รายงานวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยดี ิจทิ ลั เพ่ือการเรียนรู้
เรื่อง สถานการณ์ปญั หาและภารกจิ การเรยี นรู้ บทที่ 2
โดย
นางสาวศศธร อาจอินทร์
รายงานนี้เป็นส่วนหนึง่ ของการเรียนรายวชิ านวตั กรรมและเทคโนโลยดี ิจทิ ัลเพื่อการเรยี นรู้
ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2565
มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่
คำนำ
รายงานฉบับน้เี ป็นส่วนหนึง่ ของรายวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลเพื่อการเรียนรู้
(ED002006) โดยมีจดุ ประสงคเ์ พอื่ นำเสนอสถานการณ์ปัญหาและภารกิจการเรียนร้บู ทท่ี 2 เพ่อื ใหไ้ ด้ศึกษา
ความรเู้ กีย่ วกับเร่ืองเทคโนโลยีและสารสนเทศการศกึ ษาและการเรยี นรู้ จากสถานการณ์ทกี่ ำหนด พร้อมทงั้ นำ
ความรู้ท่ีไดไ้ ปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวัน
ผู้จดั ทำหวงั วา่ รายงานฉบบั นี้จะเปน็ ประโยชน์กบั ผู้อ่าน หรือนักเรยี น นกั ศกึ ษา ทก่ี ำลงั หาข้อมูล
เรือ่ งนี้อยู่ หากมีขอ้ แนะนำหรอื ข้อผดิ พลาดประการใด ผจู้ ดั ทำขอนอ้ มรบั ไวแ้ ละขออภัยมา ณ ที่นด้ี ว้ ย
นางสาวศศธร อาจอนิ ทร์
สารบญั
เร่อื ง หนา้
คำนำ 1
สารบัญ 2
สถานการณ์ปญั หา 3
ภารกิจข้อท่ี 1 4
ภารกจิ ข้อที่ 2
ภารกจิ ข้อท่ี 3
บรรณานกุ รม
1
สถานการณป์ ัญหา
เกษสรุ างค์เปน็ คณุ ครสู อนวชิ าสังคมศกึ ษา คุณครเู กษสุรางคส์ อนมาแลว้ มากกว่า 20 ปี
โดยทกุ ครง้ั ทส่ี อนเกษสุรางคจ์ ะเตรียมการสอนเปน็ อยา่ งดี มวี ิธีการสอนคอื ให้นักเรยี นอา่ นตามหนงั สือ
เรยี นแล้วทาํ แบบฝกึ หัด บางทีกใ็ หท้ ่องจาํ แล้วมาสอบเพือ่ เก็บคะแนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่อง
เกย่ี วกบั ภมู ิศาสตร์ โดยใหท้ อ่ งชือ่ จังหวดั ตา่ งๆในภมู ภิ าค ซง่ึ ในบางครั้งหนงั สอื เรียนท่คี ุณครู
เกษสุรางค์ใช้ก็เปน็ เล่มเดมิ ทเี่ รียนผา่ นมาหลายๆร่นุ ซึ่งแต่กอ่ นเด็กนกั เรียนจะสอบได้คะแนนดี แตใ่ น
ปัจจุบนั พบว่าในชน้ั เรยี นคณุ ครูก็เก็บคะแนนเดก็ กท็ ่องมาสอบก็ไดค้ ะแนนดี แตพ่ อเรียนไปนกั เรียนก็
จะรอรบั แต่ความรู้จากครเู กษสุรางค์ ไม่ชอบคดิ ค้นและพยายามหาความรู้ใหมๆ่ แต่พอเวลาเปน็
ข้อสอบกลาง เช่น ข้อสอบ O-net นักเรยี นจะได้คะแนนนอ้ ยมาก ท้งั ๆทเี่ วลาทคี่ ุณครูเกษสุรางคต์ ง้ั ใจ
สอนเปน็ อย่างดี
2
ภารกจิ การเรียนรู้ข้อที่ 1
วิเคราะห์แนวคดิ วิธกี ารจัดการเรียนการสอน และการใช้สอ่ื การสอนของครเู กษสรุ างค์
ตลอดจนวธิ กี ารเรียนรูข้ องนกั เรียน วา่ สอดคล้องกับยคุ ปฏิรูปการศกึ ษาทเ่ี นน้ ผู้เรยี นเป็นสําคญั หรือไม่
พรอ้ มทั้งให้เหตผุ ลประกอบ
ตอบ ไม่สอดคลอ้ งกับยุคปฏริ ปู การศกึ ษาท่เี นน้ ผ้เู รยี นเปน็ สําคัญ เพราะจากการจดั การเรยี นการสอน
ของครเู กษสุรางคน์ ้ัน ครูเปน็ ผถู้ า่ ยทอดความรู้ดา้ นเน้อื หาและส่งความรู้ใหน้ กั เรยี นโดยตรง ไมผ่ า่ น
กระบวนการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน นกั เรียนเปน็ ผู้รอรับความร้จู ากครูเพื่อจำบทเรียนโดยตรงเพราะ
มกี ารทดสอบการท่องจำ ต่างจากการจัดการเรียนรทู้ เี่ นน้ ผ้เู รยี นเป็นสำคัญท่คี รจู ะเป็นผู้จดั แผนการ
เรยี นรขู้ องนกั เรียนและมหี นา้ ทีค่ อยแนะนำส่งเสรมิ อำนวยการแก้ปัญหาและชน้ี ำความรู้ นกั เรยี นจะ
เป็นผ้แู กป้ ัญหาดว้ ยตนเองและเพื่อนๆ มีการแลกเปลย่ี นความรูก้ ัน ทำใหน้ กั เรียนเกดิ การเรยี นรู้จาก
กระบวนการคิดวเิ คราะห์
3
ภารกจิ การเรียนรู้ขอ้ ที่ 2
วเิ คราะห์เกย่ี วกบั การเปล่ยี นแปลงทางการศกึ ษามาสูย่ ุคปฏริ ูปการเรยี นรู้ว่ามกี าร
เปล่ียนแปลงทางด้านใดบ้าง พร้อมทัง้ อธบิ ายเหตผุ ลสนบั สนุน
ตอบ การเรยี นการสอนแบบเดมิ ครูจะเป็นผู้ถ่ายทอดเนอื้ หา เปน็ ผู้ดำเนนิ การวางแผนการดำเนนิ การ
และประเมินผลพฤตกิ รรมของผู้เรียน ในขณะที่ผูเ้ รยี นนงั่ ฟงั และรอรบั ความรู้จากครูเพียงอย่างเดยี ว
ผู้เรยี นจะไดร้ ับเพียงความรู้ทค่ี รถู า่ ยทอดมาให้ ไม่สามารถคิดไดน้ อกเหนือจากท่ีไดร้ ับ เนน้ การทอ่ งจำ
มากกว่าการจัดการความรูใ้ นวิธีอื่นๆ ในปจั จุบันเกิดแนวคดิ ใหม่เกย่ี วกับการจดั การเรียนการสอน การ
เรียนการสอนทีเ่ น้นผู้เรยี นเป็นสำคัญ ครเู ป็นผู้จดั เตรยี มแผนการจัดการเรยี นรู้ เป็นผสู้ ง่ เสริม ชี้แนะ
การแก้ไขปญั หาตา่ งๆของผู้เรียนพรอ้ มทง้ั จัดเตรรียมสิ่งทจี่ ะตอบสนองต่อการเรียนรูข้ องผเู้ รยี นอยา่ ง
หลากหลายรอบดา้ นและต้องสอนพ้นื ฐานความเป็นมนุษย์ท้งั คุณธรรมจรยิ ธรรม การมปี ฏสิ มั พนั ธ์กบั
ผ้คู น การนำเทคโนโลยแี ละสารสนเทศมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรยี นไดเ้ รยี นรู้อย่าง
เทา่ ทันโลก ผเู้ รียนจะไดเ้ รยี นรูก้ ารแก้ปญั หาดว้ ยตนเองพร้อมแลกเปลยี่ นเรยี นรู้กบั เพอื่ นๆและครู
อยา่ งต่ืนตวั จากท่ีกลา่ วมาข้างต้นการศึกษามีการเปลย่ี นแปลงไปตั้งแตบ่ ทบาทของผูส้ อน บทบาทของ
ผู้เรยี น รวมทง้ั วธิ ีการจัดการเรียนการสอนตลอดจนการนำเทคโนโลยมี าใช้ในการศึกษา
4
ภารกิจการเรยี นรู้ขอ้ ที่ 3
ปรับวธิ ีการสอนและวธิ ีการใช้สอื่ การสอนของครเู กษสุรางค์ ใหเ้ หมาะสมกบั ยุคปฏิรปู
การศึกษาท่ีเน้นผูเ้ รียนเป็นสําคญั
ตอบ ครเู กษสรุ างค์ควรนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการทำสือ่ การสอน ในการจำชื่อจงั หวดั อาจจะทำใน
รูปแบบเกมทายวา่ จงั หวดั นอี้ ยู่ภาคใดหรอื นำชอื่ จงั หวัดในแตล่ ะภาคมาทำเป็นเพลงที่คลอ้ งจองกนั
เปน็ การใชเ้ ทคนคิ การจำ ทำให้นกั เรียนสามารถจำไดง้ า่ ยและนานขึ้น นอกจากนยี้ ังมีการนำเทคโนโลยี
มาใชใ้ นการเรยี นรเู้ นื้อหาเกยี่ วกบั วชิ าสังคมในบทเรยี นเร่ืองอนื่ ๆ อาจจะต้งั ปัญหาท่ที า้ ทายมากระตุน้
ความสงสยั และทำใหเ้ กดิ ความอยากรู้ของผเู้ รยี นพรอ้ มท้ังเสรมิ แรงด้วยการให้รางวลั เมื่อผเู้ รยี นทำ
แบบทดสอบได้ถกู ตอ้ ง ควรมแี หล่งข้อมูลให้ผูเ้ รยี นได้สบื ค้นทั้งแหล่งขอ้ มูลทางเทคโนโลยสี ารสนเทศ
และแหล่งข้อมูลสงิ่ พิมพ์ ตัวอยา่ งการจัดการเรยี นรู้ เช่น ให้ผูเ้ รยี นแตล่ ะคนมาจบั ฉลากคำถามเก่ียวกับ
เร่ืองวัฒนธรรมของภมู ิภาคตา่ งๆในประเทศไทย ซ่ึงคำถามน้ันจะมคี ำถามท่ซี ำ้ กัน ให้นกั เรยี นสบื คน้
ขอ้ มลู และนำข้อมลู ท่ีนน้ั มาแลกเปลีย่ นกันในชั้นเรียน เมอ่ื ใกลห้ มดคาบใหท้ ำการทดสอบนักเรยี นโดย
การสมุ่ ถามคำถาม เช่น วัฒนธรรมการกนิ ของภาคเหนือเปน็ อยา่ งไร วฒั นธรรมการแต่งกายของภาค
อสี านเป็นอย่างไร เป็นตน้ โดยทกี่ ลา่ วมาข้างต้นใชห้ ลักการในการจดั การเรยี นการสอน ดงั น้ี
1. ครเู ตรียมเนอ้ื หาการสอนและวธิ ีการสอน
2. ครูและผเู้ รยี นจดั สภาพแวดล้อมให้เหมาะสมแก่การเรียนรู้
3. ครูเอาใจใสผ่ ้เู รียนเป็นรายบคุ คล เพราะพฒั นาการของเดก็ แตล่ ะคนแตกตา่ งกัน
4. เนน้ กิจกรรมการเข้ากลุ่มเพอื่ ให้ผู้เรยี นมปี ฏิสมั พนั ธ์กับเพ่อื นๆ
5. ฝกึ ใหผ้ ้เู รยี นคิดแก้ไขสถานการณใ์ นชีวติ จรงิ
6. ใช้แหลง่ ความรทู้ ี่หลากหลายและเชื่อมโยงกบั ประสบการณ์จริง
บรรณานุกรม
สรุ ยิ งค์ สรุ ิยะใจ.(2562).รูปแบบการเขียนรายงาน.ค้นเมือ่ 19 ธันวาคม 2565,จาก
https://sites.google.com/site/suriyongsuriya/rup-baeb-kar-tha-rayngan
เอกสารคาํ สอน ED002006.(ม.ป.ป.).คน้ เม่ือ 19 ธนั วาคม 2565,จาก
https://cdn.fbsbx.com/v/t59.2708-
21/278783029_311135314488214_212227831701283288_n.pdf/%E0%B8%9A%E0%B8
%97%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-2-new.pdf?_nc_cat=103&ccb=1-
7&_nc_sid=0cab14&_nc_ohc=zWf9vsClkoUAX_5AaD7&_nc_ht=cdn.fbsbx.com&oh=03_
AdSEU6tKmsKNN-gBdEmYYadbMJGiHkxW5jM_u8MPKyXO1Q&oe=63A355FB&dl=1