ภาษาอังกฤษม.ปลาย

Part of speech (ชนดิ ของคำ) เรารู้

คือประเภทคำตา่ งๆในภาษาองั กฤษทบ่ี ่งบอกวา่ คำนั้นมหี นา้ ทีอ่ ะไรในประโยค Part of speech
ซงึ่ ชนดิ ของคำในภาษาองั กฤษ แบ่งออกเป็น 8ชนดิ
เพอ่ื ทำใหเ้ ขา้ ใจและ
สามารถใช้คำภาษาอังกฤษ

ได้อย่างถูกตอ้ ง

Noun -คำนาม ตัวยอ่ คอื n. คอื คำทใ่ี ช้เรียกคน สตั ว์ สิ่งของ สถานท่ี กจิ กรรม หรอื ส่งิ ทเ่ี ป็นนามธรรม เชน่ ความสุข
ยกตวั อยา่ งคำนาม : ชอ่ื คน Peter, สิ่งของ Book, กิจกรรม Tennis, สิ่งทีเ่ ป็นนามธรรม Idea happiness

หนา้ ทีข่ องคำนาม : จะเปน็ ได้ทัง้ ประธาน กรรมและส่วนเตมิ เตม็ (เปน็ คำท่ใี ห้ข้อมลู เพิ่มเตมิ เก่ยี วกบั ประธาน) ในประโยค

My mother is a doctor. I bought a new car. My cousin is a student. (studentเติมเต็มcousin)
*สว่ นเติมเตม็ มกั ตามหลงั linking verb > is am are was were feel

seem sound taste*

Pronoun -คำสรรพนาม คือคำท่ีใชแ้ ทนnoun (คำนาม) โดย Pronounจะมหี ลายรูปแบบท้ังที่เปน็ ประธาน กรรม

แสดงความเปน็ เจ้าของ และสะทอ้ น Adj. Pron. Pronoun
เจ้าของ เจ้าของ สะท้อน
ประธาน กรรม

โดยเรามกั นยิ มใช้ I Me My Mine Myself
Pronoun แทนคำนามทเ่ี คย
You You Your Yours Yourself/
กล่าวถึงไปแลว้ เพอื่ ความ Us yourselves
สะดวกและกระชับ เช่น We Them
ใช้ He แทนคำนามคอื They Him Our Ours Ourselves ทำหน้าทส่ี ะท้อนเมื่อ
He Her ผกู้ ระทำได้รับผลจาก
John (ชอื่ คน) She It Their Theirs Themselves การกระทำนัน้ เอง
เชน่ I hurt myself.
It His His Himself

Her Hers Herself

Its Its Itself

ทำหนา้ ทเ่ี ปน็ ประธาน จะเป็นAdj.ที่ Pronounท่ี
เช่น I read a book. ทำหน้าที่เปน็ กรรม ทำหน้าทแ่ี สดง ทำหนา้ ที่แสดง
เชน่ You love him. ความเปน็ เจ้าของ
ความเปน็ เจา้ ของ
เช่น Your car is beautiful. เช่น This gift is yours.

*ความแตกต่างระหวา่ ง Adjectiveและ Pronoun ทท่ี ำหนา้ ที่ แสดงความเปน็ เจา้ ของท้งั ค*ู่

• pronoun ไมต่ อ้ งมีคำนามตามหลงั • Adj. ตอ้ งมคี ำนามตามหลงั

ยกตัวอย่าง: This is my pen. (Adj.) This pen is mine. (Pronoun)

Verb -คำกริยา ตวั ยอ่ คอื v. คือคำที่แสดงการกระทำ ส่งิ ท่เี กิดข้ึน หรือสภาวะตา่ งๆ เช่นคำวา่ eat, feel, watch
ข้อสังเกต : มกั ตามหลงั คำนามหรือคำสรรพนาม โดยคำกริยาในภาษาองั กฤษจะแบง่ ได้เป็น 2ชนดิ

Main verb(กริยาหลกั ) คือกรยิ าท่เี ป็นใจความหลักของประโยค **จำวา่ ถา้ ขาดไป ประโยคจะไมส่ มบูรณ์*
Helping verb(กริยาชว่ ย) คอื กรยิ าทมี่ าชว่ ยเตมิ เตม็ หรือเสรมิ ใหก้ ริยาหลกั มคี วามหมายมากขน้ึ

1

Main verb

ยกตัวอย่างเช่น : I can swim. = ฉันสามารถว่ายน้ำได้ (can เปน็ กริยาทชี่ ่วยให้ swim มีความ หมายมากขน้ึ )

Helping verb

We are planning for our trip. = พวกเรากำลงั วางแผนทริป (are=helping v. , planning=main v.)

*ขอ้ สังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ กริยาชว่ ยจะอยูห่ น้ากรยิ าหลักเสมอ*
(ประโยคท่สี มบรู ณจ์ ำเป็นต้องมกี รยิ าหลัก แตไ่ ม่จำเป็นตอ้ งมกี รยิ าช่วยเสมอไป)

Adjective -คำคณุ ศพั ท์ ตัวย่อคอื adj. คือคำท่เี อาไวใ้ ชข้ ยาย nounหรอื pronoun โดยอาจเก่ยี ว
ขอ้ งกบั คุณสมบตั ิ สภาพ สี อายุ หรอื สัญชาติของคำนาม /สรรพนามนัน้ ๆ เชน่ big good rich slow
ตำแหน่งของ Adjective : 1. วางหน้าคำนาม 2. วางหลงั linking verb

You are a good student. Your house is big.

Adverb -คำกริยาวเิ ศษณ์ ตัวยอ่ คือ adv. คือคำทใี่ ชข้ ยาย Verb, Adjective และ Adverbด้วยกันเอง (ขยายn.ไมไ่ ด)้
โดยส่วนใหญจ่ ะลงทา้ ยดว้ ย -ly เช่น quickly, slowly, happily แตบ่ างคำก็ไม่ไดล้ งทา้ ยดว้ ย -ly แต่กน็ ับเปน็ adverb

เชน่ always, never, very **ถ้าคำทลี่ งทา้ ยด้วย -ly จะแปลวา่ ”อยา่ ง...” **

Adverbทข่ี ยายv. Adverbท่ขี ยายadj. Adverbที่ขยายadv.
เช่น She is a very good เช่น They work extremely
อาจอยู่หนา้ หรอื หลงั กรยิ า
← person. หรอื - ===quickly.
ก็ได้ เช่น A turtle You are really kind.
walks slowly. หรือ This cat eats very
- happily.
กรณนี ี้ adv.จะตามหลังv.
*จะอยหู่ น้าadj.เสมอ*
I always wake up at 6a.m.
→

แต่ประโยคนี้ adv.จะอยู่หน้าv.

*คำทีล่ งท้ายดว้ ย-ly มักวางหลงั กรยิ า*

Preposition -คำบพุ บท ตวั ย่อคือ prep. คอื คำที่ใช้เชื่อมคำหรือกลุ่มคำ เพ่อื แสดงความสมั พนั ธข์ องคำในประโยค
(จำไว้วา่ บพุ บทเชื่อมคำ สันธานเชื่อมประโยค) มกั เปน็ คำแสดงเวลา สถานท่ี ทศิ ทาง
ยกตวั อยา่ งคำบุพบท : about, after, as ,at, before, by, for, in, of, to, with
ยกตวั อย่างเช่น : I normally get up at 6 o’clock. (เป็นคำบพุ บททีแ่ สดงเวลา) The book is on the table. (บอกสถานท)ี่

Conjunction -คำเช่อื ม ตวั ย่อคอื conj. คือคำทใ่ี ช้เชอ่ื มคำ วลีหรอื ประโยคเขา้ ดว้ ยกนั แบ่งเปน็ สามชนิดคอื

Coordinating, Subordinating and Correlative Conjunctions
ยกตวั อย่างคำเช่ือม : and, but, or, while(ในขณะท่)ี , although(ถึงแม้วา่ )
ยกตัวอย่างเช่น : เชื่อมคำ- I love mom and dad. เช่ือมวลหี รอื กลมุ่ คำ- We chat on Facebook, for its easy.

เชื่อมประโยค- He hates math, but he loves biology.

Coordinating Conjunctions ใช้เชอื่ ม main clauses (ประโยคหลกั )ทีม่ ีความสำคัญพอๆกนั ท้งั สองสว่ น
ให้อยู่ในประโยคเดียวกนั หรือสว่ นเดยี วกนั (main cl. > coordinating conj > main cl.)

คำเชอ่ื มในประเภทนเ้ี ป็นคำเชอื่ มทเี่ ปน็ คำเดยี่ วโดยจะประกอบด้วย F A N B O Y S (อ่านว่า แฟนบอยส์)

2

F = For (แปลวา่ because) A = And (และ) N = Nor (แปลวา่ ไม/่ ไม่ใชท่ งั้ คู่)
B = But (แต่) O = Or (หรือ) Y = Yet (แตเ่ หมือนbut) S = So (ดงั นน้ั )

คำว่า and but nor และ or จะทำหน้าที่เชอ่ื มคำหรือกลุ่มคำประเภทเดยี วกนั เสมอ

เช่น The chair was old and comfortable.
L Adj. L Adj.

คำว่า for ใชแ้ สดงเหตุผล (ให้แปลวา่ เพราะวา่ เหมอื นbecause)
เชน่ They stayed late at the office, for they had work to do. =พวกเขาอยู่ทอ่ี อฟฟศิ ดกึ เพราะวา่ พวกเขามีงานที่ตอ้ งทำ
คำวา่ so ใช้แสดงผลลัพท์ แปลง่ายๆว่า ”ดงั นนั้ ” เชน่ She was sick, so she went to the doctor.

คำวา่ yet ท่เี ปน็ คำเชือ่ มจะแปลวา่ “แต”่ (หลกั การใชเ้ หมือน butเลย) เชน่ Jame works as an accountant,
yet he was trained to be a lawyer. = เจมทำงานเปน็ นกั บญั ชีแต่เขาถูกสอนมาให้เป็นนกั กฎหมาย

Correlative Conjunctions คำเชอ่ื มประเภทนี้จะมาเปน็ คู่ ไมส่ ามารถมาเด่ียวได้

หลักการใชจ้ ะเหมอื นประเภทแรกคือการเชอื่ มคำประเภทเดียวกันเข้าด้วยกัน คำเชือ่ มประเภทคำคูท่ พ่ี บบอ่ ยในข้อสอบ

Both...and... ท้งั ...และ... , not...but... ไม.่ ..แต.่ .. , either...or... ไม่ว่าจะ...หรอื ... , !!Notice:
neither...nor... ไม่...ก็จะไม่... , not only...but also... ไมเ่ พียง...แต่ยงั ...
การใช้ not only
whether...or... ไม่วา่ จะ...หรือ...
คนมักชอบสบั สนระหว่าง
not only กบั only not
ที่ถูกต้องคอื not only

เชน่ They’ll teach
not only new skills

but also new knowledge.

Subordinating Conjunctions เปน็ คำทีใ่ ช้เช่ือมประโยคใจความรองเข้ากับ ประโยคใจความหลัก

ให้เป็นหนึ่งประโยค คำเชื่อมประเภทนที้ อ่ี อกข้อสอบบ่อย

as,like เหมือน คล้ายกัน , as if /as though ราวกับวา่ , if ถา้ , unless ถา้ ...ไม่
seeing that/ provided that/ supposing that/ so long as ถ้า,

though/ although/ while/ whereas/ even though แมว้ ่า,
so that/ in order that เพอ่ื ว่า ,rather than/ sooner than อยากจะ...มากกวา่
because/ as/ since เพราะว่า เนื่องจาก, before กอ่ น, until/ till จนกระทง่ั
after หลงั จาก, once/ whereupon/ when ตง้ั แต่ครั้ง เม่ือ

ยกตวั อย่างเช่น : Malee loved singing as a child.

He burst into a high-pitched laugh, as if he’d said something funny.

Interjection -คำอุทาน ตวั ย่อคือ interj. คอื คำทใี่ ช้แสดงอารมณ์ ความรู้สกึ โดยอาจมหี รือไม่มีความหมายก็ได้

ยกตัวอย่างคำอทุ าน : Oh! Wow! (ใชเ้ ม่อื รสู้ กึ ประหลาดใจ) Oops! (ใช้เมอื่ รู้สึกตกใจเลก็ นอ้ ย) Ew!(ใช้เมื่อร้สู ึกรังเกียจ)
ยกตัวอยา่ งเช่น : Wow! You look beautiful today.

3

Countable&
Uncountable Noun

Countable Noun คำนามนบั ได้ :คำนามที่สามารถนับไดแ้ ละระบุจำนวนได้อย่างชัดเจน โดยอย่ไู ด้ทงั้ ในรปู
เอกพจน์และพหพู จน์ อีกทง้ั ไม่ว่าสิง่ น้ันจะจับต้องไดห้ รอื จบั ตอ้ งไมไ่ ด้ แตห่ ากนบั ได้คำนน้ั กจ็ ะถือวา่ เป็น Countable Noun

ส่งิ ทจ่ี บั ต้องได้ เชน่ Glass, table, chair, book, dog, clock, ring, orange

สิง่ ท่ีจับต้องไมไ่ ด้ (แต่ยงั นบั ได้) เช่น song, day, month, year, hour, minute, age, hobby, activity , assignment, job,

• Countable Noun เป็นไดท้ ัง้ เอกพจนแ์ ละพหพู จน์ เช่น glass - glasses, table - tables, chair - chairs , book - books

,dog - dogs, clock - clocks, ring - rings, orange - oranges

• Countable Noun บางคำมีการเปลย่ี นรูปจากเอกพจนเ์ ป็นพหูพจน์ เช่น man - men, woman - women

child - children, person - people

หากอยู่ในรปู เอกพจน์ หากตอ้ งการทราบจำนวน ของคำนามนบั ได้
จะถามโดยใช้ “How many?”
คำนามทน่ี บั ได้จะใช้ และตามด้วยคำนามนบั ได้พหูพจน์
a และ an นำหนา้

Uncountable Noun คำนามนับไมไ่ ด้ : คำท่ีไม่สามารถนับไดแ้ ละไม่สามารถระบุจำนวนไดอ้ ยา่ งชัดเจน
โดยคำนามท่ีนบั ไมไ่ ดอ้ าจเปน็ แนวคดิ ปริมาณต่างๆ หรือสงิ่ ทีม่ ขี นาดเล็กมากจนไมส่ ามารถนับได้ หรอื ไมม่ ีรปู รา่ งแนน่ อน
จงึ ทำให้ไมส่ ามารถนบั ได้ เชน่ ของเหลว ผง ก๊าซ

หากตอ้ งการระบุปรมิ าณของคำนามทน่ี ับไม่ได้ ตอ้ งใชค้ ำเหล่าน้ี Uncountable Noun ส่วนใหญ่จะอยูใ่ นกลุ่มตอ่ ไปน้ี

some, a lot of, much, a bit of, a great deal of • ของเหลวและก๊าซ เช่น milk, water, air, ink
• สสารที่เป็นเม็ดเลก็ ๆ เช่น bread, metal, sugar, rice
แต่ถ้าตอ้ งการใช้คำทบี่ อกปรมิ าณแบบเจาะจง ใหใ้ ช้คำเหลา่ นี้ • ชือ่ วชิ า ชอื่ ภาษา เช่น mathematics, Thai, English
a cup of, a bag of, 1kg of, 1L of, a handful of,
a pinch of, an hour of, a day of

คำนามท่ีเปน็ ไดท้ ง้ั abuse, adulthood, afternoon, age, anger, appearance, art, beauty, beer, belief
breakfast, cheese, chicken, childhood, college, competition, crime, culture,
Countable& death, divorce, disease, drama, duck, education, environment, evening,
Uncountable Noun

(ขึ้นอยูก่ ับบรบิ ทการใช)้ exercise, fact, faith, fear, fiction, film, fish, flavor, food, friendship,

fruit, glass, government, hair, history, innocence, jail, jealousy, language, law, liberty, life, love, lunch, man,

marriage, meat, metal, milk, morning, nature, paper, passion, people, personality, philosophy, power, reading,

religion, science, school, society, space, speech, spirit, stone, strength, teaching, temptation, theory, time, wine

4

Finite & Non-
finite Verb

Finite Verb กรยิ าแท้ คือกรยิ าทแ่ี สดงอาการหรือการกระทำของประธาน โดยในประโยคหรอื อนุประโยค

จะมกี ริยาแทเ้ พียงตัวเดยี วเทา่ นั้น • Finite Verb จะผันรูปดังนี้

ผนั ตาม subject (ประธาน) = ประธานเปน็ เอกพจน์ คำกริยาเป็นเอกพจน์โดยเติม s/es

เช่น She speaks English very well.

ผนั ตาม Tense (กาล) = กรยิ าแทจ้ ะผันตามทั้ง 12Tenses เช่น They came here yesterday.

ผันตาม Voice = active voice ประโยคทีป่ ระธานเป็นผทู้ ำกรยิ าเอง เชน่ She writes a letter.

passive voice ประโยคท่ปี ระธานเป็นผู้ถูกกระทำ เชน่ A letter is written by her.

ผนั ตาม Mood (อารมณห์ รอื ความเหน็ ของผพู้ ดู ท่พี ูดออกมาเป็นประโยค)

เชน่ The doctor recommends that he take the pills with food. ในท่ีนี้ กริยาแทค้ ือ take เพราะผันตาม subjective mood
ซ่ึงก็คือ the doctor reccommends ดงั น้ัน take จงึ ไมไ่ ด้ผันตาม he

Non-finite Verb กรยิ าไม่แท้ คือกริยาทไ่ี มไ่ ดท้ ำหน้าทีเ่ ป็นคำกริยา แตม่ รี ูปจากคำกริยา แบ่งเปน็ 3ประเภทดังน้ี

Gerund (V.ing) คอื รปู V.ing แตถ่ งึ แมร้ ูปจะเหมือนกริยาแต่ไม่ไดท้ ำหนา้ ที่ เป็นกรยิ า โดย gerundจะทำหน้าน้ดี ังนี้

• ทำหน้าที่เป็น Subject, Object และ Complement เช่น I love cooking very much. ประโยคนจ้ี ะแปลว่า ฉันรกั การทำอาหารมาก
• Gerund จะใชต้ ามหลังกรยิ าเหลา่ น้ี admit, avoid, appreciate, consider, dislike, detest, delay, deny, defer, excuse, forbid,

fancy, imagine, like, love, mind, postpone, practice, resent, risk, enjoy เชน่ She enjoys reading books. *จำให้ขึน้ ใจเลยนา้ า*

โดย Gerund ทีอ่ ยู่หลงั คำกริยาจะทำหนา้ ท่เี ปน็ กรรม แต่ยงั คงแปลว่า การ... เหมือนเดมิ

• ใชต้ ามหลงั คำเหลา่ นี้ be worth, need, busy, be opposed to, be/get accustomed to, เช่นประโยคคำถาม Would you mind giving me a pen?

can’t resist, can’t stand, feel like, help/can’t help, look forward to,

object to, be/get used to, would you mind/do you mind, how about

• ใชต้ ามหลัง Prepositions อย่างพวก on, at, in, under, of, before, after, for, about, with, without

เชน่ Do not walk in my room without taking off your shoes.

**ทรคิ คือการแปลความหมาย หากเจอรูป ing และคำนนั้ แปลว่า การ... ความ... = gerund**

To infinitive เป็นกรยิ ารปู ปกติท่ีตามหลงั to ทำหนา้ ที่เสมือนคำนาม โดยกรยิ าตอ่ ไปน้มี ักตามด้วย To infinitive

agree arrange ask begin choose continue decide fail forget hate help hope learn like love manage need offer

plan promise refuse remember start try want to + V1 5

เช่น I tried to do it again. (tried = finite verb)

Participle ทำหนา้ ท่ีเป็น Adjective ขยายคำนาม แตม่ รี ปู เป็นกรยิ า โดยจะแบง่ เปน็ 2รปู แบบคือ
Present participle และ Past participle

~

• Present participle มีรปู เปน็ v.ing เชน่ That is an exciting movie.
• Past participle มรี ูปเปน็ v.-ed เชน่ The broken window was replaced.
:• หากเปน็ กรรมในประโยค
Relative นยิ าม relative pronoun: คือคำสรรพนามทใ่ี ช้แทนคำนาม
Pronoun&Clause ดา้ นหน้าหรือคำนามทีถ่ ูกกลา่ วถงึ ไปแลว้ และทำหนา้ ทีเ่ ชือ่ ม
ประโยคหน้าและหลังเข้าด้วยกันให้เป็นประโยคเดยี ว

นอกจากทำหน้าทเี่ ชอื่ มประโยค ยงั ต้องระบลุ งไปอีกว่าตวั มนั เองทำหนา้ ท่เี ป็นประธาน

กรรม หรือเจ้าของในประโยค • หากเป็นเจา้ ของในประโยค

• หากเป็นประธานในประโยค

ประธานท่เี ป็นคนจะใช้ ประธานท่เี ปน็ สงิ่ ของจะใช้ เจา้ ของทเี่ ปน็ คนใช้ whose เจ้าของทเี่ ป็นสตั ว์ สงิ่ ของ
ใช้ whose/of which
who / that Which / that

กรรมท่ีเปน็ คนใช้ กรรมทเ่ี ปน็ สงิ่ ของ กรรมที่เปน็ สถานท่ี

who/whom/that ใช้ which/that ใช้ where

กรรมที่เปน็ เวลา กรรมทเ่ี ปน็ เหตผุ ล

ใช้ when ใช้ why

หลักการของ Relative pronouns คือการวาง Relative pronouns ตดิ กบั คำนามท่ีเราจะใชข้ ยาย
หรอื ใชแ้ ทน เช่น The boy stole the bike. The boy is at the door. จะเหน็ วา่ ในประโยคน้มี ีประธานเป็นคน จงึ ต้องใช้ who

เพื่อเชือ่ มสองประโยคจะได้ว่า The boy who stole the bike is at the door.

สว่ นนยิ าม relative clause: เรยี กว่าอนุประโยค เป็นส่วนประโยคที่ตามหลงั relative pronoun
โดยจะทำหน้าทเ่ี หมอื น Adjective คือการไปขยายคำนามท่อี ยขู่ า้ งหน้าเพื่อให้ไดใ้ จความท่สี มบูรณ์

อย่างตัวอย่างประโยคดังกลา่ ว The boy who stole the bike is at the door. อาจกล่าวได้ว่า
...is at the door คอื relative cl.

ในแกทมกั วดั จรงิ ๆแล้วไมใ่ ชเ่ ลยค่ะ นอ้ งๆอยา่ ลืมว่าประโยคน้ีมาจากการรวมกนั ของสองประโยค
Subject&V. Agreement
คือ The boy stole the bike. The boy is at the door. ดงั นั้นกรยิ าในอนปุ ระโยค
ซ่ึงคนมักถกู หลอกว่ากรยิ าที่ ต้องผนั ตาม the boy ไม่ใช่ the bike
อยูใ่ นอนปุ ระโยคหรอื relative cl.
6ต้องผนั ตามคำนามตวั หน้า

คอื bike

ยกตวั อยา่ งเพมิ่ เติม
ประโยคปกติ I told you about the woman. She lives next door.

ประโยคท่ใี ช้ relative pronoun I told you about the woman who lives next door.

กริยาทต่ี อ่ จาก สรุปไดด้ ังน้ี : เราใช้ relative pronoun

relative pronoun เป็นตวั เชื่อมประโยค relative cl. เขา้ ดว้ ยกนั
เพอื่ ขยายคำนามขา้ งหน้าให้ได้ใจความท่ชี ัดเจน
กต็ อ้ งผันตามคำนามท่ี และสมบรู ณ์ อกี ทัง้ การใช้โครงสรา้ ง
relative pronoun ขยาย ลกั ษณะนที้ ำให้เรามีทักษะการเขยี นทซ่ี บั ซ้อนข้ึน

อยา่ งในปย.น้ีผนั ตาม
the woman

!! Notice การใช้ to which, for which, etc.

มนั เปน็ หลกั เดียวกบั relative pronoun แตจ่ ะมี prepositionเข้ามาแทรก และจะตามด้วยประโยคเลย ไม่ได้ตามด้วย relative cl.

to which จากประโยคปกติ We are moving to a new town. The town is very big.
ประโยคทใ่ี ช้ relative pronoun The new town to which we are moving is very big.

สามารถใชแ้ ทน where ได้
In which เชน่ There are many universities in the U.S. and other countries in which / where AI research

is being conducted.

with which จากประโยคปกติ I deal with a large company. The company is in Japan.
ประโยคท่ีใช้ relative pronoun The large company with which I deal is in Japan.

for which จากประโยคปกติ Jame works for an IT company. The IT company has 100workers.
ประโยคทใ่ี ช้ relative pronoun The IT company for which Jame works has 100 workers.

Order of Adjective (วิธีการจัดเรียงคำคณุ ศัพท)์

Opinion adjective มกั ขนาด อายุ ลกั ษณะ สี ที่มา วัสดทุ ่ที ำ คำนามทข่ี ยาย
มากอ่ น Fact adjective เสมอ เชน่ A tiny old diamond-shaped green Chinese jade necklace.
เชน่ A lovely pink house. แตใ่ นบริบทจริงๆ คนไมน่ ยิ มใช้ Adjective หลายๆตัว อยา่ งมากใช้ 2-3คำ

เมื่อมี Adjective ตัง้ แต่ 7
สองคำขึน้ ไป ตอ้ งเรียงให้
เปน็ ไปตามนี้

Sentence คอื ประโยคทีส่ มบรู ณ์ โดยจะส้ันหรือยาวกไ็ ด้ ขน้ึ อย่กู ับวา่ เปน็
Structure sentence ประเภทไหน มี 4ประเภทด้วยกัน

Simple sentence (ประโยคความเดียว) คอื ประโยคทม่ี ี Independent clause 1 ประโยคเท่าน้ัน
มอี งค์ประกอบคือ ประธาน + กริยา แค่ตวั เดียว ไม่ว่าจะเป็นประโยคสัน้ ๆหรือยาวก็ถอื ว่าเป็นประโยคความเดียว

Dependent clause Independent clause ยกตัวอย่าง Simple sentence: I play football everyday.

คอื อนุประโยคไมอ่ ิสระ คอื อนุประโยคอสิ ระ ในประโยคมีแค่ประธาน = I และกริยา = play จึงเปน็ ความเดียว
หรือพูดงา่ ยๆคือ ประโยค ทส่ี ามารถสื่อความหมาย
ทไี่ ม่สามารถส่อื ความ
หมายได้สมบูรณ์ ไม่ ได้ และอยตู่ ามลำพังได้ **บางประโยคอาจมีกริยา 2-3ตัว แต่มนั เปน็ เพราะโครงสร้าง
สามารถอยลู่ ำพังได้ ตอ้ ง ไมต่ อ้ งพง่ึ พาประโยคอ่ืนๆ ทางภาษา แต่ใหถ้ อื วา่ มีกริยาแค่ 1ตัวทเ่ี ปน็ กริยากระทำ**
อยกู่ ับ independent cl.

เช่น They have been working for 2 hours.

Compound sentence (ประโยคความรวม) คอื ประโยคทมี่ ี Independent clause 2 ประโยคขน้ึ ไป
**ประโยคความรวมมจี ดุ เดน่ คือ มีคำเช่ือมที่เปน็ coordinating conjunction (and, but, or, so, for, nor, yet)**
เชน่ She likes dogs and I like dogs too.

เจอคำเช่อื ม coordinating ปุ้ปตอบไดเ้ ลยว่าเป็นประโยคความรวม

Complex sentence (ประโยคความซอ้ น) คือประโยคทีม่ ี Independent clause เพียง 1ประโยค แตจ่ ะมี
Dependent clause 1 ประโยค หรอื อาจมากกว่าก็ได้มาเป็นสว่ นขยาย
**ประโยคความซอ้ นมจี ดุ เดน่ คือ มคี ำเชื่อมท่เี ปน็ subordinating conjunction (ex. because, before, even though, since,

when)** เชน่ Although he had tried hard to investigate the case, he found little useful evidence.

เจอคำเชือ่ ม subordinating ปปุ้ ตอบได้เลยวา่ เป็นประโยคความซอ้ น

Compound&Complex (ประโยคความรวม ความซ้อน) คือประโยคทมี่ ี Independent clause 2 ประโยคขึน้ ไป
sentence และมี Dependent clause ต้ังแต่ 1ประโยคข้ึนไป กลา่ วคอื มที ้ังประโยค compound และ

complexปนกัน เช่น Although I don’t like cake, I bought coffee cake from the mall, and I like it.

เจอคำเชื่อม 2อนั ทงั้ subordinating และ coordinating ตอบไดเ้ ลยว่าเปน็ ประโยคความรวม ความซอ้ น

8

12Tenses

Present simple S + V1

ใช้กบั เรื่องธรรมชาติ หรือส่ิงทีเ่ ป็นความ จริงเสมอ เชน่ The sun rises in the east.
ใชก้ ับข้อเทจ็ จริงท่ัวๆไป เช่น Light travels faster than sound.
ใชก้ บั สิ่งท่ีทำเป็นนสิ ยั หรอื เปน็ กจิ วัตร เช่น I go to work every day at 7 am.

Present continuous S + v.to be + v.ing

ใชก้ บั การกระทำ สิ่งที่มีการเคล่ือนไหว ณ ขณะที่พูด เชน่ It is raining right now.
ใชก้ บั สิง่ ทีก่ ำลังจะเกดิ ข้นึ ในสัปดาห์นี้ เดอื นน้หี รอื ปนี ้ี (ทจี่ ะเกดิ ขึ้นแนน่ อนในอนาคต)
เช่น My shoes are dirty, I’m going to clean them this week. โดยจะใชโ้ ครงสร้าง S + V.to be + going to + V1 **going to=will**

Present perfect S + has/have + V3

ใชก้ บั การกระทำท่เี กดิ ในอดตี และการกระทำนั้นยงั ดำเนนิ ต่อเนื่องจนถงึ ปจั จุบันหรือ เหตกุ ารณ์ทจี่ บแลว้
ในอดตี แตย่ งั สง่ ผลจนถงึ ปจั จุบัน เช่น He has lost his key. (หายในอดีต ส่งผลถึงปจั จุบนั เพราะยังหาไม่เจอ)

ใชก้ บั เหตกุ ารณ์ทพ่ี ึ่งจะเสร็จในขณะทพี่ ูด มกั มคี ำว่า*just, yet, already*
*สังเกตคำว่า since และ forมกั จะอยู่ใน tenseน*้ี โดยจะใช้บอกชว่ งเวลา (since บอกจดุ เร่มิ ตน้ for บอก
ระยะเวลา) เช่น She has studied English since January.

Present perfect con S + has/have + been + V.ing

ใชเ้ น้นการแสดงชว่ งเวลาของเหตกุ ารณ์ท่ีเกิดข้ึนในอดตี ดำเนินมาถงึ ปจั จบุ ันและมีแนวโนม้ ที่จะดำเนินต่อไปในอนาคต
(คลา้ ยperfectแต่จะเน้นความต่อเนอื่ งของอนาคตมากกวา่ ) เชน่ They have been playing tennis since 2 o’clock.
(มีแนวโนม้ ทีจ่ ะเลน่ ต่อไป)

Past simple S + V2 ใชก้ บั เหตกุ ารณท์ เ่ี กิดในอดีต และจบส้นิ ไปแล้ว เชน่ I met him two weeks ago.

Past continuous S + was/were + v.ing

ใช้กับเหตกุ ารณ์ทก่ี ำลงั ดำเนนิ อยใู่ นอดีต (เนน้ การกระทำท่ีกำลังทำในอดีต)

เช่น We were having breakfast at 6 o’clock yesterday.

ใช้กบั เหตกุ ารณ์ท่ีกำลังเกิดขึน้ ในอดตี แต่มีอกี เหตกุ ารณ์แทรก เข้ามา *เกดิ ก่อนใช้ past conเกดิ หลังใช้ past sim*
เชน่ The phone rang while I was having dinner. ในขณะทกี่ ำลังกินขา้ วเย็น โทรศัพท์กด็ ังข้นึ

9

Past perfect S + had + V3 ใช้กับเหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ สมบูรณ์ก่อนท่ีอีกเหตุการณจ์ ะเกิดขึ้นตามมา

*เกิดกอ่ นใช้ past perfect เกดิ หลงั ใช้ past sim* เช่น Before Jame went to Japan, he had
spent much time with his friends. = เจมใชเ้ วลากับเพอ่ื นก่อนทจี่ ะไปญ่ปี ่นุ

Past perfect con S +had + been + v.ing

ใช้กบั เหตุการณห์ รือชว่ งเวลาทกี่ ำลงั ดำเนินอยใู่ นอดีตกอ่ นอีกเหตกุ ารณ์หนงึ่ ท่เี กดิ ข้ึนตามมา

*เกดิ กอ่ นใช้ past perfect con เกิดหลงั ใช้ past sim*
เชน่ They had been swimming for fifteen minutes when shark came.
(เน้นการกระทำวา่ กำลงั ทำ+เกิดกอ่ นอกี เหตุการณน์ ะ)

**จะสงั เกตุว่าทั้ง Past continuous Past perfect และ Past perfect con สามารถใช้กับสองเหตกุ ารณไ์ ด้
(เห็นไดจ้ ากตัวอักษรสีส้มนะคะ) ทำใหน้ ้องๆหลายคนสบั สนวา่ จะจำยังไงดี อะไรใชก้ อ่ นอะไรใช้หลงั
จดุ สงั เกตคอื ทั้งสามtenseนัน้ ใช้กอ่ นทั้งหมด และpast simจะใชห้ ลังทั้งหมด**

Future simple S + will + v.inf ใชก้ ับการคาดเดาหรอื วางแผนไว้สำหรับอนาคต

เช่น It will rain soon.

ใชแ้ สดงความตั้งใจท่ีจะทำบางอย่าง เชน่ I will read a book.

Future continuous S + will + be + v.ing

ใช้กบั เหตกุ ารณท์ ่ีคาดว่ากำลงั ทำอยใู่ นอนาคต (เน้นท่ีการกระทำ) เชน่ I will be having breakfast at 6 o’clock.
ใช้กับเหตกุ ารณ์ทก่ี ำลงั เกดิ ข้ึนในอนาคต และมอี กี เหตกุ ารณแ์ ทรกเขา้ มา
*เหตกุ ารณ์ทค่ี าดวา่ น่าจะเกดิ ก่อนใช้ Future continuous เกดิ หลังใช้ Present sim*

เช่น Your children will be sleeping when you get home.

Future perfect S + will + have + V3 ใช้เพ่ือคาดเดาวา่ เหตกุ ารณ์หนงึ่ อาจเสรจ็
หรอื ไม่เสรจ็ ในอนาคต(ต่างจาก future sim เพราะมันบอกแคอ่ าจเกิดขึน้ แต่ future perfect
จะส่ือว่า การกระทำน้นั อาจทำเสรจ็ หรือไม่เสร็จในอนาคต)เชน่ We will have completed our work by next week.

ใช้กับเหตกุ ารณ์ทค่ี าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ กอ่ น อีก เหตุการณห์ นึ่งในอนาคต *เกดิ กอ่ นใช้ future per
เกดิ หลังใช้ present sim*

Future perfect con S + will + have + been + V.ing

มกั จะใช้เพื่อเน้นถงึ เหตกุ ารณใ์ นอนาคตว่าจะดำเนินตอ่ ไป (ไม่ค่อยมีคนใช้)

เช่น I will have been living here for 3 months.

10

ทรคิ การจำโครงสร้าง tense

Present sim S V1
is am are V.ing
Con has/have V3
perfect

perfect con has/have been V3

Past sim S V2

Con was were V.ing

perfect had V3

perfect con had been V.ing

Future sim S will V.inf
be V.ing
Con

perfect have V3

perfect con have been V.ing

**จะเหน็ วา่ หากเราจำ Present simple ทงั้ 4แบบได้ เราจะจำ past tense / future tense
เพราะมนั เป็นหลกั การเดียวกนั (เห็นไดจ้ ากการแบ่งสตี า่ งๆ)

Con มจี ดุ เดน่ คอื V.to be + V.ing แต่ V.to be จะเป็น is am are/ was were/ v.inf

ขน้ึ อย่กู บั tenseนน้ั ๆ

perfect มจี ุดเดน่ คือ has/have + V3 แตจ่ ะเป็น has have / had
ขึ้นอยกู่ บั tenseนัน้ ๆ

perfect โครงสรา้ งจะคลา้ ย perfect แคผ่ สม V3 ใน perfect กับ V.to be
con ใน Con จะเท่ากับ been และเติม V.ing เพ่ือความสมบูรณข์ องโครงสรา้ ง

11

Article (A An The)

คอื คำท่ีใช้ประกอบหนา้ คำนาม แบ่งเป็น2ประเภท

Indefinite articles =คำท่ีใช้นำหนา้ คำนามทไ่ี ม่ชเี้ ฉพาะเจาะจง

A An หลักการใช้ : จะใช้ได้ก็ต่อเมอ่ื ไมส่ ามารถระบุได้วา่ กำลังพูดถงึ สงิ่ ไหนหรืออันไหนอยู่

เราใช้ a/ anนำหนา้ คำนามนบั ไดท้ ีเ่ ปน็ เอกพจน์ แตถ่ ้าเป็นคำนามที่ข้ึนต้นดว้ ยพยัญชนะให้ใช้ > a
ถา้ เปน็ คำนามทข่ี ึน้ ตน้ ด้วยสระ ( a, e, i, o, u) ให้ใช้ > an

ข้อยกเวน้ : กรณคี ำนามทีข่ ึน้ ต้นดว้ ย u (ที่ออกเสยี ง ย)ู ให้ใช้ a เชน่ I went to a university. แต่ถา้ u ออกเสียงพยัญชนะ “อ”
ให้ใช้ an ปกติ แต่ถา้ คำนามทข่ี นึ้ ตน้ ดว้ ย h แต่ไม่ไดอ้ อกเสยี ง h ให้ใช้ an เช่น I have an hour to do the exam.

Note: เรายงั สามารถใช้ a นำหน้าคำบอกจำนวนเพื่อบอกจำนวนครา่ วๆไดด้ ้วย เช่น There are a hundred of people...

www

= มเี ปน็ พนั คน...

ยกตวั อย่างเช่น : Do you have a car? ใช้ a เพราะ คำนามคอื car ทอี่ อกเสยี งพยัญชนะ

definite articles =คำทีใ่ ช้นำหนา้ คำนามทีช่ ้ีเฉพาะเจาะจง

The กฎการใช้มเี ยอะมากๆ สรปุ ได้ดังน้ี : ใช้เมอื่ คำนามมเี พียงหนง่ึ เดียว เชน่ The moon, The sun

เมอื่ คำนามที่เป็นพหูพจนเ์ สมอ เชน่ The Rolling Stones เม่ือเปน็ ชื่อเฉพาะของคน *ที่ต้องมีรูปเปน็ พหูพจนแ์ ละหมายถงึ

ครอบครัว* เช่น The Potters... = ครอบครวั ของพอตเตอร์
เม่ือเป็นตำแหน่งต่างๆ เชน่ The Queen, The Prime Minister

คำนามท่ถี กู กลา่ วถงึ เปน็ ครง้ั ทสี่ อง ใช้เมอื่ ผูพ้ ดู และผฟู้ งั รู้วา่ กำลังพดู ถึงอะไร

เม่ือนำหนา้ เลขลำดับที่ เชน่ The first, The second เม่อื พดู ถึงสงิ่ รวมๆ เช่น The sky, The sea

ใชก้ ับชื่อประเทศทมี่ ี s ต่อทา้ ย *ยกเว้น Laos* เช่น The Netherlands, The United States of America

ใชก้ บั ช่อื เฉพาะต่างๆ เชน่ The Mandarin Oriental

ยกตวั อย่างเชน่ : Yesterday I bought a lot of pens. The pens are very good, เป็นการกลา่ วถงึ คำนามซำ้ เป็นครง้ั ท่ีสอง
ในประโยคแรกผู้พดู ได้พดู ถึง pensไปแลว้ ดงั นน้ั ประโยคถัดไปสามารถเตมิ the นำหนา้ pensได้

แตเ่ ราจะไมใ่ ช้ article นำหน้ากรณตี อ่ ไปนี้
- ช่ือประเทศทัว่ ไป เช่น Italy Brazil กีฬาประเภทตา่ งๆ Basketball Football

ภาษาตา่ งๆ English Spanish หรอื ชอ่ื วชิ าตา่ งๆ Mathematics Literature

12

Parallelism คือการใชค้ ำ
วลี หรือประโยคที่มี

Grammatical form

เหมือนกัน เชน่ ถ้าใช้คำ
กรยิ า อกี คำกต็ อ้ งเปน็

คำกริยาเช่นกนั

กฎ 5ขอ้ ต้องรู้ ! 1. Coordinating Conjunctions เป็นคำเช่ือมทเี่ ชื่อมคำหรอื ประโยคเข้าด้วยกนั แต่ !!

ummm ทง้ั สองคำหรือทงั้ สองประโยคนน้ั ตอ้ งเป็น part of speech เดียวกันหรือมีนำ้ หนักเท่ากนั

เชน่ I want to read and to work. หลักค่ขู นาน ไวยากรณ์ต้องเหมือนกัน

-

2. ตอ้ งเปน็ ชุดคำเดยี วกัน แบ่งเปน็ 4ประเภทย่อย

2.1 เปน็ ชดุ คำท้งั หมด (Word)

ตวั อย่างขอ้ สอบ The architect must be both a scientist and an artistic.
CU-TEP

ถามว่า เสน้ ประสีไหนผิด? คำตอบคือ เส้นสฟี า้ : เพราะไมข่ นานกับ คำวา่ scientist (n.)

โดย artistic เป็น Adj. ดังนัน้ จงึ ต้องเปลี่ยนเปน็ คำนามคอื artist

2.2 เปน็ ชดุ คำกริยาทั้งหมด (Infinitives) เชน่ We wanted to read and to listen.

2.3 เป็นชุดบุพบทวลที ้งั หมด (Prepositional phrases) เช่น I couldn’t find the keys on the table,

in my pocket, on the floor, or the hook.

2.4 เปน็ ชุดอนปุ ระโยคท้งั หมด (Clauses) เชน่ The company doesn’t care about who are you,

how you get here, or why you have come.

3. กฎคขู่ นานกับการเปรียบเทยี บ (พวก ...is more than / better than...)

เช่น She likes swimming better than skiing.

4. กฎการเชื่อมด้วย Linking Verb หรอื V.to be เชน่ Succeeding is opening a new opportunity.

5. Correlative Conjunctions เปน็ คำสันธานหรอื คำเชอ่ื มท่ตี อ้ งใช้คกู่ นั เสมอ มีหลกั การเดยี วกันกบั
Coordinating Conjunctions คอื ตอ้ งมไี วยากรณเ์ หมอื นกนั

หลกั การจำ เช่น Cherry neither watches TV nor reads a book.

Correlative Conjunctions ทุกขอ้ ท่กี ล่าวมา
คำทอ่ี ยู่ระหวา่ งคำเชื่อม
either...or... ไม่...ก.็ .. นน้ั ตอ้ งเปน็ คำชนิดเดยี วกันท้ังหมด
neither...nor... ไม่...และ... คำนามกต็ ้องคำนามทั้งหมด
คำกริยาก็ต้องกรยิ าทั้งหมด
both...and... ท้ัง...และ...
not only...but also... คณุ ศพั ทก์ ค็ ณุ ศัพท์ทง้ั หมด

ไมใ่ ชแ่ ค่...แต่อกี ดว้ ย...

13

Participle เปน็ รูปแบบของ Non-finite verbsหรอื กรยิ าไม่แท้
ทที่ ำหน้าทเี่ ป็น Adjective ขยายคำนาม โดยจะแบ่งเปน็ 2รูปแบบคอื

Present participle และ Past participle

Present Participle คอื กริยยาช่องท1ี่ ท่ีเติม ing ใชไ้ ด้หลากหลายมากๆ
• ใชต้ ามหลงั กริยาทแี่ สดงความรู้สึกพวก see, feel, hear, smell, watch, notice, observe

เชน่ Cherry saw him coming here. = coming ทำหนา้ ทขี่ ยาย him

เปน็ v.แทข้ องประโยค

• รบั บทเปน็ adjective ขยายคำนาม จะมที ง้ั แบบอยู่หน้าคำนามและหลัง V.to be

เช่น A barking dog is Siberian Husky. = barking ทำหนา้ ทข่ี ยาย dog

เป็น v.แทข้ องประโยค

• ใช้ขยายคำกริยาเหลา่ นไี้ ด้ find, keep, catch, get, set, discover, bring, imagine, take

โดยจะอยใู่ นโครงสร้างนี้ S + V + O + Present participle เช่น You keep me waiting for a year.

r เ'ปน็ v.แท้ของประโยค

•←

ใช้ขยายไดท้ ั้งประธานและขยายความทง้ั ประโยค เช่น The man smoking a cigar is my brother.

ตวั อย่างการขยายความทั้งประโยค We consider the situation. We should reschedule the meeting plan.

จะเห็นว่าสองประโยคนส้ี ามารถรวมเปน็ หน่ึงประโยคไดโ้ ดยนำ present participle มาใชเ้ ป็น

Considering the situation now, we should reschedule the meeting plan. How to รวม 2ประโยค
เป็น 1ประโยค
!! Notice เราจะแยกรูป Present Participle กบั Gerund ยงั ไง ? ในเม่ือ
1.ประธานต้องเป็นตวั เดยี วกนั
มนั เปน็ รปู เดยี วกัน คำตอบคือ การสังเกตที่หนา้ ท่ีของทงั้ สองรปู 2. ละประธานในเหตกุ ารณท์ ่ี
Present Participle เป็นรปู ing ทีจ่ ะไปขยายผกู้ ระทำวา่ ผู้กระทำเปน็ ผู้ทำกริยานัน้ ด้วยตวั เอง
เกิดกอ่ นและนำกรยิ าในปย.น้นั
-
มาทำเป็น participleจะได้ considering
เชน่ She is cleaning the house. ตย.ประโยคนี้จะอยใู่ น bullet pointท่ี2
อธบิ ายได้วา่ มนั กำลังขยายคำนาม she โดยตามหลัง v. to be 3. ประโยคทสี่ องคงไว้
เหมอื นเดมิ

Gerund เปน็ รูป ing จะไมไ่ ดไ้ ปขยายคำนามเหมือน participle แตจ่ ะรบั บทเปน็ คำนามเลย

เชน่ Her job is cleaning the house. สังเกตวา่ cleaning ในประโยคนี้จะแปลวา่ การทำความสะอาด จึงไปขยายใครไม่ได้

Past Participle คอื กรยิ ยาช่อง1 ท่ีเตมิ ed หรือ กรยิ าช่อง 3 โดยรูปแบบการใช้จะคล้ายกับ

Present Participle คอื การทำหนา้ ท่เี ปน็ Adj. แตล่ ักษณะจะต่างกัน

•→

รับบทเป็น adjective ขยายคำนาม โดยจะวางไวห้ นา้ คำนาม เช่น I saw the stolen wallet in front of the mall.
จะเห็นว่า stolen ไปขยายwallet และมีsaw เป็นกริยาแทใ้ นประโยค

• สามารถเตมิ ed ในรปู ท่เี ปน็ คำนามได้ และทำหนา้ ทเี่ ปน็ Adj.ขยายคำนามตัวอื่น โดยจะอยูใ่ นโครงสรา้ งนี้

Adj. + N.(-ed) + N. เช่น A blue eyed man แปลจากหลงั มาหนา้ = ผู้ชายที่มีตาท่ีฟ้า

บพุ บทวลี = กลุ่มคำทท่ี ำหน้าทเี่ ป็นคำบุพบท โดยจะประกอบด้วย
r' คำบพุ บทและสว่ นเตมิ เต็ม

• นำไว้หลังคำนามได้ แต่ตอ้ งมี Prepositional phrase มาขยายต่อเสมอ

เช่น The student punished by her professor is very lazy. แปลวา่ นกั เรียนท่ถี กู ทำโทษโดยอาจารย์น้นั ขเ้ี กยี จมาก
-
= is เป็นกรยิ าแทข้ องประโยค
14

• ใช้วางไวต้ ้นประโยคไดเ้ ลย แตต่ อ้ งมี Prepositional phrase มาต่อหลังด้วย

เช่น Punished by professor, the student tries to behave better

เกดิ คำถามวา่ ประโยคไหนควรใช้ present participle หรอื past participle

พจ่ี ะบอกวา่ มันอยทู่ ่ี ดังน้นั ในตย.ขอ้ สอบ
การแปลหรอื ความหมาย
ของประโยคนน้ั ๆค่ะ มีประธานคือ Hard-line tactics
ถา้ ให้ความหมายว่าประธาน โดยมันจะต้องถูกดำเนนิ
ท่ีมันขยายนน้ั กระทำเอง การโดยกองทัพทหาร
แต่ในประโยคกลับเขียน
= present แต่ถา้ ประธานท่ี
มนั ขยายถกู กระทำ ว่า pursuing จงึ ตอ้ ง
= past participle เปลยี่ นเปน็ pursued

เพ่ือใหต้ รงตามความหมาย

Passive Voice ในประโยคภาษาอังกฤษจะแยกเปน็ active and passive

voiceโดย active voice=ประโยคทเ่ี นน้ ประธานว่าเป็นคนทำ
passive voice=ประโยคทเ่ี น้นกรรมถูกกระทำ

โครงสรา้ งการเปล่ยี นเปน็ passive S + v.to be + V3 (V.to be ผันตามtenseในปย.active)
หลักในการเปลยี่ นเปน็ passive

1. สลับทปี่ ระธานและกรรม และใส่by นำหนา้ ผูก้ ระทำ 2. เปลีย่ นกริยาใหอ้ ยู่ในรปู V.to be + V3

d

พวก is am are/ was were/ be/ being/ been

ประโยค active voice: The professor punishes the student. (Present sim)
l ประธาน l กรยิ า
l กรรม

ประโยค passive voice: The student is punished by the professor.

ประโยค active voice: They are making new TV shows all the time.
ประโยค passive voice: New TV shows are being made all the time by them.

กรรมมีสองตัว มหี ลกั คือ ใหน้ ำกรรมแรกหรือกรรมทีข่ น้ึ กอ่ น เปน็ ประธานของประโยค passive
เอากรรมไหน
เป็นประธาน r กรรมท่1ี r กรรมที2่
ในpassive?
ประโยค active voice: She gave him a pen. = เธอใหป้ ากกาเขา
ประโยค passive voice: He was given a pen by her. = เขาถูกใหป้ ากกาโดยเธอ

*สงั เกตว่า tenseจะเปลย่ี นตามประโยคactive อยา่ งในประโยคดงั กลา่ ว gave (v2), V.to beในpassive
ก็คอื was และบวกด้วย V3 = given ตามหลัก passive

15

ใช้ นยิ มใช้เม่อื ไมท่ ราบผกู้ ระทำกรยิ านั้นๆ เช่น My shoes were stolen on Monday.
Passive voice
ในประโยคจะเนน้ กรรมคอื shoesเพราะไมร่ ู้ว่าใครขโมย (จึงไม่มี by)
เมือ่ ไหร่
นยิ มใชเ้ มอ่ื ไมส่ นใจหรอื ไมเ่ น้นวา่ ใครเป็นผกู้ ระทำกรยิ าน้ัน เช่น The windows are closed.
= หนา้ ตา่ งถูกปิด แต่ไมไ่ ด้สนใจว่าใครเปน็ คนปิด

Comparison แบ่งได้เปน็ 3ลักษณะ
แบบเท่ากันและไมเ่ ท่ากนั ,เปรยี บเทยี บขน้ั กว่า
และเปรียบเทียบข้ันสงู สุด

การเปรียบเทียบ positive Degree เปน็ การเปรียบเทียบแบบเท่ากนั และไม่เทา่ กนั
ขั้นธรรมดา
หลักที่ 1คอื ....as + adv./adj. + as... (ใช้ไดท้ งั้ ในประโยคบอกเล่าและปฏเิ สธ)

เชน่ Jane works as hard as her sister. Charies isn’t as tall as his father.

หลักที่ 2คอื ... not so + adv./adj. + as... = ...ไม่เทา่ ... (ใช้ไดแ้ คป่ ระโยคปฏิเสธ)

เชน่ Marry is not so beautiful as her mother. He does not run so fast as his brother.

หลักที่ 3คอื ...the same + N + as... =...เหมอื น... เช่น My shirt is the same color as that boy’s.

หลกั ที่ 4คอื ...be similar to... =...เหมือน/คลา้ ย... เชน่ Her idea is similar to mine.

การเปรยี บเทยี บ
ขั้นกวา่ Comparative Degree เป็นการเปรียบเทยี บระหว่างสองอยา่ ง
หลักที่ 1คอื หาก adv./adj. เป็นพยางค์เดียวให้ เตมิ -er และต่อด้วย than

เชน่ คำว่า hard > harder, fast > faster, small > smaller, tall > taller + than....

หลักท่ี 2คอื หาก adv./adj. ทมี่ ากกว่า2-3พยางคข์ นึ้ ไปให้ เติม more ด้านหนา้ และต่อดว้ ย than
เช่นคำวา่ diligent > more diligent, beautiful > more beautiful, cheerful > more cheerful + than

การเปรยี บเทยี บ Superlative Degree เปน็ การเปรยี บเทียบข้นั สงู สดุ ในจำนวนทีม่ ากกวา่ สองขนึ้ ไป
ขัน้ สงู สุด
หลกั ท่ี 1คอื หาก adv./adj. เปน็ พยางค์เดียวให้ เพิม่ ตวั สะกด

ตัวสุดทา้ ยกอ่ นเตมิ est เช่นคำว่า wet > wettest, thin > thinnest

คำท่ีเปลี่ยนรูปไปเลย

หลักที่ 2คือ หาก adv./adj. ท่มี ากกว่า2-3พยางคข์ ้นึ ไปให้ เตมิ most ด้านหน้า ก็มี คอื คำวา่
เช่นคำว่า hopeful > most hopeful, charming > most charming
good>well>best
หลักที่ 3คอื คำสองพยางค์ที่ลงท้ายดว้ ย er, le, ow ใหเ้ ตมิ estต่อท้าย bad>worse>worst
เช่นคำวา่ clever > cleverest, shallow > shallowest little>less>least
much>more>most

far>further>farthest

etc.

16

Conditional หรือ If-clause คอื ประโยคเง่อื นไขหรือเปน็ เหตกุ ารณท์ ส่ี มมตขิ นึ้
Sentences โดยจะประกอบดว้ ยประโยคสองส่วนคอื ประโยคทขี่ ึ้นต้นดว้ ย

If กบั อกี ประโยคที่เหมอื นประโยคสมบรู ณท์ ่ัวไป

(ทั้งสองประโยคสามารถสลับท่กี นั ได้ อยูท่ กี่ ารเน้นและความหมาย) อยา่ งไรก็ตาม If-clause แบ่งออกเป็น 4ประเภท

#0 If + S + V1, S + V1

Zero เป็นเงอ่ื นไขทเี่ ป็นจริงเสมอ เกิดขึ้นแนน่ อน (ถ้าเกดิ Aแล้ว Bจะเกดิ ข้นึ ตามมาแนน่ อน)
Condition เชน่ ความจริงตามธรรมชาติ วิทยาศาสตร์

เช่น If you are under 18, you can not get a driving license.

#1 If + S + V1, S + will +V1

First เป็นเง่อื นไขท่ีเปน็ ไปได้ อาจเกดิ ขึน้ ในอนาคต (ถ้าเกดิ Aแล้ว B อาจจะเกิดข้ึนตามมา)
Condition
เชน่ If we take a taxi, we will arrive at the airport in time for our fight.

#2 If + S + V2, S + would +V1

Second เปน็ เง่ือนไขทีส่ มมติสง่ิ ทเ่ี ป็นไปไมไ่ ดใ้ นปจั จุบัน (สมมตวิ า่ Aเกดิ ข้นึ ในตอนน้ี B
Condition คงจะเกดิ ข้ึนตาม แต่จริงๆแล้วAไมม่ ีวันเกิดขึน้ ในตอนนี้) (ใหจ้ ำว่าเปน็ เงื่อนไขท่ีเพ้อฝนั
เพราะสมมตใิ นส่ิงท่เี ป็นไปไม่ได้) เชน่ If the weather was good, we would go to the park.
= สภาพอากาศมนั ไมไ่ ด้ดีในปัจจบุ ัน

#3 If + S + had + V3, S + would + have + V3

Third เปน็ เงื่อนไขที่ไมไ่ ด้เกดิ ขนึ้ จรงิ ในอดตี (สมมตวิ า่ Aเกดิ ข้ึนในอดตี B ก็คงเกิดขน้ึ ตาม)
Condition (ให้จำว่าเปน็ เง่อื นไขท่ีพดู เพราะเสียดายท่ไี ม่ได้ทำบางอยา่ งในอดีต)

เชน่ If she had studied for the exams, she would have passed = เสียดายทไ่ี ม่ไดต้ ั้งใจเรยี น

ทริค การจำโครงสร้าง if-clause (เปน็ เพลง) อย่างทีบ่ อกว่า

If you leave me, I will cry. if-clauseประกอบดว้ ย
If you left me, I would die.
If you had left me lonely, I would have cried and died. สองส่วน ที่สามารถ
สลับตำแหน่งกนั ได้

ถา้ ส่วน ifขน้ึ กอ่ น
ต้องมี comma , ขั้น
ตรงกลาง แต่ถ้า
เอาสว่ นของผลลพั ท์

ขน้ึ กอ่ น จะไม่มcี omma

, ขัน้ ตรงกลาง

17

Reported speech

เปน็ วิธีที่เราต้องการนำคำพดู ของคนหน่ึงไปเลา่ ตอ่ ใหค้ นอนื่ ฟงั โดยจะมดี ้วยกนั 2แบบคือ Direct&Indirect Speech
(เช่น Aพูดวา่ “ฉันอยากไดป้ ากกา” Bตอ้ งการพดู กับCวา่ “เขา(A)บอกวา่ อยากไดป้ ากกา”)

D i rec t S pee c h คือการนำคำพูดคนอ่ืนมาพูดเลยโดยไมเ่ ปล่ียนโครงสร้าง

*ในกรณีนี้ต้องใส่ Quotation mark “...” เสมอ* เชน่ Kim said, “I will wash all the dishes.” = คมิ บอกวา่
“ฉนั จะล้างจานทง้ั หมดเอง”

ขอ้ สังเกต : หลงั ประโยคหลักจะถูกคั่นดว้ ยคอมม่า ,เสมอ และประโยคที่อยูใ่ น quotation markจะข้นึ ตน้ ดว้ ย

ตวั พมิ พ์ใหญเ่ สมอ

I n d i rec t S pee c h คอื การนำคำพดู คนอื่นมาพดู โดยจะมีการเปล่ยี นโครงสร้าง

จึงไมต่ ้องมี Quotation mark หลักในการเปลยี่ นประโยคต้งั ตน้ เปน็ Indirect speech จะมีอยู่ 4ข้ัน

เปลีย่ น tense เปล่ียน pronoun เปลย่ี น nearness > remoteness เปลี่ยน reporting v.

• Indirect speech แบ่งออกเป็น 3ประเภท Statement, commands, question

1. Indirect speech -statement เปน็ การนำคำพดู ของคนอ่ืนมาพูดในรูปแบบประโยคบอกเลา่ หรอื ปฏิเสธ

หลกั การเปลีย่ น Direct statement เปน็ Indirect statement

1.1 ตดั เครอ่ื งหมายคอมมา่ ,ออกไป 1.2 เอาเคร่ืองหมายคำพดู หรือ Quotation mark ออก
1.3 เติม thatหลงั reporting v.(กรยิ าในประโยคนำ)(ไม่บงั คับ) 1.4 เปลี่ยนสรรพนามให้เขา้ กบั
ประธานในประโยคนำ 1.5 เปล่ียนคำระบเุ วลาหรอื ความใกลไ้ กล

ตวั อย่างการเปลี่ยนคำระบุเวลา : Direct Indirect

today/ tonight that day/ that night
this(morning) that(morning)
the next day
tomorrow
yesterday the day before
the (week) before
last(week)

ยกตัวอย่างประโยค Jane: I was in the kitchen yesterday. > Jane said (that) she had been in the

kitchen the day before.

ตัวอยา่ งการเปลย่ี นจากใกลเ้ ปน็ ไกล : เช่น Jane: I put it here on the table. > Jane said (that) she had put it there on the table.

Direct Indirect

here there 18
this that

ตวั อยา่ งการเปลีย่ นคำสรรพนาม : จาก direct> she said, “I will come later.” เป็น indirectได้ว่า

she said (that) she would come later. หลักการคอื ใหเ้ ปลย่ี นสรรพนามตามประธานผู้พดู ในประโยค direct
อยา่ งในประโยคทพ่ี ูดคือ she ดังนน้ั indirectจงึ เปลยี่ นคำสรรพนามท่ีอยใู่ น Quotation mark เปน็ she ตามผ้ทู ่ีพดู

หลักในการเปล่ียน tense ใน indirect speech

**จะต้องถูกเปลีย่ นให้เป็นอดตี มากขน้ึ โดยในindirectจะเริม่ ต้นที่ Part simple**

ตารางการเปลย่ี น tense

Direct Indirect

Present sim : Past sim Modal verb
Present con Past con
will > would
Past simple can > could
may > might
Present perfect → Past perfect must/have to > had to
shall > should
Past perfect

Past con

Present per con → Past perfect con

Past per con

ยกตวั อย่างประโยค Jane: I live in Bangkok. > She said (that) she lived in Bangkok.
Jane: I can help her. > She said (that) she could help her.

แต่ถ้าประโยคนน้ั เร่ิมตน้ ด้วย present simple เราไมต่ อ้ งเปล่ียนประโยคใหเ้ ปน็ อดตี มากข้นึ
Direct: He says, “I decided to stay here for a while.” > He says he decided to stay there for a while.

2. Indirect speech -commands or Requests เปน็ การนำคำพูดของคนอื่นมาพูดในรปู แบบประโยค
ขอรอ้ ง คำสงั่ หรอื ขออนุญาต หลกั การเปลยี่ น Direct statement เปน็ Indirect statement

หลกั การเหมอื น Reported statement แต่จะมีจุดท่ตี ่างกนั 2อย่าง
2.1 ใช้กรยิ านำ tell/told, order/ordered, ask/asked, command/commanded แทน say/said
2.2 ใช้ to + V1 ในประโยคขอร้อง แนะนำ หรอื ส่งั ให้ทำ แต่ถา้ เป็นประโยคปฏเิ สธหรอื ประโยคหา้ มทำ
ใหใ้ ช้ not to + V1 *ถา้ มี pleaseในประโยค directให้ตัดทิง้ ด้วย*

ยกตวั อย่างประโยค Direct: He asked, “please let me go to the party.” แปลงเปน็ indirectโดยการ
เอาคอมม่าออก > ตดั pleaseออก > เอาเครื่องหมายคำพูดออก > เปลี่ยนกรยิ าเป็น to + V1 = to let
> เปลี่ยนสรรพนาม จะไดว้ ่า He asked me to let her go to the party.

19

3. Indirect speech -questions เปน็ การนำคำพดู ของคนอื่นมาพดู ในลกั ษณะประโยคคำถาม
โดยจะแบง่ ออกเป็น 2ลักษณะคอื ประโยคคำถามทีเ่ ป็น Yes/No question และ Wh-question

หลกั การเปลี่ยน Direct statement เป็น Indirect statement

กรณี Yes/No question : ถา้ ประโยคคำถามใน directขน้ึ ตน้ ดว้ ย Do/ Does/ V.to be/ Has/ Have
ใหเ้ ปล่ยี นส่วนนัน้ เป็น if, whether, whether...or not, whether or not และใชก้ รยิ านำเปน็

asked, inquire, want to know, wonder *ไมใ่ ส่ question mark*
ดงั นั้นรูปประโยคจึงมหี น้าตาเหมอื นประโยคบอกเล่าแต่ มีความหมายเปน็ ประโยคคำถาม

ยกตัวอยา่ งประโยค Direct: She inquired, “Are you sick?” แปลงเปน็ indirectไดว้ า่

She inquired me whether I was sick.

กรณี Wh-question : ใหใ้ ช้กรยิ านำเป็น asked, inquire, want to know, wonder เหมอื นYes/No question

-

และใช้ wh-questionตัวเดียวกนั กับwh-questionในประโยคdirectเลย *ไมใ่ ส่ question mark*
(การเรียงรูปประโยคจะเรียงเหมอื นประโยคบอกเลา่ คือ)
ยกตวั อย่างประโยค Direct: He said to her, “How did you make it?” แปลงเปน็ indirectได้ว่า
He asked her how she had done it.

สรุปสุดท้าย: เปลยี่ น tense ใหเ้ ป็นอดตี มากขึ้น , เปลย่ี นคำบอกเวลาและสถานท่ี และตอ้ งใช้เคร่ืองหมายให้

uvwuuw

ถกู ตอ้ ง โดยในประโยค Reported speech ใชเ้ พยี งเครอื่ งหมาย full stop .

20

How to use
must/should/have to

การใช้ Must, Have to และ Should

หากพจิ ารณาจากความหมาย Must ใชใ้ นการเนน้ ย้ำวา่ ต้องทำ (ความเขม้ ขน้ สูงสดุ )

ไดด้ ังนี้ Must - ต้อง Have ใชใ้ นการบอกว่าจำเป็นท่ีจะตอ้ งทำ (ความเข้มข้นรองจาก must)
to
Have to - จำเปน็ ทีจ่ ะตอ้ ง
Should - ควร Should ใช้ในการบอกวา่ ควรทำหรือแนะนำใหท้ ำ (ความเข้มขน้ ต่ำสุด)

ดงั นน้ั ถ้าเรยี งลำดบั ความ
เขม้ ข้นจากน้อยไปมากไดค้ อื

Should > Have to > Must

การใช้ Must, Have to และ Should สามารถใช้ได้ดงั น้ี

Must และ Should Must ไมส่ ามารถใช้พูด Have got to สามารถ
ใช้กับการออกคำส่งั หรอื ต้อง ถึงกาลในอดตี ได้ ต้องใช้ ใช้แทน have to ได้

ทำตามคำสงั่ Had to แทน Ex. I have got to work
Must- ใชใ้ นการออกคำสั่ง tomorrow.
Ex. I had to pay my phone
Ex. You must complete the bill yesterday. แปลวา่ ฉันจำเปน็ ต้องไปทำงาน
report by Thursday. ในวนั พรงุ่ นี้
แปลว่า ฉนั ตอ้ งจ่ายเงินค่า
Have to-ใชบ้ อกวา่ ตอ้ งทำตาม โทรศพั ท์เม่อื วานน้ี
คำส่ัง Ex. I have to complete

the report by Thursday.

ถา้ พดู ถงึ ส่งิ ที่เราควรทำในอดตี แต่ไมไ่ ด้ทำ

ให้ใชโ้ ครงสรา้ งน้ี should have + V3 →

Ex. I should have done my homework last night. แสดงวา่ เม่อื คนื ไมไ่ ด้ทำการบา้ น

Prefix-Suffix Prefix-Suffix เปน็ ส่วนประกอบของคำภาษาองั กฤษที่เตมิ แล้วจะทำให้
ความหมายของคำเปลย่ี นไป

Prefix เป็นสว่ นท่เี อาวางไว้หนา้ คำศพั ท์ โดยเม่อื เตมิ หน้าคำศพั ทแ์ ลว้ จะทำให้ความหมายของคำนั้น

มีความหมายเพิม่ ขึน้ หรือเปล่ยี นแปลงไป

Prefix ทม่ี ีความหมายว่า ไม่... in- im- un- non- dis- เชน่ correct(ถกู ตอ้ ง)-incorrect(ไม่ถกู ต้อง)

possible(เปน็ ไปได้)-impossible(เป็นไปไมไ่ ด)้ believable(เชื่อได)้ -unbelievable(ไม่นา่ เช่ือ)

Prefix ท่ีมคี วามหมายในเชงิ ลบ mis- mal- pseudo- เชน่ conception(ความเข้าใจ)-misconception(ความเขา้ ใจผดิ )

21function(การทำหน้าที่)-malfunction(การทำหน้าที่ผิดปกติ)

Prefix เกี่ยวกบั ขนาดหรือระดับ uper- เหนอื กว่า sur- เหนอื กว่า sub ต่ำกวา่ over เกินไป เช่น

conscious(จิตสำนึก)-subconscious(จิตใต้สำนึก) real(ความจริง)-surreal(เหนือความจรงิ )

Prefix เกย่ี วกบั ลำดบั pre- ก่อน fore- ก่อน post-หลงั re-ทำซ้ำ เช่น order(สงั่ ของ)-preorder(สัง่ ของลว่ งหน้า)

test(แบบทดสอบ)-pre test(แบบทดสอบก่อนเรียน)-post test(แบบทดสอบหลงั เรียน)

Prefix เกย่ี วกบั จำนวน uni-หนึ่ง bi-สอง tri-สาม multi-หลากหลาย เช่น lingual(ภาษา)-bi lingual(สองภาษา)
lingual(ภาษา)-trilingual(สามภาษา) color(ส)ี -multicolor(หลากหลายส)ี

Suffix เป็นส่วนที่วางไว้หลงั คำศัพท์ เพือ่ บง่ บอกหนา้ ท่ขี องคำจงึ แบ่งไดห้ ลายประเภท ดงั น้ี

Noun Suffix คอื suffix ทเี่ ติมแลว้ จะทำให้คำนน้ั กลายเป็นคำนาม -ship -ee -ness
เชน่ employ(v.)-employee(n.) happy(adj.)-happiness(n.) -dom -hood -al

:arrive(v.)-arrival(n.) write(v.)-writer(n.) -er -or -tion

Verb Suffix คอื suffix ที่เติมแลว้ จะทำใหค้ ำนน้ั กลายเปน็ คำกริยา -ate -en -ise
เชน่ activate quicken realize identify -ize -ify

Adjective Suffix คือ suffix ที่เตมิ แลว้ จะทำใหค้ ำนน้ั กลายเป็นคำคณุ ศพั ท์-able -ible -al
-en -ful -ish
:เชน่ flexible formal golden useful useless famous -less -ly -ous

Adverb Suffix คอื suffix ที่เตมิ แล้วจะทำให้คำน้ันกลายเปน็ คำกรยิ าวิเศษณ์ -ly -ward -wise
เชน่ easily upwards clockwise

Prefix เติมแล้วทำให้ความหมายเปลย่ี น แต่หน้าท่ีเหมือนเดมิ Suffix เติมแล้วทำใหห้ นา้ ทีข่ องคำเปล่ียน

Conversation

รวมประโยคบทสนทนาท่มี กั ออกสอบบ่อยๆ

ประโยคทักทาย ประโยคท่ีทกั วา่
ถามสารทกุ ข์สกุ ดบิ เปน็ อะไรหรือมีอะไร

How are you? What’s wrong? What went wrong?
What’s new? What’s the matter? What’s happening?
What happened?
How’s life? What’s up? What’s going on?
How are you getting on? Have you got a problem? What’s the trouble?

How are things going? What’s on your mind?
How is everything?
Is something wrong?

22

ประโยคขอใหต้ ดิ ตอ่ กลบั ประโยคยนิ ดี ประโยคเมื่อฟงั เรือ่ งร้ายๆ
จากคนหนึง่ ให้พูดตามน้ี

Give me a ring. Congratulations! Awful!
Keep in touch. That’s terrific! That’s terrible.
Drop me a line. I’m sorry to hear that.
Keep me posted. Fabulous!
Fantastic! How awful!
What a pity!
Great! What a shame!

How horrible!

ประโยคแสดงความเห็นดว้ ย

That sounds great. I agree with you. ประโยคแสดงความไม่เห็นดว้ ย ประโยคสนทนาในร้านอาหาร
I couldn’t agree more. It sounds wonderful.
I don’t agree with you. May I take your order, sir?
Absolutely. Of course. I’m afraid. Would you like to order now?
I think so. Surely not. What would you like to order?
Definitely. I hope so.
Thanks, but... Are you ready to order?
Exactly. Certainly. I’m not sure. ทั้งหมดแปลว่า สงั่ อาหารเลยไหม
Sure. Why not. Absolutely not.

Deal.

23

รวมคาํ ศัพท์ม.ปลาย by a.stickernote

หมวด A

Abandon (v.) ละทง%ิ Accommodation (n.) การปรบั ตวั , สงิ+
Ability (n.) ความสามารถ อาํ นวยความสะดวก, ทอ+ี ยอู่ าศยั
Abbreviation (n.) คาํ ยอ่ , การยอ่
Able (adj.) สามารถ, มคี ณุ สมตั ิ Accompany (v.) เพม+ิ หรอื เสรมิ
Abolish (v.) เลกิ ลม้ , ทาํ ลาย
Abortion (n.) การทาํ แทง้ Accomplish (v.) ประสบความสาํ เรจ็
Abroad (adv.) ในต่างประเทศ Accordance (n.) ความตกลง, ความ
Absent (adj.) ขาด, ไมอ่ ยู่ สอดคลอ้ ง
Absolutely (adv.) โดยสมบรู ณ์
Absorb (v.) ดดู ซมึ , กลนื Accordingly (adv.) ตามนนัB , ดงั นนัB
Abstract (n.) นามธรรม, บทคดั ยอ่
Absurdity (n.) งเKี งา่ , หน้าขนั , ไรเ้ หตุผล Accuracy (n) ความถกู ตอ้ ง, แมน่ ยาํ
Abuse (v.) ทาํ รา้ ย, เหยยี ดหยาม
Abundance (n.) ปรมิ าณมาก, ความอุดม Accurate (adj.) ถกู ตอ้ ง, แมน่ ยาํ
สมบรู ณ์
Accent (n.) เสยี งหนกั , เสยี งเน้น Accuse (v.) กลา่ วหา, ใสร่ า้ ย
Acceptable (adj.) ซงKึ ยอมรบั ได,้ ซงKึ เหน็ Accustom to (v.) ปรบั ตวั , ทาํ ให้
ดว้ ย คนุ้ เคย
Access (n.) ทางเขา้ , การเขา้ ใกล้
Accidentally (adv.) อยา่ งบงั เอญิ Achievement (n.) ความสาํ เรจ็
Acknowledge (v.) ยอมรบั , เป็นความ
จรงิ , เหน็ คณุ คา่

Acquaintance (n.) คนทค+ี นุ้ เคย

Acrobat (n.) นกั กายกรรม

Acute (adj.) แหลม, คม, รนุ แรง

Adaptation (n.) การปรบั ตวั

Addict (v.) ตดิ ยาเสพตดิ

Addition (n.) เพม+ิ เขา้ มา Afterlife (n.) ชวี ติ หลงั ความตาย
Adjust (v.) ปรบั ตวั Aftermath (n.) ผลทตKี ามมา
Administer (v.) จดั การ, บรหิ าร Afterward (adv.) ภายหลงั
Against (prep.) ต่อตา้ น, ตรงกนั ขา้ ม
Administrative (adj.) เกยKี วกบั การ Agenda (n.) แผนงาน, ระเบยี บการประชมุ
จดั การหรอื บรหิ าร Aggression (n.) การรกุ ราน, การบุกรกุ
Admire (v.) เลอKื มใสศรทั ธา, ชมเชย Aggressive (adj.) กา้ วรา้ ว
Admit (v.) ใหเ้ ขา้ , ยอมรบั , รบั สารภาพ Agriculture (n.) เกษตรกรรม
Adopt (v.) รบั เลย%ี งเป็นลกู Ailment (n.) อาการเจบ็ ป่วยทไKี มร่ นุ แรง
Adrenal (adj.) เกดิ จากต่อมหมวกไต Aircraft (n.) เครอKื งบนิ
Adult (n.) ผใู้ หญ่ Alcoholism (n.) โรคพษิ สรุ าเรอ%ื รงั
Advertise (v.) โฆษณา, ทาํ ใหเ้ ป็นทรKี จู้ กั Alienation (n.) ทาํ ใหเ้ ป็นมติ ร, โอนสมบตั ิ
แพรห่ ลาย Alleviate (v.) บรรเทา, ทาํ ใหน้ ้อยลง
Advert (v.) ใหค้ วามเหน็ , กลา่ วถงึ Allocate (v.) จดั สรร, แบง่ สรร
Advice (n.) คาํ ปรกึ ษา, คาํ แนะนํา Allow (v.) ยอมให,้ อนุญาต
Advise (v.) แนะนํา Almost (adv.) เกอื บจะ, แทบจะ
Aerial (adj.) เกยKี วกบั อากาศ, ไมม่ รี ปู รา่ ง Alter (v.) ปรบั ปรงุ , เปลยKี นแปลง
Aerodynamic (n.) กลศาสตร์ Alternative (adj.) ทางเลอื ก
Affair (n.) ธรุ กจิ , เรอKื ง, ราชการ Altruism (n.) การไมเ่ หน็ แก่ตวั
Affect (adj.) สง่ ผล, เรา้ อารมณ์ Amateur (n.) มอื สมคั รเลน่
Affection (n.) ความรกั , ความเมตตา Ambiguity (n.) คลมุ เครอื , ไมช่ ดั
Affirmative (adj.) ซงKึ ยนื ยนั Ambition (n.) ความทะเยอทะยาน
Affluent (adj.) รKาํ รวยมงั K คงั K , อุดมสมบรู ณ์ Ambulances (n.) รถพยาบาท
Afford (v.) จดั หา, สามารถทาํ ได้

Amenity (n.) ความออ่ นโยน Argue (v.) โตเ้ ถยี ง, ใหเ้ หตุผล
Amuse (v.) ทาํ ใหเ้ พลดิ เพลนิ Arrangement (n.) การจดั เตรยี ม
Analyze (v.) วเิ คราะห์ Arrest (v.) จบั กุม
Ancestor (n.) บรรพบุรษุ Arrival (n.) การมาถงึ
Ancient (adj.) เก่าแก่, โบราณ Artificial (adj.) เทยี ม, ปลอม, ประดษิ ฐข์ น%ึ
Announce (v.) ประกาศแจง้ , แถลง Ashamed (adj.) ละอาย, อบั อาย
Annual (adj.) ประจาํ ปี Aspect (n.) ลกั ษณะ, รปู รา่ งหน้าตา
Antique (adj.) เกา่ แก่, โบราณ Aspirant (n.) ความทะเยอทะยาน
Anxiety (n.) ความวติ กกงั วล Assassinate (v.) ลอบสงั หาร
Apartheid (n.) การแบง่ ผวิ Assertive (adj.) ซงKึ ยนื ยนั อยา่ งมนั K ใจ
Apologize (v.) ขออภยั , แกต้ วั Assistance (n.) การชว่ ยเหลอื
Apparently (adv.) อยา่ ชดั เจน Associate (v.) เกยKี วเนKือง, มสี ว่ นรว่ ม
Appeal (v.) คาํ ขอรอ้ ง Assume (v.) ยอมรบั , ทกึ ทกั เอา
Appearance (n.) การปรากฏตวั , ทา่ ทาง Astonish (v.) ทาํ ใหป้ ระหลาดใจ
Appetite (n.) ความรสู้ กึ ผวิ Astray (adv.) หลงทาง, หลงผดิ
Appointment (n.) การแต่งตงั% , ตาํ แหน่ง Astrology (n.) โหราศาสตร์
Appreciate (v.) เหน็ คณุ คา่ , ชนKื ชม Attitude (n.) ทศั นคต,ิ ทา่ ทาง
Apprehension (n.) ความเขา้ ใจ Attract (v.) ดงึ ดดู ความสนใจ
Appropriate (adj.) เหมาะสม Attribute (v.) เชอKื วา่ , อา้ งวา่
Approval (n.) การเหน็ ดว้ ย, การอนุมตั ิ Authentic (adj.) จรงิ , แท้
Approximately (adv.) ประมาณ Average (n.) คา่ เฉลยKี
Aptitude (n.) ความถนดั , พรสวรรค์ Awareness (n.) รตู้ วั , สติ
Archaeologist (n.) นกั โบราณคดี Awful (adj.) น่ากลวั
ง

หมวด B Bench (n.) มา้ นงั K
Beneath (prep.) อยขู่ า้ งหลงั , อยขู่ า้ งใต้
Background (n.) ฉาก, พน%ื เพ Beneficial (adj.) เป็นประโยชน์
Backstage (adv.) หลงั ฉาก Benefit (n.) ผลประโยชน์
Backup (n.) ผสู้ นบั สนุน, สงิK คา%ํ จนุ Beriberi (n.) โรคเหน็บชา
Backwards (adv.) ยอ้ นกลบั ทางเดมิ Beset (v.) หอ้ มลอ้ ม, ทาํ ความเดอื ดรอ้ น,
Bailiff (n.) เจา้ หน้าทยKี ดึ ทรพั ย์ รบกวน
Bait (n.) เหยอKื Beside (prep.) ขา้ งเคยี ง, ถดั จาก
Bankrupt (adj.) ลม้ ละลาย Bet (v.) พนนั
Banquet (n.) งานเลย%ี ง Beverage (n.) เครอKื งดมKื
Bargain (n.) การต่อรองราคา Beyond (prep.) พน้ , โพน้ , ถดั ไป
Bark (v.) เหา่ Bicentennial (adj.) เกดิ ขน%ึ ทกุ สองรอ้ ยปี
Barrack (n.) คา่ ยทหาร Bid (v.) ใหร้ าคา, ประมลู ราคา
Barren (adj.) แหง้ แลง้ Bin (n.) ถงั
Barrister (n.) ทนายความ Biographer (n.) ผเู้ ขยี น
Batch (n.) หม,ู่ กลุม่ Biography (n.) ชวี ประวตั ิ
Bead (n.) ลกู ปัด Birth certificate (n.) สตู บิ ตั ร
Bear (v.) แบก, รบั ภาระ, ทน Blade (n.) ใบมดี , คมมดี
Beat (v.) ต,ี เคาะ, หวด Blame (v.) ตาํ หนิ
Because of (conj.) เนKืองจาก, เพราะ Bland (adj.) นิKมนวล, ไรอ้ ารมณ์
Behave (v.) ประพฤตติ น Blanket (n.) ผา้ หม่
Behold (v.) เหน็ , มอง, ดู Blend (v.) ผสม
Bellow (v.) ตะโกน, รอ้ งลนั K Bless (v.) อวยพร, สรรเสรญิ
Belong (v.) เป็นของ, อยใู่ น, พกั

Block up (v.) อุดตนั Breathe (v.) หายใจ
Blossom (v.) ออกดอก, บาน Breeze (n.) ลมออ่ นๆ
Bluff (v.) ตบตา, ขเู่ ขน็ Brief (adj) กระทดั รัด, ส/นั
Boastful (adj.) โออ้ วด Briefcase (n.) กระเป๋ าเอกสาร
Bombardment (n.) การระดมใส่ Brilliant (adj.) เจิดจา้ , ฉลาด, ยอดเยยี: ม
Bone (n.) กระดกู Brittle (adj.) เปราะ
Boost (v.) ยกขน%ึ , สง่ เสรมิ Broadcast (v.) กระจายข่าว
Bootlegger (n.) คนขายเหลา้ เถKอื น Brush (v.) ปัดทา
Bossy (adj.) ซงKึ สงั K การ Brutally (adv.) อยา่ งโหดร้าย
Botanical (adj.) เกยKี วกบั พชื Budget (n.) งบประมาณ, เงนิ ตรา
Bother (v.) รบกวน Builder (n.) ผสู้ รา้ ง
Boundary (n.) แนวเขตแดน Bullying (n) การรงั แก, การขเู่ ขญ็
Brace (n.) เสาคา%ํ , เครอKื งคา%ํ จนุ Bump into (v.) พบโดยบงั เอญิ
Brainstorm (n.) ระดมความคดิ Bureaucracy (n.) หน่วยงานรฐั บาล
Brainwave (n.) ความคดิ ทนKี ึกไดท้ นั ที Burglar (n.) ผรู้ า้ ยยอ่ งเบา
Bran (n.) ราํ ขา้ ว Burn off (v.) เผาทาํ ลาย
Branch (n.) กงKิ กา้ น, แขนง Burn out (v.) เผาจนมอด
Bravery (n.) กลา้ หาญ Burrow (n.) โพรง
Breakdown (n.) ความลม้ เหลว, การลม้ Burst into (v.) โผลเ่ ขา้ มา
เจบ็ Bury (v.) ฝังศพ
Breakthrough (n.) การคน้ พบ Butler (n.) หวั หน้าคนใช้
Breakup (n.) การแตกแยก, การสลายตวั Bypass (n.) ทางออ้ ม
Breast (n.) เตา้ นม
Breath (n.) ลมหายใจ

หมวด C Caution (n.) คาํ เตอื น
Cave (n.) ถ%าํ , โพรง
Cabinet (n.) ตชู้ นั% วางของ, คณะรฐั มนตรี Ceiling (n.) เพดาน, ขดี สงู สดุ
Cackle (v.) หวั เราะเสยี งแหลม Celebrate (v.) ฉลอง
Cage (n.) กรง Celery (n.) ตน้ ขน%ึ ฉ่ายฝรงั K
Calculate (v.) คาํ นวณ, คาดคะเน Cemetery (n.) ป่าชา้ , สสุ าน
Call up (v.) เรยี ก Census (n.) การสาํ รวจสมั มะโนครวั
Camouflage (n.) การอาํ พราง ประชากร
Canal (n.) คลอง Ceremony (n.) พธิ ี
Candidate (n.) ผสู้ มคั ร Certain (adj.) แน่นอน
Candle (n.) เทยี นไข Chain (n.) โซ่
Capability (n.) ประสทิ ธภิ าพ Chairperson (n.) ประธาน
Capacity (n.) ความสามารถ Charity (n.) ความใจบุญ, การกุศล
Career (n.) อาชพี Charming (adj.) น่าดงึ ดดู
Carefully (adv.) อยา่ งระมดั ระวงั Chase (n.) ไลต่ าม, ตามลา่
Carp (v.) บน่ , จจู้ %ี Cheer up (v.) รสู้ กึ รา่ เรงิ ขน%ึ
Carpet (n.) พรม Cheerful (adj.) รา่ เรงิ , ปีตยิ นิ ดี
Carry on (v.) จดั การ, ดาํ เนินต่อไป Cherish (v.) ทะนุถนอม
Carry out (v.) ทาํ ใหส้ าํ เรจ็ Chew (v.) เคย%ี ว, บด, ไตรต่ รอง
Catacomb (n.) สสุ านใตด้ นิ Childhood (n.) วยั เดก็
Catch (v.) จบั , ฉวยเอา Cholera (n.) อหวิ าตกโรค
Catch fire (v.) ตดิ ไฟ Chop (v.) ตดั , สบั , ถาง
Catchy (adj.) ดงึ ดดู , มเี ลห่ ์
Cathedral (n.) มหาวหิ าร

Chop down (v.) ฟันดว้ ยขวาน, ตดั ออก Clumsy (adj.) ซุ่มซ่าม
Chore (n.) งานทนKี ่าเบอKื , งานประจาํ Coastal (adj.) ตามชายฝังK
Chuckle (v.) หวั เราะเบาๆ Coastline (n.) เสน้ แนวชายฝังK
Circulate (v.) หมนุ เวยี น Cockroaches (n.) แมลงสาบ
Circumstance (n.) สถานการณ์, สภาพ Coincidence (n.) เหตุบงั เอญิ , การ
Civil (adj.) เกยKี วกบั พลเมอื ง เกดิ ขน%ึ พรอ้ มกนั
Civilian (n.) พลเรอื น Collapse (v.) ลม้ ลง, ทรดุ ลง, พบั เกบ็ ได้
Civilization (n.) ความเจรญิ , อารยธรรม Collect (v.) รวบรวม, สะสม
Claim (v.) เรยี กรอ้ ง, อา้ งสทิ ธิ Collocate (v.) จดั ใหเ้ หมาะ
Clam (adj.) สงบ Colony (n.) อาณานิคม
Clarification (n.) การทาํ ใหช้ ดั เจน Combination (n.) การรวมกนั
Clarify (v.) ทาํ ใหช้ ดั เจน Combine (v.) แสดงรว่ มกนั , นํามารวมกนั
Classical (adj.) มมี าตรฐานสงู Come out (v.) เปิดเผยออกมา
Classified (v.) ซงKึ แบง่ ออกเป็นหมวดหมู่ Come up (v.) เกดิ ขน%ึ
Claustrophobia (n.) โรคกลวั ทแKี คบ Comfortable (adj.) สบาย, สะดวก
Claw (n.) อุง้ เลบ็ Command (v.) ออกคาํ สงั K
Clear off (v.) หายออกไป, ออกไปใหห้ มด Commentator (n.) ผวู้ จิ ารณ์
Cleft (n.) รอ่ ง Commerce (n.) การซอ%ื ขายสนิ คา้
Client (n.) ลกู คา้ , คนไข้ Commercial (adj.) เกยKี วกบั การซอ%ื ขาย
Cliff (n.) หน้าผา สนิ คา้
Close down (v.) ปิดกจิ การ, เขา้ มาใกล้ Commission (n.) หน้าทKี
Clown (n.) ตวั ตลก, คนหยาบคาย, คนบา้ น Commit (v.) ทาํ , มอบหมาย, สง่
นอก Committee (n.) คณะกรรมการ
Common (adj.) รว่ มกนั , ธรรมดา

Companion (n.) เพอKื นรว่ มงาน Concurrently (adv.) พรอ้ มกนั
Compassionate (adj.) ทรKี สู้ กึ เหน็ ใจ Condenser (n.) เครอKื งควบแน่น
Compatible (adj.) ซงKึ อยดู่ ว้ ยกนั ได้
Compendious (adj.) สนั% และชดั เจน Condition (n.) สภาพ, เงอKื นไข
Compile (v.) รวบรวม, เรยี บเรยี ง Condolence (n.) การปลอบโยน
Complaint (n.) การบน่
Compliance (n.) การยอมจาํ นน Conduct (v.) นําไป, ชกั จงู
Comply (v.) ทาํ ตาม, ยนิ ยอม Conference (n.) การประชมุ
Component (n.) สว่ นประกอบ
Composite (adj.) ประกอบดว้ ย Confession (n.) การสารภาพความผดิ
Comprehension (n.) ความเขา้ ใจ Conflict (n.) การขดั แยง้
Compromise (n.) การประนีประนอม
Compulsory (adj.) ใชก้ ารบงั คบั Confuse (v.) สบั สน
Compute (v.) คาํ นวณ, ประมาณการ Congestion (n.) ความแออดั
Conceive (v.) นึกคดิ , ตงั% ครรภ์
Concentrate (v.) มสี มาธิ Congruent (adj.) สอดคลอ้ ง, ลงลอย
Concentric (adj.) มจี ดุ ศนู ยก์ ลางรว่ มกนั Conscientious (adj.) ททKี าํ ดว้ ย
Conceptual (adj.) เกยKี วกบั ความคดิ ความรสู้ กึ ดา้ นดี
Concern (v.) กงั วล, หว่ งใย Consciously (adv.) อยา่ งตงั% ใจ
Concession (n.) การยนิ ยอม
Conclusion (n.) สรปุ , ผลลพั ธ์ Consequence (n.) ผลทเKี กดิ ตามมา
Conclusive (adj.) เป็นขอ้ สรปุ Conservation (n.) การอนุรกั ษ์
Concrete (adj.) ชดั เจน
Consideration (n.) การคดิ พจิ ารณา,
con ความคดิ เหน็ ใจผอู้ นKื

Consistent (adj.) มน:ั คง, เห็นพอ้ ง

Console (v.) ปลอบโยน
Consolidation (n.) ความมนั K คง, ความ
ปลอดภยั
Conspiracy (n.) การกบฏ, การสมรรู้ ว่ ม
คดิ

Constantly (adv.) อยา่ งมนั K คง, อยา่ ง Convert (v.) ปรบั
คงทKี Convey (v.) พา, ถ่ายทอด
Construction (n.) สงKิ ปลกู สรา้ ง Convict (v.) พพิ ากษา
Consult (v.) ปรกึ ษาหารอื Convince (v.) โน้นน้าว
Consumption (n.) การบรโิ ภค Cooperative (adj.) ซ:ึงทาํ งานร่วมกนั
Contain (v.) บรรจุ Coordination (n.) ความเสมอภาค
Contaminate (v.) เจอื ปน Cope (v.) รบั มอื , จดั การ
Contemplation (n.) การพจิ ารณา, การ Copycat (n.) คนทเKี รยี นแบบผอู้ นKื
ใครค่ รวญ Copyright (n.) ลขิ สทิ ธิ ^
Contestant (n.) คแู่ ขง่ Correctly (adv.) อยา่ งถกู ตอ้ ง
Context (n.) บรบิ ท Correspond (v.) เขา้ กนั ได้
Continent (n.) ทวปี Correspondence (n.) ความตรงกนั
Contingent (adj.) เป็นไปได,้ บงั เอญิ Correspondent (n.) ผสู้ อKื ขา่ ว
Continually (adv.) ต่อเนKือง Corridor (n.) ระเบยี ง, เหตุฉนวน
Contort (v.) บดิ เบย%ี ว Corrupt (adj.) ทจุ รติ , เน่าเปKือย
Contraband (n.) ของเถKอื น, การคา้ เถKอื น Counsel (v.) แนะนํา
Contraceptive (adj.) เกยKี วกบั การ Countryside (n.) เขตชนบท
คมุ กาํ เนิด Courageous (adj.) กลา้ หาญ
Contract (n.) สญั ญา, ขอ้ ตกลง Court (n.) สนาม, ลาน, ศาล
Contrary (adj.) ทขKี ดั แยง้ Courtroom (n.) หอ้ งพจิ ารณา
Contravene (v.) ต่อตา้ น, ละเมดิ Cove (n.) อา่ ว, ถ%าํ
Contribute (v.) ใหเ้ งนิ ชว่ ยเหลอื Coworker (n.) ผรู้ ว่ มงาน
Controversial (adj.) ซงKึ แยง้ กนั Craftsmen (n.) ชา่ ง
Convenient (adj.) สะดวก

Crash (n.) การชน Currently (adv) เป็นปัจจบุ นั
Credible (adj.) ซงKึ เชอKื ถอื ได้ Curve (n.) เสน้ โคง้
Crew (n.) ลกู เรอื Customary (adj.) เป็นกจิ วตั ร, เป็น
Crime (n.) อาชญากรรม ประเพณี
Criterion (n.) เกณฑ,์ บรรทดั ฐาน
Critical (adj.) เกยKี วกบั การวจิ ารณ์ หมวด D
Criticize (v.) วพิ ากษ์วจิ ารณ์
Crop (n.) พชื ผล Damage (n.) ความเสยี หาย
Crossbreeding (n.) พนั ธผุ์ สม Dare (v.) กลา้
Crucial (adj.) สาํ คญั , จาํ เป็น Dawn (n.) การเรมิK ตน้ , รงุ่ อรณุ
Cruelty (n.) การกระทาํ ทโKี หดรา้ ย Day off (n.) วนั หยดุ งาน
Crunchy (adj.) กรอบ Day-to-day (adj.) วนั แลว้ วนั เลา่
Crypt (n.) หอ้ งใตด้ นิ Deal (v.) จดั การ
Crystalline (adj.) ใส, โปรง่ ใส Debate (v.) ถกเถยี ง, โตว้ าที
Cuddle (v.) โอบกอด Debris (n.) ซากปรกั หกั พงั , เศษ
Cuisine (n.) แผนกครวั , การปรงุ อาหาร Deceive (v.) หลอกลวง
Cultivate (v.) เพาะปลกู , ฝึกฝน Decent (adj.) เหมาะสม, ออ่ นโน้ม
Culture (n.) วฒั นธรรม Decision (n.) การตดั สนิ ใจ
Cure (n.) รกั ษา Declare (v.) ประกาเปิดเผย, ยนื ยนั
Curiosity (n.) ความอยากรอู้ ยากเหน็ Decline (v.) เอยี ง, ลาดลง, เสอKื มลง
Curl (n.) ผมหยกิ Decrease (v.) ลดลง
Currency (n.) เงนิ ตรา Dedicate (v.) อุทศิ

Dedicate (v.) อุทศิ , อุทศิ ตวั Dense (adj.) แน่น, ทบึ มวั
Defamation (n.) การใสร่ า้ ย Departure (n.) การออกเดนิ ทาง
Defective (adj.) มจี ดุ บกพรอ่ ง Depend on (v.) ขน%ึ อยกู่ บั , พงKึ พา
Defend (v.) แกต้ วั , ปกป้อง Depress (v.) หดหใู่ จ, เศรา้
Defendant (n.) จาํ เลย Deprive (v.) ตดั สทิ ธ,ิ ^ กดี กนั
Defense (n.) การป้องกนั Depute (v.) มอบหมาย, เป็นตวั แทน
Defiantly (adv.) อยา่ งทา้ ทาย Deputy (n.) ตวั แทน
Deficiency (n.) ความไมเ่ พยี งพอ Derive (v.) กาํ เนิดมาจาก
Define (v.) ใหค้ าํ จาํ กดั ความ Descent (n.) การสบื เชอ%ื สาย
Definitely (adv.) อยา่ งแน่นอน Describe (v.) บอกพรรณนา
Deform (v.) ทาํ ใหเ้ ปลยKี นรปู Desert (v.) ทอดทง%ิ
Deliberate (adj.) รอบคอบ, สขุ มุ , โดย Deserve (v.) เหมาะสม, สมควรไดร้ บั
เจตนา Desirable (adj.) มคี า่ , ปรารถนา
Delicacy (n.) ความเปราะบาง Desire (v.) ปรารถนา, ตอ้ งการ
Delight (n.) ความยนิ ดี Desolate (adj.) แหง้ แลง้
Deliver (v.) สง่ , ปลอ่ ย, มอบ Despite (prep.) ถงึ อยา่ งไรกต็ าม
Delusion (n.) การหลอกลวง Destination (n.) จดุ มงุ่ หมาย
Deluxe (adj.) หรหู รา Destruction (n.) การทาํ ลาย
Demand (v.) ตอ้ งการ Detective (n.) นกั สบื
Democracy (n.) ประชาธปิ ไตย Detention (n.) การกกั ขงั
Demonstration (n.) การสาธติ Determination (n.) ความมงุ่ มนั K
Denote (v.) หมายความถงึ Determine (v.) กาํ หนด, ตงั% ใจ

Devote (v.) อุทศิ ตน, ทมุ่ เท Disorient (v.) ทาํ ใหส้ บั สน
Dictatorship (n.) การปกครองแบบเผดจ็ Dispense (v.) แจกจา่ ย
การ, อาํ นาจเผดจ็ การ Dispute (v.) โตแ้ ยง้
Die out (v.) หายไป, จากไป Dissatisfaction (n.) ความไมพ่ อใจ
Dietary (adj.) เกยKี วกบั การโภชนาการ Dissension (n.) ความขดั แยง้
Dimension (n.) มติ ิ Dissolve (v.) จางหายไป
Diminish (v.) ทาํ ใหเ้ ลก็ ลง Distance (v.) ระยะทาง
Dimmer (adj.) มดื สลวั , ไมช่ ดั Distinctive (adj.) เดน่
Diploma (n.) อนุปรญิ ญา, ใบอนุญาต Distinguish (v.) แยกแยะความแตกต่าง
Directly (adv.) โดยตรง Distract (v.) ทาํ ใหไ้ ขวเ้ ขว
Dirigible (adj.) สามารถควบคมุ ได้ Distress (v.) ทาํ ใหว้ ติ กกงั วล
Disabled (adj.) พกิ าร, ไรค้ วามสามารถ Disturb (v.) รบกวน
Disappearance (n.) การหายสาบสญู Dive (v.) ดาํ น%ํา
Disappointing (adj.) น่าผดิ หวงั Diverse (adj.) หลากหลาย
Disapproval (n.) ความไมเ่ หน็ ดว้ ย Divide (v.) แบง่ แยก
Disaster (n.) ภยั พบิ ตั ิ Division (n.) การแบง่ แยก
Discard (v.) ละทง%ิ , ทอดทง%ิ Divorce (n.) การหยา่ รา้ ง
Discipline (v.) ฝึกฝน, ทาํ ใหม้ วี นิ ยั Dizziness (n.) การเวยี นศรี ษะ
Discrimination (n.) การเลอื กปฏบิ ตั ิ Dodder (v.) เดนิ โซเซ
Disease (n.) ปัญหา, โรคภยั ไขเ้ จบ็ Domestic (adj.) ภายในประเทศ
Disfigure (v.) ทาํ ใหเ้ สยี โฉม Dominance (n.) การปกครอง, การ
Disguise (v.) ปลอมตวั , ซ่อนเรน้ ครอบงาํ
Disgusting (adj.) น่าขยะแขยง Donation (n.) การบรจิ าค

Dormitory (n.) หอพกั นกั ศกึ ษา หมวด E
Doubt (n.) ความสงสยั
Doubtful (adj.) สงสยั Eardrum (n.) เยอKื แกว้ หู
Drag (v.) ลาก, ดงึ Ease (n.) ความสบายใจ
Drain (v.) ทาํ ใหส้ ญู เสยี , ดมKื Ecologist (n.) นกั เวศวทิ ยา
Drawback (n.) อุปสรรค, สงKิ กดี ขวาง Edge (n.) ขอบ, ดา้ นคม
Dream up (v.) คดิ แผนการ, คดิ คน้ Edible (adj.) ใชก้ นิ ได้
Drive over to (v.) ขบั เขา้ ไปทKี Educator (n.) คร,ู อาจารย์
Driving license (n.) ใบขบั ขKี Effect (n.) ผล, อทิ ธพิ ล
Drought (n.) ฤดแู ลง้ Efficient (adj.) ซงKึ มปี ระสทิ ธภิ าพ
Due (adj.) เหมาะสม Elaborate (adj.) ประณตี , ซบั ซอ้ น
Durable (adj.) ทนทาน, ยงั K ยนื Elderly (adj.) อาวโุ ส
Duration (n.) ความทนทาน, ชว่ ง Election (n.) การเลอื ก, การเลอื กตงั%
ระยะเวลา Eyesore (n.) สงิK ทอKี ุจาดตา
Dust (n.) ฝ่นุ , ผง Element (n.) ธาตุ, องคป์ ระกอบ
Dust off (v.) ปัดฝ่นุ ออก Eliminate (v.) กาํ จดั , ทาํ ลาย
Dwindle (v.) ทาํ ใหล้ ดลง, เสอKื มโทรม Elite (n.) ชนั% ยอด, หวั กะทิ
Dynamic (adj.) พลวตั Embarrass (v.) ทาํ ใหอ้ าย
Embassy (n.) สถานทตู
Embedded (v.) ฝัง, ประทบั
Embrace (v.) กอด, รวมเขา้ ดว้ ยกนั
Emission (n.) ปลดปลอ่ ย
Emit (v.) แผ,่ ขยาย, พน่

Emphasis (n.) การเน้นยา%ํ , ความสาํ คญั Enrollment (n.) ลงทะเบยี น
Employee (n.) ลกู จา้ ง Ensure (v.) ทาํ ใหแ้ น่ใจ
Enable (v.) มอบอาํ นาจ Enterprise (n.) บรษิ ทั
Encase (v.) บรรจุ Enthusiast (n.) ผมู้ คี วามกระตอื รอื รน้
Enchantment (n.) การหลงเสน่ห์ Enthusiastically (adv.) อยา่ ง
Encounter (v.) เผชญิ หน้า กระตอื รอื รน้
Encourage (v.) ใหก้ าํ ลงั ใจ Entire (adj.) ทงั% สน%ิ
End up (v.) ลงทา้ ยดว้ ย Entry (n.) ทางเขา้
Endear (v.) ทาํ ใหเ้ ป็นทรKี กั Envy (n.) ความอจิ ฉา
Endeavor (v.) พยายามบากบนั K Epidemic (n.) โรคระบาด
Endless (adj.) ไมม่ ขี อบเขต Equipment (n.) อุปกรณ์, เครอKื งมอื
Endorse (v.) อนุมตั ิ Equivalent (adj.) เทา่ กบั , ซงKึ มคี า่ เทา่ กนั
Endow (v.) บรจิ าค, มอบ Era (n.) ยคุ , สมยั
Endure (v.) อดทน Eradication (n.) การทาํ ลาย, การถอน
Enemy (n.) ศตั รู รากถอนโคน
Energetic (adj.) ขะมกั เขมน้ Erosion (n.) การกดั กรอ่ น
Enforce (v.) บงั คบั ใช้ Erupt (v.) ปะทุ
Enforcement (n.) การบงั คบั ใช้ Escape (v.) หลบหนี, หลกี เลยKี ง
Engaged (adj.) ซงKึ หมนั% หมายกนั , ทKี Especially (adv.) อยา่ งพเิ ศษ
กาํ ลงั ยงุ่ อยกู่ บั Essential (adj.) จาํ เป็น
Enormous (adj.) มหมึ า Establish (v.) ก่อตงั% , ตดิ ต่อ
Enquiry (v.) สอบถาม, สบื สวน Estate (n.) ทดKี นิ , ทรพั ยส์ นิ
Estimate (v.) ประมาณ, ตรี าคา

Ethics (n.) จรยิ ธรรม Exist (v.) มชี วี ติ , มอี ยู่
Ethnic (adj.) เกยKี วกบั ชาตพิ นั ธุ์ Exotic (adj.) มาจากประแทศอนKื
Euthanasia (n.) การทาํ ใหต้ ายอยา่ งสงบ Expand (v.) ยดื ออก
Evaluate (v.) ประเมนิ คา่ Expectation (n.) การคาดการณ์
Evaporate (v.) ระเหย Expedition (n.) การเดนิ ทาง
Even so (adv.) อยา่ งไรกต็ าม Expel (v.) ไลอ่ อก
Even though (conj.) ถงึ แมว้ า่ Expert (adj.) ชาํ นาญ
Eventually (adv.) ในทสKี ดุ Explanation (n.) การอธบิ าย
Evidence (n.) หลกั ฐาน, ความชดั เจน Explicit (adj.) ชดั เจน, เปิดเผย
Evolve (v.) พฒั นา Explode (v.) ระเบดิ อยา่ งรนุ แรง
Exactly (adv.) อยา่ งแน่นอน Exploit (v.) ใชเ้ พอKื ประโยชน์สว่ นตวั
Exceed (v.) ละเมดิ Explosion (n.) การระเบดิ อยา่ งรนุ แรง
Exception (n.) ขอ้ ยกเวน้ Expose (v.) เปิดเผย
Excerpt (n.) สว่ นทตKี ดั ตอนมา Extend (v.) ยดื ออก
Excessive (adj.) มปี รมิ าณมากเกนิ ความ Extensive (adj.) ครอบคลมุ , แพรห่ ลาย
ตอ้ งการ Exterior (n.) ภายนอก, ชนั% นอก
Exchange (v.) แลกเปลยKี น Extinction (n.) สญู พนั ธุ์
Exclaim (v.) รอ้ งตะโกน Extradition (n.) การสง่ ผรู้ า้ ยขา้ มแดน
Exclude (v.) ไลอ่ อก Extraordinarily (adv.) อยา่ งพเิ ศษ
Excursion (n.) การเดนิ ทางระยะสนั% ๆ Extravagance (n.) ความฟุ่มเฟือย,
Exhale (v.) หายใจออก ความสรุ ยุ่ สรุ า่ ย
Exhausted (adj.) เหน็ดเหนKือย

หมวด F Fellowship (n.) สนั ตภิ าพ
Fence (n.) รวั% , สงKิ กดี ขวาง
อFabric (n.) ผา้ , โครงสรา้ ง Fertilizer (n.) ป๋ ยุ
Feudal (adj.) เกยKี วกบั ระบบศกั ดนิ า
Facility (n.) สงิK อาํ นวยความสะดวก Fiction (n.) นวนิยายทแKี ต่งขน%ึ
Factor (n.) ปัจจยั , เหตุ Fight with (v.) ต่อสกู้ บั
Factory (n.) โรงงาน Fill in (v.) กรอก
Fade (v.) เลอื น Fill up (v.) เตมิ ใหเ้ ตม็
Failure (n.) ความลม้ เหลว Filthy (adj.) หยายบคาย, ลามก
Faint (adj.) เป็นลม, หน้ามดื Fire fighter (n.) นกั ดบั เพลงิ
Faith (n.) ความศรทั ธา Firework (n.) ดอกไมไ้ ฟ, พลุ
Faithfully (adv.) อยา่ งซKอื สตั ย์ Fisherman (n.) ชาวประมง
Familiar (adj.) คนุ้ เคย Fist (n.) หมดั , กาํ ปัน%
Famine (n.) การขากแคลนอาหาร Flap (v.) กระพอื , ตปี ีก
Fancy (n.) จนิ ตนาการ Flash (v.) สอ่ งแสงวาบขน%ึ มา
Fantastic (adj.) ประหลาด, น่าอศั จรรย์ Flatter (v.) ยกยอ, ประจบ
Farmhand (n.) ผรู้ บั จา้ งทาํ งานไร่ Flavor (n.) รสชาติ
Fascinating (adj.) มเี สน่ห์ Flee (v.) หนี
Fashionable (adj.) ทนั สมยั Flexible (adj.) ยดื หยนุ่
Fate (n.) โชคชะตา Float (v.) ลอย
Fatigue (n.) ความเหนKือย Flood (n.) น%ําทว่ ม
Favor (n.) ความกรณุ า
Feather (n.) ขนนก
Feed up with (v.) เหนKือยหน่าย

Flow (v.) ไหล Frantically (adv.) บา้ , เสยี สติ
Flu (n.) ไขห้ วดั ใหญ่ Fraud (n.) คนหลอกลวง
Fluctuation (n.) การแปรผนั Freak (adj.) ประหลาด
Fluently (adv.) คลอ่ งแคลว่ Free (v.) ทาํ ใหอ้ สิ ระ, ปลด
Folk (n.) ชาวบา้ น, ประชาชน Freezing (adj.) เยอื กเยน็
Footpath (n.) ทางเทา้ Frequent (adj.) บอ่ ย
Forbidden (adj.) ทไKี มไ่ ดร้ บั อนุญาต, Freshmen (n.) นิสติ ใหม,่ มอื ใหม่
ตอ้ งหา้ ม Frivolity (n.) ความวติ กกงั วล
Force (v.) บงั คบั Frivolous (n.) ไมจ่ รงิ จงั
Forehand (adj.) ซงKึ อยขู่ า้ งหน้า Frolic (n.) ความสนุกสนาน
Forest (n.) ป่า From time to time (adv.) บางครงั%
Forestry (n.) การป่าไม้ Frugally (adv.) อยา่ งประหยดั
Forgery (n.) สงKิ ทปKี ลอมแปลง Frustration (n.) ความขดั แยง้
Formation (n.) การสรา้ ง, สงิK ทา่ สรา้ งขน%ึ Fudge (n.) ความไรส้ าระ, ความโง่
Formerly (adj.) สมยั กอ่ น Fuel (n.) เชอ%ื เพลงิ
Fortify (v.) ทาํ ใหแ้ ขง็ แรง, ป้องกนั Fulfill (v.) ทาํ ใหส้ าํ เรจ็
Fortunately (adv.) โชคดี Fume (n.) ความโกรธ
Fortune (n.) โชค Function (n.) หน้าทKี
Forward (adv.) ขา้ งหน้า Fundraising (n.) การระดมทนุ
Found (v.) กอ่ ตงั% , สรา้ ง Funeral (n.) พธิ ฝี ังศพ
Foundation (n.) รากฐาน Furious (adj.) เตม็ ไปดว้ ยความโกรธ,
Fraction (n.) เศษสว่ น อารมณ์รนุ แรง
Frail (adj.) ออ่ นแอ, บอบบาง, แตกงา่ ย Furthermore (adv.) นอกจากนนั%

Fuss (n.) ความจจู้ ,%ี การบน่ Get away from (v.) หลุดพน้ จาก
Fussy (adj.) จจู้ ,%ี เตม็ ไปดว้ ยรายละเอยี ด Get on (v.) ถงึ , กา้ วหน้า
Get through (v.) ไปถงึ , ผา่ น
หมวด G Gigantic (adj.) มหมึ า
Giggle (v.) หวั เราะคกิ คกั
Gian (v.) ไดม้ า, ครอบครอง Gingerly (adv.) อยา่ งระมดั ระวงั
Gamble (v.) เลน่ พนนั Give back (v.) ใหค้ นื
Gamely (adj.) อยา่ งกลา้ หาญ Glacier (n.) ธารน%ําแขง็
Garage (n.) โรงรถ Glamorous (adj.) สะดดุ ตา
Garment (n.) เสอ%ื ผา้ Glance (v.) ชาํ เลอื ง
Gather (v.) ชมุ นุม, รวมกลมุ่ Gland (n.) ต่อม
Gaze (v.) จอ้ งมอง Glimpse (v.) มองแวบหนKึง
Generally (adv.) โดยปกต,ิ สว่ นใหญ่ Globalization (n.) โลกาภวิ ตั น์
Generate (v.) ใหเ้ กดิ , ผลติ Globular (adj.) ทวั K โลก
Generous (adj.) ใจกวา้ ง, มนี %ําใจ Gloomy (adj.) มดื มวั
Genres (n.) ประเภท Glorious (adj.) รงุ่ โรจน์
Gently (adv.) อยา่ งสภุ าพ Go ahead (v.) ดาํ เนินต่อไป
Germ (n.) เชอ%ื โรค, จลุ นิ ทรยี ,์ จดุ เรมKิ ตน้ Go off (v.) ออกจาก, หยดุ
Get along with (v.) เขา้ กนั ได้ Go over (v.) ตรวจสอบ
Get off (v.) ออกจาก Goods (n.) สนิ คา้
Get out of (v.) ออกไปจาก, หนี Goofy (adj.) น่าหวั เราะ, โง่
Gorgeous (adj.) หรหู รา, วเิ ศษ

Gossip (n.) การซุบซบิ นินทา Gullible (adj.) ซงKึ ถกู หลอก
Government (n.) รฐั บาล Gulp (v.) สาํ ลกั
Governor (n.) ผปู้ กครอง Gymnast (n.) นกั กายกรรม
Grab (v.) ฉวยควา้ , แยง่ , โฉบ, จบั
Graceful (adj.) สภุ าพ, สงา่ หมวด H
Gradually (adv.) ทคKี อ่ ยๆเกดิ ขน%ึ
Grasp (v.) ยดึ จบั , ควา้ , เขา้ ใจ Habitual (adj.) เคยตวั
Grasshopper (n.) ตกั b แตน Hallucinatory (adj.) อาการประสาท
Grateful (adj.) ทแKี สดงความขอบคณุ หลอน
Gravity (n.) แรงโน้มถ่วง Hallway (n.) ระเบยี ง
Greedy (adj.) ตะกละ Hamper (v.) ขดั ขวาง
Grind (v.) บด Handheld (n.) การจบั แน่น
Gripping (adj.) น่าสนใจ Handicraft (n.) งานฝีมอื
Grittiness (n.) ความกลา้ หาญอดทน Handle (v.) จดั การ
Grocery (n.) รา้ นขายของชาํ Hang up (v.) แขวน, ทาํ ใหล้ า่ ชา้
Groove (n.) รอ่ ง, ราง, ทอ่ Haphazard (adj.) ไมม่ กี ารวางแผน
Growth (n.) การเจรญิ เตบิ โต Harass (v.) รบกวน
Grueling (adj.) ทรหด Hard (adj.) แขง็ , แน่น, ยากลาํ บาก
Grumpy (adj.) อารมณ์ไมด่ ี Harelip (n.) ปากโหวแ่ ต่เกดิ
Guarantee (n.) หลกั ประกนั Harm (v.) ทาํ ใหไ้ ดร้ บั บาดเจบ็
Guidance (n.) การแนะแนว Harvest (n.) การเกบ็ เกยKี วพชื ผล

Hatch (v.) ฟักไข่ Hollow (adj.) เป็นโพรง, เป็นหลุม
Hatchery (n.) สถานทฟKี ักไข่ Homeless (n.) คนไรบ้ า้ น
Hawk (n.) เหยยKี ว, คนโกง Homesick (adj.) ซงKึ คดิ ถงึ บา้ น
Hazardous (adj.) เตม็ ไปดว้ ยอนั ตราย Homograph (n.) คาํ พอ้ งรปู
Heart rate (n.) อตั ราการเตน้ ของหวั ใจ Honestly (adv.) อยา่ งซKอื สตั ย์
Heat up (v.) อุน่ ใหร้ อ้ น Honor (n.) ความเคารพ, เกยี รตยิ ศ
Heavy (adj.) หนกั , ใหญ่มาก Hopelessness (n.) ความสน%ิ หวงั
Helpful (adj.) ใหค้ วามชว่ ยเหลอื Horizontal (adj.) เป็นแนวนอน
Herbivorous (adj.) ซงKึ กนิ พชื เป็นอาหาร Horrible (adj.) น่ากลวั
Hesitate (v.) ลงั เล Horrify (v.) ทาํ ใหก้ ลวั
Hiccup (n.) อาการสะอกึ Household (adj.) เกยKี วกบั ครอบครวั
Hierarchy (n.) ระบบสมณศกั ดิ ^ Housewarming (n.) งานขน%ึ บา้ นใหม่
Hilarious (adj.) ตลกขบขนั Housewife (n.) แมบ่ า้ น
Hill (n.) เนินเขา However (adv.) อยา่ งไรกต็ าม
Hire (v.) เชา่ , จา้ ง, วา่ จา้ ง Huge (adj.) ใหญ่โต
Historic (adj.) ทมKี ชี อKื ในประวตั ศิ าสตร์ Hull (v.) เอาเปลอื กออก
Hit on (v.) โขก Humankind (n.) มนุษยชาติ
Hitch (v.) ดงึ , ยก Humble (adj.) ถ่อมตวั , ออ่ นน้อม
Hoax (v.) โกหก Humiliate (v.) ขายหน้า
Hold for (v.) เกบ็ ไว,้ ดแู ลให้ Humorous (adj.) ตลก, ขบขนั
Hold on (v.) จบั ไว้ Hungrily (adv.) ทปKี รารถนา
Hole (n.) ร,ู โพรง Hunter (n.) ผลู้ า่ , นกั ลา่
Hole up (v.) ซ่อนตวั , พกั หลบซ่อน

หมวด I

Identify (v.) บง่ ช%ี Impression (n.) รอยประทบั , รอยกด
Idiot (n.) คนโงเ่ งา่ Improvement (n.) การปรบั ปรงุ
Ignore (v.) ไมส่ นใจ Impulse (n.) แรงกระตุน้
Illegal (adj.) ผดิ กฎหมาย Inactive (adj.) เฉKือยชา
Illiterate (adj.) ซงKึ ไมส่ ามารถอา่ นหรอื Incapable (adj.) ซงKึ ไมม่ คี วามสามารถ
เขยี นได้ Incentive (n.) สงิK กระตุน้
Illness (n.) ความเจบ็ ป่วย Incidence (n.) เหตุหารณ์
Illustration (n.) การอธบิ ายดว้ ยภาพ Include (v.) รวม, ประกอบดว้ ย
Imitation (n.) การเลยี นแบบ Inconvenience (n.) ความไมส่ ะดวก
Immediate (adj.) ทนั ที Incredibly (adv.) ยากทจKี ะเชอKื
Immigrant (n.) ผอู้ พยพ, คนยา้ ยถนิK Incurable (adj.) ซงKึ เปลยKี นแปลงไมไ่ ด้
Immigration (n.) การอพยพ Indeed (adv.) โดยทแKี ทจ้ รงิ
Immobile (adj.) ซงKึ ไมส่ ามารถเคลอKื นทไKี ด้ Independence (n.) อสิ รภาพ
Immunization (n.) การมภี มู คิ มุ้ กนั Indicate (v.) ชแ%ี นะ
Impact (n.) การกระทบ, แรงกระแทก Indicator (n.) สงKิ ทชKี บ%ี อก
Impatient (adj.) ไมอ่ ดทน Indigestible (adj.) ยอ่ ยยาก
Imperil (v.) เป็นภยั ต่อ Indispensable (adj.) สาํ คญั
Impersonal (adj.) ซงKึ ไมส่ ว่ นตวั Individual (adj.) สว่ นบุคคล
Imply (v.) มคี วามหมายวา่ Industry (n.) ความขยนั หมนั K เพยี ร
Impose (v.) กาํ หนด, กาํ หนดโทษ Ineffective (adj.) ซงKึ ไมเ่ กดิ ผล
Impoverish (v.) ทาํ ใหย้ ากจน

Inertia (n.) ความไมม่ ชี วี ติ ชวี า Instance (n.) ตวั อยา่ ง
Infection (n.) การตดิ เชอ%ื Instrument (n.) เครอKื งมอื , เครอKื งดนตรี
Inflatable (adj.) ซงKึ ทาํ ใหพ้ องได้ Insufficient (adj.) ขาดแคลน
Inflation (n.) ภาวะเงนิ เฟ้อ Insurance (n.) การประกนั
Ingredient (n.) สว่ นผสม Intangible (adj.) ทสKี มั ผสั ได้
Inhabit (v.) อยอู่ าศยั , พกั อาศยั Intend (n.) ตงั% ใข, ปรารถนา
Inhabitant (n.) ผอู้ าศยั Intense (adj.) เขม้ ขน้ , หนาแน่น
Inhale (v.) หายใจเขา้ Interfere (v.) รบกวน
Inhumane (adj.) ชวั K รา้ ย Interpret (v.) อธบิ าย
Initial (adj.) ขนั% ตน้ , เบอ%ื งตน้ , เรมKิ แรก Interpretation (n.) การแปลความ
Injection (n.) การฉดี Intervene (n.) ยงุ่
Injure (v.) ทาํ ใหบ้ าดเจบ็ Intrepid (adj.) กลา้ หาญ
Inland (adj.) ภายในประเทศ Intricate (adj.) ทซKี บั ซอ้ น
Inmate (n.) ผถู้ กู กกั ขงั Introspective (n.) คนทไKี มช่ อบเขา้ สงั คม
Inquire (v.) สอบถาม Invade (v.) บุกรกุ , รกุ ราน
Insanity (n.) การวติ กจรติ Invent (v.) ประดษิ ฐ์
Insecticide (n.) ยา่ ฆา่ แมลง Inventor (n.) นกั ประดษิ ฐ์
Insert (v.) แทรกเขา้ มา Investigate (v.) สบื สวน, สอบสวน
Insight (n.) ความเขา้ ใจลกึ ซง%ึ Investment (n.) การลงทนุ
Insincere (adj.) ซงKึ ไมจ่ รงิ ใจ Invisible (adj.) ซงKึ มองไมเ่ หน็
Insist (v.) ยนื กราน Involuntary (adj.) ซงKึ ไมไ่ ดต้ งั% ใจ
Insomnia (n.) การนอนไมห่ ลบั Involve (v.) พวั พนั

Irrational (adj.) ไรเ้ หตุผล หมวด K
Irregular (adj.) ผดิ ปกต,ิ ขรขุ ระ
Irritate (v.) ทาํ ใหร้ ะคายเคอื ง Keen (adj.) กระตอื รอื รน้ , ชา่ งสงั เกต
Isolate (v.) แยกตวั ออก Keenness (n.) ความฉลาดหลกั แหลม
Ivory (n.) งาชา้ ง Keep in touch (v.) ตดิ ต่อ
Keepsake (n.) สงKิ ทเKี ป็นเครอKื งเตอื นใจ
หมวด J Kidnapper (n.) คนลกั พาตวั
Kind (n.) ชนิด
ป Kindergarten (n.) โรงเรยี นอนุบาล
Knock off (v.) หยดุ งาน, ลดลง
Jackal (n.) หมาใน, คนหลอกลวง
Janitor (n.) ภารโรง หมวด L
Jargon (n.) ภาษาทอ้ งถนิK
Jaw (n.) ขากรรไกร Label (n.) ป้าย, ฉลาก
Jealous (adj.) ขห%ี งึ , หวาดระแวง Laboratory (n.) หอ้ งทดลอง
Jealousy (n.) ความอจิ ฉา Lack (n.) ความขาดแคลน
Jetty (n.) ทา่ จอดเรอื Ladder (n.) บนั ได
Jittery (adj.) ขวญั ออ่ น Lake (n.) ทะเลสาบ, บงึ
Judge (v.) ตดั สนิ , พพิ ากษา, ลงความเหน็ Landlord (n.) เจา้ หน้าท,Kี เจา้ ของบา้ นเชา่
Judicial (adj.) เกยKี วกบั ศาลยตุ ธิ รรม Later on (adv.) ชว่ งหลงั , ภายหลงั
Jump into (v.) รบี ทาํ Laundry (n.) รา้ นซกั รดี เสอ%ื ผา้
Jury (n.) คณะลกู ขนุ Lead (v.) นํา, ชกั จงู
Just in case (adv.) ในกรณขี อง
Justice (n.) ความยตุ ธิ รรม, ผพู้ พิ ากษา

Leak (v.) รวั K Look into (v.) สอบสวนอยา่ งละเอยี ด
Lecture (n.) การสอน, การปราศรยั Look up (v.) ปรบั ปรงุ ขน%ึ
Leech (n.) ปลงิ , ทาก Lousy (adj.) น่ารงั เกยี จ
Legacy (n.) มรดก Loyal (adj.) จงรกั ภกั ด,ี ยดึ มนั K
Legend (n.) ตาํ นาน Luggage (n.) กระเป๋ าเดนิ ทาง
Legislation (n.) ตวั บทกฎหมาย Luxurious (adj.) ฟุ่มเฟือย, หรหู รา
Leisure (n.) เวลาวา่ ง
Lethargy (n.) ความขเ%ี กยี จ, ความเฉKอื ยชา หมวด M
Liar (n.) ผโู้ กหก
License (n.) ใบอนุญาต ป
Lifelong (adj.) ชวั K ชวี ติ
Likely (adj.) น่าจะเป็นไปได้ Machinery (n.) เครอKื งจกั ร
Liquid (adj.) เป็นของเหลว
Literally (adj.) อยา่ งตามตวั อกั ษร, อยา่ ง Magnetic (adj.) มแี รงดงึ ดดู , มเี สน่ห์
แทจ้ รงิ
Literate (adj.) สามารถอา่ นและเขยี นได้ Magnificence (n.) ความสงา่ งาม
Loan (n.) เงนิ กู้
Lock up (v.) กกั ขงั Magnitude (n.) ความใหญ่โต,
Look after (v.) เลย%ี งดู ความสาํ คญั
Look around (v.) มองรอบ ๆ Mainland (n.) แผน่ ดนิ ใหญ่
Maintenance (n.) การรกั ษาไว้
Look at (v.) จอ้ งมอง, ตรวจสอบ Major (adj.) สาํ คญั , สว่ นใหญ่
Look for (v.) มองหา, คาดหวงั Malleability (n.) การเปลยKี นแปลงได้
Mandatory (adj.) เกยKี วกบั คาํ สงั K
Mankind (n.) มนุษยชาติ
Manner (n.) มารยาท
Manufacture (v.) ผลติ

March (n.) หนอง, บงึ , แอง่ น%ํา Method (n.) วธิ กี าร
Marvelous (adj.) น่าประหลาด, ดเี ลศิ Migrant (adj.) เกยKี วกบั การยา้ ยถนKิ
Massive (adj.) ใหญ่โต Mild (adj.) ออ่ น, เบา, ไมร่ นุ แรง
Material (n.) วตั ถุ, สว่ นประกอบ Millennium (n.) ระยะเวลาหนKึงพนั ปี
Maternal (adj.) เกยKี วกบั มรดก Millionaire (n.) เศรษฐี
Matter (n.) ภารกจิ , งาน Minor (adj.) ไมส่ าํ คญั
Maturely (adv.) อยา่ งสมบรู ณ์ Miraculous (adj.) อศั จรรย์
Maze (n.) ทางคดเคย%ี ว, ความยงุ่ เหยงิ Misery (n.) ความทกุ ข,์ ความยากเขญ็
Meantime (n.) เวลาในระหวา่ งนนั% Misunderstanding (n.) ความเขา้ ใจผดิ
Measurable (adj.) วดั ได้ Modest (adj.) ถ่อมตวั , สภุ าพ
Medically (adv.) เกยKี วกบั การแพทย์ Modifier (v.) ผแู้ กไ้ ข
Melt (v.) ละลาย Mogul (n.) ผมู้ อี าํ นาจ, ผมู้ งั K คงั K
Memorize (v.) จดจาํ ใสใ่ จ, ทอ่ งจาํ Moneylender (n.) ผใู้ หย้ มื เงนิ โดยคดิ
Menace (n.) สงKิ คกุ คาม ดอกเบย%ี
Mend (v.) ซ่อม, ปรบั ปรงุ , แกไ้ ข Monopoly (n.) การผกู ขาด
Merchandise (n.) สนิ คา้ Monument (n.) อนุสาวรยี ์
Merchant (n.) พอ่ คา้ Morality (n.) ความดงี าม, จรรยา
Merciless (adj.) ทารณุ , โหดรา้ ย Morgue (n.) สถานทเKี กบ็ ศพ
Mercy (n.) ความเมตตา Mostly (adv.) สว่ นมาก
Merely (adv.) เพยี งเทา่ นนั% Motivate (v.) กระตุน้
Mess (n.) สภาพรกรงุ รงั Mouth-to-mouth (v.) การชว่ ยหายใจ
Meteorologist (n.) นกั อุตุนิยมวทิ ยา แบบปากเป่ า
Mucus (n.) เมอื ก, น%ํามกู