CLOUD
COMPUTING
คืออะไร ?
คำนำ
หนังสือเรื่อง CLOUD COMPUTING ฉบับนี้
เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการประมวลผลแบบคลาวด์ รหัส
วิชา 20203-2013 ชั้น ปวช.3 มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาเรียน
รู้เกี่ยวกับการประมวลผลแบบคลาวด์ ซึ่งหนังสือเล่มนี้มี
เนื้อหาเกี่ยวกับความหมายของ CLOUDCOMPUTING
ประเภทของ CLOUD COMPUTING การให้บริการของ
CLOUD COMPUTING ประโยชน์ของ CLOUD
COMPUTING
ข้าพเจ้าขอขอบพระคุณ อาจารย์กนกวรรณ แผงดี
ที่ท่นได้ให้คำแนะนำการจัดทำหนังสือจนทำให้หนังสือ
ฉบับนีสมบูรณ์สำเร็จตามวัตถุประสงค์ไปด้วยดี
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเนื้อหาในหนังสือฉบับ
นี้ที่ได้เรียบเรียงมาจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจหากมีสิ่ง
ใดในหนังสือฉบับนี้จะต้องปรับปรุงข้าพเจ้าขอน้อมรับ
ในข้อชี้แนะและจะนำไปแก้ไขให้ถูกต้อง
ผู้จัดทำ
ระวิวรรณ กุมภาพันธ์
สารบัญ
เรื่อง หน้า
ความหมายของ CLOUD COMPUTING 1
ประเภทของ CLOUD COMPUTING 2
รูปแบบให้การบริการของ CLOUD COMPUTING 5
ประโยชน์ของ CLOUD COMPUTING 8
CLOUD COMPUTING
คืออะไร ?
CLOUD COMPUTING คืออะไร?
หากพูดถึงว่า คลาวด์คอมพิวติ้ง (CLOUD COMPUTING) คืออะไร? หลายคน
อาจจะนึกถึงแค่บริการพื้นที่ฝากไฟล์บนอินเทอร์เน็ต อย่าง ICLOUD บน IPHONE,
IPAD หรือ GOOGLE DRIVE บน ANDROID หรือ ONEDRIVE บนมือถือ
WINDOWS PHONE ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือบริการ CLOUD STORAGE อันเป็นบริการ
CLOUD ประเภทหนึ่งเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้ว บริการ CLOUD COMPUTING มี
ความหมายกว้างขวางกว่านั้นมาก
CLOUD COMPUTING คือ บริการที่ครอบคลุมถึงการให้ใช้ก าลังประมวลผล
หน่วยจัดเก็บข้อมูล และระบบออนไลน์ต่างๆจากผู้ให้บริการ เพื่อลดความยุ่งยากใน
การติดตั้ง ดูแลระบบ ช่วยประหยัดเวลา และลดต้นทุนในการสร้างระบบ
คอมพิวเตอร์และเครือข่ายเอง ซึ่งก็มีทั้งแบบบริการฟรีและแบบเก็บเงิน
ประเภทของ
CLOUD COMPUTING !
1. PUBLIC CLOUD
PUBLIC CLOUD เหมือนกับการใช้ทรัพยากรรวมกัน เช่น บริษัท A
ลงทุนสร้างทรัพยกรณ์ต่างๆ ขึ้นมา เช่น เซิร์ฟเวอร์ และ STORAGE
ขึ้นมา โดยทั้ง SOFTWARE และ HARDWARE ต่างๆ จะอยู่ที่
บริษัท A โดยบริษัท A จะเป็นผู้ดูแลทั้งหมด จากนั้นบริษัท A ก็นำ
มาปล่อยให้บริษัทอื่นๆ เข้ามาเช่าใช้งานได้ ข้อดีคือเราไม่ต้องลงทุน
อะไรเลย แค่เช่าตามขนาด หรือบริการที่เหมาะกับเรา ซึ่งจะขยาย
SCALE เพิ่มขึ้น หรือลดลงก็ได้ตามต้องการ ค่อนข้างคล่องตัวในการ
ใช้งาน
2. PRIVATE CLOUD
อันนี้จะมีความเป็นส่วนตัวสูงขึ้น เพราะไม่ต้องไปแชร์ทรัพยากรณ์กับใคร
ทั้งนั้น เราใช้ทรัพยากรณ์นั้นสำหรับบริษัทเราเองเท่านั้น โดยแน่นอนว่า
มีความปลอดภัยมากกว่า และสามารถ CUSTOMIZED ได้ตามต้องการ
แต่ว่าบริษัทจะต้องสร้างทรัพยากรขึ้นมาเอง หรือบางบริษัทอาจจะไปว่า
จ้างผู้ให้บริการ THIRD-PARTY ข้างนอกให้ช่วยดูแลให้ก็ได้ แต่
อย่างไรก็ตาม ระบบนี้จะเป็นระบบปิดที่สามารถเข้าใช้งานได้เฉพาะ
บริษัทเดียวเท่านั้น ซึ่งระบบแบบ PRIVAT CLOUD จะไม่ค่อยคล่อง
ตัวในการ SCALE หรือขยายขนาดการใช้งานสักเท่าไหร่
3. HYBRID CLOUD
คือลูกผสมระหว่าง PUBLIC CLOUD แ
ละ PRIVATE CLOUD โดยจะมี
เทคโนโลยีที่สามารถผสมทั้ง 2 ส่วนนี้เข้าด้วยกัน เพื่อให้ข้อมูลสามารถเชื่อมต่อ
กันได้ ย้ายไปมาระหว่างกันได้ ทำให้บริษัทของเราสามารถเก็บข้อมูลบางส่วนที่
ต้องการความปลอดภัยในระดับสูงไว้ที่ PRIVATE CLOUD ในขณะที่อีกบาง
ส่วนอาจใช้งานบน PUBLIC CLOUD เพื่อความคล่องตัวในการใช้งานหาก
ต้องการ SCALE การใช้งานที่เพิ่มขึ้น
การเลือกใช้งาน CLOUD ควรเลือกประเภทที่เหมาะสมกับการใช้งานของเรา
เช่น หากเป็น START UP หรือเป็นธุรกิจที่ไม่ได้มีข้อมูลที่สำคัญมาก
ต้องการความคล่องตัวในการขยาย ต้องการลดงบในการลงทุน ความ
ปลอดภัยระบบมาตรฐาน แบบนี้ PUBLIC CLOUD อาจจะเหมาะกับการใช้
งานมากกว่า ในขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่ที่มี DATA สำคัญจำนวนมาก
บริษัทระดับโลก หรือหน่วยงานของรัฐบาล
รCูปLแOบUบDกาCรใOหM้บPริกUาTรIขNองG
SOFTWARE AS A SERVICE (SAAS)
CLOUD COMPUTING ในรูปแบบ SAAS คือ การูปแบบของการเช่า
ใช้ SOFTWARE หรือ APPLICATION ตามพื้นที่ที่ใช้จริง ยกตัวอย่าง
ง่ายๆ คือ พวก GMAIL, GOOGLE DRIVE หรือ TRELLO เป็นต้น
เหล่านี้คือบริการ CLOUD ในรูปแบบ SAAS คือคุณจ่ายเงินตาม
จำนวนพื้นที่ที่ใช้ หรือบางทีก็ไม่ต้องจ่าย หากใช้พื้นน้อย
ซึ่งสามารถเข้าใช้ระบบเหล่านี้โดยผู้ใช้ไม่ต้องติดตั้งอะไรบนเครื่อง
คอมพิวเตอร์เลยแม้แต่น้อย เพียงแค่เข้าเว็บ หรือแอปพลิเคชั่น จากนั้นก็
LOGIN และใช้งานได้เลย
INFRASTRUCTURE AS A SERVICE (IAAS)
IAAS คือระบบที่โฟกัสการใช้งานด้าน INFRASTRUCTURE โครงสร้าง
พื้นฐานของคอมพิวเตอร์เป็นหลัก รวมถึง SERVER ซึ่งก็จะรวบรวมอยู่ที่
DATA CENTER โดยการใช้งานก็จะรวมไปถึงด้าน ARCHITECTURE,
MIGRATION หรือการย้ายข้อมูล
IAAS จะค่อนข้างมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน ผู้ใช้งานจะมีความสามารถ
ในการ CONTROL สูง สามารถขยายได้ตามต้องการ ตัวอย่างบริการ
IAAS เช่น AWS EC2, MICROSOFT AZURE และ GOOGLE
CONPUTE ENGINE เป็นต้น
PLATFORM AS A SERVICE (PAAS)
PLATFORM AS A SERVICE (PAAS) คือรูปแบบของคลาวด์คอม
พิวติ้งที่ซับซ้อนขึ้นมาเล็กน้อย เพราะจะเหมาะสำหรับนักพัฒนา หรือ
DEVELOPER ไว้ใช้สำหรับพัฒนาโปรแกรม หรือแอปพิลเคชั่น ซึ่งผู้ให้
บริการ PAAS ก็จะมีระบบรองรับ SOFTWARE, HARDWARE และ
ระบบคำสั่งอื่นๆ ที่จำเป็น ทำให้การพัฒนานั้นเป็นไปได้ง่าย และมี
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ผู้ใช้งานสามารถมี CONTROL ในการแก้ไข พัฒนา ระบบได้มากขึ้น ยก
ตัวอย่างบริการ PAAS เช่น GOOGLE APP ENGINE และ
HEROKU เป็นต้น
ประโยชน์ของ CLOUD COMPUTING
ข้อดี CLOUD COMPUTING
1. ลดต้นทุนค่าดูแลเรื่องทรัพยากรคอมพิวเตอร์และการบำรุงรักษา
2. ลดความเสี่ยงจากการเริ่มต้นหรือทดลองโครงการ
3. สามารถสร้างระบบใหม่ขึ้นมาใช้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว
4. มีความยืดหยุ่นในการเพิ่มลดระบบตามความต้องการ
5. ได้เครื่องแม่ข่ายที่มีประสิทธิภาพ มีระบบสำรองข้อมูลที่ดี มีเครือข่าย
ความเร็วสูง
6. มีผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ดูแลระบบ
ข้อเสีย CLOUD COMPUTING
1. เนื่องจากเป็นการใช้ทรัพยากรที่มาจากหลายที่หลายแห่งทำให้อาจมี
ปัญหา
2..ยังไม่มีการรับประกันในการทำงานอย่างต่อเนื่องของระบบและความ
ปลอดภัยของข้อมูล
3..ความไม่มีมาตรฐานของ PLATFORM ทำให้ลูกค้ามีข้อจำกัด
สำหรับตัวเลือกในการพัฒนาหรือติดตั้งระบบ
4..บุคลากรภายในหน่วยงานของรัฐ ยังมีความรู้เกี่ยวกับ CLOUD
COMPUTING ไม่เพียงพอ