The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Wirunya Kajornjit, 2023-02-03 02:57:17

เล่มเสร็จ

เล่มเสร็จ

แมวโบราณที่ไม่เคยพบ เสน่ห์แมวไทย ที่ชวนหลงไหล มงคล แมวไทย มงคล E-Book หนังสือเพื่อให้ความรู้ เรื่อง 17


โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาโครงการ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)สาขางานดิจิทัลกราฟิก เป็นการนำความรู้ที่ได้ศึกษามาส ร้างเป็นผลงานทางวิชาการ โดยคณะผู้จัดทำได้เลือกที่จะทำโครงการประเภท ออกแบบจัดทำสื่ออิเล็กทรอนิกส์ E-Book เพื่อให้ความรู้เรื่อง 17 แมวไทยมงคล โครงการนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับพันธุ์แมวไทยมงคล เพราะในปัจจุบัน พันธุ์ แมวของไทยมีทั้งที่มีชีวิตอยู่และสูญพันธุ์ไปแล้ว คณะผู้จัดทำเลยได้สร้างสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ E-Bookนี้ขึ้นมาเพื่อให้ความรู้และเข้าใจแก่เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ และท่านผู้ชม เกี่ยวกับความความรู้ ข้อมูลวิธีการดูแลรักษาของแมวไทยแต่ละ ชนิด โดยคณะผู้จัดทําได้มีการประยุกต์ใช้โปรแกรม Adobe PhotoshopCS6 ในการออกแบบ , Adobe InDesignใช้ทำนิตยสาร และ E-Bookออนไลน์ ในการจัดทำสื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ความรู้เกี่ยวกับแมวไทยมงคล ด้วยเหตุผลดังกล่าวผู้จัดทำ จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในด้านการเผย แพร่ข้อมูล เรื่อง17แมวไทยมงคล ออกมาในรูปแบบ E -bookปัจจุบันสื่ออิเล็ก ทรอนิกส์เข้ามามีบทบาทในการศึกษาเรียนรู้มากขึ้น เพื่อสะดวกในการศึกษา ค้นคว้าข้อมูลและได้ทำสื่อเพื่อให้ผู้ที่สนใจแมวไทยมงคลได้ศึกษาเรียนรู้อีกทั้งเป็น การณ์อนุรักษ์แมวไทยไม่ให้สูญพันธุ์คนส่วนมากนิยมเลี้ยง แมวพันธุ์ต่างประเทศ มากกว่าเลี้ยงแมวไทย เพราะแมวพันธุ์ต่างประเทศมีเอกลักษณ์มีความ สวยงาม มากกว่าแมวพันธุ์ไทย แต่พันธุ์แมวไทยมีเอกลักษณ์ในความขี้อ้อนรักเจ้าของ รัก บ้านมากกว่าแมวพันธุ์ต่างประเทศ ทางคณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการทำ โครงการนี้จะให้ประโยชน์หากมีข้อผิดพลาดประการใดทางคณะผู้จัดทำขออภัย ไว้ ณ ที่นี้ด้วย และจะพัฒนาผลงานต่อไปให้ดียิ่งขึ้นไปในอนาคต คณะผู้จัดทํา


17 แมวไทยมงคล 01 ประวัติแมวไทยมงคล แมวไทยทองเเดง แมวเก้าเเต้ม แมววิเชียรมาศ แมวไทยนิลรัตน์ แมวมาเลศ แมวนิลจักร แมวโกนจา แมวจตุบท แมวการเวก แมวสิงหเสพย์ แมวปัดเสวตร 02 04 03 07 05 06 08 09 10 11 12 15 14 13 แมวไทยวิลาส แมวรัตนกำพล


แมวกรอบแว่น แมวกระจอก 17 16 18 19 แมวมุลิลา แมวแซมเสวตร


แมวไทย คือแมวที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศไทย คุณสมบัติที่ทำให้ แมวไทยเหนือกว่าแมวชนิดอื่น คือ เรื่องอุปนิสัย แมวไทยมีความ ฉลาด มีความเป็นตัวของตัวเอง รู้จักคิด รู้จักประจบ รักบ้าน รัก เจ้าของ และเหนืออื่นใด คือ รักความอิสระของตัวเองเป็นชีวิตจิตใจ อิสระที่ จะกิน จะดื่ม หรือจะไปไหนตามที่ใจชอบ ซึ่งถือว่าเป็นบุคลิก ประจำตัวที่ทำให้แตกต่างจากแมวพันธุ์อื่น สีสันตามตัวของแมวไทย เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักรักแมวรู้สึกสุขใจยามได้มอง ไม่ว่าจะเป็น วิเชียรมาศ เก้าแต้ม ขาวมณีหรือขาวปลอด นิลรัตน์หรือดำปลอด ศุภลักษณ์หรือ ทองแดง สีสวาดหรือแมวไทยพันธุ์โคราช ต่างล้วนได้ รับความสนใจ จากเจ้าของและผู้สนใจทั้งสิ้น 01


แมวถือเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงของคนไทยมาช้านาน และได้รับสิทธิในการขึ้นไปอาศัย อยู่บนเรือนร่วมกับมนุษย์ ดังปรากฏในประเพณีขึ้นบ้านใหม่ที่จะมอบของมงคลต่าง ๆ แก่ เจ้าของเรือน ซึ่งมีสัตว์เลี้ยงสองชนิดไก่และแมว ทั้งยังปรากฏแมวในสำนวนหรือสุภาษิตต่าง ๆ เป็นต้นว่า “หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว” “ฝากปลาย่างไว้กับแมว” และ “แมว นอนหวด” เป็นต้น นอกจากเลี้ยงในเรือนแล้ว พระสงฆ์ก็นิยมเลี้ยงแมวในวัดด้วย เพราะ ป้องกันมิให้หนูมากัดทำลายพระไตรปิฏก ตำราดูลักษณะแมว เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นหนึ่งในตำราพรหมชาติ ซึ่งคัดลอกต่อ ๆ กันมา ฉบับหนึ่งอยู่ในการครอบครองของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทฺธสโร) สมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ผู้โปรดปรานการเลี้ยงแมว ตำราดังกล่าว เป็นสมุดข่อย เนื้อหาแต่งเป็นโคลงและกาพย์ แบ่งแมวไทยออกเป็น 23 สายพันธุ์ เป็นแมว มงคล 17 สายพันธุ์ และแมวให้โทษ 6 สายพันธุ์ ส่วนตำราแมวฉบับอื่น ๆ ก็ระบุไว้ใกล้เคียง กันจากเนื้อหาแสดงให้เห็นถึงค่านิยมของคนไทยด้านรูปลักษณ์ เพราะแมวมงคลนั้นล้วนมี ลักษณะที่งาม อันแสดงให้เห็นว่าแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่เป็นบ้านเป็นตาของบ้าน ทั้งนี้แมวไทย ส่วนใหญ่มีอุปนิสัยดี ไม่ดุร้าย ฉลาด รู้จักประจบประแจง รักเจ้าของ และมีความเป็นต้วของ ตัวเอง และมีข้อดีที่สำคัญคือมีภูมิต้านทานต่อโรคเขตร้อนสูง ขนสั้น ไม่มีปัญหาด้านเชื้อรา จากความชื้น เมื่อปี พ.ศ. 2427 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทาน แมววิเชียรมาศคู่หนึ่งให้แก่ กงสุลอังกฤษชื่อ โอเวน กูลด์ แมว ไทยคู่นี้ชนะการประกวดแมวที่ กรุงลอนดอน และทำให้ ชาวอังกฤษนิยมเลี้ยงแมวไทยมากขึ้น ในที่สุดก็แพร่ หลายไปทั่วโลก และแมววิเชียรมาศก็เป็นที่รู้จักใน ภาษาอังกฤษว่า “Siamese Cat” หรือ แมวสยาม 02


ตามีลักษณะสีฟ้าเหมือนแก้วใส หางยาว ปลายแหลม ชี้ตรง โคนใหญ่และค่อยๆเล็กเรียวกลมไปจนสุดปลาย ลักษณะนิสัย ด้วยความที่ตามธรรมชาติแล้ว แมวพันธุ์วิเชียรมาศเป็นแมวที่ล่าสัตว์กินเองเป็นอาหาร จึง ทำาให้แมววิเชียรมาศมีความปราดเปรียวสูง เคลื่อนที่คล่องแคล่ว ว่องไว และมีสัญชาตญาณ การเป็นนักล่าที่ดี มีความระแวงระวังภัยให้กับตัวเองสูงแต่ในขณะเดียวกันก็รักสงบ รักเจ้าของ และขี้อ้อนมาก 03 แมววิเชียรมาศ แมววิเชียรมาศ ตรงกับความหมายว่า “เพชรแห่งดวงจันทร์” หรือ “Moon Diamond” บางตำาราก็เรียก“แมวแก้ว” ซึ่งก็ตรงกับคำาว่า “วิเชียร” เป็นแมวไทยโบราณที่มักเลี้ยงกันในวัง ตั้งแต่สมัยอยุธยา และเป็นแมวมงคลตาม ตำารา มักกล่าวว่าแมวมงคลคนธรรมดาสามัญชนไม่สามารถเลี้ยงได้ เมื่อสมัยเสียกรุงศรี อยุธยาครั้งที่2 แมวไทย 17ชนิดในพระราชวังของกรุงศรีอยุธา ได้ถูกพวกพม่า และเชลย ได้นำาไปพม่า เพราะพม่าคิดว่า แมวไทยคือทรัพย์สินที่มีค่าชนิดนึงเนื่องจากแมวไทยใน อยุธยาสามารถซื้อขายได้ถึง 1แสนตำาลึงทอง หากใครมีแมวชนิดนี้จึงนำามาขายแก่วัง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำาให้แมวไทยสูญพันธุ์ หลังจากนั้น แมววิเชียรมาศก็สาบสูญหายไปจาก ประเทศไทย ต่อมา สมเด็จพุฒาจารย์ พุทธสโร ได้ไปเที่ยวกรุงศรีอยุธยาร้าง แล้วไปเจอสมุดข่อยที่ไม่ถูกเผา จึงนำาสมุดข่อยกลับมา แล้วให้คนไปไล่ต้อนจับแมววิเชียรมาศ จนได้แมววิเชียรมาศกลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง ขนสั้นสีขาว หรือน้ำาตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสี น้ำาตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้าหูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่เท้า หาง


มีสีดำาสนิททั้งตัว เล็บ ลิ้น ฟัน และนัยน์ตา 04 เป็นแมวสีขาว มีสีดำาแต้มสีดำารวมเก้าแห่ง คือ บริเวณหัว คอ โคนขาหน้า และโคนขาหลังหลังทั้ง 4 ข้าง ไหล่ทั้ง 2 ข้าง และโคนหาง ลักษณะแต้มสีดำานี้จะเป็นวงกลมหรือปื้นเหลี่ยมก็ได้ ใคร ได้แมว เก้าแต้มไว้เลี้ยงดู ก็จะทำาให้การค้าขาย รุ่งเรือง ร่ำารวย คนไทย โบราณมักเลี้ยงไว้ใน พระราชสำานัก ปลายหางเรียวยาว แมวเก้าเเต้ม เป็นแมวที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนกรุงศรีอยุธยาเราพะได้มีประวัติศาสตรที่กล่าวถึงแมวว่า เป็นสัตว์ที่มีชีวิตมาแสนนานหลักฐานก็คือ การขุดเจอศพของแมวที่ถูกพันเป็นมัมมี่ ในอียิปต์โดย แมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่ถูกค้นพบในประเทศไทย ซึ่งคาดเดากันว่าเป็นแมวที่เกิดก่อนสงครามโลก ครั้งที่สอง โดย พระเจ้าอยู่หัวในสมัยนั้นได้มีการมอบแมวคู่หนึ่งให้กับขุนนางท่านหนึ่งโดยแมว ชนิดนี้ในสมัยนั้นเชื่อกันว่าเป็นแมวที่นำาโชคลาภมาให้กับผู้เลี้ยง ซึ่งถ้าหากใครได้เลี้ยงชีวิตจะ ประสบแต่ความสำาเร็จ ปัจจุบันแมวเก้าแต้มได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ก่อนหน้านั้นได้ทำาการค้นหาว่ายังมีแมวพันธุ์นี้หลง เหลืออยู่หรือไหม แต่จากการสำารวจก็ไม่ค้นพบแมวชนิดนี้อยู่ในประเทศไทยอีกเลย จึงได้บันทึกว่า เป็นแมวที่สูญพันธุ์ไปแล้วนั้นเอง


แมวไทยนิลรัตน์ เป็นแมวดำาสนิทตลอดตัว แม้กระทั่งเล็บและลิ้นยังเป็นสีดำา หากเลี้ยงให้ดี จะนำามาซึ่งความยิ่งใหญ่ ความสุข สมบูรณ์ เพิ่มพูน ด้วยโภคทรัพย์ บางตำาราระบุด้วยว่ามีนัยน์ตาสีดำาสนิท ซึ่งลักษณะนี้น่าจะเป็น ลักษณะเด่นซึ่งต่างกับแมวดำาพันธุ์อื่นๆ ซึ่งมักจะมีนัยน์ตาสีเหลือง อำาพัน เช่น แมวโกนจา เป็นต้น อย่างไรก็ดี จากข้อมูลแหล่งอื่นๆ พบว่า แมวนิลรัตน์นี้เป็นหนึ่งในแมวพันธุ์หายากและเข้าใจว่าสูญ พันธุ์ไปแล้วในปัจจุบัน มีสีดำาสนิททั้งตัว เล็บ ลิ้น ฟัน และนัยน์ตา ขนเป็นมันแวววาว หางเรียวยาว 05


แมวมาเลศ แมวโคราช หรือ แมวมาเลศ ต้นกำาเนิดพบที่อำาเภอพิมาย จังหวัด นครราชสีมา หรือที่รู้จักกันในนามว่าโคราช มีหลักฐานบันทึกเกี่ยวกับ แมวโคราชในสมุดข่อยที่เขียนขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1350-1767 หรือ ประมาณ พ.ศ. 1893-2310 ในบันทึกได้กล่าวถึงแมวที่ให้โชคลาภที่ดี 17 ตัวของประเทศไทย รวมถึงแมวโคราชด้วย ปัจจุบันสมุดข่อยนี้ถูกเก็บไว้ที่ หอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร ชื่อแมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จ พระพุทธเลิศหล้านภาลัย[1] โดยใช้แหล่งกำาเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์ แมว มีเรื่องเล่ามากมายหรือเป็นตำานานเล่าขานเกี่ยวกับแมวโคราช รวมถึง ตำานานพื้นบ้านที่กล่าวถึงการที่แมวโคราชมีหางหงิกงอมากเท่าไหร่จะมีโชค ลาภมากเท่านั้น มีขนสีดอกเลา หรือสีเทาเงิน ตลอดตัว รูปลักษณ์ที่สวยงาม ตัวกลมน่ารัก 06


แมวนิลจักร “แมวนิลจักร” เป็นแมวสีดำาสนิท ยกเว้นที่ขนรอบคอซึ่งมีสีขาวโดยรอบเหมือนกับสวม ปลอกคอสีขาว บางแห่งว่าเหมือนสวมจักรหรือพวงมาลัยรอบคอ ฟังชื่อแล้วอาจไม่ค่อยคุ้นหู เพราะแมวพันธุ์นี้ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว แมวนิลจักรนับเป็นแมวมงคลพันธุ์หนึ่ง หากเลี้ยงดีก็จะยังให้ เกิดผลเพิ่มพูน ทรัพย์สมบัติมากมี นับว่าโชคดีที่เราได้เห็นข้อมูลของแมวนิลจักรสำานวนนี้ในตำาราแมวไทย ฉบับ หมอเห ณ วัดท่าพูด เนื่องจากบทของแมวนิลจักรนี้เป็นบทที่หาคู่เทียบ เคียงที่อื่นมิได้ จากการค้นคว้าในเบื้องต้นพบว่าข้อมูลใน ตำาราฉบับ 07 มีขนทั่วกายสีดำาสนิท ที่ขนรอบคอมีสีขาวเป็นวงโดย รอบเหมือนกับสวมห่วงหรือปลอกคอสีขาว ช่วยให้ผู้เลี้ยงมีทรัพย์สมบัติมากขึ้น


แมวไทยวิลาส มีการพบแมวที่สืบเชื้อสายวิลาศอีกครั้งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 เป็นต้นมา โดยพบเพียง 10 ตัวทั่วประเทศ[1] ในจำานวนนี้แปดตัว ทำาหมันแล้ว และแมวทั้งสิบตัวนี้เป็นพันธุ์ทางเพราะมีลักษณะตรง ตามตำาราเพียงร้อยละ 50 เท่านั้น จึงเชื่อว่าแมววิลาศพันธุ์แท้คง สูญพันธุ์ไปแล้ว 08 เป็นแมวที่มีขำาสีดำา ตรงหูมีจุด แต้มสีขาว แล้วมีเส้นสีขาวตั้งแต่คอจรด ปลายหาง และตรงปากล่างจนถึง หน้าท้อง นัยน์ตาสีเข้ม รูปร่าง สวยงามน่ารัก ช่วยทำาให้เจริญในหน้าที่การงาน ได้รับลาภยศสมบัติ มีทรัพย์สินบริบูรณ์ ได้เป็นเจ้าคน นายคน


แมวไทยทองแดง แมวศุภลักษณ์ เรียกอีกชื่อว่า แมวทองแดง ในเมืองไทยหายากมากแต่มีทั่วไปในอเมริกาและ อังกฤษ ซึ่งได้มีการพัฒนาผสมพันธุ์กัน จนได้แมวในลักษณะ สีอื่น ๆ มากมาย ทำานองคล้ายพันธุ์วิเชียรมาศ ที่แยกออกไปถึง 8 พันธุ์ แมวศุภลักษณ์ เป็นแมวโบราณที่บุคคลชั้นสูงมักจะเลี้ยงกัน เพราะเป็นแมวที่ดี ผู้ใดได้ครอบครองจะร่ำารวย ในสมัยกรุงศรีอยุธยานั้นคนไทยจำานวนหนึ่งถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยที่พม่า และมีแมวพันธุ์นี้ติด ไปด้วย ด้วยความสง่างาม ของแมวพันธุ์นี้จึงทำาให้เหล่าขุนนางที่ชื่นชอบและเลี้ยงเป็นสัตว์ชั้นสูงที่นั่น ต่อ มาในปี พ.ศ. 2473 ดร.โจเซพ ซี ทอมสัน มาพบแมวพันธุ์นี้ที่พม่า เห็นว่าแมวพันธุ์นี้สง่างาม จึงเกิดความ สนใจ และนำาแมวพันธุ์กลับไปที่ซานฟรานซิสโกด้วย และได้พาไปจดทะเบียนในประเทศอังกฤษ โดยใช้ชื่อว่า Burmese Cat หรือ แมวพม่า นั่นเอง หลายคนคงสงสัยกันว่า แล้วทำาไมเชื่อคิดว่าเป็นแมวไทย ต้องบอกว่า ด้วยโครง ลักษณะ นิสัย ทุกอย่างตรงกับแบบฉบับของแมวไทยทุกประการ 09 เป็นแมวที่มีขนสีทองแดงตามชื่อ บางตัวขนจะออกเป็นสีน้ำาตาลแดง ตาเป็นสีทับทิม สีตาออกสีเหลือง หรือสีอำาพัน หนวด ของมันก็มีสีเหมือนลวดทองแดง บริเวณที่มีสีเข้มกว่า ปกติคือ ตรงหน้า ปลายหู ปลายขา และหาง อุปนิสัยแมวศุภลักษณ์เป็นแมวที่มีความกระตือรือร้นอยู่ เสมอ ขี้สงสัย รักการผจญภัย รักอิสระ ในสายตาคนแปลก หน้าก็ดูดุเอาพอได้ ให้ความสนใจกับสิ่งต่างๆรอบตัวอย่าง มาก กับเจ้าของจะขี้อ้อนตามนิสัยของแมวไทย


แมวโกนจา “แมวโกนจา” หรือบางแห่งเขียนว่า “โกญจา” เป็นแมวไทยโบราณพันธุ์ที่หาได้ง่าย กว่าทุกสายพันธุ์ที่ยังเหลืออยู่ หากแต่คนไม่นิยมเลี้ยง เนื่องจากความเชื่อโบราณเกี่ยวกับแมว ดำา ว่าเป็นแมวผี และอัปมงคล ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว แมวพันธุ์นี้นับเป็นแมวมงคลพันธุ์หนึ่ง หาก เลี้ยงดีก็จะให้คุณแก่ผู้เลี้ยงดังตำาราว่าไว้ น่าเสียดายที่สืบค้นไม่พบประวัติความเป็นมาของแมวโกนจา พบแต่ข้อมูลที่บอกราย ละเอียดลักษณะรูปร่างตามสายพันธุ์ซึ่งมีบางแห่งระบุไว้ว่าแมวโกนจานั้นมีลักษณะคล้ายกับ แมวสายพันธุ์ต่างชาติสายพันธุ์หนึ่ง คือ แมวบอมเบย์ 10 เมื่ออ่านถึงตรงนี้ใครจะมองว่าแมวโกนจาเป็นแมวผีต่อไปเห็นจะมิได้ ด้วยตำาราว่าไว้ดังนี้ เชื่อไว้ไม่เสียหลาย แมวมงคลหากเลี้ยงไว้มักจะให้ คุณแก่ผู้เลี้ยงไม่มากก็น้อย สร้างอำานาจให้กับผู้เลี้ยง ขนสั้น สีดำาตลอดทั้งตัว รูปหัวกลมไม่ใหญ่มาก หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว นัยน์ตา สีดอกบวบแรก แย้ม (สีเหลืองอมเขียว) หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุด ปลายหาง ขายาวเรียวได้


แมวโกนจา แมวการเวก แมวการเวก เป็นแมวไทยโบราณ ๑ ใน ๑๗ ชนิดที่ถูกบันทึกไว้ในสมุดข่อยและใบลาน ตั้งแต่สมัย กรุงศรีอยุธยา อายุไม่ต่ำากว่า300ปี แมวการเวกในปัจจุบันเป็นแมวที่สูญหายหรือสูญพันธุ์ไปแล้ว จัดเป็น แมวมงคลที่ถูกเขียนไว้ในตำาราพรหมชาติ และตำาราดูบ้านเมือง-ฤกษ์ยามด้วย ส่วนในเรื่องสายพันธุ์, การสูญหาย, สูญพันธุ์ และ Genetic นั้นยังไม่มีใครทราบความเป็นมาของ แมวชนิดนี้อย่างแน่ชัด เพราะในปัจจุบันแมวที่มีลักษณะนี้สูญหายไปนานไม่ต่ำากว่า100ปีแล้ว และไม่มีการ บันทึกการค้นพบในด้านตำาราแมวไทยนั้น เขามิได้บอกว่ามันเป็นสายพันธุ์แต่อย่างใด เขาเพียงบอกว่าเป็น แค่ลักษณะอันเป็นมงคลเท่านั้น แต่ในด้านของ Genetic หรือพันธุกรรมศาสตร์แล้วนั้น อาจจะยังเป็นที่ถก เถียงกันอยู่ว่าจะมีโอกาศเกิดแมวชนิดนี้ได้หรือไม่ 11 เป็นแมวที่มี สีดำาล้วนทั้งตัว ไม่มีสีอื่นแซมนอก เหนือแต่ จมูกเท่านั้นที่มี สีขาว ดวงตาสี เหลือง พระจันทร์ ในตำาราบางฉบับระบุว่า เลี้ยงแมวการเวกแล้วไซร้จะได้ดาบทองภายใน ๗ เดือน ได้เป็นเจ้าขุนมูลนาย จะได้เลื่อนยศฐาบรรดาศักดิ์ เข้าเฝ้าท้าวไทย ท่านจะให้ลาภหลาย


แมวจตุบท 12 ตำาราว่าแมวชนิดนี้คนธรรมดาไม่ควรเลี้ยง ควรเลี้ยงเฉพาะ ราชนิกูล หรือเชื้อพระวงศ์เท่านั้น แมวจตุบท เป็นแมวสีดำา นอกจากปลายเท้าขึ้นมาจน ถึงข้อพับทั้งสี่ข้างเป็นสีขาว นัยน์ตาเป็นสีเหลือง คล้ายดอกโสน


แมวจตุบท แมวสิงหเสพย์ 13 แมวสิงหเสพย์ หรือ แมวโสงหเสพย หากผู้ที่นำามาเลี้ยงและให้ความรัก ดูแล เอาใจใส่เป็นอย่างดี แมวจะให้คุณ ช่วยเสริมมงคลให้กับผู้เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ลาภ ยศ บารมี ที่ดิน เงินทองมากมี มั่งคั่ง ร่ำารวย เป็นเจ้าคนนายคน ทรัพย์สินเพิ่มพูน สมดังใจปรารถนาทุกประการ เท่านี้ก็คงพอที่จะให้ผู้ที่ต้องการเลือกหาสัตว์เลี้ยงมา เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา เล็งเห็นแมวไทย เป็นอีกหนึ่งสัตว์เลี้ยงทางเลือกได้บ้าง แต่หากท่านใดที่สนใจอยากเลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์แบบการพาณิชย์ ก็น่าสนใจอยู่มาก เพราะราคาแมวไทยในปัจจุบัน ตัวหนึ่งนั้นมีราคาสูงมากพอควรทีเดียว เมื่อเทียบกับ สัตว์เลี้ยงสายพันธุ์อื่น ชนิดอื่น จากต่างชาติ นัยน์ตาสีเหลือง ทอง รูปหัวกลม ไม่ใหญ่มาก หู ใหญ่ ตั้งสูงเด่น บนส่วนหัว แมวชนิดนี้มีขนสีดำาทั้งตัว แต่มีสีขาวอยู่บริเวณ ริมฝีปาก จมูกและรอบคอ


แมวรัตนกำาพล 14 พันธุ์รัตนกำาพลแมวรัตนกำาพล มีขนสีขาวดั่งหอยสังข์ยกเว้นบริเวณลำาตัวมีสีดำา คาดไว้ นัยน์ตาสีทอง ตามความเชื่อ ถ้าใครเลี้ยงไว้จะมียศถา บรรดาศักดิ์ และมีอำานาจบารมี ขนสีขาว ดั่งหอยสังข์ยกเว้น บริเวณลำาตัวมีสีดำาคาดไว้ นัยน์ตา สีทอง


15 แมวปัดเสวตร แมวปัดเสวตร (อ่านว่า แมว-ปัด-สะ-เวด) หรือ ปัดตลอด แมวชนิด นี้มีขนสีดำาเป็นมันราบเรียบ ยกเว้นปลายจมูกจนถึงปลายหางมีขาว ดวงตา มีสีเหลืองดั่งพลอยสะท้อนแสง ใครเลี้ยงไว้จะช่วยชูชื่อเสียงวงศ์ตระกูลให้ เป็นที่รู้จักทั่วไป 15 ขนสีดำาเป็นมันราบเรียบ ยกเว้นปลาย จมูกจนถึงปลายหางมีขาว ขนสีดำาเป็นมันราบ เรียบ ยกเว้นปลาย จมูกจนถึงปลายหาง มีขาว


แมวแซมเศวต แมวแซมเสวตร [แซมสะเหฺวด] แปลว่า “แซมสีขาว”[1] เป็นแมวชนิดหนึ่งที่ปรากฏใน ตำาราแมว ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แมวแซมเสวตรเป็นแมวไทย 1ใน17ชนิด ที่มีบันทึกอยู่ในตำาราสมุดข่อยโบราณอายุไม่ต่ำา กว่า200ปี ความเก่าแก่ของตำาราสามารถอ้างอิงได้ถึงยุคกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี จนถึง กรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นก็ได้มีการเขียนตำาราแมวขึ้นอีกหลายฉบับ และแมวแซมเสวตรก็ ถูกอ้างอิงอยู่ในตำาราทุกๆฉบับ เป็นแมวไทยอีกชนิดหนึ่งที่เคยคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว และมี โครงการตามหาอยู่หลายครั้ง 16 นัยน์ตาสีเขียวเรืองรอง ดั่งแสงหิ่งห้อย หางเรียวยาว ขนทั่วไปสีดำาแซมด้วยสี ขาวเล็กน้อย แต่ขนบาง และค่อนข้างสั้น รูปร่างบางเพรียวไม่อ้วน เหมือนแมวชนิดอื่นๆและ ค่อนข้างสั้น


17 แมวมุลิลา แมวชนิดนี้ตำาราว่าให้เลี้ยงได้เฉพาะพระสงฆ์ ไม่ควรเลี้ยงตาม บ้านเหตุผลนั้นคงเป็นเพราะบทกวีที่ว่า “หนึ่งด่างสองหูโดยหมาย ตำาราท่านทาย ว่าควรจะเลี้ยงแต่สงฆ์ เล่าเรียนสิ่งใดมั่นคง มิได้ลืม หลงสำาเร็จดังความปรารถนา” กล่าวกันว่าพระสงฆ์ควรจะเลี้ยง แมวมุลิลา เพื่อช่วยให้มีจิตใจตั้งมั่นในการเล่าเรียนไม่ออกนอกลู่นอก ทาง หูสีขาวของแมวเปรียบดังหูทิพย์ ส่งเสริมให้นักปราชญ์หรือ พระสงฆ์สามารถศึกษาพระธรรมหรือเล่าเรียนสำาเร็จตามปรารถนา 17 ช่วยให้ด้านของศาสนา จะทำาให้ผู้เลี้ยงเห็น ดวงตาธรรม ดังนั้น แมวชนิดนี้มักถูก บริเวณสองหูเป็นสี ขาวมัน เปรียบดังหู ทิพย์ ขนสีดำา ขนเรียบเป็น


แมวกรอบแว่น แมวกรอบแว่น หรือ อานม้า แมวให้คุณตามสมุดข่อยโบราณ กรอบแว่น หรือ อานม้า เป็นแมวมีขนสีขาวทั้งตัว ยกเว้นกลางหลัง นั้นจะมีสีดำาเหมือนอานม้าอยู่ และบริเวณขอบตาทั้งสองข้างเป็น สีดำา เหมือนกรอบแว่นตา ใครเลี้ยงไว้จะมีค่ามหาศาล และทำาให้มี เกียรติยศชื่อเสียง 18 ขนสีขาวทั้งตัว ยกเว้น กลางหลังนั้นจะมีสีดำา เหมือนอานม้าอยู่ ใครเลี้ยงไว้จะมีค่า มหาศาล และทำาให้ มีเกียรติยศชื่อเสียง บริเวณขอบตาทั้งสอง ข้างเป็นสีดำา เหมือน กรอบแว่นตา


แมวกระจอก เป็นแมวดำาลักษณะคล้ายแมวสิงหเสพย์แต่ลำาตัวอ้วนกลม น่ารักกว่า ขนดำาเป็นมัน มีสีขาวที่รอบปากเท่านั้นส่วนอื่นๆ คล้าย กัน นัยน์ตาสีเหลือง ใครเลี้ยงไว้จะได้ทรัพย์สินเงินทอง เป็นไพร่จะ ได้กลายเป็นนาย 19 หางยาว ปลายแหลมชี้ ตรง โคนหางใหญ่และ ค่อยๆ เล็กเรียวกลม ไปจนสุดปลาย ขนสั้น สีดำา มีขนสีขาว รอบจมูก นัยน์ตาสีดอกบวบแรกแย้ม (สีเหลืองอมเขียว) รูปหัวกลมไม่ใหญ่มาก หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว


17 แมวไทย มงคล


Click to View FlipBook Version