The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่มนวัตกรรม T-Under

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Aranya Wongsawat, 2024-06-19 13:36:16

เล่มนวัตกรรม T-Under

เล่มนวัตกรรม T-Under

รายงานการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ศษ591 การปฏิบัติการสอนและการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ED591 INTERNSHIP IN EDUCATION I โดย ชื่อ-สกุล นางสาว อรัญญา วงศ์สวัสดิ์ รหัสประจำตัว 61104010185 สาขาวิชา / วิชาเอก พลศึกษา ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2565 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ SRINAKHARINWIROT UNIVERSITY


คำนำ รายงานการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา ศษ591 การปฏิบัติการสอน และ การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ประจำปีการศึกษา 2565 โดยผู้ผลิตนวัตกรรมมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนา นวัตกรรมสื่อการเรียนรู้ในรายวิชาวอลเลย์บอล ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์เพื่อใช้สนับสนุนการเรียนรู้ให้ผู้เรียน สามารถพัฒนาทักษะการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) ด้วยนวัตกรรมที่จะใช้การปฏิบัติกิจกรรม ได้อย่างต่อเนื่อง และยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) ได้ ทั้งนี้นวัตกรรมชิ้นนี้ที่จัดทำขึ้นมามีความแข็งแรงทนทาน ปลอดภัยในระหว่างการใช้งาน และ ยังสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายสะดวก ผู้รายงาน นางสาว อรัญญา วงศ์สวัสดิ์


สารบัญ รายการ หน้า 1.กระบวนการออกแบบนวัตกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด ADDIE MODEL Analysis ขั้นวิเคราะห์ 1 Design ขั้นออกแบบ 2 - 5 Development ขั้นพัฒนา 5 - 9 Implementation ขั้นนำไปใช้ 9 - 20 Evaluation ขั้นประเมินผล 21 - 22 ภาคผนวก 23 - 28


1 ปัญหา / ความต้องการ : นักเรียนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 มีปัญหาในการเรียนพลศึกษา (วอลเลย์บอล) เรื่องทักษะการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) เนื่องจากนักเรียนปฏิบัติลักษณะท่าทางการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) ผิดเลยทำให้ การควบคุมลูก ควบคุมทิศทาง และควบคุมร่างกายไม่สมบูรณ์จึงทำให้นักเรียนในรายวิชาวอลเลย์บอล ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 เกิดความวิตกกังวลในลักษณะท่าทางการอันเดอร์ เนื่องจากทักษะการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) ในกีฬ าวอลเลย์บอลมีความจำเป็น เป็นอย่างมากในการเล่นกีฬาวอลเลย์บอล ถ้านักเรียนอันเดอร์ไม่เป็น หรือควบคุมแรง ควบคุมทิศทางในการอันเดอร์ไม่ได้จะทำให้การอันเดอร์ ขาดประสิทธิภาพ การเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) ปัญหาเกิดจากนักเรียนทำลักษณะท่าทางการอันเดอร์ไม่ถูกต้อง เช่น นักเรียนไม่ย่อตัวตีนักเรียนมีการออกแรงที่ผิด นักเรียนเจ็บมือ นักเรียนวางมือและขาผิด จึงทำให้ขาดประสิทธิภาพ ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้ทำให้นักเรียนเกิดความวิตกกังวล กลัว ขาดความมั่นใจ และอีกอย่างการฝึกซ้อมในชั้นเรียน หรือนอกชั้นเรียนของนักเรียนมีเวลาน้อย เลยทำให้นักเรียนไม่สามารถ ปรับลักษณะท่าทาง แรง จุดกระทบบอลของการอันเดอร์เลยนำไปสู่นวัตกรรมชิ้นนี้ เพื่อช่วยให้นักเรียน ปรับลักษณะท่าทางการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) ให้ดีขึ้น นักเรียน : นักเรียนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 มีปัญหาในการเรียนวิชาพลศึกษา (วอลเลย์บอล) เรื่องทักษะการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) เพราะนักเรียน ปฏิบัติลักษณะท่าทางที่ผิดรวมไปถึงแรงในการอันเดอร์ และจุดที่ควรสัมผัสบอล เนื้อหา : วิชาพลศึกษา (วอลเลย์บอล) พบว่านักเรียนไม่สามารถปฏิบัติทักษะการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) ได้อย่างถูกต้อง เลยมีการทำนวัตกรรมชิ้นนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นนวัตกรรม หรือสื่อการสอน


2 ชื่อนวัตกรรม : นวัตกรรม T - Under วัตถุประสงค์ของสื่อ / นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการปฏิบัติทักษะการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) ได้อย่างถูกต้อง 2. เพื่อให้นักเรียนสามารถปฏิบัติทักษะการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) ได้อย่างถูกต้อง 3. เพื่อให้นักเรียนเกิดเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาพลศึกษา (วอลเลย์บอล) เรื่องทักษะการเล่น ลูกสองมือ (การอันเดอร์) แผนการใช้สื่อ / นวัตกรรม นวัตกรรมที่สร้างขึ้นคือนวัตกรรม T - Under ที่ใช้ในการช่วยสอนในวิชาพลศึกษา (วอลเลย์บอล)ราย เรื่องทักษะการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 นวัตกรรมที่ผู้จัดทำขึ้น เพื่อให้เกิด ประโยชน์แก่นักเรียนให้มากที่สุด และเพื่อนำมาแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชั้นเรียน เพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ ข้างต้น โดยจะใช้นวัตกรรม T – Under ชิ้นนี้ที่จัดทำขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหานักเรียนที่ไม่สามารถปฏิบัติ ลักษณะท่าทางการอันเดอร์ได้และยังแก้ปัญหานักเรียนที่ควบคุมทิศทาง แรง และจุดสัมผัสบอล ซึ่งนวัตกรรมชิ้นนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) ให้มีความแม่นยำ ในการอันเดอร์มากขึ้น และสามารถควบคุมทิศทาง ความแรง ความเบา ของการอันเดอร์แต่ละครั้งได้ ในการเรียนการสอนทุกครั้งจะให้นักเรียนทุกคนทดลองใช้นวัตกรรม T – Under ในคาบเรียนทุกครั้ง ไปในแต่ละสัปดาห์ โดยท้ายคาบจะให้ผู้เรียนฝึกทักษะการอันเดอร์บอล ส่วนคนที่ยังปฏิบัติลักษณะท่าทางไม่ได้ จะให้ใช้นวัตกรรม T – Under เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) และที่ยิ่งไป กว่านั้นนวัตกรรมที่ผู้จัดทำสร้างขั้นยังใช้งบประมาณที่ประหยัดกว่าอุปกรณ์ที่ทำสำเร็จรูปเป็นอย่างมาก และ สามารถเคลื่อนย้ายไปฝึกในสถานที่อื่นๆ ได้ รวมไปถึงยังสามารถนำไปฝึกในทักษะอื่นๆ ในกีฬาวอลเลย์บอลได้ เช่น การบล็อก การตีบอลมือบน และการเซตบอลได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อโรงเรียนที่ขาดแคลน ทุนทรัพย์หรืออุปกรณ์ในกีฬาวอลเลย์บอล


3 การออกแบบตัวสื่อ / นวัตกรรม การออกแบบ T – Under ครั้งที่ 1 คิดออกแบบโดยใช้ท่อ PVC


4 ครั้งที่ 2 คิดออกแบบโดยใช้เหล็ก


5 วัสดุอุปกรณ์ 1. ฐานวงกลม 8. เหล็กสี่เหลี่ยม 2. ล้อ 9. เครื่องเชื่อม 3. เหล็กทรงกลมหนา 2.2 นิ้ว 10. กระดาษทราย 4. เหล็กทรงกลมหนา 2 นิ้ว 11. ปูน 5. น็อต 12. กระสอบทราย 6. สีพ่นดำด้าน 13. ยางยืด 7. ถุงผ้า 14. เครื่องตัดเหล็ก ออกแบบครั้งที่ 1 ปัญหา ปูนที่เชื่อมระหว่างล้อกับฐาน เกิดรอยร้าว จึงทำให้ฐานด้านล่าง แตก เลยมีการเปลี่ยนมาเป็นการเชื่อมเหล็กแทน


6 ออกแบบครั้งที่ 2 - ในการออกแบบครั้งที่ 2 ได้มีการเปลี่ยนเสาใหม่ เพราะเสาเก่ามีขนาดเล็ก - มีการเปลี่ยนที่ใส่บอลเป็นถุงบอลที่เย็บทำมือ - มีการเปลี่ยนจากเชือก เป็นหนังยางเพราะมีความยืดหยุ่นมากกว่า - ฐานมีการนำปูนแท่งมาตั้งทับให้มีความแข็งแรง


7 พัฒนา : คู่มือการใช้สื่อ/นวัตกรรม จัดทำคู่มือการใช้นวัตกรรมพร้อม อธิบายวิธีการให้ชัดเจน เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ให้สอดคล้อง กับนวัตกรรม เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปรับแก้ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ พัฒนา : การพัฒนาคุณภาพ/นวัตกรรม ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน ตรวจสอบคุณภาพของสื่อ / นวัตกรรมเพื่อหาแนวทางแก้ไข และปรับปรุง 1. อาจารย์เอกพล ถาวรเจริญ อาจารย์สาขาวิจัยและพัฒนาการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ 2. อาจารย์อรรควรรธน์ วีระเดโช อาจารย์สาขาวิจัยและพัฒนาการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ 3. อาจารย์ศุภกิจ คำภิรมย์อาจารย์สาขาวิจัยและพัฒนาการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ


8 แบบประเมินความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญที่มีต่อนวัตกรรม T – Under (การฝึกอันเดอร์) คำชี้แจง ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อนวัตกรรม T – Under โดยใส่ เครื่องหมาย () ลงในช่องความคิดเห็นของท่าน พร้อมเขียนข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ใน การนำไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป ให้คะแนน +1 หมายถึง แน่ใจว่าสอดคล้อง/เหมาะสม ให้คะแนน 0 หมายถึง ไม่แน่ใจว่าสอดคล้อง/เหมาะสม ให้คะแนน -1 หมายถึง แน่ใจว่าไม่สอดคล้อง/เหมาะสม รายการความคิดเห็น ระดับคุณถาพ 1 0 -1 1. ความสอดคล้องเหมาะสมกับหลักสูตร 2. ความสอดคล้องเหมาะสมกับผู้เรียน 3. ความเหมาะสมต่อกระบวนการพัฒนาผู้เรียน 4. ความเหมาะสมของนวัตกรรม 5. ความเหมาะสมของการวัดผล 6. ความเหมาะสมในรูปแบบ 7. ความเหมาะสมกับความสนใจของผู้เรียน 8. ความสอดคล้องเหมาะสมกับสภาพปัจจุบันและ ปัญหา ข้อเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ............................................................ (…………………..…………..………………… ) ผู้เชี่ยวชาญ


9 ตารางผลตรวจสอบคุณภาพนวัตกรรมจากผู้เชี่ยวชาญทั้ง 3 ท่าน การหาคุณภาพสื่อ/นวัตกรรม โดยผู้เชี่ยวชาญ รายการความคิดเห็น ประมาณค่าความคิดเห็นของ ผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ ค่าIOC แปรผล 1 2 3 1. ความสอดคล้องเหมาะสมกับหลักสูตร 1 1 1 1 ใช้ได้ 2. ความสอดคล้องเหมาะสมกับผู้เรียน 1 1 1 1 ใช้ได้ 3. ความเหมาะสมต่อกระบวนการพัฒนาผู้เรียน 1 1 1 1 ใช้ได้ 4. ความเหมาะสมของนวัตกรรม 1 1 1 1 ใช้ได้ 5. ความเหมาะสมของการวัดผล 1 1 1 1 ใช้ได้ 6. ความเหมาะสมในรูปแบบ 0 1 1 0.7 ใช้ได้ 7. ความเหมาะสมกับความสนใจของผู้เรียน 0 1 1 0.7 ใช้ได้ 8. ความสอดคล้องเหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน และ ปัญหา 1 0 1 0.7 ใช้ได้ ค่า IOC = 1+1+1+1+1+1+0.7+0.7+0.7 8 = 7.1 = 0.88 8 สรุป นวัตกรรมใช้งานได้ 4. - Implementation ขั้นนำไปใช้ ขั้นนำไปใช้: การนำนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ได้จากการพัฒนาไปใช้หรือเผยแพร่กับกลุ่มเป้าหมาย ตามที่ได้ออกแบบไว้ นำนวัตกรรมการเรียนรู้ที่ได้จากการพัฒนาไปใช้หรือเผยแพร่กับกลุ่มเป้าหมายตามที่ได้ออกแบบไว้ โดยนำนวัตกรรมไปใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา2565 รายวิชาพลศึกษา (วอลเลย์บอล) หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 ใช้นวัตกรรมทั้งหมด 2คาบ โดยใช้ในกิจกรรมการเรียนรู้ในขั้นอธิบาย/สาธิต ขั้นปฏิบัติ ขั้นนำไปใช้และขั้นสรุปร่วมกับการจัดการเรียนรู้ดังรายละเอียดตามแผนการจัดการเรียนรู้พลศึกษา ดังนี้ I


10 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด มาตรฐาน พ 3.1 เข้าใจมีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา ตัวชี้วัด ม.4/1 วิเคราะห์ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวรูปแบบต่างๆในการเล่นกีฬา ม.4/3 เล่นกีฬาไทย กีฬาสากลประเภทบุคคล ประเภทคู่ กีฬาประเภททีมอย่างน้อย 1ชนิด ม.4/4 แสดงการเคลื่อนไหวได้อย่างสร้างสรรค์ มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่าง สม่ำเสมอมีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขันและชื่นชมใน สุนทรียภาพของการกีฬา ตัวชี้วัด ม.4/1 ออกกำลังกายและเล่นกีฬาที่เหมาะสมกับตนองสม่ำเสมอ และใช้ความสามารถของ ตนเองเพิ่มศักยภาพของทีม ลดความเป็นตัวตน คำนึงถึงผลที่เกิดต่อสังคม ม.4/4 ร่วมกิจกรรมทางกาย และเล่นกีฬาอย่างมีความสุข ชื่นชมในคุณค่า และความงามของ การกีฬา ปณิธาน วิจัยก้าวหน้า พัฒนานวัตกรรม กิจกรรมกล้าคิด ปลูกจิตสาธารณะ อัตลักษณ์ รู้คิดเชิงวิทยาศาสตร์ เปรื่องปราดเทคโนโลยี ภาษาดีมีคุณธรรม สานสัมพันธ์ชุมชน วิสัยทัศน์หลักสูตร 1. พัฒนาศักยภาพของผู้เรียนภายใต้รากฐานของการวิจัย 2. เป็นพลเมืองไทย พลเมืองโลกที่มีคุณธรรม จริยธรรม ควบคู่กับความรู้ที่ดีงาม 3. เน้นด้วยกระบวนการคิดและสร้างอัตลักษณ์แก่ตนเอง 4. ให้เกิดเจตคติต่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต 5. สามารถใช้ทักษะชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ 2. มีความซื่อสัตย์สุจริต 3. มีวินัยเคารพกฎระเบียบของสังคม 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 สาขาวิจัยและพัฒนาการสอนสุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา พลศึกษา (วอลเลย์บอล) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2565 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ทักษะการเล่นลูกสองมือล่าง (อันเดอร์1) เวลาเรียน 1 คาบ 45 นาที ผู้สร้างสรรค์การจัดการเรียนรู้ นางสาว อรัญญา วงศ์สวัสดิ์ 8. มีจิตสาธารณะ


11 แผนผังมโนทัศน์ เรื่อง ทักษะการเล่นลูกสองมือล่าง ลักษณะการจับมือเพื่อเล่นลูกสองมือล่าง 4 ลักษณะ ลักษณะการอันเดอร์ เดี่ยว (ไม่มีบอล) ทักษะการเล่นลูกสองมือล่าง (ลูกอันเดอร์) ลักษณะการอันเดอร์ เดี่ยว (มีบอล)


12 1. สาระการเรียนรู้ วอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่นิยมเล่นมาก และส่วนใหญ่ใช้แขนและมือในการเล่นลูกบอล ในการเล่นกีฬา วอลเลย์บอลทั้งในเกมรุกและเกมรับจำเป็นต้องใช้การเล่นลูกสองมือล่าง เพราะการที่เราจะเป็นฝ่ายรุกได้ นั้นผู้เล่นต้องรับลูกให้ได้ก่อนจึงจะสามารถเล่นเป็นฝ่ายรุกได้ ดังนั้นการเล่นลูกสองมือล่างจึงเป็นทักษะแรก ในการเล่น และเป็นทักษะที่สำคัญในการเล่นวอลเลย์บอล 2. จุดประสงค์การเรียนรู้(K, P, A) 1. ด้านความรู้ - นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการปฏิบัติทักษะการเล่นลูกสองมือล่างได้ 2. ด้านทักษะ - นักเรียนสามารถปฏิบัติทักษะการเล่นลูกสองมือล่างได้ 3. ด้านเจตคติ - นักเรียนแสดงความกระตือรือร้นในขณะเรียนหรือปฏิบัติทักษะด้วยความตั้งใจในชั้นเรียน 3. สมรรถนะ - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 4. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน - มีความซื่อสัตย์สุจริต 5. สื่อการเรียนการสอน - ลูกวอลเลย์บอล - สนามกีฬา - ใบรายชื่อ - กรวย - นกหวีด - นวัตกรรม - T Under (การฝึกอันเดอร์) - ห่วงวงกลม


13 6. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้: การสอนแบบปฏิบัติ กิจกรรม วิธีการสอน สื่อ อุปกรณ์ สถานที่ วิธีการและ เครื่องมือประเมิน ขั้นเตรียม (5 นาที) 1. ครูให้นักเรียนเข้าแถวตอน 6 แถวทุกครั้งเมื่อเริ่มต้นชั่วโมง เรียน และก่อนเลิกเรียนวิชานี้ 2. ครูเช็คชื่อนักเรียน 3. ครูสอบถามสุขภาพก่อนเรียนและตรวจอุปกรณ์ การแต่งกาย 4. ครูเลือกตัวแทนมานำอบอุ่นร่างกายในท่าต่างๆดังนี้ การปฏิบัติกายบริหารยืดเหยียดกล้ามเนื้อโดยให้นักเรียน บริหารกล้ามเนื้อ และข้อต่อของส่วนต่างๆ ของร่างกายตั้งแต่ ศีรษะถึงปลายเท้าท่าละ10วินาที - การยืดเหยียดกล้ามเนื้อแขน - การยืดเหยียดกล้ามเนื้อหัวไหล่ - ชี้แจงคำสั่ง - ปฏิบัติ - ใบรายชื่อ นักเรียน - เช็คชื่อนักเรียน


14 - การยืดเหยียดกล้ามเนื้อลำตัวด้านข้าง - การยืดเหยียดกล้ามเนื้อแขนส่วนบน - ท่ายืดเหยียดแขน และคอ - ท่าการยืดกล้ามเนื้อต้นแขนด้านหลัง - ท่ายืดเหยียดกล้ามเนื้อขา


15 - ท่าการยืดกล้ามเนื้อต้นขา ขั้นอธิบาย/สาธิต ( ใช้เวลา 10 นาที ) 1. ครูอธิบายเกี่ยวกับความสำคัญในการเล่นลูกสองมือ 2. ครูอธิบายและสาธิตการจับมือที่นิยม 4 แบบ - แบบมือซ้อนมือ - แบบโอบหมด - แบบกำมือทั้งสองข้างชิดกัน - แบบผสานมือ ตัวอย่าง - แบบมือซ้อนมือ - แบบโอบหมัด - อธิบาย -สาธิต - ถาม – ตอบ - นกหวีด - สนาม - ลูกวอลเลย์บอล - กรวย - การถาม ตอบ - การสังเกต - พฤติกรรมผู้เรียน


16 - แบบกำมือทั้งสองข้างชิดกัน - แบบผสานมือ 3. ครูอธิบาย และสาธิตการยืนในลักษะที่ดี - ยืนเท้าใดเท้าหนึ่งอยู่ข้างหน้าห่างกัน ประมาณ 1 ช่วงไหล่ - ย่อเข่าลงให้หัวเข่าเลยปลายเท้าเล็กน้อยก้มลำตัวให้หัวไหล่ อยู่ในแนวระดับของเข่า - ยกส้นเท้าขึ้นเล็กน้อย น้ำหนักตัวอยู่ที่ปลายเท้าทั้งสองข้าง ตรงบริเวณโคนหัวแม่เท้า ใต้ฝ่าเท้า - จับมือในท่าที่ถูกต้องแขนทั้งสองเหยียดตึง ตามองที่ลูกบอล 4. ครูอธิบาย และสาธิตการออกแรงในการอันเดอร์และบอกทริค ในการรับลูก (หากลูกบอลที่พุ่งมาไม่แรง การอันเดอร์ลูกต้อง เพิ่มแรงยกของแขนขึ้น เพื่อให้เกิดแรงกระทบลูก หากลูกบอล พุ่งมาแรงมากให้ออกแรงส่งเพียงเล็กน้อยโดยอาศัยแรง กระดอนจากลูกช่วยในการส่งลูกบอลการที่จะใช้แรงมากน้อย เพียงใดขึ้นอยู่กับระยะทางความเร็ว ความแรงของลูกบอล) 5. ครูอธิบาย และสาธิตการใช้นวัตกรรม T- under


17 - ยืนในลักษณะที่เตรียมพร้อม - ทำมือในลักษณะที่เตรียมอันเดอร์ - ย่อตัวเตรียมท่าอันเดอร์ - ยืดตัวขึ้นอันเดอร์บอล (โดยให้บอลโดนท่อนแขนทั้ง 2ข้าง)


18 ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. ครูให้นักเรียนเข้าแถวหน้ากระดาน 2. ครูให้นักเรียนปฏิบัติทักษะการจับมือทั้ง 4แบบ 3. ครูให้นักเรียนปฏิบัติท่าทางการอันเดอร์แบบไม่มีลูกบอล โดยครูให้สัญญาณนกหวีดและให้นักเรียนปฏิบัติพร้อมกัน 4. ครูให้นักเรียนเข้าแถวตอน 2 แถว 5. ครูให้นักเรียนปฏิบัติทักษะการอันเดอร์กับนวัตกรรม T- Under คนละ 5-10 ครั้ง - ยืนในลักษณะเตรียมพร้อม - ทำมือในลักษณะที่เตรียมอันเดอร์ - อธิบาย - ถาม – ตอบ - สังเกต - ปฏิบัติ - นกหวีด - สนามกีฬา - ลูกวอลเลย์บอล - กรวย - วงกลม - นวัตกรรม T- under - การถาม ตอบ - การปฏิบัติ - การสังเกต พฤติกรรมผู้เรียน


19 - ย่อตัวเตรียมท่าอันเดอร์ - ยืดตัวขึ้นอันเดอร์บอล (โดยให้บอลโดนท่อนแขนทั้ง 2ข้าง) ขั้นนำไปใช้ ( 10 นาที) 1. ครูให้นักเรียนทดสอบการอันเดอร์ทีละ 6คน โดยอันเดอร์ แบบต่อเนื่องไม่มีการจับบอลให้ได้ครบตามจำนวนที่กำหนด (20-30ครั้ง) - สังเกต - ปฏิบัติ - ทดสอบ - นกหวีด - สนามกีฬา - ลูกวอลเลย์บอล - กรวย - แบบทดสอบการ อันเดอร์ ขั้นสรุป (5 นาที) 1. ครูเรียกนักเรียนรวมแถว และสอบถามนักเรียนว่ามีใครได้ รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนมาโดยให้นักเรียน ออกมาสาธิตการใช้นวัตกรรม และการอันเดอร์เดี่ยวต่อเนื่อง 3. ครูถามอาการแนะนำให้นักเรียนทำความสะอาดร่างกาย ก่อนขึ้นไปเรียนชั่วโมงต่อไป - อธิบาย - สรุป - นกหวีด - สนามกีฬา - ลูกวอลเลย์บอล - สังเกตความสนใจ


20 7. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมินผล 1. ด้านความรู้ - นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการปฏิบัติ ทักษะการเล่นลูกสองมือล่างได้ - จากการสังเกตการ ตอบคำถามของ นักเรียน - แบบสังเกตและการตอบ คำถาม นักเรียนร้อยละ 80 อธิบายการปฏิบัติทักษะ ได้ดีขึ้นไป 2. ด้านทักษะ - นักเรียนสามารถปฏิบัติทักษะการ เล่นลูกสองมือล่างได้ - การสังเกตการปฏิบัติ กิจกรรมของนักเรียน - เกณฑ์การปฏิบัติ กิจกรรมของนักเรียน นักเรียนร้อยละ 80 สามารถปฏิบัติทักษะได้ ในระดับดีขึ้นไป 3. ด้านเจตคติ - นักเรียนแสดงความกระตือรือร้น ในขณะเรียนหรือปฏิบัติทักษะด้วย ความตั้งใจในชั้นเรียน - การสังเกตการณ์ทำ กิจกรรมของนักเรียน - แบบสังเกตพฤติกรรม ของผู้เรียน นักเรียนร้อยละ 80 ให้ความร่วมมือ ในการเรียนและปฏิบัติ กิจกรรม เครื่องมือที่1 แบบสังเกตการตอบคำถาม ตัวชี้วัด ระดับการประเมิน คะแนน4 = ดีมาก คะแนน3 = ดี คะแนน2 = พอใช้ คะแนน1 = ปรับปรุง 1. ด้านความรู้ นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการปฏิบัติ ทักษะการเล่นลูกสองมือล่างได้ นักเรียนสามารถอธิบาย วิธีการปฏิบัติทักษะการเล่น ลูกสองมือล่างได้ถูกหมด นักเรียนสามารถอธิบาย วิธีการปฏิบัติทักษะการ เล่นลูกสองมือล่างได้ เป็นส่วนใหญ่ นักเรียนไม่สามารถ อธิบายวิธีการปฏิบัติ ทักษะการเล่นลูกสองมือ ล่างได้เป็นส่วนใหญ่ นักเรียนไม่สามารถ อธิบายวิธีการปฏิบัติ ทักษะการเล่นลูกสองมือ ล่างได้ เครื่องมือที่ 2 แบบสังเกตการปฏิบัติกิจกรรม ตัวชี้วัด ระดับการประเมิน คะแนน4 = ดีมาก คะแนน3 = ดี คะแนน2 = พอใช้ คะแนน1 = ปรับปรุง 2. ด้านทักษะ นักเรียนสามารถปฏิบัติทักษะการเล่นลูก สองมือล่างได้ นักเรียนสามารถปฏิบัติ ทักษะการเล่นลูกสองมือ ล่างได้ นักเรียนสามารถปฏิบัติ ทักษะการเล่นลูกสองมือ ล่างได้แต่ผิดเล็กน้อย นักเรียนสามารถปฏิบัติ ทักษะการเล่นลูกสองมือ ล่างไม่ค่อยได้ นักเรียนไม่สามารถ ปฏิบัติทักษะการเล่นลูก สองมือล่างได้


21 เครื่องมือที่ 3 แบบสังเกตการให้ความร่วมมือ ตัวชี้วัด ระดับการประเมิน คะแนน4 = ดีมาก คะแนน3 = ดี คะแนน2 = พอใช้ คะแนน1 = ปรับปรุง 3. ด้านคุณลักษณะ นักเรียนแสดงความกระตือรือร้นในขณะ เรียนหรือปฏิบัติทักษะด้วยความตั้งใจใน ชั้นเรียน นักเรียนแสดงความ กระตือรือร้นในขณะเรียน หรือปฏิบัติทักษะด้วยความ ตั้งใจในชั้นเรียนโดยครูไม่ ต้องตักเตือน นักเรียนแสดงความ กระตือรือร้นในขณะ เรียนหรือปฏิบัติทักษะ ด้วยความตั้งใจในชั้น เรียนโดยครูตักเตือน 1-2 ครั้ง นักเรียนแสดงความ กระตือรือร้นในขณะ เรียนหรือปฏิบัติทักษะ ด้วยความตั้งใจในชั้น เรียนโดยครูตักเตือน มากกว่า 3ครั้ง นักเรียนไม่กระตือรือร้น และไม่ตั้งใจปฏิบัติ


22 5. - Evaluation ขั้นประเมินผล ประเมินผล : ประเมินคุณภาพตัวสื่อ และประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนจากการใช้สื่อ ประเมินคุณภาพนวัตกรรมโดยใช้แบบประเมินความพึงพอใจในการใช้นวัตกรรม T- Under (การเล่นลูกสองมือล่าง / การอันเดอร์บอล ) โดยใช้ลักษณะแบบสอบถามประเมินค่า (Rating Scale) 5 ระดับ คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุด ประเมินโดยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/3 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ จำนวน 24 คน หมายเหตุ : ในกรณีที่มีการจัดทำคู่มือการใช้งานนวัตกรรมการเรียนรู้ให้ใส่ไว้ใน ภาคผนวก แบบประเมินระดับความพึงพอใจ นวัตกรรม T- Under (การเล่นลูกสองมือล่าง / การอันเดอร์บอล ) ลำดับที่ เนื้อหา ระดับความพึงพอใจ 5 4 3 2 1 1 นวัตกรรมมีความแปลกใหม่ ทันสมัย น่าตื่นตาตื่นใจ 2 นวัตกรรมช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม 3 นวัตกรรมช่วยให้มีทัศนคติที่ดีต่อกีฬาวอลเลย์บอล 4 ความสอดคล้องของนวัตกรรมกับทักษะที่เรียน 5 นวัตกรรมมีความสะดวกในการใช้และสามารถเคลื่อนย้ายได้ 6 ความแข็งแรงของอุปกรณ์นวัตกรรม 7 ประโยชน์ที่ได้จากการใช้งานนวัตกรรม 8 นวัตกรรมสามารถนำไปฝึกได้จริง E


23 สรุปผลแบบประเมินนวัตกรรม T-Under จากแผนภูมิ พบว่า ผลประเมินความพึงพอใจในการใช้นวัตกรรม T- Under - นวัตกรรมมีความแปลกใหม่ทันสมัย น่าตื่นตาตื่นใจ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับพึงพอใจดีมากคิดเป็น ร้อยละ54 รองลงมาคือพึงพอใจมากคิดเป็นร้อยละ29 รองลงมาคือพึงพอใจปานกลางคิดเป็นร้อยละ13 และ สุดท้ายไม่พึ่งพอใจคิดเป็นร้อยละ 4 - นวัตกรรมช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม ส่วนใหญ่อยู่ในระดับพึงพอใจดีมากคิดเป็น ร้อยละ63 รองลงมาคือพึงพอใจมากคิดเป็นร้อยละ25 รองลงมาคือพึงพอใจปานกลางคิดเป็นร้อยละ8 และ สุดท้ายพึ่งพอใจคิดเป็นร้อยละ 4 - นวัตกรรมช่วยให้มีทัศนคติที่ดีต่อกีฬาวอลเลย์บอล ส่วนใหญ่อยู่ในระดับพึงพอใจดีมากคิดเป็น ร้อยละ58 รองลงมาคือพึงพอใจมากคิดเป็นร้อยละ21 รองลงมาคือพึงพอใจปานกลางคิดเป็นร้อยละ13 และ สุดท้ายพึ่งพอใจคิดเป็นร้อยละ 8 - ความสอดคล้องของนวัตกรรมกับทักษะที่เรียน ส่วนใหญ่อยู่ในระดับพึงพอใจดีมากคิดเป็น ร้อยละ70 รองลงมาคือพึงพอใจมากคิดเป็นร้อยละ17 และสุดท้ายคือพึงพอใจปานกลางคิดเป็นร้อยละ13 - นวัตกรรมมีความสะดวกในการใช้ และสามารถเคลื่อนย้ายได้ส่วนใหญ่อยู่ในระดับพึงพอใจดีมาก คิดเป็นร้อยละ63 รองลงมาคือพึงพอใจมากคิดเป็นร้อยละ29 และสุดท้ายคือพึงพอใจปานกลางคิดเป็นร้อยละ8 - ความแข็งแรงของอุปกรณ์นวัตกรรม ส่วนใหญ่อยู่ในระดับพึงพอใจดีมากคิดเป็นร้อยละ 63 รองลงมา คือพึงพอใจมากคิดเป็นร้อยละ29 และสุดท้ายคือพึงพอใจปานกลางคิดเป็นร้อยละ8 - ประโยชน์ที่ได้จากการใช้งานนวัตกรรม ส่วนใหญ่อยู่ในระดับพึงพอใจดีมากคิดเป็นร้อยละ50 รองลงมาคือพึงพอใจมากคิดเป็นร้อยละ33 รองลงมาคือพึงพอใจปานกลางคิดเป็นร้อยละ13 และสุดท้าย พึ่งพอใจคิดเป็นร้อยละ4 - นวัตกรรมสามารถนำไปฝึกได้จริง นวัตกรรม ส่วนใหญ่อยู่ในระดับพึงพอใจดีมากคิดเป็นร้อยละ63 รองลงมาคือพึงพอใจมากคิดเป็นร้อยละ25 และสุดท้ายคือพึงพอใจปานกลางคิดเป็นร้อยละ12


24 ภาคผนวก


25 คู่มือการใช้นวัตกรรม ชื่อนวัตกรรม T-Under วัตถุประสงค์ของสื่อ/นวัตกรรม 1. เพื่อให้นักเรียนสามารถปฏิบัติทักษะการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์)ได้อย่างถูกต้อง 2. เพื่อให้นักเรียนเกิดแรงจูงใจในการฝึกทักษะการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) 3. เพื่อให้นักเรียนเกิดเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาพลศึกษา (วอลเลย์บอล) เรื่องทักษะการเล่น ลูกสองมือ (การอันเดอร์) แนะนำนวัตกรรม นวัตกรรม T-Under เป็นนวัตกรรมที่จัดทำขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาทักษะการเล่นลูกสองมือล่าง หรือ การอันเดอร์บอล โดยพบว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ องครักษ์ มีปัญหาเกี่ยวกับลักษณะท่าทางการอันเดอร์ที่ไม่ถูกต้อง เช่น นักเรียนไม่มีการย่อตัวตีนักเรียนมีการ ออกแรงที่ผิด นักเรียนเจ็บมือ นักเรียนวางมือและขาผิด จึงทำให้ขาดประสิทธิภาพ ซึ่งปัญหาดังกล่าวนี้ทำให้ นักเรียนเกิดความวิตกกังวลว่าจะโดนหน้า แขนจะเจ็บ เลยทำให้นักเรียนขาดความมั่นใจ ปฏิบัติออกมาได้ไม่ ค่อยดีและอีกอย่างการฝึกซ้อมในชั้นเรียน หรือนอกชั้นเรียนของนักเรียนมีเวลาน้อย เลยทำให้นักเรียนไม่ สามารถปรับลักษณะท่าทาง แรง จุดกระทบบอลของการอันเดอร์บอลได้เลยนำไปสู่นวัตกรรมชิ้นนี้ เพื่อช่วยให้ นักเรียนปรับลักษณะท่าทางการเล่นลูกสองมือ (การอันเดอร์) ให้ดีขึ้น ข้อดีของนวัตกรรม T-under 1. นวัตกรรม T-under สามารถช่วยฝึกลักษณะท่าทางการอันเดอร์ได้ 2. นวัตกรรมมีความแข็งแรง เคลื่อนย้ายสะดวก 3. นวัตกรรมสามารถนำไปต่อยอดกับทักษะอื่นๆได้ในกีฬาวอลเลย์บอล คุณสมบัติ T-under เป็นตัวช่วยในการฝึกการอันเดอร์บอล และสามารถนำไปต่อยอดกับทักษะอื่นๆได้ในกีฬา วอลเลย์บอล ประเภทของการใช้งานนวัตกรรม มี 1 ประเภท 1. ใช้ในการฝึกซ้อมทักษะการอันเดอร์บอล 2. ใช้ฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอันเดอร์บอล l


26


27 ภาพบรรยากาศการใช้นวัตกรรม T – under


28


29


Click to View FlipBook Version