ปัญญาประดิษฐ์กับ
การประยุกต์ใช้งาน
Artificial Intelligence and the Application
by Thikomporn Poonaeed
คำ
นำ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่ง
ของรายวิชา0106362 การพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ มีเนื้อหา
เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์กับการประยุกต์ใช้งาน ซึ่งมีราย
ละเอียดประกอบด้วย ปัญญาประดิษฐ์คืออะไร นิยามของ
ปัญญาประดิษฐ์ ความเป็นมา ความสามารถและการประยุกต์
ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในแต่ละด้าน โดยรวบรวมข้อมูลมาเพื่อให้
ผู้ที่สนใจศึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติม
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง
ปัญญาประดิษฐ์กับการประยุกต์ใช้งานเล่มนี้จะเป็นประโยชน์
ต่อคนที่สนใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้
ผู้จัดทำ
นางสาว ทิฆัมพร พูนเอียด
สารบัญ
1 ปัญญาประดิษฐ์คืออะไร
2 นิยามของปัญญาประดิษฐ์
3 ความเป็นมาของปัญญาประดิษฐ์
4 ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ทำงาน
อย่างไร
5 การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
6 อ้างอิง
ปัญญาประดิษฐ์คืออะไร
ปัญญาประดิษฐ์คืออะไร
ปัญญาประดิษฐ์ (AI : Artificial Intelligence) เป็นระบบประมวล
ผลที่มีต้นแบบมาจากโครงข่ายประสาทของมนุษย์ สามารถเรียนรู้และเพิ่ม
ประสิทธิภาพการประมวลผลได้ตามจำนวนข้อมูลที่เพิ่มขึ้นผ่าน
กระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่ง สามารถจดจำคิด วิเคราะห์เรียนรู้และ
เชื่อมโยงข้อมูลต่างๆที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว (Deep Learning)
เสมือนระบบสมอง ของมนุษย์ จึงอาจเรียกได้ว่า “สมองกลอัจฉริยะ” ดัง
นั้น AI จึงถือเป็นเทคโนโลยีที่ร้อนแรงที่สุดในปัจจุบันและเข้ามามีบทบาท
สำคัญต่อการใช้ชีวิตการทำงาน รวมถึงการนำมาใช้ในการเสริมศักยภาพ
ทางธุรกิจและอุตสาหกรรม ซึ่งจะสามารถส่งผลต่อการเจริญเติบโต ทาง
ด้านเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนของประเทศ สำหรับปัญญาประดิษฐ์หรือ
Artificial Intelligence นั้น เราสามารถแยกออกได้เป็น 2 คำ ได้แก่
“Artificial” มีความหมายว่า สิ่งที่ไม่มีชีวิต ถูกสร้างหรือสังเคราะห์ขึ้นโดย
มนุษย์ “Intelligence” มีความหมายว่า ความฉลาด ความคิดคำนวณที่จะ
นำไปสู่ผลสำเร็จ
นิยามของปัญญาประดิษฐ์
นิยามของปัญญาประดิษฐ์
ปัจจุบันงานวิจัยหลักๆ ของ AI จะมี
แนวคิดในรูปที่เน้นเหตุผลเป็นหลัก
เนื่องจากการนำ AI ไปประยุกต์ใช้แก้
ปัญหา ไม่จำเป็นต้องอาศัยอารมณ์
หรือความรู้สึกของมนุษย์ อย่างไร
ก็ตามนิยามทั้ง 4 ไม่ได้ต่างกันโดย
สมบูรณ์ นิยามทั้ง 4 ต่างก็มี ส่วนร่วม
ที่คาบเกี่ยวกันอยู่ ประกอบไปด้วย
1. ระบบที่คิดเหมือนมนุษย์ (Systems
that think like humans)
2. ระบบที่กระทำเหมือนมนุษย์
(Systems that act like humans)
3. ระบบที่คิดอย่างมีเหตุผล
(Systems that think rationally)
4. ระบบที่กระทำอย่างมีเหตุผล
(Systems that act rationally)
ความเป็นมาของปัญญาประดิษฐ์
ความเป็นมาของปัญญาประดิษฐ์
ยุค 1950-1970
โครงข่ายประสาทเทียม (Neural
Networks)
การพัฒนาเริ่มแรกเกี่ยวกับโครงข่าย
ประสาทเทียมสร้างความประหลาดใจเกี่ยว
กับ "เครื่องจักรที่มีความคิด"
ยุค 1980-2010
การเรียนรู้ของเครื่อง (machine
learning)
การเรียนรู้ของเครื่องกลายเป็นที่
นิยมแพร่หลาย
ปัจจุบัน
การเรียนรู้เชิงลึก (deep learning)
การค้นพบอันยิ่งใหญ่ของการเรียนรู้เชิงลึก
ช่วยผลักดันให้ AI รุดหน้าอย่างก้าวกระโดด
ความเป็นมาของปัญญาประดิษฐ์
ในปีค.ศ. ๑๙๕๐ นักคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ Alan
Touring ได้คิดค้น “การทดสอบของทัวริง” (Touring Test) ขึ้น โดยการ
ทดสอบนี้เป็นการทดสอบความสามารถของการใช้เทคโนโลยี AI ว่าสามารถใช้
ความคิดได้ในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับมนุษย์หรือไม่ ซึ่งในการทดสอบจะกําหนด
ให้ AI ทําสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วให้มนุษย์เป็นผู้ตัดสินพิจารณาว่าการกระทํานั้นเกิด
จาก AI หรือมนุษย์หากผู้ตัดสินที่เป็นมนุษย์แยกแยะไม่ได้ AI นั้นก็จะผ่านการ
ทดสอบ ทั้งนี้การทดสอบดังกล่าวได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายและถูกนํา
มาใช้เป็นการทดสอบหลักในการวัดขีดความสามารถของ AI ในเวลาต่อมา ใน
ปีค.ศ. ๑๙๕๖ คําว่า Artificial Intelligence (AI) ได้ถือกําเนิดขึ้น โดยนัก
วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ John McCarthy ได้ให้คําจํากัดความของคําดัง
กล่าวไว้ในการประชุม “Dartmouth Conferences”
ในปีค.ศ. ๑๙๖๕ ทีมนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยศาสตราจารย์
Edward Feigenbaum ได้สร้าง “ระบบผู้เชี่ยวชาญ” ระบบแรก ชื่อว่า
DENDRAL ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการวิเคราะห์ผลทางด้านเคมีระบบ
DENDRAL นี้เป็นการนําความรู้ของผู้เชี่ยวชาญไปเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์เพื่อ
ให้คอมพิวเตอร์สามารถจดจําและมีความรู้เสมือนกับเป็นผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง
ในระหว่างปีค.ศ. ๑๙๗๔ – ๑๙๘๐ และระหว่างปีค.ศ. ๑๙๘๗ – ๑๙๙๓ หรือยุค
“AI Winter” เป็นยุคที่นักวิจัยประสบกับความยากลําบากในการแก้ปัญหา
และพัฒนาเทคโนโลยี AI ให้ดีขึ้นกว่าเดิมทําให้นักลงทุนเริ่มไม่เชื่อมั่นใน
เทคโนโลยี AI และทุนวิจัยในสาขาดังกล่าวลดน้อยลงจนทําให้การค้นคว้าหยุด
ชะงัก
หลังปีค.ศ. ๑๙๙๐ ถือเป็นยุคใหม่ของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI โดย
การเชื่อมต่อเทคโนโลยี AI เข้ากับอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้เป็นการขยายฐาน
ความรู้ที่ป้อนเข้าสู่ AI เนื่องจาก AI สามารถเข้าถึง เรียนรู้และพัฒนาตนเอง
จากข้อมูลจํานวนมากที่มีอยู่ในอินเทอร์เน็ตได้จึงทําให้การเรียนรู้ของ AI
รวดเร็วขึ้นทั้งนี้ในปีค.ศ. ๑๙๙๗ ได้มีการแข่งขันหมากรุกระหว่างเครื่อง
คอมพิวเตอร์กับมนุษย์โดยเป็นการแข่งขันระหว่างแชมป์โลกหมากรุก
Garry Kasparov และเครื่องคอมพิวเตอร์ของ IBM ที่มีชื่อว่า Deep
Blue โดยการแข่งขันครั้งแรกในปีค.ศ. ๑๙๙๖ Kasparov เป็นผู้ชนะ แต่ใน
ปีถัดมา Deep Blue สามารถพัฒนาตนเอง จนกลับมาเอาชนะได้การ
แข่งขันครั้งนี้ทําให้เกิดการยอมรับปัญญาประดิษฐ์ในสาขาเกมและก่อให้เกิด
ความคิดในการใช้ปัญญาประดิษฐ์แก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น
หลังจากปีค.ศ. ๒๐๐๐ นักวิจัยและนักพัฒนา AI ได้สร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้
เทคโนโลยี AI ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น ASIMO หุ่นยนต์เลียนแบบ
มนุษย์ของบริษัท ฮอนด้า รถที่ขับเคลื่อนได้เอง เครื่องคอมพิวเตอร์ของ
IBM ที่มีชื่อว่า Watson ซึ่งสามารถสร้างระบบถาม – ตอบ คําถามที่อิงกับ
ลักษณะภาษาตามธรรมชาติของมนุษย์ (natural language) IBM
Watson เป็นที่รู้จักครั้งแรก เมื่อชนะการแข่งขันในรายการเกมโชว์ทาง
โทรทัศน์ของอเมริกาที่ชื่อว่า Jeopardy Apple Siri และ Amazon Alexa
ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ และ Google Alpha GO ปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถ
เอาชนะมนุษย์ในเกมส์หมากล้อมได้
ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์
ทำงานอย่างไร
ความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ทำงาน
อย่างไร
ปัญญาประดิษฐ์ทำงานโดยรวบรวมข้อมูลปริมาณมหาศาลด้วยความเร็ว ประมวล
ผลซ้ำๆผ่านขั้นตอนการประมวลผลที่ชาญฉลาด ด้วยซอฟต์แวร์ที่สามารถเรียนรู้
จากรูปแบบและลักษณะของข้อมูลได้อย่างอัตโนมัติบนพื้นฐานทางทฤษฎี วิธีการ
และเทคโนโลยี รวมถึงแขนงย่อยหลักๆ อันได้แก่
การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine
learning) ในการสร้างแบบจำลองการ
วิเคราะห์แบบอัตโนมัติ โดยใช้วิธีการจากโครง
ข่ายประสาทเทียม สถิติ การวิจัยดำเนินการ
(operations research) และหลักฟิสิกส์ใน
การค้นหาข้อมูลเชิงลึกที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลโดย
ไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมในการค้นหา
โครงข่ายประสาทเทียม คือหนึ่งในระบบการ
เรียนรู้ของเครื่อง โดยใช้การเชื่อมโยงระหว่าง
ยูนิต (เหมือนกับเซลล์ประสาท) ทำหน้าที่
ประมวลผลข้อมูล โดยการตอบสนองต่อ
ข้อมูลภายนอก ถ่ายทอดข้อมูลซึ่งกันและกัน
ระหว่างแต่ละยูนิต การประมวลผลจำเป็นต้อง
ใช้ทางผ่านข้อมูลหลายทาง เพื่อค้นหาความ
เชื่อมโยงและถ่ายทอดความหมายจากข้อมูลที่
ไม่ชัดเจนเหล่านั้น
การเรียนรู้เชิงลึก (Deep learning) ใช้
โครงข่ายประสาทเทียมขนาดใหญ่ที่มีหน่วย
ประมวลผลหลายชั้นโดยอาศัยประโยชน์จาก
ความก้าวหน้าในศักยภาพของคอมพิวเตอร์
และเทคนิคในการเรียนรู้รูปแบบของข้อมูล
ปริมาณมหาศาลที่มีความซับซ้อนที่ได้รับการ
พัฒนาให้ดียิ่งขึ้นแล้ว แอปพลิเคชันแบบทั่วไป
นั้นหมายถึงการจดจำภาพและคำพูด
ระบบการประมวลผลข้อมูลที่มีการเรียนรู้
(Cognitive computing) เป็นแขนงย่อย
หนึ่งของปัญญาประดิษฐ์ที่พยายามแสดง
ปฏิสัมพันธ์ให้เสมือนมนุษย์ผ่านเครื่องจักร
กล การใช้ปัญญาประดิษฐ์และการประมวล
ผลหน่วยความจำ มีเป้าหมายสูงสุดคือ การ
ใช้เครื่องจักรกลในการเลียนแบบ
กระบวนการของมนุษย์ผ่านความสามารถใน
การตีความภาพและคำพูด และตอบสนอง
โดยทันที
การประมวลผลภาพ (computer
vision) ใช้การจดจำรูปแบบและการเรียนรู้
เชิงลึกในการจดจำสิ่งที่อยู่ในภาพหรือวิดีโอ
เมื่อเครื่องจักรกลสามารถประมวลผล
วิเคราะห์และเข้าใจรูปภาพ มันจะสามารถจับ
ภาพหรือวิดีโอได้แบบเรียลไทม์และตีความ
สภาพแวดล้อมได้
การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (natural
language processing หรือ NLP) คือ
ความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการ
วิเคราะห์ ทำความเข้าใจและสร้างภาษามนุษย์
ซึ่งรวมถึงคำพูดด้วย ขั้นถัดไปของ NLP คือ
การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้
มนุษย์สามารถสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ได้โดย
ใช้ภาษาเพื่อดำเนินการงานต่างๆ
หน่วยประมวลผลกราฟิก เป็นกุญแจสำคัญ
ของปัญญาประดิษฐ์เนื่องจากหน่วยประมวล
ผลจะช่วยเพิ่มพลังในการคำนวณอันจำเป็น
ต่อกระบวนการประมวลผลซ้ำไปมา การฝึก
อบรมโครงข่ายประสาทจำเป็นต้องใช้ข้อมูลบิ๊
กดาต้าและพลังงานในการคิดคำนวณ
Internet of Things ก่อให้เกิด
ปริมาณข้อมูลมหาศาลจากอุปกรณ์ที่
เชื่อมโยงอยู่ ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่มักไม่
ผ่านการวิเคราะห์ แบบจำลองอัตโนมัติ
ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์จะช่วยให้เราใช้
ประโยชน์จากแบบจำลองได้อย่างเต็มที่
อัลกอริธึมขั้นสูง กำลังได้รับการ
พัฒนาและผนวกรวมเป็นวิธีใหม่เพื่อ
ทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวดเร็วกว่าและ
ได้หลายระดับข้อมูล กระบวนการอัน
ชาญฉลาดนี้คือ กุญแจสำคัญในการ
ระบุและพยากรณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
ยาก ทำความเข้าใจระบบที่ซับซ้อนและ
ปรับเพื่อให้ได้มาซึ่งสถานการณ์ที่เหมาะ
สมที่สุด
APIs หรือแอปพลิเคชันประมวลผล
อินเตอร์เฟส เป็นแพคเกจของโค้ดคำ
สั่งที่สามารถพกพาได้ช่วยให้กาเพิ่ม
เติมฟังก์ชันการทำงานของ AI ไปยัง
ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วและแพคเกจ
ซอฟต์แวร์สามารถเป็นไปได้ โดยมัน
สามารถเพิ่มความสามารถในการจดจำ
ภาพ เพื่อจัดทำระบบความปลอดภัย
และการตอบคำถาม Q&A ซึ่งสามารถ
อธิบายข้อมูล สร้างแคปชั่นและหัวเรื่อง
หรือค้นหารูปแบบข้อมูลและเนื้อหาที่น่า
สนใจได้
การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ปัญญาประดิษฐ์ถูกนำมาประยุกต์เพื่อใช้งานในด้านๆไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์ ด้าน
อุตสาหกรรม ด้านการทหารเป็นต้น ซึ่งจุดเด่นของ AI ไม่ใช่มีแค่การสร้างปัญญาประดิษฐ์
และการควบคุมหุ่นยนต์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง การประมวลผลภาษาธรรมชาติ เพื่อที่จะ
วิเคราะห์ภาษาพูดและเขียนของมนุษย์ ปัญญาประดิษฐ์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง มี
ความแม่นยำสูงและสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและยังช่วยให้มนุษย์เกิดความสะดวก
สบายมากขึ้น
1.ด้านการแพทย์
การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการประมวลผลภาพ
เพื่อตรวจจับโรคต่างๆ ตอนนี้ได้มีการนำมาใช้กัน
อย่างแพร่หลายมากขึ้น ในปัจจุบันมีการนำ AI ไป
ใช้ในการวินิจฉัยโรคต่างๆ โดยใช้คอมพิวเตอร์
(Computer Aided Detection : CAD) เพื่อช่วย
เพิ่มประสิทธิภาพ และช่วยลดความผิดพลาดของ
รังสีแพทย์ในการวินิจฉัยโรคมะเร็ง แล้วในปัจจุบัน
AI ได้นำมาช่วยตรวจจับ COVID -19 จากภาพ X-
2.ด้านอุตสาหกรรม ray
การนำเทคโนโลยี AI มาช่วยวิเคราะห์กระบวนการ
ผลิต และคำนวณการสั่งซื้อวัตถุดิบหรือชิ้นส่วน
ต่าง ๆ แล้วมีการนำ AI เข้ามาช่วยควบคุมและเรียน
รู้ในระบบ machine learning ของเครื่องจักร
หรือเรียกอีกอย่างว่า หุ่นยนต์อุตสาหกรรม เพื่อให้
เกิดการทำงานร่วมกันกับมนุษย์ และเพื่อช่วยลด
โอกาสในการเกิดอุบัติเหตุภายในโรงงานและ AI
สามารถช่วยวิเคราะห์และประเมินโอกาสที่จะเกิด
ปัญหาหรือความเสียหายของเครื่องจักรหรือการ
คาดการณ์การซ่อมบำรุงล่วงหน้าจากข้อมูลของ
เครื่องจักร
4.ด้านความบันเทิง 3.ด้านเกษตร
ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์กราฟิกมี หุ่นยนต์ AI เพื่อการเกษตร เป็นการนำเอา
บทบาทสำคัญมากในอุตสาหกรรมบันเทิงไม่ว่า เทคโนโลยี AI รวมกันกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์เพื่อ
จะเป็นด้านการสร้างสื่อรูปแบบต่าง ๆ เช่นเกม นำมาใช้งานในอุตสาหกรรม ในปัจจุบันได้มีการ
คอมพิวเตอร์ การ์ตูนแบะแอนิเมชัน สื่อโฆษณา พัฒนาในการนำไปใช้งานในด้านเกษตรเช่น การ
ภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์รวมไปถึงวิดีโอ สำรวจข้อมูลสภาพแวดล้อมทางการเกษตรโดย
สตรีมมิ่งการสร้างตัวละครและฉากสำหรับแอนิ ใช้โดรน (อากาศยานไร้คนขับ) การใช้เพื่อการ
ชันเป็นการสร้างตัวละครและฉากที่เป็นดิจิทัล กำจัดวัชพืชที่แม่นยำขึ้น การใช้เพื่อการเก็บ
ทั้งหมด โดยการสร้างแบบจำลองหรือโมเดล เกี่ยวผลผลิต และการใช้ AI มาช่วยในการเพาะ
(สองมิติหรือสามมิติ) ด้วยโปรแกรม ปลูกต้นกล้า และการนำ AI มาใช้นั้นส่งผลได้
คอมพิวเตอร์ การนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อที่จะ ผลผลิตมากขึ้นอีกด้วย
พัฒนาแอนิเมชันให้ตัวละครมีความสมจริงเป็น
ธรรมชาติมากขึ้น
5.ด้านการศึกษา
เทคโนโลยี AI มาช่วยในการจัดการเรียนรู้ ช่วย
ลดเวลาการทำงานซ้ำ ๆ สำหรับครู เช่นการ
ตรวจการบ้าน การให้คะแนน แล้ว AI ยังช่วยใน
เรื่องของงานลงทะเบียนและวัดผล ในการลง
ทะเบียนนักเรียน จัดตารางเรียน และคำนวณ
เกรดเฉลี่ย ทำให้เกิดความรวดเร็วและลดข้อผิด
พลาดได้ การเติบโตของ AI ได้มีการพัฒนาทำให้
เกิดแอบพลิเคชันในการส่งเสริมการศึกษา
มากมาย ทำให้ผู้เรียนสามารถเข้าเรียนจากที่ไหน
ก็ได้ ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ในห้องเรียนเสมอไป
อ้างอิง
ขวัญชนก พุทธจันทร์.ปัญญาประดิษฐ์AI : Artificial Intelligence.2563 ค้น
เมื่อ 03มกราคม2565,จากhttps://www.lib.ku.ac.th/
2019/index.php/covid-19/1045-artificialintelligence
นิยามของปัญญาประดิษฐ์(ม.ป.ป.).ค้นเมื่อ 03มกราคม2565,จาก
https://view.officeapps.live.com/op/view.aspx?
src=https%3A%2F%2 www.ict.up.ac.th%2Fsakkayaphop\
%2FChap_1.docx&wdOrigin=BROWSELINK
ศรัณย์ศิริ คัมภิรานนท์. AI เทคโนโลยีอนาคตของประเทศไทย.2562 ค้นเมื่อ
03มกราคม2565 ,จากhttps://www.senate.go.th/
document/Ext21130/21130674_0002.PDF
Artificial Intelligence and the Application
ราคา 199 บาท