อาณาจกั ร แควน้ แคว้น
รัตนโกสินทร์ โยนกเชียงแสน หริ ญั นครเงนิ ยาง
อาณาจกั รธนบุรี หน่วยที่ 3 แควน้ พะเยา
รัฐไทย
อาณาจักรอยุธยา ในดินแดนไทย อาณาจักรล้านนา
แควน้ สุพรรณภูมิ อาณาจักรสุโขทัย
1. แคว้นโยนกเชยี งแสน (ประมาณพุทธศตวรรษที่ 12–16)
แคว้นโยนกเชียงแสนอาจเป็นรัฐไทยที่เก่าแก่
ที่สุด
เร่ืองราวของแคว้นนี้ปรากฏในตานานสิงหนวัติ
ซึ่งกล่าวว่า พระเจ้าสิงหนวัติสร้างเมืองนาค
พันธุสิงหนวัตินครบนฝ่ังน้าแม่กก (ในจังหวัด
เชียงรายปัจจบุ นั )
เมื่อประมาณพุทธศตวรรษท่ี 12 การต้ัง
บ้านเมืองริมแม่น้าเพื่อความสะดวกในการทา
การเกษตรและสัญจร
1. แคว้นโยนกเชยี งแสน (ประมาณพุทธศตวรรษท่ี 12–16)
ประมาณพุทธศตวรรษที่ 16 แคว้นน้ีถูก
คุกคามจากอาณาจักรพุกาม
ประกอบกับเกิดแผ่นดินไหวและอุทกภัยคร้ัง
ใหญ่ ทาใหเ้ มอื งถลม่ จมลงกลายเปน็ หนองน้า
ขนาดใหญ่ ผู้คนลม้ ตายไปมาก
พระเจ้าไชยศิริทรงพาผู้คนท่ีเหลืออพยพไป
สร้างเมืองใหม่ท่ีเมืองแปบ (อยู่ในจังหวัด
กาแพงเพชร) ตงั้ ชือ่ ว่า เมืองไตรตรงึ ษ์
วดั วงั พระธาตุ (เมอื งไตรตรึงษ์)
2. แควน้ หิรญั นครเงนิ ยาง (ประมาณพุทธศตวรรษท่ี 16–พ.ศ. 1893)
แคว้นหิรัญนครเงินยาง หรือแควน้ เงินยาง หรือแควน้ เงินยางเชียงแสน เกิดขึ้นเมือ่ ปเู่ จ้าลาว
จง หรือปู่เจา้ ลาวจก หวั หนา้ กลมุ่ คนบนดอยตงุ นาบรวิ ารมาสร้างเมืองเงินยางในบริเวณลมุ่ น้ากก
และตั้งราชวงศล์ วจงั กราช หรอื ลวจักราชข้นึ
ประชาชนสว่ นใหญ่มีอาชพี ทานา กษตั รยิ ข์ ยายอานาจโดยการสง่ พระราชโอรสไปสรา้ งเมอื งใหม่
และใหอ้ ภเิ ษกสมรสกับพระราชธิดาของรฐั อน่ื เปน็ การสรา้ งความสมั พนั ธท์ างเครอื ญาติ
2. แคว้นหริ ญั นครเงนิ ยาง (ประมาณพุทธศตวรรษท่ี 16–พ.ศ. 1893)
ต า น า น เ มื อ ง เ ชี ย ง ใ ห ม่ ร ะ บุ ว่ า
ราชวงศ์ลวจังกราชปกครองแคว้นมาถึงกษัตริย์
องค์ท่ี 24 คือ พระยาลาวเม็ง มีพระราชโอรส
คอื พระยามังราย
2. แควน้ หริ ญั นครเงินยาง (ประมาณพทุ ธศตวรรษที่ 16–พ.ศ. 1893)
แคว้นหิรัญนครเงนิ ยางเปน็ ศูนยก์ ลางการคา้ ที่มีความมัน่ คงทางเศรษฐกิจ
พระยามงั รายยึดได้เมืองลาพนู เมือ่ พ.ศ. 1835 ประทบั อยู่ 2 ปกี ส็ รา้ งเมอื งหลวงใหม่ คือ
เวยี งกุมกาม
ตอ่ มาสรา้ งเมืองนพบุรศี รนี ครพงิ คเ์ ชยี งใหม่ เป็นราชธานีแห่งใหม่เมอ่ื พ.ศ. 1839 ถือเปน็ ปี
เริ่มต้นอาณาจกั รลา้ นนา
3. แคว้นพะเยา (พ.ศ. 1640–1881)
แคว้นพะเยาอยู่ในลุ่มน้าแม่อิง มี
เมืองพะเยาเปน็ ราชธานี
ผู้สร้างเมืองพะเยา คือ ขุนจอม
ธรรม เชอ้ื สายของปเู่ จ้าลาวจง
ตานานเมืองพะเยาเล่าว่าพระยาลาวเงนิ หรือขุนเงินมีพระราชโอรส 2 องค์ คือ ขุนชินและขุน
จอมธรรมหรือจอมผาเรือง
ขนุ ชินปกครองแคว้นหิรญั นครเงนิ ยาง ขนุ จอมธรรมทรงสร้างเมอื งใหม่ คอื เมืองพะเยา
และปกครองโดยใช้หลักพระพทุ ธศาสนาและทศพิธราชธรรม
3. แคว้นพะเยา (พ.ศ. 1640–1881)
ตานานสบิ ห้าราชวงศ์ กล่าวว่าใน พ.ศ. 1819 พระยามังรายยกทัพมาพะเยาเพ่ือยึดไว้ในอานาจ
พระยางาเมืองใช้วิธีเจรจาต่อรองและทรงยอมยกเขตแดนมีคน 500 หลังคาเรือนให้ จึงรักษา
แคว้นพะเยาไวไ้ ด้
ชนิ กาลมาลีปกรณ์ กลา่ วว่า ใน พ.ศ.
1830 พระยางาเมอื ง พระยามังราย
และพอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราชทาสญั ญา
สาบานตอ่ กนั ต่อมาเมอ่ื พระยามงั ราย
สร้างเมอื งเชียงใหม่ได้เชญิ พระสหายท้งั
สองไปปรกึ ษาหารอื ด้วย อนุสาวรยี ์สามกษตั ริย์ พญามังราย พญางาเมือง และพ่อขนุ รามคาแหงมหาราช
3. แควน้ พะเยา (พ.ศ. 1640–1881)
พระยางาเมอื ง
พระยางาเมอื งสวรรคตใน พ.ศ. 1861 พระยาคาลือ พระราชโอรสขึ้นครองราชย์
ความสมั พันธร์ ะหวา่ งรฐั ทง้ั 3 ก็เส่ือมลง ประมาณ พ.ศ. 1881
พระยาคาฟูแห่งล้านนา ได้ชกั ชวนพระยากาวน่านยกทัพมาตีแคว้นพะเยา
ทาให้แคว้นพะเยาถูกรวมเข้ากับอาณาจักรลา้ นนา
หนองเวยี ง อาเภอเชยี งแสน จงั หวัดเชยี งราย
สรปุ
แคว้นโยนกเชยี งแสน แควน้ หิรญั นครเงนิ ยาง แคว้นพะเยา
• พระเจา้ สงิ หนวตั ิสรา้ งเมอื งนาคพันธสุ งิ • ป่เู จ้าลาวจงเปน็ ผูต้ ั้งเมืองพะเยาและตัง้ • พระยาลาวเงินหรอื ขนุ เงินมพี ระราชโอรส
หนวตั นิ ครบนฝ่งั ลมุ่ นา้ กก เดมิ แควน้ ราชวงศล์ วจังกราชขนึ้ 2 องค์ คือ ขนุ ชนิ ปกครองแควน้
นี้พวกกล๋อมดาและพวกลัวะปกครอง • พระยาลาวเมง็ มีพระราชโอรส คือ พระยา หิรญั นครเงนิ ยาง ขุนจอมธรรมทรงสรา้ ง
อยูพ่ ระเจา้ สิงหนวตั ทิ รงปราบ เปล่ียน มังราย เมอื งใหม่ คอื แควน้ พะเยา
ชื่อเป็นโยนกนครธานีศรีช้างแสน่ • พระยามงั รายทรงสร้างเมืองเชยี งรายเป็น • พระยางาเมอื ง พระยามงั ราย และพ่อขุน-
ภายหลงั เรยี กวา่ เชยี งแสน ราชธานแี ห่งใหม่และสร้างเมืองฝางเปน็ รามคาแหงมหาราชทาสัญญาสาบานตอ่ กัน เมอ่ื
• สมยั พระเจา้ พังคราชถูกพวกกลอ๋ มดา ราชธานใี หม่ พระยามงั รายไดเ้ มอื งลาพนู พระยามงั รายสรา้ งเมอื งเชียงใหมไ่ ด้เชญิ พระสหาย
ยกทพั มาตียดึ เมอื งเชยี งแสนได้ และประทบั อยู่ 2 ปี กส็ ร้างเมืองหลวงใหม่ ทัง้ สองไปปรกึ ษาหารอื ดว้ ย
เจา้ พรหมกุมารขับไล่กลอ๋ มดาออกไป คอื เวยี งกมุ กาม ประทบั ทเี่ วยี งกมุ กาม 2 ปี • พระยางาเมืองสวรรคต พระยาคาลอื ปกครอง
ประมาณพุทธศตวรรษท่ี 16 ถกู คกุ คาม ก็สร้างเมอื งนพบรุ ีศรีนครพงิ ค์เชยี งใหม่ ความสมั พันธ์ของรฐั ทัง้ 3 เส่ือมลง แคว้นพะเยา
จากอาณาจกั รพกุ าม เกิดแผ่นดนิ ไหว เปน็ ราชธานีใหม่ ถอื เปน็ ปีเรมิ่ ต้นอาณาจักร ถูกรวมเข้ากบั อาณาจกั รลา้ นนาในสมัยพระยาคา
และอทุ กภัยครัง้ ใหญ่ เมืองถล่มจมลง ล้านนา ฟู
กลายเป็นหนองนา้ ขนาดใหญ่
ตอบคาถาม
1. ตานานสงิ หนวตั เิ กย่ี วขอ้ งกบั แควน้ ใด
แควน้ โยนกเชยี งแสน
2. เพราะเหตใุ ดพระยามงั รายจงึ ต้องการแควน้ หรภิ ญุ ชัย
เพราะแคว้นหริภญุ ชยั เป็นศนู ยก์ ลางความเจรญิ รงุ่ เรอื งมาชา้ นานและมคี วามม่นั คงทาง
เศรษฐกจิ เนอ่ื งจากเปน็ ศนู ยก์ ลางการคา้
3. ชนิ กาลมาลปี กรณเ์ กี่ยวขอ้ งกับแควน้ ใด
แควน้ พะเยา
นักเรยี นรหู้ รอื ไม่ว่า บุคคลในภาพ
มคี วามสัมพันธ์กนั อยา่ งไร ?
เปน็ พระสหายร่วมสาบานกนั
4. อาณาจกั รล้านนา (พ.ศ. 1839–2442)
พระยามงั ราย กษตั รยิ ์องค์ท่ี 25 แห่งแควน้ หริ ัญ
นครเงนิ ยาง ได้สรา้ งเมอื งนพบรุ ศี รนี ครพิงค์
เชยี งใหม่ เปน็ ราชธานีของอาณาจักรลา้ นนาใน
พ.ศ. 1839 และทรงสถาปนาราชวงศ์มงั รายข้นึ
และผนวกแคว้นหิรญั นครเงนิ ยางเข้าเปน็ สว่ นหน่งึ
ของล้านนา
บรเิ วณท่สี ันนษิ ฐานวา่ เปน็ ที่ต้งั ของแคว้นน้ี
4. อาณาจกั รลา้ นนา (พ.ศ. 1839–2442)
พระยามังรายเป็นสหายรว่ ม
สานกั เรยี นและเปน็ มติ รรว่ ม
สาบานกับพอ่ ขุนรามคาแหง
มหาราชและพระยางาเมอื ง
ความสัมพันธ์ระหวา่ งรัฐน้ชี ว่ ยให้
คนไทยรอดพ้นจากการรุกราน
ของจนี สมยั ราชวงศห์ ยวนหรอื
มองโกล
4. อาณาจกั รล้านนา (พ.ศ. 1839–2442)
พระยามงั ราย พระเจา้ กือนา พระเจา้ ตโิ ลกราช
• สถาปนาอาณาจกั รลา้ นนา • ทรงเลอื่ มใสศรทั ธาใน • เป็นกษัตริยท์ ท่ี รงเดชานภุ าพมากทสี่ ดุ
• ตรากฎหมายมงั รายศาสตร์เพอื่ พระพทุ ธศาสนารบั ทรงขยายอทิ ธพิ ลออกไปอยา่ ง
พระพทุ ธศาสนาแบบลงั กาวงศ์ กวา้ งขวาง ทาสงครามกบั อยุธยานาน
ควบคมุ สังคม จากสโุ ขทัย โดยอาราธนาพระ ถึง 14 ปี
• สรา้ งเจดีย์กคู่ าหลวง วัดเจดีย์ สุมนเถระมาจากสโุ ขทยั มาเผยแผ่
ในเชยี งใหม่ • สร้างวดั ป่าแดงและวดั
เหล่ยี มท่เี วยี งกมุ กาม มหาโพธาราม (วัดเจ็ดยอด) จัด
• สร้างตลาดและสะพานขา้ มแม่นา้ • สรา้ งพระเจดีย์บรรจุพระบรม สงั คายนาพระไตรปฎิ กทว่ี ัดน้ี อัญเชิญ
สารรี กิ ธาตุบนดอยสเุ ทพเม่อื พระแกว้ มรกตจากลาปางมา
ปงิ ทีเ่ วียงกุมกาม พ.ศ. 1916 ประดษิ ฐานทเี่ ชยี งใหม่
• สร้างเหมืองฝายเพอื่ นานา้ มาใช้
• เมืองลาพูนมกี ารสรา้ งเจดยี ์
ในการเกษตร ทรงกลมครอบเจดียพ์ ระบรมสารรี ิกธาตุ
หรภิ ญุ ชยั องค์เดิม
4. อาณาจกั รล้านนา (พ.ศ. 1839–2442) สาเหตเุ กดิ จาก
ปัจจยั ภายใน คอื สถาบนั กษัตรยิ อ์ อ่ นแอ
ยุคเสื่อมของอาณาจกั รลา้ นนา
ขนุ นางแตกแยก
พระยาเกศเชษฐราชขนึ้ ครองราชย์ พ.ศ. สว่ นปจั จยั ภายนอก คอื การขยายอานาจของ
2068 จนตกเปน็ ประเทศราชของพมา่ ใน
พ.ศ. 2101 ราชวงศต์ องอแู ละตกเป็นเมอื งข้ึนของพม่าใน
พ.ศ. 2101
ช่วงที่พมา่ ปกครองลา้ นนา บางครั้งกองทพั
อยุธยายกไปโจมตไี ด้สาเร็จ พมา่ เกิดปัญหา สมยั ธนบรุ ีผนู้ าล้านนามาสวามิภักดิ์ต่อสมเดจ็
ภายใน ลา้ นนาต้ังตนเปน็ อสิ ระ พม่ายกทัพมา พระเจา้ ตากสนิ มหาราช
ปราบ
ลา้ นนาตกเปน็ ประเทศราชของไทยจนสมัย
รัชกาลที่ 5 ถูกรวมเขา้ เปน็ ราชอาณาจกั ร
ไทย