หลักสูตรการฝึกอบรม
การทำขนมดอกบัว
"ขนมโช้ก"
สาขาสังคมศึกษา
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
1
หลักสูตรการฝึกอบรม
การทำขนมดอกบัว "ขนมโช้ก"
ขนมดอกบัว เป็นขนมไทยที่นิยมทำในงานบุญสำคัญ
เป็นวิถีทางวัฒนธรรมของคนไทยในสมัยก่อนฟังจากชื่อแล้ว
ถ้าไม่เคยเห็นใครๆก็คงเข้าใจว่าอาจมีลักษณะเหมือน
ดอกบัวหรือไม่ก็มีส่วนผสมของดอกบัว แต่ก็มีบางคนเรียก
ขนมนี้ว่า “ขนมฝักบัว”แต่ดูๆไปแล้วน่าจะเรียกว่า“ขนมใบ
บัว” น่าจะเหมาะมากกว่า เพราะลักษณะดูคล้ายใบบัว
มากกว่าดอกบัว แต่ขนมลักษณะนี้ทางภาคใต้เรียกว่าขนม
“จูจุ่น” ซึ่งทำในงานบุญเดือน 10 ทางภาคใต้ ขนมดอกบัว
หรือขนมใบบัวนี้ทางภาคอีสานก็มีให้เห็นอยู่เหมือนกัน ถ้า
เราไปจังหวัดสุรินทร์ก็หาดูไปตลาดเช้า หรือตลาดผักสี
เขียวปลอดสารพิษวันเสาร์ อาทิตย์ที่ชาวบ้านนำมาสาธิต
การทำเลยที่เดียว ในจังหวัดนี้มีประเพณีของประชาชนกลุ่ม
ชาติพันธุ์เขมรซึ่งถือได้ว่าเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ขนาดใหญ่
ที่สุดของคนพื้นถิ่นสุรินทร์ในอดีตก็นิยมนำขนมฝักบัวมา
เป็นเครื่องเซ่นไหว้ผีบรรพบุรุษแสดงออกถึงความกตัญญู
ต่อผู้มีพระคุณ สะท้อนให้เห็นความรัก ความผูกพัน ความ
กตัญญูใน ประเพณี “แซนโฎนตา” ที่ปฏิบัติสืบทอดติดต่อ
กันมายาวนาน นับเป็นพัน ๆ ปีของชาวเขมร โดยจะประกอบ
พิธีกรรมตรงกับวันแรม 14 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปีเช่นกัน
สารบัญ 2
เรื่อง หน้า
3
หลักสูตรอบรมการทำขนมดอกบัว 5
6
เนื้อหาการฝึกอบรม 7
8
- วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำ 9
- วัตถุดิบ 11
- ขั้นตอนการทำขนมดอกบัว 13
แบบทดสอบ 14
เฉลยแบบทดสอบ
บรรณานุกรม
ข้อมูลวิทยากร
3
หลักสูตรการฝึกอบรม
การทำขนมดอกบัว "ขนมโช้ก"
วัตถุประสงค์โครงการ
1.เพื่ออนุรักษ์ขนมไทย
2.เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่สนใจหารายได้เสริม
ทางการค้าขาย
ระยะเวลาการฝึกอบรม
ผู้ได้รับการฝึกอบรมจะต้องเข้าการฝึกอบรมภาคทฤษฎี
2 ชั่วโมง และฝึกทักษะด้านปฏิบัติจำนวน 5 ชั่วโมง
ระยะเวลาฝึกอบรมทั้งหมด 7 ชั่วโมง
คุณสมบัติ
1.ผู้ที่สนใจโครงการและการอบรม
2.มีความพร้อมและความสามารถเข้าฝึกอบรมตลอดจนจบหลักสูตร
3.มีความสนใจในการฝึกการทำขนมดอกบัว และสามารถนำไปต่อยอด
และเผยแพร่ได้
หัวข้อเนื้อหาการฝึกอบรม
4
เนื้อหาวิชา
1.ความรู้เกี่ยวกับการทำขนมดอกบัว
วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้อบรมมีความรู้ความเข้าใจถึงการทำขนมดอกบัว
คำอธิบาย ศึกษาความเป็นมาของขนมดอกบัว
2.สาธิต/ฝึกปฏิบัติการทำขนมดอกบัว
วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ฝึกอบรมมีความรู้ความเข้าใจและมีทักษะใน
การทำขนมดอกบัว
คำอธิบาย ศึกษาวิธีการทำและอุปกรณ์ในการทำขนมดอกบัว
3.การวัดและการประเมินผล
3.1 แบบทดสอบก่อน-หลังการฝึกอบรม
3.2 ประเมินความรู้ ความสามารถและศักยภาพในการปฏิบัติงาน
ของผู้เข้าอบรม
ผู้จัดทำหลักสูตร
นางสาววรรณวิสา แซ่เหลี่ยม นักศึกษาสาขาสังคมศึกษา ชั้นปีที่2
ลงชื่อ...................................................ผู้ขออนุมัติหลักสูตร
(นางสาววรรณวิสา แซ่เหลี่ยม)
ลงชื่อ.........................................................ผู้อนุมัติหลักสูตร
(ดร.ภัทระ อินทรกำแหง)
5
เนื้อหาการฝึกอบรม
ขนมดอกบัวหรือขนมฝักบัวเป็นชื่อที่คนภาคกลางใช้เรียกกัน
คนภาคใต้เรียก “จูจุ่น” ชาวเขมรสุรินทร์เรียก “ขนมโช้ก” นิยมใช้
ในพิธีแต่งงานและพิธีการต่าง ๆเนื่องจากขนมชนิดนี้มีความหมาย
ถึงความเจริญรุ่งเรืองความก้าวหน้า และโชคลาภ
สูตรดั้งเดิมแต่โบราณคือ แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลปี๊ บหรือน้ำตาล
มะพร้าว และกะทิปัจจุบันมีการดัดแปลงโดยใส่ใบเตยแทนน้ำเปล่า
ทำให้เป็นสีเขียวสวยน่ารับประทาน บางครั้งมีการใช้สีจาก
ธรรมชาติสีอื่น ๆ ลักษณะที่ดีของขนมฝักบัวคือแป้งนุ่มขอบขนม
ต้องกระดกขึ้นมาโดยที่ตรงกลางนูนและนุ่ม รสชาติหวาน และด้าน
ล่างของขนมเป็นเหมือนสายบัวลักษณะของขนมดอกบัวในตลาด
พื้นบ้านภาคอีสานมีความแตกต่างออกไปคือมีขอบสีน้ำตาลเข้มให้
สัมผัสที่กรอบกำลังดี ตัดกับเนื้อแป้งหอมนุ่มสีเขียวอ่อนที่นูนขึ้น
ตรงกลาง รสชาติหวานมัน สามารถทานได้อย่างเพลิดเพลิน
ปัจจุบันเป็นขนมที่หาทานได้ยากแต่สามารถทำทานได้ภายในครัว
เรือนอีกทั้งวิธีการทำไม่ยุ่งยากอีกด้วย
6
วัสดุอุปกรณ์ใช้ทำขนมดอกบัว
1.กระทะก้นลึก
2.ตะหลิว
3.ตะเกียบยาว
4.ชามสำหรับใส่ส่วนผสม
7
วัตถุดิบ
1. แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วยตวง
2. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
3. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วยตวง
4. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
5. เกลือ 1/2 ช้อนชา
6. กะทิ 1 ถ้วยตวง
7. น้ำใบเตย 1 ถ้วยตวง
8. น้ำมันพืชสำหรับทอด 1 ถ้วย
8
ขั้นตอนการทำขนมดอกบัว
1. ผสมแป้ง
ใส่แป้งสาลีลงในชามผสมตามด้วย แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว
น้ำตาลทราย เกลือ กะทิ และน้ำใบเตยตีให้เข้ากัน
2. ตั้งน้ำมัน
นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง
เทน้ำมันพืชลงไป รอจนร้อน
ตักแป้งประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ลงไปทอด
3. ทอด
ทอดจนสุก และกรอบ
9
แบบทดสอบโครงการฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้น
การทำขนมดอกบัว "ขนมโช้ก"
คำชี้แจง เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว
1. “ขนมโช้ก” เป็นคำพื้นถิ่นของจังหวัดใด
ก.จังหวัดกำแพงเพชร
ข.จังหวัดสุรินทร์
ค.จังหวัดเลย
ง.จังหวัดนครราชสีมา
2. ในการทำขนมโช้กส่วนใหญ่จะจัดทำในพิธีกรรมเป็นสำคัญ
ก.พิธีขึ้นบ้านใหม่
ข.พิธีแรกนาขวัญ
ค.พิธีแซนโฎณตา
ง.พิธีบวงสรวง
3. ขนมชนิดใดหมายถึงความรุ่งเรือง ความก้าวหน้า และโชคลาภ
ก.ขนมดอกบัว
ข.ขนมทองหยอด
ค.ขนมฝอยทอง
ง.ขนมกล้วยบวชชี
4. ขนมดอกบัวมีชื่อเรียกในทางภาคใต้ว่าอะไร และจะจำขึ้นในงานบุญเดือนใด
ก.ขนมฝักบัว งานบุญเดือน 3
ข.ขนมจูจุ่น งานบุญเดือน 10
ค.ขนมโช้ก งานบุญเดือน 10
ง.ขนมลา งานบุญเดือน 3
5. ขนมดอกบัวมีลักษณะอย่างไร
ก.เป็นแผ่นกลม ๆ
ข.ม้วนกลมเป็นวง มีลักษณะกรอบ
ค.เส้นยาว ๆ วางทบกันเป็นแพ
ง.รูปร่างกลม ตรงกลางนูน ตรงขอบจะเกรียมกว่าด้านใด
10
6. แป้งในข้อใดเป็นแป้งที่นำมาผสมกันจนเป็นขนมดอกบัวทั้งหมด
ก.แป้งทาโกะยากิ แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า
ข.แป้งข้าวโพด แป้งท้าวยายม่อม แป้งแคร์
ค.แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวสาลี
ง.แป้งข้าวเหนียว แป้งทอดกรอบ แป้งเค้ก
7. การหมักแป้งในการทำขนมดอกบัวควรหมักกี่ชั่วโมง
ก.1-2 ชั่วโมง
ข.24 ชั่วโมง
ค.5 ชั่วโมง
ง.ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
8. ขนมดอกบัวนิยมทำสีอะไรบ้าง
ก.เขียว ม่วง น้ำตาล
ข.ชมพู ม่วง ฟ้า
ค.เทา ขาว ชมพู
ง.ฟ้า น้ำตาล ขาว
9. ทำไมจึงเรียกว่าขนมดอกบัว
ก.เป็นขนมมาจากการทำเพื่อนำไปทำบุญที่วัดหรืองานมงคล
ข.เป็นขนมมงคลเครื่องหมายของการอวยพรให้มีชีวิตคู่ที่ยาวนาน
ค.สื่อความหมายถึงการวางรากฐานชีวิตคู่ที่แข็งแรง มั่นคง
ง.สื่อถึงความสำเร็จในการเจรจาธุรกิจต่าง ๆ
10. การทำขนมดอกบัวนิยมใช้กระทะแบบใด
ก.กระทะไฟฟ้า
ข. กระทะย่างเนย
ค.กระทะก้นลึก
ง.กระทะปิ้ งย่าง
11
เฉลยแบบทดสอบโครงการฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้น
การทำขนมดอกบัว "ขนมโช้ก"
คำชี้แจง เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว
1. “ขนมโช้ก” เป็นคำพื้นถิ่นของจังหวัดใด
ก.จังหวัดกำแพงเพชร
ข.จังหวัดสุรินทร์
ค.จังหวัดเลย
ง.จังหวัดนครราชสีมา
2. ในการทำขนมโช้กส่วนใหญ่จะจัดทำในพิธีกรรมเป็นสำคัญ
ก.พิธีขึ้นบ้านใหม่
ข.พิธีแรกนาขวัญ
ค.พิธีแซนโฎณตา
ง.พิธีบวงสรวง
3. ขนมชนิดใดหมายถึงความรุ่งเรือง ความก้าวหน้า และโชคลาภ
ก.ขนมดอกบัว
ข.ขนมทองหยอด
ค.ขนมฝอยทอง
ง.ขนมกล้วยบวชชี
4. ขนมดอกบัวมีชื่อเรียกในทางภาคใต้ว่าอะไร และจะจำขึ้นในงานบุญเดือนใด
ก.ขนมฝักบัว งานบุญเดือน 3
ข.ขนมจูจุ่น งานบุญเดือน 10
ค.ขนมโช้ก งานบุญเดือน 10
ง.ขนมลา งานบุญเดือน 3
5. ขนมดอกบัวมีลักษณะอย่างไร
ก.เป็นแผ่นกลม ๆ
ข.ม้วนกลมเป็นวง มีลักษณะกรอบ
ค.เส้นยาว ๆ วางทบกันเป็นแพ
ง.รูปร่างกลม ตรงกลางนูน ตรงขอบจะเกรียมกว่าด้านใด
12
6. แป้งในข้อใดเป็นแป้งที่นำมาผสมกันจนเป็นขนมดอกบัวทั้งหมด
ก.แป้งทาโกะยากิ แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า
ข.แป้งข้าวโพด แป้งท้าวยายม่อม แป้งแคร์
ค.แป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวสาลี
ง.แป้งข้าวเหนียว แป้งทอดกรอบ แป้งเค้ก
7. การหมักแป้งในการทำขนมดอกบัวควรหมักกี่ชั่วโมง
ก.1-2 ชั่วโมง
ข.24 ชั่วโมง
ค.5 ชั่วโมง
ง.ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
8. ขนมดอกบัวนิยมทำสีอะไรบ้าง
ก.เขียว ม่วง น้ำตาล
ข.ชมพู ม่วง ฟ้า
ค.เทา ขาว ชมพู
ง.ฟ้า น้ำตาล ขาว
9. ทำไมจึงเรียกว่าขนมดอกบัว
ก.เป็นขนมมาจากการทำเพื่อนำไปทำบุญที่วัดหรืองานมงคล
ข.เป็นขนมมงคลเครื่องหมายของการอวยพรให้มีชีวิตคู่ที่ยาวนาน
ค.สื่อความหมายถึงการวางรากฐานชีวิตคู่ที่แข็งแรง มั่นคง
ง.สื่อถึงความสำเร็จในการเจรจาธุรกิจต่าง ๆ
10. การทำขนมดอกบัวนิยมใช้กระทะแบบใด
ก.กระทะไฟฟ้า
ข. กระทะย่างเนย
ค.กระทะก้นลึก
ง.กระทะปิ้ งย่าง
13
บรรณานุกรม
ขนมดอกบัว. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 17 มีนาคม 2565. เข้าถึงได้จาก :
https://www.museumthailand.com
วิธีทำขนมฝักบัว. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 17 มีนาคม 2565. เข้าถึงได้จาก :
https://www.wongnai.com/recipes/deep-fried-rice-flour
สูตรขนมฝักบัวใบเตย. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 17 มีนาคม 2565.
เข้าถึงได้จาก : https://food.mthai.com/dessert/131566.html
14
วิทยากร
นางสาววรรณวิสา แซ่เหลี่ยม
นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาสังคมศึกษา
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์
Facebook : Wanwisa Saeliem
ID Line : 0622713133
Email : [email protected]
เบอร์โทร : 0944060068