The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เรื่อง กีฬาแชร์บอล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by aung0102nj, 2021-08-14 03:38:18

เรื่อง กีฬาแชร์บอล

เรื่อง กีฬาแชร์บอล

เรื่อง กีฬาแชร์บอล

โดย
เด็กชาย รกั ษติ จริตงาม เลขที่ ๑2

ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑.๙
เสนอ

อาจารย์ สมศักด์ิ เทียบตา
รายวิชา พลศึกษา พ ๒๑๑๐๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔
โรงเรยี นพิษณุโลกพทิ ยาคม อาเภอเมือง จงั หวัดพิษณโุ ลก
สานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขตท่ี ๓๙

คานา

รายงานฉบับน้ีจัดทาขึ้นเพ่ือเป็นส่วนหนึ่งของวิชา พลศึกษา ช้ัน ม.๑.๙ เพ่ือให้ได้ศึกษา
หาความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา ประโยชน์กฎกติกา มารยาท ทักษะการเล่น รวมถึงวิธีการ
เก็บรกั ษา ดแู ลอุปกรณ์ตา่ ง ๆ ของกีฬาแชร์บอล

ผู้จัดทาหวงั เปน็ อย่างยิ่งวา่ รายงานฉบับน้ีจะเปน็ ประโยชนส์ าหรับผู้อ่าน หรือผู้ที่สนใจท่ีจะ
ศึกษาหาขอ้ มลู เกย่ี วกับกฬี าแชร์บอล หากมขี ้อแนะนา หรือผดิ พลาดประการใด ผู้จัดทาขออภัยมา
ณ ท่นี ้ีดว้ ย

ผูจ้ ัดทา
16 สงิ หาคม 2564

สารบัญ หนา้

คานา ข
สารบัญ 1
ประวัตคิ วามเปน็ มาของกฬี าแชร์บอล 2
ประโยชนข์ องกฬี าแชรบ์ อล 2
มารยาทของผู้เลน่ ทด่ี ีในกฬี าแชรบ์ อล 3
การดแู ลรกั ษาอปุ กรณข์ องกีฬาแชร์บอล 3
กตกิ าการเลน่ กีพาแชร์บอล 4
5
สนามแขร์บอล 7
อปุ กรณก์ ารแข่งข้น 7
เวลาการแข่งขน้ 8
ผเู้ ลน่ 8
ผู้ป้องกนั ตะกรา้ 8
ผถู้ อื ตะกร้า 9
เขตผปู้ อ้ งกนั ตะกรา้ 9
การเล่นลกู บอล 10
การได้คะแนน 10
การเริ่มเลน่ และการโยนลกู กระโดด 11
การสง่ ลูกเข้าเล่นจากเส้นข้าง 11
การยงิ โทษ 12
เปล่ยี นตวั ผเู้ ลน่ 12
การทาฟาวล์ 13
ผู้ตัดสิน 14
เจา้ หน้าท่ี
บรรณานุกรม

ประวตั ิความเป็นมาของกฬี าแชรบ์ อล

กฬี าแชร์บอลไมม่ หี ลักฐานทชี่ ดั เจนวา่ มกี าเนิดหรอื เล่นกันมาตั้งแต่เม่ือใด แต่ทั้งนี้ ต้ังแต่ใน
อดีต กีฬาแชร์บอลเป็นเกมกีฬาท่ีมุ่งเน้นการปลูกฝัง หรือเป็นการปูพ้ืนฐานการเล่นกีฬาจาพวก
บาสเกตบอล แฮนด์บอล หรือกีฬาประเภทอื่น ๆ โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีทักษะด้านการเคลื่อนไหว
รวมถึงทักษะการฝึกฝนเบื้องต้นด้านต่าง ๆ เพื่อเป็นการฝึกความพร้อมของร่างกายและจิตใจ

ส่วนระเบียบการเล่น หรือ กติกาแชร์บอล ในตอนแรกยังไม่มีระบุข้ึนมาตายตัว เพียงแต่
ยึดถือกติกาบาสเกตบอลในบางส่วนมาใช้ โดยการอนุโลมให้เหมาะสมเท่าน้ัน จากหลักฐานที่
ปรากฏผู้ที่คิดค้นกีฬาแชร์บอลข้ึนมาเล่นคือ พันเอกมงคล พรหมสาขา ณ สกลนคร และได้มีการ
พัฒนาอย่างแพร่หลาย เนื่องจากแชร์บอลเป็นกีฬาท่ีเล่นง่าย เพราะไม่จากัดเพศของผู้เล่น คือ
อาจจะเล่นรวมท้ังชายและหญิงผสมกัน และสถานท่ี สามารถเล่นได้กับทุกสนามไม่ว่าจะเป็น
สนามหญา้ พนื้ ดิน พื้นซีเมนต์ พ้ืนไม้ ฯลฯ ส่วนลูกบอลท่ีใช้จะใช้ลูกเนตบอล หรือลูกวอลเลย์บอล
ถ้าไม่มีกใ็ ชว้ ัสดอุ นื่ แทนได้ เชน่ ม้วนผา้ เปน็ ลกั ษณะกลม ๆ ก็สามารถเล่นได้ ส่วนภาชนะท่ีใช่รับลูก
บอลนอกจากตะกร้ายงั สามารถใช้อยา่ งอ่ืนทใี่ ส่ลูกได้

โดยจุดประสงค์ของกีฬาแชร์บอล คือ ผู้เล่นแต่ละฝ่ายช่วยกันรับส่งลูกบอลให้ผู้เล่นฝ่าย
เดียวกัน นาลูกบอลผ่านฝ่ายตรงข้ามโยนลงไปในตะกร้าของฝ่ายตนเองท่ียืนรอรับอยู่ข้างหน้า
(ด้านหลังของฝ่ายตรงข้าม) โดยโยนให้เข้าตะกร้าให้มากที่สุด และในทางตรงกันข้ามอีกฝ่ายกัน
จะตอ้ งปอ้ งกันไม่ใหล้ ูกบอลส่งขา้ มไปเข้าตะกร้าเช่นกนั

ปัจจุบันกีฬาแชร์บอลเป็นกีฬาท่ีนิยมเล่นกันอย่างแพร่หลาย ไม่เพียงแต่เล่นหรือแข่งขัน
ภายในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาเท่านั้น หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐบาลและเอกชน
ต่างก็ให้ความสนใจนิยมเล่นกัน และมีการแข่งขันทั้งภายในหน่วยงานหรือระหว่างหน่วยงาน
เนอื่ งจากกฬี าแชรบ์ อลเป็นสื่ออย่างหนึง่ ทจ่ี ะช่วยให้เชอ่ื มความสามัคคีระหวา่ งกนั ได้เป็นอยา่ งดี

ประโยชน์ของกีฬาแชร์บอล

การเล่นแชรบ์ อลทกุ ชนิดทุกประเภทมปี ระโยชน์ทง้ั น้ัน เพราะทาให้ผูเ้ ล่นไดร้ บั ประโยชน์
ทางดา้ นร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสงั คม กีฬาแชร์บอลจึงเป็นกีฬาอีกประเภทหนึง่ ที่ทาให้ผเู้ ลน่
ได้รับประโยชน์ด้านอืน่ อกี ดงั นี้

1. ทกั ษะพื้นฐานต่างๆ จากการฝึกและการเล่นแชร์บอล สามารถนาไปประยกุ ต์ใชเ้ ลน่ กบั
กีฬาชนิดอ่ืนได้

2. ช่วยส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เลน่ เป็นผู้นาและผตู้ ามทดี่ ี

3. ทาใหผ้ ู้เลน่ เปน็ ผนู้ าและผตู้ ามทดี่ ี สามารถแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหน้าท่ีเกดิ ขึ้นได้อย่าง
รวดเร็ว

4. ทาใหผ้ ู้เล่นมคี วามคล่องแคลว่ ว่องไว และมีความอดทนเปน็ อย่างดี

5. ทาให้ผู้เล่นมคี วามเชือ่ มั่นในตนเองมากขึ้น

6.ทาใหผ้ ู้เลน่ เกดิ ความสนุกสนานเพลดิ เพลนิ

7. ชว่ ยส่งเสริมใหผ้ ู้เล่นมีจิตใจหนักแน่น สามารถควบคุมอารมณ์ไดอ้ ยา่ งย่ิงข้นึ

8. นาความรู้และทกั ษะ ต่าง ๆ ไปเล่นเพอื่ ออกกาลังกายและเพอื่ สุขภาพในเวลาวา่ งได้

9.เปน็ สือ่ กลางก่อให้เกดิ สังคม ความสามคั คใี นหมูค่ ณะ และร้จู กั การทางานร่วมกันอย่างมี
ประสทิ ธิภาพมากยงิ่ ข้ึน

มารยาทของผู้เลน่ ทีด่ ี
ควรมลี ักษณะดงั นี้

1. ปฏิบตั ติ ามระเบียบข้อบังคบั และกตกิ าการแขง่ ขนั อย่างเครง่ ครดั อย่เู สมอ
2. ควรแสดงนา้ ใจท่ีเปน็ มิตรและใหเ้ กียรตแิ ก่ผู้เลน่ ท้ังสองฝา่ ยเป็นอย่างดี เช่น การจบั มอื
ทกั ทายปราศรัยซึ่งกนั และกัน ทงั้ ก่อนและหลังเล่น
3. เคารพและเชอ่ื ฟงั กรรมการผูต้ ัดสินและกรรมการเจา้ หนา้ ท่อี นื่ ๆที่เกี่ยวข้อง
4. เคารพและเชอื่ ฟงั ทง้ั หัวหน้าทมี และครู – อาจารย์ผู้ควบคุมอยู่เสมอ
5. มคี วามสภุ าพเรียบร้อยไมแ่ สดงกิริยาอาการเยอ่ หยง่ิ จองหอง โออ้ วดต่อผู้อ่ืน
6. รู้จักควบคุมอารมณแ์ ละสติไดด้ ี ไมแ่ สดงกริ ิยาอาการโมโหฉนุ เฉียว
7. ควรเลน่ ด้วยชน้ั เชิงท่ีเหมาะสมกบั การเล่น ไมค่ วรกล่นั แกล้งหรอื เอาเปรยี บผู้อน่ื ในทาง
ทไ่ี มถ่ กู ต้อง ถา้ เกิดการผิดพลาด ตอ้ งกล่าวคาขอโทษ และให้อภยั ซึ่งกนั และกนั

8. เมือ่ ชนะไมค่ วรแสดงความดใี จจนเกินไป และเม่ือแพก้ ไ็ มค่ วรเสยี ใจจนออกนอก
หนา้ ตอ้ งมีใจคอหนกั แนน่ และอดทน

9. แตง่ กายด้วยชุดกีฬาทีถ่ ูกตอ้ งเหมาะสมและปลอดภยั
10.รู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในการเล่นไดด้ ี ถกู ตอ้ ง เหมาะสม
11.ร้จู ักประมาณกาลงั และความสามารถของตนเอง
12.จะตอ้ งเรยี นรูร้ ะเบียบข้อบังคับ และกฎกตกิ าการเลน่ อยา่ งดี
13.ควรฝกึ ทักษะพ้ืนฐานใหม้ ีความชานาญเป็นพเิ ศษ เพอ่ื ชว่ ยในการเล่นมีประสทิ ธภิ าพ
ยิ่งขึ้น

การดูแลรักษาอุปกรณฟ์ ุตบอล
1. กอ่ นการเลน่ ควรทาความสะอาดและอุปกรณ์ในการฝึกซ้อมให้เรียบรอ้ ย จดั วางอย่างเป็น
ระเบียบ
2.ทาความสะอาดอุปกรณ์ทุกคร้ัง หลังการเลน่
3.อปุ กรณ์ทชี่ ารุดใหร้ ีบซอ่ มแซมทันทีหรือเปล่ียนใหม่
4.ควรมชี ้นั หรือตูเ้ กบ็ เกบ็ อุปกรณ์โดยเฉพาะ

กตกิ าแชรบ์ อล

1. สนามแชร์บอล
1.1 สนามเป็นรูปสี่เหล่ียมผืนผ้า กว้าง 16 เมตร (เส้นหลัง) ยาว 32 เมตร (เส้นข้าง)
สนามแบ่งเป็นสองส่วนเท่า ๆ กัน ด้วยเส้นแบ่งแดน ขนาดสนามนี้จะเปล่ียนแปลงได้ตามความ
เหมาะสม โดยมีบริเวณเขตรอบสนามอย่างน้อย 1 เมตร ถ้าเป็นสนามในร่มความสูงจากพื้นสนาม
ข้นึ ไปไมค่ วรน้อยกว่า 6 เมตร
1.2 วงกลมกลางสนาม ที่จุดกึ่งกลางของเส้นแบ่งแดน ให้เขียนวงกลมรัศมี 1.80 เมตร
1.3 เขตผู้ป้องกันตะกร้า ท่ีจุดกึ่งกลางของเส้นหลังทั้งสองด้าน เขียนครึ่งวงกลม รัศมี
3.00 เมตรในสนามเลน่ เขตนีเ้ รยี กวา่ เขตผปู้ ้องกนั ตะกรา้
1.4 เส้นโทษ ถัดจากจุดกึ่งกลางเส้นหลังเข้าไปในสนาม 8.00 เมตร ลากเส้นให้ขนานกับ
เสน้ หลังยาว 50 เซนตเิ มตร (โดยลากใหก้ ึง่ กลางของเสน้ อยูท่ ี่กึง่ กลางของความกวา้ ง)
1.5 เส้นทุกเส้นกวา้ ง 5 เซนติเมตร (สีขาว) และเป็นสว่ นหน่ึงของเขตนั้น

2. อปุ กรณ์การแข่งขัน
2.1 เก้าอี้ เป็นเก้าอ้ีชนิด 4 ขา มีความแข็งแรงม่ันคง ไม่มีพนักพิง สูง 35-40 เซนติเมตร
ขนาดของทนี่ ่ัง กว้าง 30-35 เซนตเิ มตร หรอื เป็นเก้าอ้ีท่ีมีขนาดใกล้เคียงและเป็นชนิดเดียวกันท้ัง
สองตัว เก้าอี้นี้วางไว้ที่จุดกึ่งกลางของเส้นหลัง โดยให้ขาหน้าของเก้าอ้ีทั้งสองขาวางอยู่บนเส้น
สนาม

2.2 ตะกร้า ขนาดสูง 30-35 เซนติเมตร ปากตะกร้าเป็นรูปทรงกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลาง
30-35 เซนติเมตร ทาด้วยหวายที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้เล่น หรือวัสดุอื่น ๆ ท่ีไม่เกิดอันตราย
มีนา้ หนักเบาเท่ากนั

2.3 ลูกบอล ใช้ลูกแชร์บอล หรือลูกฟุตบอลขนาดเบอร์ 4-5 หรือลูกท่ีฝ่ายจัดการแข่งขัน
รับรอง ซ่งึ ฝา่ ยจดั การแขง่ ขัน จะตอ้ งแจ้งให้ผ้แู ข่งขนั ทราบก่อนในระเบียบการแข่งขัน
2.4 นาฬิกาจับเวลา 2 เรือน ใช้สาหรับจบั เวลานอก และเวลาแขง่ ขัน

2.5 ใบบันทึกการเขง่ ขัน

2.6 ปา้ ยคะแนน

2.7 สญั ญาณหมดเวลาการแขง่ ขนั (นกหวดี ระฆัง กรงิ่ ฯลฯ)

2.8 ปา้ ยบอกจานวนคร้งั ของการฟาวล์ (ถา้ มี)

3. เวลาการแข่งขนั
3.1 เวลาการแขง่ ขัน แบง่ ออกเปน็ 2 คร่งึ ครึ่งละ 20 นาที พักระหว่างครึ่ง 5 นาที (เวลา
การแขง่ ขันนี้อาจเปล่ยี นแปลงได้ตามความเหมาะสมกับนักกีฬา โดยต้องแจ้งไว้ในระเบียบการ
แขง่ ขันกอ่ น)
3.2 เวลาการแขง่ ขันเรม่ิ ข้ึนเม่ือ ผู้ตดั สนิ ได้โยนลกู บอลขน้ึ ระหว่างผู้เล่นสองคนของแต่ละ
ฝ่ายท่ีอยู่ในวงกลม และลูกบอลได้ถูกผเู้ ลน่ ฝา่ ยใดฝา่ ยหนงึ่ แลว้
3.3 เมอ่ื เรมิ่ แข่งขนั คร่งึ เวลาหลงั และเวลาเพมิ่ พิเศษแตล่ ะชว่ งใหเ้ ปล่ียนแดนกัน
3.4 เวลานอก ให้แต่ละทีมขอเวลานอกไดค้ รงึ่ เวลาละ 2 ครัง้ คร้งั ละ 1 นาที
3.5 การต่อเวลาการแข่งขัน เมอื่ ผลการแขง่ ขนั เสมอกนั ให้ตอ่ เวลาเพ่ิมพิเศษอีกชว่ งละ 5
นาที จนกวา่ จะมีผลแพช้ นะกันหรือจะมขี อ้ ตกลงเป็นอย่างอน่ื
3.6 การขอเวลานอกในเวลาเพ่ิมพิเศษ ให้ขอเวลานอกได้ชว่ งละ 1 ครง้ั
3.7 ชุดใดทม่ี าแข่งขันชา้ กวา่ กาหนดเวลาการแข่งขัน 15 นาทีใหป้ รบั เป็นแพ้

4. ผู้เลน่
4.1 ชุดหน่ึงประกอบไปดว้ ยผูเ้ ล่น 12 คน เป็นผเู้ ล่นในสนาม 7 คน ผเู้ ล่นสารอง 5 คน ผู้
เล่นสารองและเจ้าหน้าทีป่ ระจาทีม ต้องน่งั ทท่ี ่คี ณะกรรมการจัดไวใ้ ห้
4.2 เมื่อเร่มิ ทาการแขง่ ขัน ตอ้ งมีผู้เล่นในสนามฝา่ ยละ 7 คนและในระหว่างการแขง่ ขัน
ฝา่ ยใดฝา่ ยหน่ึงมผี ้เู ล่นน้อยกวา่ 5 คน ให้ปรับแพ้
4.3 ผ้เู ล่นสารองจะเข้าเล่นได้ เม่อื ได้รับอนุญาตจากผ้ตู ดั สนิ และตอ้ งทาการเปล่ียนตัวท่ี
บรเิ วณเส้นแบง่ แดนดา้ นเดียวกับโตะ๊ เจ้าทจี่ ดั การแขง่ ขนั (เขตเปลี่ยนตวั )
4.4 ผ้เู ล่นแต่ละชดุ ต้องสวมเสอื้ ที่ม่สี ีเดียวกัน และตดิ หมายเลขทดี่ ้านหน้า ขนาดสูงไม่น้อย
กวา่ 10 เซนตเิ มตร ที่ด้านหลังขนาดสงู ไมน่ อ้ ยกว่า 20 เซนติเมตร ใช้หมายเลข 1 – 12 สีของ
หมายเลขต้องแตกต่างจากสีเส้อื อย่างชดั เจน
4.5 หา้ มผเู้ ล่นสวมเครื่องประดับที่อาจก่อให้เกดิ อนั ตรายตอ่ ผูอ้ นื่

5. ผูป้ ้องกันตะกรา้
5.1 ผู้ป้องกนั ตะกร้าเพยี งคนเดยี วเท่าน้นั ท่มี ีสิทธ์เิ ข้าไปในเขตปอ้ งกนั ตะกร้าได้
5.2 ผู้ป้องกนั ตะกรา้ สามารถเคลือ่ นท่ไี ปในเขตป้องกนั ตะกร้าพรอ้ มกบั ลกู บอลได้ โดย
ปราศจากข้อจากดั ภายในเวลา 3 วินาที
5.3 ผปู้ ้องกันตะกรา้ สามารคออกมาร่วมเลน่ ในสนามเลน่ ไดแ้ ตต่ ้องปฏบิ ตั ติ นเหมอื นผู้เลน่
ในสนามท่ัว ๆ ไป
5.4 การเปลี่ยนแปลงตาแหน่งผ้ปู อ้ งกนั ตะกร้าโดยไม่แจง้ และละเมดิ กติกาอย่างร้ายแรง ผู้
ตดั สนิ จะใหอ้ อกจากการแข่งขัน (ไล่ออก)

6. ผถู้ ือตะกรา้
6.1 ต้องอยบู่ นเก้าอีพ้ รอ้ มกบั ตะกรา้
6.2 ไมม่ ีสิทธ์ิเข้ารว่ มเล่นกับผู้เล่นในสนามขณะกาลงั แข่งขนั (สง่ ข้าง)
6.3 ห้ามใชต้ ะกร้าหรอื ส่วนหน่งึ สว่ นใดของร่างกาย กีดกนั การป้องกนั ของผู้ปอ้ งกนั ตะกร้า
(สง่ ขา้ ง)
6.4 สามารถเคลอื่ นไหวตะกรา้ ไดท้ กุ ลักษณะ
6.5 ผถู้ อื ตะกรา้ ตอ้ งใช้ตะกร้ารบั ลูกบอลจากการยิงประตูทุกลกั ษณะทศิ ทาง และตอ้ ง
ทรงตวั อยูบ่ นเกา้ อไ้ี ด้อย่างมน่ั คง

7. เขตผ้ปู อ้ งกันตะกร้า
7.1 เขตป้องกันตะกรา้ เป็นพืน้ ท่ขี องป้องกนั ตะกรา้ เพยี งคนเดียวเท่าน้นั
7.2 ผเู้ ลน่ ในสนามเข้าไปในเขตป้องกันตะกร้า จะถกู ลงโทษดงั น้ี
7.2.1 ฝ่ายป้องกัน เขา้ ไปในขณะท่มี ีการยิงประตู ถ้าลูกบอลลงตะกรา้ ใหไ้ ดค้ ะแนน ถ้าลกู
บอลไม่ลงตะกรา้ ให้ยิงลูกโทษ
7.2.2 ฝา่ ยป้องกนั เข้าไปในขณะทีไ่ ม่มกี ารยงิ ประตู (ส่งขา้ ง)
7.2.3 ฝ่ายรุก เข้าไปในเขตป้องกนั ตะกรา้ ของฝา่ ยตรงขา้ ม (สง่ ขา้ ง)
7.3 ลูกบอลท่ีวาง หรอื กลิ้งอย่ใู นเขตปอ้ กันตะกรา้ เป็นผ้ปู อ้ งกนั ตะกร้า และจะต้องเลน่
อย่างทันที

8. การเลน่ ลูกบอล
อนุญาตให้ผูเ้ ลน่ กระทา ดงั นี้

8.1 จบั ตี ปดั กล้ิง ส่ง หรอื ขว้างลูกบอลดว้ ยมือ แขน ศรี ษะ หรอื ลาตวั บริเวณเหนือ
สะเอวขึ้นไป

8.2 ครอบครองลกู บอลดว้ ยมอื เดยี วหรอื สองมอื หรือกดลกู บอลทอ่ี ยูบ่ นพน้ื สนาม หรอื
โยนลกู บอลขน้ึ ในอากาศได้ภายในเวลาไม่เกิน 3 วนิ าที

8.3 ถอื ลกู บอลและเคล่อื นไหวไปมาได้ด้วยการหมนุ ตัวโดยมีเทา้ หลัก
8.4 กระโดดรับ สง่ หรอื ยิงประตู
8.5 ใชล้ าตัวบงั คตู่ อ่ สู้ ในขณะท่ีกาลงั ครอบครองลูกบอลอยู่

ไม่อนุญาตให้ผู้เลน่ กระทา ดงั น้ี
8.6 ห้ามเลี้ยงลกู บอล (สง่ ข้าง) ยกเว้นกรณกี ารรับลูกไม่ได้ (FUMBLE) หรอื การตดั ลกู บอล
8.7 เจตนาพงุ่ ตวั ลงเพือ่ ครอบครองลกู บอล (ส่งขา้ ง)
8.8 เลน่ ลกู บอลดว้ ยส่วนหนงึ่ สว่ นใด ตัง้ แตส่ ะเอวลงไป (ส่งข้าง)
8.9 ยืน่ ลูกบอลให้เพอ่ื นร่วมทมี ดว้ ยมอื ตอ่ มือ (บนั ทึกการฟาวล์)
8.10 ทาใหค้ ู่ตอ่ สไู้ ด้รับอันตรายโดยใช้ลูกบอล (ยงิ โทษ)
8.11 ทุบ ตบ ตี ลูกบอลจากมือคูต่ ่อสู้ (ส่งขา้ ง)
8.12 กดี ขวางคู่ต่อสูด้ ว้ ยมือ แขน ขา หรือลาตัวในลกั ษณะทเี่ ปน็ อันตรายกับค่ตู ่อสู้

(ขัดขวาง)
8.13 ดงึ ดนั ผลกั ชก ชน เตะ คูต่ อ่ สู้ทกุ ลักษณะ (ส่งข้างหรอื ยงิ โทษ หรอื ตัดสิทธิใ์ หอ้ อก

จากการแข่งขัน)
8.14 ทาผิดกตกิ าอย่างร้ายแรงกบั คู่ตอ่ สู้ (ยิงโทษ และตัดสทิ ธ์ใิ หอ้ อกจากการ

9. การไดค้ ะแนน
9.1 จะนบั คะแนนเมอ่ื ลูกบอลไดล้ งตะกรา้ จากการยิงประตูโดยตรง โดยผถู้ อื ตะกร้าตอ้ ง
ทรงตวั อยู่บนเก้าอ้ีอย่างม่ันคง และผู้ตดั สินในสนามได้ใหส้ ัญญาณนกหวีดแล้ว
9.2 ผเู้ ลน่ ฝ่ายปอ้ งกันพยายามป้องกันโดยผิดกติกา ถ้าลูกบอลลงตะกรา้ ใหน้ ับวา่ ได้
คะแนน
9.3 ถา้ ผจู้ ับ เวลาใหส้ ญั ญาณหมดเวลาการแข่งขันก่อนทล่ี ูกบอลจะหลดุ จากมือผ้ยู ิงประตู
ถือว่าไมไ่ ดค้ ะแนน
9.4 หลงั จากลกู บอลลงตะกรา้ จาการยิงประตธู รรมดาหรอื หลงั จากการยงิ โทษได้ผล ผู้

ปอ้ งกนั ตะกรา้ ตอ้ งนาลูกบอลสง่ เขา้ เล่นจากเขตปอ้ งกนั ตะกรา้
9.5 คะแนนที่ไดจ้ ากการยิงประตู มคี า่ 2 คะแนน คะแนนทไ่ี ดจ้ ากการยิงโทษมคี า่ คร้ังละ

1 คะแนน
9.6 ฝ่ายที่ทาคะแนนไดม้ ากกวา่ เป็นฝ่ายชนะในการแข่งขัน

10. การเรม่ิ เล่นและการโยนลูกกระโดด
10.1 การเริม่ เล่นในครึ่งเวลาแรก และครึง่ เวลาหลัง เวลาเพิ่มพิเศษ และการหยุดเลน่ อ่ืน ๆ
ท่ีต้องทาลูกกระโดด จะเริม่ โดยผู้ตัดสนิ เปน็ ผโู้ ยนลูกกระโดดที่วงกลมกลางสนาม ระหวา่ งผกู้ ระโดด
10.2 ตดั สนิ เปน็ ผ้โู ยนลกู กระโดดขน้ึ ไปบนอากาศ ในแนวดงิ่ ระหวา่ งผูก้ ระโดดทั้งสองฝา่ ย
10.3 ผู้เล่นอ่นื ๆ ทไ่ี มใ่ ช่ผ้กู ระโดดตอ้ งอย่นู อกวงกลม ณ ทใ่ี ด ๆ ก็ไดใ้ นเขตสนามแขง่ ขัน
10.4 จะโยนลูกกระโดดเมอ่ื
10.4.1 เร่ิมการแข่งขนั ครง่ึ เวลาแรก ครึ่งเวลาหลงั และเวลาเพม่ิ พิเศษ
10.4.2 เม่อื มีการหยดุ เล่นโดยทีไ่ มม่ ีฝา่ ยหนึง่ ฝ่ายใดทาผิดกติกา
10.4.3 เม่อื เกดิ ลูกยึดของผเู้ ล่นทงั้ สองฝา่ ย (ผู้ทาลูกยึดต้องมาเปน็ ผู้กระโดด)
10.4.4 เมอ่ื ท้ังสองฝ่ายทาผิดกติกาพร้อมกนั ใหฝ้ ่ายที่ครอบครองบอลสง่ บอลเข้าเลน่ ต่อ
หลงั จากบันทึกฟาวล์ท้งั 2 คน
10.5 ผู้กระโดดต้องปัดลกู บอลในขณะทลี่ ูกบอลลอยอย่ใู นจุดสูงสุดไดค้ นละไม่เกนิ 2 ครง้ั
จากน้ันผกู้ ระโดดจะถกู ลูกบอลอีกไม่ได้ จนกว่าลูกบอลจะไดถ้ ูกผู้เล่นคนอ่นื ๆ

11. การสง่ ลกู เขา้ เลน่ จากเส้นข้าง
11.1 จะส่งลกู เข้าเล่น เมื่อลกู บอลทง้ั ลกู ไดผ้ า่ นเส้นขา้ งหรอื เส้นหลังและถกู พน้ื ท่นี อก
สนามแขง่ ขนั (ลกุ ลอยในอากาศยังไมถ่ ือวา่ เป็นลกู ออก)
11.2 ผเู้ ล่นฝ่ายรับทาลูกบอลออกเส้นหลัง ใหผ้ ู้เลน่ ฝ่ายตรงขา้ มส่งลกู เขา้ เล่นจากมุม
สนามด้านทลี่ กู บอลออก
11.3 ผู้เล่นฝ่ายรุกทาใหล้ ูกบอลออกเส้นหลงั ให้ฝ่ายตรงขา้ มนาลูกมาสง่ เขา้ เล่นจากเสน้
ขา้ งมมุ สนามด้านที่ลูกออก
11.4 ผู้ส่งลกุ เข้าเล่นจะส่งดว้ ยวธิ ีใดกไ็ ดภ้ ายในกาหนด 5 วนิ าที หลงั จากผตู้ ัดสินสง่ ลูก
บอลใหผ้ ้เู ลน่ แล้ว
11.5 ผตู้ ัดสนิ จะส่งลกู บอลใหผ้ เู้ ลน่ ส่งเข้าเล่น ในกรณที ่ีมีการสง่ บอลเข้าเล่นทุกครง้ั
11.6 จะใหส้ ่งลุกเข้าเลน่ เมือ่ ผปู้ ้องกนั ตะกร้าและผเู้ ล่นฝา่ ยรุกมีความพรอ้ มทีจ่ ะเลน่
จะต้องส่งลูกบอลเข้าเลน่ เม่ือผูต้ ัดสินสง่ บอลใหห้ รือผู้ตดั สนิ เป่านกหวดี ให้ส่ง ภายในเวลา 5 วนิ าที

12. การยงิ โทษ
จะให้ยงิ โทษเมื่อ
12.1 ผู้ปอ้ งกันตะกร้า
1. ทาการป้องกันในลักษณะทเ่ี ปน็ อันตรายกบั คตู่ ่อสู้ (ข้อ 5.5)
2. นาลูกบอลจาสนามเลน่ เข้าไปในเขตปอ้ งกนั ตะกรา้ (ข้อ 5.7)
3. เจตนาปดั ตะกร้าถูกตวั ผ้ถู อื ตะกร้าใช้เกา้ อ้ีหรอื ส่วนอื่น ๆ ของเก้าอี้เพอ่ื ประโยชน์ในการปอ้ งกัน
(ขอ้ 5.9 )
12.2 ผเู้ ล่นอ่นื ๆ ในสนาม
1. ฝ่ายป้องกนั เขา้ ไปในเขตประตูคณะมกี ารยิงประตู (ข้อ 7.2.1)
2. เจตนาทาใหค้ ่ตู ่อส้ไู ดร้ บั อนั ตรายโดยใช้ลกู บอล (ข้อ 8.10)
3. ดึง ดัน ผลัก ชน ชก เตะคตู่ อ่ สู้ (ข้อ 8.13)
4. ทาผดิ กติการอย่างร้ายแรงกบั คตู่ ่อสู้ และผู้ตดั สิน (ข้อ 8.14 )
5. การฟาวล์โดยเจตนา (ข้อ 14.1.2)
12.3 ผู้ยงิ โทษตอ้ งเปน็ ผเู้ ล่นทีก่ าลังอยใู่ นสนาม
12.4 ตอ้ งยิงโทษภายใน 3 วนิ าที หลงั จากผตู้ ัดสินได้ส่งบอลให้
12.5 ผู้ยิงโทษต้องไมใ่ ห้เท้าสัมผสั เส้นโทษ
12.6 จะยิงโทษด้วยวธิ ีใด ๆ ก็ได้
12.7 ผู้ปอ้ งกนั ตะกรา้ และผเู้ ล่นอืน่ ๆ ทงั้ สองฝ่ายต้องอยูห่ า่ งจากผูย้ งิ โทษอย่างนอ้ ย 3
เมตร
12.8 ผถู้ อื ตะกรา้ อยู่ขนเก้าอพี้ ร้อมตะกรา้ จะถอื ตะกรา้ อยใู่ นลกั ษณะ

13. การเปลย่ี นตัวผ้เู ลน่
13.1 จะทาการเปลย่ี นตวั ผูล้ ่นไดเ้ มื่อลูกตาย และฝ่ายท่ีขอเปล่ยี นตัวเป็นครอบครองลกู
บอลอยู่ หรือเมอื่ มกี ารยิงโทษ
13.2 ผูเ้ ลน่ ทจี่ ะเปล่ียนตวั เขา้ เลน่ ต้องเปล่ยี นตวั ท่ีบริเวณเขตการเปลี่ยนตวั เทา่ นั้น
13.3 จะเปลีย่ นหน้าที่การเลน่ ได้เม่ือไดแ้ จ้งใหผ้ ้ตู ัดสนิ ทราบขณะท่ีลกู ตาย
13.4 ผู้เล่นทกี่ ระทาฟาวลค์ รบ 5 ครง้ั ต้องออกจากการแข่งขนั แต่สามารถเปลยี่ นตวั ผู้
เล่นอ่ืน ๆ เขา้ แทนได้
13.5 ผู้เลน่ ทถ่ี ูกให้ออกจากการแขง่ ขัน สามารถเปล่ียนตวั ผู้เล่นอ่นื ๆ เข้าแทนได้

14. การทาฟาวล์
การบนั ทกึ ฟาวล์ การทาผิดมารยาท และการลงโทษของนกั กีฬาและเจ้าหนา้ ท่ีประจาทมี
14.1 การทาฟาวลต์ ้องบันทกึ ทุกครั้ง
1. ผูเ้ ลน่ ทีก่ ระทาการฟาวลค์ รบ 5 ครงั้ ต้องออกจากการแข่งขัน
2. การฟาวล์โดยเจตนา จะถกู ลงโทษโดยการยิงโทษ
3. การฟาวล์ขณะยิงประตู ใหบ้ ันทึกเปน็ การฟาวล์ 1 คร้งั (ยิงโบนัส)
14.2 การทาผิดมารยาทของนกั กฬี าและเจ้าหนา้ ทปี่ ระจาทมี
1. การทาผิดซ้า ๆ
2. การแสดงท่ไี มม่ นี ้าใจนักกีฬา
3. การใช้วาจาไมส่ ุภาพให้บันทกึ การฟาวล์ผู้ฝึกสอน ถ้าผู้ฝกึ สอนฟาวล์ 3 ครัง้ ให้ออกจากการเปน็
ผฝู้ กึ สอน และใหล้ งโทษยิงประตู 1 ครงั้ และสง่ บอลเขา้ เลน่ ที่กลางสนาม
14.3 การลงโทษ 3 ข้ันตอน
1. เตือนและบันทกึ
2. ยงิ โทษและบันทกึ
3. ให้ออกจากการแข่งและบันทกึ

15. ผู้ตดั สิน

15.1 การแข่งขันครัง้ หนึ่งประกอบด้วยผตู้ ดั สนิ 2 คน

15.2 ผ้ตู ดั สินมีหนา้ ท่คี วบคุมการแขง่ ขัน ตง้ั แต่เรมิ่ เลน่ จนถงึ ส้ินสดุ การแขง่ ขัน

15.3 ผ้ตู ัดสินตอ้ งทาการเสย่ี งเพื่อเลอื กแดนตอ่ หนา้ หวั หน้าชุดทั้งสองทมี

15.4 ขณะทาการแข่งขัน ถ้าผู้ตัดสนิ ไม่สามารถทาการตัดสนิ ได้ตลอดการแข่งขัน

คณะกรรมการจดั การแข่งขนั สามารถจัดหาผตู้ ัดสนิ สารองเขา้ ทาหน้าทีแ่ ทนได้ หรอื อาจปฏบิ ตั ิ

หนา้ ทเ่ี พียงคนเดยี วถ้าไมส่ ามารถหาผู้อื่นแทนได้

15.5 ผู้ตดั สินเปา่ นกหวีดเม่อื

1. ลกู ออก 7. เกิดลูกยึด

2. มกี ารทาผดิ กตกิ าทกุ ชนดิ 8. ผตู้ ดั สินขอเวลานอก

3. มีการยงิ ประตูโทษไดผ้ ล 9. หมดเวลาการแข่งขนั

4. มกี ารใหเ้ วลานอก 10. การเตอื นและอ่นื

5. หมดเวลานอก

6. เกิดการบาดเจ็บ

16. เจา้ หน้าท่ี
เจ้าหนา้ ทป่ี ระกอบด้วย
16.1 ผบู้ ันทึก 1 คน
16.2 ผ้จู บั เวลา 1 คน
16.3 ผู้ใสป่ ้ายคะแนน 1 คน

บรรณานกุ รม

อ้างอิงจาก :
https://hilight.kapook.com/view/72036

อ้างอิงจาก :
https://pink11.weebly.com/361136193632362336333605363636493594
36193660361036293621.html

อ้างอิงจาก :
http://krunipon.blogspot.com/2011/07/blog-post_4907.html

อ้างอิงจาก :
http://www.doohealthy.com/article/fitness/sport/320-health.html


Click to View FlipBook Version