The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์สุขาวดีวยุหสูตรพุทธศาสนามหายาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์สุขาวดีวยุหสูตรพุทธศาสนามหายาน

ศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์สุขาวดีวยุหสูตรพุทธศาสนามหายาน

Proceedings งานประชมุ วิชาการระดบั ชาติ คร้งั ท่ี 4 (MCU.RK.2022)

รายงานสืบเร่อื งจากการประชุมวชิ าการ (Proceedings)
งานประชุมวิชาการระดับชาติ ครงั้ ที่ 4 The 4rd National Conference (MCU.RK.2022)

เรอ่ื ง “พุทธศาสนาเพอ่ื เยยี วยาโลกแหง่ อนาคต”

ISBN : 978-616-577-004-0

เผยแพร่ออนไลน์ : https://rk.mcu.ac.th/con/

ท่ีปรกึ ษา พระธรรมวัชรบณั ฑิต, ศ.ดร.
พระพรหมบณั ฑติ , ศ.ดร. พระเทพศาสนาภบิ าล, ดร.
พระเทพวชั รเมธี, ผศ.ดร.

กองบรรณาธกิ าร บรรณาธกิ าร
พระมหาบุญเลศิ อนิ ฺทปญโฺ , ศาสตราจารย์ ดร. กองบรรณาธิการ
พระสุธีรัตนบณั ฑติ , รองศาสตราจารย์ ดร. กองบรรณาธิการ
พระมหาสมบรู ณ์ วฒุ ิกโร, รองศาสตราจารย์ ดร. กองบรรณาธิการ
พระมหามฆวนิ ทร์ ปุริสตุ ฺตโม, ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. กองบรรณาธกิ าร
พระปลัดประวทิ ย์ วรธมโฺ ม, ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. กองบรรณาธกิ าร
ศาสตราจารย์ ดร.บุญทนั ดอกไธสง กองบรรณาธิการ
ศาสตราจารย์ ดร.วัชระ งามจติ รเจริญ กองบรรณาธกิ าร
รองศาสตราจารย์ ดร.วุฒนิ นั ท์ กนั ทะเตยี น กองบรรณาธิการ
รองศาสตราจารย์ ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ กองบรรณาธกิ าร
รองศาสตราจารย์ ดร.สิริกร กาญจนสุนทร กองบรรณาธกิ าร
รองศาสตราจารย์ พ.ต.อ.หญิง ดร.ศิริพร นุชสาเนยี ง กองบรรณาธิการ
รองศาสตราจารย์ ดร.วรวทิ ย์ นเิ ทศศิลป์ กองบรรณาธิการ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กงั วล คัชชมิ า กองบรรณาธกิ ารและเลขานุการ
พระมหาประกาศิต สิรเิ มโธ, ดร. ผชู้ ่วยกองบรรณาธิการ
คณาจารย์ เจา้ หนา้ ที่ วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรที วารวดี

จดั ทาโดย :
วทิ ยาลัยสงฆ์พทุ ธปัญญาศรีทวารวดี เลขท่ี 51 หมทู่ ี่ 2 ตาบลไร่ขิง อาเภอสามพราน จังหวดั นครปฐม

73210 โทรศัพท์/โทรสาร 034-326912 WWW.RK.MCU.AC.TH

สงวนลขิ สิทธ์ติ ามพระราชบญั ญตั ิ

Proceedings งานประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ ครั้งที่ 4 (MCU.RK.2022)

บทบรรณาธิการ

ในสภาวะที่เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ได้ส่งผลกระทบ ที่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลง
ให้กับโลกเศรษฐกิจ สังคม การเมือง รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คน จนเกิดเป็นวิถีชีวิตใหม่ที่เรียกกันว่า “New
Normal” การนาองค์ความรู้ทางพระพุทธศาสนามาบูรณาการเพ่ือรับมือกับความเปลี่ยนแปลงหรือสถานการณ์ที่
สร้างความเปล่ียนแปลงใหม่ ๆ ท่ีจะเกิดข้ึนอย่างเป็นพลวัตในอนาคตที่เรียกกันว่า “Next Normal” วิทยาลัยสงฆ์
พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฐานะสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาของ
คณะสงฆ์ไทย ได้ตระหนักถึงความสาคัญของการผลิตและเผยแพร่ผลงานวิจัยหรือผลงานวิชาการเพ่ือให้เกิดการ
นาไปใช้ประโยชน์ท้ังด้านการเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID- 19 รับมือกับความ
เปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ที่จะเกิดข้ึน รวมถึงวิถีการดาเนินชีวิตท่ีเรียกกันว่า “Next Normal” จึงได้กาหนดจัดการ
ประชุมวิชาการระดับชาติ คร้ังท่ี 4 และระดับนานาชาติ ครั้งที่ 1 ในหัวข้อเร่ือง “พุทธศาสนาเพ่ือเยียวยาโลกแห่ง
อนาคต” The 4th National and the 1st International Conference on “Buddhism for Healing the World
of the Future” (MCU.RK.2022) โดยเป็นการจัดประชุมแบบออนไลน์ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนและ
เผยแพร่ผลงานทางวิชาการท้ังระดับชาติและนานาชาติ สู่การนาไปใช้ประโยชน์เชิงบูรณาการในสังคมในการรับมือ
สถานการณ์ความเปล่ียนแปลงใหม่ ๆ ท่ีเกิดขึ้นในโลกยุคปัจจุบันและอนาคต และเพ่ือสร้างเครือข่ายความร่วมมือ
ด้านวชิ าการในการแลกเปล่ียนประสบการณ์ทางานและเผยแพร่งานวิชาการแก่สาธารณะชนสู่การนาไปใช้ประโยชน์
ในเชงิ สงั คมท้งั ระดับชาติและนานาชาติ

ในการประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งท่ี 4 น้ี มีการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “พุทธศาสนาเพ่ือการเยียวยาโลก
แห่งอนาคต” โดยพระธรรมวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย การเสวนา
วชิ าการ การนาเสนอผลงานวิชาการ และการแสดงผลงานและผลผลิตจากโครงการปฏิบัติสร้างความเปลี่ยนแปลงใน
สังคม (CCS) โดยมีผลงานผ่านการนาเสนอกว่า 179 ผลงาน จาก 37 หน่วยงาน ในส่วนการประชุมวิชาการระดับ
นานาชาติ ครั้งที่ 1 มีการปาฐกถาพิเศษ (ภาคภาษาอังกฤษ) ในหัวข้อ "Buddhism for healing the world of the
future" โดย Prof.Dr.Lalji Shravak, India การเสวนาเชิงวิชาการ เร่ือง "Buddhism for healing the world of
the future" การนาเสนอผลงานวิชาการจาก 6 ประเทศ คือ Bhutan, USA, Singapore, Philippines, India,
Burma, มีผลงานผ่านการพิจารณาให้นาเสนอจานวน 15 ผลงาน โดยการประชุมดังกล่าวมีการถ่ายทอดสดผ่าน
MCU TV และช่องทางออนไลน์ อาทิ youtube Facebook อยา่ งแพรห่ ลาย

ขออนุโมทนาขอบพระคุณ ขอบคุณทุกท่านทั้งท่านผู้ทรงคุณวุฒิ ท่านที่นาเสนอผลงาน ที่ท่านเข้าร่วมรับ
ฟัง และทา่ นที่ได้มีส่วนร่วมให้การจัดงานประชุมวิชาการคร้ังนี้สาเร็จลุล่วงด้วยดี ในนามคณะกรรมการดาเนินงาน
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจักได้รับความร่วมมือด้วยดีจากทุกท่านเช่นน้ีต่อไป หากกิจกรรมน้ีมีข้อผิดพลาดประการใด
ทางคณะกรรมการดาเนินงานต้องกราบขออภัยมา ณ โอกาสน้ี และขอขอบคุณสาหรับเมตตาธรรมคานี้แนะต่าง ๆ
เพ่อื จะนาไปปรับปรุงการดาเนนิ กจิ กรรมใหส้ มบูรณย์ ่ิงขึ้นในคราวต่อไป

(พระมหาบุญเลิศ อนิ ทฺ ปญฺโญ, ศ.ดร.)
บรรณาธกิ ารเอกสารประชุมวิชาการระดับชาติ คร้ังที่ 4 และระดบั นานาชาติ คร้งั ที่ 1

Proceedings งานประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ ครงั้ ท่ี 4 (MCU.RK.2022)

โครงการประชุมสัมมนาวิชาการ ประจาปีการศกึ ษา 2564
การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ ครัง้ ที่ 4 และ ระดบั นานาชาติ คร้ังที่ 1

ในหวั ขอ้ “พทุ ธศาสนาเพ่อื การเยยี วยาโลกแห่งอนาคต”
The 4th National and the 1st International Conference
on “Buddhism for Healing the World of the Future” (MCU.RK.2022)

(การประชมุ แบบออนไลน์)

ในวันเสาร์ ท่ี 30 เมษายน พ.ศ. 2565

โดย วิทยาลัยสงฆ์พุทธป๎ญญาศรีทวารวดี มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย
**********************************

1. ช่ือโครงการ : การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ ครัง้ ที่ 4 และ การประชมุ วิชาการระดบั นานาชาติ ครงั้ ท่ี 1
เรอื่ ง “พุทธศาสนาเพือ่ เยยี วยาโลกแห่งอนาคต” (MCU.RK.2022)
The 4th National and the 1st International Conference on “Buddhism for
Healing the World of the Future” (MCU.RK.2022)

2. สว่ นงานหลักที่รับผิดชอบ

: วิทยาลัยสงฆพ์ ุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย

3. ภาคเี ครอื ข่าย/หนว่ ยงานท่เี ข้ารว่ ม : (ทง้ั นาเสนอผลงานและเข้าร่วมรับฟัง)

1) หน่วยงานภายใน

สถาบนั วจิ ยั พุทธศาสตร์ มจร คณะครศุ าสตร์ มจร

วทิ ยาเขตหนองคาย มจร วทิ ยาเขตเชียงใหม่ มจร

วทิ ยาเขตขอนแก่น มจร วิทยาเขตสรุ นิ ทร์ มจร

วทิ ยาลัยสงฆเ์ พชรบูรณ์ มจร วทิ ยาลยั สงฆ์อุทยั ธานี มจร

วิทยาลยั สงฆพ์ ่อขุนผาเมือง มจร วทิ ยาลัยสงฆ์ชลบรุ ี มจร

วทิ ยาลัยสงฆร์ ้อยเอ็ด มจร วิทยาลัยสงฆ์เพชรบรุ ี มจร

วิทยาลยั สงฆ์พุทธโสธร มจร วทิ ยาลัยสงฆ์สุพรรณบรุ ีศรีสวุ รรณภูมิ มจร

วทิ ยาลัยสงฆพ์ จิ ิตร มจร วิทยาลัยสงฆก์ าญจนบรุ ีศรีไพบูลย์ มจร

หน่วยวทิ ยบริการคณะสงั คมศาสตร์ พุทธมณฑลจนั ทบุรี มจร

2) หน่วยงานภายนอก

มหาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวทิ ยาลัย (มมร) วิทยาเขตสริ ินธรราชวทิ ยาลัย มมร

วทิ ยาเขตอีสาน มมร วิทยาเขตศรีธรรมาโศกราช มมร

มหาวิทยาลยั ราชภฏั พระนคร มหาวทิ ยาลยั เอเซียอาคเนย์

มหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร

มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ศรีสะเกษ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ พระนครเหนือ

มหาวทิ ยาลยั กรุงเทพธนบุรี วทิ ยาลยั การสาธารณสุขสริ ินธรจงั หวัดขอนแก่น

Proceedings งานประชมุ วชิ าการระดับชาติ คร้งั ท่ี 4 (MCU.RK.2022)

สถาบันพระบรมมราชชนก โรงเรียนนายร้อยตารวจ

สถาบนั รัชตภ์ าคย์ สถาบนั วิจัยและพฒั นาสุรินทร์คชสาร

สถาบนั วจิ ยั สังคม มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่ ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลตาบลวังดิน

กลุม่ เกษตรอนิ ทรีย์ตาบลแม่ปุ กลมุ่ บา้ นจัดการขยะต้นแบบชุมชนบ้านไร่ศิลาทอง

3) หน่วยงานจากต่างประเทศ

Pali and Buddhist Studies Banaras Hindu University, India

Buddhavihan Oxford, England

Duquesne University Pittsburgh, Pennsylvania , USA

Buddhist Studies, Bhutan

National University of Singapore, Singapore

Shan Stage Buddhist University, Myanmar

4. สนบั สนนุ และสอดคล้อง:
สนับสนนุ พนั ธกจิ : ด้านวจิ ยั และพัฒนา/ดา้ นส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการวิชาการแก่สังคม
สอดคล้องกับแผนพฒั นาวทิ ยาลัยสงฆ์ : ยุทธศาสตร์ ขอ้ ท่ี 2 พัฒนางานวจิ ยั นวัตกรรม ทมี่ ีคุณค่า

เกิดประโยชนแ์ ก่พระพทุ ธศาสนาและสงั คม

5. หลกั การและเหตุผล :
พระพุทธศาสนาอุบัติข้ึนในโลกเพื่อประโยชน์สุขแห่งมวลมนุษย์ชาติ อันแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่

แหง่ พระสัทธรรมคอื องคค์ วามรทู้ ช่ี ่ือวา่ "พุทธ" ท่ีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดงไว้เพื่อประโยชน์สุขท่ี
ยั่งยืนแห่งมวลมนุษย์ชาตินั้น หลักการและกระบวนการพัฒนาท่ีต้ังอยู่บนฐานพุทธธรรมสามารถใช้เป็นกลไก
การพฒั นาทค่ี วบคูก่ บั โลกทห่ี มนุ ไปแตล่ ะยุคสมัย แม้จะลว่ งเลยเวลามาแลว้ กว่า 2500 ปี กระแสการพัฒนาของ
สังคมโลกกย็ ังแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลักการทางพระพุทธศาสนากับแนวคิดการพัฒนาสมัยใหม่
ดังท่ีท่านสมเด็จพระพุทธโฆษจารย์ (ป.อ.ปยุโต) ได้ให้ทัศนะถึงการพัฒนาท่ีอยู่บนฐานพุทธธรรมว่าเป็นระบบ
การพัฒนาท่ีย่ังยืนอย่างแท้จริง เพราะเป็นแนวทางการพัฒนาด้วยหลักมัชฌิมาปฏิปทา ไตรสิกขา และ
หลักอัปปมาทธรรม ท่ีเป็นกระบวนการพัฒนาระบบการดาเนินชีวิตของท้ังด้านพฤติกรรม จิตใจ และปัญญา
อย่างบูรณาการภายใต้ระบบความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลกลมกลืนกับ
ธรรมชาติและยกระดับสู่ความสุขสมดุลที่ยั่งยืนต่อไป แม้ในสภาวะที่เกิดวิกฤตต่าง ๆ เช่นกับวิกฤตการแพร่
ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ทสี่ ง่ ผลกระทบไปท่ัวโลก เป็นท่ีทราบกันดีอยู่แล้วว่า การแพร่ระบาดของ
ไวรัสโคโรนา (COVID-19) ได้สร้างความเสียหายให้กับโลกอย่างหนักในทุกไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม
การเมือง รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คน ความร่วมแรงร่วมใจของทุเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
โดยเฉพาะมาตรการของรัฐในการอยู่บ้านเพ่ือหยุดการแพร่และรับเช้ือ และการเอื้ออาทรกันในสังคม และมี
คาถามสาคัญท่ีตามมาคือ เมื่อวิกฤตคร้ังน้ีสิ้นสุดลงแล้ว โลกใบนี้จะแปลไปอย่างไร การทวนกระแสโลกาภิวัตน์
(Delocalization) จะมีความเข้มข้นมากขึ้นโซ่อุปทานโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจริงหรือ ปัญหาเชิง
โครงสรา้ งโดยเฉพะด้านสาธารณสุขจะได้รับการแก้ไขให้ท่ัวถึงและเสมอภาคมากข้ึนจริงหรือ สังคมจะก้าวเข้าสู่
ระบบดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบเพ่ือให้ทันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปล่ียนแปลงไปจริงหรือ การพัฒนางานวิจัย
และงานวิชาการทเี่ ป็นองคค์ วามรู้ใหม่ให้เหมาะสมตามยุคสมัยจึงถอื เปน็ หัวใจสาคัญในการขับเคล่ือนการพัฒนา
สังคมประเทศชาติแม้ในยามปกติหรือยามที่ต้องรับมือกับวิกฤตการณ์ต่าง ๆ จึงเป็นภารกิจสาคัญที่
สถาบันการศกึ ษาที่ตอ้ งผลติ และเผยแพร่องค์ความรู้ที่เอื้อต่อการนาไปใช้ประโยชน์ในเชิงสังคมและเชิงวิชาการ
เพ่อื ขบั เคลอื่ นสกู่ ารพัฒนาท่ีย่ังยืน

Proceedings งานประชุมวิชาการระดับชาติ ครัง้ ท่ี 4 (MCU.RK.2022)

วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วัดไร่ขิง พระอารามหลวง
จงั หวดั นครปฐม ในฐานะสถาบันการศกึ ษาระดบั อุดมศึกษาของคณะสงฆ์ไทย ได้ตระหนักถึงความสาคัญของการผลิต
และเผยแพรผ่ ลงานวจิ ยั หรือผลงานวชิ าการเพื่อให้เกิดการนาไปใช้ประโยชน์ทั้งด้านการเยียวยาและการพัฒนาสังคม
จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID- 19) ท่ีได้สร้างความเปล่ียนแปลงให้กับโลกเศรษฐกิจ สังคม
การเมือง รวมไปถึงวิถีชีวิตของผู้คน จนเกิดเป็นวิถีชีวิตใหม่ท่ีเรียกกันว่า "New Normal" การนาองค์ความรู้ทาง
พระพุทธศาสนามาบูรณาการเพื่อรับมือกับความเปล่ียนแปลงหรือสถานการณ์ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ท่ีจะ
เกิดข้ึนอย่างเป็นพลวัตในอนาคตท่ีเรียกกันว่า "Next Normal" จึงเป็นสิ่งท่ีทุกภาคส่วนในสังคมจะได้ร่วมมือกัน
สร้างสรรค์การอยรู่ ่วมกนั อย่างสนั ตสิ ขุ ในโลกยุคท่ีวถิ ีชีวติ ไดเ้ ปลีย่ นแปลงไปนีด้ ังนน้ั วทิ ยาลัยสงฆ์พทุ ธปัญญาศรีทวาร
วดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณาชวิทยาลัย จึงได้กาหนดจัดงาน "การประชุมวิชาการระดับชาติ คร้ังที่ 4 และ
ระดับนานาชาติ คร้ังท่ี 1 ในหัวข้อ"พุทธศาสนาเพ่ือเยียวยาโลกแห่งอนาคต" The 4th National and the 1th
International Conference on “Buddhism for healing the world of the future” (MCU.RK.2022)
เพอื่ เปน็ กลไกส่งเสริมการพัฒนาศกั ยภาพบุคลากรวทิ ยาลัยสงฆใ์ นการผลติ และเผยแพรง่ านวิชาการ งานสร้างสรรค์ทม่ี ี
คุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อสังคม เพ่ือเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ร่วมกับเครื่อข่ายสถาบันการศึกษา นักวิชาการ และ
ชุมชนได้แลกเปล่ียนประสบการณ์เรียนรู้ระหว่างกันก่อให้เกิดการนาไปใช้ประโยชน์ทั้งเชิงวิชาการและเชิงพัฒนา
สังคม โดยเฉพาะอย่างยงิ่ การจัดประชุมวชิ าการคร้งั น้จี ะเปน็ การแสดงให้เหน็ ศกั ยภาพด้านการพัฒนางานวิชาการของ
วิทยาลยั สงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดีและเป็นการยกระดับการยอมรับในแวดวงวิชาการย่ิงขึ้น อีกทั้งเป็นเวทีนาเสนอ
ผลงานและนวัตกรรมท่ีเป็นผลจากการศึกษาวิจัยสู่การนาไปใช้ประโยชน์ โดยการบูรณาการองค์ความรู้ทาง
พระพุทธศาสนาเพ่ือเยียวยาโลกแหง่ อนาคตต่อไป

6. วตั ถปุ ระสงค์
1) เพ่ือเป็นเวทีแลกเปล่ียนและเผยแพร่ผลงานทางวิชาการท้ังระดับชาติและนานาชาติ สู่การนาไปใช้

ประโยชน์เชิงบูรณาการในสังคมในการรับมือสถานการณ์ความเปล่ียนแปลงใหม่ ๆ ท่ีเกิดขึ้นในโลกยุคปัจจุบัน
และอนาคต

2) เพื่อเป็นเวทีเผยแพร่ผลงานวิชาการ ผลงานวิจัย ผลงานสร้างสรรค์ ท้ังด้านพระพุทธศาสนา
ศลิ ปวัฒนธรรม ทวารวดีศกึ ษา สงั คมศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์ รัฐศาสตร์ รฐั ประศาสนศาสตร์ การพฒั นาสังคม สห
วิทยาการศึกษา ทง้ั ระดบั ชาติและนานาชาติ

3) เพ่ือสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านวิชาการในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางานและเผยแพร่
งานวชิ าการแกส่ าธารณะชนสกู่ ารนาไปใชป้ ระโยชนใ์ นเชิงสังคมท้ังระดับชาตแิ ละนานาชาติ

7. กจิ กรรมในงาน
1) การประชุมวิชาการระดับชาติ จัดให้มีกจิ กรรมต่าง ๆ ดังน้ี
การปาฐกถาพิเศษ (ภาคภาษาไทย) เรื่อง “พุทธศาสนาเพ่ือการเยียวยาโลกแห่งอนาคต” โดย

พระธรรมวชั รบัณฑติ , ศ.ดร. อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั
การเสวนาวิชาการในหัวข้อเร่ือง “พุทธศาสนาเพ่ือการเยียวยาโลกแห่งอนาคต” โดย พระมหาบุญ

เลิศ อินฺทปญฺโญ, ศ.ดร. รองผู้อานวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี รศ.ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ รอง
อธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และ ดร.ธนกร ศรีสุขใส ผู้จัดการกองทุน
พฒั นาส่อื ปลอดภัยและสร้างสรรค์

การนาเสนอผลงานวชิ าการของผู้ผา่ นการพิจารณาให้นาเสนอ จานวน 4 ห้องยอ่ ย
การนาเสนอผลงานวิชาการระดับบัณฑิตศึกษา และ การแสดงผลงานและผลผลิตจากโครงการ
ปฏบิ ัติสร้างความเปลย่ี นแปลงในสังคม (CCS) จานวน 1 หอ้ งยอ่ ย

Proceedings งานประชมุ วิชาการระดบั ชาติ ครง้ั ท่ี 4 (MCU.RK.2022)

2) การประชุมวชิ าการระดบั นานาชาติ จดั ให้มกี ิจกรรมตา่ ง ๆ ดังน้ี
การปาฐกถาพิเศษ (ภาคภาษาอังกฤษ) ในหัวข้อ "Buddhism for healing the world of the

future" โดย Prof.Dr.Lalji Shravak, Former Head Department of Pali and Buddhist Studies Banaras
Hindu University, India

การเสวนาเชิงวชิ าการในหวั ข้อ "Buddhism for healing the world of the future" โดย ศ.ดร.
พระคาหมาย ธมมฺ สามี, ประเทศพมา่ Lama Sonam Doji, ประเทศภฏู าน และรองศาสตราจารยโ์ กนิฏฐ์ ศรี
ทอง ประเทศไทย

การนาเสนอผลงานวชิ าการภาคภาษาองั กฤษ จานวน 1 หอ้ ง

8. ผลสาเรจ็ เปา้ หมาย ผล
ตวั ชีว้ ดั 10 หน่วยงาน 37 หนว่ ยงาน
100 ผลงาน 179 ผลงาน
1) มหี น่วยงานต่างๆ เขา้ ร่วม 10 ผลงาน 15 ผลงาน
2) มีผลงานเขา้ รว่ มนาเสนอ (ระดบั ชาต)ิ 3.85 4.50
3) มีผลงานเข้าร่วมนาเสนอ (ระดบั นานาชาต)ิ
4) ค่าเฉลีย่ ความพึงพอใจตอ่ การจดั งานในภาพรวม

9. ประโยชน์ทไี่ ด้รับ
1) วทิ ยาลัยสงฆ์ร่วมกับภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันเปิดเวทีแลกเปล่ียนและเผยแพร่ผลงานทางวิชาการท้ัง

ระดับชาติและนานาชาติ สู่การนาไปใช้ประโยชน์เชิงบูรณาการในสังคมในการรับมือสถานการณ์ความ
เปลีย่ นแปลงใหม่ ๆ ทเ่ี กิดขึน้ ในโลกยคุ ปัจจบุ นั และอนาคต

2) วิทยาลัยสงฆ์ร่วมกับภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันเผยแพร่ผลงานวิชาการ ผลงานวิจัย ทางด้าน
พระพุทธศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และด้านทวารวดีศึกษา ด้านสังคมศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐ
ประศาสนศาสตร์ การพัฒนาสงั คม ด้านสาขาสหวิทยาการศกึ ษาท้งั ระดับชาตแิ ละนานาชาติ

3) วิทยาลัยสงฆ์ร่วมกับภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันสร้างความร่วมมือด้านวิชาการในการแลกเปลี่ยน
ประสบการณ์ทางานและเผยแพร่งานวิชาการแก่สาธารณะชนสู่การนาไปใช้ประโยชน์ในเชิงสังคมทั้งระดับชาติ
และนานาชาติ

4) วิทยาลัยสงฆ์ร่วมกับภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันส่งเสริมการทานุบารุงศิลปวัฒนธรรม ในการนาเสนอ
ผลงานวิจัยหรือผลงานวิชาการของอาจารย์ นักวิจัย นิสิต นักศึกษา ให้ผู้สนใจได้เกิดความตระหนักถึงคุณค่า
รว่ มอนุรกั ษแ์ ละสืบสานนาไปใชป้ ระโยชน์ใหค้ งอยูค่ ปู่ ระเทศชาติสบื ไป

**********************

Proceedings งานประชุมวชิ าการระดบั ชาติ ครัง้ ที่ 4 (MCU.RK.2022)

คณะกองบรรณาธกิ าร

Proceedings งานประชุมวชิ าการระดับชาติ ครงั้ ท่ี 4 (MCU.RK.2022)

Proceedings งานประชมุ วิชาการระดบั ชาติ คร้งั ท่ี 4 (MCU.RK.2022)

คณะผทู้ รงคุณวฒุ กิ ลน่ั กรองบทความ

Proceedings งานประชุมวชิ าการระดับชาติ ครั้งที่ 4 (MCU.RK.2022)

Proceedings งานประชมุ วิชาการระดบั ชาติ คร้งั ท่ี 4 (MCU.RK.2022)

กาหนดการในงาน

Proceedings งานประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ ครงั้ ที่ 4 (MCU.RK.2022)

Proceedings งานประชมุ วิชาการระดบั ชาติ คร้งั ท่ี 4 (MCU.RK.2022)

กาหนดการนาเสนอผลงาน

Proceedings งานประชมุ วิชาการระดับชาติ ครั้งท่ี 4 (MCU.RK.2022)

Proceedings งานประชมุ วิชาการระดบั ชาติ คร้งั ท่ี 4 (MCU.RK.2022)

สารบัญผลงาน

ที่ ช่อื ผลงาน หน้า
1-14
1. การดาเนินชีวิตแบบ New normal ตามหลักพุทธธรรมในยคุ โควิค 19 15-24
โดย พระครูสถติ ธรรมาลงั การ 25-36

2. การบรหิ ารไทยแลนด์ 4.0 ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา 37-47
โดย อานาจ สาเขตร์, ฐญิ าภณั ณ์ วงษา และ พระมหาประเวศ ปํฺญาทโี ป 48-66
67-78
3. การใชโ้ พชฌงค์ 7 เพือ่ ลดป๎ญหาภาวะซึมเศรา้ สาหรบั วัยทางานในโลกแห่งอนาคต 79-90
โดย สายนา้ ผงึ้ รัตนงาม, พระมหาสาทร ธมฺมาทโร, พระครใู บฎกี าธีรยุทธ จนฺทูปโม, 91-106
และวันไชย์ กง่ิ แกว้
107-119
4. เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรยี นการสอนแบบบรู ณาการเชงิ พุทธ 120-131
โดย พระเฉลย อิ้มทบั , ทศั นยี ์ เน่อื งดัด และ พระครวู ิรฬุ ห์สวุ รรณดิตถ์ 132-145
146-162
5. การศกึ ษากจิ กรรมตามแนวปฏิบตั ิวถิ ีพทุ ธของนักเรียนโรงเรียนวดั ตาล จังหวัดนนทบรุ ี 163-176
โดย พระใบฏีกาภาณวุ ฒั น์ ปภสฺสโร 177-190
191-205
6. ตวั แบบการพฒั นาสังคมแบบมสี ่วนร่วมของครูบาศรีวชิ ัย 206-219
โดย นฤพันธ์ สมเจริญ 220-231

7. หลักธรรมท่เี ป็นแนวทางในการปฏบิ ัติวิปส๎ สนาภาวนา ในคมั ภีรพ์ ระพุทธศาสนา
โดย พระครอู นกุ ลู กัลยาณกิจ

8. การศึกษาวิเคราะห์อัตลักษณ์ทางพระพุทธศาสนาของคนไทยองในตาบลประตูป่า อาเภอ
เมอื ง จงั หวัดลาพนู
โดย พระธรรมะรม ฐานวฑุ โฒ

9. หลักการแนวคิดการบรหิ ารตามหลกั พทุ ธวิธี
โดย พระครใู บฏีกาศกั ดด์ิ นัย เนตรพระ

10. ภาวะผ้นู าท่พี งึ ประสงค์ตามแนวพุทธศาสนา
โดย เอกมงคล เพช็ รวงษ์

11. ประเพณกี ว๋ ยสลาก: ประวตั ิศาสตร์ คุณคา่ และการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมจงั หวัดลาปาง
โดย พระครสู งั ฆรกั ษ์ศภุ ณฐั ภูริวฑฒฺ โน

12. มวลสารศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ : การสร้างคุณคา่ พระเคร่อื งเมืองไทย
โดย พระครูโสภณวรี านวุ ตั ร

13. การประยกุ ตใ์ ช้หลักพุทธธรรมเพ่ือเยยี วยาผปู้ ่วยระยะสุดท้าย
โดย เขมจริ า พทิ กั ราษฎร์

14. แนวทางเพ่ือการเยียวยาผทู้ ี่มีภาวะซึมเศรา้ ด้วยธรรมะ: ธรรมชาตติ ามแนววิถพี ทุ ธ
โดย พระปลัดมนู ฐานจาโร

15. พทุ ธวธิ ใี นการสอนคนของพระพุทธเจ้า
โดย แม่ชีบุญช่วย ศรเี ปรม และธวัช หอมทวนลม

16. ไตรลกั ษณ์กบั ผ้สู งู อายุ
โดย พระมหานาเกยี รติ วสิ ุทฺโธ

17. การพฒั นาจติ แบบเซน
โดย เยาวลกั ษณ์ กลุ พานิช และ สุวิญ รักสัตย์

Proceedings งานประชมุ วิชาการระดบั ชาติ ครัง้ ท่ี 4 (MCU.RK.2022)

ที่ ชื่อผลงาน หน้า
232-242
18. การใช้พลังจติ ในการเสรมิ สร้างสขุ ภาพ 243-250
โดย ละมยั อยเู่ ยน็ 251-261

19. ศกึ ษาวิเคราะหค์ ัมภีร์สุขาวดวี ยุหสูตรพทุ ธศาสนามหายาน 262-279
โดย พระบุญชว่ ย ฐติ จติ ฺโต
280-293
20. ประสิทธิผลของการใช้แพลตฟอร์ม Zoom ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชา 294-305
พระพทุ ธศาสนา 306-319
โดย สทุ ธดิ า สายธน,ู อาพล บุดดาสาร และ ธเนศ ตงั้ จติ รเจริญเลศิ 320-328
329-339
21. คติการสรา้ งพระพทุ ธรปู ไมโ้ บราณในวัดบ้านเมืองจันทร์ อาเภอเมอื งจันทร์ จังหวัดศรสี ะเกษ 340-356
โดย ธันยพงศ์ สารรตั น์, โพธพิ์ งศ์ ฉัตรนันทภรณ,์ วฒุ ชิ ัย นาคเขยี ว, แนวรบ ยวงปรางค,์
และ อภสิ ทิ ธิ์ ศรีวะรมย์ 357-366

22. พทุ ธปรชั ญาอรยิ สจั 4 ในพระราชนพิ นธ์เรือ่ งพระมหาชนก 367-376
โดย วริ ะวลั ย์ ดเี ลศิ , วนิสา ขาวลิ ัย และ ปณัฐ อนรุ กั ษป์ รดี า 377-387

23. หน้าท่ีพลเมอื งไทยในระบอบประชาธิปไตยตามหลกั พุทธธรรม 388-398
โดย อญั ธษิ ฐา อักษรศรี และวนั ชัย แสงสุวรรณ
399-408
24. สพุ รรณภมู ิ : รฐั ราชาธิราช ฐานรากแหง่ อานาจทางการเมอื งของอาณาจกั รอยุธยา 409-419
โดย วรพร พรหมใจรกั ษ์

25. การบรหิ ารจดั การเพอื่ การพฒั นาทยี่ งั่ ยืนในสถานการณ์โควิด 19
โดย พระมหาจักรพนั ธ์ จกกฺ วโร, วีระ จุฑาคุปต์ และพระครวู รี ศาสน์ประดษิ ฐ์

26. ภาวะการตัดสินใจของนกั การเมืองไทยในปจ๎ จุบนั และอนาคต
โดย พระปลัดวัชรพงษ์ วชริ ปญโญ

27. ป๎ญหาและอุปสรรคของการจัดการทรัพยากรน้าเพ่ืออุตสาหกรรมและการท่องเท่ียวใน
จงั หวัดชลบรุ ี
โดย ณรงค์ เชือ้ บัวเยน็

28. การบรหิ ารจัดการทุนทางสังคมเสรมิ สร้างความมนั่ คงขององคก์ ร
โดย พระครโู กวทิ บญุ เขต, อานาจ ทาปิน, พระครปู ระภาตปญ๎ ญาธร
และ พระสมุหช์ าติศักด์ิ ปริชาโน

29. มหาวิทยาลยั กบั การบริหารจัดการวิกฤตการณใ์ นยุคป๎จจบุ ัน
โดย บุญเตือน ทรพั ยเ์ พชร, พนมพร เมฆพัฒน์ และพระครสู จุ ติ พัฒนพธิ าน

30. การพฒั นาระบอบประชาธิปไตยของการปกครองส่วนทอ้ งถิ่น: อาเภอเมืองหนองคาย
จังหวดั หนองคาย
โดย คิด วรุณดี, พระมหาสมเด็จ มหาสมิทฺธิ, พระมหาจานงค์ สิริวณโณ, พระเดชขจร ขนฺ
ติธโร, และอภวิ ฒั ชัย พทุ ธจร

31. การบรหิ ารการพัฒนาสาธารณปู การในศตวรรษที่ 21
โดย พระใบฎีกาธวัชชยั จรณธมโฺ ม, พระครูประภาตป๎ญญาธร, พระครวู ิรฬุ ห์สวุ รรณดติ ถ์,
และพระมหาประเวศ ปํฺญาทีโป

32. แนวทางการบริหารและพัฒนาตนเองในสังคมไทยป๎จจบุ นั
โดยพระครูรัตนสตุ าภรณ์

33. การพัฒนาผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นดว้ ยการจัดการเรียนรูแ้ บบทาผงั มโนทศั น์
เร่ือง ภัยพิบัติธรรมชาติ วิชาสังคมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนพระซองสามัคคี

Proceedings งานประชมุ วิชาการระดับชาติ ครงั้ ท่ี 4 (MCU.RK.2022)

ท่ี ชอ่ื ผลงาน หน้า

วทิ ยา ตาบลพระซอง อาเภอนาแก จงั หวัดนครพนม 420-432
โดย ณลณิ ควรคร,ู ปาณจติ ร สุกุมาลย์, และพระครูวินยั ธรปณุ ณภูรีวัฒน์ 433-446
34. กระบวนการรณรงค์หาเสียงเลอื กตั้งนายกองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัดนครพนม 447-459
โดย ปรางทิพย์ มัน่ ธร
35. การพฒั นารปู แบบจดั กิจกรรมการเรียนรแู้ บบรว่ มมือ 460-468
โดย ศกั ดิด์ า งานหมน่ั , ชวาล ศิริวฒั น,์ พระสมหุ ส์ ามารถ จตตฺ มโล และพิชติ เชาว์ชาญ 469-483
36. การศกึ ษาไทยในรปู แบบการเรยี นการสอนหลงั โควดิ -19
โดย สุรชัย แก้วคณู , พระยทุ ธนา มาลาวโส, พระปลัดสมลักษณ์ ตกิ ฺขปํฺโญ 484-497
และ ศกั ดิด์ า งานหม่ัน
37. มจิ ฉาทฏิ ฐิ : เหตทุ าให้เกดิ ปญ๎ หาชวี ิตและสังคมโลกป๎จจุบันและอนาคต 498-514
โดย เจรญิ มณจี กั ร์, พระครูรตั นสตุ าภรณ์, และ พระครพู ิพธิ จารุธรรม 515-526
38. สขุ ภาวะพระสงฆ:์ กระบวนการในการดูแลสขุ ภาพของพระสงฆ์ไทย 527-539
โดย สุพฒั น์ ชยั วรรณ,์ พระมหากิตติ กติ ตฺ ิเมธี, พระมหาจกั รกฤษ ทินฺนปํโฺ ญ, 540-553
พระมหาณรงค์ศกั ดิ์ สุทนโฺ ต, และ พระสมุห์นพดล อตฺถยตุ โฺ ต
39. การศึกษาเชิงวิเคราะห์การเขียนคาอ่านคาในภาษาอังกฤษในสมัยรัชกาลท่ี 5 : กรณีศึกษา 554-562
การเขียนคาอ่านคาในภาษาอังกฤษในนิราศหนองคาย 563-573
โดย วฒั นา มลุ เมอื งแสน, ววิ ฒั น์ ทองวาด, สุกนั ต์ แสงโชติ, พระธรี ศักด์ิ ธมมฺ วโร 574-590
และ กัมพล นะวัน
40. ความเป็นครูในศตวรรษท่ี 21 ตามแนววถิ พี ทุ ธ 591-602
โดย พระมหาต๋ยุ ขนตฺ ธิ มฺโม, พระสมหุ พ์ ุฒิพงษ์ พทุ ฺธวิ โส , และ พระครูอเุ ทศธรรมสาทิส 603-615
41. คณุ ธรรมจริยธรรมการบริหารภาคเอกชน
โดย พระปลัดพีระพงศ์ ฐิตธมโฺ มและ พระมหาธวชั ชัย ธมมฺ รสี
42. การบรหิ ารการพัฒนากับการพัฒนาเมอื ง
โดย แสนสุริยา รกั เสมอ
43. การมีส่วนร่วมของประชาชนในการรักษาความปลอกภัยในชีวิตและทรัพย์สินขององค์การ
บริหารส่วนตาบลบางเกลอื อาเภอบางปะกง จงั หวัดฉะเชิงเทรา
โดย อจั ฉรา แก้วอนิ ทนิน
44. การมีสว่ นร่วมทางการเมืองกบั สทิ ธิของประชาชนตามรฐั ธรรมนูญ
โดย ประคอง มาโต, พระครอู ุทติ ปริยัติสุนทร, และ พระครอู ทุ ศิ ธรรมพินัย
45. แนวทางในการบรหิ ารเพอ่ื พัฒนาวสิ าหกิจชมุ ชนตามหลักอปรยิ นยิ ธรรม 7
โดย ศศนิ า หงสเ์ วียงจนั ทร์ และ โยตะ ชัยวรมนั กุล
46. การพัฒนาเครือข่ายผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ OTOP เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของบ้าน
ห้วยหอ้ ม อาเภอแม่ลานอ้ ย จังหวดั แมฮ่ ่องสอน
โดย ศิวดล อมาตยกุล และคณะ
47. หลกั ธรรมาภิบาลกบั การปราบปรามคอร์รัปชั่น
โดย เครือวลั ย์ มโนรตั น์
48. ป๎จจยั ความสาเร็จในการควบคมุ เคร่อื งดมื่ แอลกอฮอล์ของชุมชนต้นแบบในประเทศไท
โดย วารีญา ม่วงเกลีย้ ง และ พระปลัดเวชยันต์ ฐิตสทโฺ ธ

Proceedings งานประชมุ วชิ าการระดับชาติ ครั้งที่ 4 (MCU.RK.2022)

ท่ี ช่อื ผลงาน หน้า
616-633
49. การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาตลาดน้าของชุมชน ตาบลไทรน้อย อาเภอไทร 634-648
น้อย จงั หวัดนนทบรุ ี 649-663
โดย นฤิ มนต์ ทัพภะพยัคฆ์, สายน้าผ้งึ รตั นงาม และ ภรู วิ จั น์ ปณุ ยวฒุ ปิ รดี า 664-682
683-693
50. การปรบั เปล่ยี นวถิ ชี ีวิตประจาวันรูปแบบใหม่ New Normal ในภาวการณ์แพร่ระบาดของ 694-708
Covid-19 ของนักศกึ ษาสถาบันการบินพลเรือน 709-717
โดย ญดา องั ศพุ าณิชย์ ภูริวจั น์ ปุณยวฒุ ปิ รดี า และ พระมหาประกาศติ สิริเมโธ 718-728
729-742
51. การขับเคลอ่ื นยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาพน้ื ท่กี ับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ในกลุ่ม 743-756
จงั หวดั ภาคเหนือ ตอนบน 2 757-769
โดย วา่ ทร่ี อ้ ยตรี สงกรานต์ ใจปินตา ชลวิทย์ เจยี รจิตต์ และพระปลัดประพจน์ สุปภาโต 770-779
780-791
52. การสบื สานศลิ ปวัฒนธรรมพ้นื บ้านของชุมชน ตาบลพิชัย อาเภอเมืองลาปาง จงั หวัดลาปาง 792-805
โดย ภทั รภร ปณ๎ ชญาธนาดุล ภูริวจั น์ ปณุ ยวุฒปิ รีดา และพระมหาประกาศิต สริ ิเมโธ

53. การพฒั นารูปแบบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนรุ กั ษท์ รัพยากรป่าไม้
ของชมุ ชนบา้ นไรศ่ ิลาทอง ตาบลพชิ ัย อาเภอเมอื ง จังหวดั ลาปาง
โดย ศภุ วชิ ญ์ แสนคามลู พระมหาประกาศิต สริ ิเมโธและ ภรู ิวจั น์ ปุณยวฒุ ปิ รดี า

54. รูปแบบการแก้ไขป๎ญหาภัยแล้งด้วยการมีส่วนร่วมของชุมชนบ้านวังดิน อาเภอล้ี จังหวัด
ลาพูน
โดย ศุภกิจ มว่ งลี ภูริวจั น์ ปุณยวุฒิปรีดา และพระมหาประกาศติ สิริเมโธ

55. การปฏิบัติวิป๎สสนากัมมัฏฐานในสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID-19 ของ
วทิ ยาลยั สงฆ์พุทธปญ๎ ญาศรีทวารวดี
โดย พระครูปฐมธีรวฒั น์ ทองดี อรุณโณ และ ธนาวัลย์ ทบมาตร

56. กฎหมายเพอ่ื การพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ผ้สู ูงอายุ
โดย พชั ราวลยั ศภุ ภะ และ ณัชชา ณัชโชติภคนิ

57. การเปลย่ี นวัสดุทก่ี ่อเกดิ มลพิษทางอากาศให้เปน็ มลู คา่ ทางอาชพี ของชมุ ชนแก่งระเบดิ
ตาบลกระแจะ อาเภอไทรโยค จังหวดั กาญจนบรุ ี
โดย นวรัตน์ อังศพุ าณิชย์, ภรู วิ จั น์ ปณุ ยวฒุ ิปรดี า และ พระมหาประกาศติ สริ ิเมโธ

58. กลยทุ ธก์ ารสรา้ งชุมชนเข้มแข็งชุมชนบ้านหัวอ่าว หมู่ท่ี 5 ตาบลบางช้าง อาเภอสามพราน
จงั หวดั นครปฐม
โดย ธรปพล วานิชานนท์, สายน้าผงึ้ รตั นงาม, และ ชลวทิ ย์ เจียรจติ ต์

59. การเพ่ิมขีดความสามารถชุดรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน (ชรบ.) อาเภอล้ี จังหวัด
ลาพูน
โดย วา่ ทีร่ อ้ ยตรี ทวศี ิลป์ ปาละปิน ภูรวิ ัจน์ ปุณยวฒุ ปิ รีดา และพระมหาประกาศติ สริ เิ มโธ

60. วิพากษศ์ ลี ธรรม: ว่าดว้ ยคา่ นิยมหลกั 12 ประการ ส่บู ทอาขยานของนักเรยี นไทย
โดย พระมหาอศิ เรศ ญิตจิตโฺ ต, และวารญี า มว่ งเกลี้ยง

61. การออกแบบการจัดการเรียนรู้ออนไลน์รายวิชาภาษาไทย ระดับช้ันมัธยมศึกษาใน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
โดย เกศแก้ว คงคล้าย

62. ลกั ษณะของบนั เทงิ คดใี นสารคดี เร่ือง “นักเรียนไทยในเมืองเวียด” ของ ภาณมุ าศ ภมู ิถาวร
โดย วิภาพ คัญทพั

Proceedings งานประชมุ วิชาการระดับชาติ ครงั้ ที่ 4 (MCU.RK.2022)

ที่ ช่ือผลงาน หนา้
806-815
63. การต่อส้เู พอ่ื สิทธิสตรีใน วนั ทอง 2021 816-825
โดย ดาราวรรณ เกตวลั ห์ 826-837

64. การพฒั นาคุณภาพชวี ติ ตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนของประชาชนในจงั หวดั สมทุ รสาคร 838-851
โดย บานชื่น นกั การเรยี น, มานพ นักการเรยี น และวนั ไชย์ กง่ิ แก้ว
852-867
65. ประสทิ ธภิ าพการจดั การเรยี นการสอนออนไลน์ โดยใชส้ อ่ื วิดที ัศน์ เรือ่ ง มรรยาทชาวพุทธ 868-882
ของนกั เรยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 วดั ไตรรัตนาราม (ชนื่ ชใู จราษฎร์อทุ ิศ) กรุงเทพมหานคร
โดย จุฑารัตน์ พวงสมบัติ และ ศภุ กาญจน์ วิชานาติ 883-899

66. การมีส่วนร่วมของประชาชนในการกาจัดขยะมูลฝอยในพ้ืนที่องค์การบริหารส่วนตาบลทุ่ง 900-911
อาเภอไชยา จังหวดั สุราษฎร์ธานี
โดย ชตุ นิ นั ท์ มณู ีสุวรรณ 912-926

67. แนวทางการจัดการขยะมลู ฝอยชุมชนของเทศบาลนครสมุทรสาคร จังหวดั สมทุ รสาคร 927-942
โดย อภิชา พรเจรญิ กจิ กลุ 943-959

68. การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของเทศบาลตาบลจันดี อาเภอฉวาง จังหวัด 960-976
นครศรธี รรมราช 977-993
โดย ณัฐ วงศศ์ ิรกิ ลุ 994-1012

69. ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อบทบาทด้านการพัฒนาขององค์การบริหารส่วนตาบล 1013-1027
นาแว อาเภอฉวาง จังหวัดนครศรธี รรมราช
โดย พรหมเทพ แก้วโชติ

70. ขวัญแลละกาลังใจในการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลตาบลจันดี อาเภอฉวาง จังหวัด
นครศรธี รรมราช
โดย พิชญาณัฎฐ์ วงศศ์ ริ ิกลุ

71. แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของพนักงานเทศบาลเมืองดอนสัก อาเภอดอนสัก จังหวัดสุ
ราษฎรธ์ านี
โดย ศวิ รางค์ เอ่ียมคง

72. แนวทางการจัดการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษาในศตวรรษท่ี 21 กรณีศึกษา : วชิ าพระพทุ ธศาสนา
โดย พลพรี ะ วงศ์พรประทีป

73. การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ท่ีมีผลต่อการปฏิรูปการบริหารงานขององค์กรปกครอง
สว่ นทอ้ งถ่นิ จงั หวัดเพชรบูรณ์
โดย วิวตั ิ เถารตั ระกลุ , ธนภาค บุ้งจนั ทร์ และ สรุ กาญจน์ บญุ กาวิน

74. รปู แบบการทุจรติ คอรร์ ัปชัน่ เชงิ นโยบายของ องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ กรุงเทพมหานคร
โดย ประดิษฐ์ ดีวัฒนกลุ , ธนภาค บงุ้ จันทร์ และกนกพันธ์ุ อาชาพงศ์วฒั นา

75. ทศิ ทางการเปลย่ี นแปลงและการพฒั นาองค์การแหง่ การเรยี นร้ขู ององค์กรภาครัฐและเอกชน
โดย ประดษิ ฐ์ ดวี ัฒนกลุ และ วัฒนะ โรจนสวุ รรณ์

76. มาตรการป้องกันการทุจริตที่มีผลต่อประสิทธิภาพการบริหารงานขององค์กรปกครองส่วน
ทอ้ งถิ่นกรุงเทพมหานคร
โดย วัฒนะ โรจนสุวรรณ,์ ประดิษฐ์ ดวี ฒั นกุล และ ธนภาค บุง้ จันทร์

77. ความสมั พนั ธ์ของพระสงฆก์ บั ชุมชนในพน้ื ท่ีการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรป่าไม้
โดย ณัฐนนท์ จริ กิจนมิ ิตร

Proceedings งานประชุมวชิ าการระดับชาติ ครง้ั ที่ 4 (MCU.RK.2022)

ท่ี ชอื่ ผลงาน หน้า
1028-1040
78. การประเมินการพฒั นาศกั ยภาพของนักบรหิ ารงานประชาสัมพนั ธผ์ ่านหลกั สูตร 1041-1056
ของสถาบันการประชาสัมพันธ์ 1057-1072
โดย พวงมาลัย ทีหนองสงั ข์ , มนวิภา วงรจุ ิระ และ ไพบูรณ์ คะเชนทรพรรค์ 1073-1087
1088-1101
79. ทวารวดี: ยคุ ทองของแก่นธรรม 1102-1114
โดย พระมหาพฒุ ิแผน พนู พดั , พระสุวรรณา เหือน, ศรญั ญา เทิมแพงพันธ์ และ ผจญ คาชู 1115-1126
สงั ข์ 1127-1140
1141-1152
80. ศลิ ปวฒั นธรรมทวารวดีเข้าสู่ดินแดนภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือของไทยไดอ้ ยา่ งไร 1153-1165
โดย พระครวู นิ ยั ธรภาณุมาศ ภาณุปาโณ, พระปลดั ศานิตย์ นิจจฺ ฺงคุโณ 1166-1178
และพระปลดั เกอื้ กูล สภุ นนฺโท 1179-1193
1194-1212
81. วเิ คราะหล์ ทั ธคิ วามเชื่อและศาสนาสมัยทวารวดใี นเมอื งโบราณศรเี ทพ 1213-1226
โดย พระมหากติ ติณัฏฐ์ สุกติ ฺตเิ มธี, แมช่ ีจริ าภรณ์ ขนาดนิด, พันตารวจเอกหญิง ทัดดาว
โฉมลกั ษณ์ และ พระมหาสาทร บญุ ชูยะ

82. ตามรอยทวารวดีเมอื งโบราณนครปฐม
โดย พระครูใบฎกี าทตั พล จนฺทวโส, ทษมน เอยี่ มสะอาด, ปกรณก์ ฤษ หวังกุ่ม,
และ พระมหาสาทร บญุ ชยู ะ

83. คณุ ค่าพทุ ธศิลป์ ศึกษาเฉพาะกรณีเกย่ี วกบั พระพุทธรปู ยุคทวารวดี ในจังหวัดสุพรรณบรุ ี
โดย ธนชั พร เกตุคง, พระเจรญิ ชาโอมสาธุ ชตุ ินธโร, พระศิระ จติ ฺตสุโภ, และ โยตะ
ชัยวรมันกลุ

84. นครปฐม:ศูนย์กลางพทุ ธเถรวาทในอาณาจกั รทวารวดี
โดย พระมหาปริทัศน์ วรกิจฺโจ,นัยนา เมืองฉมิ , นิรชั พชื เพง็ และไตรทศ โถวสกุล

85. สงั คมและศลิ ปะวัฒนธรรมยคุ ทวารวดีที่เมืองจันเสน
โดย พระสมุหน์ พดล อตถฺ ยตุ ฺโต, พระมหาณรงคศ์ ักด์ิ สทุ นฺโต และ พิเชษฐ์ สมุทวรานนท์

86. ตามรอยทวารวดจี ากการศึกษาอกั ษรโบราณ
โดย พระครูสมุหอ์ านนท์ อานนฺโท, พระธงชยั อกกฺ วโี ร และ รอ้ ยตารวจโท สชุ าติ
รมิ ตระกูล

87. คติความเช่ือการสรา้ งรปู สลกั ศิลาตอนปฐมเทศนา พุทธประติมากรรมยคุ ทวารวดี
โดย พระครูพศิ าลบญุ ญากร, พระครูสังฆกิจารกั ษ์, พระครปู ลัดไพศาล กมฺพสู ริ ิ
และวันไชย์ ก่ิงแกว้

88. พทุ ธวธิ ใี นการปอ้ งกันการแพรร่ ะบาดของโรค COVID – 19
โดย พระครปู ลดั สรุ ตั น์ ธมมฺ สทุ ฺโธ (ภู่มาลี) และคณะ

89. พุทธวิธีตื่นรู้เพ่ือจัดการความเครียดของนักเรียนมัธยมศึกษาช้ันปีที่ 6 โรงเรียนสมุทรสาคร
วทิ ยาลยั อาเภอเมอื ง จังหวัดสมทุ รสาคร
โดย พระครสู งั ฆรกั ษศ์ ิรวิ ัฒน์ รกขฺ ิโต (ปานนอ้ ย) , โยตะ ชัยวรมันกลุ และธวัช หอมทวนลม

90. วิเคราะห์พุทธอัตลักษณ์ที่ปรากฎในชุมชนไทยทรงดาตามหลักพระพุทธศาสนาในตาบล
หนองสองห้อง อาเภอบา้ นแพว้ จังหวดั สมทุ รสาคร
โดย พระครูสมหุ ส์ ุรสิทธิ์ สุรสิทธฺ ิ,โยตะ ชยั วรมันกลุ และ ธวัช หอมทวนลม

91. รูปแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของทหารกอง
ประจาการ โรงเรียนนายสิบทหารบก จังหวดั ประจวบคีรีขันธ์
โดย ณัฐทนนั ฑ์ ดวงภมุ เมศร์, พระปลัดประพจน์ สปุ ภาโต และ พระมหาประกาศิต สิริเมโธ

Proceedings งานประชมุ วิชาการระดับชาติ ครัง้ ที่ 4 (MCU.RK.2022)

ที่ ชื่อผลงาน หนา้
1227-1240
92. การบริหารจดั การโรงเรยี นวถิ ีพทุ ธวดั หนองไม้แก่น ตาบลหนองลาน อาเภอทา่ มะกา
จังหวดั กาญจนบรุ ี 1241-1251
โดย พระมหาสมจิตร วรปํโฺ ญ (ระเบียบ)
1252-1265
93. การประยกุ ต์หลกั อิทธบิ าท 4 เพ่อื การจัดการในการพัฒนาวิสาหกิจชุมชน อาเภอสามพราน 1266-1279
จังหวดั นครปฐม 1280-1290
โดย กติ ติ กรวชั รกิจ
1291-1302
94. แนวทางการบรหิ ารความขัดแย้งในสังคมป๎จจบุ นั ตามหลักเมตตาธรรม
โดย พระอธิการศรชี าติ ชาคโร (ตะเคยี นแดง) และคณะ 1302-1315

95. วเิ คราะห์ความเชื่อในการเช่าบูชาพระเครือ่ งของประชาชนในอาเภอเมอื ง จังหวัดนครปฐม 1316-1331
โดย พระสมพร ธมมฺ ปํฺ, ธวัช หอมทวนลม และ โยตะ ชัยวรมันกุล 1332-1344

96. สารตั ถะการสรา้ งพระพทุ ธรูปสมเด็จองคป์ ฐม วัดสทุ ธาวาส ตาบลลาดหลมุ แก้ว 1345-1360
อาเภอลาดหลมุ แกว้ จงั หวัดปทมุ ธานี
โดย พระเพียร ฐานธมฺโม, ธวัช หอมทวนลม และกฤตยิ า ถ้าทอง 1361-1371

97. การปลูกฝง๎ คณุ ธรรมของนักเรยี นโรงเรยี นบา้ นเขาช่อง ตาบลเขาสามสิบหาบ 1372-1388
อาเภอทา่ มะกา จังหวัดกาญจนบุรี 1389-1407
โดย พระครูปลดั เฉลมิ โชติกโร และ โยตะ ชยั วรมนั กุล 1408-1418

98. ภาวะผนู้ าเชงิ พุทธในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ของพระเทพปริยัติโสภณ 1419-1430
(ป๎ญญา วิสทุ ธฺ ิปํโฺ ญ) วดั ไชยชมุ พลชนะสงคราม จงั หวดั กาญจนบรุ ี
โดย พระปลัดกิตติศกั ด์ิ ฐานจาโร และคณะ

99. บทบาทการบริหารวัดของเจ้าอาวาสในเขตอาเภอเมอื งสมุทรสาคร จังหวัดสมทุ รสาคร
โดย พระปลดั เกรียงไกร กติ ตฺ สิ าโร และคณะ

100. การประยกุ ต์สมนุ ไพรตามหลักภูมปิ ๎ญญาไทยเพอ่ื พัฒนาเศรษฐกิจชมุ ชน อาเภอเมือง
จงั หวัดกาญจนบรุ ี
โดย พระครสู ังฆรักษก์ มล อิสญิ าโณ และ โยตะ ชยั วรมันกลุ

101. ศกึ ษาพฤตกิ รรมการรักษาศลี 5 ของนักเรยี นโรงเรียนบ้านสวนหลวง (รัตนวิจิตรพิทยาคาร)
จังหวดั สมุทรสาคร
โดย พระสมุหช์ ัยรตั น์ สีลวฑฒฺ โน และคณะ

102. การศึกษาเชงิ วิเคราะหค์ ตใิ นพิธีบชู าเกลงิ ละงิมของชาวพุทธมอญ ในอาเภอสงั ขละบุรี
จงั หวัดกาญจนบรุ ี
โดย พระใบฎกี าอุทยั สจุ ณิ โฺ ณ และคณะ

103. รูปแบบการรกั ษาสขุ ภาวะของพระสงฆท์ ี่ปรากฏในคัมภีรท์ างพระพทุ ธศาสนา
โดย พระมหาเจรญิ จริ นนฺโท และคณะ

104. การเตรยี มความพร้อมผ้ตู อ้ งขังก่อนกลบั คืนสูส่ ังคมดว้ ยหลักอรยิ มรรค
โดย พระมหานพิ ิฐพนธ์ กิตตฺ ิพนฺโธ และคณะ

105. วเิ คราะห์ความเชอ่ื ประเพณแี ละพิธีกรรมของชาวพทุ ธไทยทรงดา ในตาบลโรงเข้
อาเภอบ้านแพ้ว จงั หวัดสมุทรสาคร
โดย พระมหานพิ นธ์ ลทฺธคโุ ณ, โยตะ ชัยวรมนั กลุ

106. พทุ ธวิธีเพอ่ื การพัฒนาโรงเรยี นวดั ราษฎรบ์ ารงุ (ไสวราษฎร์อุปถัมภ์)
โดย พระธีรพงษ์ สาทโร และคณะ

Proceedings งานประชุมวิชาการระดับชาติ ครง้ั ที่ 4 (MCU.RK.2022)

ท่ี ชือ่ ผลงาน หนา้
1431-1442
107. การประยกุ ต์ใชห้ ลักอานาปานสตกิ ับผปู้ ฏิบัติธรรมของวดั รางตนั นลิ ประดิษฐ์
ตาบลหนองบวั อาเภอบา้ นแพ้ว จงั หวดั สมทุ รสาคร 1443-1452
โดย พระมหาชยั ยทุ ธ เตชธมโฺ ม และ โยตะ ชัยวรมันกุล 1453-1467

108. ศกึ ษาเปรียบเทยี บทางสายกลางในพุทธศาสนานิกายเถรวาทกบั มาธยมิกะ 1468-1481
โดย พระมหาโกมล สตสิ มปฺ นฺโน และ คณะ 1482-1493

109. การศึกษาบทบาทของครูพระสอนวชิ าพระพุทธศาสนาในโรงเรียนบ้านคลองกระทมุ่ แบน 1494-1512
จังหวัดสมุทรสาคร 1513-1530
โดย พระสายนั ต์ สุภทฺโท และ คณะ
1531-1546
110. ประโยชนจ์ ากการสรา้ งเสนาสนะสาหรับพระสงฆใ์ นสังคมไทย
โดย พระมหาสุรพัฒน์ สีลสุทฺโธ และคณะ

111. การใช้หลักไตรสกิ ขาในการส่งเสริมวิสาหกจิ ชมุ ชนพง่ึ ตนเอง อาเภอสามพราน
จังหวดั นครปฐม
โดย สุดารัตน์ ประภาโส

112. การวเิ คราะหก์ ารนวดแผนไทยกบั การเจรญิ สติตามหลกั พระพุทธศาสนา
โดย พระวชิระ ปํฺญาสาโร (ศิรลิ ักษ์)

113. การประยุกต์ใช้หลักสังคหวัตถุ 4 เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการ
ธนาคารขยะวดั หนองไม้แกน่ ตาบลหนองลาน อาเภอท่ามะกา จงั หวดั กาญจนบุรี
โดย ประชัน เมอื งโพธ์ิ

114. แนวทางการพัฒนาทกั ษะการสอนในศตวรรษท่ี ๒๑ ของพระสอนศลี ธรรมจงั หวดั นครปฐม
โดย พระเจรญิ พงษ์ ธมมฺ ธโี ป, พระครสู งั ฆรกั ษห์ ยุน ปํฺญาวโุ ธ, พระมหาภูวนัย ภทฺทจารี,
พระวิสูตร จติ ตฺ มโน, พระสชุ ิน ปคณุ ธมโฺ ม, กุลธดิ า ชาตโิ รจันทร์

* หมายเหตุ: บทความท่ีเผยแพร่ในรายงานสืบเน่ืองจากการประชุมวิชาการฉบับน้ีเป็นความ
รับผิดชอบของผู้นิพนธ์ หากผู้นิพนธ์ได้ละเมิดลิขสิทธ์ิผลงานของผู้หน่ึงผู้ใด กองบรรณาธิการไม่รับผิดชอบต่อ
การละเมิดดงั กล่าว

ดาวน์โหลดผลงานเฉพาะเรื่อง

Proceedings งานประชุมวิชาการระดบั ชาติ ครง้ั ที่ 4 (MCU.RK.2022)

ศกึ ษาวิเคราะห์คัมภีร์สขุ าวดีวยหุ สูตรพทุ ธศาสนามหายาน

STUDY AND ANALYSIS OF THE SUKHAVATI VAYUU SUTRA OF
MAHAYANA BUDDHISM

พระบญุ ชว่ ย ฐิตจติ โฺ ต (ยังสามารถ)
มหาวิทยาลยั มหามกุฏราชวิทยาลยั
Phra Boonchuay Thitacitto (Yangsamart )
Mahamakut Buddhist University
[email protected]

บทคัดย่อ

บทความน้ีมีวัตถปุ ระสงคเ์ จุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาวิเคราะห์คมั ภีร์สำคญั ของพระพุทธศาสนา
มหายานนิกายสุขาวดี คือ คัมภีร์สุขาวดีวยูหสูตรซึ่งรจนาเป็นภาษาสันสกฤต และศึกษาเปรียบเทียบกบั
คัมภีร์พระไตรปิฎกในพระพุทธศาสนา ในตอนต้นกล่าวถึงแนวทางของพระพุทธศาสนาดั้งเดิมและการ
เปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่คติทางมหายาน ก่อตั้งเป็นสำนักต่าง ๆ มากมาย ดังเช่น สำนักสุขาวดี ซึ่งมีพระ
สตู รทีส่ ำคัญประจำสำนกั อยู่ 4 สตู ร คอื สุขาวดีวยหู สูตร จุลสุขาวดวี ยูหสูตร อมติ ายรุ ธยานสูตร และอมิ
ตายุสูโตรปเทศ จากการศึกษาพบว่า คัมภีร์สุขาวดีวยูหสูตรประกอบด้วยเนื้อหาสำคัญดังต่อไปนี้ คือ
ทรรศนะเรือ่ งบารมี ทรรศนะเรื่องพระพุทธเจ้า ทรรศนะเรื่องพระโพธิสัตว์ ทรรศนะเรื่องจกั รวาล และวิ
สทุ ธภิ ูมิ แนวคดิ เรอื่ งการบูชาพระอมิตาภะ แนวคดิ เร่ืองมหาปณธิ าน และแนวคดิ เร่อื งสุขาวดกี ับทรรศนะ
ตา่ ง ๆ จากการเปรยี บเทียบเนื้อหาในคัมภรี ส์ ุขาวดีวยหู สูตรและคมั ภีร์พระไตรปิฎก คำสอนทีแ่ ตกต่างกัน
คอื แนวคิดเร่ืองตรกี ายของพระพทุ ธเจ้า และแนวคดิ เรื่องพุทธเกษตร ในพระไตรปิฎกยอมรบั รปู กายของ
พระพุทธเจา้ วา่ มเี พยี งธรรมกายและนริ มาณกายเท่านัน้ สว่ นสัมโภคกายในคัมภรี ์มหายานไม่มรี ะบไุ ว้ซึ่งก็
เชื่อมโยงกับแนวคิดเรื่องพุทธเกษตรที่คัมภีร์พระไตรปิฎกไม่ยอมรับประเด็นนี้เช่นกัน ประเด็นเรื่องพุทธ
เกษตรนำมาซ่งึ ข้อแตกตา่ งกบั คำสอนของพุทธเถรวาทมากมาย อาทเิ ช่น คำสอนเรื่องปญั ญาญาณหรอื กฎ
แห่งกรรม รวมทั้งข้อโต้แย้งอื่น ๆ ที่ตามมา รูปแบบการแต่งคัมภีร์สุขาวดีวยูหสูตรประกอบด้วยบท
ร้อยแก้ว มี 47 ปริจเฉทและแทรกบทร้อยกรองในบางปริจเฉท ปริจเฉทที่ 8 สำคัญที่สุดเพราะเป็นเรื่อง
ของปณิธานบารมีซึ่งเป็นคำสอนที่สำคัญที่สุดในคัมภีร์นี้ และเป็นต้นแบบของมหาปณิธานที่มีชื่อเสียง
อย่างมากในบรรดาคัมภรี ์มหายานทง้ั หมด

คำสำคญั : ศกึ ษาวเิ คราะห์, สุขาวดีวยุหสูตร

- 244 -

Abstract

This article aims to analyze and analyze the important texts of Mahayana
Buddhism in Sukhavati, namely the Sukhavati Yuhasutra scriptures written in Sanskrit. and
a comparative study of the Tripitaka scriptures in Buddhism The beginning discusses the
traditional approaches of Buddhism and the changes that led to Mahayana Buddhism.
Founded as many different schools, such as the Sukhavadee School, which has 4
important sutras at the school, namely the Sukhavadee Yuha Sutra. Chula Sukhawadee
U Sutra Amitayurathayasutra and Amita Yusutrop The study found that The Sukhavadee
Yuha Sutra contains the following important contents: view of the Buddha Bodhisattva's
view view of the universe and Wisutthiphum The concept of worshiping Amitabha
concept of great aspirations and the concept of Sukhavati and various views from the
comparison of content in the Sukhavati Yuhasutra and the Tripitaka scriptures The
different teachings are the Buddha's concept of the Tri-body. and the concept of Buddhist
agriculture In the Tripitaka, the Buddha's body is accepted as having only the
Dhammakaya and the Nirmanakaya. As for the Sambokakaya in the Mahayana scriptures,
it is not specified, which is also linked to the concept of Buddhist agriculture that the
Tripitaka scriptures do not accept. The issue of Buddhist agriculture brings many
differences from the teachings of Theravada Buddhism, such as teachings on wisdom or
the law of karma. As well as other arguments that follow, the Sukhavadee Yuha Sutra
writing style consists of prose chapters with 47 sections and verse inserts in some sections.
It is the most important teaching in this scripture. And it is the model of the great
determination that is very famous among all the Mahayana scriptures.

Keywords: Analytical Study, Sukhavadee Yuha Sutra

บทนำ

ในมหาสขุ าวตวี ยูหสตู ร มีการกลา่ วถงึ พระเกยี รติคณุ ขององคพ์ ระอมิตาภพุทธเจ้าตั้งแต่คร้ัง
ยงั บำเพ็ญบารมใี นภพชาติมนษุ ย์ ในมหาสขุ าวดวี ยหู สูตรเล่าว่า ครั้งหนง่ึ เม่ือพระศากยมุนีพุทธเจ้าประทบั
อยู่ที่ภูเขาคิชฌกูฏ ใกล้เขตเมืองราชคฤห์ ทรงเปล่งรัศมีแผ่ซ่านออกมา มีอินทรีย์ส่องสว่างผ่องใสเป็นท่ี
อศั จรรย์ พระอานนท์ จึงทูลถามถึงสาเหตุ พระพทุ ธองค์จงึ ตรัสเลา่ เรื่องราวของพระอมติ าภพุทธเจ้า เมื่อ
ครง้ั เสวยชาตเิ ป็นพระราชาไดม้ โี อกาสเฝา้ พระโลเกศวรราชพุทธเจา้ ซง่ึ เป็น พระพุทธเจา้ พระองค์หน่ึงใน
อดีตกาลนานจนนับเวลาไมไ่ ด้ ท่านไดฟ้ ังพระธรรม แล้วเกิดความเลือ่ มใสขอบวชเป็นภกิ ษุนามวา่ ธรรมา

สงวนสิทธ์ใิ นการประชมุ วชิ าการระดับชาติ ครง้ั ที่ 4 และนานาชาติ ครั้งท่ี 1 (MCU.RK.2022)
จัดโดย วทิ ยาลยั สงฆ์พุทธปญั ญาศรที วารวดี มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั

- 245 -

กร พระธรรมกรไดป้ ฏิบตั ิธรรม บำเพญ็ บารมอี ยา่ งย่งิ ยวด ท่สี ำคัญท่านไดต้ ้ังปณธิ านจำนวน 48 ขอ้ ไว้เพ่ือ
เอ้อื ประโยชนต์ ่อสรรพสตั วภ์ ายหลังทไ่ี ด้บรรลพุ ุทธภมู ิแล้ว ชาวสขุ าวดีสว่ นใหญจ่ ะถอื เอามหาปณิธานทั้ง
สี่สิบแปดข้อนี้เป็นจุดหมายในการปฏิบัติเพื่อขอบารมีจากพระอมิตาภะ บางคนถึงกับยกให้ปณิธานบาง
ข้อ(ข้อท่สี ิบแปดถึงยสี่ ิบเอด็ ) เปน็ หัวใจของแนวคิดสขุ าวดี (สมุ าลี มหณรงค์ชัย, 2551) พระมหาปณิธาน
ทพ่ี ระโพธิสตั วธ์ รรมากรต้ังไว้ข้อทสี่ ำคัญย่ิงคือขอ้ ที่ 18ซ่งึ ถือเป็นรากฐานความคิดของนิกายสุขาวดี ข้อท่ี
น่าสังเกตคือ การตั้งปณิธานในมหาสุขาวตีวยูหสูตร เริ่มที่ความต้องการให้สรรพสัตว์ ได้อุบัติ ณ แดน
สขุ าวดีเสยี กอ่ น พระโพธิสัตวจ์ ึงจะยอมตรัสรู้อนตุ ตรสมั มาสัมโพธญิ าณ การเนน้ เรื่องช่วยเหลือผอู้ ่ืนใหพ้ น้
ทกุ ข์กอ่ นนี้แสดงให้เห็นอดุ มการณ์อนั ยิง่ ใหญข่ องพระโพธสิ ัตวธ์ รรมากรและการผกู ศรทั ธาเข้ากบั พระองค์
(พระอมิตาภะในเวลาต่อมา) ในฐานะผู้ที่สามารถช่วยเหลือสรรพสัตว์ได้อย่างแท้จริง พระมหาปณิธาน
ของพระองค์จึงเป็นเหมือนข้อสัญญาที่จะกระทำและต้องกระทำสิ่งนั้นให้บรรลุตามเจตนาที่ได้ตั้งไว้
นอกจากสัญญาดังกล่าวข้างต้นแล้ว พระมหาปณิธานยังได้กล่าวถึงการปฏิบัติของผู้ที่ได้รับการช่วยให้
รอดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงด้วย การปฏิบัตินั้นได้แก่ “การสวดพระนามพระอมิตาภะ” หรือการปฏิบัติเนม็
บทุ ์ซุ” (Nembutsu) (ประทมุ องั กูรโรหิต, 2553)

พระอมติ าภะถอื เปน็ การปฏบิ ตั ิที่สำคัญทีส่ ุดเพียงมรรควธิ เี ดียวสำหรบั การเกดิ ณ แดนสุขาวดี
ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของทุกผู้ทุกนามซึ่งในบรรดานิกายในพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน นิกายสุขาวดี
เป็นนิกายที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อแนวคิดนี้ เพราะนิกายนี้ถือความภักดีศรัทธาในองค์พระอมิตาภะ
เป็นหลัก เมื่อมีความภักดีต่อพระองค์แล้วก็สามารถนำพาตนให้หลุดพ้นจากสังสารวัฏได้ แนวคิดของ
นิกายสุขาวดีจึงจดั เปน็ ประเภท “พ่งึ อำนาจภายนอก” เพราะนิกายนีถ้ ือความภกั ดีเลอ่ื มใสศรัทธาในองค์
พระอมิตาภะเสมอแม้ครั้งเดียวก็อาจพาตนใหห้ ลดุ พน้ จากสงั สารทุกขไ์ ด้ ทั้งน้ีเพราะพระอมิตาภะเดมิ เมื่อ
ยงั เป็นภกิ ษุช่อื ธรรมากร ไดม้ ีมโนปณิธาน 48 ประการเอาไว้เมือ่ ภกิ ษุธรรมากร มีปณธิ านเชน่ น้ี และก็ได้
บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระอมิตาภะแล้วนับจากบัดนี้ได้ 10 กัป ปณิธานทั้ง 48 ข้อ ก็ต้อง
เปน็ ไปตามนนั้ ทุกประการ (เสถียร โพธนิ นั ทะ, 2522)

พระนาคารชุนปฐมาจารย์ในลัทธิมหายานอธิบายว่า พระอมิตาภะเม่ือเป็นโพธิสตั ว์บำเพญ็
บารมีอยู่ในโลกมนุษย์ก่อนจะดับขันธ์ทรงหันหน้าไปทิศตะวันตก แล้วเสด็จไปประทับอยู่บนสวรรค์ช้ัน
สขุ าวดี ข้ออธิบายนย้ี กเอาเร่อื งพระอมิตาภะขนึ้ มาเป็นบุคคลาธิษฐานโดยตลอด และดจู ะมากไป (เสฐียร
พันธรงั สี, 2543) เนอ่ื งจากคำสอนของสำนกั สุขาวดนี ัน้ เรยี บง่ายตรงไปตรงมาไม่มีอะไรลึกซึง้

ให้ตอ้ งตีความมาก หากผ้ใู ดมคี วามเชือ่ ในพระพทุ ธเจา้ องคน์ ี้ เชือ่ วา่ ดนิ แดนที่เรยี กวา่ สขุ าวดี ซึ่ง
มีลักษณะเป็นภาวะหรือมิติมากกว่าเป็นสสารครอบครองที่และเวลาหนึ่ง ๆ) มีจริง และพยายามปฏิบัติ
ตามวธิ ตี ่าง ๆ ทีร่ ะบุไว้ขา้ งต้น ก็เป็นอนั แนใ่ จได้ว่า เขาผู้นั้นย่อมสามารถไปอบุ ัติในดินแดนดงั กล่าวโดยไม่
ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกแล้ว หากมองดูผิวเผินจะเห็นว่า สุขาวดีนั้นเป็นคำสอนที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่
ชอบคิดมาก หรือคนซึ่งต้องใช้เวลาในชีวิตประจำวันทำมาหากินไม่มีเวลาศึกษาหลักธรรมให้ละเอียด

สงวนสิทธิ์ในการประชมุ วิชาการระดับชาติ ครง้ั ท่ี 4 และนานาชาติ ครัง้ ท่ี 1 (MCU.RK.2022)
จัดโดย วิทยาลัยสงฆ์พทุ ธปัญญาศรที วารวดี มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั

- 246 -

ลึกซึ้ง หรือไม่ก็คนที่ต้องการอะไรบางอย่างยึดเหนี่ยวจิตใจไว้ และคำสอนสุขาวดีก็สามารถตอบสนอง
ความต้องการของบุคคลเหล่านี้ไดจ้ รงิ ในขณะท่ีคำสอนพทุ ธสำนักอ่นื ๆ โดยเฉพาะท่เี น้นการพง่ึ พาตนเอง
กลบั ไดร้ ับความในใจในระดับหนึง่ เทา่ น้ัน กล่าวกนั วา่ สำนกั สุขาวดีและพระอมิตาภะเป็นท่ีรู้จัก ของชาว
พุทธจีนและญี่ปุ่นมากว่าสำนักพุทธอื่น เป็นเวลานับได้หลายศตวรรษที่สุขาวดีและพระอมิตาภะ ได้
กลายเป็นจินตภาพและคาวมหวังของชาวพทุ ธในซกี โลกตะวนั ออกไกลนบั ล้าน ๆ คน และอิทธพิ ลของคำ
สอนกย็ ังคงแทรกซมึ อย่มู ากในวัฒนธรรมของพวกเขา (Williams, 1989)

ทรรศนะของทา่ นพุทธทาสภกิ ขุ

ท่านพทุ ธทาสภกิ ขุ ได้อธบิ ายธรรมะคำสอนของพระพุทธเจา้ มาเป็นเวลานานแล้ว ผลงานท่ี
สำคัญที่สุดเล่มหนึ่งของท่านพทุ ธทาสก็คืองานแปล “สูตรของเว่ยหล่าง” จากต้นฉบับภาษาอังกฤษของ
A. F. Price และ Wong Mou-Lam สู่ภาษาไทยซึง่ หนังสือหรือพระสตู รเลม่ นีเ้ องท่ีค่อนข้างมีอิทธิพลตอ่
ทัศนะ ‘เซ็น’ ของท่านพุทธทาสและสิ่งหนึ่งที่ท่านพุทธทาสมักแสดงทัศนะเกี่ยวกับเซ็นก็คือ ‘เซ็นไม่ใช่
มหายานเซน็ เกดิ ขน้ึ เพอื่ ล้อเลยี นมหายาน’ ดงั ความเห็นของท่าน “มหายานน้นั ไม่ใชเ่ ซ็น เซ็นเกิดขึ้นเพ่ือ
ล้อเลียนมหายานมากกว่า มหายานนัน้ มันง่ายเกนิ ไป เพียงแตท่ ำพิธรี ีตองอย่างนั้นอย่างน้ี สวดมนต์ออก
ช่อื อมติ าภะ กห่ี มื่นครง้ั กไ็ มร่ กู้ แ็ ปลวา่ ไปอยสู่ วรรคช์ น้ั สขุ าวดี นี่เขาเรียกมหายาน คือทำใหง้ ่ายใหไ้ ปได้ทกุ
คนเพราะทกุ คนแมจ้ ะไมม่ ีสตปิ ัญญาอะไร เพียงแต่ปฏิบัติพิธีรตี องนีน้ ับว่าครบถว้ นแลว้ ก็ไปสุขาวดีได้ ไป
ได้มากจงึ เรียกวา่ "มหายาน" ส่วน "เซน็ " น้ันเพือ่ จะล้อมหายาน เขาตอ้ งรธู้ รรมลึกซึง้ อยา่ งเดียวกับที่เรารู้
คือไม่มีอุปาทานในขันธ์ทั้งห้า ฉะนั้น "เซ็น" นั้นไม่ใช่มหายาน มหายานไม่ใช่เซ็น แม้มันเกิดในเมืองจีน
ด้วยกัน นี่มันเรียนมาลวกๆ มันฟังมาลวกๆ ว่า เซ็นนี้เป็นมหายาน ถ้าใครเคยเข้าใจอย่างนี้ ให้เข้าใจเสีย
ใหมใ่ ห้ถูกต้องว่า เซ็นน้ันมันลอ้ มหายาน ไม่ใชม่ หายาน แตก่ เ็ ป็นพุทธศาสนาด้วยกนั จุดนี้เองจะเห็นได้ถึง
ทัศนะอันชัดเจนของท่านพุทธทาสว่าสำหรับท่านแล้ว มหายานนั้นเป็นเรื่องของพิธีรีตอง เป็นเรื่องของ
การสวดมนต์ (สวดพระนาม) อมิตาภะ และโดยเฉพาะ เป็นเรื่องของคนไม่มีปัญญา หรือมีปัญญาน้อย
กว่าฝ่ายเซ็นท่เี หมาะสมกับนักปราชญ

ทรรศนะของอาจารย์เสถยี ร โพธนิ นั ทะหลักสมาธิ

อาจารย์เสถียร โพธินันทะได้ตีความแนวคิดเรื่องสุขาวดีและพระอมิตาภะไว้ว่า “ในทาง
ปรัชญา เรื่องสุขาวดีและพระอมิตาภะก็หักลงเป็นธรรมาธิษฐาน คือสุขาวดีนั้น ความจริงมีอยู่ในจติ ของ
ปวงสัตว์ พระอมิตาภะแท้ก็คอื พุทธภาวะอันแจ่มจ้าซึง่ มีอยูแ่ ลว้ ในจิตของเรา ว่าตามคติของนิกายเทียน
ไทก้ ็จดั เป็นภมู ิหนง่ึ ใน 10 ภมู ิ อันอยู่ในเอกจิตธรรมธาตุนี้เทา่ นัน้ ใชว่ า่ จะมีสขุ าวดหี รือพระอมติ าภะ นอก
จิตของเราออกไป เซนถือว่าต้องการให้เรารู้จกั สุขาวดีและพุทธภาวะในตัวเองเป็นสำคัญพวกเซนเพิ่งมา
รับคติของสุขาวดีเพราะคณาจารย์ย่งเม่งเป็นผู้สมานกลมกลืนด้วยภาษิตที่ได้กล่าวมาข้างต้น ฝ่ายโยคา

สงวนสิทธิ์ในการประชมุ วิชาการระดับชาติ ครัง้ ท่ี 4 และนานาชาติ คร้ังที่ 1 (MCU.RK.2022)
จดั โดย วิทยาลัยสงฆ์พทุ ธปัญญาศรีทวารวดี มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั

- 247 -

จารก็ถือวา่ สุขาวดีเป็นพฤติกรรมของจิตแหง่ พระอมติ าภะ คอื พระองค์ทรงบนั ดาลให้มีข้ึนด้วยเหตคุ ือการ
ปฏิบตั ิธรรมและปณธิ าน 48 ข้อของพระองค์ จนกระท่งั ไดบ้ รรลเุ ปน็ พระพทุ ธเจา้ พระองค์หนึง่ สขุ าวดเี ปน็
ผลแห่งบารมขี องพระอมติ าภะ สว่ นสตั ว์ผ้จู ะไปอุบตั ินั้นก็ต้องสร้างพฤติกรรมให้เหมาะสมจึงจักได้ไปเกิด
เสวยความสุข เพราะฉะนั้น สุขาวดีก็คือใจของพระอมิตาภะและปวงชนผู้อุบัติสร้างขึ้นนั่นเอง ไม่
นอกเหนือจากมโนภาพไปได้ (เสถียร โพธนิ นั ทะ, 2522)

เสถียร โพธินันทะ ชี้เห็นว่า การปฏิบัติในนิกายสุขาวดี ก็คือ การถือเจริญพุทธานุสติเป็น
สำคัญนั่นเอง ผู้ที่เจริญพุทธานุสติมีพระพุทธเข้าเป็นอารมณ์อยู่เสมอ จิตย่อมบริสุทธิ์สะอาดเป็นกุศล
เพราะอาบรดดว้ ยพระพทุ ธคณุ ในกาลมรณะหากจติ ยังคงผกู พนั ถงึ พระพุทธเจ้าก็จักไปถือปฏิสนธใิ นสุคติ
ภพ ซ่งึ ไมจ่ ำเป็นต้องไปสุขาวดีเสมอไปก็ได้ ข้อนีม้ ีพระบาลีฝา่ ยเถรวาทรับรองวา่ “จิตเฺ ต อสงฺกิลฏิ ฺเฐ สุคติ
ปาฏกิ งขฺ า” เม่อื จติ ผอ่ งใสแลว้ สุคตเิ ปน็ อนั หวังได้ ฝ่ายเถรวาทไม่สอนเร่อื งสุขาวดี ๆ ไมม่ ีในพระไตรปิฎก
บาลี ที่วา่ พง่ึ พทุ ธานภุ าพน้ัน ถ้าพจิ ารณาใหซ้ ้ึงจักเห็นได้วา่ กต็ อ้ งอาศัยพึง่ ตัวเองดว้ ยเป็นมูล เพราะตวั เอง
ต้องมี สิ่ง, หวง, เหง พร้อมจึงจักไปอุบัติได้ อนึ่ง สุขาวดีมีลักษณะคล้ายชั้นพรมสุทธาวาสในพระบาลี
ตรงท่ีผ้ไู ปอุบตั ิ มีอนั ไม่เวียนกลับไปนพิ พานต่อไปเลยทเี ดยี ว ชน้ั พรมสุทธาวาสเปน็ ทีอ่ ยู่ของพระอนาคามี
ซึ่งมีความเก่ียวข้องอยู่เพียงชาตเิ ดียว คือเป็นเอกชาติปฏิพัทธะอย่างเดยี วกับชาวสุขาวดเี หมือนกัน พระ
อนาคามีในพรมสุทธาวาสย่อมบรรลุอรหัตผล เมื่อถึงกาลอายุขยั ย่อมปรินิพพานในชัน้ นัน้ นั่นเอง (เสถียร
โพธินันทะ, 2522)

ทรรศนะของอาจารย์สมภาร พรมทา

ศาสตราจารย์ ดร.สมภาร พรมทา ตีความคำสอนของนิกายนี้ไปในทางที่เป็นประโยชน์
มากกว่าการโจมตีว่าสอนผิดหลักการเมื่อเทียบกับหลักการของพุทธศาสนาดั้งเดิม โดยตั้งข้อสังเกตว่า
หากมองในแง่ความมีประโยชน์ นิกายนี้อาจให้ประโยชน์มากกว่าพุทธศาสนานิกายอื่นหรือแม้แต่พุทธ
ศาสนาแบบเดิมด้วยซ้ำนิกายสุขาวดีแม้จะดูเป็นนิกายที่สอนเรื่องเหลวไหล แต่กลับเป็นนิกายที่ทำ
ประโยชน์ให้มนุษย์มากที่สุด จริงอยู่ทีน่ ิกายนี้เมื่อเทียบกับพุทธศาสนาแบบเดมิ อาจจะมีความลึกซึง้ นอ้ ย
กว่า แต่ถ้ามองในแง่การให้ประโยชน์แก่คน เราต้องยอมรับว่านกิ ายนี้ให้ได้มากกว่าพทุ ธศาสนาแบบเดมิ
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชาวพุทธส่วนใหญ่ในโลกจะนับถือนิกายนี้ เพราะสิ่งที่นิกายนี้สอนสอดคล้องกับ
ข้อเท็จจรงิ ท่วี า่ ปจั จุบันคนในโลกส่วนใหญ่ยังไม่พรอ้ มทีจ่ ะพ่งึ พาตนเองดังที่พุทธศาสนาแบบเดิมพยายาม
สอนนนั่ เอง (สมภาร พรมทา, 2540)

นิกายสขุ าวดีเป็นแนวคดิ ง่าย ๆ และดูจะไมส่ มเหตุสมผลเมื่อเทียบกับพุทธศาสนาแบบเดิม
ถ้าไม่มองไปที่การให้ประโยชน์แก่คน หากแต่มองที่ตัวหลักธรรมเท่านั้น นิกายสุขาวดีไม่มีอะไรเลยที่จะ
เทียบได้กบั พุทธศาสนาแบบเดิม คนที่มีปญั ญา คนที่เป็นปราชญ์จะไมส่ นใจแนวคิดของนกิ ายสุขาวดี แต่
จะสนใจและทงึ่ ในความลกึ ซง้ึ อลงั การของระบบปรชั ญาทแี่ ฝงอย่ใู นเน้อื หาของพุทธศาสนาแบบเดิมแต่ถ้า

สงวนสิทธใิ์ นการประชมุ วิชาการระดบั ชาติ ครั้งท่ี 4 และนานาชาติ ครง้ั ท่ี 1 (MCU.RK.2022)
จัดโดย วทิ ยาลยั สงฆ์พทุ ธปญั ญาศรีทวารวดี มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั

- 248 -

มองในแง่ความเปน็ ประโยชน์ เราตอ้ งยอมรบั ว่านกิ ายสขุ าวดีทำได้ดกี วา่ พุทธศาสนาแบบเดมิ เปรยี บไดก้ บั
สินค้าชนิดดี ประณีต ราคาสูง ในขณะที่นิกายสุขาวดีเปรียบได้กับสินค้าชนิดเลว แต่ราคาถูก สินค้า
ประเภทแรกจะเป็นประโยชน์แก่คนรวยที่มกี ำลงั เงนิ สามารถซ้ือหาไดเ้ ทา่ น้นั ในขณะทส่ี นิ ค้าประเภทหลงั
จะเปน็ ประโยชนแ์ ก่คนยากคนจน ในประเทศท่ีคนสว่ นใหญ่ยากจน สินค้าประเภทแรกดจู ะไม่มีประโยชน์
เท่าใดนกั ในขณะที่สินค้าอย่างหลังสามารถอำนวยประโยชน์ได้มากกว่า ของดีอาจไมม่ ีประโยชน์เลยก็ได้
หากว่าของดีนั้นอยู่เกินวิสัยที่คนทั่วไปจะแสวงหามาใช้สอยได้ หากเรายอมรับว่าคนในโลกส่วนใหญ่
เปรียบได้กับคนยากจนเราก็ต้องยอมรับว่า พุทธศาสนาที่เหมาะแก่คนเหล่านี้ก็คือพุทธศาสนานิกาย
สุขาวดนี ่นั เอง (สมภาร พรมทา, 2540)

ทรรศนะของอาจารยศ์ ุภโชค ชมุ สาย ณ อยุธยา

สุขาวดวี ยูหสูตรเป็นพระสูตรภาษาจีน มีเนือ้ หากลา่ วถึงเหตุการณ์ชว่ งทพ่ี ระพุทธเจ้าได้เล่า
เรือ่ งดินแดนสุขาวดี และพระอมติ าภะพุทธเจ้า ใหเ้ หล่าสาวก เทพ พรหม และพระโพธสิ ตั วท์ ้งั หลายท่ีอยู่
ณ ที่ตรงนั้นไดฟ้ ังพระอมิตาภะพุทธเจ้านั้นเคยเป็นกษัตริย์ในอดีตชื่อว่าพระเจ้าธรรมกร เขาได้ออกบวช
จนไดพ้ บกับพระพุทธเจา้ องคห์ นึ่งในอดตี ท่ชี ื่อพระโลเกศวรราชพทุ ธะ และไดร้ ับคำสอนมาฝกึ ปฏิบัตแิ ละ
ตั้งปณิธาน 48 ประการ“คัมภีร์ในมหายานหลายๆ คัมภีร์เป็นคัมภีร์ที่พูดถึงการตั้งปณิธาน เช่น มหา
สุขาวดีวยูหสูตร ก็พูดถึงปณิธานของพระอมิตาภะ ในเล่มอื่นก็มีปณิธานโพธิสัตว์อื่นๆ อีกมากมาย
มหายานเน้นการปลุกเร้าความตัง้ จิตต้ังใจ ศรัทธาอันแน่วแนม่ ัน่ คงของจติ ใจท่ีจะทำบางสิง่ บางอย่างเพื่อ
สรรพสัตว์” หนึ่งในปณิธานอมิตาภะที่ฝ่ายสุขาวดีให้ความสำคัญเป็นหลัก คือ ปณิธานประการที่ 18 ท่ี
พระอมิตาภะตั้งไว้ในตอนเริ่มฝึกปฏิบัติจากคำสอนของพระโลเกศวรราชพุทธะว่า ถ้าเมื่อใดที่ตนเองได้
ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ขอให้มีพุทธเกษตรแห่งหนึ่งเป็นดินแดนอันบริสุทธิ์ที่ชื่อว่าสุขาวดี และให้
สรรพสัตว์ที่ปรารถนาจะเกิดในดินแดนสุขาวดีนั้นได้เกิดในสุขาวดีได้ โดยการระลึกถึงและสวดชื่อของ
พระอมติ าภะเพียง 10 จบ ซ่งึ ถ้าปณธิ านนไี้ มส่ ามารถสำเร็จได้ ตนก็จะไมบ่ รรลเุ ปน็ พระพทุ ธเจ้าเนอ้ื หาใน
พระสูตรจบลงที่พระธรรมกรไดบ้ รรลุเป็นพระอมิตาภะพุทธเจ้า และปณิธานทั้ง 48 ประการที่ได้ตั้งไว้ก็
เปน็ จรงิ แนวคดิ ของสุขาวดคี อื การโอบลอ้ มสรรพสัตว์ทงั้ หลายทงั้ ปวงเข้ามาดว้ ยกัน

ในพุทธศาสนาฝ่ายสุขาวดีแบ่งความคิดเกี่ยวกับสุขาวดีและพระอมิตาภะเป็นสองแบบ ใน
แบบแรกคอื ยืนยันตามคำอธบิ ายในคมั ภีรส์ ขุ าวดวี ยูหสตู ร ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งซึง่ อธบิ ายในลักษณะร่วมสมัย
นั้นอธิบายวา่ ทั้งพระอมิตาภะและสขุ าวดีเป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้น“นักปรัชญาสุขาวดีในยุคปัจจุบนั บอกเลย
ว่า อมิตาภะ คือนิยายที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่ออธิบายถึงลักษณะบุคลิกภาพของพระพุทธเจ้าศากยมุนีทีช่ าว
พทุ ธในอดตี ได้ทอดทิ้งไป”

ไม่ว่าพระอมิตาภะและดินแดนสขุ าวดีจะเป็นจริงตามคัมภรี ์หรือเป็นเรื่องที่เขียนข้นึ หรอื ไม่
จะอยขู่ ้างนอก หรืออยขู่ า้ งในใจ พลังในการวางใจในสงิ่ อ่ืนท่ีไมใ่ ชต่ วั เราอย่างพระอมติ าภะ หรอื อาจหมาย

สงวนสิทธิ์ในการประชุมวชิ าการระดับชาติ คร้ังท่ี 4 และนานาชาติ คร้งั ที่ 1 (MCU.RK.2022)
จัดโดย วทิ ยาลยั สงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั

- 249 -

รวมถึงเพื่อนมนษุ ยแ์ ละสรรพสัตวโ์ ดยปราศจากการแบ่งแยกใดๆ ก็เปน็ พลังในการปลกุ โลกใบนี้และทกุ สิ่ง
ให้ตนื่ ขึน้ เป็นดินแดนสขุ าวดีไดไ้ มย่ าก ขอเพียงแคว่ างใจ

“สุดทา้ ยคำวา่ อมติ าภะมนั แทนเนอ้ื หาทั้งหมดในตวั เราเอง โดยที่เราก็ไม่รูว้ า่ จรงิ ๆ อมิตาภะ
ที่นยิ ามกนั หลายๆ ฝา่ ย วันหนึง่ เราจะสามารถเข้าใจไดด้ ว้ ยตัวเองไดห้ รอื เปล่า นีก่ ็เป็นเรือ่ งความไว้วางใจ
ของเรา”

คำสอนมหายานในแต่ละนิกายน้ันก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือสิ่งที่พระพุทธเจา้ ได้สอนไว้ เพียงแต่
ว่ามหายานเกิดขึ้นมาเพ่ือกระตุ้นเตอื นฝา่ ยหินยานว่าธรรมะควรมีด้านของความมีชีวติ ชีวาที่เช่ือมโยงกับ
ชีวิตของผู้คนทุกคน ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องของคัมภีร์ ซึ่งในแต่ละนิกายก็จะเน้นย้ำในเรื่องที่แตกต่างกันไป
และในฝ่ายสขุ าวดีก่อกำเนิดขึ้นมาโดยเน้นเรื่องศรัทธาในพระอมติ าภะพุทธเจา้ ซึ่งเปน็ ตัวแทนของความ
ถ่อมตนและความไว้วางใจ ซึ่งเป็นบ่อเกิดของพลังศรัทธาแห่งจิตใจในการออกไปยังประโยชน์ต่อเพื่อน
มนุษยแ์ ละสรรพสัตว์ (ศุภโชค ชมุ สาย ณ อยุธยา, 2563)

บทสรุป

ในคัมภีร์สุขาวตีวยูหสูตร คือ การศึกษาวิเคราะห์ ประวัติความเป็นมา ขอบเขตเนื้อหาและ
แนวคิดสำคัญที่ปรากฏในคัมภีร์ สุขาวตีวยูหสูตรซึ่งรจนาเป็นภาษาสันสกฤตและฉบับแปลเป็นภาษาไทยเป็น
อย่างไร แนวคดิ ของสำนักสุขาวดีแบบจารีตและสุขาวดีแนวทางใหม่มีความสัมพันธ์หรือขดั แย้งกันในประเด็น
ใดบ้าง ในคัมภีร์สุขาวตีวยูหสูตรเพื่อประยุกต์ใช้พัฒนาตนเองและสังคม โดยใช้วิธีเปรียบเทียบกับมโนทัศน์
ของนกั ปราชญ์ นกั วชิ าการ และนกั ปรัชญาได้ ดงั นี้

สุขาวดี มีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า จิ้งถู่ (Ching Tu) (ทวีวัฒน์ ปุณฑริกวิวัฒน์, 2526) จัดเป็น
สำนักหนึ่งทางพุทธศาสนาที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีน เปลือกนอกดูเหมือนมีคำสอนไม่เน้นให้พึ่งปัญญาของ
ตนเอง ในการแสวงหาความหลุดพ้น แต่สอนให้พึ่งอำนาจภายนอก ซึ่งผิดแผกไปจากคำสอนพุทแบบเดิม
เป้าหมายหลักคือการไดไ้ ปอยู่ในพุทธเกษตรสุขาวดีของพระพุทธเจา้ องค์หน่ึงที่มีนามว่า อมิตาภะ เป็นปัญญา
ไม่ใช่จดุ เริม่ ต้นในการช่วยให้คนพ้นทุกข์ สำนักนี้สอนให้คนมีศรัทธาหรือมีความปรารถนาอันแรงกล้า ท่ีจะส่ง
จิตไปขอให้พระอมิตาภพุทธเจ้าทรงช่วยให้หลุดพ้น ดังนั้น ศรัทธาจึงเป็นเงื่อนไขที่พุทธศาสนิกชนสำนักน้ี
จำเป็นตอ้ งมเี ปน็ อันดบั แรก

ผลการศึกษาวิเคราะห์ความ พบว่า นักปรัชญาและนักคิดคนสำคัญในอดีตและปัจจุบันล้วนมี
ความคิดเห็นท่ีแตกต่างกันหลายทรรศนะ ทั้งทเ่ี หน็ ว่านิกายสุขาวดีเป็นแนวคดิ งา่ ย ๆ และดูจะไม่สมเหตุสมผล
เมอ่ื เทียบกบั พทุ ธศาสนาแบบเดิม และมองวา่ การสวดพระนามพระอมติ าภะเป็นเรื่องของคนไมม่ ปี ัญญา หรือมี
ปัญญาน้อย และฝ่ายที่เห็นว่า มนุษย์ไม่มีเสรีภาพที่จะเลือกหรือการกำหนดเจตนาของตนเอง มนุษย์ไม่
สามารถประกอบกุศลกรรมที่เป็นการสั่งสมบุญกุศลเพื่อพ้นทุกข์ได้เองต้องอาศัยพลังจากภายนอกเข้ามา
ช่วยเหลือ เช่นการสวดพระนามพระอมิตาภะอย่างหมดจิตหมดใจ และพวกที่พยายามประณีประนอมความ

สงวนสิทธิ์ในการประชมุ วิชาการระดบั ชาติ คร้ังที่ 4 และนานาชาติ ครั้งท่ี 1 (MCU.RK.2022)
จัดโดย วิทยาลยั สงฆ์พุทธปญั ญาศรที วารวดี มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั

- 250 -

คิดเห็นทงั้ สองฝ่ายโดยมองว่า การปฏิบตั ใิ นนิกายสุขาวดี กค็ ือ การถือเจริญพุทธานสุ ตินั่นเอง ผู้ที่เจริญพุทธา
นุสตมิ ีพระพทุ ธเข้าเป็นอารมณ์อยู่เสมอ จติ ยอ่ มบรสิ ทุ ธส์ิ ะอาดเป็นกุศลซึ่งก็ไม่ได้ผดิ เพี้ยนไปไกลเหมือนอย่าง
ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับนิกายนี้และก็ไม่ได้ไปไกลถึงขั้นพึ่งอำนาจจากภายนอกเพียงอย่างเดียว แต่ตนเองก็ต้อง
ปฏิบัตดิ ว้ ยตนเองด้วยจงึ จะพน้ ทกุ ข์ได้

เอกสารอา้ งองิ

ทววี ฒั น์ ปณุ ฑริกววิ ฒั น.์ (2526). วิถแี หง่ มหายาน. กรงุ เทพมหานคร: ปารมิตา.
ศภุ โชค ชมุ สาย ณ อยุธยา. (2563). หัวใจสขุ าวดีเขา้ ถึงอารมณ์ความรู้สึกแหง่ สขุ าวดขี องคนบาปแต่มี

หัวใจในคัมภีร์สุขาวดวี ยหู สูตร. (สมั ภาษณ์). 9 กุมภาพนั ธ์ 2563.
สมภาร พรมทา. (2540). พุทธศาสนามหายาน: นิกายหลัก. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์

มหาวทิ ยาลยั .
สมุ าลี มหณรงค์ชยั . (2551). พทุ ธศาสนามหายาน. (พิมพค์ ร้งั ที่ 2). กรุงเทพมหานคร: ส่องศยาม.
ประทุม องั กูรโรหติ . (2553). พระมหาปณธิ านของพระโพธสิ ัตวก์ บั ปญั หาเสรภี าพของมนุษย์ในบทนิพนธ์

ของฌินรัน.รายงานการวิจัย. กรุงเทพมหานคร: ภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์
จฬุ าลงกรณ์ มหาวทิ ยาลยั .
เสฐยี ร พันธรังสี. (2543). พทุ ธศาสนามหายาน. พมิ พ์ครงั้ ที่ 4. กรงุ เทพมหานคร: สขุ ภาพใจ.
เสถียร โพธนิ ันทะ. (2522). ปรชั ญามหายาน. กรุงเทพมหานคร: บรรณาคาร.
Paul Williams. (1989). Mahayana Buddhism. New York: : Routledge.

สงวนสิทธิใ์ นการประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ คร้งั ท่ี 4 และนานาชาติ ครงั้ ที่ 1 (MCU.RK.2022)
จดั โดย วทิ ยาลยั สงฆพ์ ทุ ธปัญญาศรีทวารวดี มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั

ท่ี MCURK ๐๑๙

ท่ี อว ๘๐๕๘/ ว ๓๘ วิทยาลยั สงฆพ์ ทุ ธปัญญาศรีทวารวดี
มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั
วดั ไรข่ งิ พระอารามหลวง ตาบลไรข่ งิ
อาเภอสามพราน จงั หวัดนครปฐม ๗๓๒๑๐

๒๐ เมษายน ๒๕๖๕

เรอ่ื ง ตอบรบั การตีพมิ พ์เผยแพรผ่ ลงานในการการประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ ครงั้ ที่ ๔
และระดบั นานาชาติ คร้งั ท่ี ๑ ณ วทิ ยาลยั สงฆพ์ ทุ ธปัญญาศรีทวารวดี

เรียน พระบญุ ช่วย ฐิตจิตโฺ ต และคณะ

ตามท่ีท่านได้ส่งบทความเรื่อง “ศึกษาวิเคราะห์คัมภีร์สุขาวดีวยุหสูตรพุทธศาสนามหายาน”
เพ่ือตีพิมพ์เผยแพร่ในการประชุมวิชาการระดับชาติ คร้ังที่ ๔ และระดับนานาชาติ ครั้งท่ี ๑ ในหัวข้อเร่ือง
“พทุ ธศาสนาเพ่ือการเยียวยาโลกแหง่ อนาคต” The 4th National and the 1st International Academic
Conference On Buddhism for Healing the World of the Future ( MCU.RK.2 0 2 2 ) ผ่ า น ร ะ บ บ
ออนไลน์ ในวนั เสารท์ ี่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕ ณ วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี มหาวิทยาลัยมหา
จฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย ตามความทราบแล้วนนั้

ในการน้ี กองบรรณาธิการ ยินดีแจ้งให้ท่านทราบว่า ผลงานของท่านได้รับการตรวจสอบความ
ถูกต้องทางวิชาการจากผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Review) และผ่านการพิจารณาจากกองบรรณาธิการให้ตีพิมพ์
เผยแพร่ในการประชุมวชิ าการระดับชาติ และระดบั นานาชาติ คร้งั น้ไี ด้ โดยเมือ่ เสร็จสน้ิ การประชมุ ๑ เดอื น
ท่ า น ส า ม า ร ถ ติ ด ต า ม อ่ า น แ ล ะ ด า ว น์ โ ห ล ด บ ท ค ว า ม ฉ บั บ ส ม บู ร ณ์ จ า ก เ อ ก ส า ร ร า ย ง า น ก า ร ป ร ะ ชุ ม
Proceedings โดยเผยแพรอ่ อนไลน์ไดท้ ่ี https://rk.mcu.ac.th/con/ หรอื https://rk.mcu.ac.th/

จงึ เรยี นมาเพื่อทราบและขอขอบคุณในความรว่ มมือทางวชิ าการมา ณ โอกาสนี้

ขอแสดงความนบั ถือ

(พระมหาบุญเลิศ อนิ ทฺ ปญฺโ , ศ.ดร.)
บรรณาธกิ ารงานประชมุ วิชาการระดับชาติ ครงั้ ท่ี ๔ และระดับนานาชาติ คร้งั ท่ี ๑
วทิ ยาลยั สงฆ์พุทธปัญญาศรที วารวดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ประสานงาน : พระมหาประกาศิต สริ ิเมโธ,ดร. โทร.๐๘๔ ๕๔๕ ๕๑๔๔ ตดิ ตามงานประชุม


Click to View FlipBook Version