องค์ปค์ ระกอบ ของการคิด คิ วิเ วิ คราะห์ Ana l y ti c a l think ing
คำ นำ Preface หนัง นั สือ สืE-book เล่มนี้เ นี้ป็น ป็ ส่ว ส่ นหนึ่ง นึ่ ของวิชาการคิด อย่า ย่ งเป็น ป็ ระบบ(100-403)มีจุ มี จุ ดประสงค์เพื่อ พื่ ให้ค ห้ วามรู้ องค์ประกอบของการคิดวิเคราะห์ เพื่อ พื่ ใช้เ ช้ป็น ป็ กระบวน การส่ว ส่ นหนึ่ง นึ่ ของชีวิ ชีวิ ต ผู้จัผู้ จั ดทำ ได้ค้นคว้าหาความรู้ สรุปบทความเพื่อ พื่ เป็น ป็ ความรู้เ รู้พื่อเป็น ป็ แนวทางการศึก ศึ ษา หวังว่าหนัง นั สือ สื เล่นนี้ จะให้ค ห้ วามรู้ เป็น ป็ ประโยชน์แ น์ ก่ผู้อ่ผู้ อ่ านทุก ทุ ๆท่าน หาก เนื้อ นื้ หามีข้ มี อผิด ผิ พลาดประการใด ผู้จัผู้ จั ดขออภัย มา ณ ที่นี้ ด้วย ผู้จัผู้ด จั ทำ นายสิริ สิ ชั ริ ย ชั แซ่ย่ ซ่ อ ย่ ง 6502110011 นายภูริ ภู พั ริ ฒ พั น์ แซ่เ ซ่ จีย จี 6502110067
สารบัญ บั Contents 06 07 08 09 10 11 12 13 14 15 16 สมองกับการคิด คิดเป็น ป็ เหตุผล คุณลักษณะของนัก นั วิเคราะห์ วิธีก ธี ารตรวจสอบการคิดวิเคราะห์ วิธีก ธี ารควบคุมการคิด ลักษณะของการคิดวิเคราะห์ ขั้นตอนของการวิเคราะห์ คำ ถามเพื่อการคิด เครื่องมือ มื การคิดวิเคราะห์ ประมวลคุณค่าของการคิดวิเคราะห์ การป้อ ป้ งกันและแก้ไขข้อ ข้ บกพร่อ ร่ งในการคิด
1.การตีความความเข้า ข้ใจและให้เ ห้ หตุผ ตุ ลแก่สิ่ง สิ่ ที่ ต้องการวิเคราะห์เ ห์ พื่อ พื่ แปลความของสิ่ง สิ่ นั้น นั้ ขึ้น ขึ้ กับความรู้ ประสบการณ์แ ณ์ ละค่านิย นิ ม 2.การมีความรู้ค รู้ วามเข้า ข้ใจในเรื่อ รื่ งที่จะวิเคราะห์ 3.การช่า ช่ งสัง สั เกต สงสัย สั ช่า ช่ งถาม ขอบเขตของคำ ถาม ที่เกี่ยวข้อ ข้ งกับการคิดเชิง ชิ วิเคราะห์จ ห์ ะยึด ยึ หลัก5W1Hคือ ใคร(Who)อะไร(What)ที่ไหน(Where)เมื่อ มื่ ไร (When)ทำ ไม(Why)อย่า ย่ งไร(How) 4.การหาความสัม สั พัน พั ธ์เชิง ชิ เหตุผ ตุ ล(คำ ถาม)ค้นหาคำ ตอบได้ว่าอะไรเป็น ป็ สาเหตุใ ตุ ห้เ ห้ รื่อ รื่ งนั้น นั้ เชื่อ ชื่ มกับสิ่ง สิ่ นี้ไนี้ ด้ อย่า ย่ งไรเรื่อ รื่ งนี้ในี้ ครเกี่ยวข้อ ข้ งเมื่อ มื่ เกิดเรื่อ รื่ งนี้ส่ นี้ ง ส่ ผลกระทบ อย่า ย่ งไรมีองค์ประกอบใดบ้า บ้ งที่นำ ไปสู่สิ่ สู่ ง สิ่ นั้น นั้ มีวิ มีวิธีการ ขั้น ขั้ ตอนการทำ ให้เ ห้ กิดสิ่ง สิ่ นี้อ นี้ ย่า ย่ งไร มีแ มี นวทางแก้ไขปัญ ปั หา อย่า ย่ งไรบ้า บ้ ง องค์ปค์ ระกอบของการคิด คิ วิเ วิ คราะห์
5 ขั้น ขั้ ตอนการคิด คิ เชิง ชิ วิเ วิ คราะห์ (Analytical Thinking) เพื่อ พื่ แก้ไก้ ขปัญ ปั หา ได้แ ด้ ก่ 1.ระบุปั บุ ญ ปั หาหรือ รื ข้อ ข้ มูลที่ต้ ที่ อ ต้ งการวิเ วิ คราะห์ให์ ห้ชั ห้ ด ชั เจน (Define the problem) 2.รวบรวมและประมวลผลข้อ ข้ มูล (Gather and interpretinformation) 3.พัฒ พั นาแนวทางการแก้ปัก้ ญ ปั หาที่เ ที่ ป็น ป็ไปได้ (Develop possible solution) 4.นำ แนวทางการแก้ปัก้ ญ ปั หาไปทดสอบ (Test possible solutions) 5.เลือ ลื กแนวทางที่ดี ที่ ที่ ดี สุ ที่ ด สุ ไปดำ เนิน นิ การใช้ (Select and implement a solution) ขั้น ขั้ ตอนของการวิเ วิคราะห์
ลัลัลักก ลัลัลั ษษณณะะกกาารรคิคิคิดด คิคิคิวิวิวิเเ วิวิวิคคาารระะห์ห์ห์ ห์ห์ห์ ลักษณะการคิดวิเคราะห์คือการสะท้อนความคิดที่มีเหตุผล โดยการพุ่ง พุ่ ประเด็นไปเน้นที่การตัดสินใจที่จะเชื่อหรือตัดสินใจที่ จะกระทำ ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง กล่าวให้ชัดก็คือการประเมินในความ จริง ความแม่น ม่ ยำ หรือคุณค่าของความรู้หรือข้อถกเถียงที่ได้รับ ในการนี้ต้องการการวิเคราะห์ความรู้หรือความเชื่อที่ได้รับรู้มา อย่า ย่ งระมัดระวัง ตรงจุด เกาะติดและเป็นรูปธรรมที่มีเหตุผล เพื่อ พื่ ให้สามารถตัดสินได้ว่าสิ่งนั้น ๆ จริงหรือมีคุณค่าจริงหรือไม่
สมองกับ กั การคิด คิ การคิดเป็นกระบวนการทางสมองที่ใช้สั ช้ ญ สั ลักษณ์จิ ณ์ จิ นตภาพ ความคิดเห็น ห็ และความคิดรวบยอดแทนประสบการณ์ใณ์ นอดีต ความเป็นไปได้ในอนาคตและความเป็น ป็ จริง ริ ที่ปรากฏการคิดจึง ทำ ให้ค ห้ นเรามีก มี ระบวนการ ทางสมองในระดับสูง สู กระบวนการ เหล่านี้ไนี้ ด้แก่ ตรรกศาสตร์ คณิต ณิ ศาสตร์ ภาษา จินตนาการ ความใส่ใส่ จ เชาวน์ปัน์ ญ ปั ญา ความคิดสร้า ร้ งสรรค์ และอื่นๆ
“คิดเป็น ป็ ” •การวิเคราะห์ปัห์ ญ ปั หาและแสวงหาคำ ตอบหรือ รื ทางเลือกเพื่อ พื่ แก้ปัญ ปั หาและดับ ทุก ทุ ข์ •การคิดอย่า ย่ งรอบคอบเพื่อ พื่ การแก้ปัญ ปั หาโดยอาศัย ศั ข้อ ข้ มูล มู ตนเองข้อ ข้ มูล มู สังคมสิ่ง สิ่ แวดล้อมและข้อ ข้ มูล มู วิชาการ เป้า ป้ หมายของ “คิดเป็น ป็ ” เป้า ป้ หมายสุดท้ายของการเป็น ป็ คน “คิดเป็น ป็ ” คือความสุขคนเราจะมีค มี วาม สุขเมื่อ มื่ ตัวเราและสังคมสิ่ง สิ่ แวดล้อมประสมกลมกลืนกันอย่า ย่ งราบรื่น รื่ ทั้งทางด้าน วัตถุ กายและใจ แนวคิดหลักของ “คิดเป็น ป็ ” • มนุษ นุ ย์ทุ ย์ ก ทุ คนล้วนต้องการความสุข •ความสุขที่ได้นั้น นั้ ขึ้น ขึ้ อยู่กั ยู่ กั บการปรับ รั ตัวของแต่ละคนให้ส ห้ อดคล้องกับสภาพ แวดล้อมตามวิธีก ธี ารของตนเอง •การตัดสินใจเป็น ป็ การคิดวิเคราะห์โห์ ดยใช้ข้ ช้ อ ข้ มูล มู 3 ด้านคือด้านตนเองด้านสังคม และด้านวิชาการ •ทุก ทุ คนคิดเป็น ป็ เท่าที่การคิดและตัดสินใจทำ ให้เ ห้ ราเป็น ป็ สุขไม่ทำ ม่ ทำ ให้ให้ ครหรือ รืสังคม เดือดร้อน คิด คิ เป็น ป็ เหตุผ ตุ ล
เช่น ช่ สาเหตุใ ตุ ดที่ทำ ให้นางวันทองถูกประหารชีวิต การติดยาเสพติดของเยาวชนเกิดจากสาเหตุใด คำ ถามเพื่อ พื่ การคิด คิ การใช้คำ ช้ คำ ถาม หมายถึง การใช้ปช้ ระเภทของคำ ถามเป็น ป็ และรู้จั รู้ จั ก ลักษณะการถามที่ดี การใช้ปช้ ระเภทของคำ ถามทั้งคำ ถามง่ายและ คำ ถามยาก หรือ รื ทั้งคำ ถามแคบและคำ ถามกว้างหรือ รื ทั้งคำ ถามระดับ ต่ำ และคำ ถามระดับสูง สู การถามคำ ถามในห้อ ห้ งเรีย รี น อาจมีค มี วามเป็น ป็ ไปได้ดังนี้ 1)ครูเป็น ป็ ผู้ถผู้ ามคำ ถามให้ผู้ ห้ เผู้รีย รี นตอบ 2)ครูและนัก นั เรีย รี น ร่ว ร่ มกันถามคำ ถามร่ว ร่ มกันอภิปราย 3)นัก นั เรีย รี นเป็น ป็ ผู้ถผู้ ามคำ ถาม ส่ว ส่ น ลักษณะการถามคำ ถามที่ดีนั้น นั้ เป็น ป็ ศิล ศิปะในการถามคำ ถามที่ทำ ให้ สามารถกระตุ้น ตุ้ การคิดของผู้เผู้รีย รี นกระตุ้น ตุ้ ให้ผู้ ห้ เผู้รีย รี นกล้าตอบสนอง และกล้าถามย้อ ย้ นกลับ “นกน้อ น้ ยทำ รัง รั แต่พ ต่ อตัว ตั” ข้อ ข้ ความนี้ต้ นี้ อ ต้ งการสอนถึง ถึ อะไร ก. การประมาณตน ข. ความมานะอดทน ค. การสร้า ร้ งตนเอง ง. การประหยัด ยั อดออม จ. การรัก รั เกีย กี รติข ติ องตน
คุณลักลัษณะของนัก นั วิเ วิ คราะห์ นักคิดวิเคราะห์ที่ ห์ ที่ ดี รับ รั ข้อ ข้ มูล มู อย่า ย่ ด่วนสรุป...ตีความให้ก ห้ ระจ่าง ➢กำ หนดนิย นิ ามที่ตรงกัน ➢ตรวจสอบความสัม สั พัน พั ธ์เ ธ์ ชิง ชิ เหตุผ ตุ ล มีปัมี ญ ปั หาอย่า ย่ ด่วนแก้...ตรวจสอบให้แ ห้ น่ว่ น่ ว่ า “อะไรคือปัญ ปั หา?... ” มีปัมี ญ ปั หาจะทำ อย่า ย่ งไร?... นักคิดเชิง ชิ วิเคราะห์จ ห์ ะต้องมีอ มี งค์ประกอบทั้งสาม นี้ร่ว ร่ มกันคือต้องเป็น ป็ คนช่า ช่ งสัง สั เกต...สามารถค้นพบ ความผิด ผิปกติท่ามกลางสิ่ง สิ่ ที่ดูอ ดู ย่า ย่ งผิน ผิ เผิน ผิ แล้ว เหมือ มื นไม่มี ม่ อ มี ะไรเกิดขึ้น ขึ้ ต้องเป็น ป็ คนช่า ช่ ง สงสัย.....เมื่อ มื่ เห็น ห็ ความผิด ผิปกติแล้วไม่ล ม่ ะเลยไปแต่ หยุดพิจ พิ ารณาขบคิดไตร่ต ร่ รองและต้องเป็น ป็ คนช่า ช่ ง ถาม.....ชอบตั้งคำ ถามกับตัวเองและคนรอบๆข้า ข้ ง เกี่ยวกับสิ่ง สิ่ ที่เกิดขึ้น ขึ้ เพื่อ พื่นำ ไปสู่ก สู่ ารคิดต่อเกี่ยวกับ เรื่อ รื่ งนั้น การตั้งคำ ถามจะนำ ไปสู่ก สู่ ารสืบ สื ค้นความ จริง ริ และเกิดความชัด ชั เจนในประเด็นที่ต้องการ วิเคราะห์
“ในการวิเคราะห์เ ห์พื่อให้ไห้ ด้คำ ตอบที่ต้องการจำ เป็น ป็ ต้องเลือกเครื่อ รื่ งมือ มื (Tools)ที่เหมาะสมใน การวิเคราะห์เ ห์พื่อให้ไห้ ด้คำ ตอบที่ถูก ถู ต้อง” หน้า น้ ที่ของสมองที่เกี่ยวข้อ ข้ งกับการคิดเชิง ชิ วิเคราะห์ 1)สมองทำ หน้า น้ ที่ตีความข้อ ข้ มูล มู ที่ได้รับ รั เพื่อ พื่ ทำ ความเข้า ข้ใจโดยธรรมชาติแล้วเมื่อ มื่ มีข้ มี อ ข้ มูล มู เข้า ข้ มาทางประสาทสัม สั ผัส ผั ทั้ง5สมองจะทำ การตีความข้อ ข้ มูล มู ที่ได้รับ รั โดยนำ ไปเปรีย รี บเทียบกับข้อ ข้ มูล มู ความทรงจำ 2)สมองทำ หน้า น้ ที่หาเหตุผ ตุ ลเชื่อ ชื่ มโยงสิ่ง สิ่ ที่เกิดขึ้น ขึ้ เพื่อ พื่ สืบ สื ค้นความจริง ริโดยธรรมชาติแล้วความ คิดวิเคราะห์จ ห์ ะปรากฏขึ้น ขึ้ เมื่อ มื่ พบสิ่ง สิ่ ที่มีค มี วามคลุม ลุ เครือ รื หรือ รื สิ่ง สิ่ ผิด ผิปกติสร้า ร้ งความสงสัย สั จนไป ถึงการตั้งคำ ถามเพื่อ พื่ ค้นหาสาเหตุข ตุ องความผิด ผิปกตินั้น นั้ ๆสมองจะทำ หน้า น้ ที่เชื่อ ชื่ มโยงความ สัม สั พันธ์เ ธ์ ชิง ชิ เหตุผ ตุ ลระหว่างสิ่ง สิ่ ที่ปรากฏกับความรู้ค รู้ วามเข้า ข้ใจที่มีอ มี ยู่นำ ยู่ นำไปสู่ก สู่ ารประเมิน มิ และ ตัดสิน สิ ใจแก้ปัญ ปั หาต่าง ๆ 3)สมองทำ หน้า น้ ที่ประเมิน มิ คุณ คุ ค่าสิ่ง สิ่ ต่างๆเพื่อ พื่ การตัดสิน สิ ใจโดยธรรมชาติแล้วสมองคิด วิเคราะห์อ ห์ ย่า ย่ งอัตโนมัติ มั ติ เมื่อ มื่ ต้องตัดสิน สิ ใจเลือกอะไรบางอย่า ย่ งซึ่ง ซึ่โดยพื้น พื้ ฐานก่อนการตัดสิน สิ ใจ ทุก ทุ คนมัก มั จะกำ หนดกฎเกณฑ์หรือ รื มาตรฐานเกี่ยวกับเรื่อ รื่ งนั้น นั้ อยู่ก่ ยู่ ก่ อนแล้วเพื่อ พื่ ใช้เ ช้ป็น ป็ ฐานในการ ประเมิน มิ และตัดสิน สิ ใจเหตุผ ตุ ล 4)สมองทำ หน้า น้ ที่แจกแจงองค์ประกอบเพื่อ พื่ ให้เ ห้ ห็น ห็ ภาพรวมทั้งหมดของเรื่อ รื่ งราวตัวอย่า ย่ งที่ เห็น ห็ เด่นชัด ชั ที่สุด สุ ของหน้า น้ ที่นี้คื นี้ คื อการสืบ สื สวนของยอดนัก นั สืบ สื โคนัน นั ความปรารถนาอยากสืบ สื ค้นหา คำ ตอบทำ ให้เ ห้ กิดการคิดวิเคราะห์ห ห์ าองค์ประกอบที่คิดว่า“น่า น่ จะเป็น ป็ ไปได้ด้วยการตั้งคำ ถาม เพื่อเก็บรายละเอียดของเรื่อ รื่ งที่เกิดขึ้น ขึ้ ทั้งหมดหาความสัม สั พัน พั ธ์เ ธ์ ชิง ชิ เหตุผ ตุ ลจัดลำ ดับความสำ คัญ ของเหตุก ตุ ารณ์จ ณ์ นนำ ไปสู่ก สู่ ารพบคำ ตอบที่น่า น่ จะเป็น ป็ ไปได้มากที่สุด สุ ดังนั้น นั้ สมองทำ หน้า น้ ที่คิดเชิง ชิ วิเคราะห์ให์ นแต่ละเรื่อ รื่ งจะมีค มี วามแตกต่างกันขึ้น ขึ้ อยู่กั ยู่ กั บวัตถุป ถุ ระสงค์ ของเรื่อ รื่ งราวที่ต้องการวิเคราะห์ เครื่อรื่งมือเพื่อ พื่ การคิด คิ วิเ วิ คราะห์
วิธีวิกธีารตรวจสอบการคิด คิ วิเ วิ คราะห์ การสัง สั เกตการณ์ปณ์ ระสบการณ์ห ณ์ ลัก ลั แห่ง ห่ เหตุแ ตุ ละผล หรือ รื การสื่อ สื่ ความ การคิด คิ วิเ วิ คราะห์ต้ ห์ อ ต้ งมีพื้ มี พื้ น พื้ ฐานของคุณ คุ ค่า ค่ เชิง ชิ พุท พุ ธิปัญ ปั ญาที่สู ที่ ง สู เลยไปจากการเป็น ป็ เพีย พี งการแบ่ง บ่ เนื้อ นื้ หาที่ร่ ที่ ว ร่ ม ไปถึง ถึ ความกระจ่า จ่ งชัด ชั ความแม่น ม่ ยำ ความต้อ ต้ งตรงเนื้อ นื้ หา หลัก ลั ฐาน ความครบถ้ว ถ้ นและความยุติ ยุ ธ ติ รรม
การคิดเชิง ชิ วิเคราะห์จ ห์ ะทำ ให้ส ห้ ามารถคาดการณ์ถึ ณ์ ถึ ง ปัญ ปั หาที่อาจจะเกิดขึ้น ขึ้ หรือ รื มองเห็น ห็ จุดบอดที่ควรได้ รับ รั การแก้ไขก่อนที่จะนำ มาซึ่ง ซึ่ปัญ ปั หาในอนาคตได้ดี ขึ้น และยัง ยั ช่ว ช่ ยให้ส ห้ ามารถรับ รั มือ มื กับปัญ ปั หาได้ดี รู้ว่ รู้ว่ า ต้องแก้ตรงจุดไหนถึงจะทำ ให้ปัห้ ญ ปั หาคลี่คลาย หรือ รื สามารถวางแผนทางแก้เผื่อ ผื่ เอาไว้ได้ก่อนที่ปัญ ปั หาจะ เกิด คุณค่า ค่ ของการคิด คิ วิเ วิ คราะห์
วิธีวิ การควบคุมการคิด คิ ฝึกโฟกัส กั ความคิด คิ ด้ว ด้ ย 'การดีด ดี นิ้ว นิ้ เรีย รี กสติ'ติ ความคิด คิ ล่อ ล่ งลอย:ทำ อะไรลงไปนะ มัน มั ไม่ดี ม่ ใดี ช่ไช่ หม ดีด ดีนิ้ว นิ้ เรีย รี กสติ: ติ รู้ว่ รู้ า ว่ ว้า ว้ วุ่น วุ่ เพราะรู้ว่ รู้ า ว่ สิ่ง สิ่ ที่ทำ ที่ ทำ ลงไปมัน มั ผิด ผิ สิ่ง สิ่ ที่ค ที่ วรทำ :ยอมรับ รั ว่า ว่ ที่ทำ ที่ ทำ ลงไปนั้น นั้ ผิด ผิ ถ้า ถ้ หาวิธี วิ แ ธี ก้ไก้ ขให้ดี ห้ ดี ขึ้น ขึ้ ได้ก็ ด้ ทำ ก็ ทำ แต่ถ้ ต่ า ถ้ แก้ไก้ ขอะไรไม่ไม่ ด้แ ด้ ล้ว ล้ ก็จำ ก็จำ เป็น ป็ไว้เ ว้ป็น ป็ บท เรีย รี นแทน
3 หลักคิดในการแก้ไขปัญ ปั หากับสิ่ง สิ่ รอบตัว 1.ทุกครั้ง รั้ ที่เราเจอปัญ ปั หาขอให้เ ห้ ราคิดบวกทุก ทุ ครั้ง รั้ เพราะ การคิดบวก จะทำ ให้ปัห้ ญ ปั หามัน มั เล็กน้อ น้ ย จนเราสามารถก้าว ข้า ข้ มผ่า ผ่ นไปได้อย่า ย่ งสบายการคิดบวกจะทำ ให้เ ห้ รามีข มี วัญและ กำ ลังใจที่ดีในการสู้กัสู้ กั บปัญ ปั หาและสามารถสร้า ร้ งเส้น ส้ ทางในการ แก้ไขปัญหาได้หลายทางมากกว่าการยึด ยึ ติดเพีย พี งด้านเดียว ลองสร้า ร้ งแนวทางการแก้ไขปัญ ปั หาหลายๆทาง 2.รู้จั รู้ จั กวางแผนป้อ ป้ งกันก่อนลงมือ มื ทำ หากเราไม่ช ม่ อบเจอ ปัญหาบ่อ บ่ ยๆหนทางแรกที่ต้องคิดนั่น นั่ คือการวางแผนทุก ทุ ครั้ง รั้ ก่อนลงมือทำ ซึ่ง ซึ่ ดีกว่าการลงมือ มื ทำ โดยขาดการไตร่ต ร่ รอง เพราะถึงแม้จะวางแผนดีแค่ไหนโอกาสผิด ผิ พลาดก็ย่อ ย่ มเกิดขึ้น ขึ้ ได้เสมอ 3.เปิดใจขอคำ แนะนำ จากคนรอบข้า ข้ งบางครั้ง รั้ปัญ ปั หาก็ เปรีย รี บเสมือนผงเข้า ข้ ตาจนยากจะเขี่ย ขี่ ออกด้วยตนเองทว่ากลับ ต้องขอความช่ว ช่ ยเหลือจากคนอื่นถึงจะเขี่ย ขี่ ผงที่ติดตาได้อย่า ย่ ง สะดวกทุกครั้ง รั้ ที่เราเจอปัญ ปั หา ขอให้เ ห้ ราคิดเสมอว่า เราไม่ไม่ ด้ อยู่ค ยู่ นเดียวบนโลกใบนี้แ นี้ ต่เรายัง ยั มีเ มี พื่อ พื่ นร่ว ร่ มโลกอีกมากมาย เช่น ช่ ครอบครัว รั เพื่อ พื่ น แฟน การป้อ ป้ งกัน กั และแก้ไก้ ขข้อ ข้ บกพร่อ ร่ งในการคิด คิ
เอกสารอ้า อ้ งอิง อิ https://th.jobsdb.com/th-th/articles/analytical-thinking https://th.m.wikipedia.org/wiki/การคิดคิวิเวิคราะห์ https://bananatraining.com/ดูบ ดู ทความ-47726-1-ความคิดคิเชิงชิ วิเวิคราะห์กั ห์ บ กั เครื่อ รื่ งมือ มื แก้ปัก้ ญ ปั หา-1.html https://bsru.net/การคิดคิวิเวิคราะห์/ห์ https://www.drfish.training/17504958/3-หลัก ลั คิดคิ ในการแก้ไก้ ข ปัญ ปั หากับ กั สิ่งสิ่รอบตัว ตั