เช่น ประมาณ 8-10 คน กําหนดผู้นําการ
สนทนาและผ้บู นั ทกึ การสนทนา พยายามให้สมาชิกมีโอกาสในการแสดงความคิดเห็นในทกุ ประเด็นที&ถาม
พยายามอย่าให้มีการผูกขาดการพูดในวงสนทนา ผู้นําไม่วินิจฉัยว่าถูกหรือผิด ไม่กล่าวนํามากเกินไป
ไม่แสดงอารมณ์ความคิดเห็นมาก ใช้คํานําประเด็นที&เข้าใจง่ายและยกตวั อย่างหากจําเป็น ผ้บู นั ทึกจดทกุ
คําอธิบายและรวบรวมให้เกิดความตอ่ เน&ืองเมื&อสนิ J สดุ การสนทนา

5) การสังเกตพฤติกรรมของคนในชุมชน ในเหตกุ ารณ์ท&ีสําคญั ๆ เช่น การสงั เกตส&ิงที&เกิดขนึ J
ในชมุ ชนที&เก&ียวข้องกบั ภาวะสขุ ภาพของคนในชมุ ชนและการจดั การใดๆ เป็นการเก็บข้อมลู ที&มีลกั ษณะเป็น
เชิงคุณภาพ เช่น ข้อมูลทางกายภาพของชุมชน พฤติกรรมการดูแลเด็กเล็กเม&ือเป็นไข้ การรับประทาน
อาหารของผู้ท&ีมีภาวะนําJ ตาลในเลือดสูงหรือการออกกําลังกายและการสังสรรค์ของผู้สูงอายุในชุมชน
พฤติกรรมในการใช้สารเคมีหรือยาฆ่าแมลงในการทําสวนผกั สวนผลไม้ พฤติกรรมการกินอาหารเค็ม การ
เข้าร่วมงานบญุ งานพิธีและพฤตกิ รรมการดื&มสรุ า เป็นต้น

การสงั เกตอาศยั ประสาทการรับรู้ทงัJ หกส่วนของทีมประเมินชุมชน การสงั เกตมกั เกิดร่วมกบั
การสมั ภาษณ์พดู คยุ เพ&ือให้ได้คําอธิบายเกี&ยวกบั ประเดน็ ที&สนใจที&เก&ียวข้องกบั ภาวะสขุ ภาพและการจดั การ
เกี&ยวกบั สขุ ภาพของคนในชมุ ชนนนั& เอง

หลักการ การสงั เกตทําให้ได้ข้อมลู ที&คนไม่พดู ไม่เลา่ แตท่ ํา อาศยั การมองเห็นและการถามให้
อธิบายเหตกุ ารณ์จะช่วยให้ได้ข้อมลู มากขึนJ การสรุปเองของทีมประเมินอาจทําให้ข้อมลู ไม่ตรงดงั นนัJ การ
สัมภาษณ์จะทําให้ได้ข้อมูลครอบคลุมมากขึนJ ได้แก่ พฤติกรรมต่างๆ เช่น การรักษา พฤติกรรมการ
ให้บริการด้านสขุ ภาพ พฤติกรรมการดําเนินชีวิตประจําวนั พฤติกรรมการทํางานหรือการประกอบอาชีพ
การกิน การอย่รู ่วมกนั การกําจดั ขยะ การกําจดั ของเสีย การทะเลาะกนั การประชมุ กรรมการชมุ ชน การ
แก้ ปัญหาของชุมชน เป็นต้น การสังเกตอาศัยความเป็นคนช่างสังเกต ช่างพูดคุยของทีมแต่ไม่ได้
หมายความวา่ จําเป็น ทกุ คนสามารถทําได้

วิธีการ การสงั เกตท&ีครบถ้วนต้องใช้เวลาสถานที&และบคุ คลที&เหมาะสม สอบถามได้หากมีข้อ
สงสยั เพื&ออธิบายพฤติกรรมนนัJ ๆ การสงั เกต เช่น สถานที& เวลา ผ้รู ่วมสงั เกต กําหนดข้อมลู ที&ต้องการและ
แนวการสงั เกตสามารถวางแผนได้แต่การปรับเปลี&ยนมีโอกาสเกิดขนึ J ได้บ่อย ดงั นนัJ จึงให้การสงั เกตเป็นไป
ตามสถานการณ์แต่ต้องกําหนดเป้าหมายของข้อมลู ว่าต้องการอะไรบ้าง กิจกรรมที&ทําคือสงั เกต บนั ทึก
สอบถามเม&ือต้องการคําอธิบาย พร้อมทงัJ สรุปภาพพฤตกิ รรมและคําอธิบาย

128

6) การใช้แบบสาํ รวจ แบบสอบถาม
หลักการ การสํารวจโดยใช้แบบสอบถามหรือแบบสมั ภาษณ์เป็นการหาข้อมูลภาพรวมท&ี

ตรวจสอบความคิดของคนท&ีเก&ียวข้องในประเด็นท&ีคล้ายกัน การสํารวจลักษณะนีตJ ้องกําหนด กลุ่ม
ประชากรเป้าหมายที&ชัดเจน ประเด็นที&ต้องการข้อมลู ท&ีเฉพาะเจาะจง และวนั เวลาที&ศึกษาที&กําหนดไว้
ส่วนมากผลการสํารวจมกั เป็นข้อมลู เชิงปริมาณ ดงั นนัJ จึงจําเป็นต้องวางคําจํากดั ความไว้ให้ชดั เจน เพื&อ
ความเข้าใจท&ีตรงกนั ระหว่างผ้ถู ามและผ้ตู อบเช่นแบบสอบถามเก&ียวกบั ภาวะสขุ ภาพของคนในครัวเรือน
โดยอาจให้ผู้ตอบอ่านและตอบเอง การสอบถามเกี&ยวกับค่าใช้จ่ายประจําวันในครัวเรือน การใช้แบบ
สมั ภาษณ์เช่นแบบสมั ภาษณ์มารดาเดก็ อายตุ ํ&ากวา่ 5 ขวบเก&ียวกบั การเลียJ งดเู ดก็ การดแู ลเดก็ เมื&อป่ วยและ
แบบสํารวจ เชน่ สํารวจจํานวนสมาชิกในครัวเรือน แบบสํารวจข้อมลู จปฐ. เป็นต้น

วิธีการ สร้ างแบบสํารวจที&ต้องการทังJ นีตJ ามลักษณะข้อมูลที&ต้องการ กําหนดกลุ่มผู้ให้
สมั ภาษณ์หรือให้ข้อมลู บอกวิธีการเก็บ เช่น ให้ผ้ตู อบอา่ นเองตอบเอง หรือมีผ้อู า่ นและอธิบายให้ก่อนตอบ
การใช้แบบสํารวจเหล่านีตJ ้องทําความเข้าใจในทีมให้เข้าใจเพื&อให้ข้อมูลสามารถนํามาใช้ได้ ตัวอย่าง
นอกจากนียJ งั สามารถพบได้ในการวิจยั เกี&ยวกบั สขุ ภาพชมุ ชน

7) การศึกษาจากเอกสารทPีมีอยู่ เช่น บนั ทกึ ประวตั ิชมุ ชน ประวตั ิบคุ คลสําคญั ของชมุ ชน หรือ
เอกสารอ&ืนๆ ที&เก&ียวกบั การดําเนินการโครงการด้านการพฒั นาสขุ ภาพชมุ ชน

หลักการ ข้อมลู ที&ต้องการส่วนใหญ่เป็นประวตั ิ เช่น ประวตั ิกองทนุ การดําเนินการกิจกรรม
หรือโครงการสุขภาพชุมชน อ่านเอกสารให้ถ้วนถ&ีเพ&ือระบุประเด็นท&ีได้จากการข้อมูลและเลือกข้อมูลไว้
วิเคราะห์และอธิบาย โดยสามารถใช้การสมั ภาษณ์ผ้รู ่วมเหตกุ ารณ์เพื&อเก็บข้อมลู ประกอบสว่ นกนั ได้

ทีมประเมินชมุ ชนสามารถเลือกวิธีในการเก็บข้อมลู ชมุ ชนเหล่านีใJ ห้สอดรับกบั ชนิดและแหล่ง
ของข้อมลู ชมุ ชนที&ต้องการ โดยเฉพาะอย่างย&ิงในรูปแบบการประเมิน แบบรวดเร็ว ประเมินไป-ทํางานไป
ส่วนแบบเชิงลกึ นนัJ ต้องอาศยั การออกแบบการวิจยั ท&ีลงตวั กบั โจทย์การวิจยั อย่างไรก็ดีทีมประเมินชมุ ชน
สามารถศึกษาเคร&ืองมือเพ&ิมเติมได้จากตําราที&เกี&ยวกับการวิจัยเบือJ งต้น การสร้ างเครื&องมือวิจัยและ
เคร&ืองมือท&ีใช้บอ่ ย เป็นต้น

129

3. การวเิ คราะห์ข้อมูลสุขภาพชุมชน การระบุปัญหาและความต้องการด้านสุขภาพของชุมชน
3.1 การตรวจสอบข้อมูล
เป็นสว่ นสําคญั ท&ีทําให้การประเมินชมุ ชนมีความครอบคลมุ และชดั เจน มากขนึ J เป็นขนัJ ตอน

ที&ต้องอาศยั การวางแผนและการกํากบั ท&ีรัดกมุ เน&ืองจากเป็นขนัJ ตอนท&ีตรวจสอบความสมบรู ณ์ของข้อมลู
ความถกู ต้องของข้อมลู และความตรงของข้อมลู ซงึ& เป็นหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ในการสงั เคราะห์ปัญหาและ
ความต้องการการดูแลด้านสุขภาพของชุมชน ประเด็นอยู่ท&ีประสิทธิภาพของเครื&องมือที&ใช้และการใช้
เครื&องมืออย่างถกู ต้อง ดงั นนัJ การตรวจสอบข้อมลู จึงต้องอาศยั หลกั การตรวจสอบตามธรรมชาติของข้อมลู
โดยเชิงปริมาณ เน้นท&ีการตรวจสอบความเที&ยงตรงของเคร&ืองมือ สว่ นเชิงคณุ ภาพเน้นที&คณุ ภาพของผ้เู ก็บ
ข้อมลู โดยมีกระบวนการตรวจสอบข้อมลู แบบสามเส้า (Triangulation)เข้าชว่ ย

หลักการสาํ คัญของการตรวจสอบข้อมูล ได้แก่
1) ความสมบรู ณ์ของข้อมลู เป็นการตรวจสอบว่าได้คําตอบหรือคําอธิบายตามท&ีกําหนดใน

แนวทางหรือแบบสํารวจ แบบสมั ภาษณ์ ครบถ้วนหรือไม่ อยา่ งไร
2) ความถูกต้องของข้อมลู เป็นการตรวจดูข้อมลู คําตอบว่าเป็นไปตามวตั ถุประสงค์ที&ถาม

หรือไม่ หรือ อธิบายประเดน็ ที&ต้องการหรือไม่
3) ความตรงของข้อมลู เป็นการตรวจดคู วามหมายของคําตอบหรือคําอธิบายท&ีได้ตามข้อมลู

ที&ต้องการหรือไม่
การตรวจสอบข้อมลู นี JขึนJ อย่กู บั ลกั ษณะข้อมลู ที&ต้องการ เช่น ข้อมลู มือสองหรือข้อมลู สด ข้อมลู

เชิงปริมาณหรือเชิงคณุ ภาพ เป็นต้น ทงัJ นีทJ ีมประเมินชมุ ชนต้องทําความเข้าใจในกระบวนการและวิธีการ
ตรวจสอบอยา่ งครอบคลมุ

กระบวนการประเมินชุมชน ส่วนมากมกั ประกอบด้วย กระบวนการท&ีให้ประชาชน องค์กรชุมชน
องค์กรภาคี เข้าร่วมตรวจสอบความสมบรู ณ์ ความถกู ต้องของข้อมลู ตลอดกระบวนการ โดยอาจเร&ิมตงัJ แต่
กระบวนการสร้างทีมประเมิน ร่วมเก็บข้อมลู และ ร่วมตรวจสอบข้อมลู ด้วย ทงัJ นีใJ ห้เกิดการยอมรับข้อมลู
ร่วมกนั ให้ได้ อนั เป็นการพยายามให้ใช้ข้อมลู ชดุ เดียวกนั ในการทํางานดแู ลสขุ ภาพชมุ ชนร่วมกนั

การวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการการดแู ลสขุ ภาพของประชาชนในชมุ ชนนีตJ ้องอาศยั หลาย
ขนัJ ตอนได้แก่

†) การวิเคราะห์และจดั หมวดหมขู่ องข้อมลู ชมุ ชน
‡) การตีความข้อมลู และการระบปุ ัญหาสขุ ภาพและสาเหตุ
3.2 การวเิ คราะห์จดั หมวดหมู่ของข้อมูลชุมชน

การวิเคราะห์ข้อมลู คือการจดั หมวดหมขู่ ้อมลู เพ&ือเป็นฐานในการชีถJ ึงปัญหาและความต้องการ
ด้านสขุ ภาพคนในชมุ ชนโดยมีวิธีการสาํ คญั ดงั นี J(ขนิษฐา นนั ทบตุ ร, 2544; 2547)

1) การแบง่ หมวดหม่ขู ้อมลู เป็นการวางข้อมลู ตามกลมุ่ ข้อมลู ตามกรอบการศึกษาชมุ ชน เช่น
ข้อมลู ประชากร ข้อมลู ทุนทางสงั คม ข้อมลู บริการสขุ ภาพที&มีในชุมชน ข้อมลู ท&ีแสดงปัญหาสขุ ภาพของ
ประชาชนในพืนJ ที& ข้อมลู ที&แสดงปัจจยั ท้องถ&ินที&กระทบสขุ ภาพคนในชมุ ชนทงัJ ในทางบวกและทางลบ ข้อมลู
วาระหรือเหตกุ ารณ์สาํ คญั ของชมุ ชนท&ีกระทบสขุ ภาพประชาชน เป็นต้น

2) การแจงนบั ข้อมลู และการคํานวณคา่ ทางสถิติที&กําหนด ในข้อมลู เชิงปริมาณใช้วิธีการแจง
นบั และวิเคราะห์ตามแนวทางการวิเคราะห์ที&กําหนด

130

3) การจดั เนือJ หาของข้อมลู เป็นการจดั การข้อมลู เชิงคณุ ภาพที&เป็นการหาประเดน็ สําคญั ของ
เรื&องและคําอธิบายเรื&องโดยละเอียดตามวตั ถปุ ระสงค์ของการเก็บข้อมลู ชดุ นนัJ ๆ

4) การนําเสนอข้อมลู ทงัJ นีเJ ป็นไปตามลกั ษณะของข้อมลู เช่น นําเสนอโดยตาราง แผนภาพ
หรือการบรรยายความ เพ&ือเล่าความเช&ือมโยงระหว่างปัญหาสขุ ภาพและที&มาหรือเหตปุ ัจจยั สว่ นใหญ่มกั
ยงั ไมแ่ สดงความเชื&อมโยงระหวา่ งชดุ ข้อมลู

3.3 การตคี วามข้อมูลและการระบุสาเหตุและปัญหาสุขภาพของประชาชนในชุมชน
การตีความข้อมูลเป็นขันJ ตอนของการระบุปัญหาด้านสุขภาพของคนในชุมชน เป็นการ

วิเคราะห์หาปัญหาด้านสขุ ภาพ ภาวะเส&ียงด้านสขุ ภาพ และการจดั การการดแู ลสขุ ภาพของคนในชุมชน
ภายใต้บริบททางสงั คมวฒั นธรรมท้องถ&ินนนัJ ๆ แล้วสงั เคราะห์เช&ือมโยงให้เห็นท&ีมาหรือสาเหตขุ องปัญหา
ด้านสุขภาพและภาวะเส&ียงด้านสุขภาพ รวมทังJ ทุนทางสงั คม ศักยภาพของชุมชนและแหล่งประโยชน์
รวมทงัJ การบริการสขุ ภาพท&ีเข้าถึงได้ ทงัJ นีตJ ้องสามารถระบุประชากรเป้าหมายของการทํางานได้ด้วย ทงัJ
กลมุ่ ท&ีต้องได้รับการดแู ลและกลมุ่ ที&ให้การดแู ล แนวทางในการสงั เคราะห์มีดงั นี J

1) เม&ือมีข้อมลู ท&ีผา่ นการตรวจสอบและวิเคราะห์ในเบือJ งต้นแล้ว กําหนดกลมุ่ ข้อมลู ออกเป็น ‰ กลมุ่
1.1) ปัญหาสขุ ภาพในชมุ ชน ได้แก่ โรค การเจ็บป่วย ความพิการ การตาย
1.2) ลักษณะชุมชนที&เป็นสาเหตุหรือเกี&ยวกับสาเหตุของปัญหาสุขภาพ เป็นเรื&องของ

ลกั ษณะสง&ิ แวดล้อมทางกายภาพ เคมี หรือ สงั คมวฒั นธรรม วิถีชีวิต เศรษฐกิจ
1.3) ลักษณะของคนในชุมชนท&ีเป็นสาเหตุหรือเกี&ยวข้องกับสาเหตุหรือท&ีมาของปัญหา

สขุ ภาพ ได้แก่ กล่มุ คนท&ีได้รับผลกระทบที&เป็นปัญหาหรือที&เกี&ยวข้อง กล่มุ คนพิเศษ พฤติกรรม ความคิด
การรับรู้ ความเข้าใจ ลกั ษณะทางประชากร ศาสนา การประกอบอาชีพ

2) แยกข้อมลู ไว้ตามกลมุ่ เพ&ืออธิบายปัญหาสขุ ภาพและสาเหตขุ องปัญหาสขุ ภาพของชมุ ชนโดย
ใช้ข้อมลู ทกุ ชนิดจากทกุ แหลง่ ตามความสอดคล้องกบั กลมุ่

3) ระดมสมองเพ&ือวิเคราะห์ข้อมลู และตีความตามข้อมลู กล่มุ ประชากรต่างๆ โดยระบปุ ัญหาและ
ความต้องการการดแู ลสขุ ภาพของคนในชมุ ชน

131

ข้อมลู ชุมชนและสขุ ภาพชมุ ชน 1. เกบ็ รวบรวมข้อมลู
1.1. ชนิดและลกั ษณะของข้อมลู
กล่มุ ข้อมลู ปัญหาสขุ ภาพความ แหลง่ ข้อมลู
ต้องการด้านสขุ ภาพและกลมุ่ คนท&ี 1.2. วธิ ีการเก็บรวบรวมข้อมลู

กระทบ 2. ตรวจสอบขอ้ มลู (สมบูรณ์ ถูกตอ้ ง ตรง)
1. วิเคราะห์ข้อมลู
ระบุปัญหาสขุ ภาพความต้องการ
ด้านสขุ ภาพและปัจจยั สาเหตแุ ละ 1.1. แบง่ หมวดหมู่
1.2. แจงนบั วเิ คราะหเ์ ชงิ สถติ ิ
ปัจจยั เชอื& มโยง 1.3. จดั กลมุ่ เนอื I หาและความสมั พนั ธ์

1. ตคี วามข้อมลู
1.1. แบง่ หมวดหมู่
1.2. แจงนบั วเิ คราะหเ์ ชงิ สถิติ
1.3. จดั กล่มุ เนอื J หาและ
ความสมั พนั ธ์

2. ระบปุ ัญหาและปัจจยั สาเหตุ ปัจจยั
เชอ&ื มโยง (อาศยั การคดิ วเิ คราะหโ์ ดย
ใช้ web of causation ร่วมด้วย)
2.1. ปัญหาสขุ ภาพในชมุ ชน
2.2. ลักษณะสิ&งแวดล้อมชุมชนทLีเป็น
ส า เ หตุหรื อ เ กีL ย ว กั บส า เ หตุข อ ง
ปัญหาสขุ ภาพ
2.3. ลักษณะของคนในชุมชนทLีเป็น
ส า เ หตุหรื อ เ กีLยว ข้ อ ง กั บส า เ ห ตุ
หรือ ทีมL าของปัญหาสขุ ภาพ

ภาพทPี 4.4 การระบปุ ัญหาสขุ ภาพชมุ ชน

3.1) แยกกลุ่มผลการวิเคราะห์และสังเคราะห์เพ&ืออธิบายภาพปัญหาและความต้องการด้าน
สขุ ภาพของคนในชมุ ชนเป็นรายประเดน็ ปัญหาและความต้องการทงัJ นีตJ ามกรอบการกําหนดกลมุ่ ประชากร
เช่น กลมุ่ ตามอายุ กลมุ่ ตามปัญหาสขุ ภาพและภาวะเส&ียงด้านสขุ ภาพ กลมุ่ ที&มีความต้องการการดแู ลเป็น
พิเศษ เป็นต้น

3.2) ใช้ข้อมูลท&ีผ่านการวิเคราะห์แล้วมาสนับสนุนที&มาของปัญหาและความต้องการด้าน
สุขภาพนันJ ๆโดยใช้ความรู้สองส่วนคือ หลักวิชาทางการแพทย์ชีวะภาพและสังคม วัฒนธรรมในการ
เชื&อมโยงสภาวะสขุ ภาพกบั ส่วนท&ีอธิบายวิถีการดําเนินชีวิต พฤติกรรมสขุ ภาพ ความคิดเห็นหรือการรับรู้
ของคนในชมุ ชนที&เกี&ยวกบั สขุ ภาพ โรค ความเจ็บป่วยและการดแู ลรักษา

132

3.3) ให้สมาชิกทีมประเมินชุมชนอภิปรายตามความคิดเห็นของตนต่อภาพการนําเสนอ
ดงั กลา่ ว

4) นําเสนอข้อมลู และผลการวิเคราะห์ข้อมลู และการสงั เคราะห์ปัญหาและความต้องการด้าน
สขุ ภาพของคนในชมุ ชนตอ่ ชมุ ชนและผ้เู ก&ียวข้อง

4.1) เพื&อขอข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะในการวิเคราะห์และสังเคราะห์ภาพปัญหาและความ
ต้องการด้านสขุ ภาพของคนในชมุ ชนให้ชดั เจนมากย&ิงขนึ J

4.2) เพ&ือตอบปัญหา ข้อถกเถียงของทีมประเมินชมุ ชน ต่อประเด็นปัญหาและความต้องการ
ด้านสขุ ภาพและท&ีมาจากประสบการณ์ในชมุ ชนอื&นๆและจากทฤษฎีที&เก&ียวข้อง

5) วิเคราะห์เชิงลกึ เพ&ือชีปJ ัญหาสขุ ภาพของคนในชมุ ชนเช&ือมโยงกบั ที&มาของปัญหาสขุ ภาพนนัJ ๆ
เพ&ือชีนJ ําการสร้ างเคร&ืองมือในการศึกษาปัจจัยต่างๆที&เป็นตัวแปรสําคัญของปัญหาสุขภาพนันJ ๆอย่าง
เฉพาะเจาะจง นําไปสกู่ ารออกแบบบริการสขุ ภาพและโครงการพฒั นาสขุ ภาพคนในชมุ ชนต่อไป ทงัJ นีโJ ดย
ใช้กระบวนการทํา Web of causation ตามหลกั การทางระบาดวทิ ยา

ตวั อย่างการนําเสนอปัญหาสุขภาพของคนในชุมชน
ตัวอย่างที, 1 ปัญหาสุขภาพ : เดก็ 0-5 ปี ตดิ เชืAอในระบบทางเดนิ หายใจส่วนต้น
1. มีเด็กอายุ •-– ปี มาพบแพทย์ท&ีศนู ย์แพทย์ด้วยโรคระบบทางเดินหายใจส่วน
ต้นถงึ ‡— คน จากจํานวนทงัJ หมด ‰† คน คดิ เป็น —‰.–%
2. อัตราป่ วยของเด็ก 0-5 ปี ด้วยโรคระบบหายใจส่วนต้น 935.4 ต่อประชากร
1,000 คน
3. เด็กขาดสารอาหารระดบั 1 จํานวน 3 คน ขาดสารอาหารระดบั 2 จํานวน 1 คน
จากเดก็ มารับการชง&ั นําJ หนกั ประมาณ 20 คน จากเดก็ ทงัJ หมด 31 คน

133

ข้อมูลสนับสนุนด้านประชากร/ลักษณะของคนในชุมชน
1) เดก็ มีวฒุ ิภาวะในการดแู ลตนเองไมเ่ พียงพอในการปอ้ งกนั โรค ซง&ึ ทําให้เกิดโรคได้งา่ ย
2) พฤติกรรมการเล่นของเด็กไม่เหมาะสม เช่น เด็กท&ีเป็นโรคอย่แู ล้วจะเล่นด้วยกนั กบั เด็กปกติ

อาจมีการกระจายเชือJ ได้
3) อาชีพของคนในชมุ ชน รับจ้างทว&ั ไป ร้อยละ 36 ขายของเก่าร้อยละ 20%
4) รายได้เฉลยี& 3,943 บาท/ครอบครัว/เดือน
5) ความสามารถของผ้ดู แู ลเช่นการดแู ลเด็ก ความเอาใจใส่ในการดแู ลและระดบั การศึกษาของ

คนในชมุ ชนจบประถมศกึ ษาเป็นสว่ นใหญ่ถงึ ร้อยละ š› มีผลตอ่ การเข้าถงึ ข้อมลู และระบบบริการสขุ ภาพ
ข้อมูลสนับสนุนด้านสPงิ แวดล้อมทPเี กPียวข้องกับปัญหาสุขภาพ
1) เป็นชมุ ชนแออดั การระบายอากาศไมถ่ ่ายเท
2) คนในชมุ ชนมีอาชีพเก็บขยะ ในขณะท&ีเก็บขยะจะพาเด็กไปด้วยและเม&ือแยกขยะเด็กจะช่วย

แยกขยะและเลน่ อยใู่ กล้ๆ เศษขยะ
3) พืนJ ดนิ สกปรกมีเศษขยะและมีนําJ โสโครกไหลผา่ นใต้ถนุ บ้าน
4) นําJ โสโครกจะไหลไปรวมกนั ทางทิศเหนือของหมบู่ ้านกลายเป็นหนองนําJ เป็นท&ีเลน่ นําJ ของเดก็

ตัวอย่างท,ี 2 ปัญหาสุขภาพ : ประชาชนในหมู่บ้านเป็ นโรคผิวหนังจากการแพ้
สารเคมี
อตั ราป่วยด้วยโรค dermatitis 37 คน ตอ่ ประชากร 1,000 คน
ข้อมูลสนับสนุนด้านประชากร/ลักษณะของคนในชุมชน
1) คนในชุมชนส่วนใหญ่มีอาชีพเก็บของเก่าขายร้ อยละ 20 ทําให้มีโอกาสสมั ผัสกับสารเคมีท&ี
ปนเปือJ นมากบั สง&ิ ของเหลา่ นนัJ
2) คนสว่ นใหญ่มีรายได้น้อยประมาณ 3,943 บาท/ครอบครัว/เดือนซง&ึ สง่ ผลในการจดั หาสง&ิ ของที&
จําเป็นต้องใช้ในการดําเนินชีวิตเช่นการที&ต้องซือJ นําJ (ไม่มีนําJ ประปาของตนเอง) มาใช้ในบ้าน การด&ืม การ
ซกั ล้างเสือJ ผ้าในราคาถึงรถละ 7 บาท (120 ลิตร) ทําให้ต้องใช้นําJ อย่างประหยดั ไม่สามารถอาบนําJ ได้บอ่ ย
และซกั เสอื J ผ้าล้างผ้าได้สะอาดเทา่ ที&ควร
ข้อมูลสนับสนุนด้านสPงิ แวดล้อมทPเี กPียวข้องกับปัญหาสุขภาพ
1) สิ&งแวดล้อมไม่สะอาด สงั เกตจากใต้ถนุ บ้านบางบ้านมีนําJ สกปรก ซง&ึ เป็นนําJ ทิงJ จากบ้านเรือน
และบางสว่ นยงั ไหลมาจากตลาดในเมือง (เนื&องจากเป็นที&ลมุ่ ) ซง&ึ มีสารเคมีปนเปือJ นในนําJ และนําJ จะไหลไป
รวมกนั ทางทิศเหนือของหมบู่ ้าน กลายเป็นหนองนําJ ท&ีมีสารเคมีปนเปือJ น เดก็ ในชมุ ชนจะไปเลน่ นําJ
2) จากการสงั เกตเสือJ ผ้าที&คนในชมุ ชนใสใ่ นการไปเก็บของเก่าจะแขวนซ้อนกนั ไว้ในบ้าน ไมไ่ ด้ซกั
และจะใสซ่ ําJ กนั ทําให้เป็นแหลง่ สะสมของสารเคมีที&ปนเปือJ นมา
3) สภาพบ้านเรือนแออดั มีหน้าตา่ งน้อย การถ่ายเทอากาศไมด่ ี ทําให้สารเคมีตดิ ค้างอยใู่ นตวั บ้าน

ตัวอย่างที, 3 ปัญหาสุขภาพ : ประชากรกลุ่มวัยรุ่นและวัยเจริญพันธ์ุเสี,ยงต่อการตดิ เชืAอ
HIV
ในช่วง 3 ปีที&ผ่านมา พบว่า มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์ 2 คน และผู้ท&ีมีโอกาสติดเชือJ HIV
ประมาณ 6คนเพราะมีความสมั พนั ธ์ทางเพศกบั ผ้ตู ายแต่คนทงัJ 6 ยงั ไม่ปรากฏอาการและไม่
ต้องการตรวจเลอื ด

134

ข้อมูลสนับสนุนด้านประชากร/ลักษณะของคนในชุมชน
1) มีอาชีพที&เส&ียงต่อการติดเชือJ เอดส์ คือ หญิงที&มีอาชีพพิเศษ 3-5 คน หญิงบริการตาม

ร้านอาหารและโต๊ะสนกุ เกอร์ 5 คน อาชีพขบั รถสามล้อเครื&อง 1 คน
2) ประชากรที&ว่างงาน 36 คน คิดเป็น ร้อยละ 16.8 อาจมีผลต่อการใช้เวลาว่างในทางท&ีเสี&ยงต่อ

การติดเชือJ HIV เช่น การดื&มสรุ า การเสพยาบ้า ซง&ึ เป็นการกระต้นุ ให้เกิดความต้องการทางเพศ อาจนําไปสู่
การมีเพศสมั พนั ธ์โดยไมม่ ีการปอ้ งกนั

3) จากการบอกเล่าของคนในชุมชนยงั มีบางครอบครัวสนบั สนุนให้ลกู สาวขายบริการทางเพศ
ตงัJ แต่อายยุ งั น้อยคือ เมื&อจบการศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษา (12 ปี) และบางครอบครัวพบว่าสามีไม่ทํางาน
แตส่ นบั สนนุ ให้ภรรยาขายบริการทางเพศ

4) จากการพูดคุยกับประชาชนในเบือJ งต้นพบว่า มีการใช้สารเสพติดในกลุ่มอายุ 12-30 ปี ใช้
ยาบ้าประมาณ 27 คน สารระเหย 3 คน ส่วนการดื&มสรุ าจะพบเมื&ออายุ 13 ปี ขึนJ ไป ซ&ึงการใช้สารเสพติด
เหลา่ นีอJ าจนําไปสกู่ ารมีเพศสมั พนั ธ์โดยไมไ่ ด้ปอ้ งกนั

5) จากการสมุ่ สมั ภาษณ์พบวา่ คนในชมุ ชนยงั ขาดความรู้ความเข้าใจเก&ียวกบั โรคเอดส์และยงั ไม่มี
หนว่ ยงานใดมาให้ความรู้แก่คนในชมุ ชน และคนในชมุ ชนยงั ให้ความสนใจในเรื&องนีนJ ้อย เพราะต้องใช้เวลา
ส่วนใหญ่ในการประกอบอาชีพ เป็นห่วงเฉพาะเร&ืองปากท้องของตนเอง มีรายได้เฉลี&ย 3,943 บาท/
ครอบครัว/เดือน

6) คนในชุมชนยงั ไม่ยอมรับผู้ป่ วยท&ีติดเชือJ เอดส์จึงทําให้ผู้ท&ีเส&ียงต่อการติดเชือJ เอดส์ไม่กล้าไป
ตรวจเลอื ด ทําให้การค้นหาผ้ตู ดิ เชือJ ยาก ทําให้โอกาสการแพร่เชือJ สงู ขนึ J

7) กลมุ่ วยั รุ่นชายและหญิงในชมุ ชนมกั จะจบั กลมุ่ ด&ืมสรุ าหลงั เลิกงานจากนนัJ กลมุ่ ผ้ชู ายจะไปดื&ม
ตอ่ บริเวณสถานีขนสง่ และเที&ยวหญิงบริการตอ่

ข้อมูลสนับสนุนด้านสPงิ แวดล้อมทPเี กPียวข้องกับปัญหาสุขภาพ
1) เป็นชมุ ชนแออดั ในเมือง อยใู่ กล้สถานเริงรมย์ และแหลง่ บริการทางเพศ
2) สภาพบ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นห้องรวมไม่เป็นสัดส่วนสมาชิกนอนรวมกัน บิดา-มารดามี

เพศสมั พนั ธ์ให้เดก็ เหน็ เดก็ ก็จะเลยี นแบบพฤตกิ รรมท&ีไมถ่ กู ต้อง เกิดการอยากรู้อยากลอง

3.4 การจดั ลาํ ดบั ความสาํ คัญของปัญหาและความต้องการด้านสุขภาพของชุมชน
หลงั จากท&ีสงั เคราะห์ปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพของคนในชมุ ชนมาแล้วสว่ นใหญ่จะ

พบว่ามีปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพต่างๆ มาก ไม่สามารถจดั การได้ในเวลาเดียวกนั เน&ืองจากมี
เงื&อนไขและข้อจํากดั หลายประการ เช่น วิถีชีวิต สงั คม วฒั นธรรม เวลา งบประมาณ ทงัJ จากชมุ ชนและจาก
ผ้ใู ห้บริการสขุ ภาพหรือองค์กรท&ีเกี&ยวข้องกบั การพฒั นาคณุ ภาพชีวิตคนในชมุ ชน ดงั นนัJ จงึ จําเป็นต้องมีการ
จดั ลาํ ดบั ความสาํ คญั ของปัญหา เพ&ือจดั เรียงวา่ ปัญหาใดสมควรได้รับการจดั การแก้ไขก่อนหลงั

การจดั ลาํ ดบั ความสาํ คญั ของปัญหามีอยหู่ ลายวิธีแตล่ ะวิธีต้องนําไปดดั แปลงเพ&ือให้เหมาะสม
กบั สถานการณ์ของชมุ ชน ซงึ& การตดั สินใจเลือกวิธีและการกําหนดเกณฑ์พิจารณาจะต้องเป็นการพิจารณา
ร่ วมกันกับคนในชุมชนและโดยความสําคัญแล้ วการตัดสินใจโดยคนในชุมชนมีความสําคัญย&ิงต่อการ
ก่อให้เกิดกิจกรรมพฒั นาสขุ ภาพอยา่ งตอ่ เน&ือง การตดั สนิ ใจโดยคนในชมุ ชนมกั อยบู่ นฐานความเข้าใจเร&ือง
สขุ ภาพ ปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพและการจดั การกบั วิถีชีวิต ความเป็นอยโู่ ดยรวมของทงัJ ชมุ ชน
การแก้ปัญหาของครอบครัวและบคุ คล

135

การจัดลําดับความสําคัญของปัญหามักไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว เนื&องจากมุมมองและความ
เข้าใจของคนในแต่ละชมุ ชนมีความแตกต่างกนั มากและเปล&ียนแปลงตามกาลเวลา และบริบททางสงั คม

วฒั นธรรมในท้องถ&ินนนัJ ๆ จึงต้องมีการศกึ ษาความคิด ความเข้าใจ การอธิบายวิถีการดําเนินชีวิตของคน
ในชุมชนซ&ึงเป็นพืนJ ฐานที&สําคัญยิ&งและการทํางานร่วมกันอย่างเช&ือมโยงลึกซึงJ และต่อเน&ืองจะทําให้

พยาบาลเข้าใจวิธีคดิ ของคนในชมุ ชนได้เป็นอยา่ งดีและบอกได้วา่ ชมุ ชนต้องการอะไร
ตวั อยา่ งวิธีการที&ใช้ในการจดั ลําดบั ความสําคญั ของปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพมีดงั นี J

(เพลนิ พิศ วยิ ะทศั น์ และคณะ, 2545)

3.4.1 วิธีการของแฮนลอน วิธีการนีเJ หมาะสําหรับการจัดลําดับความสําคัญของปัญหา
ระดับนโยบายแต่สามารถนํามาประยุกต์ใช้ ในการจัดลําดับความสําคัญของปั ญหาในชุมชนใหญ่ๆท&ีมี

ประชากรมากๆได้ วิธีนีทJ ีมงานเดียวกนั ต้องทํางานตอ่ เน&ืองกนั มีองค์ประกอบ 4 ตวั คือ

องค์ประกอบ A : ขนาดปัญหา (Size of the problem) หมายถึงคนท&ีมีปัญหาหรือคนที&ได้รับ
ผลกระทบจากปัญหานนัJ คํานวณจากจํานวนคนที&มีปัญหา อตั ราหรือ ร้อยละของคนที&มีปัญหาหรือคนท&ี

ได้ รับผลกระทบจากปัญหา เช่น อัตราอุบัติการณ์ (Incidence rate) หรืออัตราความชุกของโรค
(Prevalence rate) ขนาดปัญหาจะมีคะแนนอย่รู ะหว่าง •-†• โดยแบ่งคะแนนตามช่วงร้อยละ ช่วงอตั รา
หรือช่วงจํานวนผ้มู ีปัญหา ปัญหาใดมีผลกระทบกบั ประชาชนสงู คะแนนจะมาก มีเกณฑ์ในการให้คะแนน

ดงั นี J

ร้อยละของอุบตั กิ ารณ์หรือความชุกของโรค คะแนน

81-100 10

60-80 8

41-60 6

21-40 4

1-20 2

ต&ํากวา่ 1 0

องค์ประกอบ B : ความรุนแรงของปัญหา (Seriousness of the problem) หมายความถึง
ปัจจัย 4 อย่างคือความเร่งด่วน ความร้ ายแรง การสูญเสียทางเศรษฐกิจและความเกี&ยวข้องของคนกับ
ปัญหา ปัญหาท&ีมีความรุนแรงสงู คะแนนจะมาก ความรุนแรงจะมีคะแนนอย่รู ะหว่าง 0-20 โดยพิจารณา
จากปัจจยั ทงัJ 4 ให้แตล่ ะปัจจยั มีคะแนนเตม็ เทา่ กบั 5 คะแนน ได้แก่

ความเร่งด่วน (Urgency) หมายถึงความเร่งด่วนของปัญหาท&ีต้องการแก้ไขในทนั ทีหรือ
ในระยะเวลาอนั ใกล้ พิจารณาจากจํานวนหรืออตั ราของคนที&ได้รับผลกระทบจากปัญหา และความรู้สกึ หรือ
ความวติ กกงั วลของคนในชมุ ชนตอ่ ปัญหานนัJ ๆ

ความร้ายแรง (Severity) หมายถึงความร้ายแรงของปัญหาที&เก&ียวข้องกบั การเจ็บป่ วย
การตาย หรือความพิการท&ีเกิดขนึ J กบั คนในชมุ ชน โดยพิจารณาจากอตั ราตาย อตั ราป่วย และอตั ราความพิการ

การสูญเสียทางเศรษฐกจิ (Economic loss) มีความสมั พนั ธ์กบั ความร้ายแรงของปัญหา
อนั เป็นผลกระทบถงึ การลงทนุ และการสญู เสียทางเศรษฐกิจ ซงึ& พิจารณาจากการสญู เสียทางเศรษฐกิจของ
บคุ คล ครอบครัวและชมุ ชน

136

ความเกPียวข้องของคนในชุมชนกับปัญหา (Involvement of other people) หมายถึง
ปัจจยั อ&ืนๆท&ีจะเข้ามาเกี&ยวข้องกบั ปัญหาและทําให้ปัญหามีขนาดและความรุนแรงมากขนึ J เช่น การเกิดโรค
มือ เท้า ปากในกลมุ่ เดก็ ก่อนวยั เรียน เป็นต้น

องค์ประกอบ C : ประสิทธิผลของการปฏิบัติงาน (effectiveness of the intervention)
หมายถึงความเป็นไปได้ของวิธีการท&ีจะนําไปใช้ในการแก้ปัญหา ปัญหาใดมีวิธีการแก้ไขท&ีเหมาะสมค่า
คะแนนจะสูง ค่าของคะแนนเป็น 0-10 พิจารณาจาก †) โครงการที&มีลักษณะปัญหาและกิจกรรมท&ี
คล้ายคลงึ กนั ที&กําลงั ดําเนินการในชมุ ชนอื&น และ ‡) โครงการท&ีมีลกั ษณะปัญหาและกิจกรรมท&ีคล้ายคลงึ
กนั ที&ทําเสร็จและได้ผลดี

องค์ประกอบ D : ข้อจํากัด (limitation) หมายถึงปัจจัยกําหนดความสําเร็จของโครงการ
ภายใต้ทรัพยากรท&ีมีอยใู่ นระยะเวลาที&จํากดั โดยแตล่ ะปัจจยั มีคะแนนเป็น 0 หรือ 1 ซงึ& พิจารณาจาก

1) ความเหมาะสมของโครงการกับปัญหา(Propriety = P) คือการพิจารณากิจกรรมใน
โครงการวา่ มีความเหมาะสมและสอดคล้องกบั ปัญหาหรือไมเ่ พียงไร

2) เศรษฐกจิ (Economics = E) คือการพิจารณาแหลง่ ทนุ และคา่ ใช้จา่ ยในโครงการ
3) การยอมรับ (Acceptability = A) คือการพิจารณาการยอมรับของชมุ ชนต่อโครงการ

ถ้าชมุ ชนไมเ่ หน็ ด้วยกบั โครงการท&ีจะนํามาใช้แก้ปัญหาคะแนนจะเป็น 0
4) ทรัพยากร (Resources = R) คือการพิจารณาการช่วยเหลือท&ีจะได้รับจากบุคลากร

ทงัJ จากฝ่ ายรัฐและเอกชน รวมทงัJ ความเป็นไปได้ของเครื&องมือทงัJ ภายในและภายนอก
ชมุ ชน
5) ความเป็ นไปได้ทางกฎหมาย (Legality = L) คือการพิจารณาการสนับสนุนของ
กฎหมายหรือนโยบายวา่ จะมีการสนบั สนนุ โครงการมากน้อยเพียงไร
การคํานวณองค์ประกอบ D ให้นําคะแนนแตล่ ะปัจจยั (PEARL) มาคณู กนั ดงั นนัJ หากคะแนนปัจจยั
หนง&ึ ปัจจยั ใดเป็น 0 จะทําให้องค์ประกอบ D มีคา่ เป็น 0 โดยสตู รในการคํานวณคือ

Basic Priority Rating (B.P.R.) = (A+B)C
3

Overall Priority Rating (O.P.R.) = (A+B)C D
3

3.4.2 วิธีการกระบวนการกลุ่ม (nominal group process) เป็นการนํากระบวนการกลมุ่ มา
ใช้ในการจดั ลําดบั ความสําคญั ปัญหา เพ&ือให้คนในชุมชนมีส่วนร่วมในการวิเคราะห์ปัญหาและตดั สินใจ
เลือกแก้ปัญหาด้วยตนเองตามลําดบั ความสําคญั ปัญหาก่อนหลงั กระบวนการนีจJ ึงใช้ได้ดีมากในการให้
ชุมชนตดั สินใจเอง วิธีการนีอJ าจเร&ิมด้วยการให้คนในชุมชนที&เข้าร่วมกระบวนการแสดงความคิดเห็นหรือ
ระบุว่าในชุมชนมีปัญหาสุขภาพอะไรบ้าง วิธีการนีเJ รียกว่า “Listing technique” จากนันJ ให้ผู้เข้าร่วม
กระบวนการลงคะแนนเพื&อตดั สินใจเลือกประเด็นปัญหา ความต้องการที&มีความสําคญั และตรงต่อความ
ต้องการมากท&ีสดุ เป็นอนั ดบั แรก เรียนวธิ ีการนีวJ า่ “Ranking technique”

3.4.3 วิธีการของคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล วิธีนีเJ ป็นวิธีท&ีนิยมใช้
เนื&องจากมีองค์ประกอบท&ีตดั สนิ ใจและคํานวณออกมาเป็นคะแนนที&ตดั สนิ ง่าย ไมม่ ีความสลบั ซบั ซ้อน โดย

137

มีองค์ประกอบ 3 อยา่ ง แตล่ ะองค์ประกอบให้คะแนนจาก 0-4 หรือ 1-5 รวมคะแนนที&ได้ทงัJ หมด แล้วนํามา
เรียงลาํ ดบั จากคะแนนท&ีได้สงู สดุ ลงมา องค์ประกอบท&ีพิจารณา ได้แก่

1) องค์ประกอบด้านสุขภาพของคนในชุมชน พิจารณาจาก
ขนาดของปัญหา (Size of problem or prevalence) พิจารณาจากปัญหาหรือโรคที&เกิด
ในชมุ ชน เมื&อเกิดปัญหานนัJ ขนึ J จะมีผ้ปู ่ วยจํานวนมากน้อยเพียงใดท&ีจะได้รับผลกระทบ หากเป็นโรคติดตอ่
สามารถติดต่อหรือแพร่กระจายง่ายหรือไม่ แนวโน้มของการเกิดโรคเป็นอย่างไร เช่น เด็กอายุ •-– ปี ป่ วย

ด้วยโรคระบบทางเดินหายใจส่วนต้น ‡— คน คิดเป็นร้อยละ š‡.– จากนนัJ นํามาพิจารณาให้คะแนนตาม
เกณฑ์ดงั นี J

ขนาดของปัญหา คะแนน

ไมม่ ีเลย 01
มากกวา่ ร้อยละ 0 ถงึ 25 12

ร้อยละ 26 ถงึ 50 23
ร้อยละ 51 ถงึ 75 34

ร้อยละ 76 ถงึ 100 45

ความรุนแรงของปัญหา (Severity of problem) พิจารณาวา่ ปัญหานนัJ หากเกิดขนึ J จะ
ทําให้มีอตั ราตายหรือความทพุ พลภาพมากน้อยเพียงไร หรือทําให้เกิดการระบาดแพร่กระจายเชือJ และเกิด
ผลเสยี แก่ครอบครัว ชมุ ชน และประเทศชาติอยา่ งไร จากนนัJ พิจารณาให้คะแนนตามเกณฑ์ดงั นี J

ความรุนแรงของปัญหา คะแนน

ไมม่ ีความรุนแรงเลย 01
มีบ้างเลก็ น้อยไมร่ บกวนตอ่ สขุ ภาพ (มากกวา่ ร้อยละ 0 ถงึ 25) 12
มีอนั ตรายหรือเหลอื ร่องรอยความพิการ (ร้อยละ 26 ถงึ 50) 23
มีอตั ราตายสงู (ร้อยละ 51 ถงึ 75) 34
ตายทกุ ราย (ร้อยละ 76 ถงึ 100) 45

2) องค์ประกอบด้านความยากง่ายในการแก้ปัญหา (Ease of management of
susceptibility to management) พิจารณาใน – ด้าน ดงั นี J

• ด้านวิชาการ ความรู้ด้านวิชาการที&สามารถนํามาใช้ในการแก้ปัญหานนัJ มีหรือไม่ เช่น
การฉีดวัคซีนป้องกันโรค ยารักษาโรคโดยตรง เป็นต้น หรืออาจพิจารณาด้านผู้ปฏิบัติว่ามีความรู้
ความสามารถมากน้อยเพียงใด หากมีไม่เพียงพอต้องพิจารณาหาหน่วยงานอ&ืนๆ ท&ีสามารถให้ความ
ชว่ ยเหลอื ได้

• ด้านบริหาร คํานึงถึงบคุ ลากร (Man) งบประมาณ (Money) วสั ดอุ ปุ กรณ์ (Material)
และการบริหารจดั การ (Management) รวมทงัJ นโยบายของผ้บู ริหารวา่ มีสว่ นสนบั สนนุ หรือไม่

• ด้านระยะเวลา ต้องคํานงึ วา่ การแก้ไขปัญหานนัJ ต้องใช้เวลานานเพียงใด มีเวลาเพียง
พอท&ีจะแก้ไขปัญหานนัJ ๆ หรือไม่

• ด้านกฎหมาย พิจารณาจากวิธีการแก้ปัญหาท&ีจะจดั ทํานีวJ ่าขดั กับกฎหมายหรือกฎ
กตกิ าของชมุ ชนหรือไม่

138

• ด้ านศีลธรรม พิจารณาว่าการดําเนินการแก้ ปั ญหาขัดกับศีลธรรมจรรยา
ขนบธรรมเนียม ประเพณีหรือไม่ เช่น ปัญหาการตงัJ ครรภ์ท&ีไม่พงึ ประสงค์จะแก้ไขโดยการทําแท้งได้หรือไม่
เป็นต้น

จากนนัJ นําผลการพิจารณาแตล่ ะด้านมาพิจารณาให้คะแนนตามเกณฑ์ ดงั นี J

ความยากง่ายในการแก้ปัญหา คะแนน

ไมม่ ีทางแก้ไขได้เลย 01
ยากมาก 12
ยาก 23
งา่ ย 34
งา่ ยมาก 45

3) องค์ประกอบด้านความสนใจหรือความตระหนักของชุมชนทPีมีต้อปัญหานัน4
(Community concern) หมายถึง คนในชมุ ชนเห็นความสําคญั ของปัญหาที&เกิดขึนJ นนัJ มากน้อยเพียงใด มี
ความวิตกกงั วล หรือต้องการแก้ไขหรือไม่ การประเมินความร่วมมือของชมุ ชนอาจได้จากการสงั เกต การ

สมั ภาษณ์ การพดู คยุ หรือใช้แบบสอบถาม โดยพิจารณาให้คะแนนตามเกณฑ์ ดงั นี J

ความร่วมมือความสนใจหรือความวติ กกังวลต่อ คะแนน
ปัญหาของชุมชน

ไมส่ นใจหรือไมว่ ิตกกงั วลเลย 01

สนใจน้อย/ ร้อยละ 0 ถงึ 25 12
สนใจปานกลาง/ ร้อยละ 26 ถงึ 50 23

สนใจมาก/ ร้อยละ 51 ถงึ 75 34
สนใจมากท&ีสดุ / ร้อยละ 76 ถงึ 100 45

การรวมคะแนน ทาํ ได้ 2 วธิ ีคือ
1) วิธีบวก นําคะแนนแต่ละหวั ข้อมาบวกกัน ซึ&งผลที&ได้อาจเห็นความแตกต่างของแต่ละปัญหาได้
น้อย เนื&องจากความกว้างของคะแนนแคบ

2) วิธีคูณ นําคะแนนแต่ละหวั ข้อมาคณู กนั วิธีนีจJ ะทําให้เห็นความกว้างของปัญหาได้ชดั เจนขึนJ แต่
คะแนนท&ีให้ในแต่ละหวั ข้อนนัJ คะแนนตํ&าสดุ ควรเป็น 1 เนื&องจากหากให้คะแนน 0 แล้วเม&ือนําคะแนนมา

คณู กนั จะได้คะแนนรวมเทา่ กบั 0
จากผลคะแนนรวมจะทําให้ทราบปัญหาอนั ดบั แรกและรองลงไป ในกรณีที&คะแนนเทา่ กนั ให้พิจารณา

ในรายละเอียดรวมกบั ชมุ ชนอีกครังJ (ตารางท&ี 4.3)

139

ตารางทPี 4.3 ตวั อยา่ งการให้คะแนนเพ&ือจดั ลาํ ดบั ความสาํ คญั ของปัญหา คะแนนรวม
การจดั ลาํ ดบั ความสาํ คัญของ วธิ ี วธิ ี
ปัญหา คูณ บวก

ปัญหา
ขนาดของ
ัปญหา
ความ ุรนแรง
ของ ัปญหา

ความยาก ่งายใน
การแ ้ก ัปญหา
ความ ่รวม ืมอ ่ตอ
ัปญหาของ
ุชมชน

1. เด็กอายุ 0-5 ปีป่ วยด้วยโรคระบบ 2 2 4 1 16 9
ทางเดนิ หายใจสว่ นต้น 3 48 11
5 120 14
2. ประชากรวัยแรงงานมีปัญหาปวด 2 2 4 3 48 11
เม&ือยกล้ามเนือJ 1 16 9

3. ประชากรอายุ 35 ปีขึนJ ไปมีแนวโน้ม 2 4 3
ป่วยเป็นโรคเบาหวานเพิ&มมากขนึ J

4. ประชากรวัยแรงงานป่ วยด้วยโรค 2 2 4
กระเพาะอาหารอกั เสบ

5. ประชากรวัยแรงงานในหมู่บ้านมี 2 2 4
พฤตกิ รรมการใช้สารเคมีในการเกษตร

4) วิธีการของ 5D วิธีนีสJ ามารถใช้ในการจดั ลําดบั ความสําคญั ของปัญหาโดยใช้หลกั การทาง
วิทยาการระบาด เกณฑ์ในการพิจารณา ได้แก่

• Death คือ จํานวนคนที&ตายจากปัญหาหรืออตั ราตาย (mortality rate) ในชมุ ชน

• Disability คือ จํานวนคนที&พิการจากปัญหาหรือปัญหานันJ มีแนวโน้มท&ีก่อให้เกิดความ
พิการกบั คนในชมุ ชนได้มากเพียงไร

• Disease คือ จํานวนคนท&ีป่วยจากปัญหาหรืออตั ราป่วย (morbidity rate)ในชมุ ชน

• Discomfort คือ ความรู้สึกไม่สขุ สบายของคนในชุมชนและการตระหนกั ถึงความสําคญั
ของปัญหาที&เกิดขนึ J ในชมุ ชน

• Dissatisfaction คือ ความรู้สกึ ไม่พงึ พอใจของคนในชมุ ชนตอ่ ปัญหาที&เกิดขนึ J และต้องการ
ท&ีจะแก้ไขปัญหา

เน&ืองจาก Discomfort และ Dissatisfaction นนัJ เป็นความรู้สึกของคนในชมุ ชนดงั นนัJ คะแนนจาก
ส่วนนีจJ ึงควรมาจากชมุ ชน การให้คะแนนในแต่ละเกณฑ์นนัJ ผ้ดู ําเนินงานจะเป็นผ้กู ําหนดขึนJ เช่น คะแนน
3=มาก 2=ปานกลาง และ 1=น้อย แล้วเอาคะแนนทงัJ หมดมารวมกนั เรื&องใดมีคะแนนมากถือว่ามีลําดบั
ความสาํ คญั ของปัญหาสงู

สรุปการวเิ คราะห์ข้อมูลชุมชน
กระบวนการศกึ ษาชมุ ชนต้องอาศยั องค์ความรู้ภายใต้กระบวนทศั น์เก&ียวกบั สขุ ภาพใน 2 ทางคือ

(†) กระบวนทศั น์ทางวิทยาศาสตร์ระบาดวิทยาและการเฝ้าระวงั โรค และ (‡) กระบวนทศั น์ทางสงั คม
วฒั นธรรมและวิถีชีวิตของชุมชนเพื&อเป็นแนวทางในการทําความเข้าใจ“ชุมชน”ในทุกแง่มมุ โดยเฉพาะที&
เก&ียวกบั วิถีชีวิตและสขุ ภาพของคนในชมุ ชน กระบวนการศกึ ษาชมุ ชนอาศยั การเรียนรู้ข้อมลู โดยใช้วิธีการ

140

ตา่ งๆหลายวิธีที&สามารถสร้างความสมั พนั ธ์เช&ือมโยงระหวา่ งผ้ศู กึ ษาและผ้คู นในชมุ ชนได้อยา่ งกลมกลืนทํา
ให้โอกาสในการทํางานร่วมกนั มีมากขนึ J เพราะการบริการสขุ ภาพท&ีมีประสทิ ธิภาพและคณุ ภาพสว่ นหนง&ึ นนัJ
มาจากการที&บริการสอดรับกบั วิถีชีวิต ความคิดและสงั คมวฒั นธรรมของผ้ใู ช้บริการ การจดั บริการสขุ ภาพ
ในชมุ ชนต้องอาศยั ประสทิ ธิผลของการศกึ ษาชมุ ชนเป็นฐานสาํ คญั

การศึกษาชุมชนสามารถชีใJ ห้เห็นมิติต่างๆของชุมชน คือ (1) วิถีชีวิตและภาวะสุขภาพรวมทังJ
ปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพของคนในชมุ ชน (2) วิถีชีวิตและสภาพแวดล้อมท&ีเป็นปัจจยั เสี&ยงหรือ
คกุ คามต่อภาวะสขุ ภาพของคนในชมุ ชน และ (3) โครงสร้างของชมุ ชนที&เอือJ ต่อการจดั การปัญหาสขุ ภาพ
หรือปัจจยั ที&คกุ คามตอ่ ภาวะสขุ ภาพของคน

4. การออกแบบบริการสุขภาพชุมชน
4.1.แนวคดิ
หลงั จากที&ได้เรียนรู้ร่วมกบั ชมุ ชนในเรื&องปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพของชมุ ชนผ่าน

กระบวนการศึกษาชุมชน การสงั เคราะห์ปัญหาและความต้องการด้านสุขภาพ ตลอดจนการจัดลําดับ
ความสําคญั ของปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพ ซ&ึงในปัจจุบนั กระบวนการจดั ลําดบั ความสําคญั
ขนึ J อย่กู บั บทบาทหน้าท&ีของผ้เู กี&ยวข้องในการจดั การกบั ปัญหาหรือความต้องการด้านสขุ ภาพ โดยมีชมุ ชน
เป็นเจ้าภาพของการจัดการ มีพยาบาลชุมชนหรือวิชาชีพผู้ให้บริการสุขภาพเป็นผู้สนับสนุน ดงั นันJ การ
ตดั สินใจในการจดั การของชมุ ชน หากขึนJ อย่กู บั กระบวนการเรียนรู้ปัญหาของชมุ ชนแล้วเช&ือว่าการจดั การ
จะเกิดขึนJ จากการตดั สินใจของชุมชนเองซึ&งการให้ชุมชนมีส่วนเกี&ยวข้องร่วมในกระบวนการทังJ หมดจึง
สําคญั ยิ&ง (Torres, 1998; Reid, 2000) ส่วนการออกแบบบริการสขุ ภาพนันJ อาศยั หลกั ของการวิเคราะห์
และสงั เคราะห์งานวิจยั นวตั กรรมการบริการสขุ ภาพ รวมถงึ ความรู้ทางทฤษฎี มาประยกุ ต์ใช้ในการจดั การ
ปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพท&ีผ่านกระบวนการวิเคราะห์โดยชมุ ชนมีสว่ นร่วม ทงัJ นีบJ ริการสขุ ภาพ
ต้องครอบคลมุ บริการสขุ ภาพเพ&ือสง่ เสริมสขุ ภาพ ปอ้ งกนั โรค รักษา และฟื นJ ฟู ท&ีมีความต่อเน&ืองและอย่าง
เป็นองค์รวม (National Library of Medicine, 2001; Pursey, 1995)

4.2.หลักการสาํ คัญในการออกแบบบริการสุขภาพชุมชน ประกอบด้วย
4.2.1. การสงั เคราะห์ธรรมชาติของปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพท&ีครอบคลมุ โดยอาศยั

กระบวนการเรียนรู้จากการศึกษาชุมชน การวิเคราะห์โดยใช้ Web of causation และการทํางานร่วมกับ
ชุมชน แสดงให้เห็นผลกระทบต่อสขุ ภาพคนในชุมชนโดยเฉพาะประชากรเป้าหมายหลกั ว่าเป็นใครบ้าง
กลุ่มอายุ เพศ ลกั ษณะการเกิดปัญหาสุขภาพ เป็นแบบกระจายหรือเป็นเฉพาะกลุ่ม ปัจจัย สาเหตุหรือ
ปัจจัยคุกคามทงัJ ที&เป็นส่วนที&เก&ียวกับลกั ษณะทางประชากร พฤติกรรมของคน ความคิด ค่านิยม ความ
เข้าใจของชมุ ชน สงั คมวฒั นธรรม วิถีชีวิต การประกอบอาชีพ นโยบายของรัฐ ระบบการจดั การท&ีเกี&ยวกบั
สขุ ภาพทงัJ ของรัฐและของชมุ ชน ตลอดจนแหลง่ ทรัพยากรท&ีเป็นศกั ยภาพหรือทนุ ทางสงั คมท&ีสนบั สนนุ หรือ
เอือJ ให้ชมุ ชนสามารถจดั การปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพของชมุ ชนได้

4.2.2. การกําหนดผลลพั ธ์ของการจดั การปัญหาหรือความต้องการด้านสขุ ภาพท&ีเป็นเป้าหมาย
สําคัญท&ีสุด ทังJ นีวJ ิเคราะห์เทียบเคียงกับมาตรฐานของการบริการสุขภาพในชุมชนที&แสดงลกั ษณะของ
บริการสุขภาพที&สําคัญสําหรับประชากรในชุมชน บริการสุขภาพในชุมชนท&ีเป็นองค์รวม ต่อเน&ืองและ
ผสมผสานทงัJ การป้องกนั โรคและการเจ็บป่ วย การส่งเสริมสขุ ภาพ การรักษาและการฟื นJ ฟูสภาพ รวมถึง
แนวปฏิบัติในการให้บริการสุขภาพแต่ละลักษณะ ทังJ นีอJ าศัยการวิเคราะห์และสงั เคราะห์เชื&อมโยงกับ
ปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพในแตล่ ะชมุ ชน

141

4.2.3. การกําหนดวิธีในการดําเนินการหรือให้บริการสขุ ภาพตามลกั ษณะบริการท&ีสอดรับกบั
ปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพแต่ละประเด็นอย่างครอบคลมุ โดยอาศยั ความรู้เก&ียวกบั นวตั กรรม
ต่างๆ วิธีการแก้ไขและวิธีการจัดการในการให้บริการสุขภาพต่างๆ ท&ีได้มีการศึกษาวิจัยมาแล้วว่ามี
ประสิทธิภาพและก่อให้เกิดคณุ ภาพ รวมทงัJ กิจกรรมแนวนโยบายและมาตรการ ถือเป็นกระบวนการยก
ร่างกรอบแนวคดิ ในการจดั การกบั ปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพนน&ั เอง

4.2.4. การเลือกลกั ษณะการดําเนินการซ&ึงเป็นไปได้หลายรูปแบบได้แก่ โครงการหรือกิจกรรม
การบริการสขุ ภาพเป็นรายบคุ คล ครอบครัว กลมุ่ คน โดยภาพรวมต้องสะท้อนแนวคิดของการจดั การท&ีเป็น
องค์รวม ตอ่ เนื&องและผสมผสานมิตขิ องการดแู ลสขุ ภาพสาํ หรับปัญหาหรือความต้องการด้านสขุ ภาพนนัJ ๆ

4.2.5. การกําหนดกระบวนการในการดําเนินโครงการหรือกิจกรรมบริการสขุ ภาพที&ครอบคลมุ
ถึงการประเมินผล เพ&ือเป็นการสะท้อนให้เห็นผลลพั ธ์ท&ีเกิดขนึ J ทงัJ สว่ นท&ีเป็นประสิทธิผลของการดําเนินการ
สว่ นที&เป็นข้อชีบJ ง่ ในการดําเนินการตอ่ เน&ืองและสว่ นที&เป็นบทเรียนของชมุ ชนและผ้ใู ห้บริการ

4.3. ลักษณะบริการสุขภาพในชุมชน
กระบวนการพยาบาลชุมชนเป็นกระบวนการท&ีเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ บุคคล ครอบครัว

กลมุ่ คนและชมุ ชน เพื&อให้ (1) สามารถดแู ลสขุ ภาพตนเองได้ (‡) ใช้ปัญญาในการกลนั& กรองปัจจยั ท&ีสง่ ผล
กระทบต่อสขุ ภาพของตน ครอบครัว กล่มุ คนและชุมชนโดยรวม และ (‰) สามารถประเมินภาวะเสี&ยงต่อ
การเจ็บป่ วยและสามารถแสวงหาบริการท&ีจําเป็น เม&ือต้องใช้วิธีการรักษาในระดบั ท&ีไม่สามารถกระทําได้
ดังนันJ เพ&ือให้เกิดภาวะสุขภาพแบบองค์รวมทังJ สองทิศทางคือ (†) ภาวะสุขภาพท&ีเป็นองค์รวมและการ
จดั การกบั การเจ็บป่วย และ (‡) การพฒั นาสขุ ภาพแบบองค์รวม การให้บริการสขุ ภาพชมุ ชนที&เป็นแบบองค์
รวมมีลกั ษณะอย่างน้อย 2 ลกั ษณะ คือ (1) การบริการหรือการดแู ลโดยตรง และ (2) กิจกรรมการเสริม
พลงั บคุ คล ครอบครัว กลมุ่ คน และชมุ ชน (ตารางท&ี ‹.4)

142

ตารางทPี 4.4 ตวั อยา่ งบริการสขุ ภาพตามบทบาทหน้าท&ีของบคุ ลากรหนว่ ยบริการสขุ ภาพในชมุ ชน

ลักษณะของบริการการดแู ล
สุขภาพชุมชนโดยบุคลากร การบริการ/ การดแู ล/ กจิ กรรม
ด้านสุขภาพ

การบริการ/ การดแู ลโดยตรง § การค้นหาและเฝา้ ระวงั โรคหรือการเจ็บป่วยในพืนJ ที& เชน่
การตรวจสขุ ภาพ การตรวจคดั กรองโรค

§ บริการดแู ลสขุ ภาพสตรีวยั เจริญพนั ธ์ุ สตรีตงัJ ครรภ์และการ
ทําคลอด

§ บริการรักษาโรคเบือJ งต้น การจดั การกรณีฉกุ เฉินและ
อบุ ตั เิ หตุ

§ การดแู ลเพ&ือร่วมบําบดั รักษาอาการและโรคแทรกซ้อน

§ การกํากบั ตดิ ตามการใช้ยาท&ีจําเป็น

§ การใช้อปุ กรณ์ชว่ ย เคร&ืองชว่ ยตา่ งๆ

§ การดแู ลในระยะสดุ ท้ายเพ&ือประคบั ประคองและลดอาการ
เจ็บป่ วย

กิจกรรมการเสริมพลงั บคุ คล § การชว่ ยเหลอื ในการดแู ลตนเอง
ครอบครัว กลมุ่ และชมุ ชน § การสนบั สนนุ ข้อมลู กลมุ่ ชว่ ยเหลอื กนั

§ การให้คําปรึกษาในการตดั สนิ ใจของผ้ปู ่วย ครอบครัว หรือ
ชมุ ชน

§ การเสริมพลงั ผ้ดู แู ล คนในครอบครัว และอาสาสมคั รของ
ชมุ ชน โดยการอบรม แลกเปลยี& นประสบการณ์การดแู ลใน
รูปแบบตา่ งๆ

§ การสนบั สนนุ ข้อมลู เชิงประจกั ษ์ให้องค์กรหลกั ในชมุ ชนเพ&ือ
หาทางออกของปัญหาสขุ ภาพ เชน่ การทําแผนตําบล การ

จดั ตงัJ กลมุ่ ออมทรัพย์ กลมุ่ เกษตรอินทรีย์ เป็นต้น

§ การสนบั สนนุ การจดั ตงัJ กลมุ่ ชว่ ยเหลอื กนั องค์กรชมุ ชน เชน่
แกนนําตา่ งๆ หรือผ้นู ําที&ไมเ่ ป็นทางการของชมุ ชน เป็นต้น

เพ&ือให้สอดรับกบั ปรัชญาการพฒั นาภาวะสขุ ภาพชมุ ชนแบบองค์รวม ขนิษฐา นนั ทบตุ ร และคณะ
(2544) เสนอลกั ษณะบริการสขุ ภาพในชมุ ชนที&สาํ คญั ไว้ ดงั นี J

1) เป็นบริการท&ีเน้นประชากรในชุมชน โดยดําเนินการในหลายระดบั คือ บุคคล ครอบครัวและ
กลมุ่ คนท&ีเป็นเปา้ หมาย ได้แก่

†.†) บริการสขุ ภาพที&บ้าน โรงพยาบาล โรงเรียน สถานประกอบการหรือที&ทํางาน เน้นท&ีคนใน
ทกุ สภาพแวดล้อมโดยวิเคราะห์ถงึ ความต้องการด้านสขุ ภาพของคนเป็นหลกั

†.‡) บริการสขุ ภาพมีผ้ใู ช้บริการเป็นศนู ย์กลางและอาศยั ครอบครัวเป็นหลกั ทงัJ ในการวิเคราะห์
สภาพความต้องการด้านสขุ ภาพและ การจดั การกบั ความเจ็บป่วยและการพฒั นาภาวะสขุ ภาพ

143

2) ให้บริการสุขภาพอย่างต่อเนื&องโดยสามารถสื&อสารกับผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการรายอื&น
ตลอดจนบคุ คลหรือองค์กรที&เกี&ยวข้องได้

2.1) เป็นบริการที&สามารถเช&ือมโยงข้อมูลการจัดการกับการเจ็บป่ วยและการพัฒนาภาวะ
สขุ ภาพท&ีเกิดขึนJ จากแนวคิดเกี&ยวกบั การจดั การการเจ็บป่ วยและการพฒั นาภาวะสขุ ภาพที&หลากหลาย ผู้
ให้บริการด้านสขุ ภาพหลายคน ตลอดจนลกั ษณะการบริการสขุ ภาพหลายรูปแบบ

2.2) เป็ นบริการที&เน้ นหลักฐานการบริการที&อ้ างอิงได้ และการส&ือสาร การส่งต่อที&มี
ประสทิ ธิภาพ

3) ให้ประชาชนมีสว่ นร่วมในการจดั การบริการ
3.1) เป็นบริการสขุ ภาพท&ีเปิดโอกาสให้ประชาชนหรือผ้ใู ช้บริการเป็นศนู ย์กลางในการจดั การ

โดยมีพยาบาลเป็นผ้สู นบั สนนุ และให้คําปรึกษา
3.2) ประชาชนร่วมกบั พยาบาลในการวิเคราะห์ความต้องการด้านสขุ ภาพและวางแผนจดั การ

การเจ็บป่วยและการพฒั นาภาวะสขุ ภาพตนเอง ตลอดจนดําเนินการเพื&อดแู ลสขุ ภาพตนเองอยา่ งตอ่ เนื&อง
3.3) เป็นบริการที&เกิดจากการวิเคราะห์สภาพความต้องการด้านสุขภาพของผู้ใช้บริการ

เฉพาะเจาะจงบนพืนJ ฐานทางสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ความคิดและแบบแผนการดําเนินชีวิตของ
ผ้ใู ช้บริการ ครอบครัวและสงั คมในท้องถ&ิน

3.4) เป็นบริการท&ีเน้นการเสริมสร้ างความเข้มแข็งด้านสุขภาพแก่ชุมชนและการเสริมพลงั
อํานาจแก่ชมุ ชน

4) เน้นการบริการสขุ ภาพในการส่งเสริมสขุ ภาพและการป้องกนั โรค ความเจ็บป่ วย ความพิการ
และการตาย

4.1 ) เป็นบริการระดบั พืนJ ฐานในการสง่ เสริมให้ประชาชนสามารถมีพฤติกรรมในการดแู ลและ
พฒั นาภาวะสขุ ภาพของตนได้

4.2 ) เป็นบริการที&ดงึ เอาแหลง่ ประโยชน์ทกุ อย่างที&มีในชมุ ชนและสงั คมมาใช้ในการจดั การกบั
ความเจ็บป่วยและการพฒั นาภาวะสขุ ภาพแบบองค์รวมได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ

‹.‰) เป็นบริการเพ&ือป้องกันโรค ความเจ็บป่ วย ความพิการและการตายได้โดยแบ่งลกั ษณะ
การบริการใน 3 ระดบั คือ

- ระดบั เบือJ งต้นเป็นเร&ืองของการลดปัจจยั เสี&ยง ท&ีทําให้เกิดภาวะเสี&ยงด้านสขุ ภาพเป็น
การปอ้ งกนั เม&ือยงั ไมม่ ีการเจ็บป่วยเกิดขนึ J

- ระดับสองเป็นการวินิจฉัยโรคหรือการบาดเจ็บตังJ แต่เร&ิมแรกรวมทังJ การดําเนินการ
ให้บริการด้านสขุ ภาพ เพื&อปอ้ งกนั หรือกําจดั ความพิการ เป็นเรื&องของการปอ้ งกนั หลงั จากเจ็บป่วยแล้ว

- ระดบั สามชว่ ยลดการเสอื& มถอย เบี&ยงเบน นําไปสกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพชีวิตโดยรวม
5) ให้บริการสขุ ภาพแบบผสมผสาน ทงัJ ในแง่ ลกั ษณะการบริการ และ ชนิดของบริการ

5.1) เป็นบริการสุขภาพโดยอาศัยหลักการแพทย์ชีวะภาพและสังคมวัฒนธรรมในการ
ประเมินสภาวะสขุ ภาพ การวินิจฉยั ปัญหาและความต้องการด้านสขุ ภาพ การวางแผน การปฏิบตั ิและการ
ประเมินผลท&ีใช้กลวิธีท&ีผสมผสาน อนั ได้แก่

- การสอน การแนะนํา การให้คําปรึกษาและการแก้ปัญหาเกี&ยวกบั สขุ ภาพ
- การกระทําต่อร่างกายและจิตใจของบุคคล รวมทังJ การจัดสภาพแวดล้อมเพ&ือการ
แก้ปัญหาความเจ็บป่วย การบรรเทาอาการของโรค การลกุ ลามของโรคและการฟื นJ ฟสู ภาพ
- การกระทําตามวิธีที&กําหนดไว้ในการรักษาโรคเบือJ งต้น และการให้ภมู ิค้มุ กนั โรค

144

- ชว่ ยเหลอื แพทย์กระทําการรักษาโรค
5.2) เป็นบริการที&ครอบคลมุ การจดั การ ให้เกิดความสมดลุ ของภาวะสขุ ภาพ 4 ด้าน คือ
สขุ ภาพทางร่างกาย สขุ ภาพจิต อารมณ์และสงั คม และจิตวิญญาณตามภาวะสขุ ภาพแบบองค์รวม


Click to View FlipBook Version