The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานเรื่องเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-02-21 03:56:34

รายงานเรื่องเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์

รายงานเรื่องเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์

1

เสาหลักเมอื งเพชรบูรณ์

นางสาวปิยะพร บรรเทา 631102075102
นางสาวอรทยั อุทัย 631102075103
นายจีระภัทร ประเสรฐิ สิน 631102075108
นางสาวธญิ าดา บัณดษิ ฐ์ 631102075111

รายงานเลม่ นเี้ ปน็ สว่ นหน่ึงของการศกึ ษาวชิ าสารสนเทศเพอื่ การเรียนรู้
ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2565
มหาลัยราชภฏั เพชรบรู ณ์

2

เสาหลักเมอื งเพชรบูรณ์

นางสาวปิยะพร บรรเทา 631102075102
นางสาวอรทยั อุทัย 631102075103
นายจีระภัทร ประเสรฐิ สิน 631102075108
นางสาวธญิ าดา บัณดษิ ฐ์ 631102075111

รายงานเลม่ นเี้ ปน็ สว่ นหน่ึงของการศกึ ษาวชิ าสารสนเทศเพอื่ การเรียนรู้
ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2565
มหาลัยราชภฏั เพชรบรู ณ์



คำนำ

รายงานเรอ่ื งเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ จัดทำขนึ้ เพ่ือศึกษาใหค้ วามร้เู กยี่ วกบั ประวตั ิความเปน็ มาการตงั้ เสา
หลกั เมอื งพธิ ีการบวงสรวงเสาหลักเมอื งและการท่องเทย่ี ว

เนอ้ื หารายงานฉบับนี้ ประกอบด้วย ประวตั คิ วามเปน็ มา ความเชอ่ื และพิธกี รรมแวดล้อม สถานที่ตั้ง การ
ต้ังเสาหลักเมือง รูปแบบเสาหลักเมอื ง องคป์ ระกอบเสาหลกั เมือง ส่วนยอด สว่ นกลางเสา สว่ นฐาน รปู แบบศิลปะ
และสถาปตั ยกรรมเสาหลกั เมือง อักษรโบราณท่คี น้ พบ พิธีการบวงสรวงเสาหลักเมอื ง พิธีกรรมการบวงสรวงเสา
หลักเมือง พธิ กี รรมท่ีใช้ในการบวงสรวง การทอ่ งเท่ยี ว กลุ่มนกั ท่องเท่ยี ว วันเวลาท่ที ำการ การเดินทาง

ผู้จัดทำขอบคณุ อาจารยน์ งลกั ษ์ ยุทธศิลปเสวี ทีก่ รุณาให้ความรู้และข้อเสนอแนะในการทำรายงานฉบบั น้ี

สารบญั ข

คำนำ หนา้
สารบญั ก
สารบญั ภาพ ข
เสาหลกั เมืองเพชรบูรณ์ ค
1
ประวตั ิความเป็นมา 1
การตั้งเสาหลกั เมืองนครบาล 5
พธิ กี ารบวงสรวงเสาหลกั เมือง 11
การท่องเท่ียว 13
สรุป 14
บรรณานกุ รม 16



สารบญั ภาพ

ภาพท่ี หน้า
1
แผนผังการกำหนดตำแหน่งที่ตัง้ ของหลักเมืองนครบาลเพชรบูรณแ์ ละพื้นทข่ี องเขต 4
2
พระบรมมหาราชวงั
3
พิธตี ัง้ เสาหลกั เมืองหลวง นครบาลเพชรบรู ณท์ ่ี ต.บุ่งน้ำเตา้ อ.หลม่ สัก เมอื่ วนั ที่ 23 เมษายน 6
4
2487 เวลา 14.19 น. ประกอบพิธโี ดย จอมพล ป.พบิ ลู สงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น
5
6 ศาลหลักเมืองนครบาลเพชรบรู ณ์ต้งั อยู่บนเนินสงู ทเ่ี กิดจากการถมดินโดยมีเสาหลกั เมืองตง้ั อยู่ 7
7
ภายในด้วยรูปทรงท่มี ีมิติ และปรมิ าตรแสดงความเป็นเหลี่ยมเปน็ สัน

ภาพเปรยี บเทียบ เสาหลักเมืองนครบาล ระหว่างเสาหลกั เมืองเดิม และเสาหลกั เมอื งทีซ่ ่อมใน 7

พ.ศ. 2534

ส่วนยอด 8

สว่ นกลางเสา 8

สว่ นฐาน 9

1

เสาหลกั เมอื งเพชรบูรณ์

หลักเมืองนครบาลเพชรบรู ณ์สร้างขึ้นในระหว่าง พ.ศ. 2486-2487 เมื่อครั้ง ให้มีการย้ายเมอื งหลวงจาก
กรงุ เทพ ฯ ไปยงั อำเภอหลม่ มสัก จงั หวัดเพชรบรู ณ์ ตามนโยบายของนายกรฐั มนตรจี อมพล ป.พิบูลสงครามภายใต้
แนวคิดการวางระบบผังเมืองใหม่ที่กําหนดสถานที่ตั้งราชการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามพันธกิจของกลุ่มงานที่มี
ความสัมพันธ์กันตามแนวคิดสมัยใหม่ หลักเมืองถูกกําหนดให้ ตั้งอยู่ในวงเวียน ณ บริเวณจุดตัดส่ีแยก เพื่อเป็นจดุ
ศูนยก์ ลางท่มี คี วามสมั พนั ธ์ กับองค์ประกอบสําคญั ตา่ ง ๆ ของเมือง

ประวตั คิ วามเปน็ มา

ความเป็นมาของศาลหลักเมืองในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ และสงครามเอเชียบูรพา กรุงเทพฯ ถูก
ข้าศึกโจมตปี ระชาชนตอ้ งอพยพออกต่างจงั หวัด จอมพล ป.พบิ ูลสงครามนายกรฐั มนตรจี ึงมีนโยบายย้ายเมอื งหลวง
ไปยังที่ปลอดภัยและได้เลือกเพชรบูรณ์เป็นสถานที่ตั้งเมืองหลวง เพราะเป็นเมืองที่มีชัยภูมิเหมาะสม มีภูเขา
ลอ้ มรอบมที าง ออกทางเดยี ว ศัตรูรกุ รานได้ยาก คณะรฐั มนตรีจึงได้ยกรา่ งพระราชกำหนดสรา้ งนครบาลขึ้น ช่ือว่า
พระราช กำหนดระเบียบการบริหารนครบาลเพชรบูรณ์ และสร้างพุทธบุรี พ.ศ. ๒๔๘๗ ต่อมาวันที่ ๒๓ เมษายน
๒๔๘๗ จอมพล ป. พบิ ลู สงครามไดท้ ำพธิ ฝี งั เสาหลกั เมอื ง จากนน้ั มหี นว่ ยงานต่าง ๆ จากสว่ นกลางไดย้ า้ ยมา หลาย
หน่วยงาน เช่น กระทรวงการคลัง ตั้งอยู่ที่ถ้ำฤาษีสมบัติ ตำบลบุ่งน้ำเต้า อำเภอหล่มสัก เป็นสถานที่เก็บ พระคลัง
สมบัติ โรงเรียนนายร้อย จปร. ตั้งอยู่ที่บ้านป่าแดง อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ กระทรวง ศึกษาธิการ ตั้งอยู่ที่
บ้านหนองแส ตำบลบ่งุ คลา้ อำเภอหลม่ สกั จงั หวดั เพชรบรู ณ์

1. การสรา้ งเสาหลักเมอื ง
หลักเมืองนครบาลเพชรบูรณ์สร้างขึ้นในระหว่าง พ.ศ. 2486-2487 เมื่อครั้ง ให้มีการย้ายเมืองหลวงจาก
กรุงเทพ ฯ ไปยังอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีจอมพล ป.พิบูลสงคราม เสา
หลักเมืองนครบาลเพชรบรู ณ์ ทาํ มาจากไม้ชัยพฤกษ์มีรูปทรงแปด เหล่ยี มและมีองค์ประกอบโดยรวมสอดคล้องกับ
หลักเมืองกรุงเทพฯ หากแต่มีการใช้กระบวนการแนวคิดสมัยใหม่อยา่ งน้อย 4 ประการมาสร้างสรรค์เสาหลักเมือง
หลวงใหม่คือ 1) การใชเ้ ทคนคิ วธิ ีการกอ่ สร้างแบบสมัยใหม่ 2) การปรับรูปทรงของเสา 3) การปรบั ลวดลายของเสา

2

4) การสร้างรูปลักษณ์ของเสาให้ เกิดความรู้สึกเข้มแข็ง ทรงพลัง ด้วยการเน้น “มิติของรูปทรง” ให้มีความคมชัด
ด้วยเส้นสายและเหลี่ยมมุมทางเรขาคณิต ที่มุ่งเน้นความเรียบเกลี้ยงของพื้นผิว ผ่านปริมาตรของรูปทรง มากกว่า
การใช้เส้นโค้งที่มีความอ่อนช้อยแบบศิลปะ จารีต ทั้งนี้ยังหลงเหลือแนวคิดจารีตแบบไทยประเพณีคือการใช้วัสดุ
จากไมม้ งคลมาต้ังเสาหลกั เมอื ง รวมถึงการนาํ ไม้มงคล 9 ชนดิ มารว่ มทาํ พิธีตั้งเสาหลกั เมือง

1.1 ความเชื่อและพธิ กี รรมแวดลอ้ มในการต้ังหลกั เมอื งนครบาล
ดงั ทก่ี ลา่ วแล้วว่าหลักเมืองนครบาลเพชรบรู ณ์จดั สร้างขึ้นเป็นรูปแบบเสาทรง แปดเหล่ียม ยอดเสา

เป็นหัวเม็ด ตัวเสาทําด้วยไม้ชัยพฤกษ์เป็นไปตามตํารา พระราชพิธีนครฐาน ซึ่งกล่าวถึงการฝังอาถรรพ์เพื่อสร้าง
พระนครใหม่เมื่อครั้ง รัชกาลที่ 1 ด้านล่างประกอบรอบด้วยไม้มงคล 8 ชนิด แม้ว่าจอมพล ป. จะไม่เห็นด้วยกับ
ความเชื่อมงมงายตา่ ง ๆ ดงั เหน็ จาก การลดทอนรายละเอียดพิธีกรรมตา่ ง ๆ ที่เคยมีมาแต่อดตี หรือการมีนโยบาย
ชักชวนให้ประชาชนเลิกเชื่อถือคติความเชื่อเรื่องผีสางเทวดา โดยให้เหตุผลว่า ชาวพุทธไม่ควรนับถือไสยศาสตร์
13 แต่ในการสร้างเมืองหลวงใหม่ จอมพล ป. เห็นถึงความจาํ เป็นของการตั้งเสาหลักเมอื งว่าจําเป็นที่จะต้องมกี าร
ตั้งเสาหลักเมืองเพื่อให้เป็นไปตามประเพณีที่สืบเนื่องกันมาตั้งแต่สมัยโบราณทั้งการให้ความสําคัญกับวัสดุที่ใช้
องค์ประกอบของตัวเสา โดยเฉพาะส่วนยอดปลาย เสาซึ่งทําเป็นฝาครอบบรรจุแผ่นทองคําลงยันต์หนกั 215 กรัม
เอาไวด้ ้วย14 รวมไปถึงพธิ ีกรรมแวดล้อมต่าง ๆ เชน่ การปลกุ เสกเสาหลักเมืองก็กระทําข้ึนในพระอุโบสถวัดสุทัศน์
เทพวนาราม โดยมีประธานคณะผู้สําเร็จราชการในขณะนั้นคือ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา
เป็นประธานประกอบพิธีเมื่อถึงขั้นตอนตั้งเสาหลักเมืองก็มีทั้งพิธีทางพุทธและพราหมณ์ โดยมีจอมพล ป.พิบูล
สงครามเป็นผู้เจิมเสาหลักเมืองด้วยตัวเองการดําเนินงานแต่ละขั้นตอนเป็นไปตามฤกษ์ยามซึ่งดูแย้งกับนโยบายที่
จอมพล ป. ให้คนไทย เลิกยึดฤกษ์ยามในการทํางาน สิ่งนี้อาจจะมองได้ว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลของจอมพล
ป. พบิ ูลสงครามเองสว่ นนโยบายนั้นก็เพ่ือสร้างวัฒนธรรมไทยให้มคี วามศวิ ิไลซ์แต่อีกด้านหนึ่งยังมีการประกอบพิธี
ทางศาสนาพุทธและพราหมณ์ซึ่งสัมพันธ์กับคติความเชือ่ เร่ืองเทวาอารักษ์ที่มีความศักดิ์สิทธิจ์ ึงแสดงใหเ้ หน็ ถงึ การ
ประนปี ระนอมในเร่ืองความคดิ ความเชือ่ แบบเกา่ และแบบใหมเ่ ขา้ ด้วยกนั

1.2 พกิ ัดสถานทตี่ ้งั และสภาพแวดลอ้ มของหลกั เมืองนครบาลเพชรบูรณ์
ในอดตี พกิ ดั ท่ตี ้ังของหลกั เมืองมักสัมพันธอ์ ยู่กบั อํานาจศักด์ิสทิ ธซิ์ งึ่ เปน็ ส่งิ เหนือธรรมชาติดงั ปรากฏ

ในตําราโบราณว่าด้วยการหาภูมิสถานและฤกษ์ยามที่เป็นมงคล39 เมื่อปักหลักตั้งเมืองได้แล้วชุมชนจะขยายตัว
ออกไปโดยรอบพื้นที่ตั้งของหลักเมืองจึงกลายเป็นศูนย์กลางของชุ มชนเมืองไปโดยปริยายอย่างไรก็ดีความเป็น
ศนู ยก์ ลางของเมอื งในท่ีนเี้ ป็นไปในเชงิ สัญลักษณโ์ ดยอาจไม่ได้ตั้งอยใู่ นพิกัดที่อยู่ตรงกลางเมืองแต่อาจต้ังอยู่บนที่สูง

3

เช่น โคกหรือภูเขาในเขตเมอื ง เมื่อเวลาผ่านไปแนวคิดการใช้ที่ดินของเมืองก็เปล่ียนไปตามแนวคิดสมัยใหม่ ดังจะ
เห็นได้ว่าที่ตั้งศาลหลักเมืองของบางพื้นที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีความโดดเดน่ และไม่ได้เป็นจุดหมายตา ทั้งนี่เป็นผลจาก
การขยายตัวของเมืองสมัยใหม่ เช่น หลักเมืองเชียงรายที่วัดกลางเวียง หลักเมืองนครราชสีมา ฯลฯ หลักเมือง
เหล่านี้มักเป็นเสาที่สร้างมาแต่คติเดิม ซึ่งต่างจากหลักเมืองช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ที่มักมีการ
เลือกพกิ ดั ของท่ีตงั้ ให้สัมพันธ์กับผังเมืองสมยั ใหม่อย่างชัดเจน จากสมุดบนั ทกึ คําสั่งฯ เรือ่ งการสร้างเมืองหลวงใหม่
ที่เพชรบรู ณไ์ ด้มีการกําหนดการวางผังกลุ่มพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์โดยให้สํานกั พระราชวงั จัดการปักเขตให้เป็นวงั หลวง ทิศ
เหนือให้จรดถนนไปที่เก็บทรัพย์สิน ทิศตะวันตกจรดทวิ ภูเขา ทิศใต้จรดถนนแยกจากหลักเมือง ทิศตะวันออกจรด
ถนนสามัคคีชัย ทําให้สามารถร่างแนวขอบเขตสนั นิษฐานของที่ตั้งหลักเมืองนครบาลฯ ซึ่งมีความสัมพันธ์กับท่ตี ้ัง
วงั หลวงคือ หลกั เมืองจะตั้งอยู่ในทิศที่ทแยงมมุ ในลักษณะเดยี วกันกับหลักเมืองกรุงเทพฯ โดยหลักเมืองนครบาลฯ
จะตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก เฉียงใต้ของพื้นที่วังหลวง หากแต่เป็นไปในทิศที่สลับกัน หากวิเคราะห์ลงไปใน
รายละเอยี ดสภาพแวดล้อมของทีต่ ัง้ จะพบว่า การกาํ หนดทต่ี ้ังของหลกั เมืองกรงุ เทพฯ เกิดจากแกนทีเ่ ช่ือมสัมพันธ์
กับพระบรมธาตุของวดั บางหว้าใหญ่ (วัดระฆงั โฆษติ าราม) จากฝงั่ เมอื งหลวงเก่าทางทิศตะวันตก (กรงุ ธนบรุ )ี มายัง
ฝัง่ เมืองหลวงใหมท่ างทิศตะวนั ออก จงึ ทําให้เกดิ องค์ประกอบของพน้ื ทต่ี ่าง ๆ เมื่อครั้งแรกสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ใน
ขณะทห่ี ลกั เมืองนครบาลฯ เกดิ จากความต้องการใหเ้ ป็นจุดเช่ือมองค์ประกอบของกลุ่มพ้ืนทที่ างทิศใต้กับทิศเหนือ
โดยให้พิกัดของหลักเมืองตั้งโดดเด่นกลางสี่แยกของถนนนอกจากนี้ผังเมืองใหม่ยังแบ่งพื้นที่ตามความสัมพันธ์ท่ี
เชื่อมโยงกัน โดยทิศใต้จะเป็นกลุ่มของศูนยบ์ ัญชาการทําเนียบรฐั บาล ฯลฯ ในขณะที่ทิศเหนือจะถูกกําหนดให้เป็น
เขตพ้นื ทศ่ี ักด์ิสิทธิ์อันประกอบด้วยเขตวงั หลวงวัดพระแกว้ ฯลฯ โดยเริม่ จากส่ีแยกหลักเมืองนครบาลขึ้นไปทางทิศ
เหนือถึงตัวอําเภอหล่มสัก โดยที่มีแผนการตัดถนนเพิ่มให้เปน็ เส้นตรงเพื่อรองรับการ ปรับแนวถนนให้เป็นวงเวียน
กลางส่แี ยก โดยกําหนดใหห้ ลักเมืองนครบาลฯ ตั้งอยู่ตรงจดุ ตัดกลางสี่แยกนัน้

4

ภาพท่ี 1 แผนผงั การกาหนดตำ่ แหนง่ ที่ตัง้ ของหลกั เมืองนครบาลเพชรบูรณ์และพน้ื ที่ของเขตพระบรมมหาราชวัง
ท่ีมา (https://www.facebook.com/wisonk/media)

จากแผนผงั ในภาพพบว่าผังรวมของนครบาลเพชรบูรณไ์ ด้กําหนดให้ หลกั เมอื งนครบาลฯ ต้ังอยู่
กึ่งกลางสีแ่ ยกถนนสายหลักโดยมีแผนการตดั ถนนให้เป็นเส้นตรง (เส้นประในภาพ) เพื่อย่นระยะทาง และเป็นการ
เน้นแกนตรงเพื่อนําสายตาพุ่งเข้าหาหลักเมืองตั้งแต่มุมมองในระยะไกล นอกจากนี้การยกหลักเมืองให้สูงขึ้นเป็น
เนินเพื่อให้สามารถแลเห็นได้เด่นสง่า แสดงถึงการให้ความสําคัญของท่านผู้นําท่ีมีต่อหลักเมืองหลวงใหม่นี้
องคป์ ระกอบสภาพแวดล้อมดังกลา่ วทําให้มีลักษณะดงั เช่น “อนุสาวรีย”์ หรอื “อนุสรณส์ ถาน” ที่ต้ังอยู่กลางแยก
สําคัญของถนนโดยมีลักษณะเป็น “วงเวียน” ดังตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในช่วงเวลาเดียวกันคือ อนุสาวรีย์
ประชาธิปไตย และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งท่านผู้นําเป็นผู้มาทําพิธีเปิดในวันที่ 24 มิถุนายน 2483 และวันท่ี 24
มิถุนายน 2485 ตามลําดับรวมถึงการสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชท่ีวงเวยี นใหญ่ใน
พ.ศ. 2497 ซึง่ สร้างภายหลังจาก หลักเมืองนครบาลฯ ก็ยงั นยิ มสรา้ งสิ่งที่มีความสําคัญและมีความศักดิ์สิทธ์ิให้ อยู่
กลางสี่แยก

5

การวางพิกดั ของหลกั เมืองนครบาลให้เป็นองค์ประกอบสำคญั ของสถานที่ดังกลา่ วนี้มีแนวคิดมา
จากประเทศตะวนั ตกที่มีววิ ัฒนาการมาจากการวางผังอาคารให้มีลานขนาดใหญ่ โดยให้เป็นองค์ประกอบหลักของ
สภาพแวดล้อมทางสถาปัตยกรรมมาสู่รูปแบบที่ตัง้ อยู่กลางแยกสําคัญใจกลางเมืองแนวคิดดังกล่าวมีการดําเนินต่อ
เนื่องมาจากแนวคิดของคณะราษฎรดังตัวอย่างการสร้างอนุสรณส์ ถานต่าง ๆ กลางสี่แยกในลักษณะที่เป็นวงเวยี น
โดยที่คณะราษฎรยังได้เน้นให้สถานที่ตั้งดังกล่าวมีความสําคัญและสูงส่ง เช่น การแสดงความเคารพพาน
รฐั ธรรมนญู กลางทอ้ งสนามหลวงการสร้างอนสุ าวรีย์ ปราบกบฏทมี่ สี ว่ นยอดเปน็ พานรัฐธรรมนูญฯลฯ ดว้ ยเหตุนี้จึง
กล่าวได้ว่า จอมพล ป. พิบูลสงครามมีความต้องการให้หลักเมืองนครบาลเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อให้เป็นที่ระลึกใน
การกอ่ ต้ังนครหลวงใหม่ภายใต้แนวคดิ ใหมข่ องคณะราษฎร(โดยทา่ นผู้นํา)ในชว่ งเวลานั้น ซึง่ ตอ้ งการใหเ้ หตุการณ์ท่ี
มีความสำคัญนี้เป็นที่ระลึกถึงโดยการแสดงออกในรูปแบบหลักเมืองกลางสี่แยกที่มีผังและสภาพ แวดล้อมเป็นวง
เวียนการแสดงออกดังกล่าวจึงเป็นการปฏิเสธการนําพานรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นสัญญะทา งอุดมการณ์สําคัญของ
คณะราษฎรมาเป็นหมุด หมายเมืองหากแต่ได้นําระเบียบของรูปแบบเสาที่มีส่วนยอดเป็น หัวเม็ดแบบ “ไทย
ประเพณ(ี ระบบจารีต)”มาพฒั นารูปแบบโดยลดความอ่อนช้อยของรูปทรงและลวดลาย ในทางกลับกันไดเ้ พ่ิมความ
เข้มแข็งหนักแน่นของรูปทรงและลวดลายและหากจินตนาการว่าโครงการเมืองหลวงใหม่ (นครบาลเพชรบูรณ์)
สามารถบรรลุตามแผนหลักเมืองนครบาลก็น่าจะมีองค์ประกอบสภาพแวดล้อมท่ีมีจุดหมายตาในลักษณะเดียวกับ
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยหรืออนุสาวรีย์อื่นๆที่สร้างในสมัยท่านผู้นําหากแต่มีการเพิ่ม ความสําคัญในด้านความ
“ศกั ดิ์สทิ ธิ์” ในทางสญั ญะมากกวา่ รปู แบบพานรัฐธรรมนญู ทีน่ ยิ มเปน็ กระแสหลกั ของคณะราษฎรในเวลานน้ั

2. การตัง้ เสาหลกั เมืองนครบาล
เสาหลักเมืองนครบาลตัง้ อยู่บนเนินสูงตามคติจารีตโดยมกี ารยกเสาขึน้ ผ่านเครื่องทุ่นแรงด้วยการชักรอก

เสาแทนการชักลากเสาตามแบบเทคนิคดั้งเดิม ประเด็นสําคัญคือเสาหลกั เมอื งนครบาลไมม่ ีรากเสาดังเช่นเสาหลกั
เมืองตามแบบจารีตเดิมซึ่งเป็นการแสดงถึงเทคนิคและวิธีการก่อสร้างสมัยใหม่โดยการแยกเสากับชุดของฐานราก
อันมีรากเสาออกจากกัน โดยละเลยความสําคัญทางด้านคติของหมุดหมาย (เสา) หลักเมืองที่จําเป็นต้องมี
ความสัมพนั ธ์อยา่ งเป็นเอกภาพร่วมกบั พระแมธ่ รณี

6

ภาพท่ี 2 พิธตี ั้งเสาหลักเมืองหลวง นครบาลเพชรบูรณท์ ่ี ต.บุ่งน้ำเตา้ อ.หลม่ สัก เม่ือวันท่ี 23 เมษายน 2487
เวลา 14.19 น. ประกอบพิธีโดย จอมพล ป.พบิ ูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะน้นั
ท่มี า (https://www.facebook.com/wisonk/media)

2.1 รูปแบบเสาหลกั เมอื งนครบาล
ในการวิเคราะห์รูปแบบศิลปะเป็นการเปรียบเทียบเสาหลักเมืองนครบาลกับ เสาหลักเมือง

กรุงเทพฯ เพื่อตรวจสอบแนวคิดที่ต้องการให้เมืองหลวงใหม่มีองค์ประกอบสำคัญของเมืองเป็นไปในลักษณะ
เดียวกับกรงุ เทพฯ ซงึ่ รวมถึงเสาหลักเมอื งนครบาลน้ดี ว้ ยอยา่ งไรกต็ ามเนื่องจากภาพถ่ายของเสาหลกั เมืองนครบาล
กอ่ นการซอ่ มใหม่ใน พ.ศ. 2534 มีอยจู่ ํานวนไมม่ ากและรายละเอียด ลวดลายไม่ชดั เจนนัก ซึ่งจากการเปรียบเทียบ
ขนาดสัดส่วนและองค์ประกอบทางศิลปกรรมที่ผ่านการซ่อมแล้วพบว่าเสาหลักเมืองทั้งสองมีขนาดสัดส่วน และ
องค์ประกอบอ่ืนโดยทั่วไปใกล้เคียงกนั จึงทําใหเ้ ชื่อได้ว่าเสาหลักเมืองที่ซ่อมมานี้ยังคงรายละเอียดต่าง ๆ ของเสาที่
ใกล้เคียงกับเสาหลักเมืองเดิม และเพื่อความชัดเจนในการวิเคราะห์รายละเอียดของเสา บทความน้ีจึงใช้ภาพของ
เสาหลักเมอื งทผ่ี ่านการซ่อมในการวิเคราะหเ์ ปรียบเทียบแทน

7

ภาพท่ี 3 ศาลหลักเมืองนครบาลเพชรบูรณต์ ้ังอย่บู นเนนิ สูงทีเ่ กิดจากการถมดินโดยมเี สาหลักเมืองต้ังอยู่ภายใน
ดว้ ยรูปทรงท่มี มี ิติ และปรมิ าตรแสดงความเป็นเหลี่ยมเป็นสัน
ทมี่ า (https://www.facebook. com/wisonk/media)

ภาพที่ 4 ภาพเปรยี บเทยี บ เสาหลกั เมอื งนครบาล ระหว่างเสาหลกั เมืองเดิม และเสาหลักเมืองท่ซี ่อมใน
พ.ศ. 2534
ท่ีมา (https://www.facebook. com/wisonk/media)

8

2.2 องคป์ ระกอบเสาหลักเมือง
2.2.1 ส่วนยอด หวั เมด็ : ส่วนยอดสดุ เป็นชอ่ บายศรีรองรับด้วยบัวคล่มุ สามชั้น ผลฟกั ทองถูกลด

รูปให้เปน็ ระนาบเกลีย้ ง ตกแตง่ ดว้ ยลายกลีบบวั (บน-ลา่ ง), คอเสา ประดบั ดว้ ยลูกแก้วอกไก่ปลายงอน ปลายเสา
ประดบั ดว้ ยบัวคอเส้ือองค์ประกอบทั้งหมดอยู่ในผังแปดเหล่ียม

ภาพท่ี 5 สว่ นยอด
ทม่ี า (https://www.facebook. com/wisonk/media)

2.2.2 ส่วนกลางเสา ปลายบนของส่วนกลางเสาสอบงอนโค้งแบบปากปลิง โคนเสากว้างรองรับด้วย
ลายเชิงที่ฐานบัวโดยลดรูปเป็นลายกลีบบัวที่มีลวดลายเรขาคณิตสลับฟันปลาด้วยขนาดเล็ก -ใหญ่ต่อเนื่องกัน
ผังแปดเหลยี่ ม

ภาพท่ี 6 ส่วนกลางเสา
ทม่ี า (https://www.facebook. com/wisonk/media)

9

2.2.3 ส่วนฐาน ฐานสงิ หล์ วดลายเรขาคณติ มีลายกาบประจําทมี่ ุม ส่วนบนของฐานเปน็ ชุดบัวคว่ำ
ลดหลัน่ ขึน้ ไปสองชน้ั

ภาพท่ี 7 สว่ นฐาน
ทม่ี า (https://www.facebook. com/wisonk/media)

เสาหลักเมือง นครบาลฯ มีลักษณะผสมทางด้านรูปแบบระหว่างศลิ ปะแบบไทยประเพณี (ที่มีมาก่อน
คร้ังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475) ทวา่ มกี าร “ปรบั ” รูปลกั ษณ์ (Image) ของเสาหลักเมืองนครบาลฯ ให้
มีคุณลักษณะสําคัญของงานสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ได้แก่ 1) มีความเรียบง่าย (simplicity) โดยใช้รูปทรง
เรขาคณิตพื้นฐานในการออกแบบ 2) อวดรูปทรงและปริมาตร (massive and voluminous) 3) ประโยชน์ใชง้ าน
และเหตผุ ล (functional and rational) 4) แสดงความงามของโครงสรา้ งและวัสดุ (structural and materialistic
expression) เพอ่ื ให้เสาหลกั เมอื งนครบาลมีรปู ลกั ษณ์ที่เข้มแข็งทรงพลังดว้ ยการแสดงความเปน็ เหลีย่ มมมุ เพื่อเน้น
ความมีมติ ิและปรมิ าตรของเสาโดยมแี สงและเงาทําหน้าท่ีแสดงความเด่นชดั ควบคกู่ ับการพัฒนาลวดลายศิลปะไทย
แบบจารีตที่มักใช้เส้นโค้งแบบธรรมชาติมาสู่การใช้เส้นตรงแบบเรขาคณิต เพื่อให้ลวดลายแสดงจังหวะการ
เคลื่อนไหวแบบซ้ำๆ และต่อเนื่องดังเช่นเครือ่ งจักรกล โดยสามารถคงระเบียบ (Order) และองค์ประกอบรวมของ
ศิลปะไทยได้อย่างสมบูรณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานแนวคิดระหว่างศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบ
คณะราษฎร ซึ่งได้รับความนิยมในช่วงแรกที่จอมพล ป. พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 156 กับแนวคิด
จารตี ท่ีมรี ูปแบบศลิ ปะและสถาปัตยกรรมไทยประเพณี

การผสมผสานรูปแบบดังกล่าวจึงมีความสอดคล้องกับแนวคิดรัฐนิยมที่แสดงถึงความเป็น ชาตินิยม
ของท่านผู้นําโดยการพัฒนาแนวคิดจากอุดมการณ์คณะราษฎรมาเป็นอุดมการณ์รัฐชาติผ่านการออกแบบให้
ปรากฏในงานศิลปะและสถาปตั ยกรรมของเสาหลักเมืองนครบาลฯซ่งึ อยรู่ ่วมสมยั เวลานน้ั อย่างน้อย 4 ประการคือ
1.การนําแนวคิดการก่อสร้างแบบสมยั ใหม่มาใช้โดยเทคนิควิธีประกอบแต่ละชิ้นสว่ น (Modular) คือชิ้นส่วนท่อี ยู่

10

ในพื้นดิน ซึ่งอาจเป็นวัสดุ ต่างชนิดกัน ฯลฯ กับชิ้นส่วนที่อยู่บนพื้นดินคือรูปลักษณ์ของเสาหลักเมือง เพื่อให้ได้
ประสิทธผิ ลในการดําเนินงาน 2. การปรับรปู ของรูปทรง (Form) จากเสากลมที่มีความมนโคง้ ให้ความรู้สึกละมุน
มาเป็นเสาเหลี่ยมที่มีความเป็นแผ่นเป็นระนาบให้ความรู้สึกถึงความมีมิติ 3. การปรับรายละเอียดลวดลายศิลปะ
ไทยจากเส้นโค้งเลียนแบบธรรมชาติมาเป็นเส้นตรงแบบเรขาคณิตท่ีเปน็ กรอบเปน็ ระเบียบ 4. การสร้างรปู ลักษณ์
ของเสาให้เกิดความรู้สึกเข้มแข็ง ทรงพลังด้วยการแสดงมิติของรูปทรงให้มีความเด่นชัดด้วยเหลี่ยมมุมแบบ
เรขาคณิต โดยยังคงรูปลักษณ์โดยรวมของศิลปะไทยจะเห็นได้ว่าการปรากฏรูปแบบเสาแปดเหลี่ยมของหลกั เมือง
นครบาลฯ เป็นการเคลื่อนออกจากคุณลักษณะของเสาหลักเมืองท้ังทางด้านรูปแบบและคติที่มีมาแต่เดิมคือ
รูปแบบเสากลมซึ่งมีที่มาจากรูปทรงของต้นไม้ธรรมชาติที่แสดงความหมายถึงสิ่งที่ยังมีชีวิต และมีสิ่งศักดิ์สิทธ์ิสิง
สถิตอยู่ภายในไม้ธรรมชาตินั้น การตั้งเสาหลักเมอื งนครบาลฯ ด้วยเทคนิควิธีการก่อสร้างแบบสมัยใหม่ทีใ่ ช้วิธีการ
ประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเสา (Modular) โดยปฏิเสธการใช้เสาไม้ท่อนเดียวยาวต่อเนื่องเพื่อหยั่งลงดินตามคติ
เดิมจึงเป็นการลดหน้าที่และบทบาทสําคัญของเสาหลักเมืองที่มีมาแต่เดิมด้วยการตัดความยาวของเสาหลักเมือง
ซง่ึ มีความจาํ เปน็ ต้องหยั่งลงพน้ื ดิน สิ่งเหลา่ นแี้ สดงถึงการปรบั ระบบความเชื่อและความศักดส์ิ ิทธิ์ของเสาหลักเมือง
ที่มีมาแต่เดิมให้สอดคล้องกับพัฒนาการทางด้านเทคนิคและวิธีการ สร้างและตั้งเสาหลักเมืองซึ่งมีผลไปสู่การ
เคลื่อนคติและแนวคิดของหลักเมืองในเวลาต่อมาเป็นที่น่าสังเกตว่ารูปแบบงานศิลปกรรมของเสาหลักเมืองนคร
บาลมีลักษณะท่ีสอดคลอ้ งกบั งาน สถาปตั ยกรรมแบบเครื่องคอนกรีตท่ีสรา้ งสรรค์ โดยพระพรหมพิจิตรซ่ึงร่วมสมัย
เวลาเดียวกบั การสร้างเสาหลกั เมอื งนครบาล โดยงานศิลปสถาปตั ยกรรมแบบเคร่ืองคอนกรีตมลี กั ษณะเดน่ จากการ
ประยุกต์ องค์ประกอบงานตกแต่งด้วยรูปแบบที่เรียบง่ายขึ้น และลดความอ่อนช้อยด้วยการตัดทอนรายละเอียด
ของกระบวนลายอย่างงานไม้หรืองานปูนปั้นลง รวมทั้งใช้เส้นตรงในการประดิษฐ์ลวดลายมากขึ้น จุดเด่นในงาน
ของพระพรหมพิจิตรคือการพัฒนาระบบโครงสร้างและวัสดุให้สอดรับกับแนวคิดโลกสมัยใหม่ในช่วงเวลานั้น คือ
การผสานความเรียบเกลี้ยงที่ให้ความรู้สึกเข้มแข็ง ทรงพลัง ของงานช่างศิลปะและสถาปัตยกรรมสมัยใหม่กับ
คณุ คา่ ความงามทางจังหวะ สัดส่วน และรายละเอยี ดของงานช่างไทยแบบจารีตโดยการพฒั นาแนวคิดด้านวัสดุที่มี
ในอดีตจากเครื่องไม้และงานก่ออิฐถือปูนมาเป็นงานเครื่องคอนกรีตผสานกับระเบียบขององค์ประกอบทางศิลปะ
และสถาปัตยกรรม ลงไปจนถึงลวดลายที่คงความเป็นไทยที่มีความเปน็ ระเบียบเรยี บรอ้ ยแบบจารีต แต่กลับทํา
ให้งานที่สร้างสรรค์มานั้นให้ความรู้สึกถึงความเข้มแข็งแบบเครื่องคอนกรีต อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนดัง
ตัวอย่างเช่น หอระฆัง และเจดีย์วัดพระศรีรัตนมหาธาตุบางเขนประตูสวัสดิโสภา, เมรุวัดจักรวรรดิราชาวาส และ
แม้ว่าเสาหลักเมืองนครบาลจะมีรูปแบบลักษณะอย่างเครื่องคอนกรีต ซึ่งสามารถขึ้นแบบหล่อให้สมบูรณ์แข็งแรง

11

ตามลักษณะของสัจจะ วัสดุคอนกรีตแต่กลับถูกกําหนดให้ใช้วัสดุเป็นไม้มงคลตามคติแนวคิดจารีตเดิมของ
สงั คมไทย เหลา่ น้ีลว้ นแสดงถงึ การผสมผสานคตจิ ารตี และแนวคิดสมยั ใหม่อย่างชดั เจน

2.3 รูปแบบศิลปะและสถาปัตยกรรมหลักเมือง
หลักเมืองนครบาลเพชรบูรณ์ซึ่งเป็นเสาหลักเมืองหลักแรกที่ไม่ได้ปักลงดิน หากแต่ตั้งบนพื้น

คอนกรีตของอาคารศาลหลักเมือง และมีรูปทรงแปดเหลี่ยมโดยคงผสมผสานรูปลักษณ์ศิลปะไทยชี้ให้เห็นถึงพล
วัตรการสืบต่อรูปแบบงานช่างศิลปะไทย ดังเห็นได้จากความนิยมสร้างเสาหลักเมอื งเป็นเสาแปดเหลี่ยมมากขึน้ ใน
ปจั จบุ นั เชน่ เสาหลกั เมอื งจังหวดั อุบลราชธานีพ.ศ. 251964 ฯลฯ อกี ทั้งยงั พบการสรา้ งเสาหลักเมืองท่ีไม่ได้ปักลง
ดินอีกหลายแห่งคือหลักเมือง พัทลุง หลักเมืองเลย หลักเมืองสุรินทร์ฯลฯ ทั้งน้ีเราสามารถจินตนาการถึงผังเมือง
นครบาลเพชรบูรณ์ที่สมบูรณ์ได้โดยดจู ากผังเมืองจังหวัดยะลา ที่มีหลักเมืองตั้งอยู่กลางวงเวียนในฐานะศูนย์กลาง
ของจังหวัดซ่ึงสร้างขนึ้ เมอื่ พ.ศ. 2505 ในสมยั จอมพลสฤษดธิ์ นะรัชตเ์ ป็นนายกรัฐมนตรี

3. พธิ กี ารบวงสรวงเสาหลักเมือง
23 เมษายน 2561 ที่ศาลหลักเมืองนครบาล ตำบลบุ่งน้ำเต้า อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ นาย

พิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานในพิธีบวงสรวงสมโภชศาลหลักเมืองนครบาล
เพชรบรู ณแ์ ละสักการะอนุสาวรีย์ จอมพล ป. พบิ ลู สงคราม (74 ปี)ย้อนไปยังสมัยสงครามโลกครั้งท่ี 2 และสงคราม
มหาเอเชียบูรพา กรุงเทพมหานครถูกข้าศึกโจมตีประชาชนต้องอพยพออกต่างจังหวัด จอมพล ป.พิบูลสงคราม
นายกรัฐมนตรีในยุคนั้นจึงมีนโยบายย้ายเมืองหลวงไปยังที่ปลอดภัยและได้เลือกเพชรบูรณ์เป็นสถานที่ตั้งเมือง
หลวง เพราะเปน็ เมืองทีม่ ีชัยภมู ิเหมาะสม มภี ูเขาล้อมรอบ ทีมางออกเดียวศตั รูรุกรานไดย้ าก คณะรฐั มนตรจี ึงได้ยก
ร่างพระราชกำหนดสร้างนครบาลขึ้น ชื่อว่า พระราชกำหนดระเบียบการบริหารนครบาลเพชรบูรณ์และสร้างพทุ ธ
บุรี พ.ศ.2487 ต่อมาวันที่ 23 เมษายน 2487 จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ทำพิธีฝังเสาหลักเมืองขึ้น ณ บ้านบุ่ง
น้ำเต้า ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2487 สภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่
อนุมัติพระราชกำหนดระเบียบการบริหารนครบาลเพชรบูรณ์พุทธบุรี พ.ศ.2487 จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ย่ืน
ใบลาออกจากตำแหนง่ เม่ือ วันท่ี 24 กรกฎาคม 2487 นครบาลเพชรบูรณจ์ งึ เป็นอนั ส้ินสดุ หนว่ ยงานราชการต่างๆ
จึงตอ้ งยา้ ยกลับกรุงเทพมหานคร

12

ศาลหลักเมืองนครบาลเพชรบูรณ์ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของชาวเพชรบูรณ์แสดงหลักฐาน
การย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ประชาชนชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ให้ความเคารพบูชาถือว่าเป็นส่ิง
ศักดส์ิ ทิ ธคิ์ ่บู า้ นค่เู มือง และในบริเวณของศาลหลักเมืองฯ ได้มกี ารจดั สร้างอนสุ าวรีย์ จอมพล ป.พบิ ูลสงคราม เป็น
รูปหล่อโลหะขนาดเทา่ ตวั จรงิ ในเท่ายนื ชาวอำเภอหล่มสักจงึ ได้จดั ใหม้ พี ิธบี วงสรวงศาลหลักเมอื งนครบาล และวาง
พวงมาลาสักการะอนุสาวรีย์ จอมพล ป.พิบลู สงคราม ขึ้นเปน็ ประจำปีทุกปี เพ่ือแสดงความเคารพและรำลึกถึงคุณ
งามความดขี องผทู้ ม่ี สี ว่ นสำคัญในการสร้างเมอื งเพชรบูรณ์ ซึง่ คร้งั หนึง่ ท่านได้มดี ำรทิ ี่จะกอ่ สร้างบา้ นเมืองหลวงของ
ประเทศไทย ณ ทแ่ี ห่งน้ี โดยไดก้ ำเนนิ การจดั กจิ กรรมสืบตอ่ กนั มาจนถึงปจั จบุ นั

3.1 พธิ ีการบวงสรวงเสาหลกั เมอื ง
- พราหมณ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ประกอบพิธี ทุกฝ่ายพร้อมกัน ณ เสาหลักเมืองนครบาล ตำบลบุ่ง

น้ำเต้า อำเภอหล่มสกั จงั หวดั เพชรบรู ณ์
- หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ

แขกผมู้ ีเกยี รติพร้อมกนั ณ บรเิ วณพิธี
- ผู้ว่าราชการจงั หวัดเพชรบูรณ์ (นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์) ประธานในพิธีเดนิ ทางมาถงึ บรเิ วณ

พธิ ี
- การแสดงถวายเสาหลักเมืองเพชรบูรณ์ ชดุ ระบำอัปสรา บูชาเสาหลกั เมือง
- ประธานในพธิ ี หัวหน้าส่วนราชการ แขกผู้มีเกยี รติร่วมจุดธูปเทียนบูชาเสาหลักเมืองฝั่งขวาและ

ฝง่ั ซ้าย (ดา้ นลา่ ง) ปิดทอง ถวายพวงมาลัย ผกู ผ้า ๗ สี ทเ่ี สาหลกั เมอื ง
- ประธานในพิธี และนายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ถวายพวงมาลัยที่หน้าเสาหลักเมือง

(ด้านบน)
- ประธานในพธิ ี เดินมาท่โี ต๊ะเครอื่ งบวงสรวง จดุ ธูปเทียนบูชาท่เี ครื่องบวงสรวง
- พราหมณอ์ ัญเชญิ เทพยาดา และกล่าวบูชาบวงสรวงเสาหลกั เมือง
- การแสดงถวายเสาเมืองเพชรบูรณ์
- พราหมณ์ และแขกผมู้ เี กยี รติกล่าวลาเครอื่ งสังเวย
- เสรจ็ พิธี
- ประธานในพิธี กราบลาเสาหลักเมอื งเพชรบูรณ์

13

4. การทอ่ งเที่ยว
4.1 กลมุ่ นกั ท่องเทย่ี ว
กลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ และมีนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดที่เดิน

ทางผ่านมา แวะเข้ามาสักการะบูชาและขอพร เพื่อเป็นสิริมงคล ส่วนช่วงเดือนเมษายนจะมีพิธีบวงสวงสมโภช
ศาลหลักเมืองนครบาลเพชรบูรณ์และสักการะอนุสาวรีย์ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่ศาลหลักเมืองนครบาล
เพชรบูรณ์ ตำบลบุ่งนำ้ เตา้

4.2 วนั เวลาทำการ
ชว่ งเวลาทใี่ หเ้ ข้าสกั การะบชู า
วันจนั ทร์ 06:00 น. – 18:00 น.
วันองั คาร 06:00 น. – 18:00 น.
วนั พุธ 06:00 น. – 18:00 น.
วันพฤหสั บดี 06:00 น. – 18:00 น.
วันศุกร์ 06:00 น. – 18:00 น.
วันเสาร์ 06:00 น. – 18:00 น.
วันอาทิตย์ 06:00 น. – 18:00 น.

4.3 การเดินทาง
ศาลหลักเมืองนครบาลเพชรบูรณ์ ตั้งอยูท่ ่ีตำบลบ่งุ น้ำเต้า อำเภอหลม่ สัก จังหวัดเพชรบรู ณ์

14

โดยศาลหลักเมอื งนครบาลเพชรบรู ณ์ อย่หู า่ งจากแยกบุง่ น้ำเต้า(ถนนสระบุรี-หลม่ สัก)ประมาณ 200 เมตร
บนถนนหมายเลข 2215 หรอื ทางไปท่าอากาศยานเพชรบรู ณ์ สามารถคน้ หาศาลหลกั เมืองนครบาลเพชรบรู ณ์จาก
Google Map โดยใชค้ ำค้นหาวา่ “ ศาลหลักเมอื งนครบาลเพชรบรู ณ์ ”

สรปุ
แม้ว่าจอมพล ป.พิบูลสงคราม จะดําเนินนโยบายทางการเมืองตามแบบชาตินิยมที่มีความเข้มข้นกว่า

ในช่วงต้นของการปกครองโดยคณะราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการนาเอาวัฒนธรรมมาเป็นเครื่องมือหนึ่งในการ
สร้างชาติหลังจากการเปลี่ยนชื่อประเทศจากสยามมาเป็น “ไทย” เพื่ออมุ่งหวังให้รัฐไทยมีความ เป็นอารยะแบบ
ใหม่ด้วยการเชื่อมต่อแนวคิดจารีตอันเป็นรากแก้วในระบบ ความเชื่อศรัทธาของสังคมไทยที่เคยมีอยู่เดิม กับ
แนวคิดสมัยใหม่ที่กลุ่มคณะ ราษฎรได้นํามาสื่อสารผ่านงานศิลปสถาปัตยกรรมต่อสาธารณชนตั้งแต่หลัง
เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นต้นมา หลักเมืองนครบาลเพชรบูรณ์อันเป็น แนวคิดแสดงหมุดหมายของเมืองหลวง
ใหม่ยังแสดงให้เห็นถึงร่องรอยแห่ง การสร้างรัฐ “ไทยใหม่” ผ่านแผนการสร้างนครหลวงใหม่ภายใต้อุดมการณ์
“รัฐนิยม” ด้วยการรักษาดุลยภาพของทั้งสองขั้วแนวคิดทางการเมอื งการ ปกครอง อันได้แก่ กลุ่มอํานาจเก่าแบบ
จารีต และกลุ่มอํานาจใหม่ของคณะ ราษฎร โดยการผสมผสานสองแนวคดิ จนเกิดเป็นแนวคดิ ใหม่ในสมัยของทา่ น
ผู้นาํ นอกจากนก้ี ารกาํ หนดพกิ ัดของท่ีตั้งหลกั เมืองนครบาลเพชรบรู ณ์ให้ ตง้ั อยู่กง่ึ กลางสีแ่ ยกเพื่อให้เปน็ จดุ หมายตา
ทั้งในระดับมุมมองปกตแิ ละมุมมองทางอากาศตลอดจนการผสมผสานสองลักษณะเด่นทางแนวคิดศิลปะที่ปรากฏ

15

ในรูปแบบของเสาหลักเมืองนครบาลฯ เป็นแนวคิดทไ่ี ม่เคยปรากฏในคตกิ ารต้ังหลักเมอื งท่ีมีมาก่อนน้ีปรากฏการณ์
ดังกล่าวล้วนแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการแนวคิดท่ีเปลี่ยนไปจากช่วง 6 ปีแรกในการเป็นผู้นําของจอมพล ป. พิบูล
สงคราม ที่ยังคงสมบูรณ์ด้วยแนวคิดศิลปสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ ตาม อุดมการณ์ของคณะราษฎร65 จากน้ันได้มี
การพัฒนาแนวคิดโดยผสมผสานให้ ศิลปกรรมมีภาพลักษณ์คงความเป็น “ไทย” ที่มีความทันสมัยและเข้มแข็ง
ตามอุดมการณแ์ ละแนวคดิ นยิ มของ “ท่านผู้นํา” ซึง่ มีความเฉพาะตนอยา่ ง ชดั เจน

ร่องรอยที่พบจากหลักฐาน ศิลปะ สถาปัตยกรรม และผังเมืองในช่วง เวลาแห่งความพยายามตั้งเมือง
หลวงใหม่ของจอมพล ป. พิบูลสงคราม จึงเป็น ผลสรุปทางแนวคิด “ศิลปสถาปัตยกรรมหลักเมือง” ของช่วงเวลา
ดังกล่าว โดยเผยให้เห็นถึงแนวคดิ ของ “ท่านผู้นํา” ที่มีความสัมพันธ์ต่อรูปแบบการ สร้างหลกั เมืองหลวงใหม่ผา่ น
การผสมผสานแนวคิดจารีตและแนวคิดสมัยใหม่ ซึ่งอยู่ในช่วงเวลาของการเปลี่ยนผ่านแนวคิดทางการเมืองการ
ปกครองจาก “สยามใหม”่ (กอ่ น พ.ศ. 2475) มาเปน็ “ไทยใหม”่ ด้วยการตัง้ เสาหลักเมอื ง นครบาลฯ ให้เป็นหมุด
หมายแรกของเมืองหลวงแห่งใหม่ผ่านรูปแบบศิลปะของ เสาหลักเมือง ตลอดจนการกาหนดผังเมืองโดยให้หลัก
เมืองเป็นจุดศูนย์กลาง เมือง ณ จุดตัดของถนนสายหลักกลางวงเวียน แม้ว่าหลักเมืองนครบาลเพชรบูรณ์ จะไม่
ประสบความสําเร็จในการก่อสร้างตามโครงการย้ายเมืองหลวงฯ อย่างเป็น รูปธรรมทั้งหมด ทว่าแนวคิดและ
รูปแบบ “ศลิ ปสถาปตั ยกรรมและผังเมือง” ของหลักเมืองนครบาลฯ ยงั คงเป็นประจักษ์หลักฐานสําคัญท่ีหลงเหลือ
อยู่

16

บรรณานกุ รม

17

บรรณานกุ รม

พรพรรณ เกิดผล, “การเปลีย่ นแปลงคตคิ วามเชื่อเรื่อง เสาหลกั เมอื งสมัยรัตนโกสนิ ทร์ตัง้ แต่ พ.ศ. 2325–
2535” (วทิ ยานพิ นธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาประวัตศิ าสตร์ คณะศิลปศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2542), 158.

ความเชอ่ื เรอื่ งเสาหลักเมืองสมยั รตั นโกสินทรต์ งั้ แต่ พ.ศ.2325-2535. [ออนไลน]์ . สบื ค้นไดจ้ าก :
https://www.facebook. com/wisonk/media_set ?set=a.10151920894682
168.1073741862.61364 7167&type=38.1073741 862.613647167&type=3.
(วนั ทสี่ บื ค้นข้อมูล: วันที่ 11 กมุ ภาพนั ธ์ 2565).

หลักเมืองนครบาลเพชรบรู ณ์. [ออนไลน]์ . สบื ค้นได้จาก:
file:///C:/Users/Asus-PS/Downloads/wangkran_sdefault.groups.name.editor5-1-
1%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%8C-
122-153%20(3).pdf. วันทค่ี น้ ขอ้ มลู : 11 กุมภาพันธ์ 2565).

หอโบราณคดีเพช็ รบรู ณ์อนิ ทราชัยและสอบถามวทิ ยากรช่ือนางสาวสุทตั ตา พรหมประเสรฐิ .
(วันท่ี 15 กมุ ภาพนั ธ์).


Click to View FlipBook Version