ศาสนาคริสต์
ประวตั ิศาสนาครสิ ต์
ศาสนาคริสต์ เปน็ ศาสนาทมี่ ีผ้นู บั ถอื มากทส่ี ดุ ศาสนาหนงึ่ มลี กั ษณะ เปน็ ศาสนาเทวนยิ ม ซง่ึ นับถอื พระเจ้า
องคเ์ ดยี ว คอื พระยะโฮวา หรือ พระยาเวห์ คาวา่ "ครสิ ต"์ มาจากภาษากรกี ว่า "คริสตอล" แปลว่า ผ้ไู ดร้ ับ
เลอื กให้เป็นตวั แทนของพระเจ้า ศาสนาคริสต์ เป็นศาสนา ทเ่ี นน้ การมอบความรกั ทีบ่ ริสทุ ธิ์ใหแ้ ก่กัน เพราะ
หลักการของศาสนาคริสต์ ถอื วา่ มนุษย์ทุกคน เป็นบุตรของพระเจ้า
ศาสนาครสิ ต์ เป็นศาสนา ท่ีพัฒนาหรอื ปฏิรูปมาจากศาสนายวิ หรือ ยดุ าย ดงั น้นั การศกึ ษา
ศาสนาครสิ ต์ จงึ ต้องศกึ ษาทศ่ี าสนายดู ายกอ่ น
ประมาณ 2,000 ปี ก่อนคริสต์กาล ชนเผ่าหนึ่ง เปน็ บรรบุรษุ ของชาวยวิ ตั้งถน่ิ ฐานอยู่ ณ
ดนิ แดนเมโสโปเตเมีย (ปจั จุบนั อยู่ในประเทศอริ กั ) มีหวั หนา้ เผา่ ชอ่ื "อับราฮมั " (อับราฮัม ไดร้ ับ
การยกยอ่ ง ว่ ่าเปน็ บิดาของชาวยิว) ได้อ้างตนว่า ไดร้ ับโองการจากพระเจา้ ใหอ้ พยพ ชนเผา่ ไปอยู่
ในดินแดนทเ่ี รยี กว่า คานาอนั (ประเทศอสิ ราเอล ในปจั จบุ ัน) โดยอบั ราฮัม กลา่ ววา่ พระเจา้
กาหนดและสัญญาใหช้ นเผา่ นี้ เปน็ ชนชาติ ทย่ี งิ่ ใหญ่ต่อไป การทีพ่ ระเจา้ สญั ญา จึงก่อให้เกิด
พันธสัญญา ระหว่างพระเจา้ กับชนชาวยิว ดงั นน้ั ในเวลาตอ่ มา จึงเรียกคมั ภรี ์ ของศาสนายูดาย
และศาสนาคริสตว์ า่ "พนั ธสญั ญา"
ต่อมาดนิ แดนคานาอนั ประสบความแห้งแล้งอย่างรนุ แรง ชาวยวิ จงึ อพยพกลับ ไปอยใู่ นดนิ แดน
ของประเทศอยี ปิ ต์ และกลายเป็นทาสของอยี ปิ ต์ ชาวยวิ ทนความลาบากของสภาพทาสไม่ได้ จึง
คิดอพยพกลบั ไปดินแดนคานาอัน การเดนิ ทางครง้ั น้ี พระเจา้ ทรงมโี องการให้ชาวยิวคนหนึ่งช่อื
"โมเสส" เป็นหวั หน้า ระหวา่ งเดินทางเตม็ ไปด้วยความลาบาก และตอ้ งรอนแรมกลางทะเลทราย
หลายปี และชาวอยี ปิ ตไ์ ดส้ ่งทหารตดิ ตามกวาดล้าง โดยคิดว่าชาวยิวจะกอ่ กบฏ เม่อื ไลต่ ดิ ตาม
มาถงึ ทะเลแดง ดว้ ยอานาจของพระเจา้ โมเสสได้แยกนา้ ออกจากกัน ทาใหช้ าวยวิ หนรี อดมาได้
เหตุการณ์สาคัญนี้ ตอ่ มาไดก้ ลายเปน็ เหตุการณ์สาคญั ในงานฉลองประจาปี เรยี กว่า งานฉลอง
ปาสกา นอกจากนี้ พระเจา้ ได้มอบบญั ญตั ิ 10 ประการ ให้แก่โมเสส เพ่ือให้ชาวยิวนาไปยึดถอื
ปฏบิ ตั ิ บัญญัติ 10 ประการนี้ ถือเป็นหลกั สาคญั ของศาสนายดู าย และต่อมาถือเป็นหลัก
สาคัญของศาสนาครสิ ต์ ด้วย โมเสส ไดร้ บั การยกย่องให้เปน็ ศาสดาของศาสนายดู าย
ชาวยิวไดต้ ัง้ อาณาจักรคานาอนั ตอ่ มาอาณาจกั รนไ้ี ดต้ กเป็นเมืองขึ้น ของอาณาจกั รบาบิโลน
และเป็นเมืองขึ้นของอาณาจกั รโรมันตามลาดับ ชาวยิว ยังคงได้รับการกดขีข่ ม่ เหงจากอาณาจกั ร
โรมัน เราจะเห็นว่า ประวตั ิศาสตร์ ของชาวยิว เป็นประวัติศาสตร์แห่งความทกุ ข์ยากอยา่ งแสน
สาหัส ชาวยวิ จงึ มคี วามเชื่อในคาทานายของศาสดาวา่ วันหนง่ึ พระเจ้าจะสง่ คนลงมาช่วย เพ่ือ
ปลดเปล้ืองความทุกขย์ ากทงั้ หมดของชาวยวิ หรอื ชว่ ยไถบ่ าปให้กับชาวยิว เรยี กบคุ คลนวี้ ่า "เมส
สอิ าห์" (Messiah) คาว่า เมสสิอาห์ เป็นภาษายวิ ตรงกบั คาว่า คริสต์ (Christ) หรือ ไครสต์
ในภาษากรกี ซ่ึงแปลวา่ ผไู้ ดร้ ับเลือก ให้เปน็ ตัวแทนของพระเจา้ ความเช่อื ดงั กลา่ ว ทาให้ชาวยิว
มีความหวังในชีวติ เม่อื พระเยซู (Jesus) ประสูติ ชาวยิวจานวนหน่ึง จงึ มคี วามเช่อื วา่ พระ
เยซู ่คือ เมสสอิ าห์ (Jesus Christ = จีซัส หรอื เยซู ผู้ไดร้ บั เลอื กให้เป็นตวั แทนของพระเจา้ )
พระเยซูมเี ชอ้ื ชาติยวิ ครสิ ตศ์ าสนาถอื วา่ วนั สมภพของพระองค์ คือ วันท่ี 25 ธนั วาคม ค.ศ. 1
(ซึ่งถือเอาวนั สมภพเปน็ ปที ่ี 1 แห่งครสิ ต์ศักราช ซง่ึ ตรงกบั พุทธศกั ราช 543) ณ หมู่บ้านเบธเล
เฮม แควน้ ยดู า ในดนิ แดนปาเลสไตน์ (อิสราเอล ในปจั จุบนั ) มารดาช่อื มารอี า หรือมาเรยี ชาว
ครสิ ต์เชือ่ ว่านางมาเรีย ตงั้ ครรภ์ ไม่เหมอื นสตรอี น่ื ๆ เป็นการตงั้ ครรภ์โดยอานุภาพแห่งพระเจ้า
มบี ดิ าเลีย้ งชอื่ โยเซฟ สมยั นั้น กษตั รยิ ผ์ ู้ครองเมอื งช่อื เฮโรด เมือ่ ไดย้ ินคาพยากรณว์ ่า จะมีผู้มี
บญุ มาเกิด จงึ คิดกาจัด ดงั น้ัน โยเซฟและมาเรยี จึงหนไี ปอยู่อยี ปิ ต์ เป็นการชว่ั คราว เมอื่
เร่ืองราวสงบแล้ว กอ็ พยพกลับถน่ิ ฐานเดมิ พระเยซเู ติบโตขนึ้ ท่ีหมบู่ ้านเลก็ ๆ ในเมืองนาซาเรธ
แคว้นกาลลิ ี เม่อื วัยเยาว์ พระเยซูเปน็ ผู้สนใจในเรอ่ื งศาสนธรรม และเปน็ ผมู้ คี วามเฉลียวฉลาด
เป็นอยา่ งย่ิง เมอ่ื อายุ 30 ปี ได้ท่องเทียว ไปในดนิ แดนปาเลสไตน์ ณ ริมแม่น้าจอร์แดน ทรง
พบกับจอหน์ หรือ โจฮนั หรอื John the Baptism ซงึ่ หมายถึง จอห์น ผ้ใู ห้ศีลจมุ่ หลังท่ี
ไดร้ บั ศลี จุม่ แล้ว ได้เสดจ็ ไปประทับในปา่ อนั อา้ งว้างเปล่าเปล่ยี วเพยี งพระองคเ์ ดียว ทรงบาเพ็ญ
พรต โดยอดพระกระยาหารเป็นเวลา 40 วัน จากน้นั พระองคก์ เ็ ร่มิ สอนประชาชน ให้หลดุ พ้น
และประสบสันติสขุ พระองค์มีสาวกทีส่ าคัญ 12 คน (เน่อื งจากชาวยวิ มี 12 เผา่ พันธุ์) สาวก
องค์แรก ท่ีเปน็ กาลังสาคญั ในการเผยแพร่ศาสนา คอื ซีมอน หรอื เปโตร หรอื เดฟาส หรอื ที่
คริสตศ์ าสนกิ ชนเรยี กวา่ นกั บญุ ปีเตอร์ หรือ เซนตป์ เี ตอร์ (Saint Peter) นกั บุญอีกทา่ นหน่ึง
ที่มีบทบาทในการเผยแพร่ ศาสนาคริสต์คือ นักบญุ เปาโล หรอื เซนต์ปอล เปน็ นกั บญุ ที่กลับใจ
จากการตามจบั กมุ และลงโทษพวกครสิ เตียน มาเป็นผูเ้ ผยแพรศ่ าสนาคริสต์ ตั้งแตป่ แี รก ๆ ที่
พระเยซูส้ินพระชนม์
การขยายตวั อยา่ งรวดเร็วของศาสนาครสติ ์ ได้สรา้ งความหวัน่ ไหว และสง่ ผล สะเทือนต่อศาสนา
ยิวเปน็ อย่างยิง่ ปโุ รหติ ผูด้ แู ลวิหารเสยี ผลประโยชน์ เกรงว่า พระเยซจู ะแยง่ สาวกของตนไป
เพราะคาสอนของศาสนาคริสต์ เนน้ เรอ่ื งจรยิ ธรรม ศลี ธรรมมากกว่าพิธีกรรม ซ่งึ พิธกี รรมของ
ศาสนายวิ จะได้แก่ การบชู าพระเจา้ ดว้ ยเครอื่ งบชู า เชน่ เนอ้ื วัว แพะ แกะ นกพริ าบ นกเขา
เปน็ ต้น ในท่สี ดุ ผปู้ กคตรองชาวโรมัน กส็ ั่งประหารชีวติ พระเยซู ดว้ ยการตรงึ กบั ไมก้ างเขน
เพราะเกรงว่าชาวยิว ทค่ี ดั ค้านพระเยซูจะไมพ่ อใจ ชาวครสิ ต์ถอื ว่าเหตกุ ารณ์ คร้งั น้ เปน็ การ
แสดงความรกั เพราะพระเจ้าทรงกรณุ าแกส่ ัตว์โลก จึงประทานบุตร มาไถบ่ าปของมนุษย์ดว้ ย
การสละชีวิตพระบุตรของพระองค์เอง พระเยซู สิ้นพระชนม์ ท่เี มืองโกลกอต (Golgotha)
เม่ือพระชนมไ์ ด้ 33 พรรษา
หลงั จากการสน้ิ พระชนมข์ องพระเยซแู ล้ว ศาสนาคริสต์ ได้กลายเปน็ ศาสนาประจาชาติ ของ
อาณาจกั รโรมัน ในปลายศตวรรษท่ี 1 และปลายศตวรรษที่ 4 จากนนั้ ได้แพร่กระจายเป็น
ศาสนาประจาชาตขิ องหลายประเทศในทวปี ยโุ รป
1. หลกั ธรรมสาคญั ของศาสนาคริสต์
ตามหลักฐานในพระคมั ภีร์ เมอื่ พระเจ้าสรา้ โลก และได้สร้างหญงิ ชายคูห่ น่งึ คอื อาดมั กับอีฟ
(หรอื อีวา) และเนรมติ สวนเอเดนให่ ท้ ง้ั คูอ่ ย่อู ย่างมคี วามสขุ ตอ่ มามนษุ ย์ ไดแ้ อบกินผลไม้
ตอ้ งห้าม จงึ ถูกลงโทษ ดว้ ยการขบั ใหม้ าตกระกาลาบาก บาปของมนุษยค์ นู่ ้ี จึงตกทอดมาถงึ
มนษุ ยท์ ุกคนด้วย บาปนี้ เรยี กวา่ "บาปกาเนิด (Original Sin)" แมม้ นุษยจ์ ะทาบาป แต่พระ
เจา้ ก็ทรงเมตตา โดยสง่ พระเยซู ใหอ้ วตาร ลงมาเกิดในโลกมนษุ ย์ เพือ่ ไถ่บาปให้กบั มนษุ ย์
เพอื่ ให้มนษุ ย์หลดุ พน้ จากความทกุ ขเ์ ข็ญ และเพราะมนษุ ย์ มจี ติ ใจท่ีไม่เขม้ แขง็ จึงต้องพ่ึงพระ
เจา้ และพระบุตรของพระองค์ เพอ่ื ชว่ ยให้มนุษย์มจี ติ ใจ เข้มแขง็ ขึ้น
2. หลกั ตรเี อกานภุ าพ
ศาสนาครสิ ตส์ อนว่า มพี ระเจ้าองค์เดยี ว (Monotheism) คือ พระยะโฮวา หรือ พระยาเวห์
ในพระเจา้ องค์เดียวนี้ แบ่งออกเป็น 3 ภาค คอื
พระบิดา คอื พระเจ้าสรา้ งโลก เป็นผูส้ รา้ งทุกสง่ิ ทรงเปฯ็ นริ นั ดร
พระบตุ ร คอื พระเยซู ซงึ่ จุติมาเป็นมนษุ ย์ เพ่ือชว่ ยให้มนุษยไ์ ดร้ บั ฟงั คาสง่ั สอนของพระเจา้
อย่างใกล้ชดิ
พระจติ คือ พระเจ้าทปี่ รากฏเปน็ ดวงวิญญาณ ของมนุษย์ เพ่ือเกอ้ื หนุนใหม้ นุษย์ ประกอบ
กรรมดี
3. ความรกั
ความรักถือเป็นบทบญั ญตั ทิ ส่ี าคัญของศาสนาครสิ ต์ ดงั พระเยซูตรัสว่า "จงรักพระเจา้ อยา่ งสุดใจ
สุดความคิด และสดุ กาลงั และจงรักเพอ่ื นมนุษย์เหมือนรกั ตนเอง" ความรกั น้ี ไมใ่ ชค่ วามรักของ
หนมุ่ สาว แตเ่ ป็นความรักต่อเพ่ือนมนุษย์ ศาสนาครสิ ต์ ถอื ว่า ทกุ คนเปน็ บุตรของพระเจา้ จึงควร
รักกนั เหมือนพ่นี ้อง
4. บัญญตั ิ 10 ประการ
บญั ญัติ 10 ประการ เปน็ หลักศีลธรรมของศาสนา ยูดาย ซง่ึ โมเสสเปน็ ผ้ไู ดร้ บั จากพระเจ้า เพือ่
ประกาศ ให้ชาวยวิ นาไปยดึ ถอื ปฏบิ ัติ ซง่ึ ศาสนาครสิ ตก์ ย็ อมรบั บัญญัติ 10 ประการ มีเน้อื หา
ดังน้ี
1.
จงนมนั การพระเจา้ แต่เพยี งองคเ์ ดยี ว
6..
อยา่ ผดิ ประเวณี
2
อยา่ ออกนามพระเจา้ โดยไม่สมเหตุ หรือพร่าเพรอื่
7.
อย่างลักทรัพย์
3.
จงนบั ถือวันพระเจา้ เป็นศักด์สิ ทิ ธิ์
8.อยา่ นนิ ทาว่าร้ายผอู ่ืน อยา่ งเป็นพยานเทจ็
4.
จงนบั ถอื บดิ ามารดา
9.
อยา่ คิดมิชอบ
5.
อย่าฆ่าคน
10.
อย่ามีความโลภ
6. พธิ ีกรรมท่สี าคัญในคริสต์ศาสนา
พธิ ีกรรมทสี่ าคัญในครสิ ต์ศาสนา เรียกว่า พธิ ศี ักดสิ์ ทิ ธ์ิ 7 ประการ ไดแ้ ก่ ศีลจมุ่ หรอ้ ศลี ลา้ งบาป
ศีลกาลัง ศลี มหาสนิท ศลี สมรส ศีลสารภาพบาป ศีลเจิมคร้งั สดุ ทา้ ย หรอื ศีลเจมิ คนไข้ ศีลเขา้
บวชหรอื ศีลอนกุ รม ในพิธกี รรมทง้ั หมดน้ี นกิ ายโรมนั คาทอลิก และนิกายออรธ์ อด็อกซ์ จะ
ปฏิบตั ิท้ัง 7 พิธกี รรม สว่ นนิกายโปรเตสแตนท์ ถอื ว่า ศลี ศกั ดส์ิ ิทธิ์ มี 2 ศีล คือ ศลี ล้างบาป และ
ศีลมหาสนิท
ศีลในครสิ ตศ์ าสนา มคี วามหมายต่างกับศลี ในพทุ ธศาสนา ศีลในพุทธศาสนา หมายถึง ขอ้ ฝึกหัด
(สิกขา = Training) คือ ฝกึ หัด และตง้ั ใจ (เจตนา, สมาทาน) ว่า จะ (ฝกึ หัด) งดเว้นจากการฆา่
การเบยี ดเบยี น การลักขโมย การพดู โกหก หลอกลวง การประพฤติในกาม การดืม่ ของมึนเมา
เปน็ ตน้ ไม่ใชข่ อ้ ห้าม แตศ่ ลี ในครสิ ตศ์ าสนา เชอื่ กนั ว่า เป็นพิธีกรรมพเิ ศษ ทพ่ี ระเยซทู รงกาหนด
ขึน้ เพ่ือยืนยนั ถึงความช่วยเหลือของพระองค์ สาหรบั ผู้ท่ที าพธิ ีกรรมนั้น ๆ ตามโอกาสทก่ี าหนด
ไว้
7. คมั ภรี ข์ องศาสนาครสิ ต์
คัมภีรข์ องศาสนาครสิ ต์ เรยี กวา่ "คมั ภรี ไ์ บเบิล (Bible)" ถือเปน็ คัมภีร์ศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิ ทเี่ ป็นพระ
วจนะของพระเจา้ แบง่ ออกเป็น 2 ภาค คอื พระคมั ภรี เ์ ก่า หรอื พันธสญั ญาเดิม และพระคัมภรี ์
ใหม่ หรือพนั ธสัญญาใหม่
พันธสัญญาเดมิ (Old Teatament) ภาคนี้ เปน็ คัมภีร์ ของศาสนายวิ จารกึ เปน็ ภาษาฮบิ รู
เล่าเรอื่ ง พระเจ้าสรา้ งโลก จนถงึ สมัยกอ่ นพระเยซปู ระสูติ เชน่ ความเป็นมาของชนชาตยิ ิว
บญั ญตั ิ 10 ประการ ศาสดาพยากรณ์ ฯลฯ
พันธสญั ญาใหม่ (New Testament) จารกึ เปน็ ภาษากรกี เล่าเรือ่ งตง้ั แตพ่ ระเยซูประสตู ิ
การเผยแพรศ่ าสนา รวมถึงเร่ืองราวของอัครสาวก และสาวกดว้ ย ภาคน้ีชาวยวิ ไมย่ อมรบั วา่
เป็นคมั ภรี ์ ในศาสนาตน เพราะไมย่ อมรับพระเยซวู ่า เปน็ บัตรของพระเจ้า
ที่มา
www.google.com