The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชั้นหน้่ตัดดิน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Kai'Mook Somphol, 2023-02-06 04:16:42

องค์ประกอบดิน

ชั้นหน้่ตัดดิน

ดิน หินชั้นล่างสุด หินที่ผุพังและกลายเป็นดินชั้นล่าง ดินชั้นบน ฮิวมัส การผุพังอยู่กับที่เป็นสาเหตุให้หินแตก ออกมีขนาดต่าง ๆ เมื่อถูกแสงแดดและ ฝน หินก็จะแตกหักและผุพังทลายลง มากขึ้น กลายเป็นหินที่มีขนาดเล็กลง ขั้นตอนที่ 1 พืชจะเจริญเติบโตตามบริเวณรอย แตกของหิน แมลงและสัตว์อื่นจะเข้า มาอาศัยตามบริเวณรอยแตก เมื่อพืช และสัตว์ตายลงจะสลายตัวกลายเป็น ฮิวมัส (humus) ขั้นตอนที่ 2 สัตว์ที่อยู่ภายในดินจะช่วยท าให้ฮิวมัส ผสมกับเศษหินและแร่ กลายเป็นดินที่ อุดมสมบูรณ์ เรียกว่า ดินชั้นบน ขั้นตอนที่ 3 กระบวนการเกิดดิน


ดิน ชั้นหน้าตัดดิน OAEBCR ชั้น หรือ หรือชั้นอินทรียวัตถุ O ชั้น หรือชั้นดินแร่ A ชั้น หรือชั้นชะล้าง E ชั้น หรือ หรือชั้นดินล่าง B ชั้น หรือชั้นการผุพังชองหิน C ชั้น หรือชั้นหินพื้นฐาน R เป็นชั้นที่เหมาะสมต่อการเจริญของพืช เนื่องจาก มีการสะสมของสารอินทรีย์ที่ได้จากซากพืชซากสัตว์ เป็นชั้นที่ประกอบด้วยอินทรียวัตถุที่สลายตัวแล้ว คลุกเคล้ากับแร่ธาตุที่อยู่ภายในดิน มักมีสีคล้ า เป็นชั้นที่มีสีซีดจาง มีปริมาณอินทรียวัตถุน้อยกว่า ชั้น A และมีเนื้อดินหยาบกว่าชั้น B ที่อยู่ตอนล่าง เป็นชั้นที่มีการสะสมของตะกอนและแร่ธาตุ ซึ่งถูก ชะล้างมาจากดินชั้นบน ดินชั้นนี้จึงมีเนื้อแน่น มีความชื้นสูง และส่วนมากเป็นดินเหนียว เป็นชั้นที่หินต้นก าเนิดหรือหินดินดานเกิดการผุพัง สลายตัวกลายเป็นเศษหินที่มีลักษณะเป็นก้อน เป็นผืน เป็นชั้นของหินแข็งชนิดต่างๆ ที่ยังไม่ผุพังสลายตัว


ดิน ปัจจัยที่ท าให้ดินเเต่ละที่เเตกต่างกัน ความสูง ต ่า ของพื้นที่ พื้นที่ลาดชันมาก พังทลายมาก พื้นที่ราย พังทลายน้อย ชั้นดินหนา 1. วัตถุต้นกําเนิดดิน หินเเร่ธาตุ ที่ผุพังอยู่กับที่ ท าให้ดินเเต่ละที่ มีปริมาณธาตุ สี เนื้อดิน ต่างกัน 2. ภูมิอากาศ บริเวณร้อนชื้น มีฝนมาก ผุพังมาก บริเวณหนาวเย็น แห้งเเล้ง ผุพังน้อย ดินที่เกิดนานเเล้ว จ านวนชั้น/หนามาก ดินที่ใช้เวลาเกิดน้อย จ านวนชั้น/หนาน้อย 3. ภูมิประเทศ ดินสีแดง


ดิน สมบัติของดิน : สีของดิน - เเร่ควอตซ์ / ยิปซัม / เเคลเซียมคาร์บอเนต - ธาตุแมกนีเซียม (Mg) / เกลือเเร่ต่าง ดินสีดํา มีฮิวมัส / เเร่แมงกานีส (Mn) / เหมาะเเก่ การเพาะปลูก ดินสีเขียว ปนนํ้าเงิน มีธาตุเหล็ก (Fe) ไม่มีเเร่ธาตุ / อายุมาก / เช่น ดินลูกรัง / ไม่เหมาะ แก่การเพาะปลูก ดินสีเหลือง นํ้าตาล เทา ดินสีแดง


ดิน ประเภทของดิน เเบ่งตามลักษณะของเนื้อดิน ดินเหนียว - ขนาดเม็ดดินเล็ก - น ้าซึมผ่านได้ยาก และอุ้มน ้าดี ดินร่วน - น ้าซึมผ่าน และอุ้มน ้าได้ปานกลาง ดินทราย - ขนาดเม็ดดินใหญ่ - น ้าซึมผ่านได้ดี เเละอุ้มน ้ายาก


ดิน ประเภทของดิน เเบ่งตามลักษณะของเนื้อดิน ดินเป็น กลาง - PH = 7 - เหมาะแก่การปลูกพืชส่วนใหญ่ ดินเป็น กรด ; หรือดินเปรี้ยว - PH < 7 - สารอนินทรีย์มากเกินไป/ฝนกรด/ใส่ปุ๋ยเยอะ ดินเป็น เบส ; หรือดินเค็ม - PH > 7 - การสลายตัวของหินปูน/เติมปูนขาวมากเกินไป /น ้าทะเลขัง


ดิน การปรับปรุงคุณภาพของดิน ดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ เนื้อดินมีลักษณะหยาบ ดูดซับน้ าและธาตุอาหารได้น้อย ไม่เหมาะสมต่อการเจริญของพืช บางกรณีดินมีเนื้อแน่น ท าให้รากพืชชอนไชได้ยาก เมื่อดินสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ ท าให้ใช้ประโยชน์จากดินได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แนวทางการแก้ไข การใส่อินทรียวัตถุลงในดินอย่างสม่ าเสมอ เพราะอินทรียวัตถุช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ เพิ่มการดูดซับน้ าช่วยให้อนุภาคดินเกาะยึดกันจนทนต่อการกัดเซาะของน้ าฝนหรือน้ าไหลบ่าได้ ช่วยให้ดินมีรูพรุนและร่วนซุยมากขึ้น


ดิน การปรับปรุงคุณภาพของดิน ปลูกพืชตระกูลถั่ว หรือใส่ปุ๋ย อินทรีย์ในอัตราส่วนที่เหมาะสม ดินจืด ดินที่มีธาตุอาหารไม่เพียงพอ ต่อความต้องการของพืช แนวทางการแก้ไข ดินเปรี้ยว ดินที่ค่า pH ต่ ากว่า 5.5 เนื่องจากมีกรดก ามะถันอยู่ ในชั้นหน้าตัดดิน ซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการ เกิดดิน หรือการใช้ปุ๋ยเคมีเป็นเวลานาน แนวทางการแก้ไข ใส่สารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง เช่น ใส่ปูนขาวลงไปในดิน ให้มีปริมาณเท่ากับความเป็นกรดทั้งหมดของดิน


ดิน การปรับปรุงคุณภาพของดิน เติมสารแคลเซียมซัลเฟต หรือผงก ามะถันลงในดิน เพื่อให้ดินปรับสภาพเป็นเกลือโซเดียมซัลเฟต แล้วใช้น้ าชะล้างออก ดินเค็ม ดินมีความเข้มข้นของเกลือที่อยู่ภายในดินสูง ท าให้พืชไม่สามารถดูดน้ าจากดินมาเลี้ยงล า ต้นได้ จึงท าให้พืชเหี่ยวเฉาและใบไหม้ แนวทางการแก้ไข ดินด่าง ดินที่มีค่า pH มากกว่า 7 เนื่องจากมีเกลือโซเดียมคลอไรด์ หรือเกลือโซเดียมคาร์บอเนตปนอยู่ในดิน ซึ่งไม่เหมาะสม ต่อการเจริญของพืช มักพบบริเวณพื้นที่แถบภูเขาหินปูน หรือดินที่มีการใส่ปุ๋ยเคมีเป็นเวลานาน แนวทางการแก้ไข เติมผงก ามะถันลงไป เพื่อให้ดินปรับสภาพ


Click to View FlipBook Version