The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รวมข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการไกล่เกลี่ย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by COJ MEDIATION, 2022-09-14 03:34:03

รวมข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการไกล่เกลี่ย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2565

รวมข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการไกล่เกลี่ย ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2565

ข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา
ว่าด้วยการไกล่เกลี่ย

ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๕๖๕

สำนักส่งเสริมงานตุลาการ
สำนักงานศาลยุติธรรม

สารบัญ

ลาดบั ที่ ข้อกาหนดของประธานศาลฎีกา วา่ ดว้ ยการไกล่เกล่ยี หนา้

๑ หมวด ๑ บททว่ั ไป ๒

๒ หมวด ๒ การดาเนินการใหม้ กี ารไกลเ่ กลยี่ ๔

๓ หมวด ๓ การไกลเ่ กลีย่ โดยองค์คณะผู้พิพากษา ๑๑
๑๓
๔ หมวด ๔ การไกลเ่ กลยี่ โดยผปู้ ระนีประนอม ๑๓
๑๗
๕ หมวด ๕ การไกลเ่ กลยี่ คดีชนั้ อุทธรณ์ ๑๗
๑๘
๖ หมวด ๖ การไกล่เกลี่ยคดชี นั้ ฎีกา ๑๙

๗ หมวด ๗ ทะเบียนผูป้ ระนปี ระนอม

๘ หมวด ๘ จรยิ ธรรมสาหรบั ผปู้ ระนปี ระนอม

๙ หมวด ๙ ศนู ยไ์ กลเ่ กลยี่ ประจาศาล

๑๐ หมวด ๑๐ คณะกรรมการบริหารงานไกลเ่ กลี่ยประจาศาล

๑๑ หมวด ๑๑ บทเฉพาะกาล

สำนักสง่ เสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยุตธิ รรม หนา้ | 2

ขอ้ กาหนดของประธานศาลฎกี า

ว่าด้วยการไกลเ่ กลีย่
พ.ศ. ๒๕๕๔

อาศัยอานาจตามความในมาตรา ๒๐ ทวิ วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความแพง่
ประธานศาลฎีกาโดยความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ออกข้อกาหนดว่าด้วยการไกล่เกลี่ย
ดังต่อไปน้ี

ขอ้ ๑ ข้อกาหนดน้เี รียกว่า “ข้อกาหนดของประธานศาลฎีกาวา่ ดว้ ยการไกลเ่ กลยี่ พ.ศ. ๒๕๕๔”
ขอ้ ๒ ขอ้ กาหนดน้ใี ห้ใชบ้ ังคับตั้งแตว่ นั ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเป็นตน้ ไป
ข้อ ๓ ในกรณีท่ีมีระเบียบ ประกาศ ข้อบังคับ หรือคาสั่งอ่ืนใดที่ขัดหรือแย้งกับข้อกาหนดนี้
ให้ปฏบิ ัตติ ามขอ้ กาหนดน้ี

หมวด ๑
บททว่ั ไป

ขอ้ ๔ ในข้อกาหนดนี้ ถา้ ข้อความมไิ ด้แสดงใหเ้ หน็ เปน็ อย่างอืน่
“คดี” หมายความวา่ กระบวนพิจารณานบั ตัง้ แต่เสนอคาฟอ้ งตอ่ ศาล
“ผู้รับผิดชอบราชการศาล” 1 หมายความว่า ประธานศาลฎีกา ประธานศาลอุทธรณ์
ประธานศาลอุทธรณ์ภาค ประธานศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษ อธิบดีผู้พิพากษาศาลช้ันต้น ผู้พิพากษา
หัวหน้าศาลผู้ทาการแทน หรือผ้ทู ่บี ุคคลดงั กล่าวมอบหมายให้ดาเนนิ การตามขอ้ กาหนดนี้
“ผู้ประนีประนอม” หมายความว่า บุคคลหรือคณะบุคคลท่ีมีอานาจดาเนินการไกล่เกล่ีย
ตามขอ้ กาหนดนี้
“ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม” หมายความว่า ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บขา้ ราชการฝา่ ยตลุ าการศาลยุตธิ รรม
“เลขาธกิ าร” หมายความว่า เลขาธิการสานกั งานศาลยตุ ธิ รรม
“คณะกรรมการบริหารงานไกล่เกล่ียประจาศาล” หมายความว่า คณะกรรมการท่ีจัดต้ังข้ึน
ตามหมวด ๑๐
“สานกั สง่ เสริมงานตลุ าการ” 2 หมายความวา่ สานักสง่ เสรมิ งานตลุ าการ สานักงานศาลยุตธิ รรม

1 ขอ้ 4 นิยำมคำว่ำ “ผู้รับผิดชอบรำชกำรศำล” แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยข้อกำหนดของประธำนศำลฎีกำว่ำด้วยกำรไกล่เกลยี่ (ฉบบั ท่ี 2)
พ.ศ.2560

2 ขอ้ 4 นิยำมคำว่ำ “สานกั ส่งเสริมงานตุลาการ” แก้ไขเพ่มิ เติมโดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎีกำว่ำด้วยกำรไกล่เกล่ีย (ฉบับที่ 2)
พ.ศ.2560

สำนกั ส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยตุ ิธรรม หน้า | 3

“ผู้อานวยการ” หมายความว่า ผู้อานวยการสานักอานวยการประจาศาลยุติธรรม
หรอื ผู้อานวยการสานกั งานประจาศาลยตุ ิธรรม

“ผู้อานวยการสานักส่งเสริมงานตุลาการ” 3 หมายความว่า ผู้อานวยการสานักส่งเสริมงาน
ตุลาการ สานักงานศาลยุติธรรม

“ศูนย์ไกล่เกล่ียประจาศาล” หมายความว่า ศูนย์ไกล่เกล่ียข้อพิพาทประจาศาลที่จัดตั้งขึ้น
ตามหมวด ๙

“หัวหน้าศูนย์ไกล่เกลี่ย” หมายความว่า ข้าราชการศาลยุติธรรมที่ผู้รับผิดชอบราชการศาล
มอบหมายให้รบั ผดิ ชอบงานของศูนย์ไกลเ่ กลยี่ ประจาศาล

“เจ้าหน้าท่ีศูนย์ไกล่เกลี่ย” หมายความว่า ข้าราชการศาลยุติธรรม พนักงานราชการ
หรือลกู จา้ งท่ผี รู้ บั ผดิ ชอบราชการศาลมอบหมายให้ปฏิบตั งิ านในศนู ย์ไกลเ่ กล่ียประจาศาล

ข้อ ๕ ให้ประธานศาลฎกี าเปน็ ผรู้ ักษาการตามขอ้ กาหนดน้ี

หมวด ๒
การดาเนินการใหม้ ีการไกลเ่ กล่ยี

ข้อ ๖ ในกรณีมีคดีขึ้นสู่ศาล หากผู้รับผิดชอบราชการศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษา
เห็นสมควร หรือเม่ือคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร้องขอและคู่ความฝ่ายอ่ืนตกลงให้มีการไกล่เกลี่ย
ใหด้ าเนินการใหม้ กี ารไกล่เกล่ียตามข้อกาหนดนี้

ข้อ ๗ ในการดาเนินการให้มีการไกล่เกลี่ย ศูนย์ไกล่เกล่ียประจาศาลอาจเชิญชวนหรือให้
คาแนะนาแก่คู่ความ ทนายความหรือผู้ที่เก่ียวข้องกับการไกล่เกล่ีย การดาเนินกระบวนการไกล่เกล่ีย
และวธิ ีการรอ้ งขอใหม้ ีการไกลเ่ กลยี่ ตลอดจนข้อมูลอ่ืนใดอนั จะเปน็ ประโยชนแ์ ก่บคุ คลดงั กลา่ ว

เพื่อประโยชน์ในการจัดให้มีการไกล่เกลี่ย ผู้รับผิดชอบราชการศาลอาจประกาศกาหนด
ลักษณะหรือประเภทของคดีที่ให้ศูนย์ไกล่เกล่ียประจาศาลดาเนินการเชิญชวนคู่ความให้เข้าร่วม
การไกล่เกลี่ย ท้ังน้ี การกาหนดลักษณะหรือประเภทคดีดังกล่าวไม่เป็นการจากัดลักษณะหรือประเภท
ของคดีอื่นท่ีอาจดาเนินการไกลเ่ กลี่ยได้

ข้อ ๘ ในกรณีที่คู่ความประสงค์จะให้มีการไกล่เกลี่ย คู่ความอาจแจ้งความประสงค์ต่อศูนย์
ไกล่เกล่ยี ประจาศาลหรือแถลงต่อองคค์ ณะผพู้ ิพากษาในระหวา่ งการพจิ ารณา

3 ข้อ 4 นิยำมคำว่ำ “ผู้อำนวยกำรสำนักส่งเสริมงำนตุลำกำร” แก้ไขเพิ่มเติมโดยข้อกำหนดของประธำนศำลฎีกำว่ำด้วยกำรไกล่เกล่ีย
(ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2560

สำนกั สง่ เสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยุตธิ รรม หนา้ | 4

ข้อ ๙ ในกรณีท่ีคู่ความฝ่ายใดแจ้งความประสงค์ต่อศูนย์ไกล่เกล่ียประจาศาล ให้เจ้าหน้าท่ี
ศูนย์ไกล่เกล่ียหรือเจ้าหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมายดาเนินการสอบถามความประสงค์ของคู่ความฝ่ายอ่ืน
หากคู่ความทุกฝ่ายประสงค์จะให้มีการไกล่เกล่ีย ให้เจ้าหน้าท่ีศูนย์ไกล่เกล่ียรายงานให้องค์คณะ
ผู้พิพากษาหรือผู้รับผิดชอบราชการศาลทราบ ในกรณีนี้ ให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยดาเนินการจัดให้มี
การไกลเ่ กลี่ยตามขอ้ กาหนดน้ี เว้นแตอ่ งค์คณะผ้พู ิพากษาจะมีคาสงั่ เป็นอย่างอนื่

ข้อ ๑๐ ในกรณีท่ีคู่ความฝ่ายใดแถลงขอให้มีการไกล่เกล่ียต่อองค์คณะผู้พิพากษาในระหว่าง
การพิจารณา ให้องค์คณะผู้พิพากษาสอบถามคู่ความฝ่ายอ่ืน หากคู่ความทุกฝ่ายประสงค์จะให้มีการ
ไกล่เกล่ียและองค์คณะผู้พิพากษาเห็นสมควร องค์คณะผู้พิพากษาอาจดาเนินการไกล่เกล่ียเอง
หรือมีคาสั่งให้ศูนย์ไกล่เกลี่ยประจาศาลดาเนินการจัดให้มีการไกล่เกลี่ยต่อไป ทั้งนี้ องค์คณะผู้พิพากษา
อาจกาหนดระยะเวลาหรอื เง่อื นไขอ่ืนใดเก่ียวกบั การไกลเ่ กลย่ี ดว้ ยกไ็ ด้

หมวด ๓
การไกล่เกลย่ี โดยองค์คณะผูพ้ ิพากษา

ข้อ ๑๑ องค์คณะผู้พิพากษาอาจไกล่เกล่ียด้วยตนเองหรือให้ผู้พิพากษาคนหน่ึงหรือหลายคน
ในองค์คณะดาเนนิ การไกลเ่ กล่ียก็ได้

ในการไกล่เกลี่ยตามวรรคหนึ่ง ให้นาความในหมวด ๔ ส่วนท่ี ๔ ถึงส่วนที่ ๖ มาใช้บังคับ
โดยอนโุ ลม

หมวด ๔
การไกลเ่ กลยี่ โดยผปู้ ระนีประนอม

ส่วนท่ี ๑
การแต่งตงั้ ผปู้ ระนีประนอม

ข้อ ๑๒ ในกรณีท่ีต้องดาเนินการไกล่เกลี่ย ผู้รับผิดชอบราชการศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษา
อ า จ แ ต่ ง ตั้ ง ผู้ ป ร ะ นี ป ร ะ น อ ม เ พื่ อ ช่ ว ย เ ห ลื อ ศ า ล ใ น ก า ร ไ ก ล่ เ ก ล่ี ย ค ดี เ รื่ อ ง ใ ด เ ร่ื อ ง ห น่ึ ง ก็ ไ ด้
ให้ผู้ประนีประนอมที่ได้รบั การแต่งต้งั ดาเนินการไกลเ่ กลย่ี ตามข้อกาหนดน้ี

ข้อ ๑๓ การแต่งต้ังข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พนักงานราชการหรือลูกจ้าง
ของสานักงานศาลยุติธรรมคนหนึ่งหรือหลายคนท่ีผู้รับผิดชอบราชการศาลจัดให้เป็นผู้ประนีประนอม
เป็นการเฉพาะในศาลนั้น ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีผู้รับผิดชอบราชการศาลกาหนด

การแต่งตัง้ ขา้ ราชการฝ่ายตุลาการศาลยตุ ิธรรม พนกั งานราชการหรอื ลกู จา้ งคนหนึ่งหรอื หลายคน
ท่ีรับราชการในศาลอ่ืนให้เป็นผู้ประนีประนอมจะทาได้ต่อเม่ือได้รับความยินยอมจากผู้นั้นและได้รับ
ความเห็นชอบจากผรู้ ับผิดชอบราชการศาลที่ผู้นัน้ รบั ราชการอยู่

สำนักสง่ เสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยตุ ธิ รรม หนา้ | 5

ข้อ ๑๔ ในการแต่งต้ังผู้ประนีประนอม ผู้รับผิดชอบราชการศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษา
พึงคานงึ ถึงความเหมาะสมของบคุ คลนน้ั และความพอใจของคู่ความเทา่ ที่จะพงึ กระทาได้

ข้อ ๑๕ นอกจากการแต่งตั้งผู้ประนีประนอมตามข้อ ๑๓ การแต่งต้ังบุคคลท่ีมิได้ข้ึนทะเบียน
เป็นผู้ประนีประนอมตามหมวด ๗ จะทาได้ต่อเม่ือคู่ความที่จะต้องเข้าร่วมในกระบวนการไกล่เกล่ีย
ได้ใหค้ วามยนิ ยอมและตกลงทจี่ ะรับผดิ ชอบค่าป่วยการและคา่ ใช้จ่ายของบุคคลเช่นวา่ น้นั ถ้ามี

ข้อ ๑๖ หากการดาเนินกระบวนการไกล่เกลี่ยจะเป็นเหตุให้การพิจารณาคดีล่าช้าเกินสมควร
ศาลอาจสั่งให้ดาเนินกระบวนพิจารณาไปพร้อมกับการไกล่เกลี่ยก็ได้ ทั้งนี้ ให้คานึงถึงประโยชน์ของ
คคู่ วามทุกฝ่ายเปน็ สาคญั

ข้อ ๑๗ เพื่อประโยชน์ในการไกล่เกลี่ย ศาลอาจแต่งตั้งให้ศาลอ่ืนจัดให้มีการไกล่เกล่ียแทนก็ได้
ทง้ั น้ี จะตอ้ งไดร้ บั ความยินยอมจากศาลทไี่ ดร้ ับการแต่งตัง้

กรณีคู่ความประสงค์จะให้ศาลมีคาพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ให้คู่ความ
ลงลายมือชื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าผู้พิพากษาในศาลที่ได้รับแต่งต้ัง และให้
ผู้พิพากษาในศาลนั้นลงลายมือชื่อในสัญญาประนีประนอมยอมความพร้อมบันทึกรายงานกระบวน
พิจารณา แลว้ ส่งใหศ้ าลเดิมพิจารณาและพพิ ากษาตามสัญญาประนปี ระนอมยอมความ

การจัดส่งเอกสารระหว่างศาล อาจดาเนินการทางโทรสารหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นก็ได้
ทั้งนี้ เลขาธกิ ารอาจกาหนดหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการจัดส่งเอกสารทางโทรสารหรอื สอ่ื อิเล็กทรอนกิ ส์อน่ื ดังกล่าว

ข้อ ๑๘ ในกรณีท่ีกระบวนการไกล่เกลี่ยส้ินสุดลงเพราะเหตุคู่ความสามารถระงับข้อพิพาท
ได้ด้วยการถอนฟ้อง หรือขอให้ศาลมีคาพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความตามข้อ ๓๕ (๑)
ผู้พพิ ากษาที่ไดร้ ับแต่งต้ังใหเ้ ปน็ ผู้ประนปี ระนอมในคดนี ้ันอาจได้รบั มอบหมายให้เปน็ องคค์ ณะผู้พพิ ากษา
ทม่ี ีอานาจพจิ ารณาพิพากษาคดนี น้ั กไ็ ด้

ส่วนที่ ๒
การเปดิ เผยข้อเทจ็ จริงและการคดั คา้ นผูป้ ระนปี ระนอม

ข้อ ๑๙ เมื่อได้รับการแต่งต้ังแล้ว ผู้ประนีประนอมต้องเปิดเผยข้อเท็จจริงซึ่งอาจเป็นเหตุ
อันควรสงสัยถึงความเปน็ กลางของตนให้คคู่ วามทราบโดยทนั ที

นับแต่เวลาที่ได้รับการแต่งตั้งและตลอดระยะเวลาที่กระบวนการไกล่เกล่ียยังไม่ส้ินสุด
หากปรากฏข้อเท็จจริงตามวรรคหน่ึงขึ้นภายหลังได้รับการแต่งตั้ง ผู้ประนีประนอมต้องเปิดเผย
ข้อเท็จจรงิ เช่นวา่ นัน้ ให้คคู่ วามทราบโดยทนั ที เวน้ แตจ่ ะได้แจ้งใหค้ คู่ วามทราบแลว้

สำนกั ส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยตุ ิธรรม หน้า | 6

ข้อ ๒๐ คู่ความอาจคัดค้านผู้ประนีประนอมได้ หากปรากฏข้อเท็จจริงซ่ึงเป็นเหตุอันควรสงสัย
ถึงความเป็นกลางของผู้ประนีประนอม แต่คู่ความจะคัดค้านผู้ประนีประนอมซ่ึงตนได้ให้ความยินยอม
ในการแต่งตั้งมิได้ เว้นแต่คู่ความฝ่ายนั้นไม่รู้หรือไม่มีเหตุอันควรรู้ถึงเหตุแห่งการคัดค้านในขณะท่ี
ใหค้ วามยนิ ยอม

ข้อ ๒๑ คู่ความท่ีประสงค์จะคัดค้านผู้ประนีประนอมต้องแจ้งเหตุ แห่งการคัดค้าน
ให้ผู้รับผิดชอบราชการศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษาที่แต่งต้ังผู้ประนีประนอมน้ันทราบก่อนเริ่ม
กระบวนการไกลเ่ กลี่ย หรอื ภายในเจด็ วนั นบั แต่วันทีไ่ ดร้ ถู้ ึงขอ้ เทจ็ จริงตามข้อ ๑๙ วรรคหนงึ่ แล้วแต่กรณี
ทั้งนี้ ต้องกระทาก่อนกระบวนการไกลเ่ กลี่ยสน้ิ สุดลงตามข้อ ๓๕

การทีผ่ ้ปู ระนปี ระนอมถอนตัวไมถ่ อื วา่ เปน็ การยอมรับขอ้ เทจ็ จริงตามที่คู่ความยกข้ึนคดั คา้ น
ในกรณีที่มีการคัดค้าน ให้ผู้รับผิดชอบราชการศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษาท่ีแต่งต้ัง
ผูป้ ระนปี ระนอมเป็นผู้พจิ ารณาและมคี าส่งั ตามทเี่ ห็นสมควร

สว่ นที่ ๓
การพ้นจากหน้าทข่ี องผู้ประนีประนอม

ข้อ ๒๒ ใหผ้ ู้ประนีประนอมพ้นจากหนา้ ที่ในคดีท่ีไดร้ บั แต่งตงั้ ในกรณดี ังต่อไปน้ี
(๑) ขอถอนตัวโดยได้รับความเห็นชอบจากผู้รับผิดชอบราชการศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษา
ที่แต่งตง้ั
(๒) ถกู จาหนา่ ยชือ่ ออกจากทะเบยี นผูป้ ระนีประนอมประจาศาล
(๓) ผู้รับผิดชอบราชการศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษาท่ีแต่งตั้งผู้ประนีประนอมมีคาสั่งถอดถอน
เม่อื ปรากฏขอ้ เท็จจรงิ ว่า

(ก) มเี หตอุ นั ควรสงสยั ถงึ ความเปน็ กลางในการทาหนา้ ท่ีผปู้ ระนปี ระนอม
(ข) บกพรอ่ งตอ่ หน้าท่หี รือละเลยไมป่ ฏบิ ตั ติ ามหน้าทผ่ี ปู้ ระนปี ระนอม
(ค) ประพฤติตนไมเ่ หมาะสมแก่การเปน็ ผู้ประนีประนอม
(ง) กระทาหรือละเว้นกระทาการตามหน้าที่ของผู้ประนีประนอม โดยจงใจหรือประมาท
เลินเลอ่ จนเปน็ เหตใุ หค้ คู่ วามเสยี หาย
(๔) เมอ่ื มเี หตุท่ผี ู้ประนปี ระนอมมลี ักษณะต้องหา้ มตามขอ้ ๕๑ (๖) (๙) (๑๐) และ (๑๑)
ข้อ ๒๓ ในกรณีท่ีผู้ประนีประนอมพ้นจากหน้าที่ตามข้อ ๒๒ ผู้รับผิดชอบราชการศาล
หรือองค์คณะผู้พิพากษาท่ีแต่งตั้งผู้ประนีประนอมอาจมีคาส่ังให้กระบวนการไกล่เกลี่ยส้ินสุดลง
หรือแต่งตั้งผู้ประนีประนอมคนใหม่ก็ได้ ท้ังน้ี ผู้รับผิดชอบราชการศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษา
อาจแต่งตั้งผ้ปู ระนีประนอมทีพ่ น้ จากหนา้ ทไี่ ปตามข้อ ๒๒ (๑) ให้ทาหนา้ ท่ีอกี กไ็ ด้

สำนกั ส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยตุ ธิ รรม หนา้ | 7

สว่ นท่ี ๔
กระบวนการไกลเ่ กล่ีย

ข้อ ๒๔ เมื่อมีการแต่งตั้งผู้ประนีประนอมในคดีใดแล้ว การรับส่งเอกสาร สานวนคดี
หรอื การตดิ ต่อใด ๆ ระหว่างศาลกับผปู้ ระนปี ระนอมให้เป็นไปตามท่ศี าลนัน้ กาหนด

ในกรณีที่ผู้ประนีประนอมประสงค์จะศึกษาเอกสารในสานวนคดีเพื่อประโยชน์ในการเตรียมตัว
ไกล่เกล่ีย ให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ไกล่เกล่ียจัดเอกสารในสานวนคดีให้แก่ผู้ประนีประนอมตามหลักเกณฑ์
ของศาลนนั้ หรอื ตามทศ่ี าลเหน็ สมควร

ข้อ ๒๕ คู่ความที่เป็นบุคคลธรรมดาพึงเข้าร่วมประชุมไกล่เกล่ียด้วยตนเอง เว้นแต่มีเหตุ
สุดวิสัยหรือมีเหตุจาเป็นอ่ืนอันไม่อาจก้าวล่วงได้ คู่ความนั้นอาจแต่งตั้งตัวแทนท่ีมีอานาจตัดสินใจ
และทาสญั ญาประนีประนอมยอมความเข้าร่วมประชุมไกลเ่ กลยี่ ก็ได้

คู่ความที่เป็นนิติบุคคลพึงแต่งต้ังตัวแทนท่ีมีอานาจตัดสินใจและทาสัญญาประนีประนอม
ยอมความเข้าร่วมประชุมไกลเ่ กล่ีย โดยทาเปน็ หนังสอื ส่งตอ่ เจ้าหน้าท่ีประจาศูนย์ไกลเ่ กลี่ย เว้นแต่จะได้
แต่งตั้งผู้มีอานาจทาสัญญาประนีประนอมยอมความไว้ในคดีแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ประจาศูนย์ไกล่เกล่ีย
ได้รับหนังสือแต่งตั้งตัวแทนแล้ว ให้ตรวจสอบความถูกต้องของผู้มอบอานาจและผู้รับมอบอานาจ
และขอบเขตอานาจที่ได้รับมอบ ในกรณีท่ีหนังสือมอบอานาจมีข้อบกพร่องหรือมีข้อจากัดเกี่ยวกับ
ขอบเขตอานาจท่ีไดร้ ับมอบ ใหแ้ จง้ ใหผ้ ู้ประนีประนอมทราบ

ข้อ ๒๖ ในกรณีท่ีคู่ความมิได้ตกลงไว้เป็นอย่างอื่น ผู้ประนีประนอมอาจกาหนดข้ันตอน
หรอื แนวทางในการดาเนินการไกล่เกล่ียตามที่เหน็ สมควร โดยคานึงถึงพฤตกิ ารณ์แห่งคดี ความประสงค์
ของค่คู วาม การปฏิบตั ิตอ่ คู่ความอย่างเป็นธรรมและความตอ้ งการทจี่ ะระงับข้อพพิ าทด้วยความรวดเร็ว

ก่อนไกล่เกล่ีย ให้ผู้ประนีประนอมแจ้งขั้นตอนการไกล่เกลี่ยให้คู่ความทราบว่า ข้อเสนอและ
คาแถลงเก่ียวกบั ข้อเท็จจรงิ ในชั้นไกล่เกลี่ย ศาลจะเก็บเปน็ ความลับ คู่ความไม่มีสิทธใิ ชอ้ า้ งอิงไม่ว่ากรณีใด ๆ
และไม่ผูกมัดคู่ความหรือศาลให้ต้องปฏิบัติตาม และหากคดีไม่สามารถตกลงกันได้ก็ไม่มีผลต่อการ
พจิ ารณาและคาพิพากษาของศาล

ข้อ ๒๗ เพื่อประโยชน์ในการไกล่เกล่ีย ผู้ประนีประนอมอาจให้คู่ความเสนอข้อเท็จจริง
หรือข้อมูลเบื้องต้นแห่งข้อพิพาท ตลอดจนข้อเสนอในการระงับข้อพิพาทต่อผู้ประนีประนอม
หรืออาจเสนอให้มีการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ดังกลา่ วระหว่างคู่ความกไ็ ด้

คู่ความอาจขอให้ผู้ประนีประนอมดาเนินการตามความในวรรคก่อนก็ได้ ในกรณีเช่นว่าน้ี
ผู้ประนีประนอมจะจดั ให้มีการดาเนนิ การตามท่ีคคู่ วามขอหรือไมก่ ็ได้

ข้อ ๒๘ การไกล่เกล่ียจะทาด้วยวิธีใด ณ วันเวลาและสถานที่ใด ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
และแนวทางทศ่ี าลนั้นกาหนด โดยตอ้ งแจง้ ให้คู่ความทกุ ฝ่ายทราบ

สำนักสง่ เสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยุติธรรม หน้า | 8

ข้อ ๒๙ เพ่ือประโยชน์ในการไกล่เกลี่ย ผู้ประนีประนอมอาจอนุญาตให้เฉพาะแต่ตัวความ
ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทุกฝ่ายอยู่ในการประชุมไกล่เกลี่ยก็ได้ ทั้งน้ี ผู้ประนีประนอมต้องแจ้งถึง
การดาเนินการไกลเ่ กลยี่ น้ันใหค้ ู่ความฝา่ ยทม่ี ิไดเ้ ขา้ ร่วมทราบด้วย

ความในวรรคหนึ่งให้ใช้บังคับแก่ตัวแทน ทนายความ ท่ีปรึกษาของคูค่ วามหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ที่ผูป้ ระนปี ระนอมอนุญาตให้เขา้ สกู่ ระบวนการไกล่เกลี่ยด้วย

ข้อ ๓๐ เมื่อผู้ประนีประนอมได้รับข้อมูลอันเก่ียวกั บข้อพิพาทจากคู่ความฝ่ายหนึ่ง
ผู้ประนีประนอมอาจเปิดเผยสาระของข้อมูลนั้นให้แก่คู่ความอีกฝ่ายหน่ึงทราบ เว้นแต่ข้อมูลท่ีคู่ความ
ไดใ้ หไ้ วโ้ ดยหา้ มมใิ หเ้ ปดิ เผย

ข้อ ๓๑ กระบวนการไกล่เกล่ียให้ดาเนินการเป็นการลับ และไม่ให้มีการบันทึกรายละเอียด
ของการไกล่เกล่ียไว้ เว้นแต่คู่ความจะตกลงกันให้บันทึกรายละเอียดของการไกล่เกล่ียทั้งหมด
หรือแตบ่ างสว่ นโดยค่คู วามเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายกไ็ ด้

ข้อ ๓๒ ผู้ประนีประนอมอาจจัดทาสัญญาประนีประนอมยอมความให้แก่คู่ความ หรือจะให้
ทนายความของค่คู วามหรอื เจา้ หนา้ ทีป่ ระจาศูนยไ์ กล่เกลย่ี เป็นผู้จดั ทาสัญญาประนปี ระนอมยอมความให้ก็ได้

ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ประจาศูนย์ไกล่เกลี่ยไม่ได้เป็นผู้จัดทาสัญญาประนีประนอมยอมความนั้น
ผู้ ป ร ะ นี ป ร ะ น อ ม อ า จ ข อ ใ ห้ เ จ้ า ห น้ า ท่ี ป ร ะ จ า ศู น ย์ ไ ก ล่ เ ก ลี่ ย ช่ ว ย ต ร ว จ ส อ บ ว่ า ข้ อ ต ก ล ง ห รื อ
การประนปี ระนอมยอมความกันนน้ั เป็นการฝ่าฝนื ตอ่ กฎหมายหรอื ไม่ก็ได้

เพ่ือประโยชน์ในการประนีประนอมยอมความ คู่ความอาจขอให้องค์คณะผู้พิพากษาให้ความเห็น
เกี่ยวกับจานวนค่าทนายความท่ีเหมาะสมเพ่ือให้คู่ความกาหนดไว้ในสัญญาประนีประนอมยอมความ
หากองคค์ ณะผู้พิพากษาเห็นสมควร จะให้ความเหน็ ดงั กล่าวกไ็ ด้

หากการจัดทาสัญญาดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายที่คู่ความต้องรับผิดชอบ ผู้ประนีประนอมจะกระทาได้
ตอ่ เมอื่ ไดร้ ับความยนิ ยอมจากคู่ความทกุ ฝา่ ยก่อนและคู่ความตกลงรับผดิ ชอบในค่าใช้จ่ายนนั้ แลว้

ข้อ ๓๓ ผู้ประนีประนอมจะต้องดาเนินการไกล่เกล่ียให้แล้วเ สร็จภายในระยะเวลา
ทผ่ี รู้ ับผิดชอบราชการศาลหรอื องคค์ ณะผพู้ ิพากษาท่ีแตง่ ต้ังกาหนด

หากผู้รับผิดชอบราชการศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษาที่แต่งตั้งเห็นสมควรหรือผู้ประนีประนอม
รอ้ งขอ ผ้รู ับผิดชอบราชการศาลหรือองคค์ ณะผู้พพิ ากษาทแี่ ต่งตั้งอาจขยายระยะเวลาในการดาเนินการ
ไกล่เกล่ียออกไปอีกก็ได้ ถ้าการขยายระยะเวลาดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ของคู่ความทุกฝ่ายและมิได้ทา
ใหก้ ารพจิ ารณาพพิ ากษาคดลี ่าชา้ เกินสมควร

ในกรณีที่คู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดดาเนินการไกล่เกลี่ยโดยมีลักษณะประวิงคดีให้ชักช้า
ใหผ้ ปู้ ระนีประนอมรายงานใหผ้ ู้รบั ผิดชอบราชการศาลหรือองคค์ ณะผูพ้ ิพากษาท่ีแตง่ ต้ังทราบโดยเรว็

ข้อ ๓๔ ผู้ประนีประนอมต้องปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศหรือหลักเกณฑ์ใด ๆ
เก่ียวกับการไกล่เกลี่ยเพื่อให้การไกล่เกล่ียเป็นไปด้วยความเรียบร้อยโดยคานึงถึงประโยชน์สูงสุด
ของคคู่ วาม

สำนกั ส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยุตธิ รรม หน้า | 9

สว่ นที่ ๕
การสิ้นสดุ แหง่ กระบวนการไกลเ่ กลยี่

ข้อ ๓๕ ในกรณดี งั ต่อไปน้ใี ห้ถือว่ากระบวนการไกลเ่ กลีย่ สน้ิ สดุ ลง
(๑) คู่ความตกลงระงับข้อพิพาทด้วยการถอนฟ้อง หรือขอให้ศาลมีคาพิพากษาตามสัญญา
ประนีประนอมยอมความ
(๒) คูค่ วามฝา่ ยใดฝา่ ยหน่ึงไม่ประสงคใ์ ห้ทาการไกล่เกลี่ยอกี ต่อไป
(๓) คู่ความไมส่ ามารถระงบั ข้อพพิ าทไดภ้ ายในระยะเวลาที่กาหนด
(๔) ผู้ประนปี ระนอมเห็นว่าการดาเนนิ การไกลเ่ กลี่ยตอ่ ไปจะไมเ่ ปน็ ประโยชนแ์ ก่คดี
(๕) ผู้รับผิดชอบราชการศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษาที่แต่งต้ังเห็นว่าการดาเนินการไกล่เกล่ีย
ตอ่ ไปจะไมเ่ ปน็ ประโยชน์แก่คดี
ข้อ ๓๖ เม่ือกระบวนการไกล่เกล่ียสิ้นสุดลง ให้ผู้ประนีประนอมรายงานผลของการไกล่เกล่ีย
ใหผ้ รู้ บั ผิดชอบราชการศาลหรอื องคค์ ณะผ้พู พิ ากษาทราบเพอ่ื ดาเนนิ การตอ่ ไปโดยเรว็
ในกรณีท่ีคู่ความตกลงระงับข้อพิพาทเพียงบางส่วน หรือตกลงรับข้อเท็จจริงบางประการ
และยินยอมนาข้อตกลงเช่นว่าน้ันไปใช้อ้างอิงในการพิจารณาพิพากษาของศาลได้ ให้ผู้ประนีประนอม
จดั ทาบนั ทกึ ขอ้ ตกลงและรายงานให้ผ้รู บั ผดิ ชอบราชการศาลหรอื องคค์ ณะผ้พู ิพากษาทราบ

ส่วนที่ ๖
การรกั ษาความลับของข้อมลู ในการไกลเ่ กลยี่

ข้อ ๓๗ ในกรณีท่ีคู่ความไม่ได้ตกลงไว้เป็นอย่างอื่น ให้รักษาข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับ
การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเป็นความลับ เว้นแต่เป็นการใช้เท่าท่ีจาเป็นเพ่ือปฏิบัติหรือบังคับให้เป็นไปตาม
สญั ญาประนีประนอมยอมความ

ข้อ ๓๘ ห้ามมิให้คู่ความที่เข้าร่วมในการไกล่เกลี่ย ผู้ประนีประนอมหรือบุคคลภายนอก
รวมท้ังผู้ท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดการไกล่เกล่ีย นาความลับไปอ้างอิง หรือนาสืบเป็นพยานหลักฐาน
ในกระบวนการอนุญาโตตุลาการ กระบวนพิจารณาของศาลหรือเพื่อดาเนินการอ่ืนใดไม่ว่าจะนาไปใช้
ในรูปแบบใด เกย่ี วกบั เรอ่ื งดงั ต่อไปนี้

(๑) ความประสงคห์ รือความเตม็ ใจของคูค่ วามในการขอเข้าร่วมในการไกล่เกลี่ย
(๒) ความเห็นหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการในการระงับข้อพิพาทของคู่ความ
ในการไกลเ่ กล่ยี
(๓) การยอมรบั หรอื ขอ้ ความที่กระทาโดยคู่ความในการไกลเ่ กลย่ี
(๔) ข้อเสนอใด ๆ ทีเ่ สนอโดยผปู้ ระนีประนอม
(๕) ข้อเทจ็ จรงิ ทีไ่ ด้แสดงใหเ้ ห็นถงึ ความเต็มใจท่ีจะยอมรบั ข้อเสนอในการไกลเ่ กลย่ี

สำนักสง่ เสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยตุ ธิ รรม หน้า | 10

(๖) เอกสารทีจ่ ัดทาโดยมวี ัตถุประสงคเ์ พอ่ื จะใชห้ รอื ใช้ในการไกล่เกล่ียโดยเฉพาะ
อน่ึงพยานหลักฐานใดที่ใช้ในการไกล่เกลี่ย หากเป็นพยานหลักฐานท่ีนาสืบได้อยู่แล้ว
ในกระบวนการอนุญาโตตุลาการ กระบวนพิจารณาของศาล หรือเพื่อดาเนินการอ่ืนใด ย่อมไม่ต้องห้าม
ตามความในวรรคหนงึ่
ข้อ ๓๙ การขอให้ศาลมีคาส่ังให้ส่งเอกสารหรือหมายเรียกให้บุคคลใดมาเปิดเผยความลับ
หรือพยานหลักฐานท่ีกาหนดไว้ในข้อ ๓๘ วรรคหนึ่ง จะกระทามิได้ เว้นแต่เป็นการกระทาเท่าที่จาเป็น
เพอ่ื ปฏบิ ตั ิหรือบังคับให้เปน็ ไปตามสญั ญาประนีประนอมยอมความ

สว่ นท่ี ๗
คา่ ป่วยการและค่าใชจ้ ่าย

ข้อ ๔๐ ผู้ประนีประนอมที่ขึ้นทะเบียนตามหมวด ๗ ให้มีสิทธิได้รับค่าป่วยการและค่าใช้จ่าย
ตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารทีเ่ ลขาธิการกาหนด

สาหรบั การไกลเ่ กลย่ี คดที ี่ดาเนินการในศาลอื่นที่ได้รบั แต่งตั้ง ให้เบิกจา่ ยจากศาลที่ได้รับแต่งตง้ั นน้ั
ผู้ประนีประนอมซ่ึงเป็นข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พนักงานราชการและลูกจ้าง
ของสานักงานศาลยตุ ิธรรมไมม่ สี ิทธไิ ดร้ บั ค่าปว่ ยการตามข้อกาหนดนี้
ข้อ ๔๑ ในกรณีที่มีการแต่งตั้งบุคคลซ่ึงไม่มีช่ืออยู่ในทะเบียนผู้ประนีประนอมประจาศาล
ตามขอ้ ๑๕ และมคี า่ ใชจ้ า่ ยหรือคา่ ป่วยการของบุคคลน้ัน ให้คู่ความรับผดิ ชอบค่าใช้จ่ายและคา่ ป่วยการ
ดังกล่าวฝ่ายละก่ึงหน่ึง เว้นแต่คู่ความจะตกลงกันเป็นอย่างอื่น ท้ังนี้ การวางเงินประกันค่าใช้จ่าย
และค่าปว่ ยการใหน้ าความในข้อ ๔๒ วรรคสองถงึ วรรคสีม่ าใชโ้ ดยอนโุ ลม
ข้อ ๔๒ ในกรณีท่ีผู้ประนีประนอมเห็นว่าจะต้องว่าจ้างบุคคลภายนอกให้ดาเนินการอย่างใด ๆ
อันจะเป็นประโยชน์แก่การไกล่เกล่ีย ผู้ประนีประนอมจะดาเนินการเช่นว่านั้นได้ต่อเม่ือคู่ความตกลง
ทจ่ี ะรบั ผิดชอบในคา่ ใชจ้ ่ายดังกลา่ วแล้ว
ให้เจ้าหน้าที่ประจาศูนย์ไกล่เกลี่ยจัดให้มีบันทึกความตกลงของคู่ความท่ีจะรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
ตามวรรคหนึ่งแล้วใหค้ ู่ความลงลายมือช่ือไว้เป็นหลักฐาน โดยให้คู่ความวางเงินประกันค่าใชจ้ ่ายไว้ก่อน
ตามจานวนและภายในระยะเวลาที่กาหนด หากปรากฏว่าเงินประกันค่าใช้จ่ายที่ได้วางไว้ไม่เพียงพอ
เจา้ หนา้ ทีป่ ระจาศูนย์ไกลเ่ กล่ียอาจใหค้ คู่ วามวางเงินประกนั คา่ ใช้จา่ ยเพิม่ เติมก็ได้
หากคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหน่ึงไม่วางเงินประกันค่าใช้จ่ายให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาท่ีกาหนด
และคู่ความอีกฝ่ายหน่ึงไม่ยินยอมวางเงินประกันแทน ให้ระงับการดาเนินการว่าจ้างบุคคลภายนอกไว้
จนกว่าจะได้มีการวางเงินประกันครบถ้วนแล้ว การระงับการดาเนินการดังกล่าวไม่เป็นเหตุให้
กระบวนการไกล่เกลี่ยยุติลง

สำนกั สง่ เสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยตุ ิธรรม หนา้ | 11

เมื่อดาเนินการดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว หากปรากฏว่ามีเงินประกันค่าใช้จ่ายเหลืออยู่ ให้คืน
แก่คูค่ วามแตล่ ะฝา่ ยตามสว่ นที่ได้วางเงนิ ประกันค่าใชจ้ า่ ยไว้

หมวด ๕
การไกล่เกลยี่ คดีช้นั อทุ ธรณ์

ข้อ ๔๓ นอกจากที่กาหนดไว้ในหมวดน้ี ให้นาความในหมวด ๒ ถึงหมวด ๔ มาใช้บังคับ
กับการไกล่เกลยี่ คดีช้ันอทุ ธรณ์ดว้ ยโดยอนุโลม

ขอ้ ๔๔4 เพื่อประโยชน์ในการดาเนนิ การไกล่เกล่ียคดีชั้นอทุ ธรณ์ ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค
ศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษ หรือศาลชั้นต้นที่พิจารณาพิพากษาคดีนั้น อาจเชิญชวนให้คู่ความเข้าร่วม
การไกลเ่ กลย่ี คดีชนั้ อทุ ธรณ์ก็ได้

คู่ความท่ีประสงค์จะขอให้มีการไกล่เกลี่ยคดีชั้นอุทธรณ์ ให้แจ้งความประสงค์ต่อศูนย์ไกล่เกลี่ย
ประจาศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค ศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษ หรือศาลชั้นต้นที่พิจารณาพิพากษา
คดีนน้ั ก็ได้

การไกล่เกล่ียคดีชั้นอุทธรณ์อาจดาเนินการท่ีศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค ศาลอุทธรณ์
คดีชานัญพิเศษ หรือศาลช้ันต้นก็ได้ ทั้งนี้ เพ่ือประโยชน์ในการดาเนินการไกล่เกลี่ยคดีชั้นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษ อาจกาหนดหลักเกณฑ์หรือแนวปฏิบัติ
เพิ่มเติมก็ไดเ้ ทา่ ทไ่ี ม่ขัดกับข้อกาหนดน้ี

ข้อ ๔๕5 ในกรณีท่ีศาลช้ันต้นมีคาพิพากษาหรือคาส่ังแล้วและมีการอุทธรณ์ แต่ยังไม่ได้
ส่งสานวนไปยังศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษ หากคู่ความประสงค์
ให้มีการไกล่เกล่ีย ผู้รับผิดชอบราชการศาลชั้นต้นอาจมีคาสั่งให้ดาเนินการไกล่เกล่ียไปก่อนและแจ้งให้
ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษทราบ แม้ต่อมาจะได้ส่งสานวนไปยัง
ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษแล้ว ก็ให้ดาเนินการไกล่เกลี่ยต่อไปได้
เว้นแต่ศาลอทุ ธรณ์ ศาลอทุ ธรณภ์ าค หรอื ศาลอทุ ธรณค์ ดีชานัญพเิ ศษจะมคี าสั่งเปน็ อย่างอ่ืน

4 ข้อ 44 แก้ไขเพ่ิมเตมิ โดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎกี ำวำ่ ดว้ ยกำรไกลเ่ กล่ยี (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2560
5 ข้อ 45 แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎกี ำวำ่ ด้วยกำรไกลเ่ กลีย่ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2560

สำนักส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยตุ ธิ รรม หน้า | 12

ข้อ ๔๖6 ในกรณีที่ดาเนินการไกล่เกล่ียท่ีศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค
หรือศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษ อาจแต่งตั้งผู้ประนีประนอมเอง หรือมอบหมายให้ผู้รับผิดชอบราชการ
ศาลชน้ั ต้นเป็นผูแ้ ต่งตงั้ ผู้ประนปี ระนอมก็ได้

หากศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษ ได้จัดทาบัญชีรายช่ือ
บุคคลท่จี ะทาหน้าที่ผ้ปู ระนีประนอมในศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลอุทธรณค์ ดชี านัญพิเศษไว้
ให้ผู้รับผิดชอบราชการศาลชั้นต้นแต่งต้ังผู้ประนีประนอมจากบัญชีดังกล่าว หากศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษ ไม่ได้จัดทาบัญชีดังกล่าวไว้หรือได้จัดทาไว้แต่บุคคล
ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อไม่อาจไปปฏิบัติหน้าที่ในคดีที่จะต้องดาเนินการไกล่เกล่ียได้ ผู้รับผิดชอบราชการ
ศาลชัน้ ตน้ อาจแต่งตั้งผปู้ ระนปี ระนอมจากบญั ชีรายชอื่ ของศาลชน้ั ต้นกไ็ ด้

ค่าป่วยการและค่าใช้จ่ายของผู้ประนีประนอมท่ีขึ้นทะเบียนตามหมวด ๗ สาหรับการไกล่เกลี่ย
คดชี ้ันอุทธรณ์ทดี่ าเนินการในศาลช้นั ต้น ใหเ้ บกิ จ่ายจากศาลชั้นต้น

ข้อ ๔๗7 ในกรณีที่ดาเนินการไกล่เกลี่ยที่ศาลชั้นต้น หากคู่ความประสงค์จะให้ศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษ มีคาพิพากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
ให้คู่ความลงลายมือชอ่ื ในสัญญาประนปี ระนอมยอมความตอ่ หนา้ ผู้พิพากษาในศาลช้ันต้นที่ผู้รับผิดชอบ
ราชการศาลช้ันตน้ มอบหมาย และใหผ้ ้พู ิพากษาในศาลช้นั ตน้ ลงลายมอื ชอ่ื ในสัญญาประนีประนอมยอมความ
พร้อมทารายงานกระบวนพิจารณา แล้วรีบดาเนินการจัดส่งเอกสารต่าง ๆ ไปยังศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษ เพ่ือพิจารณาและพพิ ากษาตามสัญญาประนีประนอม
ยอมความโดยเร็ว

ข้อ ๔๘8 ในกรณีที่คู่ความประสงค์จะให้ศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลอุทธรณ์
คดชี านญั พเิ ศษ มีคาพพิ ากษาตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ศาลชัน้ ตน้ อาจสง่ รายงานกระบวนพจิ ารณา
และสัญญาประนีประนอมยอมความท่ีทาขึ้นตามข้อ ๔๗ พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยังศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษ โดยทางโทรสารหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์อ่ืน
และหากศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษเห็นควร ศาลอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค หรือศาลอุทธรณ์คดีชานัญพิเศษ อาจจัดส่งคาพิพากษาตามยอมในคดีดังกล่าวไปยัง
ศาลชนั้ ต้นทางโทรสารหรือสอ่ื อิเลก็ ทรอนกิ สอ์ ่ืน ท้งั น้ี เลขาธิการอาจกาหนดหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการจัดส่ง
เอกสารทางโทรสารหรอื สอ่ื อิเลก็ ทรอนิกสอ์ ื่นดงั กลา่ วกไ็ ด้

6 ข้อ 46 แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎกี ำวำ่ ด้วยกำรไกลเ่ กลย่ี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560
7 ข้อ 47 แก้ไขเพิม่ เติมโดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎกี ำว่ำด้วยกำรไกล่เกลีย่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560
8 ข้อ 48 แกไ้ ขเพิ่มเตมิ โดยข้อกำหนดของประธำนศำลฎีกำว่ำดว้ ยกำรไกลเ่ กลีย่ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2560

สำนักส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยุติธรรม หน้า | 13

หมวด ๖
การไกลเ่ กลยี่ คดชี ้ันฎีกา

ข้อ ๔๙ ให้นาความในหมวด ๕ มาใชบ้ งั คับแก่การไกล่เกลี่ยคดีชั้นฎีกาด้วยโดยอนโุ ลม

หมวด ๗
ทะเบียนผปู้ ระนปี ระนอม

ส่วนที่ ๑
การข้ึนทะเบยี น

ข้อ ๕๐ ให้เลขาธกิ ารจดั ให้มีทะเบยี นผู้ประนปี ระนอมขึน้ โดยให้คานึงถงึ ความจาเป็นของแตล่ ะศาล
กรอบอัตราผู้ประนีประนอมท่ีแต่ละศาลเสนอขอให้ขึ้นทะเบียนตามหมวดนี้ ให้เป็นไปตาม
ประกาศสานักงานศาลยุติธรรม
ข้อ ๕๑ ผ้ขู อขึน้ ทะเบียนผ้ปู ระนปี ระนอมตอ้ งมคี ุณสมบัติและไม่มลี ักษณะตอ้ งห้ามดงั ตอ่ ไปน้ี
(๑) มีอายไุ ม่ตา่ กวา่ สามสบิ ปบี ริบูรณ์
(๒) เปน็ ผสู้ าเรจ็ การศึกษาไมต่ า่ กวา่ ปรญิ ญาตรแี ละมีประสบการณใ์ นการทางานมาไม่นอ้ ยกวา่ ห้าปี
หรอื เปน็ ผ้มู ปี ระสบการณ์ในการทางานสาขาต่าง ๆ อันจะเปน็ ประโยชน์แก่การไกลเ่ กลี่ยไมน่ ้อยกวา่ สิบปี
(๓) เป็นผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรเทคนิคหรือวิธีการไกล่เกลี่ยท่ีสานักงานศาลยุติธรรมจัด
หรือรบั รอง
(๔) 9 มีประสบการณ์ปฏิบัติงานด้านการไกล่เกล่ียในศาลหรือในสานักส่งเสริมงานตุลาการ
สานักงานศาลยุติธรรม ไม่นอ้ ยกว่าสบิ คดี
(๕) เป็นผู้มีความพรอ้ มที่จะอุทศิ เวลาปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ผปู้ ระนีประนอมประจาศาล
(๖) ไมเ่ ป็นผู้มคี วามประพฤติเสอื่ มเสยี หรอื บกพรอ่ งในศีลธรรมอนั ดี
(๗) ไม่เป็นผู้ประกอบอาชีพหรือวิชาชีพหรือกระทากิจการใดอันอาจกระทบกระเทือนถึงการ
ปฏิบัติหน้าทผี่ ู้ประนปี ระนอมประจาศาลหรืออาจเสือ่ มเสยี ถึงเกียรติศักดิ์แห่งสถาบันศาลยตุ ธิ รรม
(๘) ไม่เป็นผู้มีหน้สี ินล้นพน้ ตัว
(๙) ไม่เป็นบุคคลท่ีศาลมีคาส่ังให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
หรือจิตฟน่ั เฟอื นไมส่ มประกอบ
(๑๐) ไม่เป็นผู้เคยรับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคุก เว้นแต่ในความผิดอันได้กระทา
โดยประมาทหรอื ความผดิ ลหโุ ทษ

9 ขอ้ 51 (4) แก้ไขเพิม่ เตมิ โดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎกี ำวำ่ ดว้ ยกำรไกล่เกลี่ย (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2560

สำนกั ส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยตุ ิธรรม หนา้ | 14

(๑๑) ไมเ่ ปน็ ข้าราชการฝา่ ยตุลาการศาลยุตธิ รรมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบียบขา้ ราชการฝ่ายตลุ าการ
ศาลยตุ ธิ รรม

(๑๒) ไม่เป็นผู้พิพากษาสมทบตามพระราชบัญญัตศิ าลเยาวชนและครอบครัวและวิธพี ิจารณาคดี
เยาวชนและครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่าง
ประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
และพระราชบัญญัติจัดตงั้ ศาลแรงงานและวิธพี ิจารณาคดแี รงงาน พ.ศ. ๒๕๒๒

ข้อ ๕๑/๑10 ผู้ขอขึ้นทะเบียนผู้ประนีประนอมซ่ึงเคยเป็นข้าราชการตุลาการ จะต้องมี
คุณสมบัติและไม่มลี กั ษณะต้องหา้ มตามขอ้ ๕๑ โดยมปี ระสบการณ์ในการพิจารณาพพิ ากษาคดีมาแลว้ ไม่
น้อยกวา่ ห้าปี ทั้งน้ี ให้ยกเว้นคุณสมบัตติ ามขอ้ ๕๑ (๓) และ (๔)

ให้นาความในวรรคหน่ึงมาใช้บังคับแก่ผู้ขอข้ึนทะเบียนผู้ประนีประนอมซึ่งเคยเป็นข้าราชการ
ศาลยตุ ธิ รรมทมี่ ีประสบการณ์ในการปฏบิ ตั งิ านเก่ยี วกับการไกล่เกลยี่ มาแล้วไมน่ ้อยกวา่ สบิ ปี

ในการแนบหลักฐานตามข้อ ๕๒ ของผู้ขอขึ้นทะเบียนตามข้อนี้ สานักส่งเสริมงานตุลาการ
อาจจัดใหใ้ ช้เอกสารรบั รองอยา่ งอน่ื แทนก็ได้

ข้อ ๕๒ ให้ผู้ขอข้ึนทะเบียนยื่นคาขอขึ้นทะเบียนผู้ประนีประนอมต่อผู้อานวยการ พร้อมแนบ
หลกั ฐานดังตอ่ ไปน้ี

(๑) สาเนาทะเบียนบา้ น
(๒) สาเนาบัตรประจาตวั ประชาชนหรือบัตรประจาตวั เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั
(๓) สาเนาแสดงคุณวุฒิ
(๔) สาเนาหลกั ฐานรับรองการผ่านการอบรมหลักสตู รเทคนิคหรอื วิธกี ารไกลเ่ กล่ยี
(๕) หลักฐานการรบั รองจานวนคดีท่ีไดป้ ฏิบตั งิ านดา้ นการไกลเ่ กลี่ย
(๖) หนงั สือรับรองประสบการณ์ในการทางาน
ในกรณีผู้ท่ีเคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนผู้ประนีประนอมแล้วและประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนอีก
อาจขอใชเ้ อกสารหลักฐานเดิมก็ได้
ให้ผู้อานวยการตรวจสอบคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามและเอกสารหลักฐานของผู้ขอ
ข้ึนทะเบียนแล้วเสนอต่อคณะกรรมการบรหิ ารงานไกล่เกล่ียประจาศาลเพ่ือกล่ันกรองและทาความเห็น
เบ้ืองต้นเสนอต่อผู้รับผิดชอบราชการศาล หากผู้รับผิดชอบราชการศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสม
ใหด้ าเนินการเสนอชอื่ บคุ คลดงั กลา่ วเพ่อื ขึ้นทะเบยี นตามหมวดนี้

10 ข้อ 51/1 เพม่ิ โดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎกี ำวำ่ ด้วยกำรไกล่เกลยี่ (ฉบับท่ี 2) พ.ศ.2560

สำนกั สง่ เสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยุตธิ รรม หน้า | 15

ในกรณีที่มีผู้ขอขึ้นทะเบียนหลายคนเกินกว่ากรอบอัตราผู้ประนีประนอมที่กาหนดตามข้อ ๕๐
วรรคสองและผู้ขอข้ึนทะเบียนเหล่าน้ันมีคุณสมบัติและความเหมาะสมใกล้เคียงกัน ให้ผู้รับผิดชอบ
ราชการศาลพจิ ารณาผ้ทู ี่มคี วามพร้อมท่จี ะอุทศิ เวลาปฏบิ ัติหนา้ ที่ผปู้ ระนปี ระนอมกอ่ น

ข้อ ๕๓ ให้ผู้อานวยการรวบรวมรายช่ือผู้ขอขึ้นทะเบียนที่ผู้รับผิดชอบราชการศาลเห็นควรให้ได้รับ
การเสนอชื่อจดั ส่งไปยงั สานกั ส่งเสรมิ งานตลุ าการไมน่ ้อยกว่าเกา้ สิบวนั ก่อนวนั ที่ทะเบียนสน้ิ ผลตามขอ้ ๕๕11

การเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประนีประนอมเพ่ิมเติมให้ทาได้เฉพาะเท่าท่ีจาเป็น
เพ่อื ประโยชน์แก่ราชการศาลทีย่ งั ไม่มผี ปู้ ระนปี ระนอมท่ไี ด้รับการข้นึ ทะเบยี นปฏิบัตงิ านในศาลน้ันหรอื มี
แต่ไมส่ ามารถปฏิบัตหิ น้าท่ีได้ โดยใหผ้ อู้ านวยการดาเนินการตามข้อ ๕๒ วรรคสามโดยอนโุ ลม

ข้อ ๕๔ ใหผ้ ู้อานวยการสานักส่งเสริมงานตุลาการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ แล้วทาความเห็น
เบ้ืองตน้ เสนอเลขาธิการ12

ในการพิจารณาให้ข้ึนทะเบียนบุคคลใดเป็นผู้ประนีประนอมให้เป็นดุลพินิจของเลขาธิการ
คาวนิ ิจฉยั ของเลขาธกิ ารใหเ้ ปน็ ที่สดุ

ข้อ ๕๕ ให้ทะเบียนผู้ประนีประนอมสิ้นผลลงทุกสองปีนับแต่วันจัดทาทะเบียนโดยไม่ต้อง
คานงึ วา่ ผ้มู ีช่ือในทะเบยี นได้รับการขึ้นทะเบยี นไว้ ณ เวลาใด

การท่ีทะเบียนผู้ประนีประนอมสิ้นผลตามวรรคหนึ่งไม่กระทบถึงการแต่งตั้งผู้ประนีประนอม
ในคดีที่ได้ดาเนินการไปแล้วและให้ผู้ได้รับการแต่งต้ังนั้นปฏิบัติหน้าท่ีต่อไป เว้นแต่ผู้รับผิดชอบราชการ
ศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษาท่ีแต่งตั้งจะมีคาสั่งเป็นอย่างอื่น ให้ผู้ได้รับการแต่งตั้งดังกล่าวมีสิทธิได้รับ
ค่าป่วยการและค่าใช้จา่ ยตามระเบียบที่กาหนด

ในกรณีที่การจัดทาทะเบียนใหม่ไม่แล้วเสร็จภายในกาหนดเวลาที่ทะเบียนเดิมได้สิ้นผล
ให้ถือวา่ บคุ คลในทะเบียนเดิมยงั คงเป็นผปู้ ระนีประนอมท่ีขึ้นทะเบียนอยู่จนกว่าทะเบียนใหม่จะแลว้ เสรจ็

ข้อ ๕๖ ผู้ที่เคยมีช่ืออยู่ในทะเบียนผู้ประนีประนอมแล้วและไม่ได้เป็นผู้ที่เคยถูกจาหน่ายชื่อ
ออกจากทะเบยี นผ้ปู ระนปี ระนอมเพราะเหตใุ ด ๆ นอกเหนอื จากการลาออกอาจขอข้ึนทะเบียนไดอ้ กี

ในกำรพิจำรณำเสนอช่ือผู้ที่เคยได้รับกำรขึ้นทะเบียนผู้ประนีประนอมกับสำนักงำน
ศำลยุตธิ รรม ให้ผู้รบั ผิดชอบรำชกำรศำลพจิ ำรณำผลกำรปฏิบตั ิงำนของบุคคลดงั กลำ่ วในรอบระยะเวลำ
กำรปฏบิ ตั ิหนำ้ ที่ในวำระข้ึนทะเบยี นทีผ่ ่ำนมำวำ่ ได้ปฏิบตั หิ น้ำที่ดว้ ยควำมตงั้ ใจ อทุ ิศเวลำมำปฏบิ ัตหิ นำ้ ท่ี
ตำมที่ได้รับมอบหมำย ประพฤติตนและดำรงตนในฐำนะผู้ประนีประนอมอย่ำงเหมำะสมหรือไม่
และต้องปฏิบัติหนำ้ ทไ่ี กล่เกลยี่ ตลอดระยะเวลำในกำรขน้ึ ทะเบยี นทผี่ ำ่ นมำรวมไมน่ ้อยกวำ่ สีส่ ิบคดี 13

11 ขอ้ 53 วรรคหน่ึง แกไ้ ขเพ่มิ เติมโดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎีกำวำ่ ดว้ ยกำรไกลเ่ กล่ยี (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2560
12 ขอ้ 54 วรรคหน่งึ แกไ้ ขเพม่ิ เติมโดยข้อกำหนดของประธำนศำลฎกี ำว่ำดว้ ยกำรไกล่เกลยี่ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560
13 ขอ้ 56 วรรคสอง แก้ไขเพ่มิ เติมโดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎกี ำวำ่ ด้วยกำรไกลเ่ กลย่ี (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ.2565

สำนักสง่ เสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยุตธิ รรม หน้า | 16

ข้อ ๕๗ เพ่ือประโยชน์แก่คู่ความในการแต่งตั้งผู้ประนีประนอม หากผู้รับผิดชอบราชการ
ศาลเห็นสมควร อาจจัดให้มีบัญชีรายช่ือบุคคลที่ประสงค์จะทาหน้าท่ีผู้ประนีประนอมเพ่ือดาเนินการ
ไกล่เกลี่ยในศาล บุคคลในบัญชีรายช่ือดังกล่าวอาจเป็นผู้ประนีประนอมที่ขึ้นทะเบียนอยู่หรือไม่ก็ได้
บุคคลในบัญชีรายชื่อดังกล่าวให้มีจานวนไม่เกินสี่เท่าของกรอบอัตรากาลังผู้ประนีประนอมที่กาหนดให้
สาหรับศาลนนั้ ตามขอ้ ๕๐ วรรคสอง

ในการจัดทาบัญชีรายช่ือดังกล่าว ให้คานึงถึงคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ประนีประนอม
ที่จะขึ้นทะเบียนตามข้อ ๕๑ รวมทั้งประวัติและความประพฤติ ความพร้อมที่จะอุทิศเวลาปฏิบัติหน้าที่
ผู้ประนีประนอม ความรู้และประสบการณ์ ตลอดจนความต่อเน่ืองในการทางานและการพัฒนาทักษะ
ในการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทของบุคคลท่ีจะจัดให้อยู่ในบัญชีรายชื่อดังกล่าว ในการนี้ผู้รับผิดชอบราชการศาล
อาจจะดาเนินการตรวจสอบประวัติและความประพฤตติ ามความเหมาะสม

ในการพิจารณาจดั ให้บุคคลใดอยู่ในบัญชีรายชื่อดงั กล่าวใหเ้ ปน็ ดลุ พินิจของผู้รับผิดชอบราชการศาล
โดยได้รบั ความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารงานไกลเ่ กล่ียประจาศาล

ขอ้ ๕๘ ให้บัญชีรายช่ือตามขอ้ ๕๗ มีวาระคราวละหนง่ึ ปี
การที่บัญชีรายชื่อดังกล่าวครบวาระไม่กระทบถึงการแต่งต้ังผู้ประนีประนอมในคดีที่ได้
ดาเนนิ การไปแลว้ และให้ผู้ไดร้ ับการแต่งตั้งนนั้ ปฏบิ ัติหน้าที่ตอ่ ไป เว้นแต่คคู่ วามจะตกลงกันเป็นอย่างอ่ืน
หรอื ผ้รู บั ผิดชอบราชการศาลหรอื องค์คณะผ้พู พิ ากษาทแี่ ต่งต้ังจะมีคาสง่ั เปน็ อย่างอืน่

สว่ นที่ ๒
การจาหน่ายช่อื ออกจากทะเบยี น

ข้อ ๕๙ ให้เลขาธิการจาหน่ายช่ือผู้ประนีประนอมออกจากทะเบียนผู้ประนีประนอม
เมอื่ ปรากฏข้อเทจ็ จรงิ ดังต่อไปน้ี

(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ขาดคุณสมบตั ิหรือมลี กั ษณะตอ้ งห้ามตามข้อ ๕๑
(๔) ขาดการปฏิบตั ิหนา้ ท่ตี ามทก่ี าหนดถงึ สามครั้งตดิ ต่อกันโดยไม่มีเหตอุ นั สมควร
(๕) มีคาสง่ั ถอดถอนตามขอ้ ๒๒ (๓)
(๖) กระทาผดิ หรือฝ่าฝืนตอ่ จรยิ ธรรมของผ้ปู ระนปี ระนอม ตามข้อ ๖๑ อย่างรา้ ยแรง

สำนกั ส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยุติธรรม หนา้ | 17

ข้อ ๖๐ ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงตามข้อ ๕๙ (๑) และ (๒) ให้ผู้อานวยการทารายงาน
เสนอต่อผรู้ บั ผดิ ชอบราชการศาลเพอื่ เสนอใหเ้ ลขาธิการพจิ ารณาจาหน่ายชอื่ โดยเร็ว

ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงตามข้อ ๕๙ (๓) ถึง (๖) ให้ผู้อานวยการตรวจสอบข้อเท็จจริง
และรับฟังคาช้ีแจงของผู้ประนีประนอมที่เก่ียวข้อง เสร็จแล้วให้ทารายงานเสนอต่อคณะกรรมการ
บรหิ ารงานไกล่เกลย่ี ประจาศาลเพอื่ พจิ ารณาและทาความเหน็ เบือ้ งตน้ เสนอตอ่ ผู้รบั ผิดชอบราชการศาล

ในกรณีท่ีผู้รับผิดชอบราชการศาลเห็นว่ามีเหตุตามวรรคสองให้เสนอเลขาธิการพิจารณา
จาหน่ายช่ือโดยเร็ว แต่ถ้าเห็นว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นการกระทาผิดหรือฝ่าฝืนต่อจริยธรรม
ของผู้ประนีประนอมอย่างไม่ร้ายแรงหรือมีเหตุอ่ืนใดอันสมควร ผู้รับผิดชอบราชการศาลอาจตักเตือน
ผปู้ ระนีประนอมประจาศาลนั้นเปน็ ลายลักษณอ์ ักษร และใหร้ ายงานเลขาธิการทราบกไ็ ด้

หมวด ๘
จริยธรรมสาหรับผปู้ ระนีประนอม

ข้อ ๖๑ ผู้ประนีประนอมต้องปฏิบัติและดารงตนตามประมวลจริยธรรมท่ีคณะกรรมการ
ตลุ าการศาลยตุ ิธรรมกาหนด

หมวด ๙
ศนู ย์ไกลเ่ กลี่ยประจาศาล

ข้อ ๖๒ ให้มีศูนย์ไกล่เกล่ียประจาศาลตามความจาเป็น เพ่ือดาเนินงานไกล่เกลี่ยของศาล
ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมและสนับสนุนการนาวิธีการระงับข้อพิพาท
ทางเลอื กโดยเฉพาะการไกลเ่ กลี่ยมาใช้อย่างแพรห่ ลาย

ข้อ ๖๓ ให้ศูนยไ์ กล่เกลย่ี ประจาศาลมอี านาจหนา้ ท่ดี ังต่อไปน้ี
(๑) ดาเนินการเพ่ือให้มีการไกล่เกล่ียตามท่ีผู้รับผิดชอบราชการศาลหรือองค์คณะผู้พิพากษา
มอบหมายหรือมีคาสงั่
(๒) สง่ เสริมและเผยแพร่วธิ กี ารระงับขอ้ พพิ าททางเลือก โดยเฉพาะการไกลเ่ กลย่ี
(๓) จัดทาสารบบและสานวนคดีไกล่เกลีย่
(๔) จัดทาและรายงานข้อมูลและสถิติเก่ียวกับการดาเนินการไกล่เกล่ียของศาล ตลอดจน
การประเมนิ ผลการดาเนนิ งานไกลเ่ กลีย่ ของศาล
(๕) จัดทาบญั ชีผู้ประนีประนอมและประสานงานกบั ผู้ประนีประนอม
(๖) รวบรวมผลการปฏบิ ตั งิ านของผู้ประนปี ระนอม
(๗) ประสานงานกับหนว่ ยงานอื่นเกี่ยวกับการดาเนนิ วธิ ีการระงบั ขอ้ พพิ าททางเลือก
(๘) ดาเนนิ การอ่นื ใดทีผ่ รู้ บั ผิดชอบราชการศาลมอบหมาย

สำนกั ส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยตุ ิธรรม หน้า | 18

ข้อ ๖๔ ในกรณีท่ีศาลใดยังไม่มีตาแหน่งหัวหน้าศูนย์และเจ้าหน้าท่ีศูนย์ไกล่เกล่ียประจาศาล
ใหผ้ ู้รบั ผิดชอบราชการศาลแต่งตัง้ หรือมอบหมายให้ข้าราชการศาลยตุ ธิ รรมคนหนึ่งทาหนา้ ทีเ่ ป็นหัวหน้า
ศูนย์ไกล่เกลี่ยประจาศาลเพ่ือรับผิดชอบดูแลงานต่าง ๆ ของศูนย์ไกล่เกลี่ยประจาศาลให้เป็นไปโดย
เรียบร้อย และอาจแต่งต้ังหรือมอบหมายให้ข้าราชการศาลยุติธรรม พนักงานราชการหรือลูกจ้าง
ของสานักงานศาลยุติธรรมคนหน่ึงหรือหลายคนเป็นเจ้าหน้าท่ีศูนย์ไกล่เกลี่ยประจาศาลเพื่อช่วยเหลือ
และดาเนนิ งานต่าง ๆ ของศูนย์ไกลเ่ กล่ยี ประจาศาล

หมวด ๑๐
คณะกรรมการบรหิ ารงานไกลเ่ กลยี่ ประจาศาล

ข้อ ๖๕ เพ่ือประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนางานไกล่เกล่ียของศาลอย่างต่อเน่ืองและมี
ประสิทธิภาพ ให้ผู้รับผิดชอบราชการศาลแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารงานไกล่เกล่ียประจาศาล
โดยประกอบด้วยบุคคลจากข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมจานวนห้าคนแต่ไม่เกินเก้าคนตามท่ี
ผรู้ บั ผดิ ชอบราชการศาลเห็นสมควร

ขอ้ ๖๖ ให้คณะกรรมการบรหิ ารงานไกลเ่ กลี่ยประจาศาลมอี านาจหนา้ ท่ีดงั ตอ่ ไปนี้
(๑) เสนอแนะและให้คาปรึกษาแก่ผู้รับผิดชอบราชการศาลเกี่ยวกับนโยบายการพัฒนางาน
ไกลเ่ กลี่ยของศาล
(๒) กาหนดและวางแผนกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการ ตลอดจนกิจกรรมและการดาเนินงาน
ไกล่เกลย่ี ของศาล โดยความเหน็ ชอบของผูร้ ับผดิ ชอบราชการศาล
(๓) เสนอแนะและให้คาปรึกษาแก่ผู้รับผิดชอบราชการศาลเกี่ยวกับประเภทของคดีที่ให้
ศนู ยไ์ กล่เกลี่ยประจาศาลสนับสนุนเปน็ พเิ ศษใหม้ ีการไกล่เกลยี่
(๔) กล่ันกรองและให้ความเห็นเก่ียวกบั รายชื่อบคุ คลที่จะเสนอเพื่อข้ึนทะเบยี นผ้ปู ระนปี ระนอม
(๕) กลั่นกรองและใหค้ วามเห็นชอบเกีย่ วกับการจัดทาบัญชีรายชื่อบุคคลท่ีประสงค์จะทาหน้าที่
ผู้ประนีประนอมตามข้อ ๕๗ วรรคสาม
(๖) พิจารณาและทาความเห็นเกี่ยวกับการจาหน่ายช่ือผู้ประนีประนอมออกจากทะเบียน
ตามขอ้ ๖๐ วรรคสอง
(๗) ติดตามและประเมินผลเกี่ยวกับการดาเนินงานตามนโยบาย แผนกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการ
และการดาเนินงานต่าง ๆ ท่กี าหนดไว้
(๘) ศกึ ษาและวิเคราะหป์ ัญหาเกี่ยวกบั งานไกล่เกล่ยี ข้อพิพาทของศาล พรอ้ มท้ังใหข้ ้อเสนอแนะ
และความเหน็ เกีย่ วกบั การแกไ้ ขปญั หาและการปรับปรุงการดาเนินงาน
(๙) ดาเนินการอ่ืนใดตามที่ผู้รับผดิ ชอบราชการศาลมอบหมาย

สำนักส่งเสรมิ งำนตลุ ำกำร สำนกั งำนศำลยุตธิ รรม หนา้ | 19

ข้อเสนอแนะ คาแนะนา และความเห็นเก่ยี วกบั การพัฒนางานไกลเ่ กลย่ี ของศาลใดที่จะเป็นประโยชน์
ต่อการพัฒนาระบบงานไกลเ่ กลย่ี ของศาลยุติธรรมทัง้ หลาย ให้แจง้ ให้สานกั ส่งเสริมงานตลุ าการทราบ14

ข้อ ๖๗ คณะกรรมการบริหารงานไกล่เกลี่ยประจาศาลอาจแต่งต้ังคณะอนุกรรมการ
หรอื คณะทางาน เพอ่ื พิจารณาหรอื ปฏบิ ัติการอยา่ งหนง่ึ อยา่ งใดตามท่ีคณะกรรมการมอบหมายกไ็ ด้

หมวด ๑๑
บทเฉพาะกาล
ข้อ ๖๘ ในวาระเริ่มแรก ให้ถือว่าทะเบียนผู้ประนีประนอมที่จัดทา ข้ึนตามระเบียบ
คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมว่าดว้ ยการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ. ๒๕๔๔ เปน็ ทะเบียนผู้ประนีประนอม
ตามขอ้ กาหนดน้แี ละให้มีผลตอ่ ไปจนกระทง่ั ครบระยะเวลาตามระเบียบดงั กลา่ ว
ในกรณีที่ทะเบียนผู้ประนีประนอมตามวรรคหน่ึงครบระยะเวลาและส้ินผลก่อนท่ีการจัดทา
ทะเบียนผู้ประนีประนอมตามข้อกาหนดนี้จะแล้วเสร็จ ให้ถือว่าทะเบยี นผู้ประนีประนอมตามวรรคหนึ่ง
ดังกลา่ วใช้บังคบั ต่อไปจนกว่าการจัดทาทะเบยี นผ้ปู ระนีประนอมตามข้อกาหนดน้จี ะแล้วเสรจ็
หากวันที่ทะเบียนผู้ประนีประนอมครบระยะเวลาสองปีไม่ตรงกับวันส้ินปีปฏิทิน เลขาธิการ
อาจกาหนดใหท้ ะเบยี นผู้ประนีประนอมสิน้ ผลในวนั สิน้ ปปี ฏิทินก็ได้
ข้อ ๖๙ ในวาระเริ่มแรก มิให้นาข้อ ๕๑ (๑๒) มาใช้บังคับภายในเจ็ดปี นับแต่วันประกาศ
ในราชกิจจานเุ บกษา

14 ขอ้ 66 วรรคสอง แก้ไขเพ่มิ เตมิ โดยขอ้ กำหนดของประธำนศำลฎกี ำว่ำด้วยกำรไกลเ่ กล่ีย (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ.2560

สำนักส่งเสริมงานตุลาการ
สำนักงานศาลยุติธรรม


Click to View FlipBook Version