แหล่งและบริการ
สารสนเทศเฉพาะ
สาขาวิชา
ผู้จัดทำ
นางสาวทิพย์นที เพิ่มโภคา
แหล่งและบริการสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา
จัดทำโดย
นางสาวทิพย์นที เพิ่มโภคา
เสนอ
ผศ.ดร.บุษกร จันท์เทวนุมาส
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้เป็ นส่วนหนึ่ งของรายวิชา
มัลติมีเดียสำหรับงานสารสนเทศ (218122)
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565
สาขาวิชา สารสนเทศศาสตร์เเละบรรณารักษศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา
คำนำ
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E - Book) เล่มนี้จัดทำขึ้น
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกปฏิบัติวิชามัลติมีเดีย
สำหรับงานสารสนเทศ รหัสวิชา 218122 เพื่อให้ผู้อ่านมี
ความเข้าใจเกี่ยวกับแหล่งและบริการสารสนเทศเฉพาะ
สาขาวิชาเพิ่มมากขึ้น
ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านจะได้รับ
ประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้ที่ได้จัดทำขึ้นมาไม่มากก็
น้อย หากมีข้อเเนะนำหรือข้อผิดพลาดประการใด
ผู้จัดทำขอน้อมรับไว้เเละขออภัยมา ณ ที่นี้
ผู้จัดทำ
นางสาวทิพย์นที เพิ่มโภคา
25 มีนาคม 2565
สารบัญ
เร่ื่ อง หน้ า
คำนำ ก
สารบัญ ข
ความหมายและขอบเขตของสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา 1
ความหมายของสาขาวิชามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ 1
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ขอบเขตของสาขาวิชามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ 3
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ความสำคัญของสาขาวิชามนุษยศาสตร สังคมศาสตร วิทยา 4
ศาสตรแ ละเทคโนโลย
แหล่งและบรกิารสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา 5
แหล่งบริการสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา 6
บริการสารสนเทศ
สรุป 23
บรรณานุกรม 24
1
ความหมายและขอบเขตของ
สารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา
ในแหล่งสารสนเทศแต่ละแห่งจะมีการจัดเก็บและ
รวบรวมทรัพยากรสารสนเทศไว้หลากหลายสาขาวิชา
ดังนั้นเพื่อให้การเข้าถึงสารสนเทศได้อย่างถูกต้องและ
สอดคล้องกับความต้องการอย่างแท้จริง ควรมีการ
ศึกษาถึงบริบทความแตกต่างของแต่ละศาสตร์ทั้งทาง
มนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โดยจะกล่าวถึงในด้านความหมาย ขอบเขต ดังนี้
1. ความหมายของสาขาวิชามนุษยศาสตร์
สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สารสนเทศที่มีอยู่มากมายในปัจจุบันหากจะพิจารณาถึงบริบท
ของสารสนเทศตามกลุ่มสาขาวิชาเพื่อให้เข้าใจถึงลักษณะของศาสตร์
และองค์ความรู้ในแต่ละสาขาวิชาให้สามารถนาไปใช้ให้เกิดประโยชน์
ในด้านต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและเหมาะสมนั้นมีนักวิชาการได้อธิบาย
ถึงความหมายของสารสนเทศทางมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไว้ดังนี้ (นวนิตย์ อินทรามะ. 2555 : 5 ;
พงศ์ศักดิ์ สังขภิญโญ. ออนไลน์. ม.ป.ป.)
2
1.1 มนุษยศาสตร์ (Humanities) หมายถึง วิชาที่ศึกษาด้าน
ความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ ศึกษาถึงผลสำเร็จซึ่งแสดงถึงคุณค่า
แห่งความเป็นมนุษย์ ศึกษาความยิ่งใหญ่ และความสำคัญของ
มนุษย์ในอดีต
1.2 สังคมศาสตร์ (Social science) หมายถึง การศึกษา
พฤติกรรมทางจิตใจ วัฒนธรรมซึ่งเกี่ยวข้องกับมนุษย์แต่ละคน
หรือกลุ่มบุคคล เป็นการศึกษาเฉพาะส่วน ที่จะให้ความกระจ่าง
เกี่ยวกับการจัดระเบียบสังคม และจิตใจมากกว่าวัตถุ
1.3 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science & Technology) มีความ
หมายเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงควบคู่กันโดย วิทยาศาสตร์ หมายถึง ความรู้
เกี่ยวกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเราซึ่งได้มาโดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ส่วน
เทคโนโลยี หมายถึง วิทยาการที่เกี่ยวกับศิลปะในการนำเอาวิทยาศาสตร์
มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ซึ่งทั้งสองวิชานี้ต้องอาศัยพึ่งพาซึ่งกันและกัน
3
2. ขอบเขตของสาขาวิชามนุษยศาสตร์
สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จากความหมายของของสารสนเทศทางมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะเห็นได้ว่าแต่ละกลุ่มสาขาวิชามีการศึกษาเพื่อให้
เกิดข้อค้นพบและองค์ความรู้ใหม่ ๆ ที่แตกต่างกัน จึงได้มีการแบ่งขอบเขต
ความรู้ของทั้ง 3 กลุ่มสาขาวิชาออกเป็น ดังนี้ (ชุติมา สัจจานันท์. 2555 : 198
– 199 ; นวนิตย์ อิทรามะ. 2555 : 5 ; สมสรวง พฤติกุล. 2555 : 399)
2.1 ขอบเขตของมนุษยศาสตร์
ในการกำหนดขอบเขตของมนุษยศาสตร์ อาจพิจารณาการแบ่งได้ตามหลักสูตรที่
เปิดสอนในสถาบันการศึกษา หรือแบ่งตามความหมายซึ่งกำหนดขอบเขตได้
เป็นกลุ่มวิชาต่าง ๆ ได้แก่ ปรัชญา ศาสนา ศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์
ภาษาและวรรณกรรม
2.2 ขอบเขตของสังคมศาสตร์
สังคมศาสตร์เป็นวิชาที่มุ่งศึกษาพฤติกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ ทั้งด้านจิตใจและ
ด้านวัฒนธรรม ซึ่งอาจมีความคิด และความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้น
กิจกรรมที่มนุษย์ได้ดำเนินการในสังคมจึงแตกต่างกันด้วย สังคมศาสตร์อาจแบ่ง
ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้
2.2.1 สังคมศาสตร์แท้ ได้แก่ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ประวัติศาสตร์
นิติศาสตร์ มานุษยวิทยา ทัณฑวิทยา สังคมวิทยา และสังคมสงเคราะห์
2.2.2 กึ่งสังคมศาสตร์ ได้แก่ จริยศาสตร์ การศึกษา
2.2.3 วิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสังคม ได้แก่ จิตวิทยาสังคม
2.3 ขอบเขตของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การกำหนดขอบเขตของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีหลายองค์การที่ได้กำหนด
เกณฑ์การแบ่งขอบเขต ซึ่งหากพิจารณาตามกลุ่มสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีสาขาย่อย ดังนี้
2.3.1 กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ
คณิตศาสตร์/ สถิติวิทยาการคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ธุรกิจ
4
2.3.2 กลุ่มสาขาวิชาแพทยศาสตร์และวิชาที่เกี่ยวกับสุขภาพ
อนามัย ได้แก่ แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ เภสัชศาสตร์เทคนิค
การแพทย์สาธารณสุขศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ กายภาพบำบัด
วิทยาศาสตร์สุขภาพ
2.3.3 กลุ่มสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ได้แก่ วิศวกรรมศาสตร์
สถาปั ตยกรรมศาสตร์
2.3.4 กลุ่มสาขาวิชาเกษตรศาสตร์ วนศาสตร์ และการประมง
ได้แก่ สัตวแพทย์ศาสตร์ / สัตวบาล ประมง / วาริชศาสตร์
เกษตรศาสตร์วนศาสตร์/ เทคโนโลยีวนผลิตภัณฑ์ วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีการอาหาร เทคโนโลยีการเกษตร ธุรกิจการเกษตร /
ส่งเสริมการเกษตรและสหกรณ์
ความสำคัญของสาขาวิชามนุษยศาสตร์
สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หากพิจารณาถึงความสำคัญของสารสนเทศทางมนุษยศาสตร์
สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสามารถสรุปได้ดังนี้ (ชุติมา สัจจา
นันท์. 2555 : 199 ; นวนิตย์ อินทรามะ. 2555 :6 ; สมสรวง พฤติกุล.
2555 : 400)
1. ความสำคัญของมนุษยศาสตร์ ความรู้ทางมนุษยศาสตร์ถือ
เป็ นสารสนเทศที่จะช่วยให้มนุษย์ในปั จจุบันได้เรียนรู้ประสบการณ์ของ
มนุษย์ในอดีต มีอิทธิพลต่อสังคมในการจรรโลงใจ มีคุณค่าที่มองเห็นเป็น
รูปธรรมได้ชัดเจน ทำให้คนเป็นคนโดยสมบูรณ์ และอยู่ร่วมกันอย่างมี
ความสุข
2. ความสำคัญของสังคมศาสตร์ จากขอบเขตของสาขาวิชาทาง
สังคมศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่มุ่งศึกษาความสัมพันธ์ของ
มนุษย์ที่อยู่เป็นสังคมเป็นประเทศในแง่มุมต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจมนุษย์ด้วย
กันมากขึ้น ทำให้มนุษย์อยู่ในสังคมตั้งแต่ระดับครอบครัวจนถึงระดับชาติ
และระดับระหว่างประเทศได้อย่างมีความสุข ลดปัญหาความขัดแย้ง การ
เอารัดเอาเปรียบ ความไม่เป็นธรรมในสังคมลงได้ และมีความเป็นระเบียบ
วินัยในสังคมยิ่งขึ้น
5
3. ความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความเจริญ
ก้าวหน้ าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีบทบาทและความสำคัญ
ควบคู่กันไปในการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ ทั้งเศรษฐกิจ
และสังคม เป็นปัจจัยสำคัญในการแข่งขันและเกิดการเปลี่ยนแปลง
ประวัติศาสตร์ของโลก
จะเห็นได้ว่าสารสนเทศทางมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความสำคัญต่อมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันใน
สังคมที่จะเข้าใจซึ่งกันและกันในความแตกต่างระหว่างความเป็ นมนุษย์
ทำให้คนเป็นคนโดยสมบูรณ์ โดยอาศัยความเจริญก้าวหน้ าทาง
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการพัฒนาสังคม
แหล่งและบริการ
สารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา
ความสัมพันธ์ระหว่างศาสตร์และสาขาวิชาต่าง ๆ นั้น เป็น
สิ่งที่ช่วยให้แหล่งทรัพยากรสารสนเทศได้ตระหนักในการเชื่อมโยง
กันระหว่างตัวองค์การที่เป็นทรัพยากรสารสนเทศประเภทต่าง ๆกับ
บริการสารสนเทศของสาขาวิชาต่าง ๆ ซึ่งไม่มีแหล่งใดที่สามารถ
ผลิตเพื่อเผยแพร่หรือบริการได้ครบถ้วนสมบูรณ์ได้เฉพาะแหล่งใด
แหล่งหนึ่งเพียงแหล่งเดียว ดังนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการ
แก่ผู้ใช้ ผู้ปฏิบัติงานในแหล่งสารสนเทศจะต้องมีความรอบรู้ในการ
แสวงหาสารสนเทศในแหล่งต่าง ๆ และบริการสารสนเทศที่มีให้
บริการในแหล่งนั้น ๆ ด้วย ดังนี้
6
1. แหล่งบริการสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชา
การแบ่งสรรพวิทยาการออกเป็นสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้นเป็นการแบ่งอย่างกว้าง ๆ ตาม
ธรรมชาติของเนื้อหาวิชา แต่ในปัจจุบันศาสตร์ต่าง ๆ มีความ
เป็นสหวิทยาการเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในมิติต่าง ๆ ไม่สามารถ
แบ่งแยกกันโดยเด็ดขาดแต่จะพบว่าแหล่งสารสนเทศมีภารกิจ
หลักเน้ นไปตามกลุ่มสาขาวิชาโดยตรง ในการศึกษาค้นคว้า
เพื่อน าไปใช้ประโยชน์จึงจำเป็นจะต้องเชื่อมโยงแหล่งต่าง ๆ ใน
ศาสตร์อื่น ๆ ร่วมด้วย อีกทั้งความก้าวหน้ าขอฃเทคโนโลยี
สารสนเทศและการสื่อสารส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของข้อมูล
ข่าวสาร ซึ่งผู้ปฏิบัติงานด้านการให้บริการสารสนเทศจะต้อง
แสวงหาและติดตามความรู้ให้ทันสมัยอยู่เสมอเพื่อตอบสนอง
ความต้องการของผู้ใช้ได้ตามที่ต้องการและเป็ นการเพิ่มคุณค่า
ในการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น โดยแหล่งบริการสารสนเทศได้มี
จำแนกตามกลุ่มวิชาเพื่อความสะดวกในการเข้าถึงสารสนเทศ
เป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ แหล่งบริการ สารสนเทศทางด้าน
มนุษยศาสตร์ ด้านสังคมศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดังนี้ (ชุติมาสัจจานันท์. 2555 : 439 – 440 ; สุภศรี กาหยี.
2555 : 334)
7
1.1 แหล่งบริการสารสนเทศทางด้านมนุษยศาสตร์
โดยทั่วไปจะพบแหล่งที่เป็ นสถาบันบริการสารสนเทศที่รวบรวม
และเผยแพร่สารสนเทศทางด้านมนุษยศาสตร์ เช่น สถาบันการ
ศึกษา ที่มีการสอนทางสาขาวิชามนุษยศาสตร์ราชบัณฑิตยสถาน
กรมศิลปากรสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ สมาคม
ทางวิชาการ / วิชาชีพ หอสมุดแห่งชาติห้องสมุดสถาบันการศึกษา
ศูนย์ข้อมูล ศูนย์อ้างอิงด้านศิลปวัฒนธรรม ศูนย์สารนิเทศอีสานสิ
รินธร ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน สถาบันทักษิณคดีศึกษา
โดยมีตัวอย่างเว็บไซต์ของแหล่งบริการสารสนเทศทาง
มนุษยศาสตร์ดังนี้
1.1.1 ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร เริ่มดำเนิน
การตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 โดยจัดเป็นมุมบริการสารนิเทศอีสาน ต่อ
มาได้พัฒนางานเป็นศูนย์เอกสารอีสาน ในปีพ.ศ.2525 ได้รับ
เกียรติ จากคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชน
ประเภทสื่อชาวบ้านและเปลี่ยนชื่อเป็น ศูนย์สารนิเทศอีสาน ต่อ
มาวันที ่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2536 ได้รับพระราชกรุณาจาก
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพระราชทาน
นามให้ว่า ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร และวันที่ 12ธันวาคม พ.ศ.
2538 เสด็จฯ เปิดศูนย์สารนิเทศอีสาน ซึ่งภายในศูนย์ฯ ได้จัดให้
บริการศึกษาค้นคว้ามีทรัพยากรสารสนเทศหลากหลายประเภท
โดยแต่ละประเภทมีการก าหนดสัญลักษณ์ไว้ได้แก่ หนังสืออีสาน
(ส/S) งานวิจัยอีสาน วิทยานิพนธ์อีสาน ปริญญานิพนธ์อีสาน
(ส/S) บทความอีสาน (ARS) กฤตภาคอีสาน (CPS) จุลสารอีสาน
(PPS) ภาคนิพนธ์อีสาน (TPS) แผนที่อีสาน (MAPS) รูปภาพ
อีสาน (PICS) แถบบันทึกเสียงอีสาน (TCS) แถบบันทึกภาพ
อีสาน (VCS) ซีดีเพลง (CDAS)
8
สถานที่ติดต่อ : ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร สำนักวิทยบริการ
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตำบลขามเรียง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัด
มหาสารคาม 44150
URL : http://nadoon.msu.ac.th/web/Index2_3.htm
ภาพที่ 1 หน้ าหลักเว็บไซต์ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร
ที่มา : ศูนย์สารนิเทศอีสานสิรินธร. ออนไลน์. 2557.
9
1.1.2 ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร เป็นศูนย์ข้อมูลทางมานุษยวิทยา
ด้วยการพัฒนาระบบฐานข้อมูลและให้บริการข้อมูลในสาขามานุษยวิทยา
และศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง และเผยแพร่ความรู้และส่งเสริมการเรียนรู้ด้าน
มานุษยวิทยา เพื่อสนับสนุนให้เกิดความเข้มแข็งทางวิชาการด้าน
มานุษยวิทยาตลอดจนส่งเสริมให้มานุษยวิทยาเป็ นที่รับรู้และมีบทบาทใน
การพัฒนาสังคมวัฒนธรรม มีการค้นคว้าพัฒนาและต่อยอดคลังข้อมูลเพื่อ
ความเป็นศูนย์ข้อมูลด้านมานุษยวิทยาที่มีคุณภาพ เผยแพร่ความรู้ ด้าน
มานุษยวิทยาสู่สาธารณะ จัดให้มีบริการฐานข้อมูล ห้องสมุดงานวิจัยงาน
เครือข่าย เวทีทางวิชาการการเผยแพร่ความรู้และการผลิตสื่อทางวิชาการ
สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 20 ถนนบรมราชชนนี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170
URL : http://www.sac.or.th/main/index.php
ภาพที่ 2 หน้ าหลักเว็บไซต์ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร
ที่มา : ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร. ออนไลน์. 2557.
10
1.2 แหล่งบริการสารสนเทศทางด้านสังคมศาสตร์
กลุ่มวิชาทางสังคมศาสตร์มีแหล่งบริการสารสนเทศที่สำคัญโดยทั่วไป
เช่น สถาบันการศึกษาที ่มีการสอนทางสังคมศาสตร์
สำนักงานสถิติแห่งชาติ ราชบัณฑิตยสถาน สำนักงานคณะกรรมการ
การวิจัยแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย องค์การ
สหประชาชาติ สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย มูลนิธิโครงการ
ตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ห้องสมุดสถาบันการศึกษา สำนัก
หอสมุดแห่งชาติ สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ดังตัวอย่างเว็บไซต์
ของแหล่งบริการสารสนเทศทางสังคมศาสตร์ ดังนี้
1.2.1 สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เป็ นสถาบันการศึกษาที่เปิ ดสอนทางสังคมศาสตร์และได้รวบรวม
ทรัพยากรสารสนเทศทางสาขาวิชาทางสังคมศาสตร์ไว้บนเว็บไซต์
ของส านักหอสมุด เช่น รายชื่อหนังสือใหม่ ฐานข้อมูลออนไลน์
วิทยานิพนธ์ วารสาร หนังสือ บริการ อ้างอิงอิเล็กทรอนิกส์
(e – References) บริการหนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ (e –
Newspeper) เครื่องมือช่วยการวิจัย และอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่
สนใจ บริการสารสนเทศที่มีให้บริการ อาทิ บริการสอนการรู้
สารสนเทศ (Information literacy) บริการตอบค าถามและช่วยการ
ค้นคว้า (Ask a librarian) บริการยืมระหว่างห้องสมุดต่างสถาบัน
(Interlibrary loan service) บริการยืมระหว่างห้องสมุดสาขา
(Book delivery) บริการแนะนำหนังสือ (Book suggestion)
บริการห้องศึกษาค้นคว้า แบบกลุ่ม (Study room) บริการสื่อการศึกษา
บริการ Wi-Fi บริการวารสารและหนังสือพิมพ์ บริการสิ่งพิมพ์ สกว.
(สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย) และบริการถ่ายเอกสาร
11
สถานที่ติดต่อ : สำนักหอสมุด มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เลขที่ 2 ถนน พระจันทร์เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
URL : http://main.library.tu.ac.th/tulib/
ภาพที่ 3 หน้ าหลักเว็บไซต์สำนักหอสมุมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ที่มา : สำนักหอสมุด. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. ออนไลน์. 2557.
12
1.2.2 มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
เป็ นโครงการที่ส่งเสริมและเร่งรัดให้มีการจัดพิมพ์หนังสือตำราทุก
ประเภททั้งที่เป็นงานแปลโดยตรง งานแปล – เรียบเรียง งานถอด
ความ งานรวบรวม งานแต่ง และงานวิจัย มีเนื้อหาครอบคลุมสาขา
วิชาต่าง ๆ จำนวน 8 สาขาวิชาได้แก่ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์
เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ สังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ปรัชญา
จิตวิทยา ภาษาและวรรณคดี
สถานที่ติดต่อ : 413/38 ถนนอรุณอมรินทร์ บางกอกน้ อย กรุงเทพฯ 10700
URL : http://textbooksproject.org/
ภาพที่ 4 หน้ าหลักเว็บไซต์มูลนิธิโครงการต าราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
ที่มา : มูลนิธิโครงการต าราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์. ออนไลน์. 2553.
13
1.2.3 ราชบัณฑิตยสถาน เป็นสถาบันหลักของเครือข่ายทาง
ปั ญญาแห่งชาติและเป็ นองค์การพัฒนาความรู้ที่สามารถเป็ น
แหล่งอ้างอิงทางวิชาการ ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำ
พจนานุกรม สารานุกรม อักขรานุกรม อนุกรมวิธาน การบัญญัติ
ศัพท์วิชาการสาขาต่าง ๆ รวมทั้งการจัดทำพจนานุกรมศัพท์
วิชาการภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทย และงานวิชาการอื่น ๆ
กำหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยการอนุรักษ์
ภาษาไทยมิให้เปลี่ยนไปในทางที่เสื่อมและการส่งเสริมภาษา
ไทยซึ่งเป็ นเอกลักษณ์ของชาติให้ปรากฏเด่นชัดยิ่งขึ้น
สถานที่ติดต่อ : สนามเสือป่า เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
URL : http://www.royin.go.th/th/home/
ภาพที่ 5 หน้ าหลักเว็บไซต์ราชบัณฑิตยสถาน
ที่มา : ราชบัณฑิตยสถาน. ออนไลน์. 2557.
14
1.2.4 ศูนย์กลางความรู้แห่งชาติ(Thailand Knowledge Center) หรือ TKC
เป็นบริการเว็บท่าที่เป็นศูนย์รวมความรู้ในสาขาวิชาต่างๆ ทั้งของไทยและต่าง
ประเทศ ที่มีให้บริการบนระบบอินเทอร์เน็ต โดยได้รวบรวมลิงค์ของความรู้ใน
สาขาวิชาต่าง ๆ ของประเทศไทย ที่มีให้บริการอยู่บนระบบอินเทอร์เน็ต มาให้
บริการในเว็บท่าของ TKC บริการพื้นที่เสมือนแก่หน่วยงานต่าง ๆ ที่มีความรู้ใน
รูปแบบดิจิทัล บริการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกลุ่มผู้ปฏิบัติงานในสาขาวิชา
ต่าง ๆ หรือที่เรียกว่าชุมชนนักปฏิบัติ (Community of Practice - CoP) เพื่อ
แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และวิธีการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะปฏิบัติงาน อันจะ
เป็นการพัฒนาความรู้ และประสบการณ์ของสมาชิกในกลุ่มให้มีความรู้ในระดับ
ใกล้เคียงกัน
สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 120 หมู่ 3 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐ
ประศาสนภักดี ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่กรุงเทพฯ10210
URL : http://www.tkc.go.th/
ภาพที่ 8.6 หน้ าหลักเว็บไซต์ศูนย์กลางความรู้แห่งชาติ
ที่มา : ศูนย์กลางความรู้แห่งชาติ. ออนไลน์. 2557.
15
1.3 แหล่งบริการสารสนเทศทางด้านวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี ที่พบว่าเป็นแหล่งสำคัญมีทั้งประเภทหน่วยงานภาครัฐ ภาค
เอกชน สถาบันการศึกษา สถาบันบริการสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์ เป็นแห
ล่งที่ท าหน้ าที่จัดหา รวบรวม จัดเก็บ และให้บริการแก่ผู้ใช้ซึ่งจะให้ความรู้
ความเข้าใจแก่ผู้ใช้อย่างหลากหลายและมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ได้แก่
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง
แวดล้อม สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
มหาวิทยาลัยที่มีการสอนในสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กองสนเทศ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี องค์กรพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ศูนย์บริการเอกสารวิจัยแห่งประเทศไทยศูนย์ข้อมูลพลังงานแห่งประเทศไทย
ศูนย์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยแต่ละแหล่งจะรวบรวมความรู้ด้าน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ดังตัวอย่าง ดังนี้
1.3.1 องค์กรพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เป็นศูนย์
ความเป็นเลิศด้านการพัฒนาการบริหารจัดการ การใช้ประโยชน์แหล่งเรียนรู้
และการสร้างความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์ เป็นแหล่ง
สั่งสมภูมิปัญญาถ่ายทอดสารสาระ และพัฒนาการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์โดย
ดำเนินการส่งเสริมและแสดงกิจกรรมหรือผลงานสิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีเพื่อให้ความรู้และความบันเทิงแก่ประชาชน มีการรวบรวมวัตถุ
จ าแนกประเภทวัตถุจัดทำบันทึกหลักฐาน และสงวนรักษาผลงาน
สิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย
ความก้าวหน้ าทางวิชาการมีการส่งเสริมการวิจัยการให้บริการทางวิชาการ และ
นิทรรศการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแก่หน่วยงานของรัฐและเอกชน จัด
นิทรรศการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีรวมทั้งกิจการอื่นที่เกี่ยวข้อง
กับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็ นศูนย์รวมทางด้านข้อมูลและวิชาการเกี่ยว
กับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและให้บริการที่เกี่ยวเนื่ องแก่หน่วย
งานของรัฐและเอกชนร่วมมือกับองค์กรอื่นทั้งใน
และต่างประเทศ เพื่อประโยชน์ในด้านการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และมีการด าเนิน
กิจกรรมหรือธุรกิจอื่ นที่เกี่ยวเนื่ องกับกิจการพิพิธภัณฑ์
16
สถานที่ติดต่อ : องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติเทคโนธานี
ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120
URL : http://www.nsm.or.th/index.php?option=com_content
&view=featured&Itemid=435
ภาพที่ 8.7 หน้ าหลักเว็บไซต์องค์กรพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ที่มา : องค์กรพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ. ออนไลน์. 2557.
17
1.3.2 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นองค์กรหลักในการ
พัฒนาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อสร้างปัญญาในสังคม
สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและความสามารถในการแข่งขัน
ของประเทศอย่างยั่งยืน มีบริการข้อมูลข่าวสาร บริการสืบค้น ข้อมูล
บริการแหล่งทุนศึกษาวิจัย บริการแหล่งความรู้ บริการธุรกิจ
ผลิตภัณฑ์ บริการชุมชน บริการรับแจ้งเรื่องร้องเรียน บริการบทเรียน
ออนไลน์ และรวมเทคโนโลยีต่าง ๆ
สถานที่ติดต่อ : 75/47 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)
ถนนพระราม 6 แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
URL : http://www.most.go.th/main/
ภาพที่ 8 หน้ าหลักเว็บไซต์กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ที่มา : กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. ออนไลน์. 2557.
18
1.3.3 ศูนย์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นเว็บไชต์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยีโดยมีข่าวสารทั่วไปเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีบริการ “ห้อง
สมุดเสมือน” เป็นบริการที่ทันสมัยและรวดเร็วสำหรับการสืบค้นความรู้ในรูป
อิเล็กทรอนิกส์และสิ่งพิมพ์ที่ต้องการจากฐานข้อมูลวิชาการของห้องสมุด
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกแห่งในเครือข่าย STKC มีบริการ “พิพิธภัณฑ์
เสมือน” (Virtual museum)เป็นแหล่งรวบรวมความรู้ในลักษณะของ Virtual
realityอย่างเป็นระบบในประเทศไทยมีบริการ “คลังความรู้” (S&T Portal) STKC
เสนอรูปแบบใหม่สำหรับเข้าถึงสารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยคนไทย
จัดหมวดวิชาตามมาตรฐานสากลเพื่อให้เลือกดูได้ตามความสนใจ และสืบค้นด้วย
โปรแกรมง่าย ๆ ทุกหน่วยงานของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอีกทั้งยัง
รวมความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกว่า 85 หลักสูตร ที่สามารถเรียน
ออนไลน์ได้
สถานที่ติดต่อ : กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถนน
พระรามหกแขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
URL : http://www.stkc.go.th/
ภาพที่ 9 หน้ าหลักเว็บไซต์ศูนย์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ที่มา : ศูนย์ความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. ออนไลน์. 2557.
19
นอกจากที่ยกตัวอย่างมาแล้วนั้นยังมีเว็บไซต์อีกมากมายที่
เป็นแหล่งสารสนเทศทางมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี ซึ่งจะเห็นได้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างศาสตร์สาขาวิชา
ต่าง ๆ นั้น เป็นเครื่องบ่งบอกได้ว่าไม่มีแหล่งใดที่สามารถผลิตและ
เผยแพร่หรือบริการที่สมบูรณ์ได้ในเฉพาะแหล่งของตนเพียงแหล่ง
เดียวได้ ซึ่งผู้ปฏิบัติงานในแหล่งสารสนเทศจะต้องมีความรอบรู้ที่
กว้างไกลและรู้จักการแสวงหา เพื่อให้เข้าถึงสารสนเทศหรือบริการ
สารสนเทศให้กับผู้ใช้ตามที่ต้องการได้
2. บริการสารสนเทศ
ในการจัดตั้งแหล่งบริการสารสนเทศแต่ละแห่งย่อมมี
วัตถุประสงค์ในการให้บริการไปตามพันธกิจหรือนโยบายของ
องค์การนั้น ๆ จึงมีงานที่ต้องเผยแพร่และบริการสารสนเทศตามที่
ผู้ใช้ต้องการด้วยสรุปได้ดังนี้
20
บริการสารสนเทศ หมายถึง งานบริการที่ให้ข้อมูลอย่างละเอียดลึกซึ้ง
อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้ในการเข้าถึงสารสนเทศได้โดยง่ายและ
เป็ นการเผยแพร่สารสนเทศหรือให้สารสนเทศที่องค์การมีอยู่และจัดเตรียม
ไว้ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทรัพยากรสารสนเทศและได้สารสนเทศที่ถูกต้อง
ครบถ้วนสมบูรณ์ (บุษกร จันท์เทวนุมาส. 2556 : 2)
ดังนั้นบริการสารสนเทศจึงมีความสำคัญต่อผู้ใช้ที่จะช่วยให้เข้าถึง
แหล่งความรู้และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองได้อย่างสร้างสรรค์และมีความ
สำคัญต่อองค์การเพราะหากองค์การใดมีสารสนเทศที่ดีจะช่วยตอบสนอง
ความต้องการขององค์การช่วยสนับสนุนและเสริมสร้างองค์ความรู้ให้แก่
บุคลากรในการปฏิบัติงาน และนำไปสู่การพัฒนาประสิทธิภาพในการดำเนิน
งานขององค์การได้ซึ่งการจัดบริการสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพและ
สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้นั้น นับว่าเป็นดัชนีชี้วัดผลสำเร็จจากการ
ดำเนินงานของแหล่งบริการสารสนเทศอีกด้วย โดยงานบริการสารสนเทศมี
การจำแนกประเภทโดยอาศัยหลักเกณฑ์ต่าง ๆ มาเป็นแนวทางโดยส่วนมาก
แหล่งบริการสารสนเทศทางด้านมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีจะมีการจำแนกงานบริการสารสนเทศตามลักษณะที่จำเป็ น
ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับพันธกิจและนโยบายในการด าเนินงานของแหล่งบริการ
สารสนเทศนั้น ๆ ด้วย ซึ่งมีบริการพื้นฐานเหมือนกับแหล่งบริการสารสนเทศ
ทั่ว ๆ ไป แต่จะมีบริการที่พิเศษและเฉพาะด้านเพิ่มขึ้น ดังนี้ (จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์. 2556 : 16 – 17 ; มัลลิกา นาถเส
วี. 2553 : 16 – 20)
21
2.1 บริการสารสนเทศ มุ่งค้นหาสารสนเทศให้ผู้ใช้อย่าง
(Information service) ละเอียดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้
ใช้ในการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และอื่น ๆ
2.2 บริการสารสนเทศทันสมัย เป็ นบริการที่แจ้งให้ผู้ใช้ทราบข้อเท็จจริง
(Current awareness service : ข่าวสาร หรือความก้าวหน้ าใหม่ ๆ ในวิชาที่
CAS) เกี่ยวข้องได้รวดเร็วด้วยวิธีต่าง ๆ
2.3 บริการจัดทำสารสนเทศ เป็ นบริการที่เสนอสารสนเทศในรูปแบบใหม่
สำเร็จรูป (Repackaged ด้วยการนำข้อมูลมาทำสรุปย่อและตัดทอน
information) เนื้ อหาที่สำคัญหรือทำการประเมินและ
วิเคราะห์ข้อมูลตามที่ผู้ใช้ต้องการ
2.4 บริการเลือกสรร เป็ นบริการรวบรวมรายการหรือแหล่งบริการ
สารสนเทศเป็ นรายบุคคล สารสนเทศที่ทันสมัยทุกประเภทในแต่ละ
(Selective dissemination of สาขาวิชาและเชื่อมโยงไว้ เพื่ออำนวยความ
information : SDI) สะดวกให้กับผู้ใช้บริการในการเข้าถึง
สารสนเทศเพื่อการศึกษาและการวิจัย โดย
ครอบคลุมเนื้ อหาวิชาทางด้านมนุษยศาสตร์
และสังคมศาสตร์ ด้านวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี และด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ
อย่างต่อเนื่ อง
22
2.5 บริการยืมระหว่างห้อง เป็ นบริการความร่วมมือระหว่างห้องสมุดต่าง
สมุด (Interlibrary loan สถาบัน เพื่อส่งเสริมการค้นคว้าและการวิจัย
service) เป็นการแบ ง่ ปันการใช้ทรัพยากรสารสนเทศร่วมกัน
2.6 บริการรวบรวม เป็ นการจัดทำรายชื่ อสารสนเทศพร้อมสาระสังเขป
บรรณานุกรม จากสื่อประเภทต่าง ๆ
(Bibliographic service)
2.7 บริการสาระสังเขป เป็ นบริการที่สรุปใจความสำคัญหรือเรื่ องย่อของ
และดรรชนี (Abstracting หนังสือ บทความทางวิชาการ หรือรายงานการวิจัย
and indexing service) ตามที่ผู้ใช้ต้องการ
2.8 บริการแปล เป็ นบริการให้ความช่วยเหลือผู้ใช้ด้านภาษาในกรณี
(Translation service) ที่ได้เนื้อหาเป็นภาษาต่างประเทศ โดยมีนักวิชาการ
ด้านภาษามาช่วยแปลเพื่อให้ผู้ใช้ได้สารสนเทศที่มี
มุมมองจากเอกสารต่างประเทศด้วย
2.9 บริการฐานข้อมูล เป็ นบริการที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสืบค้น
(Databases service) สารสนเทศนอกเหนือจากที่มีอยู่บนชั้นได้ด้วย
ตนเองอาจเป็ นฐานข้อมูลที่แหล่งสารสนเทศ
รวบรวมหรือจัดทำขึ้นและฐานข้อมูลที่จัดซื้อโดย
สามารถสืบค้นผ่านระบบออนไลน์ได้
สรุปได้ว่าหากผู้ใช้ต้องการสารสนเทศเฉพาะสาขาวิชาบริการสารสนเทศจะ
ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงสารสนเทศได้โดยง่ายและได้สารสนเทศที่ถูกต้องครบ
ถ้วนสมบูรณ์ในแหล่งที่มีทรัพยากรสารสนเทศตามสาขาวิชาต่าง ๆ ด้าน
มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง
23
สรุป
สารสนเทศจำแนกเป็ นด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมนุษยศาสตร์ หมายถึง วิชาที่
ศึกษาคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ ครอบคลุมศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ
ปรัชญา ศาสนา ศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ ภาษาและวรรณกรรม
สังคมศาสตร์ หมายถึง ศาสตร์ที่มุ่งศึกษาพฤติกรรมต่าง ๆ ของ
มนุษย์ทั้งด้านจิตใจและวัฒนธรรม ครอบคลุมศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับ
รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ประวัติศาสตร์ นิติศาสตร์มานุษยวิทยา
สังคมวิทยา สังคมสงเคราะห์ การศึกษาจิตวิทยา วิทยาศาสตร์ หมาย
ถึง ความรู้ที่ได้โดยการสังเกตและค้นคว้าจากการประจักษ์ทาง
ธรรมชาติแล้วจัดเข้าเป็นระเบียบ ส่วนเทคโนโลยี หมายถึง
วิทยาการในการน าวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ใน
ทางปฏิบัติและอุตสาหกรรม โดยมีการจ าแนกแหล่งบริการ
สารสนเทศเฉพาะสาขาวิชาไว้ซึ่งไม่มีแหล่งใดที่สามารถผลิตเพื่อเผย
แพร่หรือบริการได้ครบถ้วน สมบูรณ์ได้เฉพาะแหล่งใดแหล่งหนึ่ง
เพียงแหล่งเดียว ดังนั้นเพื่อตอบสนองความต้องการแก่ผู้ใช้ ผู้ปฏิบัติ
งานจะต้องมีความรอบรู้ในการแสวงหาสารสนเทศในแหล่งต่าง ๆ
และบริการสารสนเทศที่มีให้บริการในแหล่งนั้น ๆ ด้วย