The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กำเนิดทหารคนเอกของพระราม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Chalermchai Jeamdech, 2024-01-30 22:30:15

รามเกียรติ์ตอนกำเนิดหนุมาน

กำเนิดทหารคนเอกของพระราม

คำนำ รามเกียรติ์เป็นวรรณกรรมสำ คัญของไทยที่มีต้นกำ เนิดมาจากคัมภีร์รามายณะของอินเดีย มี เนื้อหาว่าด้วยพระนารายณ์อวตารเป็นพระรามลงมาปราบยักษ์ ซึ่งเป็นผู้ไม่อยู่ในศีลธรรม เรื่อง นี้นับเป็นหนังสือสำ คัญในลัทธิฮินดู และเป็นที่นิยมของชาวอินเดียโดยทั่วไป เมื่ออารยธรรม อินเดียเผยแผ่เข้ามายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรื่องที่เนื่องมาจากรามายณะจึงแพร่ หลายไปยังประเทศต่างๆ คือ อินโดนีเซีย มาลาเซีย เขมร ลาว เวียดนาม พม่า และไทย ประเทศเหล่านี้ต่างมีวรรณกรรมเรื่องรามเกียรติ์ที่แต่งขึ้นในภาษาของตนทั้งสิ้น รามเกียรติ์ของ ชาติต่างๆนั้น แม้จะมีที่มาเดียวกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันในรายละเอียด แต่ละชาติจะสอด แทรกเอกลักษณ์ คตินิยม วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของตนลงไป หนังสือรามเกียรติ์ฉบับภาษาไทยนั้น มีอยู่หลายสำ นวนด้วยกันและแต่งเป็นคำ ประพันธ์หลาย รูปแบบทั้ง คำ โคลง คำ ฉันท์ คำ กาพย์ และคำ กลอน บทละครเรื่องรามเกียรติ์พระราชนิพนธ์ ใน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช นับได้ว่าเป็นรามเกียรติ์ฉบับที่มีเนื้อความ บริบูรณ์กว่าฉบับอื่น มีเนื้อหาตั้งแต่หิรันตยักษ์ม้วนแผ่นดิน เกิดอโนมาตัน แรกสร้างกรุง ศรีอยุธยา แล้วดำ เนินความต่อไปจนเกิดสงครามระหว่างมนุษย์กับยักษ์ กระทั่งถึงพระรามและ นางสีดาครองกรุงศรีอยุธยา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชวิจารณ์ บทละครเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๑ ไว้ในหนังสือบ่อเกิดแห่งรามเกียรติ์ว่า “สังเกตได้ว่าพระราชประสงค์คือจะรวบรวมเรื่องรามเกียรติ์ไว้ให้ได้หมดมากกว่าที่จะใช้สำ หรับ เล่นละคร” จัดทำ โดย เฉลิมชัย เจียมเดช


สารบัญ กข121113151718 คำ นำสารบัญเนื้อเรื่อรื่งย่อเนื้อเรื่อรื่งคุณค่าด้านวรรณศิลป์คุณค่าด้านเนื้อหาคุณค่าด้านสังคมบรรณานุกรมผู้ตรวจอักษร


เนื้อเรื่องย่อ 1 เมื่อพระอิศวรทราบว่านางกาลอัคคีได้สาป “นางสวาหะ” (ลูกฤาษีโคดมกับนางกาลอัคคี) ให้ไปยืนตีนเดียวเหนี่ยวกิ่งไม้ กินลมอยู่ที่เนินเขาจักรวาล ก่อนตนเองจะกลายเป็นแผ่นหินไป ตามคำ สาปของฤาษีโคดมสามี พระอิศวรจึงมีความคิดให้ นางมีบุตรเพื่อแบ่งกำ ลังกายของตนไปเกิด เพื่อรอคอยรับใช้ พระนารายณ์อวตารในกาลภายภาคหน้ายามที่นารายณ์ อวตารลงไปปราบยักษ์ทศกัณฐ์


ณ ที่กรุงสาเกด ท้าวโคดมซึ่งเป็นกษัตริย์ปกครองเมืองแต่ไร้ทายาทสืบทอด เบื่อหน่ายโลกจึง ออกบวชเป็นฤาษีโคดมอยู่ในป่า บำ เพ็ญตบะปล่อยหนวดเครารุงรังจนมีนกกระจาบสองผัวเมียมา อาศัยเป็นที่ทำ รังหลับนอน วันหนึ่งนกกระจาบตัวผู้ออกไปหากินทว่าติดอยู่ในกลีบดอกบัวทั้งคืน ต้องรอจนรุ่งสางเมื่อดอกบัวผลิบานจึงบินออกมาได้ ครั้นกลับมาถึงรังก็มีปากเสียงกันเพราะแม่น กกระจาบไม่เชื่อว่าพ่อนกติดอยู่ในดอกบัวจริง ฝ่ายพ่อนกจึงร้องว่า “หากทั้งหมดที่ข้าพูดมานั้น เป็นเรื่องโกหก ขอให้บาปทั้งมวลของพระฤาษีโคดมจงตกเป็นของข้าผู้เดียว”พระฤาษีได้ยินก็สะดุ้ง โหยง ถามกลับไปว่า “ฉันมีบาปตรงไหน ทุกวันนี้ฉันก็นั่งบำ เพ็ญเพียรภาวนารักษาศีล ร่างกาย หนวดเคราของฉันก็ให้พวกเธอได้ใช้เป็นที่พักพิง บอกฉันหน่อยสิ ว่าฉันมีบาปมหันต์อย่างไร” พ่อ นกจึงตอบไปว่า “ท่านเป็นคนบาปเพราะท่านไม่มีโอรสธิดาไว้เป็นทายาทสืบทอดราชบัลลังก์ และ การที่ท่านละทิ้งบ้านเมืองมาอยู่ป่าเช่นนี้ก็เท่ากับว่า ท่านได้ทิ้งนครของท่านไร้กษัตริย์ปกครอง อย่างนี้จะเรียกว่าท่านเป็นคนบาปได้หรือไม่ล่ะท่านฤาษี เนื้อเรื่อง 2


เนื้อเรื่อง พระฤาษีโคดมครุ่นคิดสักครู่ก็รู้ว่าจริงดั่งคำ ของพ่อนก บังเกิดความรู้สึกเหนื่อยหน่ายต่อเพศ ฤาษี จึงตั้งพิธีบริกรรมหน้ากองไฟ เนรมิตสาวงามชื่อนางกาลอัจนาขึ้นมาเพื่ออยู่กินกันฉัน ผัวเมีย จนได้ลูกสาวคนหนึ่งชื่อนางสวาหะ วันหนึ่งขณะพระโคดมเข้าป่าไปหาผลไม้ตาม ปกติทิ้งนางกาลอัจนาเฝ้าอาศรมผู้เดียว พระอินทร์เสด็จมาอยู่กับนางกาลอัจนาเพื่อให้เกิด โอรสมีฤทธิ์ มีบุตรรูปงามผิวสีเขียว ฝ่ายพระอาทิตย์ก็เสด็จมาอยู่กับนางกาลอัจนาบ้างจน นางคลอดบุตรเป็นเด็กชายรูปงามผิวสีแดง พระโคดมนั้นคิดว่าเด็กชายทั้งสองเป็นลูกของตน ก็เฝ้าเลี้ยงดูทะนุถนอมอย่างดี จนแทบจะลืมนางสวาหะลูกสาวคนโตเลยทีเดียว พระฤาษีโคดม และ นางกาลอัจนา 3


เนื้อเรื่อง อยู่มาวันหนึ่งพระโคดมเกิดร้อนอยากอาบน้ำ จึงพาลูกทั้งสามไปริมฝั่งแม่น้ำ โดยอุ้มลูกชายคน เล็กไว้ข้างเอว ลูกชายคนกลางให้ขี่หลัง ส่วนลูกคนโตซึ่งคือนางสวาหะท่านจูงด้วยมือซ้าย เพราะเห็นว่าโตแล้ว นางสวาหะซึ่งรับรู้เรื่องราวทุกอย่างมาตลอดจึงบ่นขึ้นมาว่า “เชอะ…ที ลูกของคนอื่นล่ะเอาอุ้มชูให้ขี่หลัง แต่กับลูกของตัวเองแท้ๆกลับให้เดินเอาเอง พระโคดมได้ ฟังก็เกิดความสงสัยบังคับให้นางสวาหะเล่าความจริงมาทั้งหมด เมื่อรับทราบเรื่องราวก็ได้ อธิษฐานว่า “เราจะจับพวกเจ้าทั้งสามโยนทิ้งลงแม่น้ำ หากใครไม่ใช่ลูกเราก็จงกลายเป็นลิง ขึ้นฝั่งเข้าป่าไป ส่วนลูกของเราก็ขอให้ว่ายน้ำ กลับมาหาเรา เมื่อกล่าวจบก็จับลูกทั้งสามโยน ลงแม่น้ำ มีเพียงนางสวาหะว่ายกลับมาได้คนเดียว ส่วนลูกชายทั้งสองกลายเป็นลิงสีเขียว และสีแดงหายลับเข้าป่าไป พระโคดมกลับมายังอาศรมด้วยความโกรธจัดจึงสาปนางกาล อัจนากลายเป็นหินรอพระนารายณ์อวตารมาขนไปทิ้งทะเลเมื่อจะข้ามไปกรุงลงกา 4


เนื้อเรื่อง นางกาลอัจนาคิดแค้นสวาหะลูกสาวของตนที่ไม่รู้จักบุญคุณแม่จึงสาปให้ยืนตีนเดียวมือ เหนี่ยวต้นไม้ อ้าปากกินลมอยู่ที่เชิงเขาจักรวาล จนกว่าจะออกลูกเป็นลิงจึงพ้นคำ สาป ฝ่าย พระอินทร์และพระอาทิตย์ซึ่งเฝ้าดูเหตุการณ์ก็นึกสงสารในชะตากรรมของลูกชายจึงเนรมิต เมืองขีดขินให้โอรสทั้งสองได้อยู่ โดยโอรสพระอินทร์เป็นพญากากาศ (ภายหลังเปลี่ยนชื่อ เป็นพาลี) ตัวสีเขียว ส่วนโอรสพระอาทิตย์นั้นได้แต่งตั้งเป็นอุปราชมีชื่อว่า สุครีพ ตัวสีแดง นางสวาหะ 5


เนื้อเรื่อง ฝ่ายพระอิศวร(พระศิวะ)เมื่อทราบว่านางกาลอัจนาสาบลูกสาวให้ไปยืนตีนเดียวเหนี่ยวกินลมที่เนินเขา จักรวาลก็สงสารนางสวาหะ จึงสั่งให้พระพายเอาเทพอาวุธและกำ ลังของพระองค์(กำ ลังพระศิวะ)ไปซัด เข้าปากนางสวาหะให้มีลูกเป็นลิงโดยให้กระบองเพชรเป็นสันหลังตลอดหาง ตรีเพชรเป็นตัว มือและเท้า ให้จักรแก้วเป็นหัว เมื่อจะต่อสู้กับศัตรูก็ให้ชักเอาตรีเพชรที่อกออกมาได้ และสั่งให้พระพายคอยดูแลนาง สวาหะจนกว่าจะคลอด และอนุญาตให้พระพายเป็นพ่อ (ถ้าดูดี ๆ พ่อของหนุมานน่าจะเป็นเพราะอิศวร มากกว่านะคับ)พระพายได้รับเอากำ ลังและเทพอาวุธก็ขึ้นม้าเหาะไปยังเชิงเขาจักรวาล เอาเทพอาวุธซัด เข้าไปในปากนางสวาหะตามเทวราชโองการ แล้วบอกนางสวาหะว่า “พระอิศวรประทานลูกให้และให้เรา มาป้องกันเจ้าไม่ให้ได้รับอันตรายใด ๆ” พระพาย 6


เนื้อเรื่อง นางสวาหะตั้งครรภ์อยู่ 30 เดือนก็ให้กำ เนิดโอรส ฤกษ์พระอาทิตย์ปราศจากเมฆ วัน อังคารเดือนสามปีขาล เวลาคลอดก็กระโจนออกมาจากปากแม่ เผือกผ่องไปทั้งกาย ตัว ใหญ่เท่ากับอายุ 16 ปี แล้วก้เหาะขึ้นไปบนฟ้า มีรัศมีโชติช่วง มีกุณฑลขนเพชร เขี้ยวแก้ว หาวเป็นดาวเป็นเดือน มีแปดมือ สี่หน้า เมื่อสำ แดงฤทธิ์แล้วก็ลงมากราบแม่และพระพาย เพราะคิดว่าพระพายเป็นพ่อฝ่ายพระพายเมื่อเห็นลิงน้อยสำ แดงฤทธิ์ก็ดีใจ ตั้งชื่อตามที่พระ อิศวรสั่งไว้ว่า “หนุมาน” แล้วพระพายก็ยังแบ่งพลังของตนให้หนุมานอีกด้วยฝ่ายนาง สวาหะเมื่อคลอดลูกก็พ้นคำ สาป ตรงเข้าอุ้มลูกกอดจูบด้วยความรักสุดประมาณ กอดพลาง ก็รำ พันว่าเกิดมาก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันจะต้องจากไป ไม่มีอะไรจะให้ลูก สั่งหนุมานว่าสำ หรับกุล ฑลขนเพชรนั้นถ้ามีใครทัก ท่านนั้นคือพระนารายณ์อวตารลงมาเพื่อฆ่ายักษ์ จงสวามิภักดิ์ กับท่านผู้นั้นหนุมานรับพรจากพระพายและฟังคำ สั่งแม่แล้วก็ลาพระพายและแม่ไป หิวก็เก็บ ผลไม้กินตามประสา โดยไม่รู้ว่าสวนนั้นเป็นของใคร หนุมานตอนเกิด 7


เนื้อเรื่อง นางสวาหะตั้งครรภ์อยู่ 30 เดือนก็ให้กำ เนิดโอรส ฤกษ์พระอาทิตย์ปราศจากเมฆ วัน อังคารเดือนสามปีขาล เวลาคลอดก็กระโจนออกมาจากปากแม่ เผือกผ่องไปทั้งกาย ตัว ใหญ่เท่ากับอายุ 16 ปี แล้วก้เหาะขึ้นไปบนฟ้า มีรัศมีโชติช่วง มีกุณฑลขนเพชร เขี้ยวแก้ว หาวเป็นดาวเป็นเดือน มีแปดมือ สี่หน้า เมื่อสำ แดงฤทธิ์แล้วก็ลงมากราบแม่และพระพาย เพราะคิดว่าพระพายเป็นพ่อฝ่ายพระพายเมื่อเห็นลิงน้อยสำ แดงฤทธิ์ก็ดีใจ ตั้งชื่อตามที่พระ อิศวรสั่งไว้ว่า “หนุมาน” แล้วพระพายก็ยังแบ่งพลังของตนให้หนุมานอีกด้วยฝ่ายนาง สวาหะเมื่อคลอดลูกก็พ้นคำ สาป ตรงเข้าอุ้มลูกกอดจูบด้วยความรักสุดประมาณ กอดพลาง ก็รำ พันว่าเกิดมาก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันจะต้องจากไป ไม่มีอะไรจะให้ลูก สั่งหนุมานว่าสำ หรับกุล ฑลขนเพชรนั้นถ้ามีใครทัก ท่านนั้นคือพระนารายณ์อวตารลงมาเพื่อฆ่ายักษ์ จงสวามิภักดิ์ กับท่านผู้นั้นหนุมานรับพรจากพระพายและฟังคำ สั่งแม่แล้วก็ลาพระพายและแม่ไป หิวก็เก็บ ผลไม้กินตามประสา โดยไม่รู้ว่าสวนนั้นเป็นของใคร หนุมานตอนเกิด 8


เนื้อเรื่อง มาถึงสวนของพระอุมา หนุมานก็เข้าไปหักกิ่งไม้บ้าง เด็ดกินบ้างประสาลิงซน พระอุมาเห็นลิงน้อย เผือกผ่องเข้ามาซุกซก็เกรี้ยวกราดตวาดว่า”ดูดู๋เจ้าลิง เหตุใดเอ็งจึงมาหักกิ่งไม้ในสวนของเราผู้เป็น แม่ของโลก เราจะสาปเจ้าให้กำ ลังลดลงครึ่งหนึ่งให้สมกับที่อวดดี”พอได้ยินคำ สาปหนุมานก็ตกใจ รีบก้มลงกราบแล้วทูลว่า“อันตัวข้าเป็นลิงน้อยหาได้รู้สิ่งใดผิดสิ่งใดชอบ และไม่รู้ว่าเป็นสวนของเทพ มารดานึกว่าเป็นป่าไม่ได้คิดจะหมิ่นบาทยุคลขอพระแม่โปรดปราณีข้าเถิด”พระอุมาพอได้ฟังก็พูด ว่า“เจ้าลิงน้อยอันคำ ของเรานั้นเป็นวาจาสิทธิ์แต่เมื่อเจ้ารู้จักรับผิดเราก็จะให้อภัยเมื่อใดพระนารายณ์ อวตารเป็นพระรามแล้วเอามือลูบหลังจนถึงหางเจ้าเจ้าก็จะพ้นคำ สาบนี้มีกำ ลังดังเดิมหนุมานต้องคำ สาปแล้วก็ลาพระอุมาไปเรื่อย ๆฝ่ายพระพายเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้พา หนุมานฝากเนื้อฝากตัวกับพระ อิศวรก็เหาะมาพาหนุมานไปเฝ้าพระอิศวรแล้วทูลว่า“นี่คือหนุมานลูกนางสวาหะพระเจ้าข้า”พระ อิศวรเห็นวานรน้อยมีท่วงทีแข็งแรงเหมาะจะเป็นทหารพระนารายณ์ก็ดีใจ จึงสอนคาถามมหามนต์ แปลงกายหายตัว ให้คาถานะจังงัง ร่างกายคงทนและอวยพรให้อายุยืนชั่วกัลปาวสานเมื่อถูกฆ่าตาย แล้วลมพัดมาก็ให้ฟื้นได้ พระแม่อุมาเทวี 9


เนื้อเรื่อง หนุมานเรียนเวทย์วิทยาจนชำ นาญคอยติดตามพระอิศวรจนหนุมานมีฤทธิ์มากแล้ว พระอิศวรก็คิดว่าพระยากากาศ(พาลี)และพระยาสุครีพเป็นน้องของแม่หนุมานนั้น ยังไม่มีลูกซึ่งมีฤทธิเยอะอย่างนี้ ก็เลยคิดจะส่งหนุมานกับชมพูพานไปอยู่เมืองขีดขิน คิดแล้วก็สั่งให้พระยากากาศและสุครีพเข้าเฝ้า เมื่อทั้งสองมาเข้าเฝ้า พระอิศวรก็ บอกว่าหนุมานเป็นหลานของทั้งสอง มีพระพายเป็นพ่อ และชมพูพานที่พระอิศวร ชุบขึ้นด้วยเหงื่อไคลสรรพยาวิเศษ จึงขอฝากไปเลี้ยง เวลาพระนารายณ์ไปปราบ ยักษ์หากพลาดท่าเสียทีจะได้ช่วยกันแก้ไขพระยากากาศก็รับหลานและชมพูพานไป อยู่ที่เมืองขีดขินและดูแล หนุมานตอนเกิด 10


คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ๑.การสรรคำ การใช้คำ ที่หลากหลายในการสื่อความหมายถึงตัวละครแต่ละตัว ซึ่ง การสรรคำ จะทำ ให้ผู้อ่านไม่เกิดความเบื่อหน่ายเพราะหากไม่มีการสรรคำ ก็จะต้อง ใช้สรรพนามแทนตัวละครหนึ่งๆซ้ำ ๆ กันอยู่ตลอดเวลาก็จะทำ ให้เรื่องราวอาจกร่อย ลงได้ คำ ที่มีความหมายว่า พระราม, พระนารายณ์ เมื่อนั้น พระลักษมณ์ทรงสวัสดิ์รัศมี น้อมเศียรกราบบาทพระจักรี ชุลีกรสนองพระบัญชา เมื่อกี้ได้ยินสำ เนียง สุรเสียงสมเด็จพระเชษฐา …………………………………………………………………… พระพี่นางได้ยินเสียงมัน สำ คัญว่าเสียงพระสี่กร ขับน้องให้ตามเบื้องบาท พระตรีภูวนาททรงศร ทูลว่าใช่เสียงพระภูธร อสุรีหลอกหลอนเป็นมายา 11


คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ๒.การเล่นคำ ซ้ำ ทำ ให้เกิดความไพเราะและเสริมความงดงามของบทประพันธ์ ซึ่งในเรื่องรามเกียรติ์นี้พบเป็นจำ นวนมาก เช่น บัดนั้น ปักหลั่นสิทธิศักดิ์ยักษี ถาโถมโจมจ้วงทะลวงตี ด้วยกำ ลังอินทรีย์กุมภัณฑ์ ต่างถอยต่างไล่สับสน ต่างตนฤทธิแรงแข็งขัน สองหาญต่อกล้าเข้าโรมรัน ต่างตีต่างฟันไม่งดการ 12


คุณค่าด้านเนื้อหา เนื้อหานอกจากจะให้ความเพลิดเพลินแล้ว ตัวละครในเรื่องยังได้แสดงถึงคุณธรรม ที่เป็นแบบอย่างในการดำ เนินชีวิต เช่น พระรามเป็นบุตรที่มีความกตัญญูต่อบิดามารดา โดยยินยอมออกเดินป่าเป็นเวลาถึง ๑๔ ปีเพื่อรักษาความสัตย์ของบิดา เมื่อนั้น พระรามสุริยวงศา รับเอาซึ่งเครื่องจรรยา แล้วมีบัญชาตรัสไป เอ็งจงกราบทูลเสด็จแม่ ว่าเราบังคมประนมไหว้ อันสัตย์พระปิตุรงค์ทรงชัย กูนี้มิให้เสียธรรม์ อย่าว่าแต่ไปสิบสี่ปี จะถวายชีวีจนอาสัญ ให้เป็นที่สรรเสริญแก่เทวัญ ว่ากตัญญูต่อบิดา ซึ่งน้องเราจะผ่านพระนคร ให้ถาวรบรมสุขา วันนี้จะถวายบังคมลา อย่าให้พระแม่ร้อนใ 13


คุณค่าด้านเนื้อหา นอกจากนี้ยังมีข้อคิดที่ได้อีกมากมาย เช่น ๑.ทั้งในเรื่องความยุติธรรมของท้าวมาลีวราชที่ไม่เข้าข้างฝ่ายทศกัณฐ์ซึ่งเป็นหลานของตน แต่ฟังความจากทุกฝ่ายเพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ทุกคน ๒.การไม่เห็นแก้พวกพ้องจนเสียความยุติธรรม เห็นได้จากสุครีพ ที่สาบานเป็นเพื่อนตาย กับพิเภก แต่เมื่อได้รับบัญชาให้สอบสวนนางเบญจกายซึ่งปลอมตัวเป็นนางสีดาตายลอยน้ำ มาลวงพระราม สุครีพสอบสวนความได้ว่า นางเป็นธิดาของพิเภกจึงเชื่อคำ ให้การของ นางเบญจกายแต่ก็ให้นางเข้าพบพระรามเพื่อตัดสินคดี ไม่ปล่อยให้นางเป็นอิสระทันที ๓.ความกล้าหาญในการรบของหนุมานและสุครีพ ที่ต่อสู้กับศัตรูอย่างกล้าหาญ 14


คุณค่าด้านสังคม ๑.วัฒนธรรมและประเพณี ได้แก่ การทำ กิจกรรมต่างๆ เช่น ประเพณีการจัดทัพและการ ตั้งค่าย ความเชื่อเรื่องโชคลาง และการบูชาบวงสรวงเทวดา เช่น พิธีปรุงข้าวทิพย์ ความเชื่อเรื่องโชคลางในการหาฤกษ์ยามที่เหมาะสมในการออกทัพ หรือระเบียบวิธี ทางการทูตสมัยเก่า เช่นการปฏิสันถารสามนัด (เมื่อพระราชาพบทูต จะถามคำ ถามสาม คำ ถามก่อนที่จะเจรจากัน ได้แก่ ๑.พระราชาของท่านเป็นอย่างไร ๒.เมืองของท่านเป็น อย่างไร ๓.ท่านมีจุดประสงค์อะไร ซึ่งเป็นโอกาสให้ทูตให้ปฏิภาณไหวพริบตอบ) เป็นต้น ๒.การแสดงสภาพชีวิตความเป็นอยู่และค่านิยมของบรรพบุรุษ ที่ย่อมจะสอดแทรกสภาพ สังคมสมัยก่อน ๓.การเข้าในธรรมชาติของมนุษย์ ตัวละครแต่ละตัวเป็นตัวแทนของมนุษย์โดยทั่วไปที่มี รัก โลภ โกรธ หลง ดีใจ เสียใจ ๔.เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ชื่อเมืองและสถานที่หลายๆแห่งในเรื่องรามเกียรติ์นั้น ร่วมสมัยกับเมืองไทยในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ เช่นเมืองอยุธยา เมืองบุรีรัมย์ แม่น้ำ สะโตง นอกจากนั้นเทคโนโลยีก็ร่วมสมัยกัน เช่นมีการกล่าวถึงอาวุธปืน ซึ่งย่อมไม่มีในรามายณะ นอกจากนั้นระบบการปกครองในรามเกียรติ์ยังเป็นระบบการปกครองแบบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เก่า ที่เจ้าเมืองขึ้นยอมสยบต่อเมืองแม่เป็นทอดๆ โดยการเคารพใน ‘บุญ’ ของ พระมหากษัตริย์เป็นหลัก 15


คุณค่าด้านสังคม ๕.สอดแทรกมุมมองของปราชญ์ไทยที่นอกเหนือจากรามายณะ เช่น เมื่อกุมภกรรณ ออกรบกับพระรามนั้น ได้ตั้งปริศนาถามพระรามไว้บอกว่าถ้าพระรามตอบได้จะยอม เลิกทัพกลับ ปริศนาถามว่า ชีโฉด หญิงโหด ช้างงารี ชายทรชน สี่อย่างนี้คืออะไร พระรามตอบไม่ได้จึงใช้องคตมาถาม กุมภกรรณจึงเฉลยว่า หญิงโหด คือนางสำ มะนักขาที่คิดเอาพระรามเป็นสามี พอไม่ได้ก็และยุยงให้พี่น้องมา รบกับพระรามจนเกิดเรื่อง ช้างงารี คือทศกัณฐ์ที่เกะกะอันธพาล ไปแย่งเมียคนอื่น ชีโฉด คือพระรามที่เพื่อแย่งชิงนางสีดากลับ ถึงกับยกทัพใหญ่มาทำ การวุ่นวาย ทำ ให้ คนบริสุทธิ์มากมายเดือดร้อน ชายทรชน คือพิเภกที่ไม่รู้จักบุญคุณพี่น้อง ไปบอกความลับของฝ่ายลงกาแก่ศัตรู เหมือนแกล้งฆ่าพี่น้องทุกคน คำ บริภาษนี้เป็นของปราชญ์ไทยแต่งขึ้นโดยไม่มีในรามายณะต้นฉบับ ได้เป็นคำ บริภาษ ทุกฝ่ายอย่างยุติธรรมตามมุมมองของกุมภกรรณ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นมุมมองของ กวีที่สอดแทรกไว้ก็ได้ 16


บรรณานุกรม กรองทอง โตวรวิรัตน์. (2555). คุณค่าที่ได้รับจากเรื่องรามเกียรติ์. 27 มกราคม 2567 จาก https://literaturethai.wordpress.com นันทณัฏฐ์ศิริ (2557). รามเกียรติตอนกำเนิดหนุมาน. 27 มกราคม 2567 จาก https://hanuman606.wordpress.com/about/ กิตติเดช เวชอนุกรม (2562) บทละครเรื่องรามเกียรติ 27 มกราคม 2567 จาก https://vajirayana.org พุทธยอดฟ้าจุฬาโลก,พระบาทสมเด็จพระ./(2515)./บทละครเรื่องรามเกียรติ์ เล่ม๑/(1)./นครหลวง:/ แพร่พิทยา. 17


ผู้ตรวจอักษร กิตติกร นพกิจ ทวีวุธ หล้าพูล ณัฐพนธ์ ตั้งภูมิจิต บุญศักดิ์สิทธิ์ คุ้มชาติ 18


ขอบคุณที่อ่านครับ


Click to View FlipBook Version